Tag Archives: วรนุช วงษ์สวรรค์

อีสา-รวีช่วงโชติ 2541

อีสา ชีวิตของเธอผ่านความชอกช้ำมามากมาย หวังเพียงสิ่งเดียว ได้พบหน้าลูกชายที่พลัดพรากตั้งแต่แรกลืมตาดูโลก

อีสา เป็นเรื่องราวของ สา หรืออุษาเป็นลูกทาสที่เกิดและโตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงงระวี รวีวาร ที่แม้จะมีการเลิกทาสแล้วแต่บรรดาทาสหลายคนซึ่งไม่มีที่จะไปก็ยังสมัครใจอยู่ใต้บารมีท่านเป็นสิบ ๆ คน สาเกิดมาไม่มีพ่อ และแม่ก็ตายหลังสาเกิดเพียงสองวัน สาจึงเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของป้าเจิม อดีตทาสที่อาวุโสสูงสุดในวัง เมื่อสาอายุได้สิบสองปีป้าเจิมก็พาสาไปฝากตัวไว้กับหม่อมนิ่มหม่อมน้อย ให้ช่วยฝึกหัดขัดเกลา
จนสาเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นที่เรียนรู้เรื่องของการวางตัวอย่างผู้ดี และยังได้หัดรำละครอีกด้วย สาแอบชื่นชมบูชาท่านชายมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่นจนวันหนึ่ง เมื่อสาอายุได้สิบหกปี หม่อมทั้งสองก็”ถวายตัว” สาให้กับท่านชาย ธรรมชาติสอนให้สาเรียนรู้ที่จะมีจริตจก้านตามวัย ทำให้ท่านชายลุ่มหลงในตัวสามากกว่าหม่อมคนอื่น ๆ

แต่ถึงกระนั้นสาก็ยังไม่ได้รับการยกย่องให้เป็น “หม่อม” อย่างออกหน้าออกตา จนกระทั่งสาตั้งท้องและคลอดลูกชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนแรกและคนเดียวของท่านชาย หม่อมพริ้มซึ่งเป็นหม่อมใหญ่ก็ได้โอบอุ้ม “คุณชาย” ไปเลี้ยงดูฟูมฟักเสมอลูกชายของตน ให้สาได้พบลูกบ้างเป็นครั้งคราวและเรียกลูกชายของตนเหมือนคนอื่น ๆ ว่า “คุณชาย”

หลังจากนั้นไม่นาน ท่านชายก็สิ้นพระชนม์ลง และจำเพาะต้องมาสิ้นลงในคืนที่สาเพิ่ง “ถวายงาน” เสร็จ ฐานะของสาที่ทำท่าว่าจะดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งหลังจากคลอดลูกชายก็ดูเหมือนจะตกต่ำลงไป ด้วยข้อหา “กาลกิณี หรือผู้หญิงกินผัว” ที่แม้สาเองก็ไม่รู้ความหมาย

หลังจากท่านชายสิ้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวัง ทั้งด้านผู้คนที่แยกย้ายกันออกไปเป็นบางส่วน ทั้งด้านสภาพบ้านเรือนที่รายรอบวัง
ในความเปลี่ยนแปลงนั้น สาก็ได้รู้จักกับสมศักดิ์ ชายหนุ่มรูปงามที่มีกิริยาท่าทีสุภาพอ่อนโยน สาหลงรักเขาโดยง่าย ด้วยวัยที่ยังเยาว์ และธรรมชาตในตัวอันลึกล้ำ แต่เป้าหมายของนายสมศักดิ์ไม่ได้อยู่ที่สา เขาเพียงอาศัยสาเพื่อเข้าถึงตัวคุณหญิงโสภาพรรณวดี ลูกสาววัยรุ่นของหม่อมพริ้มต่างหาก  สานั้นชื่นชมนายสมศักดิ์จนถึงขั้นยอมตัวเป็นสะพานสื่อรักให้ แม้จะรู้ว่าผิดแต่เธอก็ทนแรงอ้อนวอนของนายสมศักดิ์ไม่ไหว ในที่สุดถึงกับพาคุณหญิงหนีตามนายสมศักดิ์ออกจากวัง ทั้ง ๆ ที่สาเองก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของท่านชายอยู่ด้วย

สาคลอดลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง จึงยกให้เป็นลูกของคุณหญิงโสภาฯ กับนายสมศักดิ์ซึ่งคุณหญิงก็รักหนูน้อยมากเช่นกัน ตั้งชื่อให้ว่าโสภิตพิไล
สานั้นลึก ๆ รู้สึกผิดต่อคุณหญิงที่พาเธอมาตกต่ำจึงเฝ้าดูแลไม่ให้คุณหญิงต้องลำบาก แรก ๆ ก็ดูเหมือนจะมีความสุขกันตามประสา แต่นานวันเข้า ทรัพย์สินที่คุณหญิงมีติดตัวมาเริ่มร่อยหรอ สาจึงออกหางานทำ และด้วยความที่เคยเป็นนางรำมาก่อน สาก็ได้งานแสดงละครเวทีกลายเป็นอุษาวดี – -นางละครผู้มีชื่อเสียงในเวลาไม่นาน

คุณหญิงโสภาฯ เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ และชืดชาในเรื่องบนเตียงจนนายสมศักดิ์เกิดความเบื่อหน่ายแม้จะยังรักคุณหญิงอยู่มาก แต่ความเห็นแก่ตัวมีมากกว่าวันหนึ่งนายสมศักดิ์ก็ย่องเข้าหาสาและได้เสียกัน สารู้สึกผิด แต่ด้วยแรงปรารถนาในใจก็ผลักดันให้สาดำดิ่งลงสู่ ห้วงแห่งดำกฤษณาอย่างยากที่จะถอนตัว จนวันหนึ่งคุณหญิงก็จับได้ และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันคุณหญิงก็หายตัวไปและเสียชีวิตด้วยการจมน้ำตายในเวลาต่อมา

หลังงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจแต่งงานกับนายวิทย์ นักดนตรีหนุ่มที่มาติดพันเธออยู่ในช่วงนั้นเพื่อหนีบาปในใจที่ตามหลอกหลอน นายสมศักดิ์เสียใจมากจนกินเหล้าเมาและตกน้ำตายตามคุณหญิงไป  สาอยู่กินกับนายวิทย์อย่างไม่ราบรื่นนักเพราะนายวิทย์นั้นต้องอาศัยอยู่กับพี่สาว
ซึ่งไม่ยอมรับในตัวน้องสะใภ้อย่างสา ประกอบกับนายวิทย์เป็นนักดนตรีที่มีอารมณ์ศิลปินสูง ถึงเขาจะรักสามากแต่เขาก็ไม่เข้าใจในความต้องการของสาได้ดีเพียงพอ

ทำให้เมื่อวันหนึ่ง สาได้พบกับนายเซกิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์กัน สาจึงตัดสินใจขอแยกทางกับนายวิทย์ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นแพ้สงคราม นายเซกิต้องกลับไปญิ่ปุ่น ก็ได้มอบมรดกเป็นเงินจำนวนมากให้กับสา

เวลาผ่านไป…อุษาส่งโสภิตพิไลเข้าเรียนในโรงเรียนประจำที่ดีที่สุด ส่วนตัวเธอใช้เงินที่ได้มาจากนายเซกิเปิดธุรกิจสถานบันเทิงโดยมีประธาน
– -หนุ่มรุ่นน้องที่กลายเป็นสามีลับ ๆ ของเธอด้วยเป็นผู้ช่วย  อาชีพและชื่อเสียงของอุษามีผลกระทบต่อโสภิตไม่น้อย เมื่อโสภิตเรียนจบชั้นมัธยมปลายก็ออกจากโรงเรียนกลับมาอยู่ที่บ้าน เธอเรียกอุษาว่าป้า เพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกของคุณหญิงที่ตายจากไป และอุษาก็มีฐานะเป็นเพียงกึ่งญาติห่าง ๆ กึ่ง “ข้าเก่า”ของแม่เธอเท่านั้น

วันหนึ่งโชคชะตาบันดาลให้อุษาได้พบกับคุณชายรวีช่วงโชติ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้พิพากษาหนุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามาจากเมืองนอก
อาจจะด้วยความผูกพันทางสายเลือดที่ทำให้หม่อมราชวงศ์หนุ่มรู้สึกดีกับอุษา ถึงแม้ใคร ๆ จะเล่าลือถึงอดีตและเบื้องหลังของสาวใหญ่ผู้นี้ในทางไม่ดีนักก็ตาม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจให้กับอุษาเสียแล้ว รวมทั้งโสภิตพิไล ซึ่งรู้สึกขัดใจขัดตาต่อผู้เป็นป้ามาแต่ต้น

โสภิตพิไลเกิดความรู้สึกอยากจะท้าทายผู้เป็นป้าจึงพาตัวเข้าไปพัวพันกับทั้งคุณชายรวีช่วงโชติและนายประธาน นั่นทำให้อุษายิ่งร้อนรนด้วยเกรงว่าโสภิตกับคุณชาย- -ลูกชาย-หญิงของเธอเอง จะชอบพอกันขึ้นมาจริง ๆ

วันหนึ่งก็เกิดเหตุ โสภิตพิไลถูกนายประธานปลุกปล้ำ อุษาเข้าขัดขวางและยิงนายประธานตาย อุษากลายเป็นผู้ต้องหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา เพราะเธอไม่ต้องการให้โสภิตต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่โสภิตทนเห็นอุษาต้องมารับโทษเพราะปกป้องเธอไม่ได้จึงมาเป็นพยานในศาล
และขอให้คุณชายรวีช่วงโชติช่วยในด้านกฏหมายด้วยอุษาจึงพ้นผิดจากคดี แต่อุษาไม่อาจเลี่ยงพ้นผลกรรมของตัวเอง เมื่อเสร็จสิ้นคดีหม่อมพริ้มก็ให้รับโสภิตพิไลซึ่งท่านเข้าใจว่าเป็นลูกสาวของคุณหญิงโสภาเข้าไปอยู่ในบ้าน

โสภิตเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่ออุษาเพราะคิดว่าอุษาปิดบังชาติกำเนิดของตน เธอคิดว่าการที่เธอเข้าไปเป็นพยานให้อุษาจนพ้นข้อกล่าวหานั้นเป็นการตอบแทนบุญคุณที่อุษาเลี้ยงดูเธอมาอย่างเพียงพอแล้ว นับแต่นี้เธอก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอุษาอีกต่อไป

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย

สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย เป็นเรื่องราวของ หรั่ง เด็กหนุ่มลูกกำพร้า สิ่งเดียวที่ติดตัวเขามาก็คือล็อคเก็ตรูปไวโอลินที่เขาเก็บรักษาไว้เป็น อย่างดี เพราะมันเป็นเพียงสมบัติชิ้นเดียวที่เขามี หรั่งรับจ้างทำงานสารพัดอความสุย่างเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนและเพื่อหาเงิน มาเป็นค่าผ่าตัดตาให้ ก้อย หญิงสาวตาบอดที่หรั่งรับมาดูแลอย่างน้องสาว ถึงชีวิตจะไม่ร่ำรวยแต่หรั่งก็มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆ ในชุมชนแออัดกับก้อยและมีเพื่อนร่วมชุมชนอย่าง โบ้ เท่ห์ เช็ง

ความสุขของหรั่งอีกอย่างก็คือ การได้เฝ้ามองดู แพรวา สาวสวยไฮโซ ทายาทคนเดียวของ เผ่าลาภ มหาโชคตั้งสิริ ประธานบริษัท เอ็ม เอส กรุ๊ป หรั่งรู้ตัวดีว่าเขากับแพรวานั้นแตกต่างกันมากและที่สำคัญ แพรวามีคู่รัก คือ ตะวันฉาย อยู่แล้ว ที่หรั่งทำได้ก็คือเฝ้าติดตามข่าวของแพรวาอยู่ห่างๆ ไม่ต่างจากหมาวัดหมายปองดอกฟ้าอย่างไรอย่างนั้น

แต่แล้ววันหนึ่ง หรั่งก็ได้มีโอกาสขี่มอเตอร์ไซค์พาแพรวานั่งซ้อนท้ายไปหาตะวันฉาย หรั่งกลายเป็นฮีโร่ในสายตาแพรวา หลังจากได้เจอกันอีกหลายหน แพรวาก็เริ่มประทับใจในความมีน้ำใจของหรั่ง เมื่อเธอต้องเข้าไปทำงานในบริษัทเอ็ม เอส จิวเลรี่ ของครอบครัว เธอจึงได้ขอให้หรั่งเข้าไปทำหน้าที่ผู้ช่วยให้เธอ

การได้เข้ามาใกล้ ชิดกับแพรวาในฐานะผู้ช่วยทำให้หรั่งได้รู้ว่าแพรวาไม่ต้องการจะเข้ามาทำงาน ที่บริษัท ซึ่งตรงข้ามกับความตั้งใจของเผ่าลาภที่อยากผลักดันให้แพรวาขึ้นมาสืบทอด ตำแหน่งเพื่อที่เขาจะได้ไปลงเล่นการเมืองได้เต็มตัว เผ่าลาภหวังว่าการลงไปเล่นการเมืองในพรรคของสุริยันต์ พ่อของตะวันฉาย จะเป็นใบเบิกทางไปสู่สัมปทานบัตรเหมืองพลอยแห่งใหม่ แต่การขอสัมปทานก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะกลับมีคู่แข่งอย่าง แสงเทพ เข้ามาขอสัมปทานให้กับบริษัท เทพทอแสง ด้วยการใช้สุริยันต์เป็นทางลัดเหมือนกัน

การที่เผ่าลาภดันลูกสาว ขึ้นมาแทนที่ สร้างความไม่พอใจให้กับบารมี และอรทัย น้องๆ ของเผ่าลาภ เผ่าลาภรู้ดีว่าคนสองคนนี้ห่วงแต่ประโยชน์ส่วนตัว เขาจึงพยายามกันตำแหน่งไว้ให้แพรวา แต่ปัญหาก็คือ แพรวาไม่มีความสามารถพอ เผ่าลาภจึงได้มอบภาระให้หรั่งทำทุกวิถีทางให้แพรวากลายเป็นผู้บริหารที่ดี ได้

ตะวันฉายเข้าร่วมหุ้นกับแสงเทพทำกิจการค้าของเถื่อนทุกประเภท บารมีซึ่งเป็นหนี้ในบ่อนของตะวันฉายเข้ามาช่วยคุมการขนยาบ้าเพื่อหาเงินใช้ หนี้ หรั่งบังเอิญไปพบว่าบารมีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนยาบ้า เขาจึงได้ไปแจ้งความโดยไม่ลืมที่จะรายงานให้เผ่าลาภรู้ก่อน ผลคือ ตำรวจสามารถเข้าจับกุมการขนส่งยาในครั้งนั้นได้ ส่วนบารมีแม้จะหลุดพ้นจากการจับกุมแต่ก็ถูกเผ่าลาภหมายหัวไว้ หรั่งไม่รู้เลยว่านี่เท่ากับเป็นการตั้งตัวเป็นศัตรูกับตะวันฉายและบารมีโดย ตรง ตะวันฉายและบารมีสั่งสอนหรั่งด้วยการเผาบ้านของหรั่ง

ความเดือด ร้อนครั้งนี้หรั่งรู้ดีว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ก้อยและเพื่อนเป็นห่วงหรั่งไม่อยากให้หรั่งทำงานที่เอ็ม เอส ต่อ แต่เพียงเพราะคำขอร้องของแพรวาทำให้หรั่งใจอ่อน เผ่าลาภเริ่มมีอาการปวดหัวเนื่องจากโรคความดันบ่อยๆ เขาเริ่มกลัวว่าตัวเองจะอยูได้อีกไม่นาน ดังนั้นเขาจึงเร่งรัดให้หรั่งช่วยสอนให้แพรวาเป็นนักบริหารที่ดีโดยเร็ว หรั่งให้สัญญา เผ่าลาภบอกกับหรั่งว่าเขาถูกชะตากับหรั่งอย่างบอกไม่ถูก หรั่งถือโอกาสสารภาพกับเผ่าลาภว่าเขาเคยเจอกับเผ่าลาภมาก่อนแล้ว ตอนที่เขาตามคณะคนงานก่อสร้างไปสร้างบ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับแพรวาเป็นครั้งแรก แต่แพรวายังเด็กมากจึงจำเขาคนที่เคยช่วยเธอจากการถูกกลุ่มเด็กอื่นรังแกไม่ ได้ เมื่อเผ่าลาภรู้ว่าหรั่ง คือ เด็กชายคนที่ห้อยสร้อยล็อคเก็ตไวโอลินเส้นนั้นก็ตกใจมาก

บารมีร่วม กับอรทัยยักยอกพลอยในสต็อกของบริษัทไปขาย ทำให้บริษัทซึ่งกำลังต้องการขายพลอยก้อนเพื่อเอาเงินมาหมุนต้องเดือดร้อน เผ่าลาภไล่บารมีและอรทัยออก เผ่าลาภเองเครียดจัดจนถึงกับเส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นอัมพาต ทำให้แพรวาต้องขึ้นรักษาการแทน ในขณะที่กำลังวุ่นวายกับปัญหาการเงินของบริษัท ตะวันฉายก็มาขอเลิกกับแพรวา แพรวาเสียใจอย่างมากแต่โชคดีที่มีหรั่งคอยอยู่เคียงข้าง ทำให้เธอทำใจได้เร็วกว่าที่คิด หรั่งถือโอกาสบอกความจริงกับแพรวาเรื่องที่เขาและเธอเคยเจอกันมาก่อนเมื่อ ตอนเด็ก เมื่อแพรวารู้ว่าหรั่งคือเด็กชายตัวโตคนนั้นก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ความผูกพันจากวัยเด็กทำให้คนทั้งคู่ยิ่งรู้สึกดีต่อกัน แพรวายอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วว่าเธอมีใจเริ่มรักหรั่งเข้าแล้ว

แต่ แล้วขณะที่ทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้น เผ่าลาภก็มาด่วนจากไปอย่างกะทันหันในเหตุการณ์ลิฟต์ระเบิด ตำรวจพบว่าการตายของเผ่าลาภนั้นเป็นการฆาตกรรม ด้วยพยานหลักฐานที่มัดตัวทำให้หรั่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ญาติ ๆ ทุกคนคิดว่าหรั่งตั้งใจฆ่าเผ่าลาภแล้วใช้ความไว้วางใจที่แพรวามีให้เข้ามา ยึดอำนาจในเอ็มเอส แพรวานึกไม่ถึงว่าหรั่งจะมีแผนไม่ซื่อกับเธอ หรั่งหมดอิสระภาพ เขาถูกจับเข้าคุกทันที แพรวารู้สึกผิดหวังในตัวหรั่งอย่างมาก

คืนหนึ่งลูกน้องของเผ่าลาภพา แพรวมาที่บ้านหลังหนึ่ง ที่นั่นแพรวาได้เจอกับเผ่าลาภและหรั่ง เธอจึงได้รู้ความจริงว่าเผ่าลาภแกล้งตายแล้วให้หรั่งเป็นแพะรับบาปในคดี เพื่อจะหาหลักฐานมาดัดหลังคนที่วางแผนฆาตกรรมตัวจริง แพรว่าได้รู้ว่าคนบงการฆ่าตัวจริงคือ แสงเทพและตะวันฉายที่ต้องการจะฆ่าเผ่าลาภเพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายได้สัมปทาน แล้วเอาที่ดินนั้นไปใช้เป็นโกดังเก็บของเถื่อนโดยใช้การทำเหมืองพลอยบังหน้า แต่แผนของแสงเทพก็ถูกเปิดเผยด้วยโน้ตลับจากบารมีที่เริ่มสำนึกได้แล้วเขียน มาเตือนเผ่าลาภให้ไหวตัวก่อน

