Tag Archives: แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์

บ่วงหงส์ 2552

บ่วงหงส์ เป็นเรื่องราวของ พิมพ์ลภัส (แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเดียวของ ตรัย (ต้น ตระการ พันธุมเลิศรุจี) นักธุรกิจที่ล้มละลายและฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เกิดมาบนกองเงินกองทอง และกำพร้าแม่ทำให้ถูกตามใจจนเหลิง ใช้ชีวิต อย่างหรูหราสุขสบายมาตลอด หนังสือก็เรียนไม่จบ เจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัว ความตายของพ่อทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เนื่องจากคนที่ได้เงินทองจากตรัยไปมากที่สุดคือ มาธวี (น้ำฝน กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์) แม่เลี้ยงซึ่งแก่กว่าเพียงไม่กี่ปีของเธอ พิมพ์ลภัสต้องออกจากบ้านที่ถูกยึดมาเช่าคอนโดเล็ก ๆ อยู่ แถมยังถูก ยศพล (นัส อานัส ฬาพานิช) ผู้เป็นคู่หมั้นถอนหมั้น ตรงกันข้ามกับมาธวีซึ่งชิงหย่ากับตรัยก่อนหน้านี้ และเรียกร้องค่าเลี้ยงดูอย่างมหาศาล แถมถีบตัวขึ้นมาจนมีชื่อเสียงในสังคมด้วยการเปิดห้องเสื้อมาธวี ซ้ำยังเป็นนางแบบเสียเองอีก มาธวีมีคนสนิท 2 คน คือ กระเทยปากร้ายชื่อ หนูดี (หนุ่ม สุรวุฑ ไหมกัน) และหญิงแท้ชื่อ เป็ด (ต่าย ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) ทั้งสองเป็นเหมือนคอหอยกับลูกกระเดือกของเจ้านาย

ถึงแม้ชีวิตจะตกต่ำ ลง แต่พิมพ์ลภัสก็ยังมีนิสัยเสียชนิดแก้ไม่หาย งานเดินแบบที่เคยทำก็ห่างหายไป ไม่ค่อยมีใครอยากจ้างเพราะถึงแม้จะสวยจัดอย่างไร แต่ทุกคนต่างเอือมระอากับการผิดนัด โทษโน่นโทษนี่ของเธอโดยไม่เคยมองข้อเสียของตัวเองเลย ถึงกระนั้นพิมพ์ลภัสก็ยังหยิ่งไม่ง้อใคร ยิ่งนานวันทรัพย์สินเงินทองก็ร่อยหรอลงทุกที หากแต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่ยอมขายซึ่งก็คือ เข็มกลัดประดับเพชรรูปหงส์ที่เตรียมจะโผบินขึ้นฟ้า เข็มกลัดนี้พ่อได้มอบให้เป็นของขวัญเมื่อพิมพ์ลภัสอายุ 15

เจ้าของ คอนโดที่พิมพ์ลภัสเช่าอยู่ชื่อ กิตติชัย (โอลิเวอร์ พูพาร์ท) ทั้งกิตติชัยและ อรอุษา ผู้เป็นภรรยาต่างมีนิสัยเจ้าเล่ห์ ทั้งสองเฝ้าสังเกตเธอตลอดมา จนกระทั่งเห็นว่าเธอกำลังจนตรอกจึงเสนองานที่มีค่าตอบแทนสูงให้นั่นคือให้ไป ขโมย และทำลายเทปลับกับจดหมายที่เกี่ยวกับอรอุษาจาก รเมศ (วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เจ้าของโรงแรมเชียงรายจารวี สองสามีภรรยาสร้างเรื่องว่าอรอุษาหลงผิดไปมีความสัมพันธ์กับรเมศ รเมศได้อัดเทป และเก็บจดหมายซึ่งอรอุษาเขียนติดต่อไปไว้แบล็คเมล์ทั้งสองคน ครั้งแรกพิมพ์ลภัสก็ไม่ยอมทำ แต่อรอุษามาร้องไห้วิงวอนขอร้องให้เห็นหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งพิมพ์ลภัสก็ยังลังเลอีก จนกระทั่งได้อ่านข่าวสังคมว่ามาธวีกำลังจะไปจัดแฟชั่นโชว์ที่โรงแรมเชียงราย จารวี เธอจึงตัดสินใจรับงานเพราะเชื่อมั่นว่ารเมศต้องเป็นคนเลวแน่จึงคบกับมาธวี ได้

พิมพ์ลภัสเดินทางมาถึงโรงแรมโดยกิตติชัยรับรองความปลอดภัยหากรเม ศจับได้ อีกทั้งยังออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างระหว่างที่พักอยู่โรงแรมนั้นด้วย ระหว่างที่อยู่ที่นั่นพิมพ์ลภัสกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนรวมทั้งรเมศ ด้วยความที่เป็นคนสวยมาก รเมศเข้ามาทำความรู้จักซึ่งเธอก็ให้ความสนิทสนมตามแผนทันที รเมศดูจะหลงรักพิมพ์ลภัสขึ้นทุกวัน ทั้งยังบอกว่าจะให้เธอเดินแบบกับห้องเสื้อมาธวีด้วย เขาตามใจ และเอาอกเอาใจทุกอย่าง ความที่พิมพ์ลภัสเอาแต่ใจตัว เย่อหยิ่ง ดูถูกคนอื่น ทำให้เธอสร้างศัตรูในโรงแรมไว้หลายคน โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานเสริฟ

รเมศพาพิมพ์ ลภัสเที่ยวดูงานในโรงแรม และพาไปเที่ยว รเมศทุ่มเทใจให้เธอมากมายในขณะที่พิมพ์ลภัสก็จ้องแต่จะขโมยเทป และจดหมายอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เพราะไม่คุ้นกับงานเช่นนี้จึงเผลอทำพิรุธให้รเมศสงสัย รเมศภาวนาขออย่าให้ที่เขาสังหรณ์เป็นความจริง

ในที่สุดรเมศก็จับได้ คาหนังคาเขา ขณะที่พิมพ์ลภัสเข้ามาขโมยเทปกับจดหมายในห้องทำงาน พิมพ์ลภัสตกใจมากที่ถูกจับได้ แต่ก็ไม่วายเถียงว่ารเมศเป็นคนไม่ดี เป็นชู้กับเมียคนอื่นแถมยังเก็บหลักฐานไว้แบล็คเมล์ รเมศจึงเปิดเทปให้ฟัง และยังให้อ่านจดหมาย พิมพ์ลภัสรู้ความจริงรู้สึกอับอายมาก แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความเสียใจที่รเมศมาหมางเมินกับเธอ อย่างไรก็ตามพิมพ์ลภัสก็คือพิมพ์ลภัสที่โทษคนอื่นมากกว่าตัวเอง เธอโทรบอกกิตติชัยให้ส่งเงินมาจ่ายค่าที่พัก และอาหารในโรงแรม แต่กิตติชัยไม่ยอมโดยอ้างว่าเธอทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เธอทั้งร้อนใจ และตกใจมาก

สำหรับรเมศ เขาทั้งผิดหวัง และเสียใจที่มองพิมพ์ลภัสผิดไป รเมศรักเธออย่างแท้จริง ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก ถูกทรยศ ฉะนั้นเมื่อพิมพ์ลภัสไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม เขาจึงให้เธอทำงานชดใช้โดยให้เป็นพนักงานเสริฟ ครั้งแรกพิมพ์ลภัสจะขายเข็มกลัดรูปหงส์เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ด้วยความเสียดายจึงตัดสินใจรับงาน

พิมพ์ลภัสต้องแต่งเครื่องแบบ พนักงานเสริฟซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองที่เธอเคยดูถูก ต้องย้ายออกจากห้องพักหรูหรามาอยู่ห้องพักของพนักงานซึ่งต้องอยู่ร่วมกัน ห้องละสองคน ซึ่งห้องก็ทั้งแคบและไม่มีแอร์ ซ้ำร้ายเพื่อนร่วมห้องก็คือพนักงานเสริฟที่เธอเคยวีนใส่

นับ จากนั้นพิมพ์ลภัสมีสภาพไม่ต่างอะไรจากหงส์ปีกหัก เธอเห็นทุกคนเป็นศัตรูไปหมด งานหลายๆ อย่างในชีวิตที่ไม่เคยทำก็ต้องทำโดยเฉพาะงานบริการ ตลอดเวลาเหล่านี้รเมศเฝ้าจับตาดูอยู่ด้วยความสะใจแต่บางครั้งก็อดใจอ่อนไม่ ได้ ฤทธิ์เดชของพิมพ์ลภัสเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เธอมีเรื่องกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงานเสริฟด้วยกัน ลูกค้า หรือแม้กระทั่งหัวหน้าผู้ดูแลรับผิดชอบ ความเย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจตัวทำให้ทุกคนไม่ชอบพิมพ์ลภัส หลายๆ คนถึงกับนินทา บ้างก็เยาะเย้ยซึ่งๆ หน้า

พิมพ์ลภัสไม่ใช่จะร้ายเสียทีเดียว ความดีในตัวเธอยังมีพอสมควร ซึ่งเธอก็ได้แสดงออกมาเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมงานจากลูกค้าบ้ากามทำให้ความ รู้สึกของเพื่อนร่วมงานดีขึ้น การได้ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานเข้า ประกอบกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายแหล่ทำให้เธอเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิต และพยายามทำใจยอมรับถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

และแล้วมาธวีกับคณะ แฟชั่นโชว์ก็มาถึง ทั้งสองได้พบกัน มาธวีรู้สึกสะใจมากที่เห็นลูกเลี้ยงตกต่ำละไม่รีรอที่จะเยาะเย้ยซ้ำเติม ขณะเดียวกันมาธวีก็พยายามจะจับรเมศให้ได้ ด้วยความช่างสังเกตมาธวีก็รู้ว่ารเมศนั้นรักพิมพ์ลภัส เธอจึงคอยสร้างเรื่องให้ทั้งสองเข้าใจผิดกัน แถมยังแกล้งใส่ร้ายพิมพ์ลภัสให้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน

ในที่สุด มาธวีก็คิดจะกันพิมพ์นภัสให้ห่างจากรเมศโดยเด็ดขาด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อให้ เสี่ยสมาน (พิพัฒน์พล โกมารทัต) ซี่งหลงรักพิมพ์ลภัสมานานให้มาพักที่โรงแรม เสี่ยดีใจมากรีบมาหา และยื่นข้อเสนอจะเลี้ยงดูพิมพ์ลภัสอย่างดี แต่กลับถูกตอกหน้าอย่างไม่เกรงใจ เสี่ยเริ่มท้อแต่มาธวีพยายามให้กำลังใจโดยบอกแผนการณ์ที่จะทำให้พิมพ์ลภัสตก เป็นของเสี่ย ถึงแม้จะยังลังเลกลัวว่าพิมพ์ลภัสจะไปบอกเมียของเขา แต่ความต้องการมีมากกว่า เสี่ยจึงยอมทำตามแผนโดยเข้าไปรอในห้องมาธวี

มา ธวีมาแต่งเรื่องบอกรเมศว่าเธออยากจะใช้เงินแทนพิมพ์ลภัสเพื่อเห็นแก่สาย สัมพันธ์ที่เคยเป็นแม่เลี้ยงเธอ แต่ก็กลัวพิมพ์ลภัสจะไม่ยอมรับ ดังนั้นเธอจึงขอร้องให้เขาบอกให้พิมพ์ลภัสมาพบเธอบนห้องเพื่อจะได้ปรับความ เข้าใจกัน รเมศหลงเชื่อจึงสั่งให้คนไปบอกพิมพ์ลภัสให้ไปพบเขาที่ห้องมาธวี

พิมพ์ ลภัสทำท่าจะไม่ไปในตอนแรก เพราะรู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องมาธวี แต่แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเผชิญหน้า และเมื่อเข้าไปทุกอย่างก็เข้าแผนการณ์ของมาธวี เสี่ยสมานพยายามปลุกปล้ำพิมพ์ลภัส แต่เธอก็เอาตัวรอดจนได้ พิมพ์ลภัสเจ็บใจ และแค้นใจมากด้วยนึกว่ารเมศหลอกเธอมาให้เสี่ยสมาน จึงไปตัดพ้อต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รเมศตกใจ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกันก็ไปเอาเรื่องมาธวี

มา ธวีร้องห่มร้องไห้ปฏิเสธ และแก้ตัวจนรเมศเกือบจะเชื่อถ้าไม่พบหลักฐานบางอย่างในห้องนั้นที่มาธวี พยายามกลบเกลื่อน รเมศไล่มาธวีออกจากโรงแรมทันที มาธวีโกรธแค้นด่าว่ารเมศ แต่ก่อนไปได้คายพิษครั้งสุดท้ายโดยบอกกับพิมพ์ลภัสว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว ชื่อ นารา (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) ซึ่งพิมพ์ลภัสก็เคยเห็นความสนิทสนมของคนทั้งสองอยู่บ่อยๆ ทำให้พิมพ์ลภัสเสียใจมาก

