Category Archives: ละครปี 2553

ละครช่อง 3 ปี 2553

คุณพ่อหวานแหวว

รมิดา (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) สาวสวยหน้าหวานมารอรับ แมนยู (ชญานิน เต่าวิเศษ) ลูกชายวัย 5 ขวบที่โรงเรียนอนุบาล เธอเห็นลูกชายตัวน้อยกำลังผลักอกเด็กชายวัยเดียวกันเซล้มลง รมิดาจำได้ว่าเด็กคนนั้นชื่อ น้องบอย เป็นเด็กที่มีเรื่องทะเลาะกับแมนยูบ่อยๆ หญิงสาวรีบวิ่งไปดึงนายตัวดีออกมาก่อนที่แมนยูจะกระโจนเข้าไปฟัดน้องบอยอีก ครูเวรรีบเข้ามาช่วยแยกเด็กทั้งคู่ออกจากกัน รมิดาต้องช่วยครูเวรไกล่เกลี่ยคู่กรณีอยู่ครู่ใหญ่ พอขึ้นรถสองแม่ลูกก็หน้าบึ้งเข้าหากัน แมนยูมอง “แม่ดา” ตาคว่ำ เด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ดาต้องโกรธด้วย ทั้งๆ ที่น้องบอยเป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อน แมนยูงอนไม่ยอมกินของว่างแสนอร่อยที่แม่ดาเตรียมไว้ให้ บรรยากาศในรถเงียบกริบ ไม่สนุกสนานเหมือนทุกวัน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน รมิดาดึงตัวลูกน้อยมาซักถามเรื่องราวทันที เธอแปลกใจที่แมนยูยืนกรานแต่ว่าแกไม่ผิด รมิดาคว้าไม้เรียวทั้งที่ไม่อยากทำ แต่ในเรื่องลูกชายดื้อนักก็ต้องปราบกันบ้าง หญิงสาวฟาดก้นแมนยูไปหนึ่งที เด็กน้อยน้ำตาคลอพึมพำปนสะอื้นว่า “น้องบอยล้อแมนยูว่าไม่มีพ่อ อยู่กับแม่ต้องเป็นตุ๊ดแน่ๆ แมนยูเถียงว่าไม่ใช่…บอยก็ไม่ยอมหยุดล้อ…แมนยูโมโหเลยผลักบอยล้ม….” รมิดาทิ้งไม้เรียวเข้ามากอดลูกชายอย่างสงสาร เธอส่งตัวลูกชายให้พี่เลี้ยงแล้วนั่งซึมหวลคิดถึงอดีต….ที่จริงแล้วแมนยู เป็นลูกชายของ ชาญศักดิ์ (สุรวุท ไหมกัน) กับ สีดา (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) แต่แม่ของแกหย่ากับชาญศักดิ์ แล้วไปอยู่อเมริกาตั้งแต่คลอดแมนยูได้ไม่กี่เดือน ชาญศักดิ์จึงเลี้ยงลูกตามลำพัง เขารวยมากเป็นเจ้าของที่ดินและอาคารพาณิชย์หลายแห่ง แค่บริหารจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ก็เกินพอแล้ว เขาโชคดีที่มี สุริยน (พาทิศ พิสิฐกุล) ซึ่งเป็นน้องชายคอยช่วยดูแลอีกแรง……ชาญศักดิ์รู้จักและสนิทสนมกับ สุเทพ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) พ่อของรมิดา สุเทพเปิดร้านอาหาร เขาเป็นเชฟฝีมือดีจึงมีลูกค้ามาอุดหนุนมากมาย ชาญศักดิ์และแมนยูเป็นลูกค้าประจำจึงคุ้นเคยกับรมิดามาก….แม้จะเป็นสาว หน้าหวาน แต่รมิดาตัดผมสั้น บุคลิกเก๋ เท่ห์ ชวนมอง ดูเผินๆ เหมือนผู้ชายหน้าสวยคนหนึ่ง หญิงสาวค่อนข้างซนแก่น จึงเข้ากับแมนยูได้ดีเด็กชายเองก็ติดเธอมากเช่นกัน

รมิดาเข้าใจและเห็นใจแมนยูที่ไม่มีแม่ เพราะเธอเองก็ไม่รู้จัก “แม่” เช่นกัน ในชีวิตเธอมีแต่พ่อสุเทพเท่านั้น เธอเคยถามถึงแม่ สุเทพเล่าให้ฟังอย่างเจ็บปวดว่า…แม่ของเธอเป็นลูกสาวเศรษฐี ไม่อยากจะมากัดก้อนเกลือกินกับพ่อซึ่งเป็นเชฟจนๆ จึงหนีกลับไปอยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่รมิดายังแบเบาะ ที่น่าเสียใจคือพ่อเพิ่งรู้ว่าแม่ไม่รักพ่อและเธอเลย ก็เพราะแม่ให้คนสนิทมานัดให้พ่อไปรับที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยบอกว่าจะหนีไปกับพ่ออีกครั้ง แต่เมื่อถึงวันนัดแม่กลับไม่มา แต่มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งมาแทน คนพวกนั้นต้องการกำจัดพ่อกับรมิดา พ่อต้องอุ้มเธอหนีตายกระเซอะกระเซิง….ไม่นานนัก พ่อก็ได้ข่าวว่าแม่แต่งงานใหม่กับลูกชายเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง พ่อจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารทำมาหากินเลี้ยงรมิดาคนเดียว ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง นอกจากเรียนเก่งแล้วเรื่องการทำอาหารเธอก็มีฝีมือมากเช่นกัน มิเสียแรงที่สุเทพอุ้มเข้าครัวตั้งแต่เล็กๆ รมิดาจึงมีรสมือที่ไม่ต่างจากสุเทพเลย เธอทำอาหารได้ดีทุกอย่าง ที่ถนัดมากคืออาหารจีน

ชาญศักดิ์เห็นลูกชายติดรมิดามาก เขาเองก็อยากให้ลูกมีแม่ ได้มีครอบครัวอบอุ่นเหมือนคนอื่นบ้าง แต่ก็ยังไม่พบใครที่รักและเอ็นดูลูกชายของเขาได้เหมือนเธอ ชาญศักดิ์เฝ้าดูรมิดามานาน และรักเธอในที่สุดเขามั่นใจว่าเธอเป็นคนดีจึงขอรมิดาแต่งงาน ซึ่งสุเทพก็สนับสนุนเต็มที่ ทว่าอีกไม่นานสุเทพเกิดป่วยหนัก ชาญศักดิ์ช่วยรมิดาพาพ่อไปโรงพยาบาล แต่สุเทพอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนตายสุเทพบอกลูกสาวว่าแม่ของเธอชื่อ นัยนา (สุภัทธา ทิวานนท์) เป็นลูกสาวคนเล็กของ ทรงยศ (สมบัติ เมทะนี) กับ สุรีย์ เจ้าของโรงแรมเจสเตอร์ หลังจากแต่งงานกับ ศิริ (ทูน หิรัญทรัยพ์) ทายาทคนเดียวของเจ้าของโรงแรมสยามคอสโม เธอก็เข้ามาบริหารโรงแรมสยามคอสโมเต็มตัว ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว…..การที่สุเทพตัดสินใจบอกความจริงกับรมิดา ก็เพราะไม่ต้องการให้เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลนี้ไม่ว่าใครทั้งนั้น

เมื่อรมิดาจัดการงานศพบิดาและออกทุกข์เรียบร้อย ชาญศักดิ์จึงเริ่มกำหนดงานแต่งงาน รมิดาโชคดีที่ทั้งลูกชายและน้องชายชาญศักดิ์ยอมรับเธอ แต่แล้วก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงสามวัน ชาญศักดิ์ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต รมิดากับสุริยนจึงต้องช่วยกันจัดงานศพและดูแลแมนยูไปพร้อมกัน…ชาญศักดิ์ เป็นคนรอบคอบมาก เขาทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อย ทั้งสุริยน แมนยู และรมิดาต่างก็ได้รับมรดกเป็นทรัพย์สินที่มากพอจะอยู่ได้อย่างสบายไปตลอด ชีวิต….รมิดานั้นรักแมนยูมาก เธอดูแล ตั้งใจเลี้ยงดูเด็กน้อยราวกับเป็นลูกของเธอเอง หญิงสาวทำหน้าที่แม่ได้เป็นอย่างดี เธอไปรับไปส่งแมนยูที่โรงเรียนทุกวัน อาหารการกินก็ทำเอง วิถีชีวิตราบรื่น อบอุ่น มีความสุข…..แต่เหตุการณ์ที่โรงเรียนวันนี้ก็ทำให้รมิดาไม่สบายใจ

สุริยนมาหารมิดาก็เห็นเธอนั่งหน้ามุ่ย รมิดาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง เพราะเธอกับเขาก็สนิทกันมาก ชายหนุ่มเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดี ไม่เคยคิดกับเธอเป็นอื่น รมิดาอยากเห็นแมนยูเติบโตขึ้นอย่างไม่มีปมด้อย และมีความสุขมากที่สุด สุริยนไม่อยากให้รมิดากังวลเกินไป เพราะแมนยูยังเด็กนัก แต่เขาก็รับปากจะช่วยเธอทุกเรื่อง….

นักแสดง คุณพ่อหวานแหวว

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์    รับบทเป็น    ศัลย์
ฝนทิพย์ วัชรตระกูล   รับบทเป็น   รมิดา
ด.ช.ชญานิน เต่าวิเศษ    รับบทเป็น  แมนยู
พาทิศ พิสิฐกุล    รับบทเป็น  สุริยน
ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล    รับบทเป็น  เดือนฉาย
ภทรนันท์ จามิกรณ์    รับบทเป็น   ตะวัน
ศรศิลป์ มณีวรรณ์    รับบทเป็น  ไพลิน
อินทิรา เกตุวรสุนทร    รับบทเป็น  ปาริชาติ
ทศพร รถกิจ    รับบทเป็น  ดุสิต
สุรวุฑ ไหมกัน    รับบทเป็น  ชาญศักดิ์
พรรัมภา สุขได้พึ่ง   รับบทเป็น   สีดา
ปริษา ธนาวิวัฒน์    รับบทเป็น  แจ่มจันทร์
สุภัทธา ทิวานนท์   รับบทเป็น   นัยนา
เกรียงไกร อุณหะนันท์    รับบทเป็น  สุเทพ
ทูน หิรัญทรัพย์   รับบทเป็น   ศิริ
สมบัติ เมทะนี    รับบทเป็น   ทรงยศ
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์    รับบทเป็น  วัลลภ
วนิษฐา วัชโรบล   รับบทเป็น   ลัดดา
ด.ญ.ปานรดา ดเชนทร์นุกูล กำไล

ออกอากาศ 13 ตุลาคม 2553 – 8 ธันวาคม 2553

คุณชายตำระเบิด

หลาย คนอาจคิดว่า ต้มยำกุ้ง ผัดไท เป็นอาหารประจำชาติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส้มตำ ต่างหากที่เป็นอาหารประจำชาติไทย เข้าถึงรสชาติความเป็นไทยทีทั่วประเทศยอมรับ ตั้งแต่คุณนายไฮโซ ยันกรรมกรข้างถนน ส้มตำนี่แหละ แซ่บถึงเครื่อง รสถึงใจ อะไรก็สู้ไม่ได้อีกแล้ว

ณ หมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ที่เพิงหมาแหงนริมถนนนั้น เป็นที่เลื่องชื่อของรสมือการตำส้มตำรสแซ่บหลาย ถูกใจชาวบ้านชาวช่องเป็นนักหนา ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ผู้ลงมือเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสัน ที่มีชื่อว่า ไอ้เผือก ฝีมือระดับเซียนที่หาคนมาเทียบเทียมได้ยาก ทั้งลาบหมู น้ำตก ต้มแซ่บ ไก่ย่าง ล้วนแต่อร่อยจนแทบไม่เหลือให้หมาที่ทำตาละห้อยแถวนั้นได้กินเลยสักวัน

