โบตั๋น เป็นเรื่องราวของหญิงสาว ชาวจีน จิตใจดีงาม สู้ชีวิต ที่อพยพมาอยู่เมืองไทยพร้อม เตี่ย โดยเข้ามาทำมาหากิน เช่าที่ปลูกผักขาย ได้พบและรักกับ จักรกฤษ ลูกชายของ คุณนายกุหลาบ เจ้าของที่ดิน แต่ คุณนายกุหลาบรังเกียจที่ โบตั๋น จน และได้เตรียมว่าที่ลูกสะไภ้ สาวสวย โก้หรู ไว้ให้จักรกฤษแล้ว แต่ด้วยความรักที่ จักรกฤษ และ โบตั๋น มีให้กันจึงแอบได้เสียกัน จักรกฤษ ไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยไม่รู้ว่า โบตั๋น เริ่มตั้งท้อง… หลังคลอดลูกสาว คุณนายกุหลาบกุเรื่องใส่ร้ายว่ามีชู้ เตี่ยไม่สบาย ต้องการเงินไปรักษา เลยทำให้ต้องถูกหลอกไปขายซ่อง… เรื่องราวชีวิตอันแสนรันทด ของ โบตั๋น จะสิ้นสุดลงหรือไม่ และเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามในละคร… โบตั๋น
Category Archives: ละครปี 2546
เบญจา คีตา ความรัก
เสียงดนตรีไทยดังก้องไปทั่วตึกแถว ซอมซ่อ ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่หน้าซูเปอร์มาเก็ตเมกะสโตร์ขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง ตึกแถวแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ สัมปรายภพพาณิชย์ ศูนย์รวมนิวาสถานสำหรับผู้ที่หลับไม่ตื่น ให้บริการจำหน่ายโลงศพทุกประเภท รวมทั้งจัดส่งและตกแต่งศพนอกสถานที่ นายกล้า สานต่อกิจการสุจริตมาตั้งแต่รุ่นปู่ ภาคภูมิใจกับสัมมาอาชีพของตนเป็นหนักหนา และความภูมิใจนี้เองที่ถูกถ่ายทอดมายัง แก้วเจ้าจอม ลูกสาวคนเดียวอย่างเต็มเปี่ยม แก้วเจ้าจอมร่วมต่อสู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับพ่อ ยับยั้งการกระทำทุกวิถีทางจากเจ้าของห้างฯ ที่พยายามกำจัดร้านขายโลงศพของเธอ เพราะเห็นว่าเป็นร้านอัปมงคลตั้งขวางหูขวางตาขัดฮวงจุ้ยขัดโชคลาภทำให้เม็ด เงินไม่ไหลเข้าห้างได้สะดวก แต่ด้วยความร่วมมือของสองพ่อลูก ทำให้ทั้งคู่สามารถยืนหยัดรักษาร้านขายโลกศพอันเป็นมรดกสำคัญไว้ได้อย่าง สบายใจ
สิ่งเดียวที่สองพ่อลูกไม่ลงรอยกันคือ รสนิยมการฟังเพลง นายกล้างหลงใหลในเสียงดนตรีไทย ในขณะที่แก้วเจ้าจอมคลั่งไคล้ไปกับเสียงดนตรีในสไตล์ฮิพฮอพ วัฒนธรรมตะวันตกนำสมัย แม้ว่านายกล้าจะเปิดซีดีเพลงไทยเดิมกระหน่ำเข้าใส่รูหูของแก้วเจ้าจอมทุก เช้าก็ตาม กล้าส่งแก้วเจ้าจอมเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยคีตศิลป์ มหาวิทยาลัยดนตรีแห่งใหม่ตามที่ลูกสาวต้องการ เขาทั้งขู่ทั้งหว่านล้อมสารพัด อยากให้ลูกสาวเลือกเรียนเอกภาควิชาดนตรีไทย แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเพราะแก้วเจ้าจอมยืนยันตลอดเวลาว่าเธอจะเลือกเรียน ดนตรีสากล ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ ในมหาวิทยาลัยคีตศิลป์ แก้วเจ้าจอมแทบจะหาเพื่อนใหม่ไม่ได้ เพราะภาพลักษณ์โดดเด่นแบบแปลกๆ ของตัวเอง แก้วเจ้าจอมชอบทำตัวราวกับเป็นศพจำลอง เย็นชาและเซื่องซึม แม้จะออกแนวสาวบู๊แอคชั่น แต่เธอกลับกึ่มนิ่ง ใช้น้ำหอมกลิ่นดอกราตรีละม้ายคล้ายกลิ่นฟอร์มาลีน ทุกคนจึงหวาดผวาไม่กล้าพาตัวเองมาใกล้เธอ
แต่ แก้วเจ้าจอมไม่ค่อยรู้สึกรู้สมกับสายตาของเพื่อนรุ่นเดียวกัน ใครอยากจะคบก็คบ ไม่อยากคบก็ช่างหัวมัน คนเดียวที่แก้วเจ้าจอมปรายตาให้แต่แรกเห็นคือ วายุ รุ่นพี่จากคณะดนตรีสากล หนุ่มหล่อระดับนายแบบมาดเข้ม ผมยาวสยาย มาดและลีลาราวกับเป็นเจ้าชายแห่งเมืองกวี มีความเป็นศิลปินสูง ไม่มีผู้หญิงคนใดมีค่าต่อวายุมากไปกว่าบทกวีและคำกลอนเพื่อชีวิต วายุเป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัย รวมทั้งเฟียซ ลูกสาวคหบดีชื่อดัง วาณิช นักธุรกิจหนุ่มคลื่นลูกที่สี่ของเมืองไทย เจ้าของกิจการอุปโภคบริโภคครบวงจร และธุรกิจอื่นอีกหลายหมื่นล้าน เฟียซกับวายุคบกันอย่างสนิทสนมตามความต้องการของครอบครัว ทั้งคู่ควงกันโฉบไปโฉบมาเป็นที่ชื่นชมและอิจฉาของใครหลายต่อหลายคน แก้วเจ้าจอมประทับใจความสามารถของเฟียซตั้งแต่วันแรกรับน้องใหม่ เฟียซ เป็นรุ่นพี่ของคณะดนตรีสากลที่ขึ้นโชว์ร้องเพลงป๊อปร้อนแรงสไตล์อเมริกัน พร้อมกับเพื่อนอีกสองคน คือ อลิซ และเกรซ ได้อย่างยอดเยี่ยม
วงป๊อบ เกิร์ล ได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดในมหาวิทยาลัย เป็นไอดอลต้นแบบของรุ่นน้องที่อยากจะเข้าคณะดนตรีสากลทุกคน นอกจากแก้วเจ้าจอมที่เฝ้ารอวันออดิชั่นเข้าคณะดนตรีสากลใจจะขาดแล้ว โยทะกา และ บัวบุษบา เพื่อนสาวในชั้นปีเดียวกับแก้วเจ้าจอมก็เป็นอีกสองคนที่ใฝ่ฝันอยากเป็นให้ ได้อย่างป๊อบเกิร์ลรุ่นพี่ สิ่งหนึ่งที่สองสาวเหมือนแก้วเจ้าจอมเปี๊ยบก็คือ เป็นบุคคลต้องห้าม เพื่อนร่วมรุ่นไม่อยากจะเข้าใกล้ เพราะความไม่ปกติอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะตัว โยทะกา เป็นสาวสวยแต่ซุ่มซ่ามที่สุดในโลก เพราะความที่จิตเธอสามารถสัมผัสกับพลังพิเศษเหนือธรรมชาติได้
โยทะกา มักมีอาการเสียวสันหลังวาบ สะดุ้งสุดตัวราวกับมีพัดลมล่องหนคอยเป่าทุกครั้งที่รังสีอมหิตจากจิตใจชั่ว ร้ายของมนุษย์ เมื่อมีอาการสัมผัสพิเศษเกิดขึ้น เธอจะสะดุ้งตื่นเต้นจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทำข้าวของรอบตัวแตกเสียหาย จนเพื่อน ๆ ลงความเห็นว่าโยทะกาโก๊ะที่สุด และมาพร้อมกับความเซ่อที่สุดเสมอ บัวบุษบา เป็นสาวสวยหวาน แต่งตัวจุ๋มจิ๋มน่ารักน่าเอ็นดู เหมือนเป็นตุ๊กตาผ้าลูกไม้ แต่เธอคือเจ้าแม่แห่งความทันสมัยและไฮเทค คิดทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหตุผลซึ่งกันและกัน บัวบุษบาสะกดคำว่า Logic ได้เป็นคำแรกตั้งแต่หัดพูด หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กคือของเล่นที่โปรดปรานตั้งแต่ย่างเข้าสองขวบ ประกอบกับพ่อของบัวบุษบาเป็นเจ้าของธุรกิจคอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ขนาดใหญ่ ความไฮเทคจึงซึมซาบเข้าไปในสายเลือด ดนตรีสุดโปรดของบัวบุษบาคือ แนว อิเล็กทรอนิก้า เครื่องดนตรีสุดถนัดคือ เครื่องซินธิไซเซอร์และบรรดาเครื่องดนตรีสังเคราะห์ทั้งหมดที่ต้องผ่าน คอมพิวเตอร์ โลกทั้งใบของบัวบุษบามักอยู่คนเดียวที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอจึงต้องเกิดอาการเมาและเพี้ยนทุกครั้งที่อยู่ท่ามกลางผู้คนหมู่มาก ยิ่งได้ยินเสียงกรี๊ด ยิ่งทำให้บัวบุษบาสติหลุด เอ๋อทุกครั้งที่ต้องเผชิญกับมหาชน เมื่อถึงวันออดิชั่นเข้าคณะดนตรีสากล กลุ่มป๊อบเกิร์ลของ เฟียซ อลิซ และเกรซ
ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัย ให้เป็นตัวแทนของสุดยอดฝ่ายหญิงเข้าเป็นกรรมการคัดเลือกร่วมกับอาจารย์ โดยมีตัวแทนฝ่ายชายคือรุ่นพี่ห้าคน สุดยอดเอกทัคคะทางดนตรีอันประกอบด้วย วายุ เจ้าชายกวีผู้มีอารมณ์ศิลป์เปี่ยมล้น สามภพ ประธานนักศึกษาผู้หล่อเนี้ยบ เจ้าระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว สายฟ้า หัวหน้าชมรมกีฬา ผู้เชี่ยวชาญในกีฬาทุกประเภทพอกับความสามารถทางดนตรีระดับเหรียญทอง ภูผา หัวหน้าชมรมอนุรักษ์ มาดเซอร์เพื่อชีวิต ซึ่งมีแววได้เกียรตินิยมสาขาเพลงเพื่อชีวิตเป็นคนแรกของมหาวิทยาลัย และสิชล หัวหน้าชมรมวาทะศิลป์และมนุษยสัมพันธ์ บุรุษที่มีบุคลิกลื่นเป็นปลาไหล มีความสามารถถึงขนาดเคยร้องเพลงจีบเจ้าหน้าที่ทะเบียน จนได้เรียนฟรีมาแล้ว
เมื่อ แก้วเจ้าจอมทราบว่าวายุเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเธอยิ่งปลาบปลื้ม พยายามตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเอาชนะใจรุ่นพี่ที่เธอชื่นชม แก้วเจ้าจอมโชว์ลีลาโซโลกีตาร์ในสำเนียงดนตรีดุเดือดเผ็ดร้อน คณะกรรมการต่างอึ้งกับความสามารถที่ขัดกับบุคลิกเย็นชาภายนอก ทุกคนลงคะแนนให้แก้วเจ้าจอมผ่านเข้าเรียนในคณะดนตรีสากล ยกเว้นวายุเพียงคนเดียวที่ส่ายหน้า จงใจกากบาทขีดฆ่าชื่อแก้วเจ้าจอมออก เพราะต่อมติสท์ของวายุเกิดฟุ้งกระจาย รับไม่ได้กับเสียงดนตรีที่ถูกถ่ายทอดออกมาแบบหยาบกระด้างไร้ลีลาอ่อนไหว วายุรู้สึกขวางกับกระแสชื่นชมที่มีต่อแก้วเจ้าจอม ถึงกับแสดงความคิดเห็นขัดแย้งออกมากลางที่ประชุม แก้วเจ้าจอมทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ออกมาโต้เถียงอย่างรุนแรงกับวายุ จนเกือบจะเป็นสงครามย่อยๆ กลางห้องประชุม ทั้งคู่จึงต่างเป็นดั่งไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา บัวบุษบา ขึ้นทดสอบความสามารถเป็นคนถัดมา ใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกล้วนๆ ด้วยกลัวสติแตกระหว่างเล่นบัวบุษบาพยายามไม่มองหน้าผู้คน แต่เสียงดนตรีเบรกบีทจังหวะโดนใจ ผู้คนที่เข้าฟังในหอประชุมยิ่งชอบ ส่งเสียงกรี๊ดไม่หยุด เมื่อเสียงกรี๊ดมา ความเอ๋อก็เข้ามาเยือน
บัว บุษบาเริ่มประสาทเสีย สติหลุด กดคีย์บอร์ดผิดๆ ถูกๆ เกิดไฟฟ้าช็อตอย่างรุนแรง ไฟดับไปทั้งห้องประชุม คงไม่ต้องบอกว่างานนี้บัวบุษบาต้องไม่ผ่านการออดิชั่นแน่นอน บัวบุษบารู้ตัววิ่งออกจากห้องประชุมทั้งน้ำตาริน ภูผาเดินผ่านมาเห็นส่งผ้าเช็ดหน้าให้พร้อมๆ ส่งสายตาเข้าใจ พูดปลอบใจแบบลีลานักอนุรักษ์สุดขั้ว บัวบุษบาหายเศร้าได้สติกลับมา เริ่มรู้สึกแปลกๆ ในจิตใจ เหมือนเกิดกระแสไฟฟ้าไหลเวียนระหว่างตัวเธอกับภูผา ส่วนภูผาเองก็รู้สึกถูกชะตากับรุ่นน้องท่าทางแปลกๆ คนนี้อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ส่วนโยทะกาสาวจอมซุ่มซ่าม เลือกโชว์กลอง เครื่องดนตรีที่ทนไม้ทนมือที่สุด ขณะกำลังเล่นตามจังหวะสนุกสนาน รุ่นพี่ รุ่นเพื่อนโยกตัวตามจังหวะกลองอย่างเมามันนั้นเอง โยทะกาเกิดอาการสัมผัสที่หกขึ้นมากะทันหัน กระแสจิตรับรู้ได้ถึงรังสีอมหิตที่แผ่กว้างออกมา ลมพัดวูบเข้าที่หน้าลำตัวกระตุกเต็มแรง โยทะกาเริ่มโก๊ะตีผิดตีถูก ไม้กลองข้างหนึ่งกระเด็นไปโดนหัวสามภพ ประธานนักศึกษาผู้เปี่ยมไปด้วยความเนี้ยบ
ส่วนไม้อีกข้างโยทะกาก็ดันตีแรง จนสแนร์หลุดจากชุดกลอง เหวี่ยงไปโดนแอมป์ปลั๊กหลุด ไฟฟ้าช็อตโกลาหลไปทั้งเวที โยทะกาเป็นชื่อแรกที่สามภพกาออกอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ผ่านมาตรฐานความเนี้ยบส่วนตัวของสามภพ เขาถึงกับประกาศอย่างไม่เกรงใจว่าจะไม่ขอคบกับผู้หญิงอีกเลย ถ้าโลกนี้มีแต่โยทะกา รุ่นน้องปีหนึ่งจำนวนแปดสิบสี่คนแทบทุกคนต้องการเข้าเรียนภาควิชาดนตรีสากล ยกเว้นลำดวน เท่านั้นที่มีเจตนารมณ์แน่วแน่จะเข้าคณะดนตรีไทย ลำดวนเป็นสาวร่างเล็ก ไม่มีอะไรโดดเด่นให้น่าจดจำ จนบางครั้งเพื่อนๆ ลืมไปซะด้วยว่ามีเธออยู่บนโลก ลำดวนชอบอยู่ตามผนังมุมห้อง สีหน้าชืดๆ กับรอยยิ้มจืดๆ ของเธอมักกลืนเข้ากับสีผนังอยู่เสมอ
หากแต่คงไม่มี ใครรู้ว่าลำดวนมีคุณสมบัติพิเศษทางดนตรี ในระดับยากจะหาใครเทียบทัน นั่นคือน้ำเสียงไพเราะราวกับนกไนติงเกล หากใครได้ฟังเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน ช้องนาง รุ่นพี่คณะดนตรีไทยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวภายในมหาวิทยาลัยผ่านแผนที่ดวงดาว และหนังสือทำนายโชคชะตา เธอเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความประหลาดของตัวเองทำให้ไม่ผ่านเข้าคณะดนตรีสากล จำต้องระเห็จมาอยู่คณะดนตรีไทยทั้งที่ใจไม่รัก ช้องนางจึงใช้เวลาบริหารความเซ็งด้วยการดูดวงและทำทุกอย่างตามที่ไพ่ ลายมือ และจิ้งจกร้องทัก เมื่อรู้ว่าได้ลำดวนมาเป็นรุ่นน้อง ช้องนางแฮปปี้มากที่จะได้รุ่นน้องและลูกน้องมาอยู่สนิทสนมใกล้ชิด เพราะนอกจากเธอแล้ว คนอื่นๆ ในคณะดนตรีไทยจะเก็บตัวอยู่ตามซอกหลืบของอาคารเป็นเรือนไทยหลังเก่า ทำตัวราวกับเป็นพวกพระเจ้าลงโทษเพราะเข้าคณะดนตรีสากลไม่ได้