แพรวาร่วมมือกับหรั่งที่ยังแสร้งติด คุกอยู่หาหลักฐานมาเปิดโปงเทพทอแสงทำให้แสงเทพถูกจับและสัมปทานก็ตกมาเป็น ของเอ็มเอส แพรวาอยากลาออกแล้วคืนตำแหน่งให้เผ่าลาภ แต่เผ่าลาภปฏิเสธ เขาต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาตายไปแล้วเพื่อที่เขาจะไปใช้ชีวิตเงียบสงบใน บั้นปลาย ก่อนจะไปเผ่าลาภบอกความจริงกับหรั่งว่าที่จริงนั้นหรั่งเป็นลูกชายของเผด็จ ศึก พี่ชายของเขาที่ตายไป หรั่งไม่เข้าใจ เผ่าลาภบอกว่า ถ้าหรั่งคือเด็กผู้ชายคนที่ห้อยสร้อยคอล็อกเก็ตไวโอลินคนนั้น หรั่งก็คือลูกของเผด็จศึกแน่ ๆ เพราะก่อนเผด็จศึกจะตายเคยบอกกับเผ่าลาภไว้ว่าเขามีลูกชายหนึ่งคนที่มีล็อก เก็ตไวโอลินเป็นสัญลักษณ์

หรั่งทนรับความจริงไม่ได้เมื่อรู้ว่าเขา กับแพรวาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรั่งจึงหนีหน้าไป ทิ้งให้แพรวาดำเนินงานของเอ็มเอสไปคนเดียว น้าเบิ้ม พ่อของโบ้มาบอกความจริงแก่หรั่งว่าที่จริงล็อกเก็ตนั้นไม่ได้เป็นของหรั่ง แต่เป็นของที่ติดตัวโบ้มาตั้งแต่เด็ก น้าเบิ้มเป็นเพียงคนที่เก็บโบ้มาเลี้ยงแล้วก็เป็นคนถอดสร้อยนั้นใส่ให้หรั่ง เองโดยไม่คิดอะไร หรั่งจึงรู้ความจริงว่าโบ้ต่างหากที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแพรวา หรั่งรีบไปหาแพรวาที่บริษัทขณะกำลังแถลงข่าวของบริษัทอยู่ หรั่งไปในเวลาที่มือปืนลึกลับกำลังเล็งปืนขึ้นยิงบารมีพอดี บารมีถูกยิงล้มลง หรั่งปราดเข้าไปถึงตัวมือปืนทำให้ลูกกระสุนพลาดไปถูกแพรวาหนึ่งนัด หรั่งวิ่งเข้าไปหาแพรวาแล้วบอกความจริงกับแพรวาว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นพี่น้อง กัน แพรวาหมดสติไปในอ้อมแขนหรั่ง

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บารมีเสีย ชีวิต ตำรวจสืบสวนจนรู้ว่าตะวันฉายเป็นคนสั่งฆ่าบารมีปิดปากเพราะบารมีรู้ว่าเขา เป็นคนบงการฆ่าเผ่าลาภ ตะวันฉายถูกจับดำเนินคดี ส่วนหรั่งนั้นเขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่เก่าแห่งหนึ่งเพื่ออยู่ดูแลแพรวาที่อยู่ ในระหว่างมาพักรักษาตัว หรั่งบอกแพรวาว่าเขาจะขอปกป้องดูแลแพรวาอย่างที่เขาเคยทำมาตั้งแต่เด็กและจะ ทำเช่นนี้ตลอดไป

นักแสดงละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย
1. ตะวัน จารุจินดา รับบทเป็น หรั่ง
2. วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบทเป็น แพรวา
3. มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ รับบทเป็น ก้อย
4. นิรุตต์ ศิริจรรยา รับบทเป็น เผ่าลาภ
5. นวรัตน์ ยุกตะนันท์ รับบทเป็น อรทัย
6. วรรษมน วัฒโรดม รับบทเป็น ลินจง
7. ศิริวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ รับบทเป็น โบ้
8. สาวิณี ปะการะนัง รับบทเป็น รำไพ
9. ธเนศ แสงโชติกุล รับบทเป็น กัมปนาท
10. ทิน โชคกมลกิจ รับบทเป็น ตะวันฉาย
11. ศตวรรษ พันธ์ประภาวัฒน์ ( ดุลยวิจิตร ) รับบทเป็น บารมี
12. ชัยลดล โชควัฒนา รับบทเป็น กฤษฎา ( ต้น )

สาวน้อยร้อยมายา

สาวน้อยร้อยมายา เป็นเรื่องราวความสนุกสนานของเด็กสาวจอมมายา ที่มีชื่อว่า วอก ที่หาเงินกับการหลอกต้มชาวบ้านเพื่อนำเงินมารักษาตัวของมารดา โดยมียายแก่ๆ อีกหนึ่งคนคอยเป็นลูกคู่ คอยเข้าข้างปิดบังความผิดของเด็กสาวไม่ให้มารดารู้ วอกมีคู่หูเป็นเด็กวัดแสนซื่อชื่อ เป็ด คอยเป็นลูกสมุน กิตติศัพท์การหลอกลวงและจอมกะล่อนของวอกเป็นที่รู้จักกันดีในย่านสลัม พี่น้องตระกูลโสภิณัฐถูกเธอหลอกมาแล้วทั้งสองคน แม้ว่าเธอจะเป็นคนกะล่อนหลอกลวง แต่จิตใจก็ดีงาม ทำให้ชีวิตของเธอผกผันได้พบกับคนดีมีน้ำใจ ชุบเลี้ยงและอุปการะและได้ดีในที่สุด

นักแสดงละคร สาวน้อยร้อยมายา

เวฟ สาริน บางยี่ขัน
นุ่น วรนุช วงษ์สวรรค์ แสดงเป็น วอก

เศรษฐีตีนเปล่า

คุณนายลำไย เศรษฐีนีแห่งตำบลบ้านนางแมว พานัจ ลูกสาวซึ่งเป็นลูกบุญธรรมมาเที่ยวยุโรป ที่จริงต้องบอกว่า นัจพามา เพราะคุณนายลำไยได้ฟังคุณนายต่างๆที่หมู่บ้าน ทั้งคุณนายศึกษา คุณนายผู้กอง ฯลฯ พูดถึงเมืองนอกกันอย่างชื่นชม ลำไยซึ่งไม่ยอมน้อยหน้าใครอยู่แล้ว จึงต้องให้นัจพามาทัวร์ เพราะนัจ “รู้ภาษาฝรั่ง” มากกว่าใคร ก่อนไปก็ต้องมีการ “เตรียมตัว” กันเป็นโกลาหล เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้า แม้ว่าจะเลือกเดินทางในช่วงหน้าร้อนของยุโรป แต่สภาพอากาศก็ยังหนาวเย็นเกินไปสำหรับคนไทยอยู่ดี ต่อจากเสื้อผ้าก็เป็นรองเท้า สำหรับนัจไม่ค่อยเดือดร้อนนัก คนที่วุ่นวายและลำบากใจที่สุดคือคุณนายลำไย เนื่องจากตั้งแต่เด็กจนถึงเป็นย่าเป็นยายแล้ว นางชินกับเดินด้วยเท้าเปล่า หรืออย่างดีที่สุดก็ไม่เกินรองเท้าแตะ ดังนั้นการจะต้องมาทนใส่ รองเท้าหุ้มส้น แถมยังถุงน่องเข้าไปอีก จึงเป็นเรื่องทรมานของนางเหลือเกิน

นอกจากนั้นนัจยังต้องมีการ “ติวเข้ม” เรื่องการพูดของคุณนายอีก เพราะคุณนายเป็นคนไทยแท้ๆ ที่อยู่ชนบทมาตลอดชีวิต คำพูด คำจาของนางจึงใช้แต่คำศัพท์สมัยพ่อขุน แล้วแถมด้วยสบถสาบานอีกนิดหน่อย แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวบ้าน ทว่าการเดินทางเป็นคณะใหญ่ที่ต้องร่วมเดินทางกับผู้ลากมากดีชาวกรุง จะทำตัวตามสบายอย่างนั้นไม่ได้ นี่ยังไม่รวมถึงการสอนให้คุณนายรับประทานอาหารด้วยมีดและส้อมอีกด้วย กว่าจะเดินทางได้ นัจก็ทั้งสนุกและเหนื่อยใจ เมืองนอกไม่ได้สวยงามน่าอยู่อย่างที่คุณนายนึก ที่ลอนดอนไม่มีตึกระฟ้าที่ทันสมัยอย่างที่ใครต่อใครพูดกัน อาคารเก่าทึมๆ กับบรรยากาศที่มัวซัว ทำให้คุณนายคิดถึงบ้าน ยิ่งต้องเดินกันทั้งวี่ทั้งวัน คุณนายก็รู้สึกลำบากลำบนกับเสื้อผ้าหนาเตอะ ถุงน่องที่คันตัวยิบๆ แล้วยังรองเท้าที่ทั้งบีบทั้งกัด

ยังดีว่านัจเตรียมข้าวสวยกึ่งสำเร็จรูปที่เติมน้ำร้อนอย่างเดียวก็พร้อมรับประทาน กับน้ำพริกสารพัดชนิดมาด้วย ไม่งั้นกว่าจะเดินทางกลับ นัจคงต้องประคับประคองคุณนายลำไยซึ่งรับประทานอาหารฝรั่งไม่ได้เลย กลับบ้านแน่นอน ในคณะทัวร์มีสาวสวย เก๋ ท่าทางปราดเปรียว ร่วมเดินทางมาด้วย เธอชื่อเทวิกา แต่ชอบให้ใครๆ เรียกว่า “วิว” วิวจบปริญญาตรีจากอเมริกา และเดินทางมาร่วมกับคณะทัวร์ยุโรปก่อนกลับบ้าน คุณนายลำไยบอกว่าวิวอยู่ในกลุ่มของพวก “ผู้ดีมีเงิน” คำพูดและกิริยาท่าทางของเธอที่ชอบโอ้อวด ข่มคนอื่นอย่างไม่เกรงใจ ชอบฉีกหน้าคนอื่นเสมอ ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนในคณะทัวร์เลย นัจมองวิวแล้วนึกขยาด เธอไม่อยากร่วมสังคมกับ “ผู้ดีมีเงิน” เหล่านี้เลย สายตาของวิวที่มองเธอกับแม่อย่างสมเพชปนดูถูก ทำให้นัจกลัวและเบื่อ “ผู้ดีมีเงิน” ขึ้นมาทันที เธอคิดว่าถ้าเหล่าผู้ดีมีเงินเป็นแบบนี้กันหมด เธอขออยู่อย่างสาวบ้านนอกอย่างนี้จะดีกว่า วันหนึ่งนัจกับคุณนายงดไปทัวร์ลอนดอน 1 วัน เพราะนัจตั้งใจจะซื้อของตามที่อาจารย์สุวิมล อาจารย์ของเธอที่มหาวิทยาลัยฝากมา นัจพาคุณนายเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เมื่อถึงบริเวณซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าใหญ่ นัจมองหาร้านที่ระบุมา ก็หาไม่เจอ คุณนายเดินจนเหนื่อยบ่นแล้วบ่นอีก นัจก็ยิ่งกังวลจนคุณนายตัดสินใจเดินไปถามชายคนหนึ่งที่ยืนรอรถประจำทางอยู่ หน้าตาท่าทางของเขาไม่เหมือนคนไทยเลยสักนิด