แต่ที่ต้องยกให้เป็นสุดยอดซุปเปอร์เมนูต้องเป็น ตำระเบิด เท่านั้น ส้มตำสูตรพิเศษรสแซ่บถึงเครื่อง ไม่มีหวงเครื่องปรุงให้เสียอารมณ์ ยิ่งกินกับขนมจีนด้วยแล้วละก็ หลายต่อหลายคนยอมนั่งรถจากในตัวเมืองมาลองลิ้มชิมรสตำระเบิดของเผือกกัน อย่างถ้วนหน้า

อันที่จริงเผือกน่าจะรวยเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว แต่เพราะ ทองมี พ่อของเผือกนั้นติดเหล้าอย่างหนัก ไถเงินลูกชายไปให้ร้านเหล้า ยาดอง ในตัวอำเภอตลอด พอไม่ให้ก็ตบตี เผือกจำใจต้องยอมให้พ่อเพราะไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู เขาไม่ได้หวงเงินพ่อ แต่ไม่อยากให้พ่อเมาหัวราน้ำมากกว่า เท่านั้นยังไม่พอ รำจวญ ผู้เป็นแม่ก็ติดเล่นไพ่ งานการไม่ทำ วัน ๆ ขลุกอยู่แต่ในบ่อน คงไม่ต้องบอกว่าเงินที่เอาไปเล่นไพ่แทงหวยทุกวันนั้นมาจากใคร ถ้าไม่ใช่ เผือก

ดีที่ยังมี ยายดวง กับ ผึ้ง สองยายหลานที่คอยเป็นกำลังใจให้เผือกสู้กับชีวิต ยายดวงเองไม่อยากเป็นภาระของหลาน อยากมาช่วยเผือกขายส้มตำ แต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว ทำได้แค่ช่วยเตรียมข้าวของให้ ส่วนผึ้งนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 แล้ว หญิงสาวมาช่วยพี่ชายขายส้มตำหลังจากเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์ผึ้งเองตั้งใจว่าถ้าจบ ม.6 แล้ว จะไม่เรียนต่อ เพราะสงสารเผือกที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว แต่เผือกไม่ยอม ไม่ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยหรือหนักแค่ไหน เขาก็อยากให้น้องสาวคนเดียวของเขาได้เรียนสูง ๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อทดแทนความฝันของเขาที่อยากเรียนแต่ไม่มีเงินเรียน จึงจบมาแค่วุฒิ ม.6 เท่านั้น

วันหนึ่ง มีชายแปลกหน้ามาขายล็อตเตอรี่ที่หมู่บ้าน แต่ไม่มีใครสนใจซื้อ ต่างก็เอาเงินไปเล่นหวยใต้ดินของ เจ๊ ในตัวอำเภอมากกว่า ชายคนนั้นหิวจนหน้ามืดเป็นลมตรงหน้าร้านส้มตำของเผือก เผือกจึงช่วยปฐมพยาบาลไว้และให้กินอาหารในร้านฟรี เพราะชายคนนั้นบอกว่าไม่มีเงิน โดยเผือกไม่เคยรู้เลยว่าแค่คำว่า “ไม่เป็นไรพี่…มีกินก็แบ่ง ๆ กัน” จะทำให้เขารวยเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ! เพราะชายคนนั้นมอบล็อตเตอรี่ใบหนึ่งให้กับเผือก ซึ่งมันถูกแจ๊กพอตรางวัลที่หนึ่งในงวดนั้นนั่นเอง !

จาก ไอ้เผือก กลายเป็น คุณชายเผือก ในบัดดล ด้วยความที่ไม่เคยมีเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ทำเอาทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นต่างวาดฝันกันไปต่าง ๆ นานา ว่าจะซื้อนั่นซื้อนี่ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำตามใจอยาก พวกญาติที่ไม่รู้จักก็พากันมาเยี่ยมที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย มีหลายคนที่เผือกไม่เคยเห็นหน้ามาตลอดชีวิต ก็เข้ามากอดอย่างรักใคร่ แน่นอนว่าทุกคนที่มาไม่ได้หวังแค่จะมาเยี่ยม แต่หวังที่จะมาเอาส่วนแบ่งไปด้วย เห็นท่าจะไม่ได้การแล้ว ทุกคนในบ้านจึงจัดการวางแผนอพยพไปในที่ที่ห่างไกลและคิดว่าจะไม่มีใครตามมา เจอ นั่นคือกรุงเทพฯ

บ้านนอกเข้ากรุงก็งานนี้แหละ ทั้งห้าคนตื่นเต้นราวกับเพิ่งได้มาเห็นเมืองที่มีตึกสูง และรถไฟฟ้าครั้งแรก ชีวิตเริ่มต้นด้วยการหาบ้านสักหลังเป็นที่พำนักอาศัย ในที่สุดเผือกได้บ้านสุดหรูในหมู่บ้านไฮโซฯ มาพักอาศัย บ้านที่ใหญ่กว่ากระต๊อบหลังเดิมไม่รู้กี่เท่า ทองมีกับรำจวญดี๊ด๊าจะได้เป็นไฮโซฯ พากันแย่งขอเงินลูกชายไปประเดิมใช้ในกรุงเทพฯ เมื่อเผือกขัดก็ถูกต่อว่า สุดท้ายเลยต้องให้ไปตามระเบียบ

ที่ข้างบ้านของเผือกนั้นเป็นบ้านของ คุณหญิงสายสมร ที่ค่อนข้างเย่อหยิ่งและเก็บตัวไม่สุงสิงกับผู้ใด ด้วยความที่คนในครอบครัวของเผือกมาจากบ้านนอก จึงพากันส่งเสียงโวยวายลั่น จนคุณหญิงสายสมรไม่พอใจ ส่งจิ้งหรีดสาวใช้ที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ไปต่อว่า และเมื่อเธอได้พบกับเผือกนั้น ก็นึกว่าเผือกเป็นคนใช้ของบ้าน จึงได้ต่อว่าอย่างรุนแรงและดูถูกต่าง ๆ นานา จิ้งหรีดทำเชิดบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านเพื่อข่มเผือก เผือกเองก็ใช่คนที่ยอมคนซะเมื่อไหร่ เขาจึงตอกกลับ สงครามน้ำลายข้ามรั้วจึงกำเนิดขึ้น

ผึ้งเองได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอก จึงตามความทันสมัยของเพื่อน ๆ ไม่ทัน แต่ด้วยความที่ผึ้งเป็นคนสวยทำให้มีหนุ่ม ๆ มาติดมากมาย หนึ่งในนั้นคือ นับหนึ่ง รุ่นพี่ที่คณะสุดป๊อบ  ยิ่งพอรู้ว่าผึ้งเป็นเศรษฐีมือใหม่ ยิ่งทำให้เขาสนใจในเงินของผึ้งมากขึ้น นั่นทำให้ รดา หญิงสาวสุดเริ่ดของคณะที่หมายตานับหนึ่งไว้เช่นกัน ไม่พอใจ หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอตลอดเวลา ดีที่มี เฉิ่ม ชายหนุ่มหน้าซื่อคอยช่วยเหลือผึ้งตลอด แต่เพราะความศิวิไลซ์และความหลงในรูป รส กลิ่น เสียงของเมืองหลวง ทำให้ผึ้งเริ่มจะมองคนที่เปลือกนอกและวัตถุแพง ๆ แล้ว โดยลืมที่จะคบคนที่จิตใจเหมือนตอนที่อยู่บ้านนอก

ความบ้านนอกของบ้านเผือกนั้น ทำเอาคุณหญิงสายสมรแทบคลั่ง ทั้งเสียงคาราโอเกะเพลงอีสาน กลิ่นน้ำต้มปลาร้าที่ลอยโชยข้ามรั้วเข้ามา หรือเสียงด่าทอหยาบ ๆ คาย ๆ ของทองมีกับรำจวญยามทะเลาะกัน ในที่สุด คุณหญิงสายสมรก็หมดความอดทน ตัดสินใจจะไปพักผ่อนที่นิวยอร์กกับญาติที่นั่น โดยชวน ต้นหอม ลูกสาวคนเดียวไปด้วยแต่ต้นหอมปฏิเสธ เธอยังอยากอยู่ดูแลกิจการโรงแรมของคุณหญิงสายสมรต่อ คุณหญิงสายสมรไม่อยากขัดใจจึงยอมให้ลูกสาวอยู่ดูแลบ้านและโรงแรมทางนี้ ส่วนตัวเองบินไปเที่ยวเพื่อหลีกหนีความบ้านนอกของคนข้างบ้าน

วันหนึ่งยายดวงออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้าน ได้มาเจอกับ ยายอิ่ม ที่กลับมาจากตลาดพอดี ทั้งสองเจอกันก็จำกันได้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน ต่างไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบจนได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่ใช่คนอื่นคน ไกลเลย ยายอิ่ม เป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่บ้านของคุณหญิงสายสมรที่อยู่ริมรั้วบ้านของยายดวง นั่นเอง ทั้งคู่ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า ยายอิ่มเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่รู้ว่ายายดวงเพิ่งเป็นเศรษฐีใหม่ของเมือง ไทย

เรื่องราวอันน่าตื่นเต้นที่ถูกนำไปเล่าในบ้านของคุณหญิงสายสมร จิ้งหรีดได้ยินดังนั้นก็ตาโต เมื่อรู้ว่าคนที่เธอใช้หางตามองและด่าทอกันจนแทบจะฆ่ากันตายนั้นเป็นเจ้าของ คฤหาสน์หลังงาม และรวยมีเงินเป็นร้อยล้าน  ตายละวา…ไหงเรื่องกลับตาลปัตร แล้วถ้าไอ้หมอนั่นมารู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเป็นแค่คนใช้ ไม่ใช่ลูกสาวบ้านนี้จริง ๆ จะทำอย่างไร มีหวังได้ซุกแผ่นดินหนีแน่ ๆ

เผือกเริ่มรู้สึกว่าผึ้งเปลี่ยนไป หญิงสาวเริ่มแข็งกร้าวขึ้น ใช้เงินเก่งเตือนอะไรก็เถียง ไม่เชื่อฟังแบบตอนอยู่ที่บ้านนอก เขาเริ่มเป็นห่วงน้องสาว กลัวว่าจะหลงแสงสีไปตามคนเมือง จึงตามไปดูที่มหาวิทยาลัย ก็พบว่าผึ้งกำลังสวีตกับนับหนึ่งจนออกหน้าออกตา ชายหนุ่มเข้าไปห้าม แต่ผึ้งแกล้งทำเป็นไม่รู้จักพี่ชายของตัวเอง เพราะเผือกแต่งตัวบ้านนอกเหมือนตอนอยู่ต่างจังหวัด เธออายเพื่อน ไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีพี่ชายที่มีสภาพเป็นแบบนี้

ทั้ง เรื่องพ่อเรื่องแม่ และเรื่องน้องสาว ทำเอาเผือกกลุ้มใจไม่น้อย ชายหนุ่มตัดสินใจไปทำบุญที่วัดเพื่อให้จิตใจดีขึ้น และที่นั่นเอง เขาได้พบกับต้นหอมที่มาเลี้ยงข้าวกลางวันเด็กกำพร้าที่มูลนิธิใกล้ ๆ วัด เธอสวยและจิตใจดีจนเผือกอดที่จะแอบมองไม่ได้ เหมือนฟ้าเป็นใจ เมื่อรถของต้นหอมเสียเผือกจึงอาสาไปส่ง ทั้งคู่คุยกันถูกคอ ที่สำคัญต้นหอมไม่มีทีท่ารังเกียจชายหนุ่มเลยแม่แต่น้อย นั่นทำให้เผือกยิ่งประทับใจในตัวต้นหอมมาก แล้วเรื่องเซอร์ไพรซ์ก็เกิดขึ้น เมื่อต้นหอมคือเพื่อนบ้านของเผือกนั่นเอง โลกช่างกลมเสียจริง

