Tag Archives: สเตฟาน

ฉันรักเธอนะ

ฉันรักเธอนะ เป็นเรื่องราวของ ไอยูกิ หรือ ยูกิ (ปู-ไปรยา สวนดอกไม้) นักร้องสาวสวยซูเปอร์สตาร์ชื่อดังจากแดนปลาดิบ เป็นศิลปินไอดอลของวัยรุ่นทั่วทั้งเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย ไอยูกิ กำลังจะมีโปรเจ็คท์คอนเสิร์ตสุดอลังการครั้งแรกในเมืองไทย โดยได้ เป็นไท (สเตฟาน-ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) กรรมการผู้จัดการหนุ่มเจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์เป็นผู้รับจัดทำงานชิ้นใหญ่ นี้ นอกจากนี้ยังมี องอาจ (ตั้ม-วิชญ จารุจินดา) โปรดิวเซอร์กึ่งเลขาส่วนตัว เป็นผู้ช่วยในการจัดงาน

เป็นไทคบหาอยู่กับ แพรวไพลิน (แซมมี่-ปัณฑิตา เคาวเวลล์) คุณหนูไฮโซผู้เอาแต่ใจ ลูกสาวเจ้าของศูนย์วัฒนธรรม เป็นไทคบกับแพรวไพลินด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่เพราะแพรวไพลินคอยช่วยเหลือทางด้านการเงินในการประมูลโปรเจ็คท์คอนเสิร์ต ของไอยูกิ จนบริษัทของเป็นไทชนะการประมูล
แพรวไพลินตั้งเงื่อนไขในความช่วยเหลือครั้งนี้ว่าเป็นไทต้องเป็นแฟน กับเธอ จนกว่าเป็นไทจะหาเงินมาคืนได้ครบ นั่นจึงทำให้แพรวไพลินถือว่าตัวถือไพ่เหนือกว่าเป็นไทเสมอมา
นับดาว (ปู-ไปรยา สวนดอกไม้) สาวน้อยโก๊ะกัง ผู้ที่ไม่มีรสนิยมในการแต่งตัวสักเท่าไหร่ เธอมักจะปล่อยให้ผมกระเซอะกระเซิง ทำให้บ่อยครั้งผู้คนทั่วไปมักจะมองเธอแปลกๆ นับดาวพิการหูขวาหนวกแต่กำเนิด เธอจะได้ยินชัดเจนหากมีคนมาพูดทางฝั่งซ้ายเท่านั้น เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ให้ รจนา (ดร.ปัฑมาฆะ สุคนธมาน) ผู้เป็นย่า อดีตนักร้องเพลงลูกกรุงวงสุนทรีภรณ์ ที่ทุกวันนี้ได้รับจ้างให้ไปร้องเพลงตามงานเลี้ยงบ้าง ถึงแม้นับดาวจะน้อยใจในโชคชะตาของเธอและย่า แต่สองย่าหลานอยู่กันด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา นับดาวมีความฝันว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์สักวันหนึ่ง เพื่อถีบตัวเองจากฐานะที่เป็นอยู่ ถึงแม้รจนาจะคอยเบรคฝันเธอตลอด แต่นับดาวก็ไม่ล้มเลิกที่จะหยุดฝันถึงแม้มันจะริบหรี่
รจนาได้รับจ้างให้ไปร้องเพลงในงานศิลปะวัฒนธรรมที่บริษัทของเป็นไท เป็นผู้จัดงาน ด้วยความรีบร้อนนับดาวถึงขนาดลืมตัวสวมเสื้อกั๊กมอเตอร์ไซค์วินเพื่อไปส่ง รจนาไปร้องเพลงให้ทันเวลางาน เมื่อไปถึงนับดาวบังเอิญชนกับเป็นไท เป็นไทคิดว่านับดาวเป็นมอเตอร์ไซค์วิน เพราะสภาพที่เห็นคือ ผมเผ้ายุ่งเหยิง แถมยังลืมถอดเสื้อกั๊กที่ยืมมอเตอร์ไซค์วินมาอีก นับดาวเจ็บใจที่เป็นไทมองเธออย่างเสียๆ หายๆ จึงปฏิญาณว่าสักวันเธอจะเป็นซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยให้ได้ นับดาวมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคือ วราพรรณหรือนุ้ย (กุญแจซอล-ป่านทอง บุญทอง) ปาปารัสซี่สาวของหนังสือเอเชี่ยนฮิต นิตยสารบันเทิงแนวกอสซิปดารามี สังวรณ์ (แซม โชติบันฑ์) หรือผู้ที่อุปโลกน์ชี่อตัวเองให้ใหม่ว่า ซีซังวอน เป็นเจ้าของหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ นับดาวได้ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพียงวันแรกก็ต้องถูกไล่ออก เพราะความที่ได้ยินเพียงข้างเดียวจึงให้ข้อมูลลูกค้าผิดๆ ถูกๆ เข้ากับเพื่อนร่วมไม่ได้ แถมยังถูกเป็นไทขับรถเฉี่ยวเธออีก