Tag Archives: อธิชาติ ชุมนานนท์

รอยไหม

รอยไหม เป็นเรื่องราวของ เรริน (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เห็นธาตุแท้ของ ธนินทร์(เจสัน ยัง) คู่หมั้นที่หมั้นกันเอาไว้หลายปีแล้วด้วยการจัดการของผู้ใหญ่ เพราะธนินทร์แอบขายผ้าทอผลงานของเธอโดยไม่บอกกล่าว เรรินโกรธมาก เดินทางขึ้นเชียงใหม่ทันที เธอต้องการสงบสติอารมณ์ ที่เชียงใหม่เรรินแวะเวียนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อชมการทอผ้า และที่แม่แจ่ม เธอได้พบ สุริยวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์) และได้ อาศัยรถของเขากลับเข้าเมืองด้วย เรรินได้ที่พักเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของที่อัธยาศัยดีในคืนแรกที่พักเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เธอจึงลุกออกมาและได้พบชายคนหนึ่ง เขาพูดคุยกับเธอเหมือนรู้จักคุ้นเคยมานาน เขาแสดงความยินดีที่เธอกลับมาแล้ว สร้างความงงงวยให้เรรินเป็นอย่างมาก

เรรินพบว่าสุริยวงศ์เป็นน้องชายวันดารา(อรอนงค์ ปัญญาวงศ์)เจ้าของรีสอร์ตเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และเมื่อรู้ว่าเรรินสนใจงานผ้าโบราณ เขาจึงอาสาพาเรรินไปพบ บัวเงิน(พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าของเขา เพราะบัวเงินครอบครองผ้าโบราณล้านนามากมาย นาทีแรกที่บัวเงินได้เห็นหน้าของเรริน ทุกอย่างกลับตาลปัตร บัวเงินไล่ตะเพิดและด่าทอเรริน รวมถึงแสดงความเกลียดชัง สร้างความงุนงงให้กับเรรินและสุริยวงศ์ บัวเงินรู้ดีว่ามณีรินกลับมาแล้ว เพื่อทวงแค้นของเธอ เรรินได้แวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้า และในบรรดาผ้าตระกูลล้านนา เธอรู้สึกผูกพันกับผ้ากลุ่มไทเขินจากเชียงตุงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผ้าซึ่งเจ้าของเดิมคือ เจ้านางมณีริน(ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) รวมถึงประวัติเรื่องเล่าชีวิตของเจ้านางมณีรินได้ดึงดูดความสนใจของเรริน เป็นอย่างมากจนเธออยากรู้จัก เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เมื่อรู้ว่าเรรินสนใจผ้าโบราณ จึงพาเธอเข้าไปชมผ้าผืนหนึ่งที่ยังทอไม่เสร็จและทันทีที่เรรินได้เห็นผ้าผืน นั้น เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์เธอเข้าไปนั่งลงและเริ่มทอผ้าผืนนั้นต่อทันที ช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับการทอผ้า และการได้พบชายแปลกหน้ายามวิกาล ทำให้เธอเหมือนได้หลุดไปสู่อีกมิติหนึ่งและได้รู้จักเจ้านางมณีริน

เจ้านางมณีริน เป็นเจ้าหญิงจากแคว้นเชียงตุงที่ถูกส่งตัวมาเชียงใหม่ เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าศิริวัฒนา(ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ทั้งที่เธอไม่ได้รู้สึกรักเขาเลย เจ้านางมณีรินหนีออกจากคุ้มเจ้าหลวงไปเที่ยวตลาด โดยมีนางคำเที่ยง(สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ) พี่เลี้ยงคนสนิทติดตามไปด้วย ที่ตลาด มณีรินได้รู้จัก เจ้าศิริวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์)และมิตรภาพเบ่งบานเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างรู้ใจกันและกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ความจริงเรื่องสถานะของกันและกัน ความรักของคนทั้งคู่จึงกลายเป็นรักต้องห้าม

บัวเงินหม่อมของเจ้าศิริวัฒนา เมื่อรู้ว่ามณีรินเดินทางมาเพื่อแต่งงานกับศิริวัฒนา จึงคุมแค้นและต้องการกำจัดมณีรินให้พ้นทาง แล้วโชคเข้าข้างบัวเงินเมื่อ เจ้าหลวง (เผ่าทอง ทองเจือ) และพระชายา(ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ) ไว้วางใจให้บัวเงินเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลมณีริน มณีรินชอบทอผ้า พระชายาจึงมอบหมายให้บัวเงินเป็นครูสอนมณีริน บัวเงินเหยียบย่ำ ถากถางมณีริน ต่าง ๆ นานา แต่ฝีมือมณีรินยิ่งดีวันดีคืน ผลงานผ้าทอของมณีรินเป็นที่ปลาบปลื้มชื่นจิตพระชายาเป็นนักหนา และท่าทางศิริวัฒนาจะรักมณีรินมากขึ้นทุกวัน แต่โอกาสก็เข้าข้างบัวเงินเสมอ ครั้งหนึ่งบัวเงินจงใจผลักมณีรินตกน้ำ โดยตั้งใจจะให้เสียหน้า เฉย ๆ แต่มณีรินกลับจมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ศิริวงศ์มาช่วยไว้ได้ทันเวลา ยิ่งทำให้ความผูกพันระหว่างมณีรินและศิริวงศ์กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในงานถวายผ้าห่มพระธาตุ เจ้าหลวงและพระชายาสั่งให้มณีรินและบัวเงินแข่งขันกับทอผ้า บัวเงินใช้กลโกงในการทอ ทำให้มณีรินไม่มีฝ้ายในการทอผ้า แต่ในนาทีสุดท้ายนั้นเองศิริวงศ์ ซึ่งล่วงรู้แผนการของบัวเงิน ก็ขนฝ้ายจำนวนมากมาให้มณีริน ผลการแข่งขันได้หักหน้าบัวเงินอย่างแรง เพราะมณีรินเป็นฝ่ายถูกตัดสินให้เป็นฝ่ายชนะด้วยฝีมือปักผ้าแบบเชียงตุง เพิ่มเข้าไป บัวเงินสะสมความแค้นต่อมณีริน และยิ่งรู่สึกว่าเจ้าหลวงลำเอียงเอ็นดูมณีรินมากกว่า

อีเม้ย(ชุดาภา จันทเขตต์) ขี้ข้าคนสนิทของบัวเงิน ออกความคิดช่วยกำจัดมณีรินโดยใส่งูเห่าไว้ในกระชุดอกไม้ หวังให้งูกัดมณีริน แต่คนที่รับเคราะห์ถูกงูกัดคือศิริวงศ์ มณีรินดูดพิษงูจากแขนศิริวงศ์ โดยไม่กลัวความตาย ทั้งคู่รักกันมากขึ้น และอีเม้ยเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อีเม้ยถูกจับเฆี่ยนเพราะถูกจับได้ว่าเป็นผู้ต้องสงสัย แต่มณีรินขอชีวิตอีเม้ยไว้ไม่ถือโทษเพราะถือว่าไม่มีหลักฐาน

ศิริวัฒนา สนใจในตัวบัวเงินน้อยลงทุกที อีเม้ยออกความคิดทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งเป็นเรื่องผิดอาญาแผ่นดิน ศิริวัฒนาล้มป่วยเพราะโดนของ ศิริวงศ์และมณีรินล่วงรู้แผนการของบัวเงิน และกำจัดมนต์ดำนั้นได้ เจ้าหลวงไม่ค่อยสบาย แต่อาการดีขึ้นด้วยอาหารที่มณีรินจัดขึ้นถวาย เจ้าหลวงจึงมอบหมายให้มณีรินดูแลเรื่องอาหารตลอดไป บัวเงินคุมแค้นและใช้โอกาสนี้ ยอกย้อนมณีริน โดยใส่ยาพิษในอาหาร หวังจะฆ่าเจ้าหลวง และกำจัดมณีรินไปพร้อม ๆ กัน อีเม้ยยอมเป็นฝ่ายรับเคราะห์แทนบัวเงิน โทษฐานวางยาเจ้าหลวง อีเม้ยฆ่าตัวตาย โดยสั่งเสียบัวเงินไว้ว่าวิญญาณของตนจะอยู่รับใช้บัวเงินตลอดไป บัวเงินล่วงรู้ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของมณีรินกับศิริวงศ์เพราะผีอีเม้ย บัวเงินแฉเรื่องเลวร้ายนี้ หวังให้ศิริวัฒนากำจัดมณีริน ศิริวัฒนาโกรธจัดแต่เมื่อทั้งมณีรินและศิริวงศ์ ยอมรับความจริง และให้ขอศิริวัฒนา เห็นใจในความรักแท้ ศิริวัฒนาก็อ่อนลง

วันสงกรานต์ ศิริวงศ์นัดพบมณีริน ผีอีเม้ยเข้าสิงครอบงำศิริวัฒนา ตามไปและพลั้งมือฆ่าศิริวงศ์ มณีรินเสียใจอย่างหนัก ต้องการตายตามชายที่รัก ศิริวัฒนารู้สึกผิดที่พลั้งมือฆ่าน้องชาย แต่ต้องการไถ่โทษด้วยการแต่งงานและดูแลมณีรินอย่างดีที่สุด ศิริวัฒนาออกคำสั่งให้มณีรินทอผ้าตุ๊มเพื่อให้ใช้ในพิธีแต่งงาน มณีรินมิได้ขัดขืน ตั้งใจทอผ้าตุ๊มให้เสร็จโดยหวังจะใช้ผ้าผืนนี้ผูกคอตายตามศิริวงศ์ บัวเงินขัดขวางมณีริน กรอกยาพิษจนมณีรินขาดใจตายคากี่ทอผ้า ศิริวงศ์ตรอมใจและตายตามในที่สุด

บัวเงินเหมือนอยู่ในนรกตลอดเวลาเจ็ดสิบปี เมื่อมณีรินกลับมาเกิดใหม่ในฐานะเรริน บัวเงินจึงยังคุ้มแค้น บัวเงินและผีอีเม้ยขัดขวางเรรินทุกวิถีทางไม่ให้เรรินทอผ้าผืนนั้นเสร็จ แต่ด้วยความช่วยเหลือของทั้งศิริวัฒนาและศิริวงศ์ เรรินก็ทอผ้าผืนนั้นเสร็จสมบูรณ์จนได้ บัวเงินสั่งผีอีเม้ย เข้าสิงธนินทร์เพื่อจับตัวเรรินไปฆ่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปอย่าลืมติดตามชมละคร รอยไหม

รายชื่อนักแสดง ละคร รอยไหม

สุริยวงศ์,เจ้าศิริวงศ์ รับบทโดย อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์

เรริน,เจ้าหญิงมณีริน รับบทโดย แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

