Category Archives: ละครช่อง7

ละครช่อง7 ละครช่อง 7 เรื่องย่อละครช่อง7 ละครทีวี ช่อง 7 ละครช่อง7 ทั้งหมด

แม่ค้า

ละคร แม่ค้า

อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร แสดงเป็น ภวัน (ตี๋เล็ก)

ทราย เจริญปุระ แสดงเป็น นิรชา (แตน)

 

ออกอากาศในวันศุกร์ – วันอาทิตย์  เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7  พ.ศ. 2544

ข้ามาคนเดียว

ข้ามาคนเดียวข้ามาคนเดียว เป็นเรื่องราวชีวิตของ ครุย อังคาร อดีตตำรวจผู้ซื่อสัตย์แต่ถูกใส่ร้ายจนต้องติดคุก เมื่อเขาพ้นโทษออกมา ทำให้ยันต์ ยมราช หวาดกลัว เลยสั่งให้สมุนออกไล่ล่า ครุยหนีการตามล่า กระโดดขึ้นไปบนเวทีหมอลำของ สาริกา ทำให้เธอโกรธมาก ที่ครุยทำให้การแสดงต้องยุติลง ครุยเดินทางไปหาเพื่อนเก่า และได้พบกับ สีหมอก ลูกชายของตัวเองที่ตอนนี้บวชเป็นสามเณร กับ คำสี ที่เขารู้ว่า คำสีกลายเป็นเสียสติไป เพราะถูกพวกของยันต์ ยมราช จับไปทารุณกรรม  ครุยไปดักพบกับคำสีที่หน้าอนุเสาวรีย์ย่าโม แต่คำสีจำครุยไม่ได้ และยังหวาดกลัว ว่าจะเข้ามาทำร้าย ครุยได้ปะทะกับพวกสมุนเจ้าพ่อ และคำสีถูกจับตัวไป

ขาล ขุขันธ์ เป็นตำรวจที่ปลอมตัวไปเป็นสายลับ จนมีความสนิทกับเจ้าพ่อโคราช ยันต์ ยมราช ครุยได้เข้ามาที่ห้องของจ่าโง่น ลูกน้องของเจ้าพ่อ แต่พลาดท่าโดนจับที่นั่น ในงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าพ่อ ขาลแอบไปช่วยครุยหนีออกมาได้ เจ้าพ่อสั่งไล่ล่า ครุยหนีไปหลบที่ห้องนอนของแขมแข ที่กำลังตกใจทั้งที่ในมือถือปืนข่มขู่อยู่ พอแขมแขเผลอครุยก็เข้าไปกอดจูบจนแขมแขจนทำปืนหลุดมือ แขมแขรู้ตัวว่าตัวเองถูกเจ้าพ่อโคราชหลอกใช้ เลยถอนหมั้น แขมแขจะหนีแต่ถูกจับตัวไว้ แล้วก็ย้ายฐานทัพไปกบดานในป่า

ขาล ขุขันธ์แอบเข้าไปตามค้นเอกสารลับ พร้อมกับพาแขมแขหนี พอเจ้าพ่อรู้ก็สั่งให้ลูกน้องตามล่า มไหศวรรย์พาทั้งคู่ไปปสมทบกับพวกครุย ที่ค่ายมวยคำม่วน แล้วขาลก็เอาหลักฐานเอกสารลับของเจ้าพ่อให้อินทร์ดู อินทร์บอกว่าเจ้าพ่อติดคุกแน่นอน และมไหศวรรย์ ก็เป็นแสดงตัวว่าเขาเป็น นายอำเภอส่วนขาลก็รายงานตัวว่าเขาคือ สารวัตรทุกคนตกใจที่รู้ความจริง แล้วทุกคนก็ร่วมมือกันจัดการกับ ยันต์ ยมราช เจ้าพ่อโคราช เหตุการณ์จะบู๊ดุเดือด เลือดพล่านขนาดไหน แล้วบทสรุปสุดท้ายชีวิตของ ครุย อังคาร จะลงเอยอย่างไรต้องติดตามชมกันในละครบู๊แอ็คชั่น ข้ามาคนเดียว

ผู้กำกับ : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร
ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
เขียนบท : ปลายปากกา
บทประพันธ์ : เพชร สถาบัน

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร ข้ามาคนเดียว

วงศกร ปรมัตถากร  แสดงเป็น  ครุย อังคาร
วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร  แสดงเป็น  แขมแข
อานัส ฬาพานิช  แสดงเป็น  ขาล ขุขันท์
กวินตรา โพธิจักร  แสดงเป็น  สาริกา
วาทิต โสภา  แสดงเป็น  มไหศวรรย์
เอกราช กฤตสิริทิพย์  แสดงเป็น  อินทร์ ดาวดึงส์
ดาริน ดารากานต์  แสดงเป็น  มะตูม
กรเศก โคร์นิน  แสดงเป็น  ยันต์ ยมราช
ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์  แสดงเป็น  กลอยใจ
อุษณีย์ วัฒฐานะ  แสดงเป็น  คำสี
สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์  แสดงเป็น  จ่าโง่น
โอภาภูมิ รัชชารมย์  แสดงเป็น  ยง
ชนกันต์ พูนศิริวงศ์  แสดงเป็น  ดำ
ภูษณิสา โชติกิตติมาศ  แสดงเป็น  กระถิน
ชูษี เชิญยิ้ม  แสดงเป็น  สัปเหร่อโข่ง
วิศรุต สะราคำ  แสดงเป็น  อ่าง
กระรอก เชิญยิ้ม  แสดงเป็น  ฮวด
สาธิต ทองจันทร์  แสดงเป็น  ดาว ด่านเกวียน
เปรมกมล พาชีรัตน์  แสดงเป็น  หลวงตา
สามารถ พยัคฆ์อรุณ  แสดงเป็น  คำม่วน
สมบัติ ขจรไชยกุล  แสดงเป็น  เสี่ยไพบูลย์
อุ่นเรือน ราโชติ  แสดงเป็น  เข
อ้อยใจ แดนอีสาน  แสดงเป็น  บุญท้วม
ณรงค์ศักดิ์ เลิศวรานุรักษ์  แสดงเป็น  เสี่ยบุญยิ่ง
อภิรักษ์ ตั้งสถาพรพันธ์  แสดงเป็น  สีหมอก
อมต อินทานนท์  แสดงเป็น  สตีฟ ปืนจิ๋ว
ศิรวิชญ์ สังวริบุตร  แสดงเป็น  เก่ง
ปริญญา ยงสวัสดิ์  แสดงเป็น  เฮง
จักรธิป ทองทิพย์  แสดงเป็น  รามสูร
ธนพัฒน์ น้อยทวี  แสดงเป็น  ราหู
นิพนธ์ จิตเกิด  แสดงเป็น  สุครีพ

ข้ามาคนเดียว เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2559 ทางช่อง 7 ออกอากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี

 

ชื่นชีวา

ชื่นชีวา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชีวา มีความรักกับ ม.ล.นิวัฒน์ ที่ชัยนาท และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันจนตั้งท้อง แต่พ่อแม่ของ ม.ล.นิวัฒน์ ต้องเรียกตัวให้กลับบ้าน เพื่อจะแต่งงานกับกานดา สาวไฮโซ แต่ไม่นานกานดาก็รู้เรื่องว่า สามีเคยมีภรรยามาก่อน เลยสร้างเรื่องใส่ร้าย ว่าชีวา ท้องกับชายอื่น จนหลวงพิทยไพบูลย์ต้องพาลูกสาวหนีออกมาจากชัยนาท มาอยู่แถวรังสิต และเปลี่ยนชื่อเป็นนายชม ชีวาเปลี่ยนเป็นช้อย และตั้งชื่อลูกสาวที่กำเนิดมาว่า ชื่น

ชื่น เป็นผู้หญิง แต่ถูกเลี้ยงดูให้เหมือนผู้ชาย และให้เพื่อนบ้านคิดว่าเป็นผู้ชาย แม้แต่ลูกน้องของชื่นเอง ก็ไม่รู้ ตาชมฝึกวิชาป้องกันตัวให้จนเก่ง ชื่นรู้จักสนิทสนมกับคุณต้น และคุณต่อ ลูกชายของพระยาพิชัยศรายุทธ ที่อยู่บ้านหลังใหญ่ใกล้ๆ กัน แม้ว่าจะไปอยู่ที่อื่น ก็ยังเขียนจดหมายติดต่อกันอยู่ และจดหมายฉบับที่ชื่นอ่าน คุณต่อเล่าว่า ท่านเจ้าคุณพ่อจะแต่งงานใหม่กับ ม.ล.วีณา ชวาล น้องสาวของม.ล.นิวัฒน์ ชวาล เจ้าเมืองชัยนาท เมื่อได้ยินชื่อนี้ ตาชมก็โกรธจัด แต่ไม่ได้บอกเหตผลอะไรกับชื่น บอกแต่ว่า ถ้าชื่นโตมากกว่านี้จะเล่าเรื่องให้ฟัง

วันหนึ่งคุณต้นกับคุณต่อกลับมาบ้าน และมาชวนชื่นไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้ได้พบกับ เกศินี ชวาล ลูกสาวของกานดา กับ ม.ล. นิวัฒน์ ที่กานดาฝากให้อยู่กับคุณหญิงวีณา เกศินีติดใจคุณต้น ถึงกับขอตามมาที่รังสิตด้วย และเคยได้ยินชื่อของชื่นมาแล้วจากคุณต่อคุณต้น ทำให้เกิดความหมั่นไส้ เมื่อเจอกันก็จิกเรียกชื่น ว่า บ้านนอก ไพร่ จนเกือบจะมีเรื่องกัน เรื่องเที่ยววันนั้นจึงได้ยกเลิกไป ตาชมเมื่อรู้เรื่อง ยิ่งผูกใจเจ็บมากยิ่งขึ้น