ส่วนรเมศนั้นก่อนที่จะไล่เสี่ยสมานออกไปได้ เรียกค่าทำขวัญไว้ให้พิมพ์ลภัส เสี่ยจำใจให้เพราะกลัวเรื่องจะอื้อฉาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย และถูกเมียเอาเรื่อง เงินจำนวนนั้นมากพอสมควร แต่รเมศไม่ได้ให้พิมพ์ลภัสในทันทีเพราะเกรงว่าเธอจะมีเงินใช้หนี้ และกลับกรุงเทพฯไป ด้วยเขายังหวังว่าจะทำความเข้าใจกับเธอได้เพราะหลังจากมีเรื่องเขาได้ขอโทษ เธอ และยอมรับผิดทุกอย่าง ซ้ำยังให้มาธวีกราบขอโทษพิมพ์ลภัส และพิมพ์ลภัสได้ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยความสะใจ

วัน รุ่งขึ้น พิมพ์ลภัสตัดใจไปขายเข็มกลัดรูปหงส์ถึงแม้จะเสียดายใจแทบขาด เพื่อจะได้พ้นจากโรงแรมเชียงรายจารวีโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพราะเธอเข้าใจว่ารเมศมีคู่หมั้นแล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเธอด้วยการทำท่าทีเหมือนมีใจด้วย ก่อนไปพิมพ์ลภัสได้มอบของที่ระลึกให้เพื่อนๆ พนักงานเสริฟ เพราะทุกคนต่างได้ให้บทเรียนอันมีค่ากับเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้ค้นพบความจริงใจของพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อเธอ

เมื่อ พิมพ์ลภัสเอาเงินมาใช้หนี้ รเมศใจหายแต่ในเมื่อเธอยืนยันจะไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้ รเมศยังได้มอบเงินค่าทำขวัญของเสี่ยสมานให้เธอด้วย พิมพ์ลภัสยิ่งโกรธมากเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ไม่ยอมให้เธอ เพราะจะแกล้งกักตัวไว้ทำงานต่อไป หลังจากพิมพ์ลภัสจากไปแล้ว รเมศเสียใจมาก และซึมลงไป

เมื่อพิมพ์ลภัสมาถึงกรุงเทพฯ เธอได้รับบทเรียนเรื่องการมีชีวิตพอเพียงจึงไปเช่าคอนโดเล็กลง ขายข้าวของแบรนด์เนมเนื่องจากไม่มีความสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หลังจากนั้นก็ออกหางานเดินแบบทำ แต่ทุกแห่งที่ไปจะปฏิเสธหมด เพราะมาธวีใช้อิทธิพล และความสนิทสนมส่วนตัวกับบรรดาเอเจนซี่ให้ปฏิเสธเธอ ซึ่งพิมพ์ลภัสกลับคิดว่าเธอเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะยามรุ่งเรืองเธอเคยเบี้ยวงานบ้าง ไปช้าบ้างอยู่เป็นประจำ ในที่สุดเธอจึงตัดใจหางานอื่นทำแต่ก็ยากเต็มทีเพราะพิมพ์ลภัสเรียนไม่จบ หรือถ้าที่ไหนรับที่นั่นก็มักจะมีเจ้านายประเภทหัวงู ความทุกข์ยากหลายเดือนที่ผ่านมาสอนไม่ให้ท้อ

จนกระทั่งวันหนึ่ง พิมพ์ลภัสได้พบกับนาราโดยบังเอิญ นารามากับ สิหนาท (เอกรัตน์ สารสุข) ซึ่งเป็นคู่หมั้น และเป็นหุ้นส่วนของรเมศ แต่พิมพ์ลภัสก็ยังเข้าใจผิดเหมือนเดิม นาราพยายามจะให้ความช่วยเหลือแต่พิมพ์ลภัสปฏิเสธ นาราจึงให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ พิมพ์ลภัสไม่สามารถหางานได้ จึงตัดสินใจโทรไปหานารา นาราพาพิมพ์ลภัสไปบ้านของรจนา ซึ่งกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ลูกสาวกับลูกชาย พิมพ์ลภัสซึ่งถึงแม้จะเรียนไม่จบแต่ด้านภาษาอังกฤษดีด้วยเพราะเป็นนักเรียน นอก รจนาดูจะดีใจ และเอ็นดูพิมพ์ลภัสผิดปกติ

ขณะเดียวกันพิมพ์ลภัส ก็รู้สึกว่าหน้าของรจนาดูคุ้นๆ หลังจากสนิทสนมกันพอสมควร จนกระทั่งพิมพ์ลภัสเล่าเรื่องอกหักของเธอให้รจนาฟัง รจนาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของรเมศจึงแน่ใจว่าพิมพ์ลภัสก็รักน้องชายของเธอ จึงวางแผนนัดรเมศมาพบ พิมพ์ลภัสตกใจ รเมศจึงเล่าความจริงเรื่องของนารากับสีหนาทให้ฟัง ทั้งสองจึงเข้าใจกันในที่สุด สำหรับมาธวีก็ถูกกรรมตามสนองเพราะรเมศรู้ว่ามาธวีกลั่นแกล้งพิมพ์ลภัสไม่ เลิก จึงส่งทั้งรูป และคำขออภัยเมื่อครั้งถูกจับได้ว่าหลอกพิมพ์ลภัสไปให้เสี่ยสมานปล้ำเอาลง หนังสือพิมพ์ เมื่อความจริงเปิดเผยจึงไม่มีใครในวงการคบหาสมาคมด้วย

บ่วงหงส์

นักแสดงละคร บ่วงหงส์

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น รเมศ
เขมนิจ จามิกรณ์ แสดงเป็น พิมพ์ลภัส
กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ แสดงเป็น มาธวี
อานัส ฬาพานิช แสดงเป็น ยศพล
เอกรัตน์ สารสุข แสดงเป็น สีหนาท

บ่วงร้ายพ่ายรัก

ปารมี หรือ ปาล์ม (เขมนิจ จามิกรณ์) เดินทางกลับจากต่างประเทศหลังเรียนจบปริญญาโท ด้วยความหวังว่าจะได้แต่งงานกับ เชน (กันต์ กันตถาวร) แฟนหนุ่มซึ่งรักกันมาก ตามสัญญาที่ เดช (ไพโรจน์ สังวริบุตร) พ่อของเธอได้ให้ไว้ก่อนที่จะไปเรียนต่อ แต่เดชไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะเดชรู้สึกว่าเชนมีเบื้องหลังในการเข้ามาตีสนิทกับลูกสาวของเขา และไม่ได้จริงใจกับเขาและครอบครัวเลย ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น

เชน เชื่อเสมอว่า เดชเป็นต้นเหตุทำให้ ไกรฤกษ์ (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) พ่อของเขาเส้นโลหิตในสมองแตกตายตอนเขาอายุ ๑๐ ขวบ และฮุบกิจการห้างสรรพสินค้าที่พ่อก่อร่างสร้างมากับมือไปอย่างเลือดเย็น ทำให้ กัลยา (คนางค์ ดำรงหัด) ผู้เป็นแม่ต้องตรอมใจตาย เชนสาบานต่อหน้าหลุมศพบิดาว่าจะต้องทวงทุกอย่างคืนมาให้ได้ไม่ว่าเงิน ชื่อเสียง ธุรกิจและความสุข แผนการของเขาเริ่มต้นจากการเข้าไปตีสนิท เอมิกา หรือ เอม (สเตฟานี เลอร์ช) ลูกสาวคนเล็กของเดช เชนใช้ความฉลาด ช่างเอาใจ เอาชนะใจเอมิกาได้ในเวลาไม่นาน เชนตั้งใจจะหลอกให้เอมิการักและพาเข้าใกล้เดช โดยหวังว่าจะได้เป็นลูกเขยของตระกูล แต่แผนการต้องพลิกผัน เมื่อเขาได้รู้จักกับปารมีพี่สาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยความสวย สง่า ในขณะที่เอมิกาเริ่มป่วยหนักด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ที่รักษาไม่หาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เรียนไม่จบ อนาคตในการบริหารธุรกิจของตระกูลจึงดับวูบไป เชนจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาทางปารมีทันที เขาใช้เวลาไม่นานเอาชนะใจเธอได้อย่างง่ายดาย

สัญญาใจที่มีอนาคตเป็นเดิมพันได้เริ่มต้นขึ้นเชนพยายามรักษาภาพลักษณ์แฟน หนุ่มที่แสนซื่อสัตย์ไว้อย่างเหนียวแน่น จนวันที่ปารมีเดินทางกลับ เชนตั้งใจจะไปรับเธอที่สนามบินและหาทางเร่งรัดขอเธอแต่งงานให้เร็วที่สุด แต่เดชส่ง อัคนี หรือ หิน(ธนพล นิ่มทัยสุข) บอดี้การ์ดคนสนิทที่เขาไว้ใจมากที่สุดไปรับปารมีตัดหน้าเชน เพราะรู้ว่าถ้าเขาไปเองต้องใจอ่อนยอมให้ปารมีไปกับเชนอย่างแน่นอน

ทันทีที่ได้คำสั่งหินเดินทางไปสนามบิน เพื่อปฎิบัติภารกิจชิงตัวปารมี เชนใช้เส้นสายเข้าไปดักรอปารมีถึงประตูเครื่องบิน หินต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อแยกปารมีออกจากเชนและพาไปส่งเดโชให้สำเร็จแต่เชน ก็ไม่ยอมและพยายามจะเอาตัวปารมีไปให้ได้ ทำให้การเจอกันครั้งแรกระหว่างเชน และหิน กลายเป็นเหตุการณ์แสนโกลาหลวุ่นวาย ชิงไหวชิงพริบ ชนิดห้ามกระพริบตา และสุดท้ายคนที่ได้ตัวปารมีไปก็คือ หิน ที่หินสมชื่อ สร้างความไม่พอใจให้กับเชนเป็นอย่างมาก พร้อมกับตราหน้าว่าเป็นศัตรูหมายเลข ๒ รองจากเดช

สำหรับปารมีเธอยกให้หินเป็นศัตรูหมายเลข ๑ และเป็นคนเดียวในโลกที่เธอไม่เลิฟสุดๆ เพราะนอกจากจะขัดขวางการไปกับแฟนแล้ว ยังแสดงอาการที่น่าขัดใจสารพัดในระหว่างที่ชิงตัวกลับมา ทำให้ปารมีไม่พอใจจะเอาเรื่องหิน แต่เดชกลับเข้าข้างหินอย่างออกนอกหน้า ยิ่งทำให้ปารมีผูกใจเจ็บคิดหาทางเอาคืนหินให้ได้!!!!

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจอันแสนปวดกบาลที่สนามบิน หินกลับไปเยี่ยม พรไหม (รสริน จันทรา) แม่ผู้แสนใจดีที่ ชุมชนหอยใหญ่ บ้านเกิดอันอบอุ่นไปด้วยญาติและเพื่อนบ้านแสนดีอย่าง ลุงปุ๋ย (เด๋อ ดอกสะเดา) , ป้านาง (ราตรี วิทวัส) และ ไอ้ไฟ (ภทรนันท์ จามิกรณ์) รวมทั้ง นิดหน่อย (ดารณีนุช โพธิปิติ)  สาวร่างอวบเจ้าของฟาร์มหอยผู้รอคอยให้หินมาเป็นบอดี้การ์ดหัวใจ

หิน ลางานกลับมาบ้านเพื่อจะพาพรไหมไปตรวจอาการโรคหัวใจ แต่เธอโกหกว่าหายแล้ว และเร่งรัดให้หินกลับไปทำงานช่วยเดช เพราะเขาคือผู้มีพระคุณทำให้ครอบครัวมีอยู่มีกินจนถึงทุกวันนี้ พรไหมไม่เคยลืมวันที่ อาจหาญ (ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อของหินอดีตทหารพรานที่สูญเสียขาจากการเหยียบกับระเบิด เข้าไปสมัครเป็นรปภ.ที่ห้างสรรพสินค้า และเดชรับไว้ด้วยความเมตตา พร้อมทั้งสืบประวัติอย่างละเอียดจนรู้ถึงความสามารถจึงเรียกมาเป็นบอดี้ การ์ดทั้งที่พิการ อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือครอบครัวอย่างดี ส่งเสียให้หินเรียนจนจบเตรียมตำรวจ ก่อนอาจหาญจะเสียชีวิตเมื่อ ๒ ปีก่อนเขาได้กำชับให้หินดูแลเดช และปกป้องครอบครัวอย่างดีที่สุด ภารกิจสำคัญนี้จึงฝังอยู่ในใจของพรไหม และหินมาจนถึงทุกวันนี้

เมื่อแม่เอ่ยปากยกเรื่องคำสั่งเสียของพ่อ ทำให้หินต้องยอมกลับไป พร้อมรับหน้าที่ใหม่ที่เดชมอบหมายให้นั่นคือ เป็นบอดี้การ์ดให้ปารมี ! ปารมีปฎิเสธเสียงแข็ง โดยมี อรปรียา (ณหทัย พิจิตรา) ผู้เป็นแม่พ่วงตำแหน่งกองหนุนอรปรียาถูกเชนเอาใจ เยินยอ จนเคลิ้มและไว้ใจ อยากได้มาเป็นลูกเขย ทำให้เป็นเหตุขัดแย้งกับเดโชอยู่บ่อยครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่มีใครขัดคำสั่งได้ เพราะเดชยื่นคำขาด ถ้าปารมีไม่ให้หินเป็นบอดี้การ์ด ก็กลับไปเรียนต่อและจะไม่ได้แต่งงานกับเชนเป็นอันขาดในวันที่ปารมีไปเที่ยว กับ แคท (เอมิกา บูเฮอร์) และ นิตา (พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) (เพื่อนซี้ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย) จึงมีหินคอยตามติดทุกฝีก้าว

