Tag Archives: ดารณีนุช โพธิปิติ

แม่ยายที่รัก

วันรบ (ชาคริต แย้มนาม) สถาปนิกป้ายแดง ของบริษัท พชรอาคิเทค รักอยู่กับมัทรี (รณิดา เตชสิทธิ์) สถาปนิกสาว เพื่อนร่วมคณะฯ จนวันรบมั่นใจว่า มัทรีคือแม่ของลูกเขาในอนาคต มัทรีก็รักและชื่นชมในตัววันรบ แม้เธอจะเพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่มีคุณสมบัติส่วนเกินหนึ่งอย่าง ที่เป็นอุปสรรคขวางทางรักของวันรบอย่างยิ่ง นั่นคือ มัทรีมีแม่ที่หวงลูกสาวที่สุด โหดที่สุด เค็มที่สุด อย่างคุณนาย ติรกา (ลลิตา ศศิประภา) เจ้าของกิจการค้าโอ่งชื่อดังของจังหวัดราชบุรี จนวันรบต้องมอบฉายา “ไหน้ำปลาปิศาจ” ให้ว่าที่แม่ยายด้วยความเต็มใจ

คุณนายติรการักและหวงแหนมัทรียิ่งกว่าไข่ในหิน เมื่อวันรบเข้ามาพัวพันกับลูกสาวนางสิงห์ สงครามความรักชนิดนองเลือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ระหว่างว่าที่แม่ยายอย่างติรกา และว่าที่ลูกเขยอย่างวันรบจึงเกิดขึ้น แต่วันรบก็ไม่ย่อท้อ เขาพยายามทำทุกอย่างตามคำเรียกร้องของติรกาเพราะความรักที่มีต่อมัทรี

ติรกาไม่ต้องการให้วันรบกับมัทรีคบกัน จึงหาเหตุต่าง ๆ นานาให้ทั้งคู่แยกกัน และดึงตัว ธงฉาน (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) เศรษฐีจากราชบุรี ที่ชอบพอมัทรีเป็นทุนเดิม เข้ามาแทรกกลางระหว่างวันรบกับมัทรีอยู่เสมอ แต่ธงฉานก็ไม่สามารถทำลายกำแพงรักของทั้งสองได้

วันรบเอาเรื่องกลุ้มใจของศึกรักครั้งนี้  ไปปรึกษา รชานนท์ (สหรัถ สังคปรีชา) เพื่อนรุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัย กับ พชร (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) เจ้านายและมีศักดิ์เป็นพี่เขยของรชานนท์ ด้วยความคะนองของฤทธิ์แอลกอฮอล์ พชรและรชานนท์แนะนำให้วันรบรวบรัดมัทรีเป็นของตัวเอง เพื่อหักหน้าติรกา ให้ยอมยกลูกสาวโดยไม่มีข้อแม้ วันรบไม่เห็นด้วย แต่มัทรีกลับใช้แผนนี้แทน

มัทรีวางยานอนหลับวันรบ เซ็ทแผนหลอกติรกาว่าได้เสียกับวันรบแล้วทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรกันเลยแม้ แต่ปลายเล็บ ติรกาโกรธและเจ็บแค้นที่วันรบทำลายพรหมจรรย์ของลูกสาวสุดที่รัก เพราะเคยมีอดีตขมขื่น ฝังใจ ที่เธอเคยมีความรักและพลาดพลั้งตั้งท้องกับผู้ชายคนหนึ่ง เมื่ออายุยังน้อย แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่รับผิดชอบและหนีไปเรียนต่อเมืองนอก ติรกาเสียใจและคิดทำร้ายตัวเอง แต่หมอพล ผู้ชายแสนดี เข้ามาช่วยเหลือ รับเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ ตราบาปในอดีตกลับมาหลอกหลอนติรกา ทำให้ติรกาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้วันรบได้แต่งงานกับมัทรี จึงเรียกร้องเงินสินสอดสิบล้านเพื่อแลกกับการแต่งงาน ได้ไม่ครบสิบล้านไม่มีวันให้แต่ง!!! แต่ความจริงติรกาต้องการยื้อเวลาและหาทางแยกมัทรีกับวันรบออกจากกันเท่านั้น