ในที่ สุดผลการออดิชั่นเข้าสู่ภาควิชาดนตรีสากลก็เป็นไปตามคาด แก้วเจ้าจอม โยทะกา และบัวบุษบา เป็นเพียงสามคนที่ไม่ผ่านการคัดเลือก ต้องกัดฟันเข้าเรียนที่คณะดนตรีไทย ช้องนางดีใจมากที่มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ถึงกับต้อนรับด้วยการประพรมน้ำมนต์ ล้างซวย เพราะเป็นรุ่นน้องที่ได้มาในวันโลกาวินาศ นายกล้า พ่อของแก้วเจ้าจอมดีใจมากที่ลูกสาวได้อยู่คณะดนตรีไทย แก้วรู้สึกผิดลึกๆ กับพ่อเพราะเธออยากเข้าดนตรีสากลและอยากเป็นศิลปินในสไตล์ตะวันตกป๊อบเกิร์ ลอย่าง เฟียซ อลิส และเกรซ นั่นเอง อาจารย์ขลุ่น หรือ ศาสตราจารย์ ดร.ขลุ่ยผิว หัวหน้าภาควิชาดนตรีไทย ให้การต้อนรับนักศึกษาใหม่ด้วยลีลาการสอนที่แปลกกว่าใครหลายคน เขาไม่ใช่ครูดนตรีไทยในอุดมคติ โปรดปรานการขี่ชอปเปอร์ ชอบดูภาพยนตร์แอคชั่นเร้าใจ แต่งกายในชุดหนังสีดำขลับ ลีลาการสอนเต็มไปด้วยสีสันแบบสติแตกแปลกเหลือล้น ทุกคำพูดแฝงไปด้วยข้อคิดและปรัชญาลึกล้ำ เกินบุคลิกชายชราที่ดูเหมือนเพี้ยนอยู่ที่จะพูดได้มีเพียงลำดวนคนเดียวเท่า นั้น ที่เข้าถึงการสอนของอาจารย์ขลุ่ยได้เป็นอย่างดี
เธอ จึงเป็นลูกศิษย์เอกประจำตัว ส่วน แก้วเจ้าจอม โยทะกา และบัวบุษบา แทบทุรนทุรายตายไปทุกครั้งที่เข้าเรียน อยากหนีไปอยู่คณะดนตรีสากลใจจะขาด เดือดร้อนถึงช้องนางที่ต้องทั้งปลอบทั้งด่า ทั้งดึงรั้งทุกวิถีทางไม่ให้สามคนโดดเรียนหนังสือตั้งแต่ปีแรกของการเรียน การสอน ความผูกพันระหว่างเพื่อนสาวทั้งห้าเริ่มต้นขึ้น มิตรภาพแห่งความเป็นเพื่อนถักทองอกงามขึ้น จากการเข้ากันได้เป็นอย่างดีของเมล็ดพันธุ์ความประหลาดในตัวแต่ละคน ช้องนางเป็นผู้ค้นพบอาการซุ่มซ่ามของโยทะกา เกิดจากสัมผัสพิเศษที่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดวงและโหราศาสตร์อย่างเธอ เท่านั้นที่จะตีความหมายออกมาได้ และสัมผัสพิเศษนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน ถ้ามีการตีความที่ถูกต้อง สาวนักคอมพิวเตอร์อย่างบุษบา เห็นความเป็นหญิงเซ็กซี่ของแก้วเจ้าจอมผ่านเครื่องสแกนคอมพิวเตอร์ อีกทั้งแก้วเจ้าจอมยังแสดงให้ทุกคนเห็นอานุภาพของลีลาการต่อสู้ของเธอจาก ลูกเตะป่าช้าแตก ฟ้าดแข้งเข้าก้านคอนักเลงปากร้ายใจหยาบที่กำลังเล่นงานบัวบุษบาในคืนวัน หนึ่ง
ส่วนลำดวน เธอมีความช่างสังเกตเป็นเลิศ รับรู้เรื่องราวความเป็นไปของเพื่อนๆ อยู่เสมอ เธอจึงเหมือนเป็นคนรู้ใจคนอื่นอยู่ร่ำไป แม้ว่าบางครั้งความเรียบเฉยของเธอ จะทำให้เพื่อนลืมไปว่ามีเธอร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็ตาม ทั้งห้าสาวดาวดับประจำมหาวิทยาลัย กลับกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของกันและกัน คบกันแนบแน่นกลายเป็นกลุ่มคนดนตรี “เบญจาคีตา” โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวเป็นเหมือนไอดอล ป๊อบเกิร์ลต้นแบบให้จงได้ การรวมตัวทางดนตรีของกลุ่มเบญจาคีตา อยู่ในสายตาของอาจารย์ขลุ่ยตลอดเวลา อาจารย์ขลุ่ยพยายามสั่งสอนพูดให้ทุกคนรู้จักคิด ให้เป็นตัวของตัวเอง ซาบวึ้งกับคุณค่าของความเป็นไทย และดนตรีไทยที่เป็นอยู่ แต่ดูเหมือนคนที่รับรู้ได้อย่างซาบซึ้งมีเพียงลำดวน ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ เพียงพยักหน้าหงึ่กๆ แบบขอไปทีเท่านั้น สามสาวป๊อบเกิร์ล เฟียซ อลิซ และเกรซ ได้ออกอัลบั้มแรกกับสังกัดยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ความนิยมในตัวของพวกเธอยิ่งแพร่กระจายไปทั่ว
ขณะ นี้ไม่แต่เพียงในมหาวิทยาลัยคีตศิลป์เท่านั้นที่คลั่งไคล้ วัยรุ่นทั่วทุกหัวระแหงต่างบ้าคลั่งความเป็นป๊อบเกิร์ล แก้วเจ้าจอม โยทะกา และบัวบุษบา แอบย่องมาดูที่ภาควิชาดนตรีสากลทุกครั้งที่มีโอกาส แต่น่าแปลกที่ยิ่งเข้าใกล้เฟียซ อลิซและเกรซ มากเท่าไหร่ สัมผัสพิเศษของโยทะกาก็ยิ่งออกอาการซึ่งแม้แต่ช้องนางเองก็ยังตีความหมายออก มาไม่ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่ วันเวลาผ่านไป…สามสาวป๊อปเกิร์ลต่างควงคู่กับวายุ สามภพ และสายฟ้า ชายหนุ่มที่สาวทุกคนในมหาวิทยาลัยหมายปอง เป็นคู่รักที่พากันไปทำกิจกรรมทางดนตรีทั้งในและนอกสถานที่ ดูเหมือนความรักของทั้งสามคู่กำลังเบ่งบานเต็มที่ แก้วเจ้าจอมรู้สึกหมั่นไส้ทุกครั้งที่เห็นวายุเคียงข้างกับเฟียซ แก้วเจ้าจอมมักจะพาตัวเองไปต่อปากต่อคำกับกวีหนุ่มอย่างวายุโดยไม่รู้ตัว เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งๆ ที่น่าจะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่านั่นแหละคืออาการหึงหวงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ข้างโยทะกา สาวซุ่มซ่ามที่แอบปิ๊งหนุ่มเนี๊ยบอย่างสามภพ ก็เผลอจ้องสามภพกับอลิซอยู่บ่อยๆ ออกอาการซุ่มซ่ามให้สามภพขำแกมสมเพชอยู่เสมอๆ ในหลายเหตุการณ์ ท่ามกลางรอยยิ้มหัวเราะเยาะของอลิซ ต่างจากความสัมพันธ์ระหว่างบัวบุษบากับภูผาที่ค่อยๆ งอกงามขึ้น ความไฮเทคและทันต่อโลกวิทยาการของบัวบุษบา เติมเต็มให้กับคนเพื่อชีวิตและธรรมชาติอย่างภูผาได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลายครั้งที่คนคู่นี้ออกอาการหวีดหวิวท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนทั้งสอง ฝ่าย
ช้องนางแม่หมอดูประจำกลุ่ม สำรวจดวงดาวแห่งความรักของตัวเองพบว่า วายุก็คือเนื้อคู่กระดูกคู่ ต้องหมั่นไปสบตา มิฉะนั้นจะต้องแคล้วคลาดจากกันตลอดชีวิต เธอจึงแอบหาวายุตลอด แต่บ่อยครั้งที่ต้องมาเจอหน้าได้ปะทะคารมกับสายฟ้า ทำให้ช้องนางต้องสาดเกลือล้างซวยใส่สายฟ้าทุกครั้งไป แต่น่าแปลกที่ในความทะเลาะเบาะแว้งของทั้งสองคน กลับสร้างความประทับใจแบบโหดๆ ให้แก่กันและกันไปด้วยในตัว ส่วนสาวลำดวนเธอได้แต่เฝ้ามองสิชล รุ่นพี่หนุ่มผู้มากด้วยวาทศิลป์ คนที่เธอประทับใจตั้งแต่วันแรกเข้ามหาวิทยาลัย ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิชลมักเข้ามาใช้เธอเป็นสะพานสื่อรักไปจีบสาวอื่นๆ อยู่เสมอ เฟียซ หัวหน้าสาวป๊อบเกิร์ลเห็นว่าพวกแก้วเจ้าจอมชื่นชอบเธอเป็นอย่างมากถึงขนาด ยอมทำตามทุกอย่าง เฟียซเลยยอมให้พวกแก้วมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยประจำตัว คอยเดินติดสอยห้อยตามเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตทุกที่ แก้วเจ้าจอมเห็นความดังและความสามารถของรุ่นพี่ยิ่งปลาบปลื้ม ตั้งใจจะต้องประสบความสำเร็จแบบนี้ให้ได้ แม้ว่าอาจารย์ขลุ่ยจะมาคอยตักเตือนคอยด่า คอยอบรมลูกศิษย์ทั้งห้าด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ไม่มีใครฟัง
การยอม เป็นเด็กในโอวาทคอยทำตามป๊อบเกิร์ลของแก้วเจ้าจอม ทำให้เธอต้องทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง นายกล้าโมโหมากถึงกับเอ่ยปากไล่ลูกสาวออกจากบ้าน แก้วเจ้าจอกัดฟันยอมทะเลาะกับพ่อ เพียงเพราะต้องการตามความฝันของตัวเอง อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตนักร้องสักครั้ง ในระหว่างนี้เอง ที่ความขัดแย้งระหว่างร้านขายโลงศพกับห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ทวีความรุนแรง มากขึ้น ร้านสัมปรายภพพาณิชย์ถูกบุกทำลาย โลงแตกกระจัดกระจาย ยิ่งไปกว่านั้น เพราะสาวนักบู๊อย่างแก้วเจ้าจอมไม่ได้อยู่กับพ่อ ทำให้นายกล้าพ่อถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แก้วเจ้าจอมรีบไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล เธอรู้สึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเอง พ่อกับลูกเข้าใจกันได้อีกครั้ง นายกล้าสอนให้แก้วเข้มแข็งและรู้จักเป็นตัวของตัวเอง พร้อมๆ กับบอกให้แก้วรู้ว่า วาณิช พ่อของเฟียซนั่นแหละที่เป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนั้น แก้วเจ้าจอมกับเพื่อน ๆ กลุ่มดอกไม้ประหลาดทั้งห้าโกรธแค้นมาก ออกจากการเป็นผู้ช่วยของป๊อบเกิร์ล ตั้งใจจะรวมตัวเพื่อต่อสู้กับป๊อบเกิร์ลด้วยตนเอง อาจารย์ขลุ่ยดีใจมากที่เห็นลูกศิษย์คิดได้ รีบไปเตรียมเครื่องดนตรีไทยสำหรับการรวมตัวในการแสดงครั้งแรก แต่ตรงกันข้าม แก้วเจ้าจอม โยทะกา บัวบุษบาและช้องนาง กลับจะสร้างเบญจคีตาให้เป็นวงป๊อบหญิงล้วนแข่งกับป๊อบเกิร์ล เล่นดนตรีตะวันตกไม่ใช่ดนตรีไทย
โดย ตั้งใจเลียนแบบทั้งท่วงทำนองเพลง และการแต่งตัวมาจากป๊อบเกิร์ลทุกกระเบียดนิ้ว เมื่อถึงเวลาเปิดตัวครั้งแรกในงานโชว์วงดนตรีน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยคีต ศิลป์ วงดนตรีเบญจคีตาต้องอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เธอพบว่าวงดนตรีที่เลียนแบบป๊อบเกิร์ลรุ่นพี่นั้นมีเกือบสิบวง สิ่งที่พวกเธอเลียนแบบนั้นมันเชยไปแล้ว พวกป๊อบเกิร์ลก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นกับความดังที่ดังยิ่งกว่าเดิม กลุ่มดนตรีเบญจคีตากลับไปที่ภาควิชาดนตรีไทยอีกครั้ง อาจารย์ขลุ่ยไม่ได้ด่าซ้ำ แต่กลับให้กำลังใจและพยายามสอนทั้งห้าคน ให้มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ ศิลปมีทางเดินของมันเอง ลูกศิษย์ทั้งหมดยังอยู่ในความเซ็งยากจะซึมซับอะไรได้ ยกเว้นลำดวนเพียงคนเดียวที่พัฒนาการร้องเพลงไทยไปไกลหากแต่ไม่เคยมีใครได้ ยินยกเว้นอาจารย์ขลุ่ยเพียงคนเดียว ป๊อบเกิร์ลประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและรวดเร็ว ท่ามกลางความแปลกใจของนักวิจารณ์หลาย ๆ คน คนไทยคลั่งไคล้ เฟียซ อลิซ และเกรซ ราวกับทั้งสามคนเป็นศาสดาทางดนตรีของวัยรุ่น
น่าแปลกที่ ธุรกิจทุกประเภทของนายวาณิช เจริญตามความดังของป๊อบเกิร์ลไปด้วย สินค้าหลายประเภทขายดีเทน้ำเทท่า มูลค่าหุ้นในตลาดของเครือวาณิชพุ่งสูงลิ่วติดกระดานจนปัจจุบันมีค่าหลาย หมื่นล้านบาทแล้ว นักธุรกิจวิสัยทัศน์ไกลอย่างนายวาณิชเริ่มคิดไกลมากขึ้น เขาก้าวเข้ามาสู่วงการเมืองอย่างชัดเจน ประกาศตัวจะลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้า โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทุกชนชั้นอย่างไม่น่าเชื่อ อาจารย์ขลุ่ยยังพากเพียรสีซอให้กับลูกศิษย์กลุ่มเบญจคีตาฟัง แต่ก็ยังไม่มีใครซาบซึ้งในคุณค่าของความเป็นไทย ยกเว้นลำดวนเพียงคนเดียว ทุกครั้งที่อาจารย์ขลุ่ยออกงานแสดงสดทางดนตรีไทย มักจะพาลูกศิษย์ทั้งห้าไปด้วยเสมอโดยหวังจะให้ซึมซับความเป็นไทย แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสัมฤทธิ์ผลเท่าใดนัก วาณิชเกลี้ยกล่อมให้ นายอากาศ พ่อของวายุ เจ้าของสัมปทานคลื่นวิทยุทั่วประเทศไทยให้เข้าร่วมมาเป็นบริษัทในเครือ โดยหวังจะใช้คลื่นเหล่านั้นเผยแพร่เพลงของป๊อบเกิร์ลให้กระจายไปทั่วประเทศ ในช่วงที่เขาลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่อากาศยังไม่ยอม เขารู้สึกไม่ค่อยไว้ใจในพฤติกรรมของวาณิชมีการกระทำบางอย่างที่บ่งบอกถึง ความไม่ชอบมาพากล เพื่อให้แผนการตัวเองสำเร็จ
วาณิชคิดวางแผนสร้าง ความประทับใจให้อากาศ เขารู้ว่าอากาศชื่นชอบดนตรีไทยเป็นชีวิตจิตใจ และมีนักดนตรีไทยในดวงใจคือ ดร.ขลุ่ยผิว ระนาดเอกมือหนึ่งในยุคนี้ เขาจึงติดต่อให้อาจารย์ขลุ่ยไปเดี่ยวระนาดเอกสดๆ ในงานวันเกิดของอากาศ ซึ่งอาจารย์ขลุ่ยก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด การเผยแพร่ดนตรีไทยเป็นชีวิตของอาจารย์ขลุ่ยอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ในระหว่างการแสดงเดี่ยวระนาดเอกของอาจารย์ขลุ่ย ท่ามกลางความประทับใจของอากาศนั่นเอง จู่ๆ อาจารย์ขลุ่ยก็เลิกเล่นกะทันหันคล้ายได้ยินเสียอะไรบางอย่าง อาจารย์ขลุ่ยลุกพรวดขึ้น ชี้หน้าด่าว่าวาณิชต่อหน้าแขกในงานของนายอากาศหลายคน บอกว่าดนตรีเป็นศิลปที่มีคุณค่า บริสุทธิ์เกินกว่านายทุนอย่างวาณิชจะนำมาใช้ทำลายคน เขาไม่ยอมตกเป็นทาสของนายทุนที่ไร้มนุษยธรรม อาจารย์ขลุ่ยเดินออกไปท่ามกลางความแปลกใจของคนทุกคน รวมทั้งสมาชิกทั้งห้าของกลุ่มเบญจคีตา วาณิชแทบคลั่งกับคำพูดของอาจารย์ขลุ่ย เรียกลูกสาวและเพื่อนๆ ในกลุ่มของของป๊อบเกิร์ลให้มาพบโดยด่วนที่สุด