คุณต่อกับคุณต้น ยังไปมาหาสู่ที่บ้านของชื่น และคุณต่อยังพูดเล่นว่าถ้าชื่นเป็นผู้หญิง คงสวยมาก และจะขอแต่งงานด้วย ขออย่าให้พี่ชายขัดขวาง ทำให้เกศินีหงุดหงิดและเกลียดชื่นมากขึ้นทุกที ไม่นานคุณหญิงวีณา และพระยาพิชัยศรายุทธ ก็ตามมาพักที่รังสิต เกศิณีฟ้องอาทันทีว่าชื่นเป็นนักเลง ปากร้าย ไม่น่าคบหา แต่เมื่อคุณหญิงวีณาได้พบกับชื่น ก็เห็นถึงน้ำใจ และนึกรักเอ็นดูชื่นอย่างอธิบายไม่ได้ ถึงขนาดไปขอกับตาชม ว่าจะเลี้ยงดูอย่างดีให้เหมือนลูกหลาน ฝ่ายตาชมก็นึกสะใจอยู่ลึกๆ และก็ใจอ่อน ที่เห็นท่าทีไม่แบ่งชั้นวรรณะของคุณหญิงวีณา

เมื่อขึ้นมาอยู่ที่พิชัยศรายุทธได้ไม่นาน คุณต่อก็ไปเรียนที่โรงเรียนนายร้อย ส่วนคุณต้นก็ไปปีนัง และเรื่องที่ชื่นเป็นผู้หญิงก็เป็นที่รู้กันเพราะนมอ่อนที่รู้ความจริงก่อน และชื่นเป็นเด็กสาวที่สวยน่ารักมาก และในทีสุดก็ถึงวันที่ครอบครัวชวาลมาที่พิชัยศรายุทธ และได้พบกับชื่น ม.ล. นิวัฒน์เห็นชื่นมีหน้าตาเหมือนกับชีวามาก อดใจไม่ได้ที่จะถามถึง ว่าเธอรู้จักกับชีวาไหม แต่ชื่นกลับตอบปฎิเสธ และเขียนเล่าเรื่องนี้ให้กับตาฟัง

ชื่น หรือชื่อนามสกุลใหม่ว่า ชื่นชีวา ชวาล ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประจำหญิงล้วน เธอเรียนเก่ง นิสัยดี มีเพื่อนฝูงรักใคร่ และมีคุณต้น กับคุณต่อ จะไปรับเธอกลับบ้านทุกสัปดาห์ คุณต้นกับชื่นมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณต้นจะต้องไปเรียนต่อ ชื่นได้ถักเสื้อไหมพรมไปให้เขาใช้ที่นั่นด้วย และเขียนจดหมายติดต่อกัน ท่ามกลางความอิจฉาของเกศิณี

วันหนึ่งตาชมแจ้งข่าวให้ชื่นกลับบ้าน เพราะแม่กำลังป่วยหนัก ชื่นรีบกลับบ้านไปพร้อมกับคุณหญิงวีณากับ ม.ล. นิวัฒน์ ที่พาหมอประจำตระกูลไปด้วย เมื่อ ม.ล นิวัฒน์เห็นตาชมก็ตกใจ ตาชมหยิบปืนมาไล่ ม.ล.นิวัฒน์ ทำให้ทราบคุณหญิงวีณาทราบวันนั้นว่า ที่แท้ชื่นก็เป็นหลานแท้ๆ ของตัวเอง ส่วนตัวชีวา หรือ ช้อย นั้น ป่วยหนัก จนหมอไม่อาจจะเยียวยาได้อีกแล้ว ม.ล นิวัฒน์ จึงได้เข้าไปดูใจชีวา เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมทั้งยอมรับความผิด แต่ชีวา กลับปฎิเสธเรื่องชื่นเป็นลูกของ ม.ล. นิวัฒน์ แต่ตัวเขากลับมั่นใจว่าชื่นเป็นลูกของเรากับชีวา

เมื่อจัดงานศพของชีวาเสร็จไปแล้ว ชื่นก็กลายเป็นหลานสาวคนโปรดของคุณหญิงวีณา แต่ชื่นกลับเมินเฉยไม่แยแส กับการยอมรับของพ่อ เพราะพ่อของเธอได้ทำกับแม่และตาของเธอไว้มากมายนัก ส่วนกนก น้องชายของเกศิณี ยอมรับชื่นเป็นพี่สาวอย่างเต็มใจ ส่วนกานดากลับคิดทำลายชื่น เพราะ ม.ล. นิวัฒน์ คิดจะยกทรัพย์สมบัติให้เท่าเทียมกับลูกคนอื่นๆ จึงไปว่าจ้างให้คนไปข่มขืนชื่น แต่กนกมารับรู้เรื่องโดยบังเอิญ จึงคิดช่วยพี่สาว

เมื่อไม่มีใครอยู่บ้านนอกจาก ชื่น เกศินี และกานดา เป็นโอกาสให้จาบในมาดของนายจำรักษ์คนสนิทของหลวงพิทยไพบูลย์เข้ามาสร้าง รื่องหลอกให้ชื่นชีวาไปกับเขาจนได้ กนกร้อนใจแต่ไม่สามารถตามไปได้ ได้แต่กระวนกระวายใจจนกระทั่งคุณต่อกลับมา เขาจึงบอกให้ตามไปช่วยตามที่อยู่ที่ได้ยินมา  จำรักษ์พยายามปล้ำชื่น แต่พอเธอตั้งสติได้ ชื่นชีวาก็กลับมาอยู่ในมาดของเจ้าชื่นไอ้หนุ่มหมัดหนักอีกครั้ง เธอหาจังหวะใช้ขวดเหล้าฟาดจำรักษ์จนสลบเหมือด คุณต่อเองก็ตามมาช่วยเธอทัน เวลา จำรักษ์ และลูกน้องจึงโดนจัดการอย่างสาสม คุณต่อกับชื่นตกลงว่าจะไม่บอกใครเพื่อหาตัวการให้ได้

สองปีผ่านไป คุณต้นกลับจากเมืองไทย มีงานเลี้ยงต้อนรับเป็นการใหญ่ คุณต้นเปิดฟลอร์และปิดฟลอร์กับชื่นชีวา ทำให้เกศิณีแค้นใจมาก จึงแกล้งไปโกหกชื่นว่าเธอรักอยู่กับคุณต้น และพูดเรื่องชื่นให้คุณต่อเข้าใจผิด ว่าชื่นชอบไปหว่านเสน่ห์กับหนุ่มๆ โดยเฉพาะคุณต้น คุณต่อนั้นรักชื่นอยู่แล้ว จึงไปทวงสัญญากับพี่ชาย ว่าถ้าชื่นเป็นผู้หญิง เขาจะแต่งงานกับชื่น

คุณต้นนั่นต้องข่มใจและความรู้สึกของตัวเองไว้เพราะรักน้องชาย และลุกไปเปิดลิ้นชักหยิบแหวนหมั้นที่บิดาหมั้นคุณหญิงสลิลมารดาของเขาออกมา ชายหนุ่มพลิกแหวนดูอย่างพิจารณา เขาจะให้คุณต่อใช้แหวนวงนี้เป็นแหวนหมั้นชื่นชีวาของที่คุณต้นรักจะได้เป็น ของคนที่เขารักคือชื่นชีวา เขายอมสละสิ่งที่เขารักให้น้องได้ทั้งหมดทั้งคนรัก และของรัก งานหมั้นถูกกำหนดขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะคุณต่อต้องการหมั้นก่อนไปราชการที่เกาหลี ระหว่างนั้นทั้งชื่นชีวา และคุณต้นต่างก็หมางเมินต่อกันเพราะความเข้าใจผิดที่เกศินียุแยงไว้

ไม่นานนักคุณต่อเดินทางไปราชการที่เกาหลี วันเวลาผ่านไปชื่นชีวาตั้งใจเรียนให้ได้ปริญญาอีกใบ เธอหลบหน้าคุณต้นแม้จะมีชั่วโมงเรียนกับเขาจนเขาต้องให้นมอ่อนมาเตือน  หญิงสาวทำใจไม่ได้ถ้าจะต้องอยู่ใกล้กับคุณต้น เธอรักเขาแต่เขาไม่รักเธอเลยสักนิดผลักไสจนเธอต้องยอมหมั้นกับคุณต่อ สถานการณ์สงครามที่เกาหลีไม่ดีนักทุกคนเป็นห่วงคุณต่อ แต่แล้วข่าวร้ายมาถึงพิชัยศรายุทธในวันหนึ่งคุณต่อโดนสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ สาหัสก่อนเสียชีวิตเขาเขียนจดหมายถึง บิดา พี่ชาย และชื่นชีวา คำขอร้องครั้งสุดท้ายคือขอให้คุณต้นแต่งงานกับชื่นชีวาแทนเขา เป็นการไถ่โทษที่เขาแย่งชื่นชีวามาจากพี่ชาย  ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้สักนิดว่าทั้งสองคนรักกันเขาจะไม่หมั้นกับเธอ

พระยาพิชัยศรายุทธถามความสมัครใจจากทั้งคู่  ชื่นชีวาไม่ปฏิเสธการแต่งงานเพราะเธอต้องการให้เกศินี และกานดาต้องเสียใจเหมือนกับแม่และตาของเธอบ้าง งานแต่งงานจัดอย่างเรียบง่าย แต่ชื่นชีวายังคงงอนคุณต้นอยู่โดยที่เจ้าตัวไม่เข้าใจ แต่เขาตั้งใจว่าจะปรับความเข้าใจกับเธอเมื่อไปฮันนีมูนที่หัวหิน

ในช่วงเวลาเดียวกันเกศินียอมออกไปกับ ทรงวุฒิ และพลาดท่าเสียทีให้เขา ซึ่งจริงๆ แล้วเขาต้องการใช้เกศิณีเพื่อเป็นบันไดเข้าสู่สังคม ชั้นสูง  กานดารีบส่งนายจาบหรือจำรักษ์ไปหัวหินเพื่อทำลายครอบครัวของคุณต้น และชื่นชีวา นางต้องทำให้คุณต้นเกลียดชื่นชีวาหย่ากันแล้วจากนั้นจึงจะเป็นโอกาสของ เกศินี แต่ทรงวุฒิกลับนำรูปของเขากับเกศินีที่แอบถ่ายไว้มาแบล็กเมล์จนกานดาตั้งใจว่าต้องให้จาบฆ่าทรงวุฒิหลังจากจบงานที่หัวหิน