วัน รบกลับมาปรึกษารชานนท์ กับพชรอีกครั้ง ขณะทั้งสามกำลังกึ่มได้ที่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ วันรบระบายความสุดเขี้ยวของว่าที่แม่ยาย ที่แสนอัดอั้นให้รุ่นพี่ทั้งสองฟัง พชรยุให้รชานนท์ไปจีบติรกา เพราะรชานนท์ยังหนุ่มโสด และวัยใกล้เคียงกับว่าที่แม่ยายยังสาวของวันรบ เมื่อรชานนท์เป็นพ่อเลี้ยง จะได้ยกมัทรีให้วันรบง่าย ๆ รชานนท์รับปากด้วยความคะนองเพราะความเมา

วันรบขอให้รชานนท์ไปเป็นเพื่อนเพื่อเจรจาต่อรองเรื่องสินสอด ทันทีที่รชานนท์และติรกาเจอหน้ากัน ก็เกิดความโกลาหล เมื่อติรกาคว้าปืนลูกซองออกมาไล่ยิงรชานนท์ จนรชานนท์กับวันรบแตกกระเจิง ต้องหนีกระสุนเพื่อรักษาชีวิตแทบไม่ทัน สร้างความงุนงงให้กับ มัทรีเป็นอย่างมาก ว่าอะไรทำให้ติรกาเลือดเดือดขึ้นหน้าขนาดนี้ รชานนท์เองก็ตกใจจนพูดไม่ออก ไม่ว่าวันรบจะถามถึงสาเหตุอะไร ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากรชานนท์ จนวันรุ่งขึ้นรชานนท์ชวนวันรบกลับไปที่บ้านติรกาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ติรกาบันดาลโทสะ ยิงรชานนท์ จนวันรบต้องหามรชานนท์ส่งโรงพยาบาล เตือนใจ (ดวงตา ตุงคะมณี) แม่ของติรกา และ พุทรา (ปาจารีย์ ณ นคร) เลขาของติรกา ก็ตกใจไปตาม ๆ กัน

นลินี (พิมลวรรณ หุ่นทองคำ) พี่สาวของรชานนท์จะแจ้งตำรวจจับติรกา แต่รชานนท์ปฏิเสธ มัทรีตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และพยายามซักไซ้ไล่เลี่ยงกับติรกาว่าทำไมถึงกับต้องยิงรชานนท์ ติรกาตอบเพียงแค่ว่า เธอเสียดายที่ยิงรชานนท์ไม่ตาย แล้วติรกาก็หนีหน้าทุกคนกลับราชบุรีทันที

ท่ามกลางความงุนงงของวันรบ มัทรี พชร นลินี รชานนท์บอกความจริงกับทุกคนว่า เขาคือผู้ชายที่เคยรักกับติรกาเมื่อครั้งอดีต และเขาสังหรณ์ใจว่า มัทรีคือลูกสาวของเขา มัทรีตกใจ ไม่ยอมรับ เพราะเข้าใจว่าหมอพลคือพ่อของเธอมาตลอด

มัทรีตามไปถามความจริงจากติรกา แรก ๆ ติรกาไม่ยอมบอกอะไร จนแม่ลูกมีปากเสียงกันรุนแรง ติรกาจึงหลุดปากเล่าความจริงทั้งหมด ว่ารชานนท์ คือคนที่ทำให้เธอท้องและทอดทิ้งเธอกับลูกไปเรียนต่อเมืองนอกอย่างไม่เหลียว แล มัทรีเจ็บปวดและเสียใจแทนแม่ เมื่อรู้ความจริงในอดีต ทำให้มัทรีไม่ยอมรับรชานนท์เป็นพ่อ รชานนท์บอกกับทุกคนว่าจะตามง้อขอคืนดีกับติรกา และจะทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อในตัวมัทรีกลับมา

เมื่อ วันรบรู้ความลับของติรกาจึงคิดว่าเหนือกว่า แต่ติรกาบอกว่าถ้าวันรบยังยุ่งเรื่องของเธอ เธอจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถ้าไม่จ่าย จะล้มเลิกงานแต่งงานทันที ซึ่งคราวนี้มัทรีเห็นด้วยกับแม่อย่างเต็มที่ สร้างความกลุ้มใจให้กับวันรบยิ่งนัก ที่จู่ ๆ คนรักพลิกกลับไปเข้าข้างว่าที่แม่ยายซะงั้น

