Category Archives: ละครปี 2547

ไฟสีเงิน

มุกมณี สาวสวยเจ้าของไร่ดอกไม้แถบชานเมือง มีรายได้จากการตัดดอกไม้ขาย มุกมณีมีน้องสาวหนึ่งคน ชื่อ กอบกุล มุกมณีและน้องมักจะมีเรื่องทะเลาะกับแม่เลี้ยงเสมอ เพราะธนาลูก ติดของแม่เลี้ยงมักจะหาโอกาสลวนลามมุกมณีและน้องสาวอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งกอบกุลทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านไป เพราะพ่อเข้าข้างธนากับแม่เลี้ยง มุกมณีเองก็เสียใจเช่นเดียวกัน จึงย้ายไปอยู่เรือนหลังเล็กท้ายไร่เพียงลำพัง และในคืนนั้น มุกมณีก็ได้ช่วยเหลือชายหนุ่มปริศนาคนหนึ่งเอาไว้ หลังจากที่เห็นเขาถูกนำมาทิ้งไว้ที่ธารน้ำท้ายไร่ ในสภาพที่บาดเจ็บ และเมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาก็จำอะไรไม่ได้ แม้แต่ตัวเอง มุกมณีจึงเรียกเขาว่า นายวี เพราะในตัวเขามีเพียงไปแช็กเพียงอันเดียว และที่ไฟแช็กนั้นมีตราของ “โรงแรมวีวิช” ติดอยู่
มุกมณี แนะนำให้นายวีแจ้งตำรวจว่าถูกคนทำร้าย และเผื่อว่าเขาจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่นายวีกลับรู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่ควรแจ้งตำรวจโดยเด็กขาด เขาจะต้องพยายามรื้อฟื้นความทรงจำและต้องรู้ให้ได้ว่าใครที่เป็นคนต้องการ ฆ่าเขา มุกมณีจึงให้นายวีทำงานอยู่ที่ไร่ดอกไม้ของคนไปก่อน โดยให้นายวี พักอยู่ที่เรือนหลังเล็กด้วย ธนาเห็นว่ามุกมณีอยู่กับผู้ชายจึงเอาเรื่องไปบอกพ่อ ทำให้พ่อไม่พอใจมาก สั่งให้ไล่นายวีออกไปจากไร่ แต่มุกมณีไม่ยอม จึงทำให้มุกมณีกับพ่อยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้น

วันหนึ่ง กอบกุลติดต่อกลับมาบอกว่า จะไปเป็นเมียเก็บของเศรษฐีคนหนึ่ง ไม่ว่ามุกมณีจะห้ามหรือข้อร้องยังไงก็ไม่ฟัง ทำให้มุกมณีกลุ้มใจมาก จึงปรึกษานายวี แต่เขากลับบอกว่าให้มุกมณีทำใจยอมรับ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะจิตใต้สำนึกบอกเขาว่า “ผู้หญิงทุกคนซื้อได้ด้วยเงิน!!!” พอถึงวันทที่กอบกุลต้องถูกส่งตัวไปพบ “ท่าน” แต่บังเอิญวันนั้น “ท่าน” ติดธุระด่วนมาไม่ได้ จึงให้คนมาบอกว่าให้กลับไปก่อน และในวันนั้น กอบกุลก็ได้พบกับ พิริยะ น้อง ชายของท่าน ซึ่งมาที่โรงแรมพอดี เมื่อ พิริยะเห็นกอบกุลนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวประจำ ทำให้เขารู้ทันทีว่ากอบกุลมาทำอะไร จึงเข้ามาคุยด้วย และพากลับไปส่งบ้าน การที่กอบกุลได้พบกับพิริยะ ทำให้หล่อนตัดสินใจได้ว่าจะไม่ไปเป็นเมียเก็บเศรษฐี ซึ่งเมื่อมุกมณีรู้เรื่องก็ดีใจมากที่น้องสาวจะไม่เดินทางผิดต่อไป

มุกมณีมีภาระต้องรับผิดชอบมากมาย ต้องดูแลไร่ดอกไม้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เพราะพ่อไม่สนใจไร่ดอกไม้
และ เริ่มติดการพนันตามแม่เลี้ยง จนวันหนึ่งถึงกับเอาไร่ไปจำนองในบ่อน และเมื่อถึงกำหนดใช้หนี้ก็ไม่มีเงินให้ทำให้เจ้าหนี้ส่งคนมาทำร้าย มุกมณีทุกข์ใจมาก เพราะไม่อยากเสียไร่ดอกไม้ไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินเป็นจำนวนมากได้จากที่ไหน มุกมณีตัดสินใจไปที่บ่อนเพื่อพบกับเจ้าหนี้ตามลำพัง พวกคนคุมบ่อนเห็นมุกมณีก็คิดจะลวนลาม แต่ สินธุ เจ้าของบ่อนมาพบเสียก่อน เขาถูกใจในตัวมุกมณีมาก จึงเสนอให้ มุกมณียอมแต่งกับเขา และจะยกหนี้สินทั้งหมดให้

เมื่อนาย วีรู้เรื่อง เขาก็กลุ้มใจมาก ไม่รู้จะช่วยมุกมณีอย่างไร เขารู้สึกว่าเงิน 2 ล้านบาทมันน้อยนิดมากสำหรับเขา มุกมณีตัดสินใจที่จะยอมเสียไร่ดอกไม้ไปดีกว่าที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ตนไม่ ได้รัก จึงยิ่งทำให้สุนธุพอใจในตัวมุกมณีมากขึ้น และต้องการให้มุกมณีมาเป็นของคนให้ได้ เขาสงสัยว่า ทำไมมุกมณีจึงไม่ยอมตกลงกับเขา จึงจ้างคนไปสืบว่ามุกมณีมีคนรักหรือยัง ทำให้ได้รู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกับมุกมณีมาก อยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ชายคนนี้ความจำเสื่อม และเมื่อสินธุได้ดูรูปถ่ายที่นักสืบถ่ายมาให้ดูก็ต้องตกใจ เพราะชายคนนั้นคือ วิชช์ เพื่อนของเขา ซึ่งเขาเป็นคนสั่งฆ่าเอง เมื่อเขารู้ว่า วิชชความจำเสื่อม เขาจึงส่งคนกลับไปจัดการกับวิชช์อีกครั้งหนึ่ง

วิชช์ถูก ทำร้ายบาดเจ็บสาหัส มุกมณีจึงตัดสินใจตามหาญาติพี่น้องของวิชช์ โดยมีไฟแช็กเพียงอันเดียวที่เป็นเบาะแส มุกมณีไปที่โรงแรมวีวิช จึงได้พบกับนุวัตร น้องชายของวิชช์ ทำให้มุกมณีได้รู้ว่า นายวีก็คือวิชช์ มหาเศรษฐี เจ้าของโรงแรมวีวิชและธุรกิจอีกมากมาย มุกมณีได้พบกับคนที่เกี่ยวข้องกับวิชช์มากมาย ทั้ง นุวัตร และพิมพา น้องของวิชช์ อวยชัย น้าชายของวิชช์ ธิดา ลูก สาวของนายอวยชัย และเป็นคู่หมั้นของวิชช์ ราตรี เมียในบ้านของวิชช์ มุกมณีสับสนมาก กลัวว่าถ้าวิชช์ฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจะลืมหล่อนและลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านไร่ แต่เมื่อวิชช์ฟื้นขึ้นมา เขาก็จำใครไม่ได้นอกจากมุกมณี วิชช์ไม่ยอมกลับบ้านถ้าไม่มีมุกมณีไปด้วย นุวัตรและพิมพา จึงขอร้องให้มุกมณีไปอยู่ที่บ้านของวิชช์

จนกว่าวิชช์จะหายดีและฟื้ความทรงจำได้ สินธุ ทำเป็นมาเยี่ยมวิชช์ที่บ้านเพื่อดูท่าทีของวิชช์ ทำให้รู้ว่ามุกมณีมาอยู่ที่บ้านของวิชช์ เขายังต้องการให้มุกมณีแต่งงานด้วย แต่มุกมณีก็ปฏิเสธ วิชช์ประกาศจะเป็นคนใช้หนี้ทั้งหมดให้ และจะแต่งงานกับมุกมณี สินธุโกรธแค้นมาก เพราะยอกจากวิชช์จะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของเขาแล้ว ก็ยังเป็นคู่แข่งเรื่องความรักของเขาอีกด้วย เขาจึงคิดจะกำจัดวิชช์ให้ได้ธิดา ไม่พอใจมากที่วิชช์ประกาศว่ารักและจะแต่งงานกับมุกมณี จึงขอร้องให้อวยชัยผู้เป็นพ่อช่วยพูดกับวิชช์ให้ ธิดาเชื่อว่าถ้าความทรงจำวิชช์กลับคืนมา วิชช์จะต้องแต่งงานกันตนแน่นอน แต่อวยชัยกลับกลัวว่า ถ้าวิชช์ฟื้นความทรงจำขึ้นมา เขาต้องแย่แน่ เพราะเขาสมรู้ร่วมคิดกับสินธุ และยังโกงเงินบริษัทมาตั้งมากมายในช่วงที่วิชช์หายตัวไป วิชช์จัดการเคลียร์ตัวเอง

โดยให้เงินแก่ราตรีและแม่ของราตรีจำนวนหนึ่ง และให้ทั้งสองออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ราตรีไม่ยอมออกจากบ้าน เพราะเชื่อว่าถ้าวิชช์จำทุกอย่าง จะต้องไม่ให้เธอออกจากบ้านแน่นอน แต่วิชช์กลับบอกว่า เขาแน่ใจที่จะทำอย่างนี้ เพราะเขาจำทุกอย่างได้ได้ตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นขึ้นมา มุกมณีบังเอิญมาได้ยินพอดี จึงเสียใจมากที่ถูกหลอก แต่วิชช์ก็อธิบายว่า ที่เขาต้องทำเช่นนี้ เพราะต้องการกระชากหน้ากากคนทรยศให้ได้ เขาตั้งใจจะจัดการกับอวยชัยให้สาสม แต่มุกมณีขอร้องเอาไว้ว่าอย่าทำอะไรรุนแรง วิชช์จึงไล่อวยชัยและธิดาออกจากบ้านไป

สินธุ ตัดสินใจจะจัดการกับวิชช์ด้วยตัวเอง จึงมาดักยิงวิชช์ แต่มุกมณีก็เข้ามาขัดขวางไว้ และก่อนที่จะหมดสติไป มุกมณีก็บอกสินธุว่า ต่อให้วิชช์ตายไป หล่อนก็ไม่มีวันที่จะรักสินธุได้ และขอร้องสินธุว่าอย่าทำร้ายวิชช์อีกเลย สินธุตัดสินใจทำตามคำขอร้องของมุกมณีไม่มาเกี่ยวข้องกับวิชช์อีก ส่วนวิชช์เองก็ให้อภัยกับสินธุในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา

วิชช์ ตัดสินใจปิดบ่อนที่ทำอยู่ และเลิกธุรกิจที่ผิดกฎหมายทุกอย่าง และโอนธุรกิจที่เหลือทั้งหมดให้กับนุวัตรและพิมพา เป็นผู้ดูแล ส่วนตัวเองก็ไปซื้อที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ติดกับไร่ดอกไม้ของมุกมณี แล้วขยายไร่ดอกไม้ออกไป และใช้ชีวิตเป็นชาวไร่ร่วมกับมุกมณีอย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดง ไฟสีเงิน
ชาคริต แย้มนาม แสดงเป็น วิชช์-วี
บุษกร พรวรรณะศิริเวช แสดงเป็น มุกมณี
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ แสดงเป็น สินธุ
รัฏฐริณีย์ กรรณสูต แสดงเป็น กอบกุล
อดิศร อรรถกฤษณ์ แสดงเป็น พิริยะ
สิริพรรณ หลิมวิจิตร แสดงเป็น พิมพา
เสาวนีย์ พันธุ์ศิริ แสดงเป็น ราตรี
ปณิตา พัฒนาหิรัญ แสดงเป็น ธิดา
วิภาวี เจริญปุระ แสดงเป็น บุหงา
พิศมัย วิไลศักดิ์ แสดงเป็น นงนุช
ปกาศิต โบสุวรรณ แสดงเป็น อวยชัย
อาชัญ ชัยสุวรรณ แสดงเป็น นุวัตร
ชรัส เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น อุทัย
นวนันท์ อโณมา แสดงเป็น อัญชลี
ปฏิพล ไพศาล แสดงเป็น ธนา
สีเทา เพ็ชรเจริญ แสดงเป็น ตาสา
นวรัตน์ กิติยากร ณ อยุธยา แสดงเป็น สุภาณี
การุณ สุขสองห้อง แสดงเป็น บุญถึง

ฟ้าใหม่

ปลายรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ แสน (พระเอก) อายุได้ 8 ขวบ ออกหลวงพิชิตบรเทศ (หรือหลวงนายสิทธิ์) พ่อของแสนพาแสนเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ของพระองค์ท่าน และพระองค์ท่านได้พระราชทานแสนให้เป็นมหาดเล็กของ สมเด็จพระมหาอุปราชเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ และแสนเป็นที่เอ็นดูและโปรดปรานของท่านยิ่งนัก

การได้เข้าขบวนแห่พิธีอุปราชาภิเษกนำพาให้แสนได้พบกับ เรณูนวล (นางเอก) สาวรุ่นที่สวยมาก เธอมาดูขบวนแห่ครองวังกับนางในอื่นๆ การแต่งกายของเธอบ่งบอกว่าเธอเป็นสาวในสกุลสูง แต่ท่าทางเธอแก่นแก้วก๋ากั่นราวเด็กผู้ชาย เธอเรียกแสนอย่างล้อเลียนว่า “ลูกแขกค้าตะเภา” และชมอย่างล้อเลียนอีกเช่นกันว่าแสนขนตายาวเปรื้อย ทำให้แสนหงุดหงิดและขัดเคืองเป็นที่สุด แสนรู้จากเพื่อนชายว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของ พระยาพิษณุโลก กับภริยาเอก พ่อส่งเธอมาถวายตัวเป็นข้าหลวงตำหนัก พระพันวรรษาน้อย ตั้งแต่เธอยังเด็ก ปากคอเธอไม่มีใครเกินและเธอไม่กลัวใครด้วย ห้าวหาญเหมือนพ่อ ชอบขี่ม้ารำทวน ผิดวิสัยหญิงทั่วไป เพื่อนชายของแสนยุด้วยความคะนองให้แสนตอกกลับเธอคืน หากเจอกันอีกว่าเธอเป็นชาวเหนือพูดจากเก๋อไก๋น่าส่งไปเป็นตะพุ่นหญ้าม้า มากกว่าเป็นนางข้าหลวง แสนคิดว่าเขาจะตอกกลับในคราวหน้าที่พบกัน

คุณใหญ่รู้เรื่องความหงุดหงิดของแสนด้วยความขัน คุณใหญ่บอกว่าข้าหลวงสาวคนนั้นน่าจะชอบว่าแสนตาสวยและคงอยากให้มองเธอ และล้อแสนว่าตัดจุกไม่ ทันไรก็มีสาวมาเกี้ยวเสียแล้ว แต่ความหงุดหงุดของแสนที่ถูกผู้หญิงล้อหายวับไปในทันใดเมื่อรู้ว่าคุณใหญ่มา ที่บ้านครั้งนี้เพื่อมาลาพ่อแสนไปประจำอยู่หัวเมือง แสนใจหายยิ่งนัก คุณใหญ่สั่งแสนให้ฝึกอาวุธไว้สม่ำเสมอ เพราะเมืองม่านขณะนี้เงียบเชียบผิดสังเกต และได้ข่าวจากคุณกลางว่าขณะนี้ม่านมาค้าอัญมณีตามชายเขตแดนหนักมือขึ้นราว กับ จะรวบรวมเงินทองไว้ทำการใด และผู้ที่มาค้าเป็นชายฉกรรจ์ทั้งสิ้น ไม่ใช่ผู้หญิงดังแต่ก่อน คุณใหญ่ให้แสนบอกพ่อว่าให้แบ่งทรัพย์สินเงินทองเก็บซ่อนในที่ที่พ้นตาศัตรู และเตือนแสนมิให้ข้องแวะกับนางในนางห้าม ด้วยว่าเป็นอันตรายต่อชายผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ให้ดูชะตากรรมของพระมหาอุปราชพระองค์เก่าเป็นตัวอย่าง

แสนไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดเมื่อผลัดแผ่นดินและจะมีเรื่องยุ่งถึงเลือด เนื้อนั้น ใจเขาจึงประหวัดเป็นห่วงข้าหลวงที่ชื่อเรณูนวลขึ้นมาในทันใด ในงานพระเมรุพระบรมศพ ข้าราชบริพารและนางในใกล้ชิดต้องโกนศีรษะไว้ทุกข์ แต่เรณูนวลรับหน้าที่เป็นนางร้องไห้จึงไม่ต้องโกน นายสุจินดาบอกกับแสนว่าเขาและแสนคงต้องเตรียมตัวถวายตัวแก่เจ้านายใหม่อีก ครั้ง เพราะได้ยินมาว่าเจ้าฟ้าอุทุมพรจะถวายราชบัลลังก์แก่เจ้าฟ้าเอกทัศ และเธอเห็นบรรดาเถนต่างชาติที่เคยถูกขับไล่ไปจากวัดวรโพธิ์นั้นมาปะปนกับผู้ คนอยู่ในงานพระเมรุด้วย น่าจะเป็นเค้าลางว่าศัตรูคู่ศึกดั้งเดิมคือม่านกำลังคืบคลานมาใกล้ทุกขณะจิต ในงานพระเมรุนี้แสนได้ขี่ม้ารำทวนคู่กับนายสุจินดาถวายเจ้าฟ้าเอกทัศทอดพระ เนตร และท่านทรงพอพระทัยมาก ประทานเงินให้แก่ทั้งสองคน และเพียงชั่วในคืนนั้นเองเจ้าฟ้าอุทุมพรทรงถูกบังคับกลาย ๆ ให้ถวายราชบัลลังก์แก่เจ้าฟ้าเอกทัศ แล้วหลังจากนั้นท่านทรงออกผนวช

แสนและเรณูนวลได้พบกันเพียงใกล้แค่เอื้อมชั่วหน้าต่างคั่น เรียมไปดูต้นทางอยู่ห่างออกไป แสนเอ่ยคำฝากรักจากใจได้ไพเราะล้ำและจริงใจยิ่งนัก สองคนแลกแหวนและให้คำสัตย์ต่อกัน เรณูนวลประนมมืออยู่ใกล้แก่เอื้อม แรงรักบริสุทธิ์ยามแรกรุ่นทำให้แสนสุดที่จะห้ามใจเขาประนมมือตนทับมือประนม ของเรณูนวลแล้วเอามือน้อยนั้นมาแนบใจ และให้คำมั่นแก่เธอว่าวันใดที่กรุงศรีฯ มีฟ้าแผ้วแผ่นดินเย็น แสนจะบากบั่นทำการทุกอย่างให้ได้เรณูนวลไปเป็นดาวประจำชีพ แม้จะต้องฝ่าพระราชอาญาและกฎมณเฑียรบาลก็มิเกรง มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะขวางกั้นเขากับเรณูนวลได้ ขอให้เรณูนวลรักษาตัวให้พ้นภัยรอท่าเขา เสียงจามเป็นสัญญาณหมดเวลาจากเรียม แต่ทันใดนั้นมีเสียงคนร้องด้วยความตื่นตระหนกระคนเสียงร่ำไห้ แล้วเรียมวิ่งถลันมาบอกว่ามีข่าวจากม้าเร็วว่าม่านบุกรุกเข้ามาถึง สุพรรณบุรีแล้ว