ขณะที่คุณนายยืนยันว่าเป็นคนไทยแน่นอน คุณนายลำไยเดินจ้ำไปหาชายหนุ่มผู้นั้นอย่างรวดเร็ว นัจยืนงงว่าทำไมคุณนายจึงแน่ใจนักว่าเป็นคนไทย กว่าจะหายงงคุณนายก็ไปเจรจากับเขาเสียแล้ว นัจวิ่งตามไปทันที แล้วเธอก็ต้องนิ่งอีกครั้ง เมื่อได้ยินเขาตอบคุณนายลำไยเป็นภาษาไทยชัดเจน คุณนายจัดการแนะนำตัวเอง และนัจเสร็จเรียบร้อย เขาจึงบอกว่าเขาชื่อ สันติธร มาเรียนอยู่ที่ลอนดอนนี้ 10 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คุยกัน แม้หลายสิ่งหลายอย่างจะบอกว่าเขาเป็นพวก “ผู้ดีมีเงิน” แต่นัจก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะมีกิริยาอย่างเทวิกาเลยสักนิด เขาสุภาพ พูดจาดี แถมยังใจดีโดยจะพาเธอกับคุณนายเดินไปร้านหนังสือที่ต้องการเสียอีก หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว นัจกับคุณนายลำไยก็ลาสันติธร และตามเคย ตามนิสัยของคุณนาย นางก็บอกที่อยู่กับเขาอีก โดยบอกให้ไปถามหานางได้ที่ตำบลบ้านนางแมว นครปฐม รับรองว่าใครๆก็รู้จักนาง แล้วนางจะดูแลเขาอย่างดี นัจอายมาก แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือ สันติธรไม่ได้มีท่าทางว่าจะดูถูกอย่างไร ไม่มีแม้สีหน้ารำคาญ ทั้งที่เขาเสียสละกับนัจและแม่ค่อนข้างจะนาน เธอเห็นเขายิ้มอย่างเต็มใจ สีหน้าพอใจกับท่าทางจริงใจของคุณนายลำไยมากกว่า ทั้งคู่แยกกันไม่นาน ก็ต้องมาเจอกันอีกในร้านอาหารจีนใกล้ๆ กันนั่นเอง เนื่องจากเป็นตอนเที่ยงพอดี คนจึงเต็มทุกโต๊ะ สันติธรซึ่งมาก่อนและได้ที่นั่งแล้ว จึงชวนคุณนายกับนัจนั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน สันติธรมองหน้าสาวน้อยหน้าใสอย่างนัจอย่างเอ็นดู นัจเป็นคนสวยที่สวยโดยเนื้อแท้จริงๆ เธอแทบไม่ต้องแต่งหน้าเลย จากร้านอาหาร คราวนี้ได้แยกกันจริงๆเสียที

นัจพาคุณนายกลับโรงแรม นัจเห็นเทวิกานั่งคุยแจ๋วๆกับผู้ชายคนหนึ่ง แม้เธอจะเห็นเพียงด้านหลังของเขาแต่เธอก็จำได้ว่าเป็นสันติธร และราวกับเขามีตาหลัง เพราะเขาหันมามองเธอ แล้วลุกขึ้นเดินมาหาเธอกับคุณนายโดยไม่ลืมจะขอโทษเทวิกาเสียก่อน คุณนายทักสันติธรอย่างคนรู้จักคุ้นเคยมานาน จนเทวิกาหน้าบึ้ง คอแข็ง เมื่อเห็นสันติธรสนใจกับ “พวกบ้านนอก” มากกว่าเธอ เมื่อถึงเวลาเดินทาง สันติธรก็ยังมายืนส่งที่ฟุตบาทหน้าโรงแรม นัจไม่แน่ใจว่าเขามาส่งเธอกับแม่หรือส่งเทวิกากันแน่ เพราะสายตาของเขาที่มองสบตาเธอนั้น ไม่ได้เหลียวมองเทวิกาเลยสักนิด แม้เจ้าหล่อนจะเดินขึ้นรถบัสคันใหญ่ตามหลังเธอมานั่นเอง เทวิกาเดินเชิดคอปั้นปึ่งไปนั่งอย่างกับเจ้าหญิง เธอเมินหน้าหนีสันติธรอย่างตั้งใจ แต่เขากลับไม่สนใจ สันติธรโบกมือให้นัจราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ที่ตำบลบ้านนางแมว นัจกับคุณนายลำไยกลับมามีชีวิตที่ปกติเหมือนเดิม นัจจบการศึกษาชั้น ปวส. เป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล แล้วขณะนี้นัจกำลังเรียนภาคค่ำที่วิทยาลัยครูในจังหวัด เพื่อจะได้สำเร็จปริญญาตรี นัจใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะประจำตัวเหมือนสาวๆทั่วไปแถบนี้ แต่นัจก็คล่องตัว เธอขี่จักรยานและขับรถได้ด้วย

