Category Archives: ละครปี 2546

คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว

คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว เป็นเรื่องราวของ อนวัช หรือชาย ลูกชายคนเดียวของ งามจิตและเทียนชัย กำลังจะกลับเมืองไทยหลังสำเร็จการศึกษา ทำให้งามจิตต้องหาแม่ครัวมาแทนคนเก่า นางศรี แม่บ้านอาสาจะพา สร้อย ลูกสาวของตนมาทำหน้าที่แทน แต่ปรากฎว่าสร้อยตามสามีไปอยู่ที่อื่นแล้ว นางศรีจึงคิดจะพา ปอฝ้าย สวมรอยเป็นสร้อยไปทำหน้าที่แทน

ปอฝ้าย คือหลานกำพร้าของนางเฟื่อง พี่สาวของนางศรี ปอฝ้ายเกิดจากฟ้าลูกสาวของนางเฟื่อง ซึ่งในอดีตเมื่อครั้งฟ้ายังเป็นเด็กสาววัยใกล้เคียงกับปอฝ้ายในปัจจุบันนาง ศรีก็เคยพาฟ้าไปทำงานที่บ้านเทียนชัยมาแล้ว ในครั้งนั้นฟ้าอุ้มท้องกลับมาคลอดลูกที่บ้าน โดยไม่เคยปริปากบอกใครว่าใครคือพ่อของปอฝ้าย ฟ้าคลอดและเลี้ยงดูปอฝ้ายจนปอฝ้ายอายุได้ 7-8 ขวบ ฟ้าก็เสียชีวิตด้วยโรคภูมิแพ้ ทำให้ปอฝ้ายสนใจในเรื่องของการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย แต่เพราะอยู่ต่างจังหวัด ฝ้ายจึงศึกษาหาความรู้จากสมุนไพรหรือการบำบัดแบบ แพทย์แผนโบราณ จากความรู้ในเรื่องสรรพคุณยา บวกกับพรสวรรค์ในเรื่องการครัว ทำให้ฝ้ายประยุกต์ความรู้เป็นความแตกฉานในเรื่องโภชนาบำบัดโดยไม่รู้ตัว

ปอฝ้ายไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ไม่เคยพบหน้าพ่อ แต่ก็ได้รับการอุปการะส่งเสียค่าใช้จ่ายการศึกษาจากชายที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า เพิ่มยศ ปอฝ้ายมั่นใจว่า เพิ่มยศจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อของตน พ่อที่ไม่กล้าออกมายอมรับว่าตนคือลูก
ปอฝ้ายยอมตามนางศรีไปทำหน้าที่ แจ๋วในบ้านเทียนชัย ทั้งๆ ที่มีพื้นฐานการศึกษาระดับเคยผ่านเมืองนอกมาแล้ว ด้วยจุดหมายลึก ๆ ต้องการย้อนรอยอดีตของแม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครคือพ่อผู้ให้กำเนิด ถึงปอฝ้ายจะมีฝีมือในเรื่องอาหารไทย แต่ก็ไม่ประสีประสาเรื่องอาหารฝรั่ง ดังนั้นนางศรีจึงพาฝ้ายไปฝึกงานที่ภัตตาคารไลล่าของคุณกำธร
ฝ่ายอนวัช แอบเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดโดยไม่บอกทางบ้าน จุดประสงค์เพื่อหาความสำราญในเมืองไทยกับริต้าแฟนสาวที่คบหากันอยู่ที่เมืองนอก ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ได้หมั้นหมายอนวัชกับเอมอร ลูกสาวของทิพยากับทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นครอบครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเทียนชัยตั้งแต่วัยเด็ก อนวัชพาเอมอรไปกินข้าวที่ภัตตาคารไลล่า อนวัชได้กลิ่นผัดกะเพราที่ฝ้ายทำกินกับพนักงาน อนวัชตามมาถึงในครัวและแสดงฝีมือทอดไข่ดาว เป็นจุดเริ่มต้นของสองหนุ่มสาวที่ได้รู้จักกันด้วยความรู้สึกดี ๆ โดยฝ้ายไม่รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า นึกว่าเป็นพนักงานภัตตาคาร

อนวัช กลับออกมาที่โต๊ะอาหารและสั่งข้าวกะเพราไข่ดาว ในภัตตาคารที่ขายอาหารฝรั่งหรูหรา ปอฝ้ายออกมาดูหน้าคนสั่ง ถึงได้รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า ริต้ารู้ว่าอนวัชทิ้งให้ตนรอที่โต๊ะคนเดียว แต่ตัวเองหนีไปหาเรื่องสนุกในครัว รู้สึกโกรธและพาลไปถึงฝ้าย ฝ้ายทะเลาะกับริต้าและลามไปทะเลาะกับอนวัช อนวัชทะเลาะกับฝ้ายด้วยอารมณ์ต้องการยั่วให้โกรธสนุก ๆ ฝ้ายกลับไป บ่นกระปอดกระแปดในครัว สมชายพนักงานในไลล่า ที่นึกชอบฝ้ายอยากเอาใจเอาหน้า แอบไปปล่อยลมยางของอนวัช อนวัชเข้าใจว่าฝ้ายเป็นคนทำ เกิดทะเลาะกันอีกรอบ แต่คราวนี้จริงจัง รุนแรงขึ้น จากความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันกลายเป็นศัตรูคู่กัดกันไปโดยไม่ตั้งใจ
ชะตาชีวิตทำให้ อนวัชขับรถเฉี่ยวฝ้ายจนตกน้ำโดยไม่ตั้งใจ ฝ้ายโกรธเหวี่ยงอนวัชตกน้ำเป็นการแก้แค้น แต่อนวัชเกิดช็อคในน้ำ ทำให้ฝ้ายต้องย้อนกลับลงน้ำอีกครั้ง เพื่อช่วยชีวิตของอนวัช อนวัชเกิดความรู้สึกนิยมในศัตรูคนนี้อยู่ลึก ๆ

เมื่อถึงกำหนดกลับ เมืองไทย อนวัชก็ส่งริต้ากลับเมืองนอก แล้วตัวเองก็เดินทางเข้าบ้านเทียนชัย อนวัชก็เผชิญหน้ากับปอฝ้ายคู่ปรับเก่าที่เข้ารับหน้าที่ในบ้านเทียนชัยอีกต่างฝ่ายต่างไม่กล้าแฉความลับของกันและกัน
ปอฝ้ายอยู่ในบ้านเทียนชัย ภายใต้ชื่อสร้อย ฝ้ายต้องต่อสู้เอาตัวรอดสุดชีวิต ทั้งในเรื่องการทำครัว การแอนตี้ไม่ยอมรับของคนเก่า ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เทียนชัยพยายาม เคลมฝ้ายตามนิสัยเดิมที่ต้องรวบบริวารทุกคนในบ้านเป็นเมีย จากพฤติกรรมของเทียนชัย ฝ้ายเริ่มสงสัยว่าเทียนชัยอาจจะเป็นพ่อของตนก็ได้ แต่ฝ้ายก็ยังไม่มั่นใจ เพราะมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มีโอกาสเป็นพ่อของตนได้ทั้งนั้น

เอมอรคู่หมั้นของอนวัช ส่งลินจงสาวใช้คนสนิทเข้ามาอยู่ในบ้านเทียนชัย เพื่อทำหน้าที่สอดส่องพฤติกรรมของฝ้ายเพราะกลัวว่าจะมาแย่งอนวัช ลินจงคอยจับตาฝ้าย สังเกตเห็นฝ้ายพยายามสืบถามเรื่องราวในบ้านเทียนชัย บางครั้งก็แอบค้นหาเอกสารของเทียนชัย
ลินจงถืออำนาจว่าเอมอรให้ท้าย ทำตัวกร่าง ข่มคนในบ้านของเทียนชัย จนเป็นที่เกลียดชังของทุกคน เพราะฉะนั้นเมื่อฝ้ายสามารถต่อกรเล่นงานลินจงเจ็บ ๆ ได้ จึงชนะใจคนในบ้านเทียนชัยหันกลับมาเป็นพวกเดียวกัน ในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้านของอนวัช เอมอรออกร้านอาหารฝรั่ง แต่บ้านเทียนชัยออกร้านอาหารไทย ทั้งสองฝ้ายงัดลูกเล่น มาช่วงชิงเอาชนะกันอย่างสูสี สุดท้ายฝ้ายงัดไม้เด็ดโชว์ ฝีมือผัดกะเพราไก่ เอาชนะเอมอรด้วยกลิ่นอันจัดจ้าน ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้กับเอมอรและคุณทิพยาผู้เป็นแม่

อนวัชเห็นปอฝ้ายบอกทางไปห้องน้ำให้แขกฝรั่งที่มาในงาน อนวัชสงสัยว่าทำไมฝ้ายพูดภาษาอังกฤษได้ ฝ้ายโชว์ภาษาอังกฤษแบบเมียเช่า เป็นที่ขบขันเยาะเย้ยของศัตรู แต่ก็พ้นสงสัยไปได้แต่งานเลี้ยงยัง ไม่ทันจบ อนวัชก็เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นมา ฝ้ายพยายามเข้าช่วยเหลือด้วยยาสมุนไพร แต่ถูกปฏิเสธ หนำซ้ำเอมอรยังกล่าวหาว่ากลิ่นผัดกะเพราไก่ของเธอเป็นต้นเหตุทำให้อนวัชเกิด อาการป่วย งาม จิตและทิพยาร่วมกันจัดหาหมอและพยาบาลมาดูแลอนวัชอย่างขนานใหญ่ การมาของพยาบาลทั้งหลาย สร้างความโกลาหลให้กับอนวัชและบ้านเทียนชัยอย่างมาก คนที่พอใจมากที่สุดคือลินจง เพราะได้พยาบาลมาเป็นพวกคอยต่อกรกับเหล่าคนในบ้านของเทียนชัย อนวัชเบื่อการดูแลของลินจงและเหล่าพยาบาล แอบหนีออกไปข้างนอกกับคนของตัวเองอยู่เสมอ ๆ

เทียนชัยทำก้อร่อก้อติก คิดเคลมฝ้าย ปอฝ้ายเองก็พยายามหลอกถามเทียนชัย เพื่อหาความจริง ปอฝ้ายเห็นอาการพิรุธของเทียนชัยเมื่อเอ่ยถึงชื่อปอฝ้าย ดังนั้นฝ้ายจึงพยายามค้นหาต้นขั้วธนาณัติเพื่อเป็นหลักฐานว่าเทียนชัยคือคน ที่ส่งเสียเงินทองอุปการะตนตลอดมา
ปอฝ้ายเสียท่าถูกลินจงจับได้ว่า แอบค้นโต๊ะทำงานของเทียนชัย แต่ฝ้ายรอดจากการจนมุม เพราะอนวัชมาช่วยรับสมอ้างว่าเป็นคนใช้ให้ฝ้ายเข้าไปหาของเอง เพราะอนวัชมั่นใจว่าปอฝ้ายหรือที่รู้จักกันในนามสร้อย ต้องไม่ได้มุ่งหวังทรัพย์สินแน่นอน ต้องมีจุดประสงค์อื่นมากกว่านี้

อนวัช ชวนให้ฝ้ายช่วยออกไปถือของ เพื่อใช้โอกาสซักถามจุดประสงค์การมาอยู่ในบ้านนี้ แต่อนวัชเกิดอาการป่วยขึ้นระหว่างทาง คราวนี้ฝ้ายรีบช่วยด้วยวิธีการของตน ซึ่งได้ผลดีมาก ทำให้อนวัชดีใจเกิดความหวังในชีวิตว่าจะมีโอกาสหายจากโรคประจำตัวนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองฝ้ายเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันอีกครั้งหนึ่ง