ความรัก ความอาวรณ์เป็นฉันท์ใด หนุ่มสาวคราวแรกรักเพิ่งได้ประจักษ์ในบัดนี้ เรณูนวลสุดที่หวงตัวต่อไป เธอโผเข้าสู่อ้อมกอดของแสน หัวใจสะท้อนสะท้านดังใบไม้ต้องพายุ เธอให้คำมั่นแก่แสนว่า เมื่อบ้านดีเมืองหายเดือดในวันข้างหน้า ไม่ว่าเธอจะตกไปอยู่ที่ใด หากรู้ว่าแสนยังมิเบนใจไปอื่น ยังตั้งตาคอยวันกลับของเธอ เธอจะสู้ลุยไฟนรก ฝ่าพระราชอาญาไปสู่เรือนแสน แต่หากแสนต้องอันตรายสุดวิสัยที่จะครองกันในชาตินี้ เธอจะบวชชี จะไม่มีวันยอมให้มือชายที่สองมาต้องกายเป็นอันขาด

แสนประจำอยู่กองทัพของพระยากำแพงเพชรซึ่งคุมทัพรักษาพระนครด้านทิศตะวัน ออกที่เกาะแก้ว แสนรู้จักนิสัยพระยากำแพงเพชรดีว่าเอาจริงเอาจังกับการรบอย่างสุดชีวิตจิตใจ เพียงใด ท่านมิใช่พวกตั้งรับข้าศึกอย่างเดียว หากแต่ชอบที่จะรุกไล่ด้วย การออกไปทัพกับท่านถึงเกาะแก้วครานี้ กว่าจะได้กลับเข้าพระนครก็คงอีกแสนนาน หรือไม่ก็อาจไม่ได้กลับเลยหากเสียทีข้าศึก หรือเสียชีวิต แสนจึงหาทางไปพบเรณูนวลก่อนที่จะออกไปเกาะแก้ว โดยไปดักพบเรียมที่ตลาด เรียมเห็นแสนก็รู้ทันทีว่ามาตามหาเธอด้วยเรื่องอะไร พูดนัดแนะกับแสนเป็นนัยที่รู้กันเฉพาะสองคน ว่าเธอจะพาเรณูนวลไปพบกับแสนที่บ้านหอรัตนชัย เรณูนวลและแสนพบและลากันด้วยเสน่หาอาลัยล้ำ

วันอังคาร เดือนห้า ขึ้นเก้าค่ำ ปีกุน พ.ศ. 2310 ข้าศึกระดมกำลังยิงกระหน่ำทุกด้านรอบพระนคร และเร่งสุมเพลิงคลอกรากกำแพงเมืองทุกด้าน กองกำลังรักษาเมืองรับมือข้าศึกสุดชีวิตจมื่นไวยบัญชาการรบอย่างเข้มแข็ง อยู่ด้านที่กำแพงกำลังจะพัง ผู้ที่มาขัดการบัญชาการของจมื่นไวยคือพระยาพลเทพ พระยาพลเทพแต่เครื่องขุนนางชุดเข้าเฝ้าเต็มยศมารอต้อนรับทัพม่านด้วยหวัง เต็มที่ที่จะได้ยกขึ้นเป็นเจ้าครองเมืองประเทศราช จมื่นไวยระเบิดความแค้นไล่ฟันพระยาพลเทพ พลเทพหูขาดไปข้างหนึ่ง หนีจมื่นไวยหัยซุนด้วยอยากรักษาชีวิตไว้ขึ้นเป็นเจ้า จมื่นไวยตามล่าไม่ลดละ

ประตูด้านป้อมมหาชัยถูกข้าศึกพังถล่มลงเป็นประตูแรก ข้าศึกเฮโลกันเข้าทางประตูนั้น จมื่นไวยมาเห็นพระยาพลเทพยืนปลื้มรับทัพข้าศึกเข้าเมืองอยู่ จึงโดยฟันแขนซ้ายพระยาพลเทพขาดก่อนที่พระยาพลเทพจะทันรู้ตัว และตามด้วยปลายดาบจิ้มทะลวงตาข้างหนึ่ง และสุดท้ายฟันแขนขวาขาดอีกข้าง จมื่นไวยคั่งแค้นแน่นหัวอก ไมให้พลเทพเหลือมือที่จะไปกราบไหว้แม่ทับและเจ้าผู้ครองกรุงอังวะ ไม่ให้เหลือรูปโฉมที่ผู้ใดจะยินดีมอง ข้าศึกกลุ้มรุมทำร้ายจมื่นไวย จมื่นไวยต่อสู้จนตัวตายอยู่ตรงประตูใหญ่ท่าช้างหน้าวังจันทรเกษม

เพลาค่ำแปดนาฬิกา วันเนาสงกรานต์ ขึ้นเก้าค่ำ เดือนห้า พ.ศ. 2310 นั้นเอง พระนครศรีอยุธยามหาราชธานีก็สิ้นศักดิ์แห่งราชธานีลง หลังจากรวมกำลังตั้งต่อสู้ศัตรูมาได้หนึ่งปีกับสองเดือน เปลวเพลิงรุกโหมโชติช่วงแดงฉานตัดกับท้องฟ้าสีดำสนิท กลืนชีวิตกรุงศรีอยุธยาบรมราชธานีอันเคยบรมสุข เป็นหมดสิ้นเลื่อมยศ

เพียงสามปีที่ผลัดแผ่นดินก็มีศึกพม่าประชิดติดเมืองอีกคือศึก เจ้าตะแคงปะดุง เจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ของพม่า ยกเข้ามาทางลาดหญ้า แขวงเมืองกาญจนบุรี แสนกราบเรียนให้ผู้สำเร็จราชการเมืองพิษณุโลกส่งบรรดาขุนหมื่นพันทนายออกไป ป่าวเรียกผู้คนให้อพยพมารวมกองกันในเมืองโดยเร็วและให้ขนเสบียงมาด้วย เพื่อจะได้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วที่ต้องทิ้งเมืองเพราะขาดเสบียงความคิดของ แสนได้ผล ผู้คนหลั่งไหลเข้าเมืองทุกวัน แสนช่วยเป็นภาระคุ้มกันและจัดส่งกองเกวียนของชาวบ้านจนถึงทางเข้าเมือง และจวนเย็นวันหนึ่ง มีกองเกวียนใหญ่มากกองหนึ่งอพยพเข้ามาความที่เป็นกองใหญ่และเข้ามาตอนพลบจึง จะยังเข้าเมืองไม่ได้ แสนและกองกำลังออกไปดักตรวจตรากองเกวียนนั้นว่าจะมีผู้แปลกปลอมแฝงมาบ้าง หรือไม่ ขณะเมื่อกำลังพูดจากันอยู่แสนสังเกตเห็นว่ามีม้าสองม้ารีบถอยไปแผงอยู่ด้าน หลังสุดของขบวน และยิ่งได้ฟังคนนำกลุ่มพูดจาถึงวันที่เจ้าพระยาทั้งสองแตกทัพอะแซหวุ่นกี้ แสนก็ยิ่งปั่นป่วนหัวใจนัก จะมองสองม้าที่ถอยไปจนสุดกู่ก็มองไม่ถนัด ได้แต่คิดว่าจะต้องค้นเอาความจริงให้ได้ และคิดว่าจะเป็นคนกลุ่มนี้เองที่มาช่วยวันแตกทัพอะแซหวุ่นกี้

แสนได้แต่พูดฝากไว้ในเบื้องต้นนี้ว่าอยากรู้ว่าผู้ที่มาช่วยวันแตกทัพ เป็นใครแสนให้ชาวบ้านพักผ่อน ตัวเองก็ไปพักด้วย แต่จนดึกแล้วแสนก็ไม่อาจข่มตมให้หลับได้ จึงลุกออกจากที่พักเดินตรวจพลเวรยามไปเรื่อย แล้วแสนก็ต้องชะงักทันใดเมื่อได้ยินเสียงชายชาวบ้านป่าขับลำนำรักอันเป็น ลำนำที่ชาวกรุงศรีฯ ขับเป็นประจำและแสนกับเรณูนวลขับสู่กันก่อนแสนจากไปสงคราม แสนคาดคั้นจนได้ความว่ามีผู้สอน แสนสั่นไปทั้งตัวด้วยแน่ใจว่าผู้สอนนั้นเป็นเรณูนวลแน่และกองเกวียนนี้ต้อง เป็นของเธอ แสนคาดคั้นขาวบ้านจนในที่สุดได้พบกับเรียมพี่เลี้ยงของเรณูนวล เรียมต่อว่าต่อขานประชดประชันแสนมากมาย โดยเฉพาะเรื่องได้เมียพระราชทานถึงสองคน แสนชี้แจงและสาบานจนเป็นที่พอใจของเรียม เรียมจึงชี้เกวียนที่พักของเรณูนวลให้ แสนกับเรณูนวลได้พบกัน ความรักความคิดถึงแรมปีประดั่งหลั่งไหลท่วมท้นใจ แสนรับรู้ความลำบากของเรณูนวลด้วยน้ำตา และให้คำมั่นว่าจากนี้ไปความตายเท่านั้นที่จะพรากเขาจากเรณูนวลได้ แล้สองหัวใจรักที่รอคอยกันมานานแสนนานก็ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในคืน นั้น แสนขอให้ผู้สำเร็จราบการเมืองพิษณุโลกประกอบพิธีสมรสให้ แล้วจากนั้นแสนกับเรณูนวลและกองกำลังก็ไปสมทบทัพหลวงที่ลาดหญ้า ทำศึกกับพม่าซึ่งยกเข้ามาถึงเก้าทัพ กองของแสนและเรณูนวลรบแบบกองโจรและสามารถตีพม่าแตกกระเจิงได้ชัยชนะในด้าน นั้น แสนและเรณูนวลไปตนสมทบกับทัพหลวงซึ่ง พระอนุชิตราชา หรือพระราชวังบวรหรือคุณเล็กเป็นแม่ทัพ และท่านมีพระบัณฑูรให้แสนและเรณูเข้าเฝ้า ท่านตรัสว่าแสนและเรณูนวลจะได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวในวันที่เสร็จศึก เพี่ยงเท่านี้แสนก็ยินดีจนสะท้านไปทั้งกาย

ทัพไทยทำศึกกับพม่าสุดชีวิตวิญญาณ บรรดาคนไทยที่ซุ่มซ่อนอยู่ต่างก็ออกมาช่วยบ้านเมืองทำศึกจนมีชัยชนะอย่าง เด็ดขาดต่อพม่า และศึกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นแล้วบ้านเมืองสยามก็เข้าสู่ความสงบสุข ไร้ศึกจากเมืองม่านมารบกวนอีกเลยตลอดรัชกาล

เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว

“มรดกที่สำคัญในวันนี้ อาจเป็นเพียงแค่วิถีชีวิตของวันวาน” พิชาน ทายาทเศรษฐีโรงงานทอผ้าเดินคิดขณะชื่นชมปราสาทเมืองต่ำ โบราณสถานศิลปะขอมร่วมพันปี เขากำลังจะถ่ายภาพช่องประตูหินที่แสงแดดตกสะท้อน แต่ต้องหยุดชะงักเพราะมีหญิงสาวสวยในชุดผ้าทอแปลกตาเดินผ่าน พิชานเดินตามไป และแอบถ่ายรูปหญิงสาวงามนั้นไว้ก่อนจะเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร

ใน งานประกวดสิ่งทอ สินฝ้าย และ ไหมแก้ว ขึ้นไปรับรางวัล ชไมมาน มารดาของพิชานยืนดูด้วยสายตาเคียดแค้น แต่พิชานกลับดีใจที่ได้เห็นหญิงสาวอีกครั้ง ชไมมานขอซื้อผ้าที่ชนะประกวดจากไหมแก้วด้วยเงินมหาศาล ไหมแก้วไม่ขายและพูดจาเสียดสีจนชไมมานออกอุบายให้ลูกน้องคือ กำพล และ เฉิดฉาย หาวิธีที่จะซื้อกิจการโรงทอเพลงผ้ามาครอบครอง พิชานมีความคิดที่จะเรียนรู้วิถีชีวิตและที่มาของผ้าผืนสวย แต่เป็นหนทางที่แตกต่างจากชไมมาน พิชานขอเข้ามาอู่ในเพลงผ้า ขอเรียนพิณเปี๊ยะกับสินฝ้าย และหัดยอมผ้า โดยมี โซะนอน ลูกน้องสินฝ้ายเป็นพี่เลี้ยง ในขณะที่ องอาจ ผู้เข้าออกในโรงทอเพลงผ้าได้อย่งาเปิดเผยในฐานะผู้จับจองหัวใจไหมแก้ว คนงานในโรงทอแบ่งฝ่ายสนับสนุนทั้งพิชานและองอาจ

สินฝ้ายมีงานอดิเรกคือ การเล่นพิณอีสานและพิณเปี๊ยะให้ไหมแก้วฟังยามที่จะคิดลายผ้าหรือทอผ้าเป็นการถ่ายทอดมาตั้งแต่ รุ่นปู – ย่า จนมาถึงพ่อแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ลายผ้าต่าง ๆ สวยงามวิจิตรไม่มีใครสามารถเลียนแบบ พิชานเริ่มเข้าใจ “เพลงผ้า” มากขึ้น พอๆ กับที่เข้าใจหัวใจตนเอง ชไมมานยังหาวิธีทำลาย “เพลงผ้า” และพยายามดึงพิชานกลับมา โดยติดต่อ ทิพย์สราญ เพื่อนในวงสังคมชั้นสูงพาลูกสาวคือ ทิพย์สิรี เข้ามาใกล้ชิดพิชาน โดยหวังจะทำให้พิชานไหว้เขว ชไมมานไม่รู้ว่าทิพย์สิรีมีความประพฤติเหลวแหลกเพราะหยุดความต้องการตัวเอง ไม่ได้ ทิพย์สราญดีใจที่ลูกสาวจะมีคู่ครองที่ทัดเทียมกัน และหวังว่าการแต่งงานจะทำให้ลูกสาวของตนหายจากโรค

การเงินของบริษัท เพลงผ้าเริ่มมีปัญหา สินฝ้ายเมามายและพบอุบัติเหตุทำให้มือขวาพิการ พิชานอาสาเป็นมือที่เสียไปของสินฝ้าย ทุกคนที่โรงทอเห็นความตั้งใจของพิชาน ยกเว้นไหมแก้ว สินฝ้ายมีกำลังใจทำงานอีกครั้ง และข่าวร้ายที่สุดก็มาถึง เมื่อโรงทอถูกยึดเป็นของพิชานพัฒนา เพราะสินฝ้ายกู้เงินก้อนใหญ่ โดยเอาที่ดินเพลงผ้าค้ำประกัน แต่กำพลเอาลายเซ็นสินฝ้ายไปปลอมแปลงทำให้พิชานพัฒนากลายเป็นเจ้าหนี้เพลงผ้า พิชานอ้อนวอนขอให้แม่เลิกทำร้ายเพลงผ้า แต่ชไมมานยิ่งเกลียดชังเพลงผ้า จึงเข้ามาทำลายความรื่นรมย์ทุกอย่าง ไหมแก้ว สินฝ้ายและคนงานมีเพียงอิสระที่ไร้เสรีในโรงทอของตน

ไหมแก้วชิงชัง เสียงพิณของพิชานมากขึ้น คืนหนึ่งโรงเลี้ยงหม่อนถูกเผา พิชานฝ่าเปลวไฟเข้าไปเอาหม่อนของไหมแก้วออกมาได้ทั้งหมด ไหมแก้วเริ่มเข้าใจที่พิชานยอมสละชีวิตเพื่อหม่อนตัวเล็ก ๆ องอาจไม่พอใจที่พิชานมาแย่งความสำคัญไป โดยเฉพาะจากใจไหมแก้ว องอาจกีดกันให้พิชานออกห่างเพลงผ้า แต่ไหมแก้วกลับเริ่มสนใจฟังพิณของพิชาน พิชานไม่เห็นทางทำให้เพลงผ้าเป็นอิสระได้ นอกจากตกลงไปทำงานที่ยุโรปตามคำสั่งแม่เพื่อแลกโฉนดคืนให้ไหมแก้ว พิชาน ล่ำลาไหมแก้ว ไหมแก้วใจหายแต่ไม่ยอมให้พิชานล่วงรู้ความในใจ องอาจมาเห็นภาพพิชานกอดไหมแก้วแล้วเลือดขึ้นหน้า องอาจโทษว่าสินฝ้ายยอมให้พิชานใกล้ชิดไหมแก้วมาตั้งแต่ต้น สินฝ้าย สินฝ้ายทะเลาะกับองอาจรุนแรงจนรู้ความจริงว่า องอาจคือหลานชายของกำพล และเป็นคนที่แอบทำทุกอย่างจนพิชานพัฒนายึดเพลงผ้าไป

สินฝ้ายแทบ กระอักที่ไว้ใจคนผิด องอาจด่าว่าเป็นความผิดสินฝ้ายเอง ที่ทำให้ไหมแก้วตกเป็นเบี้ยล่างของชไมมาน สินฝ้ายเจ็บช้ำที่มือของตนทำลายเพลงผ้า จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ไหมแก้วกับพิชานเข้ามาช่วยแต่ยื้อชีวิตสินฝ้ายไว้ไม่ได้ ชไมมานได้โอกาส บังคับให้ไหมแก้วให้เข้ามาทอผ้าใช้หนี้ในโรงงาน ไหมแก้วจำใจมาเพื่อรักษาเพลงผ้าไว้ ชไมมานกับพวกกลั่นแกล้งไหมแก้วทุกทาง กำพลขู่และทำร้าย ทองปิว กับโซะนอนที่เป็นแรงงานเถื่อน แต่ทองปิวกับโซะนอนอดทนอย่างถึงที่สด เพราะกลัวนำความยุ่งยากมากให้ไหมแก้ว ไหมแก้วกดดันจนทอผ้าเข้าประกวดในชื่อพิชานพัฒนาไม่ชนะเลิศ ชไมมานโมโหคิดว่าไหมแก้วแกล้ง จึงปัดน้ำร้อนที่อยู่บนเตาราดไหมแก้วจนบาดเจ็บสาหัส พิชานหมดความอดทนกับแม่ พาไหมแก้วออกจากโรงงาน

