Tag Archives: มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล

หัวใจลัดฟ้า

ไหม สาวเปิ่นจอมซุ่มซ่ามผู้ขังตัวเองไว้ในโลกแห่งหนังสือแตกต่างจากวัยรุ่นโดย ทั่วไป ที่คลั่งไคล้ แฟชั่น และดารา ไหมทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งโดยมีเพื่อนสนิทคือ หมวยเล็ก และพี่หวอ ผู้จัดการฝึกหัดของร้านที่แอบรักไหมอยู่ข้างเดียวชีวิตของไหมคงจะดำเนินไป อย่างเรียบง่าย ถ้าหากหมวยเล็กเพื่อนซี้ไม่เกิดแจ็คพอตแตกได้รับรางวัลไปพบซูเปอร์สตาร์คิม จีซก ขวัญใจชาวไทยและเกาหลี ถึงประเทศเกาหลีเลยทีเดียว ไหมในฐานะที่มีส่วนช่วยหมวยเล็กจึงได้ร่วมทางไปในครั้งนี้ด้วย แต่ก่อนไหมจะไปเกาหลีก็ถูก น้ำฝน ลูกแม่เลี้ยงแกล้งจนเกือบตกเครื่องบิน ที่ประเทศเกาหลีไหมพลัดจากกรุ๊ปทัวร์ เธอจึงตัดสินใจไปยังวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการอธิษฐานแห่งเมืองชูชอน แต่ดันถูกโจรปล้นชิงทรัพย์ ระหว่างนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งมาช่วยไว้โดยที่ไหมไม่รู้ว่าคือ คิม จีซก ซึ่งไหมเรียกติดปากว่า กิมจิ คิม จีซกเดินทางมาที่วัดเพื่อมาอธิษฐานขอให้แม่ที่กำลังป่วยหนักของตน ทีแรกไหมตั้งใจว่าจะขอให้ตนได้พบคู่แท้ ที่จะทำให้ชีวิตตนพ้นจากความอ้างว้างเสียที แต่เมื่อรู้เรื่องแม่ของจีซกเข้า ไหมจึงอธิษฐานให้กับแม่ของจีซก การกระทำของไหมในครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับจีซกเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจอธิษคืนในสิ่งที่ไหมต้องการ เย็นนั้นทั้งคู่พลาดรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่กลับโซล จึงค้างคืนร่วมกันที่โรงแรมเล็กๆ ความรู้สึกดีๆ ได้เกิดขึ้นในใจของทั้งคู่อย่างเงียบๆ ก่อนจากกันทั้งคู่แลกเปลี่ยนเครื่องลาง รวมทั้งอีเมลซึ่งกันและกัน จีซกกลับมาถึงโซลก็ทราบข่าวร้ายเรื่องแม่ของเขาอาการทรุดหนักลงกว่าเดิม ในขณะที่ไหมเดินทางกลับเมืองไทยไป ทั้งคู่ต่างทำที่อยู่ของอีกฝ่ายสูญหายโดยไม่ตั้งใจ หลังจากไหมกลับมาเมืองไทยระยะหนึ่งก็ยังไม่เห็นจีซกติดต่อกลับมา ทำให้ไหมรู้สึกเริ่มท้อใจ ประกอบกับการได้งานทำใหม่ในบริษัทโฆษณาทำให้ชีวิตของไหมต้องวุ่นวายอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรไหมก็ไม่เคยลืมจีซก จนกระทั่งวันหนึ่งไหมต้องไปส่งลูกค้าที่สนามบิน และได้พบจีซกอย่างไม่คาดฝัน จีซกเดินทางมายังเมืองไทยเพื่อตามหาพ่อ ซึ่งทอดทิ้งแม่ไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เขาต้องการให้พ่อกลับไปหาแม่อีกครั้งตามคำสัญญาก่อนวาระสุดท้ายของแม่ที่จะ มาถึง ไหมสัญญาว่าจะตามหาพ่อช่วยจีซกสุดความสามารถ โดยที่จีซกไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ ไหมจึงพาไปพักกับพี่หวอ การมาถึงของจีซกทำให้พี่หวอเจ็บช้ำใจมาก แต่ก็ต้องให้ความร่วมมือแต่โดยดี ทั้งที่ไม่รู้ว่าจีซกคือใคร จีซกกับไหมใช้เวลาตามหาพ่ออยู่ช่วงสั้นๆ ในเมืองไทย จนไหมได้ที่อยู่มาในที่สุด แต่จู่ ๆ จูลี่ผู้จัดการของจีซกก็มาตามตัวจีซก และยกกองถ่ายตามมาเมืองไทยโดยประสานงานกับโปรดัคชั่นเฮาส์อง บี ซึ่งเป็นเจ้านายของไหมที่ทำงานอยู่ ในที่สุดไหมก็ได้รู้ความจริงว่ากิมจิคือ จีซก สร้างความตกใจและความผิดหวังให้กับไหมมาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่หยุดชะงักลง เพระาสถานะที่แตกต่างกันของจีซกและไหม ไหมหลีกเลี่ยงที่จะพบหน้าจีซก แต่ก็ยังรักษาสัญญาโดยช่วยตามหาที่อยู่ของพ่อให้แก่เขา จนได้พบกับย่าน้อย ซึ่งเป็นย่าของจีซก แต่ย่าน้อยไม่ต้อนรับ และขับไสไล่ส่งไหมด้วยความเกลียดชัง สร้างความประหลาดใจให้ไหมเป็นอย่างยิ่ง ถึงที่มาที่ไปของเกี่ยวกับอดีตของพ่อและแม่จีซก จีซกพยายามปรับความเข้าใจกับไหม แต่ก็พบแต่ที่อยู่ที่ไหมทิ้งไว้ให้ ในวันที่วุ่นวายของการถ่ายทำโฆษณา จีซกตัดสินใจลักพาตัวไหมออกจากออฟฟิสเพื่อเดินทางไปยังบ้านย่าน้อย แต่กลับได้พบกับคำตอบที่น่าตกใจ นั่นคือ ธาดา พ่อของจีซกได้เสียชีวิตไปร่วม 20 ปีแล้ว หลังจากได้รับข่าวร้ายแล้วทั้งสองตัดสินใจไม่กลับกรุงเทพฯ แต่กลับหนีไปอยู่ด้วยกันที่ริมทะเลแห่งหนึ่ง คืนนั้นไหมปลอบใจจีซกทำให้จีซกรู้สึกดีขึ้น แต่โชคร้ายที่คืนนั้นทั้งคู่ถูกจับตาโดยนักข่าวคู่อริของจีซกชื่อ ภูชิต เรื่องราวของหนุ่มซูเปอร์สตาร์กับสาวเดินดินจึงกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง จีซกและไหมถูกสั่งให้เก็บตัวอยู่ในเซฟเฮาส์เพื่อซ่อนตัวจากนักข่าว ไหมตัดสินใจพาจีซกกลับไปที่บ้านย่าน้อย และทำให้ย่าน้อยยอมเปิดประตูให้แก่ทั้งคู่ในที่สุด ทั้ง คู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านสวนของคุณย่าน้อยระยะหนึ่ง ไหมใช้เวลาช่วงนี้ประสานรอยร้าวระหว่างย่าหลานจนทั้งคู่เข้าใจกันดี ขณะที่จูลี่กำลังจัดการเคลียร์ข่าวอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างไหมและจีซกกลายเป็นความรัก ทั้งสองต่างยอมรับในความรักระหว่างกันและกัน แต่แล้วจูลี่ก็สั่งให้จีซกกลับไปเพื่อสยบข่าวรักของจีซกและไหม จึงต้องมีการสร้างข่าวรักโปรโมทโดยการส่ง โซเฟีย คู่รักโปรโมทมายังเมืองไทย ทั้งคู่ร่วมโปรโมทภาพยนตร์เรื่องใหม่ด้วยกัน การมาของโซเฟียทำให้ความรักความมั่นใจในตัวจีซกของไหมเริ่มคลอนแคลน แต่จีซกก็ยังยืนยันคำมั่นสัญญาของตน ทำให้ไหมสบายใจขึ้น โซเฟียถือโอกาสกีดกันความรักของไหมจริงๆ โดยใช้หน้าที่บังหน้า เพราะตนเองก็รักจีซกเช่นกัน การกระทำของโซเฟียทำให้ไหมท้อแท้ใจ และเริ่มถอยห่างออกไปอย่างเงียบๆ จีซกพยายามนัดเจอไหมเพื่อปรับความเข้าใจ แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปทุกครั้งไป จูลี่แจ้งข่าวร้ายกับเกี่ยวกับอาการของแม่ มิน ซุง แจ ที่ทรุดลงอย่างหนัก ทำให้จีซกต้องรีบบินกลับเกาหลีโดยด่วน จีซกตัดสินใจชวนไหมไปพบแม่ของตนก่อนสิ้นใจ แต่ไหมไม่ยอมลงมาพบ จีซกฝากตั๋วไว้กับพี่หวอเผื่อว่าไหมเปลี่ยนใจ ไหมเสียใจจึงตัดสินใจไปพบกับย่าน้อย ย่าน้อยเล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับพ่อของจีซกให้ไหมฟังและให้ไหมตัดสินใจ ตามที่หัวใจของตนเองต้องการ ไหมตัดสินใจไปเกาหลี ไหมและจีซกได้พบกันอีกครั้งทั้งคู่รีบไปพบแม่ของจีซกที่กำลังจะสิ้นใจ ไหมเล่าความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับธาดาพ่อของจีซกที่พยายามทุกวิถีทางที่จะ กลับมาหาแม่จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ทำให้แม่เศร้าใจในการรอคอยมาร่วมยี่สิบปี เมื่อเข้าใจถึงความเข้าใจดังกล่าวแล้วแม่ของจีซกก็จากไปด้วยความสงบ จีซกและไหมนำอังคารของพ่อ และแม่ไปลอยอังคารร่วมกันเพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันไปชั่วนิรันดร์ เมื่องานศพแม่ผ้านพ้นไปเงินเปิดฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ แห่งปีที่แสดงโดย จีซก และโซเฟีย ที่ถูกจัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ไหมในวันนี้ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจอมหลงทางเหมือนก่อน แต่อยู่ในฐานะแฟนสาวของจีซกดาราซูเปอร์สตาร์ของเกาหลี แม้จะอึดอัด แต่ไหมก็ยอมทนเพื่อจีซก จีซกถูกผู้ใหญ่ตักเตือนเรื่องการเลือกคู่รักที่คู่ควร หากเลือกผิดอนาคตของจีซกจะต้อง ดับวูบลงทันที ไหมรู้สึกว่าตนเป็นเพียงคนธรรมดาไม่สามารถจะส่งเสริมให้จีซกไปถึงจุดสูงสุด ของความฝันได้ ไหมจึงตัดสินใจกลับเมืองไทยอย่างเงียบๆ โดยไม่ทันฟังคำตอบจากปากจีซกเอง เมื่อจีซกรู้ว่าไหมหายไป ก็หุนหันออกตามหา จูลี่เตือนให้คิดดีๆ ถึงเวลาแล้วที่จีซก ต้องเลือกระหว่างชื่อเสียง และความรัก

รายชื่อนักแสดง หัวใจลัดฟ้า
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รับบท คิม จี ซก
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบท ไหมไทย
ไพลิน พิจิตอำพล รับบท หมวยเล็ก
รุ่งนภา พงษ์ทิพย์สุคนธ์ รับบท โซเฟีย
ธวัช ทัศนาพลพินิจ รับบท หวอ
ชมพูนุช ปิยะภาณี รับบท น้ำฝน
พิศมัย วิไลศักดิ์ รับบท ย่าน้อย
ปิยะ เศวตพิกุล รับบท จูลี่ จาง

ร่ายริษยา

ร่ายริษยาอินทัช นักแต่งเพลงชื่อดังถูกสั่งพักงาน เพราะเขาระเบิดอารมณ์ใส่ลูกค้า ในขณะที่ ทำนุ และ อำภา ผู้เป็นพ่อแม่ ก็เร่งรัดให้แต่งงานกับ มุกริน เธอจึงแนะนำให้อินทัชไปพักสมองที่ แทนรัก รีสอร์ท เพราะเป็นสถานที่สำหรับฟื้นฟูจิตใจ โดยมี แพรใจ เป็นผู้บริหารกิจการอยู่ เมื่ออินทัชได้ใกล้ชิดกับแพรใจ จึงทำให้ทั้งสองคนรักกัน ความรักของทั้งคู่จะไปด้วยดี หากไม่มี พันทวี ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าของเอเจนซี่ชื่อดัง และ นพดล ผู้ช่วยของแพรใจ ที่ ปวีร์ กับ เบญจา พ่อและแม่ของหญิงสาวให้การอุปการะตั้งแต่เล็ก คอยสร้างความแคลงใจให้กับทั้งคู่

           ชีวิตรักของอินทัชไม่ได้ราบรื่นดังที่คิด เพราะทำนุและอำภาไม่ยินดีต้อนรับสะใภ้ไร้สกุลอย่างแพรใจ ยิ่งไปกว่านั้น มุกริน ที่หลงรักอินทัชก็ทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดแพรใจ หลังจากงานหมั้นของแพรใจผ่านไป พันทวี ก็กลับมาสานต่อสัมพันธภาพ ทำให้มุกรินมีเรื่องใส่ร้ายแพรใจ ความรักของอินทัชกับแพรใจเริ่มเปราะบาง เมื่ออินทัชต้อง   มาดูแลการแต่งเพลงให้ ปาลิตา ลูกสาวของ ปยุต และ    ลักษณา เจ้าของธุรกิจ “พรีเชียส จิวเวลรี่” ที่โด่งดังทางภาคใต้ ที่เพิ่งจบมาจากต่างประเทศ ทำให้แพรใจจำได้ว่าปาลิตา คือ คู่ปรับเก่าของตนตอนสมัยเรียน