เผือกแอบชอบต้นหอมมาก แต่ก็รู้ตัวเองว่าเขาช่างเชยและบ้านนอกขนาดนี้ จึงตัดสินใจจ้าง เจ๊ลิลลี่ มือโปรมาเนรมิตตัวเขาเองให้เป็นคุณชายเหมาะสมกับต้นหอม จากชายหนุ่มบ้านนอกคอกนากลายเป็นคุณชายสุดหล่อ  จนจิ้งหรีดถึงกับตกตะลึง ชอบชายหนุ่มขึ้นมาซะอย่างนั้น ด้วยหวังว่าจะได้ถีบตัวเองหลุดจากอาชีพคนใช้อันต่ำต้อยเสียที หากได้เผือกเป็นแฟน แต่หญิงสาวยังกังวลใจไม่หาย ว่าถ้าเผือกรู้ว่าตัวเธอเป็นแค่คนใช้ เขาไม่มีวันชอบเธอแน่ ๆ จึงไปสารภาพความจริงกับต้นหอม ต้นหอมนึกสนุกเลยตกลงจะอุปโลกน์ให้จิ้งหรีดเป็นน้องสาวไฮโซของตัวเอง เพื่อเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับสาวใช้ เธอเชื่อว่าคนเราจะรักกันต้องเดินข้ามเรื่องชาติกำเนิดและเงินทอง โดยต้นหอมไม่เคยรู้เลยว่าเผือกนั้นแอบชอบต้นหอมไม่ใช่ชอบจิ้งหรีด ที่สำคัญ จิ้งหรีดเองชอบที่เงินของชายหนุ่มมากกว่าจิตใจ

เผือกที่หลงรักต้นหอมมาก แต่ไม่รู้จะเข้าใกล้หญิงสาวได้อย่างไร จึงหวังที่จะเข้าใกล้ต้นหอมด้วยการมาทำดีกับจิ้งหรีด ที่เขาคิดว่าเป็นน้องสาวของต้นหอม เพราะความดีของเผือกทำเอาจิ้งหรีดยิ่งชอบเขามากขึ้นโดยไม่รู้เลยว่าเผือกมา ทำดีนั้นเพราะอยากจีบต้นหอมมากกว่า

วันหนึ่งเป็นวันเกิดของเผือก เขาจึงจัดงานเล็ก ๆ ขึ้นที่บ้าน โดยการชวนต้นหอมและจิ้งหรีดมาร่วมงานด้วย แม้เผือกจะพยายามจัดงานให้หรูเลิศตามที่เจ๊ลิลลี่สั่งแล้วก็ตาม แต่พ่อแม่และยายของเขากลับทำให้งานเสียด้วยการตั้งโต๊ะตำส้มตำ ทำลาบ จกปลาร้ากันต่อหน้าต้นหอมและจิ้งหรีด ยายดวงบอกให้เผือกลองตำระเบิดโชว์ และสาธยายถึงความโด่งดังของส้มตำสูตรนี้ให้ต้นหอมกับจิ้งหรีดฟัง ทำให้ทั้งคู่อยากลองชิมมาก สุดท้ายเผือกก็ตัดสินใจถอดสูทหันมาควงสากโชว์ส้มตำระเบิดให้ทั้งสองกิน ต้นหอมติดใจในรสชาติมาก ถึงกับอยากให้เผือกช่วยทำส้มตำระเบิดนี้ไปรับแขกชาวต่างชาติที่โรงแรม เผือกตอบตกลงเพราะอยากทำคะแนนให้ต้นหอมรัก

ชื่อเสียงของเผือกดังกระฉ่อนทันทีที่ได้ออกงานแรก หลายต่อหลายคนออร์เดอร์มาเป็นร้อย ๆ ครก เพื่อนำไปจัดเลี้ยงสร้างชื่อให้โรงแรมของต้นหอม ต้นหอมจึงทาบทามให้เผือกมาทำงานที่โรงแรมเพื่อเป็นหัวหน้าเชฟในการตำส้มตำ โดยเฉพาะ เผือกตอบตกลงมาทำงานที่โรงแรม เพื่อจะได้ใกล้ชิดต้นหอม โดยจิ้งหรีดก็มาด้วย ตามแผนของต้นหอม

วันหนึ่ง เผือกจะไปสารภาพรักต้นหอม แต่กลับพบว่าหญิงสาวมีแฟนเป็นนักธุรกิจชื่อดังอยู่แล้ว เผือกเสียใจมาก อยากจะลาออกจากงาน แต่จิ้งหรีดห้ามไว้และให้กำลังใจชายหนุ่ม แม้จะรู้สึกเสียใจบ้างที่รู้ว่าเผือกไม่เคยมีใจให้เธอเลย แต่กลับมีใจให้กับต้นหอมผู้เป็นนายแทน จากที่เคยคิดว่าจะชอบเขาเพียงเพราะเงิน จิ้งหรีดกลับตกหลุมรักในความดีงามในจิตใจของชายหนุ่มเข้าให้แล้ว…

ความใกล้ชิดของจิ้งหรีดกับเผือกเริ่มรู้ใจกันมากขึ้น ชายหนุ่มเริ่มเห็นด้านดีของหญิงสาว ความใสซื่อและดวงตาที่ดูเหมือนมีความนัยคู่นั้นทำให้เผือกอดรู้สึกแปลก ๆ ด้วยไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ในใจกลับตะโกนบอกว่าคนที่เขาต้องการนั้นคือต้นหอมคนเดียว แต่เพราะความดีของจิ้งหรีดทำให้เผือกปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ารักหญิงสาวเข้า ให้แล้วเช่นกัน นั่นทำให้จิ้งหรีดเริ่มรู้สึกผิดและกลัว กลัวว่าถ้าเผือกรู้ว่าตัวเองเป็นแค่คนใช้ เขาจะรับไม่ได้ ที่สำคัญเผือกจะต้องโกรธมากที่รู้ว่าเธอหลอกลวงเขามาตลอดว่าเป็นคุณหนู

ตำระเบิดของเผือกนั้นโด่งดังไปจนทั่วสารทิศ วัน ๆ หนึ่งเขาต้องตำส้มตำระเบิดไม่น้อยกว่าสามร้อยครก ทำให้ต้นหมอเริ่มตัดสินใจสั่งซื้อมะละกอจากสวนย่านชานเมืองมา และนั่นทำให้จิ้งหรีดได้เจอกับ นวล แม่ค้าขายส่งมะละกอพันธุ์ดี ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของจิ้งหรีดอีกด้วย

จิ้งหรีดพยายามหลบหน้าหลบตานวล เพราะกลัวนวลจะรู้ว่าเธอมาเป็นคนใช้อันต่ำต้อย ที่สำคัญเธอกลัวว่านวลจะเปิดโปงความลับว่าตัวของจิ้งหรีดเองนั้น ไม่ได้เป็นคนในครอบครัวของคุณหญิงสายสมร เจ้าของโรงแรมแต่อย่างใด เมื่อหลายปีก่อนนั้น จิ้งหรีดใช้ชีวิตเป็นสาวชาวสวนมะละกอ อยู่อย่างมีความสุข แม้ทางครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็พอมีพอกิน คม พ่อของจิ้งหรีดเป็นคนรักครอบครัวมาก เขาไม่เคยนอกใจ วรรณ เมียสุดที่รักเลย

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวรรณประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต คมเสียใจมาก ดื่มเหล้าเมายา ไม่ยอมทำสวนมะละกอต่อ ภาระหนักจึงตกมาอยู่ที่จิ้งหรีดที่ต้องดูแลทุกอย่างเอง วันหนึ่งคมได้พานวลกลับมาจากคลับในเมือง นั่นทำให้จิ้งหรีดไม่พอใจที่พ่อของตัวเองกำลังจะมีเมียใหม่ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แต่สุดท้ายจิ้งหรีดก็ต้องยอมให้พ่อพานวลเข้ามาอยู่ในไร่ ในฐานะเมียใหม่ของพ่อ

แรก ๆ นั้น นวลก็ทำดีกับจิ้งหรีดเพื่อให้เธอตายใจ แต่สุดท้ายความชั่วร้ายก็ออกลาย นวลพยายามจะเอาทุกอย่างของคมไปเป็นเจ้าของ โดยใช้มารยาหญิงหลอกให้คมเซ็นโอนไร่มะละกอทั้งหมดให้กับเธอ จิ้งหรีดไม่พอใจมาก ไปต่อว่าพ่อ แต่ก็โดนตบกลับมา ทำให้หญิงสาวน้อยใจว่าพ่อไม่ใช่พ่อคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก มิหนำซ้ำจิ้งหรีดยังไปรู้ความลับมาว่านวลนั้นแอบมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับคนงานในสวน เธอจะไปฟ้องพ่อ แต่นวลรู้ตัวเสียก่อน  ทั้งคู่ตบตีกัน แต่นวลสร้างภาพว่าถูกจิ้งหรีดรังแกก่อน พ่อลูกจึงไม่มองหน้ากันอีกนับตั้งแต่วันนั้น

วันหนึ่ง ข่าวร้ายก็มาเยือนจิ้งหรีด เมื่อได้รู้ว่าผู้เป็นพ่อขับรถตกเหวเสียชีวิต เหมือนเสาหลักในชีวิตของจิ้งหรีดล้มไปเสียแล้ว หญิงสาวถูกนวลไล่ออกจากบ้านเพราะเธอไม่มีสิทธิ์อะไรในสมบัติของพ่อเลย จิ้งหรีดไม่มีที่ไปจึงเสี่ยงโชคชะตามาในเมืองหลวง หวังว่าจะมาหางานทำเพื่อประทังชีวิต แต่ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หญิงสาวถูกหลอกไปขายตัวในซ่อง แต่ก็เอาตัวรอดหนีออกมาได้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ดันไปถูกรถของต้นหอมชนเข้า ดีที่จิ้งหรีดไม่เป็นอะไรมาก ต้นหอมจึงรับจิ้งหรีดเข้ามาทำงานในบ้านด้วยความสงสารหลังจากนั้นชีวิตของเธอ ก็ถูกเรียกว่าคนรับใช้ตลอดมา

นวลเหมือนว่าจะเห็นจิ้งหรีดแวบ ๆ จึงตามไป สุดท้ายจึงรู้ว่าจิ้งหรีดอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ และยิ่งแปลกใจเมื่อเผือกแนะนำว่าจิ้งหรีดคือน้องสาวของต้นหอม เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ นวลแอบหมายตาเผือกไว้ คิดจะเปิดโปงความจริงว่าจิ้งหรีดไม่ใช่คนในครอบครัวของต้นหอม แต่ต้นหอมรู้ทันเสียก่อน จึงยื่นข้อเสนอว่าถ้าปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เธอจะเป็นลูกค้ามะละกอของนวลตลอดไป และจะติดต่อโรงแรมของเพื่อน ๆ ที่รู้จักให้ด้วย นวลตกลงแต่ยังไม่เลิกหมายตาเผือก เพราะถูกตาต้องใจเหลือเกิน ความลับเรื่องของจิ้งหรีดดำเนินต่อไป พร้อมกับความรักของคนทั้งคู่

ช่วงนี้ยายดวงเจ็บออด ๆ แอด ๆ เผือกให้ไปตรวจร่างกายก็ไม่ยอมไป ตัวเขาเองก็ยุ่งอยู่ที่โรงแรม ผึ้งเองก็กลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ อ้างว่าติดกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย ส่วนรำจวญกับทองมีไม่ต้องพูดถึง วัน ๆ มุดหัวอยู่แต่ในบ่อน ถ้าเงินไม่หมด ไม่กลับมาบ้าน บ่อยครั้งที่ยายดวงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หญิงชราเริ่มไม่ชอบความมั่งมีที่ได้มาเสียแล้ว หากการมีเงินแล้วต้องเหงาแบบนี้ เธอขอกลับไปจนแล้วอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างเดิมเสียดีกว่า

หลังจากได้ติดต่อกับเผือกที่โรงแรมบ่อยครั้ง นวลเริ่มสืบเสาะหาที่อยู่ของเผือก เธอมักเอาของกำนัลมาฝากเผือกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทำให้จิ้งหรีดไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทั้งคู่มีปากเสียงกันทุกครั้งที่ได้เจอหน้า จนเผือกเริ่มจะสงสัยว่าทั้งคู่น่าจะเคยรู้จักกันมาก่อน แต่จิ้งหรีดก็ยังปิดบังความลับเรื่องระหว่างเธอกับนวลไว้