วาณิชไม่เข้าใจว่า อาจารย์ขลุ่ยรู้เรื่องคลื่นเสียงความถี่พิเศษ ซึ่งตัวเองใช้สะกดจิตผ่านเพลงของวงป๊อบเกิร์ลได้อย่างไร คลื่นเสียงนี้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงดนตรีป๊อบเกิร์ล และความก้าวหน้าทางธุรกิจสำคัญของเขาตลอดปีที่ผ่านมา วาณิชหวังจะแทรกคลื่นเสียงนี้ไปกับการแสดงเดี่ยวระนาดของอาจารย์ขลุ่ย เพื่อให้ได้มาซึ่งคลื่นวิทยุของนายอากาศ จะได้ใช้คลื่นวิทยุเหล่านี้สะกิดจิตคนทั้งประเทศ ในขณะที่ตนเองลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อความปลอดภัย วาณิชส่งคนไปเก็บอาจารย์ขลุ่ยถึงบ้าน ทำให้อาจารย์ขลุ่ยตกบันไดสลบเหมือดคล้ายกับเป็นอุบัติเหตุ ทุกอย่างเป็นไปตามต้องการ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นสตรีร่างเล็กคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ตรงพุ่มไม้ เธอมีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่สะดุดตาใครต่อใครมานานแล้ว ลำดวนยืนตกตะลึงไปกับเหตุการณ์อยู่ตรงนั้น อาจารย์ขลุ่ยกลายเป็นเจ้าชายนิทรา สลบไม่ได้สติอยู่ในโรงพยาบาล ห้าสาวเบญจคีตาไปเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงและกตัญญู ยิ่งรู้จากลำดวนว่าเป็นฝีมือของป๊อบเกิร์ล ทุกคนยิ่งโกรธแค้นอยากจะหาทางเล่นงาน แต่ก็ไม่รู้จะหาหลักฐานได้อย่างไร
ทั้งหมดได้แต่สงสัยว่า อาจารย์ขลุ่ยได้ยินอะไร ถึงหยุดเดี่ยวระนาดกลางคัน ลำดวนมาเยี่ยมอาจารย์ขลุ่ยที่โรงพยาบาลทุกวัน อาจารย์ขลุ่ยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้น ลำดวนคิดได้ว่าสิ่งที่เธอสื่อสารกับครูอยู่เสมอไม่ใช่การพูด แต่เป็นการร้องและดนตรีไทย ลำดวนร้องเพลงให้อาจารย์ขลุ่ยฟัง ท่ามกลางความประหลาดใจของเพื่อนๆ ที่ต่างตะลึงในน้ำเสียงอันไพเราะของลำดวน ความพยายามของลำดวนได้ผล วันหนึ่งนิ้วมือข้างหนึ่งของอาจารย์ขลุ่ยเริ่มกระดิกได้ เมื่อได้ยินเสียงเพลงไทยเดิมจากน้ำเสียงของเธอ เบญจคีตาจึงตระหนักถึงวิธีที่จะทำให้อาการของอาจารย์ขลุ่ยดีขึ้น ดนตรีไทยบำบัดที่บรรเลงโดยพวกเธอทุกคน อาจเป็นทางรอดทางเดียวของชีวิตอัจฉริยะทางดนตรีอย่าง ดร.ขลุ่ยผิว การรวมตัวเล่นเป็นวงดนตรีไทยของ แก้วเจ้าจอม โยทะกา บัวบุษบา ช้องนาง และลำดวน ในนามของเบญจคีตา ซึ่งขออนุญาตหมอมาเล่นดนตรีให้อาจารย์ฟังที่โรงพยาบาลทุกวัน ทำให้อาการของอาจารย์ขลุ่ยเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และน่าแปลกที่มันส่งผลโดยตรงต่อคนไข้ร่วมชั้นคนอื่น ๆ อีกด้วย
ดูเหมือนดนตรีบำบัดเริ่มได้ผล เสียงดนตรีไทยไพเราะ ละมุนละไม นอกจากจะช่วยอาจารย์ขลุ่ยให้อาการดีขึ้น มันยังช่วยกล่อมเกลาให้เบญจคีตาทั้งห้าซึมซับสำเนียงเสนาะนั้นโดยไม่รู้ตัว วันหนึ่งอาจารย์ขลุ่ยสามารถเปิดเปลือกตาได้เป็นครั้งแรก บังเกิดน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มอาบแก้วสาวน้อยทั้งห้า อาจารย์ขลุ่ยรู้สึกภูมิใจที่สุด ในฐานประธานนักศึกษา สามภพ พา วายุ สายฟ้า ภูผา และสิชล มาเยี่ยมอาจารย์ดอกเตอร์ขลุ่ยผิวเป็นประจำ เกิดความสนิทสนมระหว่างห้าหนุ่มและห้าสาวจนแนบแน่น จนบางครั้งหนุ่มก็มาเพียงเพื่อให้เห็นหน้าและฟังสาวๆ ทั้งห้าเล่นดนตรีไทย ความสนิทสนมของทั้งหมดค่อย ๆ สานต่ออีกครั้งดอกรักเริ่มบานในจิตใจบริษัทธิ์ของคู่หนุ่มสาวทั้งห้า เบญจคีตาเริ่มคิดหาหลักฐานเล่นงานป๊อบเกิร์ล ประกอบกับอาการสังหรณ์เกิดขึ้นกับโยทะกา เมื่อเธอเปิดวิทยุเพลงป๊อบเกิร์ลครั้งล่าสุด
ช้องนางพยายามตีความ อาการนี้ของโยทะกา คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเพลงของป๊อบเกิร์ลแน่นอน บัวบุษบา คอมพิวเตอร์มือหนึ่งประจำกลุ่ม วางแผนให้เพื่อนไปชิงซีดีของแท้ของป๊อบเกิร์ลกรุ๊ปมาพิสูจน์คลื่นเสียง ภารกิจนี้ความสามารถพิเศษของกลุ่มเบญจคีตาถูกนำมาใช้ทุกคนเพื่อให้แผนการนี้ สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่าจะเป็นลูกเตะป่าช้าแตกของแก้วเจ้าจอม สัมผัสพิเศษของโยทะกา การตีความของแม่หมอช้องนาง รวมทั้งเสียงไพเราะดั่งนกไนติงเกลของลำดวน ในที่สุดด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันของเบญจคีตา แก้วเจ้าจอมสามารถชิงเอาซีดีต้นฉบับมาให้บัวบุษบาทำการแยกเสียงได้สำเร็จ พบว่ามีคลื่นเสียงความถี่ต่ำคอยโน้มน้าวจิตใจคนฟังแทรกอยู่ในดนตรีของป๊อบ เกิร์ล เบญจคีตา ตั้งใจจะร่วมมือกันพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นความจริง พวกเธอจะกระชากหน้ากากตัวจริงของพวกเฟียซ อลิซ และเกรซ ออกมาให้ได้ ในงานแสดงดนตรี ณ วันสิ้นปีของมหาวิทยาลัยคีตศิลป์
เบญจคีตาขึ้น แสดงดนตรีสดร่วมกับนักศึกษาคนอื่นๆ ต่างกันที่พวกเธอเล่นเครื่องดนตรีไทย ในลวดลายและลีลาของคนรุ่นใหม่ร่วมสมัย แข่งขันกับวงป๊อบเกิร์ลที่เล่นดนตรีสากลใช้เทคโนโลยีและการแทรกคลื่นเสียง เพื่อพิชิตใจทุกคน การแสดงดนตรีเป็นไปด้วยความสนุกสนาน และประทับใจผู้ฟังการแสดงสดเป็นอย่างมาก และในระหว่างการแสดงนั้นเอง ที่บัวบุษบาใช้ความสามารถพิเศษเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่เสียงของเพลงป๊อบ เกิร์ล เปิดโปงพฤติกรรมชั่วร้ายของเฟียซ อลิซ และเกรซ ได้สำเร็จ เหล่าคนร้ายอย่างป๊อบเกิร์ลและนายวาณิชต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้อย่างสาสม วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของแก้วเจ้าจอม โยทะกา บัวบุษบา ช้องนาง และลำดวน
เมื่อเห็นนายกล้าพ่อของแก้วเจ้าจอมประคองอาจารย์ ขลุ่ยที่อาการดีขึ้นมาดูการแสดงสดของพวกเธอต่อหน้าผู้ชมเป็นครั้งแรก อาจารย์ขลุ่ยยิ้มน้ำตาคลอภูมิใจในลูกศิษย์เหล่านี้เป็นที่สุด กล่าววับทุกคนว่าชัยชนะอยู่ที่ใจ การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น รู้จักคุณค่าของตัวเองเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต วันเวลาผ่านไปพร้อมกับการเติบโตทางความคิดของเหล่าเบญจคีตา ดนตรีไทยไม่ใช่ลูกเมียน้อยในสังคมอีกต่อไปแล้ว ผลงานเพลงของสาวทั้งห้าได้รับการยอมรับจากหมู่คนฟังที่กำลังสนใจดนตรีทาง เลือก หลายเพลงถูกเปิดในสถานีอินดี้ บางเพลงกำลังไต่อันดับความนิยมอยู่ในชาร์ตเพลงดังประจำสัปดาห์ หากแต่แก้วเจ้าจอม โยทะกา บัวบุษบา ช้องนาง และลำดวนกลับมีความสุขกับการไปเล่นดนตรีให้กับผู้ป่วยในระยะพักฟื้นที่ต้อง ใช้ดนตรีบำบัด ซึ่งอาจารย์ขลุ่ยจะตามมาร่วมเล่นด้วยเสมอ
ผลิตโดย: ดาราวิดิโอ
เขียนบท: ช่างปั้นเรื่อง
นักแสดงละคร เบญจา คีตา ความรัก
อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร แสดงเป็น ดร.ขลุ่ยผิว
ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ แสดงเป็น แก้วเจ้าจอม
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ แสดงเป็น เฟียซ
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย แสดงเป็น โยทะกา
อติมา ธนเสนีวัฒน์ แสดงเป็น ช้องนาง
คีตภัทร อันติมานนท์ แสดงเป็น บัวบุษบา
รุ้งเฑียร อูนากูล แสดงเป็น ลำดวน
ภูชิสสะ ธนพัฒน์ แสดงเป็น วายุ
รพีภัทร เอกพันธ์กุล แสดงเป็น สามภพ
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แสดงเป็น สายฟ้า
นวพล ภูวดล แสดงเป็น ภูผา
บ่วงเล่ห์เสน่ห์หา
บ่วงเล่ห์เสน่หา เป็นเรื่องราวของ พิกุล ( กมลชนก โกมลฐิติ ) สูญเสียพ่อแม่จากการถูกโจรเสือหาญจับเป็นตัวประกัน เพื่อหลบหนีทีมของร้อยตำรวจเอกไกรยุทธ ( นุติ เขมะโยธิน ) หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต พิกุลก็มีชีวิตที่ตกต่ำลง ทำให้เธอต้องทำงานหนักแม้แต่การร่ายรำตามตลาดแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย เพื่อไปเจือจุนตนเองและยาย พิกุลเจ็บแค้นและเข้าใจผิดมาโดยว่านายตำรวจผู้นั้นเป็นผู้ฆ่าพ่อแม่ของเธอ และตั้งใจว่าต้องแก้แค้นให้ได้ ต่อมาพิกุลได้ร่วมแสดงอยู่ในคณะละครเร่แก้วเจ้าจอม และบังเอิญคณะแก้วเจ้าจอมได้มีโอกาสแสดงในงานเลี้ยงที่บ้านของร้อยตำรวจเอก ไกรยุทธ เมื่อพิกุลได้พบกับไกรยุทธก็ตกใจและตัดสินใจล้างแค้นจึงโปรยเสน่ห์จนไกรยุทธ หลงใหลในตัวเธอจนในที่สุดก็รับพิกุลมาเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งนอกเหนือไปจาก พุดซ้อน ( อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ) ภรรยาหลวงผู้ไม่มีปากเสียง
ต่อ มาไกรยุทธอยากมีลูกชายจึงบอกกับภรรยาทั้งสองว่าหากใครตั้งท้องลูกชายคนแรก ได้เขาจะยกสิทธิขาดในการคุมบ้านเทพพิมานให้ พิกุลจึงไปหาหมอเข้มซึ่งเป็นหมอเสน่ห์เพื่อช่วยทำให้ไกรยุทธมาหลงเสน่ห์เธอ คนเดียวแต่กลับถูกหมอเข้มฉวยโอกาสข่มขืน ต่อมาพิกุลตั้งท้องและให้กำเนิดลูกชายคนแรกชื่อ ชวิน ( วรรธนะ กัมทรทิพย์ ) พิกุลได้สิทธิ์ขาดในการดูแลบ้าน จึงสั่งให้พุดซ้อนไปอยู่เรือนเล็กแทนพิกุลต่อมาไม่นานนักพุดซ้อนก็ให้กำเนิด ฝาแฝดหญิง-ชายชื่อ ช่อชมพู่ ( ธัญญาเรศ รามณรงค์ ) และ ระพีวิชญ์ ( รุ่งเรือง อนันตยะ ) แต่พิกุลก็เป่าหูไกรยุทธว่า พุดซ้อนท้องกับสมภพลูกน้องของไกรยุทธ ทำให้ไกรยุทธทุ่มเทความรักให้กับชวินจนลืมนึกถึงช่อชมพู่ และระพีวิชญ์ เพราะไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะใช่ลูกของตนหรือไม่ พิกุลยังแอบลอบไปหาหมอเข้มอยู่เสมอจนตั้งครรภ์และคลอดลูกสาวออกมาอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า ชลนิภา ( ศรุตา เรืองวิริยะ )
พิกุลต้องการให้ลูกทั้งสอง ของเธอแต่งงานกับภูรินทร์ ( อธิชาติ ชุมนานนท์ ) และอารดา ( อาริษา วิลล์ ) ลูกของท่านอธิบดีวินัยกับคุณหญิงกรรณิการ์ แต่ภูรินทร์กับอารดากลับสนใจช่อชมพู่กับระพีวิชญ์มากกว่า เมื่อไกรยุทธเริ่มป่วยพิกุลจึงร่วมมือกับหมอเข้มให้ยาพิษทีละน้อยแก่สามี พร้อมวางแผนให้ชลนิภาใกล้ชิดกับภูรินทร์แต่ชายหนุ่มกลับมีใจแน่วแน่ต่อช่อ ชมพู่ ชลนิภาจึงไปหาหมอเข้มเพื่อทำเสน่ห์แต่กลับโดนลูกสมุนของหมอเข้มข่มขืน เธอไม่กล้าบอกใครแม้แต่แม่ของตน พิกุลบังคับให้ไกรยุทธสู่ขออารดาให้ชวิน ชลนิภารู้ว่าตนกำลังท้องจากฝีมือของลูกสมุนหมอเข้มจึงบอกพิกุลว่าเธอท้องกับ ภูรินทร์ พิกุลเริ่มคบหาหมอเข้มอย่างออกนอกหน้า พุดซ้อนจึงดูแลไกรยุทธแทน
เมื่อคุณหญิงกรรณิการ์รู้ความจริงว่าลูกของชลนิภาไม่ใช่เกิดจากภูรินทร์จึงล้ม เลิกการแต่งงานทั้งหมด พิกุลเห็นว่าลูก ๆ ของเธอหมดสิ้นทุกสิ่งจึงใช้ปืนบังคับให้ไกรยุทธยกสมบัติทั้งหมดให้เธอและลูก และบอกความจริงว่าชวินและชลนิภาไม่ใช่ลูกของไกรยุทธ รวมทั้งบอกว่าที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพราะต้องการแก้แค้นที่ไกรยุทธเคยฆ่าพ่อ และแม่ของเธอ แต่เมื่อพิกุลได้ทราบว่าผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอคือเสือหาญไม่ใช่ฝีมือของไกร ยุทธ ทำให้เธอรู้สึกหมดหวังในชีวิตจึงฆ่าตัวตาย ภูรินทร์หันมาปรับความเข้าใจกับช่อชมพู่และแต่งงานพร้อมกับคู่ของระพีวิชญ์ และอารดา เมื่อชลนิภาคลอดลูกแล้วชวินจึงตัดสินใจลาออกจากงานและพาน้องสาวของเขาหนีหาย ไปจากสังคม
นางโชว์
นางโชว์ เป็นเรื่องราวของศรีทอง เป็นนางโชว์ที่มีฝีมือ เพราะลีลาของเธอนั้นสุดแสนจะเร้าใจ แต่โชคชะตากลับไม่เข้าข้างเธอเลย เพราะเธอมักจะถูกลูกค้าหนุ่ม ๆ ลวนลามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เกริกพล นักการเมืองหนุ่ม หรือ พิธาน เจ้าของนิตยสาร “แมนแมกกาซีน” แต่ศรีทองยังโชคดีที่มี มาลิน ซึ่งเป็นนางโชว์รุ่นพี่คอยปกป้อง แต่ต่อมาทั้งคู่ก็ต้องหางานใหม่ เพราะ เกรซ ซึ่งเป็นคู่ขาของพิธานตามอาละวาดราวีอยู่เสมอ ส่วน เจ๊เม้าท์ ดาวเด่นคาบาเร่ต์โชว์ ก็กำลังเจอปัญหาเพราะว่าถูกถอดจากการเป็นนักแสดงนำ ไปเป็นนักแสดงประกอบ หลังจากนั้นเจ๊เม้าท์ก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพเพื่อหางานใหม่
