กรผกามารศรี เป็นลูกสาวของ คุณทินกร กับ คุณนายสายหยุด เจ้าของบริษัทมรกตพรอพเพอร์ตี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เธอมีพี่เลี้ยงชื่อ แม่นิ่ม กรผกามารศรีถูกเลี้ยงมาอย่างผู้ดี เรียนหนังสือจบจากต่างประเทศแล้วก็กลับมาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำงานอะไร เพราะบ้านร่ำรวยจนล้นฟ้า กรผกามารศรีจึงทำอะไรไม่เป็นเลย
ต่อมาเศรษฐกิจเริ่มไม่ดี ทินกรเลยทำงานหนักและเครียดมาก วันหนึ่งเกิดหกล้มเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตไป สายหยุดเลยปล่อยให้ลูกน้องช่วยกันบริหารงานไป ส่วนตัวเองหันมาเล่นการพนันต่อจนติดงอมแงม สุดท้ายก็เสียพนันจนหมดตัว เหลือเพียงบริษัทและที่ดิน โดยมีเศรษฐีใหม่อย่าง ทินพันธ์ ที่ยอมเล่นพนันกับสายหยุด เพราะรู้มาว่าลูกสาวของสายหยุดสวยมาก สุดท้ายสายหยุดก็พ่ายแพ้แก่ทินพันธ์ สายหยุดจึงจำเป็นต้องโอนมอบบริษัทและที่ดินให้เป็นสมบัติของทินพันธ์ตามสัญญา แต่วันที่ไปโอนที่ดินนั้น ทินพันธ์ยื่นข้อเสนอให้กรผกามารศรีแต่งงานกับเขา แล้วเขาจะคืนทุกอย่างให้
สายหยุดพยายามเกลี้ยกล่อมให้กรผกามารศรียอมแต่งงานกับทินพันธ์ แต่กรผกามารศรีก็ไม่ยอมท่าเดียว นิ่มบอกกับกรผกามารศรีว่า ที่จริงแล้วทินกรยังมีที่ดินมรดกเหลืออยู่อีกแห่งหนึ่ง อยู่แถวคลองเตย กรผกามารศรีจึงสั่งเก็บข้าวของทุกชิ้นในบ้าน แล้วก็อพยพไปอยู่อาศัยอยู่ที่นั่น ปรากฏว่าที่ดินที่ว่าเป็นที่ดินแคบๆ มีบ้านไม้เล็กๆ เก่าๆที่ใกล้จะพังอยู่หลังเดียว ทุกคนจึงต้องจำใจทนอยู่อาศัยที่นั่น กรผกามารศรีปรับตัวลำบากและชอบดูถูกคนอื่น ทำให้ถูกชาวบ้านหมั่นไส้ แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก เก่ง ทอมสาวที่มาแอบชอบ แต่สายหยุดกลับปรับตัวได้ดีและมีความสุขดีเพราะใกล้ๆ บ้านมีบ่อนพนันมีวงไพ่
กรผกาเห็นนิ่มทำงานลำบาก แล้วสายหยุดก็เป็นโรคหัวใจ ก็เลยคิดว่าตัวเองต้องหางานทำบ้างเสียแล้ว เก่งเลยพาไปฝากงานที่ร้านอาหารหน้าปากซอย โดยทดลองเป็นสาวเสิร์ฟดูก่อน แล้ววันหนึ่ง กรผกามารศรีก็ถูกสามีเจ้าของร้านหลอกพาไปปลุกปล้ำ แต่ก็ถูกทินพันธ์ที่บังเอิญผ่านมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน ทินพันธ์จะพากรผกามารศรีไปส่งที่บ้าน แต่เธอกลับไม่ยอมและขอเดินกลับเอง ต่อมาทินพันธ์ให้ โชติ ที่เป็นลูกน้องคนสนิทแอบตามไปสืบจนรู้ว่ากรผกามารศรีกำลังลำบากมาก เลยให้โชติทำทีไปจ้างมาสอนให้กับลูกสาวของโชติ ทำให้พอมีเงินใช้ แต่แล้ววันหนึ่ง ลูกสาวของโชติ เกิดเผลอพูดว่าทินพันธ์จ้างมา กรผการู้ความจริงเข้าก็เสียใจมาก เลยเลิกสอนแล้วเอาเงินค่าจ้างที่เหลือคืนให้กับทินพันธ์ไป แต่เมื่อกลับถึงบ้าน กรผกามารศรีก็ต้องตกใจ เพราะมีนักเลงมาลุยบ้านจนข้าวของพังกระจัดกระจาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะ วิกกี้ ลูกสาวเจ้าของห้างทองในเยาวราชให้ ธงชาติ พี่ชายพานักเลงมาสั่งสอน เพราะวิกกี้แอบรักทินพันธ์อยู่ แต่สืบรู้มาว่าทินพันธ์รักกรผกามารศรี
จากเรื่องที่เกิด สายหยุดจึงหัวใจวายต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้กรผกามารศรีต้องจำใจยอมขายสร้อยมรกต โดยฝากเก่งไปขาย เมื่อเก่งขายได้ก็นำเช็คไปฝากสายหยุด แต่สายหยุดก็มิวายแอบยักยอกไปเล่นการพนันอีกครั้ง จนแพ้พนันและติดหนี้ยิ่งกว่าเก่า เก่งไปสืบทราบว่ามีการประกวดนักร้องลูกทุ่ง ชิงเงินรางวัลก้อนใหญ่จึงส่ง กรผกามารศรีเข้าประกวด ทั้งที่กรผกามารศรีร้องเพลงไม่ได้เรื่อง แต่เธอก็เข้ารอบมาเรื่อยๆ นั่นเป็นเพราะหนึ่งในประธานกรรมการตัดสินคือ กิมเฮียง แม่ของทินพันธ์นั่นเอง แต่ปรากฏว่ากรผกามารศรีกลับหายตัวไป สารวัตรอาคม เพื่อนของทินพันธ์ สืบทราบว่าเป็นฝีมือของธงชาติ จึงรีบตามไปช่วยไว้ได้ทัน แต่กรผกามารศรีก็ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส
กรผกามารศรีฟื้นขึ้นมาโดยนึกว่าอาคมช่วยชีวิตไว้ แต่กลับเป็นทินพันธ์ต่างหากที่บริจาคเลือดช่วยชีวิตเธอ กรผกามารศรีและอาคมจึงไปที่บ้านทินพันธ์ แต่ก็พบกับวิกกี้และ เสี่ยช้วน พ่อของวิกกี้ ที่บุกมายิงทินพันธ์ถึงบ้าน สุดท้ายวิกกี้และเสี่ยช้วนก็ถูกตำรวจจับ แต่ทินพันธ์ก็บาดเจ็บและสูญเสียการมองเห็น กรผกามารศรีสำนึกบุญคุณจึงยอมแต่งงานด้วย
ทินพันธ์ยอมไปผ่าตัดดวงตา เมื่อหายดีแล้ว ทินพันธ์และกรผกามารศรีก็หย่ากัน แล้วพาสายหยุดและนิ่มกลับบ้านคลองเตย โดยกรผกามารศรีเพิ่งมาทราบทีหลังว่า ทินพันธ์ได้ยกสมบัติทั้งหมดคืนให้ และกำลังจะย้ายไปอยู่อเมริกา ทำให้กรผกามารศรีเริ่มรู้ใจตัวเองตั้งแต่วินาทีนั้น….
แล้วกรผกามารศรีจะไปตามทินพันธ์กลับมาได้หรือไม่ ? หรือเธอจะปล่อยให้ความรักแท้ของเธอจากไป ? ติดตามชม ดอกฟ้ายาใจ
Category Archives: ละครปี 2550
ชุมแพ
ชุมแพ ชุมนุมของนักเลงและธุรกิจเถื่อนมากมาย จากผู้มีอิทธิพลเล็กใหญ่หลายกลุ่ม แต่ในกลุ่มเหล่านี้มีสามกลุ่มที่ยิ่งใหญ่คือ กลุ่มของ จ่าถม, เสี่ยเซ้ง และกลุ่มของ กำนันเสือ พัน เป็นนักเลงเก่าอดีตทหารผ่านศึก เป็นคนที่ชาวบ้านไว้ใจนับถือ พันมีลูกชายชื่อ เพิก อายุสิบสองสิบสามขวบ มี ลุงพลอย เพื่อนนักเลงคู่ใจ คอยดูแลเป็นพี่เลี้ยงเพิกและคนงานทั้งหมด มีข่าวว่าทางการจะสร้างสายใหม่ในอนาคต
จ่าถมกับกำนันเสือจึงใช้ อิทธิพลออกกว้านซื้อที่ดินชาวบ้านในราคาถูก ชาวบ้านเดือดร้อนจึงรวมตัวกันมาหาพัน และตั้งพันให้เป็นตัวแทน ฅทำให้จ่าถมกับกำนันเสือรวมทั้งเสี่ยเช้ง เห็นพันเป็นก้างขวางคอที่ต้องกำจัดออกไป แต่แล้วพันก็ถูกลอบฆ่าด้วยกำลังคนของจ่าถมและกำนันเสือและคนของเสี่ยเซ้ง ลุงพลอยพาเพิกหนีรอดพวกจ่าถมและกำนันเสือไปได้ สิบปีผ่านไป เพิกมาในคราบของคนสองคนคือ ไอ้หนุ่มคนส่งยาชื่อ ดอน
และอีกคราบหนึ่ง คือ เสือเพิก ที่ประกาศตัวว่าจะมาแก้แค้นให้กับพ่อ และเป็นเจ้าของชุมแพล้มอิทธิพลจ่าถม ข่าวของเสือเพิกดูเหมือนจะลูบคม ไชโย ผู้กองคนใหม่ที่ทางการส่งมาปราบพวกเสือ และเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะ ไชโยพอรู่เบาะแสของจ่าถม, กำนันเสือ และเสี่ยเช้งทั้งหมด แต่ไม่มีหลังฐานเพราะไม่มีใครยอมเป็นพยานให้ จึงต้องใจเย็นทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่การที่มีเสือเพิงทำให้ไชโยรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆ
แต่หน้าที่ก็คือ หน้าที่ จึงทำให้ผู้กองไชโยเป็นคู่ปรับกับเสือเพิก แต่เนื่องจากมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ทำให้ทั้งสองคนเริ่มเป็นเพื่อนกันและช่วยเหลือกัน ไชโยออกปราบปรามพวกนักเลงมือปืน โดยมี จ่างึม เป็นลูกน้องคู่ใจ ดวงพร ลูกสาวของจ่าถมกลับ มาจากกรุงเทพฯ เพื่อช่วยดูแลกิจการของจ่าถมผู้เป็นพ่อ และได้พบกับผู้กองไชโย ผู้กองไชโยใช้โอกาสสนิมสนมไปมาหาสู่บ้านของจ่าถม เพื่อสืบล้วงลึกในเรื่องราวของจ่าถม