ฝ้ายมี โอกาสโชว์ฝีมือผัดกะเพราไก่ให้อนวัชกินอีกครั้งเช่นเดียวกับที่อนวัชโชว์ ฝีมือการทอดไข่ดาว ทั้งสองคนมีช่วงเวลาที่มีความสุขต่อกันช่วงสั้น ๆ  ความสนิทสนมของฝ้ายและอนวัชหาได้รอดพ้นสายตาของเหล่ามารร้ายอันมีเอมอร ทิพยา และลินจง ขบวนการทำลายฝ้ายจึงเริ่มต้นจากการขโมยแหวนของคุณงามจิต แล้วโยนความผิดให้ฝ้าย แม้ฝ้ายจะรอดพ้นการลงโทษเพราะไม่มีหลักฐาน แต่ก็สร้างความคลางแคลงใจให้กับคุณงามจิตอย่างมาก ลินจงเริ่มแผนสอง โดยวางยาสลบคนทั้งบ้าน โดยใส่ในอาหารที่ฝ้ายเป็นคนทำ แล้วให้เชิดเข้ามายกเค้าทรัพย์สินในบ้าน ฝ้ายรอดพ้นจากการถูกวางยาโดยบังเอิญเข้าขัดขวางต่อสู้กับเชิด ฝ้ายเกือบเสียที โชคดีที่อนวัชกลับมาพอดี เชิดจึงต้องรีบหนีไป

ทุกคนเข้าใจว่าฝ้ายเป็นสายให้โจร ฝ้ายถูกกดดันจนต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และขอลาออกจากบ้านเทียนชัยไป ฝ้ายหารถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไม่ได้ ต้องไปขออาศัยพักอยู่กับคุณกำธรก่อน พนักงานภัตตาคารไลล่าดีใจที่ได้เจอฝ้าย ขอร้องให้ทำผัดกระเพราไก่เลี้ยงพนักงาน กลิ่นกระเพราไก่หอมฟุ้งไปถึงในภัตตาคารเหมือนคราวที่อนวัชได้กลิ่นเมื่อมา ที่นี่เป็นครั้งแรก แต่คราวนี้กลิ่นกระเพราไก่นำพาหม่อมนรภัทรนักชิมอาหารชื่อดังให้เข้ามาชมถึง ในครัว หม่อมนรภัทรมีโอกาสพูดคุยกับฝ้ายอย่างถูกคอ หม่อมฯ สนใจแนวคิดการปรุงอาหารแนวโภชนาบำบัดอย่างมาก

เชิดพาคนมายกเค้าบ้าน เทียนชัยอีกครั้ง คราวนี้สำเร็จ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ฝ่ายผู้หญิง อันมี เอมอร งามจิต ทิพยาต่างลงความเห็นว่าฝ้ายเป็นคนทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ฝ่ายผู้ชายอันมี อนวัช เทียนชัย ทวีศักดิ์ต่างไม่เห็นด้วย อ้างว่าตอนเกิดเหตุ ฝ้ายไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว ในที่สุดก็ลงมติว่าให้ไปพิสูจน์ที่บ้านของฝ้าย

อนวัชกับเอมอรเดินทาง ไปที่บ้านต่างจังหวัดของฝ้าย เกิดปะทะคารมกัน บังเอิญเกิดฝนตกหนัก ทางกลับกรุงเทพถูกตัดขาด อนวัชและเอมอรต้องค้างที่บ้านของฝ้าย อนวัชมีโอกาสปรับความเข้าใจกับฝ้ายอีกครั้ง ได้ไปกับหน่วยบรรเทาทุกข์ออกช่วยเหลือชาวบ้าน และได้รับการรักษาโรคประจำตัวอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เป็นช่วงชีวิตที่อนวัชมีความสุขอย่างแท้จริง ยกเว้นสิ่งเดียวที่รบกวนหัวใจก็คือความคลางแคลงว่าฝ้ายอาจจะเป็นพี่น้องร่วม สายเลือดเดียวกัน ซึ่งก็คือสิ่งเดียวกับที่รบกวนหัวใจของฝ้ายเช่นกัน

เอมอร โกรธที่อนวัชไปใช้ชีวิตคลุกคลีกับฝ้าย จึงประชดด้วยการหว่านเสน่ห์กับปลัดวันรบ เพื่อนสนิทของฝ้าย และแล้ววันหนึ่งหลังจากที่ปลัดวันรบพาเอมอรไปดูผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่คือ กระแช่ อุ ไวน์ สาโท เอมอรและปลัดชิมผลิตภัณฑ์จนเมาและเลยเถิดจนถึงขั้นได้เสียกัน เมื่อทางเปิด อนวัชและเอมอรก็กลับกรุงเทพ ขณะเดียวกันฝ้ายก็ได้รับการติดต่อจากคุณกำธรให้เข้ากรุงเทพด่วน เพราะคุณกำธรเข้าหุ้นกับหม่อมนรภัทร เปิดร้านอาหารร้านใหม่ เป็นแนวอาหารสุขภาพโภชนาบำบัดที่ฝ้ายถนัด หม่อมนรภัทรต้องการให้ฝ้ายมาเป็นผู้จัดการร้าน ฝ้ายตกลงและขอใช้ชื่อร้านว่า “กระเพรา”

แต่กิจการของร้านกระเพราเงียบเหงาผิดคาด คนไทยไม่ค่อยนิยม อนวัชหาทางช่วยโปรโมทและเจาะตลาดชาวต่างประเทศ ปรากฏว่าได้ผล มีลูกค้าต่างประเทศมาอุดหนุนคับคั่ง จนคนไทยก็พลอยเห่อตามไปด้วย กิจการอาหารโภชนาบำบัดของร้านกระเพราจึงโด่งดัง พร้อมกับชื่อเสียงของฝ้าย ฝ้ายได้รับเชิญไปออกรายการทีวี มากมายหลายรายการ ถึงชีวิตการงานจะประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตรักกลับอึมครึม เพราะความไม่แน่ใจว่าทั้งสองจะกลายเป็นพี่น้องกันหรือไม่ ในที่สุดทั้งหมดก็หาทางยุติปัญหาด้วยการตรวจ ดี เอ็น เอ
ระหว่าง รอผลการตรวจ ฝ้ายได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมมนาในงาน “อาหารเพื่อสุขภาพนานาชาติ” เป็นงานใหญ่ที่มีชาวต่างชาติ นักโภชนาการ เข้าร่วมสัมมนามากมาย มีการถ่ายทอดออกทีวีไปทั่วประเทศ เอมอรเข้าร่วมงานหวังฉีกหน้าฝ้าย แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ้ายโชว์ความสามารถ ความรู้ในเรื่องของอาหารสมุนไพร ด้วยภาษาอังกฤษ สร้างความตกตลึงให้กับศัครู สร้างความชื่นชมให้กับผู้ที่หวังดี คุณงามจิตเริ่มเปลี่ยนท่าที ยอมรับปอฝ้ายอดีตแจ๋วในบ้านมาเป็นศรีสะใภ้

แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลาย เมื่อผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาว่าปอฝ้ายคือลูกของเทียนชัย และเป็นพี่น้องกับอนวัช ข่าวร้ายนี้ทำลายจิตใจของทั้งคู่อย่างรุนแรง ปอฝ้ายและอนวัชเหมือนคนที่ไร้จิตใจ สุขภาพของอนวัชก็กลับทรุดโทรมลง เอมอรเร่งรัดให้จัดงานแต่งงาน เพราะเริ่มรู้ว่าอุ้มท้องลูกของปลัดวันรบ อนวัชไม่ยอม เพราะยังอาลัยฝ้าย เอมอรเข้าไปพูดกับฝ้ายขอให้ฝ้ายแต่งงานกับปลัดวันรบ เพื่อให้อนวัชตัดใจจากฝ้าย โดยอ้างว่าขอให้ฝ้ายเห็นแก่ลูกในท้องที่เกิดจากอนวัช ฝ้ายยอมตกลง เทียนชัยและทวีศักดิ์รับเป็นเจ้าภาพในงานแต่งงานของทั้งสองคู่ที่จัดในวัน เดียวกัน โรงแรมเดียวกัน ในห้องจัดงานติดกัน

ในวันแต่งงาน อนวัชเข้ามาแสดงความยินดีกับฝ้ายในห้องเจ้าสาว เทียนชัยและทวีศักดิ์เห็นความเจ็บปวดของหนุ่มสาวทั้งสองอย่างสะเทือนใจ ในเวลาเดียวกัน ปลัดวันรบก็สลับคู่ไปแสดงความยินดีกับเอมอร ทั้งสองมีโอกาสอยู่กันตามลำพัง ทำให้ปลัดวันรบรู้ความจริงว่าเอมอรท้องกับตน ปลัดวันรบฉุดเอมอรออกไปตกลงกันข้างนอก เกิดเป็นเรื่องโกลาหลกันขึ้น ในที่สุดทุกคนรู้เรื่องของเอมอร ทำให้งานแต่งงานต้องยกเลิก แต่เทียนชัยและทวีศักดิ์จัดการรวมงานแต่งงานสองงานให้รวมเป็นงานเดียว แต่สลับคู่เป็นงานแต่งงานระหว่างอนวัชกับปอฝ้ายแทน เทียนชัยขึ้นมาพูดบนเวทีกับทวีศักดิ์ ประกาศว่า ปอฝ้ายคือลูกสาวแท้ ๆ ของทวีศักดิ์ ความจริงถูกเปิดเผยต่อมาว่า เอมอร คือ ตัวการที่ปลอมแปลงรายงานผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของฝ้ายกับเทียนชัย นอกจากนั้นเอมอรยังไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของทวีศักดิ์ แต่เป็นลูกติดท้องคุณทิพยา ซึ่งในวันแต่งงาน ก็มีเหตุการณ์ผู้มาทวงสิทธิ์ลูกในท้องของเจ้าสาวเหมือนเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้เอมอรและทิพยากลายเป็นผู้แพ้ในทุกอย่าง อนวัชและปอฝ้ายก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข

 

นักแสดงละคร  คุณแจ๋วกะเพราไก่ คุณชายไข่ดาว

สุวนันท์ คงยิ่ง
จุลจักร จักรพงษ์
สาริน บางยี่ขัน
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์(สกิดใจ)
เจมี่ บูเฮอร์
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
ดารณีนุช โพธิปิติ
ราตรี วิทวัส
น้อย โพธิ์งาม
อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์

ทับเทวา

ละคร ทับเทวา

นักแสดง

จอนนี่ แอนโฟเน่ แสดงเป็น อิษฎ์ / อนุชา / พงษ์พิษณุ (รับบทฝาแฝด)

เอมี่ กลิ่นประทุม แสดงเป็น ดุจดาว

ออกอากาศวันแรกพุธ ที่ 27 สิงหาคม 2546 เวลา 18.20 – 19.20 น

12 ราศี

12 ราศี

ตำรวจหนุ่มเลือดร้อน กับตำรวจหญิงเลือดทรนง
เธอและเขาต้องร่วมมือกันกำจัดเหล่าร้ายในขณะที่ต้องขัดแย้งกันเอง

