Tag Archives: ปิยธิดา วรมุสิก

ปลื้ม

หนุ่มซึมจะกลับมาสานต่อความสนุกและความรักในใจ

นักแสดงละครเรื่อง ปลื้ม

นิธิ สมุทรโคจร
ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น ปานนที / ป่าน
ชาช่า อัลเทอร์เมท
อรรถพร ธีมากร
ชาติชาย งามสรรพ์

คือหัตถาครองพิภพ 2556

ศรี (ปิยธิดา วรมุสิก) ลูกสาวคนโตวัยขึ้นคานของท่านเจ้าสัว (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) พ่อค้าใหญ่ร่ำรวยมีชื่อเสียง ที่เกิดกับแม่น้อย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ภรรยาคนที่สอง ศรีครองตัวเป็นโสด ไม่สนใจเรื่องการมีครอบครัว

ก่อนหน้านั้นมีคนมาสู่ขอ แต่ศรีก็ไม่สนใจ ท่านเจ้าสัวทั้งโกรธทั้งกลุ้มใจ ถึงขั้นต้องบังคับจับคลุมถุงชน แต่ศรีก็สร้างเรื่องให้วุ่นวายโดยร่วมมือกับอีเมี้ยน (อริสรา วงษ์ชาลี) พี่เลี้ยงสาวทึนทึก ห้าวๆ คล้ายผู้ชาย เมี้ยนปลอมตัวเป็นเจ้าสาวแทนศรี เพราะเจ้าสาวคลุมหน้าเข้าห้องหอไปเปิดหน้ามาเจ้าบ่าวถึงกับลมใส่ ส่วนศรีมี ศุกล (ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์) น้องชายลูกแม่ใหญ่ (นวลนง จามิกรณ์) ทั้งสองคน แม้จะเป็นลูกต่างแม่แต่รักใคร่และสนิทกันมาก ศุกลที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก รีบช่วยเหลือพาศรีไปแอบที่เรือนแพของแม่พริ้ง (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งอาศัยที่ริมน้ำท่านเจ้าสัวขายเครื่องปั้นดินเผา

เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนท่านเจ้าสัวโกรธมากกล่าวหาว่า เจ้าสัวเอาคนรับใช้มายกให้เป็นสะใภ้ถือเป็นการดูถูกครอบครัว และตัดความเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าสัว ที่แพศุกลได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี สะบันงา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ลูกสาวของพริ้ง เวลานั้นสะบันงากำลังจะลงว่ายน้ำเล่น ศุกลกับศรีขับเรือเครื่องมาอย่างเร่งรีบ ไปชนเอากระดานไม้ที่สะบันงายืนเก้งก้างอยู่จนตกลงไปในน้ำ สะบันงาตกใจร้องหวีดจนผ้าถุงหลุด ไม่กล้าขึ้นมาจากน้ำ ศรีต้องรีบไล่ศุกลให้ไป แล้วเอาผ้าถุงจากแพมาให้สะบันงาใส่ ศุกลหลงรักสะบันงาทันที และเป็นรักแรกพบของทั้งสองคน

พระยาสมิติภูมิ (เดวิด อัศวนนท์) ชาวฝรั่งสัญชาติอังกฤษ คอยเสาะหาผู้หญิงมีฐานะและมีความรู้คู่ควรมาเป็นภรรยา โดยไม่ได้เน้นความรัก พระยาเกษม (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนรักเป็นผู้แนะนำศรีให้ เนื่องเพราะศรีเป็นสาวหัวทันสมัย เขียนอ่านภาษาได้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ศรียังเป็นเพื่อนสนิทของ คุณหญิงลออศรี (กชกรณ์ นิมากรณ์) ภรรยาพระยาเกษมอีกด้วย ท่านเจ้าสัวดีใจมาก เพราะศรีลูกสาวมีวัยถึง 28 ปี เหตุเพราะศรีบ่ายเบี่ยงการแต่งงานหลายครั้ง

เวลาต่อมาพระยาสมิติภูมิมาสู่ขอศรี คุณหญิงลออศรีช่วยอ้อนวอน ศรีลังเลในเบื้องแรก เจ้าสัวกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึงกักตัวศรีไว้ในห้องก่อนแต่งงาน 7 วัน ส่วนอีเมี้ยนนั้นท่านเจ้าสัวแสร้งส่งไปทำธุระต่างจังหวัด ศรีจำต้องแต่งงานกับพระยาสมิติภูมิ กลายเป็น คุณหญิงศรี และมีอำนาจเต็มในคฤหาสน์หลังใหญ่

ค่ำคืนแรกที่ตกเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์ของพระยาสมิติภูมิ ศรีกรีดร้องดังโหยหวนจนท่านพระยาทั้งตกใจ และประหลาดใจ แต่ก็ภูมิใจที่ศรีอุตส่าห์ครองตัวมานาน แต่ยอมแต่งงานกับตน คุณหญิงศรี พาอีเมี้ยนมาเป็นต้นห้อง และหลีกเลี่ยงการหลับนอนกับพระยาสมิติภูมิสม่ำเสมอ โดยคอยจัดหาบ่าวสาวๆ ในบ้าน ไปปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิแทน ไม่เว้นแม้แต่อีเมี้ยนก็ต้องยอมไปแก้ขัดให้

หลังจากศรีแต่งงานออกเรือนไปแล้ว เจ้าสัวส่งศุกลไปเรียนเมืองนอกด้านคอมเมิร์ชเพิ่มเติม เพื่อติดต่อค้าขายธุรกิจให้ใหญ่โตมากขึ้น ตลอดเวลาศุกลไม่เคยลืมสะบันงาสาวน้อยตกน้ำคนนั้น เขาตั้งใจเรียนจนจบและเดินทางกลับจากต่างประเทศเร็วกว่ากำหนด ท่านเจ้าสัวผิดหวัง ศุกลไม่ได้เรียนการบริหารธุรกิจกลับไปเรียนด้านวรรณคดีและอักษรศาสตร์

ศุกลกับคุณหญิงศรีเป็นพี่น้องที่รักกันมาก จนถึงขั้นกล้าขอให้คุณหญิงมาบอกท่านเจ้าสัวไปสู่ขอสะบันงา ท่านเจ้าสัวโมโหมากสั่งให้ศุกลเลิกติดต่อกับสะบันงา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ศุกลลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวจะไปมีเมียเป็นลูกแม่ ค้าเรือนแพยากจน ไม่มีสกุลรุนชาติ นอกจากนี้ท่านเจ้าสัวแอบไล่แม่พริ้งและสะบันงาให้ไปจากที่ดินของตน ห้ามกลับมาอีก ศุกลเศร้าหมองไม่รู้สาเหตุการหายไปของสองแม่ลูก

สะบันงาในวัยเพียง 14 ปี กับแม่พริ้งและพ่อ การค้าขาดทุน เรือนแพโดนยึดเพราะติดจำนองเอาเงินไปรักษาแม่พริ้ง วันหนึ่งแม่พริ้งได้พบกับ แกละ (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) โดยบังเอิญ จนได้รู้ว่าแกละเป็นบ่าวในบ้านพระยาสมิติภูมิ แกละแนะนำให้แม่พริ้งพาสะบันงาไปขายฝากตัวขัดดอกเพื่อเอาเงินไปรักษาตัว แม่พริ้งพาสะบันงามาบ้านพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีจำสะบันงาได้และดีใจแทนศุกลจึงรีบรับซื้อสะบันงาเอาไว้รับใช้ หวังให้ศุกลมารับไปเป็นภรรยาสักวัน ความที่สะบันงาอายุน้อยมากไร้เดียงสา จึงรอดพ้นสายตาประกอบกับคุณหญิงพยายามเอาสะบันงาหลบจากพระยาสมิติภูมิเสมอ สะบันงาจึงรอดหูรอดตามาตลอด

แต่แล้ววันหนึ่งสะบันงาก็ได้พบกับเจ้าพระยาสมิติภูมิโดยบังเอิญอย่าง จังๆ ท่านกลับไมได้คิดในแง่ชู้สาวเพราะมองว่าเด็กมาก ได้แต่ติดใจว่าสวยมากแต่ยังเด็ก แต่ท่านพระยาก็ไม่ได้ละเลยสะบันงา

คุณหญิงศรีปกครองคนในบ้านโดยมีอีเมี้ยนเป็นตัวแทน คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปในบ้านและหาบ่าวสาวไปปรนนิบัติ รวมทั้งสองพี่น้อง สังเวียน (ธัญสินี พรมสุทธิ์) กับ สังวร (ภารดี อยู่ผาสุก) ที่ต่างเป็นคนขี้อิจฉาและมักใหญ่ใฝ่สูง อีเมี้ยนมักมีปัญหากับบ่าวไพร่ในบ้านเป็นประจำ แต่ไม่มีใครกล้าหือ บ่าวในครัวนินทาเมี้ยนกับคุณหญิงศรีว่าเล่นเพื่อนกัน คุณหญิงศรีโกรธขู่จะเอาโทษกับทุกคนที่พูดเรื่องนี้ จนทำให้เรื่องสงบลง

วันหนึ่งคุณหญิงศรีชวนศุกลมาหาที่บ้าน ศุกลมาพบสะบันงาถึงกับตะลึงงันมองด้วยความดีใจและหลงใหล จากนั้นศุกลจึงแวะเวียนมาเยี่ยมคุณหญิงศรี เพื่อได้พบหน้าสะบันงาบ่อยมากจนดูผิดสังเกตของพวกบ่าวไพร่ โดยเฉพาะน้อย (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) บ่าวปากมากจอมส่อเสียด 1 ในบ่าวที่คอยไปบำเรอความสุขให้ท่านพระยา น้อยจับตาความสัมพันธ์ของสองคนตลอด แม้ไม่ค่อยได้พูดจากัน แต่สะบันงาก็มีใจรักตอบศุกล ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นภรรยาของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิในวันหนึ่ง

ที่นั่นนางเล็กๆ ทั้งหลาย สังเวียน สังวร และน้อย พยายามชิงดีชิงเด่นเพื่อให้เจ้าพระยาสมิติภูมิหลงใหล และแย่งตำแหน่งคุณหญิงศรี ตบตีกันเองก็เคยทำ โดยหารู้ไม่ว่าท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิจะเชิดชูเพียงคุณหญิงเท่านั้น เพราะเหมาะสมคู่ควร บรรดาเมียเล็กเมียน้อยเกลียดคุณหญิงศรีและเมี้ยนมาก ถึงกับทำพิธีสาปแช่งให้คุณหญิงมีอันเป็นไปสารพัด แต่ไม่รอดสายตาเมี้ยน คุณหญิงศรีแสร้งทำเฉยแต่เก็บงำข้อมูลไว้ชำระแค้น

ด้วยความเอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษคุณหญิงศรีสอนวิชาสารพัดทั้งไทย อังกฤษให้สะบันงา ทำให้สะบันงามีความรู้มากมาย เพราะคุณหญิงต้องการให้สะบันงาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่คู่ควรของศุกลผู้เป็น น้องชาย แต่พวกนางเล็กๆ กลับคิดไปว่าคุณหญิงจะเอาสะบันงามาเป็นตัวตายตัวแทนในวันข้างหน้า จึงพากันเกลียดและอิจฉาสะบันงาไปด้วย สะบันงาเป็นเด็กจิตใจดี ใจเย็น อดทน ไม่มองใครในแง่ร้าย ยิ่งทำให้คุณหญิงศรีรักสะบันงามากในฐานะน้องสะใภ้ในอนาคต คุณหญิงศรีบอกสะบันงาเรื่องศุกลรักและจะแต่งงาน สะบันงาเต็มใจรักตอบศุกล ซึ่งทั้งศุกลกับสะบันงาได้พูดจาตกลงกันเรื่องแต่งงานไว้แล้ว เพียงรอเวลาให้สะบันงาโตอีกสักนิด

สังวรออดอ้อนขอร้องพระยาสมิติภูมิอย่าทิ้งขว้าง พระยาสมิติภูมิรับคำทำให้สังวรไม่เกรงกลัวคุณหญิงศรี โดยเฉพาะกับเมี้ยนมักเป็นคู่ปรับกันเป็นประจำ คุณหญิงศรีแม้จะไม่ชอบสังวรแต่ก็ทำให้เธอพ้นหน้าที่ต้องกลับนอนกับพระยา สมิติภูมิ คุณหญิงศรีฉลาดไม่ลดตัวไปทะเลาะกับสังวรให้เป็นหน้าที่ของเมี้ยน สังวรท้องสมใจอยากกะได้ลูกชายมาสืบทอดตระกูลเขี่ยคุณหญิงศรีให้กระเด็น คุณหญิงศรีรับรู้แผนการของสังวร โดยมีเมี้ยนคอยจับตาดู คุณหญิงศรีไม่มีวันยอมให้พระยาสมิติภูมิมีลูกกับบ่าวไพร่ขี้อิจฉาคนใดโดย เด็ดขาด

สังวรยังไม่ทันบอกให้ใครเรื่องตั้งท้องรู้นอกจากสังเวียนน้องสาว น้อยเมียบ่าวผู้ทะเยอทะยานแอบฟังสองพี่น้องคุยกันจึงรีบไปบอกเมี้ยน เมี้ยนไปบอกคุณหญิงหญิงศรี แต่คุณหญิงศรียินดีกับสังวรยกใหญ่เมี้ยนถึงกับแปลกใจ สังวรผยองยกใหญ่วางก้ามตีเสมอเผลอเบ่งทับคุณหญิงศรี

เมี้ยนโมโหและโกรธจัด วางแผนเฉดหัวสังวรออกจากบ้านเนียนๆ ให้คุณหญิงศรี โดยแสร้งชวนสังวรมาคุยในห้องคุณหญิงศรี แล้วทิ้งไว้คนเดียว เมี้ยนจัดแจงนำเอาเครื่องเพชรของคุณหญิงศรีไปซ่อนไว้ในห้องของสังวร พร้อมกับร้องโวยวายว่าสังวรขโมยเครื่องเพชรไป คุณหญิงศรีให้ทางเลือกสองทาง ส่งตำรวจหรือต้องไปจากบ้าน สังวรจำนนต่อหลักฐาน พวกบ่าวไพร่คนในบ้านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีแต่สังเวียนเท่านั้นที่ไม่เชื่อเต็มที่ว่าสังวรจะขโมย สังวรต้องออกจากบ้านไปโดยมีลูกติดท้องไปด้วย ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิไม่รู้ว่าสังวรท้องรู้แต่ว่าขโมยของคุณหญิงแล้วหนีไป เพราะกลัวความผิด

สังวรกลับไปคลอดลูกชายตั้งชื่อว่า ทอง (โตขึ้นเป็น ศรุต สุวรรณภักดี) พร้อมกับเลี้ยงดูและเสี้ยมสอนให้ทองกลับมาแก้แค้นคุณหญิงศรีแทนตน

หลังจากเห็นพี่สาวถูกใส่ร้าย สังเวียนเจ็บแค้นคุณหญิงศรีที่กลั่นแกล้งสังวร จึงพยายามท้องกับเจ้าพระยาสมิติภูมิให้ได้ สังเวียนสนิทกับแกละที่ยังแคล้วคลาดไม่ได้เป็นภรรยาของท่านสมิติภูมิสักที สังเวียนพยายามไปปรนนิบัติเจ้าพระยาสมิติภูมิแทนคิวของแกละ และคอยเสี้ยมแกละให้ลาออกไปกับ ซ้ง (พศิน ศรีธรรม) กุ๊กจีนที่รักใคร่ชอบพอกันอยู่ ในที่สุดทั้งสองลาออกไปเปิดร้านอาหารจีนภายหลังกิจการเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต และมีชื่อเสียงมากในเวลาต่อมา แกละเปลี่ยนชื่อเป็นลออศรีวดี ตามชื่อของคุณหญิงลออศรี ต่อมาเติมวดีข้าไปอีก แกละจึงมีชื่อยาวมากว่า คุณหญิงลออศรีวดี ส่วนซ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็นคุณทรงวาด

น้อยเมียบ่าวอีกคนดีใจที่สังวรถูกกำจัดออกไป และหวังมีลูกกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเช่นกัน น้อยอิจฉาสังเวียนที่กลายเป็นคนโปรด คอยติดตามข่าวสังเวียนไปบอกเมี้ยนหวังรางวัล หารู้ไม่ว่าเมี้ยนไม่ไว้ใจน้อยเช่นกัน

ในที่สุดสังเวียนท้องกับพระยาสมิติภูมิ แต่ขอร้องไม่ให้บอกใคร เจ้าพระยาสมิติภูมิรับปาก และทำให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสังเวียนอีก เมี้ยนจับสังเกตอยู่ด้วยความแปลกใจ น้อยมาส่งข่าวว่าสังเวียนน่าจะท้อง คุณหญิงศรีสงบนิ่งด้วยยังไม่แน่ใจ เพราะกำลังวางแผนแต่งงานให้ศุกลกับสะบันงา เมื่อหมดคนที่จะส่งไปให้ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ อีกทั้งท่านเจ้าพระยาไม่ต้องการน้อยเพราะปากมาก เมี้ยนก็มีรอบเดือน คุณหญิงศรีรักน้องชายมากและหวงสะบันงาไว้ให้น้องชาย จึงยอมไปนอนกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเสียเอง พร้อมกับเตือนสะบันงาให้ระวังตัว

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าคุณหญิงศรีท้องมีอาการแพ้และป่วยจนนอนอยู่แต่ในห้อง ไม่สามารถปกป้องสะบันงาให้น้องชายได้อีก แม้สะบันงาจะเฝ้าดูแลคุณหญิงศรีตลอดเวลา แต่ก็ต้องโดนเรียกไปพบท่านเจ้าพระยาในที่สุด

โชคยังดีที่เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสะบันงาทันที เพราะจะถนอมเอาไว้ให้สะบันงาเต็มใจรับรักท่าน ท่านหลงรักสะบันงายิ่งกว่าหญิงใดๆ แม้แต่คุณหญิง ยิ่งพบว่าสะบันงาเก่งกาจเพราะเรียนรู้จากคุณหญิง ท่านยิ่งหลงใหล จ้างครูมาสอนสารพัดวิชาให้สะบันงา