วันหนึ่งมีแก๊งค์มาเฟียโทรมาหาเผือก บอกให้เอาเงินสิบล้านไปไถ่ตัวทองมี กับรำจวญที่ไปเสียไฮโลที่ชายแดน ชายหนุ่มจำเป็นต้องเบิกเงินที่ร่อยหรอไปช่วยพ่อและแม่ เขาเริ่มจะเครียดแล้ว เพราะเงินที่ได้จากการถูกล็อตเตอรี่ครั้งนั้นใกล้หมดลงทุกที เนื่องจากคนในบ้านต่างใช้เงินราวกับเป็นเศษกระดาษ

เรื่องราวระหว่างนวลกับจิ้งหรีดเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งสองมีปากเสียงกัน  ในขณะที่เผือกแอบฟังอยู่ จึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วนวลเป็นแม่เลี้ยงของจิ้งหรีดนั่นเอง นั่นทำให้ชายหนุ่มงงว่าในเมื่อจิ้งหรีดเป็นน้องสาวของต้นหอมแล้ว ทำไมมีแม่เลี้ยงเป็นนวล หรือสามีของคุณหญิงสายสมรจะไปแต่งงานใหม่

และ แล้วความลับทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยเมื่อคุณหญิงสายสมรกลับมาเมืองไทย แล้วเห็นนวลกับจิ้งหรีดกำลังทะเลาะกันอยู่หน้าบ้าน จึงเข้าไปต่อว่า ความลับที่ว่าจิ้งหรีดไม่ใช่ลูกสาวคุณหญิงสายสมรและมีหน้าที่เป็นเพียงคนรับ ใช้จึงถูกเปิดโปงขึ้น นั่นทำให้เผือกโกรธหญิงสาวมาก ไม่ยอมพูดด้วยเพราะเขาเกลียดการโกหกที่สุด ส่วนจิ้งหรีดเองกลับคิดว่าที่เผือกโกรธเธอนั้นเพราะรู้ว่าเธอเป็นแค่คนรับ ใช้ ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนที่ได้สร้างภาพมา เผือกอาจไม่ได้รักเธอเพราะจิตใจ แต่เป็นเพราะที่ความหรูหราและความมีเกียรติมากกว่า

ผึ้งขออนุญาตไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน ๆ ที่คณะ ซึ่งรดากับเพื่อน ๆ วางแผนไว้แล้วว่าจะทำให้ผึ้งเสียคนก็คราวนี้ ด้วยการวางแผนให้ผู้ชายในคณะจัดการพาผึ้งไปรุมโทรม เฉิ่มรู้เรื่องเข้าก็ไปเตือนผึ้ง แต่ถูกผึ้งตอกหน้ากลับมาว่าไม่หวังดี เฉิ่มเองอดเป็นห่วงผึ้งไม่ได้ จึงลงทะเบียนไปเที่ยวในครั้งนี้ด้วย แล้วก็เป็นจริงดังที่เขาได้ยินมา เมื่อผึ้งจะถูกผู้ชายสามคนจะพาไปข่มขืน แม้นับหนึ่งเองจะอยู่บริเวณนั้น แต่กลับหนีเอาตัวรอด เฉิ่มแสดงความรักด้วยการสู้สุดชีวิตจนตัวเองสะบักสะบอม ในที่สุดตำรวจก็มาจับคนร้ายได้แล้วซัดทอดไปถึงรดา ทำให้รดาถูกตำรวจจับไปด้วย

ข่าวออกทีวีครึกโครม ในขณะที่เผือกกับยายดวงกำลังนั่งดูอยู่ ทั้งคู่ตกใจมากโดยเฉพาะยายดวง ถึงขั้นเป็นลมหมดสติไป เผือกรีบนำตัวยายดวงส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่ายายดวงเป็นโรคหัวใจตีบ ต้องรีบผ่าตัดด่วน  เผือกจึงยอมให้หมอผ่าตัดยายดวง

ผึ้งเองรู้เรื่องก็ให้เฉิ่มรีบพากลับมา เช่นเดียวกับทองมีและรำจวญที่ยอมทิ้งไพ่มาดูใจยายดวง หมอบอกให้ทำใจไว้เพราะโอกาสรอดมีแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่สำคัญค่าใช้จ่ายสูงมาก เงินที่เผือกเหลือเก็บตอนนี้มีไม่พอ  ท้ายสุดแล้วชายหนุ่มตัดสินใจเอาบ้านไปจำนองไว้กับธนาคารเพื่อนำเงินก้อนสุด ท้ายมารักษาผู้เป็นยาย ทั้งหมดเพิ่งเข้าใจว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคนในครอบครัวอีกแล้ว…

เมื่อผ่านเรื่องราวของ คนมีเงิน มามากมาย ทำให้ทุกคนรู้ว่าชีวิตมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเอาเสียเลย แม้จะชอบความหรูหราของคนมีเงิน แต่พวกเขากลับรักที่จะอยู่กันอย่างอบอุ่นแบบเดิมมากกว่า ผึ้งได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อฟู่ฟ่าของสังคมเมืองหลวงนั้นไม่ได้ดีไป เสียทุกอย่าง การมองคนเพียงแค่หน้าตากลับทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด มองคนต้องมองที่จิตใจเหมือนที่เธอเคยเรียนรู้มาก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ กรุงเทพฯ ทองมี กับ รำจวญ ที่ก่อหนี้ก่อสินไว้มากมายก็เริ่มสำนึก เผือกเอาเงินที่เหลือไปใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ทั้งหมด ทั้งสองขอโทษลูกชายที่ทำตัวไม่ดีมาตลอด และสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น

ยายดวงปลอดภัย แต่ยังต้องกินยารักษาตัวอีกเดือนละหลายแสนบาท เผือกตัดสินใจขายบ้าน รถ และทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามจำเป็น ทั้งห้าตกลงกันแล้วว่าชีวิตในเมืองหลวงช่างไม่เหมาะกับคนบ้านนอกอย่างพวกเขา จึงจะกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่บ้านนอกที่เคยจากมา แม้ที่บ้านนอกจะไม่หรูหรา ไม่ศิวิไลซ์เหมือนในเมืองหลวง แต่ที่นั่นทำให้เขาได้รู้สึกถึงคำว่าครอบครัวอย่างเต็มที่

ผึ้งไปกล่าวลาเฉิ่มว่าอาจไม่เจอกันอีกแล้วชาตินี้ เพราะเธอจะกลับไปเรียนต่อที่บ้านนอก เฉิ่มเองก็เสียใจแต่ก็ยอมให้หญิงสาวไป เพราะเคารพการตัดสินใจของผึ้ง จิ้งหรีดรู้ข่าวจากยายดวงว่ากำลังจะย้ายกลับบ้านนอกกันทั้งครอบครัวก็ใจหาย ใจหนึ่งก็อยากจะขอโทษเผือก แต่อีกใจมันก็มีอคติ เลยทำปากแข็งว่าไม่รู้สึกอะไรกับการจากไปของชายหนุ่ม เช่นเดียวกับเผือกเอง เขาก็อยากบอกลาจิ้งหรีดเป็นครั้งสุดท้าย แต่เห็นว่าหญิงสาวทำเฉยชา จึงตัดสินใจจากไปโดยไม่มีการปรับความเข้าใจกัน

ทั้งหมดกลับมาตั้งหลักที่บ้าน เผือกเจียดเงินมาทำร้านอาหารอีสานเล็ก ๆ ทำมาหากินเพื่อประทังชีวิต โดยมีรำจวญคอยช่วยลูกชาย ส่วนผึ้งได้โอนหน่วยกิตมาเรียนต่อราชภัฏในตัวเมือง ทางด้านทองมีก็ทำสวนทำไร่เล็ก ๆ น้อย ๆ และมีหน้าที่คอยดูแลยายดวงในฐานะลูกเขยที่ดี ที่เขาไม่เคยได้ทำมาเลยตลอดชีวิต

วันหนึ่งผึ้งไปเจอกับเฉิ่มโดยบังเอิญ โชคชะตาเหมือนเป็นใจเพราะเฉิ่มกลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งอยู่จังหวัดเดียวกันกับผึ้ง บ้านของเฉิ่มนั้นเป็นร้านค้าส่งปุ๋ยและค้าข้าวรายใหญ่ของจังหวัด ชายหนุ่มไม่ได้จนอย่างที่ผึ้งคิดไว้เลย  เพียงแต่เฉิ่มเป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เคยหลงไปกับเงินทองมากมาย นั่นทำให้ผึ้งละอายใจมาก แต่เฉิ่มก็ให้อภัย ทั้งคู่ตัดสินใจคบกันโดยให้พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมาผูกมิตรกันไว้ แม่ของเฉิ่มนั้นเป็นลูกค้าประจำร้านตำระเบิดของเผือกมานาน ก็ปลื้มใจ ไม่ได้รังเกียจในความจนของครอบครัวของผึ้ง แต่กลับชื่นชมในความขยันขันแข็งซะอีก จึงขอหมั้นหมายผึ้งให้เฉิ่มไว้ ถ้าทั้งคู่เรียนจบจะให้แต่งงานกัน

ทางด้านเผือกเอง แม้จะทำใจให้ลืมจิ้งหรีด แต่เขาก็ทำไม่ได้ เช่นเดียวกับจิ้งหรีดที่ยังคงเหม่อลอยคิดถึงเผือกเสมอ หญิงสาวรู้ตัวแล้วว่าผิด และไม่ควรถือตัวทำปากแข็ง ไม่ยอมขอโทษชายหนุ่ม แต่กว่าจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ยายอิ่มรู้ทันทีจึงเอาที่อยู่บ้านของยายดวงให้จิ้งหรีด เธอขอไว้ก่อนที่ยายดวงจะกลับไปบ้านนอก เผื่อมีเวลาจะได้ไปเยี่ยมเยียน

จิ้งหรีดตัดสินใจขึ้นรถไปหาเผือกทันที หญิงสาวได้เจอเผือกที่ร้านตำระเบิด ทั้งคู่ต่างปรับความเข้าใจกัน และสารภาพความในใจของกันและกันทั้งหมด จิ้งหรีดอาสาจะอยู่ที่นี่ช่วยเผือกดูแลร้าน เผือกบอกกับเธอว่า เขาไม่ได้มั่งมีเหมือนเมื่อก่อน ถ้าจิ้งหรีดอยู่ด้วยจะลำบาก แต่จิ้งหรีดไม่กลัว เธอพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างชายหนุ่มคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอตลอดไป ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน ถ้าไม่มีความสุขเธอก็ไม่เอา ขอแค่มีความรักและความอบอุ่นเท่านั้นก็พอเพียงแล้วสำหรับชีวิตนี้

รายชื่อนักแสดง คุณชายตำระเบิด

ตะวัน  จารุจินดา   รับบทเป็น   เผือก
อัญรินทร์  ธีราธนันพัฒน์   รับบทเป็น   จิ้งหรีด
กันตพงษ์  บำรุงรักษ์   รับบทเป็น   ปราณ
กรรณาภรณ์  พวงทอง   รับบทเป็น   ต้นหอม
มิกค์  ทองระย้า   รับบทเป็น   เฉิ่ม
ศรศิลป์  มณีวรรณ์   รับบทเป็น   ผึ้ง
วิชญะ  จารุจินดา   รับบทเป็น   สารวัตรเชิงชาย
นึกคิด  บุญทอง   รับบทเป็น   ทองมี
รัชนีกร  พันธ์มณี   รับบทเป็น   รำจวญ
เยาวเรศ  นิศากร   รับบทเป็น   ยายดวง
ดวงดาว  จารุจินดา   รับบทเป็น   คุณหญิงสายสมร
เจมี่  บูเฮอร์   รับบทเป็น   นวล
สาริน  บางยี่ขัน   รับบทเป็น   ชัชชัย
อรสา  อิศรางกูร ณ อยุธยา   รับบทเป็น   ยายอิ่ม
ปนัดดา  โกมารทัต   รับบทเป็น   คุณนายพิศเพลิน
วรภร  เลิศเกียรติไพบูลย์   รับบทเป็น   ลิลลี่
สุรบดินทร์  สมบัติเจริญ   รับบทเป็น   นับหนึ่ง
ภัทรนิษฐ  แก้วมณี   รับบทเป็น   รดา
ปาริตา  โกศลศักดิ์   รับบทเป็น   หวาน
ต๋อง   ชวนชื่น   รับบทเป็น   ชะมด
สุภัทรา  ทิวานนท์   รับบทเป็น   วรรณ

