Category Archives: ละครปี 2556

ฟ้ากระจ่างดาว 2556

เมื่อเขาก้าวเข้ามาในชีวิตที่มืดมิดของเธอ เขาจะแปรเปลี่ยนท้องฟ้าสลัวเป็นกระจ่างสดใสขึ้นได้อย่างไร

 

มีคณา นักข่าวสาวสายอาชญากรรม ต้องไปทำข่าวงานแฟชั่นโชว์การกุศลแทนมัทนา เพื่อนรักของเธอ ซึ่งต้องไปทำข่าวที่ต่างจังหวัด มีคณาไม่เคยชอบอะไรที่เธอตัดสินว่าเป็นเรื่องฟุ้งเฟ้อ ไฮโซ เธอพยายามเกี่ยงให้ สาระวารี เพื่อนรักอีกคนไปทำ แต่สาระวารีก็ติดทำข่าวในต่างจังหวัดเช่นกัน ไชยวัฒน์ หัวหน้าของเธอบอกว่าเขาต้องการให้สาวใดสาวหนึ่งในทีม สามทหารเสือสาว เท่านั้นไปทำ มีคณาก็ยังยึกยัก ไชยวัฒน์ทิ้งทุนว่างานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้เป็นการระดมทุนต่อต้านยาเสพติด เข้าข่ายสายงานข่าวของมีคณา เธอจึงยอมไปทำ มีคณาติดตามทำข่าวเกี่ยวกับยาเสพติด การค้าผู้หญิงและการทำทารุณผู้หญิงและเด็กมาตลอด บุคลิกเธอดูเงียบเรียบร้อย สมถะ แต่ในการทำงานแล้วเธอเป็นพวกใจกล้า ลุย ทำงานถึงลูกถึงคน มีคณาเลือกทำข่าวสายนี้ เพราะเธอมีบาดแผลฉกรรจ์ในใจอันเกิดจากครอบครัวของเธอเองโดยตรง เป็นเรื่องที่เธอไม่เคยเล่าให้ใครฟัง แม้แต่เพื่อนรักในกลุ่มสามทหารเสือสาว ของ สยามสาร หนังสือพิมพ์คุณภาพระดับแถวหน้าที่เธอทำงานอยู่
 
ครอบครัวของมีคณาเป็นคนต่างจังหวัดในหมู่บ้านเล็ก ๆ ทางภาคเหนือ บานเช้า แม่ของมีคณาเป็นสาวชาวบ้าน ได้เสียกับพ่อและท้องมีคณาเมื่อแม่อายุเพียงสิบห้า และพ่อไม่ยอมรับ ครูมั่นสิน ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ ให้เงินทำขวัญแม่เพื่อให้เรื่องเงียบ และรับมีคณามาเลี้ยงตั้งแต่มีคณาเกิด ส่วนแม่ถูกยายจับแต่งงานล้างอายไปกับหนุ่มหมู่บ้านเดียวกัน เมื่อมีคณาอายุสองขวบมั่นสินย้ายไปสอนที่จังหวัดอื่น มั่นสินเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นสาวโสดตลอดชีวิตเป็นคนเจ้าระเบียบ เฮี้ยบ เข้มงวด เลี้ยงหลานเหมือนครูดูแลนักเรียน และดูเป็นคนใจหินเหมือนไม่รักหลาน ตีกรอบชีวิตให้มีคณามาตลอด ชนิดมีคณากระดิกจากระเบียบไม่ได้เลย มีคณารู้สึกกดดันและมีอคติรุนแรงกับป้ามาตลอด
 