ศุกลมาเยี่ยมคุณหญิงศรีและรู้ว่าสะบันงาเข้าไปดูแลปรนนิบัติพระยา สมิติภูมิก็เสียใจมาก คุณหญิงศรีบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอเวลาไม่ได้แล้ว บอกให้ทั้งสองคนหนีไปด้วยกัน น้อยมาแอบฟังจึงรีบไปฟ้องสังเวียน และสังเวียนไปฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิต่อ สังเวียนกร่างใหญ่โตเบ่งมากมีปากเสียงกับเมี้ยนไม่เกรงกลัวใคร เพราะเจ้าพระยาสมิติภูมิคอยให้ท้าย สังเวียนแอบส่งจดหมายถึงสังวรแจ้งข่าวท้องฝาก นายยอด (กษาปณ์ จำปาดิบ) คนรถไปส่ง ด้านนายยอดไม่ชอบหน้าสองพี่น้องจึงแอบเปิดอ่านและเอาจดหมายไปให้เมี้ยนเพราะ หวังรางวัล คุณหญิงศรีอ่านจดหมายจึงรู้ว่าสังเวียนท้องจริง และยังรู้ด้วยว่าสังเวียนเอาสมุนไพรทำให้แท้งลูกใส่ในยาหม้อบำรุงครรภ์ของ คุณหญิงศรี เหตุนี้คุณหญิงศรีจึงป่วยกระเสาะกระแสะ

คุณหญิงศรีแค้นมากแต่อีเมี้ยนแค้นกว่า จึงอาสาจัดการให้ โดยจ้างยอดให้เข้าหาสังเวียน สังเวียนต่อสู้แทงยอดด้วยมีด เมี้ยนเข้าไปเจอสังเวียนอยู่กับยอด จึงต่อว่าเสียงดังและเอาจดหมายที่สังเวียนคิดร้ายกับคุณหญิงโชว์ให้ดู สังเวียนตกใจกลัวมากจนด้วยหลักฐาน เมี้ยนขู่จะบอกท่านเจ้าพระยา สังเวียนจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง ส่วนยอดเมี้ยนปิดปากด้วยการลอบวางยาพิษ เจ้าพระยาสมิติภูมิอดสงสัยไม่ได้ แต่คุณหญิงเอาจดหมายที่สังเวียนเขียนถึงพี่สาวให้ท่านเจ้าพระยาอ่าน ท่านพูดไม่ออกเพราะสังเวียนปองร้ายคุณหญิงศรีจึงและคิดร้ายถึงขึ้นจะฆ่าลูก ในในท้องให้แท้ง จึงเงียบและไม่ต้องการให้เรื่องอื้อฉาว

เวลาต่อมาคุณหญิงศรีคลอดลูกสาวชื่อ พริสซิลลา หน้าตางดงามแต่ไม่แข็งแรงนัก คุณหญิงศรีไม่มีน้ำนม เมี้ยนต้องไปเอาบ่าวชื่อ ดา (มนตระกานต์ ทองขาว) พี่สาวของเดือน (อุษณีย์ วัฒฐานะ) มาเป็นแม่นม

น้อยมาบอกให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไปดูศุกลกับสะบันงาคุยกันอย่างสนิท สนมใต้ต้นพิกุล ท่านตัดสินใจเลิกทะนุถนอมสะบันงาเอาไว้ต่อไป เจ้าพระยาสมิติภูมิกักสะบันงา ไม่ยอมส่งสะบันงากลับไปดูแลคุณหญิง และให้คุณหมออดุล หมอประจำบ้านมาดูแลพร้อมด้วยพยาบาลและเมี้ยน สะบันงาตกเป็นภรรยาของเจ้าพระยาสมิติภูมิจึงปฏิเสธแต่งงานกับศุกลเพราะมี มลทิน แต่ศุกลกลับไม่ถือสา เขารักสะบันงายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก และให้ตัดสินใจหนีไปกับเขา ศุกลจะส่งรถมารับ นัดหมายให้ออกไปตอนเที่ยงคืนแรมสิบห้าค่ำที่จะมาถึง ถ้าไม่ออกมาเขาจะรอจนกว่าจะตาย สะบันงาสองจิตสองใจ น้อยแอบฟังที่ศุกลบอก แต่บิดเบือนเมื่อมารายงานท่านเจ้าพระยาว่าสะบันงานัดศุกลให้มารับเพื่อจะหนี ไปด้วยกัน ท่านแค้นมาก สั่งน้อยหานักเลงมาให้สองคน โดยท่านเจ้าพระยาสั่งให้เอาศุกลไปทำร้ายสั่งสอนให้เข็ดหลาบเท่านั้น

เมื่อถึงวันนัด สะบันงาไม่ยอมลงไป เพราะไม่ต้องการทรยศต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ศุกลมารอรับสะบันงาตามที่นัดหมายไว้ ขณะเดินไปรอที่ต้นพิกุลใหญ่ เขาโดนสองคนทำร้ายทุบตีและอุ้มหายไป ขณะเดียวกันนั้น คุณหญิงศรีซึ่งอยู่ในห้องกับพริสซิลลาที่ยังแบเบาะมองทางหน้าต่าง เห็นสองคนกำลังอุ้มและทุบตีใครคนหนึ่งไป เอะใจว่าเป็นศุกลจึงลอบลงเรือนตามไปดู ทิ้งให้พริสซิลลาหลับอยู่ตามลำพัง เมี้ยนได้ยินเสียงพริสซิลลาร้องไห้วิ่งมาดู ไม่พบคุณหญิงศรีก็ตกใจมาก จึงมาเรียกน้อยไปตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลา น้อยฉวยโอกาสมากระซิบสะบันงา

เมื่อรู้ว่าพริสซิลลาไม่มีใครดูแลเพราะเมี้ยนจะออกไปตามหาคุณหญิงศรี สะบันงาจึงขอไปดูแลพริสซิลลา ระหว่างทางน้อยกลับชวนไปแวะที่ต้นพิกุลใหญ่ บอกว่ามีคนรอพบถ้าไม่ไปพบเขาจะขึ้นไปหาเจ้าพระยาสมิติภูมิ สะบันงายอมไปแต่ไม่พบใคร น้อยย้อนกลับมาฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิว่าสะบันงาไปรอพบศุกล สะบันงาเจอเมี้ยนระหว่างทางจึงรู้ว่าโดนน้อยหลอก เมี้ยนตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลาแทนแล้ว เมี้ยนโกรธน้อยมากรู้ว่าน้อยหักหลัง แต่ต้องรีบไปตามหาคุณหญิง

ท่านเจ้าพระยาตามลงมาหาสะบันงาชวนกลับเรือนไปโดยไม่บอกว่ารู้เรื่อง ใดๆ สั่งให้สะบันงาอยู่แต่ในห้องอย่าไปไหน ส่วนตนเองออกไปดูผลงาน น้อยแอบวางเพลิงเรือนคุณหญิงศรีหวังให้พริสซิลลาตาย จากนั้นแอบไปดูผลงานที่สองโจรทำร้ายศุกลเพื่อรอรับส่วนแบ่งรางวัลตามที่ตกลง กันไว้ โจรสองคนเกิดโลภทำร้ายศุกลเมื่อเห็นว่ามีทองหยองเงินทองติดตัวมากมาย จึงริบมาหมดกลายเป็นฆ่าชิงทรัพย์ ขณะรูดแหวนติดนิ้วที่มีอักษรไขว้ ศก. คุณหญิงตามมาเจอโจรสองคน กระโจนเข้าไปหาน้องชายด่าว่าโจรเป็นการใหญ่ โจรชั่วสองคนที่กำลังขุดหลุมรอฝังศุกลโมโหใช้จอบฟันเข้าที่หน้าคุณหญิงศรีจน หน้าเละไปข้างหนึ่ง คุณหญิงไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามคลานไปขัดขวางจึงโดนจอบฟันขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง เมื่อจะฟันมือปรากฏว่าคุณหญิงศรีหลบทันก่อนจะแกล้งนอนสลบ

น้อยพรวดออกมาแสดงความยินดีกับสองโจรเพื่อตั้งใจมาขอส่วนแบ่ง โจรสองคนจึงฟันน้อยตายไปด้วย เมื่อฝังศุกลและน้อยเสร็จ สองโจรคิดว่าคุณหญิงศรีตายแล้ว กำลังจะฝัง แต่ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาพบโจรสองคนตามนัดหมายเพื่อให้ค่าจ้างเสียก่อน และรู้ว่าโจรสองคนฆ่าศุกลแถมคุณหญิงศรีนอนตายอีกคน จึงโกรธมากด่าว่าโจรสองคน ทั้งสองคนบอกว่าคุณหญิงศรีมาขัดขวางจึงตัดสินใจฆ่า

ท่านเจ้าพระยาเสียใจมาก และจะยิงโจรทั้งสองคนทิ้งแต่เห็นไฟลุกท่วมบ้านที่คุณหญิงพัก ก็ตกใจกลัวพริสซิลลาโดนไฟครอกจึงรีบหันกลับบ้านเพื่อไปดูลูก โจรสองคนฉวยโอกาสหนีไปพร้อมค่าจ้าง

พอทุกคนคล้อยตัวไป เมี้ยนตามมา และพบสภาพคุณหญิงศรีก็หัวใจสลาย สงสารคุณหญิงจับใจ เมื่อเห็นว่าคุณหญิงยังไม่ตายจึงรีบอุ้มไปหลบที่รถของศุกลที่จอดแอบรออยู่ โดยให้คนรถขับพาไปที่บ้านของตนเองที่ปทุมธานี

ด้านสะบันงารีบออกจากตึกของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาช่วยพริสซิลลา กับเดือนและดา เจ้าพระยามาถึงบ้านไฟมอดไหม้มจนเป็นจุณ พริสซิลลาปลอดภัยเพราะทั้งสามคนช่วยไว้ ท่านซาบซึ้งในน้ำใจของทั้งสาม จากนั้นจึงย้อนกลับมาดูร่างคุณหญิงศรี แต่ร่างคุณหญิงหายไปไร้ร่องรอย จึงเข้าใจว่าพวกโจรพวกนั้นเอาศพไปด้วย ท่านเจ้าพระยาไม่สบายใจมากเรื่องคุณหญิงศรี และกลายเป็นหนามทิ่มแทงให้เจ็บปวดหัวใจจนกลายเป็นโรคหัวใจในเวลาต่อมา

ท่านเจ้าพระยาประกาศว่าคุณหญิงศรีเสียชีวิตในกองเพลิง และจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ส่วนสะบันงาได้รับการยกย่องเป็นภรรยาเอกเลื่อนฐานะเป็นคุณหญิง เธอดูแลพริสซิลลาอย่างดีรักเหมือนลูก พริสซิลลาโตขึ้นปรากฏว่าเป็นออทิสติก แต่คนในสมัยนั้นคิดว่าเด็กปัญญาอ่อน เธอเป็นเด็กสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา พระยาสมิติภูมิรักลูกสาวคนนี้มาก สะบันงาก็รักใคร่เอ็นดูเช่นกัน สะบันงาไม่เชื่อว่าพริสซิลลาปัญญาอ่อนพยายามดูแลอย่างดี พริสซิลลามีความจำดีอย่างมหัศจรรย์มักรู้อะไรที่ใครนึกไม่ถึง คิดเลขได้เร็ว

สะบันงายังรักศุกลแม้จะไม่ได้คิดหนีตามไป แต่เข้าใจผิดคิดว่าศุกลหลอกว่าจะมาพบแต่ไม่กลับมาเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีคนเอาไปนินทาว่าเป็นฝีมือของสะบันงา ซึ่งวางแผนกำจัดคุณหญิงศรี ฆ่าตายหมกไว้ที่ไหนสักแห่ง บ้างว่าคุณหญิงศรีหนีตามน้องชายคนละแม่ สะบันงาเสียใจแต่นิ่งเฉยเสีย ท่านเจ้าพระยาคอยปลอบใจและรักสะบันงามากขึ้นทุกวัน และเล่นงานทุกคนที่พูดเรื่องนี้จนพากันเงียบปากไป โดยเฉพาะคุณหญิงลออศรี หรือ แกละนั่นเองคือตัวกระจายข่าวในวงชั้นสูง ภายหลังพระยาเกษมได้มาพบปะสะบันงาจึงรู้สึกดีขึ้น

เวลาผ่านไปสะบันงามีลูกสาวคนแรกกับเจ่าพระยาสมิติภูมิ ชื่อ พริ้มเพรา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมี้ยนกลับมาหาสะบันงาบอกว่าขอพาพี่สาวทีพิการมาขอ อาศัยอยู่บ้านท้ายสวน โดยไม่ยอมบอกว่าที่แท้เป็นคุณหญิงศรีนั่นเอง สะบันงาอนุญาตด้วยความเต็มใจ และถามไถ่ถึงคุณหญิงศรี สะบันงาร้องไห้เสียใจที่คุณหญิงศรีหายไป เธอยังเคารพเทิดทูนและรู้ซึ่งในพระคุณคุณหญิงศรีเสมอ เมี้ยนฟังแล้วถึงกับร้องไห้โฮนำความมาบอกคุณหญิงศรี

คุณหญิงได้ทราบว่าสะบันงาปฏิเสธไม่ให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิง เพราะเธอมั่นใจว่าคุณหญิงศรียังมีชีวิตอยู่ คุณหญิงศรีถึงกับตื้นตันน้ำตาคลอขนาดไม่รู้ว่าเป็นคุณหญิงมาอาศัยอยู่ สะบันงายังใส่ใจส่งอาหารขนมนมเนยของใช้ทุกอย่างมาให้กินให้ใช้ แม้ว่าจะแปลกใจไม่น้อยที่รู้ว่าพี่สาวเมี้ยนคนนี้ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และทานอาหารด้วยมีดและส้อม

สะบันงาพยายามขอไปเยี่ยมพี่สาว แต่เมื่อเมี้ยนไปรายงาน ถูกคุณหญิงศรีปฏิเสธ บ่าวไพร่หลายคนไปเดินเล่นแถวนั้นพบหญิงสูงวัยพิการหน้าคล้ายผี ต่างตกใจวิ่งหนีกันทุกคน ภายหลังเมี้ยนไปหาหน้ากากมาให้ใส่บังใบหน้าแทน

คุณหญิงศรีมักแอบไปนั่งที่หลุมฝังศพศุกล นำดอกไม้ไปวางไว้ พูดกับหลุมศพน้องเสมอ เจ้าพระยาสมิติภูมิก็เช่นกันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงมักวนเวียนไปขอโทษ ศุกลที่นั่น จนอยู่มาวันหนึ่งพบดอกไม้วางอยู่เช่นเคย ผู้วางยังไม่ทันออกไปพ้น เจ้าพระยาสมิติภูมิตามไปกระชากไหล่ให้หันกลับมา หญิงคนนั้นใส่หน้ากากเห็นแค่ดวงตาข้างที่ไม่บอด ท่านจำได้ทันทีว่าคือดวงตาของคุณหญิง อุทานเรียกชื่อออกไปคุณหญิงผลักท่านเจ้าพระยาล้มลงแล้วกระเซอะกระเซิงหนีไป เจ้าพระยาสมิติภูมิยิ่งเสียใจมาก สงสารคุณหญิงศรีจับใจ ส่งคนไปสร้างบ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่ มีทุกอย่างครบครันแทนกระท่อมผุพัง

สะบันงาเลี้ยงดูพริสซิลลาอย่างดี จนต่อมา สะบันงามีลูกสาวคนที่สองชื่อ แพรวพรรณราย และลูกสาวคนที่สามชื่อ พราวพิลาส แต่ละครล้วนงดงามน่ารัก แถมยังมีลูกชายคนสุดท้องชื่อพฤกษ์ สมหวังดังปรารถนาของท่านเจ้าพระยาที่จะมีลูกไว้สิบสกุล เดือนผู้แสนดีได้รับการสนับสนุนจากสะบันงา ให้มาเป็นภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาต่อจากเธอ และมีลูกชายกับท่านเจ้าพระยาอายุแก่กว่าพฤกษ์สามวัน ชื่อ พจน์ และได้เกิดเรื่องราวกับพฤกษ์ดังได้กล่าวไปแล้ว พจน์จึงกลายเป็นผู้สืบสกุลแทน

ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิอุปการะเด็กชายคนหนึ่งชื่อ ศีล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) เนื่องจากพ่อแม่ตาย จากการไปช่วยงานกฐินของท่าน ศีลเป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก และกลับมาทำงานเป็นผู้จัดการห้างของตระกูลสมิติภูมิ เป็นที่ไว้วางใจของทุกคนในบ้าน

สะบันงามีเพื่อนสนิทชื่อ ปานวาด (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เป็นลูกสาวของคุณหญิงลออศรี ปานวาดถูกส่งไปเรียนฝรั่งเศส มีสามีเป็นนักดนตรี ชื่อ ปีแอร์ และมีลูกชายด้วยกันชื่อ ธรรม์ (ชินวุฒ อินทรคูสิน) ปีแอร์โดนรถชนจนพิการ ปานวาดเลิกเรียนเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้รักษาตัวสามี ปีแอร์ทนดูสภาพปานวดลำบากไม่ได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ปานวาดตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้าน คุณหญิงไม่พอใจมาก แต่พระยาเกษมกลับนิ่งเฉย พาปานวาดมาพบกับสะบันงา สะบันงาให้กำลังใจปานวาด

ธรรม์กลายเป็นเพื่อนสนิทกับพริ้มเพรา แพรวพรรณราย โดยเฉพาะพิมพิลาส เนื่องจากชอบดนตรีเหมือนกัน พริ้มเพราสงบเสงี่ยมสุขมรอบคอบ ชอบไปหลังบ้านพบคุณป้าพิการ เธอไม่ตกใจกลัวเช่นคนอื่นพูดด้วยอย่างดี ศรีสอนภาษาให้พริ้มเพราและรักเหมือนลูกสาวอีกคน ศรีส่งข่าวให้ครอบครัวทราบว่ายังไม่ตายแต่ไม่พร้อมจะไปพบ ไม่ต้องการให้พ่อแม่เห็นหน้าผีของตนส่วนศุกลนั้นตายแล้ว ต่อมาภายหลังสิ้นเจ้าสัว ศรีได้รับมรดกทั้งหมดจึงยกต่อให้พริ้มเพรา

ส่วนพริสซิลลามักจะไปเดินเล่นในสวน จนพบศรีกลับจำได้ว่าเป็นแม่ และเรียกเธอว่าแม่ ศรีเสียใจมากแต่ไม่อาจยอมรับว่าเป็นแม่ให้เมี้ยนพากลับไปหาสะบันงา กำชับว่าห้ามบอกพริสซิลลามาเล่นแถวนั้นอีก แต่พริสซิลลาก็แอบมาจนได้

ฟากสองโจรชั่วใช้เงินหมดแล้วย้อนกลับมาจะไถเงินท่านเจ้าพระยาสมิติ ภูมิ พบกับพริสซิลลาสวยงามน่ารักมาด้อมมองเรียกหาแม่จึงฉุดคร่าจะข่มขืน ศรีมาพบใช้จอบฟาดสองคนซมซานหนีไปตายอย่างน่าอนาถ เมี้ยนพาพริสซิลลากลับไปหาสะบันงาอีก สะบันงาตัดสินใจปรึกษาเจ้าพระยาสมิติภูมิเรื่องส่งตัวพริสซิลลาไปรักษาโดยมี หมออดุลคอยดูแล ส่วนอุดร ลูกชายหมอรู้จักคุ้นเคยกับลูกๆ ของสะบันงาและสนิทเป็นคู่ๆ