เป็นไททิ้งเพียงนามบัตรของเขาไว้แล้วจากก็ไป นับดาวโทษว่าเป็นความผิดของเป็นไททั้งหมดที่ทำให้เธอถูกไล่ออก ตามเพื่อจะไปทวงเงินที่ทำให้เจ็บตัว แต่เป็นไทไม่ให้ คิดว่านับดาวเป็นเพียงคนบ้า นับดาวโกรธตบบ้องหูเป็นไทจนเสียศูนย์ไปหลายวัน วราพรรณเห็นว่านับดาวดูคล้ายๆ กับดาราใครใดคนหนึ่ง จึงคิดว่าถ้านับดาวโมดิฟายตัวเองซะใหม่ วราพรรณอาจจะพอฝากรูปให้กับโมเดลลิ่งหรือนิตยสารที่เธอทำงานอยู่ก็ได้ นับดาวพอจะมองเห็นความฝันของเธอเลือนลาง วราพรรณจัดแจงปรับปรุงบุคลิคของนับดาวใหม่เริ่มจากการเก็บแว่นใหญ่เท่าหน้า ใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอาย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทำผม แต่งหน้าเสร็จสรรพ ไม่น่าเชื่อว่านับดาวในลุคใหม่ ทำให้เธอค้นพบว่าตนเองหน้าตาคล้ายกับไอยูกิมากราวกับเป็นฝาแฝด
ไอยูกิเดินทางมาเมืองไทยก่อนกำหนดการอย่างเงียบๆ เพื่อมาพักผ่อนก่อนที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต ข่าวนี้รู้ถึงหูของ ซีซี (กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) ดาราลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นตกอับ ที่ตอนนี้ถูกไอยูกิแย่งพื้นที่ความโด่งดังจนเธอไม่มีงานเข้าเลย ก็เป็นเพราะความวีน เหวี่ยงของตัวเธอ ไม่อยากให้ใครได้ดีกว่าเธอนั่นแหละที่ทำให้ไม่มีใครอยากจะจ้างเธอ ซีซีเกลียดไอยูกิเข้าไส้ ถึงขึ้นว่าจ้าง ยามาดะ(นิว-เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์) ยากูซ่าหนุ่มให้มาลักพาตัวไอยูกิ เพื่อจะเขี่ยให้พ้นทาง ซึ่งยามาดะเองก็คือคนที่เคยตกหลุมรักไอยูกิมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ถึงขั้นเขียนจดหมายบอกรัก แต่เมื่อไอยูกิหันไปคบกับ ไคคุง (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัฒน์) ลูกชายเศรษฐีเจ้าของอุตสาหกรรมอาหารทะเลส่งออกที่ดูจะมีภาษีดีกว่า ยามาดะจึงได้แต่เก็บความผิดหวัง จนกลาย เป็นความชิงชัง ยามาดะวางแผนลักพาตัวไอยูกิตั้งแต่ลงจากเครื่องที่สนามบิน แต่ก็พลาดเพราะซีซีโทร.มาผิดจังหวะ ทำให้ยามาดะพลาดโอกาสไป เป็นไทและองอาจเดินทางไปรับถึงสนามบิน เป็นไทพาไอยูกิเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ด้วยความที่ไอยูกิรักเมืองไทยมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ไอยูกิประทับใจในประเทศไทยและเป็นไทมากยิ่งขึ้น เป็นไทเองก็ชื่นชมและประทับใจในความน่ารักและความเป็นกันเองของไอยูกิอยู่ ไม่ใช่น้อย
ยามาดะเข้าพักที่โรงแรมเดียวกับไอยูกิ และเข้ามาผูกมิตรตีสนิทจนไอยูกิวางใจ โดยที่ไอยูกิจำยามาดะไม่ได้เลยสักนิด ยามาดะวางยาในน้ำให้ไอยูกิดื่ม ไอยูกิหมดสติลง ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือใบหน้าที่เย็นชาของยามาดะ ระหว่างนั้นเป็นไทมารับไอยูกิที่โรงแรมตามที่นัดกันไว้ เมื่อมาถึงก็พบว่าไอยูกิหายตัวไป ไอยูกิตื่นขึ้นมาในบ้านพักริมทะเลหลังหนึ่ง ซีซีอยู่ที่นั่นด้วย ไอยูกิไม่เข้าใจว่าทำไมซีซีต้องทำอย่างนี้ ซีซีกล่าวโทษว่าไอยูกิเป็นคนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ สั่งให้ยามาดะคุมขังเธอไว้เหมือนตกนรกทั้งเป็น ไอยูกิพยายามหนีเมื่อมีอยู่หลายครั้งก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ทำหนีก็ยิ่งทำให้ยามาดะโกรธยิ่งขึ้น เป็นไทกับองอาจตามหาไอยูกิไปทั่ว