ปารมีหาทางแกล้งหินสารพัด แต่แคทเพื่อนสุดเปรี้ยว เซี้ยวซ่า กลับชอบหินอย่างแรง ยิ่งทำให้ปารมีหมั่นไส้หินแคทชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวบ้านริมน้ำ ปารมีได้ทีสร้างเรื่องว่าตัวเองตกน้ำ หินรีบกระโจนลงไปช่วย ตกเป็นเหยื่อของปารมี ปารมีสะใจแอบหนีไปเที่ยวต่อกับเชน หินออกตามหาปารมีทุกที่ จนไปเจอปารมีกำลังสนุกในผับ หินจะลากตัวปารมีกลับบ้าน แต่เชนขัดขวาง และพยายามใช้เงินฟาดหัวหิน เพื่อเอาหูไปนาเอาไปไร่แต่หินไม่รับเงิน พร้อมตอกกลับอย่างเจ็บแสบทำให้เชนไม่พอใจ เกิดชกต่อยกัน หมอซัน (อัศนัย เทียนทอง) เพื่อนของหินผ่านมาเห็นจึงรีบไประงับเหตุ ทำให้หินพาปารมีไปส่งบ้านจนได้ เชนไม่พอใจที่หินเป็นก้างขวางคอและคิดหาทางกำจัดโดยด่วน !! ในขณะที่อาการป่วยของเอมิกาย่ำแย่ลงเพราะความเครียดที่ต้องทนเห็นความ สัมพันธ์อันหวานชื่นของเชนกับปารมี เดโชจึงต้องการหมอพิเศษมาคอยดูแลเอมิกาอย่างใกล้ชิด หินแนะนำหมอซันที่เพิ่งเข้าทำงานเป็นแพทย์ตำรวจหมาดๆ มารับงานนี้เป็นงานพิเศษ และเขาก็ตกหลุมรักเอมิกาตั้งแต่แรกพบ ….

หลังจากที่เชนโดนหินลบเหลี่ยม และทำให้แผนการแก้แค้นต้องสะดุดมาหลายครั้ง โอกาสก็เป็นของเขาอีกครั้งเมื่อ.. อรปรียาต้องการจัดงานครบรอบ 60 ปีของห้างสรรพสินค้าจึงเสนอให้บริษัทพีอาร์ของเชนเข้ามาดูแลการงานนี้ เดโชพยายามขัดขวางแต่สู้แรงหนุนของอรปรียาและปารมีไม่ได้ เชนเสนอให้ปารมีเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของห้างสรรพสินค้าที่เน้นความทันสมัย และเปิดตัวปารมีที่จะเป็นผู้บริหารคนใหม่ไปในคราวเดียวกันด้วยเคมเปญนี้ทำ ให้อรปรียาปารมีและคณะผู้บริหารเห็นด้วยอย่างเต็มที่ ยากเกินกว่าเดชจะทัดทาน เชนจึงได้งานนี้ไป ทำให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับปารมีอย่างไม่มีเงื่อนไข เดชสั่งกำชับให้หินตามติดปารมีไม่ ให้คลาดสายตา

ใน ระหว่างที่เชนอยู่ใกล้ปารมี เขาหาทางล่วงเกินเธอหลายครั้ง หวังจะเป็นการมัดมือชกและเร่งรัดให้แต่งงาน แต่มีคนคอยขัดขวางทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นหิน , เอมิกา และคนสุดท้ายคือ..นิตา นิตาใช้ความเป็นเลขาส่วนตัวของเดชตรวจสอบตารางการทำงานของปารมี และเชน และคอยเข้ามาขัดจังหวะไม่ให้เชนมีโอกาสล่วงเกินปารมี นิตาไม่ได้ทำเพราะความหวังดีต่อเพื่อน แต่ทำเพราะ…ความหึงหวงเชน !!

ความสัมพันธ์ลับ ๆ ของนิตากับเชนเริ่มมีพร้อม ๆ กับความสัมพันธ์ของเชนและปารมี..เชนเข้ามาตีสนิทกับนิตา เพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวของปารมี แต่นิตากลับหลงรักเชนอย่างหมดหัวใจ ยอมเป็นเครื่องมือให้เขาหลอกใช้สารพัด โดยมีคำหวานคอยกรอกหูอยู่เสมอว่า “ถ้าผมครอบครองทุกอย่างของเดชได้สำเร็จ ผมจะทิ้งปารมี และแต่งงานกับคุณ” คำหลอกลวงที่แสนหวานเป็นโซ่ตรวนที่ตรึงให้นิตายอมเป็นเบี้ยล่าง แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ เธอกลับทนไม่ได้ที่เห็นเชนทำดีกับปารมี ด้วยความอิจฉาและหวั่นใจลึก ๆว่า.. สักวันเชนจะรักปารมีเข้าจริง ๆ และเธอจะต้องเป็นคนที่โดนทิ้ง !! แต่ทุกครั้งที่นิตาเริ่มจะแข็งขืน หรือขัดขวางแผนการอันร้ายกาจ เชนจะกำราบเธอด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แม้นิตาจะยังยอมฝืนทน และทำตามอย่างว่าง่าย แต่เธอยังเก็บความคับแค้นไว้ในใจและแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังปารมีที่ได้ ทุกอย่างที่เธอต้องการ..

และสักวันเธอจะต้องทำลายมันให้ได้ ! ความอิจฉาที่นิตามีต่อปารมี เป็นสิ่งที่แคทเห็นและคอยเตือนปารมีมาตลอด แต่ปารมีไม่เชื่อและบอกว่าแคทคิดมากเกินไป แต่ยังไง๊..ยังไง..แคทก็ไม่วางใจนิตาอยู่ดี

แคทอัดอั้นใจไม่รู้จะบอกใคร เลยมาปรึกษากับหินเป็นประจำ ทำให้หินเริ่มเห็นความผิดปกติของนิตากับเชนมากขึ้น และเริ่มสงสารปารมีที่โดนคนรัก และเพื่อนแอบหักหลัง หินพยายามจะบอกปารมีแบบอ้อม ๆ แต่ยิ่งบอกยิ่งโดนด่า แถมยังโดนเกลียดขี้หน้าหนักกว่าเดิม และแล้ว…วันฉลองครบรอบ ๖๐ ปีของห้างสรรพสินค้าก็ใกล้มาจะถึง แต่เชนยังไม่เห็นว่าเดชจะยอมให้เขาแต่งงานกับปารมี และยังส่งหินมาคอยประกบเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ เขาจึงวางแผนขอคุยกับเดช บอกว่าต้องการเงินก้อนโตแลกกับการเลิกกับปารมี เดชสนใจจึงมาคุยด้วย แต่เชนกลับซ้อนแผนด้วยการทำทีเป็นว่าเดชจะมาจ้างให้เลิก ส่วนเขาทำเป็นปฎิเสธเงิน และพร้อมสู้เพื่อปกป้องความรัก ละครฉากนี้ถูกสร้างขึ้นและจงใจให้ปารมีมาได้ยิน ทำให้ปารมีไม่ยอม โวยวาย และประกาศต่อหน้าเดชว่า เธอรักเชน และ เธอจะต้องแต่งงานกับเชนให้ได้ !

การประกาศก้องของปารมีทำให้หินไม่สบายใจ มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี และมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ … ในงานเลี้ยงครบรอบห้างสรรพสินค้า 60ปีที่ยิ่งใหญ่มีแขกระดับแถวหน้าในสังคมชั้นสูงมาร่วมงานมากมาย สื่อมวลชนทุกแขนงมาทำข่าว เชนในฐานะคนคุมงานได้รับความชื่นชมมากมาย โดยเฉพาะฉากใหญ่ เปิดตัวปารมีในฐานะพรีเซนเตอร์และทายาทผู้สืบทอดกิจการ ปารมีขึ้นเวทีด้วยความสวยสง่า พร้อมกับสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝัน ..ปารมีประกาศกลางงานว่า … เธอจะแต่งงานกับเชนในเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน !! สิ้นคำประกาศ.. เอมิกาช๊อคเป็นลมหมดสติไปทันที หมอซันต้องรีบพาตัวออกไปนิตานิ่งอึ้ง..ยืนตัวสั่น แคทสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

เดช จะขึ้นไปชี้แจง และแก้ข่าว แต่อรปรียาดึงตัวไว้ เพราะแอบเห็นด้วยกับปารมี เชนยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ หินหันไปเห็นพอดี สองคนสบตากัน เชนแสดงความเหนือกว่าทางสายตาอย่างเห็นได้ชัด จนหินเริ่มรู้สึกว่าเชนต้องมีสิ่งเคลือบแฝงอยู่เบื้องหลังการคบกับปารมี อย่างแน่นอน หลังจากการประกาศแต่งงานของปารมี มีนักข่าวสายสังคมเข้ามาสัมภาษณ์เชนมากมาย กลายเป็นหนุ่มฮอตไปทันที ส่วนเอมิกาพยายามตัดใจจากเชน แต่เชนยังเล่นละครว่ารักและห่วงเอมิกา

เพราะต้องการใช้เอมิกาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ต่อไป ในขณะเดียวกันเดชก็เริ่มจ้างนักสืบ เพื่อสืบประวัติของเชน แต่คลุมเครือไม่ชัดเจน รู้เพียงว่าเป็นลูกกำพร้า เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล จนหาต้นตอไม่ได้….ยิ่งทำให้เดชระแวงเชนมากขึ้น ปารมีเร่งรัดเรื่องงานแต่งงาน เดชจึงต่อรองให้จัดงานหมั้นก่อน เพราะตอนนี้เอมิกาสุขภาพไม่ค่อยดี งานก็ยุ่งและสั่งให้หินเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวปารมี เส้นทางความรักของปารมีกับเชนจึงมีหินเป็นกขค. เชนไม่พอใจ คอยใส่ความหินหวังให้อรปรียาเล่นงาน หินก็ต้องจำทนก้มหน้าปฎิบัติหน้าที่บอดี้การ์ดต่อไป เพราะในใจลึก ๆ เริ่มรู้สึกเป็นห่วง และสงสารปารมี ที่โดนคนรักหลอกไม่มีชิ้นดี

หินต้องทนรบกับความเอาแต่ใจไม่ฟังคนอื่นของปารมีจนความอดทนสิ้นสุด และไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องดูแลผู้หญิงเอาแต่ใจอย่างปารมี ประกอบกับอาการโรคหัวใจของแม่ทรุดหนัก ทำให้หินตัดสินใจลาออก เพื่อพาแม่เข้ามาผ่าตัดหัวใจ เดโชพยายามทัดทาน  แต่หินก็ยืนกรานความคิดเดิม ปารมีรู้ข่าวก็เย้ยว่าหินใจเสาะ ไม่สู้งาน หินตอกกลับถึงนิสัยเอาแต่ใจของปารมีต่อหน้าพนักงานในบริษัทพูดจบก็เดินออก จากบริษัทไป ปารมีเสียหน้ารีบขับรถจะตามไปต่อว่าหิน เป็นจังหวะเดียวกับที่พรไหมซึ่งมารีบมาหาหินเพื่อยับยั้งการลาออกกำลังข้าม ถนนหน้าบริษัทพอดี.. ด้วยโทสะทำให้ปารมีเร่งเครื่องรถมาอย่างเร็วในขณะที่พรไหมกำลังข้ามถนน ปารมีตกใจรีบเหยีบเบรก แต่เบรกไม่ทำงาน ปารมีควบคุมรถไม่ได้ รถพุ่งเข้าชนพรไหมอย่างจัง ต่อหน้าต่อตาหิน !! หินตกใจแทบสิ้นสติ รีบพาแม่ไปส่งโรงพยาบาล แต่มันสายเกินไป พรไหมสิ้นใจ…..