อุดรสนิทและรักกับพริ้มเพราแต่ไม่สมหวัง เพราะพริ้มเพรารักธรรม์มากกว่า ส่วนธรรม์สนิทสนมกับพราวพิลาสเพราะรักดนตรีเหมือนกัน แพรวพรรณรายคอยตามกลั่นแกล้งทุกคนเพราะไม่มีใครจับคู่ด้วย พฤกษ์สนิทกับพจน์ไปไหนมีพจน์ตามไปด้วยดั่งเงา

ทุกคนดีกับพจน์ยกเว้นแพรวที่ชอบด่าว่าเป็นลูกบ่าว พริ้มเพรามีเพื่อนสนิทชื่อเมขลา เด็กยากไร้มาขอรับใช้ มาร์แมร์ เพื่อแลกกับการได้เรียนโรงเรียนไฮโซ โดยอาสาว่าจะกลับมาสอนหนังสือตอบแทนเมื่อเรียนจบ ไม่มีใครคบกับเมขลาเลย เพราะนิสัยไม่ดียกเว้นพริ้มเพรา เมขลามักหยิบเอาข้าวเอาของและแอบอ้างชื่อพริ้มเพราไปเบ่งใส่ใครต่อใคร

วันหนึ่งพฤกษ์กับพจน์พากันไปขุดไส้เดือนตกปลา กลับไปขุดพบกระดูกคนจึงร้องโวยวายขึ้นมา แพรวตามไปแกล้งพจน์พบแหวนที่โครงกระดูกรีบเอามาบอกสะบันงา สะบันงาเห็นแหวนสลัก ศก. ถึงกับลมจับ และรู้ความจริงว่าศุกลมารอรับเธอจริงๆ แต่โดนฆ่าตาย มั่นใจว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศุกล จึงไปโวยวายต่อว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศรีด้วย ท่านเจ้าพระยาหัวใจวายกะทันหัน ก่อนสิ้นลมยังทันได้บอกว่าคุณหญิงยังไม่ตายอยู่ท้ายบ้านสวน สะบันงารีบไปเชิญคุณหญิงศรีกลับมาเอาบ้าน เอาตำแหน่งคืนให้ คุณหญิงศรีไม่ยอมรับ และบอกว่าเธอคือคนสาบสูญขออาศัยอยู่แต่บนเรือนเท่านั้น

สองคนรักใคร่ปรองดองกันดังเดิม สะบันงายอมรับให้ทุกคนเรียกว่าคุณหญิงเนื่องจากคุณหญิงศรีอนุญาตแล้ว เคารพเรียกศรีว่าคุณพี่ เมี้ยนปรึกษาดูแลทุกอย่างในบ้านเช่นเดิม สะบันงามีความสุขมากจนถึงวันที่พฤกษ์ตายสะบันงาใจสลาย ผมที่เคยดกดำเปลี่ยนเป็นสีขาวชั่วข้ามคืน ด้านพริ้มเพรา ถูกส่งให้ส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังเริ่มวัยรุ่น สะบันงาตัดสินใจส่งพจน์ไปแทนพฤกษ์ ส่วนเมขลาอยากไปนอกอย่างพริ้มเพราะบ้าง ตั้งใจเรียนเต็มที่ได้ทุนไปนอกจนได้ ก่อนไปได้ทำทีพบกับศีลที่เคยพบที่บ้านพริ้มเพรา อ้างว่าเป็นเพื่อนพริ้มเพราให้มาหาศีลดูข้าวของเครื่องใช้ไปนอก ศีลใจดีให้เสื้อผ้าไปใส่เมืองนอกมากมายทำให้เมขลาอยากได้ศีลเป็นสามี แต่ศีลนิ่งเฉยมากเมขลาจึงอดใจไว้ก่อน

ศีลกลับเอ็นดูหลงใหลสาวน้อยวัยรุ่นพราวพิลาส ชอบฟังเสียงเธอเล่นเปียโน เขาหาเปียโนมาให้เล่น หาครูมาสอน พราวพิลาสนับถือศีลเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่กลับพึงพอใจธรรม์ที่คอยตามติดเล่นดนตรีด้วยกัน โชคร้ายธรรม์ได้เวลาไปเรียนต่อ อาคม สามีใหม่ของปานวาดแนะนำให้ไปเรียนกฎหมาย ธรรม์เคยสัญญากับพราวพิลาสว่าจะไม่ไปไหน เขาจำต้องไปและบอกว่าจะกลับมาเมื่อเรียนจบ แต่พอเรียนจบจริง ธรรม์กลับมาเรียนดนตรีต่อและไปรับพ่อของลูกเพื่อนสนิทชื่อ ชองปอล ข่าวนี้ทำให้พราวพิลาสเสียใจมาก เธอเศร้าซึมและแต่งเพลงหลายเพลงล้วนเศร้าสะเทือนใจ ศีลพยายามปลอบโยนชวนไปร้องเพลงที่ห้องอาหารในโรงแรมใหญ่ ศรีขอร้องให้สะบันงาอนุญาตเพื่อรักษาแผลใจ พราวพิลาสรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อศีลคอยดูแลทำให้อุ่นใจ

ต่อมาศีลไปดูงานเมืองนอกพบเมขลาอยู่ที่เมืองนั้นพอดี เมขลาทำที่ว่าโดนคนร้ายปล้นหมดตัวมาขออาศัยศีลอยู่ และมอมเหล้าจนได้เสียกันกับศีล ศีลไม่สบายใจมากแต่จำต้องแต่งงานเพราะเมขลาท้องส่วนเมขลาคลอดลูกปุ๊บก็สอบ ชิงทุนไปเรียนต่ออีก ทิ้งลูกไว้กับศีลแบบไม่ไยดี ศีลผิดหวังโกรธตัวเองเพราะต้องการขอพราวพิลาสแต่งงาน ศีลอกหัก แต่พยายามประคองตัวเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดี พราวพิลาสเอ็นดูหนูน้อยมาก

พริ้มเพรากลับมาเมืองไทยท่ามกลางความยินดีของทุกคน อุดรกลายเป็นหมอหวังจะแต่งงานกับพริ้มเพราตามที่สะบันงาและศรีคอยสนับสนุน หวังให้พริ้มเพราดูแลกิจการของตนเอง แต่พริ้มเพรากลับหันไปเข้าวัดและจำศีลไม่กลับบ้าน ต่อมาสุดท้ายกลายเป็นบวชชี อุดรผิดวังแต่ก็สนับสนุนช่วยทำหนังสือธรรมะ พริ้มเพรากลับบ้านเมื่อมีเหตุสำคัญเพื่อมาปลอบใจให้คำแนะนำทำให้ทุกคนสงบใจ ได้

ส่วนแพรวพรรณรายร้ายกาจมาก ถึงขั้นแอบไปขึ้นเรือที่พจน์ไปนอก แพรวพรรณรายอยากไปมาก แต่โดนจับได้ก่อน โดนส่งตัวกลับมาบ้าน แต่มาสมหวังเมื่อ เลดี้แลนดอล น้องสาวของพระยาสมิติภูมิตายลง จึงได้มอบมรดกเป็นไร่ชาที่ดาจิริ่งให้พระยาสมิติภูมิ แพรวพรรณรายอาสาไปดูแลไร่ชา สะบันงาค้านแต่ศรีสนับสนุน แพรวพรรณรายหารู้ไม่ว่า พอล (มิกค์ ทองระย้า) หลานชายแท้ๆ ของลอร์ดแลนดอล สามีเลดี้วางแผนฆ่าเจ้าพระยาสมิติภูมิเอาไว้

พอพบหน้ากัน พอลถึงกับตะลึง เพราะไม่ใช่ชายแก่ที่ต้องการฆ่า แต่กลับเป็นสาวน้อยสวยงาม เช่นเดียวกับแพรวพรรณรายพบชายหนุ่มหล่อเหลาผู้น่าหลงใหล มีสาวน้อยข้างไร่ซึ่งรักพอล พยายามมากระแนะกระแหนดูถูกแพรวพรรณรายแต่เจอตอกกลับ พอลเข้าข้างแพรวพรรณรายและบอกสาวน้อยคนนั้นตามตรงว่าเขาไม่ได้รักเธอ พอลช่วยดูแลไร่ชา คอยแนะนำให้แพรวพรรณรายเข้าใจเป็นอย่างดี แล้วบอกลากลับอังกฤษ แพรวพรรณรายเสียใจมากไม่ยอมให้ไป พอลยืนยันจะไปเพราะไม่ต้องการเกาะเธอกิน แพรวพรรณรายขี่ม้าแบล็กการ์ดตัวโปรดของพอลตกเหว ม้าตายแต่แพรวพรรณรายกระโดดเกาะโขดหินไว้ได้บาดเจ็บสาหัส พอลเสียใจมากสารภาพว่ารักแพรวพรรณรายและจะไม่ทิ้งแพรวพรรณรายไปไหน ทั้งคู่ช่วยกันสร้างไร่ชา สร้างโรงแรมกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังไปทั่ว แพรวพรรณรายมีลูกกับพอลสามคน ทุกคนกลับมาคลอดที่เมืองไทย

ทางด้านพราวพิลาสตกหลุมรักศีล และตกเป็นของศีล ศีลสัญญาว่าเมขลากลับมาจะขอหย่าเพื่อมาแต่งงานกับพราวพิลาสทันที พราวพิลาสมีความหวังอีกครั้ง ธรรม์กลับมาเมืองไทยเนื่องจากสามีของชองปอลสำนึกผิดและขอคืนดีโดยที่ชองปอ ลเต็มใจ ธรรม์พยายามงอนง้อพราวพิลาส ทุกคนลุ้นให้พราวพิลาสแต่งงานกับธรรม์ แต่พราวพิลาสเป็นของศีลแล้วธรรม์เสียใจผิดหวังได้แต่โทษตัวเองที่ทิ้งพราว พิลาสไป เมขลากลับมาศีลขอหย่าทันทีเมขลาวางแผนร้ายใหม่ ทำทีตกลงแล้วขอฉลองการจากลาฉวยโอกาสนอนกับศีลจากนั้นโกหกว่าท้อง หลอกมาได้ปีกว่าศีลจับได้จึงขอหย่า เมขลายอมหย่าแต่กลับวางแผนร้ายกับ จิรศักดิ์ เศรษฐีใหม่ให้หลอกปล้ำพราวพิลาสแต่ไม่สำเร็จ ตนเองกลับโดนหลอกเป็นเมียเก็บโดนซ้อม พราวพิลาสได้แต่งงานกับศีลมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกหนูของเมขลา เมขลาสอนให้ลูกเกลียดพราวพิลาสแต่เด็กไม่ยอมเกลียด พอพราวพิลาสมีลูกกับศีล เมขลาจึงหันมาสอนให้ลูกหนูอิจฉาน้องแทน

วันคืนโหดร้ายมาถึง ขณะพราวพิลาสเดินไปชงนม หนูน้อยนั่งมองน้องตัวน้อยในรถเข็นตรงระเบียงเข็นน้องไปติดขอบระเบียง น้องหนูตามไปจะช่วยน้องทำให้ทั้งคู่พลัดตกจากระเบียงพร้อมกัน พราวพิลาสถือขวดนมเดินกลับมาตกตะลึงกระโจนไปที่เด็กทั้งสองกอดประคองไว้พลัด ตกลงมาจากระเบียงพร้อมกันต่อหน้าต่อตาศีลที่กลับมาจากทำงาน เด็กทั้งสองทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนพราวพิลาสขยับตัวเดินไม่ได้ เมขลาเสียใจที่ลูกตนเองตายแต่พราวพิลาสกลับไม่ตาย เมขลาอาละวาดที่โรงพยาบาล เธอเดินหลงไปที่ห้องเก็บศพไม่มีใครเห็นจึงโดนล็อกห้องติดอยู่ในนั้น จนกลายเป็นบ้าในที่สุด

และต่อมาภายหลังทองลูกชายของสังวรได้กลับมาแก้แค้นตอนโตแล้ว แต่เข้าใจผิด จึงไปแก้แค้นคุณหญิงสะบันงาเพราะคิดว่าเป็นคุณหญิงศรี โดยทองปลอมตัวมาทำงานในบ้านหลอก พฤกษ์ จับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย แต่ความที่พฤกษ์เป็นคนดี ไม่เคยดุด่าว่าร้ายตอบทอง อีกทั้งทองสำนึกว่าพฤกษ์คือน้องจึงฆ่าไม่ลง และเปลี่ยนใจโดยไม่บอกพฤกษ์ให้รู้ว่าจะปล่อย ผูกพฤกษ์ไว้กับพงอ้อกันหนี แต่เป็นเพราะพฤกษ์ตากฝนอดข้าวรอทองกลับมา แม้ที่สุดจะพยายามช่วยตัวเองหนี แต่ไม่สำเร็จ ร่างกายอ่อนแรงอดข้าวตายก่อนที่ทองจะบอกคุณหญิงสะบันงาให้รู้ความจริง

ส่วนทองเมื่อไปถึง ก็โดนตำรวจที่กำลังระดมตามหาพฤกษ์ไล่จับตัว ทองยิงสู้จึงโดนยิงทิ้งตาย กว่าจะเจอศพพฤกษ์ก็อีกหลายวัน สะบันงาหัวใจสลาย ต่อมา พจน์คู่หูและเป็นพี่ชายแก่กว่าสามวันลูกชายของ เดือน เคยเป็นแม่นมของพริสซิลลา ได้เลื่อนฐานะมาเป็นผู้สืบสกุลแทนพฤกษ์ ด้วยความเต็มใจจากสะบันงา

เวลาต่อมา พจน์กลับมาจากทำงานรับราชการ แต่ต้องแบ่งเวลามาบริหารบ้านและกิจการส่วนตัว พจน์ทำได้ดีโดยมีทุกคนให้กำลังใจ พจน์มีคนรักชื่อ กินรี น้องสาวเพื่อนที่ทำงาน กินรีเป็นครูชอบเขียนนิยาย

ในงานเปิดโรงแรมบนเขาของพอลกับแพรวพรรณราย ทุกคนไปกันหมดไม่เว้นแม้แต่พราวพิลาส ที่นั่นพวกเขาพบหมอเก่งมาก อาสารักษาพราวพิลาสให้หายขาด แต่ต้องใช้เวลานาน และต้องไปรักษาตัวที่เมืองนอก ศีลตัดสินใจพาพราวพิลาสไปรักษา และไปอยู่ให้กำลังใจดูแลกันไป ในที่สุดพราวพิลาสก็เดินได้กลับเมืองไทยและมีลูกกับศีลเป็นชายหนึ่งคน ทั้งสองคนตั้งใจจะมีลูกสามสี่คน

พริสซิลลาได้รับการวินิจฉัยว่าไม่ได้ปัญญาอ่อนเป็นแค่ออทิสติก และยังเป็นเด็กอัจฉริยะอีกด้วย ศรีมีความสุขที่พริสซิลลาอาการดีขึ้นมาก คอยอยู่เคียงข้าง ความรักความสุขกลับมาสู่คฤหาสน์หลังนี้มากมายกว่าเดิม เพราะความรักความเสียสละของแม่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก เหมือนดังคำสองคำ “สองมือแม่นี้ที่สร้างโลก”

รายชื่อนักแสดง

1. ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น ศรี / คุณหญิงศรี
2. อคัมย์สิริ สุวรรณศุข แสดงเป็น สะบันงา
3. เดวิด อัศวนนท์ แสดงเป็น เจ้าพระยาสมิติภูมิ
4. อริสรา วงษ์ชาลี แสดงเป็น เมี้ยน
5. โตนนท์ วงศ์บุญ แสดงเป็น พจน์
6. มิกค์ ทองระย้า แสดงเป็น พอล
7. พรพรรณ สิทธินววิธ แสดงเป็น กินรี
8. อัปสรสิริ อินทรคูสิน แสดงเป็น แพรวพรรณราย
9. ชินวุฒ อินทรคูสิน แสดงเป็น ธรรม์
10. พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ แสดงเป็น ศีล
11. เชฟฟานี่ อาวะนิค แสดงเป็น พริ้มเพราะ
12. ซอนญ่า สิงหะ แสดงเป็น พราวพิลาส
13. ปรัชญ์ ปรมิณ แสดงเป็น พฤกษ์
14. ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์ แสดงเป็น ศุกล
15. อุษณีย์ วัฒฐานะ แสดงเป็น เดือน
16. ธัญสินี พรมสุทธิ์ แสดงเป็น สังเวียน
17. ภารดี อยู่ผาสุก แสดงเป็น สังวร
18. พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น ปานวาด
19. ชมพูนุช ปิยธรรมชัย แสดงเป็น น้อย
20. อนิสา กร้านท์ แสดงเป็น พริสซิลลา (ตอนเด็ก)
21. นวินดา เบอร์ต๊อดตี้ แสดงเป็น พริสซิลลา (ตอนโต)
22. ศรุต สุวรรณภักดี แสดงเป็น ทอง
23. กชกร ส่งแสงเติม แสดงเป็น เมขลา
24. ประถมาภรณ์ รัตนภักดี แสดงเป็น แกละ
25. พศิน ศรีธรรม แสดงเป็น อาซ้ง
26. ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล แสดงเป็น พระยาเกษม
27. กชกร นิมากรณ์ แสดงเป็น คุณหญิงลออศรี
28. วรพรต ชะเอม แสดงเป็น อาคม
29. รัฐธรรมนูญ ศรีฤกษ์ แสดงเป็น คุณพระประสาน
30. สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง แสดงเป็น สุกิจ
31. กฤษฏิ์ โมกขะสมิต แสดงเป็น ดำรง
32. ธนศักดิ์ อุ่นอ่อน แสดงเป็น หมออดุลย์
33. เจษฎา รุ่งสาคร แสดงเป็น จีรศักดิ์
34. กษาปณ์ จำปาดิบ แสดงเป็น ยอด
35. เคน สตรุทเกอร์ แสดงเป็น คุณหมอมาร์ติน
36. วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ แสดงเป็น เจ้าสัว
37. นวลนง จามิกรณ์ แสดงเป็น แม่ใหญ่
38. ปิยะดา เพ็ญจินดา แสดงเป็น แม่น้อย
39. ปัทมา ปานทอง แสดงเป็น พริ้ง
40. มนตระกานต์ ทองขาว แสดงเป็น ดา
41. ปวีณ ชิณวงษ์ แสดงเป็น ดิเรก
42. จารุศิริ ภูวนัย แสดงเป็น ทองหยอด
43. อมต อินทนนท์ แสดงเป็น ไอ้เหมาะ

ออกอากาศวันที่ 6 ธันวาคม

ชมภาพวันบวงสรวง และฟิตติ้งละคร

 