ตามสถานที่ที่คิดว่าไอยูกิจะไป แต่ก็ไม่พบวี่แวว เป็นไทเริ่มท้อแท้ หมดหวังที่จะตามหา ไอยูกิหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นับดาวบังเอิญเจอเป็นไท หมายจะเข้าไปหาเรื่อง เมื่อเป็นไทเห็นนับดาวที่หน้าตาเหมือนไอยูกิอย่างกับแกะ ก็คิดว่าเจอไอยูกิแล้ว และคิดว่าไอยูกิคงโกรธเรื่องปาปารัสซี่ของเธอกับเขา และบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเป็นการขอโทษ นับดาวงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เป็นไทพูดเท่าไหร่ เธอพูดทีเล่นทีจริงว่าถ้าเธออยากเป็นดาราจะทำให้ได้ไหม เป็นไทงง ก็ในเมื่อเธอเป็นดารา แถมยังเป็นซูเปอร์สตาร์อยู่แล้ว แถมยังบอกว่าในงานแถลงข่าวพรุ่งนี้เธอจะได้เป็นดาราใหญ่สมใจ นับดาวคิดว่าเป็นไทพูดหลอกเด็กเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นนับดาวแทบไม่เชื่อสายตาว่าเป็นไทมารับถึงบ้านนับดาวที่ เป็นไทนึกว่าไอยูกิออกมาอยู่โฮมสเตย์ เพื่อที่จะไปแถลงข่าวงานคอนเสิร์ต นับดาวถึงไม่ค่อยเชื่อใจเป็นไทนัก แต่ก็ยอมไปกับเป็นไท เมื่อไปถึงโรงแรมทุกคนเข้าใจว่าไอยูกิกลับมาแล้ว ก็กรูกันเข้าไปแต่งหน้า แต่งตา ดูแลเธอเหมือนซูเปอร์สตาร์ นับดาวงงมากเพราะใครๆ ก็เรียกเธอว่ายูกิ นับดาวเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ ก็พยายามจะบอกทุกคนว่าไม่ใช่ไอยูกิ แต่เมื่อได้เห็นแฟนคลับที่ตามมาเชียร์เธอด้วยความรัก เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน นับดาวจึงรับสมอ้างว่าเป็นไอยูกิโดยที่นับดาวก็รู้สึกผิดในใจอยู่เล็กๆ ระหว่างที่ไอยูกิตัวจริงถูกขังอยู่ที่เกาะร้าง ซึ่งไม่ได้รับรู้ความเป็นไปที่เกิดขึ้นอีกมุมหนึ่ง ก็ยังคงพยายามหนียามาดะ แต่ก็โดนจับได้ทุกครั้ง ไอยูกิทรมานตัวเองจนเป็นไข้สูง ไม่ได้สติ ยามาดะเริ่มเป็นห่วง คอยเช็ดตัว ทำให้ไข้ลดลง อย่างไรก็ตามยามาดะยังคงรักไอยูกิอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
รจนาเกิดป่วยเป็นเส้นเสียงอักเสบ หากไม่ผ่าตัดรักษาเส้นเสียง รจนาอาจไม่มีทางกลับมาร้องเพลงได้อีก นับดาวกลุ้มใจเพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าผ่าตัด ในขณะนั้นเป็นไทก็แจ้งกับเธอว่าเช็คล่วงหน้าจำนวนหนึ่งล้านบาทออกแล้ว ให้ไปรับได้ นับดาวรู้จำนวนเงินก็ตาโต แต่ด้วยสำนึก ก็ยังอุตส่าห์รอเผื่อว่าจะมีใครมารับเช็คแทนไอยูกิ แต่เมื่อไม่มานับดาวจึงตัดสินใจไปรับเช็คด้วยตัวเอง แต่ความก็เกือบแตก นับดาวดันเซ็นชื่อเช็คผิดเป็นชื่อนับดาว พนักงานเห็นผิดสังเกตจึงแจ้งให้เป็นไททราบ เป็นไทลงมาดูเห็นเป็นชื่อนับดาว นับดาวเกื อบจะสารภาพผิดอยู่แล้ว แต่ทางเป็นไทเข้าใจว่าไอยูกิกำลังหัดเขียนภาษาไทย ไม่มีใครเอะใจ ครั้งนี้นับดาวจึงรอดตัวไป ในที่สุดนับดาวก็สามารถนำเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดของย่าได้สำเร็จ นับดาวรู้สึกขอบคุณไอยูกิอยู่ในใจ นับดาวตัดสินใจว่าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วต่อไปนี้จะไม่มีนับดาวคนเดิม เธอก็จะเป็นไอยูกิ ซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชียที่ใครๆ ต่างชื่นชม นับดาวจัดการเก็บของทุกอย่างที่เป็นตัวเองทิ้ง และเริ่มศึกษาประวัติไอยูกิ เพื่อที่จะเป็นไอยูกิให้ได้มากที่สุด แต่หนทางก็ยากเย็นเหลือเกิน นับดาวชวนวราพรรณไปห้างเพื่อเลือกซื้อซีดีไอยูกิ เพื่อที่จะหัดร้อง หัดเต้นให้เหมือน วราพรรณสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆ นับดาวถึงนึกจะฟังเพลงสากล โดยเฉพาะเพลงของไอยูกิ เป็นจังหวะที่ซีซีเดินมาช้อปปิ้งที่เดียวกัน นับดาวแอบได้ยินเรื่องที่ซีซีคุยเกี่ยวกับการจับตัวไอยูกิ นับดาวชักสงสัยว่าซีซีอาจเป็นตัวการในการหายตัวไปของไอยูกิในครั้งนี้ก็เป็น ได้