เจ้าสิริวัฒนา รับบทโดย ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ

ธนินทร์ รับบทโดย เจสัน ยัง

หม่อมบัวเงิน(วัยชรา) รับบทโดย พิสมัย วิไลศักดิ์

หม่อมบัวเงิน(วันสาว) รับบทโดย เมย์ เฟื่องอารมย์

วันดารา รับบทโดย อรอนงค์ ปัญญาวงศ์

วงพระจันทร์ รับบทโดย พิมลรัตน์ พิศลยบุตร

สรัญญา รับบทโดย ธนิดา กาญจนวัฒน์

พรรณวรินทร์ รับบทโดย รัชนี ศิระเลิศ

คำเที่ยง(แก่) รับบทโดย น้ำเงิน บุญหนัก

คำเที่ยง (สาว) รับบทโดย สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ

ไหมแม รับบทโดย วราพรรณ ทรัพย์ธนะอุดม

อีเม้ย รับบทโดย ชุดาภา จันทเขตต์

เจ้าหลวง รับบทโดย เผ่าทอง ทองเจือ

พระชายา รับบทโดย ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติภิภพ

สล่าพันธ์ รับบทโดย เกรียงไกร อุณหะนันท์

แม่เลี้ยงคนใหม่

โรงแรมพินาเคิล ภูเก็ต ภัคจิรา หัวหน้าประชาสัมพันธ์คนสวย มีโอกาสต้อนรับ ปพน นักธุรกิจหนุ่มเมืองกรุง ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์จากคู่กัดกลายเป็นคู่รักในที่สุด

ขวัญ หลานสาวปพน กับแพรวพรรณ เมื่อได้ข่าวความรักของปพน จึงรีบเดินทางไปภูเก็ต ขวัญต้องการให้ปพนกลับไปจัดการเรื่องที่บ้าน เพราะปกรณ์ พ่อของขวัญ กำลังจะแต่งงานใหม่กับสิตา ทั้ง ๆ แพรวโพยม แม่ของขวัญกำลังป่วยอยู่

ขวัญไม่ชอบใจภัคจิรา อีกทั้งแพรวพรรณซึ่งเป็นคนรักเก่าของปพนก็รู้สึกหึงปพน ทั้งสองจึงกีดกันภัคจิราจากปพน จนปพนกลับกรุงเทพฯ

ที่งานแต่งงานของปกรณ์กับสิตา แพรวโพยมบุกไปงาน และยิงปกรณ์บาดเจ็บจนกลายเป็นคนหมดสมรรถภาพทางเพศ แพรวโพยมคลุ้มคลั่งหนัก จนปพนต้องส่งไปรักษาที่ภูเก็ต

ที่ภูเก็ต แพรวโพยม รู้ว่าภัคจิราเป็นลูกสาวของเพื่อนเก่าแพรวโพยมถูกใจภัคจิรา จึงเกลี้ยกล่อมให้ปกรณ์แต่งงานกับภัคจิรา เพราะต้องการภัคจิราเป็นคนดูแลลูก ๆ ทั้งสาม คือทรายขวัญ ทรายเทพ และทรายแก้ว ภัคจิราต้องการเงินเพื่อรักษาแม่ที่เป็นโรคหัวใจ ทั้งสองจึงยอมแต่งงานกันแต่เพียงในนาม เมื่อหมดห่วงเรื่องลูก แพรวโพยมจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย …

ทรายขวัญ ทรายเทพ และทรายแก้ว ต่างคิดว่าภัคจิราคือสาเหตุที่ทำให้แม่ของพวกเขาฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะขวัญที่ปักใจว่าภัคจีรากำลังหันมาจับพ่อของเธอเอง

ฝ่ายปพนก็คิดว่าภัคจีราทำทุกอย่างเพื่อเงิน ถึงขนาดแต่งงานกับปกรณ์ พี่ชายของเขา ปพน ขวัญ และแพรวพรรณ พยายามทำทุกอย่างเพื่อกำจัดภัคจีราออกจากบ้าน ภัคจีรากล้ำกลืนความทุกข์และพยายามทำหน้าที่แม่เลี้ยงให้ดีที่สุด

แพรวพรรณไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตัวเองได้มรดกจากแพรวโพยม พี่สาวเพียงน้อยนิด จึงพยายามทำลายขวัญ ซึ่งเป็นหลาน โดยให้อนิรุทธิ์วางยาปลุกปล้ำขวัญ แต่ไม่สำเร็จ เพราะนสิตคอยช่วยเหลือ

สามีเก่า ตามมารังควานแพรวพรรณ จนทำให้แพรวพรรณเครียด จนพึ่งยาเสพติด ฝ่ายภัคจิราเองก็ถูกปกรณ์ ที่มีปัญหาทางจิต คุกคามจนกลายเป็นคนวิตกจริต ขวัญและปพนจึงเข้ามาช่วยเหลือภัคจิราให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของปกรณ์

ภัคจิราเดินทางกลับภูเก็ต ปพนรู้สึกผิดที่มองเธอให้แง่ร้าย เช่นเดียวกับที่เด็ก ๆ ต่างเห็นคุณค่าของภัคจิรา ปพนจึงตามไปทำความเข้าใจกับภัคจีราและขอให้เธอกลับมาหาเขาอีกครั้ง

แม่เลี้่ยงคนใหม่ นำแสดงโดย
สหรัถ สังคปรีชา เป็น ปพน
สิเรียม โอแกน เป็น ภัคจิรา
ทราย เจริญปุระ เป็น ทรายขวัญ
อธิชาติ ชุมนานนท์ เป็น นสิต
สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ เป็น แพรวพรรณ
อรรถชัย อนันตเมฆ เป็น ปกรณ์
เดือนเต็ม สาลิตุลย์ เป็น แพรวโพยม

พิมมาลา

“รู้จักให้…ในสิ่งที่คนอื่นอยากได้ ” คือคำขวัญประจำใจของ เพรียว (อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มเชื้อสายจีน ลูกชาย เถ้าแก่ชั้น (เหมียว แมคอินทอช) และ ยามถม (ศิรินุช เพ็ชรอุไร) เพรียวเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เชื่อมั่นในตัวเองและทำงานเก่ง เขามีความสามารถเรื่องการดูจิตใจของคนอื่น รู้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการและเมื่อเขาให้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการเขาก็จะได้ รับในสิ่งที่เขาอยากได้กลับคืนมาเสมอ พ่อของเขาเปิดกิจการผ้าทอ โดยมีพี่สาวสองคนคือ สายพร (อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์) กับ ยุพิน (สโรชา วาทิตตพันธ์) ซึ่งเป็นคนดูแลกิจการทอผ้าของครอบครัวเป็นหลักแต่พ่อแม่ไม่เคยเห็นความสำคัญ

เพรียวเรียนเก่งแต่ไม่ได้เก่งแบบอัจฉริยะ เป็นเพราะเขารู้ในนิสัยของอาจารย์แต่ละคนว่าชอบอะไรแล้วทำในสิ่งที่อาจารย์ ชอบ ผลก็คือผลการเรียนที่ได้รับมากกว่าคนอื่น เมื่อเรียนจบเขาได้ทำงานที่ ห้างเซนซูยา เพราะรู้จักับ ทศกร (นพชัย มัททวีวงศ์) ญาติห่าง ๆ ของ ศรสิทธิ์ (ดิลก ทองวัฒนา) และ ฟ้างาม (จินตหรา สุขพัฒน์) น้องสาวของศรสิทธิ์ เจ้าของห้างเซนซูยา โดยมี ดล (สุรินทร คารวุตม์) และ นาง (คลาวเดีย จักรพันธุ์) เป็นเพื่อนร่วมงาน ซึ่งนางนั้นเกลียดผู้หญิงสวยและแกล้งผู้หญิงสวยทุกคนที่มาทำงานด้วย สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพรียว คบ ข่ายแก้ว (มรกต หทัยสีวงศ์) เป็นแฟนเพราะช่วยเรื่องการเรียนแต่พอเรียนจบก็ห่างกันไปเพราะเธอไปเรียนต่อ ต่างประเทศ

ในเรื่องความรัก เพรียว มักคบผู้หญิงคราวละ 2 คน เรียกว่าคอยสับหลีก ฟ้างามพาลูกสาวคือ น้ำนวล (ชีรณัฐ ยูสานนท์) มาฝึกงานและให้เพรียวดูแล น้ำนวลมักจะฝันถึง สาวสวยแสนงามคนหนึ่ง ในฝันน้ำนวลรู้สึกคุ้นเคยกับหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างดี เธอถามผู้หญิงคนนั้นว่าชื่ออะไรหญิงสาวตอบว่าชื่อ รัมภา น้ำนวลจำภาพรัมภาได้ชัดเจนและคิดว่ารัมภาเป็นนางฟ้า

เมลานี (วรันลักษณ์ ศิระมะณีวัฒนา) ลูกสาวของ ศรศิลป์ และ มานิดา (ชนานา นุตาคม) มาฝึกงานที่แผนดประชาสัมพันธ์ เธออาละวาดจน เต็มตา (พรรษชล สุปรีย์) แฟนของเพรียวต้องกระเด็นออกไป น้ำนวลเริ่มมีใจกับเพรียว แต่เพรียวก็ได้มาพบกับ อินทุพร (วิรากรานต์ เสณีตันติกุล) สาวนักเรียนนอกจึงเริ่มสานสัมพันธ์ แถมเซนซูยามีพนักงงานใหม่คือ ดารณี (มิรา โกมลวณิช) เข้ามาเพรียวก็ผิดคำพูดตัวเอง เขาคบทั้ง เต็มตา ดารณี อินทุพร แต่แล้วเขาก้ได้เจอสาวงามคนหนึ่งเธอชื่อว่า รัมภา (ศรีริต้า เจนเซ่น)

ก่อนน้ำนวลจะเรียนจบ เพรียวไปดูนิทรรศการงานวิทยานิพนธ์ของน้ำนวล ทันทีที่เพรียวเห็นภาพเขียนของน้ำนวลที่ชื่อ Angelica ความทรงจำของนางฟ้า ซึ่งน้ำนวลเขียนถึงผู้หญิงในความทรงจำ และจู่ ๆ รัมภาสาวงามก็มาปรากฏตัว เธอบอกว่าเธอชอบงานของน้ำนวล ในงานเดียวกันเพรียวได้พบกับข่ายแก้วโดยบังเอิญ ข่ายแก้วยังคงบอกว่ารักเพรียวเหมือนเดิม ในงานเลี้ยงฉลองเรียนจบของน้ำนวล เพรียวได้พบกับ เมลานี เธอดึงเขามากอดจูบกันอย่างไม่อายใคร น้ำนวลผิดหวังและเสียใจ และไปเรียนต่อต่างประเทศ และกลับมาเมืองไทยพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยพร้อมคู่หมั้นหนุ่ม แวน จิตติวัฒน์ สักกะบุตร (รณเดช วงศ์สาโรจน์) หนุ่มหล่อไฮโซลูกชาย คนเดียวของนักการเมืองชื่อดัง

ดารณีจับได้ว่าเพรียวคบอินทุพร จึงคิดจะกระโดดตึกเพรียวต้องกล่อมจนเธอใจอ่อน เพรียวถูกฟ้างามเรียกเข้าไปตักเตือน เขาจึงตัดสินใจลาออกจากเซนซูยา เพรียวได้พบกับรัมภาอีกครั้งและเธอก็ชื่อสาปเขากลายเป็นหญิงในชื่อ พิมมาลา เพื่อให้เขาได้รู้ถึงความรู้สึกของผู้หญิง และต้องทำภารกิจตามที่นางฟ้ารำภาให้ ตั้งแต่ทำให้ดารณีตาสว่างเรื่องความรัก ต่อมาคือให้ข่ายแก้วตัดอกตัดใจจากเพรียว และต้องให้อินทุพรยกโทษให้เขาให้ได้