ส้มหวานน้ำตาลเปรี้ยว

“จงชราอย่างกล้าหาญ จงขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี” คือสโลแกนประจำใจของเหล่าอาจารย์สาววัยเกาะคาน แห่งภาควิชาภาษาไทยของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่รวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มสาวโสด “หัวใจเปรี้ยว” โดยมีรองคณบดีวัย 40 เป็นประธาน นายิกา-อาจารย์นาย คือสมาชิกวัย 35 ที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม ต่อหน้าใคร ๆ นายิกา เชิดหน้าทำเป็นฉันไม่แคร์ ถ้าจะต้องแก่ตายโดยไม่ต้องมือชาย แต่ในใจเธอกลับกรีดร้องว่าเธอไม่ได้อยากเป็นสาวแก่ไปจนตายสักหน่อย เธอมีหัวใจที่พร้อมจะรักใครสักคนที่เป็นคนดี ไม่จำเป็นต้องร่ำรวย ขอแค่รักเธอก็พอ เพียงแต่…เธอไม่เคยมีโอกาสได้พบกับผู้ชายคนนั้นเลย

ชีวิตเธอหมดไปกับการเรียนอย่างหนักจนจบด็อกเตอร์ แทบจะไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องความรัก แต่พอเธอเริ่มคิด…วัยสาวก็กำลังจะลาจากเธอไปแล้ว นายิกา เกือบจะเลิกหวัง จนกระทั่งเธอได้อ่าน “โลกของคนเหงา” นวนิยายงานเขียนฝีมือของลูกศิษย์ในวิชาการประพันธ์เรื่องสั้น และนวนิยายที่เธอสอนอยู่ นายิกา ก็ตกหลุมรัก นาคินทร์…ผู้ชายที่เป็นตัวเอกของนวนิยายเรื่องที่เธออ่านในทันที

นาคินทร์…ชายหนุ่มที่เคยสดใส อารมณ์ดี เปลี่ยนเป็นคนละคน เมื่อต้องสูญเสีย ดารารัตน์…ภรรยาสุดที่รักและลูกชายหญิง 2 คนจากอุบัติเหตุรถตกเขา นาคินทร์ เอาแต่ฝังตัวเองอยู่กับงานในไร่ส้มและสวนลิ้นจี่ ที่มีอาณาเขตนับร้อยไร่ติดกับเส้นทางเดินป่าขึ้นดอยอ่างข่าง และใกล้ชายแดนพม่า จนทำให้นิดานุช…หลานสาว , เอื้องจันทร์…แม่ และนพ…พ่อ อดเป็นห่วงอนาคตของพ่อม่าย นาคินทร์ ไม่ได้ นิดานุช ตัดสินใจนำชีวิตของ นาคินทร์ มาเขียนเป็นนวนิยายเพื่อส่งในวิชาที่เรียนกับ นายิกา ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ นิดานุช สนิทสนมมากที่สุด เมื่อ นายิกา ได้อ่านเรื่องของนาคินทร์…ผู้ชายที่อ้างว้างโดดเดี่ยวที่สุดในความคิดของ นายิกา เธอก็หลงรักเขา ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้พบหน้าค่าตามาก่อน และตัดสินใจที่จะนำนวนิยายของ นิดานุช ส่งเข้าประกวดรางวัลในระดับมหาวิทยาลัย

หลังจากที่ลางานเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปร่วมงานแต่งงานของ นภันต์-นัท…น้องชายเพียงคนเดียว กับแฟนสาวลูกครึ่ง ภัณฑิลา-พอลล่า นายิกา ก็กลับมามหาวิทยาลัยด้วยโฉมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมที่สวยปิ๊งกว่าเก่า เพราะถูกพอลล่า และภวิตรา…น้าสาวของพอลล่า ที่เป็นบ.ก.นิตยาสารความงาม พาเธอเข้าคอร์สสปานวดหน้าทำผมเมคโอเว่อร์ จนดูอายุอ่อนกว่าเดิมไปหลายปี ทำให้อาจารย์หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยเห็น นายิกา อยู่ในสายตา ก็พากันหันมาสนใจ ทำให้อาจารย์โสภิต ประธานกลุ่มสาวแก่หัวใจเปรี้ยว ถึงกับเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ

ที่ นายิกา ทำตัวเหมือนกับจะชิ่งจากคานที่ช่วยกันเกาะ และการเปลี่ยนไปของ นายิกา นี่เอง ทำให้ นิดานุช เกิดความคิดที่จะจับคู่อาจารย์สาวให้กับ อาคินทร์ ผู้น่าสงสารของเธอ เพราะขณะนี้ นาคินทร์กำลังถูก คุณลิ้นจี่ แม่ม่ายสาวเจ้าของรีสอร์ตที่อยู่ไม่ไกลจากไร่ตามหว่านเสน่ห์ ตื้อถึงไร่ ลุยถึงพ่อแม่เพื่อหวังพิชิตใจนาคินทร์ นิดานุชไม่ชอบท่าทางเย้ายวนอุดมด้วยร้อยเล่ห์พันมารยาของลิ้นจี่ ไม่อยากได้มาเป็นอาสะใภ้ให้ปวดหัว เลยปรึกษาเรื่องนี้กับย่าเอื้องและปู่นพ และแล้วแผนการทั้งหมดก็เกิดขึ้น โดยชวนเพื่อนในคณะและ นายิกา ไปเที่ยวชมไร่ส้ม และเดินป่าในช่วงปิดเทอม นายิกา ตอบรับคำเชิญชวนเพราะอยากได้พบตัวจริงของนาคินทร์ ผู้ชายแสนเศร้าที่น่าสงสารคนนั้น อาจารย์โสภิต รู้เรื่องก็ขอตามไปด้วย ด้วยเหตุผลว่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของนายิกา การไปอยู่ใกล้พ่อม่ายหัวใจเปลี่ยวอย่างนาคินทร์มันอันตราย โสภิต เลยต้องการจะไปเป็นดูแลนายิกาให้ครองสถานะขึ้นคานไว้เหมือนตัวเอง

ครั้ง แรกที่ได้เจอตัวจริงที่แสนหล่อเข้ม สมชายชาตรีของนาคินทร์ที่ “บ้านไร่ผดุงเกียรติ” ใจของนายิกาแทบละลาย แต่ความรู้สึกดี ๆ กลับพังทลายไปจนหมดสิ้น เมื่อนาคินทร์ถามถึงอาจารย์สาวแก่กับ นิดานุชต่อหน้าเธอ เพราะนาคินทร์เคยเห็นนายิกาโดยบังเอิญตอนไปรับนิดานุชที่คณะ ตอนนั้นนายิกายังไว้ผมบ๊อบ ใส่แว่นแต่งตัวเป็นป้าอยู่เลย เมื่อนายิกาเปลี่ยนโฉมใหม่จนสวยแปลกตาเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคน นาคินทร์ถึงจำเธอไม่ได้ แทนที่จะรู้สึกผิด แต่ในใจนาคินทร์กลับโทษว่าเป็นความผิดของนายิกา ที่ลุกขึ้นมาทำตัวสวย ซึ่งเขาคิดว่าไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นอาจารย์ แถมยังคิดว่านายิกาคงกำลังคิดจะจับผู้ชายคนไหนสักคนเพื่อจะลงจากคาน แต่เพราะความรักหลานและเป็นสุภาพบุรุษ นาคินทร์ไปขอโทษนายิกาที่เสียมารยาทกับเธอในฐานะที่เธอเป็นแขกของบ้าน นายิกาไม่ถือโกรธแต่ในใจเริ่มมีกำแพง โดยมีโสภิตคอยพูดเป่าหูให้เห็นข้อเสียของนาคินทร์

การมาเที่ยวไร่ของกลุ่มนายิกา ตกอยู่ในสายตา กำนันดำ เจ้าของที่ดินที่มีอาณาเขตติดกัน แม้กำนันดำจะมีที่ดินมากกว่า แต่ผลผลิตในไร่ส้มก็น้อยกว่า และขายได้ราคาต่ำกว่าผลผลิตในไร่ของนาคินทร์มาก เนื่องจากนาคินทร์คิดค้นผลิตปุ๋ย และยาฆ่าแมลงตามธรรมชาติใช้เอง ที่สำคัญที่ดินของนาคินทร์มีตาน้ำพุที่เป็นแหล่งน้ำ ไปหล่อเลี้ยงไร่ส้มได้อุดสมบูรณ์กว่า กำนันดำจึงคิดจะฮุบที่ดินในไร่ผดุงเกียรติมานาน ตั้งแต่ นคเรศ…พ่อของนิดานุช และพี่ชายของนาคินทร์ยังดูแลไร่อยู่ กำนันดำเพียรพยายามจะขอซื้อไร่จากนคเรศ ทั้งใช้อิทธิพลบีบ แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมานคเรศและแม่ของนิดานุชก็ถูกยิงเสียชีวิต โดยที่ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ แม้นาคินทร์จะสงสัยว่ากำนันดำเป็นผู้บงการฆ่า แต่ตำรวจก็ไม่มีหลักฐานจะเอาผิดได้ จนกระทั่งนาคินทร์เข้ามาสืบทอดดูแลไร่ส้มแทนพี่ชาย เขาก็ยังถูกกำนันดำคุกคาม พยายามรุกล้ำ เมื่อไม่สำเร็จ กำนันดำก็วางแผนเก็บนาคินทร์อีกเป็นคนที่ 2 แต่คนที่รับเคราะห์แทนกลับกลายเป็นเมียและลูกทั้ง 2 ของนาคินทร์ โดยกำนันดำส่งคนขับรถเบียดรถของดารารัตน์กับลูกตกเขา เพราะคิดว่าในรถมีนาคินทร์นั่งมาด้วย แต่เนื่องจากวันนั้นนาคินทร์ติดธุระ ไม่ได้ไปด้วยเขาจึงรอดตายอย่างปาฎิหาริย์แต่ก็เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเขามั่นใจว่าต้องเป็นมือของกำนันดำ แต่ก็ไม่มีหลักฐานไปเอาผิดกำนันดำได้เช่นเคย แม้แต่ดำรงเดช…ลูกชายคนเดียวของกำนันดำ ซึ่งหลงรักนิดานุชก็ปฏิเสธแทนพ่อมาตลอด ดำรงเดชไม่เคยเชื่อว่าพ่อจะเป็นฆาตกรใจคอโหดเหี้ยมเช่นนั้น เป็นผลทำให้ความเป็นเพื่อนที่นิดานุชเคยมีให้ดำรงเดชต้องขาดลง

กำนันดำสืบรู้ว่า…นาคินทร์มีแผนจะพาเพื่อน ๆ ของนิดานุชเดินป่า ขึ้นไปพักค้างแรมบนดอยอ่างข่าง กำนันดำเห็นโอกาสที่จะกำจัดนาคินทร์ทันที โดยพาสมุนปลอมตัวเป็นกลุ่มทหารว้าแดงไปซุ่มดักรอยิงนาคินทร์อยู่กลางป่า ประจวบเหมาะกับนิดานุชกับเพื่อน ๆ ก็วางแผนจะให้นาคินทร์กับนายิกาหลงป่าไปด้วยกันพอดี เพราะหวังว่าการที่ทั้ง 2 หลงป่าไปด้วยกัน ความใกล้ชิดจะทำให้ทั้ง 2 เกิดตกหลุมรักกันสมใจ วันต่อมานาคินทร์ก็พาทุกคนเดินป่าขึ้นดอยอ่างข่าง ลิ้นจี่ขอตามไปด้วยเพราะหึงนายิกา ไม่ไว้ใจให้อยู่ใกล้ ๆ นาคินทร์ คืนที่ 2 ของการพักค้างแรมในป่าระหว่างทางเดินขึ้นดอย นิดานุชกับเพื่อนคิดเกมส์วอล์กแรลลี่ขึ้น โดยให้นาคินทร์กับนายิกาจับคู่กันหาของในป่า คำอ้ายและสมพงษ์…ลูกน้องคนสนิทของนาคินทร์ก็ร่วมมือกับนิดานุชด้วย โดยพวกนิดานุชปลอมเป็นผีหลอกนายิกา จนตกใจวิ่งหนีเตลิดเข้าป่าไป นาคินทร์เลยวิ่งตามไปจนพลัดหลงกับทุกคน จังหวะที่ทุกคนทำตามแผน กลุ่มของกำนันดำก็บุกยิงนาคินทร์พอดี ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายไม่รู้ใครเป็นใคร นาคินทร์ชักปืนยิงถูกลูกน้องของกำนันดำบาดเจ็บไปคนหนึ่ง แล้วพานายิกาหนีออกจากวงล้อม จนลื่นไถลตกหน้าผาไปในเหวลึกทั้งคู่ นาคินทร์ หัวกระแทกจนสลบไป ขณะนายิกาบาดเจ็บข้อมือซ้น และฟกช้ำทั่วร่างกาย ฝนเทกระหน่ำลงมา นายิกาลากร่างที่เปียกโชกของนาคินทร์เข้าหลบใต้ชะง่อนหิน ทั้ง ๆ ที่มือเจ็บ ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาแล้วก็หมดแรงหลับไป นาคินทร์ฟื้นขึ้นมาพบนายิกาอยู่ข้าง ๆ เขา ก็รู้สึกซึ้งในน้ำใจนายิกาที่ช่วยลากเขาหนีฝน แล้วยังช่วยทำแผลเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาอีกทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็บาดเจ็บ นาคินทร์ปลุกนายิกาและเริ่มออกเดินหาทางกลับไร่

ฝ่ายกำนันดำแม้จะรู้ว่านาคินทร์รอดไปได้ แต่ก็เข้าใจผิดคิดว่าพวกคำอ้ายเป็นกองกำลังว้าแดง เลยหนีไปตั้งหลักที่หมู่บ้านชาวเขา นิดานุชไม่คิดอย่างงั้น…เธอคิดว่าต้องเป็นฝีมือของกำนันดำแน่ หลังจากที่ส่งเพื่อนขึ้นไปพักที่ดอยอ่างข่างแล้ว เธอกับคำอ้ายและสมพงษ์ก็รีบไปที่ไร่กำนันดำ นิดานุชเจอกับดำรงเดชที่ไร่ เขายืนยันว่าพ่อกำลังขุดหาตาน้ำอยู่ที่ท้ายไร่ไม่ได้ไปไหน นิดานุชตามไปดู…กำนันดำกลับลงจากเขามารับหน้านิดานุชได้ทันเวลา เมื่อเป็นอย่างนั้น…นิดานุช คำอ้ายและสมพงษ์เลยพาลูกน้องกลับเข้าป่าเพื่อตามหานาคินทร์และนายิกา แต่เพราะหุบเหวที่นาคินทร์กับนายิกาตกลงมาลึกมาก และนาคินทร์ก็ไม่คุ้นชินเส้นทางนี้ ทำให้คืนนั้นทั้ง 2 ต้องพักแรมอยู่ในโพรงถ้ำเล็ก ๆ นาคินทร์หุงหาหาอาหารที่ติดตัวมาให้นายิกากิน ฝนเทลงมาอย่างหนัก นาคินทร์ใช้สายฝนเป็นน้ำอาบ แล้วไล่ให้นายิกาไปอาบ นายิกาเจอกิ้งก่ากระโดดเกาะเธอตกใจโผกอดนาคินทร์ สัมผัสของนายิกาทำให้นาคินทร์ค้นพบว่าเขาแอบมีใจให้นายิกาตั้งแต่แรกที่ได้ เห็นเธอที่ไร่ เขาถึงสนุกสนานกับการแกล้งให้เธอโกรธ ยั่วให้เธอมีปากมีเสียงกับเขามาตลอดการเดินทาง ซึ่งความรู้สึกเบิกบานนี้ไม่เคยมีเลยนับแต่ดารารัตน์จากไป จนกระทั่งได้มาพบนายิกา และการหลงป่ามาด้วยกัน ทำให้เขาได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนายิกาว่าเป็นคนอดทน มีน้ำใจ และจิตใจดี เพราะฝนตกทั้งคืน ทำให้คืนนั้นอากาศหนาวมาก แต่มีผ้าห่มอยู่ผืนเดียว นายิกากับนาคินทร์ต้องนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน และก็ตื่นขึ้นมาพบว่าต่างก็ซุกอย่างอบอุ่นอยู่ด้วยกัน และเป็นอย่างนั้นอยู่ 2 คืน ทำให้นาคินทร์เริ่มเปิดประตูใจยอมรับนายิกาเข้ามาอยู่ในใจแล้ว

แต่แล้วคืนต่อมา…นายิกาก็พูดถึงนิยายโลกของคนเหงาของนิดานุชให้นาคินทร์ ฟัง เมื่อหวนคิดถึงดารารัตน์ ทำให้นาคินทร์รู้สึกผิดที่ปันใจให้นายิกา และกลับมามึนตึงใส่นายิกาทันที กลับมาเป็นนาคินทร์ผู้เคร่งขรึมอีกครั้ง นายิกาผิดหวังมาก แต่ไม่ว่านาคินทร์จะพยายามบังคับใจให้มึนตึงกับนายิกายังไง ความใกล้ชิดก็ทำให้เขาไม่สามารถบังคับความรักที่มีต่อนายิกาได้ เขาเผลอจูบเธอ มันเป็นจูบแรกของนายิกา แต่นาคินทร์จูบเธอแล้วกลับวิ่งหนีหายเข้าป่าไป ก่อนจะกลับมาสารภาพว่ามีใจให้นายิกา แต่ไม่อาจลืมดารารัตน์ได้ นายิกาเข้าใจนาคินทร์ และขอให้เวลาเป็นตัวตัดสิน แต่คืนต่อมา…นายิกาเก็บเห็ดเมามาย่างกิน ทำให้ทั้งคู่มึนเมา นายิกาสารภาพว่าตกหลุมรักเขาตั้งแต่ได้อ่านนิยายของนิดานุช และแล้วทั้งคู่ก็ตกเป็นของกันและกัน ตื่นเช้ามา…นายิกาตกใจร้องห่มร้องไห้ ขณะที่นาคินทร์ก็ช็อคไป เขาคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค นายิกาขอให้ลืมเรื่องคืนนั้นเสีย  ทั้ง 2 ออกเดินทางอีกครั้ง จนมาพักอยู่ในหมู่บ้านของชาวจาวปะหล่อง…ชนเผ่าอพยพจากพม่า ที่นี่เอง…ทั้ง 2 ยอมรับรักกันอย่างเปิดใจ