และได้พบว่าดวงพรไม่มีส่วนรู้ เห็นพฤติกรรมของจ่าถมเลย ทำให้เป็นห่วงและเริ่มมีใจให้ดวงพร ส่วน แววดาว สาวสวยคนแกร่งมาซื้อบาร์กุหลาบของ เสี่ยกวง ซึ่งขายให้เพราะอิทธิพลมืดไม่ไหว ถูกเก็บค่าคุ้มครองจากคนของจ่าถม แต่แววดาวโชว์ฝีไม้ลายมือไล่เปิดไปหมด จึงทำให้เป็นเป้าหมายของจ่าถม วันหนึ่งดอนก็ขับรถตู้ยาให้อนามัยที่ชุมแพ เจอลุงพลอยที่ร้านกาแฟ ดอนมีเรื่องกับพวกนักเลง
แต่ลุงพอยเข้าช่วยไว้และดอนก็เปิดตัวเองว่า เป็นเพิก ลุงพลอยจึงช่วยเพิกโดยการระดมเรียกพวกเก่าๆ มาเป็นแขนขาและกำลังให้เสือเพิก ตั้งค่ายปฏิบัติการอยู่ในป่าลึก อีกทั้งยังมี ต่ำ คนเตี้ยที่ป้วนเปี้ยนทำงานทุกอย่างในชุมแพช่วยมารายงานข่าวอีกแรงหนึ่ง ลุงพลอยทำงานกับนายดอน ทุกครั้งที่นายดอนเอายามาส่ง ทั้งสองมาเที่ยวที่บาร์ของแววดาว ดอนเกิดพึงใจแววดาวแต่แววดาวไม่สนดอน
เพิก ในคราบดอนพอรู้เรื่องการขนของเถื่อนก็แอบแจ้งให้ผู้กองไชโยไปปราบบ้าง ตัวเองออกไปปล้นบ้าง สร้างความเสียหายให้กับจ่าถมและกำนันเสือ จนพวกมันระดมมือปืนอีกมากมายเพื่อเก็บเสือเพิกและผู้กองไชโย ภายใต้การนำของ เพลิง ซึ่งเป็นมือขวาของกำนันเสือ และ ภู ซึ่งเป็นมือขวาของจ่าถม พรหม ลูกไพร วิศวกรช่างสำรวจการสร้างทาง ซึ่งเข้ามาตรวจดูเพื่อรายงานความเหมาะสมว่าถนนสมควรจะตัดผ่านเส้นทางไหน
แต่ ทีมงานสำรวจถูกก่อกวน เมื่อไม่ได้ไปตามเส้นทางที่จ่าถมกำหนดไว้ น้ำตาล ญาติของแววดาวเดินทางมาถึงชุมแพ เพื่อช่วยแววดาวดูแลบาร์กุหลาบที่ธุรกิจรุ่งเรืองเริ่มมีงานมากขึ้น ดอนทำตัวเป็นคนใจกว้างสนุกสนานฝากเนื้อฝากตัวกับชาวชุมแพ ไปร้าน อาโก ทีไรก็เลี้ยงกาแฟพวกนักเลง ไปบาร์กุหลาบก็เลี้ยงเหล้านักเลงอิสระที่มาเที่ยว งานของดอนในการสืบข่าวจึงง่ายขึ้น ไม่มีใครสงสัยว่าดอนคือ เสือเพิก
ดวง พรตรวจดูบัญชีธุรกิจ บังเอิญไปพบโฉนดของชาวบ้านที่จ่าถมยึดมาแอบซ่อนไว้ จึงเริ่มสงสัยและจับตาดูพฤติกรรมของจ่าถมมากขึ้น ภูผู้หลงใหลดวงพรส่งลูกน้องมาฆ่าผู้กองไชโยเมื่อมีโอกาส และล้อมยิงผู้กองโดยไม่คาดคิดว่ามีดวงพรอยู่ด้วย ทำให้ดวงพรได้รับบาดเจ็บแต่เสือเพิกมาช่วยไว้ เสือเพิกขอให้ไชโยดูแลดวงพรด้วยเพราะดวงพรบริสุทธิ์ ไชโยบอกให้เสือเพิกมอบตัวหลังจากที่เปิดโปงจ่าถมกับกำนันเสือแล้ว เสือเพิกบอกว่ายินดี
เพิกในคราบของดอนสังเกตว่าแววดาวสนิทกับจ่าถม ทำให้เพิกสงสัยแววดาวและคอยสังเกตตามอยู่ กำนันเสือรวมตัวกับเสี่ยเช้งมาซักถามเรื่องที่จ่าถมชวนแววดาวเป็นหุ้นส่วน และต้องการมีเอี่ยวด้วย จ่าถมคิดการไกลไม่อยากมีเรื่องจึงยอมตกลง เสือเพิกบุกมาที่ร้านของแววดาว และพบว่าความจริงแล้วแววดาวคือ ร้อยตำรวจเอกหญิงแห่งหน่วยพิเศษปลอมตัวมา เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรติดตามต่อในละคร “ชุมแพ”
รายชื่อนักแสดงละคร ชุมแพ
วัชรบูล ลี้สุวรรณ แสดงเป็น เพิก ชุมแพ
จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น ร.ต.ท.หญิง แววดาว
รังสิโรจน์ พันธ์เพ็ง แสดงเป็น ร.ต.อ.ไชโย วีระพล
นุสรา สุขหน้าไม้ แสดงเป็น ดวงพร
กัญจน์ ภักดีวิจิตร แสดงเป็น พรหม ไพรงาม
อารดา เลิศเกียรติไพบูลย์ แสดงเป็น น้ำตาล
กรุง ศรีวิไล แสดงเป็น ลุงพลอย
ฤทธิ์ ลือชา แสดงเป็น กำนันเสือ
อรรถชัย อนันตเมฆ แสดงเป็น จ่าถม
พงศนารถ วินศิริ แสดงเป็น เสี่ยเส็ง
เบคิม ฤทธิ์ แสดงเป็น แลง
ใจใสรักษ์ยกก๊วน
ใจใสรักษ์ยกก๊วน ละครบอกเล่าวิธีรักษาสิ่งแวดล้อมรอบรั้วโรงเรียน เพื่อปลุกจิตสำนึกถึงคนอีกนับไม่ถ้วนว่า ถ้าเริ่มดูแลสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเราได้ เราก็ดูแลสิ่งแวดล้อมในสังคมเราได้ ต่อไปเราก็ดูแลสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ได้อีกด้วย
เพื่อให้โลกสวยงามดั่งนิยามรักของ อาจารย์สายน้ำ ครูศิลปะใจบรรเจิดที่ปิ๊งรัก อาจารย์มดแดง ครูพละใจนักเลง เดือดร้อนถึง สายัญ เด็กหนุ่มใจอนุรักษ์ พร้อมเพื่อนร่วมชั้นอย่าง ดอกรัก หนุ่มน้อยแบรนด์เนมหัวจรดเท้า ปุ๊กปิ๊ก สาวหวานเจี๊ยบแต่ขี้กลัวไปทุกอย่าง มะเฟือง เด็กสาวที่ประหยัดพลังงานจากความงก มะไฟ สาววัยกระเตาะที่ชีวิตขาดสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ได้ แถมด้วย ตะไคร้ วินมอเตอร์ไซค์หน้าโรงเรียนที่เพียรจีบมะเฟือง โทนี่ ภารโรงหนุ่มผู้สานอุดมการณ์พิทักษ์เด็กๆ ฉ่ำ เด็กเคยเรียนดี แต่พลาดไปติดเกมส์ ป้าเมาท์ แม่ของฉ่ำที่แสนระกำช้ำหัวใจ และลุงแดนนี่ เจ้าของร้านกาแฟที่ฟุต ฟิต ฟอ จนไฟจะไหม้ร้าน
เรื่องวุ่นๆ ใจใสรักษ์ยกก๊วน จะมาสะกิดต่อมฮา ปาดน้ำตาซาบซึ้ง เพราะการรักษาสิ่งแวดล้อม ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนจากหนึ่งเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน จนเพิ่มพูนเป็นพลังของคนบนโลกใบนี้ ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อใครที่ไหน ก็เพื่อคนที่คุณรัก
ใจแจ๋วกับเรือจิ๋ว
เรื่องของเด็กต่างถิ่น ต่างที่ กลุ่มใหญ่ (เด็กมัธยมปลาย) เข้าค่ายกิจกรรมฤดูร้อนของทหารเรือ ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยเข้าฝึกอบรม “เรือใบมด” กับ เรือ โทหนุ่มหล่อ และจ่าทหารเรือจอมตลก แสนสนุกอีก 2 คน
ความชุลมุน วุ่นกับนานาความคิด ความชอบ และ ความถนัด ที่ต่างกันของเด็ก เช่น
“โอ๋”-“เอ๋” สองพี่น้องหนุ่มหล่อ มาจากสุพรรณบุรี มีตา ยาย เป็นครูลำตัด จึงมีทั้งความสมัยใหม่ในตัวของคนรุ่นใหม่ และแอบมีเสน่ห์ตรงได้นู่นนิดนี่หน่อยจากบรรพบุรุษพื้นเพดั้งเดิมมา โดยที่ทั้ง 2 คนไม่รู้สึกว่าน่าขันเหมือนบางคนที่คิด แต่กลับรู้สึกว่า ทั้งภาษาท้องถิ่น และการร้องลำตัดของเขา เป็นความสามารถพิเศษส่วนตัว ที่มีมากกว่าคนอื่นก็แล้วกัน
“นก” เด็กสาวที่ติด “โอ๋” “เอ๋” งอมแงม เป็นเด็กบ้านเดียวกัน สวย น่ารัก แก่นแก้ว เพราะสนิทกับเด็กผู้ชายอย่าง 2 คนนี้มาตลอด จนเหมือนว่า จะเป็นพี่ชายที่น่ารัก และหวงสุดๆ ไม่อยากให้ใครได้มาสนิทหรือ ได้รับความสนใจเท่า
“ก้อย” สาวสวยน่ารัก วัยทีนเอจ น่ารัก น่าจีบ น่าสนใจ เพราะเป็นคุณหนูเด็กกรุงเทพฯ (ด้วยกิริยาท่าที) แต่เมื่ออยู่ในค่าย เธอกลับทำให้เห็นว่าเธอไม่เคยหยิบโหย่ง เป็นคนหนักเอาเบาสู้ หนุ่มๆ ต่างก็อยากวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ…เธอตกเป็นคู่เขม่นกับ “นก” โดยไม่รู้ตัว แต่สุดท้าย จะสอน “นก” ด้วยซ้ำว่า คิดอะไรอยู่ในวัยของตัวเองที่ควรจะคิดก่อนเรียงลำดับ ควบคุมให้ถูก แล้วจะมีจุดมุ่งหมาย มีความสุขในที่สุด เพราะการจัดระเบียบตัวเอง สำคัญกว่าในสิ่งอื่นใด
“โอ๋” กับ “ก้อย” จะเป็นเด็กคู่ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ น่าติดตาม ด้วยความต่างของพื้นเพแล้วโคจรมาศึกษาซึ่งกันและกัน ทำให้ได้เรียนรู้ได้แลกเปลี่ยนแนวความคิด ทัศนคติ การเรียน อนาคต ควบคู่ไปกับปัญหาเฉพาะหน้า ที่เกิดขึ้นระหว่างอบรม”เรือใบมด” ทั้งในห้องเรียนและในการปฏิบัติในท้องทะเล เรื่องราวที่ดำเนินไปในค่ายฝึก จะสอน และให้แง่มุมต่างๆ นานา เช่น การปรับตัวให้เข้ากันได้ การช่วยเหลือแบ่งปันน้ำใจแบบบริสุทธิ์ การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เพราะการกีฬามีอะไรให้คิด ให้แก้ไข ในมุมต่างๆ มากมาย การแล่นเรือใบจะต้องรู้จักอุปกรณ์ต่างๆ ต้องรู้จักทิศทางของลม รู้จักการคำนวณ สอนให้เด็กใช้ความคิด พิจารณา รอบครอบ และช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดเมื่ออยู่กลางทะเล