หินโกรธและเกลียดปารมี เดโชขอโทษและพยายามอธิบายว่ามันเป็นอุบัติเหตุเพราะตำรวจได้ตรวจสภาพรถแล้ว พบว่ามีการแอบตัดสายเบรก ด้วยสำนึกในบุญคุณของเดชทำให้หินไม่เอาความ แต่ขอกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด จากอุบัติเหตุทำให้ปารมีเสียใจอย่างหนัก กลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่สดใสร่าเริงเหมือนเดิม เชนคอยดูแลใกล้ชิด ปารมียิ่งรักและไว้ใจเชนมากขึ้น ทำให้เอมิกาเศร้าใจ และมีอาการทรุดหนักลงจนหมอซันเริ่มเป็นห่วง เชนสืบรู้ว่านิตาเป็นคนตัดสายเบรครถ จึงคาดคั้นด้วยวิธีที่รุนแรงจนนิตาสารภาพสาเหตุที่ทำเพราะไม่พอใจที่เชนจะ หมั้นกับปารมี เธอขู่จะแฉความจริงทั้งหมดให้ทุกคนรู้ แต่เชนไม่แคร์ และขู่กลับว่าถ้านิตาแฉ เขาก็จะแฉเหมือนกันว่านิตาอิจฉาปารมีมาตลอด พยายามจะแย่งทุกอย่างจากเธอ รวมทั้งการตัดสายเบรก ซึ่งต้องโทษข้อหาเจตนาฆ่า
หลังจากงานศพพรไหมเสร็จสิ้น..หินกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองที่ชุมชนหอยใหญ่ ในขณะที่เชนเร่งเตรียมงานหมั้นกับปารมีอย่างมีความหวัง

ที่ชุมชนหอยใหญ่ หินหวังจะมาอยู่บ้านเพื่อทำให้จิตใจสงบ แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะนิดหน่อยสาวใหญ่ใจรักเด็กผู้เฝ้าหยอดคำหวานกับหินมาเนิ่นนาน พยายามใช้กลเม็ดเด็ดพรายจากละครทีวีย่องเข้าหาหินหวังจะพิชิตใจได้เป็นสามี จนหินไม่เป็นอันสงบสุข ต้องให้ไอ้ไฟคอยเป็นทั้งกันชน และแนวกันหญิงทุกครั้งไป เดชเดินทางมาชุมชนหอยใหญ่ เพื่อขอร้องให้หินมาเป็นบอดี้การ์ดอีกครั้ง เพราะไม่วางใจเชนอย่างรุนแรง หินเห็นแก่พระคุณของเดช ยอมกลับมารับหน้าที่บอดี้การ์ดอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่พอใจของเชน แต่สำหรับปารมีเธอกลับรู้สึกดีใจ เพราะมันทำให้ความรู้สึกผิดที่คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้พรไหมตายเบาบาง ลง ท่าทางของปารมีแม้จะดูอ่อนลง แต่ด้วยความกวนของหิน มันทำให้เธอปรี๊สได้ไม่หยุดไม่หย่อนเหมือนเดิม

หิน แสดงความแข็งกร้าวกับเชนอย่างเห็นได้ชัด จนเชนเริ่มไม่วางใจ คิดว่าหินอาจจะรู้อะไรมากกว่าที่เขาคิด แต่เชนก็ยังไม่คิดว่าบอดี้การ์ดธรรมดาจะทำลายแผนการที่เขาวางไว้มาเนิ่นนาน ได้ เชนจึงเดินหน้าเข้าสู่งานหมั้นอย่างมั่นใจ งานหมั้นระหว่างเชนและปารมีถูกจัดขึ้นในโรงแรมหรู เชนดูมีความสุขมากที่การแก้แค้นใกล้เป็นจริง นิตาทนไม่ได้ เพราะเธอรู้สึกว่ากำลังจะโดนเชนตัดออกไป นิตาจึงคิดล้มงานหมั้น ด้วยการจ้างมือปืนมาลักพาตัวปารมีไปทำมิดีมิร้าย หรือจะฆ่าให้ตายเลยก็ได้ แคทแอบล่วงรู้แผนการของนิตาโดยไม่ตั้งใจ แคทรีบไปบอกหิน แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ไฟในงานก็ดับลง…

ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่าน มือปืนจับตัวปารมีไว้ หินเข้าไปต่อสู้ ช่วยปารมีไว้ได้แต่เธอตกใจเป็นลม ส่วนแคทก็ตกใจหนีตามหินมาด้วย  หินจึงพาทั้งสองไปที่ชุมชนหอยใหญ่ เพื่อหลบซ่อนตัว

ปารมีฟื้นมาที่ชุมชนหอยใหญ่ คิดว่าหินลักพาตัวมาแก้แค้นที่เธอฆ่าแม่ของหิน แหกปากร้องลั่น แคทบอกว่านิตาวางแผนฆ่า ปารมีไม่เชื่อ จะโทรศัพท์ให้เชนมารับกลับบ้าน หินเอาโทรศัพท์โยนทิ้งน้ำ  ปารมีหมดหนทางติดต่อกับภายนอก เพราะเธอจำเบอร์ของใครไม่ได้เลย…ปารมีบอกชาวบ้านให้ช่วยพาเธอหนี แลกกับเงินรางวัลหนึ่งล้าน แต่ชาวบ้านพาปารมีมาส่งให้หิน เพราะหินบอกทุกคนว่าปารมีเป็นเมียที่สติไม่ดี ชอบคิดว่าตัวเองเป็นลูกสาวมหาเศรษฐี ปารมีไม่ยอมอยู่กับหิน ขโมยเรือพายหนีออกไป แต่ก็พายเรือไม่เป็น พายวนอยู่ในคลอง หินลากเรือกลับมาได้ ปารมีไม่ละความพยายาม ว่ายน้ำหนี หินแกล้งหลอกว่าในคลองมีจระเข้ ปารมีก็รีบว่ายน้ำขึ้นฝั่งทันที ไม่ว่าปารมีจะคิดหนีวิธียังไง ก็ไม่รอดพ้นจากหินและ การ์ดอาสาของชุมชุนหอยใหญ่ได้ แคทบอกให้ปารมีอยู่ที่นี่สักระยะเพื่อความปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว แคทอยากอยู่ใกล้หิน การหายตัวไปของปารมีทำให้ทุกคนร้อนใจ โดยเฉพาะเชน..เขารู้สึกเป็นห่วงปารมีอย่างที่ไม่เคยเป็นกับคนอื่น จนนิตาและเอมิกาเริ่มสังเกตเห็นได้ แต่เชนไม่ยอมรับ และไม่รู้ตัว

หินส่งข่าวบอกเดโชว่าปารมีปลอดภัย จะให้ส่งตัวกลับหรือเปล่า เดโชบอกว่าไม่ต้อง ฝากให้หินดูแลปารมีสักพัก และถ้าช่วยดัดนิสัย หรือทำให้ปารมีตาสว่างได้จะดีมาก หินจึงสั่งให้ปารมีช่วยทำงาน ปารมีไม่ยอมทำอะไรเลย หินจึงเล่นบทโหด (หลอก ๆ ) บอกว่าถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีข้าวกิน ปารมีทนหิวไม่ไหวยอมทำงาน หินพาเธอไปนั่งแกะหอย แลกกับเงินไม่กี่บาท แล้วก็ไปรับจ้างต่าง ๆ นานา การทำงานครั้งนี้ทำให้ปารมีรู้ซึ้งถึงคุณค่าของเงิน แต่สิ่งที่ปารมีได้เรียนรู้มากกว่านั้นคือ ความสนุกในการใช้ชีวิตของชาวชุมชนหอยใหญ่ รวมทั้งเธอก็ได้เห็นความดีของหิน ยิ่งรู้ว่าหินรักแม่มาก ยิ่งทำให้ปารมีสำนึกผิด เธอจึงแวะเวียนไปไหว้เคารพกระดูกแม่ของหินทุกวัน….

การเปลี่ยนแปลงของปารมีอยู่ในสายตาของหิน เขาเผลอชื่นชมออกมาหลายครั้ง จนไอ้ไฟเริ่มจับได้แต่หินก็ยังคงปากแข็ง ไม่ยอมรับ และ …ไม่รู้ตัว ปารมีเองจากเดิมที่ไม่เคยสนใจความชื่นชมของแคทที่มีต่อหิน ก็เริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ และแอบหงุดหงิดแปลก ๆ เมื่อแคทพยายามพิชิตใจหิน แข่งกับเจ๊นิดหน่อยเจ้าถิ่น มีหินอยู่ไหนก็ต้องมีนิดหน่อยและแคทที่นั่น ความขัดเคืองใจของปารมีแสดงออกมาให้แคทเห็นหลายครั้ง จนเริ่มผิดสังเกต แคทแอบแซวว่าคิดอะไรกับหินหรือเปล่า..ทำเหมือนหึง ปารมีรีบเถียงเสียงแข็ง ทั้งที่ไม่รู้ว่าในใจเริ่มโอนเอน ..

เชน พยายามตามหาตัวปารมีด้วยความห่วงใย  และเริ่มมั่นใจว่าหินต้องเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของหินกับปารมีเริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ปารมีก็เริ่มสับสนและไม่ยอมรับว่าตัวเองเริ่มหลงรักหินเหมือนกัน เชนตามมาพาตัวปารมีกลับไป หินปล่อยวาง กลับไปใช้ชีวิตที่ชุมชนหอยใหญ่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้หัวใจของเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว เรื่องราวความรักของหินและปารมีจะลงเอยอย่างไร ติดตามชมได้ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น.ทางช่อง 7 สี ละครบ่วงร้ายพ่ายรัก เริ่มออกอากาศตอนแรกจันทร์ 12 ตุลาคมนี้

รายชื่อนักเเสดงในละคร บ่วงร้ายพ่ายรัก

ธนพล  นิ่มทัยสุข     แสดงเป็น     อัคนี(หิน)
เขมนิจ  จามิกรณ์     แสดงเป็น     ปารมี(ปาล์ม)
กันต์  กันตถาวร     แสดงเป็น      เชน
สเตฟานี  เลอร์ช     แสดงเป็น     เอมิกา(เอม)
อัศนัย  เทียนทอง     แสดงเป็น     สันติ(หมอซัน)
พิมพ์นิภา  จิตตธีรโรจน์     แสดงเป็น     นิตา
เอมิกา  บูเฮอร์     แสดงเป็น     แคท
ไพโรจน์  สังวริบุตร     แสดงเป็น     เดช
ณหทัย  พิจิตรา     แสดงเป็น     อรปรียา
ภทรนันท์  จามิกรณ์     แสดงเป็น     ไอ้ไฟ
ดารณีนุช โพธิปิติ     แสดงเป็น     นิดดหน่อย
เด๋อ ดอกสะเดา     แสดงเป็น     ลุงปุ๋ย
ราตรี  วิทวัส     แสดงเป็น     ป้านาง
รสริน  จันทรา     แสดงเป็น     พรไหม
ทนงศักดิ์  ศุภการ     แสดงเป็น     อาจหาญ
เฉลิมพร  พุ่มพันธ์วงศ์     แสดงเป็น     ไกรฤกษ์
คนางค์  ดำรงหัด     แสดงเป็น     กัลยา
นภาพร  หงสกุล     แสดงเป็น     ป้าอุ่น

เธอกับเขาและรักของเรา

แป้ง ร่ำ (แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์) อดีตคุณหนูแสนสวยผู้กำพร้าพ่อ-แม่ จึงอยู่ในอุปการะของลุงกับป้าแท้ ๆ และตั้งแต่เสียพ่อ-แม่ไปฐานะทางการเงินบ้านแป้งร่ำทรุดฮวบลง ลุง-ป้าเลี้ยงหลานไม่ไหวจึงไปฝากให้อยู่ในอุปการะของ คุณใหญ่ (พีท ทองเจือ) เศรษฐีหนุ่มใหญ่ที่ยังโสดสนิท คุณใหญ่ยอมจ่ายเงินก้อนโตให้ลุงกับป้า และเลี้ยงดูแป้งร่ำอย่างดี จนคนนินทาว่าแป้งร่ำเป็นนกน้อยในกรงทองของคุณใหญ่ สร้างความไม่พอใจให้ กานดา (ปู-สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์) น้าสาวผู้โลภมากของคุณใหญ่ ที่กลัวแป้งร่ำจะมาฮุบสมบัติของตระกูล เพราะพ่อ-แม่ของคุณใหญ่ก็เสียชีวิตไปแล้ว เลยไม่มีใครคอยดูแลเรื่องนี้ กานดาจึงวางแผนปั้น ศจี (เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร) โคโยตี้ดาวรุ่งให้เป็นสาวไฮโซมามัดใจหลานชาย แต่ศจีเป็นได้เพียงความสุขชั่วคราวเท่านั้น เพราะหัวใจคุณใหญ่มีแป้งร่ำคนเดียว แต่ติดที่เป็นเด็กในอุปการะ แถมรุ่นเดียวกับ คุณหญิง (รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) น้องสาวตัวเอง ใคร ๆ จะมองไม่ดี หนำซ้ำ คุณเล็ก (ซูกัส-บัณฑวิช ตระกูลพานิชย์) น้องชายสุดท้องจอมเอาแต่ใจของคุณใหญ่ก็ชอบแป้งร่ำเช่นกัน

คุณใหญ่ต้องดูแลน้อง ๆ และบริหารธุรกิจมหาศาลที่พ่อ-แม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย จึงเป็นคนเงียบขรึม คุณใหญ่ให้ ธนพ (บอล-อัศนัย เทียนทอง) มือขวาคนสนิทช่วยดูแลน้อง ๆ ด้วยอีกแรง ทำให้คุณเล็กไม่พอใจคิดว่าพี่ชายไม่ไว้ใจตัวเอง ที่สำคัญ ชานนท์ (กันต์ กันตถาวร) แฟนเก่าคุณหญิงที่สนิทกับคุณเล็กก็มาช่วยคุณใหญ่ดูแลน้อง ๆ อีกคน ส่วนชีวิตนกน้อยในกรงทองอย่างแป้งร่ำได้แต่แต่งตัววสวย ๆ เป็นคู่ควงคุณใหญ่ออกงานสังคมไฮโซ แต่เธอไม่เคยแฮปปี้กับสิ่งปรนเปรอเหล่านี้ เพราะอยากมีชีวิตอิสระ และเบื่อที่ต้องเจอความสตรอเบอรี่ของกานดากับศจี โชคดีที่มี แม่บ้านระเบียบ (ผัดไท-ดีใจ ดีดีดี) ต้นห้องใจดีคอยดูแลให้คำปรึกษาทุกเรื่อง คุณระเบียบพร่ำสอนให้แป้งร่ำอดทน และเป็นคนดี ขนาดไปประชุมที่เซี่ยงไฮ้คุณใหญ่ก็พาแป้งร่ำไปด้วย ร้อนถึงกานดายัดเยียดให้ศจีตามไปรับใช้อีกคน