นักแสดง

แอนดริว เกร้กสัน แสดงเป็น หมวดเจ๋ง
ภัครมัย โปตระนันท์ แสดงเป็น บราลี

ตระการ พันธุมเลิศรุจี
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ แสดงเป็น หมอดา
สุประวัติ ปัทมสูต แสดงเป็น พ่อของหมวดเจ๋ง
สมภพ เบญจาธิกุล
ประกาศิต โบสุวรรณ
ธงชัย ประสงค์สันติ
กลศ อัทธเสรี
สุกัญญา มิเกล
พิมพ์พรรณ บูรณะพิมพ์
ดีใจ ดีดีดี
เบญจพล เชยอรุณ แสดงเป็น จอห์นนี่
พุทธชาด พงศ์สุชาติ
ดนัย ศรีภิญโญ
วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ
โยกเยก เชิญยิ้ม
กล้วย เชิญยิ้ม
จรรยา ธนาสว่างกุล
วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล
จอห์น บราโว่
วรรณกิตย์ ศิริพุฒ
กฤษฎา พัชรพิพัฒน์ แสดงเป็น จ่าอ้วน
นำพล รุ่งสว่าง
สุคนธร สกปรพันธ์
รวิสุต มันตะเสรี
ปิยะพล ชาติรังสรรค์
นักแสดงรับเชิญ
ชลิต เฟื่องอารมย์
ศานติ สันติเวชกุล
นฤมล นิลวรรณ

ละคร 12 ราศี

ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกวันพุธ- พฤหัสบดี

เริ่มตอนแรกวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2546 – 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2546

กาเหว่าที่บางเพลง

กาเหว่าที่บางเพลงกาเหว่าที่บางเพลง เป็นเรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านบางเพลง ที่จู่ๆ เวลาหยุดนิ่ง และมีบางสิ่งเกิดขึ้นคือ ในเวลาต่อมา ผู้หญิงที่อยู่ในบริเวณนี้ไม่ว่าจะแก่หรือสาว จะเป็นสาวบริสุทธิ์ หรือเป็นแม่ชีก็ตาม ต่างเกิดตัั้งครรภ์ขึ้นมาพร้อมกันจำนวนมาก โดยที่ไม่มีใครทราบสาเหตุ ทำให้เป็นเรื่องราวที่เป็นที่สนใจใคร่รู้ของผู้ที่เฝ้าติดตาม และเด็กๆ เหล่านั้น ต่างมีบุคลิกผิดประหลาดจากเด็กทั่วไป และมีอำนาจจิตที่น่าสะพรึงกลัว

ผู้กำกับ : กมล ศรีสวัสดิ์
ผลิตโดย : บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน)
เขียนบท : ดำเกิง ฐิตะปิยะศักดิ์
บทประพันธ์ : หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช

นักแสดงละคร กาเหว่าที่บางเพลง

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงเป็น ประพันธ์
กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา แสดงเป็น ครูแก้ว
อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์
ฐนิชา ดิษยบุตร
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ แสดงเป็น อ.สมศักดิ์
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น อ.ยุพา
กลศ อัทธเสรี

อลวนคนไร่ส้ม

อลวนคนไร่ส้ม เป็นเรื่องราววุ่น ๆ ระหว่าง “ไร่ส้มหนึ่งสยาม” และ “ไร่ส้มทรายทอง” ที่มีความแค้นกันมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ คุณย่า ทำให้ไม่ถูกกันมาจนถึงรุ่นลูกหลาน ระหว่าง เอก ลูกชายคนโต, อ้น, เอิบ ลูกชายลูกสาวของ อนวัฒน์ กับ จริยา เจ้าของไร่ส้มทรายทอง กับ จิ๊บ, จอห์น, จ้อน ลูก ๆ ของ ประเวช และ วัลภา ครอบครัวไร่ส้มหนึ่งสยาม กับคติที่ทั้ง 2 ไร่ยึดถือมาตลอดว่า “ชนะได้ แพ้ไม่ยอม เสมอไม่เอา” ความอลเวง จึงเริ่มต้นขึ้นที่ งานประกวดส้มประจำจังหวัด

ในงานประกวดส้ม ทั้งไร่หนึ่งสยามและไร่ทรายทอง ต่างพากันเตรียมตัวอย่างเต็มที่ ทางไร่ทรายทองไม่มีลูกๆ อยู่บ้านสักคน เนื่องจากไปรอรับอัมรินทร์ หรือ เอก ลูกชายคนโตที่เพิ่งเรียนจบกลับจากต่างประเทศที่สนามบิน ส่วนไร่หนึ่งสยาม เห็นว่าส้มที่ทางไร่เตรียมมาน้อยเกินไป จึงให้วาสินี หรือ จิ๊บ ลูกสาวคนโตกลับไปเอามาเพิ่ม

อ้นรีบบึ่งรถกลับบ้าน เพื่อไปให้ทันงานประกวดส้ม แต่เมื่อถึงปากทางเข้าไร่ ก็พบว่า มีรถเสียจอดขวางอยู่ ทั้งหมดรีบลงจากรถ และพบว่าเจ้าของรถคั้นนั้นคือ จิ๊บ และ น้อง ๆ ประกอบไปด้วย จอห์น และ จ้อน คู่ปรับแห่งไร่หนึ่งสยาม ทั้งหมดจึง ปะทะ คารม กันอย่างดุเดือด เมื่อ อนวัฒน์ และ จริยา พ่อแม่ของเอกรู้เรื่องเข้า ก็เป็นเดือด เป็นแค้นแทนลูก ๆ อนวัฒน์ย้ำกับลูก ๆ ว่าห้ามแพ้พวกไร่หนึ่งสยามเป็นอันขาด สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยปู่ ปู่ของจิ๊บแย่งแฟนปู่ของเอกไป ทำให้ปู่ของเอกโกรธมาก

ตั้งแต่นั้นมาทั้ง 2 ตระกูลต่างแข่งขันกันมาตลอด เมื่อการประกาศรางวัลชนะเลิศส้ม ทั้ง 2 ไร่ต่างก็ไม่พอใจ เพราะ ไร่หนึ่งสยามและไร่อมฤตครองตำแหน่งที่ 1 ร่วมกัน ทั้งเอกและจิ๊บต่างก็เนื้อหอมด้วยกันทั้งคู่ เอกนั้น กลับ มาเมือง ไทย พร้อมกับอัญชลีแฟนสาว ซึ่งเป็นลูกสาวกำนันเอนก เจ้าพ่อค้าส่งผลไม้ติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ ส่วนจิ๊บก็มี โซ้ยตี๋แอบชอบอยู่ ถึงแม้โซ้ยตี๋จะรู้ว่า จิ๊บไม่ได้ชอบตน แต่เขาก็ถือคติว่า “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” นอกจากนั้น ยังมี ทิวา พี่ชายของอัญชลี ที่ตามจีบจิ๊บอยู่เหมือนกัน

ทางด้าน อ้น กับ จอห์น ต่างก็เป็นคู่ปรับตัวฉกาจของกันและกัน วันหนึ่งจอห์นแอบเห็น อ้นลองใส่เสื้อผ้าของ แม่แจน จึงเริ่มคิดแผนการณ์ที่จะแกล้งอ้น ด้วยการปลอมตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์ นำกล่องพัสดุมาส่งให้อ้น ในกล่อง มีกะลามะพร้าว และกระดาษเขียนข้อความไว้ว่า “เอาไว้ตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงกดูเงาตัวเอง นึกว่าสวยนักล่ะซิ จากผู้หวังดี” เมื่อมองไปทางหน้าบ้าน อ้นจึงได้รู้ว่า เป็น จอห์น คู่ปรับตัวฉกาจนั่นเองที่แกล้งเธอ

กำนันเอนกจัดงานประกวดนักร้องประจำจังหวัด โดยมีสาลี่ ภรรยาของเขาสนับสนุน อย่างเต็มที่ สาลี่บอกให้อัญชลี ชวนเอกมาประกวด เพราะเธออยากให้เอกเป็นคนดัง อัญชลีซึ่งเห็นดีเห็นงามด้วย จึงไปคะยั้นคะยอเอก เมื่อไร่หนึ่งสยามรู้ว่า เอกลงประ กวดร้องเพลง ประเวชและวัลลภาก็ไม่ยอม ทั้งคู่บังคับให้จิ๊บลงแข่งขัน ซึ่งจิ๊บก็ยอม แต่โดยดี เธอมั่นใจว่าต้องชนะเอกแน่นอน วันประกวดร้องเพลงก็มาถึง นอกจากเอก และจิ๊บแล้ว ยังมีผู้แข่งขันคนอื่นๆ อีก รวมทั้งโซ้ยตี๋และน้ำหวาน จนถึงรอบชิงชนะ เลิศ เหลือผู้แข่งขัน 2 คนคือ เอกและจิ๊บ อัญชลีอยากให้เอกได้รางวัล จึงไปติดสินบนกรรมการ แต่จอห์นไปเห็นเข้าจึงมาบอกจิ๊บ และเมื่อผลประกาศออกมาว่าเอกชนะ จิ๊บจึงต่อว่า ที่ขี้โกงทำให้เอกงง ส่วนอ้นเมื่อเห็นพี่ชายโดนว่า ก็เข้าไปร่วมวง จนกลายเป็นเรื่องทะเลาะกันของ 2 ตระกูล

กำนันเอนกเป็นพ่อค้าคนกลาง ที่ทุกไร่ต้องเอาส้มมาขาย เขาจึงกดราคาส้มจนต่ำ และยังกว้านซื้อปุ๋ยหมดตลาด และขายในราคาแพง จนชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่ว ทั้ง 2 ไร่คู่ปรับพากันกลุ้มใจ เอกจึงคิดหาสูตรปุ๋ย เพื่อที่จะได้ไม่ ต้องใช้ปุ๋ยจากกำนันเอนก ในขณะที่จิ๊บก็คิดหาสูตรปุ๋ยใหม่เช่นกัน และแล้วเอกก็คิดสูตรปุ๋ยขึ้นมาได้ เขาทดลองใช้ จนประสบความสำเร็จ เอกแจกจ่ายให้ชาวบ้าน จนส้มในไร่มีผลใหญ่สวยกว่าเดิม

เมื่อรู้ว่าจิ๊บยังคิดสูตรปุ๋ยไม่ได้ เอกจึงฝากจันทร์ให้นำสูตรปุ๋ยไปให้จิ๊บ จิ๊บแปลกใจ ที่เอกมีน้ำใจให้ จิ๊บจึงลองนำปุ๋ยไปใช้ ส้มของจิ๊บได้ผลเหมือนที่ไร่ของเอก ทำให้ทุก คน ที่ไร่หนึ่งสยามดีใจมาก แต่ดีใจได้ไม่นานส้มในไร่ของจิ๊บเหี่ยวเฉา เนื่องจากมี ศัตรูพืช มากินต้นส้มทั้งหนอนแมลงต่าง ๆ จิ๊บโกรธมาก เธอไปอาละวาดเอกที่ไร่ เอกปฏิเสธ แต่จิ๊บไม่เชื่อ หลังจากนั้นไม่นาน ส้มที่ไร่ทรายทองก็เป็นเหมือนกัน เอก ตามไปต่อว่าจิ๊บ จิ๊บปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ทั้งคู่เงียบไปและมองหน้ากัน พร้อมพูดขึ้น มาพร้อมกันว่า “แล้วอย่างนี้ใครเป็นคนทำ ?”