ลิขิตหัวใจ

สิทธิพงศ์ เด็กกำพร้าที่ถูก สิทธิชัย และภรรยา นฤมล นักธุรกิจนำเข้ารถยนต์แถวหน้าของเมืองไทยขอมาเลี้ยง ทั้งสองรักสิทธิพงศ์เท่ากับ สิทธิกร ลูกแท้ๆ ของตนเอง แต่เมื่อวันหนึ่งที่สิทธิกรรู้ความจริงว่าสิทธิพงศ์ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ความรักก็กลายเป็นความอิจฉาที่พ่อแม่รักสิทธิพงศ์มากกว่าตนเอง สิทธิกรไม่เคยยอมแพ้สิทธิพงศ์ เมื่อรู้ว่าสิทธิพงศ์สามารถเข้ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ได้จึงขอไปเรียนต่อที่อังกฤษพร้อม พัชรา แฟนสาวซึ่งเป็นลูกสาวของ รมต.พิษณุ และคุณหญิงพรรณิภา ซึ่งที่จริงแล้วตามไปเพื่อควบคุมสิทธิกร เพราะสิทธิกรเป็นคนเจ้าชู้ สิทธิพงศ์คบหากับ เกวลิน เลขาฯ ของสิทธิชัย แต่ก็ต้องถูกกีดกันจาก เกศิณี แม่ผู้ยึดติดกับวัตถุเงินตรา เพราะรู้ว่าสิทธิพงศ์ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของสิทธิชัย เธอต้องการให้ลูกสาวจับผู้ชายรวยๆ เพื่อที่เธอจะได้สบายไปทั้งชาติ เกวลินโดนแม่กดดันให้จับสิทธิชัย ถึงแม้จะไม่ได้รักแต่ความกตัญญูเธอจึงยอมตามใจแม่จนมีพันธะลึกซึ้งกัน ในขณะที่สิทธิชัยก็เป็นทุกข์เมื่อรู้ว่ากำลังแย่งคนรักของลูกชาย สิทธิพงศ์ก็ได้รู้ความจริงเมื่อเขาเห็นภาพพ่อกอดจูบกับเกวลินอย่างดูดดื่มในบ้าน สิทธิพงศ์เสียใจมากเมื่อกลายเป็นคนโง่โดนคนที่รักถึงสองคนหลอกลวง เขากินเหล้าเมาหัวราน้ำและตั้งใจจะหนีความเจ็บปวดไปให้ไกล โดยโทรหา นุกูล เพื่อนรักที่ย้ายตามครอบครัวไปทำธุรกิจทัวร์อยู่แถบทะเลอันดามัน แต่ พิตาภรณ์ ไกด์ที่บริษัททัวร์ของนุกูลเป็นคนรับสายจึงได้ปะทะคารมกัน พิตาภรณ์เป็นลูกสาวของ พิทวัส เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่กำลังขาดทุน แต่พิทวัสก็ไม่เคยบอกให้ลูกสาวรู้ สิทธิพงศ์และ วรรณรดา เพื่อนรักของพิตาภรณ์ เดินทางไปในเที่ยวบินเดียวกัน เมื่อถึงสนามบินสิทธิพงศ์เดินชนกับพิตาภรณ์ เธอก็ต้องเสียความรู้สึกเมื่อสิทธิพงศ์ไม่ยอมขอโทษ แถมยังพูดจาประชดประชันเธออีก ด้านวรรณรดาได้พบกับนุกูลเธอรู้สึกว่ารักเขาตั้งแต่แรกพบ นุกูลก็รู้สึกถูกชะตากับเธอมากเช่นกัน พิตาภรณ์ถูกนุกูลขอร้องให้เป็นไกด์พาสิทธิพงศ์ไปเที่ยว แม้ทั้งคู่ดูจะเกลียดชังกัน แต่ภายในกลับซ่อนความรู้สึกพิเศษไว้ในใจ สิทธิพงศ์ยังคงกินเหล้าเมามายโดยมีพิตาภรณ์คอยดูแลและให้สติ แต่ทั้งคู่ยังคงปากแข็งทำให้วรรณรดาและนุกูลต้องเข้ามาช่วย ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นไปอย่างราบรื่น และความรักของทั้งสองก็งอกงามเมื่อต่างเปิดใจให้กันโดยไร้ทิฐิ ที่กรุงเทพฯ สิทธิชัยแต่งงานกับเกวลิน สิทธิกรกลับมาในวันแต่งงานของพ่อ และแสดงท่าทางรังเกียจเกวลินอย่างชัดเจน เพราะกลัวว่าเกวลินจะหวังในทรัพย์สมบัติของพ่อตนเอง พิทวัสกำลังประสบปัญหาหนี้สินรุมเร้า แต่เขาไม่ยอมให้พิตาภรณ์เผชิญกับความลำบากโดยเด็ดขาด จึงตัดสินใจบากหน้าไปหาเกศิณีภรรยาเก่าและเกวลินลูกสาว เกศิณีดูถูกและซ้ำเติมแต่พิทวัสก็อ้อนวอนให้เกศิณีดูแลพิตาภรณ์หากเขาตายไป เกวลินเข้ามาได้ยินทั้งสองคุยกันและรู้ว่าพิทวัสเป็นพ่อของตนเองจึงแสดงท่าทางรังเกียจ พิทวัสเจ็บปวดและช็อกจนเสียชีวิตกะทันหัน พิตาภรณ์กลับมางานศพพ่อและเธอก็ได้รู้ว่าเกศิณีเคยเป็นภรรยาเก่าของพ่อ และเกวลินด่าว่าพ่อของเธอในงาน พิตาภรณ์ก็ได้เผชิญหน้ากับทั้งสองคนในงานศพ และยอมไม่ได้เมื่อเกศิณีและเกวลินด่าว่าพ่อของเธอในงาน สิทธิพงศ์มาในงานศพและเขาก็ต้องตกใจที่ได้พบกับเกวลิน ความจริงทุกอย่างเปิดเผยเมื่อเกวลินรู้ว่าพิตาภรณ์คืนแฟนใหม่ของสิทธิพงศ์ เธอจึงคิดทำลายความรักของทั้งสองคนโดยที่มีสิทธิกรเป็นเครื่องมือ เนื่องจากสิทธิกรพอใจในตัวพิตาภรณ์ เกวลินจึงยั่วยุให้สิทธิพงศ์หึงหวงเมื่อสิทธิกรทำตัวสนิทสนมกับพิตาภรณ์ ทำให้ทั้งสองคนไม่เข้าใจกัน ในขณะที่บ้านและทรัพย์สินของพิตาภรณ์ถูกยึดเธอจึงต้องออกไปอยู่บ้านเช่า และได้พบ ปรีดา และกุ๊กไก่ ลูกสาวของเขา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ดีคอยช่วยเหลือเธอ สิทธิพงศ์พยายามเข้ามาช่วยเหลือพิตาภรณ์ แต่กลับเห็นความสนิทสนมของพิตาภรณ์และปรีดาทำให้เขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ความรักที่ดูจะห่างเหินของสิทธิพงศ์ก็ได้รับการเยียวยาจากเด็กหญิงกุ๊กไก่ ที่คอยทำตัวเป็นกามเทพให้ทั้งสองคนเข้าใจกันดีอีกครั้ง โดยมีวรรณรดาและนุกูลคอยช่วยอีกแรง สิทธิพงศ์จึงสารภาพความในใจและขอพิตาภรณ์แต่งงาน เกวลินรู้เรื่องก็ขัดขวางโดยวางยานอนหลับและจัดฉากว่าได้เสียกับสิทธิพงศ์แล้ว แต่สิทธิกรรู้ทันเกวลินว่าเป็นคนวางแผนจึงตบหน้าและสั่งห้ามทำอีก ไม่เช่นนั้นจะต้องกระเด็นออกมาจากบ้าน เกวลินอับอายแต่ก็ไม่อยากกลายเป็นคนแพ้จึงสารภาพให้ทุกคนตายใจ ก่อนถึงวันแต่งงานของสิทธิพงศ์และพิตาภรณ์ สิทธิกรได้ลักพาตัวพิตาภรณ์ไปหมายปลุกปล้ำ เกวลินและมือปืนตามมาจะชิงตัวพิตาภรณ์ไปฆ่า จึงเกิดการต่อสู้กันตำรวจตามาจับตายมือปืนและควบคุมตัวเกวลินไปดำเนินคดี เกวลินสำนึกผิดสารภาพและฝากให้พิตาภรณ์ช่วยดูแลเกศิณีแม่ของเธอด้วย พิตาภรณ์รับปากแล้วในที่สุดก็ได้แต่งงานกับสิทธิพงศ์
รายชื่อนักแสดง ลิขิตหัวใจ
ภาณุ สุวรรณโณ รับบท สิทธิพงศ์ ( เอส )
วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบท พิตาภรณ์ ( พลอย )
บวรพจน์ ใจกันทา รับบท สิทธิกร
เกวลิน คอตแลนด์ รับบท เกวลิน
ดนัย สมุทรโคจร รับบท นุกูล
ปาลิตา โกศลศักดิ์ รับบท พัชรา
นวนันท์ อโนมา รับบท วรรณรดา
มนตรี เจนอักษร รับบท สิทธิชัย
ปภัสรา เตชะไพบูลย์ รับบท เกศิณี

รุกฆาต

3 ปีผ่านไป…นับตั้งแต่การสลายลงของอาณาจักรราชสีห์ แผ่นดินเมืองพลแห่งอีสานสงบสุขอีกครั้งกัลป์ (ณัฐวุฒิ สะกิดใจ) กับ อัญชัญ (วรนุช วงษ์สวรรค์) เตรียมจัดพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายแต่สมฐานะและความรักที่ทั้งสองมีให้กัน เพลิง (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) กับ ตะเภา (ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์) ต่างดื่มด่ำไปกับความรักและความเข้าใจ ขณะที่ องอาจ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) และ กระรอก (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) พร้อมจะสร้างครอบครัวอันอบอุ่นและจริงใจ หากแต่เมฆหมอกแห่งความเลวร้ายกำลังก่อตัวขึ้นใหม่…โดยไม่มีใครรู้ตัว

รากนครา

รากนครา

พ.ศ. 2427 ณ ดินแดนหัวเมืองเหนือของประเทศสยาม เจ้าศุขวงศ์ เจ้านายหัวเมืองประเทศราชเล็กๆ ได้เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดหลังจากที่ไปเติบโตและรับราชการที่กรุงเทพฯ เพื่อมารับหน้าที่ช่วยในการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองเหนือ ศุขวงศ์ต้องเดินทางไปเชียงเงิน เพื่อร่วมงานศพของเจ้าอุปราชสิงห์คำ ในฐานะที่เป็นเครือญาติกัน ที่นั้น ศุขวงศ์ได้พบปะพูดคุยและเกิดความพอใจเจ้าแม้นเมือง ธิดาของเจ้าหลวงแสนอินทะ หญิงสาวผู้ยึดมั่นรักแผ่นดินและมีอุดมการณ์ตามความใฝ่ฝันของบรรพบุรุษที่ต้องการให้เชียงเงินได้เป็นเอกราชจากสยาม แม้นเมืองมีพี่ชายร่วมอุทรที่เติบโตมาด้วยกันและรักใคร่กันยิ่งนักชื่อ เจ้าหน่อเมือง และมีน้องสาวต่างแม่ชื่อ เจ้ามิ่งหล้า ซึ่งถึงแม้จะมีศักดิ์เป็นน้องแต่ได้รับการเลี้ยงดูในฐานะราชธิดาที่สูงกว่าเนื่องจากมารดาของมิ่งหล้า เจ้านางข่ายคำเป็นเจ้านางหลวงคนปัจจุบัน มิ่งหล้าเกิดความรู้สึกอิจฉาริษยาเมื่อเห็นว่าศุขวงศ์สนใจแม้นเมือง จึงวางอุบายดึงศุขวงศ์มาใกล้ชิดตนพร้อมใส่ไฟให้แม้นเมืองเข้าใจผิด ทำให้แม้นเมืองแม้จะหวั่นไหวมีใจกับศุขวงศ์แต่ก็ต้องเก็บงำความรู้สึกไว้ในใจ

เจ้าหลวงแสนอินทะวางแผนการเพื่อถ่วงดุลอำนาจสยามและเมืองมัณฑ์ด้วยการส่งตัวมิ่งหล้าไปเป็นบรรณาการถวายกษัตริย์เมืองมัณฑ์ มิ่งหล้าจึงขอร้องให้ศุขวงศ์ช่วยพาหนีออกจากขบวน ซึ่งศุขวงศ์ก็รับปากช่วยส่วนหนึ่งด้วยความรู้สึกน้อยใจแม้นเมือง ที่เห็นหน้าที่สำคัญกว่าหัวใจ มิ่งหล้าบังคับให้แม้นเมืองสาบานด้วยถ้อยคำสาหัสว่าจะไม่แพร่งพรายแผนการ แต่แม้นเมืองก็จำต้องผิดคำสาบานเพื่อเชียงเงิน เจ้าหลวงแสนอินทะและหน่อเมืองวางแผนซ้อนกลศุขวงศ์ด้วยการสลับตัวให้หลงไปรับแม้นเมืองออกจากขบวน ศุขวงศ์จึงต้องตกกระไดพลอยโจนแต่งงานกับแม้นเมือง ตามแผนการผูกพันกับญาติให้ตายใจ และมิ่งหล้าถูกส่งไปเมืองมัณฑ์ตามแผนเดิม

แม้นเมืองมาอาศัยอยู่กับศุขวงศ์และเจ้าย่าเรือนคำ แม้จะมีความทุกข์ในใจที่ผิดคำสาบาน ทั้งยังเข้าใจผิดว่าศุขวงศ์รักมิ่งหล้า แต่ทั้งสองก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขฉันสามีภรรยา จนแม้นเมืองตั้งครรภ์ ในขณะที่มิ่งหล้าที่ไปอยู่เมืองมัณฑ์กลับมีแผนทะเยอทะยานที่จะมีพระหน่อกับกษัตริย์ จนถูกเจ้านางหลวงปัทมสุดาผู้โหดเหี้ยมลงโทษและทรมานปางตาย ฟองจันทร์บริวารของแม้นเมืองซึ่งติดตามไปอยู่กับมิ่งหล้าหนีกลับมาขอความช่วยเหลือ เป็นเหตุให้ศุขวงศ์กับแม้นเมืองต้องหมางเมินใจกันด้วยความเข้าใจผิดว่าต่างฝ่ายต่างไม่รักกัน จนกระทั่งแม้นเมืองคลอดลูกเป็นชายชื่อไศลรัตน์หรือภูแก้ว