“ริน” สาวน้อยร่างท้วม อวบขาว น่าตาหน้าเอ็นดูมากๆ เป็นสีสันในกลุ่มเด็กในค่ายนี้ เธอแต่งตัวสดใส เหมาะสม เธอกินๆๆขนมเก่งมาก โดยเฉพาะ ไอศกรีม “ริน” เป็นเพื่อนซี้สนิทกับ “ก้อย” เธออยากสวยเพรียวเหมือนก้อย แต่ก็กำหนดไว้ในความต้องการลิ้มรสอาหาร ขนม นม เนย ไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะสวยในแบบต้นฉบับของตัวเองมากกว่า…ความอ้วนไม่ได้ทำให้เธอ อุ้ยอ้าย เธอได้รับความคล่องตัว กระฉับกระเฉงมาจากการที่คบอยู่กับ ”ก้อย” เพราะ “ก้อย” เป็นสาวสวยที่พึ่งตัวเองซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเข็นรถที่จอดขว้างอยู่คนเดียวได้ ลากเรือลงทะเลคนเดียว เก็บเสา เก็บใบ ล้าง ทำความสะอาดอุปกรณ์ หรือ ครูฝึกสั่งให้ทำอะไรจะต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด จึงเป็นภาพที่น่าดู น่ามอง เมื่อ “สองสาว กทม.ฯ คู่นี้” ถูกคำสั่งให้ปฏิบัติอะไรก็ตาม…รินจะเป็นภาพของสาวสวยร่างท้วมที่ทำให้ความ น่าสนใจจุดอื่นๆในตัวที่น่าประทับใจและเอาเป็นแบบอย่างได้ ถึงแม้ว่าในบางเรื่อง ดูว่าจะเป็นผู้ตาม “ก้อย” อยู่ แต่ก็เรียกว่าเป็นการเลือกตามที่ถูกต้อง ถ้ามีเพื่อน ก็ควรเลือกเพื่อนที่น่าติดตาม เพราะทิศทางของเพื่อนที่ดูดี
“เงี๊ยว” เด็กชายหนุ่มจากแดนอีสาน พูดกลางได้ อีสานได้ ความสามารถพิเศษพื้นบ้าน คือ สวดมนต์ไพเราะเสียงใส น่าฟัง (สำเนียงอีสาน)
“ตั๊กแตน” สาวสีแทน แดนอีสาน พูดกลางได้ อีสานได้ ความสามารถพิเศษพื้นบ้าน คือ สวดมนต์ไพเราะเสียงใส เช่นกัน (สำเนียงอีสาน)
2 คนนี้ มาจากคนละจังหวัด แต่อีสานจะเป็นดินแดนศาสนา พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย เข้าวัด ปฏิบัติธรรม เด็กๆก็จะได้ไปด้วย เสน่ห์ของเด็ก 2 คนก็จะชี้ให้เห็น ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความกลัว ละอายต่อบาป ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของคำสอน แต่ก็ผสมผสานกับโลก ความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่น่าเบื่อหน่าย เป็นตัวแทนของเครื่องมือเตือนใจให้ทุกคนสวดมนต์ภาวนาได้อย่างน่ารัก น่าชังที่สุด เพราะตกค่ำขึ้นมา เขา 2 คน จะพร้อมใจกันตะเบ็งเสียงสวดมนต์ เหมือนกับจะให้เทวดาบนสวรรค์รับรู้ จนหลายครั้งเข้า ทุกคนในค่ายต่างก็ต้องสวดมนต์ตามไปโดยปริยาย
ความน่ารักของชาวอีสาน ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย จะกิน จะอยู่ จะทำอะไร เด็ก 2 คนจะมีวิธีการได้น่ารัก น่าชัง เป็นที่รักของเพื่อนๆ และครูฝึกไปหมด แถมยังพาเพื่อนกินผักแปลกๆได้อีกตั้งหลายชนิด
ตลอดเวลา 1 เดือน ที่อยู่ด้วยกันในค่าย ทำให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความเป็นตัวตนของกันและกัน แล้วก็หยิบจับของแปลกที่ดีๆ เข้ามาผสมผสานอยู่ในตัวได้อย่างสนุกสนาน ครื้นเครง ได้แง่คิด ได้คำสอน ได้มุมมองที่ดีไว้เตือนใจ ประกอบกับการเป็นอยู่รับรู้เรื่องราวของครูฝึก “เรือโทหนุ่ม วรศาสตร์ หรือ ครูเอ” ที่เปรียบเป็นพี่ชายคนโตได้เป็นอย่างดี เขาผู้มีประวัติการปฏิบัติตัวจากเยาวชน จนเป็นทหารของชาติ และยังเป็นครูฝึกสอน “เรือใบมด” ให้กับเด็กรุ่นแล้วรุ่นเล่า ส่งเด็ก ส่งทีมเยาวชนนานาชาติมากี่รุ่นแล้ว หัวใจของการเป็นครูฝึกนักกีฬา ยังเปี่ยมล้นไปด้วย พลังผักดันให้เยาวชนหัวใจแจ๋ว มีจุดมุ่งหมาย มีความรักชาติ กษัตริย์ รู้จักใช้ความสามารถตามระดับที่มีอยู่สร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเมืองได้
ถึงแม้ว่าอุปสรรคในชีวิตส่วนตัวของ “ครูเอ” ที่มีแทรกเข้ามาต่างๆนานาไม่ว่าจะเป็นสายงาน ความรัก และอนาคต แต่ “ครูเอ”ก็ถูกฝึกมาจากลูกผู้ชายเป็นนายทหารผู้เคร่งครัดกฎระเบียบ วินัย มากกว่าส่วนตัว ประเทศชาติเป็นหลัก และเขาก็ได้รับผลตอบแทนที่ลงตัวได้ในที่สุด
“ครูเค” พบรักกับ “สาวทราย” ลูกแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ เบเกอรี่ แสนอร่อยของชาวสัตหีบ ทรายเรียนปี 4 มหาวิทยาลัยดัง คณะเศรษฐศาสตร์ จัดว่าครบสูตรสาวเมืองนี้ ต้องเก่ง กล้า สามารถ เพราะอยู่ในดงทหารเรือ ถ้าจิตใจไขว้เขวไม่หนักแน่น ไม่เป็นของตัวเอง ก็อาจจะจบชีวิตเป็นแม่บ้านทหารเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว
“ครูเอ” มีคู่แข่งเป็นลูกชายเจ้าของกิจการมากมายในเมืองพัทยา-สัตหีบ ชื่อว่า “ตริน” ด้วยความที่มีธุรกิจเยอะ ลูกน้องเยอะ (แต่ไม่ถึงกับเป็นมาเฟีย) อุปนิสัยจึงดู”แน่ๆ” ไม่กลัวใคร เพราะไปไหนมาไหนคนเดียวไม่เป็น จึงรู้แต่วิธีที่จะอยู่แบบ “มีเพื่อน” ข้อเสียเปรียบก็คือ เวลาตัวต่อตัว นายทหารหนุ่มของเราก็ได้เปรียบ ด้าน มาด ความสง่างาม ประกอบกับวิชาชีพ
เชิงรักหักสวาท ของทั้ง 2 ฝ่าย จะมีชั้นเชิงที่ชวนติดตาม โดยมีฝ่ายสมาชิกพรรคของทั้ง 2 ฝ่ายที่เห็นได้ชัด ในความแก่น เซี้ยว เฮี้ยว เข้ม เด็กๆเหล่านั้นจะนำพา ”ชีวิตในค่ายเยาวชนกับเรือมด” ในแบบฉบับของ “คนหัวใจแจ๋วๆกับเรือจิ๋วๆ” ไปพบกับบรรยายกาศหลากหลาย ล้วนแล้วแต่แทรกแก่นสาร สาระ ชีวิต น้ำตา พึ่งพา แก้ไข บทเรียนสอนใจ จะค้นหาจุดไหนของชีวิต รับไปเลยทุกรส สนุก ขบขัน เฮฮา แง่คิดมุมมองที่ดีๆ
เงื่อนริษยา
ชาลี เด็กหนุ่มหน้าสวยที่ใช้ชีวิตอยู่ในสลัมกับ ดนัย สุวงศ์ พ่อที่ป่วยหนัก นอกจากพ่อแล้วชาลียังมี ไอ้จ้อย เพื่อนสนิทผู้นำพาให้ชาลีได้พบกับ อิราวัต สหเทพ เจ้าของกระเป๋าที่ไอ้จ้อยเอามายัดใส่มือชาลี จนอิราวัตเข้าใจผิดคิดจะจับชาลีส่งตำรวจ โชคดีที่ชาลีใช้วิธีเจ้าเล่ห์หนีมาได้ แต่แล้วชะตาก็ทำให้ชาลีได้พบกับอิราวัตอีกครั้งในวันที่พ่อของชาลีกำลังจะ สิ้นใจ ดนัยอดีตทนายความอนาคตไกลที่อิราวัตตามหา ได้เพียงกล่าวคำสั่งเสีย “ฝากลูกพี่ด้วย..ช่วยดูแล..ระวังอันตราย” เท่านั้นดนัยก็สิ้นลม ทิ้งไว้เพียงปริศนาและชีวิตเด็กหนุ่มตรงหน้าที่อิราวัตต้องดูแล
ชา ลีต้องย้ายมาอยู่ในบ้านสหเทพ ที่นอกจากอิราวัตแล้วยังมี อภินัทธ์ น้องชายของอิราวัตที่ความรักกำลังมีปัญหาเพราะ สิรินัดดา ( พราว ) แฟนสาวลูกของ คุณหญิงพิมพา ต้องการได้อิราวัตเป็นลูกเขยมากกว่า ชาลีสงสารหาทางช่วยทำให้สนิทสนมกับพราวเป็นพิเศษ จนเกือบมีเรื่องกับอภินัทธ์เพราะความหึงหวง นอกจากศึกภายในบ้านแล้วชาลียังมีศึกนอกบ้านอีกเมื่อ คาร่า คู่ควงของอิราวัตสงสัยในความผิดปกติบางอย่างในตัวชาลี และตั้งหน้าตั้งตาจับผิดจนชาลีไม่เป็นอันทำอะไร อิราวัตเลยพาชาลีไปพักผ่อนที่ไร่สหเทพที่มี สุกฤต เป็นผู้ดูแล
และ ที่ไร่ใกล้ๆ นั้นเองชาลีก็ได้พบกับ ธนากร ชายที่ดูเหมือนจะรู้จักชาลีมานานแสนนาน แต่ชาลีกลับรู้สึกได้แค่รอยยิ้มที่อบอุ่น หลังจากการพบกันครั้งนี้ธนากรก็หาทางใกล้ชิดชาลี โดยมีอิราวัตทำตัวเป็นก้างขวางคอทุกครั้งไป ซึ่งอิราวัตเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกหวงเจ้าหนุ่ม หน้าสวยคนนี้นักหนา จนกระทั่งความจริงปรากฏเมื่ออิราวัตฝึก ชาลีให้ฟันดาบ ความไม่ตั้งใจทำให้ปลายดาบของอิราวัตตวัดไปโดนอกของชาลีเลือดซึมออกมา ชาลีเห็นก็ตกใจเป็นลมอิราวัตเปิดเสื้อดูจึงรู้ว่าแท้จริงชาลีเป็นผู้หญิง แต่ชาลีให้ความกระจ่างอิราวัตได้เพียงว่าพ่อดนัยสั่งให้เธอปลอมเป็นชาย