เมื่อปาลิตารู้ว่าแพรใจ คือ มารความรักของเธอ แถมยังเคยเป็นคู่อริในวัยเด็ก ยิ่งพยายามทำทุกวิถีทางที่จะได้อินทัชมาครอบครอง จนอินทัชก็แอบหลงเสน่ห์และจริตของปาลิตา ทำให้มีปากเสียงกับแพรใจอย่างรุนแรง ปาลิตาวางแผนจะกำจัดแพรใจ แต่แพรใจไม่ได้ตายไปอย่างที่ปาลิตาคิด เธอได้รับความช่วยเหลือจาก เดวิด ชาง นักธุรกิจชาวสิงคโปร์

           เมื่อรู้ว่าแพรใจ คือ ลูกสาวคนเดียวของปวีร์ เขาสั่งให้ มาดามซู ผู้เป็นภรรยากำชับให้ แม่บ้านฮวง และพ่อบ้านหวาง ดูแลแพรใจเป็นอย่างดี เพราะปวีร์เคยช่วยชีวิตเขาไว้จากการถูกปยุตจับถ่วงทะเล และเขาก็ได้ตอบแทนปวีร์ด้วยการยกเกาะแทนรักไว้ให้ดูแลเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เดวิด ชาง และมาดามซู รับเธอเป็นบุตรบุญธรรมและชุบชีวิตใหม่ให้เธอและหล่อหลอมเธอด้วยแรงแค้น โดยให้ นิกกี้ คอยคุ้มกันแพรใจอย่างใกล้ชิด แพรใจจึงมีชีวิตใหม่ในฐานะลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังนามว่า แพททีเซีย ชาง

การกลับมาของแพรใจสร้างความดีใจให้กับเบญจาและนพดลไม่น้อย แต่ก็เสียใจที่เธอแปรเปลี่ยนไป มุ่งแก้แค้นในสิ่งที่ตนโดนกระทำมา แพททีเซีย จะเป็นผู้บริหาร แทนรัก รีสอร์ท แทนแพรใจผู้บริหารคนเก่าที่ได้ตายไปแล้ว หนึ่งปีผ่านไปอินทัชยังรักแพรใจไม่เสื่อมคลาย แต่ในที่สุดอินทัชก็ต้องตัดสินใจหมั้นกับปาลิตา ส่วนมุกรินโดนปาลิตาสั่งห้ามเธอยุ่งกับอินทัช หากขัดขืนก็จะมีจุดจบเยี่ยงแพรใจ ด้วยความกลัวมุกรินจึงเปิดใจรับรักจากพันทวี อินทัชเกือบจะลืมแพรใจไปแล้ว ถ้าหากเขาไม่ได้พบกับแพททีเซียทายาทมหาเศรษฐีชาวสิงคโปร์ที่มีหน้าตาคล้าย แพรใจในงานเปิดตัวโครงการ “แพททีเซีย จิวเวลรี่”

           แผนการแก้แค้นของแพททีเซีย เริ่มดำเนินไปได้อย่างสวยงาม ก่อนกลับเมืองไทยเธอให้สมุนสืบความเป็นไปของคนที่มีส่วนทำให้ความรักของเธอ กับ    อินทัชขาดสะบั้น แพททีเซียจ้างมุกรินให้เป็นหัวหน้านำทีม  ถ่ายโฆษณาให้กับ “แพททีเซีย จิวเวลรี่” เป็นการให้บทเรียนกับมุกริน งานของมุกรินจึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก และแล้วพันทวีก็มีโอกาสได้พบกับแพททีเซียโดยบังเอิญ พันทวีแทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับแพร แต่หลังจากนั้นพันทวีก็กลายเป็นแขกคนสำคัญของแพททีเซีย    ในฐานะเอเจนซี่เป็นเหตุให้มุกรินกับพันทวีมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง

ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมจึงทำให้อินทัชมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง กับแพททีเซีย ยิ่งทำให้ปาลิตาโกรธแค้นมากขึ้น เธอจึงขอเร่งการแต่งงานระหว่างเธอกับ

           อินทัชให้เร็วที่สุด แต่เมื่อเธอปะทะคารมกับแพททีเซียอย่าง รุนแรงแล้ว อินทัชจึงขอเลื่อนการแต่งงานระหว่างเธอกับเขาออกไปอีก ปาลิตาถูกมรสุมข่าวโจมตีว่าเป็นดาราขาวีน ปยุตเมื่อเห็นข่าวฉาวของปาลิตาจึงรีบบินขึ้นมาเยี่ยม ทำให้ปาลิตาได้รู้ว่าแพททีเซียและเดวิด ชาง นั้น คือ ศัตรูทั้งของพ่อและของเธอ เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรต้องติดตามในละคร ร่ายริษยา

นักแสดงละคร ร่ายริษยา :

– อธิชาติ ชุมนานนท์  …  อินทัช
– เข็มอัปสร สิริสุขะ  …  แพรใจ / แพ็ททีเซีย
– พรชิตา ณ สงขลา  …  ปาลิตา
– มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล  …  มุกริน
– โกสินทร์ ราชกรม  …  พันทวี
– สถาพร นาควิลัย  …  เดวิด ชาง
– ชนานา นุตาคม  …  มาดามซู
– พศิน เรืองวุฒิ  …  นพดล
– ปัญญาพล เดชสงค์  …  นิกกี้
– กลศ อัทธเสรี  …  ปยุต
– วิยะดา โกมารกุล ณ นคร  …  ลักษณา
– วัชระ ปานเอี่ยม  …  ทำนุ
– เพ็ญพักตร์ ศิริกุล  …  เบญจา
– กัลยา เลิศเกษมทรัพย์  …  ดวงกมล (เจ๊ดวง)

รังนกบนปลายไม้

ณ ชุมชนแออัดแห่งหนึ่งริมทางรถไฟชานเมืองกรุงเทพฯ เหมือนธาร หญิงสาววัย 21 ปี อาศัยอยู่กับ ตาสมบุญ และยายดวง และน้องสาวชื่อ หมายทิพย์ ครอบครัวของเหมือนธารอยู่ได้ด้วยเงินบำนาญของยาย และการทำงานไปเรียนไปของเหมือนธาร จนกระทั่งยายดวงประสบอุบัติเหตุหัวฟาดพื้นนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ภาระหนักจึงตกแก่เหมือนธารคนเดียว เพราะตาสมบุญพิการขาเป๋เอาแต่ดื่มเหล้าทั้งวัน

ส่วนหมายทิพย์ก็เป็นเด็กใจแตกหนีเรียนบ่อยๆ ส่วนพ่อแม่ของเหมือนธารและหมายทิพย์ก็ทิ้งไปตั้งแต่ทั้งคู่ยังเด็ก ไม่เคยส่งข่าวกลับมานับสิบปี เหมือนธารเจอนายจ้างเอาเปรียบอยู่เรื่อยจนต้องเปลี่ยนงานไปบ่อยๆ จนได้มาเจอกับ ฉม เซลส์แมนหนุ่มที่ต่อสู้ชีวิตอย่างหนักเหมือนกัน เหมือนธารไม่ชอบความกะล่อนของฉม แต่ต้องเจอกันบ่อยๆ เพราะเรียนรามฯ ที่เดียวกัน แถมยังมีขายของในชุมชนที่เธออยู่เป็นประจำ

เหมือนธารได้งานเป็นคนสวนแบบเช้าไปเย็นกลับในบ้านเศรษฐีชื่อ คุณพลัง มีภรรยาชื่อ คุณผกาศรี มีหลานชายชื่อ นิตินัย มีแม่บ้านจอมสอพลอชื่อ ป้าพวง คอยดูแลทุกอย่างในบ้านรวมทั้งเหมือนธารด้วย คุณพลังแม้จะอายุมากแต่ก็ชอบหาเศษหาเลยกับเหมือนธารบ่อยๆ ทำให้คุณผกาศรีหาเรื่องด่าเรื่องแกล้งเหมือนธารอยู่เป็นประจำ ส่วนนิตินัยก็เจ้าชู้ ชอบด่าหยาบๆ ใส่เหมือนธาร ทุกครั้งที่มีปัญหาเธอจะมานั่งกุมมือยาย

แล้วเล่าเรื่องดีๆ ที่แต่งขึ้นให้ยายฟังทุกวันเพื่อให้ยายสบายใจ ทั้งยังหวังว่ายายจะตื่นจากนิทรามารับรู้ได้เหมือนเดิม ฉมเห็นสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับเหมือนธารจนรู้สึกประทับใจในความเข้มแข็ง และแอบชอบอยู่เงียบๆ พยายามแวะเวียนมาหาและคอยช่วยเหลือตลอดจนกลายเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่เหมือนธารจับได้ว่าน้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน แม่คือ เหมือนฝัน ที่หายไปเกือบยี่สิบปีก็กลับมาอยู่ด้วย เหมือนธารรับความเห็นแก่ตัวไม่ได้จนไม่ยอมเรียกว่าแม่

ต่อมาเธอก็รู้ว่าน้องสามีความสัมพันธ์กับนิตินัยร่วมมือกันหลอกคุณพลัง แต่จะดุด่ายังไงน้องก็ไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยทำตัวเหลวแหลกเหมือนเดิม ฉมให้กำลังใจเหมือนธารด้วยการพาไปเที่ยวบ้านต่างจังหวัด ที่นั่นแม้จะยากจนก็อยู่กันอย่างมีความสุข ฉมเป็นเด็กกำพร้าอาศัยอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่เป็นชาวประมง ทำให้ฉมมีกำลังใจต่อสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนธารได้งานที่คลินิกของ หมอมหานที ซึ่งกลายเป็นป็อปปี้เลิฟของเหมือนธาร หมอมหานทีเองเป็นญาติกับครอบครัวคุณพลัง

ทำให้รับรู้เรื่องราวและปัญหาทุกอย่างของเหมือนธารเป็นอย่างดี ทุกอย่างดูเหมือนจะดีขึ้นเมื่อ ลุงเหมือนศักดิ์ กลับมาจากซาอุฯ พร้อมกับป้าสะใภ้ รัตนา ที่ร้ายกาจและเห็นแก่ตัวตีสองหน้าเก่ง ลุงหลงเมียเอามากๆ ขนาดประกาศขายบ้านเพื่อเอาเงินไปซื้อบ้านใหม่ให้รัตนา หมายทิพย์ก็มาท้องไม่มีพ่ออีกด้วย ความช่วยเหลือของหมอมหานทีกับฉมทำให้เหมือนธารผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้ จนเรียนจบปริญญาตรีและได้งานที่มูลนิธิแห่งหึ่ง

ซึ่งผู้บริหารเป็นเพื่อนกับหมอมหานทีชื่อ กงกัน กงกันใจดีให้ครอบครัวเหมือนธารย้ายมาอยู่บ้านที่ไม่มีใครอยู่อาศัย เมื่อได้บ้านใหม่ทุกคนก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านของกงกัน หมอมหานทีเหมือนธารจนเธอรู้สึกดีๆ กับหมอมหานทีมากขึ้นเรื่อยๆ ฉมน้อยใจเลยกลับไปอยู่บ้าน พอฉมไม่อยู่เหมือนธารก็เหมือนขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป จนไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง เหมือนธารรู้ว่าหมอมหานทีเคยมีภรรยาแล้ว แต่ภรรยาเสียไปเมื่อแต่งงานกันได้ปีเศษ

ภรรยาหมอมหานทีเป็นเพื่อนกับกงกัน หมอมหานทีเลยสนิทกับกงกันไปด้วย จริงๆ แล้วบ้านที่เหมือนธารอยู่เป็นบ้านของหมอมหานที ซึ่งคอยให้ความช่วยเหลือแต่ปกปิดไว้ เหมือนธารคิดว่าหมอมหานทีแอบรักตนจึงรู้สึกอึดอัด แต่เธอเริ่มแน่ใจว่าเธอไม่ได้รักหมอมหานทีแต่รักฉม เธอจึงตัดสินใจคุยกับหมอมหานทีจนได้รู้ว่าหมอมหานทีแอบรักกงกันอยู่ แต่ต้องการใกล้ชิดกับกงกันจึงใช้เธอเป็นสะพานคอยช่วยเหลือเธอ จนกงกันเข้าใจผิดไปเหมือนกัน

แม้จะแก้ปัญหาหมอมหานทีไปได้แล้ว แต่ยังติดเรื่องฉมกับหมายทิพย์ หมายทิพย์รักฉมเพราะฉมเป็นคนดี และรับปากจะเป็นพ่อของลูกในท้อง ทำให้หมายทิพย์ยึดฉมเป็นหลัก ที่บ้านของฉมประสบภัยพิบัติพายุพัดกระหน่ำ พ่อแม่เอาเรือพานักท่องเที่ยวออกทะเลจึงถูกพายุพัดเสียชีวิตทั้งสองคน หมายทิพย์กับเหมือนธารได้ข่าวจึงรีบไปปลอบใจ ฉมไม่ยอมกลับมากรุงเทพฯ เขาได้บวชอยู่ที่วัดเป็นเวลา 2 อาทิตย์ จนกระทั่งได้ข่าวว่ายายดวงเสียชีวิตจึงมาร่วมงานศพ

ฉมกับเหมือนธารจึงกลับมาสานสัมพันธ์รักกันใหม่ ส่วนหมายทิพย์ตัดใจไม่คิดแย่งของรักของพี่สาวที่ดีกับเธอมาตลอดชีวิต นิตินัยตั้งโต๊ะบอลและเป็นหนี้พนันมากมาย แต่ไม่ยอมใช้จึงถูกเจ้าหนี้ตามเก็บ พลังและผกาศรีรู้สึกผิดที่เลี้ยงหลานไม่ได้ดีจึงขอแก้ตัวใหม่กับเหลนที่เกิด กับหมายทิพย์ ทีแรกหมายทิพย์ไม่ยอมรับปู่ทวดและย่าทวด แต่เธอละทิฐิและยอมอภัยให้ทุกๆ คน ทั้งสองครอบครัวจึงกลับมาสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ช่วยกันดูแลลูกชายหมายทิพย์ให้เป็นคนดี