ออกอากาศ 8 ตุลาคม 2553 – 4 มกราคม 2554

คุณชายติดหรู คุณหนูติดดิน

หลัง จากงานทุ่งดอกกระเจียวบานผ่านพ้นไปแล้ว จันดง (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) หญิงสาวนักพัฒนาและผู้ก่อตั้งกองทุนเพื่อการเกษตรครบวงจรของชุมชนบ้านเขาตา เย็น จึงได้เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อมาดูกิจการโรงงานทำขนมตามคำชักชวนของ หญิงจงกล (วัชรารัศมี สุนทรพนาเวช) ภรรยาของ อินทร์ (เป็ด เชิญยิ้ม) ถึงจะมีฐานะร่ำรวยแต่หญิงจงกลก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดของตัวเองเช่นเดียวกับ อินทร์ ทั้งสองจึงเลี้ยงควายไว้ในบริเวณคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ของตัวเองด้วย

การมาของจันดงถึงแม้จะเป็นการเห็นชอบของหญิงจงกลกับพระอินทร์ก็ตาม แต่ก็ทำให้ทั้งสองต้องมีเรื่องพูดจาค่อนขอดกันตลอด เพราะในอดีตทั้งสองคนเคยเป็นคู่รักของ ผู้ใหญ่เมือง (วรุฒ วรธรรม) กับ จันดา (ปุณิกา โยคะกุล) พ่อและแม่ของจันดง สาเหตุที่หญิงจงกลอยากจะให้จันดงมาฝึกงานที่โรงงานทำขนมของเธอ เพราะเธออยากจะสนับสนุนข้าวทดลองของจันดงและชาวบ้านเพื่อเอามาผลิตขนม ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คืออยากจะให้จันดงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรม คุณชายอุษมัน (นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช) ลูกชายที่ไม่ค่อยเอาไหนเอาแต่ผลาญเงินและติดผู้หญิงไปวัน ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่อ นงพะงา (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) หญิงจงกลถึงกับประกาศห้ามลูกชายคบเด็ดขาด แต่ผู้หญิงที่อุษมันรักจริงหวังแต่งและเหมาะสมกับเขาในทุกเรื่องคือ กะชามาด (ปิยะดา ตุรงคกุล) เจ้าของร้านดอกไม้แสนสวยที่หญิงจงกลเห็นดีเห็นงามด้วย แต่เธอกลับไปให้ความสนใจ ลายแคน (จุตรวิทย์ คชน่วม) หนุ่มบ้านนอกที่อยู่ใกล้กับบ้านของจันดง ซึ่งหญิงจงกลให้ความอุปถัมภ์เลี้ยงดูจนเรียนจบและให้มาช่วยดูแลโรงงานทำขนม อุษมันไม่ค่อยพอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนลายแคนก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมเด็ดดอกฟ้าอย่างกะชามาด

ด้านจันดง ก็ต้องปลอมตัวให้กลายเป็นคนอ้วนฟันเหยิน เพราะไม่อยากให้อุษมันจำได้ว่าเธอคือ ผู้หญิงคนที่มีเคยเรื่องกับเขา และอยากจะสอนให้อุษมันรู้ว่าคนรวยคนจนก็มีความเป็นคนไม่ควรดูถูกคนอื่น โดยจันดงบอกทุกคนว่าเธอชื่อจันดง เป็นน้องสาวฝาแฝดของ จันได อุษมันรู้สึกอึดอัดใจที่ต้องขับรถไปรับส่งเธอถึงที่พักทุกวัน ตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ชนิดที่ขัดขืนไม่ได้ และด้วยความบังเอิญอพาร์ทเมนท์ที่จันดงไปพักนั้นเป็นของนงพะงา จึงทำให้นงพะงาไม่พอใจที่เห็นอุษมันมารับจันดง เพราะเธอเคยมีเรื่องทะเลาะกับจันไดและกะชามาดครั้งที่ไปเที่ยวผับกับอุษมัน

ทาง ด้านจันดงกับกะชามาดหลังจากที่รู้จักกันในผับด้วยความบังเอิญ ทำให้ทั้งคู่มีถูกชะตากันและมีความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ในช่วงฝึกงานอุษมันกับจันดงเป็นคู่กัดกันตลอด เมื่อครบกำหนดฝึกงานจึงมีการเลี้ยงส่งจันดง โดยมีอุษมันและกะชามาดมาร่วมงานด้วย แต่เพราะอุษมันหึงกะชามาดจนมีเรื่องชกต่อยกับลายแคน และอุษมันก็พูดจาดูถูกลายแคน ทำให้ลายแคนตัดสินใจลาออกแล้วกลับบ้านนอกพร้อมกับจันดง โดยไม่ได้ลาผู้ใหญ่ที่เคารพ พอหญิงจงกลกับพระอินทร์ทราบเรื่อง รู้สึกโกรธมากและลงโทษลูกชายโดยสั่งให้ไปตามลายแคนกลับมาทำงานเหมือนเดิม พร้อมทั้งขอโทษที่พูดจาดูถูกจันดงว่าเป็นคนบ้านนอกด้วย เท่านี้ยังไม่พออุษมันถูกส่งไปดัดสันดานที่เขาตาเย็น โดยให้ไปอยู่ที่บ้านของผู้ใหญ่เมืองกับจันดาเป็นเวลา 3 เดือน ทีแรกอุษมันไม่อยากไปพอรู้ว่ากะชามาดจะไปตามลายแคนจึงยอมไปแต่โดยดี

เมื่อจันดงกลับมาอยู่บ้านก็ต้องพบว่าโรงเก็บปุ๋ยหมักอินทรีย์ที่เธอทดลองทำ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรในหมู่บ้านได้ใช้ของถูกและดี ถูกปล้นและทำลายจนเสียหายโดยฝีมือของ เสี่ยชัชชัย (สุพจน์ จันทร์เจริญ) เจ้าของธุรกิจค้าปุ๋ยรายใหญ่แห่งเขาตาเย็น โดยมี ธง (เด๋อ ดอกสะเดา) คนในหมู่บ้านที่ผู้ใหญ่เมืองกับจันดาจ้างให้มาเฝ้าโรงเก็บปุ๋ย ร่วมมือกับ สายธาร (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ลูกสาวของตัวเองรับจ้างทำงานนี้ แล้วโยนความผิดไปให้ ชมชาญ  (จาตุรงค์ โกลิมาศ) คนฉายหนังเร่ เพราะธงติดหนี้พนันเยอะจึงต้องหาเงินไปใช้หนี้ และเสี่ยก็รู้ความลับว่าธงกับสายธารเป็นพ่อลูกกัน ธงได้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับกับทุกคนในหมู่บ้าน เพราะไม่อยากให้เมียอ้วน (แอน กรุณา) รู้ความจริงว่าตัวเองเคยมีลูกมีเมียมาก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือเลี้ยงดูในเรื่องเงิน ส่วนสายธารต้องเอาตัวเข้าแลกจึงได้รถจากเสี่ยเอาไว้ขับไปร้องเพลงในที่ต่าง ๆ

พออุษมันมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับจันดง ทำให้จันดงต้องกลับไปใส่ฟันเหยินเหมือนเดิม จนทุกคนในบ้านสงสัยแต่จันดงก็เอาตัวรอดไปได้แต่ไม่สามารถรอดพ้นจากน้อง ชายอย่าง ก้านแก้ว (ด.ช.ปภิชาญ คัมภิรานนท์) ไปได้ ทางด้านลายแคนก็ต้องพากะชามาดมาฝากไว้กับบ้านจันดง เพราะเขาไม่อยากให้คนนินทากะชามาด ด้านจันดงก็เอาคืนอุษมันด้วยการให้อุษมันไปช่วยนอนเฝ้าโรงเก็บปุ๋ยหมักแทน ลุงธง ถึงแม้จะมีคนหนุ่มอย่างอุษมันมานอนเฝ้าโรงเก็บปุ๋ยหมัก เสี่ยชัชชัยก็ไม่กลัวสั่งให้ธงเอาสารเคมีไปโรยในปุ๋ยหมัก และยังส่งสมุนไปทำร้ายอุษมันแต่ทุกอย่างก็ไม่สำเร็จ เพราะมีจันดงพร้อมพ่อกับแม่และชาวบ้านมาช่วยไว้ทัน แต่อุษมันก็ได้รับบาดเจ็บ

จากเหตุการณ์ร้ายนี้ทำให้อุษมันกับจันดงเริ่มที่จะมีความรู้สึกที่ดีในใจต่อ กันขึ้นมาบ้าง แต่เพราะทั้งสองต่างคิดว่าลายแคนชอบจันดงและอุษมันชอบกะชามาด จึงทำให้ต่างฝ่ายไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ผิดกับกะชามาดที่กล้าแสดงออกว่ารักลายแคน แต่ฝ่ายชายก็ยังนิ่งเฉยจนทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกสงสารตัวเอง ทางด้านหญิงจงกลกับพระอินทร์เมื่อรู้ข่าวร้ายของลูกชาย จึงรีบไปที่เขาตาเย็นทันทีโดยไม่รู้ว่านงพะงาแอบขับรถตามมาด้วย ส่วนลายแคนกำลังจะย้ายไปอยู่ที่ไร่ของตัวเอง ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับอุษมัน ว่าเขาจะไม่พบเจอกับกะชามาดอีก

พระอินทร์กับหญิงจงกลมาจอดรถที่หน้าบ้านของลายแคน ส่วนนงพะงาพอรู้ว่าอุษมันพักอยู่ที่บ้านจันดงก็รีบตรงดิ่งไปทันที ส่วนลายแคนพาพ่อกับแม่มาหาอุษมันที่บ้านผู้ใหญ่เมือง อุษมันจึงบอกลายแคนว่าไม่ต้องไปไหนแล้ว แต่ลายแคนยังยืนยันว่าจะไปทำไร่ของตัวเอง ในขณะที่นงพะงาคิดไม่ตกว่าจะไปพักที่ไหน เสี่ยชัชชัยขับรถผ่านมาพอดี นงพะงาดีใจมากเพราะเสี่ยชัชชัยเป็นอาของเธอเอง ด้านกะชามาดได้โอกาสขอไปนอนค้างที่บ้านของลายแคน พร้อมกับพ่อแม่ของอุษมันด้วย

ก้าน แก้วพาอุษมันไปเดินชมนาข้าวที่เหลืองอร่ามดั่งทอง ในขณะที่เสี่ยชัชชัยก็สั่งให้ลูกน้องเอาหอยเชอรี่ไปปล่อยในนาข้าวของจันดง พอดีจันดงมาตามหาก้านแก้วจึงเจอคนร้าย ส่วนอุษมันเห็นเช่นกันทั้งสองจึงช่วยกันต่อสู้ เสี่ยชัชชัยรีบโทรศัพท์เรียกให้ลูกสมุนรีบหนี เพราะชาวบ้านต้องแห่กันมาเพราะเสียงปืนที่ยิงออกไป ในขณะที่ต่อสู้กันฟันของจันดงตกหายไปในนาข้าว จันดงจึงบอกอุษมันว่าเธอคือจันได พอนงพะงามาเจอจันดงที่เธอคิดว่าเป็นจันได เลยมีเรื่องทะเลาะตบตีกันจันดงเลยเอาถุงหอยเชอรี่เทใส่หัวนงพะงา ผู้ใหญ่เมืองพาชาวบ้านมาที่ทุ่งนา นงพะงาจึงพูดใส่ร้ายว่าจันดงเอาหอยเชอรี่มาปล่อย ทำให้ชาวบ้านเริ่มไม่ไว้ใจจันดงกับอุษมัน เพราะตั้งแต่สองคนนี้มาหมู่บ้านก็มีแต่เรื่องวุ่นวายทุกวัน