พิชานพาไหมแก้วพร้อมคนงานทั้ง 2 ไปอยู่บ้านเช่า ไหมแก้วตกตะลึงที่เห็นกี่ของตนเองวางตระหง่านอยู่กลางบ้าน คืนนั้นทั้งสองเปิดใจรับความรักที่ซุกซ่อน เสียงสอดกระสวยและกระทบฟืมเริ่มดังต่อเนื่องอีกครั้ง ผ้าไหมผืนงามของไหมแก้วถูกสานทอด้วยความรักโดยมีพิชานเป็นกำลังใจ ชไมมานหมดทางที่จะดึงพิชานกลับมา จึงอาละวาดกับกำพล กำพลเพิ่มความแค้นพิชานเป็นทวีคูณ เพราะพิชานเริ่มตรวจสอบบัญชีที่กำพลโกง กำพลกลัวความชั่วถูกเปิดโปง ก็ปั่นหัวองอาจที่หลบ มาอยู่ด้วยให้แก้แค้นพิชาน องอาจลอบเข้าไประเบิดโรงงานอบลำไยในเครือพิชานพัฒนา ชไมมานสิ้นเนื้อประดาตัวต้องชดใช้ค่าเสียหายหลายร้อยล้านและเจอคดีใหญ่ ทิพย์สราญยื่นมือเข้ามาช่วย โดยมีเงื่อนไขข้อเดียวคือให้พิชานแต่งานกับทิพย์สิรี

พิชานจำใจแต่ง งานเพื่อรักษาทุกอย่างไว้ให้แม่ ไหมแก้วหัวใจสลายแต่ทนยอมรับ เพราะรู้ซึ้งถึงหัวอกพิชานต้องเสียสละความสุขเพื่อพากิจการให้อยู่รอด องอาจสำนึกผิดหนีกำพลมาขอโทษไหมแก้ว และพูดหว่านล้อมไหมแก้วให้เกิดความระแวงพิชานเรื่องทิพย์สิรี ไหมแก้วคิดเรื่องทิพย์สิรีแต่ไม่กังวลใจเพราะพิชานทุ่มเทความรักและความสุข ให้ไหมแก้วอย่างท่วมท้น พิชานถักสานชีวิตเล็ก ๆ ขึ้นภายในตัวไหมแก้ว ทองปิวและโซะนอนสังเกตว่าไหมแก้วท้อง ไหมแก้วดีใจเตรียมที่จะบอกพิชาน แต่เหตุการณ์กลับตึงเครียด เมื่อทิพย์สราญมาหาไหมแก้วที่บ้านและโกหกไหมแก้วว่าทิพย์สิรีกำลังท้องกับ พิชาน ไหมแก้วหมดความอดทน พาโซะนอนกับทองปิวออกจากบ้านเช่าไประหกระเหินอยู่ตามหมู่บ้านห่างไกลเพื่อ หนีพิชาน และสร้างเกราะความเกลียดชังบดบังความรัก ที่พิชานเคยมีให้จนหมดสิ้น

พิชานขออย่ากับทิพย์สิรี แต่ทิพย์สราญไม่ยอม มาทวงเงินพร้อมดอกเบี้ยจำนวนสองร้อยล้าน ชไมมานเครียดจัด เส้นเลือดในสมองแตก จนกลายเป็นอัมพาต ไหมแก้วยังทอผ้าตลอดเวลา โดยมีทองปิวกับโซะนอนดูแล ไหมแก้วตัดสินใจขายผ้าเพื่อให้ทุกคนได้อิ่ม ย้ง นายหน้ารับซื้อผ้า ผ้าตกไปอยู่ในมือทิพย์สราญ พิชานเห็นเข้าก็จำได้รีบออกไปหาไหมแก้ว โดยไม่รู้ว่าองอาจติดตามมาด้วย ความเคลื่อนไหวของทั้งคู่ไม่รอดสายตาของกำพลได้ พิชานกับองอาจไม่ทันระวังว่าระหว่างที่เดินทางไปตามความรักกลับคืน กำพลก็ตามติดมาชำระแค้นด้วยเหมือนกัน เส้นทางไหมแห่งความรักของพิชานกับไหมแก้วจะถักทอเป็นผ้าทอผืนสวยได้อีกครั้ง หรือไม่ ติดตามชมได้ใน เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว

เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว

รายชื่อนักแสดง

ชาคริต แย้มนาม รับบท พิชาน
วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบท ไหมแก้ว
อภิชาต พัวพิมล รับบท องอาจ
ปานวาด เหมมณี รับบท ทิพย์สิรี
ศรุต วิจิตรานนท์ รับบท สินฝ้าย
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท โซะนอน
อรัญญา นามวงษ์ รับบท ชไมมาน
กลศ อัทธเสรี รับบท กำพล
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ รับบท เฉิดฉาย
อรสา พรหมประทาน รับบท ทิพย์สราญ
อุ่นเรือน ราโชติ รับบท ทองปิว

แฝดพี่ฝาดน้อง

เรื่องราวของฝาแฝด 3 รุ่น ที่มีชีวิตผิดแผกกันดุจโชคชะตาเล่นตลก ชีวิตจึงล้มเหลว และการกระทำของตนส่งผลกระทบมาถึงรุ่นลูกหลาน แต่ชีวิตทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ ถ้ามีมือที่เข้มแข็งมีเมตตาโอบอุ้มด้วยความรักอย่างแท้จริง

เสงี่ยมและสงัด สองสาวฝาแฝดที่เกิดมาหน้าตาสะสวยแต่ยากจน เป็นภรรยาลับๆของท่านนายพลอาทิตย์ด้วยกันทั้งคู่ ความมาแตกเอาเมื่อวันที่ท่านนายพลอาทิตย์จะเข้าพิธีแต่งงานกับคุณหญิง ปราศรัย ลูกสาวเศรษฐีและผู้ดีเก่า เพราะสงัดพาเสงี่ยมบุกเข้ามาอาละวาดกลางงาน สร้างความอับอายแก่คุณหญิงปราศรัยเป็นอย่างมากจนเกือบจะล้มพิธี แต่ป้าอ้วน คนสนิทของคุณหญิงปราศรัยห้ามเอาไว้ และแนะนำให้คุณหญิงปราศรัยยอมให้ท่านนายพลอาทิตย์พาเสงี่ยมและสงัดเข้ามา อยู่ร่วมชายคาบ้านด้วย เพราะดีกว่าปล่อยให้ท่านนายพลอาทิตย์ออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน คุณหญิงปราศรัยเลยให้เสงี่ยมและสงัดอยู่เรือนหลังเล็กในอาณาบริเวณบ้านประภาวิสิทธิ์ด้วยกัน

ต่อมาเสงี่ยมตั้งท้องเป็นคนแรก ท่านนายพลอาทิตย์ดีใจมาก เอาใจเสงี่ยมจนสงัดอิจฉา เลยหาทางกลั่นแกล้งทำให้เสงี่ยมตกบันไดหวังให้แท้ง แต่เสงี่ยมไม่แท้ง แต่คลอดลูกชายฝาแฝดก่อนกำหนด ท่านนายพลอาทิตย์ดีใจมาก ยกเครื่องเพชรให้เสงี่ยมเป็นรางวัลที่มีลูกชายให้ชุดหนึ่ง แต่สงัดก็แย่งเอาไป ท่านนายพลตั้งชื่อลูกชายฝาแฝดว่าปรัชญาและประวรรต

ต่อมาไม่นานคุณหญิงปราศรัยก็ท้องและคลอดลูกสาว ให้ชื่อว่าอาทิตยา ฝ่ายสงัดเมื่อไม่สามารถมีลูกสืบสกุลให้ท่านนายพลได้เหมือนอย่างเมียคนอื่นๆจึงตกกระป๋อง สงัดแค้นใจมาก เลยเสี้ยมสอนยุยงให้ปรัชญา ประวรรต และอาทิตยาตีกันบ่อยๆ แต่ปรัชญากับอาทิตยานั้นไม่ค่อยเชื่อคำเสี้ยมสอนของสงัด มีเพียงประวรรตเท่านั้นที่เชื่อฟังสงัด ซึ่งมักจะสอนอยู่เรื่อยๆว่า การเกิดมามีฝาแฝดนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายของชีวิต เพราะแทนที่จะได้รับความรักจากพ่อแม่ และคนรอบข้างอย่างเต็มที่ กลับต้องถูกแบ่งปันความรักออกไป ทำให้ประวรรตเริ่มเกลียดปรัชญา เหมือนอย่างที่สงัดเกลียดเสงี่ยม

วันหนึ่งสงัดคิดฆ่าอาทิตยาโดยการวางยาพิษใส่ในไอศครีมเพราะเชื่อว่าตั้งแต่อาทิตยาเกิดมา ทำให้ชีวิตสงัดตกอับยิ่งกว่าเดิม แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร สงัดกลับเป็นคนโดนยาพิษนั้นเสียเอง สงัดคิดว่าคนที่สลับถ้วยไอศครีมที่มียาพิษมาให้ตนกินคือประวรรต สงัดจึงจับประวรรตโยนตกระเบียงไปก่อนสิ้นใจตาย เสงี่ยมเห็นเหตุการณ์ตอนที่สงัดโยนประวรรตตกระเบียงไปก็คิดว่าลูกตายแน่ จึงช็อคหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เสงี่ยมก็กลายเป็นคนสติเลอะเลือน จึงไม่รู้ว่าประวรรตนั้นยังไม่ตาย

เมื่อประวรรตเริ่มโตขึ้น ความเกลียดชังที่มีต่อปรัชญาและอาทิตยาก็มากขึ้นด้วย เขามักจะทำความผิดแล้วโยนบาปให้ปรัชญาอยู่เสมอ ซึ่งปรัชญาก็มักจะยอมรับความผิดนั้นเป็นของตนแทนประวรรต ต่อมาประวรรตไปปล้ำเพื่อนสาวของอาทิตยาซึ่งเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลท่านหนึ่ง ทำให้คุณหญิงปราศรัยตัดสินใจส่งประวรรตไปเป็นทหารเพื่อให้เรื่องเงียบ ส่วนปรัชญานั้นเรียนจนจบปริญญาตรีในเมืองไทย คุณหญิงปราศรัยจึงส่งปรัชญาไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับอาทิตยา

เมื่อประวรรตไปเป็นทหาร ก็ยังคงสร้างปัญหาไม่หยุด เขาไปได้สาลี – สาวงามประจำจังหวัดเป็นภรรยาจนตั้งท้อง ประวรรตจำยอมจดทะเบียนสมรสกับสาลีแต่กลับใส่ชื่อปรัชญาเป็นเจ้าบ่าวโดยหลอก สาลีว่าเป็นชื่อเดิมก่อนมาเป็นทหาร ขณะเดียวกันประวรรตก็ลักลอบขายอาวุธเถื่อนและยาบ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน อภิพจน์ เพื่อนนายทหารรุ่นเดียวกัน ซึ่งหลงรักสาลีอยู่ก่อนจับได้ ประวรรตจึงหลอกอภิพจน์ให้ไปเหยียบกับระเบิด แต่อภิพจน์ยังไม่ถึงฆาต เพียงแค่ขาขาดแต่ไม่ตาย ส่วนประวรรตก็หลบหนีคดีเข้าไปอยู่ในป่ากับพวกกองกำลังค้ายาบ้าและอาวุธ

สาลีเมื่อรู้ความจริงว่าประวรรตเป็นคนอย่างไรก็ตรอมใจและสิ้นใจในวันที่ให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดการะเกด และชมพู่ ทำให้สุรภี น้องสาวของสาลีต้องออกจากการเรียนกลางครันเพื่อมาเลี้ยงหลานสาวฝาแฝด โดยมีนรินทร์ เพื่อนชายคนสนิทคอยให้ความช่วยเหลือ ส่วนอภิพจน์เมื่อรู้ข่าวสาลีตายก็เสียใจมาก ตัดสินใจหันหน้าเข้าวัดเพื่อหาทางปลง

เวลาผ่านไป 7 ปี บ้านที่สุรภีอยู่กับหลานสาวสองคนเกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว นรินทร์จึงแนะนำให้สุรภีพาหลานเข้ากรุงเทพฯเพื่อตามหา “ปรัชญา” เพราะมีชื่อเขาเป็นพ่อเด็กแฝดในทะเบียนเกิด

ทันทีที่คุณหญิงปราศรัยเห็นหน้าหลานแฝดและทะเบียนสมรสของสาลีกับ “ปรัชญา” ก็เดาออกว่าประวรรตก่อเรื่องอีกแล้ว แต่ก็ยอมรับสุรภีและหลานสาวฝาแฝดทั้งสองให้เข้ามาอยู่ในบ้าน โดยสั่งห้ามทุกคนในบ้านพูดเรื่องประวรรตให้สุรภีได้ยินเป็นอันขาด เพื่อรอปรัชญาเรียนสำเร็จและกลับมาจากเมืองนอก และให้ปรัชญาตัดสินใจเอาเองว่าจะยอมรับเด็กแฝดเป็นลูกตามใบทะเบียนเกิดหรือ ไม่

เมื่อ ปรัชญาและอาทิตยากลับจากเมืองนอกและได้เจอกับเด็กแฝด ปรัชญาก็ยอมรับเป็นลูกของตนแต่โดยดี ฝาแฝดเองก็ติดคุณพ่อรูปหล่อใจดีแจ ส่วนสุรภีเมื่อพบปรัชญาครั้งแรกก็ต่อว่าเขามากมายด้วยวาจารุนแรง เพราะอคติที่เขาทำให้พี่สาวเธอต้องตายไปโดยไม่ได้ใส่ใจใยดี ปรัชญาไม่ได้อธิบายถึงความจริงเพราะเห็นแก่น้องชายที่ทุกคนเชื่อว่าตายไป แล้วในป่า และเรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ถึงจะพยายามอธิบายก็ไม่แน่นักว่าเธอจะเชื่อ แต่สุรภีก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นท่าทีเจ้าชู้ของปรัชญา ดูเขาเป็นสุภาพบุรุษ ทำงานจริงจังและใส่ใจบุตรสาวฝาแฝดเยี่ยงพ่อที่ดีพึงกระทำ แต่ปรัชญาก็ถูกสุรภีพูดจากระทบกระเทียบอยู่เสมอ ปรัชญาไม่ถือสากลับมองเห็นว่าเธอน่ารักตรงไม่มีมารยาเปิดเผยจริงใจ ทั้งยังหวังว่าสักวัน…สุรภีจะมองเห็นตัวตนจริงๆของเขาและยอมรับเขาได้ในที่สุด

ฝ่าย ประวรรตเมื่อรู้ว่าปรัชญากับอาทิตยากลับมาจากเมืองนอก และยอมรับเด็กแฝดเป็นลูก ก็อิจฉาว่าปรัชญาจะได้เสวยสุขกับทรัพย์สมบัติของประภาวิสิทธิ์ในขณะที่เขา ยังรอนแรมอยู่กับกองโจรในป่า จึงตัดสินใจออกจากป่าเข้ากรุงเทพฯมาอาศัยอยู่กับสง่า น้าชาย

ส่วนนรินทร์นั้นเมื่อตามสุรภีเข้ามากรุงเทพฯด้วยและได้รู้จักกับอาทิตยา ก็เห็นว่าอาทิตยานั้นสวย มีความรู้ดี ชาติตระกูลดี และรวยกว่าสุรภี เขาจึงเปลี่ยนใจจากสุรภีหันไปหาอาทิตยาทันที เมื่อมิเชลแฟนของอาทิตยาตามมาหาอาทิตยาที่เมืองไทย นรินทร์ก็ขัดขวางทุกอย่างจนทะเลาะกับอาทิตยา

นรินทร์ผิดหวังและอารมณ์เสียมากจึงไปกินเหล้าที่ผับของสง่าจนได้เจอกับประวรรตเข้า ก็เข้าใจผิดคิดว่าประวรรตคือปรัชญา ประวรรตเห็นสบช่องทางทำลายอาทิตยาจึงยุให้นรินทร์ปล้ำอาทิตยา แต่ก็ผิดแผนเพราะอภิพจน์ตามไปช่วยไว้ได้ทัน ทำให้อาทิตยารู้ใจตัวเองดีขึ้นว่าเธอนั้นไม่ได้รักมิเชล แต่รักอภิพจน์ หากในขณะเดียวกันอภิพจน์ก็ไม่กล้าเอ่ยปากฝากรักอาทิตยาเพราะเจียมตัวว่าเป็นคนพิการขาขาด ซ้ำยังสำนึกผิดที่ไม่เคยช่วยสุรภีเลี้ยงชมพู่ การะเกด ลูกที่เกิดจากสาลี อดีตคนรัก อภิพจน์จึงพยายามจะแก้ตัวด้วยการช่วยเหลือสุรภีในทุกทาง ทำให้อาทิตยาเข้าใจผิดคิดว่าอภิพจน์ชอบสุรภี

ฝ่ายประวรรตเมื่อสบโอกาสก็จัดการลักพาตัวปรัชญามากักขังไว้ที่ผับสง่า แล้วปลอมตัวเป็นปรัชญากลับเข้าไปอยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์ เพื่อหาทางฆ่าคุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยา เพื่อที่สมบัติทั้งหมดจะได้ตกอยู่กับ “ปรัชญา”

ประวรรตแกล้งตัดสายเบรครถหวังให้คุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยาประสบอุบัติเหตุ แต่กลับพลิกล็อคเสงี่ยมที่สติไม่ดีวิ่งทะเร่อทะร่ามาขวางก่อนรถจะออกจากบ้าน ทำให้รถชนเสงี่ยมแล้วแฉลบไปชนรั้วบ้าน คุณหญิงปราศรัยกับอาทิตยาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เสงี่ยมศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง ยังผลให้ความจำของเสงี่ยมเริ่มกลับคืนมาทีละเล็กทีละน้อย

ส่วนสุภีเองก็รู้สึกว่า “ปรัชญา” คนนี้ดูแปลกแตกต่างไปจากเดิม จึงเล่าเรื่องให้เตย เพื่อนสนิทที่เป็นนักข่าวสายอาชญากรรมฟัง เตยสืบจนรู้เรื่องว่าปรัชญานั้นมีฝาแฝดชื่อประวรรต และเชื่อว่าคนที่อยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์เวลานี้คือประวรรตที่ก่อคดีติดตัวมากมาย แต่ยังไม่ทันที่เตยจะเอาความจริงนี้ไปบอกกับสุรภี เธอก็ถูกประวรรตลากตัวไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งปิดปากเสียก่อน

แต่ในขณะเดียวกันคนรอบข้างก็เริ่มสงสัยในตัวปรัชญาปลอมนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะชมพู่ที่บอกสุรภีอยู่เรื่อยว่า “พ่อ” คนที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกนั้นมีแผลเป็นที่หัว (แผลเป็นที่เกิดจากปรัชญาเคยถูกประวรรตตีหัวแตกในตอนเด็ก) แต่ “พ่อ” คนปัจจุบันกลับมีแผลเป็นที่หลัง (แผลเป็นที่เกิดจากการที่ประวรรตถูกสงัดเหวี่ยงตกระเบียงในตอนเด็ก) ทำให้สุรภีพยายามจับพิรุธปรัชญาปลอมมากขึ้น