การเป็นไอยูกิทำให้นับดาวกับเป็นไทใกล้ชิด สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น ทำให้นับดาวได้รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเป็นไทว่าไม่ได้เลวร้าย แถมยังจิตใจดี นับดาวเริ่มปลื้ม รู้สึกดีกับเป็นไทมากขึ้นทุกวันๆ เป็นไทเองก็เริ่มชอบนับดาวในคราบไอยูกิในแบบเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เป็นไท ไม่เคยเจอมาก่อน สังวรณ์พยายามที่จะทำข่าวสัมภาษณ์ไอยูกิ แต่ก็เพียงข้ออ้าง ความจริงสังวรณ์หวังใกล้ชิดและจีบไอยูกิให้ได้ แต่ก็ถูกนับดาวบ่ายเบี่ยงหลายครั้งเพราะกลัวความแตก ด้วยนิสัยของนักข่าวทำให้สังวรณ์เริ่มระแคะระคายเรื่องตัวตนที่แท้จริงของไอ ยูกิขึ้นมา
ต้นสังกัดของไอยูกิไม่พอใจกับข่าวของไอยูกิ จึงโทร.ทางไกลจากญี่ปุ่นเพื่อให้เป็นไทและไอยูกิไปที่สำนักงานใหญ่ เพื่ออธิบายถึงภาพปาปารัสซี่ที่ลงหนังสือถึงสองฉบับ เป็นไทจึงจำเป็นต้องพานับดาวไปญี่ปุ่น นับดาวดีใจเพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้ไปต่างประเทศ เมื่อไปถึงสำนักงานนับดาวก็ถึงเจ้าของค่ายซักถามด้วยภาษาญี่ปุ่นที่เธอไม่ เข้าใจสักนิด แต่ก็สามารถเอาตัวรอดไปได้ นับดาวตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างในญี่ปุ่น ทำเหมือนกับเธอไม่ใช่คนที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น อย่างไงอย่างงั้น จนเป็นไทเริ่มแปลก แพรวไพลินตามขัดขวางเป็นไทไปถึงญี่ปุ่นจนได้ สมทบกับไคคุงที่คอยพยายามตามนับดาวแจ เมื่อทั้งคู่กลับจากญี่ปุ่นเพื่อเริ่มงานคอนเสิร์ตไอยูกิ เป็นไทเริ่มปรึกษากับองอาจเรื่องความผิดปกติดของไอยูกิที่เขาเจอ ถึงแม้จะมั่นใจว่าไอยูกิต้องปิดบังเรื่องอะไรไว้แน่ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด เป็นไทจึงได้แต่เก็บความสงสัยและสังเกตนับดาวต่อไป
หลังจากที่ความพยายามจีบไอยูกิไม่เป็นผล สังวรณ์เป็นเป้าหมายใหม่ หันไปวางแผนล่มคอนเสิร์ตไอยูกิ เพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัทเป็นไท แพรวไพลินร่วมด้วยเพราะไม่อยากเสียเป็นไทไป สังวรณ์เคยเห็นนับดาวจากงานที่รจนาไปร้องเพลง และรู้ว่านับดาวหน้าคล้ายไอยูกิมาก จึงเกิดไอเดียให้นับดาวปลอมตัวเป็นไอยูกิ โดยใช้รจนาและวราพรรณเป็นหมากเดินเกม เกลี่ยกล่อมให้นับดาวทำตามแผน เพื่อเห็นแก่ย่าและเพื่อน นับดาวยอมทำตามแผน ทั้งๆที่ก็เสียใจอยู่ไม่น้อย เป็นไทชักมั่นใจว่าไอยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมจึงซักประวัติเกี่ยวกับไอยูกิ นับดาวจนด้วยหนทางเอาตัวรอด หวังตอบมั่วๆ เผี่อจะถูกบ้าง ปรากฏว่าผิดหมดทุกข้อ เป็นไทได้คำตอบที่ต้องการแล้ว เป็นไทเสียใจมากที่นับดาวโกหกเรื่องที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่อยากเจอหน้า แต่สิ่งดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเป็นไทกับนับดาวก็ทำให้เขาสับสน