ศรีทองและ มาลินไปสมัครประกวดลิปซิ้งค์แข่งกับสาวประเภทสองจนได้รางวัลชนะเลิศ และในงานเดียวกันนี้เองทั้งคู่ก็ได้รู้จักกับเจ๊เม้าท์ จิต อดีตนางโชว์รุ่นเก่า และ พริ้ม นักร้องคาเฟ่ที่พักหลังไม่ค่อยได้รับพวงมาลัยจากลูกค้า ทั้งหมดมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน และที่บ้านเช่านี้เองมาลินได้พบกับ ทวน ที่มาอาศัยอยู่กับ จิระ ซึ่งเป็นเจ้านายเก่า เจ๊เม้าท์ถ่ายทอดเทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับคาบาเร่ต์ให้ศรีทองอย่างหมดเปลือก โดยมีมาลินเป็นคู่คิด และในที่สุดมาลินก็หางานให้กับทุกคนได้ที่คลับ 69 ของ เฮียซ้ง คณะโชว์ของศรีทองได้รับความนิยมและต้อนรับอย่างดีจากลูกค้า ทำให้คณะแดนซ์เซอร์สาวประจำคลับ ซึ่งมี กิ๊บ ทอมรุ่นใหญ่ ลดา แฟนสาวของกิ๊บ แอน และ ซินดี้ ไม่พอใจ
พิธาน มีโอกาสพบศรีทองอีกครั้งที่คลับแห่งนี้ เขาหมายมั่นจะเอาตัวศรีทองมาเป็นของตัวเอง โดยไม่ยอมรับฟังคำทัดทานของเพื่อนรักอย่าง สหรัฐ ลดาและเพื่อน ๆ แดนซ์เซอร์กลั่นแกล้งให้จิตแตกคอกับพริ้ม ในที่สุดแล้วพริ้มก็ออกจากคณะและไปอาศัยอยู่กับสหรัฐ แต่แม่ของสหรัฐมีท่าทีรังเกียจพริ้ม เธอจึงตัดสินใจจากสหรัฐไปโดยไม่ได้ร่ำลา และกลับไปอยู่กับเจ๊เม้าท์เหมือนเดิม ส่วนจิตก็แอบมีสัมพันธ์ลับ ๆ กับจิระ จนกระทั่งภรรยาของจิระตามอาละวาด โดยที่จิระไม่ได้ปกป้องเธอเลย สุดท้ายเธอก็ต้องเลิกกับจิระ และแต่งงานกับ ส่ง
ที่คลับ 69 สหรัฐพบกับพริ้ม และปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ส่วนพิธานก็ยังแวะเวียนมาหาศรีทองเสมอพิธานให้ศรีทองถ่ายปกหนังสือให้ ศรีทองตกลงเพราะเธอต้องการเงินไปจ่ายค่ารักษาแม่ที่ป่วยหนัก ศรีทองเริ่มสนิทกับพิธานมากขึ้น สร้างความไม่พอใจแก่บรรดาหญิงสาวทั้งหลายที่พิธานคบอยู่ หญิงสาวทั้งหมดร่วมกันวางแผนจับตัวศรีทองไปกักขังไว้ที่บ้านของเกริกพล เธอไปเจอม้วนวิดิโอของเกริกพลที่บังคับขืนใจเด็กสาว ศรีทองเก็บมันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และก่อนที่เธอจะโดนคร่าความสาวไปนั้น มาลิน ทวน พิธาน ตามมาช่วยไว้ทัน
หลังจากที่แอนตัดสินใจมาบอกความ จริงกับมาลิน พิธานพาศรีทองหนีการไล่ล่ามาที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง และที่นี่เองศรีทองก็ยอมเป็นของพิธาน ศรีทองกลับมาทำงานที่คลับอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจของ ลดา กิ๊บ ซินดี้ เมื่อเฮียซ้งรู้ความจริงจากศรีทอง ทีมแดนเซอร์สาวก็ถูกไล่ออกจากตลับ 69 ทันที ความโด่งดังจากการขึ้นปกหนังสือด้วยการถ่ายภาพหวิวของศรีทอง ทำให้แม่ของเธอโกรธมาก เธอเสียใจที่แม่ไม่เข้าใจเหตุผลของเธอ และก็ต้องเสียใจอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอตั้งครรภ์ แต่พิธานไม่ยอมรับและเขาก็แต่งงานไปกับหญิงอื่น
ทีเด็ดครูพันธุ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด
ทีเด็ด หัวหน้าแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ชื่อ แก๊งค์กวนใจ เกิดรักแรกพบกับ เชอร์รี่ สาวแสนสวย ฐานะที่ร่ำรวยมาก ทีเด็ดตามเชอร์รี่ไปโรงเรียนอัจฉริยะวิทย์ และได้รู้ว่าเชอร์รี่คืออาจารย์สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้นั่นเอง ทีเด็ดต้องการจะจีบเชอร์รี่ และประจวบเหมาะกับว่ามีอาจารย์ประจำชั้นของเด็กนักเรียนเหลือขอโรงเรียน มัธยมแห่งนี้เพิ่งลาออกไป
ทีเด็ดได้เข้ามาสอนในโรงเรียนแห่งนี้ และได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการโรงเรียน โดยเขาได้รับมอบหมายให้เป็น ครูประจำชั้นคนใหม่ของห้องที่รวบรวมไปด้วยนักเรียนตัวแสบเอาไว้หลากหลายรูป แบบทั้งชายและหญิง เริ่มจากแก๊งค์ห้ามังกร ซึ่งมีไม้ เป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดี บ้านฐานะดี อยู่กับแม่สองคน ไม้เป็นเด็กที่ฉลาดเป็นจอมวางแผน เรียนเก่ง แต่เกเร และเป็นหัวหน้าของแก๊งค์นี้ด้วย เคน ฐานะที่บ้านยากจน อาศัยอยู่กับป้า ซึ่งเวลาที่เคนอยู่บ้านจะแตกต่างกับเมื่ออยู่ที่โรงเรียน อยู่บ้านเคนจะเรียบร้อยเอาการเอางานมาก แต่เวลาที่เขาอยู่ที่โรงเรียนเขาจะเกเรมาก ชอบแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลัง และเป็นขาลุยประจำแก๊งค์นี้
ก็ อต ซึ่งมีฉายาว่า ก๊อตโช๊ะ เพราะมีคำพูดที่ติดปากว่า โช๊ะ เวลาที่ดีใจหรือว่าเสียใจ ก็อตเป็นเด็กอัจฉริยะ เรียนเก่ง ชอบเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี จึงเป็นนักคอมพิวเตอร์ตัวฉกาจ เพลง เพลงเกิดในครอบครัวศิลปิน ที่บ้านของเพลงจะเล่นดนตรีไทยกันทั้งบ้าน ก็เลยส่งผลให้เพลงเป็นคนที่ละเอียดอ่อน ชอบงานศิลปะ เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และเป็นนักเป่าขลุ่ยที่มีฝีมือดีมาก ๆ และปักเป้า เป็นเด็กที่ไม่เอาไหนที่สุดในกลุ่ม เรียนก็ไม่เก่ง
และอีกหนึ่ง แก๊งค์ก็คือแก๊งค์ดอกไม้เหล็ก ที่มีโม สาวน้อยที่ปราดเปรียวเป็นหัวหน้ากลุ่มนี้ ป๊อก สาวห้าวประจำกลุ่ม ซึ่งโตกว่าผู้หญิงด้วยกันจึงเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัว เอง โก๊ะ ฉายา โก๊ะแช๊ด เป็นคู่กัดกับ ก๊อตโช๊ะ ชอบเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นชีวิตจิตใจ แช๊ทได้ทั้งวัน และมีนิสัยร่าเริง เป็นเซียนคอมพิวเตอร์ประจำแก๊งค์นี้ แจ๊ด สาวเปรี้ยวประจำกลุ่ม เป็นผู้นำแฟชั่น เป็นคนที่รักเพื่อน มีน้ำใจ และฮาย เป็นเด็กสวย น่ารัก เรียนเก่ง เรียบร้อย เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี เป็นเพื่อนรักของโม และเป็นคนที่คอยช่วยเหลือโมตลอดเวลา
เด็ก ๆ ในห้องไม่ยอมรับทีเด็ดเป็นครูประจำชั้น เด็กทั้งสองกลุ่มท้าทายกันเองว่าใครจะสามารถทำให้ทีเด็ดลาออกได้ก่อนก็จะ เป็นฝ่ายชนะและมีการเดิมพันกันเอาไว้ด้วย จากนั้นทีเด็ดก็ได้พบกับฤทธิ์เดชของเด็ก ๆ มากมาย แต่ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ มาได้อย่างเจ็บตัวบ้างไม่เจ็บตัวบ้าง ส่วนครูจารุ หัวหน้าฝ่ายปกครองของโรงเรียนก็จ้องที่จะเอาผิดกับครูทีเด็ด เพราะความเป็นครูคนละแบบ และเป็นคนที่เจ้าระเบียบสุด ๆ เด็ก ๆ นักเรียนจึงไม่ค่อยชอบ
ในขณะที่สร้างวีรกรรมแกล้งครูคนใหม่ เด็ก ๆ ก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับตนเองเช่นกัน เริ่มจากการแตกเนื้อสาวของ แก๊งค์ดอกไม้เหล็ก ทำให้เกิดเรื่องวุ่น ๆ มากมาย ต่อมาแก๊งค์ห้ามังกรก็แตกเนื้อหนุ่มบ้าง การเป็นแมนได้ถูกตีความแบบผิด ๆ ครูทีเด็ดช่วยเด็ก ๆ ให้เห็นว่าความเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริงนั้นอยู่ตรงไหน ในช่วงนี้เด็ก ๆ ในห้องจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาและความเคารพในเพศตรงข้ามไปพร้อม ๆ กัน
เด็ก ๆ แต่ละคนทั้งประสบและสร้างปัญหาแตกต่างกัน ครูทีเด็ดจะต้องช่วยเหลือและดูแลนักเรียนเหล่านี้ให้ได้ เพื่อความฝันอันสูงสุดของเขา หากเขาทำไม่ได้ นอกจากจะไม่ได้เงินเดือนแล้วเขาจะต้องพลาดหวังในตัวและหัวใจของครูเชอร์รี่ ด้วย
ทีเด็ดจะบรรลุความฝันของเขาได้หรือไม่ เหล่านักเรียนตัวป่วนทั้งหลายจะงัดไม้ตายอะไรออกมาแกล้งครู ทีเด็ด เชอร์รี่จะรับรักทีเด็ดหรือไม่ ต้องติดตามในละคร ทีเด็ดครูพันธ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด
นักแสดงละคร ทีเด็ดครูพันธุ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด
1. ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง
2. ศรีริต้า เจนเซ่น
3. มยุริญ ผ่องผุดพันธุ์
4. อภิชาต ชูสกุล
5. เบญจรัตน์ วิศิษฐ์กิจการ
6. ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ
7. แพร ธรรมเสถียร
8. ศุลีพร ตันตระกูล
9. ธีรภัทธ แก้วเกษ
10. เชตวิทย์ พิมลพันธุ์
ทับตะวัน
แสงหล้า เป็นลูกสาวคนเดียวของ พ่อเลี้ยงบุญอนันต์ เจ้าของบ้านทับตะวัน แม่ของแสงหล้าตายตั้งแต่เธออายุได้ขวบเดียว บุญเหลือ น้องสาว และ ป้าคำปัน แม่บ้านเป็นผู้ดูแล ส่วนพ่อเลี้ยงเอาเวลาไปรื่นเริงกับสาวชาวบ้าน พอเธออายุ 5 ขวบ พ่อเลี้ยงส่งเธอไปเรียนที่โรงเรียนประจำคอนแวนต์ที่กรุงเทพฯ เธอมีเพื่อนสนิท ชื่อ ฟองจันทร์ ฟองจันทร์สังเกตเห็นแสงหล้ามีจินตนาการฝักใฝ่ในเรื่องทางเพศสูงจนน่าแปลกใจ
ช่วง ปิดเทอมแสงหล้าได้พบกับคนสวนหนุ่มที่ชื่อ หนานเมือง แสงหล้าเจอหนานเมืองก็เกิดแรงปรารถนาจะใช้จินตนาการอันล้ำลึกของเธอให้เป็น จริงกับหนานเมือง หนานเมืองนั้นก็พึงใจแสงหล้าแต่มิกล้าใฝ่สูง แต่แสงหล้าก็ใช้อุบายหลอกหนานเมืองจนสำเร็จ หนานเมืองรู้สึกว่าตัวเองทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่แสงหล้าขู่ว่าจะบอกพ่อเลี้ยง ตอนเปิดเทอม ฟองจันทร์รู้ว่าแสงหล้าท้อง จึงบอกบุญเหลือ และคำปัน พอพ่อเลี้ยงรู้เรื่องก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้ในอดีต
เมื่ออดีต พ่อเลี้ยง ซื้อ บัวลอย มาเป็นเมียทั้ง ๆ ที่เธอมีคนรักอยู่แล้ว พ่อเลี้ยงจับได้ว่าบัวลอยแอบเป็นชู้กับคนรักเก่าบนหาดทรายเปลี่ยว เมื่อบัวลอยคลอดลูกสาวชื่อ แสงหล้า พ่อเลี้ยงระแวงว่าแสงหล้าจะเป็นลูกชู้ จนบัวลอยเรือล่มจมน้ำตายอย่างปริศนาพร้อมชู้ พ่อเลี้ยงต้องการให้แสงหล้าเอาลูกออก แต่แสงหล้าไม่ยอม พ่อเลี้ยงเรียกหนานเมืองมาซ้อมปางตาย แต่แสงหล้ามองเฉย ทำให้หนานเมืองเจ็บปวดใจ หนานเมืองขอไปทำงานสร้างทางเข้าดงผู้ก่อการร้าย คนงานของพ่อเลี้ยงเหยียบกับระเบิดตายเป็นจำนวนมาก ทุกคนคิดว่าหนานเมืองเสียชีวิต ซึ่งความจริงหนานเมืองยังไม่ตาย แอบมาคุ้มครองเมียและลูกในท้องอยู่เสมอ
แสงหล้าคลอดลูกผู้หญิง ชื่อ บัวตอง บัวตองรับรู้และเข้าใจได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ยอมพูดอะไร ส่วนแสงหล้ากลับไปประพฤติตัวสำส่อน วันหนึ่งแสงหล้าชวน สุวพันธ์ กับเพื่อน ไปสนุกสนานกันในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง แสงหล้าเกิดคลั่งจุดไฟเผากระท่อม หนานเมืองตามมาช่วยไว้ทัน และขอร้องอย่าบอกใคร ต่อมาแสงหล้าพาบัวตองไปพายเรือเล่นที่หาดเปลี่ยว บริเวณที่แม่เธอเสียชีวิต เรือคว่ำ หนานเมืองและอินตาตามมาช่วยไว้ทัน สองแม่ลูกถูกนำส่งโรงพยาบาล แสงหล้าตกใจกลัวจน เกิดอาการสติวิปลาศ พ่อเลี้ยงอับอาย สั่งให้หมอบอกทุกคนว่าแสงหล้าตาย แล้วพาแสงหล้าไปขังที่บ้านป้าแก่ที่หาดเปลี่ยวแห่งนั้น
หลังเหตุการณ์เรือล่ม บัวตองดูหวาดกลัว บุญเหลือจึงให้ครูพิมมาสอนวาดรูปให้กับบัวตอง ส่วนหนานเมือง เมื่อคิดถึงแสงหล้าก็มักจะไปที่หาดเปลี่ยวอันเป็นสถานที่ที่เขาและเธอเป็น ของกันและกัน วันหนึ่ง แสงหล้าหนีออกมาจากบ้านป้าแก่ หนานเมืองช่วยจับตัวไว้ เลยรู้ว่าแสงหล้ายังไม่ตาย แต่แสงหล้าจำหนานเมืองไม่ได้ จากนั้น หนานเมืองก็คอยมาดูแลแสงหล้าเรื่อย ๆ
เขมินทร์ น้องชายต่างมารดาของครูพิม ทำงานในไร่ชา ใกล้บ้านทับตะวัน เขมินทร์เกิดรักแรกพบกับบัวตอง ทำให้พ่อลี้ยงไม่พอใจ แต่เขมินทร์ไม่กลัว พาบัวตองหนีไปที่หมู่บ้านพระพุทธบาทห้วยข้าวต้มที่ลำพูน เขมินทร์ทำไร่ บัวตองสอนชาวบ้านทอผ้า เวลาว่างก็ปฏิบัติธรรม จิตใจสงบสบายขึ้นมาก แต่พ่อเลี้ยงตามมาเจอจนได้…เหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร เรื่องราวทุกอย่างจะจบลงด้วยความเข้าใจของทุกฝ่าย หรือจะมีโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม ต้องติดตามใน ทับตะวัน