อุษมันพานงพะงามาที่บ้านผู้ใหญ่เมืองและถามหาลูกสาวอีกคนว่าไปไหน ทำเอาผู้ใหญ่เมืองกับจันดาถึงกับงง ก่อนที่ความจะแตกก้านแก้วรีบดึงอุษมันเข้าห้องนอนของตัวเอง เพื่อให้นงพะงาเข้าไปนอนในห้องของอุษมัน ผู้ใหญ่เมืองกับจันดาสงสัยจึงเข้าไปถามจันดง เธอจึงยอมบอกความจริง ส่วนอุษมันนอนไม่หลับเพราะยังข้องใจ เพราะตอนที่ล้มไปในนาด้วยกัน เขายังเห็นว่าจันดงมีฟันเหยินอยู่แต่ทำไมกลายเป็นจันได ก้านแก้วแกล้งนอนละเมอเพราะอยากให้อุษมันรู้ว่า จันไดกับจันดงก็คือคนเดียวกัน จันดงกลับไปหาฟันที่หล่นไปในนาข้าวของคนอื่นอีกครั้ง อุษมันเริ่มเข้าใจในคำละเมอของก้านแก้ว พอดีจันดงหายออกไปจากห้องนอน อุษมันจึงขอให้ลีลาวดีเต่าของจันดงนำทางเขาไปหาจันดง ลีลาวดีพาอุษมันมาที่ทุ่งนา ทั้งสองเห็นฟันที่ตกอยู่พร้อมกัน จึงเกิดการแย่งกันหยิบฟันแต่ช้าไปเพราะฟันของจันดงถูกเต่าลีลาวดีกินไปหมด เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดอุษมันก็ได้รู้ความจริงว่า จันดงกับจันได คือคนคนเดียวกัน

เสี่ยชัชชัยวางแผนให้ชมชาญกับจันดงเข้าใจผิดกัน โดยมีนงพะงาหลานสาวคอยช่วยอีกแรง นงพะงาจึงแกล้งทำดีกับชมชาญเพื่อหลอกใช้เป็นเครื่องมือ แต่ก็ไม่พ้นจากสายตาของสายธารไปได้ ใจจริงแล้วสายธารอยากจะเปิดเผยความชั่วของเสี่ยเพื่อช่วยจันดงมากกว่าแต่ก็ ไม่กล้า ส่วนกะชามาดก็ยังมั่นคงในรักที่มีต่อลายแคน ถึงขั้นไปนอนทอดสะพานยั่วถึงในไร่ แต่ลายแคนทำเป็นไม่สนใจ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เขาเริ่มที่จะรักเธอแล้ว แต่ลายแคนไม่คิดอาจเอื้อมดอกฟ้า กะชามาดรู้สึกละอายและคิดว่าลายแคนไม่ได้มีใจให้เธอ จึงหนีกลับกรุงเทพฯ เมื่อลายแคนรู้ว่ากะชามาดได้กลับกรุงเทพไปแล้วก็รู้สึกเสียใจและได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วตัวเขาเองก็ไม่อยากให้กะชามาดจากไป ลายแคนจึงตามง้อกะชามาดทุกวัน เพราะเขาจะต้องพาเธอกลับไปที่เขาตาเย็นให้ได้ แต่กะชามาดก็ยังไม่มีทีท่าโอนอ่อน จนบูชิต หนูฬี ก้านแก้วต้องช่วยกันวางแผน โทรศัพท์มาหาลายแคนว่าจันดงถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ลายแคนจึงรีบกลับทันทีส่วนกะชามาดพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบขับรถตามลายแคนกลับเขาตาเย็น

จันดงทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยที่ตัวเองไม่ได้ก่อ จันดงจึงไปที่หน้าผาแบ่งเขตเพื่อระบายทุกข์ของตัวเอง อุษมันตามไปเจอจันดงจึงเริ่มที่จะเข้าใจกัน ในขณะที่ต่างคนต่างขับรถกลับบ้าน นงพะงาสั่งให้สมุนของเสี่ยชัชชัยมาดักทำร้ายจันดง แต่โชคดีที่มีอุษมันมาช่วยชีวิตเอาไว้ พอดีชมชาญขับรถขายปุ๋ยผ่านมาทำให้ทั้งสองเข้าใจว่าเป็นฝีมือของเขาอีกแล้ว แต่ชมชาญก็ถูกไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พอมาเจอนงพะงาจึงถูกเธอเป่าหูว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกจันดง

สาย ธารรู้เรื่องความชั่วร้ายของสองอาหลาน จึงเริ่มสงสารจันดง ชมชาญ และคนในหมู่บ้าน ที่ถูกเสี่ยชัชชัยทำร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อม สายธารจึงหาทางที่จะเปิดโปงความลับของเสี่ยชัชชัย เพื่อช่วยเหลือทุกคนในหมู่บ้าน  ถึงแม้เรื่องราวร้าย ๆ ต่าง ๆ จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่เรื่องความรักระหว่างลายแคนกับกะชามาด และอุษมันกับจันดงยังไม่ลงตัว เพราะต่างฝ่ายต่างไม่เปิดใจรับความเป็นจริง ความรักที่สับสนวุ่นวายและไม่เคยลงตัวกันได้ซักทีของ อุษมัน  จันดง ลายแคน และ กะชามาด จะดำเนินไปอย่างไร และจบลงในรูปแบบไหน

กุหลาบไร้หนาม

นันทวดี กับ นุชรี เป็นพี่น้องพ่อเดียวกันคุณย่าไม่ยอมรับแม่ของนันเพราะเป็นผู้หญิงกลางคืนแต่ ได้พยายามขอนันมาเลี้ยง แม่ของนันไม่ยอมนันจึงโตมาในหมู่คนกลางคืน เมื่อคุณพ่อเสีย แม่ของนุชตั้งใจจะมอบมรดกบางส่วนให้นัน โดยมีข้อแม้ว่านันต้องเข้ามาอยู่ในบ้านของคุณย่า

นันทวดี ยอมมาอยู่ที่บ้านคุณย่าและแกล้งทำดีกับครอบครัวใหม่ของเธอ ทั้งๆที่ใจจริงเธอไม่ชอบคุณย่าและแม่ของนุช นันอิจฉานุชมากและตั้งใจจะแย่งทุกๆอย่างของนุช และเธอก็สามารถแย่งคู่หมั่นของนุชมาแต่งงานกับเธอได้สำเร็จเมื่อนัดดาเข้ามา ใกล้ชิดกับนุช และนันรู้ว่านัดดารวยกว่ามีหน้าที่การงานที่ดี และมีอนาคตที่ดีกว่าสามีของเธอเธอก็หาเรื่องหย่ากับสามีและพยายามจับนัดดา แต่นัดดากลับไปขอนุชแต่งงานนันรู้ว่าเธอรักนัดดาจริงๆจึงทำทุกวิธีทางที่จะ ยกเลิกการแต่งงานของนุชกับนัดดานันเกือบจะล้มงานแต่งงานได้แต่เธอทำไม่ สำเร็จและความร้ายกาจของเธอก็ถูกเปิดเผย

เรื่องย่อละคร กุหลาบไร้หนาม 

นันทวดี วิปกรณ์ อาศัยอยู่ในบ้านเก่าโกโรโกโสกับ สร้อยสอางค์ หัวหน้าพาร์ตเนอร์ผู้เป็นแม่ และ พวงสร้อย นักพนันตัวยงผู้เป็นยาย ถึงจะอยู่บ้านโทรม ๆ แต่นันทวดีก็มีเงินเดือนที่ ธวัช พ่อของเธอส่งให้ เธอจึงแต่งตัวหรูหรามีเงินใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย นันทวดีชอบเที่ยวมากกว่าเข้าห้องเรียน จึงไม่ยอมเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย สร้อยสอางค์ก็เห็นดีเห็นงามด้วย


วันหนึ่งนวลใจ ผู้เป็นแม่เลี้ยงส่งข่าวมาบอกว่าธวัช เสียชีวิตและแบ่งมรดกไว้ให้ โดยมีเงื่อนไขว่านันทวดีต้องเข้าไปอยู่ในบ้านวิปกรณ์ให้ครบ 5 ปี จึงจะได้รับเงินมรดก นันทวดีอยากได้เงินและอยากไปแก้แค้น นวลใจ กับ วารี ย่าแท้ ๆ ที่สร้อยสอางค์กับพวงสร้อยเพียรพูดกรอกหูตั้งแต่เด็กว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ เธอจึงตัดสินใจเข้าไปอยู่ในบ้านวิปกรณ์

นันท วดีมีน้องร่วมบิดาอีก 2 คน คือ อนุธวัช ซึ่งกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา และ นุชรี นิสิตมหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอเกลียดน้องตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า และยิ่งได้เห็นชีวิตอันหรูหราของนุชรี นันทวดีก็ยิ่งเกลียดเพราะเธอคิดว่านั่นคือชีวิตที่เธอควรได้ นันทวดีจึงคิดว่าเธอต้องเอาชนะนุชรีทุกเรื่อง แม้ในใจจะริษยาแต่นันทวดีก็ซ่อนความรู้สึกได้มิดชิดคำพูดอ่อนโยนที่เธอ แสดงออก ทำให้นวลใจกับนุชรีรักและไว้ใจนันทวดียกเว้นวารีเท่านั้นที่หวาดระแวงนันท วดี

นันทวดีได้พบกับ ร้อยโทสารัตถ์ นายทหารหนุ่มรูปหล่อ นันทวดีพึงใจสารัตถ์ตั้งแต่แรกพบและเมื่อรู้ว่าสารัตถ์เป็นคู่หมั้นของนุชรี นันทวดีก็คิดจะแย่งทันที โดยหาโอกาสโปรยเสน่ห์ใส่สารัตถ์ที่มาหานุชรีทุกวัน จน สีดา เพื่อนสนิทนุชรี เห็นว่าสารัตถ์สนิทกับนันทวดีมากเกินไป จึงเตือนนุชรีให้ระวัง นุชรีไม่เชื่อและบอกว่าสีดาอคติกับนันทวดีเพราะไม่ถูกชะตา

นันทวดีไม่ยอมเรียนต่อมหาวิทยาลัย ตามที่นวลใจขอร้อง แต่ขอเรียนตัดเสื้อแทนเพราะอยากเอาตัวไปใกล้ชิดกับลูกค้าของร้านที่เป็น ผู้ดีมีเงิน การไปเรียนตัดเสื้อทำให้นันทวดีได้พบสารัตถ์โดยบังเอิญ สีดาผ่านมาเจอสารัตถ์อยู่กับนันทวดีก็ประชดประชันอย่างไม่พอใจ นันทวดีสะใจที่สีดามาเจอเพราะอยากให้ นุชรีรับรู้ว่าสารัตถ์มากับตน แต่แกล้งทำทีเป็นห่วงว่านุชรีอาจเข้าใจผิด สารัตถ์ที่ยังไม่ได้คิดอะไรเกินเลยปลอบให้ นันทวดีหายกังวลและยิ่งชื่นชมว่านันทวดีเป็นพี่ที่ดีที่ห่วงความรู้สึกของ น้องสาว