หลังจากที่ไม่มีแม่ค้า มารับซื้อส้มโดยตรง เพราะกลัวอิทธิพลของกำนันเอนกและทิวา จิ๊บจึงไปเช่าแผงขายของ เพื่อระบายส้มในไร่ของตัวเอง เอกก็ไปเช่าแผงขายของเหมือนกัน อยู่ตรงข้ามกับแผงของพวกจิ๊บ จึงเกิดการแย่ง ลูกค้าขึ้น ทิวาเมื่อจีบจิ๊บไม่ได้ดั่งใจ จึงให้คนไปฉุดจิ๊บ แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น เอกก็มาช่วยได้ทัน โดยที่ทั้งจิ๊บและเอก ไม่รู้ว่า ทิวาเป็นตัวการ ทั้ง 2 เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่ยังคุมเชิงกันอยู่ ด้วยตระกูลเป็นศัตรูกันอยู่

เอนกและทิวาโกรธมากที่ทั้ง 2 ไร่ เช่าแผงขายของเอง เอนกสั่งให้ลูกน้องของทิวา ไปโรยศัตรูพืชที่ไร่หนึ่งสยามอีก แต่จิ๊บผ่านมาเห็นจึงเข้าไปต่อสู้ แต่ด้วยความที่เป็น ผู้หญิงและไปคนเดียว ทำให้จิ๊บสู้ไม่ได้ เธอโดนต่อยจนสลบ โชคดีที่เอกผ่านมาจึง เข้าไปช่วย และพาจิ๊บส่งโรงพยาบาล เมื่อออกจากโรงพยาบาล จิ๊บไปขอบคุณเอก ถึงบ้าน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคน จิ๊บบอกว่าเธอเห็นคนที่ไปโรยศัตรูพืชเป็น ลูกน้องของทิวา เอกจึงใช้โอกาสงานวันเกิดอัญชลี เข้าไปสืบเรื่องต่าง ๆ ในบ้านของ เอนก

ในงานวันเกิดอัญชลี อัญชลีมอมเหล้าเอก เอกรู้แกวจึงแกล้งเมา อัญชลีจึงให้ลูกน้องพาเอกไปที่ห้องของเธอ แต่ อัญชลียังไม่ทันทำอะไร จิ๊บและจอห์นก็เปิดไฟในห้อง อัญชลีร้องตะโกนว่ามีคนบุกรุก จิ๊บและจอห์นหนีออก ไปจากห้อง ส่วนเอกก็หนีออกไปอีกทาง จิ๊บและจอห์นวิ่งหนีไปจนพบว่า บ้านเอนกมีห้องใต้ดิน ทั้งคู่พบเอกสารการ โกงที่ดินชาวบ้าน และโกงเงินของสหกรณ์ ทิวาให้ลูกน้องไปดักจิ๊บและจอห์นที่ตลาด ทั้งคู่ถูกพาไปขังที่ห้องใต้ดิน ที่บ้าน เอกลอบเข้าไปช่วยจิ๊บและจอห์นที่ห้องใต้ดิน แต่ทิวาจับได้ เขาถูกต่อยจนสลบ ส่วนพ่อและแม่ของ 2 ครอบ ครัวไปแจ้งความ ตำรวจจึงมาที่บ้านของเอนก และพบหลักฐานการฉ้อโกงต่าง ๆ ตำรวจออกจับกลุ่มของเอนกและ จับได้ในที่สุด อัญชลีทนถูกชาวบ้านนินทาไม่ไหว หนีไปอยู่ต่างประเทศกับสาลี่

หลังจากผ่านเรื่องร้ายต่าง ๆ เอกและจิ๊บช่วยกันคิดค้นสูตรปุ๋ยขึ้นใหม่อีกหลายสูตร และปรับปรุงระบบสหกรณ์ใหม่ เอกและจิ๊บตกลงที่จะแต่งงานกัน และตกลงที่จะรวมไร่กัน แต่การแต่งงานของทั้งคู่ก็ยังมีอุปสรรค เมื่อทั้ง 2 บ้าน ต่างไม่ยอมให้ชื่อของอีกไร่หนึ่งอยู่ข้างหน้า เอกและจิ๊บจะทำอย่างไรเพื่อที่จะผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้

เหยี่ยวสาวมือใหม่

เหยี่ยวสาวเมือใหม่ เป็นเรื่องราวของแพ๊ท หรือ ภัสรี ลูกสาวคนเดียวของนักหนังสือพิมพ์อาวุโส อำนวย ผู้ทุ่มเทให้งานที่ตนรักอย่างหนักมาตลอดชีวิตจนกระทั่งวันที่เขาหัวใจวาย เฉียบพลัน นายอำนวยก็ยังล้มฟุบอยู่กับโต๊ะทำงานทั้งที่มือยังกำปากกาไว้แน่น แม้จะขาดพ่อ แต่แพ๊ทก็ได้รับความรักและความอบอุ่นอย่างเต็มที่จากจรรยา ผู้เป็นแม่ และป้าสำรวย สาวใหญ่วัยดึกอารมณ์ดีที่มีหลานสาวหน้าตาซื่อๆ ชื่อ ลดา ผู้ที่เป็นเพื่อนเล่นของแพ๊ทมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้ง 4 สาวอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ กันตามลำพัง แม้จะมีเพื่อนบ้านคนสนิทอย่างน้าโหน่งที่หวังจะพึ่งพิงอกสามศอกได้บ้างแต่ เขาก็กลายเป็น “แต๋วแหวว” ไปซะอีก

แพ๊ทประกาศไว้ตั้งแต่ยังเรียน มหาวิทยาลัยว่า จะเป็นนักข่าวเหมือนพ่อให้ได้ ซึ่งจรรยาก็ได้แต่หวังว่าซักวันลูกสาวจะเปลี่ยนใจแต่แล้วนางก็รู้ว่าไม่สามา รถห้ามแพ๊ทได้อีกต่อไปแล้วเมื่อวันหนึ่งแพ๊ทประกาศลั่น หนูได้เป็นนักข่าวแล้วจ้า วันแรกที่ไปทำงานเหยี่ยวสาวมือใหม่ ประเดิมด้วยการถอยรถเสยเข้าให้กับรถของสิริพงษ์ นักข่าวหนุ่มโสดเนื้อหอมประจำโรงพิมพ์ที่รักรถราวกับเมีย สิริพงษ์โกรธสุดขีดแต่แพ๊ทกลับใช้ให้เขาช่วยถอยรถเข้าจอดให้เรียบร้อย และโทรเรียกประกันมาจัดการแทนเธอด้วย ว่าแล้วเธอก็วิ่งไปทำงาน ทิ้งให้สิริพงษ์ยืนงงเป็นไก่ตาแตก

และ เขาต้องงงอีกครั้งเมื่ออรุณหัวหน้าของเขามอบหมายให้เขาเป็นพี่เลี้ยงให้นัก ข่าวใหม่เป็นระยะเวลา 3 เดือน และเธอคนนั้นก็คือ แพ๊ท นั่นเอง แพ๊ทตื๊อจนสิริพงษ์ใจอ่อนยอมให้เธอตามไปงานแถลงข่าวของบริษัท เสถียรขนส่ง เป็นของมหาเศรษฐีชื่อดัง เสถียร ซึ่งมีลูกชายคนโตชื่อ รดิษ เพิ่งกลับจากเมืองนอกและเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ส่วนประยุทธ์ลูกชายคนรองเป็นลูกญาติห่างๆ ทีเสถียรเก็บมาเลี้ยง เพราะพ่อแม่ตายตั้งแต่ประยุทธ์ยังเด็กๆ ลูกชายทั้ง 2 แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง รดิษหล่อเอางานเอาการในขณะที่ประยุทธ์ทำตัวเสเพลไปวันๆ

เสถียรมี ลูกน้องคนสนิทเหมือนเป็นมือซ้ายและมือขวาชื่อ ไพโรจน์กับมงคล ที่ช่วยทำให้เสถียรขนส่งเติบโตอย่างรวดเร็วผิดปกติ จนมีคนตั้งข้อสงสัยว่านายเสถียรลักลอบค้าของเถื่อนแต่ไม่มีหลักฐานที่ตำรวจ จะสามารถเอาผิดได้ นายเสถียรจึงเป็นมหาเศรษฐีที่สังคมนับหน้าถือตา ในงานแถลงข่าวแพ๊ทโพล่งคำถามขึ้นกลางงานเกี่ยวกับการลักลอบค้าของเถื่อนทำ เอาตะลึงกันไปทั้งงาน โดยเฉพาะรดิษ เขาจึงปะทะคารมกับแพ๊ทอย่างถึงพริกถึงขิงจนสิริพงษ์ต้องลากนักข่าวมือใหม่ใจ กล้าออกมาแทบไม่ทัน

สิริพงษ์สั่งให้แพ๊ทนั่งรออยู่หน้างานจนกว่าเขา จะทำข่าวเสร็จ แพ๊ทโวยวายจนรุ่นพี่ขู่ว่าจะไม่พาไปไหนอีกเด็ดขาดจึงยอมนั่งรออย่างสงบ แต่แล้วสงครามก็ตามมาก่อตัวถึงที่ รดิษโผล่มาถามว่าเธอเป็นใคร เป็นนักข่าวที่ไหนเพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า เมื่อแพ๊ทบอกว่าเธอเป็นนักข่าวใหม่ของ นสพ.ประชาชน ก็ถูกรดิษถากถางว่าเป็นมือใหม่อ่อนหัดแต่ทำอวดดี เล่นเอาแพ๊ทควันออกหู และทั้งคู่ก็ปะทะคารมกันเป็นรอบที่สอง จนกระทั่งมงคลลูกน้องเสถียรเข้ามาสงบศึก และแพ๊ทก็พบว่ามงคลเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักคนหนึ่ง

พวง แขเพื่อนสาวคนสนิทของรดิษก็มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย แม้เกษมพ่อของพวงแขจะคบหาสมาคมอยู่กับเสถียร แต่ในทางธุรกิจทั้งคู่เป็นคู่แข่งกัน เกษมขนส่ง ยังมีกำลังสำคัญอีกคนก็คือ พีรศักดิ์ ลูกชายคนโตของเกษมนั่นเอง สิริพงษ์มีโอกาสได้พบพวงแข แต่เป็นการพบที่สิริพงษ์ต้องจำจนตายเพราะพวงแขทักเขาหลังจากเขาเพิ่งออกมา จากห้องน้ำว่าเขาลืมรูดซิปกางเกง ทำเอานักข่าวหนุ่มหน้าแตกยับ แต่เขาก็แอบปิ๊งพวงแขตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

เหยี่ยวสาวมือใหม่ ชื่อ ภัสรี กลายเป็นที่จับตาของเสถียร ไพโรจน์ มงคล และรดิษ จนเสถียรสั่งให้ไพโรจน์สืบประวัติมาให้ละเอียดแต่ก็พบว่าภัสรีเป็นเพียงเด็ก ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่มีเบื้องหลังเบื้องลึกอะไร ไพโรจน์ลงความเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงเป็นเพราะความซื่อเซ่อของเธอ มากกว่า แต่รดิษก็ถือโอกาสถามผู้เป็นพ่อถึงกิจการของเสถียรขนส่งว่าทำงานผิดกฎหมาย อย่างที่นักข่าวซื่อเซ่อคนนั้นถามหรือไม่ เสถียรยอมรับว่าเคยมี แต่คนผิดก็ถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว รดิษจึงไม่ติดใจแต่กลับมีภาพนักข่าวซื่อเซ่อติดตามเขาอยู่เรื่อยมา สิริพงษ์เพิ่งเอารถออกจากอู่ซ่อม ขณะที่ขับรถอยู่ดีๆ ก็มีรถอีกคันหนึ่งมาชนท้ายโครมเบ้อเร่อ สิริพงษ์กะจะลงไปลุยแต่ก็ต้องใจอ่อนยวบเมื่อพบว่าคู่กรณีคือคุณพวงแขนั่นเอง เธอได้ให้นามบัตรแก่เขาเพื่อนัดหมายชดใช้ค่าเสียหายกันต่อไป