ที่ราชบุรี ติรกามี สมภพ (โจโจ้ ไมอ๊อกซิ) นักธุรกิจหนุ่มใหญ่มาติดพัน สมภพเป็นคนเจ้าชู้ และมี รุจี (นฤมล พงษ์สุภาพ) เป็นภรรยาอยู่แล้ว แต่แสร้งตีหน้าเป็นคนดี หลอกให้ติรกาสงสารว่าครอบครัวมีปัญหาอยู่เสมอ สมภพมีศักดิ์เป็นอาของธงฉาน

วันรบ ไม่พอใจที่ธงฉานมาเกาะแกะเอาใจมัทรี ทำให้วันรบและธงฉานมีเรื่องกันทุกครั้งที่เจอ ธงฉานใช้ความกะล่อนเจ้าเล่ห์ หลอกให้ติรกาเข้าใจผิดวันรบอยู่บ่อย ๆ ทำให้ในสายตาติรกาเห็นว่า วันรบไม่คู่ควรกับมัทรีทั้งนิสัยใจคอและฐานะ ถ้าเทียบกับธงฉาน หนุ่มนิสัยดีและฐานะดี เพียบพร้อมคุณสมบัติทุกอย่าง

ติรกา แอบไปต่อรองกับรชานนท์ถึงบริษัท พชรอาคิเทค ให้เลิกความคิดเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นพ่อกับมัทรี ขณะที่ติรกากับรชานนท์มีปากเสียงและโทษกันเรื่องความผิดของอีกฝ่ายที่ทอด ทิ้ง รุจี (พรรณชนิดา ศรีสำราย) น้องเมียของสมภพก็เข้ามาเจอ รุจีชอบรชานนท์มานาน และแสดงความในใจให้รชานนท์รับรู้อยู่เสมอ เมื่อเจอติรกาอยู่กับรชานนท์ จึงเกิดอาการหึงหวง พร้อมแสดงความเป็นเจ้าของรชานนท์ ทำให้ติรกาและรุจีเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ติรกาผลุนผลันออกมาจากบริษัทด้วยความฉุนเฉียว จึงถูกรถยนต์เฉี่ยว หัวกระแทกพื้นอย่างแรง รชานนท์ตกใจมากรีบพาตัวติรกาส่งโรงพยาบาลทันที มัทรีตกใจเมื่อรู้เรื่อง โทษว่ารชานนท์เข้ามาทำให้ชีวิตแม่ของเธอต้องเจอกับเรื่องร้าย ๆ และยิ่งไม่ยอมรับรชานนท์ แถมพาลงอนและโกรธวันรบด้วย

เมื่อติรกาฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการสูญเสียความทรงจำ ท่ามกลางความสับสนและจำอะไรไม่ได้ แต่กลับจำรชานนท์ได้ว่าเป็นคนที่เธอรักมาก รชานนท์จึงถือโอกาสใช้ช่วงเวลานี้ใกล้ชิดกับติรกา แต่ทำให้มัทรีไม่พอใจที่รชานนท์ใช้โอกาสนี้แต๊ะอั๋งลวนลามแม่ของเธอ

รชานนท์ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านติรกาตามความต้องการของติรกา ทำให้มัทรีคอยขวางไม่ให้แม่เสียเปรียบรชานนท์ ร้อนถึงวันรบต้องคอยเข้ามาช่วยแยกมัทรีออกจากติรกา มัทรีทะเลาะกับวันรบเพราะกลัวแม่จะเสียเปรียบ ถ้าติรกาถูกรชานนท์ล่วงเกินทางเพศ แต่ติรกากลับมองว่าเป็นเรื่องปรกติของคู่สามีภรรยา ยิ่งทำให้วันรบชอบใจ มัทรีแอบรู้แผนที่รชานนท์จะวางยาติรกาเพื่อรวบรัด มัทรีจึงย้อนเอายานอนหลับของติรกาให้รชานนท์กินด้วย ทั้งคู่จึงหลับไปด้วยกันในที่สุด