พิมมาลาถูกชายฉกรรจ์ฉุดลากขึ้นรถตู้ไป พิมมาลารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของนันท์ที่ต้องการให้ชายฉกรรจ์ข่มขืนแล้วนันท์ จะคลิปไว้แบล็คเมล์ แต่เธอรอดมาได้แถมยังมีหลักฐานมัดตัวนันท์อีกด้วย นอกจากนี้พิมมาลายังช่วยฟ้างามให้เลิกงมงายกับการหาประโยชน์ของ ทวิชา (ประกาศิต โบสุวรรณ) ที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมหลอกลวงคนอีกด้วย จากนั้นเซนซูยาได้ต้อนรับพนักงานใหม่คือ อนุศร (เอกพงศ์ จงเกษกรณ์) ทายาทของเซนซูยาเขาหลงรักพิมาลาทันที

พิมมาลาได้กลับมาเป็นเพรียวและบอกรักน้ำนวลแต่เธอไม่สามารถยกเลิกการแต่งงาน กับแวนได้ เพราะแวนรักน้ำนวลมากทำให้เพรียวปวดร้าว ต่อมาน้ำนวลตั้งท้องและคลอดลูกเป็นหญิงชื่อว่า พิมมาลา ต่อมาพ่อของเขาเสียชีวิตลงและได้แบ่งสมบัติให้เพรียวมากที่สุดแต่เขาขอให้ แบ่งสามคนเท่ากัน หลังจากนั้นอีกห้าปีชีวิตของทุกคนได้ดำเนินไป เพรียวได้สร้างที่พักของคนติดเชื้อ HIV ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเต็มตาด้วย เพรียวได้รับตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการส่วนทศกรเป็นอนุศร และเหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อรถของอนุศรประสบอุบัติเหตุและแวนก็ได้รับ บาดเจ็บด้วย แวนรู้ว่าเพรียวคิดอย่างไรกับน้ำนวล เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ความรักของเขากับน้ำนวลจะจบลงเช่นไร ติดตามได้ใน ละคร พิมมาลา

รายชื่อนักแสดงนำใน ละครพิมมาลา

อธิชาติ  ชุมนานนท์   แสดงเป็น   เพรียว
เฌอมาลย์     บุญยศักดิ์   แสดงเป็น   พิมมาลา
ศรีริต้า  เจนเซ่น   แสดงเป็น   รัมภา
ชีรณัฐ  ยูสานนท์   แสดงเป็น   น้ำนวล
รณเดช  วงศาโรจน์   แสดงเป็น   แวน
จิรายุ  ตันตระกูล   แสดงเป็น   นันท์
เอกพงศ์  จงเกษกรณ์   แสดงเป็น   อนุศร
วรันลักษณ์     ศิริมะณีวัฒนา   แสดงเป็น   เมลานี
จินตรา  สุขพัฒน์   แสดงเป็น   ฟ้างาม
ดิลก  ทองวัฒนา   แสดงเป็น   ศรสิทธิ์
วิรากานต์  เสณีตันติกุล   แสดงเป็น   อินทุพร
พรรษชล  สุปรีย์   แสดงเป็น   เต็มตา
มรกต  หทัยสีวงศ์   แสดงเป็น   ข่ายแก้ว
มิรา  โกมลวณิช   แสดงเป็น   ดารณี
สุรินทร  คารวุตม์   แสดงเป็น   ดล
คลาวเดีย  จักรพันธุ์   แสดงเป็น   นาง
นพชัย  มัททวีวงศ์   แสดงเป็น   ทศกร
สโรชา  วาทิตตพันธ์   แสดงเป็น   ยุพิน
อัญชิสา  เลี่ยวไพโรจน์   แสดงเป็น   สายพร
เหมียว  แมคอินทอช   แสดงเป็น   ชั้น
ศิรินุช  เพ็ชรอุไร   แสดงเป็น   ถม
ชนานา  นุตาคม   แสดงเป็น   มานิดา
ประกาศิต  โบสุวรรณ   แสดงเป็น   ทวิชา
สุเชาว์  พงษ์วิไล   แสดงเป็น   หลวงลุง
อัฐพล  ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา   แสดงเป็น   ตายิ้ม

โบตั๋นกลีบสุดท้าย

โบตั๋นกลีบสุดท้าย ของ สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมประจำปี ไม่มีใครรู้ว่าสำเภาทองเป็นใคร เพราะทุกครั้งเขาจะให้ ดนัย เด็กวัดที่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัว อาเชง เป็นคนนำต้นฉบับและรับเงินให้ทุกครั้ง สำเภาทองแท้จริงคือ ธีรเดช ( อาจู ) ลูกชายคนสุดท้ายของอาเชงกับ เหมยหลิง สองสามีภรรยาที่อพยพจากเมืองจีน มาขายข้าวมันไก่ในเมืองไทย จนส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนคือ ธีรชัย ( อาโจ ), ธีรชาติ ( อาจิว ) และธีรเดช ( อาจู ) จนจบปริญญา

อาเชงไม่ค่อยชอบอาจูมากนัก เพราะตอนเหมยหลิงท้องอาจู ครอบครัวเขาลำบากถึงกับอพยพหนีมาเมืองไทย อาจูจึงเป็นลูกชัง ขณะที่อาโจและอาจิวเป็นลูกรักที่ได้ทุกอย่างจากอาเชงตลอดเวลา และมักเรียกอาจูว่า ไอ้ตัวซวย ทำให้อาจูกดดันกับชีวิตเสมอมา อาโจเข้ามาทำงานที่บริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนอาจิวเข้าทำงานที่ธนาคาร โดยไม่บอกให้อาเชงรู้เพราะกลัวถูกแบ่งเงินเดือน อาจูระบายความในใจลงในบันทึกตามคำแนะนำของดนัย และให้อาจูเขียนเรื่องสั้นส่งนิตยสาร “ระเบียงสยาม”

งานเขียนของอา จูเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เขาจึงกลายเป็นนักเขียนมืออาชีพในนามปากกา “สำเภาทอง” โดยปิดบังอาเชงและเหมยหลิงเอาไว้ อาโจแต่งงานกับ จรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ สร้างความช้ำใจให้อาเชงไม่น้อยแต่ไม่เคยบอกใคร อาจูรู้ว่าพ่อผิดหวังมากแต่ไม่สามารถปลอบใจได้ อาเชงมักใช้เวลาว่างอ่านนิตยสารระเบียงสยาม เพราะติดใจการเขียนนวนิยายของสำเภาทองมาก อาจูได้รับการทาบทามให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับงิ้ว เขาไม่มีข้อมูลจึงไปสมัครที่คณะงิ้วฉางชิน

ที่เป็นแหล่งข้อมูลแต่ เกือบไม่ได้ทำงานในคณะเพราะ ตันหยง ลูกสาวคนเล็กของ อาฉาง และอาซิน ไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน อาจูเห็นว่าครอบครัวอาฉางมีแต่ลูกสาว แต่สามารถให้ความรักความอบอุ่นแกลูกๆ ได้ดี แตกต่างจากครอบครัวของเขาที่มีแต่ลูกชาย แต่กลับได้รับความรักไม่เท่ากัน อาจูจึงเอาเรื่องราวชีวิตของอาฉางและข้อมูลเกี่ยวกับงิ้วที่ได้จาก อาซุ่น คนสอนงิ้วของคณะเป็นผู้ให้ข้อมูล ดาหลา ลูกสาวคนโตของอาฉางแต่งงานกับ พงษ์เลิศทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง

ลูก ชายของ เจ้าสัวกำจร กับมาดามเหลียว จนมีลูก 2 คนคือ หยก กับหงส์ ปาหนัน ลูกสาวคนกลางเป็นนางเอกงิ้วที่ เสี่ยเดชา เจ้าของร้านทองจอมอันธพาล, อดิเทพ ผู้กำกับละครเวทีชื่อดัง และ แอนดี้ เพลย์บอยหนุ่มนักเรียนนอกรุมจีบ ตันหยงเป็นลูกสาวคนเล็กที่อยากเปิดอู่ซ่อมรถ มีนิสัยห้าว ชอบโต้เถียงกับอาฉางเป็นประจำ จนเธอคิดว่าพ่อไม่รักเหมือนลูกคนอื่น อาหลง เด็กกำพร้าที่อาฉางและอาซินเลี้ยงไว้เพราะอยากได้ลูกชาย เขาทำทุกอย่างในคณะที่เป็นการตอบแทนบุญคุณ

และแอบรักปาหนัน ข้อมูลทั้งหมดอาจูได้ฟังจากอาซุ่น จึงตั้งชื่อนวนิยายเรื่องใหม่ว่า “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” อาเชงทำงานหนักเพราะหวังเก็บเงินให้ลูกรักทั้ง 2 ได้สบาย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคไต เขาไม่รู้เลยว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นเป็นเงินที่อาจูหามาจากงานเขียน หนังสือ อาเชงเชื่อว่าอาโจกับอาจิวต้องไปสอนพิเศษเพื่อหาเงินมารักษาตน อาจูกับเหมยหลิงปิดปากเงียบไม่ยอมบอกให้อาเชงรู้ เพราะกลัวว่าอาเชงจะไม่ยอมรักษาตัว ดนัยเห็นอาเชงอคติกับอาจูตลอดเวลา

จึง เอานิตยสารระเบียบสยามมาให้อ่าน อาเชงได้อ่านเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” เรื่องราวของครอบครัวจีนที่มีลูกๆ 3 คนมาอ่าน อาเชงอ่านแล้วอินไปกับเรื่องราว อาเชงรู้ว่าอาจูทำงานในสำนักพิมพ์นี้ จึงฝากอาจูไปชมสำเภาทอง อาจูตื้นตันใจมากที่พ่อกล่าวชมเขาเป็นครั้งแรก แม้พ่อจะไม่รู้ว่าเขาคือสำเภาทองก็ตามที งานแสดงงิ้วเริ่มซบเซา อาฉางไม่อยากให้ศิลปะงิ้วหายไป จึงปรับปรุงการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ โดยกู้เงินจากเสี่ยเดชามาใช้ เสี่ยเดชาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชอบปาหนันอยู่

เขา จึงยื่นข้อเสนอว่าหากอาฉางหาเงินมาใช้หนี้ไม่ทันกำหนด จะต้องยกปาหนันให้ตนอาฉางยอมตกลง และพยายามทำให้การแสดงมีคนเข้าชมมากๆ เมื่อเสี่ยเดชาเห็นว่าอาฉางจะหาเงินมาใช้หนี้ตนได้ จึงส่งลูกน้องมากลั่นแกล้งจนทำให้โรงงิ้วไฟไหม้ การแสดงต้องยุติลง อาจูยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการให้ไปแสดงที่โรงหนัง และเขาเป็นคนช่วยเขียนบทการแสดง ทำให้ครอบครัวอาฉางพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ตันหยงทีแรกตั้งตนอคติกับอาจู คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง

เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลงและ คิดจะกระชากหน้ากากเขาตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นความดีของอาจูที่คอยช่วยเหลือครอบครัว ความรู้สึกเธอจึงเปลี่ยนไปและโอนเอนมาทางแอบชอบ ขณะที่ความรักของทั้งสองกำลังก่อตัวขึ้น ความลับที่อาจูปิดบังไว้มาตลอดก็ถูกเปิดโปงขึ้น เมื่อตันหยงจับได้ว่าอาจูเป็นนักเขียนนวนิยายในนามสำเภาทอง ทุกคนผิดหวังในตัวเขามากจึงไล่อาจูออกไปจากคณะ อาจูแอบไปดูคณะงิ้วซ้อมการแสดงที่โรงหนัง ช่วงนั้นคณะกำลังมีปัญหาเพราะตันหยงหายตัวไป

อาฉางก็ป่วยหนักจนเข้า โรงพยาบาล อาจูเห็นว่าพ่อลูกทะเลาะกันจึงหาเหตุให้ตันหยงไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล จนทำให้พ่อลูกสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ในวันเกิดอาหลงเขานัดปาหนันไปกินข้าว แต่ปาหนันผิดนัดปล่อยให้อาหลงนั่งอยู่ที่ร้านเพียงลำพัง จึงถูกเสี่ยเดชาและลูกน้องรุมทำร้ายจนขาหัก ไม่สามารถแสดงงิ้วได้อีก อาฉางจึงต้องตามตัวอาจูมาแสดงแทน ดาหลาจับได้ว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์จึงขอหย่ากับเขา โดยนำลูกทั้งสองไปเลี้ยงเอง เจ้าสัวกำจรผิดหวังในตัวลูกชายมาก

จึงไล่ออกจากบ้าน พงษ์เลิศตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับคู่ขา อาเชงรู้ความจริงว่าอาจูซื้อบ้านสวนเอาไว้ แทนที่จะดีใจกลับโกรธจัดเพราะเข้าใจว่าลูกชายไปทำงานผิดกฎหมาย จนดนัยต้องโพล่งความจริงออกมาว่า อาจูใช้เงินจากงานเขียนนวนิยายซื้อบ้านหลังนั้นไว้ และเหมยหลิงยังบอกอีกว่าอาจูเป็นคนออกค่ารักษาตัวให้เขา ไม่ใช่อาจิวและอาโจอย่างที่อาเชงเข้าใจ อาเชงฟังแล้วสะท้อนใจอย่างแรง เมื่อรู้ว่าลูกชังไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย ผิดกับลูกรักทั้งสองที่ไม่เคยมาเหลียวแล

อาเชงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่ก็แอบไปดูการแสดงงิ้วของอาจูที่โรงหนัง และในที่สุดอาจูกับอาเชงก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ปาหนันรู้ว่าอาจูมีใจให้ตันหยง จึงร่วมมือกับอาหลงหาทางให้คนทั้งสองได้สารภาพรักกัน อาจูถือโอกาสบอกรักตันหยงขณะที่แสดงงิ้วบนเวที สร้างความหวั่นไหวให้เธอไม่น้อย อาจิวถูกจับได้ว่ายักยอกเงินธนาคารจึงถูกจับเข้าคุก ให้อาโจมาประกันตัวแต่อาโจปฏิเสธเพราะกลัวพาดพิงมาถึงตน อาจิวโกรธพี่ชายมากจึงเขียนจดหมายไปบอกจรัสศรีว่าอาโจมีเมียน้อย

จรัส ศรีพาลูกน้องไปยิงอาโจจนกลายเป็นอัมพาต อาเชงสงสารลูกชายจับใจจึงตัวมาดูแลที่บ้าน ตันหยงเรียนจบวิชาช่างมาแล้ว อาฉางจึงให้ทุนเปิดอู่ซ่อมรถตามความฝัน และให้ดูแลคิวการแสดงของคณะงิ้วฉางซิน ที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” ได้รับรางวัลงานเขียนนวนิยายดีเด่นประจำปี อาจูขึ้นไปรับรางวัลนี้ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่นานนักเขาก็เริ่มงานเขียนชิ้นใหม่ในเรื่อง “คือวันที่ฉันรอ” โดยสำเภาทอง และมีตันหยงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างกาย

รายชื่อนักแสดง โบตั๋นกลีบสุดท้าย

อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น ธีรเดช ( อาจู )
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง
เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลง
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น ปาหนัน
วริษฐ์ ทิพโกมุท แสดงเป็น พงษ์เลิศ
เพชรลดา เทียมเพชร แสดงเป็น ดาหลา
นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น อาเชง
เศรษฐา ศิระฉายา แสดงเป็น อาฉาง
ทาริกา ธิดาทิพย์ แสดงเป็น อาซิน

บาดาลใจ 2551

สักการ ธนศักดิ์ ( อธิชาติ ชุมนานนท์) ชายหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรมชื่อดัง อยู่ในความทุกข์เมื่อรังสิยา คู่หมั้นของเขาต้องมาเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในต่างประเทศ นับจากวันนั้นสักการก็ปล่อยให้ความทุกข์ทำลายเขาให้กลายเป็นผู้ชายที่ไร้ หัวใจ
 
พฤติกรรมของสักการที่นั่งดูรูปของรังสิยาทั้งวันทั้งคืนจนร่างกายซูบผอม ลง และการที่สักการรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตเพราะต้องการจะอยู่อย่างสงบจึงขอแยก บ้านออกไปอยู่ที่บ้านย่านชานเมืองตามลำพัง โดยเอานายเพิ่ม ( บอล เชิญยิ้ม) คนรับใช้ชายไปอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น สร้างความทุกข์ใจให้กับ ดำรง ( สุเชาว์ พงษ์วิไล) ชุลี ( ดวงตา ตุงคมณี ) พ่อ แม่ของเขา และ อาฬวี ( มนัสนันท์ พันธุ์เลิศวงศ์สกุล) น้องสาวของเขาเป็นอย่างมาก ทุกคนในครอบครัวของเขาจึงพยายามพาผู้หญิงสาวสวยมาให้สักการรู้จัก โดยหวังว่าสักการจะลืมรังสิยาได้ แต่ว่าสักการไม่เคยสนใจผู้หญิงที่สมาชิกในครอบครัวพามาแนะนำให้รู้จักเลย
 
ชุลีโทรศัพท์ไปปรึกษาปริม ( ทัศวรรณ เสนีย์วงษ์ ณ อยุธยา ) เพื่อนสนิทซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่กับลูกชายและลูกสาว ของเขาได้แก่ แพะ ( พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์) และ ปุริมาน ( ราศรี บาเล็นซิเอก้า) เพราะว่าสามีของปริมเสียชีวิตตั้งแต่ลูกทั้งสองยังเด็ก ปริมจึงเลี้ยงลูกด้วยการทำไร่ลำไยและโรงงานลำไยกระป๋อง โดยมีบริษัทส่งออกอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีแพะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญ ส่วนปุริมานนั้นเพิ่งเรียนจบทางด้านการเกษตร
 
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ปริมตัดสินใจลงมากรุงเทพกับปุริมานเพื่อมา เยี่ยมชุลี และมาดูงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋อง เมื่อปริมและปุริมานมาถึงกรุงเทพและได้พบกับชุลีแล้ว ชุลีแปลกใจเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าปุริมานโตเป็นสาวสวย และด้วยความสดใสน่ารักของปุริมาน ทำให้ชุลีและอาฬวีรักและเอ็นดูปุริมานมาก จึงตัดสินใจพาสองแม่ลูกไปพักผ่อนที่บ้าน แล้วโทรบอกให้สักการกลับมาที่บ้านเพื่อมาหาปริม สักการยอมมาเพราะไม่อยากให้ใครไปที่บ้านย่านชานเมืองของเขา เมื่อสักการมาถึงบ้านจึงได้เจอแต่ปริมเท่านั้น สักการพูดคุยกับปริมสักพักก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนปุริมานหนีออกมาจากบ้านเพื่อนำของฝากไปให้นิตยา( ) เพื่อนร่วมชั้นที่สนิทกันโดยบอก ผล ( ) คนรับใช้ในบ้านของชุลีเอาไว้ แต่ว่าด้วยความที่ปุริมานไม่เคยไปบ้านของนิตยา มาก่อนจึงทำให้ปุริมานหลงทางเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว แล้วพบกัยชายวัยรุ่นที่พยายามจะปล้ำเธอ แต่ว่าโชคดีที่สักการขับรถผ่านมาเห็นพอดีเพราะว่าบ้านของเขาอยู่ในซอยนั้น สักการจึงลงไปช่วยเหลือปุริมานได้ทันเวลา ทำให้ปุริมานหลงรักสักการขึ้นมาทันที เพราะว่าสักการเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอไว้ หลังจากนั้นปุริมานก็สลบไป สักการจึงจำใจพาปุริมานกลับไปที่บ้านพักของเขา
 
เมื่อปุริมานฟื้นขึ้นมาก็พบว่าสักการกำลังนั่งดูรูปของรังสิยาอยู่ เธอจึงไม่อยากรบกวนเขา ปุริมานจึงไปทำกับข้าวให้เขาเพื่อขอบคุณที่สักการช่วยเหลือปุริมานไว้ ปุริมานสังเกตว่าบ้านของสักการขาดชีวิตชีวา ดังนั้นเมื่อถึงวันตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ปุริมานจึงนำต้นดอกแก้วมาปลูกที่บ้านของสักการ แต่กลับทำให้สักการไม่พอใจที่ปุริมานทำตาใจตนเอง ถึงแม้ว่าปุริมานจะพยายามพูดให้สักการเห็นถึงข้อดีของการมีต้นไม้อยู่ในบ้าน ว่าจะทำให้บ้านของสักการดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้วก็ตาม สักการก็ไม่ฟังและยังไล่ปุริมานให้กลับบ้านไป
 
เมื่อปุริมานออกมาจากบ้านของสักการ ก็พบกับนิตยาเพื่อนของเธอ นิตยาจึงพาปุริมานมาอยู่ในบ้านของตนเอง ทำให้ปุริมานได้รู้ความจริงว่าบ้านของนิตยาและบ้านของสักการอยู่ติดกัน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ปุริมานได้พบกับ วรมิตร ( ตรีพล พรหมสุวรรณ) พี่ชายของนิตยาซึ่งหลงรกปุริมานตั้งแต่แรกเห็น แต่ว่าด้วยความที่เป็นคนขี้อายจึงไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกมา
 
สักการถูกแม่ของเขาบังคับให้ไปทานข้าวที่บ้านเพื่อเลี้ยงส่งปริมและลูก สาว เมื่อสักการไปถึงทำให้เขาได้รู้ว่าปุริมานเป็นลูกสาวของปริม ขณะที่ปุริมานเองก็ตกใจที่รู้ว่าสักการเป็นลูกชายของชุลี ชุลีเห็นความสดใสและน่ารักของปุริมานจึงคิดที่จะสู่ขอปุริมานให้สักการ เพราะเชื่อว่าความสดใสและน่ารักของปุริมานจะทำให้สักการหลุดพ้นจากความทุกข์ ได้ ปริมจึงตอบตกลงและบอกว่าเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับปุริมานและสักการด้วย ปุริมานตกใจเมื่อรู้ว่าว่าจะต้องแต่งงานกับสักการ แต่ว่าเธอก็ตกลงเพราะว่าเธอรักสักการอยู่แล้ว
 