ฝ่ายกำนันดำสืบรู้มาว่านาคินทร์กับนายิกาพักอยู่ที่หมู่บ้านของชาวจาวปะหล่อ ง ก็พาลูกน้องเข้าป่าเพื่อตามไปเก็บอีกครั้ง ดำรงเดชเห็น แอบตามไป ไปเจอหัวหน้าชาวภูเขาที่กำนันดำหนีไปตั้งหลักในวันแรกที่นาคินทร์ถูกลอบยิง จึงรู้ความจริงทั้งหมดที่กำนันดำเข้าป่าในวันนั้น และคนที่ยิงนาคินทร์ก็คือกำนันดำนั่นเอง ดำรงเดชตามหากลุ่มนิดานุชจนพบ และขอร่วมทางตามค้นหานาคินทร์ไปกับเธอ เพื่อขัดขวางไม่ให้กำนันดำทำร้ายใครอีก นาคินทร์กับนายิกาเดินทางออกจากหมู่บ้าน จนมาเจอกลุ่ม นิดานุชเข้า แต่กลุ่มกำนันดำก็ตามมาพบเช่นกัน เกิดการต่อสู้กันขึ้น กำนันดำพลาดยิงถูกดำรงเดชทะลุอกขวา แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ จี้นายิกาเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับชีวิตของนาคินทร์ นายิกาฮึดสู้แย่งปืน  ยื้อยุดกัน นาคินทร์เข้าช่วย กำนันดำพลาดตกลงเหวตาย ดำรงเดชถูกส่งตัวไปผ่าตัดเอากระสุนออก…รอดพ้นขีดอันตราย เหตุการณ์ร้ายผ่านไป…นาคินทร์อโหสิกรรมทุกอย่างให้ครอบครัวดำรงเดช และไม่ขัดขวางถ้านิดานุชจะรักกับดำรงเดช ขณะที่เขาพานายิกาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาท้ายไร่ เพื่อเป็นการอำลา คืนนั้นนายิกาอยู่กับนาคินทร์ทั้งคืน ก่อนจะจากไปในวันรุ่งขึ้น   โดยไม่มีคำพูดใด ๆ จากปากของนาคินทร์ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป นายิกากลับไปอย่างผิดหวัง

2 เดือนผ่านไป…ไม่มีการติดต่อจากนาคินทร์ ไม่มีแม้โทรศัพท์จากเขา นายิกาได้แต่เฝ้ารอและโศกเศร้าเสียใจอยู่คนเดียวๆ ขณะที่นาคินทร์เอาแต่จมอยู่กับงาน โดยหวังว่าจะตัดใจจากนายิกาได้ เพราะไม่อยากจะผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับดารารัตน์ ว่าจะรักเดียวใจเดียวกับเธอไปจนวันตาย แต่ยิ่งพยายามลืม นาคินทร์กลับคิดถึงนายิกามากจนแทบคลั่ง นิดานุชต้องยื่นมือเข้ามาช่วยอีกครั้ง โดยวางแผนให้พี่ชายเพื่อนไปหานายิกาเพื่อถามเกรด แล้วแอบถ่ายรูปไว้เอาไปหลอกนาคินท์ว่านายิกาได้พบรักกับชายหนุ่มรุ่นน้อง แล้ว ทำเอานาคินทร์ร้อนรุ่มจนทนไม่ไหวอีกต่อไป นาคินทร์รีบโทรเข้ามือถือนายิกา แต่ ภวินท์สามีภวิตราเป็นคนรับสาย นาคินทร์เข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนนายิกา เขาบึ่งไปหาเธอ และต่อย ภวินท์ ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันอธิบายว่าเขาเข้าใจผิด และทุกอย่างเป็นแผนการของนิดานุชอีกแล้ว นาคินทร์คุกเข่าขอนายิกาแต่งงาน เขาจะรักและเก็บดารารัตน์ไว้ในใจของเขาตลอดไป ดารารัตน์คืออดีตที่ไม่อาจลืมเลือน แต่นายิกาคืออนาคตที่สดใสของเขา และเขาคิดว่าดารารัตน์ก็คงจะยินดีที่เห็นเขามีความสุข หลังจากที่นาคินทร์ตามง้องอนอยู่นาน ในที่สุดนายิกาก็ยอมตกลงแต่งงานกับนาคินทร์ ส่วนนิยายโลกของคนเหงาของนิดานุชได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 จากการประกวด…… ติดตามชม ละครส้มหวานน้ำตาลเปรี้ยว

ปิ่นไพร

กฤษดา กิติโยธิน เพลย์บอยหนุ่มซึ่งมาเรียนแบบเล่นๆอยู่อังกฤษถึงห้าปี แต่ไม่จบอะไรสักอย่าง ถูกคุณเริ่มผู้เป็นพ่อ เรียกตัวกลับเมืองไทย ให้ไปรับงานดูแลธุรกิจทางบ้านจากนิมิตหรือเติบ ลูกพี่ลูกน้องวัย 37 ที่กำลังจะแต่งงานกับสาวชื่อ ปิ่นไพร

 

นักแสดงละคร ปิ่นไพร

อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร

ปิยธิดา วรมุสิก

สาวิกา ไชยเดช

ทรงสิทธิ รุ่งนพคุณศรี

 

ในเรือนใจ

กรพินธุ์ หรือ พิณ ( ปิยธิดา วรมุสิก ) หญิงสาวผู้เงียบขรึม ที่สูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก เพราะความรักที่แตกร้าวของอาจอง ( อรรถชัย อนันตเมฆ ) ผู้เป็นพ่อ ทำให้พิณเป็นผู้หญิงชอบเก็บตัว แต่กฤษณะ ( เผ่าทอง ทองเจือ ) และคุณหญิงอังคณา ( พนารัตน์ บุญนาค ) พ่อแม่บุญธรรมของเธอ ก็สามารถขอร้องแกมบังคับให้เธอออกงานมาเจอกับผู้คนจนได้ วันหนึ่งที่เธอได้พบกับ กันตยศ หรือ กัน ( ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ) ชายหนุ่มที่ภายนอกดูแสนดี แต่กลับมีอดีตที่เลวร้าย ถึงขั้นเคยปอกลอกและทำร้ายร่างกายผู้หญิงที่เป็นคนรักมาแล้วหลายต่อหลายคน เมื่อครั้งที่เรียนอยู่ที่เมืองนอก จนเพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดรู้นิสัยของเขาดี

กันตยศได้แรงสนับสนุนจาก คุณเขมิกา ( สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ) ผู้เป็นแม่ให้หมั่นไปมาหาสู่กับพิณไว้ เพราะครอบครัวของพิณเพียบพร้อมไปทุกด้าน แม้ว่าโกศล ( ดิลก ทองวัฒนา ) ผู้เป็นพ่อจะไม่ค่อยพอใจนักก็ตาม ด้วยความสนิทสนมกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย กันตยศจึงสามารถเข้าใกล้ตัวพิณได้อย่างสะดวก คุณหญิงอังคณาก็เห็นว่ากันตยศดูเรียบร้อย ต่งจากธีรเดช ( อรรถวิทย์ อภิธนัง ) ลูกชายนักการเมืองที่มาติดพันพิณอยู่ จึงอยากให้พิณมีคนดูแลที่ดี จึงตกลงยกพิณให้แต่งงานกับกันตยศ แต่อาจองไม่ยอม เพราะอาจองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้ถึงอดีตที่แสบสันของว่าที่ลูกเขยดี จึงคัดค้านไว้ก่อน งานแต่งจึงต้องเปลี่ยนเป็นงานหมั้นไปตามระเบียบ

งาน หมั้นที่จัดอย่างใหญ่โตหรูหราทำให้หลายคนอิจฉาว่าที่บ่าวสาวคู่นี้เป็นอย่าง ยิ่ง แต่ในวันนั้นเองที่กันตยศต้องหวาดหวั่น เพราะความเป็นวัวสันหลังหวะ เพราะคมกฤช หรือ โก้ ( แซม โชติบัณฑ์ ) ญาติผู้พี่ที่รู้อดีตของเขาดีได้ปรากฏตัวขึ้นในงานนั้นเอง แถมยังมีอีกคนหนึ่งที่รู้ลึกถึงอดีตอันแสบสันของกันตยศเป็นอย่างดีนั่นคือ ตรีทิพย์ หรือ สาม ( วาโย เกียรติกนก ) เพื่อนสนิทของพิณนั่นเอง งานนี้เพื่อนๆ ของพิณและเพื่อนๆ ของกันก็มาด้วย บดีศร ( ปัญญาพล เดชสงค์ ) เห็นนวพิธ หรือ น้อง ( ภารดี อยู่ผาสุข ) ก็เกิดติดใจทาบทามให้ไปเป็นนางแบบ แต่อารดี ( ภัสรี กังวานพงศ์ ) เพื่อนสาวสุดเปรี้ยวของพิณก็กลับเสนอตัวอย่างไม่กลัวน่าเกลียด

บดีศร เห็นว่าอารดีน่าจะยอมให้เขาง่ายๆ จึงคิดหลอกเล่นๆ แต่อารดีไม่ได้เป็นอย่างที่บดิศรคิด รวมพล ( สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล ) เพื่อนร่วมก๊วนกับบดีศรเห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้พาลหาเรื่องอารดีอยู่เสมอ กันตยศหวั่นกลัวว่าคมกฤช จะบอกเรื่องร้ายๆ ในอดีตของเขาให้พิณรู้ เขาจึงต้องเล่าสิ่งที่เขาเรียกว่าความจริงแต่เป็นเพียงครึ่งเดียวให้พิณฟัง ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้พิณรู้สึกอะไรเลยจนกันตยศเริ่มไม่แน่ใจว่าพิณคิดเช่นไรกับ ตนกันแน่ แต่เขาก็ตั้งใจจะรอจนถึงหนึ่งปีตามที่พิณตกลงไว้ว่าจะแต่งงานด้วย อาจองกลัวว่าพิณจะใจอ่อน จึงส่งโก้ให้มาทำงานใกล้ชิดกับพิณ นั่นยิ่งทำให้กันตยศหัวเสียเข้าไปใหญ่ ถึงขั้นทิ้งงานการมาเฝ้าพิณที่ทำงานเลยทีเดียว

จนบดีศรต้องแนะแผน ใหม่ให้กันตยศห่างพิณไปบ้าง เขาจึงใช้โอกาสนี้หวนกลับไปเล่นการพนันดังเดิม แม้เรื่องนี้จะรู้ถึงหูพิณ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาเล่นสนุกๆ แต่อาการของเพื่อนสาวและโก้ก็ทำให้เธอเคลือบแคลงอยู่หลายครั้งว่ากันตยศต้อง มีสิ่งใดเคลือบแฝงอยู่แน่ วันหนึ่งที่บริษัทของกันตยศจัดทัวร์พานักขายมือทองของบริษัทไปเที่ยวยังต่าง ประเทศ เขาจึงชวนพิณ ไปด้วยเพื่อหวังจะได้ใกล้ชิดกันที่นั่น แต่ทริปนี้สนุกกว่าที่คิด เพราะผู้ที่พ่วงไปด้วยนั้นมีทั้งตรีทิพย์ และคมกฤช ซึ่งเรียกว่าถูกอาจองบังคับมาก็ว่าได้ แต่กันตยศก็ยังชื่นใจที่มีบดีศรและรวมพลไปด้วย ทางฝ่ายพิณก็ชวนอารดีและนวพิธไปด้วย พิณรู้สึกดีต่อโก้ขึ้นมามากแล้ว จากในตอนแรกที่แทบจะเรียกได้ว่าคู่กัด เธอได้เห็นความจริงจังของเขาจาการทำงานด้วยกัน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกลึกๆ อยู่ในใจ แต่เธอก็กลัวจะซ้ำรอยเดิมของแม่ จึงต้องเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้คนเดียว

การไปทัวร์ครั้งนี้ ทำให้กันตยศได้พบกับคนที่ไม่คาดฝัน จิลลา ( สิริพรรณ หลิมวิจิตร ) หญิงสาวที่เคยโดนเขาปลอกลอกมาจนแทบหมดตัว กันตยศหวาดระแวงว่าความลับจะถูกเปิดเผย แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงอยู่ใกล้พิณให้มากที่สุดเท่านั้น ในขณะเดียวกันกับที่รวมพล ซึ่งคอยตามหาเรื่องอารดีจนเผลอหลุดปากว่าเธอเสียๆ หายๆ ทำให้เธอรู้ว่าบดีศรนำเธอไปพูดเช่นไรเมื่ออยู่กับเพื่อนๆ อารดีโกรธจัดถึงกับเปลี่ยนทีท่าเป็นไม่ใยดีบดีศรไปเลย รวมพลจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเข้าใจอารดีผิดไป และแล้ววันหนึ่ง ในขณะที่กำลังเที่ยวชมทิวทัศน์อย่างสนุกสนาน พิณก็พลาดพลั้งตกเขาไป แต่ผู้ที่วิ่งไปช่วยเธอเป็นคนแรกกลับเป็นโก้ นี่เองที่ทำให้เธอรู้ซึ้งถึงหัวใจของตัวเอง จนร้องไห้ออกมาให้เขาเห็นเป็นครั้งแรก เขาโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน แต่ทั้งสองรู้ดีว่าเขาและเธอมีภาระใดวางอยู่ตรงหน้า

ภาพความรักหวาน ซึ้งของทั้งคู่ ถูกนวพิธถ่ายรูปเก็บไว้ และภาพนั้นก็ตกถึงมือกันตยศ นวพิธแอบหลงรักกันตยศตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่รู้ตัว แต่ความรักก็ทำให้เธอเห็นแก่ตัวพอที่จะทำร้ายเพื่อนได้ กันตยศโกรธจัด จึงเผลอทำร้ายร่างกายพิณ ต่อหน้าทุกคนจนโก้ต้องเข้าไปช่วย แต่กันตยศกลับพาลหันมาเล่นงานตรีทิพย์ เลยกลายเป็นเปิดโปรงตัวเองโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดพิณก็ได้รู้ความจริงในสิ่งที่เธอเคลือบแคลงมานาน เธอจึงไม่รู้สึกผิดอีกต่อไปที่จะทอดทิ้งผู้ชายไม่จริงใจคนนี้ แต่แน่นอนรักแท้ย่อมมีอุปสรรค เรือ่งรักที่เกิดระหว่างความสับสน และกำแพงหัวใจที่เธอก่อร่างมาเนิ่นนาน จะเป็นเช่นไรต่อไป ติดตามได้ในละคร “ในเรือนใจ” ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7

รายชื่อนักแสดงละคร ในเรือนใจ

แซม โชติบัณฑ์ แสดงเป็น คมกฤช ( โก้ )
ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น กรพินธุ์ ( พิณ )
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ แสดงเป็น กันตยศ ( กัน )
ภัสรี กังวานพงศ์ แสดงเป็น อารดี
วาโย เกียรติกนก แสดงเป็น ตรีทิพย์
ภารดี อยู่ผาสุข แสดงเป็น นวพิธ
ปิยะวรรณ จิตนาธรรม แสดงเป็น กัลยา
ปัญญาพล เดชสงค์ แสดงเป็น บดีศร
สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล แสดงเป็น รวมพล

นางทาส 2551

เย็น ถูกพ่อแม่นำมาขายให้กับ คุณหญิงแย้ม ตั้งแต่อายุ 15 ปี ตกอยู่ในความปกครองของทาสหญิงชราชื่อ นางฟัก ดูแลฝึกหัดให้สันทัดงานผู้ลากมากดี ภายหลังคุณหญิงก็เรียกให้ไปรับใช้บนเรือน เพราะเย็นผิวพรรณหมดจดหน้าตาสะสวย เมื่ออายุยี่สิบปีจึงได้ชื่อว่าเป็นอนุภรรยาคนหนึ่งของ พระยาสีหโยธิน เย็นไม่ลืมว่าตัวตกเป็นของบุรุษผู้มีอายุคราวบิดามารดา เพราะความกลัวเกรงบุญบารมีหาใช่เพราะสมัครรักใครไม่ กระนั้นเย็นก็ตั้งหน้าสามิภักดิ์โดยสุจริต เจ้าคุณเมตตาเป็นพิเศษ จึงก่อให้เกิดริษยาในหมู่เมียน้อยด้วยกัน

เย็นอายุน้อยกว่าเขาทั้ง นั้น ซ้ำมีชื่อว่าเป็นทาสมาแต่เดิมก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว คุณหญิงจึงเอ็นดูกว่าอนุภรรยาคนอื่นๆ แปลกแสนแปลกด้วยเมื่อปีหนึ่งล่วงไป คุณหญิงและเย็นก็มีครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าคุณตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่ เย็นก็ถูกริษยาจากเพื่อนเมียน้อยเท่านั้น เย็นรู้ว่าถ้าเย็นเป็นมารดาลูกของเจ้าคุณ ก็อาจถูกใส่ความว่าประพฤติชั่วกับชายอื่น มันหมายถึงอันตรายยิ่งใหญ่ทีเดียว แต่โชคดีที่คุณหญิงตั้งครรภ์ด้วย หลังจากแต่งงานมานาน เมื่อเวลาใกล้กำหนดคลอด เจ้าคุณมีราชการต้องไปค้างอยู่ต่างจังหวัดมีกำหนดสามสิบวัน

และก่อน หน้าที่จะกลับสิบสองวัน คุณหญิงแย้มก็ได้คลอดลูกชายและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพร้อมกับเย็นให้กำเนิดเด็กหญิง โดยมิคาดฝัน นางฟักก็มาบอกว่า คุณหญิงขอเปลี่ยนเอาลูกของเย็นไปเป็นลูกของท่าน ให้เย็นรักษาเป็นความลับไว้ตลอดอายุ และให้รางวัลอย่างงาม เย็นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งนั้นหวงแหนเลือดในอก ปรารถนาจะได้โอบอุ้มเลี้ยงดูเองให้สมกับอุ้มท้องมาเกือบเต็มขวบปี แต่อีกใจหนึ่งนั้นหวั่นกลัวอำนาจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาหลวง ไม่แน่ว่าการปฏิเสธจะเกิดผลร้ายแก่ตัวสักแค่ไหน

แต่นางฟักชักแม่น้ำ ทั้งห้าหว่านล้อม อ้างว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของลูก เป็นลูกคุณหญิงต้องดีกว่าเป็นลูกของนางทาสแน่นอน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเจ้าคุณก็ตาม เย็นจึงยอม ค่ำวันนั้นคนในบ้านก็รู้ทั่วกันว่าลูกของเย็นตาย ส่วนลูกของคุณหญิงรอดชีวิตเป็นผู้หญิง เจ้าคุณกลับมาบ้านตามกำหนด ครั้นทราบว่าลูกของเย็นเป็นชายแต่ตายเสียก็บ่นเสียดาย ส่วนคุณหญิงได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเลิศ ทารกซึ่งได้ตำแหน่งธิดาคุณหญิงแย้มเติบโตรวดเร็ว ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของเจ้าคุณและคุณหญิงผู้ตั้งตนเป็นมารดาอย่างยิ่งกบ-สุวนันท์ คงยิ่ง