ที่บ้านชื่นสวาท จำรักษ์ทำให้คุณต้นเชื่อว่าจำรักษ์คือสามีของชื่นชีวาจริง ๆ คุณต้นออกจากบ้านไป ขณะที่ชื่นชีวาอาละวาดไล่จำรักษ์ออกไปเช่นกัน เธอหนีกลับมาอยู่กับตาชม ด้วยความเจ็บปวดเสียใจ นมอ่อนรีบติดต่อคุณหญิงวีณาให้ตามมาแก้สถานการณ์ กนกรีบไปบอกเรื่องราวให้กับ ม.ล. นิวัฒน์ ทั้งหมด และเล่าความจริงให้คุณต้นรู้ว่าชื่นชีวาโดนกลั่นแกล้ง ชายหนุ่มโกรธตัวเองที่หูเบาอย่างไม่น่าอภัย และสงสารชื่นชีวาจับใจ

เมื่อทุกคนตามไปถึงบ้านตาชม ตาชมต้อนรับอย่างดีและยอมให้อภัย ม.ล. นิวัฒน์ เมื่อรู้ว่าเขาได้สละโลหิตช่วยชีวิตท่านเมื่อครั้งที่ได้รับอุบัติเหตุรถชนเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนคุณต้นตามไปปรับความเข้าใจกับชื่นชีวา ส่วนที่บ้านพิชัยศรายุทธ ม.ล.นิวัฒน์ วางแผนจับจำรักษ์หรือนายจาบ รวมทั้งนางจันทร์ จนสารภาพหมดว่าทั้งหมดเป็นแผนของกานดาจนกานดาและเกศินีต้องหนีไปจากบ้าน กรรมตามทันสองแม่ลูก เมื่อยุพารู้ว่าทรงวุฒิกำลังจะทิ้งเธอไปแต่งงานกับ เกศินี ยุพาจึงยิงทั้งสามคนบาดเจ็บสาหัส

คุณต้นกับชื่นชีวาดูวิวทะเลด้วยกันที่บ้านชื่นสวาท และกอดกันไว้อย่างแสนรัก ทั้งคุ่ได้ปรับความเข้าใจกัน และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ติดตามชมละคร ชื่นชีวา

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ชื่นชีวา

ศรัณย์ ศิริลักษณ์  แสดงเป็น  คุณต้น/ศรันย์
คามิลล่า กิตติวัฒน์  แสดงเป็น  ชื่นชีวา
ณทรรศชัย จรัสมาส  แสดงเป็น  คุณต่อ/สาโรจน์
แก้วใส คริสตัล  แสดงเป็น  ม.ร.ว.ฉัตร์สุดา
ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์  แสดงเป็น  ยุพา
พูลภัทร อัตถปัญญาพล  แสดงเป็น  นัทที
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์  แสดงเป็น  ทรงวุฒิ
กชกร ส่งแสงเติม  แสดงเป็น  เกศินี
สรพงศ์ ชาตรี  แสดงเป็น  หลวงพิทยไพบูลย์/ตาชม
เกรียงไกร อุณหนันท์  แสดงเป็น  พระยาพิชัยศรายุทธ
วสุ แสงสิงแก้ว  แสดงเป็น  ม.ล.นิวัฒน์ ชวาล
นคินธร ภาษยวรรณ์  แสดงเป็น  กนก
จักรกฤษณ์ คชรัตน์  แสดงเป็น  จาบ/จำรักษ์
ธีระธันญ์ ขจรชัยเดชาวัฒน์  แสดงเป็น  เปี๊ยก
พรรัมภา สุขได้พึ่ง  แสดงเป็น  ยุพา
กชกร นิมากรณ์  แสดงเป็น  ชีวา/ช้อย
อัญษนา บุรานันท์  แสดงเป็น  คุณหญิงวีณา
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์  แสดงเป็น  กานดา
กุสุมา ตันสกุล  แสดงเป็น  สะอาด
วิยะดา อุมารินทร์  แสดงเป็น  แม่ยง
ปนัดดา โกมารทัต  แสดงเป็น  นมอ่อน
สริยา บุตรดาวงศ์  แสดงเป็น  นันทลี
อำภา ภูษิต  แสดงเป็น  นางเจือ
พจนีย์ ใยละออ  แสดงเป็น  นางจันทร์
พิชชาภา กัลยาณสันต์  แสดงเป็น  วนิดา

บัลลังก์หงส์

บัลลังก์หงส์ เป็นเรื่องราวของ จอมขวัญ สาวน้อยวัย 18 ประสบอุบัติเหตุ ขี่มอเตอร์ไซค์ชนกับรถยนตร์คันงาม ซึ่งก็คือ พ่อบังเกิดเกล้าของเธอเอง ทำให้เธอได้รู้ชาติกำเนิดของตัวเองว่า เป็นสายเลือดคนหนึ่งของตระกูลลีลาวัฒน์ ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดของไทย  แต่ถูกทอดทิ้ง ผิดกับพิทักษ์พงศ์พี่ชายฝาแฝด ทำให้เธอตั้งปณิธานไว้ว่า สักวันหนึ่งเธอจะต้องเข้าครอบครองบริษัทลีลาวัฒน์ให้จงได้

วันหนึ่งจอมขวัญได้ช่วยชีวิตมิสเตอร์คิม นักธุรกิจชาวเกาหลี เขาเห็นแววบางอย่างในตัวเธอ จึงรับอุปการะไว้ในฐานะลูกสาวบุญธรรม และเคี่ยวกรำฝึกฝนอย่างหนักทางด้านธุรกิจ จนเธอเกือบจะท้อถอย จนได้มาพบกับปริวัตร ชายหนุ่มที่เธอเคยรู้จักตั้งแต่เธอยังเป็นแค่ไอ้จ๋อม ทั้งสองมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน และเธอพบว่า ปริวัตรมาในฐานะพนักงานคนหนึ่งของลีลาวัฒน์ และ ดารารัตน์  กับสิริวิมล ลูกสาวคนเล็กของตระกูลลีลาวัฒนชัย เธอจึงได้ถอยห่างออกมา และเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นมิสโจว นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง และพร้อมที่จะช่วงชิงกิจการในเครือลีลาวัฒน์มาเป็นของเธอ

มิสโจวหาทางซื้อหุ้นจากคนนอกตระกูล และตีสนิทกับคนในตระกูลลีลาวัฒนชัยไปพร้อมๆ กัน หลี่ซวงเห็นความฉลาดเฉลียวของมิสโจว ทั้งยังได้รับการเอาใจใส่แบบที่ไม่เคยได้รับจากหลานคนไหน ทำให้หลี่ซวงเอ็นดูเธอเป็นพิเศษ และคิดจะจับคู่เธอให้พับพิทักษ์พงศ์

จำนวนหุ้นที่มิสโจวได้มานั้น กลับน้อยกว่าที่คิด เธอมีทางเลือกคือบอกกับพิทักษ์พงศ์หรือทำให้ปริวัตรหลงรัก และแต่งงานกับเธอ จอมขวัญดึงปริวัตรให้มาสนใจตน จนดารารัตน์เริ่มระราน และจ้างนักข่าวให้สืบหาจุดอ่อนของจอมขวัญมาให้ ในขณะที่คนในครอบครัวลีลาวัฒนชัยแต่ล่ะคนมีปัญหาต่างๆ กันไป มิสโจวคอยปลอบใจหลี่ซวง และให้คำปรึกษา แต่ต้องการทำลายครอบครัวนี้ โดยเฉพาะ สุมลทา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อ ที่ทำให้แม่ของเธอต้องระหกระเหินไป พิทักษ์พงศ์ได้ทราบความจริงเกี่ยวกับแม่ และดารารัตน์รู้เรื่องแผนการของมิสโจว ก็ตั้งใจมาเปิดโปงที่งานแต่งงานของมิสโจวกับปริวัตร

เมื่อทุกอย่างถูกแฉกลางงาน หลี่ซวงถึงกับโรคหัวใจกำเริบ ปริวัตรเสียใจที่ถูกหลอกใช้ จอมขวัญพยายามไถ่โทษเพราะเธอรู้สึกผิด และรู้สึกรักปริวัตรอย่างจริงใจ ในขณะที่ปริวัตรหันไปคบกับดารารัตน์เพื่อประชดเธอ และหึงหวงเธอกับว่าน จนใช้กำลังปลุกปล้ำภรรยาของตัวเอง แต่แล้วจอมขวัญก็หนีจากเขาไป หลี่ซวงตัดสินใจยกบัลลังก์ตระกูลลีลาวัฒนชัยที่เธอครอบครองมาเกือบทั้งชีวิต ให้กับพิทักษ์พงษ์ ฝ่ายปริวัตรตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลไปหามิสเตอร์คิมเพื่อถามข่าวคราวของจอมขวัญ และให้เขาพิสูจน์รักแท้ที่เขามีต่อผู้เป็นลูกสาว ก่อนจะบอกที่อยู่ของจอมขวัญให้ปริวัตรได้รับรู้จนเขาสามารถตามไปหาเธอ และปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

รายชื่อนักแสดงใน ละคร บัลลังก์หงส์

ภัทรเดช สงวนความ  แสดงเป็น  ปริวัตร
พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์  แสดงเป็น  จอมขวัญ/มิสโจว
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล  แสดงเป็น  หลี่ซวง
ศุกล ศศิจุลกะ  แสดงเป็น  คงศักดิ์
แวร์ โซว  แสดงเป็น  สุมลทา
น้ำทิพย์ เสียมทอง  แสดงเป็น  จินดา
วชิรา เพิ่มสุริยา  แสดงเป็น  ประไพ
วีรคณิศร์ กานต์วัฒนกุล  แสดงเป็น  ว่าน
อนิสา นูกราฮา  แสดงเป็น  ดารารัตน์
พรรัมภา สุขได้พึ่ง  แสดงเป็น  สิริวิภา
ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร  แสดงเป็น  สิริกานดา
รัญดภา มันตะลัมพะ  แสดงเป็น  สิริวิมล
พีรกร โพธิ์ประเสริฐ  แสดงเป็น  พิทักษ์พงศ์
ปทิตตา อัธยาตมวิทยา  แสดงเป็น  มุนิน
สุทธิ์คุณ วันทานุ  แสดงเป็น  ทัศน์
ดนัย สมุทรโคจร  แสดงเป็น  มาร์ค
ศรุฒ สุวรรณภักดี  แสดงเป็น  บรรพรต
นพพล พิทักษ์โล่พานิช  แสดงเป็น  โสภณ
ปิยะดา เพ็ญจินดา  แสดงเป็น  ปราณี
นราวัลย์ จันทร์เจริญ  แสดงเป็น  ปรุงฉัตร
สุเชาว์ พงษ์วิไล  แสดงเป็น  มิสเตอร์คิม
กรกฏ ธนภัทร  แสดงเป็น  เกาเฟย
จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร  แสดงเป็น  คธา
พศิน ศรีธรรม  แสดงเป็น  อรรณพ
สุเมธ องอาจ  แสดงเป็น  บุญทรง