เมื่อมีคณาเริ่มเป็นวัยรุ่น เธอหนีออกจากบ้านป้าเดินทางไปหาแม่ทางเหนือ มีคณาตามหาบ้านแม่จนเจอ เจอฤทธิ์และความหยาบคายของ บุญสม พ่อเลี้ยง ซึ่งกินเหล้าทั้งวันตั้งแต่ลืมตาตื่น แม่อยู่ใต้อำนาจพ่อเลี้ยงชนิดหงอยิ่งกว่าหนูกลัวแมว แล้วยังตกอยู่ในอำนาจของ ธำรง ลูกชายอายุแค่สิบขวบ ผู้หญิงในบ้านนี้ทั้งหมู่บ้านเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงในครอบครัว เป็นคนทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่ทำอะไร รอเงินที่จะส่งมาจากลูกสาว ความกตัญญูรู้คุณของลูกหญิงต่อพ่อแม่คือเมื่ออายุสมควรจะถูกขายไปเป็นโสเภณี และส่งเงินมาให้ทางบ้าน แต่ละบ้านจะแข่งขันกันด้วยวัตถุว่าคราวนี้ลูกสาวส่งเงินมาให้พอปลูกบ้านหรือซื้อรถ แต่ตอนนั้นมีคณายังไม่รู้
 
จนกระทั่งวันหนึ่งที่บุญสมต้อนรับหญิงท่าทางร่ำรวย และเรียกมีคณาไปให้หญิงนั้นพิจารณาละเอียดถี่ยิบราวจะตกลงซื้อขายวัวควาย แม่ร้องไห้วิงวอนขอร้องไม่ให้ทำกับมีคณา แต่ก็โดนพ่อเลี้ยงด่าและตบตีเตะถีบรุนแรง มีคณาเริ่มรู้จากคำพูดของพ่อเลี้ยงว่าหญิงสาวในหมู่บ้านนี้มีชะตากรรมอย่างไรและตัวเองกำลังจะเจออย่างเดียวกัน ตกดึกคืนนั้นมีคณาตัดสินใจหนีออกจากบ้านแม่ บากหน้ากลับไปหาป้ามั่นสิน ป้ารอรับมีคณาอยู่ด้วยทีท่าเงียบและเยือกเย็นตามปกติของป้า ไม่พูดไม่ดุว่าซ้ำเติมใด ๆ
 
จากวันนั้นมีคณาคิดว่าจะอยู่กับป้าตลอดไปไม่ว่าจะต้องทนกับระเบียบจัดแค่ไหนก็ตาม แต่มีคณารู้ว่าภายใต้ความเงียบเย็นของป้า ป้าดีกับเธอขึ้น และระเบียบหย่อนลงบ้าง ระหว่างที่มีคณากำลังเรียนมหาวิทยาลัย ยายของมีคณาตาย มีคณากลับบ้านไปเผาศพยาย และได้รู้ด้วยความโกรธและหดหู่ใจยิ่งว่า น้องสาวสองคนลูกของพ่อเลี้ยงคือ ธิดา กับ ธารา ถูกขายไปเป็นโสเภณี เงินที่ส่งมาทางบ้านทุกบาททุกสตางค์ พ่อและธำรงเอาไปถลุงกินเหล้าและทำหน้าใหญ่เลี้ยงเพื่อนฝูงจนไม่เคยมีเหลือติดบ้าน แม่ยังต้องรับจ้างทำงานหนักเพื่อหาเงินมาให้พ่อและธำรงกินเหล้าช่วงที่น้องสาวสองคนยังไม่ส่งเงินมา แม่เป็นยิ่งกว่าทาสของสามีและลูกชาย แต่แม่ไม่กล้าพอที่จะไปให้พ้น พ่อเลี้ยงด่ามีคณาตลอดว่าเป็นคนอกตัญญู รู้หนทางที่จะช่วยพ่อแม่ได้ แต่ไม่ยอมช่วยปล่อยให้พ่อแม่อดอยากยากจน มีคณาไม่ต่อปากต่อคำกับพ่อเลี้ยง เธอห่อเหี่ยวกับสภาพของครอบครัวตัวเองที่เป็นเหมือนกับครอบครัวอื่นทั้งหมดในหมู่บ้านนั้น ที่เห็นว่าการขายลูกสาวไปเป็นโสเภณีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นการที่ลูกแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพ่อแม่ มีคณาตั้งปณิธานตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาที่จะเป็นนักข่าวและจะเสนอข่าวเพื่อโค่นล้มพวกหากินทางค้าผู้หญิงให้ได้ ถึงจะไม่ได้ทั้งหมดแต่จะต้องมากที่สุดที่จะทำได้
 