ที่เซี่ยงไฮ้คุณใหญ่มีคิวประชุมแน่นเอี้ยด อีกทั้งยังมีศจีประกบแจจนแป้งร่ำเข้าไม่ถึง เธอเหงาจึงหนีไปเที่ยวคนเดียวจนเกือบถูกรถเฉี่ยว โชคดีที่ เปา (เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มไทยที่อยู่เซี่ยงไฮ้ช่วยไว้ เขานวดข้อเท้าที่แพลงให้แป้งร่ำอย่างแรง เธอร้องโอดโอยต่อว่าเปาเป็นภาษาไทย เพราะ คิดว่าเค้าฟังไม่รู้เรื่อง แต่พอเธอลุกขึ้นจะเอาเรื่องปรากฏว่าเท้าหายปวดเป็นปลิดทิ้ง แป้งร่ำให้ตังค์เปาเป็นค่าตอบแทน เปาหมั่นไส้จะด่ากลับแต่เหลือบเห็นผ้าเช็ดหน้าหล่นจากกระเป๋าแป้งร่ำโดยไม่ รู้ตัว ผ้าผืนนั้นทำให้เขานึกถึงคุณหนูหน้าแป้นขวัญใจวัยเด็กที่เมืองไทย ชีวิตเปามีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง เพราะตั้งแต่คุณหนูหน้าแป้นหายไปจากโรงเรียนเขาก็เฝ้ารอการกลับมาของเธอจน ทุกวันนี้ แต่ความหวังของเปาหลุดลอยไปตั้งแต่เค้ากลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องเร่ร่อนมาอยู่กับลุง-ป้าที่เซี่ยงไฮ้ ใช้ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบไม่เว้นแม้กระทั่งชกมวย เพราะเปาพอมีวิชามวยไทยไชยาติดตัวมาด้วย จึงเอามาสอนคนที่นี่พอมีรายได้ช่วยลุงกับป้าบ้าง

โรงแรมที่พักของแป้งร่ำวุ่นวายกันใหญ่ เพราะคุณใหญ่สั่งคนออกตามหาเธอจ้าละหวั่น แม่บ้านระเบียบก็ใจคอไม่ดี ต่างกับศจีที่ภาวนาให้แป้งร่ำตายไปพ้น ๆ พอแป้งร่ำกลับมาแทนที่คุณใหญ่จะทำโทษ กลับสั่งให้คนหาไกด์นำเที่ยวให้เธอในวันรุ่งขึ้น เพราะรู้ดีว่าแป้งร่ำคงเหงาถึงหนีไปเที่ยวลำพัง คุณแม่บ้านต่อว่าแป้งร่ำด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกผิดและเสียใจที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง ซักพักแป้งร่ำเศร้ายิ่ง กว่าเมื่อรู้ว่าผ้าเช็ดหน้าคู่ใจหายไป คุณระเบียบไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหนูถึงเสียใจมากกับเรื่องแค่นี้

รุ่งขึ้นธนพพาเปาไกด์คนใหม่มาแนะนำคุณใหญ่ แป้งร่ำ-เปา อึ้ง! ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก เปารีบบอกว่าตัวเองเป็นคนไทย เล่นเอาคุณหนูสำลักหน้าดำหน้าแดงเพราะด่าเปาไว้เยอะ ทุกคนโกลาหลช่วยแป้งร่ำกันใหญ่ เปาตัดสินใจเข้าไปตบหลังจนแป้งร่ำรอดตายคุณใหญ่พอใจมาก ตกลงจ้างเปาเป็นไกด์ทันที และย้ำให้เปาดูแลแป้งร่ำดีที่สุดเพราะธอคือผู้หญิงของฉัน คำพูดนี้ราวกับฟ้าผ่ากลางใจเปา เขาไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไง?! ได้แต่ตีหน้ามึนจนแป้งร่ำไม่พอใจที่ไกด์ ไม่ยอมเทคแคร์ ยิ่งทำให้แป้งร่ำหมั่นไส้เปาไปกันใหญ่ เมื่อกลับถึงโรงแรมเธอฟ้องคุณใหญ่เพื่อขอ เปลี่ยนไกด์ ขณะนั้นมีคนเมา มาแต๊ะอั๋งแป้งร่ำ เปาโชว์ฝี มือจัดการมันเร็วยิ่งกว่าบอดี้การ์ด คุณใหญ่ พอใจมาก และเห็นว่าเขาเหมาะจะดูแลแป้งร่ำที่สุด แต่กลับขัดใจคุณหนูแป้งร่ำถึงกับไม่คุยกับคุณใหญ่

เช้าวันต่อมาเปามารับแป้งร่ำกับคุณแม่บ้านตามปกติ ทั้งหมดบังเอิญได้เจอลุงกับป้าเปา ถึงรู้ว่าเป็นญาติห่าง ๆ ของคุณระเบียบ ลุง-ป้ารีบฝากฝังหลานชายกับแม่บ้านระเบียบ ทุกคนมีความสุขกับอาหารมื้อนี้มาก ทำเอาคุณระเบียบจุกไปไหนไม่ไหว แป้งร่ำถือโอกาสชิ่งหนีเที่ยวคนเดียวอีกครั้งแต่ เปาก็ตามจนเจอ แป้งยังจะหนีเปาอีกเลยสะดุดล้มเข่าถลอก คำพูด และวิธีทำแผลของเปาทำให้แป้งร่ำ คุ้นเคย เธอพยายามซักไซ้ว่าเปาเป็นใคร? แต่คุณแม่บ้านโทร.มาขัดจังหวะบอกให้เปาพาคุณหนูกลับโรงแรมด่วน เพราะคุณใหญ่มีประชุมอีกเมืองกระทันหัน แป้งไม่ยอมบังคับให้ไกด์พาเที่ยวต่อ ศจีรีบบอกให้ทิ้งแป้งร่ำไว้เพื่อจะได้อยู่กับคุณ ใหญ่ลำพัง เมื่อรู้อย่างนั้นแป้งร่ำแอบน้อยใจลากเปาไปก๊งเหล้า ประชด แม้เปาจะห้ามยังไงแป้งก็ไม่ฟังดื่มเหล้า เมาไม่ได้สติ เปาจำต้องแบกคุณหนูกลับที่พัก คุณแม่บ้านโกรธคิดว่าเปามอมเหล้าคุณหนูเลยตบ และต่อว่าไม่ให้เปาเป็นไกด์อีก เปาได้แต่นอนกอดผ้าเช็ดหน้าคิดถึงคุณหนูหน้าแป้น แป้งร่ำเองก็นอนละเมอถึงเปาตลอด

วันต่อมาแป้งร่ำโทร.ปลุกเปาให้มารับทั้งที่คุณแม่บ้านสั่งห้าม แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะตัวเองท้องเสียหมดแรง แป้งจ้างพยาบาลดูแลคุณระเบียบก่อนเธอจะออกไปเที่ยวกับเปา ทั้งคู่เดินเที่ยวกันอย่างมีความสุข แต่รุ่งขึ้นแป้งร่ำต้องกลับเมืองไทยด่วนไม่ทันได้ลาเปา ทำให้เปาคิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้เจอคุณหนูในดวงใจอีกแล้ว

ที่เมืองไทย ลุงระบบ (ค่อม ชวนชื่น) สามีคุณระเบียบ และเป็นคนขับรถของคุณใหญ่ สายตาฝ้าฟางขับรถพาเจ้านายกับศจีประสบอุบัติเหตุ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรมาก กานดาได้ทีขอให้หลานชายรับ วิฑิต (เอ็กซ์-ปิยะ วิมุกตายน) กิ๊กเด็กตัวเองเป็นพลขับแทน แต่คุณใหญ่ไม่ถูกใจคุณระเบียบจึงแนะนำเปาคุณใหญ่เห็นด้วย เปาเตรียมตัวมาเมืองไทยทันที อามุ่ย (แก้มบุ๋ม-พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) ลูกสาวเจ้าพ่อที่หลงรักเปาไม่พอใจ อาละวาดจนลุง-ป้าของเปาต้องอ้อนวอนแทน แต่อามุ่ยไม่ยอมยื่นคำขาดจะมากับเปาให้ได้ คุณแม่บ้านจำใจรับอามุ่ยเป็นคนรับใช้อีกคน

ไม่มีใครรู้ว่าการมาเมืองไทยของเปาจะทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย แต่ที่แน่ ๆ คุณใหญ่รัก และเอ็นดูในความซื่อสัตย์ของเปามาก พอรู้ว่าน้องหญิงแอบชอบเปาคุณใหญ่ก็เปิดทางให้ สร้างความไม่พอใจให้ธนพที่หลงรักคุณหญิงอยู่ ธนพจึงร่วมมือกับศจีกำจัดเปา และแป้งร่ำ ศจีเชียร์คุณใหญ่ให้อนุญาตแป้งร่ำไปถ่ายโฆษณาต่างจังหวัดโดยให้เปาไปเป็น เพื่อน ขณะนั่งเรือเข้าฝั่งแป้งร่ำ พลัดตกจากเรือเปารีบกระโดดลงไปช่วย ทำให้ทั้งคู่ต้องติดเกาะด้วยกัน บรรยากาศเป็นใจทำให้เปากับแป้งร่ำเผลอมีอะไรกันจนได้ คุณใหญ่เครียดมากที่แป้งร่ำหายตัวไป สั่งคนออกตามหาจ้าละหวั่น ทันทีที่เจอแป้งร่ำคุณใหญ่โผเข้ากอดปลอบขวัญเธออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

แม้ เปาพยายามเก็บความรู้สึกที่มีต่อคุณหนูแป้งร่ำไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาอามุ่ยที่คอยจับจ้องดูเค้าตลอดเวลา ศจีจึงจีบอามุ่ยเป็นพวกอีกคน เพิ่มความโกลาหลยิ่งขึ้นเมื่อชานนท์ก็หลงรักแป้งร่ำ เช่นกัน ถึงกับเอ่ยปากขอเธอแทนส่วนแบ่งทางธุรกิจจากคุณใหญ่ ทำเอาทุกคนอึ้ง! ไปตาม ๆ กัน ใครจะเป็นผู้ชายในดวงใจของ แป้งร่ำ ติดตามชมบทสรุป…ความรักต้องห้ามครั้งนี้ได้ใน ละครเธอกับเขาและรักของเรา ทุกคืน วันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี ละคร เธอกับเขาและรักของเรา

ทวิภพ

มณีจันทร์ (เขมนิจ จามิกรณ์) สาวแห่ง พ.ศ. นี้ ผู้ถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ชาติตระกูลและการศึกษา ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมาแทบตลอด เพราะบิดารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ และต้องเดินทางตามประเทศต่าง ๆ ในฐานะเอกอัครราชทูต

          เมื่อมณีจันทร์และคุณมาลิดา (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) ผู้เป็นมารดากลับมาเยี่ยมบ้านเกิด มณีจันทร์ฝันซ้ำ ๆ อยู่แต่เรื่องเดียว เธอฝันเห็นเรือนทรงไทยตะคุ่ม ๆ เห็นห้องหนึ่งสลัวราง และในห้องนั้นก็มีเสียงเรียก “แม่มณี…แม่มณีจ๋า” เธอตื่นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเรียกนั้นนุ่มนวลชวนให้ถวิลหายิ่งนัก
          มณี จันทร์ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังแม้แต่คุณมาลิดา จนกระทั่งวันหนึ่งเธอซื้อกระจกบานหนึ่งมาจากร้านขายของเก่า กระจกบานยาวในกรอบไม้ฉลุสลักลวดลายเก่าจนฝุ่นเขรอะ ลายบางส่วนหักวิ่น “กระจกสมัย รัชการที่ 5” เจ้าคุณวิศาลคดี (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ชายชราผู้ขายบอกเธอ ที่กระจกมีรอยร้าวเป็นทางจากมุมลงมา มณีจันทร์ใช้ปลายนิ้วเช็ดกระจกเฉพาะตรงหน้า แว่บแรก เธอรู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยเห็นคันฉ่องกรอบนั้นมาช้านาน หัวใจเอิบอาบซาบซ่าละม้ายได้ของรักคืนมา