ไม่ให้เหมือนกับนิตินัยพ่อของเขา ส่วนเหมือนศักดิ์ถูกภรรยาหักหลังเชิดเงินขายบ้านไป จึงต้องเอาลูกที่เกิดกับรัตนาไปฝากตาสมบุญช่วยเลี้ยง ตัวเองบินไปทำงานที่ไต้หวัน รัตนาถูกนายหน้าหลอกเปิดร้านสปาแล้วเชิดเงินหนีจนตัวเธอไม่เหลืออะไรเลย ฉมหันมาทำงานเป็นนายหน้าขายประกัน และได้รับรางวัลเป็นนักขายดีเด่น เขามอบรางวัลนี้ให้กับเหมือนธาร ปลูกบ้านอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีแต่ความสุขกับหลานๆ ที่วิ่งเล่นไปมาอย่างอบอุ่นตั้งแต่นั้นมา

นักแสดงละคร รังนกบนปลายไม้

วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์  … ฉม
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล  … เหมือนธาร
หยาดทิพย์ ราชปาล  … หมายทิพย์
พัชฏะ นามปาน  … มหานที
โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว  … นิตินัย
เศรษฐา ศิระฉายา  … สมบุญ
อภิรดี ภวภูตานนท์  … เหมือนฝัน
สุเชาว์ พงษ์วิไล  … พลัง

พ่อมาลัยริมทาง

“คณะค่ายมวย ศ.ผดุงศักดิ์ ลูกเจ้าพระยา” ค่ายมวยเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อตั้งตั้งแต่สมัย ขุนผดุงศักดิ์ ข้าราชการสมัยรัชกาลที่เจ็ดเป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างขึ้น จนมาถึงรุ่น นาย เสริมศักดิ์ พร้อมเสริมชาติ ลูกชายและสุธินี ลูกสาว นายเสริมศักดิ์ หวังให้ เสริมชาติ สืบทอดเป็นเจ้าของค่ายมวยสืบไป แต่ เสริมชาติต้องทำให้พ่อผิดหวัง เพราะเขาเกิดมามีรูปร่างบอบบาง อ้อนแอ้นไม่สมกับเป็นเจ้าของค่ายมวย ผิดกับสุธินี ที่เป็นสาวห้าวชอบเรื่อง หมัด ๆ มวยๆ เสริมชาติมีจิตใจฝักใฝ่เรื่องงานศิลปะร้องรำทำเพลง และมักจะแอบพายเรือ ไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปดู “คณะพรนพรัตน์” หัดร้องรำและฝึกซ้อมลิเก

ฐานะค่ายมวย ศ.ผดุงศักดิ์ ตกต่ำจนนายเสริมศักดิ์ต้องนำที่นาไปจำนองกำนันชอุ่ม ระหว่างนั้นคณะลิเกของนายทวยเทพได้ต้อนรับ นายธำรง กับ คุณลลิตา และรุจิรางค์ ลูกสาวคนเดียวที่ประสบอุบัติเหตุจากการแข่งขันขี่ม้าทำให้เธอกลายเป็นโรค เกี่ยวกับสมองไม่สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ไปชั่วระยะหนึ่ง รุจิรางค์เป็นคนหงุดหงิดเจ้าอารมณ์คอยกราดเกรี้ยวใส่ทุกคน โดยเฉพาะเนตรดารา นางเอกลิเกวัยรุ่นที่หลงตัวเอง เสริมชาติ แอบหาเวลามาดูการฝึกซ้อม เขาพบรุจิรางค์นั่งอยู่บนศาลาริมน้ำบ้านนายทวยเทพ ชายหนุ่มเกิดความประทับใจในความงาม จึงแต่งกลอนลิเกร้องชมความงามของรุจิรางค์ แต่เธอกลับหงุดหงิดจึงต้องขับกลอนลิเกสัพยอกหยอกเย้าจนหญิงสาวสงบขึ้น เธอขอให้เสริมชาติช่วยถ่ายวีดีโอ บันทึกภาพขณะเธอร้องและร่ายรำเพลงไทยเดิม เพื่อว่าสักวันเธอพลิกฟื้นความทรงจำ เธอจะเก็บภาพพวกนี้ไว้เป็นที่ระลึก

ครั้งหนึ่งลิเกคณะพรนพรัตน์ขาดพระเอก เนตรดาราจึงแนะนำเสริมชาติ เสริมชาติจึงได้เล่นเป็นพระเอกลิเกและได้รับคำชมเป็นอย่างมาก นายเสริมศักดิ์รู้เข้าจึงเฆี่ยนตี และสั่งห้ามไม่ให้ไปบ้านนายทวยเทพอีก

ด้านรุจิรางค์ได้รับการฟื้นฟูทางสมองจนทบทวนเรื่องบางอย่างได้ดีขึ้น จึงขอให้พ่อกับแม่พาไปพักฟื้นยังบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝ่ายเสริมชาติเองยังคงต้องขึ้นเวทีชกมวยตามความต้องการของพ่อโดยไม่อาจหลีก เลี่ยง แต่นายเสริมศักดิ์กลับต้องกลุ้มใจมากขึ้นที่เสริมชาติชกมวยแพ้ทุกนัด อีกทั้งกำนันชอุ่มยังเร่งรัดเรื่องหนี้สินอีก ทำให้ในที่สุดสองพี่น้องตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านไปหางานทำใน กรุงเทพ ทั้งคู่ไปหารุจิรางค์ที่บ้านแต่ไม่เจอ จึงไปอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่ง ทำอาชีพหาเช้ากินค่ำ

เสริมชาติบังเอิญเจอเด็กแต๋น ลูกจ้างสาวซึ่งทำงานที่บ้านของรุจิรางค์ พลั้งปากเรื่องรุจิรางค์รักษาตัวหายเป็นปกติและกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เสริมชาติจึงหาทางเจอกับรุจิรางค์แต่เธอกลับจำสองพี่น้องไม่ได้ จากนั้นเสริมชาติเข้ามาอยู่คณะลิเกของนายชู จนรุจิรางค์ได้มาดูการแสดงของเสริมชาติ เธอเหมือนต้องมนต์ รู้สึกคุ้นกับกลอนและเสียงลิเกแต่เธอจำไม่ได้ ทำได้แต่แวะเวียนมาดูเสริมชาติเล่นลิเกเท่านั้น เสริมชาติได้เป็นพระเอกลิเกของคณะ “ตุ๊ดตู่สวรรค์” และถูกกิตติ อดีตพระเอกลิเก ไม่พอใจ เสริมชาติถูกหาว่าเป็นมือปืนโดนจับ ถูกกลั่นแกล้งจากเหล่านักโทษ แต่ก็ยังคงไม่เลิกเล่นลิเก ส่วนสุธินีเองยังคงชกมวยจนได้รับบาดเจ็บจนถูกส่งตัวเข้า รพ. ถิรนัย คนรักเก่าของรุจิรางค์รับว่าความให้เสริมชาติโดยมีข้อแม้ว่าหากว่าความชนะ รุจิรางค์จะต้องแต่งงานกับเขา ต่อมากิตติยอมรับผิด เสริมชาติพ้นโทษออกมา เสริมชาติทุ่มเทความสามารถดูแลหวังจะก่อตั้งลิเกของนายชูให้ก้าวหน้า ก่อนที่ลิเกของนายชูจะถึงกาลอวสาน มีคนติดต่อมาว่าเสริมชาติได้รับรางวัลเป็นคนดีของสังคมประจำปี ทำให้คนในสังคมต่างสนใจและเริ่มทยอยให้ความช่วยเหลือและหากเสริมชาติตัดใจ ยอมรับข้อเสนอจากสำนักพิมพ์ที่จะว่าจ้างเขาไปให้ข้อมูลเขาจะได้รับเงินค่า ตัวล่วงหน้าเป็นเงินก้อนใหญ่ เนตรดารารีบสนับสนุน เสริมชาติสับสนจนทำอะไรไม่ถูก นายชูเตือนสติให้คิดถึงอนาคตของตัวเองกับความอยู่รอดของครอบครัวเป็นอันดับ แรกแล้วไม่ต้องเป็นห่วงลิเกคณะตุ๊ดตู่สวรรค์ จนเนตรดาราต้องไปพบรุจิรางค์เพื่อขอร้องหญิงสาวไปช่วยเกลี้ยกล่อมเสริมชาติ ให้ยอมรับงาน

จอห์นผู้ทำสัญญาว่าจ้างลิเกคณะตู๊ดตู่สวรรค์แสดงโชว์ทั่วอเมริกา เกิดไอเดียจะให้เปลี่ยนการแสดงแบบฉบับลิเกไทยมาเป็นโลดโผนไปทางอนาจาร โดยที่ทางนายจ้างยินดีจะเพิ่มค่าตอบแทนให้เป็นเท่าตัวหรือตามที่เสริมชาติ ต้องการ แต่เสริมชาติยืนกรานไม่ขอทำ ก่อนที่เรื่องจะบานปลายเสริมชาติขอถอนตัวและเตรียมตัวจะเดินทางกลับ สตีเฟ่นก็สามารถติดต่อหาสปอนเซอร์รายการทีวี ซึ่งชื่นชมและยกย่องการแสดงรูปแบบไทยแท้ของลิเกไทย ยอมว่าจ้างลิเกคณะนี้แสดงในแอล.เอ.ต่อไปในอัตราค่าตอบแทนสูง สองหนุ่มสาวรวมทั้งทีมงานชาวลิเกคณะตุ๊ดตู่สวรรค์เปลี่ยนชื่อใหม่ว่าลิเกรวม พลังมิตรแท้ ตั้งใจแสดงลิเกและศิลปะรำไทยเผยแพร่ผลงานจนทั่วอเมริกา เสริมชาติไม่รู้ว่าขณะที่เขากับรุจิรางค์กำลังมีความสุขแต่สุขภาพของหญิง สาวกลับทรุดโทรมลง จนกระทั่งรุจิรางค์เป็นลมกลางเวที ทุกคนจึงได้รู้ว่าหญิงสาวกำลังป่วยทางสมองและร่างกาย เสริมชาติขอยกเลิกสัญญาจากบริษัทอื่นๆที่ติดต่อมาเพราะเขาต้องการมีเวลาดูแล หญิงสาวเต็มที่ จนรุจิรางค์ขอร้องเสริมชาติให้ช่วยพาเธอกลับเมืองไทย

บ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นเหมือนรังรักระหว่างเสริมชาติกับรุจิ รางค์ โดยที่ลลิตาไม่อาจกีดกันลูกสาวได้อีก ทุกคนร่วมมือกันทำทุกอย่างเพื่อให้รุจิรางค์มีความสุข สุดท้ายความรักของเสริมชาติและรุจิรางค์จะดำเนินต่อไปอย่างไร

รายชื่อนักแสดงเรื่อง พ่อมาลัยริมทาง
ไชยา มิตรชัย รับบทเป็น เสริมชาติ
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบทเป็น รุจิรางค์
ดนัย จารุจินดา รับบทเป็น ถิรนัย
ดวง อัทธเสรี รับบทเป็น สุธินี
อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์ รับบทเป็น ธิดา
วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบทเป็น เนตรดารา-ดาว
พลังธรรม กล่อมทองสุข รับบทเป็น กิตติ
แอน มิตรชัย รับบทเป็น มยุรา
ไชย ขุนศรีรักษา รับบทเป็น เสริมศักดิ์
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบทเป็น ดวงพร

ดอกส้มสีทอง (มงกุฎดอกส้มภาค 2)

เรยา วงศ์เศวต หญิงสาววัยประมาณ 20 ปี สาวสวยหน้าตาคมเข้ม ผิวคล้ำนวลเนียน หน้าตากระเดียดไปทางแขกมากกว่าไทย เรยาเกลียดการเรียนหนังสือตั้งแต่เล็ก และมักหาข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงไม่ไปโรงเรียนเสมอ จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เรยาแต่งตัวออกจากบ้านทุกวันในชุดนักศึกษาแต่ไม่เคยไปถึงมหาวิทยาลัยเลย

วันนี้เธอกำลังเข้ารับการสัมภาษณ์โดย สินธร ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบุคคลบริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์ส ซึ่งถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในธุรกิจการบิน เธอมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส อาชีพซึ่งหญิงสาวแทบทุกคนใฝ่ฝัน เพราะเป็นอาชีพที่สะดวกสบาย ได้เดินทางและได้พบปะกับบุคคลต่าง ๆ มากมายจากทั่วทุกมุมโลก เรยาเสี่ยงเข้ามาสมัครทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่จบการศึกษาในชั้นปีที่สามเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความทะเยอทะยานอย่างแรงกล้า ทำให้เธอกล้าโกงอายุตนเองและแม้กระทั่งวุฒิทางการศึกษาด้วย สินธรคือคนที่เรยาใฝ่ฝันว่าจะเป็นผู้ที่บันดาลอนาคตที่งดงามให้กับเธอ เขารู้ในทันทีถึงความต้องการของตนเองและของสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า อีกอย่างสินธรมีเวลาในการสานสัมพันธ์กับสาวน้อยผู้นี้ไม่มากนัก เนื่องจากเขาต้องรีบกลับบ้านให้ตรงเวลาตามที่ เด่นจันทร์ ชลธี ภรรยาของเขาเป็นผู้กำหนด สินธรจำต้องเกรงกลัวภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก เนื่องจากชีวิตความร่ำรวย อำนาจ บารมีต่าง ๆ ที่เขามีได้อย่างทุกวันนี้ ล้วนมาจากอำนาจภรรยาบันดาลให้ทั้งสิ้น