โดย ที่ชาลีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม? อิราวัตจึงรู้ว่าชาลีมีอาการความจำเสื่อม หลังรู้ความจริงอิราวัตจึงพา จรัสพงศ์ นายแพทย์เพื่อนสนิทมารักษาหวังฟื้นความทรงจำให้ชาลี หากความใกล้ชิดทำให้หัวใจของจรัสพงศ์เริ่มหวั่นไหวจนทำให้ ถกลเกียรติ เพื่อนสนิทสงสัยว่า จรัสพงศ์กำลังจะกลายเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันเหมือนอิราวัต กระทั่งคาร่าเปิดเผยความจริงว่าชาลีเป็นผู้หญิง ทุกคนให้อภัยและเห็นใจชาลีที่ต้องปิดบังตามคำสั่งของพ่อดนัย พร้อมความโล่งใจที่อิราวัตมิได้มีจิตผิดปกติอย่างที่ใครเข้าใจ จากเด็กหนุ่มหน้าหวานกลายเป็นหญิงสาวที่สวยสะดุดตา
และยังมีความ สามารถพิเศษเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะชาลีสามารถอ่านหนังสือต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษได้โดยบอกว่าพ่อเป็นคนสอน ส่วนเรื่องการศึกษาชาลีบอกจบการศึกษาแค่มัธยม ซึ่งชาลีก็ไม่แน่ใจพอๆ กับประวัติของตัวเองที่คิดขึ้นมาเมื่อไหร่จะมีอาการเครียด ปวดหัว จนทุกคนยอมรับไปโดยปริยายว่าชาลีเป็นโรคความจำเสื่อม โดยเฉพาะเมื่อมีธนากรคู่แข่งเรื่องธุรกิจที่กำลังจะเป็นคู่แข่งเรื่องหัวใจ มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ อิราวัตจึงยิ่งทั้งหวงและห่วงชาลีจากธนากรที่เป็นบุรุษลึกลับมีเงื่อนงำ ความผูกพันของอิราวัตกับชาลีเพิ่มพูนจนกลายเป็นความรัก
และสิ่งนี้ เองที่ทำให้อันตรายบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาหาชาลีอย่างช้าๆ ชาลีมีอาการอ่อนเพลียหลับไปครั้งละนานๆ จนรุนแรงถึงอาเจียนออกมาเป็นเลือด อิราวัตเป็นห่วงชาลีจนแทบบ้า จรัสพงศ์หาทางรักษาชาลีทุกวิถีทาง ด้วยหัวใจที่ร้าวรานเมื่อชาลีอาการแย่ลงพร้อมจะจากไปได้ทุกเวลา แต่แสงสว่างสุดท้ายก็มาพร้อมกับผลตรวจเลือดของชาลี เพราะมันบ่งบอกถึงวิธีการรักษาคือ การนำสารพิษที่ชาลีได้รับมาสกัดเป็นยาแก้พิษ หากเวลาที่เหลือน้อยนิดจะเพียงพอต่อความพยายามของอิราวัตหรือไม่ เงื่อนงำแห่งการปองร้ายเกิดขึ้นจากใครและทำเพื่อสิ่งใด หาคำตอบต่อกันในละคร “เงื่อนริษยา”
รายชื่อนักแสดงละคร เงื่อนริษยา
ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท อิราวัต
ไปรยา สวนดอกไม้ รับบท ชาลี / สุชาวดี
นพพล โล่พิทักษ์พานิช รับบท อภินัทธ์
คีตภัทร อันติมานนท์ รับบท สิรินัดดา ( พราว )
อธิชาติ พัวพิมล รับบท ธนากร
ปานวาด เหมมณี รับบท คาร่า
ศรุต วิจิตรานนท์ รับบท จรัสพงศ์
เขมชาติ เตโชชัชวาล รับบท ถกลเกียรติ
ภัสสร บุญยเกียรติ รับบท คุณพิมพา
ธีรพงษ์ เหลียวรักวงศ์ รับบท สินธุ
คู่ปั่น คู่ป่วน
ทีมงานกองถ่ายยกกองมาปักหลักถ่ายทำในชุมชน ทำเอาชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากิน ป๊อด (อี๊ด-สมพงษ์) ชายไทยใจซื่อ ทั้งมือและปากถือศีลห้า ป๊อดซึ่งมุ่งมั่นอยากเป็นดาราทั้งๆ ที่หน้าไม่ให้ มาจากจังหวัดเพื่อมาอยู่กับ หวาน (เอมี่ กลิ่นประทุม) ลูกพี่ลูกน้องสาวซ่าประจำชุมชน ความเซ่อซ่าของป๊อดทำเอากองถ่ายพังยับเยิน อีกด้านหนึ่ง สมคิด (บีม-กวี) หนุ่มกะล่อนสมองลื่นไหลราวกับมีสองหัว ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่กลายเป็นฮีโร่ในสายตาของป๊อด พรหล้า (ลาล่า-ขวัญนภา) และ ทองประสม (ลูลู่-ดวงฤดี) 2 แม่ค้าส้มตำที่ยอมทิ้งร้านเพื่อหวังจะเข้ากล้องเป็นดารา พรหล้าเจอกับทองประสมที่ไรก็ต้องปะทะคารมกัน ป๊อดชื่นชมสมคิดให้ ยายต่วน (ตุ๊ก-ดวงตา) ฟัง จนหวานชักอยากเจอตัว แต่พอรู้ว่าเป็นสมคิดก็ชักไม่แน่ใจ เพราะรู้กิติศัพท์ความกระล่อน และเอาตัวรอดของสมคิดดี หวานแอบชอบสมคิดแต่มักจะแสดงออกตรงข้ามเพราะความอาย แต่หมอดูมาทักว่าเป็นเนื้อคู่กัน ทำให้หวานตั้งใจว่าจะตามแก้นิสัยสมคิดให้ได้
อู๋ (อาหรั่ง-อาณัติ) ลูกชาย เสี่ยอ๋า ผู้มีอิทธิพลในย่านนั้น และเป็นเจ้าหนี้ของคนในชุมชน อู๋มักจะแวะเวียนมาร้องเพลงลูกกรุงยุคเก่าจีบหวานอยู่บ่อยๆ แต่หวานไม่สนใจ สมคิดเบื่อชีวิตที่เต็มไปด้วยหนี้สิน ทั้งของตัวเองและที่ แม่หนูดี (จิ๊ก-เนาวรัตน์) ก่อไว้ สมคิดพยายามทำงานทุกอย่าง แต่นับวันก็ยิ่งมีปัญหา จนวันหนึ่งทนายประจำตัวของสมสุขพ่อของสมคิดก็มาหาเพื่อแจ้งข่าวการตายของสม สุข และมอบมรดกชิ้นสุดท้ายคือซันคาเฟ่ เพื่อชดเชยที่ไม่เคยเลี้ยงดูสมคิด สมคิดดีใจที่ชีวิตจะเป็นเศรษฐี แต่ยิ่งเศร้าเพราะซันคาเฟ่อยู่ในภาวะขาดทุน แม่หนูดีจึงคิดจะขายแล้วเอาเงินมาใช้หนี้ แต่ทนายบอกว่าสมคิดต้องบริหารที่คาเฟ่อย่างน้อย 1 ปี ถ้าไปไม่รอดก็จะพิจารณาให้ขาย สมคิดหัวใสต่อรองเสี่ยอ๋าขอผัดหนี้ไปอีกปี โดยมีคาเฟ่เป็นตัวการันตีว่าเขามีสินทรัพย์เป็นทุนค้ำประกัน แต่เสี่ยอ๋าเห็นทำเลของคาเฟ่ก็หวังจะฮุบเป็นตัวเอง สมคิดบอกกับแม่หนูดีว่าเขาจะบริหารคาเฟ่เอง และจะทำให้เจ๊งมากขึ้น สมคิดรู้ว่าป๊อดอยากเป็นดาราจึงชวนป๊อดไปเล่นตลกที่ซันคาเฟ่ ป๊อดดีใจและบูชาสมคิดมากขึ้นที่ช่วยสานฝัน แต่หวานไม่แน่ใจจึงตามไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวจะได้ไม่ถูกหลอก สมคิดเห็นว่าคนเดียวยังไม่พอต้องหาคนมาร่วมวงอีก
พอสมคิดไปเจอพรหล้ากับทองประสมกำลังทะเลาะกัน สมคิดคิดว่าถ้าสองคนไปเล่นด้วยกันคาเฟ่จะต้องพังแน่ จึงชวนให้มาร่วมทีม สุดท้ายทั้งสามคนก็ได้ร่วมทีมกันในนาม “ป่วนสามสลึง” ราตรี (ฮันนี่-ภัสสร) เมียน้อยของสมสุขซึ่งเลิกกันไปเมื่อสมสุขตกต่ำ ราตรีเจ็บใจที่สมสุขยกคาเฟ่ให้สมคิดลูกเมียหลวง ราตรีวางแผนให้ มีมี่ (เอ๋-พรทิพย์) แก้แค้นด้วยการสมคิดหลงเสน่ห์และแย่งคาเฟ่มาเป็นของตัวเอง อู๋แอบมาเฝ้าหวานที่คาเฟ่บ่อยๆ เสี่ยอ๋าจึงส่ง จ๊ะ (ทุเรียน) ลูกน้องคนสนิทให้คอยตามอู๋ พอมีมี่รู้ว่าอู๋เป็นลูกชายเศรษฐีก็อยากจะจับ มีมีลองหว่านเสน่ห์แต่ผิดหวังเพราะอู๋รักหวานคนเดียว มีมี่จึงใช้สมคิดเป็นเครื่องมือ ป๊อดไปหลงรัก สวย (นก-ทอปัด) สาวเชียร์เบียร์ แฟนของโต (เอ-สุรพันธ์) หัวหน้าวินมอเตอร์ไซด์ สวยมักจะประชดตัวเองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีไม่อยากให้คนดี ๆ อย่างป๊อดมายุ่งกับเธอ ซันคาเฟ่แย่ลงตามแผนที่สมคิดวางไว้ แต่ป๊อดก็ไม่ยอมแพ้ ส่วนพรหล้ากับทองประสมก็ทะเลาะแย่งความเด่นกันจนคนน้อยลงเรื่อยๆ เหลือเพียง เจ๊ม้า (จอย ชวนชื่น) ลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ที่หลงชอบสมคิดและอุดหนุนสินค้าที่สมคิดขายมาตลอด