กระจกบานนั้นถูกตั้งไว้ในห้องนอนของเธอทำมุมกับอ่างล้างหน้าและเหยือกโบราณ ที่มีอยู่เดิม สิ่งอัศจรรย์หลายอย่างเกิดขึ้นกับเธอแม้ยามหลับและยามตื่น เธอรู้สึกถึงความผูกพันแนบแน่นที่มีต่อเจ้าของเสียง “แม่มณี…แม่มณีจ๋า” ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าผู้เรียกเลย วันหนึ่งเธอก็ได้เห็น “เขา” เห็นรูปถ่ายที่บ้านกุลวรางค์ (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า)เพื่อนสนิท มณีจันทร์รู้สึกว่าใช่คนนี้แน่นอนจึงซักไซร้จนได้ความว่าท่านคือ เจ้าคุณอัครเทพวรากร หรือ หลวงเทพ(อรรคพันธ์ นะมาตร์) เอกอัครราชทูตไทยคนแรกประจำสหรัฐอเมริกา และคุณหญิงของท่านชื่อ “คุณมณี” มณีจันทร์จึงขอรูปหลวงเทพจากกุลวรางค์ รูปที่ได้มาเหมือนสายใยที่ร้อยรัดความรู้สึกของมณีจันทร์ ให้แนบแน่นกับผู้ชายในฝันมากขึ้น จนกลายเป็นเส้นที่ขีดขั้นระหว่างเธอกับไรวัต (พิชยดลย์ พึ่งพันธ์) นายทหารหนุ่มแห่งกองทัพบกผู้ถึงพร้อมทั้งชาติตระกูล ทรัพย์สมบัติ และความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไรวัตรักมณีจันทร์มาก แต่รู้สึกว่าการกลับมาเมืองไทยคราวนี้มณีจันทร์แปลกไป เขารู้สึกว่าเธอมีคนอื่น ทำให้เขาร้อนรุ่มใจยิ่งนัก

          กระจกที่ได้มาทำให้มณีจันทร์เกิดเห็นภาพนิมิตหลายครั้งจากเงาสะท้อน แต่เธอก็บอกใครไม่ได้ เธอจึงไปคุยกับดร.ตรอง (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) นักฟิสิกส์เพื่อนสนิทอีกคน ดร.ตรอง ยืนยันความเป็นไปได้ของการมองเห็นภาพในอดีต ทำให้มณีจันทร์มั่นใจวาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอไม่ใช่เรื่องเหลวไหล
          มณีจันทร์แน่ใจว่า กระจกเป็นสื่อจากเธอถึงเจ้าคุณอัครเทพวรากรในอดีต และรับภาพจากอดีตมาถึงเธอ ทุกวันเธอจดจ่ออยู่กับการหาหนทางให้ติดต่อกับภาพ ในอดีตนั้นได้ เพราะเธอรู้สึกว่าผู้ที่อยู่ไกลโพ้นในอดีตก็หวนหาเธออยู่เช่น กัน และด้วยกระแสจิตแห่งความผูกพันธ์ที่รุนแรง ทำให้กระจกเกิดพลานุภาพดึงมณีจันทร์หลุดเข้าไปสู่ห้วงแห่งกาลเวลาย้อนกลับไป สู่อดีต สู่ชายที่เธอเฝ้าใฝ่หามาตลอด
          ความผูกพันและใฝ่หากันค่อย ๆ สานตัวเป็นความรักที่อ่อนหวาน โดยทั้งสองฝ่ายไม่ต้องเอ่ยปากบอกรักกัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าคุณอัครเทพวรากร ซึ่งขณะนั้นเป็นแค่เพียง หลวงอัครเทพวรากร ไม่เคยคิดถามหาหัวนอนปลายเท้าของดรุณีแรกรุ่นวัย ที่กำเนิดผู้ผุดขึ้นกลางเรือนชานผู้นี้เลย และยิ่งกว่านั้น ยังคิดปกป้องดูแลหนทางแห่งการ ไป-มา ของเธอให้สะดวกราบรื่นโดยไม่ให้ใครรู้เห็นอีกด้วย แต่ความก็แตกจนได้ เมื่อบ่าวไพร่สังเกตในความแปลกของนายจนเล่าลืออื้ออึงว่า นายเลี้ยงผี เมื่อม้วน (วชิรา เพิ่มสุริยา) บ่าวสาวได้ประจันหน้ากับผู้มาเยือนในห้องนอนของหลวงเทพ และในที่สุดคุณหญิงแสร์ (ดวงดาว จารุจินดา) มารดาผู้เฉลียวฉลาดของหลวงเทพ ได้ประจักษ์ด้วยตาตนเองว่ามีสาวน้อยนางหนึ่งมาเยือนบุตรชายของท่านโดยผ่าน ทางกระจก ความเชื่อปรัมปราทำให้คุณหญิงสรุปว่าสาวน้อยนั้นมาจาก “เมืองลับแล”

          ความน่ารักและอิริยาอาการและการพูดจาของมณีจันทร์ ผูกใจคุณหญิงและบ่าวไพร่ทั้งบ้านไว้ได้อีก ทุกคนรอคอยการมาเยี่ยมเยือนของเธอ และอาลัยทุกครั้งที่เธอกลับสู่ถิ่นฐานของตน การได้มาเยือนอดีตทำให้ มณีจันทร์ใฝ่ใจที่จะค้นคว้าช่วงเวลาที่เธอมาเยือนมากขึ้น และเมื่อยิ่งรู้ว่าปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ ในตอนนั้นคือ การที่ฝรั่งเศสคุกคามจะเอาดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นของไทยไปครอบครอง ปัญหานี้หลวงเทพต้องร่วมแก้ด้วย มณีจันทร์จึงยิ่งใฝ่ที่จะหาทางช่วยประเทศให้พ้นจากการล่าอาณานิคม
          มณี จันทร์ใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มี ช่วยงานหลวงเทพในงานของบ้านเมืองเท่าที่เธอจะช่วยได้ และเธอก็ได้แสดงความฉลาดเฉลียวสูงสุดให้ปรากฏ ในงานเลี้ยงทูตานุทูตข้าราชการชาวต่างประเทศ หลวงเทพปักใจว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เขาจะเลือกเป็นคู่ครองแทน แม่ประยงค์ (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) สาวน้อยผู้งดงามอ่อนหวาน และวางตัวอยู่ในกรอบข่ายของขนบประเพณีทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายหมายไว้ให้แก่กัน

หากแต่คุณหลวงจะมั่นใจได้อย่างไรว่า สาวน้อยผู้มาเยือนทางกระจกนั้นจะอยู่กับเขาได้ตลอดไป กระจกบานนั้นไม่เคยให้ความแน่นอนในการมาและไปของเธอ ไม่เคยให้ความมั่นใจว่า เธอจะอยู่ในภพของเขาได้นานเท่าที่เขาต้องการอยากให้อยู่ เขาต้องยอมจำนนกับกระจกบานนี้หรือไม่ หากคนสองคนหลวงเทพและมณีจันทร์จะประคองรักแท้ระหว่างกันให้ดำเนินต่อไปได้ คงต้องมีใครสละอะไรเพื่อรักแท้นั้นแน่นอน… ติดตามชม ทวิภพ ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์สุดคลาสสิก ได้ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี  ละครทวิภพ

ตะวันยอแสง 2553

ตะวัน (เขมนิจ จามิกรณ์) อาศัยอยู่ในเรือกระชังกับ สาย (รชนีกร พันธุ์มณี) และ คร้าว (ทนงศักดิ์ ศุภการ) พ่อเลี้ยงขี้เมา ยังชีพด้วยการรับจ้างบรรทุกสินค้าล่องไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตะวันมี เอี้ยง (ชวนภ โพธิประเสริฐ) ที่อาศัยอยู่ในเรือกระชังอีกลำกับแม่และพ่อเลี้ยงใจร้ายเหมือนตะวันเป็นสมุน คู่ใจ

เมื่อตะวันต้องบรรทุกรำไปส่งที่เรือแพคลองบางหลวง ทำให้สายกังวลใจมากจนตะวันผิดสังเกต แต่สายอ้างว่าไม่อยากให้ไปที่นั้นเพราะ อินตา (ทองขาว ภัทรโชคชัย) พ่อของตะวันเคยก่อเรื่องไว้ สายเสียใจที่คิดถึงเรื่องในอดีต ความจริงที่อินตาต้องติดคุก เพราะฆ่าคนตาย ทำให้สายตัดสินใจผิดมาอยู่กับคร้าว

เรือของตะวันกับเอี้ยงจอดรอส่งรำอยู่ตรงท่าน้ำใกล้กับเรือนแพและคฤหาสน์หลัง หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดเรือ ทำให้ตะวันมีเรื่องกับ นเรนทร์ (บวรพจน์ ใจกันทา) ลูกชายของ ท่านต้น (ดิลก ทองวัฒนา) เจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ พริ้มเพรา (อภิรดี ภวภูตานนท์) ป้าของนเรนทร์จะเอาเรื่องตะวัน แต่ ศักดิ์ระพี หรือ คุณเล็ก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เข้ามาห้ามเพราะรู้ว่านเรนทร์ทำร้ายตะวันก่อน

สายเข้ามาขอโทษคุณเล็กกับพริ้มเพราแล้วรีบพาตะวันกลับ พริ้มเพราเห็นสายถึงกับตกใจ กลัวความลับจะแตก เพราะเมื่อ 12 ปีก่อน พริ้มเพราอิจฉา ดวงพร (เขมนิจ จามิกรณ์) ที่ท่านต้นรับเป็นอนุภรรยาแทนที่จะเป็นตน เมื่อดวงพรคลอดลูกเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็ตาย แต่ก่อนตายดวงพรบอกกับ คุณใหญ่ (กชกร นิมากรณ์) ภรรยาหลวงของท่านต้นว่า ลูกของเธอมีปานแดงรูปหัวใจที่เหนือหน้าอกด้านซ้าย

พริ้มเพราผิดหวังที่ไม่มีลูกชายไว้สืบสกุล จึงสลับตัวลูกสาวของดวงพรกับลูกชายของสายกับอินตา และให้ ช้อน (เอกพัน บรรลือฤทธิ์) เอาเงินปิดปาก ละม่อม (ดารณีนุช โพธิปิติ) หมอตำแย ไม่ให้บอกใคร ทุกคนเข้าใจว่านเรนทร์คือทายาทของคฤหาสน์เดชาบดินทร์ คุณใหญ่จึงทำพินัยกรรมมอบสมบัติให้ลูกชายของดวงพร

ตะวัน กับเอี้ยงอยู่เฝ้าเรือรอสายที่ไปหาหมอ ท่านต้นขับเรือเล่นบริเวณนั้น นเรนทร์ประมาทจนเรือผลิกคว่ำทำให้ท่านต้นตกน้ำ ตะวันกับเอี้ยงช่วยท่านต้นขึ้นมาบนเรือ เมื่อมาถึงคฤหาสน์ ท่านต้นสั่งรื้อป้ายห้ามจอดเรือทั้งหมด เพราะซาบซึ้งในน้ำใจของตะวัน

คร้าวบังคับเอาเงินกับตะวัน สายเข้ามาช่วยจนแทงคร้าวตาย แล้วเอาจดหมายกับเงินให้ตะวันกับเอี้ยงไปหาพริ้มเพราที่เรือนแพในคลองบาง หลวง ส่วนสายมอบตัวกับตำรวจ

ช้อนบอกความจริงกับท่านต้นต่อหน้าคุณใหญ่และคุณเล็กว่า ตะวันคือลูกของดวงพร ท่านต้นตรอมใจที่ตามหาตะวันไม่เจอ ก่อนสิ้นลม จึงทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมบอกคุณใหญ่ให้พาตะวันกลับบ้านให้ได้ ตะวันเข้าไปเคารพศพท่านต้นที่วัดด้วยความหดหู่ ก่อนจะหนีคุณใหญ่ไปเพราะกลัวความผิดที่เคยทำร้ายนเรนทร์

ตะวันปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ส่วนเอี้ยงก็เปลี่ยนชื่อเป็น นพดล และโกนหัวเพื่อปลอมตัวเช่นกัน ตะวันหลอกคุณเล็กว่าชื่อ ยอแสง เป็นพี่น้องกับนพดลหนีออกมาจากบ้านเพราะถูกพ่อเลี้ยงทารุณ คุณเล็กจึงรับอุปการะทั้งสองให้ได้เรียนหนังสือ และโกหก พร้อมมิตร (ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ลูกอนุภรรยาของท่านต้นว่า ทั้งสองเป็นญาติมาจากต่างจังหวัด ยอแสงกับนพดลได้รู้จักกับ ธาดา (ธาราเขต เพ็ชรสุกใส) นักเรียนรุ่นพี่ ธาดามักจะคอยช่วยเหลือทั้งสอง จนทั้งสองซาบซึ้งในน้ำใจ

คุณเล็กไปเรียนต่อเมืองนอกจึงฝากยอแสงและนพดลไว้กับคุณใหญ่ 6 ปีผ่านไป เด็กทุกคนในเรือนแพโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมมิตรทำงานในบริษัทใหญ่โต จิตรใส (วรภร เลิศเกียรติไพบูลย์) น้องสาวของพร้อมมิตรและนเรนทร์ยังคงเรียนซ้ำชั้นมัธยม

นพดลสอบเข้านายร้อยตำรวจได้ ยอแสงเรียนอักษรศาสตร์หวังจบมาเป็นอาจารย์ ส่วนอินตาเองก็พ้นโทษ ยอแสงกับ ใจบุญ (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ได้พบกับธาดาและนพดล นพดลแอบชอบใจบุญตั้งแต่แรกเห็น ธาดาเองก็สนใจยอแสงแต่ยอแสงไม่สนใจ