กำนันเรือง (สุเทพ ประยูรพิทักษ์) และ วันทนีย์ (ดารณีนุช โพธิปิติ) พ่อแม่ของวันรบมาเยี่ยมลูกชายจากต่างจังหวัด วันทนีย์ไม่ชอบมัทรี เพราะรู้ว่ามัทรีเป็นต้นเหตุให้ติรกาหาเรื่องแกล้งลูกชายตัวเอง วันทนีย์ ต้องการให้วันรบแต่งงานกับ กระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เด็กสาวขัดดอกที่วันทนีย์ถูกใจ กระถินคอยแสดงตัวกับมัทรีว่าเป็นคู่หมายของวันรบ ทำให้มัทรีไม่พอใจ และมีปากเสียงกับวันรบบ่อยครั้ง

วันรบ ฉวยโอกาสที่ติรกาจำอะไรไม่ได้ แสร้งเล่นละครชีวิตรันทด เล่าเรื่องความลำบากอดมื้อกินมื้อ เพื่อเก็บออมเงินเอามาจ่ายค่าสินสอดให้ติรกา ติรกาภาคความจำเสื่อมสงสารและเห็นใจในความรักที่วันรบมีต่อมัทรี จึงยอมให้มีพิธีแต่งงานเกิดขึ้น ท่ามกลางความเสียใจของธงฉานกับกระถินและความไม่พอใจของวันทนีย์

แต่พิธีหมั้นก็เกิดขึ้นจนได้ แม้ว่าสมภพกับธงฉานจะแกล้งผีเข้า เพื่อล้มเลิกงานหมั้น แต่ก็ทำไม่สำเร็จ พิธีหมั้นผ่านไปด้วยดี แต่แล้วอยู่ดี ๆ ความทรงจำของติรกาก็กลับคืนมาอีกครั้ง แต่เธออยากพิสูจน์ใจของรชานนท์ จึงไม่ได้แสดงออก มีเพียงเตือนใจ และ พุทราที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความจริงใจของรชานนท์ ทำให้ติรกาใจอ่อน และเมื่อวันรบแกล้งวางแผนการอยากให้ติรกากับรชานนท์เข้าใจกันจริง ๆ โดยให้โจรจับตัวไป ท่ามกลางความวุ่นวาย รชานนท์สารภาพเรื่องราวทั้งหมดว่ายังรักติรกาเสมอมา ตอนไปเรียนต่อเมืองนอกก็ตั้งใจจะให้ติรกาตามไป แต่อยู่ดี ๆ ก็ได้ข่าวว่าติรกาตั้งท้อง จึงเสียใจมาก ไม่เคยคิดมีใครใหม่เลย ที่สุดพ่อแม่ลูกก็เข้าใจกันเป็นครอบครัวที่มีความสุข

แต่แล้ววันทนีย์โทรสายด่วนด้วยความดีใจมาบอกวันรบว่า ให้กลับมาจัดการเรื่องกระถินท้องกับวันรบ มัทรีตกใจและเสียใจมากขอล้มเลิกงานหมั้นกับวันรบ วันรบปฏิเสธว่าไม่ได้ทำแต่มัทรีไม่เชื่อ รชานนท์ขอให้มัทรีใจเย็น ๆ และให้วันรบกลับไปพิสูจน์ไม่ใช่พ่อของลูกในท้องกระถิน

วัน รบ มัทรี รชานนท์ ติรกา เดินทางมาพิสูจน์ความจริงถึงบ้านวันทนีย์ที่สุพรรณ รวมทั้งมือที่สามอย่างธงฉานด้วย กระถินอ้ำอึ้งเมื่อถูกซักฟอกเรื่องเด็กในท้อง ทั้ง ๆ ที่วันทนีย์คอยถือหางให้บอกต่อหน้าทุกคนว่าวันรบคือพ่อเด็ก แต่เหตุการณ์กลับโอละพ่อวุ่นวาย เมื่อกระถินไม่ได้ท้อง วันรบพ้นข้อกล่าวหา

แต่สมภพและธงฉาน ยังไม่ยอมเลิกรา ร่วมมือกับรุจี และ วริษรา (นิกกี้) ผู้หญิงสองคนที่หลงรักรชานนท์ และ วันรบ วางแผนแย่งชิง ใส่ร้ายป้ายสีให้สองหนุ่มตกหลุมพราง ทำให้ติรกาและมัทรีเข้าใจผิด เรื่องราวความรักของสองคู่ชู้ชื่น จะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชมดู… ละครแม่ยายที่รัก 