แต่ก็ปากแข็งว่าที่ยังต้องเจอนับดาวเพราะงานคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้น เท่านั้น จากที่ยามาดะเคยโกรธแค้นยูกิด้วยเรื่องสมัยอดีต เมื่อยูกิบังเอิญได้รู้ว่าแท้จริงแล้วยามาดะก็คือคนที่เขียนจดหมายให้เธอ เมื่อสมัยมัธยม แต่สิ่งที่ยามาดะไม่รู้คือ ยูกิเองก็มีใจให้ยามาดะเช่นกัน แต่เข้าใจว่ายามาดะเพียงให้ความหวังยูกิเท่านั้น ยามาดะเขินเมื่อได้รู้ความจริงทั้งหมด ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว ยูกิชวนยามาดะหนีไปด้วยกัน ยามาดะเห็นด้วย
วันงานมีทแอนด์กรีท นับดาวขึ้นเวทีร้องเพลงได้อย่างไพเราะสมบูรณ์แบบจนคนทั้งฮอลล์เคลิ้ม ระหว่างนั้นพิธีกรเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้ถามคำถามไอยูกิได้ สังวรณ์ยกมือ เป็นโอกาสให้สังวรณ์ได้เปิดโปงนับดาว สังวรณ์บอกความจริงกับทุกคนในฮอลล์ว่าที่แท้ไอยูกิก็คือนับดาวที่ปลอมตัวมา หลอกทุกๆ คน เป็นไท และทีมงานต่างก็หน้าเสีย ที่สังวรณ์มาทำลายงานแบบนี้ สังวรณ์สร้างคำถามเป็นภาษาญี่ปุ่นกดดันให้นับดาวตอบ แต่ก่อนที่นับดาวจะพูดอะไร วราพรรณเข้ามาขัดจังหวะ ตลบหลังที่เคยถูกสังวรณ์หลอกใช้ว่า ที่นับดาวปลอมตัวมาเป็นแผนของสังวรณ์ทั้งหมด พร้อมหลักฐานที่วราพรรณแอบอัดเสียงแผนการของสังวรณ์เอาไว้ สังวรณ์ถูกวราพรรณหักหน้า แต่คนในฮอลล์ก็ยังกังขา ต้องการที่จะรู้ความจริง นับดาวทนความกดดันไม่ไหว จึงสารภาพความจริงว่าเธอไม่ใช่ไอยูกิ ในที่สุดงานก็ล่ม สังวรณ์ถูกตำรวจจับ เขาพยายามซัดทอดแพรวไพลิน แต่แพรวไพลินมีเส้นใหญ่ทำให้ทำอะไรเธอไม่ได้ สังวรณ์ได้แต่เจ็บใจและสาปแช่งเธอ
ไคคุงเริ่มคลั่งที่หายูกิตัวจริงไม่เจอ จึงใช้ปืนบังคับซีซีที่รู้ที่อยู่ที่พายูกิ รวมทั้งวราพรรณและนับดาวติดร่างแหไปกับเขาด้วย เมื่อซีซีพาไคคุงไปยังโกดังร้างที่ขังยูกิ กับยามาดะไว้ แต่ก็ไม่พบคนทั้งคู่แล้ว เมื่อตามหายูกิไม่เจอ วราพรรณกับนับดาวก็แยกย้ายจะกลับบ้านเหมือนว่าพวกเธอไม่ได้ถูกจับเป็นตัว ประกัน ไคคุงยอมปล่อยไปแต่ก็หมายหัวเอาไว้หากพวกเธอตุกติก ไคคุงจะตามไปฆ่า ในที่สุดนับดาวได้กลับมาเป็นนับดาว คนที่คนมักมองข้ามเหมือนเดิม แต่เธอก็โล่งใจที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมซักที นับดาวได้แต่แอบเป็นห่วงเป็นไท ที่งานคอนเสิร์ตต้องยกเลิกเพราะเรื่องที่เกิดในงานมีทแอนด์กรี๊ดที่เธอเป็น ต้นเหตุ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เป็นไทเสียใจ ข่าวคอนเสิร์ตล่มแพร่สะพัด เป็นไทต้องหลบไปเชียงใหม่อยู่พักใหญ่ นับดาวได้ตามไปเจอ เหตุการณ์ได้ทำให้ทั้งคู่มาพบกัน ด้วยความรักและโชคชะตาทำให้นับดาวและเป็นไทปรับความเข้าใจกันได้เสียที
สุดท้ายสังวรณ์ถูกหนังสือพิมพ์เล่นข่าวซะเละเทะ ไม่มีหน้าอยู่ในสื่อได้อีกต่อไป ไคคุงถูกจับได้ว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดที่เอาธุรกิจอาหารทะเลส่งออกบังหน้า ยูกิขอเลิกกับไคคุง วราพรรณได้เลื่อนขึ้นมาเป็นผู้ประกาศข่าวและเริ่มเปิดใจมององอาจ ยูกิกับยามาดะสมหวัง หลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น เป็นไทได้พบกับยูกิตัวจริงเสียที งานคอนเสิร์ตยังคงมีขึ้นต่อไป ยูกิขอให้นับดาวขึ้นคอนเสิร์ตด้วย และขอให้ทุกคนเรียกนับดาวว่า “ซูเปอร์สตาร์”
นับดาวตื้นตันอย่างที่สุด สิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต บังเกิดขึ้นกับเธอตรงหน้าเธอแล้ว