ละครบัลลังก์หงส์ เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2559 ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี

ทองพูน โคกโพ

ทองพูน โคกโพ เป็นชาวนาทางภาคอีสาน ซึ่งเมียทองพูนหนีความยากจนไปเป็นเมียเช่า โดยทิ้ง หำน้อย ลูกชายวัย 5 ขวบไว้กับทองพูน ทองพูนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ โดยเช่ารถแท็กซี่ขับ พยายามเก็บสะสมเงินทีล่ะเล็กล่ะน้อย พอพ่อแม่ของทองพูนตาย เขาตัดสินใจขายที่นาของเขา และเอาหำน้อยมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยโดยเช่าบ้านย่านสลัมอยู่

ทองพูน เก็บเงินจนพอที่จะซื้อรถแท็กซี่เก่าๆ ได้คันหนึ่ง ทองพูนจึงซื้อรถต่อจากเจ๊เจ้าของรถ ทองพูนรักและภูมิใจในรถแท็กซี่ของเขามากโดยหวังไว้ว่ามันจะช่วยทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของเขาและลูกชายดีขึ้นกว่าเดิม เพราะเขาเป็นคนขยันขันแข็ง แต่ปัญหาที่เขามีรถเป็นของตัวเองก็ยังมีอีกมาก ทั้งค่าซ่อม ค่าทะเบียน ค่าฝากรถและผู้โดยสารซึ่งมีทั้งพวกนักเลง ขี้เมา ขี้โม้ และพวกชอบโกงค่าโดยสาร ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้น

ทองพูนได้รู้จักกับด้วน ชายขอทานขาขาดโดยบังเอิญ ระหว่างที่เขารอผู้โดยสารคนหนึ่งที่ยืมเงินเขาไป ด้วนชวนคุยและบอกทองพูนว่าผู้โดยสารคนนั้นหนีไปแล้ว และวิธีการเช่นนี้แท็กซี่โดนหลอกมาหลายรายแล้ว

ทองพูนพบแรมจันทร์ ที่มีอาชีพเป็นหมอนวด ยืนทะเลาะกับผัวแมงดาของหล่อน อยู่หน้าคลีนิคหมอข้างถนน พอรถของทองพูนผ่านมา แรมจันทร์ก็เรียกแท็กซี่ของทองพูนแล้วขึ้นรถหนีผัวแมงดาไป แรมจันทร์ให้ทองพูน ไปส่งที่ทำงานซึ่งเป็นสถานอาบอบนวดแถวเพชรบุรี ระหว่างทาง แรมจันทร์ นั่งร้องไห้มาตลอด ทองพูนพยายามชวนแรมจันทร์พูดคุยด้วยจนถึงสถานอาบอบนวด แรมจันทร์ให้ค่าโดยสารใบล่ะร้อย ทองพูนไม่มีเงินทอนให้ แรมจันทร์จึงยกให้และสั่งให้ทองพูนมารับหล่อนตอนเลิกงานด้วย

ทองพูนกลับบ้านไปดูแลลูกชาย เจ้าของบ้านเช่าของทองพูนเข้ามาเตือนเรื่องค่าเช่าบ้านที่ยังค้างอยู่ 3 เดือน ทองพูนรับปากว่าจะนำมาใช้ให้ พอได้เวลา ทองพูนก็ออกไปรับแรมจันทร์ที่ทำงานและไปส่งแฟลตที่หล่อนพักอยู่ เมื่อถึงที่พัก แรมจันทร์ลงจากรถไปโดยลืมกระเป๋าเงินไว้ในรถ ทองพูนจึงตามขึ้นเอาไปให้ ก็พบว่าแรมจันทร์กำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรงกับผัวแมงดาคนเดิม เพราะผัวแมงดารู้ว่าแรมจันทร์ตั้งท้อง จึุงคิดให้เอาลูกออก แรมจันทร์ไม่ยอมเลยเกิดการทะเลาะถึงขั้นตบตี เมื่อเห็นทองพูนเข้ามาก็ได้ให้โอกาสทองพูนช่วยและไล่ผัวแมงดาออกไป แล้วแรมจันทร์ก็ขอเป็นเพื่อนกับทองพูน โดยให้ทองพูนมารับส่งแรมจันทร์ไปทำงานทุกวัน

วันหนึ่งด้วนให้ทองพูนไปส่งร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแดงซ่ากับพวกจิ๊กโ๋ก๋นั่งอยู่ พวกของแดงซ่าว่าจ้างให้ทองพูนไปส่ง ตอนแรกทองพูนจะไม่ยอมไป เพราะจวนเวลาที่จะไปรับขาประจำ แต่ก็ทนลูกคะยั้นคะยอของแดงซ่าไม่ไหวจึงยอมไป พอถึงที่เปลี่ยว พวกแดงซ่าก็ทำการจี้ทองพูนและจะเอารถไป ทองพูนไม่ยอม และได้ต่อสู้แต่ทองพูนก็สู้พวกของแดงซ่าไม่ได้จึงถูกทำร้ายสลบไป

ทองพูนไปแจ้งความ ตำรวจไปสอบที่เกิดเหตุ ก็ได้รับการปฎิเสธจากชาวบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ยอมร่วมมือด้วย เมื่อทองพูนกลับมาบ้านเช่า ก็พบว่าข้าวของถูกเจ้าของบ้านเอามากองไว้นอกบ้าน เพราะไม่ได้จ่ายค่าเช่า ทองพูนพาหำน้อยเดินจากไปอย่างไร้จุดหมาย

ทองพูนพบด้วนอีกครั้ง และพยายามถามด้วนว่าเคยเห็นหน้าจิ๊กโ๋ก๋เหล่านั้นหรือเปล่า แต่ด้วนไม่อยากเดือดร้อนจึงหนีทองพูนไป ทองพูนไปสมัครเป็นคนงานก่อสร้างโดยมีหำน้อยวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ ทองพูนเห็นว่าเขตก่อสร้างอันตรายมาก เขาจึงพาลูกไปฝากไว้กับแรมจันทร์ และแรมจันทร์ก็ชวนให้ทองพูนอยู่กับหล่อนพร้อมกับสารภาพว่า หล่อนแอบรักเขาตั้งแต่แรกแล้ว

ทองพูนไม่ละความพยายามในการตามหารถของเขา แต่ก็ไม่มีวี่แวว เขาจึงคิดกลับต่างจังหวัด เผอิญทองพูนได้พบกับด้วน คราวนี้ด้วนสงสารทองพูน จึงบอกว่าพวกจิ๊กโก๋เหล่านั้นเป็นใคร ด้วนพาทองพูนไปหาแดงซ่า แต่แดงซ่าปฎิเสธไม่รู้เรื่อง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ทองพูนกับด้วน สู้พวกแดงซ่าที่มีมากกว่าไม่ได้จึงต้องหนี ก่อนหนีออกมา ทองพูนหยิบกระเป๋าเงินของแดงซ่าซึ่งทำตกในระหว่างการต่อสู้ติดมือมาด้วย และทองพูนก็พาด้วนมาอยู่กับแรมจันทร์ ทองพูนพบนามบัตรนายสาคร ซึ่งเป็นเจ้าของอู่รถยนตร์ในกระเป๋าเงิน เขาจึงขอให้ตำรวจไปตรวจค้นที่อู่ของนายสาคร แต่นายสาครปฏิเสธไม่รับรู้ และไม่รู้จักกับนายแดงซ่ามาก่อน และให้ตำรวจค้นหารถของทองพูน แต่ก็ไม่พบจึงพากันกลับ

ทองพูนแน่ใจว่ารถของเขาต้องอยู่ที่อู่นี้แน่ๆ จึงย้อนกลับมาอีก ทองพูนไปพบกับนายสาครและบอกว่าเขาเห็นแดงซ่าเข้ามาที่อู่นี้ เขาจึงขอแท็กซ๊่คืน นายสาครโกรธมากให้พวกเด็กในอู่ทำร้าย ทองพูนหนีกลับมาหาพวกแท็กซี่ด้วยกัน เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครสนใจ นอกจากลุงบุญหลาย รับปากว่าจะช่วยตามหารถของทองพูน

ทองพูนกลับมาที่พักถูกแรมจันทร์ต่อว่า ไม่อยากให้ทองพูนเอาชีวิตไปเสี่ยงอีก โดยที่เธอจะหาเงินเพื่อซื้อรถให้ใหม่ แต่ทองพูนไม่ยอมคิดแต่จะเอารถคันเก่าคืน แรมจันทร์ผิดหวังมากและตัดสินใจจะไม่สนใจเรื่องของทองพูนอีก หล่อนจึงกลับไปทำงานเป็นหมอนวดอีก หลังจากที่หยุดอยู่กับบ้าน ตามคำขอร้องของทองพูนที่จะให้เลิกอาชีพนี้และช่วยดูแลหำน้อย

ทองพูนพักรักษาตัวอยู่ที่พักซึ่งมีด้วนกับหำน้อยเป็นเพื่อน แรมจันทร์ออกไปทำงานทุกวันด้วยความหงุดหงิด ระหว่างนั้นลุงบุญหลายก็ติดตามดูพฤติกรรมของนายสาครอยู่ตลอด จนพบว่านายสาครมีอู่ซ่อมรถและเปลี่ยนสภาพอยู่นอกเมืองอีกอู่หนึ่ง