นักแสดงละคร ทับตะวัน
พรชิตา ณ สงขลา
อธิชาติ ชุมนานนท์
อรอนงค์ ปัญญาวงศ์
สายธาร นิยมการณ์
นิรุตติ์ ศิริจรรยา
เต่ากินผักบุ้ง
หลังจบการศึกษา รังสิมา หรือผักบุ้ง ( อาทิตยา ดิถีเพ็ญ ) , ชลลดา หรือโอ๋ ( ทัศนพรรณ สิริสุขะ ) และอารียา ( วิญาดา จงรัตนเมธีกุล ) ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันต้องแยกย้ายกันไป ผักบุ้งต้องแต่งงานตามสัญญากับเต่า หรือจัตริน ( เคลลี่ ธนะพัฒน์ ) หลานชายแท้ ๆ ของปู่รังสี ( ญาณี ตราโมท ) ผู้ที่เลี้ยงดูผักบุ้งมาตั้งแต่เด็ก ผักบุ้งดีใจ และรอคอย วันที่จะได้แต่งงานกับจัตริน แต่เมื่อจัตรินกลับจากเมืองนอกกลับบอกกับ รังสรรค์ ( สมภพ เบญจาธิกุล ) และนภัสสร (ปนัดดา โกมารทัต ) พ่อกับแม่ว่าตนมีธิดารัตน์ ( ภัคจิรา วรรณสุทธิ์ ) เป็นคนรักอยู่แล้วและกำลังจะมีลูกกับเธอ จึงขอยกเลิกสัญญาเรื่องการแต่งงานกับผักบุ้ง พ่อกับแม่จึงต้องแบกหน้าไป บอกกับปู่รังสี ๆ โกรธมากบอกว่าจะ ไม่ยอมช่วยเหลือเรื่องเงินเรื่องทองของบ้านจัตรินอีก
ผักบุ้งเสียใจที่จัตรินปฏิเสธเหมือนเธอไม่มีค่า แต่ปู่รังสียังยืนยันว่าไม่ต้องการ เหลนทวดจากใครนอกจากผักบุ้ง เพราะปู่รังสีต้องการตอบแทนที่ในอดีตมาลินี ( ญาสุมินทร์ เลิศอมรวัฒนา ) แม่ของผักบุ้งได้สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยตนไว้ และสัญ ญากับมาลินี ว่าจะดูแลผักบุ้งให้ดีที่สุด เมื่อจัตรินปฏิเสธผักบุ้ง เธอจึงวางแผนเข้าไป ทำงานในบริษัทของพ่อโอ๋ ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่จัตรินทำงาน อารียาก็ทำงานใน บริษัท นั้นเช่นกันจึงขอให้โอ๋ฝากผักบุ้งเข้าทำงาน โอ๋รับปากและดีใจที่ผักบุ้งไม่ ต้องแต่ง งานกับเต๋าเพราะจาตุนรต์ ( คงกระพัน แสงสุริยะ ) พี่ชายของตนจะได้สม หวัง ตอนที่เรียนหนังสือ
ผัก บุ้งเคยอยู่ที่บ้านของอารียา เพราะบังอร ( ดวงใจ หทัยกาญจน์ ) แม่ของอารียา เป็น เพื่อนรัก กับมาลินีมาก่อน บังอรจึงรักผักบุ้งเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง ผักบุ้งบอก อารียาว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะขอมาอยู่บ้านอารียาเช่นเดิม เพราะบ้าน ของอารียาอยู่ติดกับบ้านจัตริน อารียายินดี จัตริน และจาตุรน์ เป็นเพื่อนรักกันจัตริน ขอให้จาตุรนต์ฝากธิดารัตน์เข้าทำงานในบริษัทที่ตนทำอยู่ จาตุรนต์รับปาก แต่เมื่อ โอ๋บอกว่าผักบุ้งต้องการทำงานนี้จาตุรนต์ก็เลือกผักบุ้งและปฏิเสธจัตริน ในบริษัท ลือกันว่าเพราะผักบุ้งเป็นแฟนกับจาตุรนต์จึงได้ทำงาน ซึ่งตรงตามแผนของ ผักบุ้งที่ต้องการแก้แค้นจัตรินที่ทำให้เธอผิดหวัง
จัตรินคิดว่าที่แท้ผักบุ้งมีแฟนอยู่แล้วตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ยอมแต่งงาน กับเธอ ต่อมาจัตรินได้รู้ว่าทาง ครอบครัว ของธิดารัตน์ปฏิเสธที่จะรับตนเป็นลูกเขย และบอกว่าธิดารัตน์ไม่ได้ท้อง เธอตัดสินใจเป็นเมียน้อยเสี่ย ทรงชัย เพราะฐานะร่ำรวยกว่า จัตรินรู้ข่าว เขาเสียใจมาก จัตรินบอกปู่รังสีว่าตนพร้อมที่จะแต่งงานกับผักบุ้งแล้ว ปู่จึงให้ผักบุ้งแต่งงานกับจัตรินพร้อมเล่าเหต์การณ์ในอดีตให้ผักบุ้งฟังว่า ธิดารัตน์คือพี่น้องพ่อเดียวกันกับผักบุ้ง เพราะธาดา(อรรถชัย อนันตเมฆ) พ่อของผักบุ้งทิ้งมาลินีไปแต่งงานกับดาลัด ( ปิยะมาศ โมนยกุล ) มีลูกด้วยกันสองคน คือ ธิดารัตน์ และธราดล (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ปู่จึงต้องการให้ผักบุ้งแต่งงานกับจัตรินเพื่อบอกให้ธาดารู้ว่าผักบุ้ง ได้ดีกว่าธิดารัตน์ลูกสาวที่เขาฟูมฟักซึ่งยอมเป็นเมียน้อย ผักบุ้งไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวธาดา แต่เธอยอมแต่งงานกับ จัตรินเพื่อตามใจคุณปู่ เมื่อจาตุรนต์รู้ข่าวเขาเสียใจมาก
เพื่อฐานะที่ดีขึ้นดาลัดชักนำให้ธราดลกับโอ๋ ทั้งที่โอ๋อายุมากกว่าธราดล ทำให้เขาได้ รู้จักกับผักบุ้งและเรียกผักบุ้งว่าพี่สาวอย่างเต็มปาก เขาบอกกับผักบุ้งว่า ธาดารู้สึกผิด ที่ทิ้งมาลินีและผักบุ้ง แต่โอ๋กลับคิดว่าธราดลทำไปเพราะว่าผักบุ้งกำลัง จะเป็นหลาน สะใภ้เศรษฐี งานแต่งงานของผักบุ้งและจัตรินมาถึง จาตุรนต์เอาแต่ดื่มเหล้า และหนี ออกจากงานอารียาด้วยความเป็นห่วงจึงตามไป แต่กลับโดนจาตุรนจ์แกล้ง อารียา โกรธจึงไม่ยอมพบหน้าจาตุรนต์อีก จาตุรนต์ปลงตก และหันกลับมาคบกับอารียา
ธิดารัตน์หลอกเสี่ยทรงชัยว่าท้อง เสี่ยรู้ว่าเธอโกหกโกรธมาก เธอจึงหนีกลับเมืองไทยและตามราวี ผักบุ้ง กับ จัตรินไม่เลิกเพราะต้องการจะกลับไปคบกลับจัตรินอีก จนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากมาก แต่ จัตรินยืนยันตัด ความสัม พันธ์กับ ธิดารัตน์เพราะจัตรินรักผักบุ้ง ปู่รังสีดีใจที่รู้ว่าผักบุ้งกำลังจะมีเหลนแต่ก็ไม่ทัน ได้ดูหน้าเหลน ปู่ก็เสียชีวิต ผักบุ้งเสียใจมาก จัตรินรู้ว่าตนกำลังจะเป็นพ่อคน จึงสัญญากับผักบุ้งว่าจะไม่ทรยศเธอเรื่องธิดารัตน์อีก หลังงานศพปู่ ธาดาขออยู่ที่บ้าน สวนที่ปู่ยกให้จัตริน และผักบุ้ง และรับปากว่าจะส่งเงินให้ดาลัดใช้ ส่วนธิดารัตน์ ให้หางานทำธราดลนั้นก็ให้เรียนไปทำงานไป ผักบุ้งและอารียาเป็นตัวประสานให้โอ๋ปรับความเข้าใจ กับธราดล ธิดารัตน์ถูกซ้อมปางตาย ทำให้ธิดารัตน์คิดว่าถ้าเธอมีสามีที่ดีอย่างจัตรินคงไม่ถูกใครทำร้าย เธอตัดสินใจว่าจะ ต้องแย่งจัตรินจากผักบุ้งให้ได้ โดยโกหกว่าท้องกับจัตริน เมื่อธราดลเปิดเผยความจริงว่าเธอไม่ได้ท้องจริง เธอจึง รับไม่ได้ใช้มีดแทง จัตริน แล้วก็เสียสติต้องไปอยู่โรงพยาบาลประสาท จัตรินรอดตายมาได้ ทั้งสองคนเข้าใจกัน จัตรินขอดูแลธิดารัตน์เหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ผักบุ้งไม่ขัดจัตริน แล้วทั้งสองก็ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ตราบฟ้าสิ้นดาวสาวแก่
วัลลี ( จันทร์จิรา จูแจ้ง ) สาวพันหน้า นักลอกคราบตัวฉกาจ ถูกตามล่าจากเจ้าหนี้ ทำให้ต้องหนีไปกบดานที่อังกฤษ และระหว่างการหลบหนีได้รับการช่วยเหลือจากเอ็ม ( วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ ) ลูกชายสปอร์คลับ ที่เธอไปลอกคราบ พ่อของเขามา ซึ่งต่างก็ไม่รู้ฐานะของกัน ซูซี่ ( บุษกร พรวรรณะศิริเวช ) สาวไทยใจฝรั่ง นักฉกมือฉกรรจ์ หากินทุก รูปแบบกับชีวิตมิจฉาชีพ ชีวิตพัวพันอยู่ในบ่อน วันหนึ่งในบ่อนของปีเตอร์ ( ยุทธ ทองเจริญ ) และแจ๊กกี้ ( ชาญชัย วราวิทยา ) สองพี่น้องที่เป็นมาเฟียใหญ่ในไชน่าทาวน์ หล่อนดันถูกจับได้ว่าไปโกงต้องหนีตายออกมา แต่โชคดี ที่โจนาธาร ( ธนากร โปษยานนท์ ) เข้ามาช่วยไว้ โจแอบประทับใจในตัวซูซี่แต่ความรู้สึกนั้นต้องหายไป เมื่อมารู้ว่า กระเป๋าเงินหายไปที่ตอนร่ำลากัน
วัลลีตั้งใจจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่อังกฤษ ด้วยการเปลี่ยนชื่อเป็น นาตาลี และจะมาอยู่กับเพื่อนแต่เพื่อนดันมาตายไปก่อน แถมพระเจ้ายังกลั่นแกล้ง ส่งไอ้ช้างและนังเกิร์ล สองผัวเมียคนไทยที่มีอาชีพเป็นแมงดา หลอกพานาตาลีไปขายซ่อง แต่ซูซี่เห็นเหตุการณ์จึงช่วยไว้และให้อาศัยด้วย ระหว่างนั้นชีวิตซูซี่กำลังตกต่ำ เพราะต้องส่งเสียมาร์คน้องชายให้เรียนแถมยังต้องใช้หนี้พนัน นาตาลีรับรู้แต่ไม่ช่วยเหลือทั้ง ๆ ที่ตัวเองพอมีเงิน ซูซี่พยายามหาเงินทุกหนทางจนในที่สุดได้หลอกพานาตาลีไปขายซ่อง เพื่อแลกกับหนี้ที่ติดไว้ ฝ่ายนาตาลีดีใจคิดว่าตนมีงานทำแต่กว่าจะรู้ความจริงก็หนีไม่รอดถูกขังอยู่ใน ซ่อง ซูซี่กลับบ้านมาด้วยความละอายใจ แต่ก็กลับกลายเป็นความแค้นเมื่อไปพบเงินของนาตาลี แต่แล้วโชคยังพอเข้านาตาลีบ้าง เมื่อได้พบก้ามปูกะเทยยักษ์ เธอได้ขอร้องให้ก้ามปูช่วยเธอออกไปแล้วสัญญาจะให้เงินเป็นการตอบแทนและเมื่อ หลุดออกไปได้ นาตาลีก็หนีก้ามปูกลับมาบ้านซูซี่ เมื่อสาวเผชิญหน้าก็เกิดการตะลุมบอนกันแต่ต้องหยุดเมื่อปีเตอร์และแจ๊กกี้มา เจอ ทั้งคู่เลยถูกอัดแถมยังถูกเอาเงินไปอีก เสียเงินไปไม่เท่าไร ยังมาเจอโจทย์เก่าอย่างช้างและเกิร์ล ทั้งสี่คนตะลุมบอนกันอย่างหนักดูท่าสองสาวจะแย่ แต่โชคดีที่ก้ามปูในคราบของบุรุษรูปงามผ่านมาช่วยไว้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ก้ามปูจะชำระหนี้กับนาตาลี ทั้งสองสาวหลงรักมาดแมนของก้ามปูจนไม่ได้คิดว่าหนุ่มหล่อก้ามปูคนนี้เป็น กะเทย แต่แล้วความอดทนของกะเทยยักษ์ก็ได้หมดไป แล้วความจริงจึงแตกทั้งสองสาวเลยไล่กะเทยยักษ์ออกไป
เมื่อ เงินไม่มี ไม่มีอะไรต้องแย่งชิง มิตรภาพระหว่างเพื่อนจึงงอกเงย ซูซี่ให้นาตาลีกลับมาอยู่ด้วยพร้อมช่วยกันหาเงิน ทั้งงานทั้งรายได้ไปได้ดี จนนาตาลีได้มาพบกับเอ็มอีกครั้ง และชายหนุ่มแอบหลงไหลในตัวหญิงสาวทั้งที่เธอเองไม่เคยคิดเลย เพราะเอ็มอายุน้อยกว่าตัวเธอ แต่เพราะความซื่อและจริงใจ ทำให้หัวใจของเธอก็หวั่นไหวเหมือนกัน ขณะที่ซูซี่ก็ได้พบกับโจ เธอพยายามหลบหน้าโจ แต่โจอยากให้ซูซี่หากินสุจริตโดยยินดีจะให้งานทำ ซูซี่เลยไปปรึกษานาตาลี ทั้งคู่ต่างคิดถึงอนาคตข้างหน้า จึงให้ซูซี่ตอบตกลงข้อเสนอของโจ ซูซี่ได้ไปทำงานกับโจต่างคนเริ่มประทับใจในกันละกัน ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ไม่ดีเพราะซูซี่ยังโดน อาดี ญาติผู้ใหญ่ของโจ กลั้งแกล้งอยู่สมอ จนความอดทนของเธอหมดไปจึงตัดสินใจลาออก แต่โจไม่ยอมและยังมาบอกรักเธออีก ในที่สุดความรักก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เอ็มได้ขอนาตาลีแต่งงาน แต่เธอไม่มั่นใจว่าครอบครัวของเอ็มจะรับเธอไม่ไหม เพราะอายุที่ต่างกัน แต่เอ็มเห็นว่าความรักไม่มีช่องว่างและไม่มีใครจะมาขวางเขาได้ แต่ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อนางมารสองพี่น้องเอื้อยและอ้ายแอบหลงรักสองหนุ่ม เอื้อยแอบหลงรักโจ ในขณะที่อ้ายหลงรักเอ็ม ทั้งสองพี่น้องจึงคิดแผนชั่วเอาตัวสองหนุ่มมาครอบครอง โดยการมอมเหล้าแต่แผนกลับสลับคู่ เอ็มหนีไปได้แต่โจดันเข้าหอไปกับอ้าย เอื้อยโกรธมากที่อ้ายไม่คืนโจ ทำให้สองพี่น้องขาดกัน อ้ายบังคับให้โจรับผิดชอบ แต่โจยันไม่ได้ทำอะไรอ้ายเลย ส่วนเอื้อยตัดสินใจบอกโจว่าทั้งหมดเป็นแผนการของเขากับอ้าย ทำให้โจรอดจากพ้นเงื้อมืออ้ายอย่างหวุดหวิด แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ซูซี่เสียใจมากถึงขั้นเลิกกับโจและย้ายตัวเองหนีไป
เรื่องร้าย ๆ ได้ผ่านพ้นไป งานแต่งงานของเอ็มกับนาตาลีถูกกำหนดขึ้น แต่พิธียังไม่ทันเริ่ม เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อของเอ็มมาร่วมงานและได้เผชิญหน้ากับนาตาลี และความจริงก็เปิดเผยสาวคนที่ลอกคราบพ่อของเอ็มคือ นาตาลี เมื่อเอ็มรับรู้ก็ได้แต่อึ้ง ผิดหวัง เสียใจ นาตาลีเองก็อับอายกับความจริงที่เกิดขึ้นจึงหนีไปอยู่กับซูซี่ทั้งสอง เสียใจกับชะตาชีวิตแสนเศร้าของทั้งคู่ และตัดสินใจจะอยู่ด้วยกันและจะไม่รักใครอีก ส่วนทั้งสองหนุ่มแต่ขบคิดเรื่องความรักของพวกเขาและพวกเธอ ต่างตัดสินใจว่าจะต้องตามหาหญิงที่รัก แต่แผลรักของทั้งสองสาวนั้นมันลึกยากที่จะรักษา แล้วทั้งสองหนุ่มจะทำอย่างไร เพื่อพิสูจน์ความรักที่มีให้พวกเธอ
นักแสดงละคร ตราบฟ้า สิ้นดาว สาวแก่
จันทร์จิรา จูแจ้ง แสดงเป็น วัลลี
บุษกร พรวรรณะศิริเวช แสดงเป็น ซูซี่
ธนากร โปษยนนท์ แสดงเป็น โจนาธาน
วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ แสดงเป็น เอ็ม
แดนซ์ไม่เซ่อ เลยเจอรัก