ฝ่ายอภิพจน์ก็เชื่อว่าคนที่อยู่ในบ้านประภาวิสิทธิ์เวลานี้คือประวรรตจึงตัดสินใจบอกกับอาทิตยา ทำให้อาทิตยาตกใจมาก ขณะเดียวกันคุณหญิงปราศรัยกับป้าอ้วนก็สงสัยในตัวปรัชญาปลอมไม่แพ้กัน จึงตัดสินใจเปลี่ยนพินัยกรรมยกสมบัติให้อาทิตยา กับชมพู่และการะเกดเท่านั้น ปรัชญาปลอมรู้เข้าจึงบังคับคุณหญิงปราศรัยให้เซ็นเปลี่ยนพินัยกรรมเสียใหม่โดยยกสมบัติทั้งหมดให้ “ปรัชญา” แต่เพียงผู้เดียว แล้วจัดการช็อตไฟฟ้าคุณหญิงปราศรัยหวังให้ตาย แต่ถูกสุรภีและป้าอ้วนจับได้เสียก่อน

ประวรรตเห็นว่าความจริงถูกเปิดโปง แถมอภิพจน์กับอาทิตยายังพากำลังตำรวจมาล้อมจับอีกด้วย ประวรรตแค้นใจมาก จึงยิงอาทิตยาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วจับสุรภีเป็นตัวประกันหนีไปชายแดน ผลจากการบาดเจ็บของอาทิตยาคราวนี้ทำให้อาทิตยาได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วอภิพจน์นั้นรักเธอ ไม่ได้รักสุรภีอย่างที่อาทิตยาเข้าใจผิดไป ทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด

ประวรรตจับตัวสุรภีไปก็พาไปขายให้เสี่ยตง หวังจะเอาเงินแล้วหนีเข้าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปรัชญา อภิพจน์ และเสงี่ยมซึ่งเวลานี้ความจำกลับคืนมาทั้งหมดแล้วตามมาทันก่อนที่ประวรรตจะ หนีออกไปได้ ปรัชญาและเสงี่ยมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ประวรรตยอมมอบตัว แต่ประวรรตตัดสินใจหนีต่อเพราะรู้ดีว่าคดีร้ายแรงต่างๆที่ตนเองก่อขึ้นนั้น โดนโทษประหารอย่างแน่นอน

ประวรรตหนีไปจนถึงริมหน้าผา ปรัชญาตามไปทันพร้อมเสงี่ยมกับตำรวจ ประวรรตจึงจับปรัชญาเป็นตัวประกัน ทั้งคู่สู้กัน ประวรรตผลัดตกหน้าผาแต่ปรัชญาคว้ามือเอาไว้ได้ทัน แต่น้ำหนักตัวของประวรรตดึงให้ร่างปรัชญาเกือบจะตกไปด้วยกัน แต่ปรัชญาก็ไม่ยอมปล่อยมือประวรรต บอกว่าเกิดพร้อมกันก็จะยอมตายพร้อมกัน ทำให้ประวรรตสำนึกในความผิดบาปที่ตนได้ก่อและโยนความผิดนั้นให้ปรัชญาเรื่อยมา จึงตัดสินใจปล่อยมือปรัชญาเพื่อจะได้ตายเพียงคนเดียว

หลังการตายของประวรรต ปรัชญาตัดสินใจบวชหน้าไฟอุทิศส่วนกุศลให้กับฝาแฝดของเขา ส่วนสุรภีเมื่อรู้ความจริงก็อายมาก เพราะเคยต่อว่าปรัชญาอย่างรุนแรงมาโดยตลอดด้วยความเข้าใจผิด จึงพาลโกรธที่ปรัชญาไม่อธิบายความจริงให้เธอรู้ก่อนหน้านี้ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงปากร้ายไร้เหตุผล ซ้ำยังเรียกร้องให้เขาขอโทษเธออีก

ปรัชญาเอาความมาปรึกษาอาทิตยา อาทิตยาเจ้ากี้เจ้าการให้ปรัชญาง้องอนและขอโทษสุรภีด้วยการพาสุรภีไปชมคอนเสิร์ต ทั้งคู่เกือบจะเข้าใจกันได้อยู่แล้ว แต่สุรภีกลับเข้าใจผิดคิดว่าปรัชญามีแฟนอยู่แล้วแต่ยังมาทำดีกับเธออีก สุรภีจึงตัดสินใจสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ร้อนถึงอาทิตยา อภิพจน์ และหลานสาวฝาแฝด ชมพู่ การะเกด ที่อยากให้ปรัชญากับสุรภีได้ลงเอยกัน จึงออกอุบายทำทีเป็นว่าเด็กแฝดหนีออกจากบ้านเพราะเสียใจที่สุรภีจะไปเมืองนอก

สุรภีร้อนใจมากจึงชวนปรัชญาออกติดตามหาเด็กแฝด แต่พอรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนลวง สุรภีก็ยิ่งโกรธหนัก แต่ปรัชญาบอกว่าถ้าไม่ทำอย่างนี้สุรภีก็คงจะหนีเขาไปเมืองนอก และห่างเหินกันไป ซึ่งเขาคงทนไม่ได้เพราะรักเธอ แล้วปรัชญาก็ขอสุรภีแต่งงานท่ามกลางเสียงเชียร์ของทุกคน

ในที่สุดสุรภีก็ใจอ่อนยอมตกลงแต่งงานกับปรัชญาพร้อมกับคู่ของอาทิตยาและอภิพจน์ ทั้งสองตั้งใจจะเลี้ยงเด็กแฝดอย่างดี ไม่ให้เกิดกรณี “แฝดพี่ ฝาดน้อง” เช่นที่เคยเกิดขึ้นกับคู่ของปรัชญา-ประวรรต และเสงี่ยม-สงัดมาแล้ว

แผนรักแผนร้าย

ที่วังศิวาลัย ขณะที่อาการป่วยของ ม.ร.ว. นภดารา ศิวาวงศ์ (เดือนเต็ม สาลิตุลย์) กำลังทรุดหนัก เธอต้องการจะทำสิ่งหนึ่งก่อนสิ้นลม คือการสารภาพบาปที่เคยทำไว้ให้ ม.จ. นภัสรพี (สมบัติ เมทะนี) ท่านพ่อของเธอได้รับฟัง คือ เมื่อสิบห้าปีก่อน นภดารา ลอบรักกับ กานต์ (เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร) เด็กในบ้าน ทั้งคู่ปิดบังเป็นความลับไม่ให้ใครรู้นอกจาก แม่นมชื่น (นภาพร พงสกุล) แต่ไม่นาน กานต์เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถ และนภดาราพบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ ด้วยความกลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง นมชื่นจึงร่วมมือกับหมอ พานภดาราหลบไปคลอดที่โรงพยาบาลซอมซ่อแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ

นภดารา กับ นมชื่น คิดว่าจะหาทางกลับมารับลูกสาวกลับไปภายหลัง จึงได้ทิ้งทารกน้อยนั้นไว้พร้อมกับจดหมายฝากฝัง,สร้อยกางเขน และแหวนประจำตระกูล เพื่อเป็นหลักฐาน แต่ทันทีที่นภดารากลับถึงวังศิวาลัย เธอได้ข่าวว่าโรงพยาบาลนั้นไฟไหม้วอดทั้งหลัง ตั้งแต่นั้นเรื่อยมา นภดาราล้มป่วยกระเสาะกระแสะด้วยความรู้สึกผิดบาปในใจ และก่อนที่จะสิ้นลมหายใจเธอขอร้องให้นภัสรพีช่วยตามหาเด็กน้อยคนนั้นให้เจอ นภัสรพี ตกลงทำตามความต้องการของลูกสาว และขอร้องให้นภดาราต้องพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อรอพบกับเด็กคนนั้น

สิบ เจ็ดปีผ่านไป ที่เชียงใหม่ กอหญ้า (เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี) สาวน้อยอ่อนหวานน่ารัก สดใส ผู้มีหน้าที่ต้องช่วย ยุพา (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) แม่บุญธรรมของเธอคอยดูแล ชิษณุพงศ์ (ว่าน-ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง) ชายหนุ่มที่ตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ยุพาเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อนตอนสาวๆ และตอนนี้ก็มีรายได้เล็กๆน้อยๆ จากการรับจ้างดูแลคนไข้ตามบ้าน โดยมีกอหญ้าเป็นผู้ช่วย กอหญ้าดูแลชิษณุพงศ์อย่างดีละความร่าเริงสดใสของเธอทำให้ชิษณุพงษ์หลงรักจน หมดใจ ทั้งๆที่ไม่สามารถจะเห็นหน้าตาของเธอ แต่สำหรับกอหญ้า เขาเป็นเพียงผู้ชายแสนดี ที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้น

อิศร อดิศวร (ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) เดินทางมาที่หมู่บ้าน ระหว่างทางเขาขับรถเฉี่ยวกอหญ้า แม่อิศรจะเป็นฝ่ายผิด แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนใจร้อน โมโหฉุนเฉียว และนับถือเงินเป็นพระเจ้า จึงไม่เอ่ยขอโทษกอหญ้า แถมยังโวยวายที่กอหญ้าทำให้เขาเสียเวลา และจะเอาเงินฟาดเพื่อหัวชดใช้ค่าเสียหาย กอหญ้าเกลียดชายคนนี้อย่างที่สุด เลยต่อว่ากลับอย่างรุนแรงเช่นกัน เมื่อทั้งสองมาพบกันอีกครั้งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งระหว่างอิศรมาเจรจาเรื่องที่จะเอาที่ดินของโบสถ์คืน เพราะ อรรถ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) พ่อของอิศร ต้องการจะสร้างรีสอร์ท เมื่อกอหญ้ารู้ก็รีบขับไล่อิศรอย่างเจ็บแสบ อิศรโกรธมากและคิดว่าจะปราบกอหญ้า ด้วยการเอาเธอมาเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้ เลยยื่นข้อเสนอที่จะหาทางช่วยให้โบสถ์ไม่ถูกยึด ถ้ากหญ้ายอมแต่งงานกับเขา และให้เวลาตัดสินใจ 3 วัน กอหญ้าได้ยินข้อเสนอก็ยิ่งเกลียดผู้ชายคนนี้มากขึ้น

ในวันเดียวกัน นั้น ก็มีคนแปลกหน้าเข้ามาพบกับยุพาคือ ปราบ รักษ์สันติ (เอ๋-กษมา นิสสัยพันธุ์) นักสืบเอกชนที่ถูกจ้างให้ติดตามหาลูกสาวของนภดารา เขาสืบหาจนเจอว่านางพยาบาลที่เคยทำงานในโรงพยาบาลนั้น มียุพารวมอยู่ด้วย เขาตั้งใจจะมาขอข้อมูลจากเธอ แต่ทันทีที่เขาเห็นกอหญ้า เขาก็แน่ใจว่างานของเขาสำเร็จแล้ว เพราะกอหญ้ามีหน้าตาคล้ายคลึงกับนภดาราตอนสาวๆมาก และที่สำคัญกอหญ้าสวมสร้อยของนภดารา และ แหวนของกานต์อยู่ด้วย

ปราบ เล่าเรื่องทั้งหมดให้กอหญ้าฟังรวมทั้งเรื่องสร้อยที่กอหญ้าใส่ว่าเป็นสร้อย ประจะตระกูลของศิวาวงศ์ กอหญ้าเป็นทายาทของศิวาวงศ์และขอให้กอหญ้าไปกรุงเทพฯเพื่อพบท่านตา และท่านแม่ กอหญ้าปฏิเสธ ปราบจึงพูดถึงเรื่องที่ดินของโบสถ์ว่าท่านตาช่วยได้แน่นอน กอหญ้าจึงตกลงจะเดินทางลงไปกรุงเทพฯ เพื่อพบกับแม่และตาที่แท้จริงของเธอ โดยระหว่างที่คุยกันนั้น พเยีย (อ๋อม สกาวใจ พุลสวัสดิ์) เพื่อนของกอหญ้า ที่เคยเป็นเด็กกำพร้าด้วยกันมา เข้ามาได้ยินยุพากับกอหญ้าคุยกันถึงเรื่องนี้พอดี เลยเกิดนึกอยากเป็นอย่างกอหญ้าบ้าง และอยากได้สร้อยกางเขน จากกอหญ้ามาเป็นของตน เมื่อถึงวันที่กอหญ้ากับยุพาต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ พเยียได้ขอติดรถไปกรุงเทพด้วย แต่ระหว่างทางเกิดมีพายุฝนตกกระหน่ำ จนรถเกิดอุบัติเหตุคว่ำตกข้างทาง ปราบและยุพาตายคาที่ แต่พเยียไม่เป้นอะไร รีบลุกขึ้นแล้วเข้าไปเอาสร้อยจากกอหญ้า แต่กอหญ้ากลับฟื้นขึ้นมา ร้องให้พเยียช่วย พเยียตัดสินใจเอาท่อนไม้ตีกอหญ้าอย่างแรงที่ศีรษะ แล้วเอาสร้อยของกอหญ้าไป

พเยียเข้าสู่วังศิวาลัย ในฐานะหลานสาวคนใหม่ ทายาทคนเดียวของราชสกุลศิวาวงศ์ ในขณะเดียวกัน กอหญ้าที่กำลังจะสิ้นใจ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากอิศร ที่ขับรถผ่านมาพอดี อาการของเธอหนักมาก อิศรทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เธอมีชีวิตรอดจนสำเร็จ แต่กอหญ้ากลับกลายเป็นคนความจำเสื่อม จำได้แต่เพียงว่าเธอชื่อกอหญ้า และเกลียดอิศรมาก แต่เนื่องจากกอหญ้าไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน อิศรฉวยโอกาสพากอหญ้ากลับไปอยู่ที่บ้านของเขา และหลอกว่าเธอคือคู่หมั้น กอหญ้าไม่เชื่อและไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือก

อิศรพากอหญ้ากลับมา ที่บ้านของเขาในฐานะคู่หมั้น สร้างความไม่พอใจให้อรรถ ที่อิศรไปเก็บผู้หญิงกำพร้าข้างถนนมาเป็นคู่ และ สกุณา(ดี้ ชนานา นุตาคม) แม่เลี้ยงคนใหม่ ก็กลัวว่ากอหญ้าจะมามีส่วนแบ่งสมบัติของอรรถและตัวเองจะได้สมบัติน้อยลงจึง คอยใส่ไฟอรรถไล่กอหญ้าออกจากบ้าน ระหว่างที่กอหญ้ากับอิศร มีเพียง สุบรรณ ผู้ช่วยของอิศรเท่านั้นที่รู้ความจริงว่าอิศรกับกอหญ้าไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ทำให้กอ-หญ้าพยายามบอกตัวเองว่าเกลียดผู้ชายคนนี้ แต่แล้วหัวใจของเธอก็ค่อยๆซึมซับความรัก ที่เขามีให้ทีละน้อยๆ

ขณะ ที่ พเยียเข้ามาใช้ชีวิตใหม่ที่วังศิวาลัย เธอได้พบกับ ภาณพ (แซม-พนมกร ตังทัตสวัสดิ์) หลานชายของนภดารา ที่อาศัยอยู่ในวังศิวาลัยด้วย เธอสนใจเขาทันที ด้านนภดาราที่กำลังดีใจกับการกลับมาของลูกสาว เลยจัดงานฉลองเปิดตัวให้กับพเยีย และวันงาน อิศรที่เป็นเพื่อนกับภาณพ พากอหญ้ามาร่วมงานด้วย เมื่อพเยียเห็นกอหญ้าก็ตกใจแทบสิ้นสติ เพราะกลัวว่ากอหญ้าจะเล่าความจริง แต่พอรู้ว่ากอหญ้าจำเธอไม่ได้เลย ก็ถึงกับโล่งใจแต่เธอก็ยังกลัวว่าหากวันใดกอหญ้าจำความได้ เธอจะต้องถูกเฉดออกไปจากที่นี่ เลยคิดหาทางกำจัดกอหญ้าอีกครั้ง

ภาณพ เมื่อเจอกับกอหญ้าก็หลงรักทันทีแต่รู้ว่าเป็นคู่หมั้นเพื่อนก็ได้แต่ มองอย่างหมดหวัง ภาณพสงสัยเรื่องอิศรหมั้นกับกอหญ้าจึงตามสืบความจริงจนรู้จากสุบรรณว่าทั้ง หมดเป็นแผนของอิศร ภาณพบอกความจริงกับกอหญ้า กอหญ้าทั้งโกรธทั้งเสียใจจึงออกจากบ้านอิศร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ภาณพเลยชวนมาอยู่ที่วังศิวาลัย เมื่อกอหญ้าเข้ามาอยู่ที่ศิวาลัย ก็เป็นที่รักของทุกคน โดยเฉพาะนภดารา ที่รักและเอ็นดูกอหญ้าราวกับลูกสาว สร้างความไม่พอใจให้พเยีย เลยหาทางกลั่นแกล้งกอหญ้าอยู่ตลอดเวลา นมชื่นสังเกตเห็นหลายๆอย่างในตัวกอหญ้าที่คล้ายคลึงกับนภดารา และเมื่อรู้ว่ากอหญ้าเป็นเด็กกำพร้ำ นมชื่นก็ยิ่งสงสัย

พเยีย กลั่นแกล้งกอหญ้าหนักขึ้นทุกวัน จนภาณพทนไม่ได้ประกาศหมั้นกับกอหญ้าเพื่อปกป้องเธอจากพเยีย อิศรหึงจนทนไม่ได้ขอหมั้นกับพเยียเพื่อประชดกอหญ้า แต่สุดท้ายก็ทนพเยียไม่ได้จึงขอถอนหมั้นพเยีย และจะหนีไปเชียงใหม่ ก่อนไปอิศรเขียนจดหมายเล่าประวัติกอ-หญ้า พร้อมกับส่งกล่องแหวนของกอหญ้าคืนมาให้หลังจากเก็บรักษาไว้ ตั้งแต่วันที่กอหญ้าประสบอุบัติเหตุ แต่กอหญ้ายังคงเสียใจจริงไม่ยอมเปิดกล่องดู

ที่เชียงใหม่ อิศรได้พบกับ ชิษณุพงศ์ ที่รักษาตาหายเป็นปกติและพยายามตามหากอหญ้าอยู่ พออิศรรู้ว่า พเยียเป็นใคร และที่สำคัญเป็นตัวอันตรายสำหรับกอหญ้า ทั้งคู่จึงรีบกลับมากรุงเทพฯ หลังจากพเยียถูกอิศรถอดหมั้น ก็ยิ่งแค้นกอหญ้า ไม่นานเธอได้เจอกับนภดล (เต้-ทัตพงษ์ พงษ์ทัต) คู่ขาเก่าโดยบังเอิญ นภดลเห็นพเยียร่ำรวยจึงคอยไถเงินพเยียและขู่ว่าถ้าไม่ให้ จะเปิดโปงความจริงทั้งหมด พเยียชวนนภดลร่วมมือกำจัดกอหญ้าโดยให้นภดลจับกอหญ้าไปข่มขืน แต่อิศรก็ตามไปช่วยกลับมาได้ ด้าน นมชื่นเริ่มสงสัยพเยียมากขึ้น ประกอบกับนมชื่นเจอแหวนของกอหญ้า และรู้ความจริงทั้งหมด พเยียจึงฆ่านมชื่นเพื่อปิดปาก นภัสรพีสงสัยในการหายไปของนมชื่น จึงตามสืบจนรู้ความจริงทั้งหมดและรู้ว่าพเยียฆ่านมชื่น นภัสรพี จึงถูกพเยียฆ่าปิดปากไปอีกคน