นันทวดีได้รับเชิญให้เป็นนางแบบกิตติมศักดิ์เดินแบบการกุศลในงานบอล เมื่อสารัตถ์รู้ก็แอบมาร่วมงานโดยไม่บอกนุชรี ทำให้นันทวดีรู้ว่าสารัตถ์ก็มีใจให้เธอเช่นกัน นันทวดีใช้มารยาหญิงโดยใช้หาญพงศ์ นักธุรกิจหนุ่มลูกชาย คุณนายเฮียง เจ้าของร้านทอง ขาไพ่ของพวงสร้อย มาร่วมงานบอลด้วยจึงใช้เป็นเครื่องยั่วให้สารัตถ์หึง สุดท้ายสารัตถ์ก็ทนความอึดอัดไม่ไหวไปดักเจอนันทวดีที่ร้านตัดเสื้อ ประชดประชันเรื่องหาญพงศ์และถามถึงเรื่องที่นันทวดีหลบหน้า นันทวดีตีหน้าเศร้าอ้างว่าไม่กล้าสู้หน้าสารัตถ์เพราะละอายใจที่หลงรักคู่ หมั้นของน้องสาว

สา รัตถ์หายโกรธและตัดสินใจไปบอก พลโทสวี ผู้เป็นพ่อว่าจะขอถอนหมั้นนุชรีเพื่อแต่งงานกับนันทวดี สวีโกรธมากแต่ก็ขัดใจลูกชายคนเดียวไม่ได้ จึงให้ คุณหญิงรุจิรา ภรรยาเป็นตัวแทนไปพูด นวลใจตกใจมากจึงไปถามไถ่กับนันทวดี นันทวดีตีหน้าเศร้าสารภาพว่ารักกับสารัตถ์จริง แต่จะแต่งงานกับหาญพงศ์แทนเพราะไม่อยากให้นุชรีเสียใจ นวลใจหลงกลในความเสียสละจึงบอกให้นันทวดีแต่งงานกับสารัตถ์

นุชรีเสียใจมากเมื่อรู้ว่าสารัตถ์นอกใจเธอไปรักกับพี่สาว ขณะที่สารัตถ์กับนันทวดีชื่นมื่น นุชรีก็เสียใจอย่างหนักจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ วารีทนไม่ได้จึงพาหลานสาว ไปพักรักษาแผลใจที่ชายทะเลโดยมีสีดาตามไปช่วยดูแล…นุชรีเสียใจมากเกือบคิด สั้นฆ่าตัวตาย แต่สติก็ช่วยให้เธอดับความคิดชั่ววูบนั้นลงได้

นันทวดีหวังว่าการแต่งงานจะทำให้เธอใช้ชีวิตเป็นอิสระ หรูหรา มีเงินใช้ฟุ่มเฟือยโดยไม่ต้องทำงาน เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังใจเธอจึงหงุดหงิดและคิดว่าผู้ชายที่ต้องพึ่งแต่เงิน จากพ่อแม่อย่างสารัตถ์จะไม่ใช่พระเอกที่เธอฝันไว้เสียแล้ว

ด้านสีดาคิดจับคู่ให้นุชรีจึงพา นัดดา เลขาฯ เอกท่านทูต ลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งกลับจากอังกฤษมาร่วมงานด้วย สีดาพานัดดาไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนของนุชรี นันทวดีได้รับการแนะนำให้รู้จักกับนัดดาทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ ทำให้สีดาไม่พอใจที่นัดดาให้ความสนใจนันทวดีมากกว่านุชรี

นานวันนันทวดีก็ยิ่งเบื่อกับชีวิตที่ต้องแอบอิงพ่อผัวแม่ผัว และอิจฉานุชรีที่มีนัดดาคอยรับคอยส่ง เพราะนัดดามีตำแหน่งเป็นว่าที่ท่านทูต ซ้ำยังรวยกว่าสารัตถ์หลายเท่า นันทวดีทนไม่ได้ที่เห็นนุชรีได้ดีกว่าตนจึงหาเรื่องทะเลาะกับสารัตถ์จนเขา โกรธระงับอารมณ์ไม่อยู่ตบหน้านันทวดี ทำให้นันทวดีใช้เป็นข้ออ้างขอหย่าและกลับมาอยู่บ้านวิปกรณ์

เมื่อนัดดามาส่งนุชรี นันทวดีที่แสร้งทำเป็นจะออกจากบ้านจึงขอติดรถไปด้วย สีดาไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนนุชรียิ่งหนักเพราะแม้จะพบกันบ่อย ๆ แต่นัดดาก็ไม่เคยเอ่ยว่ารัก นุชรีจึงไม่กล้าคิดไปไกลว่าตนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของนัดดา

นันท วดีใช้มารยาสร้างความสนิทสนม นัดดาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งนันทวดีจึงดูไม่ออกว่านัดดาคิดกับเธออย่างไร แต่เมื่อนัดดายินดีขับรถไปส่งและรอรับเธอกลับจากการทำธุระ นันทวดีก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัดดาขอนุชรีแต่งงาน เธอจึงคิดวางแผนทุกอย่างเพื่อจะแย่งนัดดามาให้ได้

โดยหลอกล่อนัดดามาที่บ้านแล้ว ชงเหล้าผสมยาจีนชนิดหนึ่งให้ หลังดื่มเหล้าหมดแก้วนัดดาก็รู้สึกถึงอารมณ์ประหลาด กลิ่นหอมของนันทวดีทำให้เขาหยุดความปรารถนาไว้ไม่อยู่ทำให้เขาล่วงเกินนันท วดีตามแผนสร้อยสอางค์ นัดดาเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปมาก แต่เขาก็โล่งใจเมื่อนันทวดีเอ่ยปากว่ารักเขามากและไม่อยากให้นุชรีเสียใจ เป็นครั้งที่สอง เธอจะเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับและขอแค่นัดดามาหาเธอบ้างก็พอ

คำหลอกลวงของนันทวดีทำให้นัดดาซึ้งใจในความเสียสละ ด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปนัดดาจึงยังคงไปหานันทวดี และความรู้สึกผิดของทั้งสองก็จบลงบนเตียงนอนทุกครั้ง ด้านนันทวดีก็พยายามจะให้นุชรีรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับนัดดาให้ได้

นันทวดีจะทำลายความรักระหว่าง นันดา กับ นุชรี ได้หรือไม่ และความรักระหว่างนุชรีกับนัดดาจะลงเอยเช่นไรต้องติดตามชม ละครกุหลาบไร้หนาม ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครกุหลาบไร้หนาม

[Best_Wordpress_Gallery id=”21″ gal_title=”กุหลาบไร้หนาม”]

นักแสดงละคร กุหลาบไร้หนาม

เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น นันทวดี
อุรัสยา เสปอร์บันด์ แสดงเป็น นุชรี
พัชฏะ นามปาน แสดงเป็น นัดดา
วริษฐ์ ทิพโกมุท
จินตหรา สุขพัฒน์
พิศมัย วิไลศักดิ์
ดวงตา ตุงคมณี

กุหลาบซ่อนหนาม

พารณ (แดน วรเวช) ชายหนุ่มผู้รักอิสระ หนีออกจากบ้านเพราะถูก ปกรณ์ (หนุ่ม สันติสุข) พ่อของเขาขัดขวางเรื่องความรักกับ ปานนภา (โบว์  โชติมา)  ครูอาสาแสนสวย ด้วยเหตุผลเรื่องความ แตกต่างเรื่องฐานะ พารณมาใช้ชีวิตอยู่กับปานนภาที่แม่ฮ่องสอน ปกรณ์วางแผนกับ ภูรินทร์(ออย ธนา) พี่ชายของพารณหลอกให้พารณเข้าพิธีหมั้นกับรุจิรา (แพง พรรณชนิดา) โดยยื่นเงื่อนไขว่าถ้าพารณยอมหมั้นกับ รุจิรา เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับความรักของพารณกับปานนภาอีกเลย ปานนภาช็อคเมื่อเห็นภาพพารณที่กำลังบรรจงสวมแหวนให้กับรุจิรา เมื่อพารณหันไปเห็นคนรักที่กำลังยืนน้ำตานองหน้าจะเข้าไปอธิบายปานนภาแต่เธอ ก็วิ่งเตลิดออกไปทันที แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้พารณประสบอุบัติเหตุรถชนจนกลายเป็นอัมพาตและความจำ เสื่อม

ปานนภาเสียใจมากที่ถูกพารณหลอก จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง ข่าวการตายของปานนภาถึงหู ปาลิไลยก์(เอ๊ะ อิสริยา สายสนั่น) พี่สาวคนเดียวของเธอทำให้ปาลิไลยก์เสียใจแทบเป็นบ้า แต่ที่หนักกว่านั้นก็คือ ปราชญ์(ต้น จักกฤษณ์) ผู้เป็นพ่อที่ตกใจจนช็อคสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็มีอาการซึมเศร้าไม่ยอมพูดจาอะไรกับใครอีกเลย ปาลิไลยก์เห็นจดหมายลาตายของปานนภาที่เขียนเรื่องที่ถูกพารณหลอกเธอทั้งที่ มีคนรักอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ปาลิไลยก์แค้นพารณมากเมื่อปาลิไลยก์ได้รู้จาก หนูนา(โอ๋ เพชรลดา) เพื่อนสนิทว่าพารณประสบอุบัติเหตุ กำลังจะย้ายกลับไปรักษาตัวที่บ้าน โดยมีหนูนาตามไปเป็นพยาบาลประจำปาลิไลยก์จึงปลอมตัวเข้าไปเป็นพยาบาลแทนหนู นาเพื่อที่จะแก้แค้นพารณ และเธอจะทำให้พารณฟื้นเป็นปกติเพื่อมารับความจริงที่เจ็บปวดก่อนที่จะมอบบท เรียนใหม่จากการผิดหวังในความรักให้กับเขาเหมือนที่น้องสาวของเธอเคยได้รับ
กุหลาบซ่อนหนาม

ที่บ้านโภควินทร์ ปาลิไลยก์ก็ได้พบกับภูรินทร์ ภูรินทร์จำได้ว่าเคยพบปาลิไลยก์มาก่อน เขาจึงไม่เชื่อว่าปาลิไลยก์จะเป็นพยาบาลจริง ปกรณ์มักจะแสดงความห่วงใยพารณเป็นพิเศษแต่ทำกับภูรินทร์ราวกับว่าไม่ใช่ลูก และทั้งสองมักจะมีปากเสียงกันบ่อย ๆ ซ้ำร้ายยังแอบเห็นปกรณ์แอบมีสัมพันธ์กับพิมพา (บุ๋ม ปนัดดา) หญิงสาวที่ทำหน้าที่แม่บ้านและเป็นที่รองรับอารมณ์ของปกรณ์อยู่เสมอ ปาลิไลยก์ดูแลใส่ใจให้กำลังใจ จนพารณหวั่นไหวและตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่ก็ยังไม่วายถูกรุจิราคู่หมั้นเก่ากลับมารังควาน ฝ่ายภูรินทร์เมื่ได้ใกล้ชิดกับปาลิไลยก์ก็เริ่มหวั่นไหว และแอบรักปาลิไลยก์อย่างเงียบ ๆ แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้

กุหลาบซ่อนหนาม

วันที่ไปเที่ยวต่างจัดหวัด ปาลิไลยก์สร้างสถานการณ์ว่าพารณลวนลามเธอ จนพารณยอมหมั้นกับเธอ ปาลิไลยก์เข้ามาอยู่ในบ้านโภควินท์ในฐานะคู่หมั้นของพารณ แต่ก็ยังไม่วายเกิดปัญหาเมื่อ ธันว์(กิก ดนัย) สถาปนิกแฟนหนุ่ม ปาลิไลยก์ตั้งแต่สมัยเรียน ที่มาดูแลเรื่องต่อเติมบ้านโภควินท์ เมื่อธันว์รู้เรื่องทั้งหมดก็หึงและไม่ยอมให้ปาลิไลยก์ทำตามแผนของเธอทุก ครั้งที่ธันว์มาทำงานที่บ้านก็ได้คุยกับปาลิไลยก์ จนภูรินทร์คิดว่าปาลิไลยก์แอบนอกใจพารณรุจิราเห็นว่าจับพารณไม่ได้ จึงเบนเข็มไปหาภูรินทร์แทน ซึ่งเข้าทางปกรณ์จึงบังคับให้ภูรินทร์คอยเอาใจรุจิรา ซึ่งความสัมพันธ์นี้ทำให้ปาลิไลยก์เริ่มรู้สึกว่าตนเองรู้สึกยังไงกับภูริ นทร์