ปองขวัญ นิสิตสาวปีสุดท้ายที่รักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจและเพิ่งได้รับเลือกให้เป็น กัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ เอ็กซ์ดรีม เพอร์ฟอร์เมอร์ แชมป์เก่าจากการแข่งขัน ยูนิเวอร์ซิตี้ ปอม ปอม เชียร์ลีดดิ้ง คอนเทสท์ ในปีที่ผ่านมา แทนกัปตันคนเดิมที่เพิ่งจบออกไป ปองขวัญเคี่ยวเข็ญและฝึกลูกทีมอย่างหนักหวังจะรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ โดยให้ แอนนี่ สมาชิกใหม่ของทีมเป็นคนที่จะถูกโยนขึ้นไปในขณะที่ต่อตัว ทำให้ นัทธี เพื่อนในคณะที่แอบชอบแอนนี่รู้สึกเป็นห่วงแอนนี่มากจนคิดหาทางขัดขวางทุก วิถีทาง แต่ปองขวัญก็ยังคงเดินตามแผนเดิม โดยมี น้ำผึ้งหญิงแท้และมิ้นท์ ชายจริงหญิงเทียม เพื่อนในทีมเชียร์คอยช่วยให้กำลังใจ แต่แล้วเมื่อถึงวันแข่งขันแอนนี่พลาดตกลงมากระดูกต้นคอเคลื่อนต้องเข้ารับ การรักษาโดยด่วน จนทำให้ทีมต้องพลาดการป้องกันแชมป์ไป
อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นทำให้พ่อแม่ของแอนนี่กล่าวโทษปองขวัญว่าเป็นตัวการที่ทำให้ลูก สาวของเขาอาจถึงกับพิการ ทำให้ปองขวัญรู้สึกผิดและต้องการทางช่วยแอนนี่ให้ได้ ฝ่ายนัทธีก็ไม่วายกล่าวโทษว่าเป็นเพราะปองขวัญเช่นกัน หลังจากนั้นนัทธีจึงขอร้องให้ นันทภพ พี่ชายหนุ่มหล่อผู้บริหารค่ายเทปเพลงยักษ์ใหญ่ ไมล์สโตน ช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เขาปฏิเสธ และกำลังยุ่งอยู่กับการดัน ปราการ ศิลปินใหม่ที่ใช้ชื่อในการแสดงว่า หลิวซื่อหมิง ให้กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น จึงวางแผนการตลาดเปิดรับสมัครแข่งขันทีมแดนเซอร์หน้าใหม่ของหนุ่มหลิวเพื่อ ชิงเงินรางวัลถึงสองแสนบาท พอมิ้นท์ได้เห็นประกาศก็รีบมาบอกปองขวัญเพื่อชวนกันไปสมัครเข้าแข่งขัน เผื่อจะได้นำเงินมาใช้ในการผ่าตัดแอนนี่
ปองขวัญ น้ำผึ้งและมิ้นท์เฝ้าซุ้มซ้อมเตรียมทีม ฟอร์แอนนี่แดนเซอร์ทีม อย่างหนัก ในเกมส์การแข่งขันปองขวัญก็ต้องขับเคี่ยวกับทีมคู่แข่งขันมากมาย โดยเฉพาะทีมที่มี มิเชล กับคู่หู นีน่า แดนเซอร์ที่มีลีลาการเต้นยอดเยี่ยมเป็นคู่แข่งคนสำคัญ จนถึงวันแข่งขันรอบชิง นันทภพเห็นปองขวัญครั้งแรกก็รู้สึกชอบและคิดว่าน่าจะใช้ประโยชน์ได้ จึงตัดสินให้ฟอร์แอนนี่แดนเซอร์ทีมชนะเลิศ แต่ก็ไม่ลืมที่จะยื่นข้อเสนอให้มิเชลและนีน่าเข้าร่วมทีมแดนเซอร์ทีมใหม่นี้ ด้วย หลังจากนั้นปองขวัญก็นำเงินรางวัลไปให้กับแอนนี่เพื่อใช้ในการผ่าตัด
การ ยอมเสียสละเวลาและความมุ่งมั่นของปองขวัญ พร้อม ๆ กับอาการของแอนนี่ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความคิดต่อต้านที่นัทธีมีต่อปองขวัญอ่อนลง ระหว่างนั้นปองขวัญ น้ำผึ้งและมิ้นท์ที่เพิ่งได้ทำสัญญาก็ต้องเหนื่อยหนักขึ้นอีกเป็นสองเท่า เพราะต้องทำงานและเรียนไปด้วยพร้อมๆ กัน แอนนี่เห็นขอร้องให้นัทธีช่วยปองขวัญในเรื่องการเรียน นัทธีเริ่มญาติดีกับปองขวัญและตามตื้อ จนปองขวัญใจอ่อน ด้านสัมพันธภาพของทีมแดนเซอร์ทีมใหม่ที่ดูท่าว่าจะไปได้ดีในช่วงแรก ก็กลับเหมือนมีปัญหาคาใจกันอยู่ทุกคน เมื่อน้ำผึ้งและนีน่าเริ่มชื่นชอบในตัวหนุ่มหลิวเหมือนกัน ในขณะที่หนุ่มหลิวก็คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มฮ๊อตมีสาว ๆ มารายล้อมให้เลือกมากมาย ส่วนมิเชลเองก็เริ่มแสดงความชื่นชมนันทภพอย่างออกหน้าออกตา ทำให้ปองขวัญจะรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่นันทภพเข้ามาทำทีเอาใจตน
และเมื่อถึงวันที่ทุกคนเรียนจบ นัทธีที่เริ่มรู้สึกดีต่อปองขวัญมากขึ้นแล้วยังเป็นห่วงที่ปองขวัญต้องอยู่ ภายใต้การดูแลของนันทภพ จึงใช้วิธีออดอ้อนคุณแม่ให้ออกคำสั่งกับนันทภพให้ยอมรับเขาเข้าทำงานที่ไมล์ สโตน เพื่อหวังที่จะได้ดูแลปองขวัญได้อย่างใกล้ชิด โดยนัทธีเข้ามาช่วยงานทางด้านการดูแลศิลปิน แต่ปองขวัญกลับรู้สึกเหมือนถูกหลอก เมื่อทราบว่านัทธีเป็นน้องชายของนันทภพ นัทธีพยายามอธิบายให้ปองขวัญเข้าใจ
นันทภพยังคงเฝ้าดูแลเอาใจปองขวัญอยู่ไม่ห่าง ทุกครั้งที่หนุ่มหลิวออกคอนเสิร์ต ทีมแดนเซอร์ทีมนี้ก็มักจะได้รับคำชมด้วยเสมอ โดยเฉพาะปองขวัญ ทำให้นัทธียิ่งรู้สึกเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก นัทธีพยายามบอกเตือนปองขวัญ แต่ปองขวัญที่ยังโกรธนัทธีกลับไม่ยอมฟัง แต่เริ่มหันไปตอบรับการเอาใจใส่ดูแลของนันทภพมากขึ้น ทำให้มิเชลเริ่มทนไม่ได้คิดหาทางเล่นงานปองขวัญด้วยการจ้างให้คนตัดต่อรูป ปองขวัญลงในเน็ต แล้วเขียนด่าว่าปองขวัญในทางที่ไม่ดี
ระหว่างนั้น นันทภพเห็นแววว่าน่าจะสร้างศิลปินกลุ่มหญิงประเภทเพลงแดนซ์ขึ้นมา แต่เมื่อข่าวในเน็ตเรื่องปองขวัญแพร่สะพัด ทำให้นันทภพต้องระงับแผนการเอาไว้ก่อน แล้วใช้ให้นัทธีไปจัดการแก้ข่าว ทำให้มิเชลยิ่งโกรธปองขวัญหนักขึ้นไปอีก หลังจากนั้นนันทภพยื่นข้อเสนอให้ปองขวัญ น้ำผึ้ง มิเชล และนีน่ารวมกลุ่มกันตั้งเป็นศิลปินกลุ่มหญิงแนวเพลงแดนซ์ แล้วให้เลิกจ้างมิ้นท์ ทำให้ปองขวัญถึงกับคิดหนัก ส่วนน้ำผึ้งคิดว่าหากตนได้ขึ้นเป็นศิลปิน หนุ่มหลิวจะหันมามองที่ตนบ้าง แต่การที่จะตัดมิ้นท์ออกทั้งๆ ที่เคยหัวหกก้นขวิดมาด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ สุดท้ายนัทธีก็ได้ไอเดียจากแอนนี่ที่จะหาทางออก โดยให้นันทภพว่าจ้างมิ้นท์ให้เป็นคนดูแลศิลปินกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอีกคน อีเนอร์ใจซ์เกิร์ล จึงเกิดขึ้นมาได้ แล้วก็เริ่มดังขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ทำให้หนุ่มหลิวก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะปองขวัญ เพื่อหวังที่จะทำให้ตัวเองดังขึ้น เลยคิดหาทางใกล้ชิดกับปองขวัญด้วยการหลอกใช้น้ำผึ้งเป็นสะพาน แต่การกระทำของหนุ่มหลิวทำให้นันทภพไม่พอใจ เพราะหากปองขวัญที่เป็นตัวเด่นของกลุ่มเกิดเรื่องคาวๆ กับหนุ่มหลิวขึ้นจะทำให้ชื่อเสียงของอีเนอร์ใจซ์เกิร์ลเสียหาย จึงจัดการให้มิเชลและหนุ่มหลิวเกิดเป็นรักโปรโมตกันขึ้นเพื่อสร้างข่าวไป ก่อน
มิเชลโกรธนันทภพ จึงปรึกษากับนีน่าเพื่อหาทางจัดการกับปองขวัญ โดยให้นีน่าเป่าหูน้ำผึ้งเรื่องหนุ่มหลิว เพื่อทำให้น้ำผึ้งและปองขวัญแตกกัน ปองขวัญเสียใจมาก สถานการณ์ของอีเนอร์ใจเกิร์ลเริ่มสั่นคลอน เบื้องหน้าต้องแสร้งทำว่ารักกันดี แต่หลังฉากก็ตัวใครตัวมัน แต่ความต้องการของมิเชลยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น มิเชลฉวยโอกาสหยิบเช็คเงินสดหนึ่งล้านบาทของนันทภพที่บังเอิญลืมเอาไว้บน โต๊ะ เอาไปใส่ไว้ในกระเป๋าของปองขวัญ จนทำให้นันทภพเข้าใจผิดคิดว่าปองขวัญเป็นคนขโมยไป พร้อมทั้งประกาศจะถอดปองขวัญออกจากอีเนอร์ใจซ์เกิร์ลทันที โดยไม่ยอมฟังคำทัดทานของนัทธีแต่อย่างใด
อีเนอร์ใจซ์เกิร์ลเมื่อไม่ มีปองขวัญความนิยมก็เริ่มตกลง เป็นเหตุให้นันทภพคิดหาทางเรียกชื่อกลับคืนมาให้ได้ โดยวางแผนให้หนุ่มหลิวหลอกพามิเชล นีน่า และน้ำผึ้งไปพักที่บังกะโลชายทะเลเพื่อต้องการจะถ่ายภาพโปรโมต แต่เมื่อไปถึงที่นั้น ทั้งสามกลับถูกกล่อมโดยนันทภพและหนุ่มหลิวให้สวมชุดบิกินี่สุดเซ็กซี่เพื่อ ถ่ายแบบ แล้วก็จ้างให้มือเซียนคอมพิวเตอร์ทำการรีทัชให้เหมือนกับทั้งสามไม่ใส่อะไร เลย เพื่อนำออกเผยแพร่หวังสร้างความฮือฮา แต่ปองขวัญเกิดทราบเรื่องก่อน จึงรีบไปปรึกษากับ นัทธีเพื่อให้หยุดการกระทำของพี่ชาย ปองขวัญนำเอาเรื่องนี้ไปบอกกับมิเชล นีน่าและน้ำผึ้ง แต่ทั้งสามไม่เชื่อและคิดว่าปองขวัญต้องการทำลายอีเนอร์ใจเกิร์ล นันทภพเองก็ทำหูทวนลม ไม่ใส่ใจกับคำขอร้องของนัทธี ปองขวัญตัดสินใจเข้าไปหานันทภพเพื่อขอต่อรอง แต่นันทภพก็ยังเล่นเกมไม่ยอมง่ายๆ ปองขวัญ นัทธีและมิ้นท์จึงต้องใช้แผนเข้าไปขโมยไฟล์ภาพในคอมพิวเตอร์ของนันทภพ
ปองขวัญและมิ้นท์ปลอมตัวเป็นหนุ่มช่างไฟติดหนวด นัทธีก็ปลอมเป็นสาวทำความสะอาดคอยดูต้นทาง แต่ในระหว่างที่ปองขวัญกำลังลบไฟล์ภาพหลังจากที่ก๊อปปี้ไฟล์เสร็จแล้ว นันทภพและหนุ่มหลิวกลับมาที่ห้องทำงาน ปองขวัญ มิ้นท์อาศัยความสามารถในการเต้นเชียร์กระโดดหลบออกมาจากห้องทำงานของนันทภพ ได้อย่างหวุดหวิด สร้างความใจหายใจคว่ำให้กับนัทธีจนแทบลืมหายใจ
มิเชล นีน่า น้ำผึ้งได้เห็นภาพรีทัชของตนก็ถึงกับอึ้ง มิเชลสารภาพเรื่องที่แกล้งปองขวัญ ทั้งหมดเลยเข้าใจกันดีขึ้น ในขณะเดียวกันนัทธีก็เอาเรื่องนี้ไปบอกกับคุณแม่เพื่อให้สั่งปลดนันทภพออก จากไมล์สโตน ส่วนหนุ่มหลิวก็ถูกปลดออกจากการเป็นศิลปินของค่ายแล้วให้นัทธีเข้ามาดูแลแทน หน้าที่แรก คือเรียกปองขวัญกลับมาเป็นศิลปิน รวมทั้งเรียกความนิยมของอีเนอร์ใจซ์เกิร์ลกลับคืนมาให้ได้
ปองขวัญ เหนื่อยล้าจากภาพลบของวงการจึงปฏิเสธข้อเสนอของนัทธี แล้วหันมาเป็นผู้คุมทีมเชียร์ของมหาวิทยาลัย ได้พบกับแอนนี่ที่แข็งแรงและกลับมาทำหน้าที่ช่วยอาจารย์สอนทีมเชียร์ซึ่ง มองออกว่าใจจริงของปองขวัญต้องการอะไร จึงไปเสนอนัทธีให้วางคอนเซ็ปท์ของอีเนอร์ไจซ์เกิร์ลให้มีทีมเชียร์ปอมปอม เป็นทีมแดนเซอร์ประจำ นัทธี มิเชล นีน่า น้ำผึ้ง มิ้นท์ และแอนนี่พยายามพูดกับปองขวัญจนใจอ่อน ในที่สุดอีเนอร์ใจซ์เกิร์ลในรูปแบบใหม่ก็ดังเปรี้ยงเรียกคะแนนนิยมกลับคืนมา ได้อย่างมากมาย และทั้งหมดก็กลับมารักกันเช่นเดิม
นักแสดงละคร แดนซ์ไม่เซ่อ เลยเจอรัก
1. เอมี่ กลิ่นประทุม แสดงเป็น ปองขวัญ
2. เขตต์ ฐานทัพ แสดงเป็น นัทธี
3. โรวีน่า เคเน็ต แสดงเป็น มิเชล
4. นิพิธ ฮันเก้ แสดงเป็น นันทภพ
5. วัชรชัย สัตยพิทักษ์ แสดงเป็น หลิวซื่อหมิง ( หลิว )
6. สาวิกา ไชยเดช แสดงเป็น น้ำผึ้ง
7. ดนัย จิรา แสดงเป็น มินท์
8. ปาริชาติ แก้วกำพล แสดงเป็น แอนนี่
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 20.20 น. ช่อง 7
เดิมพันวันวิวาห์
นวนที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” มักใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะกับตระกูลที่มีทรัพย์สินเงินทองมากมายไม้เว้นแต่ตระกูล “นนทิวากร” และตระกูล “รัตนสิรินทร์” ที่ต้องการเกี่ยวดองกันไว้เพื่อผลทางธุรกิจและสัญญาลูกผู้ชายที่หัวหน้าครอบ ครัวได้ให้ไว้ต่อกันว่า หากพวกเขามีลูกสาวลูกชายก็จะให้แต่งงานกัน แต่ถ้าเป็นเพศเดียวกันก็จะให้เป็นพี่น้อง เมื่อนายภิญโญ นนทิวากร มีบุตรชายชื่อ ภูริต ส่วน นายวัฒนา รัตนสิรินทร์ มีลูกสาวชื่อ เพลงพิณ สัญญานี้จึงเป็นผลในทันที
เรื่องมันคงไม่ปั่นป่วนขึ้นมาหากเพลงพิณ จะไม่มีอคติกับคู่หมั้นอย่างภูริตที่มักนั่งนิ่งมองทุกสิ่งราวกับจะประเมิน สถานการณ์รบ และพูดน้อยจนแทบจะนับคำได้ แล้วเขาจะดูดีในสายตาหล่อน หากในวันพิเศษอย่างวันเกิดของคู่หมั้นหรือวันวาเลนไทน์เขาจะส่งดอกไม้ช่องาม มาเป็นของขวัญ แทนที่จะมีเพียงการ์ดแค่ใบเดียวกับข้อความที่ว่า … ขอให้มีความสุข ภูริต นนทิวากร หล่อนจะไม่รู้สึกเขม่นเขาเลยถ้าเวลาเจอหน้ากันชายหนุ่มจะพูดจาอ่อนหวานสัก นิดแทนที่จะตีหน้าเคร่งอย่างกับนักโบราณคดีกำลังสำรวจซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ ที่เพิ่งขุดค้นพบใส่หล่อน รวมๆ ความแล้วหล่อนไม่ชอบท่าทีเงียบขรึมของคู่หมั้นคนนี้น่ะเอง ดังนั้นเมื่อบิดามารดาเร่งรัดเรื่องการแต่งงาน เพลงพิณจึงค้าหัวชนฝา โดยอ้างว่าทั้งหล่อนและเขาไม่ได้รักกัน มิใยที่พ่อแม่จะหว่านล้อมหรือให้เหตุผลต่าง ๆ นานาหล่อนก็ไม่ฟังพร้อมกับอ้างว่าผู้หญิงสมัยนี้ไม่จำเป็นจะต้องแต่งงาน มีหลายคนที่อยู่เป็นโสดและประสบความสำเร็จในชีวิตได้โดยไม่มีคู่ชีวิต แล้วหล่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
เพลงพิณไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยเพราะ นับตั้งแต่เข้ามารับช่วงกิจการบางอย่างจากบิดา หล่อนก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จมาโดยตลอด เหตุนี้จึงทำให้หญิงสาวมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงจนถึงขั้นหลงตัวเองก็ว่า ได้…ไม่มีสิ่งใดที่หล่อนลงมือทำแล้วจะประสบความล้มเหลว เมื่อบุตรสาวยืนยันเช่นนี้นายวัฒนาก็ต้องมาปรึกษาเพื่อนซี้อย่าง นายภิญโญ กับ ญาดา ภรรยาของเพื่อนรัก แต่บังเอิญ ภูริตมาได้ยินเข้า เขาจึงรับอาสาที่จะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองจึงทำให้ผู้ใหญ่ทุกคนเบาใจด้วย รู้ดีว่าชายหนุ่มต้องแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างแน่นอน เพลงพิณแปลกใจมากเมื่อคู่หมั้นมาหาที่ออฟฟิศ แทนที่จะไปที่บ้านและต้องประหลาดใจเป็นทวีคูณเมื่อชายหนุ่มท้าพนันว่างาน บางอย่างเพลงพิณก็บริหารให้ประสบความสำเร็จไม่ได้หรอก นั่นเท่ากับเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของหล่อนอย่างร้ายกาจ
หญิง สาวจึงตกปากรับคำท้าโดยเดิมพันไว้ว่า หากชายหนุ่มชนะ หล่อนจะต้องแต่งงานตามกำหนดเวลาที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายวางไว้ และจะต้องเป็นภรรยาที่อยู่ในโอวาทของสามีโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ แต่ถ้าหล่อนเป็นฝ่ายชนะ การหมั้นหมายของทั้งคู่ถือเป็นโมฆะ เพลงพิณจึงตกลงในทันที แต่พอรู้ถึงสิ่งที่เขากำหนดมาหล่อนก็มึนไปเหมือนกัน
กว่า เพลงพิณจะรู้ว่าพลาดท่าก็สายเสียแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ในยามนี้ก็คือ เดินหน้าต่อไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการทำร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการที่ตนเองจะต้องมาเป็นแม่ครัว เพราะหล่อนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการทำครัวสักอย่าง หล่อนรู้แต่เพียงว่าอะไรอร่อยไม่อร่อย ตัวเองอยากกินอะไรก็เท่านั้น ส่วนเรื่องจะใช้อะไรหรือสิ่งใดมาประกอบกันเป็นอาหารแต่ละอย่างนั้น อย่าฝันเลยว่าจะรู้ แต่เพราะอยากเอาชนะหญิงสาวจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนรักอย่าง ปาลิตา ที่มีความรู้เรื่องการครัวไม่ต่างจากตนเองสักเท่าไหร่ แต่สิ่งแรกที่ทั้งคู่เล็งเห็นตรงกันคือ การตามภูริตไปดูสถานที่เปิดร้านหรือ สมรภูมิรบ แล้วก็แทบช็อคเป็นรอบสองเมื่อเขาพาพวกหล่อนออกมาเสียชานเมืองแล้วเลี้ยวไป ตามถนนดินลูกรังอีกเกือบเจ็ดกิโลจึงจะถึงที่หมาย หากไม่นับถึงความเก่าโกโรโกโสของตึกสี่ชั้นที่ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งนา โดยมีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้าม หญิงสาวก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาคงพามาดูที่ทำไร่ไถนาอย่างแน่นอน
เมื่อ ถามชายหนุ่มเพื่อความแน่ใจก็รู้ว่าตึกที่เห็นอยู่นี่ล่ะ คือร้านอาหารของหล่อน เพลงพิณได้แต่กุมขมับเมื่อรู้ว่าภูริตปิดประตูแพ้ไว้หมดทุกทางแล้ว แต่เขาก็ยังยื่นฟางเส้นสุดท้ายให้เมื่อเจ้าตัวออกปากจะหาแม่ครัวซึ่งมีฝีมือ ในเรื่องอาหารไทยมาเทรนหล่อนทำอาหาร แต่มีข้อแม้ว่าหล่อนจะต้องทำอาหารเย็นให้เขาทานทุกวันเป็นการแลกเปลี่ยน เพลงพิณไม่อาจปฏิเสธได้จึงต้องตกปากรับคำไป กว่าเพลงพิณจะสำเร็จวิชาการเรียนฉบับกรุงเก่ามาได้ก็เล่นเอาอานกันเลยที เดียว แต่มันก็ยังมีปัญหาใหม่ตามมาอีกนั่นคือ การออกแบบตกแต่งร้าน หากจะใช้มัณฑนากรที่มีชื่อเสียงก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ปาสิตา ซึ่งแนะให้ไปขอความช่วยเหลือจาก ชัยรัตน์ เพื่อนชายสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ตอนนี้ทำงานเป็นมัณฑนากรให้กับบริษัทแห่ง หนึ่ง ซึ่งเขาก็รับปากทันทีเพราะเพลงพิณให้สัญญาว่าจะให้เขาทานอาหารฟรีตลอดชีวิต
เมื่อ ปัญหาเรื่องการออกแบบหมดไปทั้งคู่ก็ประกาศรับสมัครพนักงานที่มีบ้านอยู่ใกล้ กับร้าน แต่กว่าจะคัดเลือกมาได้ก็ปวดหัวอยู่หลายวัน เพราะภูริตส่งแม่นมของเขามาดูแลความเรียบร้อยภายในร้านหรือจะว่าให้ถูกก็คือ มาควบคุมการทำงานของหญิงสาวแล้วกลับไปรายงานตนเอง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างยิ่งเพราะคุณนมคนนี้ แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าจะเป็นอริและคอยปัดแข้งปัดขาเพลงพิณอยู่ตลอดเวลา แต่เพราะขี้เกียจเถียงกับชายหนุ่มหล่อนจึงยอมให้ แต่ทั้งคุณนมและหญิงสาวต่างก็ไม่ยอมลงให้แก่กัน จึงมีการเหน็บแนมแกมประชดกันอยู่บ่อยๆ พอร้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ปัญหาที่วิ่งโถมทับเข้าใส่ราวกับละลอกคลื่นก็คือ จะไปหาลูกค้ามาเข้าร้านได้อย่างไร เมื่อมันอยู่ไกลลิบโลกแบบนี้ แล้วเพลงพิณก็คิดว่าน่าจะไปคุยกับบริษัททัวร์ให้พาลูกทัวร์มาลงที่นี่โดยชู ประเด็นที่ว่าพวกลูกทัวร์จะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบไทยๆ เพราะรอบๆ ร้านอาหารของตนเองก็มีแต่ทุ่งในยามเก็บเกี่ยวก็จะเป็นบรรยากาศที่ไม่เคยมี ใครได้สัมผัสมาก่อน
จึงน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีของแต่ละคน แล้วก็ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของบริษัทในระยะแรกๆ มันก็ดูดี แต่พอฤดูกาลเก็บเกี่ยวผ่านไปก็ไม่มีอะไรมาดึงดูดใจอีก ปาลิตา จึงเสนอว่าน่าจะใช้บึงน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้เป็นประโยชน์ นั่นก็คือ…ทำเป็นตลาดน้ำเสียเลย แล้วให้ชาวบ้านเอาสินค้ามาขาย นอกจากพวกชาวบ้านจะมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้วร้านอาหารก็จะค้าขายได้ด้วย แต่ปัญหาก็คือบึงน้ำที่เห็นนี้คุณนมบอกว่าเป็นที่ของภูริต ถ้าจะทำอะไรก็ต้องไปขอเขา ภูริตต้องตกลงโดยไม่มีเงื่อนไขเพราะเพลงพิณต้องการเพียงผลประโยชน์จากคนที่ มาเที่ยวตลาดน้ำเท่านั้น ไม่ได้คิดจะเก็บเงินค่าเช่าที่จากชาวบ้าน เมื่อหมดปัญหาจากชายหนุ่มหล่อนก็ไปเจรจากับชาวบ้านให้มาช่วยกันสร้างตลาดน้ำ ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเขาและให้พวกชาวบ้านนำของมาขาย แรกๆ ชาวบ้านก็ไม่มีใครสนใจเพราะทำเลแถวนั้นไม่ใช่ที่ที่มีคนผ่านไปผ่านมาพลุก พล่าน แต่เพราะหญิงสาวรับปากว่าจะต้องมีลูกค้าอย่างแน่นอน อีกทั้งพวกพนักงานอยู่กับเพลงพิณเป็นลูกหลานของตนเองชาวบ้านจึงมาช่วยกัน สร้างท่าน้ำและเรือนแพ
ขณะ ที่หญิงสาวกำลังง่วนอยู่กับการทำงาน ภูริตก็ได้รู้จักกับ สรินดา ม่ายสาวเจ้าของร้านเพชรในงานแฟชั่นโชว์ที่เขาไปเป็นเพื่อนมารดา ด้วยความสุภาพและการวางตัวที่ติดจะเย็นชาของชายหนุ่มเรียกร้องความสนใจจาก หล่อนได้เป็นอย่างดี พอสืบประวัติก็ได้ความว่าฐานะของภูริตนั้นเป็นปึกแผ่นมั่นคงขนาดไหนแม้จะมี คู่หมั้นแต่ก็เป็นคนที่บิดามารดาเลือกให้ หาใช่เพราะความต้องการของเขาไม่ สรินดาจึงคิดที่จะจับเขาให้ได้โดยไม่เคยรู้เลยว่าแท้จริงแล้วผู้ที่อยู่ใน หัวใจของชายหนุ่มเสมอมาก็คือ “เพลงพิณ” ข่าวการสนิทสนมของสรินดาและภูริตสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับเพลงพิณเป็น อย่างยิ่ง แม้พยายามบอกตนเองว่าน่าจะดีใจที่เขามีคู่หมายใหม่ แต่อีกใจกลับคัดค้านว่าเขาควรจะเลือกคนที่ดีกว่านี้มาแทนที่ตนเอง มิใช่พวกแม่ม่าย ยิ่งคุณนมมาพูดจาซ้ำเติมเพื่อให้หล่อนหวงแหนเขามากเพียงใด ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวแค้นใจคนกลางอย่างภูริตมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มมาทานอาหารที่ร้านโดยมีสรินดาตามมาด้วยก็เป็นโอกาสที่ หล่อนจะได้แก้แค้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี ทั้งสรินดาและเพลงพิณมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงมือลงไม้แล้วจบลงด้วยการตก น้ำตกท่ากันทุกคนรวมทั้งภูริตด้วย
เพลงพิณหมั่นไส้เขามากแล้วปฏิญาณ ว่าจะล้มเลิกการหมั้นหมายให้จงได้ แม้แต่คุณนมที่แอบเอาใจช่วยเพลงพิณกับชายหนุ่มอยู่ในใจก็ยังอดคิดต่อว่าเขา ไม่ได้ ภูริตจำต้องพาสรินดากลับเพื่อสงบสติอารมณ์ของทั้งสองฝ่าย เพลงพิณเริ่มงานของตัวเองด้วยความมุ่งมั่น หล่อนไปที่อำเภอแล้วเสนอนโยบายให้ของบรัฐบาลมาสร้างถนนเพื่อส่งเสริมให้ พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จากนั้นก็ไปหาเพื่อนที่สถานีโทรทัศน์เพื่อขอให้เขาช่วยทำข่าวโปรโมทเรื่อง ตลาดน้ำก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ไม่นานทุกสิ่งก็เป็นรูปเป็นร่างตามที่หวัง จนภูริตชักหวั่นใจว่าการเดิมพันครั้งนี้ตนเองจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แต่การจะไปกลั่นแกล้งหรือรังแกหล่อนโดยใช้วิธีสกปรกทำไม่ได้ แต่จะปล่อยให้เพลงพิณชนะพนันแล้วไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ใน เมื่อหล่อนพยายามหาทางดิ้นรนออกจากการคลุมถุงชนอย่างสุดกำลังเขานี้ล่ะที่จะ มัดปากถุงให้แน่นหนา เพื่อเก็บคนที่เขารักไว้กับหัวใจตลอดไป เมื่อออกตัวอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ก็จำต้องหาใครสักคนมาปัดแข้งปัดขาห่อนสิแล้ว คนที่เขาเลือกให้มาทำหน้าที่นี้ก็คือ…สรินดา ภูริตไปหาแม่ม่ายสาวแล้วแสร้งพูดจาให้หล่อนเข้าใจว่าตนเองได้ท้าพนันกับเพลง พิณไว้ว่า หากหญิงสาวสามารถทำร้านอาหารจนประสบความสำเร็จเขาก็ต้องยอมรับว่าหล่อนมี ความสามารถในทุกๆ ด้านและเหมาะสมคู่ควรกันทุกประการ สมดังที่พ่อแม่หมายตาไว้ให้ แต่ถ้าเพลงพิณล้มเหลว เขาก็อาจจะใช้เป็นข้ออ้างที่จะตำหนิหล่อนได้ แล้วสรินดาก็ตีความเอาเองว่าหากเพลงพิณล้มเหลว ภูริตก็จะใช้สิ่งเหล่านี้มายกเลิกการแต่งงาน หล่อนจึงรับปากว่าจะช่วยเขาทุกอย่างทำให้ชายหนุ่มพอใจเป็นอย่างยิ่ง สรินดาส่งคนมาอาละวาดทำลายข้าวของเพลงพิณก่อนเป็นอันดับแรก โชคดีที่พวกชาวบ้านเข้ามาช่วยไว้ข้าวของจึงยังไม่เสียหายมาก แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้กรุ๊ปทัวร์ตำหนิหล่อนเป็นอย่างมากว่าขาดความปลอดภัย หญิงสาวรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาอีก แล้วขอร้องทางบริษัทให้โอกาสตนเองอีกสักครั้ง
ซึ่งก็ได้รับความเห็น ใจและยอมให้โอกาสหล่อนอีก พอกลับมาที่ร้านพวกพนักงานก็มาบอกว่าคนที่มาอาละวาดจนร้านพังจริง ๆ แล้วเป็นคนของสรินดา หญิงสาวจึงไปที่ร้านเพชรของม่ายสาว ทั้งสองมีปากเสียงกันจนสรินดาพลั้งปากว่ารู้เรื่องการเดิมพันจากภูริต ทำให้เพลงพิณโกรธมากแล้วตะลุยไปอาละวาดกับชายหนุ่ม เขาอ้างข้างๆ คูๆ ว่าในสัญญามิได้ระบุว่าห้ามเขาส่งคนไปปัดแข้งปัดขาหล่อน นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวแค้นใจหนักขึ้น แล้วประกาศว่าถึงจะถูกกลั่นแกล้งแค่ไหนก็จะไม่ยอมถอยโดยเด็ดขาด ทุกครั้งที่ชายหนุ่มมาทานอาหารที่ร้านในตอนเย็นตามที่ได้ตกลงกันไว้ หล่อนก็จะมีทีท่าห่างเหินเย็นชาเข้าใส่ แต่สิ่งเหล่านี้มีอยู่ได้ไม่นานก็สลายไปเมื่อวันหนึ่งหล่อนต้องรอเขาจนเกือบ จะห้าทุ่ม ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามาด้วยสภาพที่อิดโรยและอ่อนล้าเต็มที่ เพลงพิณทำเป็นไม่สนใจความผิดปกตินี้แล้วทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้เขาไปตาม ปกติแต่ก็แข็งใจอยู้ได้ไม่นานจึงเอ่ยถาม ภูริตเล่าให้ฟังว่าสินค้าที่จะส่งไปอเมริกาทางเรือเกิดอุบัติหตุจนไม่สามารถ ส่งของได้ตามกำหนดนอกจากบริษัทจะเสียเงินเพราะผิดสัญญาแล้ว ยังเสียชื่อเสียงอีกด้วย
หญิงสาวจึงเสนอตัวที่จะช่วยเหลือโดยให้เขา ยืมสินค้าของตนเองที่เก็บไว้ในคลังสินค้าที่อเมริกาไปก่อนเพราะกำหนดส่งยัง อีกหลายวัน ในระหว่างนี้ก็ให้ภูริตเร่งการผลิตเพื่อนำส่วนที่สูญหายมาทดแทน ทำให้ชายหนุ่มซาบซึ้งใจมากและตัดสินใจได้ทันทีว่าจะไม่ยอมเสียมณีล้ำค่าเม็ด นี้ไปโดยเด็ดขาด แม้วิธีการของเขาจะดูไร้น้ำใจสำหรับใครบางคนก็ต้องยอม ข่าวการสนิทสนมของสรินดา และภูริตที่มีให้เห็นอยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ทำให้เพลงพิณชักไม่มั่นใจแล้ว ว่าตนเองอยากชนะพนันในครั้งนี้เพราะความรู้สึกหวงแหนได้เข้าครอบครองจิตใจ เสียแล้ว เขาเป็นของหล่อน แล้วทำไมจะต้องทำเรื่องราวต่างๆ นานเพื่อผลักไสภูริตให้กับผู้หญิงอย่างสรินดา ให้ใครต่อใครมาหัวเราะเยาะตนเองว่าโง่นักที่ผลักไสคนดีๆ เช่นนี้ได้ แต่หากยอมแพ้แล้วล้มเลิกทุกสิ่งก็กลัวเสียเชิงที่ไปรับพนันกับเขาไว้