ศุขวงศ์ไปช่วยพามิ่งหล้าหนีกลับมา เพื่อไม่ให้เชียงเงินมีข้ออ้างในการประกาศเอกราชจากสยาม และอนาคตต้องตกไปเป็นเมืองขึ้นอังกฤษเหมือนเมืองมัณฑ์ และยังขโมยอาวุธทำลายแผนการประกาศอิสรภาพของเชียงเงิน ทำให้หน่อเมืองโกรธแค้นมาก หน่อเมืองวางแผนล้างแค้นศุขวงศ์ด้วยการขอร้องให้แม้นเมืองช่วยล่อลวงศุขวงศ์มาให้ฆ่า แม้นเมืองจึงยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องชายที่รักและชดใช้ให้แก่แผ่นดิน

นักแสดงละคร รากนครา

ดนุพร ปุณณกันต์ แสดงเป็น เจ้าศุขวงศ์
พัชราภา ไชยเชื้อ แสดงเป็น เจ้านางแม้นเมือง
วรนุช ภิรมย์ภักดี แสดงเป็น เจ้านางมิ่งหล้า
สหภาพ วีระฆามินทร์ แสดงเป็น เจ้าหน่อเมือง
ชไมพร จตุรภุช แสดงเป็น เจ้านางปัทมสุดา

รักเต็มร้อย

นักแสดงละคร รักเต็มร้อย

เขตต์ ฐานทัพ
วรนุช วงษ์สวรรค์
วีรยุทธ รสโอชา
ปวีณา ชารีฟสกุล
อรรถชัย อนันตเมฆ
ปิยะดา เพ็ญจินดา
สุรัตนา ข้องตระกูล
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย
มิวธวัช ชื่นทรวง
กวินนา สุวรรณประทีป
ภาคภูมิ เจซาดาล

รหัสริษยา

พาไล ทายาทคนเดียวของ เอกภพ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าของธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ชื่อดัง ต้องสูญเสียทรัพย์สินทุกอย่าง เมื่อเอกภพและ รัชนี พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมทั้งถูกกล่าวหาว่าเป็นข้าราชการคอรัปชั่น รสิกา ป้าของเธอได้เข้ายึดกิจการทั้งหมดรวมทั้งบ้านที่พาไลอาศัยอยู่ โดยอ้างว่าพ่อของพาไลกู้หนี้ยืมสินจำนวนมหาศาลจากรสิกาไว้ก่อนเสียชีวิต พาไลกลายเป็นลูกจ้างและผู้อาศัยในบริษัทและบ้านของตัวเอง โดนทั้งรสิกาและหลานสาว จันทร์แจรง โขกสับ แต่พาไลก็ไม่ท้อเธอเชื่อว่าการตายของพ่อแม่เป็นฝีมือของรสิกาและ นพ.สรศักดิ์ ที่ร่วมมือกันนำเข้ายาอันตรายจากต่างประเทศ และพยายามให้สินบนเอกภพให้เข้าร่วมขบวนการด้วย แต่เอกภพไม่ยอมร่วมมือรวมทั้งทำการตรวจสอบระงับการสั่งเข้า ทำความเสียหายกับรสิกาและนพ.สรศักดิ์ เป็นอย่างมาก รสิกาและนพ.สรศักดิ์จึงจัดการขั้นเด็ดขาด โดยการสั่งเก็บพ่อและแม่พาไลก่อนเรื่องชั่วร้ายจะฉาวโฉ่ออกมา และยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของพาไลด้วยการปลอมเอกสารให้ทุกอย่างกลายมาเป็น ของตัวเอง หลังจากเปลี่ยนฐานะมาเป็นผู้อาศัยในบ้าน จันทร์แจรงยิ่งเล่นงานพาไลอย่างหนักถึงขนาดไล่พาไลให้ไปนอนห้องคนใช้ และขู่ว่าจะเฉดหัวไล่พาไลออกจากบ้านวันไหนก็ได้ พาไลเก็บความแค้นไว้แน่นอกสัญญากับตัวเองว่าเธอจะต้องได้ทุกอย่างคืนมา ไม่ว่าจะเป็นเงินทองรวมทั้งเกียรติยศของพ่อที่เสียหายในข้อหาคอรัปชั่น โดยมี ธนากร แฟนหนุ่มที่คบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยคอยช่วยเหลือ ธนากรเป็นทนายฝีมือดีอยู่กับแม่ชื่อ แกมแก้ว ส่วนจันทร์แจรงมีคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานคือ ศิวา นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง และเป็นลูกชายคนเดียวของนพ.สรศักดิ์ พาไลทำการติดต่อกับต่างประเทศด้ๆ ทำให้ พาไลได้หลักฐานเรื่องการซื้อขายยาผิดกฎหมายของนพ.สรศักดิ์และรสิกา โดยพาไลได้นำข้อมูลที่ได้เก็บไว้ในเวปไซด์แห่งหนึ่ง และคนที่เปิดเข้าไปดูข้อมูลนี้ได้จะต้องมี รหัสผ่าน ที่พาไลตั้งไว้ว่า ENVY หรือ ริษยา แล้วแผนการของพาไลก็เริ่มขึ้น เธอต้องการแก้แค้นคนสามคนคือ รสิกา, นพ.สรศักดิ์ และจันทร์แจรง เธอปรึกษากับธนากร จึงได้รู้ว่าธนากรก็มีความแค้นกับนพ.สรศักดิ์เหมือนกัน เพราะพ่อของเขาขัดผลประโยชน์กับนพ.สรศักดิ์และถูกฆ่าตาย โดยกฎหมายทำอะไรไม่ได้ พาไลบอกธนากรว่าเธอจะเป็นคนเรียกร้องความยุติธรรมให้เอง พาไลบุกไปหาศิวาที่บริษัทบังคับให้ศิวาจดทะเบียนแต่งงานกับเธอ ไม่เช่นนั้นเธอจะแฉข้อมูลลับที่เปิดเผยความผิดของนพ.สรศักดิ์ผู้เป็นพ่อของ ศิวา ซึ่งถ้าเรื่องราวเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่รับรองว่า ดารณี แม่ของศิวาที่ป่วยเป็นโรคหัวใจคงรับไม่ได้แน่ว่าสามีที่เธออยู่ด้วยตลอด ชีวิต ทำความผิดมากมายและเป็นฆาตกรฆ่าคน แม้ว่าศิวาจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ก็จำใจจดทะเบียนกับพาไล โดยมีเงื่อนไขว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นความลับระหว่างเธอกับเขาเท่านั้น รวมทั้งจะไม่มีพิธีแต่งงานเกิดขึ้น พาไลยินยอมและบอกว่าเมื่อถึงเวลาอันสมควร เธอจะให้ รหัสผ่าน แก่ศิวา พาไลยื่นใบลาออกจากบริษัท รสิกาและจันทร์แจรงสะใจคิดว่าพาไลยอมแพ้ราบคาบ แต่พาไลยังให้ มีนา เลขาคนสนิทของเธออยู่ในบริษัทเพื่อส่งข่าวความเคลื่อนไหวของสองอาหลานให้เธอ รับรู้ตลอดเวลา ส่วนพาไลย้ายไปอยู่เรือนกล้วยไม้ภายในบ้านของศิวา โดยมี แป้ง คนรับใช้ผู้รู้ใจตามไปด้วย สองอาหลานยังเข้าใจว่าพาไลออกไปอยู่กับธนากร แม้ว่าพาไลจะทำใจกล้าเข้าไปอยู่ในบ้านของศิวา แต่ลึกๆ นั้นเธอก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เพราะศิวามีทีท่าดูถูกและรังเกียจเธออย่างออกนอกหน้า แถม ประกาศว่าเมื่อเธอเข้ามาอยู่ในบ้านก็ต้องทำตัวให้เป็นเมียที่สมบูรณ์แบบ นั่นหมายความว่านอกจากพาไลจะเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเกมการแก้แค้นครั้งนี้แล้ว เธอต้องเอาความเป็นลูกผู้หญิงมาเสี่ยงกับชายหนุ่มเช่นศิวาด้วย ศิวาคอยตก่อกวนเล่นแง่กับพาไลและทวงสิทธิ์ความเป็นสามี แต่พาไลก็มีแป้งคอยคุมเชิงและช่วยเหลือให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของศิวา แต่ศิวาแก้เกมด้วยการให้ ต๋อย คนขับรถคนสนิทมาแยกแป้งออกไป แต่พาไลก็รอดตัวแทบทุกครั้ง พาไลให้มีนาหาหลักฐานรายชื่อพยานจากคดีการตายของพ่อแม่พาไล โดยให้ไปขอความร่วมมือจาก หมวดวีรกร เพื่อนของธนากร ทำให้มีนากับหมวดวีรกรเริ่มสนิทกันมากขึ้น ศิวาพยายามปกปิดความสัมพันธ์ของเขากับพาไลไม่ให้จันทร์แจรงรู้ แต่สุดท้ายจันทร์แจรงก็รู้จนได้ว่าพาไลมาอยู่ในบ้านของศิวาในฐานะภรรยาที่ ถูกต้องตามกฎหมาย จันทร์แจรงโมโหมากทั้งคู่ปะทะตบตีกัน จันทร์แจรงเสียใจจนป่วยมีอาการของโรคหัวใจ รสิกาบีบบังคับให้ศิวาแต่งงานกับจันทร์แจรง โดยให้ดารณีเป็นคนบังคับ ศิวาปฏิเสธและบอกแม่ว่าพาไลกำลังตั้งท้อง ยิ่งทำให้รสิกาและจันทร์แจรงโมโหมาก รสิกาติดต่อให้ ประเมิน ( แมน ) ลูกน้องเก่าไปทำร้ายพาไลเพื่อให้แท้งลูกให้ได้ แมนไม่อยากทำเพราะเคยฆ่าคนตายมาแล้วมากมาย และแมนเป็นคนตัดสายเบรกรถทำให้พ่อแม่ของพาไลประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามกันต่อในละคร รหัสริษยา