แพ๊ท ตามสิริพงษ์ไปทำข่าวเศรษฐกิจที่โรงแรมแห่งหนึ่ง บังเอิญพบรดิษกับพวงแขนั่งทานอาหารกันอยู่ พวงแขขอคุยกับสิริพงษ์เรื่องค่าเสียหาย รดิษกับแพ๊ทเลยได้ปะทะคารมกันอีกตามเคย ครั้งนี้รดิษฝากคำคมให้แพ๊ทไว้ว่า เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม และยังย้ำว่าฝีมือของเธอยังห่างไกลจากนายอำนวยผู้เป็นพ่ออีกมาก ทำเอาแพ๊ทหัวฟัดหัวเหวี่ยง ประกาศว่าจะตามลุยเรื่อง เสถียรขนส่งแบบไม่เลิกรา

และ แล้วโอกาสของเหยี่ยวสาวมือใหม่ก็มาถึง เมื่อจู่ๆ เรือขนสินค้าของเสถียรขนส่งถูกจับเพราะขนของผิดกฎหมาย นายเสถียรถึงกับช็อค จึงให้ไพโรจน์เป็นผู้บอกรายละเอียดแก่รดิษว่ามงคลเป็นคนรับผิดชอบสินค้างวด นี้ถูกจับอยู่ที่โรงพัก นายเสถียรกำลังให้คนไปประกันตัว ไพโรจน์ย้ำว่าเป็นความผิดของมงคลที่คิดสั้น อยากรวยทางลัดจึงอาศัยเรือของบริษัท

เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ของ นสพ.ทุกฉบับ โดยเฉพาะแพ๊ทถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ วิ่งตามลูกพี่ให้วุ่นเพื่อขอทำข่าวนี้ นักข่าวทุกสำนักแห่ไปรอที่หน้าเสถียรขนส่ง แต่แล้วแพ๊ทก็แทบช็อคเมื่อรดิษอนุญาตให้แพ๊ทเป็นนักข่าวเพียงคนเดียวที่ได้ เข้าไปสัมภาษณ์เขาในห้องทำงานเพียงสองต่อสอง แต่แพ๊ทก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะมัวแต่ทะเลาะกับรดิษจนสิริพงษ์ถึงกับเซ็ง มงคลถูกพาไปเก็บตัวในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งโดยมีไพโรจน์คอยไปดูแลเป็นระยะ มงคลคิดถึงยุวดีลูกสาวคนเดียวของเขามาก แต่ไม่กล้าติดต่อลูกเพราะอับอายในความผิดของตน ไม่รู้จะพูดกับลูกอย่างไร

มงคล ขอออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน เขาเดินออกไปจนถึงถนนใหญ่ บังเอิญแพ๊ทขับรถผ่านมาเห็นเข้าจึงรีบขับตามมงคลไป จู่ๆ มงคลก็เป็นลมล้มลง แพ๊ทรีบลงไปช่วยจะพาส่งโรงพยาบาล แต่มงคลไม่ยอมไปทั้งคู่มีโอกาสนั่งคุยกัน มงคลพูดจาวกไปวนมาจนแพ๊ทสับสน สุดท้ายมงคลฝากจดหมายฉบับนึงไว้กับแพ๊ทโดยบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไรไปขอให้แพ๊ท นำไปให้ยุวดีลูกสาวของเขาด้วย แพ๊ทแอบสะกดรอยตามมงคลไป จนพบเซฟเฮ้าส์ที่ซ่อนตัวของมงคล แพ๊ทเริ่มสังหรณ์ใจว่ามงคลอาจจะเป็นแค่แพะในเหตุการณ์นี้

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามได้ใน เหยี่ยวสาวมือใหม่

หักเหลี่ยมพระกาฬ

หักเหลี่ยมพระกาฬ เป็นเรื่องราวของ คมฆ์ เข้าคุกด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น เมื่อเข้าไปอยู่ในคุกคมฆ์ได้รู้จักกับ เดช ซึ่งคมฆ์ได้ช่วยเดชไว้จากพวกเจ้าพ่อในคุกที่ชอบหาเรื่องเดชเป็นประจำ เดชซาบซึ้งและพอใจในฝีมือของคมฆ์มาก
เดชเป็นลูกน้องคนสนิท ของ โตมร เจ้าพ่อใหญ่ที่มีธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภท เดชเป็นที่ไว้วางใจของโตมร เดชชวนคมฆ์ไปอยู่แต่โตมรไม่ไว้ใจใครง่ายๆ จึงลังเลที่จะรับคมฆ์เป็นลูกน้อง ส่วนปิยะและกิตติลูกน้องคนสนิทของโตมรไม่พอใจที่เดชกลับมาอีกครั้ง คมฆ์สัญญากับตัวเองว่าต้องมีสักวันที่โตมรยอมรับฝีมือ และรับเขาเป็นลูกน้อง

นักแสดงละคร หักเหลี่ยมพระกาฬ
1. ศรราม เทพพิทักษ์ รับบท คมฆ์
2. รินลณี ศรีเพ็ญ รับบท มีนา
3. จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ รับบท โตมร
4. ศิรประภา สุขดำรงค์ รับบท ธิดา
5. ภูมิพงศ์ หิรัญพฤกษ์ รับบท ภาวัต
6. เรืองฤทธิ์ วิสมล รับบท เดช
7. ทิฐิ พุ่มอ่อน รับบท ดอน
8. โจอี้ บาซู รับบท ปิยะ
9. กฤชพล อภิรักษ์โยธิน รับบท กิตติ
10. โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบท ปรเมศร์

ห้องหุ่น

เดช สัตยาภา ผู้คลั่งไคล้หลงใหลหุ่นปูนปั้นมากถึงขนาดสามารถปั้นหุ่นขี้ผึ้งด้วยฝีมือของตัวเอง ได้ ด้วยใจรักมิได้ร่ำเรียนมาและเมื่อมีเงิน เดชก็จะซื้อหุ่นปูนปั้นมาเก็บสะสมไว้ โดยเฉพาะที่ปั้นเป็นรูปคนเท่านั้น เดชเก็บหุ่นไว้ที่ห้องหนึ่งในบ้าน ดังนั้นภายในบ้านของเดช นอกจากอารีย์ เมียรักและลูก 3 คน คือ พรรณราย อัมรา และอภิรัฐ (อ๊อด) แล้วก็ยังมีหุ่นหลายตัว เช่น หุ่นชาวนา หุ่นท่านเจ้าคุณ หุ่นนักมวย หุ่นนางระบำ หุ่นทหารผ่านศึก หุ่นสาวเสิร์ฟ หุ่นตำรวจ หุ่นโจร หุ่นเด็ก หุ่นนักดาบ หุ่นนักยิงธนู หุ่นนางแบบสาวสวย (แม่เลี้ยง) หุ่นนางฟ้า หุ่นอารีย์ และหุ่นเดช ที่เขาทั้งซื้อไว้และปั้นเอง
เดช, อารีย์ อัมรา มักใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยกันอยู่ในห้องหุ่น เดชและอัมรารักหุ่นมาก ส่วนอ๊อดไม่ค่อยใส่ใจหุ่นเหมือนอัมราพี่สาวเพราะยังเด็ก ชอบที่จะวิ่งเล่นมากกว่า สำหรับพรรณรายนั้นไม่สนใจหุ่นในบ้านเลยแถมยังไม่ชอบให้มีหุ่นอยู่ในบ้านด้วย

ในอดีต เดชเคยมีสัมพันธ์หญิงหนึ่ง ชื่อ พิไล ถึงขั้นมีลูกด้วยกันคนหนึ่ง แต่พิไล ไม่ซื่อแอบไปลักลอบได้เสียกับชายอื่น เพราะเดชมัวแต่หมกมุ่นกับการปั้นหุ่นเกินไป เดชจับได้ เดชจึงให้พิไลไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่นั้น แต่ขอลูกไว้กับตน โดยให้ทุกคนรับรู้ว่าอารีย์คือแม่แท้ๆ และไม่พูดถึงพิไลอีกเลย
เด็กหญิงคนนั้นคือ พรรณราย พรรณรายไม่เคยรู้เรื่อง ในอดีตของมารดาที่แท้จริงเพราะขณะนั้นยังเล็กมาก อารีย์ภรรยาของเดชคนต่อมาเป็นคนดี แม้เธอจะมีลูกคือ อัมรา และอ๊อด อารีย์รู้เรื่องพิไลมาโดยตลอด แต่อารีย์ก็ไม่เคยปริปาก เพียงแต่เก็บความหวาดวิตกว่าพิไลอาจจะกลับมาคืนดีกับเดช
อารีย์รู้สึกกังวล เพราะรู้ว่าเดชเคยรักพิไล และพิไลก็เป็นคนอารมณ์ร้าย เจ้าเล่ห์ แล้ววันหนึ่งพิไลก็ซมซานกลับมาจริง ๆ อารีย์กังวลเรื่องนี้ถึงกับช็อค และเพราะเธอเป็นโรคหัวใจเธอจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา วันที่อารีย์เสียชีวิต หุ่นผู้หญิงตัวหนึ่งซึ่งเดชปั้นเป็นตัวแทนของอารีย์ล้มลงแตกเองโดยไร้สาเหตุ

อัมราและอ๊อด รวมทั้งคนในบ้านอื่นๆ นอกจากเดชพากันแปลกใจที่พิไลจะดีกับพรรณรายคนเดียว ทั้ง ๆ ที่อัมราและอ๊อดมีนิสัยดีกว่าพรรณรายมาก ทั้งสองจะอ่อนน้อมไม่เคยแสดงกิริยารังเกียจพิไล แต่พิไลก็จะแสดงอาการลำเอียงไปทางพรรณราย ทั้งรูปร่างหน้าตานิสัยใจคอพรรณรายก็คล้ายคลึงพิไล แต่พรรณรายก็ไม่สะกิดใจแต่อย่างใด พิไลไม่ได้เล่น งานเหล่าลูกเลี้ยงตามลำพัง แต่ดึงเอา จันทร์แรม หลานสาวมาช่วยด้วย เมื่อจันทร์แรมพาเพื่อนชายมาด้วย 2 คน คือ สันติ,สฤษดิ์เดช หรือ อาร์ต จิตรกรและนักเขียนสมัครเล่น นิสัยดีที่เพิ่งเดินทางกลับจากอเมริกา
หลังจากเรียนสำเร็จและต้องการจะเรียนรู้ชีวิตชนบท กับประจักษ์ ชายที่หลงรักจันทร์แรมอยู่และกำลังจะเป็นทนายความ ขอติดตามมาด้วย จันทร์แรมหลงรักอาร์ต อยากให้เขามาเห็นหลักฐานของพิไลน้าสาวของเธอ จันทร์แรมยอมร่วมมือกับพิไลอย่างแข็งขัน เพราะอยากให้น้าพิไลได้สมบัติของเดช ประจักษ์เออออเพราะหลงรักจันทร์แรม