ในขณะที่ทุกคนไปงานศพนภัสรพี พเยียวางแผนให้นภดลมาจับตัวกอหญ้า แต่เจอภาณพกลับมาที่บ้านพอดี ภาณพรู้ความจริงทั้งหมด สู้กับนภ-ดลจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ นภดลจับตัวกอหญ้าไปได้ ภาณพโทรบอกเรื่องทั้งหมดแก่นภดารา และโทรบอกอิศรให้ตามไปช่วยกอหญ้า ส่วนนภดลโทรบอกพเยียว่าความลับแตกแล้ว พเยียจึงจับนภดาราไปจากงานศพและบังคับให้นภดาราเซ็นพินัยกรรม นภดารายอมเซ็นเพื่อแลกกับชีวิตของกอหญ้า แต่พเยียกลัวความผิดจึงคิดจะฆ่านภดาราและกอหญ้าให้ตาย

พเยียทำร้ายกอ หญ้า แต่การทำร้ายครั้งนี้ กลับทำให้ความทรงจำของกอหญ้ากลับมา เธอจำทุกอย่างได้หมด กอหญ้าพึ่งรู้ว่าทุกอย่างที่เธอคิดโทษอิศรนั้น เป็นความเข้าใจผิดของเธอเอง ส่วนเรื่องราวต่อไปจะลงเอยอย่างไร กอหญ้าจะรอดพ้นน้ำมืออันโหดร้าย ของพเยียได้หรือไม่ ติดตามชมได้ในละคร ” แผนรักแผนร้าย

นักแสดงละคร แผนรักแผนร้าย

ชาย – ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท “ อิศร ”
เจี๊ยบ – โสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบท “ กอหญ้า ”
อ๋อม – สกาวใจ พูลสวัสดิ์ รับบท “ พเยีย ”
แซม – พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ รับบท “ ภาณพ ”
ว่าน – ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง รับบท “ ชิษณูพงศ์ ”
ตุ๊ก – เดือนเต็ม สาลิตุลย์ รับบท “ ม.ร.ว.นภดารา ”
แอ๊ด – สมบัติ เมทะนี รับบท “ ม.จ.นภัสรพี ”
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท “ อรรถ ”
เดือนเต็ม สาลิตุลย์ รับบท มรว.นภดารา
ชนานา นุตาคม รับบท สกุณา
ทัตพงษ์ พงษ์ทัต รับบท นภดล
นภาพร หงสกุล รับบท นมชื่น

นักแสดงรับเชิญ
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท กานต์
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท ยุพา
กษมา นิสสัยพันธุ์ รับบท ปราบ

ผู้ชายมือสอง

เมื่อชัชชมเปิดกิจการร้านอาหาร ทำให้ถวิกาภรรยาสาวก็ถึงขีดสุดของความเบื่อหน่าย เธอออกเที่ยวเตร่และควงหนุ่มนายแบบรุ่นน้องพาไปนอนที่คอนโดโดยไม่สนใจเสียง นินทา แต่เมื่อพรายแพรวมาจี๋จ๋ากับชัชชม ถวิกาก็โกรธแค้น ตามราวีจนลูกสาวคือ ด.ญ.น้ำตาล ขวัญเสีย เพราะถวิกาเพียงแต่กลับมาด่าทอ ตบตีกับพรายแพรวแล้วก็กลับไปเที่ยวกินเหล้ากับหนุ่มๆไม่สนในเสียงคร่ำครวญหา แม่ของน้ำตาลเลย ถวิกากล่าวโทษคุณป้าของชัชชมกับอัญชลีพี่สาวว่า เป็นญาติแก่ๆ ที่เกาะชัชชมจนต้องหากินตัวเป็นเกลียว และไม่มีเวลาสำหรับลูกเมียทั้งๆที่ถวิกาเองไม่เคยเลี้ยงน้ำตาลอย่างจริงจัง เลยตั้งแต่เกิดมาจน 5-6 ขวบ

อัญชลีพี่สาวของชัชชมจ้างชลาศัยมาช่วย งานแคชเชียร์ช่วงกลางคืน อัญชลีได้ตัวชลาศัยมาจากเพื่อนที่เป็นอาจารย์อยู่ที่วิทยาลัยพานิช ชลาศัยปลื้มชัชชมมาตั้งแต่เด็กๆ เธอยังเก็บจดหมายของดีเจชัชชมไว้ในกล่องสมบัติชลาศัยบอกแม่ว่า เธอจะพยายามทำงานและเรียนให้จบโดยเร็ว เพื่อจะได้พาแม่ไปให้พ้นจากบ้าน บวร ซึ่งเธอและคนในบ้านต้องเรียกเขาว่า นาย ให้ได้ในวันหนึ่ง ชลาศัยไม่รู้ว่าอะไรทำให้แม่ไปไหนไม่รอด ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องทนสภาพอันเลวร้ายในบ้านบวร แต่ก็ทนอยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต โดยนายไม่กล้าล่วงเกินเธอเหมือนกับที่ทำกับกำไล สาวใช้ในบ้านหรือแม้แต่กับแม่ของเธอเอง

ทั้งคุณป้าและพี่สาวของชัช ชมพอใจที่ชลาศัยขยันขันแข็ง และเต็มใจทำงาน ทุกคนสังเกตเห็นความสดชื่นเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับชัชชม เมื่อพรายแพรวพบชลาศัยในร้าน ก็เกิดอาการหึงหวงชัชชม จึงหาทางแกล้งฉีกหน้าชลาศัย โดยแกล้งให้ชลาศัยใส่ชุดเด็กเสิร์ฟ ประกอบกับมีงานถ่ายแบบที่เธอให้มาถ่ายที่ร้านของชัชชมเพื่อยั่วถวิกา แต่เมษช่างภาพหนุ่มหล่อกลับติดใจความสวยของชลาศัย และชวนชลาศัยให้รับงานถ่ายแบบ

แรกๆ ถวิกาตามหาเรื่องชัชชมซึ่งมีพรายแพรวมาพัวพัน แต่เมื่อชลาศัยเข้ามาอยู่ในร้านของชัชชม พรายแพรวก็วางแผนให้ถวิกามาช่วยกำจัดชลาศัย และจับมือกับบวรให้มาล่อถวิกาให้ติดกับ โตมรคู่นอนของพรายแพรวแอบส่งนักเลงมาพังร้านของชัชชม ทำให้เขาต้องนับ 1 ใหม่ ถวิกาหย่ากับชัชชมทั้งๆที่พ่อแม่ห้าม เพราะหลังจากราวีจนเหนื่อยแล้วก็เห็นว่าชัชชมไม่ใช่คนมีค่าอะไรสำหรับเธอ เมื่อเทียบกับบวรซึ่งคอยเอาใจอยู่ไม่ห่าง

ชลาศัยพยายามช่วยถวิกาไม่ ให้ตกเป็นเหยื่อของบวรได้หลายครั้ง แต่ด้วยความดื้อดึง ถวิกาก็ตกเป็นของบวร และถูกหว่านล้อมถึงขั้นจดทะเบียน ถวิกาให้บวรไล่ทุกคนออกจากบ้าน ชวนชม ชลาศัย กำไล จึงออกมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน แต่กำไลแอบกลับไปหาบวรทั้งๆที่ถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อเห็นถวิกา กำไลก็เกิดบ้าผลักถวิกาตกน้ำ ชวนชมตามไปทัน ทำให้กำไลรอดมือบวรมาได้

เมษ มาช่วยชลาศัยกับกำไลทำข้าวแกงขายที่บ้านเช่า แต่เมื่อชัชชมซ่อมร้านเสร็จก็มาขอให้ชลาศัยไปอยู่ด้วย เมษผิดหวังที่ไม่สามารถทำให้ชลาศัยรักได้ เกิดบ้าตามแรงยุของโตมร จึงขับรถพาชลาศัยออกไปหาโรงแรมม่านรูดนอกเมือง ชลาศัยหนีออกมาและโทรตามชัชชมให้มารับ

บวรไม่สามารถใช้ทะเบียนสมรส ไปขู่เข็ญพ่อแม่ของถวิกา ก็เกิดโมโหหน้ามืดซ้อมถวิกาจนสะบักสะบอม ถวิกาโทรเรียกน้องสาวมาช่วยแต่ก็เข้าบ้านไม่ได้ ชวนชมรู้ว่าบวรจะทำเหมือนเดิม จึงบอกความลับที่บวรฝังศพภรรยาไว้ในบ้านให้กำไลรู้ และชวนกันไปช่วยถวิกา ถวิกายังบ้าหึงหวงคิดว่าบวรนัดกำไลมาหลับนอน ทำให้แผนแตก เกิดการต่อสู้ กำไลถูกแทงตายไปพร้อมกับบวร และเตรียมพบกับเรื่องราวที่สะท้อนปัญหาสังคม ปัญหาครอบครัว ได้ใน “ผู้ชายมือสอง

รายชื่อนักแสดงละคร ผู้ชายมือสอง

ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
รุจิรา ช่วยเกื้อ
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ
กมลา กำภู ณ อยุธยา
กรรชัย กำเนิดพลอย
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล

ผักบุ้งกับกุ้งนาง

ผักบุ้ง สาวสวยเก่งและแก่น อาศัยอยู่กับยายและครอบครัวของน้าสาวในชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง นางนวล แม่ของผักบุ้งตายตั้งแต่ผักบุ้งยังเด็กอยู่ มีแต่ อรสา น้าสาวที่รักและเอ็นดูเธออย่างจริงใจ อรสารับภาระในการเลี้ยงดูเธอทุกอย่าง ทั้งที่อรสาเองก็มีลูกสาวเหมือนกันชื่อ มณี มณีนั้นอายุน้อยกว่าผักบุ้งเพียงไม่กี่เดือน ทั้งคู่โตมาด้วยกันแต่นิสัยต่างกันมาก ขณะที่ผักบุ้งขยัน เรียนเก่ง แต่มณีขี้เกียจ ดีแต่ฟุ้งเฟ้อ ยิ่งไปกว่านั้น นางพวง ผู้เป็นยายเองก็ลำเอียงรักมณีมากกว่าผักบุ้ง วันชัย น้าเขยก็เป็นกรรมกรมีเพียงค่าแรงรายวัน แต่ติดเหล้าเหมือนกันซ้ำร้ายยังชวนยายพวงกินเหล้าจนติดด้วยกันทั้งคู่

เมื่อ เรียนจบมัธยมปลายผักบุ้งไม่ต้องการทำตัวเป็นภาระให้กับน้าสาวอีก เธอจึงไม่ยอมเรียนต่อทั้งที่เรียนดี ผักบุ้งเริ่มทำงานหาเงินใช้เอง ตอนเช้าถึงเที่ยง เธอจะช่วยอรสาขายของ ฝีมือตำส้มตำของเธอมีลูกค้าติดกันมากมาย พอบ่ายจัดๆ เมื่อลูกค้าซาลง ผักบุ้งจะไปสำเพ็งหรือประตูน้ำเธอไปซื้อเครื่องประดับเก๋ๆ กับเสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่นเพื่อเอามาขาย ผักบุ้งเองชอบค้าขายและเธอฝันอยากจะเป็นนักธุรกิจมีกิจการอะไรสักอย่างเป็น ของตัวเอง ผักบุ้งจึงขยันทำงานมากเธอเก็บออมกำไรจากการขายของเข้าธนาคารไว้ แต่ผักบุ้งต้องเก็บสมุดบัญชีซ่อนไว้จนมิดชิดและเรื่องเงินฝากนี้ผักบุ้งไม่ บอกใครเลย เพราะรู้ดีว่าทุกคนที่บ้านยกเว้นอรสาหิวเงินทั้งสิ้น

ผัก บุ้งจึงมุมานะทำงานมากขึ้น ช่วงไหนที่ไม่ได้ขายของเพราะฝนตกหรือไม่มีของดีๆ สวยๆ ผักบุ้งก็จะไปรับงานพิเศษเป็นพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มในห้องอาหารของโรงแรม หรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีงานเลี้ยงใหญ่ๆ มักจะมีพนักงานไม่พอเสมอ ผักบุ้งจึงได้ทำงานในแบบพาร์ตไทม์อยู่เรื่อย ยายพวงก็ทำให้ผักบุ้งหงุดหงิดจนได้ เมื่อใช้ให้เธอไปซื้อเหล้าแต่เช้า ขณะที่มณีเดินนวยนาดออกมาใส่ชุดเสื้อสายเดี่ยวตัวสั้น กางเกงเอวต่ำอวดผิวเนียนอย่างไม่อาย เมื่อผักบุ้งเตือนว่ามณีแต่งตัวโป๊เกินไป มณีหัวเราะเยาะว่าผักบุ้งอิจฉา ไม่มีปัญญาจะซื้อมาใส่ ยายพวงยังเข้าข้างมณีด่าผักบุ้งซ้ำอีก ผักบุ้งน้อยใจจึงผลุนผลันลงจากบ้าน เธอเดินไปหลังชุมชนบริเวณที่ติดกับวัด เธอไปบ้านของลุงสมานอดีตนักมวยทีมชาติ สมานเป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวให้ผักบุ้ง ซึ่งผักบุ้งทำได้ดีเสียด้วย เธอปราบไอ้โตนักเลงใหญ่จนไม่กล้าหือ นอกจากปากเปราะ เจ๊าะแจ๊ะจีบเธอไปเรื่อย

สมานจะสอนให้เธออดทนและขยันทำมาหากิน ที่สำคัญผักบุ้งรู้ว่าสมานรักและเอ็นดูเธออย่างจริงใจ แต่วันนี้เธอเข้าเขตบ้านสมาน และเห็นว่าสมานอยู่กับ ร.ต.อ.เผด็จ ผักบุ้งก็หันหลังกลับทันที จนสมานต้องเรียกไว้ ผักบุ้งจึงยอมกลับมา ทั้งนี้เพราะเธอโกรธที่เผด็จห้ามไม่ให้เธอชกปากไอ้โตเมื่อวันก่อน ในฐานะที่มันปากเปราะแถมยังทำท่าจะลวนลามเธออีก ผักบุ้งไม่ยอมเข้าใจว่าเธอทำร้ายไอ้โตแล้วเธอน่ะแหละจะเป็นคนเดือดร้อน ถ้าไอ้โตแจ้งตำรวจจับเธอในข้อหาทำร้ายร่างกาย และเผด็จช่วยเธอต่างหาก เผด็จนั้นสนใจผักบุ้งเพราะความเฮี้ยบ และรู้มาว่าเป็นคนขยันนอกจากความสวย ยิ่งไปกว่านั้นเผด็จเองก็เป็นลูกศิษย์ของสมานเช่นกัน เผด็จเต็มใจที่จะดูแลผักบุ้งในฐานะน้องสาว และลูกศิษย์อาจารย์เดียวกันเสมอ อีกประการหนึ่งสมานเองก็ฝากให้เขาดูแลผักบุ้งด้วยเช่นกัน

คืนวันนั้น ผักบุ้งมีงานที่โรงแรมหรู เธอต้องไปเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานค็อกเทลเปิดตัวสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ทำงานผักบุ้งก็รู้สึกว่าเธอถูกชนจนเซไปปะทะหญิงสาวคนหนึ่ง แต่เมื่อผักบุ้งเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณี ผักบุ้งก็อึ้งพูดไม่ออกเมื่อพบว่าหญิงสาวผู้นั้นแต่งกายเรียบหรู สง่างาม ตัวของสาวไฮโซเองก็ตกใจที่พบกับคู่แฝดคนละฝาอย่างบังเอิญเช่นนี้ กุ้งนางหรือรัสมา เป็นทายาทคนเดียวของตระกูล “ดิเรกณรงค์” ซึ่งทำธุรกิจระหว่างประเทศมีสินทรัพย์เป็นพันล้านบาท กุ้งนางรู้แต่ว่าพ่อและแม่เธอประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะเดินทางไป ติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ ตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ทองแข ผู้เป็นย่าเป็นผู้ที่ดูแลเธอมาจนโตเป็นสาว โดยมี ศิริพรรณ อาสะใภ้ช่วยดูแลอีกคน ส่วนธุรกิจต่างๆ สุธีผู้เป็นอาเป็นผู้ดูแล จนเจริญรุ่งเรืองและขณะนี้มี กร หลานชายของศิริพรรณมาช่วยทำงานอีกคนหนึ่ง

กุ้ง นางรักและนับถือกรเหมือนพี่ชาย เช่นเดียวกับกรที่เอ็นดูกุ้งนางเหมือนน้องสาว เขารู้สึกว่ากุ้งนางอ่อนแอ บอบบางเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลา สิ่งที่กุ้งนางเบื่อที่สุด คือ การที่ต้องถูกบังคับให้เรียนรู้การดำเนินธุรกิจอย่างคร่ำเคร่ง กุ้งนางถูกสุธีบังคับและเตรียมเธอให้พร้อมสำหรับดำเนินธุรกิจต่อจากเขามา ตั้งแต่เธอเริ่มเป็นสาว ไม่มีใครรู้ว่าสุธีทำลงไปก็เพื่อหวังบีบคั้นให้กุ้งนางเบื่อมากๆ ซึ่งขนาดขายบริษัทให้เขาได้ยิ่งดี หรือบ้าไปเลย สุธีก็จะยิ่งพอใจมาก เขาทำตัวเป็นญาติผู้ใหญ่ที่หวังดี แต่ความจริงแล้วสุธีโลภมาก เขาบริหารบริษัทมานานจนคิดว่าเป็นของตัวเอง และไม่ยอมที่จะให้เป็นของกุ้งนางอีกต่อไป ขณะที่เขาสอนงานกุ้งนางอย่างเคร่งครัด เขาก็แอบยักยอกรายได้ต่างๆ เข้ากระเป๋าตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