ทองพูนเมื่อหายดี ลุงบุญหลายก็พาทองพูนไปที่อู่นอกเมือง ในขณะเดียวกันแรมจันทร์ก็ถูกผู้จัดการต่อว่าเรื่องไม่เอาใจใส่ลูกค้า แรมจันทร์จึงตัดสินใจลาออก เืพื่อได้อยู่เป็นเพื่อนทองพูน กับช่วยดูแลหำน้อย แต่เมื่อมาถึงที่พัก ก็พบด้วนกับหำน้อยเท่านั้น แรมจันทร์เสียใจจึงหันไปนั่งกินเหล้าและรอคอยการกลับมาของทองพูนอย่างสิ้นหวัง

ทองพูน เมื่อเข้าไปในอู่รถของนายสาครแล้ว ก็ทำการค้นหารถของเขา แต่ก็ไปเจอกับพวกคนงานของนายสาครและแดงซ่า จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ทองพูนแย่งปืนจากลูกน้องของนายสาครได้ ทำให้ทองพูนฆ่าพวกของนายสาครไปหลายคน นายสาครเห็นท่าไม่ดีเลยโทรเรียกตำรวจ ทองพููนหารถของเขาไม่เจอ จะเลือกเอาึัคันไหนไปแทนก็ได้ ทองพูนเดินดูรอบๆ อู่ แต่ไม่พบรถของเขา เขาจึงจะกลับ พอดีตำรวจมาล้อมอู่ไว้ และจับตัวทองพูนไปในที่สุด

นักแสดงละคร ทองพูน โึคกโพ

วีระยุทธ รสโอชา รับบท ทองพูน โคกโพ
วิยะดา อุมารินทร์ รับบท แรมจันทร์
นพดล มงคลพันธุ์ รับบท แดงซ่า

อุบัติเหตุ 2526

อุบัติเหตุ พ.ศ. 2526

เรื่องราวความรักของวิศนีหญิงสาวที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบทุกอย่างทางด้านฐานะและเงินทอง เพียงแต่ตลอดชีวิตของเธอไม่เคยได้รับความรักที่สมบูรณ์เพราะเติบโตมาจากครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน หนำซ้ำพ่อยังส่งเธอไปเรียนที่เมืองนอก จนเมื่อเธอเรียนไม่จบจึงถูกตามตัวกลับมาและได้พบกับอารุมชายผู้ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเริ่มต้นจากศูนย์แต่ก็ยังไม่พอใจนนทลีย์ซึ่งเป็นคนรักของเขา เมื่อเริ่มทำงานด้วยกันวิศนีย์และอารุมก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และจากความผิดพลาดหลาย ๆ อย่างก็ได้นำพาทั้งคู่ให้พบกัน และเริ่มเข้าใจซึ่งกันและกัน การพบกันของคนบางครั้งก็เริ่มต้นจากอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่เราไม่ได้ตั้งใจ

นักแสดง

พล พลากร แสดงเป็น อารุม
มนฤดี ยมาภัย แสดงเป็น วิศนีย์
สาริกา สนธิกาญจน์ แสดงเป็น นนทลีย์
ยมนา ชาตรี แสดงเป็น เดชชาติ
กำธร สุวรรณปิยะศิริ แสดงเป็น อำนวย

เพลงละคร อุบัติเหตุ

คําร้อง/ทํานอง: มนัส ปิติสานต์
ขับร้อง: ประภาศรี ศรีอําภา

ฉันไม่ได้ฆ่า ฉันไม่ได้ฆ่า ฉันฆ่าทําไม ฉันไม่ได้ไร้คุณธรรม
เป็นอุบัติเหตุ ไม่เจตนากระทํา โปรดอย่าปรักปรํา ฉันจะสร้างกรรมทําไม
ฉันต้องกลายเป็นฆาตกร เหตุการณ์ตามหลอน ไม่เว้นวาย
เธอต้องเสียขวัญ เธอต้องขวัญหาย อุบัติเหตุมีวันใด ฉันขอไถ่โทษคืน (ซ้ำ)
ฉันไม่ได้ฆ่า ฉันไม่ได้ฆ่า ฉันฆ่าทําไม อุบัติเหตุมีวันใด ฉันขอไถ่โทษคืน

นวลนางข้างเขียง 2536

นวลนางข้างเขียง เป็นเรื่องราวชีวิตของหญิงสาวผู้อยู่กับเขียงหมู แต่ผันแปรไปเป็นนางแบบโฆษณาขายแชมพูเพราะความงามของเส้นผม ความรักของเธอกับจิตกรหนุ่มผู้รักอิสระ มันจะดำเนินไปเช่นไร

รายชื่อนักแสดง นวลนางข้างเขียง

1.ยุทธพิชัย ชาญเลขา แสดงเป็น ไพรัช
2.ชฎาพร รัตนกร แสดงเป็น หมวย
3.สมฤทัย กล่อมน้อย แสดงเป็น อัญชลี
4.ทนงศักดิ์ ศุภการ
5.ยุวดี เรืองฉาย
6.ชลวิทย์ สุขอุดม
7.เด่น ดอกประดู่
8.อัญชลี ไชยศิริ
9.ปทุมวดี โสภาพรรณ
10.นารถวลี ศรีสกุล
11.อนุชา อึงวัฒนา
12.หม่ำ จ๊กม๊ก
13.อติเทพ ฤทธิ์ไกวัล
14.ศิริวรรณ ทองแสง
15.ชลลพรรษ พจนวิจิตร
16.ลกมล ศรัทธาทิพย์
17.ธิติยา นพพงษากิจ
18.กนกวรรณ ปุรานนท์
19.เกษริน พูลลาภ
20.เพ็ญศิริ สุภาพันธ์
21.ลัดดาวรรณ์ สนธิ
22.พรอนนันต์ ศรีจันทร์
23.ด.ญ.เกศสุดา ลวงศรีราช
24.ด.ช.ยุทธศักดิ์ ศิริสุวรรณรัตน์

เมืองโพล้เพล้ 2535

เมืองโพล้เพล้ เป็นเมืองที่อยู่บนเส้นคาบเกี่ยวของการเปลี่ยนแปลงจากความคิดของคน หลายกลุ่ม ซึ่งต่างก็หวังให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ หลายบุคลิกในแต่ละ ตัวละครนำเสนอความคิดที่น่าสนใจ แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน
 
นักแสดง เมืองโพล้เพล้
 
บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ แสดงเป็น กำนันโดด
กมลชนก โกมลฐิติ แสดงเป็น ป่านา
อนันต์ บุนนาค
จามจุรี เชิดโฉม
โน้ต เชิญยิ้ม

ออกอากาศ วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2535 ถึง วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2535

เบญจรงค์ห้าสี 2539

เบญจรงค์ห้าสี เป็นละครชีวิตผู้หญิง 5 คนที่ไม่ใช่พี่น้องกัน แต่มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน บทที่แหม่มได้รับเป็นผู้หญิงเรียบร้อย แต่ไปเจอคุณจร (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) หลอกแต่งงาน พอมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็ถูกทุบตีทารุณ เรารักเขามาก แต่สุดท้ายอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทำให้เลิกรากันไป เป็นผู้หญิงที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก ยายจะเป็นพี่ใหญ่ของผู้หญิงอีก 4 คน เพราเป็นผู้ใหญ่และคอยดูแลน้องๆในบ้าน  ผู้หญิงทั้ง 5 คนจะมีชีวิตแตกต่างกันออกไป
 
นักแสดง เบญจรงค์ห้าสี
 
จินตหรา สุขพัฒน์ แสดงเป็น มนสินี (ยาย)
ชฎาพร รัตนากร
ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์
ฌัชฌา รุจินานนท์
รัฐธรรมนูญ ศรีฤกษ์
ศตวรรษ เมทนี
ขจรศักดิ์ รัตนนิสับ
บิณฑ์ บันลือฤทธิ์
นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร

 

 

เจ้าสัวน้อย 2543

เจ้าสัวน้อย เป็นเรื่องราวของเด็กสาว คือ น้อย ที่ต้องทำตัวเป็นผู้ชาย เพราะเกิดมาในครอบครัวคนจีน ที่ปู่ต้องการ
กิมซัว และ เก้าเป็นเพื่อนรักกัน มาจากเมืองจีน มาทำหากินในประเทศไทย กิมซัวทำธุรกิจค้าไม้ ส่วนเก้าค้าเหล็กเส้น ทั้งคู่ร่ำรวยขึ้นมาพร้อมๆ กัน เก้ามีลูกชายชื่อจำลอง ส่วนกิมซัว มีลูกชายคนเดียวเช่นกันชื่อสนิท จำลอง แต่งงานกับสาวลูกคนจีนด้วยกัน มีลูก 2 คน คนโตเป็นชายชื่อเสรี คนเล็กเป็นหญิงชื่อ ชฎาทิพ กิมซัวหมายมั่นปั้นมือจะให้สนิท แต่งงานกับ "ลั้ง" หรือ เพลินจันทร์ ลูกสาวของเพื่อนชาวจีนในแวดวงธุรกิจ แต่แล้ววันหนึ่งสนิทก็พามรกต ภรรยาสาวชาวไทยแท้ๆ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ มาพบกับกิมซัวและบอกว่าเขาต้องแต่งงานกับเธอ กิมซัวผิดหวังมาก เพราะฝังใจกับธรรมเนียมจีนโบราณที่คนจีน ต้องแต่งงานกับคนจีนด้วยกัน และต้องมีลูกชายหรือหลานชาย เพื่อสืบสกุล สนิทอ้อนวอนจนกิมซัวยอมให้มรกตอยู่ที่บ้านได้ โดย มีเงื่อน ไขว่าถ้ามรกตคลอดลูกเป็นหญิง มรกตต้องออกจากบ้านทันที แล้วสนิทจะต้องแต่งงานกับเพลินจันทร์ด้วย สนิทยอมรับปาก อย่างจำยอม เขารักมรกตมาก ทั้งรักและสงสารจนไม่อาจจะทิ้งเธอไปได้ สนิทกับมรกตยอมให้เพศของลูกเป็นเครื่องกำหนด โชคชะตา ข่าวนี้รู้ไปถึงเก้า เพื่อนสนิทกิมซัว เก้าเป็นคนสมัยใหม่ปรับตัวและยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ดี เขาพยายามพูด เพื่อให้กิมซัว เปลี่ยนใจ ยอมรับมรกตเป็นสะใภ้โดยไม่มีข้อแม้ แต่กิมซัวไม่ยอม ยังคงยึดมั่นถือมั่นอยู่ในเรื่องต้องการหลานชายเพื่อสืบสกุล
 