เด่นจันทร์ ชลธี บุตรสาวสวยเพียงคนเดียวของ นายเดช ชลธี คหบดีผู้มั่งคั่งและร่ำรวยอิทธิพลแห่งเมืองชลบุรี นายเดชนั้นทั้งรักและตามใจธิดาคนเดียวเป็นที่สุด เนื่องจากกำพร้ามารดาตั้งแต่ยังเล็ก เด่นจันทร์เจอสินธรเมื่อเธอนั้นไปศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ สองเดือนต่อมาทั้งคู่ก็เข้าพิธีวิวาห์ยิ่งใหญ่แห่งรอบปี โดยที่เด่นจันทร์เองก็ไม่สนใจจะเรียนต่อให้จบอีกต่อไป รวมทั้งไม่สนใจด้วยว่าเจ้าบ่าวของเธอจะเป็นใครมาจากไหน เธอยืนกรานที่จะแต่งงานกับสินธรอย่างแน่นอน โดยที่นายเดชเองก็ไม่อาจจะคัดค้านได้ และด้วยอำนาจเงินและบารมีล้นฟ้า วงสังคมเมืองไทยต่างสรรเสริญว่าเด่นจันทร์ช่างฉลาดนักในการเลือกเจ้าบ่าว ซึ่งรูปสวยรวยวิชามาเป็นสามี

คฤหาสน์แดงเก่าคลาคล่ำริมคลองภาษีเจริญของ ท่านเจ้าสัวเชงสือเกียง คือสถานที่กำเนิดของเรยา มารดาของเธอคือ นางลำยอง หรือ ด๊วด สาวเชื้อสายมอญ ยายของเรยานั้นคือ นางลำเพา เป็นสาวสวยเชื้อสายมอญแถบปากลัด ลำเพานั้นเป็นหลานของ ยายพุ่ม แม่ครัวไทยเพียงคนเดียวของอาณาจักรจีนแห่งนี้ นางพาลำยองมาฝากให้นางพุ่มเลี้ยงดูเพราะนางกำลังจะแต่งงานใหม่กับ อาจารย์บุญสม หมอเสน่ห์ชื่อดังแห่งเมืองกาญจน์ ซึ่งเป็นสามีคนที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้ นางพุ่มเองก็เบื่อพฤติกรรมของญาติผู้น้องคนนี้เต็มที แต่ก็เต็มใจรับลำยองเอาไว้เลี้ยงดูโดยให้เป็นลูกมือช่วยทำอาหารในครัว

ลำยองเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทเรียบร้อยสงบเสงี่ยม ไม่ช่างพูดช่างเจรจาเหมือนมารดา ลำยองทำงานรับใช้อยู่ในครัวเป็นปกติ แต่ยามว่างเธอก็ขึ้นไปรับใช้คุณนายต่าง ๆ ของท่านเจ้าสัวบ้าง คุณนายของท่านเจ้าสัวมีทั้งหมด 4 คน คนแรกคือ เม่งฮวย คุณนายใหญ่จากเมืองจีน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบ่าวไพร่และจัดการบริหารควบคุมดูแลทุกเรื่องในบ้าน เยนหลิง คุณนายที่สอง หลานสาวท่านทูต ผู้มีหน้าตาท่าทางอ่อนหวาน กิริยามารยาทนุ่มนวล แต่ซ่อนความอิจฉาริษยาความดุร้ายไว้อย่างแนบเนียน เหม่เกว่ หรือ โรส คุณนายที่สาม อดีตนางเอกคณะอุปรากรจีน ชอบร้องเพลงร่ายรำเกือบตลอดทั้งวัน เธอเป็นคนโผงผางและตรงไปตรงมา คำแก้ว คุณนายคนสุดท้ายหรือคุณนายที่สี่ของท่านเจ้าสัว เธอเป็นคนใจดีและใจเย็น เรียบร้อย อ่อนโยน พูดจาอ่อนหวานสมดังความเป็นชาวเหนือของเธออย่างแท้จริง

ลำยองมักจะถูกเยนหลิงเรียกให้ไปรับใช้บ่อยที่สุด เนื่องจากเธอมักวางท่าเป็นลูกผู้ลากมากผู้ดีอยู่เสมอ เธอทนไม่ได้กับกิริยามารยาทเลวทรามเหลือจะขัดเกลาของเด็กรับใช้คนเก่า ด้วยท่าทางเรียบร้อย กิริยามารยาทที่นอบน้อม ทำให้เยนหลิงเอ่ยปากขอลำยองไปเป็นเด็กรับใช้ประจำตัว ร้อนถึงนางพุ่มซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่าเยนหลิงเป็นคนเช่นไร นางไม่อยากให้หลานสาวไปเป็นเด็กรับใช้ประจำตัวของคุณนายที่สองผู้ร้ายกาจคน นี้เลย นางจึงแกล้งเป็นลมครั้งใหญ่ทำให้ในครัวเกิดความโกลาหล เมื่อขาดแม่ครัวใหญ่และผู้ทำอาหารได้ดีที่สุดในขณะนั้น ก็มีเพียงลำยองคนเดียว ทำให้ลำยองจำต้องกลับมาเป็นลูกมือและผู้ช่วยคนสำคัญในครัวดังเดิม ซึ่งลำยองเองก็ดีใจมากที่ไม่ต้องคอยนั่งตัวลีบต่อหน้าคุณนายเยนหลิงอีกต่อไป แล้ว ด้วยสังขารที่อ้วนพีเกินความจำเป็นของนางพุ่มและโรคภัยไข้เจ็บที่มาพร้อมวัย ที่เปลี่ยนไป ทำให้นางเริ่มขี้เกียจออกไปจ่ายตลาด นางจึงมอบหมายหน้าที่นี้ให้เป็นของลำยองแต่เพียงผู้เดียว

ลำยองออกไปจ่ายตลาดทุกวันจนได้พบกับ บังดุล หรือ นายอดุลย์ แขกยามซึ่งทำงานอยู่ที่ตึกของ คุณหลวงเจริญนิติเวช ชาวอังกฤษนายฝรั่งข้าง ๆ คฤหาสน์แดง ลำยองรู้สึกถูกชะตาบังดุลมากเนื่องจากในคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่มีแต่คนจีน หน้าตาจืดชืด ไม่คมเข้มอย่างบังดุลเลย ส่วนบังดุลเองก็รู้สึกชอบสาวน้อยหน้าตาสะสวย อ่อนหวาน กิริยามารยาทเรียบร้อยคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว ทั้งสองต่างพึงพอใจและรักกันในที่สุด และเมื่อความรักสุกงอมเป็นไปตามครรลองธรรมชาติ ฝ่ายหญิงก็ตั้งท้องขึ้น ลำยองเองรู้สึกหวาดกลัวต่อเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะในตึกแดงท่านเจ้าสัวออกกฎอย่างเคร่งครัด หากรักใคร่ชอบพอกันจะจัดการสู่ขอให้อยู่กินกันตามประเพณีเลย ห้ามลักลอบได้เสียกันอย่างเด็ดขาด บังดุลได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นมั่นเหมาะกับลำยองไม่ให้หวาดกลัว เขาจะมาสู่ขอเธออย่างถูกต้องตามประเพณีอย่างแน่นอน

แต่แล้วดังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เกิดมีโจรขึ้นขโมยของในตึกนายฝรั่ง บังดุลเข้าทำหน้าที่ของเขาอย่างกล้าหาญจนถูกโจรแทงตาย ลำยองร้องไห้หัวใจแทบแตกสลาย เมื่อไม่สามารถจัดการชีวิตของตนเองได้อีกต่อไป เธอจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษานางพุ่ม นางพุ่มแทบอกแตกตายเมื่อรู้พฤติกรรมของหลานสาว นางใช้เวลาคิดทบทวนอยู่หลายวัน จึงตัดสินใจพาลำยองไปขอความเมตตาจากเยนหลิง เพราะรู้ดีว่านาทีนี้เยนหลิงเป็นคุณนายเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยชีวิตลำยอง ได้ เยนหลิงพูดจาดูถูกแดกดันลำยองอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจช่วยลำยอง สองสัปดาห์ต่อจากนั้นไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อท่านเจ้าสัวเชงค้างคืนกับคุณนายเยนหลิงตลอดสองสัปดาห์นั้น วันหนึ่งท่านเจ้าสัวออกปากกับทุกคนกลางโต๊ะอาหารเรื่องการตั้งครรภ์ของลำยอง ให้ทุกคนช่วยดูแลด้วย เม่งฮวยอยากจะคัดค้านที่สุดแต่ก็ไม่กล้า ทุกคนที่คฤหาสน์แดงจึงต้องช่วยกันดูแลลำยองอย่างไม่ปริปากบ่น

วันคืนผ่านไปลำยองคลอดบุตรสาวออกมา หน้าตาน่ารักน่าชังเหมือนบังดุลผู้เป็นพ่ออย่างยิ่ง ด้วยความรักและความสงสารที่ลูกเกิดมากำพร้าพ่อ ลำยองจึงตามใจลูกสาวคนเดียวในทุก ๆ เรื่อง ด้วยความที่เกิดมาหน้าตาเหมือนแขก ทุกคนรวมทั้งมารดาจึงเรียกเธอว่า แขก ซึ่งเรยาเกลียดนักหนา เธอไม่ชอบให้ใครมาล้อกำพืดของตนเอง เด็กน้อยแม้อายุเพียง 5 ขวบแต่ก็มีท่าทางก้าวร้าว ไม่กลัวใคร ทะเยอทะยาน หัวสูงจนหลายต่อหลายครั้งลำยองรู้สึกอ่อนใจในพฤติกรรมของบุตรสาว แต่ด้วยความรักลูกนางจึงปล่อยเลยตามเลย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมแย่ ๆ ของบุตรสาว

เรยามักเรียกแทนตัวเองเสมอว่า ฟ้า ซึ่งเด็กน้อยใฝ่ฝันจะเป็นนางฟ้าที่สูงส่งให้ได้สักวันในอนาคต ทุกคนที่คฤหาสน์แดงมักจะหัวเราะอย่างขบขันเมื่อได้ยินชื่อที่เรียกแทนตัวเอง ของเธอ บรรดาบุตรสาวและบุตรชายของท่านเจ้าสัว อันประกอบด้วย คุณกองแก้ว และ คุณกรรณิการ์ บุตรสาวของเยนหลิง คุณเกียรติกร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของโรส ทุกคนรุมกันล้อเรยาอย่างตลกขบขันในความเป็นลูกแขก เรยาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง และตอบโต้บรรดาเจ้านายเล็กอย่างรุนแรงและหยาบคาย หลายครั้งที่ผ่านมาเรยามักรอดตัวเสมอ เพราะเหตุการณ์มักยุติลงก่อนที่จะมีผู้ใหญ่คนใดมาร่วมรับรู้ หากแต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างเรยาเหมือนครั้งก่อน ๆ เมื่อเยนหลิงเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี เรยาจึงโดนเฆี่ยนไปหลายที เด็กสาวร้องไห้อย่างเจ็บแค้นและเจ็บปวด ผลจากน้ำตาก็นับว่าคุ้มค่า ในวันนั้นมารดาของเธอเรียกบุตรสาวว่าฟ้าโดยที่ไม่เรียกชื่อแขกอีกเลย

ทุกคนที่คฤหาสน์แดงต่างตกใจเป็นอันมากที่รู้ว่าท่านเจ้าสัวพาคุณนายแหม่ม ซิลเวีย กลับมาด้วย ความอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่นในหมู่ภรรยากลับมาอีกครั้ง เม่งฮวยเกลียดชังนังอั้งม้อผู้นี้ยิ่งนัก เนื่องจากการแสดงออกในความรักอย่างพร่ำเพรื่อไม่เลือกกาลเทศะ เวลา หรือสถานที่ของซิลเวียตามแบบชาวตะวันตก จึงเป็นที่ขัดลูกตาของเม่งฮวยเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเยนหลิงเธอเกลียดแสนเกลียดคุณนายฝรั่งผู้นี้จับใจ เธอจึงคอยหาทางปะทะคารมด้วยวาจาที่เชือดเฉือนอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ แต่วาจาอันดุเด็ดเผ็ดร้อนของเยนหลิงก็ไม่เป็นผลอันใดเลย เมื่ออีกฝ่ายซึ่งมีความรู้ทางภาษาไทยน้อยเต็มทีไม่สามารถเข้าใจความหมายได้ เยนหลิงจึงแทบอกแตกตายอยู่นั่นเอง การทำศัลยกรรมของท่านเจ้าสัวให้ผลดีแต่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น หากแต่ภายในไม่เป็นแต่อย่างใดเลย ท่านยังคงเป็นชายชราอายุ 60 ปีดังเดิม คุณนายแหม่มคนใหม่มักชวนให้ท่านออกไปสังสรรค์ ปาร์ตี้เข้าสังคมหรูหราเป็นประจำทุกค่ำคืน จนสุขภาพร่างกายทรุดโทรมเพราะไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จนล้มป่วยลงในเวลาต่อมา