กุ้งนางคิดถึงผักบุ้งตลอดเวลา เธอเบื่อที่จะอยู่กับคนที่ไม่จริงใจ เธออยากเป็นอิสระบ้างถึงแม้ว่ากรจะเข้าใจและคอยช่วยเธอบ้างในเรื่องธุรกิจ แต่กุ้งนางก็อยากจะหนีไปไหนๆ ให้พ้นสักพัก ซึ่งเธอก็รู้ว่าคงรอดตาของกรหรือสุธีได้ยากเต็มที แต่แล้วกุ้งนางก็คิดออก เธอจะตามหาผักบุ้งและจะสลับตัวกันถึงแม้ชั่วคราวก็ยังดี ถึงแม้จะพบกันเพียงครั้งเดียว แต่กุ้งนางก็รู้สึกว่าผักบุ้งเป็นคนดี คืนวันต่อมากุ้งนางจะออกไปตามหาผักบุ้งที่โรงแรมนั้น กรมาพบเข้าพอดีจึงอาสาขับรถให้ เมื่อไปถึงที่โรงแรมกุ้งนางก็ผิดหวังเพราะผักบุ้งเป็นพนักงานชั่วคราว ตลอดเวลาที่เดินทางมากุ้งนางบอกกรเพียงว่าเธอจะมาหาเพื่อนชื่อผักบุ้งเท่า นั้น กุ้งนางให้กรพามาที่นี่อีกหลายครั้งแต่ก็ไม่พบ

วันหนึ่งกุ้ง นางทนไม่ไหวจึงหนีวิรัตน์ออกจากบ้านไป เธอขึ้นแท็กซี่ให้พาไปโรงแรมที่พบผักบุ้งอีก คราวนี้โชคดีเพราะผักบุ้งมาทำงานพิเศษและกำลังจะกลับบ้าน ทั้งคู่จึงพบกันหน้าโรงแรมที่นั่นเอง การหายไปของกุ้งนางทำให้กรเป็นห่วงมาก เขารีบขับรถออกมาตามหาเธอ ซึ่งเขาเดาว่ากุ้งนางต้องมาที่โรงแรมนี้ วันนี้กุ้งนางมีโอกาสคุยกับผักบุ้งเรื่องขอสลับตัวเพียงครู่เดียว เธอก็เห็นรถของกร กุ้งนางพยายามให้ผักบุ้งรับปาก แต่ผักบุ้งไม่ยอม เธอให้กุ้งนางกลับไปคิด 1 คืนแล้วค่อยมาพบกันอีกครั้งพรุ่งนี้ที่หน้าโบสถ์ในวัดใกล้ๆ นี้เอง ก่อนจะแยกจากกันไป เมื่อกรเดินมาหาจึงเห็นกุ้งนางยืนอยู่คนเดียวอย่างอารมณ์ดี

วันรุ่ง ขึ้นกุ้งนางไปตัดผมสั้นดูทะมัดทะแมง เธอตั้งใจตัดผมให้คล้ายผักบุ้งที่สุด คืนนั้นกรไปส่งกุ้งนางที่โรงแรมตามเคย กุ้งนางเดินไปที่จุดนับพบอย่างตื่นเต้น ระหว่างนั่งคอยผักบุ้ง เธอก็ต้องตกใจเมื่อเผด็จเดินเข้ามาทักว่าเป็นผักบุ้ง ใจหนึ่งเธอก็ดีใจที่ตบตาคนอื่นได้ กุ้งนางจึงรับสมอ้างเป็นผักบุ้งคุยกับเผด็จอย่างเรียบร้อย อ่อนหวานตามนิสัย จนเผด็จแปลกใจที่ผักบุ้งน่ารักผิดปกติ เธอแปลกใจที่ผักบุ้งไม่มาตามนัด คืนวันต่อมากุ้งนางก็มารออีกครั้งและพบเผด็จอีกจนได้ เผด็จไม่ยอมให้กุ้งนางหรือผักบุ้งในความเข้าใจของเขาต้องอยู่ตามลำพัง เพราะสาวสวยอย่างเธออยู่ที่เปลี่ยวดูไม่ปลอดภัย

ทว่าในที่สุดสองสาว คู่เหมือนก็พบกันจนได้ กุ้งนางขอร้องจนผักบุ้งยอม ทั้งคู่นัดพบกันอีกหลายครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของกันและกันอย่าง ละเอียดก่อนจะสลับตัวกัน ทั้งนี้ผักบุ้งย้ำกับกุ้งนางเสมอว่าถ้าจะกลีบมาสู่ชีวิตเดิมเมื่อไหร่ เธอก็พร้อมเสมอ วันนี้กุ้งนางบอกกรว่าเธออยากจะเป็นคนใหม่ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อย่าโกรธเธอให้ปฏิบัติต่อเธอเหมือนน้องสาวเหมือนเดิม กรรับปากแม้จะแปลกใจอยู่บ้าง เช่นเดียวกับผักบุ้งเธอเป็นฝ่ายไปหาเผด็จแถมยังบอกว่าพักนี้ไอ้โตมากวนใจ บ่อยเหลือเกิน ถ้าไม่อยากให้เธอต้องทำร้ายมันให้หมั่นไปตระเวนแถวๆ ร้านส้มตำอรสาบ้าง ซึ่งเผด็จรับปากโดยดี คืนนั้นทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่ห้างสรรพสินค้าเล็กๆ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตใหม่อย่างที่ตกลงกัน ผักบุ้งขึ้นรถของกรอย่างระมัดระวังเธอพูดน้อยจนกรรู้สึก แถมเมื่อถึงบ้านยังป้ำๆ เป๋อๆ เดินผิดห้องอีกแต่ก็รอดตัวไปจนได้

ตรง ข้ามกับกุ้งนางซึ่งคืนแรกก็เจอดีเข้าแล้วเมื่อพบกับไอ้โตก่อนจะเข้าบ้าน ไอ้โตพูดจาแทะโลมก่อนตามนิสัย แต่เมื่อกุ้งนางตอบอย่างเงอะงะ แถมมีทีท่าหวาดกลัวมันก็เริ่มได้ใจ ไอ้โตเตรียมจะเข้ามาลวนลามเธอตามถนัด เผด็จก็ผ่านมาพอดี ไอ้โตเผ่นหนีอย่างไม่มีฟอร์ม ภาพของกุ้งนางที่อ่อนแอเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง ทำให้เผด็จประหลาดใจว่าผักบุ้งสาวห้าวทำไมถึงดูบอบบางน่ารักนัก แถมเมื่อเขาบอกว่าจะเดินไปส่งที่บ้านเธอก็ยอมโดยดี ระหว่างเดินไปด้วยกัน ทางเดินที่แคบทำให้ต้องเดินใกล้ชิดกันมาก ด้วยความไม่ชินทางและความเขินอายทำให้กุ้งนางเดินสะดุดบ่อยๆ จนเผด็จต้องคอยจับแขนหรือประคองเธอไว้ตลอดทาง เธอไม่รู้ว่าเผด็จเองเริ่มประทับใจกับผักบุ้งคนนี้เข้าให้แล้ว

ผัก บุ้งกับกุ้งนางทำให้คนรอบข้างผิดสังเกตกันมากมาย สาวห้าวกลับเป็นสาวเรียบร้อยอ่อนไหว มีน้ำใจ ขณะที่สาวนุ่มนิ่มอ่อนหวานอย่างกุ้งนางกลับเฮี้ยวและห้าว แถมยังขยันทำงานอีกด้วย ที่สำคัญฉลาดเรียนรู้ธุรกิจได้เร็ว จนกรหลงเสน่ห์ความเก่งอย่างไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดของกรและกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) ทำให้ดวงรัตน์หึงขนาดหนักถึงขนาดตามมาอาละวาดถึงบ้าน ผักบุ้งหรือจะยอมง่ายๆ ดวงรัตน์จึงถูกย้อนอย่างเจ็บปวดพอกัน เรื่องยุ่งมากขึ้นเมื่อดวงรัตน์ยุให้วิรัตน์ปล้ำกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) เพื่อรวบรัด โดยแน่ใจว่าสาวติ๋มอย่างกุ้งนางต้องยอมตกกระไดพลอยโจนแต่งงานแก้หน้าแน่นอน แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด วิรัตน์จึงโดนกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) ใช้วิชากดจนลงไปนอนกองกับพื้น กรกลับมาพอดีเขาโกรธมากและยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อรู้ว่าดวงรัตน์เป็นผู้สนับ สนุนพี่ชาย กรขอถอนหมั้นกับดวงรัตน์ทันที

ยิ่งเวลาผ่านไปกรก็ยิ่ง จับพิรุธได้ว่ากุ้งนางคนนี้ไม่ใช่กุ้งนางคนเก่า จะอย่างไรก็ตามกรยอมรับกับตัวเองว่าเขารักกุ้งนางคนนี้เข้าให้แล้ว ดวงรัตน์โวยวายว่ากุ้งนางแย่งกรไป กุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) สวมรอยทันที เธอหวานกับกรอย่างน่ารัก ผักบุ้งไม่รู้ตัวว่าทำลงไปเพราะใจเธอต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน ส่วนกรรับสมอ้างต่อทันทีเหมือนกัน ส่วนสุธีเริ่มหงุดหงิดเมื่อกุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) ไม่ยอมเซ็นอนุมัติโครงการต่างๆ ง่ายๆ เหมือนเดิม แถมยังมีการเอาบัญชีรายรับรายจ่ายเก่าๆ ของบริษัทมาดูเสียอีก สุธีไม่รู้ว่าผักบุ้งจับได้แล้วว่าเขาโกงบริษัท

ส่วนกุ้งนางต้อง เผชิญความวุ่นวายอย่างน่าสงสาร เทพบุตรในดวงใจคือ เผด็จก็โดนมณีมาทำท่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเธอเสียใจ แต่เผด็จก็รีบมาบอกความจริงเสียก่อน กุ้งนางจึงมีกำลังใจอยู่ต่อไปได้ คนที่จับพิรุธได้ก่อนว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ใช่ผักบุ้งคืออรสา เธอพากุ้งนางไปที่โบสถ์ถามความจริงต่อหน้าประประธาน กุ้งนางจึงต้องสารภาพความจริง อรสานิ่งไปเมื่อรู้ว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใคร และยิ่งประหลาดใจ เมื่อรู้ว่ากุ้งนางเกิดวันเดียวเดือนเดียวกับผักบุ้ง ความน่าจะเป็นที่ทั้งคู่เป็นคู่แฝดกันมีสูงมาก คนที่จะตอบได้คือ นวล ซึ่งตายไปแล้ว นับจากนั้นอรสาจะคอยปกป้องดูแลกุ้งนางมากขึ้น อีกคนที่จับพิรุธได้ก็คือลุงสมาน แกทำให้กุ้งนางต้องสารภาพความจริงอีกคน สมานดูออกว่าเผด็จรักผักบุ้ง ( กุ้งนาง ) คนนี้จึงบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ใช่ผักบุ้งคนเดิม

ส่วนกรเมื่อจับพิรุธผักบุ้งได้มากขึ้น เขาก็ขู่เธอให้บอกความจริง ผักบุ้งปากแข็งจนกรแกล้งขู่จะส่งตำรวจ ผักบุ้งจึงบอกความจริง กรทำเป็นไม่เชื่อแกล้งว่าผักบุ้งต่างๆ นานา ว่าหวังสมบัติของกุ้งนางจนผักบุ้งน้อยใจและเสียใจ เธอผิดหวังที่กรผู้ชายที่เธอรักไม่เข้าใจเธอเลย ผักบุ้งจึงต่อโทรศัพท์มือถือของกุ้งนางให้พูดกันเอง จนกรเข้าใจผักบุ้ง ( กุ้งนาง ) ตกลงจะกลับสู่ชีวิตเดิมของตัวเอง เพราะสงสารคนรอบข้าง เมื่อวางหูจากกุ้งนาง ผักบุ้งเสียใจที่กรใจร้ายกับเธอมาก จนไม่ยอมพูดด้วย ประชดกรด้วยฤทธิ์งอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผักบุ้งไม่รู้ตัวว่ายามที่เธอมีกิริยาอย่างผู้หญิงนั้นน่ารักหนักหนา และกรอดใจไม่ได้ต้องสารภาพรักกับเธอ

ก่อนวันนัดที่จะสลับตัวกัน สุธีก็ทำเรื่องยุ่งเสียก่อน เมื่อความโลภเข้าครอบงำ เขาหลอกผักบุ้งไปขังไว้ในโกดังร้างกลางทุ่ง สุธีสร้างเรื่องแนบเนียนมากจนไม่มีใครเดาได้ กรทนไม่ไหวจึงติดต่อกุ้งนางกับเผด็จ ทั้งคู่จึงซ้อนแผนโดยให้กุ้งนางกลับไปหาสุธี แล้วต่อว่าว่าสุธีทำร้ายเธอ เมื่อพับกันสุธีตกใจเมื่อเข้าใจว่ากุ้งนาง ( ผักบุ้ง ) รอดมาได้ เขาหลุดปากโวยวายออกมาเรื่องโกดังจนกรเดาได้ กรรีบไปช่วยผักบุ้งทันที่ เขาพบผักบุ้งอยู่ในสภาพที่หมดแรงเพราะขาดทั้งอาหารและน้ำ ผักบุ้งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตทันที สุธีจับ ส่วนผักบุ้งปลอดภัย

กุ้งนางเตรียมที่จะพาผักบุ้งมาอยู่ด้วย เธอตั้งใจจะไปขออนุญาตกับทองแข แต่แล้วทอแขกลับทำให้ทุกอย่างลงเอยอย่างง่ายดาย เมื่อเธอมาหาสาวน้อยทั้งคู่แล้วบอกว่าทั้งผักบุ้งและกุ้งนางต่างก็เป็นหลาน ของเธอทั้งคู่เป็นคู่แฝดกันแต่ผักบุ้งแฝดพี่นั้นถูกนวลผู้เป็นแม่อุ้มจากไป ตั้งแต่แบเบาะ เพราะปู่ของผักบุ้งและกุ้งนางไม่ยอมรับสะใภ้ เวลาผ่านไปจนวันหนึ่งปู่ของทั้งคู่เจ็บหนัก ก่อนตายจึงสั่งให้ทองแขตามหาสะใภ้และหลานซึ่งทองแขพยายามตามหานวลเพื่อจะรับ กลับมาทั้งนวลและผักบุ้ง แต่ก็ไม่พบเพราะว่านวลนั้นตายก่อนที่ปู่ของทั้งคู่จะตาย จนกระทั่งเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี

รายชื่อนักแสดง ผักบุ้งกับกุ้งนาง

จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น ผักบุ้ง / กุ้งนาง
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ แสดงเป็น ผู้กองเผด็จ
วัชรบูล ลี้สุวรรณ แสดงเป็น กร
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น มณี
น้ำทิพย์ เสียมทอง แสดงเป็น ดวงรัตน์
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร แสดงเป็น สุธี
ปัทมา ปานทอง แสดงเป็น อรสา

โบสีชมพู

โบว์ สาวสวยพนักงานต้อนรับที่สปอร์ตคลับแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านเช่า กับภรณี เพื่อนสนิทและเด็กชายนนท์ หลานชายสุดที่รัก คนภายนอกมักมองเธอว่าชอบคบหาแต่ผู้ชายรวยๆ เพื่อหวังจะแต่งงานด้วยแต่สาเหตุที่แท้จริง เป็นเพราะจันทร์ทิรา พี่สาวเพียงคนเดียวของเธอผิดหวังในความรัก จึงต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิต ทิ้งหลานไว้ให้เธอดูแล ทำให้เธอไม่คิดที่จะเชื่อใจผู้ชายคนไหนเลย ในความคิดของเธอเงินเท่านั้นที่จะบันดาลให้ทุกอย่างเป็นจริง สุรยุทธิ์เพื่อนบ้านซึ่งแอบรักโบว์อยู่เข้าใจตัวเธอทุกอย่าง เพราะความที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาจีบเธอ รวมถึงวีรศักดิ์ นักพนันตัวยง นอกจากนี้ยังมีเทียนชัย นักธุรกิจใหญ่ที่หมายมั่นปั้นมือจะแต่งงานกับเธอให้ได้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องตลึงเมื่อรู้ว่า ธีระเดช ชายหนุ่มที่กำลังมาติดพันเธอนั้นเป็นลูกชายของเทียนชัยนั่นเอง

กฤช พล ทายาทหนุ่มลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ เป็นอีกคนที่ไม่เชื่อในรักแท้เนื่องจากแม่ของเขาทิ้งพ่อไปมีรักใหม่จนพ่อ ต้องตรอมใจกฤชพลและชนาภาพี่สาวของเขาจึงต้องบริหารโรงแรมแทนพ่อ กฤชพลได้รู้จักกับโบว์ในวันที่เทียนชัยไปขอเธอแต่งงานที่สปอร์ตคลับ เรื่องวุ่น ๆ เกิดขึ้นเมื่อธีระเดชเดินทางมาที่สปอร์ตคลับเช่นกัน ทำให้โบว์ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ แต่กลับเป็นห้องน้ำชายซึ่งทำให้เธอได้เจอกับกฤชพล ซึ่งเดินออกจากห้องน้ำโดยที่ลืมแหวนเพชรเอาไว้ โบว์เห็นเข้าจึงลองหยิบมาสวมดู ปรากฎว่าถอดไม่ออก พอดีกฤชพลเดินย้อนกลับมาถามหาแหวนเพชรแต่โบว์ปฏิเสธ ทำให้ทั้งคู่เกิดปากเสียงกันขึ้น ธีระเดชเข้ามาพอดี และบอกกับกฤชพลว่าโบว์กำลังจะเป็นเจ้าสาวของเขา ยิ่งทำให้กฤชพลมั่นใจว่าโบว์ต้องเป็นนักต้มตุ๋นอย่างแน่นอน

ขณะ เดียวกันกับที่อรุณโรจน์ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับโบว์มาเห็นเข้าพอดีจึงไป ฟ้องผู้จัดการ และเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจโบว์จึงขอลาออก เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเอง ส่วนกฤชพลต้องการจะกระชากหน้ากากที่แท้จริงของโบว์ จึงวางแผนให้เทียนชัยมางานวันเปิดตัวฟิตเนสที่ชนาภาบริหารอยู่และให้ธีระเดช พาโบว์มาแนะนำให้เทียนชัยรู้จัก จนความจริงทุกอย่างปรากฎทำให้สองพ่อลูกต้องตกเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ เทียนชัยถูกถอดออกจากการเป็นผู้บริหารและกลายเป็นบุคคลล้มละลายถึงขั้นล้ม เจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล สุรยุทธิ์เป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจโบว์ในยามที่เธอไม่มีใคร ภรณีรู้สึกเห็นใจเธอไม่น้อยที่ต้องรับภาระเรื่องส่งเสียนนท์ อีกทั้งยังต้องหาเงินค่ารักษาให้กับจันทร์ทิราอีก ภรณีไปขอความช่วยเหลือจากวีรศักดิ์ให้ช่วยฝากโบว์ เข้าทำงานกับชนาภา ในฐานะผู้ช่วยที่โรงแรม