จนคืนหนึ่งมรกตเจ็บท้อง สนิทพามรกตไปโรงพยาบาล โดยมีนมคิ้ม แม่นมซึ่งเคยเลี้ยงสนิทมาตั้งแต่เด็ก แต่วันนี้กิมซัวให้คิ้ม มีหน้าที่ดูแลมรกตกับลูกแทน ด้วยความสงบเสงี่ยมอ่อนหวาน น่ารักของมรกต ทำให้คิ้มรักมรกตไม่ต่างจากที่รัก เจ้าสัวสนิท ซึ่งเคย เลี้ยงมาราวกับลูก กิมซัวจะไปโรงพยาบาลด้วย แต่สนิทไม่ยอม แต่เมื่อกิมซัวโทรมาถามสนิท แล้วสนิทส่งโทรศัพท์ให้คิ้ม ตอบกิมซัว เอง คิ้มกลับไม่พูดความจริง ด้วยความรักและ สงสารที่มีต่อสนิทกับมรกต นางตอบกิมซัวสั้นๆ ว่า กิมซัวได้ "เจ้าสัวน้อย" ซึ่งโดย ทั่วไป "เจ้าสัว"จะเป็นคำเรียกสำหรับลูกชายเท่านั้น วันที่สนิทพาลูกกลับบ้าน เขาแต่งตัวให้เด็กน้อยด้วยเสื้อผ้าเด็กชาย ที่บ้านกิมซัว เห่อหลานขนาดหนัก อุ้มไม่ยอมวาง กิมซัวทำเอาทุกคนใจหายเมื่อขอดู "เจ้าหนูน้อย" เขาพยายามถอดผ้าอ้อมออก แต่เด็กก็ร้องขึ้นมา คิ้มได้โอกาสจึงรับมาอุ้มไว้เอง นับจากวันนี้ สนิท มรกต และนมคิ้มจะระวัง "เจ้าสัวน้อย" มาก เพื่อไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย เมื่อน้อย หรือพิมพ์ชนกโตขึ้น เธอเรียนในโรงเรียนที่เมืองไทยไม่นาน ก่อนถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่ฮ่องกง จากนั้นก็ถูกส่งไปเรียนต่อที่อังกฤษ น้อยจึงพูด-อ่าน-เขียน ได้ดีทั้ง ไทย-จีน-อังกฤษ มรกตบอกความจริงกับเธอเมื่อเธอรู้ความและพอเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อยู่ต่างประเทศน้อยจึงมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างหญิงสาวธรรมดาได้เต็มที่ แต่ทุกครั้งที่เธอกลับเมืองไทย
 
เธอจะต้องแต่งตัวและประพฤติ ตัวอย่างผู้ชายทุกครั้งเช่นกัน มรกตสงสารลูกมาก เธอกลัวว่าลูกสาวจะสับสนทางเพศ แต่น้อยก็ทำได้ดีทุกครั้ง เวลาผ่านไปจนน้อยอายุ 17 ปี ก๋งกิมซัวตัดสินใจเรียกตัวเธอกลับจากอังกฤษ แม้เธอจะเรียนไม่จบอะไรสักอย่าง แต่กิมซัวพอใจที่จะให้หลานชายสุดที่รักทายาทคนเดียวของตระกูลกลับมาบริหาร งาน มาฝึกมาหาประสบการณ์จากของจริงดีกว่า ที่สำคัญ กิมซัวรักน้อยมากจนไม่อยากให้ห่างไปไกลๆ อีก ในวันที่น้อยเดินทางถึงกรุงเทพฯ เธอแต่งตัวเป็นชาย ท่าทางและหน้าตาของเธอดู เป็นเด็กหนุ่มที่มีหน้าหวานและน่ารัก สาวๆ หลายคนเหลียวมองน้อยอย่างพอใจ ทำให้น้อยมีความมั่นใจมากขึ้น แต่แล้วขณะที่น้อยกำลังจะเข้าห้องน้ำ เธอลังเลเล็กน้อยระหว่างห้องน้ำหญิงกับชาย น้อยตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำผู้ชาย เธอไม่กล้าเสี่ยงหากมีใครในครอบครัวมาพบเธอเดินเข้าห้องน้ำหญิง ก่อนที่น้อยจะเข้าประตู ผู้ชายคนหนึ่ง หล่อ สมาร์ท เข้ม ก็บอกเธอยิ้มๆ ว่าห้องน้ำหญิงอยู่อีกฝั่งน้อยหมดความมั่นใจทันที แต่ก็ยังทำขึงขังว่าเธอเป็นชาย เขามองเธออย่างไม่แน่ใจก่อนจะยอมเปิดประตูแล้วให้เธอเข้าไป น้อยกลับไม่ยอมเข้าห้องน้ำเธอผละจากมาทันที อารมณ์รีบร้อนน้อยลื่นล้มลงกับพื้น เจ้ากรรม… ชายรูปหล่อ กลับมาช่วยฉุดเธอลุกขึ้น น้อยทั้งอาย ทั้งโกรธ รีบเดินจ้ำไปหาพ่อ-แม่ เมื่อถึงบ้านกิมซัวดีใจมาก สั่งให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ "เจ้าสัวน้อย" ซึ่งแน่นอนว่าคงมีครอบครัวของก๋งเก้าเพื่อนสนิท โดยมีเสี่ยจำลอง เสรี กับ ชฎาทิพย์ และอีกครอบครัวหนึ่งคือ เพลินจันทร์ ที่ผิดหวังจากสนิท เพลินจันทร์ตัดสินใจแต่งงานกับข้าราชการคนไทย การศึกษาดี จบปริญญาโท ด้วยอารมณ์ประชดสนิท เธอมีลูก 2 คน คนโตเป็นชายชื่อ วรชิต อายุ 16 ปี คนเล็กเป็นหญิงชื่อ มาลาตี อายุประมาณ 15 ปี ส่วนสามีของเธอกลับทำตัวเหลวไหล กินเหล้าและผลาญสมบัติ เพลินจันทร์จบเกือบหมดก่อนจะตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เพลินจันทร์รู้สึกแย่มาก ที่ตัดสินใจแต่งงานเพราะอารมณ์ ซ้ำลูกชายและลูกสาวนิสัยเหมือนพ่อทั้งคู่ เหลาะแหละ ไม่ชอบเรียนหนังสือ ชอบเที่ยว ฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินเกินตัว ยิ่งเพลินจันทร์เห็นครอบครัวของสนิทและมรกตอยู่กันอย่างมีความสุข รักใคร่กลมเกลียว แถมยังร่ำรวย เธอก็ยิ่งอิจฉาและหมั่นไส้เกลียดชังมรกตกับเจ้าสัวน้อยมากขึ้น เพลินจันทร์คิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า ถ้าไม่มีมรกตเธอก็คงแต่งงานกับสนิท ชีวิตเธอคงไม่ลำบากอย่างนี้ ความคิดนี้ครอบงำไปถึงวรชิตและมาลาตีด้วย
 
วรชิต เกลียดและอิจฉาเจ้าสัวน้อยมาก ขณะที่มาลาตีเองกลับมุ่งจะจับชายหนุ่มรวยๆ เพื่อแต่งงานแล้วยกสภาพตัวเองให้ดีขึ้นกว่า ปัจจุบัน ในคืนวันจัดงานต้อนรับเจ้าสัวน้อย ชฎาทิพย์กับดิศนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ ตระกูลดีไปด้วย ชฎาทิพย์บอกพ่อกับ แม่ว่าดิศเป็น แฟนเธอ เมื่อไปถึงงานที่บ้านกิมซัว เจ้าของบ้านรอต้อนรับอยู่แล้ว ทุกคนเมื่อชฎาทิพย์แนะนำดิศ เจ้าสัวน้อยแทบช็อค เมื่อพบว่าดิศ คือ ชายหนุ่มที่เธอพบที่สนามบินนั่นเองน้อยยิ่งเกร็งและระวังตัวมากขึ้น ซึ่งก็ทำ ให้ดิศผิดสังเกตมากขึ้นเช่นกัน ส่วนมาลาตีใน ตอนแรกมุ่งจะจับเจ้าสัวน้อย แต่เมื่อพบดิศ มาลาตีเปลี่ยนเป้าหมายทันที มาลาตีทำตัวสาวเกินวัย จริตจก้านแพรวพราย
 
ท่าทางของเธอบอกเจตนาชัด เจนดิศมองออกแต่ก็ทำเฉย มาลาตีไม่รู้สึกตัวยังคง "รุก" ต่อไป ถึงขั้นจะขอไปดูโครงการคอนโดมิเนียม หรูริมน้ำของเขา เธอคุยเรื่องว่าจะซื้อสักยูนิต ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าแพงแสนแพง และที่สำคัญคือครอบครัวเธอแทบจะ เหลือแต่เปลือก อยู่แล้ว แต่มาลาตีก็ต้องการเพียงโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับดิศเท่านั้น เธอมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองมาก โดยไม่ดูว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กกะโปโลใน สายตาของดิศ เรื่องมายุ่งยากตรงที่ชฎาทิพย์หันมาเห็นมาลาตีกับ ดิศพอดี เธอรี่เข้ามาอย่างหวงแหนดิศ เมื่อเผชิญ หน้ากันแทนที่มาลาตีจะเกรงใจชฎาทิพย์ เธอกลับยั่วชฎาทิพย์ถึงขั้น ขอดิศจากชฎาทิพย์ ชฎาทิพย์เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว อดไม่ได้ ตบมาลาตีเต็มแรงมาลาตีกรี๊ดเรียกร้องความสนใจและความเห็นใจจากคนรอบข้าง ทันที แต่คนที่ไปถึงก่อนคือเจ้าสัวน้อย น้อยมอง ดิศอย่างตำหนิ และเมื่อเสรีแยกชฎาทิพย์ออกไป เพลินจันทร์ก็มาพามาลาตีกลับบ้าน โดยเพลินจันทร์ต้องยอมขอโทษ ชฎาทิพย์ แทนลูก
 