เยนหลิงคิดหากลอุบายใหม่ด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ เธอจึงสั่งให้ลำยองเดินทางไปที่กาญจนบุรีอีกครั้ง เพื่อนำอาคมคาถาวิเศษมาทำลายซิลเวีย ลำยองเองเคยเดินทางไปเอาของมาให้เยนหลิงแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีกลาย และแล้วเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ นานาก็เกิดขึ้นในบ้าน เมื่อคุณนายที่สามกระโดดบ่อน้ำตายอย่างปริศนา คุณนายที่สี่วิกลจริตอย่างน่าสงสาร รวมทั้งเด็กรับใช้อีกหนึ่งคนป่วยตายอย่างน่าเวทนา ลำยองไม่รู้จะปฏิเสธเยนหลิงได้อย่างไร เธอสำนึกในบาปบุญคุณโทษ และคิดว่าตนเองคือต้นเหตุที่ทำให้สามชีวิตนั้นต้องพบจุดจบอย่างน่าอนาถ ในที่สุดลำยองจึงตัดสินใจไปพึ่งใบบุญเก่าของสามี ด้วยการเข้าไปหานายฝรั่งซึ่งเป็นเจ้านายของบังดุลเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อทราบเรื่องนายฝรั่งจึงจัดการฝากฝังให้ลำยองได้ไปทำงานที่บ้านเพื่อนของเขาในย่านบางกะปิ ซึ่งอยู่ไกลจากคลองภาษีเจริญแห่งนี้ ในวันที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปกาญจนบุรีจึงเป็นวันเดียวกับที่ลำยองพาเรยาบุตรสาวของเธอจากคฤหาสน์แห่งนี้ไปอย่างไม่หวนกลับมา

เรยาและสินธรมักลอบพบกันและฮันนีมูนตามประเทศต่าง ๆ อยู่เสมอ แต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง เมื่อเพื่อนผู้หวังดีผู้หนึ่งของเด่นจันทร์เห็นเธอและสินธรเข้าที่นิวซีแลนด์ สายทางไกลจากนิวซีแลนด์ถึงกรุงเทพฯ จึงเกิดขึ้น เด่นจันทร์รู้ดีว่าสามีของเธอเจ้าชู้เพียงใด แต่การกระทำครั้งนี้มันหยามเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และทำลายความรู้สึกของเธอมากเหลือเกิน เมื่อกลับจากนิวซีแลนด์สินธรต้องพบกับคำขาดทันที เมื่อเด่นจันทร์ออกคำสั่งให้เขายุติความสัมพันธ์กับนางฟ้าตาหวานคนนี้ และต้องไม่มีเธอในบริษัทสยามทรานเนชั่นแอร์เวย์สอีกต่อไป หากไม่เป็นไปตามนั้นสินธรต้องออกจากชีวิตเด่นจันทร์ทันที

เรยารู้สึกเสียใจแต่ก็เพียงนิดเดียวเมื่อสินธรเป็นฝ่ายเลิกรากับเธอ โดยยื่นทรัพย์สินให้เธอเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตำแหน่งงานใหม่ในสายการบินอเมริกันชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอย้ายออกจากคอนโดมาอยู่บ้านหลังใหม่ พร้อมทั้งรับลำยองมาอยู่ด้วย ลำยองเห็นความเจริญก้าวหน้าของบุตรสาวเพียงวัตถุที่เห็น จึงชื่นชมโสมนัสไปด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร

ผู้ โดยสารชั้นหนึ่งเพียงคนเดียวของสายการบินจากเมืองไทยสู่นิวซีแลนด์ ทำให้หัวใจเรยารู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก เธอจึงรีบเช็คดูทันทีว่าเขาเป็นใคร เขาคือ ก้องเกียรติ เจนพานิชย์สกุล บุตรชายคนโตของท่านเจ้าสัวเชงสือเกียงนั่นเอง เธอรีบเข้าไปทำความรู้จักกับเขาทันที การเดินทางรอบโลกอันยาวนานเพื่อเจรจาธุรกิจของเขาในครั้งนี้ค่อนข้างน่า เบื่อ เขาจึงคิดจะแวะมาพักผ่อนกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่นิวซีแลนด์ ก่อนจะบินกลับยุโรปเพื่อไปรับ ณฤดี บุตรสาวเอกอัครราชทูตผู้เป็นภรรยาก่อนบินกลับเมืองไทย เรยาสามารถล้วงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากนัก เป็นที่แน่นอนว่าเขามีเจ้าของแล้ว แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญอันใดสำหรับเรยา เธอหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่า อย่างไรเสียเธอจะทำทุกสิ่งให้คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเจ้าสัวผู้นี้ทิ้งหัวใจ ไว้ที่นิวซีแลนด์ให้จงได้

ก้องเกียรติรู้สึกตัวตื่นขึ้นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สาง มีร่างใครคนหนึ่งซึ่งนอนข้าง ๆ โผเข้ากอดอย่างรวดเร็ว ก้องเกียรตินึกโกรธตัวเองนัก ตามกำหนดการเดิมของเขาคือมาเยี่ยมน้องชาย แต่เนื่องจากไม่ได้นัดกับน้องชายจึงคลาดเคลื่อนกัน มีเพียงเสียงข้อความที่อัดไว้ว่าเขาจะไม่อยู่บ้านตลอดทั้งเดือน ทีแรกก้องเกียรติคิดว่าจะกลับไปหาณฤดีและพักผ่อนอยู่กับเธอที่ยุโรปสักพัก และรับเธอกลับกรุงเทพฯ พร้อมกัน แต่แล้วด้วยเสียงรบเร้าและก่อกวนจากนางฟ้าแสนสวยผู้นี้ ก็ทำให้เขาใจอ่อนยอมให้เธอพาเที่ยวเล่นไปรอบ ๆ เมืองอยู่หลายวัน สมดังความตั้งใจของนางฟ้าตาหวานโดยแท้ เพราะความใจอ่อนของเขาอีกครั้ง ก้องเกียรติคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พา เรืองยศ เข้ามาสนิทสนมจนทำให้คำแก้วแม่เลี้ยงสาวของเขาต้องวิกลจริตไปก่อนวัยอันควร เมื่อเห็นภาพความสัมพันธ์อันอุจาดตาในค่ำคืนนั้น ความสัมพันธ์ในคืนนั้นที่เขาเผลอตัวไป ทำให้เรื่องยศเข้าใจผิดตีความเป็นอย่างอื่น จนสุดท้ายต้องจบชีวิตลงท่ามกลางมหาสมุทร เพียงเพราะการไม่ยอมรับความรักที่ผิดรูปแบบแผนปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่ก้องเกียรติรู้สึกว่าชีวิตของตนเองเลว ร้ายลงไปทุกที

เรยายื่นข้อเสนอให้ก้องเกียรติเป็นผู้เลี้ยงดูเธอเช่นเดียวกับที่สินธรเคย กระทำ ก้องเกียรติจำต้องรับภาระข้อนี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ชีวิตสมรสระหว่างเขาและณฤดีไม่เคยมีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ทุกอย่างดำเนินมาอย่างราบเรียบและผาสุก ขาดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือลูก ซึ่งเปรียบเสมือนโซ่ทองคล้องใจพ่อแม่ แม้เวลาจะล่วงเลยมานานสักเพียงใดการรอคอยก็ไม่เป็นผลเลย ณฤดีเองก็ร้าวรานใจอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความเข้มแข็งที่มีภายในใจทำให้เธอไม่แสดงออกมาให้ใครได้เห็นเลย แม้กระทั่งก้องเกียรติก็ตาม

ก้องเกียรติมักค้างคืนกับเรยาบ้างตามแต่โชคชะตาและโอกาสจะอำนวย แต่ส่วนใหญ่เขามักจะอยู่กับณฤดี ซึ่งนั่นทำให้เรยายิ่งคั่งแค้นหนักขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งลำยองได้รู้ความจริงว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเป็น ภรรยาน้อยบุตรชายท่านเจ้าสัวใหญ่ผู้หนึ่ง เรยาบังคับให้มารดาไปเอาคุณไสยวิเศษจากตาที่กาญจนบุรีมาทำเสน่ห์ให้ก้อง เกียรติหลงใหลตนแต่เพียงผู้เดียว ลำยองร้องไห้หัวใจแทบแตกสลาย บุตรสาวที่หล่อนรักปานแก้วตาดวงใจ ทำไมถึงไม่รู้สึกสำนึกในบาปบุญคุณโทษบ้างเลย คนเดียวที่ลำยองนึกถึงยามเกิดปัญหาคราวนี้ก็มีเพียงนางพุ่มเท่านั้น ที่จะเป็นคู่คิดให้คำปรึกษาและหาทางออกให้แก่ลำยองได้ นางจึงตัดสินใจเดินทางไปยังคฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญซึ่งเป็นที่อยู่เก่า ทันที

เวลาเนิ่นนานที่จากที่นี่ไปทำให้ลำยองไม่กล้าเดินเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนดังเก่า เธอจึงได้แต่ยืนจด ๆ จ้อง ๆ อยู่ริมคลองนั่นเอง แต่แล้วบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในชีวิตก็ก้าวเข้ามา เยนหลิงหรือคุณนายที่สองนั่นเอง เยนหลิงบอกเล่าให้ลำยองรับรู้ว่าภายหลังจากการหนีไปของลำยองในครั้งนั้น เธอคั่งแค้นมากจึงแกล้งกุเรื่องว่าลำยองได้ขโมยของมีค่าและหลบหนีออกจากบ้านไป ทำให้นางพุ่มโดนจับเข้าคุกฐานสมรู้ร่วมคิด นางพุ่มโวยวายฟูมฟายอยู่ได้แค่ไม่นานนักก็หัวใจวายสิ้นใจตายทันที เยนหลิงขู่อาฆาตลำยองรวมทั้งจะทำร้ายเรยาอีกด้วย แต่ลำยองไม่ได้ยินเสียงใด ๆ อีกต่อไปแล้ว นางเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุการตายของนางพุ่ม ผู้ซึ่งนางรักเคารพและบูชาเป็นที่สุด นางวิ่งร้องไห้ออกจากบ้านไปอย่างเสียสติและถูกรถชนตายในเวลาต่อมาตรงตึกสี นวลที่เธอและบังดุลเคยลักลอบเข้าไปจนเกิดเป็นพยานรักขึ้นนั่นเอง

เมื่อแม่ลำยองด่วนจากไปอย่างไม่คาดคิด ยิ่งไม่มีแม่ยิ่งต้องคิดหนักว่าจะไปต่อไปอย่างไรให้สวย และแล้วคำตอบก็หยุดอยู่ตรงที่การมีลูกให้เขาเชยชม เรยายอมตั้งครรภ์เพื่อที่จะมัดก้องเกียรติไว้กับตัว และแล้วความหวังของเธอก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อเธอตั้งครรภ์ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากสายการบินให้ก้องเกียรติดูแลเธออย่างเต็มตัว การตั้งครรภ์ครั้งนี้นำความปลาบปลื้มยินดีมาให้ก้องเกียรติยิ่งนัก เขาจึงมาคอยดูแลเอาอกเอาใจพะเน้าพะนอเธอผิดไปจากเมื่อก่อน แต่ยังคงซ่อนความหนักอกหนักใจที่ต้องปิดบังณฤดีและครอบครัวเช่นเดิม และการกลับบ้านในแต่ละครั้งของก้องเกียรติสร้างความโศกาอาดูรแก่เรยาเป็น อย่างมาก จนก้องเกียรติอ่อนใจ สถานที่ ๆ เรยามักจะไปในยามว่างคือสถานเสริมความงามต่าง ๆ เป็นที่รู้กันในร้านว่า คุณฟ้าคือลูกค้ารายใหญ่ต้องเอาอกเอาใจ ห้ามละเลยอย่างเด็ดขาด แม้คุณฟ้าจะเป็นเพียงอนุของบุตรชายท่านเจ้าสัวใหญ่ผู้หนึ่ง และเธอจะภูมิใจกับตำแหน่งนี้จนต้องอวดอ้างไปกระทบหูใครคนหนึ่งซึ่งเป็น เพื่อนสนิทณฤดีก็ตาม

ณฤดีฟังเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความไม่สบายใจ แต่เธอก็ฉลาดพอที่จะเก็บมันไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียว ณฤดียังคงไปเยี่ยมเยียนเม่งฮวยมารดาสามีที่คฤหาสน์แดงตามปกติ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวจีนและลูกสะใภ้ไทยคู่นี้ดำเนินมาอย่างราบรื่น เม่งฮวยรักและเอ็นดูณฤดีมาก ถึงแม้ว่าเม่งฮวยจะไม่รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวบุตรชาย แต่เธอก็ให้คำมั่นว่าจะยอมรับสะใภ้ที่แต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้คำพูดเพียงไม่กี่คำแต่ก็สร้างความสบายใจให้แก่ณฤดีได้ไม่น้อยเลย

บรรยากาศในคฤหาสน์แดงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อท่านเจ้าสัวประมุขใหญ่ล้มป่วยลงเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากวัยและร่างกายที่อ่อนแอ ประกอบกับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและความหึงหวงที่ท่านเจ้าสัวมักพบเห็น โดยเฉพาะกับ ไทรรัตน์ บุตรชายนายพลสหายเก่าแก่ผู้หนึ่งของท่าน ซึ่งท่านเจ้าสัวและเม่งฮวยหมายตาจะให้มาเป็นคู่ชีวิตของกรองกาญจน์บุตรสาว กรองกาญจน์นั้นไม่เคยสนใจชายหนุ่มที่บิดามารดาพยายามจัดหาให้เลย ยังคงชอบใช้ชีวิตโสดและวุ่นวายกับการสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น ท่านเจ้าสัวมักเก็บตัวอยู่แต่ในห้องกุหลาบ ซึ่งเคยเป็นที่พำนักของโรสคุณนายที่สามผู้ล่วงลับไปแล้ว ตามคำแนะนำของนายแพทย์ประจำตัว ผู้ที่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้มีเพียงก้องเกียรติเท่านั้น ทุกคนไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งท่านเจ้าสัวเลย ยกเว้นคุณนายแหม่มที่ลอบเข้าไปบ่อย ๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น