กุหลาบเหนือเมฆ

ไอริณ (พัชราภา ไชยเชื้อ) ชักชวนเพื่อนซี้อย่าง อรนุช (วรนุช วงษ์สวรรค์) ลูกสาว เจ้าสัวเจริญ (ไกรสีห์ แก้ววิมล) มหาเศรษฐีพันล้านมาร่วมหุ้นด้วยหวังว่าจะทำให้นิตยสาร Working Women มีชื่อเสียงไปด้วย แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เพราะอรนุชกลับกลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด วางแผนให้ อรนิช (กรรณาภรณ์ พวงทอง) แย่ง พีรเทพ (ธีร์ วณิชนันทธาดา) คู่หมั้นของไอริณและฮุบกิจการนิตยสารไปครอบครอง ไอริณเครียดแค้นมากเลยประกาศก้องว่าจะล้มนิตยสาร Working Women ให้ได้พร้อมกับจะทำให้อรนุชและอรนิชจนปวดอย่างที่สุด

 

หลังจากนั้นเธอ เลยคิดที่จะเปิดตัวนิตยสาร Chic Women มาแข่งกับอรนุช แต่ติดตรงที่เธอไม่มีเงินลงทุน ดังนั้นเพื่อนสนิทอย่าง เลอลักษณ์ (ณัฎฐินี เจียรวนนท์) จึงยืนมือเข้ามาช่วย หลังจากที่ คุณหญิงดาริกา (ดวงดาว จารุจินดา) ป้าแท้ ๆ ของไอริณทราบเรื่องเลยขอร่วมหุ้นด้วย ทำให้ไอริณมีเงินไปคืนเลอลักษณ์ได้ เพียงสองปีนิตยสารของไอริณก็มีชื่อเสียงขึ้นมา แต่อรนุชกับอรนิชกับเล่นลูกไม้สกปรกโดยใช้ชื่อเจ้าสัวแย่งเอาลูกค้าที่ซื้อ แอดโฆษณาในนิตยสารเธอไป ทำให้เธอต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น

 

วันหนึ่งเธอ ได้มีโอกาสพบกับ อนาวิน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ชายหนุ่มที่อรนุชรักโดยบังเอิญกับอุบัติเหตุเดินชนกันจนกาแฟหกรดราดเสื้อผ้า ของอนาวินทำให้เขาไม่พอใจ เพราะเขาต้องรีบไปพบลูกค้า ทำให้ไอริณเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเซลล์แมน เลยแสดงความรับผิดชอบโดยการพาเขาไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของเลอลักษณ์แล้วยืม เสื้อผ้าของ คิมหันต์ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) มาให้เขาใส่ต่อ จากนั้นเธอก็ไปเจอเขาอีกครั้งที่ร้านอาหาร ขณะที่เขากำลังนั่งคุยกับ คุณอาทร (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) พ่อของเขาที่หนีแม่คือ คุณบุปผา (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ออกมา ส่วนไอริณที่เห็นเหตุการณ์ก็คิดว่าเขากำลังพยายามขายสินค้าอยู่ เลยหวังดีเข้าไปช่วยพูดขายสินค้าให้ แล้วก็เรียกอนาวินว่าคุณกาแฟ ซึ่งอนาวินจำใจให้ไอริณเรียก เพราะไม่อยากทำให้เธอหน้าแตก หลังจากนั้นไอริณก็ได้รู้จักชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเขา

 

จากนั้นไม่นานไอริณทราบข่าวว่านิตยสาร Working Women จะจัดงานครบรอบ 3 ปี โดยมีแผนจะประกาศความสำเร็จด้วยการเซ็นสัญญาขายโฆษณาให้กับห้างสรรพสินค้า ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งมี วาริรินทร์ (อังคณา ทิมดี) เป็นเจ้าของและมีแผนประกาศหมั้นของอรนุช ซึ่งไอริณประกาศจะทำลายทั้ง 2 แผนการ