เย็น ได้ให้น้ำนมได้อุ้มชูเลี้ยงดูโดยคำสั่งของคุณหญิงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้เย็นเก็บความชื่นชมเสน่หาบุตรสาวอยู่กลายเป็นของคนอื่นไว้คนเดียว ท่านเจ้าคุณยังคงรักและเมตตาเย็น พร้อมทั้งมีความหวังว่าเย็นอาจจะมีลูกให้ท่านอีก เพราะอนุภรรยาอื่นๆ ไม่ปรากฎว่าใครจะตั้งครรภ์เลย จนในวันหนึ่ง ทิดยืน พี่ชายของเย็นมาบอกว่าพ่อเจ็บ แม่ให้มาขอขึ้นค่าตัวเย็นไปรักษาพ่อ เย็นไม่กล้าให้พี่ชายเอ่ยปากกับท่านเจ้าคุณ จึงให้ตะกรุดทองซึ่งเจ้าคุณให้ผูกตอนตั้งท้องไปแทน แต่การณ์กลับเป็นผลร้ายแก่เย็น

ด้วย บุญมี อนุภรรยาของเจ้าคุณที่ริษยาเย็นอยู่ ได้กล่าวโทษฟ้องว่าเย็นคบผู้ชายถึงให้เป็นสิ่งของกัน เย็นจึงโดนหวายเฆี่ยนเจียนตาย และถูกถอดลงมาเป็นนางทาสตามเดิม เย็นต้องมาเป็นลูกมือนางในคนครัว ตำน้ำพริก ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว หุงข้าว ผ่าฟืน ล้างถ้วยชามรามไห แล้วแต่นางในจะใช้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ที่ร้ายที่สุดคือห่างเหินลูกรักชนิดสุดเอื้อม กระนั้นก็ตามเย็นก็คอยหาโอกาสแอบเข้าไปใกล้ชิด อุ่นเรือน ( คุณหนูแดง) อยู่เสมอจนวันหนึ่ง วันที่เย็นเข้าไปหา นางพุ่ม พี่เลี้ยงคุณแดง อุ้มคุณแดงเชยชม

ก็ปรากฏว่าสร้อยข้อเท้าคุณแดงหายไป นางพุ่มระบุว่าเย็นมาอุ้มคุณแดง เย็นจึงถูกเฆี่ยนเป็นครั้งที่สอง จนคุณหญิงสงสารหยิบสร้อยเส้นใหม่ออกมาและบอกว่าหาพบแล้ว เย็นจึงรอดพ้นจากอาญาไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าคุณก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เย็นเข้าใกล้อุ่นเรือน เวลาผ่านไปตามลำดับอุ่นเรือนโตเป็นสาวแรกรุ่นจำเริญตา ในขณะที่เย็นร่างกายเสื่อมโทรมไปเพราะงานหนัก ผิวพรรณด้านหลังงองุ้ม ผมหงอกเกือบทั่วศีรษะ วันหนึ่งขณะที่เย็นกำลังพักผ่อน หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก

ก็ได้ยินเสียง นางสาลี่ อนุภรรยารุ่นเก่าคนหนึ่งของเจ้าคุณ และอีทาสหน้าตาขี้ริ้วชื่อ แอบ นัดแนะกันจะล่ออุ่นเรือนมาให้ ทิดคล้อย ซึ่งอดีตเป็นพระนักเทศน์ตัวลือ เย็นตกใจแทบสิ้นชีวิต เฝ้าตรึกตรองหาทางป้องกันอุ่นเรือนจนกระทั่งถึงวันนัด เย็นไปดัก ณ ที่นัดพบเพื่อห้ามอุ่นเรือน อุ่นเรือนโกรธจัดถึงกับตบหน้าเย็น แต่เย็นไม่ฟังเสียงเฝ้าวิงวอนจนถึงกับต้องยื่นคำขาดว่า จะขัดขวางถึงตายก็ยอม เมื่อสาลี่มาถึงรู้ว่าความแตกแล้วก็กรีดร้องขึ้นเต็มเสียงว่า เย็นพยายามแย่งของจากอุ่นเรือน อีกครั้งหนึ่งที่นางทาสถูกโบยจนสลบคาหวาย

ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่มแต่ คำน้อยมิได้หลุดจากปากเพราะรู้ว่าคือโทษหนักต่อลูกรัก จนในที่สุดอุ่นเรือนทนไม่ได้ต้องสารภาพกับคุณหญิง เย็นจึงรอดพ้นจากหวายลงหลังซ้ำสอง สิ่งที่ได้ตอบแทนคือคุณหญิงพาอุ่นเรือนมาขอโทษเย็นถึงเรือนพัก อุ่นเรือนร้องไห้จนตัวโยน จับมือเหี่ยวแห้งมากำไว้ขณะที่กล่าวคำขอโทษ เย็นจูบปลายเท้าลูกน้ำตาไหลพรากเมื่อตอบว่า ถึงบ่าวจะตายเพราะช่วยคุณก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะบ่าวรักคุณเหลือเกิน คุณหญิงบอกความจริงเจ้าคุณ และวันรุ่งขึ้นเมื่อใกล้พลบ ใต้ถุนหอนั่งก็มีการเฆี่ยนกันอีก ครั้งนี้คือสาลี่กับนางแอบ

หลังจาก นั้นสาลี่ก็ถูกถอดลงทำงานตักน้ำผ่าฟืนข้างล่าง หลังจากนั้นไม่นานด้วยเดชะพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ซึ่งมีต่อพสกนิกรแห่งพระองค์ ได้ทรงออกพระราชบัญญัติประกาศให้เลิกทาสทั่วพระราชอาณาจักร ปวงประชาราฎร์ทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นล้นพ้น แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทุกหลังคาเรือน พระอารามทั่วไปเคาะระฆังแสดงความปลื้มปิติ และเป็นความหมายให้สำเนียงนี้อุโฆษขึ้นไปถึงเทพยดาเจ้าเบี้ยงบนฟากฟ้าโน่น

ตาม เคหะสถานท่านผู้มีทาสใช้สอย บางรายก็เสียดายอำนาจซึ่งหลุดลอยไป บางแห่งก็ยินดี โดยเฉพาะพระยาสีหโยธิน เจ้าคุณโสมนัสชื่นชมเป็นที่ยิ่ง ประกาศให้ทุกคนในบ้านมีการรื่นเริงได้เต็มที่ ปัจจุบันนางทาสเย็นไม่ต้องทำงานหนักตรากตรำแล้ว คุณหญิงให้นั่งดูแลหอนั่ง เย็นค่อยแจ่มใสอ้วนท้วนนุ่งห่มสะอาดนัยน์ตา มีโอกาสได้พบปะใกล้ชิดลูกโดยไม่มีใครรังเกียจ แม้ฝ่ายอุ่นเรือนเองจะไม่รู้จักว่าเป็นแม่ ตามวิสัยของมารดากับบุตร ย่อมมีสัมพันธ์ทางสายโลหิตใกล้ชิดอยู่เสมอ อุ่นเรือนจึงรักเย็นมาก

เจ้า คุณเคยปรารถกับตัวเองว่า เย็นเป็นคนดีพอใช้ เสียแต่ใจมันรักชั่วเห็นคนเลวดีกว่าพระยาอย่างเรา ไม่งั้นป่านนี้กินนอนกันสบาย และวันที่ความจริงปรากฏขึ้นก็มาถึง เมื่อทิดยืนพี่ชายมาหาเย็นพร้อมทั้งเงินค่าไถ่ ความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่เจ้าคุณคิดว่าเป็นชู้ของเย็นเมื่อเกือบยี่สิบปี ก่อนนั้นคือ พี่ชาย เจ้าคุณอึ้งไปด้วยสำนึกในความผิด ทั้งเสียใจและเสียดายความหลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางใดจะแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ได้แต่ขออโหสิต่อเย็นอยู่ในใจ เย็นมีชีวิตเป็นสุขขึ้นมาก ความดีทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้ว แต่ความจริงที่อุ่นเรือนคือบุตรสาวที่แท้จริงของเย็น จะปรากฏหรือไม่ คอยติดตามชมกันต่อไปในละคร นางทาสป๊อก-ปิยธิดา วรมุสิก

รายชื่อนักแสดงละคร นางทาส

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น พระยาสีหโยธิน
สุวนันท์ คงยิ่ง แสดงเป็น เย็น
จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น สาลี่
ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น คุณหญิงแย้ม
อรวรรณษา ฐานวิเศษ แสดงเป็น บุญมี
ธันย์ชนก ฤทธิ์นาคา แสดงเป็น อุ่นเรือน ( คุณหนูแดง )
ธัญสินี พรมสุทธิ์ แสดงเป็น ละออ
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น ยายฟัก
สุรวุฑ ไหมกัน แสดงเป็น คล้อย

ธรณีนี่นี้ใครครอง

เมื่ออาทิจ (แอนดริว เกร้กสัน) เรียนจบวิทยาลัยเกษตร เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆได้เรียนบ้าง หลังจากที่น้องๆได้หลีกทางเปิดโอกาสให้เข้าแล้ว เขาเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีลูกมากถึงสิบคน

อาทิจไม่คิดที่จะทำงานราชการ เขาใฝ่ฝันที่จะมีที่ดินเป็นของตัวเองสักแปลง และใช้วิชาความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมาให้เกิดประโยชน์ พ่อจึงตัดสินใจส่งตัวเขากลับไปหา ย่าแดง (จุรี โอศิริ) เป็นการไถ่โทษที่ในอดีตพ่อของอาทิจ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตในจำนวนพี่น้องยี่สิบคน ขโมยเงินย่าแดงหนีออกจากบ้านเพราะไม่ต้องการทำงานหนักในไร่

ย่าแดง ยินดีต้อนรับอาทิจเพราะในจำนวนลูกหลานทั้งหมดต่างก็เป็นหลักเป็นฐานไปหมด แล้ว ไม่มีใครรับช่วงต่องานในไร่ซึ่งมีมหาศาล อาทิจต้องทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน เพราะ ย่าแดงได้ให้เงินก้อนเป็นทุนการศึกษาสำหรับน้องอาทิจ และอาทิจระลึกอยู่เสมอว่าเป็นการทำงานใช้หนี้ให้ย่าแดงทั้งสำหรับอดีตที่พ่อ ทำเอาไว้
และปัจจุบันที่ย่าแดงให้ทุนการศึกษาน้องสาวเขาถึงสองคน

อาทิจได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากย่าแดง หลังจากที่ย่าแดงทดสอบ และไว้ใจในความมุมานะ มักน้อยของอาทิจ จึงมอบที่ดินที่ยังไม่ได้บุกเบิกให้อาทิจจำนวนหนึ่ง ดูเหมือนว่าอาทิจจะกลายเป็นหลานชายคนโปรดของย่าแดงเสียแล้ว

ดรุณี (ปิยะธิดา วรมุสิก) น้องสาวคนสุดท้องของย่าแดง จึงมีศักดิ์เป็นย่าของอาทิจ คนหนึ่งปักหลัก เป็นไม้เบื่อ ไม้เมากับอาทิจ เพราะความอิจฉากลัวว่าอาทิจจะมาแย่ง ความรักทั้งหมดจากย่าแดงไป อาทิจก็ไม่ยอมลงให้ เหมือน กัน ทั้งคู่ตอบโต้กันทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้ย่าแดงปวดหัวไม่น้อย

อาทิจตั้งใจทำงานพัฒนาไร่ สวน ตามหลักวิชาการที่ได้เรียนมา ความที่อุดมการณ์ ไฟแรง ทำให้พลาดจนได้ อาทิจอุตส่าห์ขุดหน่อกล้วยป่ามาปลูกในไร่ที่บุกเบิกใหม่ โดยที่ดรุณีไม่ยอมเปิดปากทักท้วงแถมยังกำชับคนงาน ไม่ให้พูด หวังจะให้อาทิจเสียหน้าในตอนจบ การณ์เป็นเช่นนั้นจริง อาทิจเสียหน้ามาก ตรอมใจหนัก อาทิจตั้งใจเมาประชดชีวิต เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองเสียท่า ทองประศรี (กนกวรรณ บุรานนท์) ลูกสาวเจ้าของร้านขายของชำ ทองประศรีโวยวายว่าอาทิจข่มขืนหล่อน

เรื่องลุกลามใหญ่โต ย่าแดงพยายามช่วยเหลืออาทิจเต็มที่ ในขณะที่ดรุณีเริ่มรู้สึกผิดเพราะความยุ่งยากทั้งหมดเกิดขึ้นเพระาตนคนเดียว แท้ๆเป็น
ต้นเหตุ

อาทิจป่วยหนัก ย่าแดงจึงลงโทษดรุณีให้ต้องดูแลอาทิจอย่างใกล้ชิด แต่ถึงขนาดนั้นทั้งคู่ก็ไม่วายกัดกัน ถึงแม้จะเป็นการทำลับหลังย่าแดงเพียงเสี้ยววินาที

เมื่ออาทิจอาการดี ขึ้น ความเก่าก็รุกเข้ามารุมเร้าอาทิจ ทองประศรีหน้าด้านเข้ามาบังคับให้อาทิจรับตัวเองเป็นเมีย ย่าแดงจัดการตามสมควรแก่ฐานะ และอาทิจหนีหน้าทองประศรี ไม่มีแม้กระทั่งความคิดจะอยู่ร่วมบ้าน ทองประศรีได้ลูกยุจากพ่อแม่ทำทุกวิถีทาง แม้กระทั่งขนของมาอยู่กับอาทิจ แต่อาทิจไม่เคยสนใจเลยจนกระทั่งทองประศรีตั้งท้อง

ชีวิตของอาทิจ – ดรุณีเหมือนพระอาทิตย์ พระจันทร์ ยากที่จะโคจรมาพบกัน อาทิจปลีกตัวเองไปทำงานสวนอีกแห่งให้ย่าแดง แทบจะไม่รู้ความเป็นไปของครุณีเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายปี

ความ สัมพันธ์แบบเด็ก-ผู้ปกครองทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน แปลกๆ มีทั้งพ่อแง่แม่งอน ตอบโต้กันเจ็บๆคันๆ แต่ต่างคนต่างก็ทำทุกอย่างในกรอบ ตามที่คุณย่าสั่งเสียเอาไว้ อาทิจรู้ว่า เวทางค์ (จาตุรงค์ โกลิมาศ) ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง มาชอบดรุณี ทั้งที่ไม่ชอบหน้าแต่พยายามสนับสนุนจนกลายเป็นประชดประชัน จนดรณีคิดว่าเป็นการเสือกใสไล่ส่ง ขณะเดียวกันเมื่อเรียนจบ ดรุณีก็พาเพื่อนสาว ตุลยานี (พาเมล่า บาวน์เด้นท์) มาเที่ยวไร่ ตั้งใจจะชักนำให้ลงเอยกับอาทิจ เป็นไปตามคาด อาทิจตกหลุมรักตุลยานีจนถอนตัวไม่ขึ้น ตรุณีเกิดความรู้สึกประหลาดกับตัวเองแต่ก็ทำหน้าชื่นยินดีใน ความรักของคนทั้งสอง

ความฝันในความรักของอาทิจต้องพังทลาย เพราะทองประศรี ซึ่งหนีหน้าไปนานจนใครๆ ก็ลือกันว่าไปขายตัวอยู่ในเมือง กลับมาอาละวาดอ้างตัวว่าเป็นเมียอาทิจ ตุลยานีเสียหน้ามาก หนีกลับกรุงเทพฯไปทันที อาทิจตรอมใจหนักจนล้มป่วยเพราะถูกงูกัด ดรุณีมาช่วยชีวิตอาทิจโดยการดูดพิษงูด้วยปากตัวเอง อาทิจเริ่มหันมารู้สึกต่อดรุณีด้วยก้นบึ้งของหัวใจแต่ทั้งคู่ก็พยายามจับคู่ ให้กันแล
ะกันอยู่นั่นเอง น้าแก้วทนดูไม่ได้ทั้งที่ประกาศให้คนทั้งคู่รู้แล้วว่าคุณย่าต้องการให้คนทั้งสองลงเ
อยกันจนต้องใช้แผนลับสุดยอดเป็นการเผด็จศึก

ทะเลสาบนกกาเหว่า

ครูดวง พร อดีตเจ้าของเนอสเซอรีที่ต้องเลี้ยงดูเด็กหญิงชายอีก 5 คน คือ สาลิกา สิริขวัญ เมรี ปองคุณ และ ปวีร์ ทั้งห้าคนต่างรู้สภาพของตนเองแต่แม่ครูก็คอยเติมส่วนที่ขาดหายด้วยความรัก และเมตตา และสอนให้ลูกๆ ทุกคนรัก สามัคคี มีน้ำใจ ซื่อสัตย์ ขยันและกตัญญู แต่ปวีร์ ด้วยความเป็นน้องคนเล็กจึงเอาเปรียบพี่ๆ ทั้งเรื่องการกินอยู่และการทำงานร่วมกันในบ้าน

 

    พี่ๆ สี่คนเรียนจบแค่ระดับ ปวช. ก็หางานทำ สาลิกา เป็นแคชเชียร์และ ปองคุณ เป็นพนักงานเสิร์ฟในผับที่เดียวกัน สิริขวัญ เป็นนักร้องในร้านอาหาร และเมรี ที่รักทำงานศิลปะให้กับมูลนิธิ ทุกคนต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านและค่ารักษาแม่ครูที่ป่วย เป็นโรคไต ทุกคนรู้หน้าที่มีเพียง ปวีร์ เท่านั้นที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ

 

    ปวี ร์ ที่ได้อะไรนอกเหนือคนอื่นมาตลอด เขาเรียนจบปริญญาตรีและมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ยิ่งยศ และพรรณฉวี เจ้าของโรงแรมริเวอร์โฮม จึงชักชวนให้ปวีร์มาทำงานในโรงแรม ด้วยเห็นความสามารถบวกกับบุคลิกหน้าตาและเขายังสร้างภาพว่าเป็นลูกชายคน เดียวของเจ้าของเนอสเซอรี และยังได้มีโอกาสเข้าไปแนะนำเรื่องคอมพิวเตอร์ให้กับ มัทนา ลูกสาวคนที่สองของบ้านที่เป็นกุลสตรีและน่ารักเรียบร้อย ทำให้มองเห็นอนาคตหากเขาได้เป็นลูกเขยของบ้านนี้

 

    ยิ่ง ยศสั่งให้ ปวีร์ เป็นแม่งานในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของ เพ็ญพิชชา กับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่คนใหม่ ปวีร์ให้ความสนใจตัวของเพ็ญพิชชาเป็นอย่างมาก แต่ผู้หญิงที่มีความสง่างาม มั่นใจในตัวเองสูง ฉลาดและมีไหวพริบดีกลับไม่ยอมรับไมตรีจากเขาและยังเย่อหยิงและแบ่งชนชั้นกับ เขาอย่างชัดเจน เขาจึงหันไปสานสัมพันธ์กับมัทนาต่อและด้วยความใกล้ชิด ทั้งสองจึงมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างลึกซึ้ง และปวีร์ก็ขอให้มัทนาเก็บไว้เป็นความลับ