 

รายชื่อนักแสดงนำ ใน ละคร แม่ยายที่รัก

ชาคริต แย้มนาม   รับบท   วันรบ
รณิดา เตชสิทธิ์   รับบท   มัทรี
ลลิตา ศศิประภา   รับบท   ติรกา
สหรัถ สังคปรีชา   รับบท   รชานนท์
สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย   รับบท   กระถิน
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์   รับบท   พชร
พิมลวรรณ หุ่นทองคำ   รับบท   นลินี
โจโจ้ ไมออกซิ   รับบท   สมภพ
บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ   รับบท   ธงฉาน
ดวงตา ตุงคะมณี   รับบท   เตือนใจ
ดารณีนุช โพธิปิติ   รับบท   วันทนีย์
สุเทพ ประยูรพิทักษ์   รับบท   กำนันเรือง
พรรณชนิดา ศรีสำราญ   รับบท   รุจี
นฤมล พงษ์สุภาพ   รับบท   ทรงสุดา
ปาจารีย์ ณ นคร   รับบท   พุทรา
ณัฐณิชา สกุลจารุพงศ์   รับบท   วริษรา

แม่ยายที่รัก

มือปราบพ่อลูกอ่อน

มือปราบพ่อลูกอ่อน เป็นเรื่องราวของ กริสน์ ตำรวจนอกเครื่องแบบทำงานเป็นสายลับให้หน่วยงานลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกส่งตัวไปให้เป็นบอร์ดี้การ์ดให้ อธิป มาเฟียใหญ่ ภัทรดนัย นายตำรวจที่เป็นสนิทของ กริสน์ ได้รายงานว่าจะมีการส่งสินค้าล็อตใหญ่ในวันเกิดโอปอ ลูกสาวคนเดียวของอธิป กริสน์ตามไปดูและบังเอิญได้เจอกับ พิมมาดา เจ้าของร้านดอกไม้ที่เข้ามาจัดดอกไม้ในงาน

ใน งาน อธิปเลยขอให้กสินน์ไปคุ้มกันความปลอดภัยให้ เพราะอธิปกำลังเจรจาธุรกิจกับ สุขสันต์ นักการเมืองผู้ที่เป็นชื่นชอบของคนทั้งประเทศ มาวิน นำกำลังบุกเข้าไปก่อนผิดแผนเลยทำให้การเจรจาระหว่างสุขสันต์ และอธิปต้องยุติลง สุขสันต์หายตัวไป สถานะที่แท้จริงของกริสน์ถูกเปิดเผย แถมยังมีความผิดถูกตั้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานอยู่ในระหว่างการจับกุม

กริสน์ปฏิวัติตัวเองใหม่และกลับไปเก็บหลักฐานที่บ้าน จีจ้า เด็กน้อยแอบตามกริสน์ไป แต่ดันมีคนมาแอบสุ่มอยู่ที่บ้านกริสน์ กริสน์จึงพาจีจ้าหนีไป ภัทรดนัยมาช่วยทั้งคู่ออกมาไปได้ และบอกกับกริสน์ว่าสุขสันต์มาติดพัน พิมมาดา และสุขสันต์ไม่ได้รักเด็กจึงคิดกำจัดเด็ก ๆ ด้วยการเป็นธุระส่งเด็ก ๆ ไปเรียนต่อเมืองนอก

เด็ก ๆ ต่อรองด้วยการทำตัวดีขึ้น แต่ว่าต้องให้กริสน์มาเป็นพี่เลี้ยงภายในหนึ่งเดือน หากพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็ให้ส่งไปต่างประเทศ พิมมาดารับข้อเสนอของเด็ก ๆ แต่ กริสน์ต้องเข้ามาทำงานในร้านดอกไม้ด้วย กริสน์รับปากเพราะเข้าแผนที่จะใช้พิมมาดาเป็นสะพานสืบเรื่องสุขสันต์

กริสน์สะกดรอยตามสุขสันต์ไปโยไม่รู้ว่ามีเด็กแอบตามไปด้วย กริสน์แอบถ่ายคลิปส่งมอบสินค้าของสุขสันต์ไว้ สมุนสุขสันต์เห็นเด็ก ๆ แต่กริสน์เข้าไปช่วยไว้และยอมสละมือถือที่มีคลิปวีดีโอเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ

สุข สันต์เชิญพิมมาดาไปทานอาหารกลางวันที่บ้านกริสน์และเด็ก ๆ ตามไปด้วย กริสน์แอบเข้าไปในห้องทำงานของสุขสันต์เพื่อจะเอาข้อมูลจากฮาร์ดดิสต์แต่ไม่ สำเร็จ กริสน์พยายามบอกว่าสุขสันต์เป็นคนไม่ดี แต่พิมมาดาไม่เชื่อ กริสน์ปวดใจเพราะเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักพิมมาดาเข้าแล้ว

สุขสันต์รู้ว่ากริสน์แอบเข้าไปขโมยข้อมูล จึงคิดจำกัดกริสน์ แต่จีจ้าตามไปด้วย สมุนสุขสันต์จับจีจ้า กริสน์ขอชีวิตจีจ้าแลกกับชีวิตตน แต่อธิปส่งคนมาช่วยทัน กริสน์ขอให้พิมมาดาเชื่อว่าสุขสันต์เป็นพ่อค้ายาแต่เธอไม่เชื่อ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมกันต่อได้ใน ละครมือปราบพ่อลูกอ่อน

อเวจีสีชมพู

อเวจีสีชมพู เป็นเรื่องราวความรักต่างวัยของ ปะวะหล่ำ สายน้อยวัย 17 กับ โปดก น้าชายหนุ่มต่างสายเลือดที่ต้องมาแต่งงานกันตามคำขอร้องก่อนตายของแม่ของปะวะหล่ำ

แม่ของปะวะหล่ำถูกลอบยิงเสียชีวิตตั้งแต่ปะวะหล่ำยังเด็ก โดยฝากฝังให้โปดก ช่วยดูแลและแต่งงานกับปะวะหล่ำเพื่อให้เธอรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกา โดยเฉพาะศพลพ่อแท้ ๆ ของเธอ ศพลต้องการฮุบที่ดินสวนส้มโดยอาศัยความเป็นพ่อ เบื้องหลังความตายของถมปัดคือศพล ถาปนาตาของปะวะหล่ำชังศพล แต่ก็ขัดขวางการแต่งงานของโปดกกับปะวะหล่ำ เพราะคิดว่าโปดกต้องการสมบัติเหมือนกัน

ปะวะหล่ำเพิ่งเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีที่ 5 เท่านั้น ทำให้เรื่องแต่งงานจึงต้องปิดเป็นความลับ โปดกสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินปะวะหล่ำ และจะดูแลปะวะหล่ำอย่างดีจนกว่าปะวะหล่ำจะอายุครบ 20 ปี โดยจะเป็นผู้ปกครองปะวะหล่ำ แต่หากพบปะวะหล่ำพบคนที่รัก ในตอนที่ปะวะหล่ำมีอายุครบ 20 ปี  โปดกจะคืนอิสรภาพให้ ปะวะหล่ำเคารพโปดกอยู่แล้ว เพราะโปดกเลี้ยงและปกครองมาตั้งแต่เกิด จึงไม่ลำบากใจและยอมรับในทุกคำพูดของโปดก ศพลรวมหัวกับศก ผู้เป็นพ่อสร้างความสนิทสนมกับปะวะหล่ำ หวังให้ปะวะหล่ำตายใจและคืนสิทธิ์การเป็นผู้ปกครองให้โดยศพลและศกไม่รู้เลยว่าปะวะหล่ำแต่งงานกับโปดกแล้ว

ปะวะหล่ำดูแก่นแก้ว สู้คน แต่จริง ๆ แล้วอ่อนไหว พอศพลมาทำดีด้วยเธอจึงคิดจะแบ่งสวนส้มให้ แต่เรื่องกลับแตกว่าโปดกกับปะวะหล่ำเป็นสามีภรรยากันแล้ว ศพลจึงหมดหวังและโกรธถมปัด จินตนาเมียถมทอง น้องสาวของถมปัด มาที่สวนส้มเพื่อเอาสมปัดของถมปัด ปะวะหล่ำจึงให้ไปบ้าง แต่ถมทองก็ยังคงคอยมาสร้างความรำคาญใจให้กับโปดกและปะวะหล่ำเสมอ ๆ ศพลแค้นทั้งถมปัดและปะวะหล่ำ จึงไปเปิดเผยเรื่องการแต่งงานของปะวะหล่ำกับโปดกให้ทางโรงเรียนของปะวะหล่ำทราบ ปะวะหล่ำจึงถูกไล่ออกจากโรงเรียน

โปดกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปะวะหล่ำจึงเรียนระบบการศึกษานอกโรงเรียนอยู่กับบ้าน ปะวะหล่ำและโปดกจึงมีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น โปดกพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ ทำให้ปะวะหล่ำน้อยใจเพราะคิดว่าโปดก ไม่รักตนแล้ว

ศกและศพลใช้แผนชั่วในโกงที่ดินปะวะหล่ำ และพยายามซื้อตัวทัน คนงานเก่าแก่ แต่ไม่สำเร็จ โปดกเกรงว่าปะวะหล่ำอาจจะได้รับอันตราย จึงย้ายมาทำงานที่สวนเพื่อจะได้ดูแลปะวะหล่ำ ทำให้ความสัมพันธ์ทางใจของทั้งคู่ยิ่งผูกพันกันเพิ่มมากขึ้น ปะวะหล่ำเรียนการศึกษานอกโรงเรียนและสอบเทียบจนจบชั้นมัธยมปลาย โปดกโน้มน้าวให้ปะวะหล่ำเรียนวิชาที่จะนำความรู้มาพัฒนาสวนส้มได้ แต่ปะวะหล่ำไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายปะวะหล่ำก็เปลี่ยนใจเพราะตระหนักว่าจะต้องรักษาผืนแผ่นดินที่แม่ของเธอสร้างขึ้นมาไว้เป็นอนุสรณ์  ปะวะหล่ำโดยเธอสอบติดที่มัธยมเชียงใหม่ ภาควิชาอุตสาหกรรมอาหาร โปดกภูมิใจที่ปะวะหล่ำเข้าใจความหวังดีของเขา

ปะวะหล่ำโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่เรื่องของความรักของปะวะหล่ำยังเด็กเสมอในสายตาโปดก ศพลยังไม่เลิกราความต้องการจะครอบครองสวนส้ม เขายุคนงานในสวน จนคนงานลาออกเกือบหมด แต่โปดกและทันร่วมแรงร่วมใจจนชนะใจคนงานทั้งหมด

ที่มหาวิทยาลัยปะวะหล่ำได้เพื่อนสนิทรู้ใจคือ วิภาวรรณ และได้รู้จักกับวิภาค พี่ชายของวิภาวรรณ รุ่นพี่ร่วมชมรมเดียวกัน วิภาคหลงรักปะวะหล่ำ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มงอกงาม  ความรักเติบโตไปในทางที่ถูกที่ควร วิภาคพาปะวะหล่ำไปรู้จักกับพ่อแม่ ปะวะหล่ำเข้ากับพ่อแม่วิภาคได้ดี ส่วนโปดกก็เริ่มรู้ว่าปะวะหล่ำเกิดความรักกับคนวัยเดียวกัน โปดกเข้มงวดกับปะวะหล่ำมากขึ้นจนมีปากเสียงกันหลายครั้งเพราะหึงหวงในตัวปะวะหล่ำโดยไม่รู้ตัว แต่โปดกก็พยายามเตือนสติตัวเองและถอยออกมา

ศพลลงทุนทำสถานที่เที่ยวกลางคืน โดยได้นายทุนอย่างตติยะร่วมหุ้นด้วย ศกจะลงเล่นการเมืองต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงขายที่ดินสวนส้ม โปดกจึงแอบส่งคนไปซื้อไว้ ศพลเป็นหนี้ตติยะ เขาเห็นว่าตติยะถูกใจปะวะหล่ำ จึงคิดล้างหนี้ด้วยการขายลูกสาวกิน แต่โปดกมาช่วยได้ทัน ปะวะหล่ำมีวิภาคเยียวยา ส่วนโปดกก็ได้ศศิลดาที่ทำธุรกิจทางเหนือช่วยรักษาแผลใจ ศพลแค้นโปดกที่ขัดขวางทุกสิ่งที่เขาทำ จึงส่งมือปืนมาเก็บโปดก แต่ทันรับเคราะห์แทน ปะวะหล่ำรู้ความจริงว่าศพลคือคนบงการฆ่าแม่ของเธอ เธอเสียใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าพ่อแท้ ๆ ของตนเป็นผู้ทำลายชีวิตเธอ