พารณเริ่มสงสัยเรื่องภูรินทร์ จนอยากรู้ว่าก่อนที่ตนเองจะความจำเสื่อม ปาลิไลยก์ได้โอกาสรีบฟื้นความจำพารณเกี่ยวกับปานนภา สองพี่น้องมีปากเสียงกันอย่างหนัก จนพารณเกิดอุบัติเหตุความจำกลับคืนมาอีกครั้ง พารณจำปานนภาได้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก เข้ามาโวยวายและพาลโกรธภูรินทร์กับปกรณ์ ความสัมพันธ์ในบ้านจึงเลยร้ายลงไปอีก

แม้พารณจะจำเรื่องของปานนภาได้ แต่ไม่รู้ว่าปาลิไลยก์เป็นพี่สาวปานนภา ปาลิไลยก์ก็รู้สึกผิดอย่างรุนแรง เมื่อรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะปกรณ์กับภูรินทร์ ทางฝ่ายรุจิราคิดแผนใส่ร้ายปาลิไลยก์กับธันว์เพื่อให้ทะเลาะกับพารณ แต่ภูรินทร์รู้แผนรุจิราจึงต่อว่ารุจิราและตามไปหาปาลิไลยก์ทำให้รับรู้ความ จริงว่าปาลิไลยก์เป็นพี่สาวของปานนภาปลอมตัวมาเพื่อแก้แค้นตนเองและปกรณ์ภู รินทร์โกรธมากจับตัวปาลิไลยก์ไปขังที่บ้านพักตากอากาศ บอกจะทำให้ปาลิไลยก์เจ็บอย่างที่เคยทำกับพารณไว้ ปาลิไลยก์พยายามหนีและด่าว่าจี้ใจดำภูรินทร์สารพัด ทำให้ภูรินทร์โกรธเผลอตัวปล้ำปาลิไลยก์

รุจิราด้วยความแค้นภูรินทร์และปาลิไลยก์มาก จึงโทรศัพท์เรียกปกรณ์และพารณตามมาให้เห็นกับตา ปกรณ์และพารณด่าว่าภูรินทร์อย่างรุนแรกง จนภูรินทร์ต้องบอกความจริงว่า ที่เขาทำปเพราะความแค้นที่ปาลิไลยก์ปลอตัวมาหลอกทุกคน แท้จริงแล้วปาลิไลยก์เป็นพี่สาวของปานนภา พารณถึงกับช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ที่หนักไปกว่านั้น ก็คือปกรณ์ปกรณ์ตัดสินใจไปหาปราชญ์ที่บ้านเพื่อเคลียร์เรื่องคาใจทั้งหมด ปกรณ์เห็นสภาพของปราชญ์ก็ยิ่งรู้สึกผิดหวัง จนปกรณ์ยอมบอกว่าเขาสงสัยมาตลอดว่าภูรินทร์ไม่ใช่ลูกเขา ภูรินทร์ช็อคและถามว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นลูกใคร ปกรณ์จึงยอมบอกเหตุผลที่ไม่ยอมให้พารณแต่งานกับปานนภาก็เพราะปานนภาเป็นลูก ของศัตรูหัวใจอย่างปราชญ์ แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์เดียวกันจะมาเกิดกับภูรินทร์และปาลิไลยก์อีกครั้ง

พารณสับสบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อผู้หญิงทั้งสองคนที่เขารักเป็นพี่น้องกัน ปาลิไลยก์ก็เสียใจมากจนคิดฆ่าตัวตายตามปานนภา แต่พารณตามไปช่วยไว้ทัน และเหตุการณ์นี้ทำให้ปราชญ์ตกใจจนหลุดพูดออกมาได้ ปกรณ์และปราชญ์จึงได้พูดคุยกันถึงความสัมพันธ์ในอดีตที่ฝังใจปกรณ์มาตลอดใน คืนวันฝนตก หลังจากที่ปกรณ์แต่งงานกับญาดาแล้ว ปกรณ์ ปราชญ์และ ญาดาไปเที่ยวในป่าด้วยกัน ปกรณ์เกิดมีปากเสียงกับญาดาเพราะความหึงปราชญ์ ทำให้ญาดาหนีเข้าไปในป่า ปราชญ์ตามไปช่วยไว้ได้ ตอนเช้าปกรณ์มาเห็นปราชญ์กับญาดาอยู่ด้วยกัน ปราชญ์พยายามอธิบายแต่ปกรณ์ไม่เชื่อ เมื่อญาดาตั้งท้องภูรินทร์ปกรณ์ก็ปักใจเชื่อว่าภูรินทร์เป็นลูกของปราชญ์ ปราชญ์รู้ดีว่าญาดารักปกรณ์เพียงคนเดียว ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดทรยศเพื่อน

ปกรณ์รู้สึกโลงใจเพราะกรงที่ขังใจเขามาตลอดเวลาได้ถูกปล่อยสักทีด้วยคำยืน ยันของเพื่อนสนิทระหว่างที่ทุกคนตามหาภูรินทร์ ปาลิไลยก์แสดงความห่วงใยภูรินทร์อย่างเห็นได้ชัด พารณเริ่มรู้สึกว่าคนที่ปาลิไลยก์รักไม่ใช่เขา พารณได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ และช่วยตามหาภูรินทร์จนเจอ พารณจึงเป็นพ่อสื่อให้ภูรินทร์กับปาลิไลยก์ได้เปิเผยความรู้สึกต่อกัน ทางฝ่ายรุจิราเองก็แค้นที่ปาลิไลยก์ทำให้ทุกอย่างในชีวิตเธอพังหมด ขณะที่รุจิรากำลังจะยิงปาลิไลยก์ พารณตัดสินใจกระโดดรับกระสุนแทน

 

น้กแสดงละครกุหลาบซ่อนหนาม
ออย ธนา สุทธิกมล
แดน วรเวช ดานุวงศ์
เอ๊ะ อิศริยา สายสนั่น
ดนัย จารุจินดา
โอ๋ เพชรดา เทียมเพ็ชร
โชติมา นวคุณากร
แพง พรรณชนิดา
สันติสุข พรมสิริ
จักกฤษณ์ อัมรัตน์
บุ๋ม ปนัดา วงศ์ผู้ดี
สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ แสดงเป็น ญาดา

7 ประจัญบาน

7 ประจัญบาน7 ประจัญบาน เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 จ่าดับ จำเปาะ ทหารแห่งกองทัพไทยเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทาง เจอเรือของกองกำลังทหาร ร้อยโทโตโมะ ทรมานเชลยศึก คนไทยเห็นความทารุนไม่ไหวเข้าห้าม โตโมะกราดยิงชาวบ้านตายหมด จ่าดับเข้าตะลุยทหารญี่ปุ่นจนแพ้ จ่าดับดีใจที่ได้เอาคืนพวกใหญ่คับแผ่นดิน พอถึงบ้าน พบเมียรักที่อุ้มท้องลูก 7 เดือน นอนจมกองเลือด เพราะโดนพวกโตโมะฆ่าทิ้ง สิ่งแทนใจสุดท้ายคือกางเกงแดงที่เย็บไว้ จ่าดับตั้งใจชำระแค้นส่วนตัวใส่กางเกงแดงควงปืน บุกค่ายทหารญี่ปุ่นแต่ถูกโตโมะและลูกน้องทำร้าย จ่าดับฟื้นขึ้นมาในฐานบัญชาการของ พล.ต.ท กัมปนาท ซึ่งมีภารกิจลับต่อต้านญี่ปุ่น จ่าดับเอาด้วย งานแรกจ่าดับลุยเดี่ยวแต่เกือบเสียเรื่องเมื่อเจอลูกน้องเก่าอย่าง ดั้น มหิทธา จ่าดับต้องหนีทหาร ตังกวย แช่ลี้ ช่วยจ่าดับจากทหารญี่ปุ่นไว้ทันที่บ่อน จากนั้นจ่าดับมาตามลูกน้องเก่า เหมาะ เชิงมวย แต่ดันพูดผิดหูกับ อัคคี เมฆยันต์ หนุ่มสำอางเจ้าของบ่อน จนเกิดตะลุมบอน กัมปนาทต้องเข้าสงบศึกและสั่งให้ทุกคนตามหา กล้า ตะลุมพุก เป็นกุญแจอีกดอกที่สำคัญที่จะตบตาพาเข้าหาทหารญี่ปุ่น แต่พอจะลงมือ จุก เบี้ยวสกุล มือระเบิดมัวแต่ปลุกพระในคอจนโตโมะล้อมจับทุกคนได้ จ่าดับกับพวกร่วมใจถล่มค่ายญี่ปุ่นจนย่อยยับ

คำโปรยในเรื่อง : เมื่อสังคมเกิดความอยุติธรรม พวกเขาขอยื่นมือปราบให้สิ้นคนอันธพาล

ผู้กำกับ : วีระชัย รุ่งเรือง
ผลิตโดย : บริษัท สุขสันต์หรรษา 52 จำกัด
เขียนบท : สิงห์พยศ
บทประพันธ์ : ดัดแปลงจากบทภาพยนตร์ของ ส อาสนจินดา

นักแสดงในเรื่อง 7 ประจัญบาน

พงษ์พัตน์ วชิระบรรจง รับบทเป็น จ่าดับ จำเปาะ
เจสัน ยัง รับบทเป็น เหมาะ เชิงมวย
กรรชัย กำเนิดพลอย รับบทเป็น ตังกวย แซ่ลี้
พศุตม์ บานแย้ม รับบทเป็น อัคคี เมฆยันต์
ปวริษฐ์ มงคลพิสิฐ รับบทเป็น ดั้น มหิทธา
แมททิว ดีน รับบทเป็น กล้า ตะลุมพุก
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ รับบทเป็น จุก เบี้ยวสกุล
กุณณัฏฐ์ กุลปรียาวัฒน์ รับบทเป็น เพียงจันทร์
พัชรินทร์ จัดกระบวนพล รับบทเป็น ขมิ้น
อัมราภัสร์ จุลกะเศียน รับบทเป็น ยูริ
กนกกร ใจชื่น รับบทเป็น เกสร
ทีเซีย เดนนิส รับบทเป็น ชะอม
สรพงษ์ ชาตรี รับบทเป็น พล.ต.ท. กัมปนาท
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล รับบทเป็น ร้อยโท โตโมะ
เศรษฐา ศิระฉายา รับบทเป็น เฮียเหลา

ออกอากาศทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00-20.00 ทางไทยทีวีสีช่อง 3

365 วันแห่งรัก

365 วันแห่งรัก เป็นเรื่องราวของ ‘ลัลนารี’ และ ‘ตุลา’ คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งร่วมชีวิตกัน แต่สมุดบันทึกคำทำนายสีน้ำตาลเก่าๆ ที่กล่าวว่า ชีวิตคู่ของทั้งสองขึ้นอยู่กับ 365 วันหลังจากนี้ไป ความหวาดระแวงกับแรงหึงของลัลนารี จึงส่งผลต่อชีวิตรักชีวิตคู่ได้อย่างใหญ่หลวง ตรงข้ามกับตุลา สามีอัยการหนุ่มผู้ยึดหลักความเชื่อใจและมั่นคงต่อภรรยาเท่านั้นที่จะทำให้การครองชีวิตคู่ยั่งยืนตลอดไป

 

เป็นเรื่องราวเกี่ยวสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน ‘ลัลนารี’ และ ‘ตุลา’ที่ต้องประคับประคองชีวิตคู่ในผ่านพ้นอุปสรรค 365 วันตามคำทำนายของแม่หมอ

365 วันแห่งรัก

ผู้กำกับ : อำไพพร จิตต์ไม่งง
ผลิตโดย : บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
เขียนบท : ณัฐยา ศิริกรวิไล, เบญจวรรณ
บทประพันธ์ : ร่มเกล้า

นักแสดงละคร 365 วันแห่งรัก

เคน ธีระเดช วงพัวพันธุ์
แอน ทองประสม