แต่เมื่อมาพบอัมรา ความเจ้าชู้ของประจักษ์ทำให้แอบลวนลามอัมรา แต่อัมราไม่เล่นด้วย จึงเจ็บแค้น อาร์ตมองสถานการณ์ในบ้าน “สัตยาภา” อย่างเป็นกลาง และเห็นใจว่าอัมรากำลังเศร้าหมองที่มารดาเพิ่งเสียชีวิต อาร์ตไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพิไลที่มักจะรังแกอัมราและอ๊อดเป็นประจำ
อาร์ตเริ่มรู้สึกประทับใจในกิริยาของอัมราที่ไม่กราดเกรี้ยว แม้เธอจะไม่ผิด อัมราจะรักพี่รักน้องมาก เธอยอมทุกอย่างจนน่าสงสาร อาร์ตแอบเข้าข้างเธออยู่เงียบๆ และรู้สึกเป็นสุขที่อยู่ใกล้เธอ อาร์ตมักจะมาบ้านเดชเสมอ โดยจันทร์แรมคิดว่ามาเพราะหลงใหลเธอ แต่ความจริง สันติอยากพบพูดจาและปลอบโยนอัมรามากกว่า จนจันทร์แรมจับได้และเริ่มไม่พอใจเกลียดชังอัมรามากขึ้น แต่อัมราก็ยังมีความสุขกับครอบครัวของเธอ และหุ่นมารดาที่เดชปั้นขึ้นใหม่หลังจากอารีย์เสียชีวิต

คุณนายผอบ เมียนายอำเภอแม่ของพงษ์ วัยรุ่นเกะกะเกเรที่มาชอบอัมราก็อยากกล่อมอัมราให้ไล่พิไลแม่เลี้ยงออกจากบ้าน แล้วเร่งให้พงษ์แต่งงานกับอัมราเพื่อหวังมรดกของเดช เพราะรู้ว่าหุ่นต่างๆ ขายได้ราคามาก และเป็นที่สนใจ พงษ์ใช้วิธีจีบทั้งนุ่มนวลและหยาบช้า แต่ก็ไม่สำเร็จทั้งสองกรณี
พิไลเห็นท่าไม่ดีก็ให้ประจักษ์อ้างว่าเดชให้เขาทำพินัยกรรมยกให้พิไล เพราะรู้ว่าเขาเป็นทนายแต่ประจักษ์ก็โดน หุ่น รุมทำร้ายถึงแก่ชีวิต ทำให้พิไลหมดทางที่จะมีอำนาจในบ้าน คุณนายผอบยุพรรณรายให้ไล่พิไลไปจนสำเร็จ แต่ในวันที่พรรณรายจะไล่พิไลไปนั้นเอง พิไลก็มีหลักฐานมาแสดงกับพรรณรายว่าตนคือแม่แท้ ๆ ของพรรณราย พิไลหาทางพิสูจน์ให้พรรณรายเชื่อจนได้
พรรณรายจากที่อยู่ข้างอัมราและอ๊อดและเกลียดชังพิไลมาตลอดก็กลับกลายเป็น ฝ่ายพิไล พิไลกำชับพรรณรายไม่ให้บอกใครว่าพรรณรายไม่ใช่ลูกอารีย์ ไม่เช่นนั้น สิทธิ์ในการจับจ่ายใช้สอยเงินทอง ในบ้านจะต้องตกเป็นของอัมราแทนที่จะเป็นของ พรรณราย เพราะพนมเพื่อของเดชผู้รู้เรื่องดี อ้างว่าเดชนั้นยกทุกอย่างให้อัมราตามพินัยกรรม

พรรณรายโกรธมากที่เดช ไม่ให้ส่วนแบ่งแก่เธอ จึงยิ่งจงเกลียดจงชังอัมราและอ๊อดมากขึ้น พิไล, จันทร์แรม, พรรณราย จึงรวมหัวกันคิดไล่อัมราและอ๊อดไปอยู่ห้องใต้บันได และบังคับให้อัมราที่เรียนดีมากออกจากโรงเรียน แต่อัมราไม่ยอม และสันติมาช่วยพูด พิไล จันทร์แรมและพรรณรายจึงใช้วิธีงดอาหาร งดเบี้ยเลี้ยง เมื่อสันติกลับไปแล้ว อัมรากับอ๊อดต้องวิ่งหาท่านผู้พิพากษาที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับเดชสมัยเดชยัง มีชีวิตอยู่ ท่านผู้พิพากษามาไกล่เกลี่ย อัมรากับอ๊อดจึงรอดพ้นจากการอดตายไปได้
แต่พิไล จันทร์แรมและพรรณรายกลับดุด่าอัมราและอ๊อดมากขึ้น กล่าวหาว่านำเรื่องในบ้านไปพูดให้คนข้างนอกหัวเราะเยาะ อาทร ลูกชายผู้พิพากษามาชอบอัมรา พงษ์ที่หลงรักอัมราจึงแอบยิงอาทรตาย ทำให้คุณนายบุญเรือน ภรรยาท่านผู้พิพากษา แม่ของอาทรโกรธแค้นอัมรามาก กล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุให้อาทรลูกชายของตนตาย

แต่วันรุ่งขึ้นนายจั่นก็ถูกฆ่าตาย โดยจับมือใครดมไม่ได้ ส่วนบุญเรือนเกิดสติฟั่นเฟือน พิไล จันทร์แรมและพรรณรายกล่าวหาว่าอัมราส่งคนไปทำร้ายทั้งจั่นและบุญเรือนจนมี อันเป็นไป หุ่นอาละวาดเอากับจันทร์แรมและพรรณราย แต่ทุกคนกลับกล่าวหาว่าอัมราจ้างคนมาแกล้งข่มขู่ สันติพยายามบอกทุกคนว่าอัมราบริสุทธิ์ เขาพยายามหาหลักฐานเพื่อช่วยเหลืออัมราทุกครั้งด้วยความรัก และสงสาร
สันติยังเชื่อว่าหุ่นอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงบอกทุกคนให้สังเกตแล้วทุกคนในบ้านก็เริ่มระแคะระคายว่าตัวการที่วิ่งไล่ ฆ่าและทำร้ายใครต่อใครนั้นคือ “หุ่น” ในห้องหุ่น แต่ไม่มีใครยอมรับความจริง กลับพุ่งข้อกล่าวหาไปที่อัมราแต่เพียงผู้เดียว โดยเฉพาะเมื่อพงษ์ลูกชายของคุณนายผอบมาตายในบ้านอัมราด้วยฝีมือของหุ่น อัมราก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรตาม

โดย การให้พรรณรายไปซ่อนตัว แล้วสั่งให้อัมราออกตามหา ด้วยความเป็นห่วงพี่สาว อัมราออกตามจนเกือบไม่ได้เข้าสอบ แต่หุ่นก็มาช่วยไว้อีก อัมราได้ไปสอบ พรรณรายเห็นความดีของอัมรา แต่ถูกพิไลยุแหย่จนสับสน ยิ่งเมื่อแน่ใจว่า สันติชายที่เธอหลงรักและแน่ใจว่าจะแต่งงานด้วยกลับมารัก อัมราอย่างเปิดเผย พรรณรายเสียใจผิดหวัง มิหนำซ้ำยังถูกหุ่นรุมหลอกหลอน พรรณรายเริ่มสติฟั่นเฟือนเหมือนคุณนายบุญเรือนอีกคน
พิไลเห็นพรรณรายมีอันเป็นไปก็ตัดสินใจขายหุ่นทั้งหมด แต่แล้วพ่อค้าที่ซื้อไปก็เจอฤทธิ์หุ่น จนต้องรีบนำเอามาคืน สันติรับซื้อหุ่นคืนโดยนำหุ่น ไปไว้ที่บ้านของเขาที่กรุงเทพฯ และขออัมราแต่งงาน อัมราเป็นสุขและอิ่มเอิบที่มีผู้พิทักษ์ที่ดีอย่างสันติ

แต่คนที่ผิดหวังอย่างหนักคือ พรรณราย พิไลสงสารลูกและเจ็บแค้นที่ลูกของตนพลาดทุกอย่าง เมื่อมีคนรู้ว่าตนเป็นใครและเคยทิ้งเดช ไปอย่างไร ทิ้งลูกคนเดียวไว้พิไลจึงลงมือช่วยเหลือพรรณรายเป็นครั้งสุดท้า
โดยการหลอกพาอัมราไปฆ่าแต่หุ่นช่วยได้อีก พิไลโกรธแค้นอย่างมาก จึงบุกเข้าไปวางเพลิงเผาห้องหุ่น และพิไลก็โดนไฟคลอกตาย พรรณรายและจันทร์แรมรอดมาได้หวุดหวิด แล้วในที่สุด อัมรา สันติ อ๊อด และพรรณรายก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในขณะที่จันทร์แรมหวาดกลัวชื่อ “อัมรา” ไปตลอดชีวิตถึงกับต้องไปอยู่โรงพยาบาลบ้า

หมอลำซัมเมอร์

ณ มหานครนิวยอร์ก เดือนพิลาส หรือ แอนนี่ สาวน้อยลูกครึ่งไทยอเมริกัน สนุกสนานไปกับชีวิตนักศึกษาปีสุดท้าย ด้วยบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในอเมริกา ทำให้สาวน้อยวัยน่ารักอย่างเธอหลงแสงสีความเป็นอเมริกันชน และลืมไปบ้างว่าตัวเองเป็นลูกครึ่ง ไทยอีสาน-อเมริกัน พ่อ ลุกส์ และแม่ ดาวเรือง ย้ายมาอยู่ที่อเมริกามาหลายสิบปีแล้ว หลังจากลุกส์ในฐานะวิศวกรพบกับดาวเรือง นางพยาบาลแสนสวยแห่งอุบลราชธานี เดือนพิลาสกำลังเรียนด้านสถาปัตยกรรมปีสุดท้าย และอยู่ในช่วงฝึกงาน ดาวเรืองกับลุกส์พยายามชวนเธอให้กลับไปเยี่ยมบ้านอุบลฯ ในช่วงปิดเทอมนี้ แต่แอนนี่พยายามบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอดเวลา โดยมีสาเหตุที่แท้จริงคือ อยากจะเลี่ยงไม่ไปเจอความเป็นอีสานของยายดวง เจ้าของวงหมอลำชื่อดังของอุบลราชธานี

ภาพ อุบลราชธานีในความคิดเสมือนประเทศโลกที่สามที่เธอเห็นจากสารคดีช่วยเด็กและ ผู้หิวโหยทางทีวี ยังไม่รวมเพลงหมอลำพื้นบ้านที่ครอบครัวแม่ภูมิใจนักหนา ถึงขึ้นมีวงดนตรีส่วนตัวและยังทำเทปทำซีดีส่งมาให้แม่เปิดและพ่อก็ยังร้อง ตามได้ด้วย สวนทางกับอาการคลั่งฮิพฮอพเบรกบีทอย่างสุดฤทธิ์ของเธอ ยิ่งคิด เดือนพิลาศก็ยิ่งนึกเดียดฉันท์บ้านนอกของประเทศไทย เธอถึงกับโวยวายกับพ่อแม่ว่า ลำพังเมืองไทยก็เป็นประเทศที่ด้อยพัฒนาแล้ว นี่ยังต้องไปอยู่ถึงอุบลราชธานี อีสานบ้านนอกเข้าไปอีก นายลุกส์โมโห ไม่ชอบให้ลูกสาวดูถูกบรรพบุรุษทางแม่ และยังดูถูกเพื่อนร่วมชาติด้วย ยื่นคำขาดให้เดือนพิลาสไปกับตัวเองโดยไม่มีข้อแม้