น้อยตำหนิดิศตรงๆ ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้หญิงทะเลาะกัน และดิศคือผู้ชายเจ้าชู้ ดิศงงที่ถูกต่อว่าโดยไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็ย้อนเจ้าสัวน้อยกลับไปเช่นกัน จนน้อยต้องอึ้งเพราะจนแต้ม น้อยเก็บความโกรธพร้อมทั้งอาฆาตดิศไว้ในใจ เมื่องานเลิกตกดึกน้อยแอบหลบออกจากบ้านไปเที่ยวคนเดียว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นชีวิตกลางคืนของหนุ่ม-สาวกรุงเทพฯ ที่ผับแห่งหนึ่ง ขณะน้องนั่งดื่มคนเดียวในมาดของชายหนุ่ม ก็มี 3 สาววัยรุ่น 2 คนค่อนข้างเปรี้ยวและกล้าเกินตัว แก่นกล้าขนาดจีบน้อยก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งดูเรียบร้อยและค่อนข้างขี้อาย เมื่อสองสาวเห็นท่าว่าน้อยไม่เล่นด้วย ก็เริ่มหาเหยื่อใหม่ พอดีมีอีก 3 หนุ่มเข้ามาในผับ ท่าทางของสองสาวนั้นคุ้นเคยกับหนุ่มผู้มาใหม่ดี มีแต่สาวอีกคนหนึ่งที่ดูเคอะเขินขี้อาย กับลำบากใจในอาการแทะโลมของหนุ่มๆ น้อยดูอย่างห่วงใย เมื่อกลุ่มหนุ่มสาวออกจากผับ น้อยตามออกมาห่างๆ จึงทันเห็นว่าสองสาวเปรี้ยวต่างแยกกันไปกับหนุ่มคนละคู่ส่วนสาวขี้อายคง ยื้อยุดกับหนุ่มอีกคน ท่าทางเธอไม่เต็มใจจะไปกับเขา น้อยจึงเข้าช่วย เกิดการต่อสู้กัน น้อยซึ่งเคยฝึกศิลปะการป้องกันตัว ทั้งมวย ยูโด คาราเต้มาแล้ว จึงจับชายคนนั้นบิดแขนแทบหัก ก่อนจะปล่อยตัวไปตามคำขอร้องอย่างเจ็บปวด
 
น้อยไปส่งเด็กสาวคนนั้น ที่บ้าน ระหว่างทางน้อยรู้ว่าเด็กสาวชื่อ ปนัดดา เธอหลบออกมาเที่ยวเพราะอยากเต้นรำฟังเพลงเท่านั้นไม่ ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับเธอ น้อยอบรมไปมากมาย พอดีถึงบ้านปนัดดา จากลักษณะของบ้าน น้อยรู้ทันทีว่าปนัดดาต้องเป็นลูกเศรษฐีคนหนึ่ง ปนัดดาขอชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของน้อยไว้ เธอถือเศษกระดาษชิ้นเล็กอย่างหวงแหน เมื่อปนัดดาเข้าบ้านกพบมารดากับพี่ชายนั่งรออยู่ ปนัดดาเป็นลูกของคุณหญิงอมรา และเป็นน้องสาวคนเดียวของดิศ ปนัดดาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มารดาและพี่ชายฟังอย่างตื่นเต้น เธอพูดถึง พี่น้อย อย่างชื่นชมราวกับเทพบุตร ดิศเดาได้ทันทีว่าน้องสาวคงติดใจน้อยเข้าจริงๆ ส่วนน้อยเมื่อถึงบ้านก็แอบเข้าบ้านเช่นกัน แต่ทันทีที่เธอก้าวเข้าห้องรับแขก น้อยก็พบว่าทั้งกิมซัว สนิท มรกต และนมคิ้มต่างก็รอเธออยู่อย่างเป็นห่วง กิมซัวถึงขนาดบอกว่าจะตามเธอไปเที่ยวเธค เที่ยวผับด้วย น้อยตกใจมาก เธอหาวิธีพูดและแกล้งขู่ว่าจะกลับไปอังกฤษ จนกิมซัวให้ไปเที่ยวได้ตามลำพัง แต่ห้ามไปแท็กซี่อย่างคืนนี้อีก น้อยแอบดีใจที่จะได้ขับรถเอง
 
ส่วนปนัดดาเหงาและซึมทุกวัน เธอเฝ้าคิดถึงพี่น้อย วีรบุรุษในใจเธอตลอดเวลา คุณหญิงอมรากับดิศสงสาร ประกอบกับต้องการ เห็นหน้าหนุ่มคนนี้ ดิศจึงให้ปนัดดาโทรไปหาแล้วชวนมากินข้าวที่บ้าน โดยอ้างว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณ เมื่อถึงวันนัด น้อยมาอย่าง ไม่ค่อยเต็มใจนัก ก๋งกิมซัวให้น้อยใช้รถคันหรูพร้อมคนขับมาส่งที่บ้านปนัดดา น้อยไม่รู้ตัวว่าเป็นที่สนใจของทุกคน เธอลงจาก รถอย่างมั่นใจมาดมั่น ในแบบของหนุ่มน้อยรูปงาม แต่เมื่อหันมา พบดิศที่มองอยู่ น้อยเกิดอาการประหม่าทันทีเธอตกใจที่รู้ว่าปนัดดาเป็นน้องสาวดิศ วันนั้นเหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี คุณหญิงอมราพอใจและยอมที่จะ ให้ปนัดดาคบหาน้อยต่อไป ส่วนน้อยตัด สินใจขอเริ่มงานทันที น้อยสนใจและทุ่มเทกับการทำงานมาก ขณะที่วรชิต และมาลาตี เหลวไหลไม่ยอมเรียนและไม่ยอมทำงาน
 
วันหนึ่งดิศกับครอบ ครัวของก๋งเก้ามาพบกิมซัว จังหวะพอดีที่เพลินจันทร์ก็มา เพลินจันทร์จึงขอร้องกิมซัวให้ช่วยฝากงานให้มาลาตี โดยขอทำงานกับดิศเท่านั้น กิมซัวก็ตามใจ ทำให้ดิศต้องยอมรับปากกิมซัวอย่างเกรงใจ ส่วนวรชิต กิมซัวให้ไปทำงานที่บริษัทของน้อย ดิศให้มาลาตีไปเป็นผู้ช่วยของวรรณ เลขาสาวที่ทำงานด้วยกันมานาน วรรณเป็นคนเก่งและคล่อง วรรณพยายามสอนงานมาลาตีตามคำสั่งของดิศ แต่มาลาตีไม่ค่อยยอมทำอะไร นอกจากผัดหน้าแป้งเติมปากแทบทุก 10 นาที และเข้าไปเสริฟกาแฟให้ดิศทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ ชฎาทิพย์รู้เรื่องนี้จนได้ เธอรีบมา หาดิศที่บริษัทและเข้าไป พบดิศขณะที่มาลาตีเสริฟกาแฟพลางออดอ้อน ชม้ายชายตาให้ดิศ ดิศแม้จะรำคาญมาลาตีแต่ก็ฝืนทน ทว่าเมื่อชฎาทิพย์เข้ามา เรื่องลุกลามใหญ่โตทั้งคู่ทะเลาะตบตีกันราวกับผู้หญิงชั้นต่ำ ดิศกับวรรณพยายามห้ามทั้งคู่ จึงไม่รู้ว่าน้อย มายืนดูอยู่นานแล้ว น้อยยิ่งตั้งข้อรังเกียจดิศมากยิ่งขึ้น ว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ หว่านเสน่ห์และให้ความหวังกับผู้หญิงทั่วไป เมื่อชฎาทิพย์กับมาลาตีออกไปแล้ว น้อยก็เข้าพบดิศ พูดธุระเรื่องงาน สลับกับการพูดกึ่ง ตำหนิดิศเรื่องของชฎาทิพย์กับมาลาตี ดิศนึกโกรธเลยย้อนน้อยแรงๆ จนน้อยเองต้องหยุดพูด น้อยรู้ดี ว่าดิศคือลูกค้ารายแรกของตนจึงต้องพยายามระงับอารมณ์ และแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน วันหนึ่งเสรีชวนน้อยกับดิศ ไปดื่มประสาชายหนุ่มน้อยไปอย่างจำใจ ปรากฎว่าน้อยไปถึงคลับคนแรก จึงเป็นเป้าให้สาวๆ ใจกล้าเข้ามาชวนคุย 3-4 คน น้อยพยายามเลี่ยงสุดความสามารถ แต่สาวกลุ่มนี้กลับนึกสนุกเข้าประชิด ตัวเจ๊าะแจ๊ะมากขึ้น น้อยตกใจแก้สถานการณ์ไม่ได้ จังหวะที่ดิศเข้ามาพอดีเขาดึงน้อยออกมาจากกลุ่มแล้วบอกว่าเสรีป่วยมาไม่ได้
 
ดิศจึงชวนน้อยไปดื่มที่ผับชั้นดีอีกแห่งหนึ่ง ด้วยความที่กลัวว่าดิศจะจับได้ว่าตนเป็นหญิง น้อยจึงสั่งเบียร์แทนน้ำอัดลม ทั้งที่เธอดื่มไม่ค่อยได้คอไม่แข็งเลย น้อยพยายามแอ๊คฝืนดื่มเบียร์จนเมาจริงๆ ดิศพยายามให้เธอดื่มน้ำเปล่า แต่น้อยไม่ยอมจึงปัดมือเขา น้ำจึงหกรดเสื้อเธอเปียก ดิศหาผ้ามาซับให้ จากการสัมผัสและรอยน้ำที่เปียกเสื้อจนเข้ารูป ดิศตกใจที่พบว่าน้อยเป็นผู้หญิง แถมน้อยเองก็มีปฏิกิริยาปกป้องอย่างผู้หญิงเช่นกัน ดิศทำเฉยน้อยทั้งเมาทั้งอายและง่วงจึงพร่ำพูดถึงเรื่อง ความสำคัญของเพศหญิง กับชายในสายตาคนจีนหัวโบราณอย่างกิมซัว แล้วพูดอะไรหลายอย่างจนดิศจับประเด็นได้ว่าน้อยต้องเป็นผู้หญิง
 