หวานโกรธสมคิดมากจึงคิดหาทางจะทำให้คาเฟ่นี้ดังให้ได้ อันดับแรกต้องทำให้พรหล้ากับทองประสมเลิกทะเลาะกัน ในที่สุดทั้งสองคนก็ยอมสงบศึก ทุกคนประชุมกันว่าต้องหาการแสดงที่มีสีสัน หวานเกิดไอเดียจะเอาละครโทรทัศน์ มาสร้างเป็นเรื่องล้อเลียนให้ป่วนสามสลึงเล่น การแสดงคืนแรกมีอุปสรรคมาก แต่ทั้งสามก็พยายามจนเริ่มมีคนที่ฟังปากต่อปากตามมาดูมากขึ้น ป๊อดขอบใจสวยที่ช่วยเชียร์แขกมาดูด้วยแต่สวยบอกเธอทำเพื่อตัวเอง เสี่ยอ๋าจีบมีมี๋แต่สมคิดออกตัวว่ามีมี่เป็นแฟนเขาทำเอาเสี่ยอ๋าเจ็บใจ เสี่ยอ๋าส่งลูกน้องไปป่วนคาเฟ่ ให้โตพาพวกมอเตอร์ไซด์ไปคอยไล่แขก ไม่นานสมคิดก็ใช้หนี้เสี่ยอ๋าหมด คณะป่วนสามสลึงเริ่มมีงานเดินสายโชว์ตัว ความแรงของป่วนสามสลึงดังจนมีรายการติดต่อให้ไปออกโทรทัศน์ ป๊อด พรหล้า และทองประสมดีใจมากที่จะได้ออกทีวี วันที่ไปอัดรายการเสี่ยอ๋าขัดขวางจนป่วนสามสลึงไปไม่ถึงสตูดิโอ หวานถอนตัวไม่ร่วมงานกับสมคิดอีก ป๊อด พรหล้า ทองประสม ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี หวานรู้จากยายต่วนว่าจริงๆแล้ว สมคิดต้องการให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาสมคิดหลอกใช้พวกเขามาตลอด พรหล้าและทองประสมเสียใจมากประกาศถอนตัว สุดท้ายสมคิดตัดสินใจขายคาเฟ่ให้เสี่ยอ๋า
สมคิดพาป่วนสามสลึงเดินสายไปแสดงตามที่ต่างๆ เพื่อสร้างคะแนนเสียง จนสามารถหาเงินมาสร้างคาเฟ่ใหม่อีกครั้ง เสี่ยอ๋าสั่งลูกน้องให้ไปจับตัวหวานเพื่อแลกกับที่ดิน ทุกคนบอกถึงแม้จะไม่มีคาเฟ่ แต่ป่วนสามสลึงก็ยังคงอยู่ อู๋รับการกระทำของพ่อไม่ได้จึงพาหวานหนี เสี่ยอ๋าสั่งเก็บทุกคน ป๊อดเกือบถูกยิงแต่สวยมารับกระสุนแทน หวานขอบใจอู๋ที่ช่วยเธอไว้และบอกความในใจว่าเธอรักอู๋ได้แค่เพื่อนเท่านั้น เรื่องราวความรักระหว่าง สมคิดกับหวาน จะลงเอยอย่างไร ซันคาเฟ่จะอยู่รอดไหม ป๊อด พรหล้า และทองประสม จะพาคณะป่วนสามสลึง ไปถึงปลายทางแห่งความฝันได้หรือไม่
คุณยายสายเดี่ยว
คุณยายสายเดี่ยว เป็นเรื่องราวของ คุณยายกับหลานที่บังเอิญต้องมาสลับร่างกัน ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตของคนที่ต่างวัยกันอย่างที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน
แม้นวาด มีสามีคือนายโชคชัยมีอาชีพรับราชการและเสียชีวิตไปหลายปีแล้วมีลูกสองคนคือ มณีรัตน์และเมทินี มณีรัตน์แต่งงานกับเอกชัยที่รับราชการกระทรวงมหาดไทย ทิ้งลูกชายไว้ที่บ้านที่กรุงเทพฯ คือ รดิฐ และจุฑา ส่วนเมทินีแต่งานกับภุชงค์ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทาง
เกษตร มีลูกสาวคนเดียวคือ กษมา รดิฐ เป็นพี่ชายคนโต ส่วนจุฑาและกษมาเป็นทั้งเพื่อนและญาติกัน แม้นวาดเป็นคนที่ถูกสอนมาอย่างหญิงยุคเก่าเธอจึงวิตกกับการเปลี่ยนแปลงรอบ ๆ ตัว เธอชอบจับตามองทุกคนในครอบครัว ส่วนเมทินีมักจะเกิดปัญหากับสามีอยู่บ้างเพราะภุชงค์มองว่าแม่ยายมีมุมมอง ไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ แต่ภุชงค์เลี้ยงลูกเหมือนเป็นเพื่อน แม้นวาดจึงไม่เคยเข้าใจว่าทำไมกษมากับภุชงค์ตีเสมอกัน แม้นวาดพยายามจะให้เมทินี ไปเตือนภุชงค์ ทำให้ภุชงค์โกรธแม้นวาดว่าคิดแบบไร้เหตุผล
เมื่อหลาน ๆ โตขึ้น แม้นวาดกังวลในตัวของกษมามากกว่าคนอื่น เพราะกษมาค่อนข้างรั้นและเฮี้ยวเปรี้ยวจนเข็ดฟันและมองโลกอย่างวัยรุ่นกษมา กลับมาจากการเป็นนักศึกษาทุนที่ต่างประเทศ โดยนั่งเครื่องมาลำเดียวกับดุสิตและภาวิต แต่ไม่ได้คุยกัน ภาพของกษมาโดนจับตามองจากทุกคนบนเครื่อง เพราะหล่อนทำเหมือนมองไม่เห็นสายตาใคร ทำให้ภาวิตนึกขำหล่อนแต่ไม่ได้ใส่ใจ พอถึงสนามบิน มีสาวสวยมารับภาวิต ชื่อพนิดา ซึ่งเป็นลูกสาวของนาย อดิเรก นักการเมืองอาชีพและคุณบังอรศรีเพื่อนร่วมรุ่นของแม้นวาด กษมาพยายามจะขอไปอยู่หอพักเพราะกลัวว่าจะต้องอยู่กับคุณยายภุชงค์กับเมทินี หว่านล้อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จ แต่หล่อนต้องจำใจอยู่กับแม้นวาดจนได้ แม้นวาดมีโลกอีกมุมหนึ่ง จนกลายเป็นปัญหาไปหมดสำหรับกษมาครั้งแรกที่พบกันแม้นวาดแทบหัวใจวายตาย เมื่อกษมาจัดการแปลงโฉมตัวเองไปในสภาพที่แม้นวาดรับไม่ได้ แม้นวาดจึงโทรไปหาทิพย์สมรเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านทำผมเพื่อที่จะให้มาแปลง โฉมกษมาให้เป็นเหมือนเดิม กษมาทั้งโกรธและขำ ที่หล่อนถูกทำเหมือนเด็กเล็ก กษมาแอบไปสมัครเป็นพริ้ตตี้ในระหว่างปิดเรียน โดยไม่บอกใคร นอกจากเพื่อนสนิทอย่างนิลุบล เมื่อหล่อนรู้ว่าคุณยายจะจัดงานเลี้ยงรับเธอในงานวันเกิดของคุณยาย เธอจึงไปหาซื้อของขวัญมาให้และยังนัดดนัยเพื่อนหนุ่มให้มาแสดงตัวเป็นแฟนของหล่อนด้วย
ดุสิตอาของภาวิตทำงานอยู่ในบริษัทดนตรีในตำแหน่งประชาสัมพันธ์อาวุโส และได้ชื่อเลื่องลือเรื่องความเจ้าชู้เป็นสุดยอด ตามประวัตินั้นเคยจีบคุณแม้นวาดแต่ไม่สำเร็จ เลยไม่ยอมแต่งงาน ส่วนภาวิตถูกพนิดาตามติดแจ แต่ภาวิตก็ไม่คล้อยตามหล่อนอีกและภาวิตบอกพนิดาว่าถ้าอยากแต่งงานกับเขาก็ ต้องมาอยู่กับเขาที่ร้านขายของเก่า พนิดาคิดมากและไม่กล้าตัดสินใจ บังอรศรีแม่ของพนิดาพยายามแนะนำคุณก้อนทองให้กับพนิดา แต่พนิดากลับเมินเฉย วันหนึ่ง ที่ร้านของภาวิต มีชายแก่คนหนึ่งก้าวมาพร้อมกับย่ามเก่า ๆ เอาหีบไม้คู่หนึ่งมาให้ลวดลายบนหีบไม้นั้นสวยมาก จนภาวิตยอมรับเอาไว้ แม้กลัวว่าเป็นของโจร เมื่อภาวิตรับของแล้วผู้ชายคนนี้ก็หายไป ภาวิตเปิดกล่องดูไม่พบอะไรนอกจากกระดาษเขียนข้อความเอาไว้เป็นคำกลอนแต่ภาวิ ตไม่ได้ใส่ใจ สมพงษ์คนงานในร้านไม่ทราบนำหีบไม้ไปวางโชว์ตอนที่ภาวิตไม่อยู่ เหตุประหลาดเกิดขึ้นกับหีบไม้คู่นั้นเมื่อมีป้ายราคามาปรากฎที่หีบไม้ในวัน ที่กษมามาดูของที่ร้านพอดี มารตีหลานสาวของภาวิตที่มาช่วยสมพงษ์ไม่ทราบเลยบอกขายให้กับกษมา กษมาคิดจะมอบหีบไม้นี้ให้กับแม้นวาดในวันเกิด แต่มีเหตุให้กษมาและแม้นวาดไม่เข้าใจกัน แม้นวาดและกษมาจึงหงุดหงิด กษมานึกในใจอยากให้แม้นวาดเข้าใจตัวเองและแม้นวาดก็อยากให้กษมาเข้าใจตนเอง เหมือนกัน ขณะที่กษมามอบหีบไม้ที่ซื้อมาให้แม้นวาดก็มีอุบัติเหตุตอนเปิดหีบไม้ ทำให้หีบไม้ร่วงหลุดมือไป ทำให้ทั้งคู่หมดสติไปทั้งคืน
เช้าวันต่อมากษมาเอ่ยปากอยากดื่มไวน์ ทำให้คนรับใช้ประหลาดใจ พอกษมาเข้าห้องน้ำเธอก็ตกใจเพราะเงาในกระจกกกลับกลายเป็นร่างของ แม้นวาด กษมาในร่างแม้นวาดเอะอะโวยวาย แต่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่กษมาในร่างแม้นวาดบอก ทุกคนมองเหมือนเป็นเรื่องตลก กษมาในร่างแม้นวาด ถามหาตัว กษมา จึงทราบว่าอยู่ที่โรงพยาบาล กษมาตัวจริงพยายามหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ จึงนึกถึงหีบไม้ที่ทำตกไว้ แต่พอไปหากลับไม่พบ เธอจึงขอเบอร์ ภาวิต จากมารตีเพื่อเรียกภาวิตมาพบ ทำให้ภาวิตรู้ว่ากษมาและแม้นวาดสลับร่างกัน กษมาที่อยู่ในร่างของแม้นวาด ทำให้ลืมตัวทำเรื่องที่ไม่ควรทำหลาย อย่าง กษมาในร่างแม้นวาดมาหาแม้นวาดในร่างกษมาที่โรงพยาบาล ทั้งสองพยายามจะสลับตัวกันแต่ก็ทำไม่สำเร็จ ทั้งสองจำต้องสลับร่างกันอยู่ เวลาต่อ มา กษมา ย้ายมาอยู่บ้านของแม้นวาด ทำให้ภุชงค์เชื่อว่าแม้นวาดทำร้ายกษมา และไม่สบายใจเพราะกษมาเปลี่ยนไป เวลาที่ภุชงค์จะกอดกษมา ก็โดนแม้นวาดในร่าง กษมาทำร้าย ส่วนแม้นวาดที่เขาไม่ชอบหน้าก็พยายามมาเคล้าเคลียกับเขา