เมื่อวันแต่งงานมาถึง สักการที่รู้ความจริงว่าตนเองจะต้องแต่งงานกับปุริมานก็โวยวายใหญ่ เพราะว่าไม่ต้องการที่จะถูกจับคลุมถุงชน ชุลีจึงต้องแกล้งป่วยหนัก และขอร้องให้สักการแต่งงาน สักการจึงยอมเข้าพิธีแต่งงานในที่สุด
 
หลังจากที่งานแต่งงานได้ผ่านพ้นไป รังสิตา ( ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ) น้องสาวของรังสิยา อดีตคู่หมั้นของสักการก็เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และรู้ข่าวว่าสักการแต่งงานกับปุริมานแล้ว เธอก็เสียใจมากเพราะว่ารังสิตาแอบหลงรักสักการมานานแล้ว แต่เพราะว่าสักการเป็นคู่หมั้นของพี่สาว เธอจึงต้องเก็บความรู้สึกของเธอไว้ ส่วนด้านสักการเมื่อเขาได้พบกับรังสิตา เขาก็ตกใจมาก เพราะว่ารังสิตามีหน้าตาคล้ายกับพี่สาวมากเหมือนกับเป็นคนๆเดียวกัน
 
หลังจากแต่งงานแล้ว สักการและปุริมานก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านย่านชานเมืองด้วยกัน โดยทั้งสองคนนอนแยกห้องกัน ทำให้ปุริมานรู้สึกสับสนว่าเธอตัดสินใจถูกหรือผิดที่ตัดสินใจแต่งงานกับ สักการ เพราะว่าสักการไม่ยอมรับปุริมานเลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามในเมื่อปุริมานได้ตัดสินใจไปแล้ว เธอก็จะไม่ถอยและจะพยายามดึงสักการขึ้นมาจากบาดาลของความเศร้าให้ได้ ปุริมานทำหน้าที่ดูแลสักการให้ดีที่สุด โดยที่เธอพยายามทำให้บ้านของสักการมีชีวิตชีวาด้วยการปลูกต้นไม้และรดน้ำต้น ดอกแก้วที่เธอเคยปลูกไว้ และถึงแม้ว่าวันๆสักการจะเอาแต่นั่งมองรูปของอดีตคู่หมั้น ปุริมานก็พยายามเก็บความน้อยใจไว้ และไม่โกรธสักการ เธอพยายามทุกทุกวิธีให้สักการอารมณ์ดีขึ้น จนบางครั้งสักการรู้สึกรำคาญปุริมานมาก
 
รังสิตามาเยี่ยมสักการและปุริมานเสมอ และพยายามทำให้ปุริมานหึง แต่ว่าปุริมานก็ไม่หึงสักการเลยเพราะเธอเข้าใจว่าที่สักการแต่งงานกับตนเอง ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะความจำเป็น ดังนั้นเวลาที่รังสิตามาที่บ้าน ปุริมานจึงไปนั่งเล่นที่บ้านของนิตยาเป็นประจำ วรมิตรจึงได้ใกล้ชิดกับปุริมานมากขึ้น ทำให้สักการไม่พอใจที่เห็นปุริมานทำตัวสนิทกับวรมิตร ดังนั้นสักการกับปุริมานจึงทะเลาะกันบ่อยครั้งในเรื่องของวรมิตร โดยที่สักการไม่ยอมฟังเหตุผลของปุริมานเลยสักนิดเดียว
 
ปุริมานไม่อยากทุกข์ใจ เธอจึงขออนุญาตสักการไปช่วยพี่ชายทำงานที่บริษัทส่งออกลำไยกระป๋อง แต่ว่าสักการไม่ยอมให้ปุริมานไปทำงานเพราะว่ากลัวคนอื่นจะดูถูกว่าเขาดูแล ภรรยาไม่ดี ต้องให้ภรรยาออกไปทำงานนอกบ้าน ปุริมานจึงประชดกลับไปว่าการที่สักการไม่ยอทำงานแล้วเอาแต่นั่งจมอยู่กับ ความทุกข์ เป็นสิ่งที่น่าอายมากกว่า สักการโกรธมากจึงบอกปุริมานว่าเขาจะกลับไปทำงานแล้วโดยที่สักการได้เปิด บริษัทรับออกแบบบ้านของตนเอง แต่ว่ากิจการไม่ค่อยดี ปุริมาน พยายามให้กำลังใจและคำแนะนำกับสักการ แต่สักการก็ไม่เชื่อ ปุริมานจึงทำได้เพียงให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ในที่สุดสักการก็ต้องปิดกิจการลง แต่ว่าปุริมานก็ไม่เคยเยาะเย้ยเขาและยังให้กำลังใจสักการเสมอ ทำให้สักการเริ่มมีความรู้สึกดีๆกับปุริมานมากขึ้น
 
ชีวิตรักของทั้งคู่เริ่มไปได้ด้วยดี แต่ว่ารังสิตาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอจึงคิดวางแผนให้ปุริมานกับสักการบาดหมางกัน โดยรังสิตาทำสำเร็จ ทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โต ปุริมานเสียใจมากจึงหนีไปอยู่บ้านชุลี ทำให้รังสิตาดีใจมาก อาฬวีกับแพะ สังเกตุท่าทางของปุริมาน จึงรู้ว่าทั้งคู่ต้องมีเรื่องหมางใจกัน จึงชวนทั้งสองไปเที่ยวทะเลเพื่อปรับความเข้าใจกัน โดยมี นิตยา วรมิตร และรังสิตา ตามไปด้วย
 
เมื่อเดินทางไปถึงที่ทะเล อาฬวีกับแพะ พยายามทำให้ปุริมานและสักการได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ปุริมานพยายามลืมเรื่องที่สักการว่าเธอ แล้วพยายามทำหน้าที่ของภรรยาให้ดีที่สุด แต่ว่าก็ถูกขัดขวางจากรังสิตาเสมอ และนอกจากนั้นรังสิตาได้พยายามสร้างสถานการณ์ทำให้สักการเข้าใจปุริมานผิด ว่าปุริมานกับวรมิตรนัดพบกันตอนกลางคืน ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันและบอกว่าเกลียดกัน ปุริมานจึงบอกพี่ชายของเธอว่าอยากกลับบ้านพักแต่ว่าปุริมานก็ไม่ได้กลับไป เพราะว่าอาฬวีกับแพะ เห็นว่าถ้าสักการกับปุริมานยิ่งอยู่ไกลกัน ความสัมพันธ์ก็จะยิ่งลดลงไปด้วย ทำให้ปุริมานต้องกลับไปอยู่ในบ้านของสักการอีกครั้ง แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะว่าทั้งคู่ทะเลาะกันอีก โดยสักการได้บอกกับปุริมานว่า ถ้าเขาได้แต่งงานกับรังสิตาเขาคงจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับปุริมาน ปุริมานจึงตบหน้าสักการ แล้ววิ่งหนีออกไปท่ามกลางสายฝน ตอนแรกสักการใจแข็งไม่ยอมไปตามปุริมานกลับมา แต่แล้วในที่สุดสักการก็ฝืนใจของตัวเองไม่ได้จึงวิ่งออกไปตามปุริมานกลับมา พอสักการกับปุริมานเจอกันทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอีกท่ามกลางสายฝน ปุริมานต่อว่าสักการที่ใจร้ายกับตัวเองและว่าสักการเรื่องที่สักการมัวแต่ นั่งจมอยู่กับความทุกข์ เมื่อสักการได้ฟังคำต่อว่าของปุริมานก็อึ้งไป จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้สักการดูและปุริมานเพราะเขารู้สึกผิดที่ปุริมานต้องมาเป็นแบบนี้เพราะ ตนเอง ส่วนด้านปุริมานคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดระหว่างเธอกับสักการ ทำให้ปุริมานตัดสินใจหนีกลับบ้านที่เชียงใหม่ตอนที่สักการไม่อยู่บ้าน เพราะว่าปุริมานทนอยู่กับผู้ชายที่ไร้หัวใจอย่างสักการไม่ได้แล้ว
 
เมื่อสักการกลับมาถึงบ้านและรู้ว่าปุริมานหนีไปแล้วจึงคิดจะขึ้นไปตามปุ ริมานที่เชียงใหม่ แต่รังสิตาก็ห้ามไว้ไม่ให้สักการไปตามปุริมานกลับมาและใช้โอกาสที่ปริมานไม่ อยู่พยายามยั่วสักการ แต่ว่าสักการก็ห้ามใจของตัวเองได้ ทำให้รังสิตาไม่พอใจ จึงแกล้งพูดว่าสักการว่าสักการลืมพี่สาวของตนเองไปแล้ว สักการจึงปฏิเสธแต่ว่ารังสิตาไม่เชื่อ เธอจึงท้าให้สักการหย่ากับปุริมาน เพื่อให้วิญญาณพี่สาวของตนเองสบายใจ สักการจึงต้องรับปากรังสิตาอย่างจำใจ เขาจึงขึ้นมาเชียงใหม่เพื่อมาขอหย่ากับปุริมาน ปุริมานตอบตกลงแต่เธอขอให้สักการกลับไปรอที่กรุงเทพ แล้วปุริมานจะตามลงไปเซ็นใบหย่าให้ ทำให้ครอบครัวของสักการโกรธสักการมาก แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถของปุริมานระหว่างที่ขับเข้ามากรุงเทพเพื่อมาเซ็นใบหย่าให้สักการ นั้น ตกลงเหว แม้แต่ร่างของปุริมานก็หาไม่เจอ สักการเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่เป็นอันทำอะไร และจมอยู่ในความเศร้าอีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งอาฬวีชาวนสักการไปงานวันเกิดของเพื่อน และที่นั่นเองทำให้สักการได้พบกับแก้ว หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบจากต่างประเทศ
 