เขา พยายามบอกเสรี แต่เสรีไม่เชื่อ ส่วนปนัดดามาขอร้องให้ดิศช่วยซื้อสินค้าของน้อยด้วยความรู้สึกผูกพันส่วนตัว ของเธอ ดิศจึง เริ่มคิดมาก เขาไม่อยากให้ปนัดดาผิดหวัง ถ้ารู้ว่าน้อยเป็นหญิง ดิศพยายามหาทางพิสูจน์ให้ได้ ทางด้านวรชิตกร่าง ในบริษัทว่า เป็นหลานกิมซัว เป็นน้องของเจ้าสัวน้อย แถมยังคิดชั่วโดยการแอบรับเงินใต้โต๊ะจากบริษัทต่างๆ ที่มาค้าขายด้วย น้อยรับรู้เรื่อง อย่างกลุ้มใจ เธอให้วรชิตมาพบ วรชิตโวยวายไม่ยอมรับผิดน้อยจึงคาดโทษเอาไว้ ส่วนมาลาตีรุกดิศหนักขึ้น เธอไปถึงบ้านดิศไป พบอมรากับปนัดดา แนะนำตัวเองกึ่งเปิดตัวว่าเป็นแฟนดิศแล้วกลับไปก่อนที่ดิศจะกลับบ้าน
 
อมรา เล่าให้ดิศฟัง ดิศเริ่มเบื่อมาลาตีมากขึ้น เขาตั้งใจว่าเมื่อครบกำหนดลองงาน เขาจะบอกเธอว่าเธอไม่ผ่าน นั่นหมายถึงว่า มาลาตีต้อง ออกไป เสรีพยายามพูดกับน้อยเพื่อหาทางจับพิรุธว่าเธอเป็นหญิงหรือชาย แต่เสรีพูดตรงๆ เพราะถือว่าเป็นพี่และ สนิทสนมกันมานาน จากการสนทนาน้อยรู้ว่าดิศนั่นเองเป็นคนบอก เย็นนั้นน้อยจึงไปพบดิศที่บ้านเธอตั้งใจจะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง แต่เมื่อพบดิศเข้าจริงๆ ดิศกลับเป็นฝ่ายรุกและต้อนน้อยจนเกิดการท้าพิสูจน์เกิดขึ้น ยิ่งพูดน้อยก็ยิ่งโมโห หน้าตากิริยาของเธอ น่ารักมาก จนดิศคิดวิธีพิสูจน์ได้ ดิศกอดและจูบเธออย่างอ่อนหวาน น้อยตกใจและลืมตัวไปกับเขา ดิศจูบจนน้อยต้องยอม รับว่าเธอ เป็นผู้หญิง ก่อนจะผละหนีกลับบ้านอย่างอับอาย น้อยวิตกและซึมจนพ่อ-แม่เป็นห่วง ดิศเองนั้นเริ่มรู้ตัวว่าเขาสนใจ และรักน้อย เข้าแล้ว เขาจึงต้องเร่งหาทางให้น้อยยอมรับความจริงให้ได้ รวมไปถึงกิมซัวด้วย อีกทั้งต้องพูดกับปนัดดาเพื่อไม่ให้เธอผิดหวัง
 
ขณะที่ดิศคิดหน ทางออก มาลาตียิ่งรุกเร้าดิศมาก เกิดปะทะตบตีกับชฎาทิพย์บ่อยขึ้น จนดิศระอาใจ เขาใช้มาตรการเด็ดขาดกับมาลาตีมากขึ้น กับแสดงท่าทีชัดเจนว่ารำคาญ จนถึงขั้นบอกว่ามาลาตีไม่ผ่านการทดลองงาน มาลาตีโกรธกระบึงกระบอนลาออกไป มาลาตีบอกเพลินจันทร์ว่าเธอจะจับเจ้าสัวน้อย เพลินจันทร์พอใจมาก ทุกอย่างเข้าระบบเดิมอีก มาลาตีพะเน้าพะนอคลอเคลียน้อยจนรำคาญ เสรีเองก็พยายามหาทางช่วยน้อยแต่ไม่สำเร็จ น้อยยอมรับกับเสรีว่าเธอเป็นผู้หญิง ทำทุกอย่างก็เพื่อบิดาและมารดา ในเมื่อกิมซัว ไม่ยอมรับหลานผู้หญิง เธอก็ต้องเป็นชาย ดิศเองก็บอกปนัดดาเช่นกัน ปนัดดาเสียใจมาก ดิศขอร้องแกมขู่ให้น้อยมาเจรจากับปนัดดา น้อยยอมมาเธออธิบายจนปนัดดาเข้าใจและยอมรับ เสรีและดิศหาทางช่วยน้อยโดยบอกก๋งเก้าให้ช่วยพูดกับกิมซัว แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่น้อยนัดกินข้าวกลางวันกับปนัดดาก็พบเสรีกับมาลาตีโดย บังเอิญ มาลาตีเห็นปนัดดาเคลียคลอกับน้อยก็โมโห รีบไปทำท่ากีดกันและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของน้อย เธอโวยวายให้น้อยไปส่งที่บ้าน น้อยจึงให้เสรีไปส่งปนัดดาที่บ้าน ซึ่งเสรีก็พอใจอยู่แล้ว เพราะเขาแอบรักปนัดดามานาน แต่ไม่กล้าบอกใคร แม้กับดิศซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ทว่าคราวนี้เสรีลองพูดอ้อมๆ บอกปนัดดา เธอไม่เชื่อเธอบอกว่าเสรีพูดเพราะสงสารเธอ เห็นเธอเหมือนน้องสาว จนถึงบ้านปนัดดา เสรีจึงพูดอย่างจริงจังว่าเขาชอบเธอจริงๆ ปนัดดาอายรีบลงจากรถ ดิศซึ่งลงมาพอดีพบเสรี ดิศงงแต่ก็พอใจที่เสรีรักปนัดดา เสรีเล่าให้ดิศฟังเรื่องที่พบกับมาลาตี ดิศร้อนใจรีบไปพบน้อย เพื่อให้หาทางบอกความจริงเสียก่อนที่เรื่องจะยุ่งมากกว่านี้ ด้วยความสวยน่ารักของน้อย ดิศอดใจใกล้ชิดกับเธอไม่ได้ เขาเข้าไปยืนแนบชิดและจับมือเธอไว้ กิมซัวยืนมองภาพของทั้งคู่อย่างตกใจ กิมซัวรับไม่ได้ถ้าหลานชายจะวิปริตรักกับผู้ชายด้วยกัน
 
กิมซัวรีบ เดินออกมากันท่าทันที แกไม่สนใจแม้ดิศจะพูดด้วย ปฏิเสธทุกอย่าง กับน้อยก๋งกิมซัวรีบบอกว่าจะให้แต่งงานกับใครก็ได้ แกจะหาให้เอง ถ้าไม่ได้จริงๆ กิมซัวจะให้น้อยแต่งงานกับมาลาตี ดิศกับน้อยยิ่งกลุ้มใจ สนิทกับมรกตก็เช่นกัน แต่ทุกคนรู้ดีว่าบอกความจริงไม่ได้เพราะกิมซัวเป็นโรคหัวใจ ทุกคนจึงไปปรึกษาก๋งเก้า ก๋งเก้าซึ่งทันสมัยรับฟังอย่างเข้าใจ แกจึงช่วยวางแผน โดยนัดกิมซัวมากินข้าว แล้วจะช่วยเกริ่นความจริงให้รู้ แต่ก่อนหน้าวันนัด วรชิตกลับก่อเรื่องจนน้อยทนไม่ได้เธอไล่วรชิต ออกจาก งาน วรชิตโกรธจัด เมื่อกลับบ้านก็โดนเพลินจันทร์ต่อว่าอีก วรชิตจึงหนีออกจากบ้านไปมั่วสุมเสพยากับเพื่อน เมื่อหมดเงิน วรชิต จึงคิดจับเจ้าสัวน้อยเรียกค่าไถ่ เขาวางแผนจับเจ้าสัวน้อยในวันที่นัดกับก๋งเก้าพอดี แต่เหตุการณ์กลับชุลมุน วรชิตกับพวกจึง ได้ตัวก๋งกิมซัวไปแทน วรชิตติดต่อให้น้อยเอาเงินมาให้ น้อยรีบไปด้วยความเป็นห่วงก๋งกิมซัวจนลืมระวังตัว ระหว่างทางรถของ น้อยสวนกับดิศ และเมื่อดิศพบเสรี เสรีให้ดิศรีบตามไปช่วยน้อย แล้วที่บ้านร้าง
 
น้อยต้องกลายเป็นเหยื่อของวรชิตกับพวก เมื่อกลุ่มวายร้ายโลภมากคิดจับน้อยเรียกค่าไถ่อีกต่อ กิมซัวพยายามเตือนน้อย จึงถูกทำร้าย น้อยตกใจมาก จะเข้าไปดูก๋ง จึงถูกจับกระชากตัวไว้ เจ้ากรรมเสื้อเธอขาดพวกวาย ร้ายเมื่อรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงจึงจะข่มขืนเธอ กิมซัวแทบหัวใจวายเมื่อเห็นอย่างนั้น น้อยเองก็ทนไม่ได้ที่เห็นพวกโจรซ้อมกิมซัว เธอตัดสินใจยอมพวกมันเพื่อช่วยชีวิตก๋ง ก่อนเหตุการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ดิศก็พาตำรวจมาช่วยไว้ทันเวลา กิมซัวต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อฟื้นขึ้นมากิมซัวกลับยอมรับความ จริงได้ดีขึ้น แกยอมรับว่าหญิงหรือชายก็ไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีก็พอ กิมซัวเปรียบเทียบน้อยกับวรชิต แล้วก็ต้องยอมรับว่า น้อยแม้จะเป็นหญิง แต่ก็กล้าหาญและกตัญญูมาก ที่สำคัญกิมซัวแน่ใจว่ารักหลานคนนี้มากเหลือเกิน ดิศเองก็ได้รับการยอมรับ เช่นกัน ความรักของเขากับน้อยไม่มีปัญหาอีกต่อไป
 
นักแสดง เจ้าสัวน้อย
 
อินทิรา เจริญปุระ แสดงเป็น พิมพ์ชนก(น้อย)
 เอกรัตน์ สารสุข แสดงเป็น ดิศ
ปัญญา นิรันดร์กุล แสดงเป็น กิมซัว