 

เธอพยายามติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับวาริรินทร์แต่ก็ไม่เป็น ผล โดยสืบรู้มาว่าวาริรินทร์แอบมีความสัมพันธ์ลับรักต่างวัยกับนายแบบหนุ่ม นิค (วินเซนต์ คินนี่) ซึ่งไอริณปล่อยว่าอรนิชสนใจนิคเป็นการส่วนตัว แล้วก็เดินหน้าสร้างความแตกแยกให้อรนิชและพีรเทพแตกคอกัน โดยหลอกให้พีรเทพมาเจอที่ผับแล้วส่งสาวโคโยตี้เซ็กซี่ไปประกบ พร้อมกับส่งข่าวให้ปาปารัชซี่ทำให้อรนิชเสียหน้าและโกรธมากต้องการประชดพีร เทพด้วยการทำท่าทีสนใจนิคออกนอกหน้า สร้างความไม่พอใจให้กับวาริรินทร์จนถึงกับยกเลิกการเซ็นสัญญาโฆษณาแล้วไป ซื้อโฆษณากับชิค วูแมนแทนในวันก่อนหน้าที่จะมีงานฉลองครบรอบ 3 ปี นั่นก็ทำให้แผนการไอริณสำเร็จไป 1 ข้อ

 

ต่อจากนั้นไอริณก็สั่งให้ เรวัติ (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัฒน์) สืบเรื่องของแฟนอรนุชซึ่งเรวัติหนักใจมาก เพราะแฟนอรนุชก็คืออนาวินเพื่อนรักสมัยเรียนของเขา เรวัติจึงพยายามโน้วน้าวใจให้ไอริณเปลี่ยนใจแต่ไม่เป็นผล เรวัติเลยตัดสินใจบอกไอริณว่าแฟนอรนุชชื่อวิน เป็นรองประธานบริษัทไนน์อาร์คิเทค ซึ่งข้อมูลแค่นี้ก็ทำให้เธอมั่นใจว่าสามารถจัดการได้เลยวางแผนไปดักพบที่ ไซต์งานเพื่อว่านเสน่ห์ให้เขามาตกหลุมรักและประกาศเลิกหมั้นกับอรนุช แต่เธอดันซุ่มซ่ามเดินชนกับอนาวินล้มลงก้นกระแทกพื้น อนาวินเลยต้องพาไปส่งบ้าน

 

พอไอริณรู้ว่าอนาวินทำงานในบริษัทไนน์อาร์ คิเทคก็เลยมัดมือชกโดยให้อนาวินร่วมแผนการด้วย ซึ่งอนาวินก็อยากรู้ว่าไอริณจะมีแผนการอะไรต่อไป จนอนาวินรู้เรื่องราวทั้งหมดจากเรวัติเลยวางแผนซ้อนแผนใช้ วิทวัส (เจจินตัย อันติมานนท์) มาปลอมตัวเป็นอนาวินแทน โดยให้ข้อเสนอว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งถ้าผ่านการทดสอบในครั้งนี้ซึ่งเขาก็รับข้อเสนอนั้น

 

แผนการเลยเริ่มต้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น จู่ ๆ ไอริณก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมแปลก ๆ ของอนาวินและเรวัติ เธอเลยตัดสินใจสืบจนรู้ว่าอนาวินคือแฟนของอรนุช ทำให้เธอคิดว่าอนาวินและอรนุชร่วมมือกันหลอกเธอ เธอเลยคิดกลั่นแกล้งทั้งคู่ โดยโทรศัพท์ไปหาอนาวินด้วยน้ำเสียงน่าสงสารขณะอยู่กับอรนุช ด้วยความเป็นห่วงอนาวินเลยไปพบไอริณที่บ้าน ไอริณรู้ตัวว่าตัวเองคงแพ้อรนุชแล้วเลยวางแผนตั้งกล้องถ่ายคลิปตัวเองกับ อนาวินส่งไปให้อรนุชดู แต่ทว่าด้วยความเศร้าเสียใจที่โดนหลอก ไอริณกลับร้องไห้ออกมาเพราะคิดว่าสิ่งที่อนาวินทำดีกับตนเป็นการหลอกลวง อนาวินพยายามปลอบทำให้เขาเผลอจูบเธอ ไอริณโกรธมากเลยไล่เขาออกไป โดยไม่ยอมพูดคุยปรับความเข้าใจแม้แต่นิดเดียว

 