เมื่อมีคณาเรียนจบมหาวิทยาลัยเธอได้งานที่หนังสือพิมพ์สยามสาร หนังสือพิมพ์คุณภาพระดับแถวหน้า และได้เพื่อนรักมากสองคนคือ มัทนา และสาระวารี ซึ่งมีปณิธานการทำงานเหมือนกันกับเธอ ป้ามั่นสินซึ่งเกษียณอายุแล้วไปคุมร้านอาหารไทยของเพื่อนที่ลอนดอน ป้าและหลานติดต่อกันสม่ำเสมอทางจดหมายที่สุดสั้นประหยัดถ้อยคำ และข้อความแทบเหมือนกันทุกฉบับ มีคณาเช่าบ้านอยู่คนเดียวในย่านชาวบ้านธรรมดา ๆ ระดับกลางค่อนข้างไม่มีเงิน ไม่ใช่ย่านสลัม แต่ก็มีชุมชนคนจนอยู่ใกล้เคียง มีคณาเลือกเพราะราคาถูกและที่ตั้งบ้านค่อนข้างเงียบ ชีวิตของมีคณามีแต่ที่ทำงานกับบ้าน ถ้าไม่นับการที่ต้องออกไปทำข่าวแล้ว ชีวิตเธอจะอยู่กับความเงียบและความซ้ำซากจริง ๆ
 
จนกระทั่งวันที่เธอเจอ พ.ต.ต.หิรัณย์ นายตำรวจหนุ่มหล่อ และเก่งจากหน่วยงานนอกเครื่องแบบของ ป.ป.ส. มีคณาพบเขาครั้งแรกในวันที่ไปรับแม่และหลานชายที่สถานีรถไฟ ในเหตุการณ์ที่ทำให้เธอหน้าแตกสุด ๆ มีคณาซื้อหนังสือพิมพ์อยู่ มีเด็กหญิงวัยรุ่นแต่งชุดนักเรียนวิ่งมาชนอย่างแรง เด็กคนนั้นหนีกลุ่มชายที่ตามล่าสุดชีวิต มีคณาปกป้องขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน มีคณาดูสารรูปแล้วไม่เชื่อว่าเขาเป็นตำรวจ คิดว่าเขาเป็นแมงดามากกว่า เธอพูดใส่หน้าเขาว่าถ้าเขาเป็นตำรวจ เธอก็เป็นรัฐมนตรีหญิง ปรากฏว่าเขาเป็นตำรวจจริง ๆ และมีคณาก็ได้รู้ว่าเธอทำให้เด็กส่งยาบ้าหลุดมือตำรวจไปพร้อมกับยาบ้าอีกเป็นพันเม็ด
 
ไม่นานจากวันนั้น มีคณาเจอสารวัตรหิรัณย์อีก เมื่อเธอไปทำข่าวเด็กถูกนายจ้างทำทารุณ หิรัณย์จึงรู้ว่าเธอเป็นนักข่าว เขาขอไปส่งเธอ และสองคนเจอกันอีกครั้งในงานแฟชั่นโชว์การกุศลที่มีคณามาทำแทนเพื่อน หิรัณย์จึงรู้รายละเอียดเพิ่มขึ้นว่ามีคณาเป็นนักข่าวสายอาชญากรรมที่ติดตามการปราบปรามยาเสพติด มีคณาได้รู้ว่าเขาทำงานนอกเครื่องแบบให้ ป.ป.ส. ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ต.ท.พิรุณ ซึ่งเธอรู้จักและนับถือมาก และเขามีผู้กองสาวฝีมือดีมากแต่ดุมากร่วมทีมคือ ร.ต.อ.วิมลิน
 