กฤชพลระแวงกลัวว่าวีรศักดิ์กับโบว์จะร่วม มือกันปอกลอกเงินทองจากชนาภา จึงสั่งให้เพ็ญพิมลเลขาสาวซึ่งแอบชอบเขาอยู่คอยเฝ้าจับตามอง โบว์ถูก กฤชพลใช้งานจนหัวปั่น แต่เธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากราตรีและปรีชา มีเพียงเพ็ญพิมลกับอรวรรณเท่านั้นที่ยังคอยแต่กลั่นแกล้งเธอ ยิ่งปรีชาช่วยเหลือโบว์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อรวรรณ รู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเพราะเธอแอบชอบปรีชาอยู่นั่นเอง ส่วนเพ็ญพิมลพยายามยุยงให้กฤชพลไล่โบว์ออกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จยิ่งกลับทำ ให้คนทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น ธีระเดชเข้าใจผิดคิดว่ากฤชพลต้องการใกล้ชิดกับโบว์ที่รับเธอเข้าทำงาน จึงไปที่บ้านของโบว์ด้วยความที่เมามากเขาคิดว่าภรณีเป็นโบว์จึงลวนลามเธอ ทำให้ภรณีโกรธมาก

ขณะเดียวกันโบว์กลับมาพอดีเลยได้โอกาสขอดโทษและ อธิบายเรื่องทุกอย่าง ธีระเดชพาโบว์ไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอโทษเทียนชัยสำหรับเรื่องที่ผ่านมาและขอ เป็นลูกสาวของเทียนชัยอีกคนหนึ่ง เธอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกับธีระเดช ธีระเดชรู้ว่าตัวเองทำผิดเลยทำทุกวิถีทางเพื่อตามง้อภรณีจนเธอใจอ่อน กฤชพลกับชนาภาไปร่วมงานวันแม่ที่โรงเรียนของนนท์ เพราะแม่ของเขาเป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนที่นั่น นนท์เก็บกระเป๋าสตางค์ของกฤชพลได้ ทำให้เขารู้สึกประทับใจในตัวนนท์มาก ต่อมานนท์เริ่มมีอาการป่วยเพราะมีก้อนเนื้องอกในสมอง ทำให้โบว์ตัดสินใจนำแหวนเพชรของกฤชพลไปขายให้กับธีระเดช นนท์รู้ว่าตัวเองต้องเข้ารับการผ่าตัดเลยแอบหนีไปหาแม่แต่เจอกับกฤชพลก่อน เขาพานนท์กลับบ้าน โบว์เข้าใจผิดคิดว่ากฤชพลจะแก้แค้นโดยการลักพาตัวนนท์

ทั้งคู่มีปาก เสียงกันโบว์พลั้งมือตบหน้าเขาอย่างแรง เมื่อความจริงปรากฎเธอจึงขอโทษเขา กฤชพลเข้าโบว์มากยิ่งขึ้นและทั้งคู่เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เพ็ญพิมลไม่พอใจอย่างมาก จึงร่วมมือกับอรวรรณจ้างคนมาฉุดโบว์แต่กฤชพลมาช่วยไว้ทัน โบว์ซาบซึ้งในตัวเขามากยิ่งขึ้น วีรศักดิ์เริ่มแผนชั่วโดยคบคิดกับอาลีอ้างเป็นเจ้าของโรงแรมที่ต่างประเทศ กำลังหาผู้ร่วมลงทุน โบว์แอบได้ยินจึงไปบอกกับกฤชพล พ่อของกฤชพลให้ โบว์สืบหาความจริงทำให้เธอเกือบเสียท่าวีรศักดิ์ เพราะเขาพาเธอเข้าโรงแรมม่านรูด โชคดีเธอหนีออกมาได้ และได้พบกับกฤชพลโดยบังเอิญ ทำให้เขาเข้าใจเธอผิดอีกครั้ง วีรศักดิ์หลอกเงินชนาภามาได้สิบล้านโดยอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุน

โบว์ รู้เข้าจึงแกล้งทำทีว่าจะแต่งงานกับวีรศักดิ์แต่มีข้อแม้ว่าวีรศักดิ์ต้อง โอนเงินทั้งหมดให้ก่อน เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาให้กับจันทร์ทิราและนนท์ ด้วยความหลงใหลในตัวโบว์เขาจึงยอมหมดทุกอย่าง สุรยุทธิ์และธีระเดชต่างไม่พอใจในการกระทำของโบว์ ภรณีไม่อยากให้เข้าใจผิดจึงยอมเล่าความจริงให้ทั้งคู่ฟัง กฤชพลโกรธวีรศักดิ์และโบว์อย่างมากที่รวมหัวกันหลอกพี่สาวของตน ส่วนโบว์ตัดสินใจนำแหวนของกฤชพลไปคืนโดยแอบเข้าไปในห้องนอนของเขาพอดีกฤชพล เข้ามาเจอ ด้วยความโกรธกฤชพลจึงปลุกปล้ำเธอ และได้รู้ว่าโบว์เป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ เขารู้สึกผิดมาก ธีระเดช โบว์ และเพื่อน ๆ ของกฤชพลร่วมมือกันวางแผนกระชากหน้ากากของอาลีและวีรศักดิ์

ธี ระเดชมอบเอกสารทั้งหมดให้กับตำรวจ อาลีและวีรศักดิ์ไหวตัวทันจึงวางแผนที่จะหนีแต่โบว์พยายามถ่วงเวลาเอาไว้จน กระทั่ง อาลีมาถึงจึงขัดขวางและเกิดการต่อสู้ วีรศักดิ์ใช้โบว์เป็นที่กำบังทำให้โบว์โดนยิง ส่วนอาลีถูกตำรวจยิงตายคาที่โชคดีที่โบว์ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนจึงได้รับ บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ต่อมาพ่อของกฤชพล และธีระเดชเล่าความจริงให้กฤชพลฟัง เขาเสียใจที่เข้าใจโบว์ผิดมาตลอด จึงตามไปขอโทษเธอที่โรงพยาบางแต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายภรณียอมใจอ่อนบอกที่อยู่ของโบว์โดยมีธีระเดช ภรณี สุรยุทธิ์ ชนาภา จันทร์ทิรา และนนท์ ถือโอกาสตามไปด้วย โบว์ดีใจมากที่พี่สาวและหลานมีอาการดีขึ้น ทำให้คลายความโกรธในตัว กฤชพล และทั้งคู่ได้ตัดสินใจกลับมาคบหากันอีกครั้ง

รายชื่อนักแสดง โบสีชมพู

ชาคริต แย้มนาม แสดงเป็น กฤชพล
แอนจี้ เฮสติ้ง แสดงเป็น โบว์
พิเชษฐไชย ผลดี แสดงเป็น ธีระเดช
วรรณวลัย โปษยานนท์ แสดงเป็น ภรณี
ยุทธพิชัย ชาญเลขา แสดงเป็น วีรศักดิ์
กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ แสดงเป็น ชนาภา
ณัฐนันท์ คุณวัฒน์ แสดงเป็น สุรยุทธิ์
พุทธชาด พงษ์สุชาติ แสดงเป็น อรุณโรจน์

บ้านภูตะวัน

ที่สวนสาธารณะกลางกรุง ตะวัน หรือ สุริยฉาย สุริยะ ทายาทพิการแห่งบ้านภูตะวันเกือบถูกโจรเชือดคอกลางวันแสกๆ ถ้าไม่ได้ แดง รัชดา หญิงสาวผู้ปราดเปรียวเสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วย พร้อมๆ กับ ร.ต.อ.สัณฑ์ ยอดบางไผ่ นายตำรวจหนุ่มสมาร์ทที่พุ่งเข้ามาต่อสู้ล็อคคนร้ายไว้ได้ มิตรภาพอันงดงามระหว่างสองสาว หนึ่งหนุ่มจึงเกิดขึ้น…ตะวันแอบรักสัณฑ์อยู่เงียบๆ และผูกพันเชื่อใจแดงรัชดาเหมือนพี่สาวแท้ๆ จนเมื่อสัณฑ์ได้รับทุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ไปเรียนต่อต่างประเทศด้าน อาชญวิทยา สามหนุ่มสาวก็ห่างกันไป ตะวันเฝ้ารอวันที่จะได้พบพี่สาวและชายผู้เป็นที่รักอยู่บ้านภูตะวัน อาณาจักรใหญ่มูลค่าพันล้าน ซึ่งพ่อแม่ทิ้งไว้ให้หลังการตายปริศนา โดยการดูแลของ แม่เลี้ยงแสงเพ็ญ น้าสาวของตะวัน และบุญน้อม พี่เลี้ยง

เวลา ผ่านไป 2 ปี สัณฑ์บินกลับมาพร้อม แสงระวี สาวเปรี้ยวที่ใช้ชีวิตด้วยกันในต่างแดน ทันทีก็เจอคดียากหลายคดีติดๆ กัน ในเวลานั้นความรักที่สัณฑ์มีให้แสงระวีและภารกิจที่ต้องตามจับฆาตกรที่ฆ่า เพื่อนสนิทของสัณฑ์ ทำให้สัณฑ์ลืมเวลาดีๆ ที่เคยมีกับตะวันและแดงรัชดาไปสนิทใจ ตรงข้ามกับตะวันที่เฝ้าตามหาคนทั้งสอง และแอบเศร้าอยู่เงียบๆ กับภาพวาดของแดงรัชดาที่ตะวันเขียนไว้ที่ใต้ภาพว่า พี่สาวที่แสนดี และภาพชื่อ อยู่ไกล ซึ่งเป็นภาพวาดของสัณฑ์ เสธ.ประชา พ่อของสัณฑ์เป็นนักการเมืองชื่อดัง ภาพภายนอกเป็นนักบุญแต่ฉากหลังคือ มาเฟียใหญ่ที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สัณฑ์ไม่เคยล่วงรู้เบื้องหลังเลยว่าที่แท้ ประชา คือผู้บงการฆ่า

สัณฑ์ สืบทุกคดีปริศนา โดยได้หมวดแทนตำรวจรุ่นน้องเป็นคู่หูคู่ใจ ปัญหาก็คือ ฆาตกรไม่เคยทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้แม้สักครั้งเดียว สัณฑ์จึงวางแผนแนบเนียนให้ทุกคนเข้าใจว่าลาพักงาน ขณะที่เร่งฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย เรียนรู้วิธีคิดอย่างนักฆ่า เพื่อเข้าถึงใจฆาตกรได้ แดง รัชดา พยายามเข้าใกล้สัณฑ์และกลั่นแกล้งแสงระวีด้วยความหมั่นไส้ ขณะที่แสงระวีก็ตั้งแง่รังเกียจตะวันที่สัณฑ์ให้ความสนิทสนมด้วย ไม่มีใครรู้ว่า แดง รัชดา เจ้าของร้านดอกไม้ผู้ปราดเปรียวคือนักฆ่าฝีมือฉกาจ ในซุ้มของ ยอดศึก ซึ่งมี เกรียงเพชร เป็นครูฝึกที่เข้มงวด ซึ่งนอกจากแดงรัชดาแล้ว ซุ้มนี้ยังมี แดง คลองเตย และ แดง รามอินทรา ทั้งสามเป็นเด็กเร่ร่อนที่ยอดศึกเก็บมาเลี้ยง ยอดฝีมือทั้ง 3 ทำงานได้แม่นยำและไม่เคยทิ้งร่องรอย

เสธ.ประชามี ความสัมพันธ์ลับๆ กับแม่เลี้ยงแสงเพ็ญ ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังการตายของพ่อแม่ตะวันเป็นฝีมือแม่เลี้ยงแสงเพ็ญที่ ต่อหน้าใครๆ ก็ใส่หน้ากากเป็นคนดี แสงเพ็ญจำต้องเลี้ยงหลานพิการเพราะพินัยกรรมได้ระบุไว้ว่า ถ้าตะวันเป็นอะไรไป มรดกทั้งหมดจะถูกยกให้การกุศล แม่เลี้ยงแสงเพ็ญจึงคิดแผนให้ตะวันแต่งงานกับสัณฑ์พอสมบัติเปลี่ยนมือก็ค่อย เก็บตะวัน ติดอยู่ที่ว่าสัณฑ์มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ แสงระวี เสธ.ประชาจึงช่วยวางแผนเช่าสัณฑ์จากแสงระวีไปเป็นเจ้าบ่าวของตะวันเป็นเวลา 3 เดือน แสงระวีปฏิเสธในตอนแรก แต่ก็ต้องจำยอมในภายหลังเพราะเพิ่งมารับรู้ความจริงว่าบ้านกำลังจะถูกยึด ครอบครัวจะล้มละลาย แต่แสงระวีก็มั่นใจเต็มร้อยว่าสัณฑ์จะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากเธอแน่นอน

ส่วน สัณฑ์เองก็ไม่ยอมแต่งงานในตอนแรก ประชาต้องสร้างเรื่องว่าที่อยากให้สัณฑ์แต่งงานเพราะผู้หญิงที่จะเป็นเจ้า สาวของสัณฑ์ คือ ลูกสาวของคนที่เคยมีบุญคุณกับตน อยากให้สัณฑ์เป็นตัวแทนตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ สัณฑ์หนักใจ แต่บังเอิญภารกิจที่ทำอยู่ทำให้สัณฑ์คิดวางแผนให้ตัวเองออกจากตำรวจเพื่อตบ ตาเหล่านักฆ่า สัณฑ์เลยต้องทำตัวให้เป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ถูกบังคับให้แต่งงาน เพื่อจะได้พรางตัวให้ทำงานได้สะดวกขึ้นและไม่เป็นเป้าของพวกนักฆ่าอีกต่อไป สัณฑ์เดินทางสู่บ้านภูตะวัน จึงได้รู้ความจริงว่าคนที่จะต้องแต่งงานด้วยคือ ตะวัน ผู้หญิงพิการผู้น่าสงสาร ภาพอดีตที่เคยผูกพันก็ย้อนกลับเข้ามาในความรู้สึกสัณฑ์อีกครั้ง

แสง เพ็ญวางแผนให้ทั้งคู่รักกัน จึงให้สัณฑ์จัดงานวันเกิดเซอร์ไพรส์ตะวัน คืนนั้นตะวันกับสัณฑ์ถูกลักพาตัวโดยคู่แข่งทางการเมืองของประชา สัณฑ์พาตะวันหนีรอดออกมาได้แต่บาดเจ็บสาหัส ตะวันคอยดูปรนนิบัติสัณฑ์ ความใกล้ชิดทำให้สัณฑ์เห็นความน่ารักอ่อนโยน และจริงใจ ก็ยิ่งเกิดความสงสาร จากความรู้สึกดีที่เคยมีให้กันในอดีตก่อเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว แสงระวี มั่นใจมาตลอดว่าสัณฑ์มีเธอคนเดียว เริ่มหึง จึงวางแผนพาตัวเองไปยังบ้านภูตะวัน โดยใช้ให้ศรีวรา น้องสาวไปสมัครเรียนศิลปะกับตะวัน

แสงเพ็ญพอรู้ว่าแสงระวีมา อาละวาดที่บ้านภูตะวัน ก็ออกโรงตบสั่งสอนไม่ให้ยุ่งกับตะวันอีก แต่แสงระวีไม่ยอม สัณฑ์แม้จะรักตะวันแต่ก็รู้สึกผิดกับแสงระวี ประชาจึงแก้ปัญหาด้วยการบอกสัณฑ์ตรงๆ ว่าที่แสงระวียอมให้สัณฑ์แต่งงานกับตะวันเพราะตนเช่าสัณฑ์จากแสงระวี อยู่ๆ ซุ้มยอดศึกที่เคยรับงานฆ่าจากตัวแทนของประชา ก็ได้รับคำสั่งจากกลุ่มคนนิรนามให้ฆ่าประชา พ่อของสัณฑ์ เกรียงเพชร นำทีมสามแดงออกปฏิบัติงานลอบสังหารประชา แผนแยบยลขนาดมดก็ลอดหนีไปไม่ได้หลังจากยิงประชาแล้ว ทั้งสามต้องถอยห่างออกจากวงการนี้ตลอดกาล แต่พอกลับถึงซุ้มก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อยอดศึกเปิดให้ดูเทปข่าวที่เสธ.ประชาไปอภิปรายอยู่อีกที่หนึ่ง เสธ.ประชารอดตายเพราะมีตัวแทนไปในทุกที่ ไม่มีใครรู้ว่าคนไหนเป็นตัวจริง ยอดศึกรู้ว่าจุดอ่อน ของประชาคือผู้หญิง จึงส่งแดงรัชดาไปฆ่าประชา แดง รัชดา จำต้องรับงานนี้ด้วยความกดดันเพราะที่ต้องลงมือฆ่าพ่อคนที่ตัวเองรัก

ยอด ศึกส่งเกรียงเพชร แดง คลองเตย และแดง รามอินทรา ไปช่วย แดง รัชดา ซึ่งปลอมตัวเป็นหมอนวดเข้าไปในเซฟเฮ้าส์ของประชา ระหว่างลงมือประชารู้ตัว เกิดการต่อสู้ เกรียงเพชรพาลูกศิษย์ที่สะบักสะบอมกลับมาที่ซุ้ม แดง คลองเตย กับ แดง รามอินทรา บาดเจ็บสาหัส ส่วน แดง รัชดา เป็นตายเท่ากัน เมื่อรู้ว่าสัณฑ์หมดรักในตัวเองแน่แล้ว แสงระวีจึงคิดแผนแกล้งทำดีกับตะวันเพื่อที่จะอยู่ภูตะวันต่อไป แต่ลับหลังก็แกล้งผลักตะวันตกน้ำ และผลักตกภูเขา ตะวันไม่กล้าบอกใครว่าเป็นฝีมือแสงระวีจนแอบได้ยินแสงเพ็ญคุยกับประชาว่า หลังแต่งงานพอได้สมบัติก็จะฆ่าตะวันให้เหมือนกับที่ทำกับพ่อและแม่ ตะวันได้ยินการสนทนาทั้งหมด ตกใจมากคิดได้แต่ว่าเมื่อยังไม่แต่งก็ไม่ตาย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านพร้อมบุญน้อมด้วยความเสียใจและไม่ไว้ใจสัณฑ์อีกต่อ ไป

ตะวันหนีมาหา แดง รัชดา แต่กลับพบ แดง รามอินทรา ซึ่งปลอมตัวเป็น อินทิรา คนขายดอกไม้ พร้อมแต่งเรื่องว่า แดง รัชดา ไปศัลยกรรมใบหน้าที่ญี่ปุ่น เพราะได้รับอุบัติเหตุ และพาตะวันไปอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ยอดศึก ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นพ่อของ แดง รัชดา ตะวันประทับใจในความอบอุ่นและเป็นสุภาพบุรุษของยอดศึก จนยอมเปิดปากเล่าเรื่องที่ตนต้องหนีงานแต่งงานมา ยอดศึกจึงคิดแผนให้ แดง รัชดา ปลอมตัวเป็นตะวันเพื่อฆ่าประชา