 

    พิมพ์ มาดา ลูกสาวคนเล็กถูกเรียกตัวกลับและปวีร์ก็เป็นแม่งานอีกเช่นเคย พิมพ์มาดารู้สึกชอบเขาขึ้นมาทันที เลยขอฝึกงานในแผนกเดียวกับปวีร์และแสดงความสนใจอย่างเปิดเผย ปวีร์แม้จะยังหมายปองเพ็ญพิชชาอยู่แต่ก็ไม่เคยได้รับความสนใจแม้แต่น้อย เขาจึงหันมาเอาใจพิมพ์มาดาที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จได้ง่า ยกว่ามัทนา การกระทำของปวีร์ยิ่งทำให้เพ็ญพิชชาไม่ไว้ใจในตัวเขามากยิ่งขึ้น และเตือนให้พิมพ์มาดารู้ตัวว่าเขาหวังในผลประโยชน์มากกว่าจะจริงใจ แต่พิมพ์มาดากลับไม่เชื่อและประกาศจะแต่งงานกับ ปวีร์ อีกด้วย ด้านพรรณฉวีก็บังคับให้มัทนาหลีกทางให้น้อง มัทนาจำต้องยอมเพ็ญพิชชา ไม่สามารถคัดค้านการเลื่อนตำแหน่งของปวีร์ได้ และได้แต่สงสารมัทนาที่หลงรักปวีร์อย่างมาก จึงชักชวนให้ไปพักผ่อนที่โรงแรมที่หัวหิน และได้พบ รมต.สุพจน์ คุณหญิงอันธิกา และ อังกูร ที่รู้สึกจะชอบในความเรียบร้อยน่ารักในตัวมัทนา ทั้ง รมต.และคุณหญิงให้การสนับสนุนเต็มที่เพราะเห็นว่ามัทนาเป็นลูกสาวของยิ่งยศ

 

    ปวีร์ ได้ทำงานใหญ่ร่วมกับเพ็ญพิชชาทำให้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเธอ จนหญิงสาวเริ่มยอมรับในความฉลาดและความสามารถในเรื่องงานแต่ก็ยังไม่ชอบใจใน ความกะล่อนที่เขามีต่อพิมพ์มาดาและมักจะนัดพบมัทนา ทั้งที่มัทนาคบหาอยู่กับอังกูร จนมัทนาเผลอตัวไปมีความสัมพันธ์ด้วยกันอีก

 

    แม่ ครูดวงพรยังคงเฝ้ารอการกลับมาของลูกๆ ที่แม้จะไม่ค่อยมีเวลาแต่ลูกๆ ก็ยังเจียดเวลามาอยู่กับแม่ครูบ้าง ยกเว้นปวีร์ที่ตั้งแต่ทำงานที่โรงแรมเขาก็แยกออกไปเช่าห้องอยู่นานๆ จะแวะมาแต่ก็ไม่ยอมฝากเงินไว้ให้กองกลาง เมื่อถูกสาลิกาทวงก็จะบอกว่าเงินเดือนไม่พอใช้แม่ครูจึงขอให้สาลิกายกเว้น ปวีร์ไปก่อน แม่ครูไม่อยากเอาเงินของลูกๆ ไปใช้จึงไม่ยอมฟอกไตตามที่หมอนัดทำให้อาการทรุดลง เมื่อสิริขวัญพบกับปวีร์ชายหนุ่มที่เธอหลงรักแต่เขาไม่เคยรู้จึงบอกให้ไป เยี่ยมแม่ครูบ้างและเอาเงินไปให้สาลิกาไว้ใช้จ่ายด้วยเขาก็รับปากแต่กลับไม่ ยอมทำตาม

 

    ปวีร์ เริ่มให้ความสนใจพิมพ์มาดาน้อยลงเพราะต้องทำงานอยู่กับเพ็ญพิชชา ทำให้พิมพ์มาดาโกรธ และเสียใจไปดื่มเหล้าจนเกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ส่งผลให้พรรณฉวีโกรธเพ็ญพิชชาและเปิดเผยความจริงว่า เพ็ญพิชชาและมัทนาไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง หากตัวพิมพ์มาดาเป็นหลานของลมัยแม่บ้านของยิ่งยศ มัทนาเมื่อรู้ความจริงก็เสียใจและสับสนและพยายามหาหลักยึด โดยบอกเรื่องที่เธอท้องให้ปวีร์รู้ แต่เขากลับไม่ยอมรับและให้มัทนาเอาเด็กออกและรีบแต่งงานกับอังกูรเสีย

 

    พิมพ์ มาดารู้เรื่องทั้งหมดก็คิดหาทางกำจัดมัทนาและได้เปิดเผยชาติกำเนิดของ มัทนาให้คุณหญิงอันธิการู้ในวันแต่งงาน คุณหญิงจึงล้มงานแต่งงาน ทำให้มัทนาเจ็บปวดและอับอายเกินจะทนไหวจึงกินยานอนหลับฆ่าตัวตาย อังกูรได้แต่เสียใจกินเหล้าเมามายไปพบกับสาลิกา และกวนประสาทแต่ก็ให้ข้อคิดกับเขาได้ ปองคุณเห็นอังกูรสนใจสาลิกาจึงคิดจะหลอกเอาเงินมาใช้รักษาแม่ครู แต่สาลิกาไม่เห็นด้วยเพราะนึกถึงคำสอนของแม่ครู

 

    เพ็ญ พิชชาเมื่อรู้สถานภาพของตนเองก็ลดบทบาทตัวเองจากการบริหารโรงแรม และย้ายไปอยู่เรือนหลังเล็กดูแลงานบ้านแทนมัทนาและตามหาแม่ที่สลัมกลับถูก ปฏิเสธ แต่เธอก็ตั้งใจที่จะปรับสภาพชีวิตของตนเองให้ได้ ส่วนสาลิกายอมคบกับอังกูรแต่ก็พบว่าแม่ของเขายอมรับในตัวเธอไม่ได้ เธอตัดสินใจที่จะไม่คบหากับอังกูรอีกต่อไป พี่น้องทุกคนพยายามที่จะให้ปวีร์มาเยี่ยมแม่ครูแต่กลับได้รับการปฏิเสธ ส่วนปรวีร์ก็โดนพิมพ์มาดาเร่งรัดเรื่องการแต่งงานถึงกับกลุ้มใจเพราะไม่มี เงินมากพอ แม่ครูได้รู้ก็เลยเอาแหวนแต่งงานหวังจะให้ปวีร์ได้ใช้ แต่พอกลับมากลับถูกรถชนอาการสาหัส พี่น้องทุกคนพยายามหาเงินมาช่วยรักษาแม่ครู แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตแม่ครูไว้ได้ ทุกคนโศกเศร้าเสียใจที่สูญเสียแม่ครูไปโดยเฉพาะปวีร์ที่มาไม่ทันดูใจแม่ครู ทำให้งานแต่งงานของปวีร์และพิมพ์มาดาต้องเลื่อนออกไป พิมพ์มาดาจึงทำตัวเสเพลเล่นการพนันและไปพบกับ คฑา จิ้งจอกสังคมที่หลอกลวงจนพิมพ์มาดาตั้งท้องกับเขา แต่เขาไม่ยอมรับ และธุรกิจโรงแรมก็เริ่มย่ำแย่ลงทุกวัน ปัญหาทุกอย่างทำให้ยิ่งยศและพรรณฉวีตรอมใจ แต่ทั้งสามคนก็ได้เพ็ญพิชชาคอยดูแล โดยไม่ถือสาในเรื่องที่ผ่านมา

 

    ตั้งแต่ แม่ครูเสียไป ปองคุณก็เสียใจมากและอยากเลิกยาและไม่อยากส่งยาเสพติดอีกต่อไป ทำให้เสี่ยชัชชัยส่งลูกน้องตามฆ่าปองคุณ ปองคุณหนีไปขอความช่วยเหลือจากปวีร์ และได้รู้ว่าโกศลที่โกรธแค้นปวีร์กลับมาแก้แค้นและกำลังวางระเบิดในโรงแรม ปองคุณจะเข้าไปบอกปวีร์ให้รู้แต่ยามกลับไม่ให้เข้า พอดีเพ็ญพิชชามาเห็นทำให้โกศลที่รู้ตัวแล้วตามยิงทั้งคู่ ปองคุณและเพ็ญพิชชาจึงหนีไปด้วยกัน ปองคุณสู้กับโกศลและแย่งปืนมาได้ ทำให้ปวีร์มาเห็นก็เข้าใจว่าปองคุณทำร้ายเพ็ญพิชชาที่สลบอยู่ ตำรวจจึงเข้าใจผิดและยิงปองคุณตายคาที่ เพ็ญพิชชาและปวีร์รีบวิ่งไปที่ระเบิดและเอาออกจากโรงแรมก่อนที่ระเบิดจะทำ งาน ปวีร์ตัดสินใจแย่งระเบิดมาจากเพ็ญพิชชา และรีบวิ่งไปขว้างระเบิดทิ้งได้หวุดหวิด โรงแรมจึงรอดพ้นจากการระเบิด แต่ปวีร์กลับโดนสะเก็ดระเบิดอาการสาหัส ใบหน้าเสียโฉมและขาเป๋ เป็นที่รังเกียจของทุกคน

 

    ปวี ร์ สำนึกผิดที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ร้ายๆ ในชีวิตทุกคน จึงหนีไปซ่อนตัวอยู่เพียงลำพัง แต่เมื่อทุกคนให้อภัยและโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ ปวีร์จึงกลับมาทำงานตามเดิม พิมพ์มาดาคลอดลูกชายและตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเพื่อเปิดทางให้ความ รักของปวีร์กับเพ็ญพิชชา แต่เพ็ญพิชชา ก็ยังไม่สามารถยอมรับเขาได้ ปวีร์ตัดสินใจกลับไปเริ่มต้นงานคอมพิวเตอร์อีกครั้งและเพ็ญพิชชาก็ได้ชวนให้ เขากลับมาทำงานที่โรงแรมอีกครั้งด้วยความสามารถของเขาเอง ส่วนเพ็ญพิชชาก็ออกมาเลี้ยงดูลูกนกกาเหว่าของพิมพ์มาดาอย่างมีความสุขต่อไป

ใจเดียว

ธนากร นายเหมืองผู้ร่ำรวยหลงรัก ครูประภา ลูกสาวคนงานเหมือง แต่ประภารักอยู่กับ เมธี ประภาจึงถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับธนากร ในวันแต่งงานประภาหนีไปกับเมธีแต่ธนากรตามไปพบ ลูกน้องของธนากรยิงเมธีตกเหวไปทุกคนจึงคิดว่าเมธีตายไปแล้ว ประภาแต่งงานกับธนากรแล้วมีลูกชายด้วยกัน 2 คนคือ เขื่อนเพชร และอลงกต เขื่อนเพชรเป็นลูกชายคนโตที่ผู้เป็นพ่อแคลงใจตลอดว่าเป็นลูกติดท้องประภากับ เมธี เมื่อประภาเสียชีวิตเขื่อนเพชรถูกส่งตัวไปอยู่ที่เหมือง เขาถูกเลี้ยงดูให้หาญกล้าอย่างนักสู้ ผิดกัลป์อลงกตที่ถูกธนากรเลี้ยงดูอย่างตามใจ เป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่คิดจริงจังกับชีวิต ด้านธนากรก็วางตัวห่างเหินไม่ยอมให้เขื่อนเพชรเรียกตนเองว่าพ่อ

ทำ ให้เขื่อนเพชรเกิดความน้อยใจอยู่ลึกๆ ดอกรัก คนงานในเหมืองถูกข่อขืนจนท้องและคลอดได้ลูกสาว เขื่อนเพชรสงสารจึงรับ ชมพู่ เป็นลูก ธนากรรับ เสาวรส ลูกสาวของเพื่อนสนิทซึ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหันเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้เขื่อนเพชรเข้าใจว่าเสาวรสเป็นเมียใหม่ของพ่อจึงพูดจาดูหมิ่น ส่วนเสาวรสก็เข้าใจว่าเขื่อนเพชรไม่ดูแลเมียและลูกปล่อยให้ดอกรักและชมพู่ อยู่อย่างลำบาก ทั้งคู่จึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด วันหนึ่งทั้งคู่มีปากเสียงกันถึงขั้นเขื่อนเพชรจูบสั่งสอนและโยนเสาวรสลงน้ำ เสาวรสจำต้องไปเปลี่ยนชุดในห้องนอนของเขื่อนเพชร เธอพบสมุดบันทึกของเขื่อนเพชรจึงถือวิสาสะเปิดอ่าน

ทำ ให้เธอรู้ว่าจริงๆ แล้วเขื่อนเพชรเป็นลูกชังของธนากร เสาวรสจึงเกิดความรู้สึกเห็นใจเขื่อนเพชรขึ้นมา อลงกตเป็นแฟนกับ เรณุกา โดยไม่รู้ว่าเรณุกาคือลูกสาวของคนที่ธนากรเคยฟ้องล้มละลาย เรณุการวมหัวางแผนกับ โสภณ คนรักเก่าเพื่อจะแก้แค้น ธนากรสั่งให้อลงกตเลิกยุ่งเกี่ยวกับเรณุกา และยื่นคำขาดให้อลงกตแต่งงาน อลงกตจึงจ้าง ฟ้าใส แม่ค้าขายดอกไม้ในตลาดมาแต่งงานด้วย ฟ้าใสตกลงเพราะต้องการเงินไปรักษา บุญเต็ม แม่ที่ป่วยเป็นหอบหืดมาแรมปี อลงกตโกหกว่าฟ้าใสเป็นลูกผู้ดีเก่าชาติตระกูลดี ธนากรจึงให้เขาพาฟ้าใสมาพบ ธนากรขอให้ฟ้าใสมาอยู่ที่บ้านเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดดูแลการใช้จ่ายเงิน ของอลงกต

แต่ในขณะเดียวกันอลงกตก็ยังคงคบหากับเรณุกาอยู่ คืนหนึ่งอลงกตพาเรณุกาเข้ามานอนที่บ้าน ฟ้าใสเห็นเข้าก็โกรธมากที่อลงกตดูหมิ่นเกียรติ เธอจึงบอกให้อลงกตพาเรณุกากลับไปแต่เรณุกาไม่ยอม ฟ้าใสจึงขู่ว่าจะบอกเรื่องการแต่งงานที่จอมปลอมกับธนากร อลงกตจำยอมต้องพาเรณุกากลับไป เขาหัวเสียอย่างมากขอหย่ากับฟ้าใส แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธโดยเธอขอเวลาอีก 1 ปีเพื่อกันข้อครหาที่จะทำให้เสียชื่อเสียง ไพร ลูกน้องที่เหมืองมาแจ้งข่าวว่ามีพวกกะเหรี่ยงมาระราน เขื่อนเพชรจึงต้องไปเจรจากับพวกกะเหรี่ยง เสาวรสแสดงความเป็นห่วงเขื่อนเพชรทำให้เขาซึ้งน้ำใจเธอมาก หากแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกดีๆ ไว้เพราะไม่ต้องการแย่งผู้หญิงของพ่อ

การเจรจาไม่สำเร็จเขื่อนเพชรต่อสู้กับพวกกะเหรี่ยงจนเกือบพลาดท่า โชคดีที่ธนากรและเสาวรสตามมาช่วยไว้ทันและพา กันไปหลบที่กระท่อมร้าง พายุฝนเทกระหน่ำลงมาธนากรจับไข้จนตัวหนาวสั่น เขื่อนเพชรขอร้องให้เสาวรสกอดพ่อเพื่อให้ความอบอุ่นแต่เธอปฏิเสธ พอธนากรหายไข้เสาวรสกลับเป็นไข้แทน เขื่อนเพชรจึงกอดให้ความอบอุ่นแก่เธอ ความใกล้ชิดในครั้งนี้ทำให้เขื่อนเพชรเผลอใจรักเสาวรสจนหมดใจ แต่เมื่อธนากรมาขอบใจเขื่อนเพชรที่ช่วยชีวิต เขากลับโมเมไปว่าอ้อมกอดของเสาวรสต่างหากที่ช่วยชีวิตธนากรไว้ ธนากรซึ้งใจจึงขอเสาวรสแต่งงาน เสาวรสไม่ได้บอกความจริงแต่รีบไปเล่นงานเขื่อนเพชรที่พูดโกหก

เขื่อน เพชรยอมสารภาพว่าเขารักเธอแต่ไม่อยากได้ชื่อว่าแย่งผู้หญิงของพ่อ ในขณะที่เหตุการณ์ทางเหมืองกำลังวุ่นวายเหตุการณ์ทางบ้านของธนากรก็ไม่สงบ สุขเช่นกัน ฟ้าใสจับได้ว่าอลงกตจ้างโจรมาหลอกปล้นเอาเครื่องเพชรไปให้เรณุกา ฟ้าใสโกรธมากและมีปากเสียงกับอลงกตอย่างรุนแรง พอดีกับ ระวี เพื่อชายที่สนิทและหลงรักฟ้าใสมาหา ฟ้าใสจึงทำตัวสนิทสนมกับระวีจนอลงกตเริ่มหึงหวง ธนากรสืบรู้ว่าเรณุกากับโสภณยังคบหากันอยู่จึงพาอลงกตมาเห็นด้วยตาตัวเอง เรณุกาโกรธแค้นธนากรมากจึงใช้ปืนยิง แต่อลงกตเบี่ยงตัวเข้ารับกระสุนแทน เมื่อฟ้าใสรู้ข่าวก็เป็นห่วงอลงกตมากและคอยเฝ้าดูแลอลงกตไม่ห่างจนอลงกตเกิด รักฟ้าใสขึ้นมา

เมธีปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและประกาศเป็นศัตรูกับธนากร ซึ่งความจริงแล้วเมธีก็คือพี่ชายของบุญเต็มที่หายสาบสูญไป เมื่อเมธีรู้ว่าฟ้าใสหลานสาวแต่งงานกับลูกชายของธนากรก็โกรธมากสั่งให้ฟ้าใส หย่า เมธีรู้ข่าวของเขื่อนเพชรจากฟ้าใสก็เป็นเดือดเป็นแค้นธนากรที่รังแกลูกในไส้ เขานัดธนากรมาสะสางเรื่องคาใจแต่ธนากรไม่เชื่อว่าทั้งสองจะไม่มีอะไรกัน ส่วนธนากรก็ได้บอกความจริงว่าเขาไม่ได้เป็นคนสั่งให้ยิงเมธี เมธีไม่ฟังธนากรเช่นกัน ธนากรเสียใจมากเขาดื่มเหล้าเมามาย มีปากเสียงกับเขื่อนเพชรและประกาศว่าเขื่อนเพชรไม่ใช่ลูก เขื่อนเพชรเสียใจมากจึงเก็บข้าวของออกจากบ้านในคืนนั้น โดยไม่รู้ว่าเสาวรสแอบตามเขาไปด้วย เรื่องราวความรักและความขัดแย้งจะเป็นอย่างไรต่อติดตามได้ในละคร “ใจเดียว”