แก้วกับปุริมานเหมือนกันมาก แต่ว่าต่างกันตรงที่แก้วนั้นชอบแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม จัดจ้านสมกับเป็นสาวมั่น ส่วนปุริมานนั้นเธอเป็นเพียงแค่สาวน้อยสดใสและเป็นธรรมชาติ สักการจึงพยายามทำความรู้จักกับแก้วเพื่อดูให้แน่ใจว่าแก้วกับปุริมานเป็นคน เดียวกันหรือเปล่า สักการจึงหมั่นไปหาและทำความรู้จักกับแก้วให้มากขึ้น จนบางครั้งสักการรู้สึกว่าแก้วกับปุริมานเหมือนเป็นคนเดียวกัน เพราะว่าแก้วพูดเสียงโทนเดียวกับปุริมาน และแก้วก็ยังรักและสนใจต้นไม้เหมือนปุริมานด้วย สักการจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาน้องสาวของเขา แต่น้องสาวของเขากลับบอกว่า ให้เลิกคิกมากได้แล้วเพราะว่า ปุริมานตายไปแล้ว แต่สักการก็ไม่เชื่อเขาพยายามสืบหาความจริงต่อไป จนวันหนึ่งแก้วต้องอยู่กับสักการตามลำพัง เพราะว่าสักการเชิญมางานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้าน แต่เมื่อแก้วมาถึงที่บ้านของสักการแล้วเธอก็พบว่าสักการ ไม่ได้ชวนใครมาเลยนอกจากเธอ ในคืนที่แก้วกับสักการอยู่กันตามลำพัง 2 คน ฝนก็ตกลงมา แก้วกลัวฟ้าร้อง เธอจึงเผลอกอดสักการเหมือนที่ปุริมานเคยทำ ทำให้สักการแน่ใจว่าแก้วคือปุริมาน จึงพยายามถามความจริงกับแก้วว่าแก้วคือปุริมานหรือเปล่า แต่ว่าแก้วไม่ยอมรับ สักการจึงวิ่งออกไปยืนตากฝน และบอกกับแก้วว่าถ้าแก้วไม่ยอมรับความจริง เขาจะยืนตากฝน อยู่แบบนี้ แต่ว่าสักการก็ไม่ได้รู้ความจริง เพราะว่ารังสิตามาเห็นพอดีจึงเข้ามาขัดขวางเสียก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้สักการไม่พอใจเขาจึงต่อว่ารังสิตา รังสิตาจึงเข้าใจว่าที่สักการใจร้ายกับตนเองแบบนี้เป็นเพราะแก้ว รังสิตาโกรธมากจึงคิดที่จะทำร้ายแก้ว เธอจึงขับรถตามแก้วมาที่บริษัทลำไยกระป๋อง ทำให้เธอได้รู้ความจริงว่าแก้วคือปุริมาน เธอจึงเข้าไปหาแก้วเพื่อคุยเรื่องสักการ ตอนแรกแก้วจะไม่คุยด้วย แต่รังสิตาเอาความลับว่าแก้วคือปุริมานมาอ้าง และสั่งให้ปุริมานออกไปจากชีวิตของสักการ ปุริมานไม่ยอมทั้งสองจึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และตบตีกันจนปุริมานเกือบพลัดลงจากตึก ปุริมานขอร้องให้รังสิตาช่วยแต่รังสิตาไม่ช่วยและยังบอกความจริงกับปุริมาน ว่าเธอรักสักการและทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งฆ่าพี่สาวของตัวเอง ทำให้สักการที่ตามมาได้ยินความจริงทั้งหมด
 
สักการเข้าไปช่วยปุริมาน แต่ปุริมานล้มหัวกระแทกพื้นและเป็นลมแน่นิ่งไป สักการจึงต่อว่ารังสิตาที่ฆ่ารังสิยาและบอกกับรังสิตาว่าเขาไม่มีวันที่จะ รักคนใจร้ายอย่างรังสิตาได้ ที่ผ่านมาเขาเพียงแค่หลอกตัวเองว่าการที่อยู่ใกล้รังสิตาก็เหมือนว่าเขาได้ รังสิยาคนรักเก่าของเขากลับคืนมา แต่ว่าความจริงแล้วไม่มีใครสามารถแทนใครได้ และยังบอกว่าตอนนี้ความรู้สึกที่เขามีต่อรังสิยาเหลือแค่เพียงความรู้สึกดีๆ ต่อรังสิยาเท่านั้น เพราะว่าเวลานี้ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดและเขาจะรักตลอดไปก็คือปุริมาน เท่านั้น
 
สักการพาปุริมานมาที่โรงพยาบาล ขณะที่รังสิตาถูกจับไปดำเนินคดีฆ่าพี่สาวของตนเอง หมอบอกว่าอาการของแก้วเข้าขั้นวิกฤต เมื่อสักการเข้าไปเยี่ยมและมองไปที่หน้าของแก้วที่ไร้เครื่องสำอาง เขาจึงแน่ใจว่าแก้วคือปุริมาน สักการเฝ้าดูอาการของแก้วทั้งวัน ทั้งคืน วันหนึ่งสักการสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าหัวใจของปุริมานหยุดเต้น สักการจึงกอดร่างของปุริมานเอาไว้ แล้วร้องไห้ น้ำตาของสักการจึงตกใส่ร่างของปุริมานทำให้หัวใจของปุริมาน เต้นอีกครั้งหนึ่งราวกับปาฏิหารย์ที่ริมทะเลหัวหิน ปุริมานกับสักการมาฮันนีมูนกันอีกครั้ง สักการขอโทษที่เคยทำให้ปุริมานต้องเสียใจและขอบคุณที่เธอทำให้เขาได้รู้จัก กับแสงสว่างอีกครั้งหลังจากที่ต้องจมอยู่กับบาดาลใจที่เศร้าโศกมานานแสนนาน

บ่วงเล่ห์เสน่ห์หา

บ่วงเล่ห์เสน่หา เป็นเรื่องราวของ พิกุล ( กมลชนก โกมลฐิติ ) สูญเสียพ่อแม่จากการถูกโจรเสือหาญจับเป็นตัวประกัน เพื่อหลบหนีทีมของร้อยตำรวจเอกไกรยุทธ ( นุติ เขมะโยธิน ) หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต พิกุลก็มีชีวิตที่ตกต่ำลง ทำให้เธอต้องทำงานหนักแม้แต่การร่ายรำตามตลาดแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย เพื่อไปเจือจุนตนเองและยาย พิกุลเจ็บแค้นและเข้าใจผิดมาโดยว่านายตำรวจผู้นั้นเป็นผู้ฆ่าพ่อแม่ของเธอ และตั้งใจว่าต้องแก้แค้นให้ได้ ต่อมาพิกุลได้ร่วมแสดงอยู่ในคณะละครเร่แก้วเจ้าจอม และบังเอิญคณะแก้วเจ้าจอมได้มีโอกาสแสดงในงานเลี้ยงที่บ้านของร้อยตำรวจเอก ไกรยุทธ เมื่อพิกุลได้พบกับไกรยุทธก็ตกใจและตัดสินใจล้างแค้นจึงโปรยเสน่ห์จนไกรยุทธ หลงใหลในตัวเธอจนในที่สุดก็รับพิกุลมาเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งนอกเหนือไปจาก พุดซ้อน ( อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ) ภรรยาหลวงผู้ไม่มีปากเสียง

ต่อ มาไกรยุทธอยากมีลูกชายจึงบอกกับภรรยาทั้งสองว่าหากใครตั้งท้องลูกชายคนแรก ได้เขาจะยกสิทธิขาดในการคุมบ้านเทพพิมานให้ พิกุลจึงไปหาหมอเข้มซึ่งเป็นหมอเสน่ห์เพื่อช่วยทำให้ไกรยุทธมาหลงเสน่ห์เธอ คนเดียวแต่กลับถูกหมอเข้มฉวยโอกาสข่มขืน ต่อมาพิกุลตั้งท้องและให้กำเนิดลูกชายคนแรกชื่อ ชวิน ( วรรธนะ กัมทรทิพย์ ) พิกุลได้สิทธิ์ขาดในการดูแลบ้าน จึงสั่งให้พุดซ้อนไปอยู่เรือนเล็กแทนพิกุลต่อมาไม่นานนักพุดซ้อนก็ให้กำเนิด ฝาแฝดหญิง-ชายชื่อ ช่อชมพู่ ( ธัญญาเรศ รามณรงค์ ) และ ระพีวิชญ์ ( รุ่งเรือง อนันตยะ ) แต่พิกุลก็เป่าหูไกรยุทธว่า พุดซ้อนท้องกับสมภพลูกน้องของไกรยุทธ ทำให้ไกรยุทธทุ่มเทความรักให้กับชวินจนลืมนึกถึงช่อชมพู่ และระพีวิชญ์ เพราะไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะใช่ลูกของตนหรือไม่ พิกุลยังแอบลอบไปหาหมอเข้มอยู่เสมอจนตั้งครรภ์และคลอดลูกสาวออกมาอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า ชลนิภา ( ศรุตา เรืองวิริยะ )

พิกุลต้องการให้ลูกทั้งสอง ของเธอแต่งงานกับภูรินทร์ ( อธิชาติ ชุมนานนท์ ) และอารดา ( อาริษา วิลล์ ) ลูกของท่านอธิบดีวินัยกับคุณหญิงกรรณิการ์ แต่ภูรินทร์กับอารดากลับสนใจช่อชมพู่กับระพีวิชญ์มากกว่า เมื่อไกรยุทธเริ่มป่วยพิกุลจึงร่วมมือกับหมอเข้มให้ยาพิษทีละน้อยแก่สามี พร้อมวางแผนให้ชลนิภาใกล้ชิดกับภูรินทร์แต่ชายหนุ่มกลับมีใจแน่วแน่ต่อช่อ ชมพู่ ชลนิภาจึงไปหาหมอเข้มเพื่อทำเสน่ห์แต่กลับโดนลูกสมุนของหมอเข้มข่มขืน เธอไม่กล้าบอกใครแม้แต่แม่ของตน พิกุลบังคับให้ไกรยุทธสู่ขออารดาให้ชวิน ชลนิภารู้ว่าตนกำลังท้องจากฝีมือของลูกสมุนหมอเข้มจึงบอกพิกุลว่าเธอท้องกับ ภูรินทร์ พิกุลเริ่มคบหาหมอเข้มอย่างออกนอกหน้า พุดซ้อนจึงดูแลไกรยุทธแทน

เมื่อคุณหญิงกรรณิการ์รู้ความจริงว่าลูกของชลนิภาไม่ใช่เกิดจากภูรินทร์จึงล้ม เลิกการแต่งงานทั้งหมด พิกุลเห็นว่าลูก ๆ ของเธอหมดสิ้นทุกสิ่งจึงใช้ปืนบังคับให้ไกรยุทธยกสมบัติทั้งหมดให้เธอและลูก และบอกความจริงว่าชวินและชลนิภาไม่ใช่ลูกของไกรยุทธ รวมทั้งบอกว่าที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพราะต้องการแก้แค้นที่ไกรยุทธเคยฆ่าพ่อ และแม่ของเธอ แต่เมื่อพิกุลได้ทราบว่าผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอคือเสือหาญไม่ใช่ฝีมือของไกร ยุทธ ทำให้เธอรู้สึกหมดหวังในชีวิตจึงฆ่าตัวตาย ภูรินทร์หันมาปรับความเข้าใจกับช่อชมพู่และแต่งงานพร้อมกับคู่ของระพีวิชญ์ และอารดา เมื่อชลนิภาคลอดลูกแล้วชวินจึงตัดสินใจลาออกจากงานและพาน้องสาวของเขาหนีหาย ไปจากสังคม

บริษัทบำบัดแค้น

จอม (อารักษ์) / เทวัญ – หนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ที่กำลังรุ่งโรจน์กับงานอาชีพสถาปนิก ก่อนชีวิตจะพลิกผัน เสียเมียและลูกไปในอุบัติเหตุ ใบหน้าเสียโฉมและสภาพจิตแตกสลาย เขาเหลือแต่ความแค้นตระกูลสิริน โดยเฉพาะนงไฉนที่เขาคิดว่าเป็นต้นเหตุการตายของลูกเมีย เขาพยายามทุกอย่างที่จะทำลายครอบครัวนี้ แม้แต่ทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าและปลอมเข้ามาร่วมทำงานกับสิริน ก่อนที่เขาจะรู้ความจริงว่า ต้นเหตุของความสูญเสียทั้งหมดนั้น ไม่ได้เกิดจากนงไฉนแม้แต่น้อย แต่มันมาจากตัวเขาเองแท้ๆ