อาการ ล้มหมอนนอนเสื่อของท่านเจ้าสัว ทำให้ซิลเวียค่อนข้างเหงามาก เธอเริ่มเบื่อชีวิตเงียบเหงาในคฤหาสน์แดงที่ทุกคนดำรงชีวิตอย่างต่างคนต่าง อยู่ ไม่มีใครสนใจกันเลย มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างภรรยาตลอดเวลา บุคคลเดียวที่ซิลเวียค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษคือสตรีร่างบางในชุดขาว คุณนายที่สี่ชาวเหนือที่มักวนเวียนอยู่แถวบ่อร้างหลังคฤหาสน์เป็นประจำสม่ำ เสมอ เธอเคยได้ยินหญิงสาวผู้นั้นพึมพำบางอย่างเป็นภาษาอังกฤษบ่อยครั้ง ซิลเวียดีใจเป็นอย่างยิ่งที่มีคนสามารถพูดคุยภาษาเดียวกันกับเธอ หลายต่อหลายครั้งที่เธอพยายามเพียรพูดคุยกับสตรีผู้นั้น แต่คำตอบที่ได้รับคือความว่างเปล่าและความไม่เข้าใจกันอยู่เสมอ

อรุณรุ่งของเช้าวันหนึ่ง ท่านเจ้าสัวตื่นนอนประมาณยามสาม ท่านควานหาร่างคุณนายแหม่มของท่านตามความเคยชินแต่ไม่พบ ด้วยอารมณ์หึงหวงที่เกิดขึ้นเพราะคิดไปเองว่าคุณนายแหม่มแอบลอบลงไปหาคบชู้ อย่างแน่นอน อารมณ์ร้อนรุ่มกลัดกลุ้มที่อยู่ภายในทำให้ท่านนอนไม่หลับ และเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ประมาณยามสี่ ท่านเจ้าสัวได้ยินสียงเพลงทำนองหวานเศร้าสร้อยดังกังวานขึ้น ท่านผุดลุกนั่ง อนุสติที่มีเหลืออยู่แม้เพียงน้อยนิด แต่ภาพซิลเวียที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไทรรัตน์ในบึงน้ำ ยังคงล่องลอยหลอกหลอนอยู่ไม่เสื่อมคลาย ท่านค่อย ๆ โผเผลุกขึ้นเพื่อจะไปจับให้ได้คาหนังคาเขา หากเป็นความจริงจะจับเธอโยนลงบ่อเหมือนดังคนอื่น ๆ ที่เคยประสบมา

เสียงเพลงยังคงดังกังวานตลอดเวลา หากแต่เสียงคนร้องช่างเหมือนเหม่เกว่ หรือคุณนายที่สามผู้ลาลับเสียนี่กระไร ท่านเจ้าสัวก้าวเดินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ่อร้าง ภาพสุดท้ายที่ท่านเห็นคือคุณนายที่สามกำลังร่ายรำอย่างงดงาม ก่อนที่จิตสุดท้ายของท่านจะลาจากโลกนี้ไป คำแก้วตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกาเหว่าท้ายสวน เธอเดินเลื่อนลอยออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ่อนรกนั้น ร่างชายชราที่พาดอยู่ปากบ่อชวนให้นึกถึงวันสูญเสียบิดาในอดีต คำแก้วกรีดร้องอย่างโหยหวน และเป็นลมสิ้นสติอยู่ข้างศพท่านเจ้าสัวนั่นเอง

ทุกคนในคฤหาสน์แดงต่างเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของท่านเจ้าสัวทุกคน ยกเว้นแต่คุณนายแหม่มเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับใครเขา ไม่มีแม้น้ำตาสักหยดที่จะให้กับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ หล่อนคาดหวังว่าจะได้มรดกก้อนใหญ่เพื่อเปลี่ยนฐานะของตนให้กลายเป็นแม่ม่าย ทรงเครื่อง แล้วหล่อนก็จะโบยบินไปสู่สหรัฐอเมริกาดินแดนแห่งอิสระเสรีทันที เยนหลิงพยายามยุยงทุกคนให้เห็นพ้องต้องกันกับหล่อนว่าคำแก้วเป็นคนฆาตกรรม ท่านเจ้าสัว แต่อาการวิกลจริตทางจิตของคำแก้วทำให้ไม่มีใครยอมเชื่อเยนหลิงเลยแม้แต่คน เดียว

ในที่สุดความหวังทั้งหมดของเรยาก็เป็นความจริง เมื่อเธอได้คลอดลูกชายตัวน้อย ๆ เป็นผู้สืบแซ่คนแรกของตระกูลเชงเลยทีเดียว ก้องเกียรติค่อนข้างรักและเห่อลูกชายอยู่มิใช่น้อย ในขณะที่เรยาค่อนข้างเบื่อหน่ายสภาพความเป็นแม่ในดินแดนที่ห่างไกลถึง นิวซีแลนด์นี้เต็มที เธอจ้างแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์ไว้คอยเลี้ยงดูบุตรชาย ในขณะที่ตัวเธอเองไม่ทำอะไรเลย เรยามักหงุดหงิดและอาละวาดอยู่เสมอ ทำให้ไม่มีแม่บ้านคนใดอยากมาที่นี่นัก ยกเว้นแต่ต้องการรายได้ที่สูงลิบลิ่วเท่านั้น เรยาเรียกร้องให้ก้องเกียรติหย่าขาดกับณฤดีให้ถูกต้อง แต่ก้องเกียรติยังคงผลัดวันประกันพรุ่งมาโดยตลอด ทำให้เรยาเริ่มเปิดเผยตนเองด้วยการโทรไปยังบ้านก้องเกียรติ โดยมีณฤดีเป็นผู้รับสายหลายต่อหลายครั้ง แล้ววางหูไปเฉย ๆ ความกลัวเริ่มกัดกินใจณฤดีทีละน้อย เธอตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์เองอีกเลย ยิ่งนานวันก้องเกียรติเริ่มรู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้รักเรยาเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงความหลงใหลชั่ววูบ ทุกสิ่งที่ประกอบกันเป็นเรยาไม่ได้ให้ความรู้สึกอบอุ่น งดงามควรค่าแก่ความรักที่เขาจะมอบให้ได้เลยแม้แต่น้อย เขาตัดสินใจกลับเมืองไทยเพื่อห่างเธอสักพัก

เรยาร้องห่มร้องไห้ตีโพยตีพายตามปกติเมื่อก้องเกียรติเดินทางกลับเมืองไทยทุกครั้ง แต่เพียงไม่นานนักอารมณ์เหล่านั้นก็เลือนหาย เธอเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิม ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อหรูหราอย่างเดิม ตราบใดที่ยังมีเงิน ตราบนั้นเรยาไม่เคยกลัวสิ่งใด เธอเริ่มกลับสู่สังคมไฮโซตามสปอร์ตคลับ ที่นั่นเธอได้พบกับจิตแพทย์หนุ่มรูปงามเศรษฐีชาวเอเชียผู้หนึ่ง ใคร ๆ ต่างเรียกเขาว่า ซี.เค. เรยารู้สึกถูกใจเขาตั้งแต่แรกเห็น เธอจึงพยายามพาตัวเองเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่แสดงทีท่ารังเกียจแต่อย่างใด แม้จะรู้ว่าเธอมีลูกและมีสามีแล้วยิ่งทำให้เรยาลำพองใจยิ่งนัก แต่ซี.เค.ยังคงรักษาระยะห่างระหว่างเขาและเรยาอย่างเหนียวแน่น ทำให้เรยายิ่งรู้สึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษของเขายิ่งนัก ความรักและลุ่มหลงในตัวซี.เค.นับวันจะมีมากขึ้นตามลำดับ เธอลืมหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความเป็นแม่หรือภรรยาที่ดีของก้องเกียรติ

เรยาตัดสินใจนำบุตรชายของตนเองเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อยกให้กับณฤดี ในที่สุดความกลัวที่ณฤดีรู้สึกมาโดยตลอดก็บังเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่มีชีวิตอยู่ตรงหน้า เรยาผลักไสทารกน้อยให้เธออย่างไม่แยแส พร้อมท่าทางจากไปราวกับนางพญาก็ไม่ปาน ใครกันแน่ที่เป็นผู้แพ้ชนะในเรื่องนี้ ไม่มีใครให้คำตอบได้ มีเพียงความเย็นเยียบราวพายุฝนซึ่งตั้งเค้าภายในเรือนหอที่เคยอบอวลไปด้วยความรักหลังนั้น

เกียรติ กรกลับเมืองไทยโดยที่ไม่เคยบอกกล่าวเรยา คฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญที่เขาเคยอาศัยอยู่ยังคงแฝงไว้ด้วยความทรงจำใน อดีตมากมายก่อนการจากไกลของเขา คนไข้คนสำคัญที่สุดของก้องเกียรติกำลังรอคอยการรักษาจากจิตแพทย์ชื่อดังจาก นิวซีแลนด์อย่างเขาอยู่ คำแก้วคือคนไข้รายแรกของเขาที่เมืองไทย ที่เขาให้คำมั่นกับก้องเกียรติว่าเธอจะต้องหายเป็นปกติอย่างแน่นอน เรยากลับไปตามหาซี.เค.ของเธอที่บ้านริมน้ำที่นิวซีแลนด์ แต่ที่นั่นเธอต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อรู้ว่าเขากลับไปเมืองไทยเสียแล้วและจะไม่กลับมาที่นี่อีก เรยาตัดสินใจตามหาซี.เค.แทบพลิกแผ่นดิน ในที่สุดความหวังของเธอก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อเธอตามเจอที่อยู่ของเขาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ เขา

คฤหาสน์แดงริมคลองภาษีเจริญได้มีโอกาสต้อนรับการกลับมาของเรยาอีกครั้ง ซี.เค.ยืนอยู่ที่นั่น หน้ายังคงระบายไปด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ เหมือนทุกครั้งยามมองดูเธอเสมอ ดั่งฟ้าผ่าลงมากลางใจ เมื่อซี.เค.นำเธอกลับสู่อดีตที่เธอไม่เคยคิดจะจดจำอีกครั้งหนึ่ง เขาคือ เกียรติกร เจนพานิชย์สกุล หรือ คุณชายเล็ก แห่งตระกูลเชงนั่นเอง ซี. คือตัวย่อของเชง ส่วนเค. คือเกียรติกร เรยาแทบล้มทั้งยืนเมื่อเกียรติกรยืนยันว่าเขาไม่เคยคิดรักเธอเลยแม้แต่น้อย หากทำไปเพราะแค่ลองใจเท่านั้น เธอยังคงเป็นนางฟ้าที่สวยแต่รูป เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะสามารถโตทันเป็นภรรยาน้อยของพี่ชายของเขาเอง เรยาจึงจากคฤหาสน์แดงมาอย่างเจ็บปวดรวดร้าวเป็นที่สุด… ติดตามชม ละครดอกส้มสีทอง ได้ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครดอกส้มสีทอง

รายชื่อนักแสดงละคร ดอกส้มสีทอง

อารยา เอ ฮาร์เก็ต   แสดงเป็น   เรยา
วิทยา วสุไกรไพศาล   แสดงเป็น   ก้องเกียรติ
หลุยส์ สก็อต   แสดงเป็น   เกียรติกร
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล   แสดงเป็น   ณฤดี
เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์   แสดงเป็น   ซิลเวีย
วรวุฒิ นิยมทรัพย์   แสดงเป็น   สินธร
อภิษฎา เครือคงคา   แสดงเป็น   เด่นจันทร์
ฉัตรชัย เปล่งพานิช   แสดงเป็น   เจ้าสัวเชงสือเกียง
จริยา แอนโฟเน   แสดงเป็น   เม่งฮวย
รินลณี ศรีเพ็ญ   แสดงเป็น   เยนหลิง
วนิดา เติมธนาภรณ์   แสดงเป็น   คำแก้ว
ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ   แสดงเป็น   กรองกาญจน์
โชคชัย บุญวรเมธี   แสดงเป็น   ไทรรัตน์
สุพจน์ จันทร์เจริญ   แสดงเป็น   เรืองยศ
พิศมัย วิไลศักดิ์   แสดงเป็น   อาอึ้ม
ปวีณา ชารีฟสกุล   แสดงเป็น   ลำยอง
ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ   แสดงเป็น   นัท
โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว   แสดงเป็น   โจ
ธนากร สุขสมเลิส   แสดงเป็น   เต้
อัญชลี ไชยศิริ   แสดงเป็น   พุ่ม
วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์   แสดงเป็น   จิว
จรรยา ธนาสว่างกุล   แสดงเป็น   เง็ก
อณูวรรณ ปวีญานนท์   แสดงเป็น   ฮุ้ง

ดงผู้ดี

แขนภา ซัดเซพเนจรออกจากบ้าน ในระหว่างเดินทางซึ่งเป็นช่วงสงคราม แขนภาถูกรถชนจนสลบไป ครูสมพร ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลมาพบเข้าจึงช่วยเหลือไว้ และแขนภา ความจำเสื่อม จำความเป็นไปเป็นมาของตนเองไม่ได้ จำได้เพียงว่าตนเองชื่อแข แขหรือแม่แขของครูสมพร ได้รับความเมตตาจากคุณครูอุปการะตัวเธอ รวมถึงลูกน้อยที่ติดท้องมาตอนที่ครูสมพรไปพบเข้า

แขทำงานดูแลทำความสะอาดภายในโรงเรียนเพื่อแลกกับการที่ครูสมพรให้การ ศึกษากับขม ลูกสาวของเธอเป็นอย่างดี แม้แขจะความจำเสื่อม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอจำได้คือบทเพลงนกขมิ้น แต่พอพยายามจะนึกต่อก็กลับนึกไม่ออก ในงานเลี้ยงส่งท่านผู้ว่าฯ ครูสมพรขอร้องให้แม่แขร้องเพลงนกขมิ้นให้กับวงเครื่องสายของโรงเรียน แม่แขร้องไปก็ค่อยๆ จดจำอดีตได้