พรีม โด่งดังมากจากอัลบั้มแรกที่สัตยาบรรจงเขียนเนื้อและทำนองให้ อัลบั้มของพรีมกลายเป็นอัลบั้มที่สร้างฐานะการเงินอย่างมั่นคงให้กับบริษัท ชุดที่สองจึงตามมาติด ๆ ด้วยยอดขายสูงไม่ต่างกัน สัตยาคาดหวังจะแต่งงานกับพรีมในอีกสองสามปีข้างหน้า เมื่อเขาสร้างฐานะได้ด้วยตัวเอง และพรีมโด่งดังพอแล้ว แต่ความต้องการของสัตยาสวนทางกับพรีม เธอไม่ได้ต้องการแต่งงานกับสัตยา แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะแนบแน่นใจทางพฤตินัยแล้วก็ตาม สายทิพย์ มารดาของสัตยาไม่ค่อยชอบพรีมนักเพราะ เห็นความทะเยอทะยานและอยากดังเป็นดาวเด่นบนฟ้าตลอดกาลของพรีม สายทิพย์เคยคุยกับพรีมและทราบว่า พรีมไม่อยากให้มีการแต่งงาน เพราะกลัวว่าจะมาบั่นทอนความดังของตัวเอง สายทิพย์ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับสัตยา กลัวว่าเขาจะรับไม่ได้เพราะรักพรีมมาก ฝันที่จะมีชีวิตคู่ที่แสนสุขและสมบูรณ์กับคนที่ตนรัก

ที่อุบลฯ นางดวงต้อนรับลูกสาวและลูกเขยด้วยความยินดียิ่ง แต่นางดวงยังไม่ยอมญาติดีกับลุกส์ เนื่องจากไม่ชอบหน้าลูกเขยฝรั่ง เพราะถือว่าพรากลูกสาวของแกไปไกลบ้าน แม้ต่อหน้าคนอื่นแกจะแสดงความชื่นชมเขยคนนี้ แต่พออยู่กันในครอบครัว แม่ยายจะหาเรื่องลูกเขยทุกครั้งไป และลูกเขยก็ช่างยั่วโทสะแม่ยายได้ทุกครั้งไปเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยโกรธกันเป็นเรื่องเป็นราวสักที มีแต่จะสร้างความขำขันในครอบครัว เพราะนางดวงเป็นคนมีอารมณ์ขันอย่างร้ายเป็นจอมโวยวายที่น่ารัก

ขณะ ที่เดือนพิลาส กำลังเข้าตาจนที่กรุงเทพฯ เธอถูกโมเดลลิ่งโฆษณาหลอก และเชิดเงินค่าตัว เดือนพิลาสจะไปปรึกษาเอกราชเพื่อนสนิทก็ไม่ได้เพราะเขาไปอุบลฯ เพื่อหาทัสยาคนรักแล้ว เดือนพิลาสต้องกระเด็นออกจากคอนโดหรูเพราะไม่มีเงินจ่าย เธอเดินย่ำต๊อก ไม่รู้หนทางในกรุงเทพ จากคอนโดแถวสุขุมวิทเดือนพิลาสเดินหลงมาอยู่บริเวณย่านที่มีหญิงบริการเดิน กลาดเกลื่อนอย่างนานา เธอถูกฝรั่งเข้าประกบเพราะเข้าใจผิดว่าทำอาชีพอย่างว่า เดือนพิลาสรับไม่ได้ ยิ่งเกลียดสภาพบ้านเมืองขณะนี้มากขึ้น จังหวะเดียวกับที่สัตยาขับรถผ่านมาเห็นเข้า สัตยาถึงกับตะลึงที่สาวสวยที่เขาเคยสะดุดในรูปโฉมและเป็นคนเดียวกับที่ไป เสนอเพลงกับเขาต้องตกอับถึงขนาดนี้

สัต ยามีโอกาสได้เจอกับเดือนพิลาสอีกครั้งที่โรงพยาบาล และครั้งนี้เดือนพิลาสถูกขอร้องจากทัสนาให้ช่วยแกล้งเป็นแฟนเอกราช เพราะทัสนาไม่กล้าบอกพี่ชายว่าตนรักกับลูกชายของบริษัทที่สัตยามีเรื่อง ราวออกมา ขณะที่สัตยาอยู่ที่อุบลฯ ชลดา เลขาของเขาโทรมารายงานข่าวร้าย นั่นคือ พรีม ขอถอนตัวออกจากบริษัท สัตยาพยายามติดต่อพรีมแต่ติดต่อไม่ได้ จนในที่สุดรู้ว่าพรีมไปพักผ่อนที่ออสเตรเลีย

สัตยารู้ว่าทั้งหมด เป็นแผนของคมกฤช เขาพยายามติดต่อพรีม แต่พรีมไม่ยอมคุยกับเขามากนัก นอกจากบอกว่าเธอมีความจำเป็น ครอบครัวเธอต้องการบ้านใหม่ น้อง ๆ เธอจะต้องใช้เงินเรียนต่อสูงขึ้นมาก เธอเอาครอบครัวมาอ้างควบคู่ไปกับตัวเลขค่าใช้จ่าย และสัตยารู้ว่าด้วยเงื่อนไขตัวเลขสูงลิบขนาดนั้นเขาคงจะช่วยพรีมไม่ได้ เขาเอาเงินแม่เขามามากเกินพอแล้ว สัตยาเสียใจกับเรื่องที่พรีมขอถอนตัวไป และมันหมายถึงการบอกเลิกด้วย เขากลับมากรุงเทพฯและจมอยู่กับเหล้าภายในห้อง ปิดกั้นข่าวทุกอย่าง คุณสายทิพย์แม่ของสัตยาเฝ้ามองลูกชายอย่างเป็นห่วง

ยาย ดวงยิ่งภูมิใจนักหนาที่ทำให้หลานสาวหัวนอกจ๋ากลับมาซึมซับวัฒนธรรมดั้งเดิม ได้สำเร็จ อาการรังแครังคัดบ้านนอกของเดือนพิลาสหายไปพร้อม ๆ กับจิตวิญญาณที่ลื่นไหลไปกับวัฒนธรรมอิสานของเธอที่เพิ่มพูน บัดนี้เดือนพิลาสรู้แล้วว่า ตัวตนของเธอนั้นก็มีส่วนหล่อหลอมมาจากรากเหง้าความเป็นไทยมากมายเพียงใด เมื่อจบการทัวร์คอนเสิร์ต สัตยาเจรจาทำเทปให้กับเดือนพิลาส ยายดวงยิ่งสนับสนุนเต็มที่ เดือนพิลาสในมาด เดือนเด่น แดนดาว ถูกสัตยาจับมาเจียรไนใหม่เฉิดไฉไลกว่าเก่า มีเพลงชุดใหม่ออกมาในแนวเดิมที่เดือนเด่นถนัด และมีการโปรโมตกันเป็นพิเศษ สัตยาอาศัยความเป็นก๊อปปี้ไรเตอร์เก่า และอยู่ในแวดวงโฆษณาทำให้เดือนเด่นดังเป็นพลุ

คมกฤชเริ่มจับตามอง เดือนเด่น และหันมาเคี่ยวเข็ญพรีมเปลี่ยนแนวเพลงเป็นเพลงลูกทุ่งผสมหมอลำ พรีมแทบขาดใจตายด้วยความแค้นเคือง คมกฤชบอกว่าหากพรีมไม่ทำตามที่เขาบอกก็จะไม่มีเทปชุดใหม่ออกมา และเขายังปิดกั้นการเดินสายออกคอนเสิร์ตและงดแผนการโปรโมตพรีมอย่างเลือด เย็น พรีมซมซานกลับมาหาสัตยา แต่พบว่าเขาเฉยเมยกับเธอ พรีมเกิดลูกฮึดไปทำเทปแข่งกับเดือนเด่นแต่ปรากฏว่าหล่อนสู้เดือนเด่นไม่ได้ เลย คมกฤชให้สัญญาลับ ๆ กับพรีมให้ออกมาแฉความสัมพันธ์กับสัตยา แล้วบอกว่าเธอโดนทอดทิ้ง พรีมไม่มีทางเลือกนอกจากจำยอม สร้างความลำบากใจให้กับสัตยามาก ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับเดือนเด่นที่กำลังงดงามแทบจะพังทะลายลง

พรีม ยิ่งคับแค้น หล่อนพบว่าตัวเองตกอับลงเรื่อยๆ พยายามวิงวอนคมกฤชก็ไม่ประสบผลสำเร็จ สัตยากับเดือนเด่นปรับความเข้าใจกันเรื่องงานและร่วมกันทำเพลง เปิดเดินสายทั่วประเทศ คมกฤชพยายามดิสเครดิตทุกทาง สุดท้ายเขาวางแผนโฉดชั่วเข้าทางยายดวงให้ร้ายสัตยา และให้พรีมมาขอพบกับเดือนเด่นอย่างลูกผู้หญิงด้วยกัน ให้พรีมโกหกเรื่องท้อง เพราะรู้ว่าเดือนเด่นรับไม่ได้ ประกอบกับเดือนเด่นกับสัตยาไม่มีเวลาคุยกัน

เดือน เด่นตัดสินใจเลิกร้องเพลง เธอร้องเพลง “ซัมเมอร์เผลอรัก” ฝากไว้เป็นเพลงสุดท้าย พอดีกับที่อินทิราหายจากบาดเจ็บกลับมารับช่วงต่อได้ทัน เดือนเด่นกลับนิวยอร์คพร้อมลุกส์ ดาวเรือง และจอนนี่ เดปป์ แล้วสัตยาก็รู้หัวใจตัวเอง เขาเดินทางไปนิวยอร์ค หากแต่เขาไม่ได้ต้องการน้องนางบ้านนาที่ชื่อ เดือนเด่น แดนดาว เป็นนักร้องประจำค่าย แต่สัตยาต้องการเดือนพิลาสกลับไปอยู่ประจำใจของเขา

ผู้กำกับ : ณรงค์ ปุนบุตรดา
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท :
บทประพันธ์ : กันยามาส

นักแสดง
ณัฐวุฒิ สกิดใจ
อารยา เอ ฮาร์เก็ต

หนึ่งฤทัย

หนึ่งฤทัย เป็นเรื่องราวของ หนึ๋งฤทัย ( อลิชา ไล่ศัตรูไกล ) เป็นลูกสาวคนเดียวของโกศล ( ทูน หิรัญทรัพย์ ) นักธุรกิจใหญ่ เป็นเด็กสาวแสน สวยที่เอาแต่ใจตัวเองเพราะผู้เป็นพ่อรักและสงสารที่เธอต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ ยังเด็ก หนึ่งฤทัยมีน้าสาวชื่อ กรอง กาญจน์ ( วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง ) ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูหนึ่งฤทัยมาตั้งแต่แบเบาะ โดยกรองกาญจน์แอบหลงรักโกศลอยู่

ยิ่งโกศลและกรองกาญจน์ตามใจหนึ่งฤทัยมากเท่าไร คุณย่าทองแท้ ( พิศมัย วิไลศักดิ์ ) กับสุนทรีย์ ( บุญฑริก ทัศนารมณ์ ) น้องสาวโกศล ก็ยิ่งหมั่นไส้หนึ่งฤทัยมากขึ้นเท่านั้น ทุกครั้งที่หนึ่งฤทัยก่อเรื่องจนถูกพ่อหรือคุณย่าดุ เธอก็จะเข้าไปคุกเข่าต่อหน้ารูปแม้พร่ำรำพัน จนโกศลใจอ่อนทุกครั้งไป และแม้ว่าหนึ่งฤทัยจะมีข้อเสีย หลายอย่าง แต่ ในความร้ายกาจนั้น เธอก็เป็นคนน่ารักและมีใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น