นงไฉน สาวไฮโซที่เป็นเหยื่อต่อความลุ่มหลงของตนเอง เธอรักชาคริตอย่างเหลือเกิน จนกลายเป็นเหยื่อของชาคริตโดยไม่รู้ตัว เขาวางยาเธอ ทำให้สติเธอเลอะเลือน จนทุกคนเข้าใจว่านงไฉนมีอาการทางประสาทจริง เมื่อเธอไปบำบัดจิตที่สปาอารักษ์ นงไฉนเริ่มอาการดีขึ้น และรู้ตัวว่า เธอไม่ได้บ้า จอมเป็นส่วนหนึ่งที่เยียวยาเธอ โดยที่เธอไม่รู้ว่าเขามีแผนชั่วร้ายรอเธออยู่ หลังจากนงไฉนผ่านวิกฤติมาได้พร้อมๆ กับจอม เธอเข้าใจความรักอย่างถ่องแท้มากขึ้น และเลิกลุ่มหลงจนตามืดตามัวอย่างแต่ก่อน

น้ำตาลไหม้

“ปวัน” (อธิชาติ ชุมนานนท์) ได้รู้จักกับสาธร (มนตรี เจนอักษร) หนุ่มใหญ่ที่ดูจะเป็นคนกว้างขวางในสถานที่เที่ยวกลางคืน และสาธรก็ได้ช่วยปวันไว้จากการมีเรื่องกับฝรั่งที่เมาเหล้า ปวันรู้สึกถูกชะตาจึงชวนไปดื่มต่อ สาธรเมามาก ปวันจึงพาไปพักที่บ้านตัวเอง และพาไปส่งบ้านในตอนเช้าเขาจึงรู้ว่าสาธรเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งสูงและท่าทางภูมิฐานผิดจากที่เห็นเมื่อคืน
“พาณี” (ดวงใจ หทัยกาญจน์) เป็นน้องสาวของ “พิมลา” (อรสา พรหมประทาน) แม่ของปวัน ไม่ค่อยชอบใจสาธร พาณี เป็นคนเลี้ยงดูปวันมาตั้งแต่คลอดเพราะพิมลาร่างกายอ่อนแอ พาณีหลงรัก “พนานต์” (กษมา นิสสัยพันธุ์) และได้เสียกันโดยที่พิมลาก็รู้เรื่อง หลังจากที่พิมลาตายพาณีก็อยู่กับพนานต์ จนกระทั่งเขามีผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆและสามีของหญิงที่ไปติดพันยิงตาย ปวันถูกส่งไปเรียนเมืองนอกเมื่อกลับมาจึงสนิทกับพาณีมาก ปวันรู้สึกถูกใจ “ธุมา” (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) สาวสวยนักออกแบบของบริษัท เขาสนใจเธอในขณะที่เธอก็พอใจเขาเช่นกัน แต่ปวันกลับไปเช็คประวัติของธุมาจึงรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว โดยที่สามีกำลังทำปริญญาเอกอยู่ที่อเมริกา ปวันตัดสินใจถอยออกห่างจากธุมา ส่วน “แจ้งหล้า” (พศิน เรืองวุฒิ) ทนายความเพื่อนของปวันที่ขับรถชนรถของธุมาก็ถูกใจเธอแต่เมื่อรู้ว่าเธอแต่งงานแล้วก็ตัดใจ

แต่แล้วปวันก็ตัดใจจากธุมาไม่ได้หลังจากที่เขา กลับมาจากฮ่องกง จึงไปหาธุมาที่บ้านสวนและได้รู้จักกับพ่อแม่ของธุมา เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่มีพี่ชายเป็นลูกติดพ่อ 3 คน คือ ตั้ว (ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) แต (นรินทร์ วุฒินันท์สันติกุล) และ ติก (กรุณพล เทียนสุวรรณ) แต่ทั้งหมดก็สนิทและรักใคร่กันมา จนสนิทกับเพื่อนๆของพี่ชายด้วย โดยเฉพาะ “ ตาว” (วริษฐ์ ทิพโกมุท) เพื่อนของแต ธุมาแต่งงานกับตาวเพื่อเอาเงินสินสอดไปเป็นค่าไถ่จำนองสวนตอนที่ตั้วขับรถชน รถรับส่งนักเรียน ซึ่งความจริงแล้วตาวเป็นเกย์และที่แต่งงานกับธุมาก็เพื่อจะกลับมาเป็นผู้ชายแต่ไม่สำเร็จ ธุมาและปวันไปดูงานที่ฮ่องกงและรู้ใจตัวเองว่ารักเธอและเธอก็รักเขาทั้งสองได้เสียกันโดย ที่ปวันเป็นผู้ชายคนแรกของธุมา เพราะตาวนั้นผูกพันกับเธอแค่ทางกฎหมาย เขาแสดงออกเป็นพี่ชายที่น่านับถือและไม่เคยแตะต้องตัวเธอ เมื่อปวันพูดเรื่องตาวและการใช้ชีวิตคู่ก็จะถูกธุมาตัดบท เธอเองเริ่มรู้สึกผูกพันกับปวันมาขึ้นทุกทีและต่างประทับใจซึ่งกันและกัน

ปวัน ไปเจอแจ้งหล้าได้รู้ว่า “คุณหญิงมาลา” (พิสมัย วิไลศักดิ์) มารดาของตาวร่ำรวยมาก ทำให้ทั้งคู่สงสัยในความรักที่ธุมามีต่อตะวัน ต่อมาปวันนัดพบกับสาธรเพื่อไปดื่มเหล้า สาธรได้พา “ฉัตราภรณ์” หรือ เนียน (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ลูกสาวคนสวยของตัวเองที่เพิ่งกลับจากสวิสเซอร์แลนด์มาด้วย ด้วยท่าทีเรียบร้อยและบริสุทธิ์อ่อนต่อโลกทำให้ปวันเอ็นดูไม่น้อยเมื่อสาธร ฝากฝังเนียนให้ลองฝึกงานที่บริษัทเขาจึงไม่ปฏิเสธ จริงๆแล้วเนียนไม่ใช่เด็กเรียบร้อยการไปอยู่ต่างประเทศก็ไม่ได้ไปเรียนแต่ติดเที่ยวเตร่ ซึ่งสาธรไม่เคยรู้เรื่องของลูกสาว เมื่อเธอเห็นธุมาและปวันรักกันมากจึงทนไม่ได้ และมุ่งมั่นที่จะแย่งปวันมา ครอบครอง ส่วนปวันรักธุมามากขึ้นจนอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ธุมาขอเวลาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยที่เธอหวังว่าตาวจะหย่าให้โดยดี แต่เรื่องกลับยากกว่าที่คิดเพราะตาวกลับมาพร้อมกับ “แอ” (โชคชัย บุญวรเมธี) ชายคนรัก และต้องการให้ธุมามีลูกเพื่อหวังสมบัติของคุณหญิงมาลา

ด้าน เนียนก็ได้บริหารเสน่ห์กับแจ้งหล้าด้วย ธุมาอ่อนเพลียจึงไปหาหมอและพบว่าตัวเองท้อง ตาวและแอยังเสนอให้เธอมีลูกอยู่เสมอเพราะต้องการเอาสมบัติของแม่มาแบ่งไปลง ทุนทำธุรกิจโดยบอกว่าจะแบ่งให้ธุมาด้วย ตาวมาพบปวันเพื่อให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับธุมาเนียนฝึกงานในบริษัทของปวันโดยเปลี่ยนแผนกไปเรื่อยๆจึงไม่ต้องรับผิดชอบมาก จนมาถึงส่วนบริหารที่เธอมุ่งมั่นจะได้ใกล้ชิดกับปวัน และ “พร้อมทรัพย์” (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งพอใจธุมาอยู่แต่เนียนก็วางแผนจนชนะใจได้ จากนั้นเนียนก็ยังวางแผนจนชนะใจพาณีอีกด้วย ปวันและธุมาเข้าใจผิดกันเธอตัดสินใจลาออกและเดินทางไปอยู่กับติกที่ฮาวาย ปวันเดินทางไปที่หาดใหญ่เพื่อเปิดสาขาของบริษัทเนียนรู้เข้าจึงตามไป ปวันเมาหลับไปแต่เนียนก็สร้างสถานการณ์ว่าเขาขืนใจเธอและต้องรับผิดชอบ สาธรไม่ยอมและบอกว่าเนียนท้องให้ปวันรับผิดชอบ ปวันจำต้องแต่งงานกับเนียน ส่วนธุมาเมื่ออยู่ที่ฮาวายก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ติกฟังและคิดจะทำแท้งแต่ เธอก็คิดได้และเก็บลูกในท้องไว้ ต่อมาทั้งคู่ได้เดินทางกลับเมืองไทย ติกนัดพบตาวเพื่อสะสางเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ตาวนึกถึงความหลังที่ลึกซึ้งต่อกัน และเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างติกกับแอ

ตาวบอกติกว่าความสัมพันธ์ ระหว่างเขากับธุมาเป็นเพียงพี่ชายกับน้องสาว และตาวก็ดีใจที่ธุมาท้องเพื่อจะได้เงินจากแม่แต่เธอขอหย่าแทนโดยไม่ขอ ทรัพย์สินใดๆเลย ส่วนชีวิตคู่ของเนียนและปวันก้เป็นไปอย่างระหองระแหง เพราะเนียนทำตัวฟุ่มเฟือยและเอาเรื่องที่ตัวเองท้องเป็นข้ออ้างส่วนพาณีก็ ให้ท้ายร่ำไป แจ้งหล้าสงสัยพฤติกรรมของเนียนจึงแอบสืบอย่างเงียบๆ ปวันได้เจอกับ “วิมาดา” (ภารดี อยู่ผาสุข) ซึ่งมีนิสัยคล้ายธุมาทำให้เขากลับมีชีวิตชีวาขึ้น พาณีมาบอกปวันว่าเนียนจะฆ่าตัวตาย ปวันกลับมาง้อเนียน ส่วนธุมาก็มาเริ่มงานใหม่ที่บริษัทตกแต่งภายในของรุ่นพี่ และต่อมาเธอก็เจ็บท้องในขณะที่ทุกคนไม่อยู่บ้านจึงตัดสินใจให้โรงพยาบาลมา รับทำให้แจ้งหล้าได้พบเธอ ปวันขอหย่ากับเนียนแต่เธอมีเงื่อนไขเป็นทรัพย์สินมากมายรวมถึงสิทธิ์ในตัว ลูก แต่แล้วแจ้งหล้าก็สืบจนรู้ความจริง ตาวเริ่มเบื่อแอแต่แอขู่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ให้คุณหญิงมาลาฟัง ตาวจึงตัดสินใจเล่าเรื่องต่างๆให้แม่ฟัง แจ้งหล้าเปิดเผยเรื่องของเนียนให้พาณีฟังว่าสาธรมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะ การพนัน ส่วนเนียนทำแท้งมาแล้ว 2 ครั้งและไม่สามารถมีลูกได้เพราะตัดมดลูกไปแล้ว แจ้งหล้าพาพาณีมาพบ “บุ้งกี๋” ลูกของธุมากับปวัน ส่วนวิมาดาตัดสินใจไปเรียนต่อ ตาวเดินทางกลับอเมริกาไปกับติก ปวันรู้ความจริงทั้งหมดจึงไปง้อขอคืนดีกับธุมาส่วนเธอจะยกโทษให้หรือไม่ต้อง ติดตามชม น้ำตาลไหม้