คุณเล็กเดินทางกลับจากต่างประเทศ เมื่อได้พบกับยอแสงก็ถึงกับตะลึงในความสวย แต่ก็ทำตัวเหินห่างจนยอแสงน้อยใจ นเรนทร์รู้ว่าคุณใหญ่จะยกสมบัติให้ยอแสงจึงคิดกำจัดแต่ไม่สำเร็จ คุณใหญ่ยอมพูดว่านเรนทร์ไม่ใช่ลูกท่านต้น นเรนทร์ถามความจริงจากพริ้มเพรา นเรนทร์กลัวความจริงจะเปิดเผยจริงฆ่าช้อนและละม่อม

คุณ ใหญ่ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมก่อนกำหนด อินตาปรากฎตัวขึ้นทุกอย่างถูกเปิดเผย ยอแสงหรือตะวันคือทายาทที่แท้จริงของท่านต้นและดวงพร นเรนทร์คลั่งมากคว้าปืนมายิงทุกคน คุณเล็กกับอินตาช่วยกันจับตัวนเรนทร์ส่งตำรวจ ยอแสงหรือตะวันได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ เดชาบดินทร์ ที่แท้จริง คุณเล็กได้เปิดเผยความในใจกับตะวัน ความอบอุ่นจึงกลับคืนมาอีกครั้ง ติดตามชม ละคร ตะวันยอแสง

ด้วยแรงอธิษฐาน

ก่อนสิ้นลม เธออธิษฐานเพื่อให้ได้เกิดมาเพื่อแก้แค้นเขา แต่เขามีชีวิตอยู่เพื่อรัก และรอเธอคนเดียว ความรัก ความแค้น ข้ามภพ

วรดา ลูกสาวของวารี ภรรยาบ่าวของนายพลประพจน์ หลบออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดของผาณิต ลูกสาวคุณหญิงผกา ภรรยาแต่งของประพจน์ คุณหญิงผกาและผาณิตไม่เคยนับญาติกับวรดา วารีสอนให้วรดาต้องอดทนทุกครั้งเมื่อต้องฟังคำพูดดูถูกของคุณหญิงผกา  วรดานั่งอ่านเจนแอร์ นวนิยายเล่มโปรดในสวนใกล้ต้นปีบ กฤตย์เห็นวรดาครั้งแรกก็ชอบทันที กฤตย์ชวนวรดาคุยและสัญญาว่าจะเอาหนังสือนิยายมาให้ วรดาขอบคุณและเป็นสุขใจ

เกื้อกับสายพิณมีลูกสามคน คือเกตุมณี พี่สาวคนโต กฤตย์ ลูกชายคนเดียวในบ้าน และแกมแก้ว ลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เกื้อมีเชื้อสายจีน เขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านประพจน์ คุณหญิงผกาไม่ชื่นชมมากนัก แต่ผาณิตกลับชอบกฤตย์ผาณิตเป็นคนหัวอ่อนขี้กลัว จึงสนิทกับแกมแก้วที่มีนิสัยกระด้าง ชอบเอาชนะ ผาณิตแอบชอบ กฤตย์ ขณะที่แกมแก้วแอบชอบปิติ ซึ่งเป็นนายทหารผู้ช่วยประพจน์ ปิติเป็นสุภาพบุรุษจึงมักไปส่งผาณิตและแกมแก้วซื้อของเป็นประจำ แกมแก้วไม่ชอบวรดาเพราะรู้ว่าปิติชอบวรดา กฤตย์ชวนวรดาไปเดินเล่นในสวนที่บ้านกฤตย์ โดยมุดกำแพงผุที่อยู่ระหว่างบ้านกฤตย์ และบ้านวรดา วรดาถามเรื่องหลุมหลบภัยในบ้านกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งสองคนจึงช่วยกันหาแล้วลงไปในหลุมนั้นด้วยกัน ก่อนกลับบ้าน กฤตย์ขอสัญญาที่จะเจอวรดาอีกแต่วรดาไม่รับปาก ปิติแอบไปหาวรดาที่สวนหลังบ้าน ปรากฏว่าเขาเห็นวรดาอยู่กับกฤตย์ ปิติเสียใจมาก จนขับรถไปชนกับรถเกตุมณี ปิติกำลังโมโหจึงพูดจาไม่ดีกับเกตุมณี เมื่อนึกได้ปิติจึงไปขอโทษเกตุมณี วันหนึ่งแม่ของปิติไปตลาดจึงได้เจอกับเกตุมณี ทั้งคู่ถูกชะตากัน แม่ของปิติเชียร์ให้ปิติจีบเกตุมณี

แกมแก้วมาหาผาณิตที่บ้านจึงเห็นว่าวรดายืนคุยกับคนสวน ทั้งสองหาว่าวรดาร่าน จึงไปฟ้องประพจน์กับคุณหญิงผกา แต่เมื่อมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้นกลับเป็นกฤตย์ กฤตย์ยอมรับผิดทุกอย่างพร้อมทั้งขอให้เกื้อมาสู่ขอวรดาให้เขา เกตุมณีเล่าเรื่องที่กฤตย์จะแต่งงานกับวรดาให้ปิติฟัง เธอจึงได้รู้ว่าปิติเคยรักวรดา รวมถึงแกมแก้วก็หลงรักปิติเช่นกัน ทำให้เกตุมณีคิดตัดใจ แต่ปิติตามง้อและบอกรักเกตุมณี ในที่สุดเกตุมณีก็ยอมแต่งงานกับปิติ เมื่อแก้มแก้วรู้เธอรับไม่ได้และหาว่าเกตุมณีแย่งปิติไป ปิติกับเกตุมณีจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่เพชรบูรณ์

ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องในสวน วรดาไม่ได้เจอกฤตย์เลยเพราะถูกกีดกันจากคุณหญิงผกา แกมแก้ว และผาณิต วรดาทำงานหนักจนไม่สบาย กฤตย์อยากพูดกับวรดาเมื่อเจอหน้ากัน แต่ทุกอย่างแย่ลง คุณหญิงผกาพูดให้กฤตย์คิดว่าวรดาท้อง กฤตย์ไม่อยากเชื่อ วรดาเข้าใจว่ากฤตย์หันไปชอบผาณิต ทั้งสองเข้าใจผิดกัน และวันสุดท้ายที่เจอกันกฤตย์นัดวรดาไปที่สวนหลังบ้านวรดารีบทำงานเพื่อไปตาม นัด เมื่อเธอไปถึงกลับไม่พบกฤตย์ แต่โดนคนเอาไม้มาตีคอ วรดาคิดแค่ว่ากฤตย์ทำร้ายเธอ ที่สำคัญเขาจับเธอไปขังที่หลุมหลบภัย จนวรดาขาดอาหาร ก่อนตายเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน ขอกลับมาแก้แค้นคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บจนตาย

มนทิรากับนิกรมีลูกสาวชื่อนัทธมน เด็กสาวเกิดมาพร้อมพลังพิเศษที่สามารถบังคับสิ่งของได้ คืนใดที่นัทธมนฝันร้าย สิ่งรอบตัวของเธอจะลอยขึ้นจนทำให้มนทิรากับนิกรตกใจและเป็นห่วงนัทธมน แต่ทั้งสองยังไม่พานัทธมนไปหาหมอเพราะยังเด็กอยู่วันหนึ่งมนทิราพานัทธมนวัยขวบเศษไปใส่บาตรกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง พระรูปนี้เตือนให้มนทิราเลี้ยงนัทธมนให้ดี ให้สอนเรื่องการให้อภัยเพื่ออนาคตของนัทธมน แม้นัทธมนจะโตขึ้นแต่อาการฝันร้ายยังมีเหมือนเดิม มนทิราจึงคอยระวังไม่ให้นัทธมนกลัวและสอนนัทธมนให้อโหสิ แต่ยิ่งโตขึ้น นัทธมนเริ่มไม่เชื่อฟังจนมนทิราหนักใจ เมื่อนัทธมนเข้าโรงเรียน เธอไม่ชอบเพื่อนคนหนึ่งชื่อติสรณ์ หรือเต้ย ซึ่งเป็นลูกนักการเมืองใหญ่ ติสรณ์ชอบกระตุกผมเพื่อนผู้หญิง วันหนึ่งติสรณ์กระตุกผมนัทธมนทำให้เธอโกรธและใช้พลังพิเศษจนติสรณ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่านัทธมนหลายเท่า มนทิรารู้ว่านัทธมนเป็นคนทำ เธอให้นัทธมนสาบานว่าจะไม่ทำอีก แต่นัทธมนไม่ยอม ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน นิกรเกิดอุบัติเหตุรถชนตาย นัทธมนรู้ล่วงหน้าจึงรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมนทิราก่อนที่เพื่อนร่วมงานของ นิกรจะโทรมาบอกว่านิกรเสียแล้ว
หลังจบมัธยมสาม นัทธมนบอกมนทิราว่าจะเรียนต่อเลขานุการโดยไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงว่า มีอะไรบางอย่างดึงดูดให้เธอต้องไปเรียนที่นี่ มนทิราห้ามไม่ได้จึงปล่อยไป แม้แต่ติสรณ์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของนัทธมนก็เสียดายความรู้ของ นัทธมนแทน

วันแรกของการเข้าเรียน นัทธมนได้เพื่อนใหม่ชื่อกลิกาหรือถุงแป้ง ลูกของเกตุมณีกับปิติ และนัทธมนก็ได้รู้จักกฤตย์ ซึ่งเป็นน้าชายของกลิกา นัทธมนรู้ทันทีว่าเป็นเขาที่เธอต้องแก้แค้นนัทธมนนั่งอ่านเจนแอร์ ทำให้กลิกางงที่นัทธมนอ่านหนังสือเก่า แต่นัทธมนไม่รู้สึกซาบซึ้งไปกับเนื้อหา เธอเห็นว่าเจนแอร์เป็นผู้หญิงโง่ที่ยอมให้ผู้ชายหลอกแล้วทิ้งไปเหมือนวรดา ที่โง่ให้กฤตย์หลอก แล้วก็ตายเพราะเขา เพื่อนของกลิกามักถามถึงกฤตย์ แม้แต่นัทธมนที่ยังไม่เคยเจอกฤตย์ก็ถามถึงจนเพื่อนๆ งง นัทธมนจึงบอกว่าเธอสนใจกฤตย์ กลิกาอยากให้เป็นจริงเพราะไม่อยากให้กฤตย์ต้องตกลงปลงใจกับปณิตา หม้ายสาวที่ตามตื้อกฤตย์มานาน ที่กฤตย์ยังไม่มีใครเพราะลืมวรดาไม่ได้ กฤตย์มารับกลิกาที่โรงเรียน เขาเห็นนัทธมนแล้วตกใจมากเพราะคิดว่าเป็นวรดา ขณะที่ติสรณ์มารับนัทธมนที่โรงเรียน ติสรณ์สนใจกลิกา นัทธมนจึงช่วยติสรณ์เพราะรู้ว่าทั้งคู่เป็นคนดีนัทธมนแต่งตัวไปงานวันเกิดขอ งกลิกาที่บ้านกฤตย์ เมื่อไปถึงนัทธมนตกใจที่บ้านกฤตย์กลายเป็นบ้านเรือนไทย บ้านเก่าเธอ นัทธมนถามกลิกาจนรู้ว่า กฤตย์ซื้อบ้านหลังนี้มาเพราะทุกคนในบ้านตายหมด ส่วนบ้านอีกหลังกฤตย์ใช้เป็นสำนักงาน

นัทธมนยังไม่ได้เจอกฤตย์เพราะเขาไม่สบายจึงลงมาร่วมงานไม่ได้ กฤตย์เห็นนัทธมนเดินอยู่ในสวนแต่เรียกไม่ทัน จนสะดุดโต๊ะที่วางเค้กวันเกิดของกลิกา แกมแก้วโวยวายว่าเป็นความคิดของกลิกา แต่กฤตย์ปกป้องกลิกา นอกจากนี้ เขาถามกลิกาถึงเพื่อนที่มาเดินในสวนจึงรู้ว่าเป็นนัทธมน กฤตย์จึงบอกกลิกาให้ชวนนัทธมนมาทำงานเป็นเลขาที่บริษัท ซึ่งนัทธมนก็ยินดี นัทธมนจะได้มาทำงานเป็นเลขาของกฤตย์โดยตรง และทำงานที่บ้านเรือนไทย ไม่ใช่ที่สำนักงาน กลิกาดีใจที่นัทธมนได้งาน แกมแก้วนำเอกสารขอส่งลินจันทร์ ลูกสาวที่เป็นใบ้ไปเรียนต่างประเทศเพื่อรักษาตัว ลึกๆ แกมแก้วอิจฉาที่กฤตย์จะส่งกลิกาลูกเกตุมณีไปเรียน กฤตย์ขอเวลาตัดสินใจวันแรกของการทำงาน นัทธมนได้รู้จักกับพิษณุ เลขาเก่าของกฤตย์ ซึ่งจะย้ายไปประจำที่สาขาชลบุรี พิษณุสอนงานให้นัทธมนตอนบ่ายกฤตย์พานัทธมนไปประชุมที่สำนักงานฝั่งตรงข้าม บ้านเรือนไทย นัทธมนได้ทักทายบงกช ซึ่งต้องติดต่องานประจำเมื่อกฤตย์กับนัทธมนไปแล้วบงกชโทรศัพท์บอกเรื่องนัท ธมนให้ปณิตารู้ทันที ปณิตาไม่ไว้วางใจจึงคิดหาทางกำจัดนัทธมน ปณิตา เป็นลูกแม่ค้าจนๆ จึงตัดสินใจแต่งงานเพื่อยกระดับตัวเองถึงสองครั้ง ครั้งที่สองทำให้เธอรวยมาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อปณิตาตั้งใจจะจับกฤตย์แล้วเธอต้องทำให้ได้