ส่วนอรนิชก็หลงใหลนิคมากเลยคิดวางแผนที่จะครอบครองเขาคนเดียวพร้อมทั้งเขี่ยพีรเทพทิ้ง โดยการแอบนำคลิปที่นิคถ่ายวาริรินทร์อย่างวาบหวามออกมาปล่อยว่อนเน็ต จนวาริรินทร์เสียชื่อเสียง นิครู้ความจริงเลยต่อว่าอรนิชและประกาศว่าตนเองรักวาริรินทร์ทำให้อรนิชเสียหน้า แล้วพีรเทพที่โดนอรนิชเขี่ยทิ้งก็หมดตัวเลยคิดที่จะหาเงินโดยการนำคลิปลับของอร นิชไปขายแต่ได้ราคาไม่ดี เลยนำไปต่อรองกับไอริณ พอได้ดูคลิปก็สงสารอรนิชเลยหลอกล่อเอาคลิปวิดีโอจากพีรเทพมาโดยการแกล้งกลับ มาคืนดีด้วย พีรเทพย่ามใจจูบไอริณขณะเผลอ จนอนาวินมาเห็นเลยเข้าใจผิดเขาเลยพยายามตัดใจจากไอริณ

 

ส่วนเลอลักษณ์ กับเรวัติกำลังจะแต่งงานกัน เพราะเลอลักษณ์เกิดตั้งท้องกับแฟนเก่าอย่างคิมหันต์ แต่คิมหันต์ไม่รับผิดชอบแถมปล่อยข่าวว่าเลอลักษณ์เป็นผู้หญิงใจแตก สร้างความเสื่อมเสียให้เลอลักษณ์จนไม่อยากจะแต่งงานเพราะอับอาย ไอริณจึงสืบหาคนปล่อยข่าวจนรู้ว่าเป็นอรนุชและอรนิช เลยไปหาคิมหันต์เพื่อจะให้มาแถลงข่าวขอโทษที่ปล่อยข่าวทำให้เลอลักษณ์เสีย หาย โดยขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะให้ตำรวจไปทลายปาร์ตี้ยาอีแล้วออกข่าวว่าคิมหันต์เป็น สายให้ตำรวจ เขาเลยจำใจตกลง

 

นอกจากนั้นไอริณก็นัด 2 สาวมาพบก่อนแถลงข่าว แล้วนำภาพวิดีโอลับของพีรเทพและอรนิชมาคืนเพื่อแสดงความจริงใจและขอให้อรนุช อยู่ร่วมงานแถลงข่าวต่อเพื่อช่วยแก้ข่าวให้เลอลักษณ์ อรนิชซาบซึ้งใจที่ไอริณไม่คิดจะทำลายตนแต่อรนุชไม่ยอมเพราะการออกมาขอโทษ เท่ากับยอมรับว่าเป็นคนปล่อยข่าว ไอริณจึงจำใจโชว์ภาพเธอกับอนาวินให้อรนุชดู จนอนาวินแอบได้ยินเลยน้อยใจที่ไอริณแอบถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อนำมาแก้แค้นอรนุช เท่านั้น

 

รายชื่อนักแสดงละคร กุหลาบเหนือเมฆ

ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ แสดงเป็น อนาวิน / คุณกาแฟ
พัชราภา ไชยเชื้อ แสดงเป็น ไอริณ
วรนุช วงษ์สวรรค์ แสดงเป็น อรนุช
กรรณาภรณ์ พวงทอง แสดงเป็น อรนิช
ณัฎฐินี เจียรวนนท์ แสดงเป็น เลอลักษณ์
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ แสดงเป็น เรวัติ
ธีร์ วนิชนันทธาดา แสดงเป็น พีรเทพ
นพพล พิทักษ์โล่พานิช แสดงเป็น คิมหันต์
นันทศัย พิศลยบุตร แสดงเป็น อนิรุทธิ์
เจจินตรัย อันติมานนท์ แสดงเป็น วิทวัส
นาท ภูวนัย แสดงเป็น พิธาน
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น คุณหญิงป้าดาริกา
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แสดงเป็น คุณบุปผา
อังคณา ทิมดี แสดงเป็น วาริรินทร์
วันชัย เผ่าวิบูล แสดงเป็น คุณป๋า
พงษ์ประยูร ราชอาภัย แสดงเป็น อาทร
อำพันธุ์ งามจิตสุขศรี แสดงเป็น เดือนเต็ม
ไกรสีห์ แก้ววิมล แสดงเป็น เจ้าสัวเจริญ
วินเซนต์ คินนี่ (วินนี่) แสดงเป็น นิค
นันท์นภัส ภัทรายุตวรรตน์ แสดงเป็น นิชา
พิมพ์ศิริ คชหิรัญ แสดงเป็น โสภิตา
พรอนันต์ ศรีจันทร์ แสดงเป็น ป้าสร้อย
พีรุตม์ สวนสุข แสดงเป็น นายจำรัส

ออกอากาศ จันทร์-อังคาร 21 ธันวาคม 2552 – 9 กุมภาพันธ์ 2553