ในงานนั้นเอง ชวาล หรือ พิทย์ รุ้งพราย มาถึงพอดี พอพบว่าผู้หญิงที่ร้องเพลงนกขมิ้นบนเวทีคือใคร เขาก็ดีใจอย่างมาก เพราะเขาพยายามตามหาแขนภามาเป็นเวลานานแล้วแต่ไม่เคยค้นพบ แต่ทว่า แขนภากลับมีอาการเลือดออกทางปากและจมูก และได้เสียชีวิตลงต่อหน้าต่อตาทุกคน ก่อนตาย แขนภาเห็นพิทย์ก็จำได้ และได้ฝากขม ลูกสาวไว้กับเขา ขมเสียใจมากที่แม่ตายจากไป พิทย์แนะนำตัวกับขมว่าเป็นพ่อของเธอ พิทย์พาขมไปที่บ้านพุทธชาด คืนวันนั้น รังสรรค์ลูกชายของคุณหญิงรัตนเดชากร จัดงานสมรสใหม่กับน้องสาวของเมียเก่า

พิทย์ ขอพบรังสรรค์บอกว่าเป็นเพื่อนเก่า รังสรรค์ตกใจมาก ไม่อยากเจอพิทย์ แต่พิทย์บอกว่าเอาลูกสาวมาฝากไว้ ขอให้เลี้ยงดูอย่างดี เสมอลูกคนอื่นๆ ของรังสรรค์ (ลูกติดเมียเก่า) รังสรรค์แค้นแทบกระอัก แต่ก็ต้องรับปาก เพราะมีเหตุผลที่จำใจต้องทำตามที่พิทย์ยื่นข้อเสนอ

พิทย์เป็นห่วงขมเลยฝากเอกสารเกี่ยวกับขมไว้กับลูกพี่ลูกน้องของเขาคือ ชาติสยาม และขอร้องให้ชาติสยามคอยดูแลขมแทนตัวเองในระหว่างที่ไม่อยู่ ขมต้องผจญชะตากรรมต่างๆ มากมายภายในบ้านพุทธชาด แต่เธอก็อดทนเพราะหวังว่าสักวันหนึ่งพ่อพิทย์จะมารับลูกขมออกไปจากบ้านหลัง นี้ และที่ขมมีกำลังใจอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะจดหมายที่พ่อเขียนส่งมาให้นั่นเอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วส่วนใหญ่ชาติสยามจะเป็นผู้เขียนตอบจดหมายเหล่า นั้นหลังจากที่ชวาลได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ขมอายุได้ราว 10 ปี และเขียนมาเรื่อยกระทั่งถูกขมจับได้

ต่อมากระทั่งอีกวันก่อนขมจะอายุครบ 20 ปี ชาติสยามก็ได้เปิดพินัยกรรมที่ชวาลฝากไว้ โดยได้เปิดอ่านที่เรือนเล็กบ้านพุทธชาด ซึ่งได้เฉลยว่าที่แท้ขมก็คือบุตรีของรังสรรค์ทั้งยังเป็นเจ้าของเรือนเล็ก ซึ่งได้ตกเป็นของชวาลก่อนหน้านั้นแล้วจากภาระหนี้สินของรังสรรค์ และเป็นเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมารังสรรค์จึงไม่กล้าไล่ขมออกจากบ้าน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบุหงาภรรยาของรังสรรค์จนถึงกับพยายามวางยาพิษแม่ สามีเพื่อให้ได้มรดกแต่ไม่สำเร็จทั้งยังถูกจับได้ ต่อมาบุหงาจึงสติแตกและไปทำร้ายรุ้งกาญจน์คู่หมั้นของชาติสยามด้วยความหึง หวงในตัวชาติสยามจนรุ้งกาญจน์เสียชีวิต ก่อนจะตายรุ้งกาญจน์ฝากฝังให้ขมช่วยดูแลชาติสยามต่อจากตน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บุหงาได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาตอีกทั้งยังไม่สามารถ พูดจาได้เนื่องจากกล่องเสียงถูกทำลาย ต่อมาในภายหลัง หลังจากที่ชาติสยามได้คลายความเศร้าแล้วและได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ก็ได้กลับมาสู่ขอขมในที่สุด

โจรปล้นใจ

ตระกูล…วงศ์วรัณย์ มีลูกชาย 2 คน คือ ภูริพัต และ พีรพล คุณหญิง กมลา ผู้เป็นแม่ลำเอียงรักพีรพลมากกว่าภูริพัต ภาคิน ผู้เป็นพ่อเลยตัดปัญหาส่งภูริพัตไปเรียนต่อต่างประเทศ พีรพลไปชอบ มธุมาส สาวสวยประชาสัมพันธ์ของโรงแรมแห่งหนึ่ง คุณหญิงกมลาหมายตา ชลิตา ลูกสาวคุณหญิง ชลลดา ไว้ให้พีรพลแล้ว สั่งให้พีรพลเลิกยุ่งเกี่ยวกับมธุมาส แต่พีรพลก็ยังแอบไปหามธุมาส

หลังจากทำงานอยู่ต่างประเทศหลายปี ภูริพัตจึงกลับมาเมืองไทย ระหว่างทางภูริพัตเห็นหญิงสาว ถูกโจรทำร้ายที่ป้ายรถเมล์ ภูริพัตช่วยหญิงสาวไว้ แต่พอเธอฟื้นขึ้นมากลับคิดว่า ภูริพัตเป็นโจร เตะผ่าหมากแล้ววิ่งหนีไป ภูริพัตหน้าเขียวร้องไม่ออก ส่วนที่บ้าน คุณหญิงกมลา สั่งให้ภูริพัต จัดการแยกพีรพลกับมธุมาส ภูริพัตอยากเอาใจแม่เลยตกลง เมื่อดูรูปหญิงสาวที่พีรพลติดพัน ภูริพัตจำได้ว่า เป็นผู้หญิงที่เตะเขาเมื่อคืน คงแสบไม่เบา

ภู ริพัตส่งลูกน้องในบริษัทสะกดรอยตามมธุมาส ขู่ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับพีรพล ลูกน้องมืออ่อนโดนมธุมาสเล่นงาน ซะวิ่งแจ้นกลับมาฟ้องเจ้านาย มธุมาสคิดว่า เป็นคนของคุณหญิงกมลา คุณหญิงชลลดายื่นคำขาด ให้คุณหญิงกมลาจัดการมธุมาส ไม่อย่างนั้นจะไม่ยกชลิดาให้ ถึงคราวภูริพัตต้องออกโรงเอง…

ไหน ๆ มธุมาสก็คิดว่า เขาเป็นโจรอยู่แล้ว ภูริพัตมาดักจับตัวมธุมาส กว่าจะจับได้เล่นเอาเหนื่อย เพราะมธุมาสสู้ยิบตา ภูริพัตพามธุมาสไปบ้านกลางป่าของ ทินกร เพื่อนสนิท แล้วสวมบทเป็นโจรชื่อ เสือพัต มธุมาสเชื่อสนิท ภูริพัตสั่งให้ ลอ คนดูแลบ้านเล่นเป็นลูกน้องโจร คอยจับตาดูมธุมาสตอนที่เขาไม่อยู่ มธุมาสเห็นเสือพัตไปซื้อของในเมือง เลยสบโอกาสหนี มธุมาสวิ่งไปเจอถนน โบกรถอย่างดีใจ แต่..กลับเป็นรถภูริพัต ภูริพัตลงโทษขังมธุมาสไว้ในห้องทินกร เพื่อนภูริพัตกลับมาจากบิน

ทินกร เป็นกัปตันเครื่องบินขวัญใจสาวๆ ทินกรมาที่บ้านกลางป่าเห็นมธุมาสก็ตะลึงในความสวย ภูริพัตให้ทินกรปลอมตัวเป็นสมุนโจรชื่อ เสือทิน ทินกรร้องจ๊าก…ไม่ยอม ภูริพัตขู่ถ้าไม่เป็นโจรก็อยู่ไม่ได้ ทินกรจำใจยอมเพราะอยากอยู่ใกล้คนสวยอย่างมธุมาส

อยู่ต่อหน้ามธุมาส ภูริพัตจะทำโหดเสียงเข้ม จนทินกรกับลอแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ มธุมาสกลัวภูริพัต แต่ก็ยังอดเถียงฉอด ๆ ไม่ได้ ซึ่งภูริพัตก็เถียงไม่ทัน แพ้ทุกที เมียลอต้องกลับบ้านนอก ไม่มีใครทำกับข้าว ภูริพัตเลยต้องทำเอง เสือพัตหน้าเหี้ยมติดเตาหุงข้าว ผัด ทอด ต้มยำสารพัด แถมอร่อยลิ้น มธุมาสแปลกใจโจรประสาอะไร ทำกับข้าวให้เธอกิน

ที่ กรุงเทพฯ คุณหญิงกมลาบังคับพีรพล ให้พาชลิดาไปเที่ยว จนทั้งคู่ได้เสียกัน พีรพลหลงรสเสน่หาจากชลิดา จนลืมมธุมาส ในป่า…มธุมาสทำตัวดีจนภูริพัตเชื่อใจ ยอมพาไปซื้อของในเมืองด้วย เข้าล็อคตามแผนมธุมาสแอบหนี ภูริพัตตามมาจับตัวได้ แต่มธุมาสก็สามารถโทรศัพท์ไปหา จารวีเพื่อนสนิทฯ บอกว่าถูกจับตัวอยู่ในป่า แถมยังบอกชื่ออำเภอไว้ จารวีเปิดหนังสือท่องเที่ยว จนเจออำเภอที่มธุมาสพูดถึง

การหายตัวไป ของภูริพัต ทำให้ ลีน่า หญิงสาวที่ชอบภูริพัต ตั้งแต่เรียนเมืองนอกด้วยกันร้อนใจ คิดว่าภูริพัตมีผู้หญิงอื่น ลีน่าเช็คเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานภูริพัต ก็รู้ว่าภูริพัตโทรมาจากไหน ลีน่าขับรถต่อเข้าไปยังบ้านกลางป่าของทินกร ทินกรเคยพาลีน่ามาเที่ยวครั้งหนึ่ง จารวีก็มาทางเดียวกัน เห็นรถลีน่าก็สงสัยว่า ลีน่าอาจมีส่วนลักพาตัวมธุมาส เลยสะกดรอยตาม จนมาถึงบ้านกลางป่า

ภูริพัตมาเจอสองสาวเข้า จารวีนึกว่า ภูริพัตเป็นโจร ร้องกรี๊ด ๆ ภูริพัตต้องอธิบายให้ฟัง และจากคำพูดของลีน่าก็ทำให้จารวีเชื่อว่า ภูริพัตเป็นลูกคุณหญิงกมลา แถมคล้อยตามภูริพัตว่า ลักพาตัวมธุมาสมา เพื่อปกป้องเธอจากแม่ของเขา จารวียอมกลับ

ภูริพัตให้ทินกรพาจารวีไปหาที่พักในเมือง ตอนแรกทินการไม่ไป แต่พอเห็นหน้าสวยๆ ของจารวีก็รีบแจ้นไปทันที ลีน่าไม่ไว้ใจที่ภูริพัตอยู่บ้านเดียวกับผู้หญิงสวยอย่างมธุมาส เลยประกาศตัวว่าเป็นเมียเสือพัต ถ้าภูริพัตไม่ยอมเล่นเป็นสามี ลีน่าจะบอกความจริงมธุมาส ภูริพัตกลัวพลาดท่าเสียทีให้ลีน่า เลยหนีออกมานอนนอกชานให้ยุงกัดทุกคืน ลีน่าแกล้งใช้งานมธุมาส มธุมาสไม่ทำซ้ำยังตอบโต้ ภูริพัตทำทีเป็นปกป้องลีน่า แต่ก็แอบขำความแสบทรวงของมธุมาส

มธุ มาสให้ลอเก็บดอกไม้ พวกของแปลก ๆ มาให้ ภูริพัตอธิบายเรื่องป่าให้มธุมาสฟัง มธุมาสทึ่งในตัวโจรหนุ่ม ที่รู้เรื่องป่าดีอย่างกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ นั่นเพราะภูริพัตชอบเดินป่ามาแต่ไหนแต่ไร เลยมีความรู้เรื่องป่า ผิดกับทินกรที่ชอบแสงสี ทินกรไปเที่ยวในเมืองไม่มีเพื่อนเที่ยว เลยไปชวนจารวีที่ยังปักหลักอยู่ในโรงแรม สองคนต่างเซ็งเหมือนกัน เลยชวนกันไปฟังเพลงเต้นรำสนุกสุดเหวี่ยง ทินกรออกจากป่ามาเที่ยวกับจารวีบ่อย ๆ จนจารวีจะกลับกรุงเทพฯ ทินกรเบื่อบ้านกลางป่าเต็มที เลยเก็บข้าวของกลับไปกับจารวี ภูริพัตบอกมธุมาสว่า เสือทินหนีตามผู้หญิง

มธุมาสทำแปลงปลูกดอกไม้ รอบบ้าน ทำให้บ้านสวยน่าอยู่ขึ้น ภูริพัตพอใจมาช่วยปลูก ลีน่าทนไม่ได้จะพามธุมาสหนี จะได้ไปให้ไกลภูริพัต มธุมาสใจหายไม่น้อย เพราะเริ่มผูกพันกับบ้านกลางป่า แต่ลีน่ารบเร้าจนมธุมาสตกลงหนี รถลีน่าเกิดคว่ำ ลีน่าสลบไปส่วนมธุมาสเจ็บเล็กน้อย มธุมาสวิ่งไปตามภูริพัตมาช่วย ภูริพัตพาลีน่าส่งโรงพยาบาล แล้วพามธุมาสกลับบ้านกลางป่า จากนั้นก็ย้อนมาเฝ้าลีน่าอีกรอบ มธุมากรู้สึกแสลงใจ ที่เห็นภูริพัตดีกับลีน่า