เมื่อ มาถึงทางสองแพร่งที่จะต้องเลือกทำให้หญิงสาวสับสนจนมีผลต่อร้านอาหารที่ บริหารอยู่เพราะแม่ครัวเอกดันป้ำๆ เป๋อ ๆ ทำผิดทำพลาดจนลูกค้าตำหนิอยู่บ่อยๆ เหตุการณ์เหล่านี้หาได้รอดหูรอดตาชายหนุ่มไปได้ไม่ ในเมื่อเขามีสปายชั้นเลิศอย่างคุณนมอยู่ คุณนมบอกให้เขาเลิกติดต่อกับสรินดาเสียเพราะกลัวจะพลาดท่ากับแม่ม่ายใจถึงคน นี้จนเสียคนดีๆ อย่างเพลงพิณไป แต่ภูริตรับประกันว่าเขาไม่คิดอะไรกับสรินดา เพียงต้องการใช้หล่อนเป็นตัวสกัดดาวรุ่งเท่านั้นแล้วขอให้คุณนมบอกกับเพลง พิณด้วยว่าเขาไม่เคยเห็นคนอื่นดีกว่าหล่อน แล้วแม่สื่อวัยชราก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมจนหญิงสาววางใจไปได้บ้าง ใช่…แค่บ้างเท่านั้น เพราะอีกใจกลับแอ็คท่าผิดว่าถึงเขามีคนอื่นก็ไม่เกี่ยวกับตนเอง ร้านอาหารของเพลงพิณกำลังไปได้สวยแต่บทจะซวยขึ้นมาใครก็ช่วยไมได้ทั้งนั้น
เมื่อ ลูกไฟที่ชาวนาเผาฟางข้าวยามหมดหน้านาปลิวมาตกที่กองกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ วางอยู่ข้างร้านจึงเกิดไฟไหม้กวาจะดับได้ก็เสียหายไม่ใช่น้อย แต่หญิงสาวไม่หมดกำลังใจเมื่อลูกน้องที่ทำงานอยู่ในร้านและเพื่อนสาวที่ผัน ตัวเองมาเป็นแคชเชียร์ต่างให้กำลังใจอีกทั้งยังได้รับน้ำใจจากชาวบ้านที่มา ช่วยซ่อมแซมร้านรวงและโต๊ะเก้าอี้ที่มอดไหม้ไปกับกองเพลิง แต่เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ทำให้ภูริตใจอ่อนยอมเลื่อนกำหนดเวลาออกไปเพราะรู้ดี ว่าหากอ่อนข้อให้ หล่อนก็จะบินลับหายไปกับสายตาอย่างแน่นอน นี่จึงทำให้เพลงพิณโกรธเขาจนแทบไม่มองหน้า ยิ่งมีม่ายสาวสรินดาคอยช่วยเสริมยิ่งทำให้เจ็บใจมากไปอีก จึงมุมานะทำงานจนไม่ได้พักและล้มเจ็บจนทำงานไม่ได้ ชายหนุ่มอนุญาตให้หาแม่ครัวมาทำงานแทน แต่เพลงพิณถือทิฐิไม่ยอมลงให้แล้วบอกว่าเมื่อรับปากว่าจะเป็นแม่ครัวก็จะทำ หน้าที่จนสุดความสามารถ แต่ทนแรงทัดทานจากทุกคนไม่ไหวจึงยอมออกมายืนดูห่าง ๆ
แต่ คนที่รับหน้าที่เข้าครัวกลับเป็นคุณนมที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามากับหญิงสาวมา โดยตลอด เหตุเพราะเพลงพิณกล้าปฏิเสธชายหนุ่มที่ดีพร้อมอย่างภูริตจึงทำให้ท่านไม่พอ ใจ และหมั่นไส้หล่อนเอามากๆ แต่พอมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันๆ มันก็ซึมซับเอาความดีมีน้ำใจของหญิงสาวไว้เงียบๆ จนไม่อาจเห็นเธอต้องเผชิญชะตากรรมตามลำพังได้ จึงออกโรงปกป้องหล่อนในบางครั้งและรับหน้าที่แม่ครัวเอกนี้โดยที่ชายหนุ่มก็ ไม่กล้าคัดค้าน สรินดาเห็นความใกล้ชิดสนิทสนมของภูริตและเพลงพิณที่มีต่อกันในขณะที่ฝ่าย หญิงกำลังเจ็บไข้ก็ทำให้ร้อนรุ่มในหัวอก ยิ่งใกล้จะครบกำหนดหกเดือนเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าร้านอาหารของเพลงพิณจะประสบ ความสำเร็จมากเพียงนั้น หากไม่ตัดกำลังเสียในตอนนี้เพลงพิณก็อาจจะชนะพนันแล้วภูริตคงต้องแต่งงานกับ หญิงสาวคนนั้นอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้ความฝันที่วาดหวังไว้สูญสลายไปกับตา สรินดาจึงจ้างคนมาปล้นเงินที่เพลงพิณให้ลูกน้องนำไปเข้าธนาคาร มิหนำซ้ำยังทำร้ายพวกเขาด้วย
การสูญเงินไปไม่สำคัญสำหรับเพลงพิณแม้ แต่น้อย แต่การที่ลูกน้องต้องมาเจ็บตัวนี่สิที่ทำให้หล่อนแค้นใจนักจนท้อแท้สิ้นหวัง ถ้าไม่เพราะอยากเอาชนะภูริต ลูกน้องก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจจนอยากจะล้มเลิกทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมรสุมที่โถมประดังดูจะไม่มีวันจบสิ้นเสียที หล่อนเหนื่อยและอ่อนล้ายิ่งนัก แต่ทุกคนที่อยู่ในร้านไม่อยากเห็นหล่อนยอมแพ้ชะตากรรมโดยไม่ทำอะไรเลย เมื่อสู้มาจนถึงขั้นนี้แล้วมันก็ต้องดิ้นกันให้สุดแรง ลูกน้องบางคนยอมแม้แต่จะไม่รับเงินเดือนเพื่อให้มีเงินพอเพียงและยินดีจะทำ งานล่วงเวลา แต่หญิงสาวปฏิเสธโดยบอกว่าภาระทางบ้านของแต่ละคนก็มากแล้ว อย่าให้ตนเองมาเป็นภาระอีกคนเลย แล้วจึงยอมตัดใจบากหน้าไปหาภูริตเพื่อผ่อนผันแต่ชายหนุ่มก็ยังคงยืนกรานตาม คำสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน แม้ในใจจะสงสารและเห็นใจหล่อนนักแต่ต้องทำใจแข็งไว้มิฉะนั้นตนเองนั่นแหละ ที่จะน่าสงสารกว่าใคร เมื่อขอร้องกันดีๆ ไม่เป็นผลมันจึงเปลี่ยนเป็นความโกรธและพลังที่จะเอาชนะอุปสรรคขวากหนามครั้ง นี้ให้จงได้ แม้จะเหลือเวลาแค่วันเดียวหล่อนก็จะไม่ยอมปล่อยให้ทุกสิ่งไปตามยถากรรมโดย เด็ดขาด เหตุการณ์ถูกโจรปล้นทำให้คุณนมชักไม่มั่นใจว่าจะเป็นฝีมือของภูริตหรือไม่
ท่าน จึงถามเขาตรง ๆ ชายหนุ่มก็ปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับรับรองว่าจะหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ส่วนเรื่องที่คุณนมมาขอผัดผ่อนให้เพลงพิณก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน แม้หญิงชราจะหว่านล้อมเช่นไรก็ไร้ผล เมื่อสูญเงินไปแล้วเพลงพิณไม่มามัวเสียเวลากับการฟูมฟายอีก หล่อนและพรรคพวกตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างเต็มที่ พวกพ่อค้าแม่ค้าที่หญิงสาวเป็นลูกค้าประจำก็เห็นใจจึงลดแลกแจกแถมของสดของ แห้งให้มากมาย มิหนำซ้ำยังช่วยโปรโมทร้านอาหารของหล่อนเป็นการใหญ่จนมีลูกค้าแน่นร้าน สิ่งเหล่านี้ทำให้หญิงสาวซาบซึ้งมากและได้เรียนรู้ว่า น้ำใจไมตรีของผู้คนนั้นไม่สามารถซื้อหาด้วยเงินตราได้และการทำงานสักชิ้นให้ ประสบความสำเร็จนั้นมันต้องอาศัยความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจ มิใช่เพียงใครคนใดคนหนึ่งจะจึงจะทำได้ ทางด้านภูริตก็จ้างนักสืบให้ติดตามหาตัวคนร้ายที่ปล้นเงินของเพลงพิณจนได้ เรื่อง เขาจึงแจ้งตำรวจไปตามจับตัวมาได้ พวกนั้นสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากสรินดา ตำรวจจึงไปเชิญตัวหญิงสาวมาสอบปากคำ แรกๆ หล่อนก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนเองถูกใส่ความแต่พอถูกซักหนักๆ เข้าก็พลั้งปากออกมา ทำให้ชายหนุ่มโกรธมากแล้วต่อว่าม่ายสาวเสียใหญ่โต สรินดาเองก็เสียใจที่เขาทำกับตนเองเช่นนี้ทั้งๆ ที่หล่อนทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขา
แต่ภูริตกลับตอบว่าสิ่งที่เขา ต้องการจากสรินดาคือ การขัดขวางไม่ให้เพลงพิณทำร้านอาหารได้สำเร็จเพื่อเขาจะได้แต่งงานกับหล่อน ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจเขา เขาไม่ใช่คนดีที่สรินดาเห็นหรอก สิ่งเหล่านี้ทำให้ม่ายสาวตาสว่าง ภูริตก็แค่พ่อค้าที่ทำทุกอย่างได้เพื่อผลประโยชน์ ผู้ชายคนนี้มีทั้งด้านมืดด้านสว่างของชีวิต เขาไม่ใช่เทพบุตรในนิยายประโลมโลกหากแต่เป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาๆ ที่หาได้ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เพราะความแค้นที่แน่นอนทำให้หล่อนคิดที่จะแก้แค้นเขาโดยการให้สัมภาษณ์ นักข่าวทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพราะภูริตหลอกใช้หล่อนจนตนเองต้องหลงเดินทางผิด เพียงเพราะเชื่อคำลวงของเขา และแสดงความห่วงใยผู้หญิงอีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อของเขาเช่นตนเอง เพลงพิณอ่านข่าวเหล่านี้ด้วยความรู้สึกขุ่นมัว หล่อนสงสารสรินดาที่ต้องทำเช่นนี้เพื่อผู้ชายอย่างภูริตแล้วพาลชิงชังชาย หนุ่มที่ยอมทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ภูริตมาหาหล่อนแล้วพยายามอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังแต่หล่อนปฏิเสธแล้ว ให้ลูกน้องไล่เขาออกไปจากร้าน แม้แต่คุณนมที่เคยเข้าข้างชายหนุ่มมาโดยตลอดก็ยังทำท่าเย็นชาเข้าใส่จนภูริ ตต้องล่าถอยกลับไป ภิญโญเห็นท่าทางเงียบขรึมของบุตรชายก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงแนะให้ชายหนุ่มบอกความรู้สึกที่ซุกซ่อนอยู่ในภายในใจกับหล่อนไป แล้วหัดยอมรับความพ่ายแพ้หากเพลงพิณจะปฏิเสธผู้ชายที่เห็นแก่ตัวและเจ้า เล่ห์เพทุบายคนนี้ ในที่สุดวันตัดสินชะตาชีวิตของสองหนุ่มสาวก็มาถึง นั่นก็คือ วันปิดบัญชีรายได้ของร้านอาหารที่ทุกคนบากบั่นฟันฝ่ามาด้วยกันทุกคนรวมทั้ง ชาวบ้านที่รู้เรื่องการเดิมพันครั้งนี้ต่างมา
รอชายหนุ่มและผู้ตรวจ สอบบัญชีพร้อมทั้งบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายตั้งแต่เช้า พอครบองค์ประชุม ปาลิตาก็ส่งสมุดบัญชีพร้อมบิลทั้งหมดให้กับสมุห์บัญชีไป ส่วนภูริตก็ขอคุยกับหญิงสาวเป็นการส่วนตัว ชายหนุ่มพยายามเรียบเรียงสิ่งที่จะพูดกับเพลงพิณมาตลอดทั้งคืนแต่พอเอาเข้า จริงๆ เขากลับทำได้แค่จ้องหน้าหล่อน แต่แล้วก็กล้าที่จะบอกความในใจว่าตนเองหลงรักเด็กหญิงวัยเพียงห้าขวบที่อุ้ม ตุ๊กตาที่เขาเป็นคนซื้อให้มาส่งตนเองที่สนามบินในวันที่ต้องไปเรียนต่อ อเมริกา เมื่อยี่สิบปีก่อนและเฝ้ารอคอยวันคืนที่เด็กน้อยคนนี้จะเติบโตมาเป็นหญิงสาว ที่งดงามทั้งกายใจ อีกทั้งยังภาวนามิให้ชายใดกรายกล้ำหัวใจดวงน้อยนี้ได้ แล้วสวรรค์ก็ใจดีที่จะประทานสิ่งที่เขาต้องการ เธอเติบโตเป็นสาวงามตามที่เขาใฝ่ฝันและไม่มีใครในดวงใจดังที่ปราถนาแต่สิ่ง ที่ไม่คาดคิดก็คือ เธอปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขา ดังนั้นผู้ชายคนนี้จึงต้องลุกขึ้นมายื้อยุดผู้หญิงคนเดียวที่เขารักสุดหัวใจ ไว้ แม้วิธีการทั้งหลายที่ได้กระทำมามันจะเป็นการเอารัดเอาเปรียบและไม่เป็น สุภาพบุรุษก็ต้องยอม แต่ตอนนี้ตนเองรู้แล้วว่าหัวใจของคนเรามันเป็นอิสระ ไม่มีใครสามารถผูกมัดมันให้อยู่กับใครได้ เขายินดีจะยกเลิกการเดิมพันครั้งนี้เพื่อเธอ หากเพลงพิณ ไม่รักเขาเลย
เพลงพิณมองชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเต็มตา พร้อมกับสำรวจหัวใจตัวเองในคราวเดียวกัน หล่อนถามตนเองว่าจะยอมรับผู้ชายเจ้าเล่ห์เผด็จการเป็นนักวางแผนตัวฉกาจและ รักหล่อนสุดหัวใจคนนี้ได้หรือไม่ แต่ปัญหาก็คือ ปาลิตารับรองผลการแข่งขันว่า ผลจากการทุ่มเทบอกกับเงินบางส่วนที่ตำรวจนำมาคืนนั้นมันได้กำไรสามแสนพอดิบ พอดี แล้วแบบนี้หล่อนจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ได้หรือ แต่ทันที่เพลงพิณจะกล่าวสิ่งใด สมุห์บัญชีก็ออกมาบอกถึงผลกำไรที่ได้ นั่นคือ 299,980 บาท ทำให้ทุกคนงงเป็นไก่ตาแตกเพราะมันขาดไป 20 บาท ปาลิตาโวยลั่นว่าตนเองเช็คยอดดีแล้ว แต่ทำไมถึงหายไปได้ แต่สำหรับเพลงพิณแล้วกลับดีใจสุด ๆ ที่มันขาดหายไป และแน่นอนว่าคำตอบที่เธอให้กับคู่หมั้นหรือว่าที่สามีก็คือ โอเคค่ะ เพลงจะแต่งงานกับพี่ ไม่ใช่เพราะเพลงแพ้พนันหรอกนะ แต่เพราะเพลงแพ้ใจตัวเองที่ดันไปตกหลุมรักผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนี้เสียแล้ว
นักแสดงละคร เดิมพันวันวิวาห์
1. ภาณุ สุวรรณโณ รับบท ภูริต นนทิวากร
2. พัชราภา ไชยเชื้อ รับบท เพลงพิณ รัตนสิรินทร์
3. พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ รับบท สรินดา
4. ชินมิษ บุนนาค รับบท ชัยรัตน์
5. ตฤณ เศรษฐโชค รับบท วัฒนา
6. อรรถชัย อนันตเมฆ รับบท ภิญโญ
7. ปิยะดา เพ็ญจินดา รับบท ญาดา
8. เจจินตัย อันติมานนท์ รับบท เอกรินทร์
9. อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์ รับบท แพรพลอย
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ช่อง 7