สองยายหลานสงบศึกและเริ่มเปิดใจให้กันกัน โดยแม้นวาดไปเรียนหนังสือ กษมาไปงานสังสรรค์เพื่อนเก่าและเป็นนายกสมาคมเพื่อนรุ่นเก่ากษมาใน ร่างของแม้นวาดก็สนิทสนมกับภาวิตจนพนิดาหึง และแม้นวาดในร่างของกษมาก็สนิทสนมกับดุสิตมากขึ้น ยิ่งทำให้เกิดเรื่องยุ่งวุ่นวายมากขึ้นจนเวลาผ่าน ไป ภาวิตพยายามหาวิธีที่จะให้กษมาและแม้นวาดกลับคืนร่างเดิม ภาวิตนึกถึงหีบไม้ใบอีกใบพร้อมกับคำกลอนปริศนาในกล่องไม้ จึงบอกให้กษมาและ แม้นวาดตั้งจิตให้มั่นแล้วลองกลับหีบไม้อีกครั้ง ในที่สุดทั้งสองก็ได้กลับสู่สภาพเดิม แม้นวาดและกษมาได้เห็นตัวตน ของกันและกันมากยิ่งขึ้นและเปิดใจ เข้าหากันจนเป็นยายหลานที่รักกันมาก กษมามีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและไม่ทำตัวเหลวไหล ส่วนแม้นวาดย้อนกลับมามอง การใช้ชีวิตของหนุ่มสาว รุ่นใหม่ด้วยใจเป็นกลาง รวมถึงความรักของดุสิตที่มีให้ด้วย จึงรับรักคำขอแต่งงานของดุสิต สำหรับภาวิตและกษมาก็เข้าใจกัน และมีความรักต่อกัน คำกล่าวเรียกแม้นวาดเป็นคุณยายสายเดี่ยว ยังเป็นคำพูดที่ทุกคนประทับใจและอดขำไม่ได้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแม้นวาดจะประกาศในงานสมาคมนักเรียนเก่า ว่าเธอแขวนสายเดี่ยวแล้วก็ตาม
นักแสดงละคร คุณยายสายเดี่ยว
สินจัย เปล่งพานิช แสดงเป็น แม้นวาด
สราวุฒิ มาตรทอง แสดงเป็น ภาวิต
ราศรี บาเลนซิเอก้า แสดงเป็น กษมา
สุรินทร คารวุตม์ แสดงเป็น ดนัย
บุศรินทร์ มโหทาน แสดงเป็น มารตี
พรรณชนิดา ศรีสำราญ แสดงเป็น พนิดา
พิมลวรรณ ศุภยางค์ แสดงเป็น เมทินี
สันติสุข พรหมสิริ แสดงเป็น ดุสิต
คมฅน
สายน้ำ น้องสาวของ ร.ต.อ.สายฟ้า หน.หน่วยเฉพาะกิจสังกัดกองสืบสวนพิเศษของ พ.ต.ท.ภูมิ บูรณศิลป์ สายฟ้า เสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างผู้มีอิทธิพล ภูมิ ตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบและติดตามดูแล สายน้ำ อย่างเงียบๆ สายน้ำ ในชื่อที่เปิดเผยกับหญิงสาวว่า พี่ชาย
ส่วน แพรวา เด็กกำพร้าใช้ชีวิตท่ามกลางพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงที่มีอาชีพส่งเด็กค้ายา แพรวา ถูกบังคับให้ขายตัวแต่โชคดี สารวัตรเหยี่ยว บุกทลายซ่องโจรทำให้เธอรอดมาได้ แพรวา เป็นหนึ่งใน สมาชิกมูลนิธิแฟรงค์ ฟาวเดชั่นฯ ที่ มร. แฟรงค์ ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการครอบงำสังคมไทย แพรวา ถูกส่งเข้าไปเรียนต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่เดียวกับ สายน้ำ ทั้งคู่เรียนจบได้บรรจุในหน่วยงานของ สารวัตรเหยี่ยว ซึ่งตามสืบเรื่องบ่อนของ พลพิพัฒน์ นักธุรกิจพันล้าน และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนมูลนิธิแฟรงค์
2 สาวถูกส่งเข้าไปทำงานกับบริษัทพลพิพัฒน์ในคราบบอดี้การ์ด สายน้ำ ได้พบกับ น้ำเย็น มักทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอ แต่คอยช่วยเหลือสืบหาหลักฐานต่างๆ จน สายน้ำ พบหลักฐานที่จะแฉความชั่ว พลพิพัฒน์ สถานีโทรทัศน์ DTV ถ่ายทอดสดหลักฐานมัด พลพิพัฒน์ ผ่านกล้องวงจรปิดที่ถูกบุรุษลึกลับนำเข้าไปติดในบ่อนจนถูกตำรวจเข้าถล่มบ่อน น้ำเย็น หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยมีข้อความทิ้งไว้ว่าเป็นฝีมือของ ผู้ก่อการดี
ภูมิ ร่วมกับมูลนิธิไททัศน์ก่อตั้ง ผู้ก่อการดี เพื่อเปิดโปงผู้มีอิทธิพล น้ำเย็น เป็นคนที่ถูกส่งตัวเข้าไปแทรกซึมในบริษัทของ พลพิพัฒน์ แฟรงค์ เรียกประชุมคนในองค์กรฯวางแผนกำจัดขบวนการผู้ก่อการดี โดยวางระเบิดทั่วกรุง ภูมิ นำทีมคลี่คลายวิกฤติกู้ระเบิดได้เกือบครบทุกที่ องค์กรแฟรงค์ออกประกาศจะระเบิดทำลายทำเนียบรัฐบาลในวันขึ้นปีใหม่ เหยี่ยว สืบรู้ว่า แพรวา เป็นสมาชิกองค์กร แฟรงค์ เหยี่ยว ยื่นคำขาดให้ แพรวา กลับตัวเป็นคนดี แต่ เหยี่ยว ก็ถูกลอบยิงตายพร้อมแผ่นซีดีที่กำลังส่งให้ แพรวา เมื่อ แพรวา เปิดซีดีถึงกับสะเทือนใจ เพราะ เหยี่ยว สารภาพรักเธอ
สายน้ำ รู้ความจริง ภูมิ คือคนที่ฆ่าพี่ชายเธอและเป็นคนๆ เดียวกันกับ พี่ชาย ที่แสนดี สายน้ำ ทนรับความจริงไม่ได้ลาออกจากการเป็นตำรวจ ในวันขึ้นปีใหม่การลอบวางระเบิดทำเนียบรัฐบาลถูก ภูมิ วางแผนตลบหลังเปิดโปง แพรวา แฉพฤติกรรมของ แฟรงค์ และพาตำรวจเข้าจับกุม ระเบิดลูกสุดท้ายมัดติดกับตัว สายน้ำ ภูมิ เข้าไปช่วย สายน้ำ และกู้ระเบิดออกมาแนบไว้กับตนเองแทน แต่ แพรวา กลับกระชากระเบิดไปติดไว้กับตัวแทน สายน้ำ เสียใจที่ต้องสูญเสียเพื่อนรักไปอีกคน ภูมิ สายน้ำ และ น้ำเย็น ร่วมมือกันสานต่อความคิดดีให้แพร่กระจายต่อไป
รายชื่อนักแสดงละคร คมฅน
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น พ.ต.ท. ภูมิ บูรณศิลป์
วรัทยา นิลคูหา แสดงเป็น สายน้ำ
ดนัย สมุทรโคจร แสดงเป็น สารวัตรเหยี่ยว
สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา แสดงเป็น แพรวา
คาเมล ซาลวาลา แสดงเป็น มิสเตอร์แฟรงค์
สรุวุฑ ไหมกัน แสดงเป็น พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ แก่นเพชร
สุภัสสร มามีเกตุ แสดงเป็น บุษยา
สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ แสดงเป็น น้ำเย็น
คนเยอะเรื่องแยะ
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ที่ใดมีคน ที่นั่นย่อมมีปัญหา หนึ่งคนหนึ่งปัญหา มากคนก็มากปัญหา ยิ่งถ้าหลากวัยหลายอาชีพ แถมยังต่างกันทั้งนิสัย ความคิด ทัศนคติ และการใช้ชีวิต แต่ต้องมาอยู่ร่วมกันด้วยแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น
ที ชื่อจริง ธีระวัฒน์ เป็นเด็กหนุ่มต่างจังหวัดแสนซื่อ จริงใจ เข้ากรุงเทพฯ มาเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ไม่มีเงินเช่าหอพัก เลยต้องอาศัยอยู่วัดนั้นทีวัดนี้ที จนโดนเพื่อนล้อ เรียกชื่อจริงว่า ทีละวัด จนกระทั่งดชคดี เมื่อจู่ๆ ป๋อง เพื่อนซี้ร่วมมหาวิทยาลัยจอมซ่าส์ตัวฮาป่วน ชวนมาอยู่ด้วยกันที่แฟลตฯ (ก่อนหน้านี้ป๋องอยู่กับพ่อ แต่พ่อป๋องเพิ่งย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เหลือป๋องคนเดียว ป๋องเลยชวนทีมาอยู่ด้วยกัน)
และนั่นคือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ทีได้พบและรู้จักกับเรื่องราวสนุกสนานของชีวิต ผู้คนมากหน้าหลายตา หลายชีวิตที่อาศัยและเวียนว่ายอยู่ในห้องพักแคบๆ ที่ถูกเรียกว่า บ้าน ภายในแฟลตฯ กลางกรุงแห่งนั้น
โบว์ สาวน้อยนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับทีและป้อง เป็นสาวห้าวโผงผาง เปรี้ยวซ่าส์ ขาลุยเหมือนผู้ชาย แต่ลึกๆ แล้วจิตใจดี จริงใจ เสแสร้งไม่เป้น แรกๆ รำคาญ ความซื่อเด๋อด๋าของที และสุดท้ายก็หลงเสน่ห์ทีเข้าจนได้ โบว์อาศัยอยู่กับพ่อซึ่งเป็นนายตำรวจชื่อ คมสัน กับแม่เป็นแม่บ้านชื่อ บัว
น้อยหน่า สาวน้อยเพื่อนซี้ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับโบว์ เป็นสาวช่างฝัน เรียบร้อย อ่อนหวาน ขี้สงสาร เจ้าน้ำตา และเป็นขวัญใจของป๋อง น้อยหน่าอยู่กับพี่สาวชื่อ ชมพู่ นักร้องคาเฟ่ สาวสวยเซ็กซี่ ปากร้ายแต่ใจดี รักและหวงน้องสาวสุดหัวใจ