แกมแก้วเข้ามาดูเลขาคนใหม่ของกฤตย์ทำให้แกมแก้วตกใจมากที่นัทธมนหน้าเหมือ นวรดา หลังจบประชุม กฤตย์พานัทธมนไปยังสระน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยที่วรดาตาย กฤตย์บอกว่าเคยคิดทำสวน กฤตย์พานัทธมนเดินมาหาลินจันทร์เมื่อนัทธมนเห็นลินจันทร์จึงรู้ว่าลินจันทร์ คือผาณิตกลับชาติมากเกิด ลินจันทร์รู้เช่นกัน จึงกลัวนัทธมนจนวิ่งหนีไป
มนทิราบอกเรื่องที่คนจะขายรถ นัทธมนสนใจเพราะจะได้ไปทำงานสะดวก หลังจากไปลองนำรถมาใช้ นัทธมนก็ตกลงซื้อ และขับรถไปทำงานทุกวัน
ปณิตาชวนกฤตย์ไปทานข้าว แต่กฤตย์นัดนัทธมนและกลิกาไว้แล้ว ปณิตาจึงขอไปด้วย โดยเลือกร้านอาหารทะเล และเหน็บแนมนัทธมนตลอดเวลา สุดท้าย นัทธมนใช้พลังพิเศษทำให้ปูหนีบนิ้วปณิตา ปณิตาถึงกับพูดไม่ออก ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของนัทธมน
วันรับวุฒิบัตร มนทิราได้เจอกับกฤตย์ที่ไปแสดงความยินดีกับกลิกาและนัทธมน ทั้งสี่คนจึงไปทานอาหารเย็นด้วยกัน มนทิราสังเกตเห็นว่านัทธมนไม่ชอบกฤตย์ และแน่ใจว่าผู้ชายที่ลูกฝันถึงเป็นกฤตย์ มนทิราไม่สบายใจที่นัทธมนไม่ตัดความแค้นออกจากใจเสียที ขณะที่นัทธมนนำรูปคู่ระหว่างตนเองกับกฤตย์ไปตั้งบนโต๊ะทำงานตามที่กลิกาของ ร้อง แกมแก้วมาเห็นจึงไม่ชอบใจนัก กลิกากลับไปเพชรบูรณ์พร้อมของฝากและรูปถ่าย เมื่อเกตุมณีและปิติเห็นรูปนัทธมนทั้งคู่ตกใจว่าทำไมถึงเหมือนวรดามาก ปณิตาเห็นรูปที่ตั้งบนโต๊ะนัทธมน ปณิตาไม่พอใจมาก เธอชวนกฤตย์ไปทัวร์ยุโรปแถมจองตั๋วเผื่อกฤตย์แล้ว แต่กฤตย์ปฏิเสธเพราะติดธุระพอดี ปณิตาช้ำใจมาก ยิ่งเธอชวนนัทธมนไปทำงานที่บริษัทเพื่อให้ห่าง

กฤตย์ แต่นัทธมนปฏิเสธ ปณิตาก็ยิ่งแค้น เมื่อคนใช้ยกกาแฟมาให้ ปณิตาจะแกล้งทำกาแฟหกใส่นัทธมน ปรากฏว่ากาแฟหกรดตัวเอง ปณิตางงกับเหตุการณ์ที่พลิกผัน แกมแก้วพยายามพาลินจันทร์ไปหากฤตย์ พอดีไพโรจน์มาเยี่ยมลูกสาวคือลินจันทร์ และจะพาไปเที่ยว แต่แกมแก้วไม่ยอมจึงทะเลาะกันรุนแรง คราวนี้ไพโรจน์ไม่ยอมเหมือนครั้งก่อน เมื่อลินจันทร์ไปกับไพโรจน์แกมแก้วจึงมีอาหารเหมือนคนคลุ้มคลั่ง กฤตย์รีบพาแกมแก้วส่งโรงพยาบาลไพโรจน์ขอโทษที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น แต่กฤตย์เข้าใจ นัทธมนจัดเสื้อผ้าเตรียมไปทำงานกับกฤตย์ที่เชียงราย โดยกฤตย์รับปากมนทิราว่าจะดูแลนัทธมน
อย่างดี ตอนขึ้นเครื่องนัทธมนอาเจียนเพราะกลัวความสูงจึงไม่มีแรง เมื่อถึงเชียงรายกฤตย์จึงพาไปพักที่โรงแรมก่อน แต่นัทธมนกลับไม่ยอมขึ้นลิฟต์เพราะกลัวที่แคบและความมืด จนลืมตัวพูดไปว่า กฤตย์จะฆ่าตัวเอง ทำให้กฤตย์สงสัย แต่เขาตัดสินใจพักชั้นล่างและพานัทธมนเดินขึ้นบันไดนัทธมนฝันร้ายจนสิ่งของ ลอยเหมือนตอนแด็กอีกครั้ง ทำให้กฤตย์คิดว่าแผ่นดินไหวแต่เมื่อไปถามคนอื่น ทุกคนยืนยันว่าไม่มีแผ่นดินไหว กฤตย์คิดว่านัทธมนต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่สิงห์ หรือสีหนาท เป็นคนมารับกฤตย์กับนัทธมนไปยังไร่สัตตบุษย์ที่กฤตย์จะทำโครงการนัทธมนออก ปากชมบ้านของสีหนาท แต่สีหนาทบอกว่ากฤตย์เป็นคนออกแบบ นัทธมนจึงเงียบลงไปเพราะไม่ชอบให้ใครชื่นชมกฤตย์ต่อหน้าก่อนที่อำพล วิศวกรร่วมโครงการจะขึ้นมา กฤตย์กับนัทธมนได้ไปเที่ยวฝั่งพม่าพร้อมกับสีหนาทและน้องสาว กฤตย์ซื้อสร้อยคอเส้นที่นัทธมนให้นัทธมน เธอจะไม่รับ กฤตย์จึงบังคับเธอ เมื่อกฤตย์และนัทธมนต้องไปเที่ยวกันตามลำพัง นัทธมนไม่อยากไปจนครั้งหนึ่งเธอทำร้ายกฤตย์ กฤตย์สงสัยในพฤติกรรมแปลกๆ ของนัทธมนแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เมื่ออำพลขึ้นมา กฤตย์เร่งทำงานส่วนนัทธมนใช้เวลาว่างในการคิดแผนการที่จะจัดการกฤตย์ให้เร็ว ที่สุด เพราะกฤตย์เริ่มรู้ตัวแล้ว

กฤตย์ไปส่งนัทธมนที่บ้านหลังกลับจากเชียงราย มนทิราขอบคุณกฤตย์ เมื่อนัทธมนกลับไปทำงาน กฤตย์ก็ดีต่อเธอทุกอย่าง แต่นัทธมนไม่ต้องการมัน เธอเริ่มดำเนินตามแผนแก้แค้นเริ่มจากการเอากุญแจห้องเก็บของมาไว้ที่ตัวเอง นัทธมนเจอปิติก่อนที่เขาจะกลับเชียงรายจึงได้รู้ว่า ประพจน์ขอหย่าจากผกาหลังวรดาตาย แล้วไปบวชเป็นพระออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ คุณหญิงผกากับผาณิตถูกรถชนตาย ประพจน์จึงขายบ้านให้กฤตย์ แล้วออกธุดงค์ต่อ ในที่สุดก็มรณภาพ แกมแก้วเห็นปิติคุยกับนัทธมนจึงเข้ามาหาเรื่อง เมื่อปิติกลับไปถึงเชียงรายก็เล่าเรื่องให้เกตุมณีฟัง ปณิตารู้ว่านัทธมนกลับมาจึงรีบโทรหาสมุนของเธอให้จัดการกับนัทธมน แต่ทุกอย่างผิดแผน เพราะคนร้ายตามรถที่นัทธมนใช้ประจำไปโดยไม่ได้ดูว่าใครขับ ทำให้มนทิราเคราะห์ร้าย เมื่อนัทธมนรู้เรื่อง เธอสัญญาว่าจะต้องจัดการกับคนร้ายให้ได้ แม้มนทิราจะขอร้องแต่นัทธมนไม่รับปาก

ปณิตารู้ว่างานพลาดจึงสั่งให้จัดการใหม่อีกครั้ง แต่นัทธมนไม่กลัวเพราะรอชำระความอยู่แล้ว คนร้ายทั้งสองถูกจัดการจนบาดเจ็บสาหัส คนแรกที่นัทธมนจัดการคือบงกช นัทธมนใช้วิธีสะกดจิตให้บงกชเกิดภาพหลอนเห็นหนอนเต็มปาก ส่วนปณิตาเมื่อรู้ว่านัทธมนไม่ใช่คนธรรมดา เธอจึงมาเตือนกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่สนใจ นัทธมนสะกดจิตปณิตาให้เห็นปีศาจอย่างที่ปณิตากล่าวหาว่านัทธมนเป็นปีศาจ เมื่อเลิกงาน นัทธมนชวนกฤตย์ไปห้องเก็บของ กฤตย์ยอมไปแต่โดยดีและเดินลงไปในห้องเก็บของตามที่นัทธมนต้องการ กฤตย์รอฟังคำอธิบายจากนัทธมนจึงรู้ว่านัทธมนคือวรดากลับชาติมาเกิด นัทธมนไม่ฟังสิ่งที่กฤตย์จะบอก เธอทำให้กองอุปกรณ์หล่นมทับขากฤตย์หักและขังกฤตย์ไว้ เธอหวังให้เขาร้องขอความช่วยเหลือแต่เขาไม่ร้อง สุดท้ายคนที่แพ้คือนัทธมนอีกครั้ง วันรุ่งขึ้นนัทธมนให้ทุกคนตามหากฤตย์ที่หายไปจนเจอ แกมแก้วจะพากฤตย์ไปหาหมอ แต่กฤตย์ขอคุยกับนัทธมนเป็นการส่วนตัวกฤตย์ส่งแหวนที่เขาเตรียมให้วรดากับ นัทธมน วันนั้นกฤตย์ยังไม่ทันออกจากบ้าน แม่ของกฤตย์เกิดหกล้มขาหักเขาจึงพาส่งโรงพยาบาลและให้แกมแก้วไปบอกวรดาแทน แต่วันต่อมาวรดาหายไปไม่มีใครพบ จนกระทั่งวรดาตาย นัทธมนตกใจที่รู้ว่าไม่ใช่กฤตย์ เธอจึงไปหาลินจันทร์และแกมแก้ว นัทธมนคาดคั้นลินจันทร์ให้พูดความจริง ลินจันทร์กลัวมากจึงเล่าว่า แกมแก้วเป็นคนวางแผนทั้งหมด ตั้งแต่ตีหัววรดา และลากวรดาไปซ่อนในหลุมหลบภัย ซึ่งแกมแก้วบอกจะปล่อยวรดาในอีกสองสามวันข้างหน้าแต่แกมแก้วไม่ทำ จนวรดาตาย นัทธมนโกรธมากที่รู้ว่าแกมแก้วทำแกมแก้วไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลินจันทร์พูดได้แต่เป็นเสียงผาณิต เมื่อเรื่องทุกอย่างเปิดเผยแกมแก้วจึงยอมรับออกมาและคิดจะฆ่านัทธมนอีกครั้ง แต่นัทธมนใช้พลังจิตทำร้ายแกมแก้วจนแกมแก้วกลัวลนลาน กฤตย์พยายามห้ามไว้แล้วให้นัทธมนอโหสิกรรม หลังจากวันนั้น แกมแก้วเป็นอัมพาต กฤตย์รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และตัดสินใจส่งลินจันทร์ไปเรียนต่างประเทศ นัทธมนหลีกเลี่ยงการพบกับกฤตย์แต่ยังถามข่าวจากกลิกานัทธมนพามนทิราไปเที่ยว ชายทะเล จนคิดได้ตามที่แม่สอนว่าคนเราไม่ควรฝืนชะตาความรัก นัทธมนโทรหากฤตย์ แต่กฤตย์ไม่อยู่บ้าน เธอจึงเสียใจ แต่กฤตย์ตามเธอมาที่ทะเล ทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักของกันและกันเวลาผ่านไป กลิกาใกล้เรียนจบ โดยมีติสรณ์รออยู่เมืองไทย ส่วนนัทธมนมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อ อธิษฐ์ แม้อธิษฐ์จะดื้อ แต่นัทธมนก็รักเขามาก รวมถึงลูกในท้องที่จะเป็นเด็กผู้หญิง กฤตย์และนัทธมนตกลงจะตั้งชื่อลูกว่า “วรดา”