รายชื่อนักแสดง ใจเดียว

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบท เขื่อนเพชร
ปิยธิดา วรมุสิก รับบท เสาวรส
วัชรบูล ลี้สุวรรณ รับบท อลงกต
อุษามณี ไวทยานนท์ รับบท ฟ้าใส
อดิศร อรรถกฤษณ์ รับบท ระวี
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ รับบท เรณุกา
สุรวุฆ ไหมกัน โสภณ
อรรถชัย อนันตเมฆ รับบท ธนากร
ตฤณ เศรษฐโชค รับบท เมธี

คนตาทิพย์

ข่าวเด็กหญิงดาว ลูกสาวของ ดร.วาที กับ วงพักตร์ ถูกลักพาตัวไปจากลานจอดรถของศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของทุกคน พ.ต.ต.พิภพ ผู้เป็นเจ้าของคดีคลำทางหาตัวคนร้ายทุกวิถีทางแต่ก็คว้าน้ำเหลว วงพักตร์กับดร.วาที เสียใจมากจนแทบจะปิดกิจการศูนย์ความงามที่กำลังไปได้สวย ดร.วาทีประกาศให้ค่าหัวคนร้ายนับล้านบาท และหากใครนำตัวลูกสาวมาคืนได้ ตนจะให้รางวัลอย่างงาม เหตุนี้ทำให้ตำรวจคลายความสงสัยว่าวาทีอาจเป็นตัวการ เนื่องจากวาทีเป็นพ่อเลี้ยง ความเศร้าโศกในภาพข่าวของคนทั้งสองนั้นทำให้ไม่มีใครทราบว่า ดร.วาทีกับวงพักตร์เริ่มขัดแย้งกัน เนื่องจากวาทีกำลังติดพันขวัญหล้า พนักงานในศูนย์ความงามของวงพักตร์นั่นเอง

นารีครูพลศึกษาสาวประจำ โรงเรียนประถมศึกษาเอกชนแห่งหนึ่ง เธอเป็นลูกสาวของนวลแพรและมีน้องสาวคนหนึ่งชื่อนงคราญ พ่อของนารีเคยเป็นตำรวจ แล้วเสียชีวิตขณะที่กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ ทำให้นารีมีบุคลิกภาพที่เข้มแข็งผิดกับนงคราญน้องสาวที่อ่อนหวาน น่ารัก เป็นกุลสตรี วันหนึ่งขณะที่นารีกำลังสอนหนังสืออยู่นั้น ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น กลุ่มคนร้ายหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในบริเวณโรงเรียนแล้วจับ ตัวนักเรียนหญิงคนหนึ่งเป็นตัวประกัน พร้อมขู่จะขว้างระเบิดใส่โรงเรียน นารีเข้าชาร์จชิงตัวนักเรียนมาได้ แต่ตัวเองบาดเจ็บที่ใบหน้าจนสลบไป ตำรวจมาถึงพอดี เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ตำรวจจับคนร้ายได้คนหนึ่งคือ ไอ้หนวด และพยายามเค้นเอาความจริง แต่ขณะที่ไอ้หนวดกำลังจะบอกความจริงนั้น ไอ้หนวดก็ถูกไอ้เบี้ยวโจรด้วยกันฆ่าตายเสียก่อน

นารี ได้รับความกระทบกระเทือนมาก ตาบอดสนิททั้งสองข้าง นายแพทย์ปรีดาพยายามช่วยจนสุดความสามารถด้วยการเปลี่ยนตาของไอ้หนวดใส่ให้ เธอ จนสามารถมองเห็นได้ แต่เธอก็มักจะเห็นไอ้หนวดตามมาขอดวงตาคืน ทั้งในความฝันและในความจริง นารีบอกใคร ๆ เรื่องที่เธอเห็นไอ้หนวด แต่ไม่มีใครเชื่อ หมอปรีดาเข้าใจว่าจะเป็นผลพวงมาจากความเครียดเนื่องมาจากการเปลี่ยนดวงตา เขาพยายามยืนยันและปลอบโยนว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่ความจริง ความใกล้ชิดที่ปรีดามีให้กับนารี ทำให้รุ่งทิวาคนรักของหมอไม่พอใจมาก ด้วยความหึงหวงเธอมักจะมาหานารีที่โรงพยาบาล หาเรื่องต่างๆ นานา แต่ทว่านงคราญน้องสาวของนารีช่วยกันไว้ไม่ให้รุ่งทิวาอาละวาดนารีได้

ตลอด เวลานารีจะเห็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันผ่านเข้าในดวงตาของเธอ เธอมักเห็นเหตุการณ์แปลกๆ ที่เป็นเรื่องร้าย เกี่ยวกับการฆาตกรรม เธอบอกใคร ๆ แต่ก็ไม่มีคนเชื่อ ทว่าเช้าวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ก็มักลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เธอเห็นเป็น ความจริงทุกครั้ง จนปรีดาแปลกใจ และคิดว่าจะต้องหาเหตุผลมาอธิบายให้ได้และแม้ว่าใคร ๆ จะห้ามเขา เพราะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ โดยเฉพาะรุ่งทิวา ซึ่งเชื่อว่านารีเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ หลอกลวงเพื่อหวังใกล้ชิดกับปรีดา เพราะนารีมักจะเห็นไอ้หนวด เธอต้องสู้กับความหวาดกลัวที่ได้รับ ปรีดาขอให้นารีไปพบจิตแพทย์ชื่อ เทวินทร์ เพื่อบำบัดความเครียดดังกล่าว ทำให้ปานทิพย์น้องสาวของหมอปรีดาซึ่งเป็นแฟนสาวของเทวินทร์เกิดความไม่พอใจ อีก เพราะปานทิพย์คิดเหมือนรุ่งทิวาว่านารีมีแผนที่จะหาหลักเกาะ

เทวินทร์ สัมผัสถึงวิญญาณของไอ้หนวดได้ เขาเชื่อว่าในร่างกายของนารีมีสิ่งผิดปกติแฝงอยู่ และหาทางช่วยเหลือนารี ขณะเดียวกันทางตำรวจก็เริ่มให้ความสำคัญกับนารีมากขึ้น อยากจะให้ใช้ความเป็นตาทิพย์มาช่วยราชการตำรวจ โดยเฉพาะ ดร.วาที ได้ขอความร่วมมือจากนารีให้ช่วยใช้ตาทิพย์เพ่งหาตัวลูกสาว นารียินดีให้ความร่วมมือแต่พอจะเพ่งเพื่อหาตัวคนร้ายเธอก็เห็นเป็นวาที…นารี ไม่กล้าพูด เพราะวาทีอยู่ในฐานะพ่อของเด็กและเป็นคนขอให้เธอจับคนร้ายให้ เธอจึงเพ่งมองอีก คราวนี้ไอ้หนวดกลับไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้นารีมองอะไรไม่เห็น และปวดแสบดวงตาจนสลบไป ปรีดาต้องให้ความช่วยเหลือ เขาพยายามปลอบนารี และสารภาพรักกับเธอ ปานทิพย์มาเห็นเข้าจึงไปบอกรุ่งทิวา ทำให้รุ่งทิวาหาทางกำจัดนารีให้พ้นทางตัวเอง

เมื่อตำรวจคว้าน้ำเหลว จากนารี ทำให้นารีเครียดมาก เพราะทุกคนเริ่มลงความเห็นว่านารีไม่ได้มีตาทิพย์จริง แต่ที่ผ่านมาเป็นเรื่องบังเอิญ ขณะที่ทุกคนเริ่มไม่เชื่อ ไอ้หนวดก็ทำให้นารีเห็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มต่าง ๆ ก่อคดีขึ้น แต่ไม่มีใครเชื่อนารี วิญญาณไอ้หนวดเยาะเย้ยนารี ทำให้นารีโกรธมาก ไอ้หนวดจึงยื่นข้อเสนอกับนารีว่า ถ้านารีช่วยตน ตนก็จะช่วยให้นารีมองเห็นคนร้าย นารีไม่ตกลงและพยายามแข็งขืนไม่อยู่ใต้อาณัติของไอ้หนวด เธอทำตามที่เทวินทร์แนะนำว่าอย่าใจอ่อน อย่าทำให้ร่างกายอ่อนแอ เพราะจะทำให้ไอ้หนวดใช้ร่างของเธอเป็นสื่อได้ เทวินทร์ยอมรับว่าเขาหลงรักนารี พฤติกรรมที่เทวินทร์แสดงออกทำให้ปานทิพย์ไม่พอใจมาก จึงร่วมมือกับรุ่งทิวาจ้าง ใจ นักโทษที่เพิ่งออกจากคุกมากำจัดนารี แต่ก็ทำอะไรนารีไม่ได้ เพราะไอ้หนวดคอยปกป้องนารีด้วย

ในที่สุดนารีก็ยอมทำตามสัญญาของไอ้หนวด นั่นก็คือนารีต้องไปเยี่ยมแม่ของมันที่บ้านโกโรโกโสหลังหนึ่ง ซึ่งพิภพให้ตำรวจจับตาอยู่ ทำให้พิภพเริ่มสงสัยว่านารีน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับคดีต่าง ๆ ในแก๊งไอ้หนวด แต่ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน เขาไม่กล้าจับกุมนารี ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ข้อสำคัญคือ พิภพหลงรักนงคราญน้องสาวของนารีด้วยนั่นเอง

เมื่อนารีมาที่บ้านของไอ้หนวด ก็เห็นนางสายแม่ของไอ้หนวดป่วยหนัก นอนรอความตายอยู่ นารีบอกอ้อย น้องสาวของไอ้หนวดว่าจะเอาเงินค่าผ่าตัดมาให้ในวันสองวันนี้ อ้อยแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร นารีเดินออกจากบ้านของไอ้หนวด มาถึงถนนใหญ่ถูกรถของ ดร.วาที ซึ่งแอบติดตามมาดักรอและชนนารีจนสิ้นสติ วาทีอุ้มนารีใส่รถแล้วพาไปอยู่ที่บ้านของขวัญหล้า ซึ่งเขาซื้อให้ไว้เป็นลังรัก ดร.วาทีพยายามเค้นเอาความว่านารีมีตาทิพย์จริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ให้บอกมาว่าพลอยอยู่ไหน ไอ้หนวดเข้าแฝงร่างของนารี แล้วพูดว่า ดร.วาทีนั่นแหละที่เป็นคนเอาตัวพลอยไปกักขังไว้ไม่ใช่ใครอื่น วาทีตกใจมากที่นารีรู้ความจริง วิญญาณ ไอ้หนวดรู้ว่าวงพักตร์กำลังจะโอนเงินเพื่อไถ่ตัวเด็กหญิงพลอยตามที่ได้รับ การติดต่อจากกลุ่มโจร เป็นจำนวนเงินมหาศาล แล้วห้ามบอกตำรวจ วงพักตร์อยากปรึกษาวาที แต่ก็ตามตัววาทีไม่พบ ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ วงพักตร์จึงยอมทำตาม เอาเงินไปให้ตามสัญญา แต่พวกโจรกลับหักหลังไม่คืนพลอยให้ ซ้ำยังขู่กรรโชกวงพักตร์ต่างๆ นานา ดร.วาทีแกล้งโกรธวงพักตร์ที่ตัดสินใจทำอะไรโดยไม่ปรึกษาตน ทั้งสองมีปากเสียงกัน และในที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจหย่าขาดจากกันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตัวพลอยกลับมา

ปรีดา เทวินทร์ พิภพ นงคราญและทุกๆ คนเครียดมากที่นารีหายไปต่างก็ออกติดตามหานารี พิภพยืนยันว่านารีไปที่บ้านของไอ้หนวด จึงไปสืบที่บ้านของไอ้หนวด แต่เมื่อไปถึงก็ไม่ได้เรื่องอะไร ดร.วาทีได้เงินจากวงพักตร์ เขาแบ่งสรรปันส่วนให้ลูกน้องเขาแล้วแต่ไม่ยอมให้กับไอ้หนวด โดยอ้างว่าไอ้หนวดตายแล้ว ทำให้วิญญาณของไอ้หนวดแค้นมาก มันเข้าฝันสมุนของวาทีให้เอาเงินไปให้แม่ของมัน วาทีอยากพิสูจน์และอยากท้าทายไอ้หนวดจึงสั่งให้สมุนไปจับอ้อยน้องสาวของไอ้ หนวดมาบำเรอตน แล้วเผากระท่อมจนนางสายซึ่งเป็นอัมพฤกษ์ตายในกองไฟ ไอ้หนวดเสียใจและแค้นมาก มันจึงเข้าสิงร่างของนารีให้ต่อสู้กับขวัญหล้าและสมุนของดร.วาที จนหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ แล้วไปช่วย ด.ญ.พลอยมาจากกลุ่มคนร้าย จากนั้นไอ้หนวดก็กลับไปที่บ้านของ ดร.วาที มันเข้าสิง ดร.วาที ดลใจให้ทำร้ายขวัญหล้าจนตาย เมื่อ ดร.วาทีรู้สึกตัวก็พบว่าตนเองกลายเป็นฆาตกรไปเสียแล้ว แต่ไอ้เบี้ยวใช้เครื่องรางที่มีติดตัวอยู่ช่วยวาทีไว้ได้

นารี พา ด.ญ.พลอยมาหาปรีดา และนำ ด.ญ.พลอยส่งวงพักตร์ต่อไป วงพักตร์จึงแฉให้ทุกคนทราบว่าวาทีเป็นด็อกเตอร์ปลอม เธอจุนเจือเขามาตลอดแล้วอุปโลกน์ให้อยู่ในวงสังคมชั้นสูง แต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะจับลูกของเธอไปเรียกค่าไถ่ได้ลงคอ หนังสือพิมพ์เริ่มลงข่าวความกล้าหาญของนารี แต่นารีรู้ดีว่าไม่ใช่ฝีมือตน เป็นฝีมือของไอ้หนวดต่างหาก ด.ญ.พลอยเสียใจมาก ตกอยู่ในอาการซึมเศร้าต้องอยู่ในความดูแลของเทวินทร์ นารีทำบุญให้ไอ้หนวด ส่งวิญญาณไอ้หนวดไปผุดไปเกิด ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย ความเป็นตาทิพย์ของเธอหมดไป ปรีดาขอนารีจากคุณนวลแพร แต่เธอปฏิเสธ เพราะเห็นแก่รุ่งทิวาที่มาขอร้องเธอไว้ โดยอ้างว่าท้องกับปรีดา แท้ที่จริงรุ่งทิวาท้องเพราะถูกใจข่มขืน เธอจึงต้องให้ปรีดาเป็นพ่อของเด็กในท้องแต่ปรีดารู้ทัน เขาปฏิเสธและประนามรุ่งทิวา รุ่งทิวาเสียใจมากจึงคิดทำร้ายปรีดา ขณะที่รุ่งทิวาเปิดกระเป๋าจะหยิบปืนออกมายิงนั้น นารีซึ่งยืนหันหลังก็เห็น ความเป็นตาทิพย์ของนารีกลับมาอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้ไม่มีอิทธิพลของไอ้หนวดเลย นารีช่วยปรีดาไว้ รุ่งทิวากลัวความผิดจึงหนีไปหาใจ แต่มีปากเสียงกับใจ ถูกใจฆ่าตาย นารีคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ เธอก็จะมีตาทิพย์ขึ้นมาได้ และครั้งนี้นารีช่วยตำรวจปราบโจรผู้ร้ายได้หลายครั้ง

ข่าววาทีเป็น ตัวการจับลูกเลี้ยงเรียกค่าไถ่ ทำให้วาทีแค้นมากเก็บตัวเงียบอยู่ในตึกแถวร้าง ใช้ชีวิตอย่างลำบาก ในที่สุดเขาก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าเขาเป็นคนตาทิพย์ขึ้นมาบ้าง เขาก็จะสามารถเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้ อยากได้อะไรอยู่ที่ไหนก็เห็นหมด ใครเป็นศัตรูคิดท้าร้าย เขาก็เห็นได้ ด้วยความโลภเขาวางแผนจับนงคราญ มาที่คลินิกจักษุแพทย์ของปรีดา จับพ่อแม่ของปรีดากักขังไว้เป็นตัวประกัน โดยมีสมุนคนสนิทให้ความร่วมมือ นารีเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว วาทีติดต่อมาว่าถ้านารีนำตำรวจมาจับเขา เขาจะฆ่านงคราญและพ่อแม่ของปรีดาทันที ขอให้นารีมากับปรีดาเพียงสองคน เพื่อแลกข้อตกลงบางอย่าง

ปรีดากับนารีมาที่คลีนิกของปรีดา ข้อตกลงของวาทีก็คือขอให้ปรีดาควักดวงตาของตนออก แล้วเอาดวงตาของนารี ใส่ให้ตนแทน ปรีดาไม่ยอม ดร.วาทีจึงขู่บังคับจนปรีดาจำต้องควักดวงตาของวาทีออกมาแล้ว แต่พอถูกขู่จะให้ควักดวงตาของนารี วิญญาณของไอ้หนวดก็มาช่วย มันสิงร่างของเขาต่อสู้กับเหล่าร้าย วาทีเจ็บปวดมาก กลายเป็นคนตาบอด วิ่งออกไปจากบริเวณนั้น แล้วตกบันไดคอหักตายอย่างอนาถ ความเป็นคนตาทิพย์ของนารีหมดไป ทุกคนทำบุญให้ไอ้หนวด และไม่มีใครลืมไอ้หนวดได้ นารีแต่งงานกับปรีดา ส่วนนงคราญก็ยินดีรับรักพิภพอย่างมีความสุข

นักแสดงละคร คนตาทิพย์

ปิยธิดา วรมุสิก รับบทเป็น นารี
เอกรัตน์ สารสุข รับบทเป็น ปรีดา
อภิชาติ พัวพิมล รับบทเป็น พิภพ
เจมี่ บูเฮอร์ รับบทเป็น รุ่งทิวา
ติ๊ก กลิ่นสี รับบทเป็น ไอ้หนวด
ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบทเป็น วงพักตร์
เกริก ชิลเลอร์ รับบทเป็น เทวินทร์
ปาริชาต แก้วกำพล รับบทเป็น นงคราญ
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบทเป็น วาที
สุพรรณษา เนื่องภิรมย์ รับบทเป็น นวลแพร

ออกอากาศ ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ช่อง 7