ครูจำแลง หนุ่มโสด เป็นครูสอนวิชาศีละรรม อยู่คนเดียว ถือศีล ธรรมะธัมโม ชอบปลูกฝังสั่งสอนให้คนในแฟลต ประพฤติตัวอยู่ในศีลในธรรม แต่ดันแอบชอบนักร้องคาเฟ่อย่างชมพู่ซะงั้น
ทวยเทพ กับ ปานเพชร คู่เศรษฐีสามีภรรยา อาศัยอยู่ในแฟลตตั้งแต่ยังยากจน สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยก็ยังไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่อื่น เป็นกิ่งทองใบหยก ทั้งงก เห็นแก่ตัว ใจร้าย ใจดำ ชอบดูถูกคนอื่นพอกันทั้งคู่
ร่าเริง หนุ่มไร้อารมณ์ เจ้าของร้านตัดผมใต้ถุนแฟลต ซึ่งเป็นจุดนัดพบ พูดคุย พบปะ สังสรรค์ของชาวแฟลตฯ
วิลลี่ หนุ่มโชเฟอร์สามล้อ อารมณ์ดี เฮฮา ไม่มีใครรู้ว่าบ้านอยู่ไหน แต่แวะเวียนมาจอดตุ๊กๆ ใต้แฟลตหน้าร้านตัดผมของเริงร่าทุกวัน ชมพู่จ้างให้คอยรับคอยส่งคาเฟ่
ตะขบ แม่ค้าขายกล้วยแขก ตั้งแผงอยู่หน้าร้านตัดผมของร่าเริง และเป็นคนเอะอะ เสียงดัง กระซิบที่หูหนวก คู่กัดตัวสำคัญของวิลลี่
หลาก ชีวิต หลายที่มา แต่เมื่อจำต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนครอบครัวใหญ่ ภายใต้หลังคาแฟลตเดียวกัน ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องราวมากมาย ซึ่งมีทั้งสนุกสนาน เฮฮา ชุลมุน วุ่นวาย แปลกประหลาด เหลือเชื่อ สารพัดเรื่อง และที่ขาดไม่ได้นั่นคือเรื่อง ความรัก
แต่ทุกเรื่องราววุ่นวายสนุก สนานสารพันที่เกิดขึ้นภายใต้แฟลตแห่งนี้ ก็ล้วนแต่เป็นตัวอย่างชีวิตที่แฝงข้อคิด ที่สามารถดัดแปลงและนำมาใช้เป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินชีวิตที่มีความสุขต่อ ไปในสังคมทุกวันนี้ได้เป็นอย่างดี
นักแสดงละคร คนเยอะเรื่องแยะ
ตะวัน จารุจินดา แสดงเป็น ที
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า แสดงเป็น โบว์
พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร แสดงเป็น ท็อป
คีตภัทร อันติมานนท์ แสดงเป็น น้อยหน่า
ชาญณรงค์ ขันทีท้าว แสดงเป็น ร่าเริง
อาภาพร นครสวรรค์ แสดงเป็น ชมพู่
ภัทรา ทิวานนท์ แสดงเป็น บัว
เอกพัน บรรลือฤทธิ์ แสดงเป็น จ่าคมสัน
นุ้ย เชิญยิ้ม แสดงเป็น วิลลี่
ศิริพร อยู่ยอด แสดงเป็น ปานเพชร
กอบโชค คล้ายสำริด แสดงเป็น ทวยเทพ
ธีระวัฒน์ ทองจิตติ แสดงเป็น จำแลง
ชนิสา นันทมานพ แสดงเป็น ไอซ์
จันทร์พร จันทร์ทิพย์ แสดงเป็น ตะขบ
ออกอากาศเมื่อ 17 มีนาคม 2550 – 8 มีนาคม 2551
กิ่งกาหลง
กาหลง สาวบ้านนอกไร้ญาติขาดมิตร เธอได้รับความช่วยเหลือจาก ป้าวัน ด้วยการพาเข้ามาทำงานอยู่ในบ้านเกษมสุข โดยมี สุจิรา และ กวี ผู้เป็นสามีเป็นเจ้านาย การมาของกาหลงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสุจิราและกวีซึ่งกำลังสั่นคลอนอยู่ ยิ่งมีปัญหามากขึ้น เมื่อกวีเห็นกาหลง เขาก็รู้สึกประทับใจในตัวเธอทันที มิใช่เพียงแต่กวีคนเดียวเท่านั้น แม้แต่ ณรงค์ พ่อเลี้ยงเมืองเชียงใหม่เพื่อนของกวีที่แวะมาหา เมื่อเห็นกาหลง ก็เกิดอาการตกหลุมรักทันที สุจิราไม่พอใจและหาเรื่องทะเลาะกับกวี เมื่อเห็นเขาทำตัวสนิทสนมกับกาหลงเกินความเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง สุจิราเริ่มหาเรื่องแกล้งกาหลงต่างๆ นานา
กวีและกาหลงแอบมีความสัมพันธ์ลับๆ แต่ไม่พ้นสายตา น้อย สาวใช้ขี้ประจบ ที่เห็นกวีแอบไปหากาหลง น้อยคาบข่าวไปบอกสุจิรา ทำให้สุจิราคลั่งจนเข้าทำร้ายกาหลง กวีพากาหลงไปโรงพยาบาล ทำให้รู้ว่ากาหลงตั้งท้อง เมื่อรู้ข่าวสุจิรายิ่งโกรธแค้นกาหลงเป็นทวีคูณ แต่ทำอะไรกาหลงไม่ได้ เพราะเธอกลัวจะสูญเสียกวีไป สุจิราจำต้องยอมรับสภาพ แต่ในใจนั้น สุจิรากำลังคิดหาทางกำจัดกาหลงออกไปให้พ้นทาง
ป้าวันเตือนกาหลงเรื่องสุจิรา ว่าเธอเคยฆ่าลูกประชดสามีมาแล้ว การที่เธอจะทำอะไรร้ายๆ กับกาหลงจึงเป็นเรื่องง่าย และสุจิราก็ทำอย่างนั้นจริงๆ เธอพยายามจะทำให้กาหลงแท้ง แต่โชคดีที่กวีกลับมาทันเวลา จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้กวีตัดสินใจให้ เสี่ยจิว ผู้รับเหมาเข้ามาสร้างบ้านอีกหลัง เพื่อที่เขาและกาหลงจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อ-แม่-ลูก เมื่อเสี่ยจิวเห็นกาหลง เขาก็รู้สึกชอบเธอขึ้นมาทันที
สุจิรายิ่งแค้นหนักจึงวางแผนสร้างสถานการณ์ให้เกิดอุบัติเหตุกับกาหลง โดยมีคนงานของเสี่ยจิวเป็นคนช่วย เสี่ยจิวแอบได้ยินแผนเข้าจึงซ้อนแผนอีกที จนกาหลงมองว่าเสี่ยจิวเป็นคนดี กวีรู้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นแผนของสุจิรา ทำให้เขาและสุจิราทะเลาะกันรุนแรงขึ้น สุจิราจึงได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจ
เวลาผ่านไป กาหลงท้องแก่ใกล้คลอด สุจิราตั้งใจจะทำให้กาหลงรู้ซึ้งถึงความสูญเสีย ที่เมื่อครั้งก่อนเธอเคยได้รับ สุจิราตั้งใจผลักกาหลงตกบันได ในขณะที่กวีและณรงค์เข้ามาเห็นพอดี กวีและสุจิราทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนกวีเกิดอาการโรคหัวใจกำเริบ โดยสุจิราไม่สนใจที่จะช่วยชีวิตของกวี เธอปล่อยให้กวีหัวใจวายตายไปต่อหน้าต่อตา
ด้านณรงค์ที่พากาหลงออกมา เห็นเธอมีอาการใกล้คลอดจึงพาไปโรงพยาบาล และกาหลงก็ได้ลูกผู้ชาย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า รัฐศาสตร์ จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าพ่อแม้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
หลังออกจากโรงพยาบาล กาหลงและลูกกลับมายังบ้านเกษมสุข เธอได้รับข่าวร้ายจากป้าวันว่ากวีตายแล้ว ด้านณรงค์พยายามเกลี้ยกล่อมให้กาหลงไปอยู่ด้วย แต่กาหลงปฏิเสธ เพราะเธอรักกวีเพียงคนเดียวเท่านั้น สุจิราตั้งใจจะฆ่าลูกของกาหลง แต่ด้วยสัญชาติญาณความเป็นแม่ ประกอบกับเคยสูญเสียลูกทำให้สุจิรารู้สึกรักรัฐศาสตร์ขึ้นมาอย่างประหลาด จึงคิดจะยึดเอามาเป็นลูกตัวเอง สุจิราจ้างลูกน้องเสี่ยจิวให้แอบเข้ามานอนกับกาหลง เพื่อที่จะได้ใส่ความว่ากาหลงพาผู้ชายเข้ามานอนในบ้าน และไล่เธอออกจากบ้านเสีย แผนการณ์นี้รู้ถึงหูเสี่ยจิวเช่นเคย เขาจึงใช้จังหวะนี้เอาตัวกาหลงไปไว้ที่บ้าน
สุจิรากลัวว่ากาหลงจะมาแย่งลูกคืน เธอจึงประกาศขายบริษัทและบ้าน แล้วหอบลูกหนีไปอยู่เมืองนอก ด้านกาหลงพลาดท่าเสียทีเสี่ยจิว เวลานี้เธอได้รู้ธาตุแท้ของเสี่ยจิวแล้ว แต่ไม่สามารถขัดขืนได้ เพราะเสี่ยจิวเอาเรื่องลูกขึ้นมาขู่ ชีวิตกาหลงต้องพลิกผันอีกครั้ง เมื่อเสี่ยจิวติดการพนันจนเป็นหนี้ ณรงค์รู้ข่าวจึงยื่นมือช่วยเหลือ หากแต่เสี่ยจิวต้องยกกาหลงให้กับเขา
ชีวิตของกาหลงน่าจะมีความสุขดี เมื่อณรงค์พากาหลงไปอยู่เชียงใหม่ หากแต่วิบากกรรมของกาหลงยังคงไม่หมด เพราะเธอถูก ดวงใจ แม่ยายของณรงค์คอยขัดขวาง ด้วยการไปยุเมียน้อยของเขาคือ ยุพิน กับ กำไร ให้มาราวีกาหลง กาหลงถูก 2 เมียน้อยรังแกอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งกาหลงตั้งท้อง ดวงใจวางแผนจะกำจัดกาหลงด้วยการวางยาพิษ โดยใช้ยุพินและกำไรเป็นเครื่องมือ แต่เรื่องกลับตาลปัตรเพราะณรงค์กลับเป็นคนที่ไปดื่มยาเสียเอง ทำให้เขาเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน ดวงใจใช้โอกาสนี้ไล่กาหลง, ยุพินและกำไรออกจากบ้าน กาหลงเช็กไปทางลูกน้องของณรงค์ที่ไปตามหารัฐศาสตร์ที่อเมริกา และได้รับข่าวร้ายว่ารัฐศาสตร์เสียชีวิตแล้ว