โปดกจ้างสถาปนิกออกแบบรีสอร์ทในสวนส้มและบ้านหลังใหญ่ เพื่อเป็นเรือนหอให้ปะวะหล่ำและวิภาค วันที่ปะวะหล่ำจบการศึกษาวิภาคขอเธอแต่งงาน ทั้งโปดกและปะวะหล่ำน่าจะมีความสุข แต่ทั้งคู่กลับหม่นหมองเหมือนมีบางสิ่งที่อยู่ในใจยังไม่ถูกปลดปล่อยออกมา วันที่ปะวะหล่ำอายุครบ 20 ปี วิภาคหมั้นปะวะหล่ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปะวะหล่ำเลือกแหวนเพชรให้โปดกหมั้นศศิลดา โปดกบอกความจริงกับวิภาคเรื่องสถานภาพของเขากับปะวะหล่ำ เพื่อแสดงความจริงใจให้วิภาครับทราบและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้วิภาคฟัง แต่วิภาคกลับรับความจริงนี้ไม่ได้รวมถึงพ่อแม่ของวิภาคก็เช่นกัน ปะวะหล่ำเสียใจ เธอไล่โปดกไปจากชีวิตเธอ ทั้งคู่ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน แม้จะเศร้าแต่โปดกก็ยกทุกอย่างให้ปะวะหล่ำ รวมทั้งเรือนหอซึ่งโปดกตั้งใจสร้างให้ปะวะหล่ำและวิภาคด้วย

ปะวะหล่ำไม่รู้ว่าศศิลดากับโปดกไม่ได้หมั้นกัน โปดกสารภาพว่าเขารักปะวะหล่ำคนเดียว ปะวะหล่ำดูแลรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดตัว ทันมาบอกว่ามีลูกค้ามาเช่าเรือนหอ ปะวะหล่ำไปขอเรือนหลังนั้นคืนเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครเช่า แต่ลูกค้าคนนั้นกลับเป็นโปดก โปดกสารภาพกับปะวะหล่ำว่าตลอดเวลา 4 ปี ที่ต้องแบบรับภาระปะวะหล่ำนั้น ในตอนแรกเขายอมรับว่าเขารู้สึกเหมือนเขาตกอยู่ในอเวจี แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยินดีเพราะสิ่งเหล่านี้มันกลายเป็นอเวจีสีชมพูสำหรับเขา

ปะวะหล่ำจะตัดสินใจอย่างไรกับคำสารภาพรักของโปดก วิภาคจะเปลี่ยนใจกลับมารักปะวะหล่ำหรือไม่ ศพลจะได้รับผลกรรมที่ก่อกับชีวิตของถมปัดและปะวะหล่ำอย่างไร ติดตามหาคำตอบ ได้ใน “อเวจีสีชมพู

จิตร-ประภัสสร

ละคร โทรทัศน์สร้างสรรค์สังคม ประเภทซี่รี่ย์ที่มีเนื้อหาจบในตอน ความยาวตอนละ 30 นาที จำนวน 40 ตอน ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของครอบครัวคนไทยที่มีฐานะปานกลาง นำเสนอ ประเด็นการอยู่ร่วมกันระหว่างคนในครอบครัวและบุคคลรอบข้างในสังคมอย่างมี ความสุข ตลอดจนวิธีการเตรียมตัว เป็นพ่อแม่ ตั้งแต่แม่เริ่มตั้งครรภ์ จนถึงคลอด และเลี้ยงดูลูกในวัยต่างๆ ด้วยความเข้าใจในจิตวิทยาของเด็ก และสะท้อนมุมมองต่างๆของคนในสังคม เพื่อเป็นแนวทางในการการสร้างครอบครัวที่มีคุณภาพ

ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ไทย พีบีเอส ทุกวันเสาร์-อาทติย์ เวลา 18.30 น. เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2551