ที่ภูตะวัน พอตะวันหายไปก็ค้นหากันจ้าละหวั่น แสงเพ็ญให้คนของประชาจับแสงระวีมาคาดคั้นหาความจริงแต่ก็ไม่ได้อะไร สัณฑ์ออกตามหาตะวันไปทั่วก็ไม่พบ แสงเพ็ญเครียดจัด แต่แล้วตะวันก็กลับมาพร้อมพี่เลี้ยงใหม่เป็นกระเทยตัวสูงใหญ่นาม เจ๊เกรียง ไม่มีใครรู้ว่าตะวันตอนนี้คือแดง รัชดา ปลอมตัวมา ตะวันอ้างไม่ได้หายไปไหนแต่ไปเที่ยว สนุกจนลืมติดต่อกลับมา ส่วนบุญน้อมตอนนี้อยู่ดูแลญาติที่ทางใต้ สัณฑ์ขอให้จัดการแต่งงานตามกำหนดเดิม แต่แสงเพ็ญต้องฝันค้างเมื่อศรีวราเข้ามาประกาศว่าแสงระวีหายไป สัณฑ์ขอเลื่อนการแต่งงานอีกครั้ง แสงเพ็ญบอกให้ประชาฆ่าแสงระวีซะ แต่ประชาเกรงว่าการตายของแสงระวีจะยิ่งทำให้สัณฑ์เลื่อนการแต่งงานออกไป

ยอด ศึกค่อยๆ ฝึกตะวันให้เข้มแข็งทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยมี คณิน คอยดูแลอำนวยความสะดวก จนในที่สุดตะวันกลับมาเดินได้อีกครั้งพร้อมความแค้นในอกเรื่องพ่อแม่ตาย สัณฑ์ให้หมวดแทนสืบเรื่องแสงระวีกับ แดง รัชดา ที่หายไป รวมทั้งแสงเพ็ญ สัณฑ์สงสัยว่าการหายไปของ แสงระวี จะเป็นฝีมือของแสงเพ็ญ หมวดแทนตาม แดง รามอินทรา ไปจนถึงบ้านยอดศึก เก็บภาพคนในบ้านรวมทั้งบุญน้อม ยอดศึกตัดสินใจส่งตะวันกลับไปอยู่บ้านภูตะวันกับอินทรา โดยอ้างเรื่องให้ไปสืบเรื่องพ่อแม่ที่ตายปริศรา ในนาม จันทร์ คนสวนฝีมือดีแต่หน้าตาอัปลักษณ์ จันทร์เกือบทำแผนแตกเมื่อเห็นตะวันปลอมนั่งรถเข็นผ่านมา แต่อินทราเตือนว่าจะทำให้งานใหญ่จะเสีย จันทร์ปักใจว่าตะวันปลอมต้องเป็นคนของแสงเพ็ญ จันทร์พยายามหลบหน้าสัณฑ์ที่ดูจะสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้หน้าคล้ายตะวันนัก

ตะวัน ตัวปลอมเองก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัว สิ่งที่ลำบากสุดของ แดง รัชดา คือ การที่ต้องแกล้งทำรักเจ้าเหมียวตัวโปรดทั้งที่ตัวเองแพ้ขนแมว หลายครั้ง แดง รัชดา หลุดความเป็นตัวเองออกมาเช่น ชอบแต่งหน้าจัด ฉีดน้ำหอม ตลอดจนคำพูดที่ห้าวหาญผิดจากเดิม แต่เมื่อถูกทักก็เอาตัวรอดได้หลายครั้ง ความอบอุ่น อ่อนโยนของ สัณฑ์ ทำให้ แดง รัชดา ยิ่งถลำลึก ความกล้าของ แดง รัชดา ในคราบตะวัน ทำให้สัณฑ์แปลกใจในบางครั้ง เจ๊เกรียงต้องคอยเตือนอ้างเรื่องกลัวแผนแตก แต่ลึกๆ แล้วเหตุผลก็คือ เกรียงเพชรรัก แดง รัชดา เกินศิษย์อาจารย์มาตลอด

แดง รัชดา ในคราบตะวันถามสัณฑ์ว่าทำไม่ไม่รักพี่แดง สัณฑ์บอกว่า แดงเหมาะจะเป็นเพื่อน เพราะตอนนี้ทั้งหัวใจมีแต่ตะวัน พอพ้นสายตาสัณฑ์ แดง รัชดา ก็ออกอาการเจ็บปวดหัวใจ กระชากหน้ากากหนีออกจากบ้านเข้าไปในป่า เกรียงเพชรตามไปปลอบจน แดง รัชดา โอนอ่อนเห็นใจในความรักของเกรียงเพชร จันทร์เข้ามาสืบเรื่องตะวันปลอมเจอสัณฑ์ ก็รีบดึงปานดำปลอมออกกลับมาเป็นตะวันตามเดิม ด้วยความรักที่มีเต็มหัวใจ ตะวันใจอ่อนขอใกล้ชิดสัณฑ์อีกครั้ง แดง รามอินทรามองเหตุการณ์ของสองคู่ด้วยความลำบากใจรีบรายงานยอดศึก

หมวด แทนสืบจนรู้ว่า แดง รัชดา แดง คลองเตย และ แดง รามอินทรา เป็นบุคคลที่ไม่มีตัวตน ระหว่างนี้ยังสืบได้ว่า แสงเพ็ญมีสัมพันธ์ลับกับประชา พอสัณฑ์รุกหนักกดดันจนประชาต้องปล่อยแสงระวีออกมา ในสภาพถูกวางยาจนเบลอจำอะไรไม่ได้ จันทร์เองก็สืบค้นจนรู้ว่าแสงเพ็ญส่งเงินให้ครอบครัวคนงานดีเด่น จึงส่งบัตรสนเท่ห์ให้สัณฑ์ พอสัณฑ์ไปสืบคนงานก็ถูกฆ่าตายในคุกแล้ว และคนงานนี้คือคนที่ขับรถชนพ่อแม่ตะวัน สัณฑ์คิดว่าบัตรนี้น่าจะมาจากลูกผู้ตาย จึงถามความกับตะวันตัวปลอม แต่ แดง รัชดา กลับงง ไม่รู้เรื่อง สัณฑ์ได้แต่เก็บความสงสัยไว้

สัณฑ์ออก อุบายชวนหมวดแทนแกล้งทำอุบัติเหตุขับรถชนรั้วบ้านยอดศึก จนเข้าไปในบ้าน แต่พบแค่ยอดศึกกับคณิน ยอดศึกตัดสินใจฆ่าบุญน้อมทิ้ง แดง คลองเตย ตามล่าสังหารหมวดแทน แต่โชคยังดี หมวดรอดมาได้ แต่ก็สะบักสะบอม สัณฑ์ลุยไปบ้านยอดศึกด้วยความแค้น เชื่อว่านายแดง คลองเตย คือคนไล่ยิง แต่พบเพียงบ้านว่างเปล่าไร้ผู้คนกับหลักฐานว่าบุญน้อมได้ตายแล้ว แสงระวีฟื้นขึ้นมาก็อาละวาด บุกบ้านภูตะวันเพื่อแก้แค้น ตะวันตัวปลอมแสร้งทำเป็นสงสาร แต่พอลับตาคนก็ถีบแสงระวีตกน้ำให้เหมือนกับที่เคยทำกับตะวัน แสงระวีโวยวายว่าถูกตะวันแกล้งแต่ไม่มีใครเชื่อ แต่สัณฑ์กับแสงเพ็ญเริ่มระแวงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของตะวัน

ยอดศึก หายตัวลึกลับแม้แต่เกรียงเพชรก็ไม่สามารถติดต่อได้ แดง รัชดา ไม่รู้ว่าจะทำงานไปเพื่ออะไรอีก จึงบอกกับเกรียงเพชรให้หนีไปด้วยกัน เกรียงเพชรปฏิเสธเพราะรู้ว่าไม่มีใครหนีเงื้อมมือยอดศึกพ้น กล่อมให้ แดง รัชดา ทำภารกิจจนสำเร็จ แล้วค่อยวางมือ เมียคนงานที่ตายมาขู่แสงเพ็ญ บังเอิญแสงระวีมาแอบได้ยิน จึงใช้เป็นข้อต่อรองกับแสงเพ็ญ ว่า หากฆ่าตน แสงเพ็ญคือผู้ต้องสงสัยลำดับแรก ถ้าไม่โวยก็จะรอดตัว หลังจากลงทุนลงแรงด้วยชีวิตกับการรอคอยครั้งนี้ ภารกิจของนักฆ่าจะบรรลุหรือไม่ สัณฑ์จะปกป้องพ่อตัวเองอย่างไร และตะวันจะมีโอกาสได้เปิดเผยตัวจริงกับสัณฑ์หรือไม่ ในวันแต่งงานที่กำหนดไว้เป็นวันสังหารจะเกิดอะไรขึ้น ติดตามชมได้

รายชื่อนักแสดงละคร บ้านภูตะวัน

ธนา สุทธิกมล แสดงเป็น สันต์
จีรนันท์ มะโนแจ่ม แสดงเป็น ตะวัน
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ แสดงเป็น แดง รัชดา
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ แสดงเป็น เกรียง
กัลยณัฐ สีบุญเรือง แสดงเป็น แสงระวี
นพพล โกมารชุน แสดงเป็น ยอดศึก
อุทุมพร ศิลาพันธ์ แสดงเป็น แม่เลี้ยงแสงเพ็ญ

ในเรือนใจ

กรพินธุ์ หรือ พิณ ( ปิยธิดา วรมุสิก ) หญิงสาวผู้เงียบขรึม ที่สูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก เพราะความรักที่แตกร้าวของอาจอง ( อรรถชัย อนันตเมฆ ) ผู้เป็นพ่อ ทำให้พิณเป็นผู้หญิงชอบเก็บตัว แต่กฤษณะ ( เผ่าทอง ทองเจือ ) และคุณหญิงอังคณา ( พนารัตน์ บุญนาค ) พ่อแม่บุญธรรมของเธอ ก็สามารถขอร้องแกมบังคับให้เธอออกงานมาเจอกับผู้คนจนได้ วันหนึ่งที่เธอได้พบกับ กันตยศ หรือ กัน ( ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ) ชายหนุ่มที่ภายนอกดูแสนดี แต่กลับมีอดีตที่เลวร้าย ถึงขั้นเคยปอกลอกและทำร้ายร่างกายผู้หญิงที่เป็นคนรักมาแล้วหลายต่อหลายคน เมื่อครั้งที่เรียนอยู่ที่เมืองนอก จนเพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดรู้นิสัยของเขาดี

กันตยศได้แรงสนับสนุนจาก คุณเขมิกา ( สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ) ผู้เป็นแม่ให้หมั่นไปมาหาสู่กับพิณไว้ เพราะครอบครัวของพิณเพียบพร้อมไปทุกด้าน แม้ว่าโกศล ( ดิลก ทองวัฒนา ) ผู้เป็นพ่อจะไม่ค่อยพอใจนักก็ตาม ด้วยความสนิทสนมกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย กันตยศจึงสามารถเข้าใกล้ตัวพิณได้อย่างสะดวก คุณหญิงอังคณาก็เห็นว่ากันตยศดูเรียบร้อย ต่งจากธีรเดช ( อรรถวิทย์ อภิธนัง ) ลูกชายนักการเมืองที่มาติดพันพิณอยู่ จึงอยากให้พิณมีคนดูแลที่ดี จึงตกลงยกพิณให้แต่งงานกับกันตยศ แต่อาจองไม่ยอม เพราะอาจองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้ถึงอดีตที่แสบสันของว่าที่ลูกเขยดี จึงคัดค้านไว้ก่อน งานแต่งจึงต้องเปลี่ยนเป็นงานหมั้นไปตามระเบียบ

งาน หมั้นที่จัดอย่างใหญ่โตหรูหราทำให้หลายคนอิจฉาว่าที่บ่าวสาวคู่นี้เป็นอย่าง ยิ่ง แต่ในวันนั้นเองที่กันตยศต้องหวาดหวั่น เพราะความเป็นวัวสันหลังหวะ เพราะคมกฤช หรือ โก้ ( แซม โชติบัณฑ์ ) ญาติผู้พี่ที่รู้อดีตของเขาดีได้ปรากฏตัวขึ้นในงานนั้นเอง แถมยังมีอีกคนหนึ่งที่รู้ลึกถึงอดีตอันแสบสันของกันตยศเป็นอย่างดีนั่นคือ ตรีทิพย์ หรือ สาม ( วาโย เกียรติกนก ) เพื่อนสนิทของพิณนั่นเอง งานนี้เพื่อนๆ ของพิณและเพื่อนๆ ของกันก็มาด้วย บดีศร ( ปัญญาพล เดชสงค์ ) เห็นนวพิธ หรือ น้อง ( ภารดี อยู่ผาสุข ) ก็เกิดติดใจทาบทามให้ไปเป็นนางแบบ แต่อารดี ( ภัสรี กังวานพงศ์ ) เพื่อนสาวสุดเปรี้ยวของพิณก็กลับเสนอตัวอย่างไม่กลัวน่าเกลียด

บดีศร เห็นว่าอารดีน่าจะยอมให้เขาง่ายๆ จึงคิดหลอกเล่นๆ แต่อารดีไม่ได้เป็นอย่างที่บดิศรคิด รวมพล ( สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล ) เพื่อนร่วมก๊วนกับบดีศรเห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้พาลหาเรื่องอารดีอยู่เสมอ กันตยศหวั่นกลัวว่าคมกฤช จะบอกเรื่องร้ายๆ ในอดีตของเขาให้พิณรู้ เขาจึงต้องเล่าสิ่งที่เขาเรียกว่าความจริงแต่เป็นเพียงครึ่งเดียวให้พิณฟัง ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้พิณรู้สึกอะไรเลยจนกันตยศเริ่มไม่แน่ใจว่าพิณคิดเช่นไรกับ ตนกันแน่ แต่เขาก็ตั้งใจจะรอจนถึงหนึ่งปีตามที่พิณตกลงไว้ว่าจะแต่งงานด้วย อาจองกลัวว่าพิณจะใจอ่อน จึงส่งโก้ให้มาทำงานใกล้ชิดกับพิณ นั่นยิ่งทำให้กันตยศหัวเสียเข้าไปใหญ่ ถึงขั้นทิ้งงานการมาเฝ้าพิณที่ทำงานเลยทีเดียว

จนบดีศรต้องแนะแผน ใหม่ให้กันตยศห่างพิณไปบ้าง เขาจึงใช้โอกาสนี้หวนกลับไปเล่นการพนันดังเดิม แม้เรื่องนี้จะรู้ถึงหูพิณ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาเล่นสนุกๆ แต่อาการของเพื่อนสาวและโก้ก็ทำให้เธอเคลือบแคลงอยู่หลายครั้งว่ากันตยศต้อง มีสิ่งใดเคลือบแฝงอยู่แน่ วันหนึ่งที่บริษัทของกันตยศจัดทัวร์พานักขายมือทองของบริษัทไปเที่ยวยังต่าง ประเทศ เขาจึงชวนพิณ ไปด้วยเพื่อหวังจะได้ใกล้ชิดกันที่นั่น แต่ทริปนี้สนุกกว่าที่คิด เพราะผู้ที่พ่วงไปด้วยนั้นมีทั้งตรีทิพย์ และคมกฤช ซึ่งเรียกว่าถูกอาจองบังคับมาก็ว่าได้ แต่กันตยศก็ยังชื่นใจที่มีบดีศรและรวมพลไปด้วย ทางฝ่ายพิณก็ชวนอารดีและนวพิธไปด้วย พิณรู้สึกดีต่อโก้ขึ้นมามากแล้ว จากในตอนแรกที่แทบจะเรียกได้ว่าคู่กัด เธอได้เห็นความจริงจังของเขาจาการทำงานด้วยกัน ทำให้เธอเริ่มรู้สึกลึกๆ อยู่ในใจ แต่เธอก็กลัวจะซ้ำรอยเดิมของแม่ จึงต้องเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้คนเดียว

การไปทัวร์ครั้งนี้ ทำให้กันตยศได้พบกับคนที่ไม่คาดฝัน จิลลา ( สิริพรรณ หลิมวิจิตร ) หญิงสาวที่เคยโดนเขาปลอกลอกมาจนแทบหมดตัว กันตยศหวาดระแวงว่าความลับจะถูกเปิดเผย แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงอยู่ใกล้พิณให้มากที่สุดเท่านั้น ในขณะเดียวกันกับที่รวมพล ซึ่งคอยตามหาเรื่องอารดีจนเผลอหลุดปากว่าเธอเสียๆ หายๆ ทำให้เธอรู้ว่าบดีศรนำเธอไปพูดเช่นไรเมื่ออยู่กับเพื่อนๆ อารดีโกรธจัดถึงกับเปลี่ยนทีท่าเป็นไม่ใยดีบดีศรไปเลย รวมพลจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเข้าใจอารดีผิดไป และแล้ววันหนึ่ง ในขณะที่กำลังเที่ยวชมทิวทัศน์อย่างสนุกสนาน พิณก็พลาดพลั้งตกเขาไป แต่ผู้ที่วิ่งไปช่วยเธอเป็นคนแรกกลับเป็นโก้ นี่เองที่ทำให้เธอรู้ซึ้งถึงหัวใจของตัวเอง จนร้องไห้ออกมาให้เขาเห็นเป็นครั้งแรก เขาโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน แต่ทั้งสองรู้ดีว่าเขาและเธอมีภาระใดวางอยู่ตรงหน้า

ภาพความรักหวาน ซึ้งของทั้งคู่ ถูกนวพิธถ่ายรูปเก็บไว้ และภาพนั้นก็ตกถึงมือกันตยศ นวพิธแอบหลงรักกันตยศตั้งแต่เมื่อไหร่เธอก็ไม่รู้ตัว แต่ความรักก็ทำให้เธอเห็นแก่ตัวพอที่จะทำร้ายเพื่อนได้ กันตยศโกรธจัด จึงเผลอทำร้ายร่างกายพิณ ต่อหน้าทุกคนจนโก้ต้องเข้าไปช่วย แต่กันตยศกลับพาลหันมาเล่นงานตรีทิพย์ เลยกลายเป็นเปิดโปรงตัวเองโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดพิณก็ได้รู้ความจริงในสิ่งที่เธอเคลือบแคลงมานาน เธอจึงไม่รู้สึกผิดอีกต่อไปที่จะทอดทิ้งผู้ชายไม่จริงใจคนนี้ แต่แน่นอนรักแท้ย่อมมีอุปสรรค เรือ่งรักที่เกิดระหว่างความสับสน และกำแพงหัวใจที่เธอก่อร่างมาเนิ่นนาน จะเป็นเช่นไรต่อไป ติดตามได้ในละคร “ในเรือนใจ” ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7

รายชื่อนักแสดงละคร ในเรือนใจ

แซม โชติบัณฑ์ แสดงเป็น คมกฤช ( โก้ )
ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น กรพินธุ์ ( พิณ )
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ แสดงเป็น กันตยศ ( กัน )
ภัสรี กังวานพงศ์ แสดงเป็น อารดี
วาโย เกียรติกนก แสดงเป็น ตรีทิพย์
ภารดี อยู่ผาสุข แสดงเป็น นวพิธ
ปิยะวรรณ จิตนาธรรม แสดงเป็น กัลยา
ปัญญาพล เดชสงค์ แสดงเป็น บดีศร
สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล แสดงเป็น รวมพล