รายชื่อนักแสดง รหัสริษยา

ภัทรพล ศิลปาจารย์ รับบท ศิวา

วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบท พาไล

กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์ รับบท ธนากร

อาริษา วิลล์ รับบท จันทร์แจรง

ธีรวีร์ อัศวศิริชัยกุล รับบท วีรกร

สุธัญญา สาริมาน รับบท มีนา

สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์ รับบท รสิกา

ภัทรา ธิวานนท์ รับบท ดารณี

ตฤณ เศรษฐโชค รับบท นพ.สรศักดิ์

แม่อายสะอื้น

แม่อายสะอื้น เป็นเรื่องราวของ ดาวนิล สาวสวยที่สุดของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย มีความสามารถด้านการฟ้อนดาบเพราะ คำปัน พ่อของดาวนิลเป็นพ่อครูด้านการแสดงศิลปะล้านนา ดาวนิลสามารถฟ้อนดาบได้เป็นที่ เลื่องลือ ในขณะที่ช่อเอื้อง น้องสาวตีกลองสะบัดชัยได้เก่งไม่แพ้ใคร แต่เพราะความเก่ง ทำให้คณะของคำปันมีปัญหากับหนานเมือง เพื่อนบ้านที่ต้องการแย่งงานแสดง ในขณะที่ รินคำ ลูกสาวหนานเมือง อิจฉาความสวยของดาวนิลที่ ทอน ลูกชายผู้ใหญ่มาหลงรัก รินคำพยายามหาทางกลั่นแกล้งแต่ดาวนิลก็ ปกป้องพ่อและน้องไว้ทุกครั้ง คืนหนึ่ง ดาวนิลได้ไปแสดงในงานเปิดรีสอร์ทใหญ่ และเจอกับ ทรงพล เจ้าของโรงแรม ที่ชื่นชมความเก่งของดาวนิล ดาวนิลหวั่นไหวกับรอยยิ้มของทรงพล แต่ทรงพลไม่ได้สนใจเพราะมีคนรักคือ จิดาภา อยู่แล้ว คำปัน เริ่มตาฟาง เมื่อดาวนิลพาไปตรวจ ก็รู้ว่าพ่อเป็นต้อหิน หมอบอกว่าต้องรีบรักษา ก่อนที่ตาจะตาบอดเฉียบพลัน ดาวนิลพยายามหางานเพิ่ม แต่ อ้ายศักดิ์ นายหน้าหางาน ก็ฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำ ดาวนิลไม่ยอมและทำร้ายอ้ายศักดิ์เพื่อป้องกันตัว หนานเมืองจึงฉวยโอกาสรวมหัวกับอ้ายศักดิ์ จนคณะคำปันไม่มีงานแสดงอีก ดาวนิลไม่ยอมแพ้ ลงมาหางานในเมือง จึงได้เจอทรงพลที่มาติดต่อธุรกิจ แต่ดาวนิลก็อายความจนของตัวเอง ได้แต่มองทรงพลเดินจากไปอีกครั้ง วิไล ที่กลับมาเยี่ยม ป้าบัว ผู้เป็นแม่แม่ รู้เรื่องดาวนิลต้องการทำงาน ก็ชวนดาวนิลเข้ากรุงเทพ ดาวนิลยังลังเลเพราะกลัวไม่มีคนดูแลพ่อ แต่สุดท้ายก็ต้องลาพ่อทั้งน้ำตาเพราะไม่อาจทนดูดายให้พ่อตาบอดได้ ดาวนิลโดนเพื่อนรักอย่างวิไลหลอกมาขายตัวโดยวางยานอนหลับ ดาวนิลไม่อยากขายศักดิ์ศรีจึงคิดกลับบ้าน วิไลเกลี้ยกล่อมโดยอ้างให้เห็นแก่ดวงตาของพ่อ ดาวนิลจำใจทำงานต่อ ด้วยความตั้งใจว่าได้เงินครบเมื่อไหร่ จะกลับบ้านทันที ทรงพลอยากแต่งงานกับจิดาภา แต่ สาวน้อย แม่นมเก่าแก่ของตระกูลไม่พอใจที่ จิดาภา เย่อหยิ่ง หัวสูงเกินไป เทวัญ พี่ชายทรงพลกับ ทรงวุฒิ น้องชาย พยายามช่วย แต่ก็แพ้สาวน้อยที่ขัดขวางความรักของทรงพลทุกทาง จนในที่สุด จิดาภาก็ทิ้งทรงพลไป ทรงพลเสียใจมาก ทรงวุฒิ พาพี่ชายไปปลอบใจที่อาบอบนวด ดาวนิลได้เจอทรงพลอีกครั้ง แต่ในสภาพน่าอับอายกว่าเดิม ดาวนิลพยายามหนี แต่ทรงพลเมามาย จำดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลยอมเป็นของทรงพลด้วยความเต็มใจ ดาวนิลที่รวบรวมเงินได้ครบ กำลังจะกลับบ้าน แต่เกิดแพ้ท้อง วิไลบังคับให้ดาวนิลไปทำแท้ง แต่ ตำรวจทลายคลีนิคเถื่อน ดาวนิลถูกพาส่งโรงพยาบาล หมอเทวัญช่วยชีวิตและเตือนสติดาวนิล ดาวนิลพรั่งพรูว่าไม่ต้องการทำลายชีวิตลูกที่เกิดจากความรัก เทวัญเห็นใจดาวนิล จึงพามาอาศัยอยู่กับ คุณนายติ๊ด เจ้าของร้านเสื้อ คุณนายติ๊ดคิดว่า ดาวนิลอาจจะเป็นเมียลับของเทวัญ จึงรับไว้ทำงาน หวังเอาหน้าแต่พอรู้ความจริงว่าดาวนิลเป็นแค่คนไข้ คุณนายติ๊ดกับ ผึ้ง ลูกน้องในร้านก็โขกสับใช้งานจนดาวนิลคลอดก่อนกำหนด ลูกออกมาขาพิการ คุณนายติ๊ดยื่นคำขาดให้ดาวนิลเอาลูกไปเลี้ยงที่อื่น ดาวนิลจะกลับบ้าน แต่คุณนายติ๊ดขู่จะทวงเงินค่าซ่อมแซมร้านที่เสียหายเพราะดาวนิลคลอดลูกจาก เทวัญ ดาวนิลกลัวเทวัญเดือดร้อนไปด้วย จึงคิดเอาลูกไปฝากที่แม่อาย และรับปากว่าจะมาทำงานใช้หนี้ให้ ดาวนิลกลับมาแม่อายท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ที่มีเด็กมาด้วย ช่อเอื้องเถียงแทนทันทีว่าไม่ใช่ลูกดาวนิล ดาวนิลกดดันมากที่พ่อถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยาม จึงตัดสินใจโกหกทุกคนว่า เป็นลูกของเพื่อนที่ตายไป คำปันดีใจที่ลูกกลับบ้าน ช่อเอื้องไม่อยากให้พี่กลับไปกรุงเทพอีก ดาวนิลฝาก กลอง ลูกชายไว้ และสัญญาว่าทำงานใช้หนี้คุณนายติ๊ดครบเมื่อไหร่ จะรีบกลับมาแม่อาย ดาวนิลก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่ความสวยของดาวนิลสะดุดตา หลิวหลิว สไตลิสท์ จนชักนำไปถ่ายแบบและเล่นหนัง คุณนายติ๊ดเยาะเย้ยและด่าว่า จนดาวนิลออกมาจากร้านคุณนายติ๊ด ดาวนิล อดทนทำงานจนได้เล่นหนังวีซีดี และได้ถ่ายแบบสปาของโรงแรมทรงพลที่กระบี่ ดาวนิลดีใจที่ได้เจอทรงพลในฐานะใหม่ ทรงพลประทับใจความขยันและความอ่อนโยนของดาวนิล จนเกิดเป็นความรัก ดาวนิลกำลังจะได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่วันหนึ่งเมื่อคุณนายติ๊ดมาเจอดาวนิลในกองถ่าย ด้วยความแค้น คุณนายติ๊ดจึงแฉเรื่องที่ดาวนิลมีลูกมาก่อน หลิวหลิวไม่ยอมสนับสนุนดาวนิลต่อ ดาวนิลโดนดูถูก จนคิดดันตัวเองเพื่อลบล้างคำสบประมาทของทุกคน ดาวนิลได้เป็นนางเอกและหลงในความสุขสบาย และความรักที่มีกับทรงพล จนลืมอีกสามชีวิตที่แม่อาย คำปันเฝ้ารอคอยลูกด้วยความหวัง แต่สุดท้ายลูกสาวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ช่อเอื้องเสียใจที่ดาวนิลทิ้งพี่ทิ้งน้อง ตาของคำปันเริ่มมืดลง ช่อเอื้องดิ้นรนดูแลพ่อทุกทาง แต่ในที่สุดคำปันก็ตาบอดสนิท หลายปีผ่านไป ดาวนิลเป็นนางเอกดัง ทรงพลคิดเรื่องแต่งงานด้วยความมั่นใจในตัวดาวนิล จึงพาดาวนิลไปที่บ้านเพื่อรู้จักกับสาวน้อย แต่คนที่ดาวนิลเจอกลับเป็น เทวัญ เทวัญทำเป็นไม่รู้จักดาวนิล ทั้งที่เสียใจว่าผู้หญิงที่ตัวเองแอบรักกลายมาเป็นแฟนของน้องชาย ช่อเอื้องเห็นข่าวดาวนิลในทีวี ก็มาตามพี่ โดยอาศัยอยู่ที่ร้าน น้ามาลัย ญาติของ วรรณา เพื่อนสนิท ที่สถานีโทรทัศน์ ดาวนิลนัดเทวัญมาคุยเรื่องความลับ ช่อเอื้องมาดักรออยู่แล้ว แต่ดาวนิลไม่กล้า ยอมรับว่าช่อเอื้องเป็นน้อง