กาหลงซัดเซพเนจรไร้ที่ไป เธอเศร้าเสียใจกับการสูญเสียจึงคิดฆ่าตัวตาย แต่ เตือนใจ เข้ามาช่วยไว้ทัน และพาไปทำงานที่ร้านอาหารของตน จนกระทั่งกาหลงคลอดลูกสาวที่เกิดจากณรงค์ชื่อ วาศิฐี ในขณะเดียวกันด้านสุจิราและน้อย ต่างพากันเปลี่ยนชื่อเป็น มาติกา และ นีน่า เพื่อไม่ให้กาหลงตามสืบได้ โดยมี โสภา เพื่อนของเธอให้ความช่วยเหลือ มาติกาเปลี่ยนชื่อรัฐศาสตร์เป็น แพทริค
…เวลาผ่านไป 5 ปี ขณะที่วาศิฐีกำลังวิ่งเล่นอยู่กับ ดนัย ลูกชายของเตือนใจ รถ 10 ล้อพุ่งเข้ามาจะชน โชคดีที่ จอห์น โธมัส เจ้าของโรงงานผ้าไหมชื่อดังเข้ามาช่วยไว้ทัน ทำให้เขาได้พบกับกาหลง เขาตกหลุมรักเธอ และพยายามตามจีบโดยมีเตือนใจเป็นกองเชียร์ ระหว่างนั้นวาศิฐีมีอาการป่วยเป็นโรคเอสแอลดี หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง จอห์นคอยให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือกาหลงโดยตลอด จนเธอเริ่มเห็นความดีของจอห์น ในที่สุดกาหลงจึงตัดสินใจแต่งงานกับจอห์น แต่ความสุขก็อยู่กับกาหลงได้ไม่นาน จอห์นประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต กาหลงจึงต้องดูแลโรงงานผ้าไหมแทน หลังการตายของจอห์น เตือนใจแนะนำให้กาหลงเปลี่ยนชื่อเป็น นนทลี เพื่อเป็นการแก้เคล็ด
17 ปีผ่านไป วาศิฐีโตเป็นสาวรุ่น เธอชอบงานศิลปะจึงรับผิดชอบในการออกแบบลายผ้าไหม ทำให้เธอมักจะมีปัญหากับฝ่ายผลิต โดยมีดนัยเป็นคนดูแลอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ทั้งสองจะมีปากเสียงกัน แต่ดนัยไม่ได้ถือสาน้อง เพราะเขาแอบหลงรักวามาโดยตลอด วาขอกาหลงไปเรียนต่อที่อเมริกา แต่ถูกปฏิเสธ เพราะกาหลงเป็นห่วงกลัวอาการของลูกสาวจะกำเริบ จนกระทั่งกาหลงรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เธอไม่อยากให้ลูกรู้เรื่องอาการป่วยของเธอ กาหลงจึงจำใจยอมให้วาไปเรียนต่อโดยให้ดนัยตามไปดูแล
ที่อเมริกานั่นเองที่ทำให้วาได้พบกับแพท ทั้งคู่ต่างมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ไม่เป็นการง่ายนักสำหรับแพท เพราะเขาถูก โสภิตา ลูกสาวของโสภาที่สุจิราตั้งใจอยากให้ทั้งสองลงเอยกันคอยตามติดตลอดเวลา ข่าวการป่วยของกาหลงทำให้วารีบกลับเมืองไทยโดยไม่ได้ร่ำลากับแพท หลังเรียนจบแพทคิดมาเมืองไทย แม้สุจิราจะคัดค้านหัวชนฝา แต่ด้วยความดื้อแพ่งของแพทและความรักลูกของสุจิรา ทำให้เธอจำใจยอมกลับเมืองไทย โดยมีโสภิตาตามมาด้วย
เมื่อแพทมาเมืองไทยเขาได้พบกับวาโดยบังเอิญที่โรงพยาบาล ทำให้ทั้งสองได้สานต่อความสัมพันธ์อีกครั้ง วาพาแพทเที่ยวไปตามที่ต่างๆ จนอาการโรคภูมิแพ้กำเริบ ทำให้กาหลงเป็นห่วงวามากขึ้น เธออยากให้ดนัยแต่งงานกับวา เพื่อที่จะได้มีคนดูแลวาในเวลาที่เธอจากโลกนี้ไปแล้ว
แพทพาวาไปทานข้าวที่บ้าน เพื่อแนะนำให้รู้จักกับสุจิรา แต่กลับถูกสุจิราพูดจาดูถูกและลามไปถึงแม่ของเธอว่าจับผู้ชายรวยๆ ทำให้วาโกรธมาก แพทพยายามตามมาปรับความเข้าใจ แต่ก็ถูกโสภิตาขัดจังหวะด้วยข่าวการหมั้นของเธอและแพท การถูกมัดมือชกให้หมั้นหมายกับโสภิตา ทำให้แพทมีปากเสียงกับสุจิราขั้นรุนแรง
แพทหนีออกจากบ้านไปอยู่กับวาที่โรงงานผ้าไหม เมื่อกาหลงได้พบกับแพท เธอเกิดความรู้สึกแปลกๆ โดยไม่รู้สาเหตุ สุจิรามาตามหาแพท เมื่อเห็นว่าลูกหนีมาอยู่กับวา จึงโกรธจนถึงขั้นตบหน้าวาและด่าว่าอย่างเสียๆ หายๆ กาหลงจึงตามไปเคลียร์กับสุจิราที่บ้าน กาหลงถึงกับอึ้งเมื่อพบว่ามาติกาก็คือสุจิรานั่นเอง และทำให้กาหลงเชื่อมั่นว่าแพทคือรัฐศาสตร์ลูกชายของเธอนั่นเอง
โสภาเริ่มสำนึกผิดที่เธอมีส่วนช่วยให้สุจิราทำชั่ว เธอจึงแอบไปพบกับกาหลงเพื่อเล่าความจริง โดยที่เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าการสำนึกผิดนั้นจะนำความตายมาให้เธอ กาหลงสั่งห้ามไม่ให้วาคบกับแพท โดยไม่ได้บอกถึงเหตุผล ทำให้วาไม่พอใจ เหตุการณ์เริ่มเลวร้ายลง กาหลงอาการทรุดหนัก เมื่อวากับแพทตัดสินใจหนีไปด้วยกัน แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดดนัยก็ดึงวากลับมาได้ กาหลงคิดจะไปตกลงกับสุจิราที่บ้าน ซึ่งเข้าทางสุจิราที่เตรียมสร้างสถานการณ์ ด้วยการทำร้ายตัวเองแล้วป้ายความผิดให้กับกาหลง แพทโกรธและเข้าใจกาหลงผิด วาโกรธแพทที่แพทมาต่อว่าแม่ของเธอ
แพทตามง้อจนวาใจอ่อน แต่แล้วโสภิตาก็เข้ามาแทรกกลางจนทำให้วาเข้าใจผิดอีกจนได้ วาจึงตัดสินใจจะแต่งงานกับดนัย ในขณะที่สุจิราก็จับให้แพทแต่งงานกับโสภิตา ระหว่างพิธีแต่งงานแพทเข้ามาฉกตัววาไป ทั้งสองแอบไปหลบอยู่ในกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง ดนัยตามไปจนเจอจึงโทรบอกกาหลง ขณะที่แพทกำลังก้มจะจูบวา กาหลง, เตือนใจ, ดนัย, สุจิรา, โสภิตา และน้อยก็เข้ามา กาหลงจำใจบอกความจริงกับแพท ว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน
อาการป่วยของวาหนักลงเรื่อยๆ หมอแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายไขกระดูก กาหลงจึงไปขอความช่วยเหลือจากแพท ด้านโสภิตาหลังจากที่ถูกแพทปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย เธอจึงคิดจะกลับอเมริกาแต่มารู้ความจริงเสียก่อนว่าโสภาถูกสุจิราฆ่าปิดปาก และโสภิตาเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน ถ้าไม่มีตำรวจผ่านมาเห็นซะก่อน น้อยถูกตำรวจจับ แต่สุจิราหนีไปได้
แพทยอมมาถ่ายไขกระดูกให้กับวา ระหว่างนั้นเตือนใจเล่าความจริงเรื่องกาหลงให้แพทฟัง ทำให้แพทรู้สึกเสียใจที่ไม่ยอมรับกาหลงเป็นแม่ ขณะที่แม่-ลูกกำลังปรับความเข้าใจกัน สุจิราซึ่งมีอาการทางประสาทก็เข้ามา เธอคว้ามีดขึ้นมาหวังจะทำร้ายกาหลง แต่แพทยกแขนขึ้นรับทำให้ได้รับบาดเจ็บ สุจิราวิ่งหนีออกไปและไปพบกับวาซึ่งกลับมาพอดี เธอจะทำร้ายวาแต่แพทเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ในที่สุดสุจิราก็ถูกตำรวจจับกุม
วาระสุดท้ายก่อนการจากไปของกาหลง สร้างความเสียใจให้กับวาศิฐีและรัฐศาสตร์อย่างมาก แต่ดูเหมือนว่ากาหลงจะไม่เสียใจแม้แต่น้อย เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ตายอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอรักอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา…
นักแสดงละคร กิ่งกาหลง
อิศริยา สายสนั่น แสดงเป็น กาหลง/นนทลี
สกาวใจ พูนสวัสดิ์ แสดงเป็น สุจิรา/มาติกา
ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม แสดงเป็น รัฐศาสตร์/แพทริค
เพชรดา เทียมเพ็ชร แสดงเป็น วาศิฐี
อภิษฎา เครือคงคา แสดงเป็น โสภิตา
ธนพล แย้มพรายภิรมย์ แสดงเป็น ดนัย
จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ แสดงเป็น ณรงค์
กมลา กำภู ณ อยุธยา แสดงเป็น ยุพิน
ดุสิตา อนุชิตชาญชัย แสดงเป็น กำไร