ชาวบ้านตามลอไปช่วย ช้างตกลูก ลอรีบไปโดยลืมว่า ปล่อยมธุมาสไว้ลำพัง มธุมาสมีโอกาสหนีแล้ว แต่หญิงสาวเกิดอาลัยอาวรณ์บ้านกลางป่า และอยากอยู่เจอภูริพัตมธุมาสไม่หนี หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเอง หรือเธอกำลังตกหลุมรักโจร รุ่งขึ้นภูริพัตรีบกลับมาด้วยเป็นห่วงมธุมาส มธุมาสเอาใจทำกับข้าวให้ภูริพัตกิน พวกไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม ภูริพัตขำเอ็นดูมธุมาส

ลีน่าถูกส่งตัวไปรักษาที่กรุงเทพฯ หมอต้องรุมจับหลายคนถึงลากไปได้ ชลิดาท้อง คุณหญิงกมลาจับพีรพลแต่งงานกับชลิดา และส่งข่าวไปบอกภูริพัต ให้ปล่อยตัวมธุมาสได้แล้ว ภูริพัตใจหายพามธุมาสกลับกรุงเทพฯ ต่างเศร้าไม่แพ้กัน ทั้งสองร่ำลากัน คิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้พบกันอีกแล้ว

มธุ มาสไปหาจารวี ได้เจอทินกรในชุดกัปตันเครื่องบิน แถมยังเป็นแฟนกัน มธุมาสเอ๊ะใจเรื่องชักไม่ชอบมาพากล ทินกรไม่ใช่โจรแล้วภูริพัตเป็นใครกันแน่ มุธมาสสงสัยว่า คุณหญิงกมลามีส่วนเกี่ยวข้อง เลยบุกไปบ้านคุณหญิง ถึงได้รู้ความจริงว่า ภูริพัตเป็นพี่ชายพีรพล ทุกคนรวมหัวกันหลอกเธอ มธุมาสหนีไป ภูริพัตตามหาไม่เจอ เสียใจจนไม่เป็นอันทำงาน ผาคินจะยกบริษัทให้ภูริพัต คุณหญิงกมลาไม่ยอม ประกาศว่า ภูริพัตไม่ใช่ลูกตน แต่เป็นลูกเมียน้อย ภูริพัตเพิ่งรู้วันนี้เอง ว่าทำไมแม่ไม่รักตน

ภู ริพัตออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เชียงใหม่ ภูริพัตตระเวณสมัครงานหลายแห่ง ได้งานที่โรงแรม 5 ดาว ที่กำลังจะเปิดตัวของแม่เลี้ยง พิมพร เศรษฐีนีภาคเหนือและที่นี่เอง ภูริพัตได้เจอกับมธุมาส มธุมาสขอย้ายมาทำงาน โรงแรมในเครือของแม่เลี้ยงพิมพร มธุมาสโกรธภูริพัตไม่ยอมพูดด้วย แต่บรรยากาศสวยงามของทางเหนือ บวกกับลูกตื้อของภูริพัต มธุมาสก็ใจอ่อนให้อภัยภูริพัต

แม่เลี้ยงพิมพรดีใจจัดงานเลี้ยงให้ ทั้งคู่ ภูริพัตกับมธุมาสแปลกใจ ที่แม่เลี้ยงดีกับพวกตนมาก ยิ่งกับภูริพัตแล้ว แม่เลี้ยงเรียกไปกินข้าวด้วยแทบทุกมื้อ ถึงวันงานเปิดตัวโรงแรมของแม่เลี้ยงพิมพร ภูริพัตเชินภาคินผู้เป็นพ่อ คุณหญิงกมลา พีรพล และชลิดามาด้วย บนเวทีกลางงาน แม่เลี้ยงพิมพรประกาศว่า ภูริพัตเป็นลูกชายตน ภาคินยืนยันว่าเป็นความจริง แม่เลี้ยงพิมพรเป็นคนรักเก่าภาคิน ภูริพัตดีใจที่ได้พบแม่ผู้ร่วมงานต่างซาบซึ้งไปด้วย แล้วภูริพัตก็ประกาศจะแต่งงานกับมธุมาส

หลังแต่งงาน ภูริพัตพามธุมาสไปฮันนีมูนที่บ้านกลางป่า เสือพัต..บัดนี้กลายเป็นสามีมธุมาส หญิงสาวมองดูชายหนุ่มติดเตาหุงข้าวอยู่หน้าบ้าน ภูริพัตเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบ แต่ใครจะรู้บ้างว่า..ครั้งหนึ่ง ภูริพัดเคยสวมรอยเป็นโจร หลอกลวงเธอและเขาก็ได้สิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดไป เขาปล้นหัวใจเธอไป…ตลอดกาล

นักแสดงละคร โจรปล้นใจ

ศรราม เทพพิทักษ์ แสดงเป็น ภูริพัต
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล แสดงเป็น มธุมาส
เจฟฟรี่ เบญจกุล แสดงเป็น พีรพล
กรรชัย กำเนิดพลอย แสดงเป็น ทินกร
สุวัจนี ไชยมุกสิก แสดงเป็น ชลิดา
ชุติมา เอเวอรี่ แสดงเป็น ลีน่า

คู่กรรม 2

คำโปรย : ความทรงจำ ความรัก ท่ามกลางความวิปโยค ที่ไม่อาจปฎิเสธ

กลินท์ หรือ โยอิจิ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอังศุมาลินที่เกิดจากโกโบริ ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 อังศุมาลินพยายามเลี้ยงดูกลินท์ด้วยความเข้มแข็ง แม้ วนัส เสรีไทยที่ ชอบอังศุมาลินอยู่นานจะเปิดเผยความในใจและไม่รังเกียจที่จะอยู่กินกับอังศุ มาลิน แต่อังศุมาลินก็ยังคงคบกับวนัสเพียงเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้น เพราะยังมั่นในรักที่มีต่อโกโบริ

อังศุมาลินพยายามปลูกฝังความเป็นโกโบริให้ในตัวกลินท์ แต่กลินท์ไม่ยอมรับและรังเกียจ เมื่อโตขึ้น กลินท์เข้าทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังผันผวนเพราะเป็นยุคเผด็จการทหาร กลินท์เป็นคนหนุ่มหัวสมัยใหม่ เขาเป็นผู้นำนักศึกษาร่วมการประท้วงสินค้าญี่ปุ่น โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงประวัติของกลินท์ มีแต่เพียง ชิตาภา อาจารย์สาวร่วมคณะเท่านั้นที่คอยเตือนให้ระวังความปลอดภัย หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมการประท้วงนั้น ศราวณี นักศึกษาสาวปีหนึ่งคณะรัฐศาสตร์ เป็นคนที่โดดเด่นมาก กลินท์ประทับใจในตัวเธอ ต่อมาศราวณีรู้ว่ากลินท์ที่แท้ก็เป็นญาติผู้พี่ของเธอ ที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่เกิดจากอังศุมาลิน ที่ทางครอบครัวของเธอรังเกียจ เพราะอังศุมาลินยอมแต่งงานกับทหารญี่ปุ่นอย่างโกโบริ ศราวณีเลยพลอยรังเกียจกลินท์ไปด้วย และบอกกล่าวประวัติของกลินท์ให้ทุกคนได้รู้ ทำให้ทุกคนเริ่มถอยห่างและไม่ไว้วางใจให้กลินท์นำอีกต่อไป ซึ่งมีแต่เพียงชิตาภาซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของศราวณีเท่านั้นที่เข้าใจกลินท์

ต่อมา ศราวณีถูกจับ กลินท์เข้าไปช่วยและได้รู้ถึงสาเหตุที่ทุกคนรังเกียจตน กลินท์พาศราวณีไปที่บ้านและได้พบกับอังศุมาลิน ศราวณีถึงได้รู้ว่าที่แท้อังศุมาลินรักในตัวโกโบริอย่างแท้จริง และไม่ใช่คนไม่ดีอย่างที่ครอบครัวเธอปลูกฝัง จึงเปลี่ยนทัศนคติและขอโทษ จากนั้นความผูกพันของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

การที่ศราวณีกลับไปคืนดีกับกลินท์ ทำให้ กบ แม่ของศราวณีไม่พอใจ จึงมีปากเสียงกัน ศราวณีหนีออกจากบ้าน ชิตาภาร้อนใจไปหากลินท์ที่บ้าน ขณะเดียวกันนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์วันมหาวิปโยคขึ้น กลินท์คิดว่าศราวณีคงจะไปร่วมชุมนุมด้วย จึงออกตามหาในที่ชุมนุม พบศราวณีในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสและเพ้อรำพันอยู่ตลอดเวลาว่า ตนเป็นคนพาเพื่อน ๆ ไปตาย ชิตาภาโทรศัพท์ไปบอกอาการแก่กบ แต่กบไม่รับฟังเอาแต่โทษชิตาภาต่าง ๆ นานา

หลังจากนี้ รัฐบาลต้อง ทูลเกล้าลาออกเพราะมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากมาย ชิตาภาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศและพาศราวณีไปรักษาอาการด้วย กลินท์เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองรักชิตาภา แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้ เพราะชิตาภามีคู่หมั้นแล้วเป็นชาวต่างประเทศ ทั้งคู่ให้คำมั่นสัญญากันว่า จะเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน

ต่อมา อังศุมาลินมีอาการป่วยและบ่นถึงชิตาภาอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่จะกลับ เมื่ออาการของอังศุมาลินเจ็บหนัก อังศุมาลินขอให้กลินท์เล่นซามิเซ็งให้ฟัง กลินท์ก็เล่นโดยที่ไม่รู้ว่าโกโบริได้พาอังศุมาลินไปยังทางช้างเผือกแล้วตามสัญญาที่เคยให้ไว้ และกลินท์ต้องเล่นซามิเซ็งแต่เพียงลำพังคนเดียว

คุณหนูฉันทนา

เมื่อนวลจันทร์ภรรยาของปกป้องเสียชีวิต ปกป้องจึงมีรักครั้งใหม่กับวีรดาทำให้เนตรพธูโกรธและไม่ยอมกลับเมืองไทย ปกป้องจึงหลอกเนตรพธูว่าตนป่วยหนัก เพื่อให้ลูกสาวกลับมา พอเนตรพธูกลับมาเมืองไทย และได้เจอกับอาย น้องต่างมารดาของเธอ เมื่ออายเดินเข้ามาจับมือเนตรพธูเธอจึงสะบัด จนน้องอายตกน้ำ ปกป้องโกรธเนตรพธูมากที่ทำน้องตกน้ำจึงขู่เธอว่าจะยกโรงงานให้กับวีรดา เนตรพธูไม่ยอม เธอจึงพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถดูแลโรงงานได้ โดยเข้าไปเป็นสาวโรงงานตามข้อตกลงของปกป้อง

เมื่อเข้ามาทำงานที่โรงงานเนตรพธูได้เจอกับเพื่อนที่น่ารักอย่างพรพนาและ ชมนาด ที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด หลังจากนั้นเธอได้เจอกับแท็กซี่หื่นกามทำให้เนตรพธูได้เจอกับขวัญกฤษฎิ์ ดีเจหนุ่ม ความไม่เข้าใจของเนตรพธูที่สงสัยในความสัมพันธ์ของขวัญกฤษฎิ์กับวีรดาแม่ เลี้ยงของเธอ และความเข้าใจผิดของขวัญกฤษฎิ์ที่คิดว่าเนตรพธูเป็นเมียเก็บของท่าน ประธาน ทำให้ความขัดแย้งของทั้งคู่ได้ก่อตัวเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว

หลายครั้งที่ขวัญกฤษฎิ์เกิดสงสัยในความเป็นสาวโรงงานของเนตรพธู ที่เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างได้อย่างคล่องแคลว แต่ขวัญกฤษฎิ์ก็ยังไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วเนตรพธูเป็นใครกันแน่

อำพล ผู้จัดการโรงงานที่คอยจะทำลายธุรกิจของปกป้องทุกวิธีทาง ถูกวีรดาสงสัยว่ายักยอกเงินบริษัท เลยจัดการวางเพลิงโรงงาน หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ด้วยความเป็นห่วงทั้งลูกสาวและโรงงานทำให้ปกป้องมีอาการป่วยกำเริบ เมื่อ เนตรพธูรู้ปัญหาของโรงงานจึงตัดสินใจที่จะบริหารงานแทนพ่อ เธอจึงเข้าร่วมประกวดแฟชั่นหวังจะช่วยกิจการของตนให้หลุดพ้นจากปัญหา ระหว่างที่เธอออกแบบเสื้อผ้าเพื่อเข้าประกวดอยู่นั้น วีรดาก็ได้พูดคุยกับเนตรพธู ทำให้เนตรพธูรู้ว่าวีรดารักพ่อของเธอจริงๆ

ถึงบริษัทของเนตรพธูจะไม่ชนะการประกวด แต่ก็มีนักลุงทุนชาวต่างชาติมาร่วมผลิตสินค้าด้วย ทำให้เนตรพธูตัดสินใจเปิดเผยความจริงว่าตนเป็นใคร เมื่อขวัญกฤษฎิ์ได้ยินจึงเสียใจเพราะคิดว่าตนเองถูกหลอก

ปกป้องสงสารลูกเลยให้วีรดาไปพูดให้ขวัญกฤษฎิ์คิดทบทวนอีกครั้งในเรื่องของ ความสัมพันธ์ระหว่างขวัญกฤษฎิ์กับลูกสาวของตน และในงานแต่งงานของศรลักษณ์กับชมนาดนั่นเอง ขวัญกฤษฎิ์ปรากฏตัวและได้ขึ้นไปขอโทษเนตรพธูบนเวที จากนั้นทั้งคู่ก็บอกรักกันท่ามกลางความยินดีของทุกคนที่โรงงาน