เพราะมีนักข่าวอยู่ด้วย ช่อเอื้องผิดหวังมาก วิ่งหนีไม่ทันระวัง จึงชนเข้ากับรถของเทวัญ ที่โรงพยาบาลช่อเอื้องรู้ว่าดาวนิลเป็นคนรักของทรงพล น้องชายเทวัญ ช่อเอื้องโกรธที่ดาวนิลลืมความเป็นพี่เป็นน้อง จึงออกปากขออาศัยอยู่กับเทวัญ ดาวนิลพยายามห้าม แต่ช่อเอื้องบอกว่าเธอจะอยู่ จนกว่าดาวนิลจะยอมรับกับทุกคนว่า เธอคือน้องที่มาจากแม่อาย ดาวนิลกลืนไม่เข้า คายไม่ออกเมื่อสาวน้อยเอ็นดูช่อเอื้อง ที่เป็นเพียงคนงานในบ้าน สาวน้อยเห็นความผิดปกติของดาวนิลกับช่อเอื้อง แต่สองพี่น้องก็ไม่ยอมพูด เทวัญเตือนให้ดาวนิลบอกความจริง แต่ดาวนิลกลัวจะเสียทรงพลไป สาวน้อยจับผิดว่าดาวนิลกับเทวัญดูมีความสนิทสนมกัน จึงบอกกับทรงพล ทรงพลเริ่มระแวง ช่อเอื้องอยากกลับบ้าน สาวน้อยสงสาร จึงให้ไปรับพ่อกับหลานมาอยู่ด้วย ดาวนิลยิ่งเครียดหนักเมื่อ เจอพ่อที่ตาบอดและลูกชายที่ขาพิการพร้อมหน้า ดาวนิลทุกข์ทรมานกับความผิดที่ทิ้งพ่อกับลูกจนฆ่าตัวตาย แต่หลิวหลิวมาช่วยไว้ทัน ดาว นิลไม่ยอมบอกทรงพลว่าอยากตายเพราะเรื่องอะไร เทวัญโกรธที่ดาวนิลไม่ยอมรับความจริง ทรงพลมองความผิดปกติของพี่ชายกับคนรักด้วยความสงสัยมากขึ้นทุกที คำปันได้ยินทุกคนเรียกชื่อ ดาวนิล ก็ดีใจว่าอาจจะเป็นลูกสาวของตัว แต่ช่อเอื้องกลัวพ่อเสียใจ ก็จำต้องโกหกพ่อไปว่า ไม่ใช่พี่ดาวนิลของเรา ทรงวุฒิสนใจช่อเอื้อง แต่ช่อเอื้องไม่เล่นด้วย ทรงวุฒิจึงออกอุบายจะพาช่อเอื้องลงไปโรงแรมที่กระบี่ ทรงพลตามลงไปเรื่องงานและพาดาวนิลไปด้วย โดยไม่รู้ว่าเทวัญพักผ่อนอยู่ที่นั่นแล้ว ในงานเลี้ยงของโรงแรม ช่อเอื้องขึ้นตีกลองสะบัดชัยและร้องเพลงกระทบใจดาวนิล ดาวนิลกดดันอย่างหนัก วิ่งลงทะเลหวังให้จมน้ำตาย แต่เทวัญมาช่วยไว้ ทรงพลเข้าใจผิดจนเกิดการโต้เถียงและปลุกปล้ำดาวนิล รุ่งเช้าทรงพลรู้ว่าตัวเองผิดจึงขอหมั้น และวาดหวังเรื่องอนาคตไว้อย่างสวยงาม ดาวนิลที่กำลังจะพูดความจริงเรื่องพ่อ ก็ต้องเงียบไปอีก ทรงพลกลับมาบอกเรื่องหมั้น สาวน้อยไม่ยอมรับ หลิวหลิวเอาข่าวไปขยาย พอหนังสือพิมพ์ลง คุณนายติ๊ดริษยาดาวนิล จึงยุยงจิดาภาที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกว่า ทรงพลกำลังโดนดาวนิลหลอก คุณนายติ๊ดมาแฉความจริงเรื่องดาวนิลมีลูก โดยอ้างถึงเทวัญ เทวัญปฏิเสธเพื่อช่วยดาวนิล คุณนายติ๊ดกับจิดาภาต้องถอยกลับไปตั้งหลัก สาวน้อยพยายามเตือนให้ทรงพลฟังหูไว้หู แต่ทรงพลตัดปัญหาด้วยการประกาศจะแต่งงานกับดาวนิล ช่อเอื้องเสียใจมากที่ ดาวนิล ปิดบังความจริงเรื่องลูกอีกเรื่อง ดาวนิลอับจนหนทาง เมื่อเรื่องมัดตัวแน่นขึ้นและทางออกตีบตัน จึงทำได้แค่แอบมาหาพ่อบ่อย ๆ คำปันพูดคุย ปลอบโยนดาวนิล โดยไม่รู้เลยว่าเป็นลูกสาวที่ตัวเองเฝ้ารอคอย คุณนายติ๊ดหาหลักฐานมาแฉได้ว่าดาวนิลเป็นพี่น้องกับช่อเอื้อง ดาวนิลคิดว่าทุกอย่างคงจบสิ้น แต่ช่อเอื้องปฏิเสธต่อหน้าทุกคนว่าผู้หญิงสกปรกอย่างดาวนิลไม่ใช่พี่ดาวนิล ผู้งดงามของเธอ ดาวนิลปวดร้าวที่น้องไม่ยอมรับ ช่อเอื้องเจอวิไลก่อนจะกลับแม่อาย วิไลบอกความจริงเรื่องสุดท้ายว่าดาวนิลมีลูกจากการขายตัว ช่อเอื้องแทบล้ม ดาวนิลร้องไห้ ขอร้องน้องว่าอย่าบอกพ่อ เพราะกลัวพ่อเสียใจ วิไลถูกซื้อตัวจากคุณนายติ๊ดเพื่อแฉดาวนิล แต่วิไลกลับตัวในวินาทีสุดท้าย ดาวนิลจึงรอดพ้นจากการถูกประจานกลางกองถ่าย แต่ทรงพลที่ได้ยินวิไลคุยกับช่อเอื้องเรื่องลูก ก็เข้าใจว่าดาวนิลเคยท้องกับพี่ชายตัวเองมาก่อน ทรงพลมาคาดคั้นเอาความจริงเรื่องลูก ดาวนิลร้องไห้ บอกความจริงทั้งน้ำตาว่า กลองคือลูกของทรงพล ทุกคนตกตะลึง ทรงพลรับไม่ได้ หนีไปทันที สาวน้อยเป็นลม ช่อเอื้องทั้งสงสารทั้งเกลียดชังพี่ตัวเองที่ปิดบังทุกอย่าง ดาวนิลบอกว่าการเป็นแค่ดาวนิล ลูกพ่อครูคำปันในคณะรำไม่มีค่า มีความหมายสำหรับชีวิตที่นี่เพราะเธอโดนดูถูก โดนเหยียดหยามมาตลอด สองพี่น้องโต้เถียงกันโดยไม่รู้เลยว่า คำปันแอบได้ยินทุกคำพูดด้วยหัวใจที่แตกสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวทั้งสองคนโกหกตนมาตลอดเวลา คำปันหนีออกไปกับกลองด้วยใจที่เจ็บช้ำ ดาวนิลช็อคนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล ช่อเอื้องกับทรงวุฒิพยายามตามหาคำปัน แต่ไม่พบ เทวัญมาเตือนสติทรงพลที่กระบี่ คำปันถูกพากลับมาแม่อายในสภาพจิตใจบอบช้ำ และเพ้อถึงดาวนิล จนตายในอ้อมกอดช่อเอื้อง ดาวนิลฟื้นขึ้นมาเจอทรงพล แต่ทรงพลทำใจให้อภัยกับความผิดของดาวนิลไม่ได้ ดาวนิลเสียใจมาก ที่อดทนมาทุกอย่าง แต่ทรงพลกลับไม่ยอมรับ ดาวนิลหมดสติไปอีกครั้ง และฟื้นมาในวันสวดศพพ่อวันสุดท้าย หลิวหลิวตัดสินใจบอกเรื่องคำปัน ดาวนิลไม่เชื่อว่าพ่อจะตาย แต่พอมาถึงแม่อาย ภาพโลงศพของพ่อทำให้ดาวนิลร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ดาวนิลแหวกฝูงชนเข้าไปรถขนศพ ทุกคนรังเกียจ พากันสาปแช่งขบวนแห่ศพเคลื่อนไปโดยไม่มีใครสนใจ ปล่อยให้ดาวนิลทรุดลงสะอื้นอยู่ตามลำพัง ที่หน้าเมรุ ช่อเอื้องตีกลองสะบัดชัยหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ดาวนิลเดินมาพร้อมดาบสิบสองเล่มในมือ ดาวนิลกราบหน้ารูปพ่อ ขอให้พ่ออภัย ก่อนจะฟ้อนดาบอย่างงดงามหาใครเหมือน ทรงพลมองดาวนิลแล้วหยิบแหวนหมั้นออกมามอง คิดให้อภัยและหวังจะสร้างครอบครัวกับดาวนิล ดาวนิลรำมาจนถึงท่าสีไคล ก่อนจะใช้ดาบปาดคอตัวเองตายลงต่อหน้ารูปพ่อ ทุกคนตกตะลึง ช่อเอื้องร้องไห้ กอดพี่ว่าอย่าทิ้งเธอไปอีก ดาวนิลสิ้นใจตายในอ้อมกอดของน้อง สามเณรกลองน้ำตาไหล บอกกับทรงพลว่า โยมพ่อช่วยปิดตาโยมแม่ด้วย

ละคร แม่อายสะอื้น นำแสดงโดย

1. วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบทเป็น ดาวนิล

2. วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ทรงพล

3. สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา รับบทเป็น ช่อเอื้อง

4. พลวัฒน์ มนูประเสริฐ รับบทเป็น เทวัญ

5. สุประวัติ ปัทมสูต รับบทเป็น คำปัน

6. จุรี โอศิริ รับบทเป็น สาวน้อย

7. ถนอม นวลอนันต์ รับบทเป็น หนานเมือง

8. เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ รับบทเป็น ป้าบัว