นางบาป

วิษณุ นำเอาตำนานของหมู่บ้านบางบาปมาทำเป็นละคร ซึ่งตามตำนานเล่าว่า พระวนาเทพ และ คุณกำไล ได้พาครอบครัวพร้อมด้วยข้าทาสบริวารมาอยู่ที่นี่ มีนางทาสคนหนึ่งชื่อ นางหยาด ที่ใช้ความสวยยั่วพระวนาเทพจนได้เป็นเมียอีกคนหนึ่ง แต่ด้วยความอยากที่จะเป็นเมียเอก นางหยาดจึงวางยาพิษฆ่าคุณกำไลและลูกๆ เมื่อความจริงถูกเปิดเผยนางหยาดโดนแขวนคอ วิษณุได้ ธนัตถ์ และภาพิมล ดาราชื่อดังมาเป็นพระ-นาง พักตรา แสดงเป็นนางร้าย ปาล เป็นพระรองของเรื่อง

วัน เปิดตัวละคร “นางบาป” จัดขึ้นที่สถานที่จริงและ เรืองริน หนึ่งทีมงานของวิษณุได้รู้จักกับนักแสดงที่จะร่วมงานด้วย ซึ่งดาราทุกคนก็เป็นมิตรกับเรืองริน ยกเว้นภาพิมลที่แสดงความไม่ชอบหน้าเรืองริน เพราะเธอหมั่นไส้ที่ดาราชายทั้งสองคนแสดงความสนใจในตัวเรืองรินมากกว่าเธอ ระหว่างการเตรียมงาน วิษณุ, เรืองริน และทีมงานต้องมาดูงานที่บ้านหลังนี้บ่อยๆ จนเรืองรินเริ่มสัมผัสได้กับความแปลกที่เหมือนมีคนแอบจ้องมองอยู่

และ เธอก็มักจะเจอกับเหตุการณ์ที่ลึกลับต่างๆ ฝีมือของวิญญาณนางหยาด และนางหยด สองพี่น้องที่ถูกขังอยู่ในบ้านหลังนี้นั่นเอง วิษณุรับ วิสาข์ เข้ามาเป็นพีอาร์ประจำกองถ่าย หลังจากที่ยกกองถ่ายมาที่บ้านของคุณพระและต้องหยุดการถ่ายทำเพราะฝนตกหนัก และน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถไปไหนได้ ภาพิมลก็ชวนวิสาข์เล่นผีถ้วยแก้วเพื่อเป็นการฆ่าเวลา โดยได้เชิญดวงวิญญาณที่สิงอยู่ในบ้านหลังนี้ให้มา เมื่อเล่นไปแล้วทั้งสองคนก็ไม่สามารถบังคับถ้วยแก้วได้จึงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ไม่มีใครรู้ว่าผีนางหยดได้เข้าสิงร่างของเรืองริน และผีนางหยาดเข้าสิงร่างพักตรา หยดในร่างเรืองรินสนใจกับ
ชีวิต ของคนในยุคนี้และแสดงความร้ายกาจ ส่วนหยาดที่สิงร่างพักตราก็พยายามขออโหสิกรรมกับภาพิมล เพราะรู้ว่าเป็นคุณกำไลในอดีตชาติ ทำให้ภาพิมลหวาดกลัวมาก และปาลยังแอบเห็นพักตราเอาเสื้อสำหรับทาสที่ใช้ในละครมานุ่งแล้วไปตักน้ำมา ถูเรือน ปาลไปบอกเรื่องนี้กับวิษณุถึงได้รู้ว่าเป็นหยาดที่ไม่มีความดุร้ายเหมือนกับ หยด หยาดเตือนวิษณุเรื่องหยด

วิษณุเอาสร้อยพระของเขามาคล้องคอของ เรืองรินจนหายเป็นปกติ วิสาข์ซึ่งหลงรักวิษณุอยู่เกิดมาเห็นสร้อยเข้าก็จะเอาคืน ทำให้วิษณุกับวิสาข์มีปากเสียงกันรุนแรง ด้วยความโกรธทำให้วิสาข์ขับรถฝ่าน้ำที่ท่วมออกไป จนทำให้รถตกถนนและเธอก็จมน้ำ วิษณุกับพวกมาช่วยไว้ แต่วิสาข์ก็ถูกวิญญาณของหยดสิงร่าง พอน้ำลดแล้ววิษณุก็ไปหาหลวงตาซึ่งท่านก็แนะนำให้วิษณุนั่งสมาธิ เพื่อจะได้ติดต่อกับผีนางหยาดและช่วยปลดปล่อยให้หยาดสู่สุคติ แล้ววิษณุก็ได้รู้เรื่องราวในอดีตชาติที่ตนเป็นคุณพระวนาเทพ ที่เป็นคนเจ้าชู้และมีเมียหลายคน

ในจำนวนนั้นก็มีหยดและหยาด ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับคุณกำไลที่เป็นอดีตชาติของภาพิมลนั่นเอง หยาดเป็นคนหัวอ่อนจึงหลงเชื่อแผนการของหยด ทำให้คุณกำไลและลูกๆ ต้องตายด้วยยาพิษ จนตัวเองต้องโดนจับแขวนคอตาย เยื้อน เป็นแม่ของหยาดและหยด รู้เรื่องที่หยดทำทุกอย่างจึงตัดสินใจใช้มีดแทงหยดตาย พร้อมสาปแช่งให้หยดถูกจองจำอยู่ที่บ้านหลังนี้จนกว่าจะสำนึกผิด หยดในร่างของวิสาข์มักจะคอยกลั่นแกล้งคนในกองถ่ายให้ทะเลาะกัน เช่น เมื่อรู้ว่าธนัตถ์ชอบเรืองรินก็พยายามยุให้ภาพิมลมีเรื่องกับเรืองริน

แต่ ปาลก็มักจะเข้ามาช่วยเรืองรินอยู่เสมอ จนเรืองรินเริ่มมีใจให้กับปาล หลังจากแผนการที่วางไว้ไม่ได้ผล หยดก็หลอกเรืองรินมาที่ริมน้ำตอนกลางคืนแล้วก็ผลักเรืองรินตกน้ำ ซึ่งทำให้สร้อยพระที่ใส่อยู่ขาดจากคอ วิญญาณของหยาดเลยมาช่วยเรืองรินไว้ได้ ทำให้เรืองรินรู้ว่ามีวิญญาณสิงอยู่ที่ร่างของวิสาข์ เมื่อวิษณุต้องการช่วยหยาด เลยให้ภาพิมล, ปาล, เรืองริน และตนเองเล่นผีถ้วยแก้ว โดยให้ภาพิมลเชิญวิญญาณหยาดที่สิงร่างของเรืองริน หยาดได้ขออโหสิกรรมจากคุณพระ คุณกำไล และได้ไปผุดไปเกิด

ส่วนหยดใน ร่างของวิสาข์กลัวว่าจะต้องไปผุดไปเกิด จึงใช้แผนยั่วยวนธนัตถ์และถูกตีจนสลบ หยดติดอยู่ในร่างของวิสาข์ที่นอนสลบอยู่ที่โรงพยาบาลออกไปไหนก็ไม่ได้ จนกระทั่ง ยุพดี แม่ของวิสาข์มาเยี่ยมทำให้หยดตกใจ เพราะยุพดีก็คือเยื้อนแม่ของหยดในอดีตนั่นเอง เมื่อยุพดีเห็นสภาพของวิสาข์ก็ร้องไห้ และเพราะน้ำตาของยุพดีนี่เองที่ทำให้คำสาปกลับมาอีกครั้ง หยดก็ต้องถูกจองจำอยู่ในบ้านหลังนี้อีกครั้ง สุดท้ายปาลกับเรืองรินก็เป็นแฟนกัน และทั้งคู่ก็ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้หยาด ถึงแม้จะไม่สามารถแก้ไขตำนานนี้ให้ถูกต้องได้

รายชื่อนักแสดงละคร นางบาป

อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น ปาล
รุจิรา ช่วยเกื้อ แสดงเป็น เรืองริน
พรชิตา ณ สงขลา แสดงเป็น หยด
อิศริยา สายสนั่น แสดงเป็น หยาด
วัชระ ตังคประเสิร์ฐ แสดงเป็น วิษณุ / คุณพระวนาเทพ
เพชรดา เทียมเพ็ชร แสดงเป็น วิสาข์
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น ธนัตถ์
สโรชา วาทิตตพันธ์ แสดงเป็น ภาพิมล / คุณกำไล

ธาราหิมาลัย

โชคชะตาชักพาให้แพทย์หญิงทิพย์ธารา ลูกสาวคนเล็กและคนเดียวในบรรดาแฝดสี่แห่งไร่อดิศวรรังสรรค์ต้องมาดูแลภูวเนศ คนไข้ที่ถูกทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำเพราะความสงสาร เธอจึงให้เขาไปทำงานในไร่ของพี่ชาย ความรักของทั้งสองก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ โดยพี่ชายจอมแสบทั้งสามที่หวงน้องสาวสุดชีวิตก็ไม่ระแคะระคาย

หากอุปสรรคความแตกต่างระหว่างชนชั้นที่คิดว่าเขาเป็นเพียงคนงานในไร่กลับ เป็นเรื่องเล็กไปถนัดใจ เมื่อคนไข้นิรนามของเธอเป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทแห่งปารวัตร หญิงต่างชาติอย่างทิพย์ธาราจะสามารถแหวกม่านประเพณีของปารวัตรเพื่อครองคู่ กับชายที่เธอรักได้อย่างไร

รายชื่อนักแสดงในละคร ธาราหิมาลัย

อธิชาติ  ชุมนานนท์   แสดงเป็น   เจ้าชายภูวเนศ
คิมเบอร์ลี  แอน โวลเทมัส   แสดงเป็น   ทิพย์ธารา
ปริญ  สุภารัตน์   แสดงเป็น   ปฐพี
ปกรณ์  ฉัตรบริรักษ์   แสดงเป็น   วายุภัค
ณเดชน์  คูกิมิยะ   แสดงเป็น   อัคนี
นพพล  โกมารชุน   แสดงเป็น   ชาดุล
เกรียงไกร  อุณหะนันทน์   แสดงเป็น   วาสุเทพ
สันติสุข  พรหมศิริ   แสดงเป็น   มนตรี
จินตหรา  สุขพัฒน์   แสดงเป็น   สุพรรษา
มาวิน  ทวีผล   แสดงเป็น   ราจีฟ
อดิศร  อรรถกฤษณ์   แสดงเป็น   วรุณ
สรวิชญ์  สุบุญ   แสดงเป็น   ณัฐ
มณีรัตน์  คำอ้วน   แสดงเป็น   ปรียานุช
บรมวุฒิ  หิรัญยัษฐิติ       แสดงเป็น   สาโรจน์
ประกาศิต  โบสุวรรณ   แสดงเป็น   ซาเมียร์
ศานติ  สันติเวชกุล   แสดงเป็น   เสียม
ดารณีนุช  โพธิปิติ   แสดงเป็น   กันยา
จั๊กบุ๋ม  เชิญยิ้ม   แสดงเป็น   เสก
ปาจรีย์  ณ นคร   แสดงเป็น   นากรี
ดนัย  จารุจินดา   แสดงเป็น   นที
อุษณีย์  พึ่งป่า   แสดงเป็น   โบพา
ฐิภารินทร์  ยอดธนาสวัสดิ์   แสดงเป็น   จันทู