เมื่อวัยเด็กหนึ่งฤทัยเคยสนิทสนมกับ พัฒน์ ( ธนา สุทธิกมล ) ซึ่งเป็นลูกชาย ของ คมสัน ( เวย์น ฟอลโคเนอร์ ) เพื่นรักของโกศล ซึ่งต่อมาคมสันและ ภรรยา นุชนารถ ( ปริศนา กล่ำพินิจ ) ไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปีต่อมา ครอบ ครัว ของคมสันกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เมื่อพัฒน์เรียนจบปริญญาตรี ด้าน สถาปนิก พร้อมกับมาสมาชิกใหม่เพิ่มอีกคน คือ พงศ์ ( ตะวันไทย ไทยสวัสดิ์ ) น้องชายของพัฒน์ ทำให้หนึ่งฤทัยได้พบกับพัฒน์อีกครั้ง และด้วยความ เป็นสุภาพบุรุษที่แสนดีของพัฒน์ ทำให้หนึ่งฤทัยเริ่มสนใจและหลงรักพัฒน์ ในทันทีที่พบหน้ากัน

วันประกาศผลสอบเอ็นทรานซ์ หนึ่งฤทัยสอบติดมหาลัยเดียวกับแก๊งค์สามซ่าส์ที่มี 3 สาว อากิโกะ หญิง และเจนนี่ ( วิจิตรา ตรียะกุล, กิรติพร กุลยิ่งวัฒนวิทย์, สุธินี มัณยานนท์ ) ที่เป็นคู่ปรับกับหนึ่งฤทัย มาตั้งแต่ โรงเรียน มัธยม และในวันเดียวกันนั้นมีเด็กสาวใส่แว่นหนาเตอะท่าทางเปิ่นเชยชื่อ พิมพ์พรรณ ( ญดา โชติชูตระ กูล ) มาดูผลสอบด้วย สาวซ่าส์แกล้งกระแทกจนพิมพ์พรรณล้มลง หนึ่งฤทัยเข้าไปช่วยปกป้องพิมพ์พรรณ สาวซ่าส์สู้ไม่ได้กระเจิดกระเจิงหนีไปพิมพ์พรรณรีบตามไปขอบใจหนึ่งฤทัยอย่าง ซาบซึ้ง หนึ่งฤทัยไม่รู้ตัวเลยว่า พิมพ์พรรณเฝ้ามองและประทับใจในน้ำใจของหนึ่งฤทัยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แล้ว และในตอนนี้ก็ยิ่งเพิ่ม ความประทับใจในตัวหนึ่งฤทัยมากกว่าเดิม

วันเปิดเทอมวันแรกที่มหาวิทยาลัย ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง เพื่อนได้เริ่มต้นขึ้น หนึ่งฤทัย พิมพ์พรรณ และประวิทย์ ( วัชรชัย สัตย์ พิทักษ์ ) กลายเป็นเพื่อนร่วมแก๊งค์เดียวกันโดยมี 3 สาวแก๊งค์สามซ่าส์เป็น คู่ปรับเหมือนเคย หนึ่งฤทัยแนะนำให้พัฒน์รู้จักกับพิมพ์พรรณ และ ประวิทย์ พัฒน์รู้สึกขำและเอ็นดูท่าทางที่เด๋อด๋าของพิมพ์พรรณ ส่วน พิมพ์พรรณ เองก็ประทับใจในตัวพัฒน์อยู่เงียบ ๆ ในขณะเดียวกันประวิทย์ก็ พยายาม ปิดบังความรู้สึกพิเศษที่มีต่อหนึ่งฤทัย คิดเสมอว่าเขาไม่เหมาะ สม กับเธอ และเข้าใจว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว คือ พัฒน์

วันหนึ่ง โกศลก็ได้พบกับ ทิพย์อาภา ( เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ) แม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์ เจ้าของสนามกอล์ฟ โดยไม่ รู้ว่าทิพย์อาภาเป้นแม่ของพิมพ์พรรณ เพื่อนสนิทของหนึ่งฤทัย โกศลหลงรักทิพย์อาภาทันทีและหา โอกาสทำ ตัวใกล้ชิดจนทิพย์อาภามีใจให้ แต่ปัญหาของทั้งคู่ก็คือ กลัวว่าลูกสาวของตนจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ สุนทรีย์พยายาม ขัดขวางความรักระหว่างโกศลกับทิพย์อาภา เพราะเข้าใจว่าทิพย์อาภาแย่งวรเชษฐ์ ( ทัตพงศ์ พงศ์ทัต ) แฟนของเธอไป สุนทรีย์จึงคิดแผนร้ายโดยใช้กรองกาญจน์ เป็นเครื่องมือทำลายความสัมพันธ์ของโกศล และทิพย์ อาภา กรองกาญจน์เจ็บปวดเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหมดความหมาย จนดื่มเหล้าจนเมามาย และเข้าหา โกศลในคืนหนึ่ง โกศลตกใจในการกระทำของ กรองกาญจน์ ไล่เธออกจากห้องและยืนยันว่า เขาเห็นเธอเป็น เพียง น้องสาว พิมพ์พรรณ ถูกแก๊งค์สามซ่าส์พูดจาเฉือดเชือนทำร้ายจิตใจว่า เธอไม่สวย เฉิ่มเชย ไร้ค่าเหมือนสูญ ญากาศ ด้วยความสงสารหนึ่งฤทัยตัดสินใจพา พิมพ์พรรณ ไปแปลงโฉมจนกลายเป็นสาวสวยพริ้ง ไม่เหลือเค้าของคนเดิม พิมพ์พรรณปราบปลื้ม และยิ่งรักและศรัทธาใตตัวหนึ่งฤทัยมากขึ้น

เมื่อพัฒน์พบพิมพ์พรรณอีกครั้ง ความรักระหว่างเขาและเธอก็ยิ่งก่อตัวขึ้นโดย ที่หนึ่งฤทัย ไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อย โกศลและทิพย์อาภา นัด หนึ่งฤทัยและ พิมพ์พรรณมาพบที่สนามกอล์ฟ เพื่อบอกเรื่องการแต่งงาน วันนั้น ทั้งสองต้องทั้งดีใจและแปลกใจเมื่อรู้ว่าลูกสาวเป็นเพื่อนนรักกัน และยินดี ที่จะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน ในงานแต่งงาน กรองกาญจน์ ฉวยโอกาส ยุแยงหนึ่งฤทัยว่าทิพย์อาภาและพิมพ์พรรณ กำลังจะมาแย่งทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่เป็นของเธอไป ประกอบกับหนึ่งฤทัยพบภาพบาดใจที่พัฒน์แสดงท่า ที สนใจพิมพ์พรรณอย่างเห็นได้ชัดหนึ่งฤทัยเริ่มหวั่นไหวไปกับคำพูดของกรองกา ญจน์ เธอรู้สึกปวดหัวอย่างหนักขึ้นมาเป็นครั้งแรก

หนึ่งฤทัย เริ่มเปลี่ยนไป แสดงกิริยาเหมือน ทิพย์อาภาและ พิมพ์พรรณเป็นเพียงผู้อาศัย จนรู้สึกว่าตัวเองเคว้ง คว้างไม่มีใครในขณะเดียวกันทิพย์อาภาก็เริ่มตั้งท้อง เธอแอบบอกเรื่องนี้กับพิมพ์พรรณและขอให้เก็บเป็น ความลับไว้ก่อน เพราะกลัวว่าหนึ่งฤทัยจะยิ่งคิดมาก พิมพ์พรรณเริมหวั่นไหวว่าวันหนึ่งถ้าหนึ่งฤทัยจะรู้เรื่องนี้เข้า อาจจะคิดทำร้ายแม่ของเธอที่มหาวิทยาลัยนักศึกษารุ่นพี่จะจัดการแสดงละครเวที เป็นละครร้อง แบบโบราณ เรื่อง……..โรสิตา ทุกคนลงความเห็นว่าหนึ่งฤทัยเหมาะจะเป็นพระเอก คู่กับ พิมพ์พรรณที่อ่อนหวานสมเป็น นางเอกคืนงานวันเกิดคุณย่าทองแท้ หนึ่งฤทัยเอาเข็มหมุดไปปักไว้ในชุดรำฉุยฉายของพิมพ์พรรณ พิมพ์พรรณ ถูกเข็มหมุดแทงจนเลือดไหล ทิพย์อาภาตกใจ ครูบอกว่ามีเพียงหนึ่งฤทัยที่เข้ามาในห้องแต่งตัว ทิพย์อาภา โกรธมาก

ต่อมาเมื่อทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของหนึ่งฤทัย โกศลโกรธมากจนถึงขั้นตบหน้าลูก หนึ่งฤทัยวิ่งหนีออกมา ทิพย์อาภารีบตามมาเพื่อปรับความเข้าใจ แต่เรื่อง กลับเลวร้ายมากขึ้น เมื่อสุนทรีย์มาตอกย้ำให้หนึ่งฤทัยสับสนว่า ทิพย์อาภา เสแสร้งทำเป็นคนดี หนึ่งฤทัยตัดสินใจจะหนีไปให้พ้นทิพย์อาภายื้อหยุด ห้ามไว้ หนึ่งฤทัยสะบัดจนทิพย์อาภาพลัดตกบันได และทุกคนยิ่งตกใจมากขึ้น เมื่อพิมพ์พรรณ บอกว่าทิพย์อาภากำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งทำให้หนึ่งฤทัยตกใจมากที่บ้านโกศล พัฒน์มาบอกคุณย่าทองแท้ว่าทิพย์อาภาปลอดภัยแล้ว

หนึ่งฤทัย กลับมาพอดีและเกิดมีปากเสียงกับคุณย่า เธอจึงผลุนผลันจะขับรถออกจากบ้านไป พัฒน์รีบตามขึ้นรถ ไปด้วย เขาขอร้องให้หนึ่งฤทัยจอดรถและระงับสติอารมณ์ แต่หนึ่งฤทัยไม่ยอมฟังดื้อดึงขับรถต่อไป จนเกิดอุบัติ เหตุรถชนพัฒน์ ได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ทุกคนประนามว่าเป้นความผิดของเธอ หนึ่งฤทัยรู้สึกผิด และเสียใจ มากขึ้นเป็นทวีคูณ ที่เธอทำร้ายคนที่เธอรักโดยไม่ได้ตั้งใจ หนึ่งฤทัยปวดหัวอย่างรุนแรงจนเซล้มลงหมดสติไป หมอวินัยมาพบจึงเข้าไปช่วยเหลือและพาไปตรวจที่โรงพยาบาล หนึ่งฤทัย ถึงกับช็อคไปเมื่อรู้ถึงสาเหตุของการปวด หัวอย่างรุนแรงที่เธอเป็นอยู่บ่อย ๆ หนึ่งฤทัยเริ่มได้คิดและตัดสินใจว่าจะไม่บอกใครเรื่อง อาการป่วย ของเธอ คงยังไม่สายเกินไปที่จะทำความดี ลบล้างความผิดพลาดที่เธอทำไว้กับทุกคน

นำแสดงโดย
1. พัฒน์ รับบทโดย ธนา สุทธิกมล
2. หนึ่งฤทัย รับบทโดย อลิชา ไล่ศัตรูไกล
3. ทิพย์อาภา รับบทโดย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล
4. โกศล รับบทโดย ทูน หิรัญทรัพย์
5. พิมพ์พรรณ รับบทโดย ญดา โชติชูตระกูล

ในละคร หนึ่งฤทัย