หิรัณย์ฉวยโอกาสที่งานของทั้งเขาและเธอมีจุดร่วมกัน เขาเริ่มสานทางเข้าถึงมีคณา เขาจีบเธอ แต่การจีบของเขามักจะพูดกับเธอเรื่องงานตลอด แต่ก็ด้วยมีอารมณ์ขันและมีความร่าเริงกุ๊กกิ๊กน่ารักที่มีคณาเหมือนหมั่นไส้แต่จริง ๆ แอบชอบ และที่ชอบมากคือ เขาแสดงออกต่อเธอแบบเป็นเพื่อนกัน ที่หวานที่สุดที่หิรัณย์เคยทำคือหักกิ่งดอกส้มที่บ้านเพื่อนไปให้มีคณา เขาบอกว่าเพราะเธอเป็นนกน้อยในไร่ส้ม เลยอยากให้ดอกส้ม และเมื่อมีคณาบอกว่าชอบกลิ่นดอกส้ม เธอเลยได้ดอกส้มปักแจกันทุกวัน ๆ ละกิ่ง และที่มีคณาประทับใจคือ หิรัณย์เป็นภาพของวีรบุรุษให้ สันติ หลานชายจอมแสบของเธอยึดได้
 
สันติเป็นลูกของธำรง นิสัยเสียทุกรูปแบบ ก้าวร้าวรุนแรง มีเรื่องตีกับเพื่อนนักเรียนตลอด จนโรงเรียนไม่ยอมให้เรียนต่อ สันติมีสิ่งที่เป็นความฝันคืออยากมาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ แม่ขอร้องให้มีคณาเลี้ยงและส่งเสียสันติและดัดนิสัยด้วย สันติทำความเดือดร้อนใจให้มีคณาตลอด ตั้งแต่นิสัยที่มีคณารับไม่ได้ มีเรื่องชกต่อยกับเด็กอื่น ไปจนกระทั่งหนีออกจากบ้านไปเข้ากลุ่มเด็กชายขายตัวเพื่อจะขายบ้างเพราะอยากได้เงินมาใช้มาก ๆ แต่หิรัณย์และผู้กองวิมลินไปช่วยได้ก่อน และจับพวกชักนำเด็กชายขายตัวไปดำเนินคดีได้ มีคณาหวั่นว่าสันติจะโดนสิ่งแวดล้อมด้านเลวร้ายนำพาไปสู่หายนะ และเธอจะรับมือไม่อยู่ เธอท้อจะส่งสันติคืนซะหลายครั้ง แต่เมื่อนึกถึงเด็กที่ชีวิตต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายที่เธอเคยทำข่าวมา ทำให้มีคณาฮึดที่จะดูแลให้สันติเอาดีให้ได้ สารวัตรหิรัณย์ช่วยเธอได้มากเรื่องสันติ สันติใฝ่ฝันอยากใส่เครื่องแบบทหารและตำรวจอยู่แล้ว เขาค่อย ๆ ดีขึ้น ถึงจะยังไม่ถึงกับทำให้สันติหลุดจากนิสัยเดิม ๆ ได้หมด แต่ก็มีความเปลี่นแปลงและนั่นทำให้ใจของมีคณาผูกพันกับหิรัณย์แน่นขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่หวือหวา แต่ไปได้ดี และจากความร่วมมือของสารวัตรหิรัณย์ มีคณาได้ข้อมูล ได้ข่าวและสกู๊ปเกี่ยวกับยาเสพติด เรื่องเด่น ๆ หลายเรื่องทั้งที่เป็นผู้ค้าภายนอกและผู้ค้าที่เป็นตำรวจ และเมื่อสารวัตรหิรัณย์ออกปราบปรามยาเสพติดที่เป็นกรณีไม่เสี่ยงมาก มีคณาจะขอตามไปทำข่าวด้วย ส่วนหนึ่งคืองาน แต่อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของหัวใจที่เธอเป็นห่วงเขา
 
สารวัตรหิรัณย์และทีมงานจะติดตามจับกุมนักค้ายาเสพติดชาวอเมริกัน และต้องขึ้นเชียงรายเป็นงานที่ไม่เสี่ยงมากนัก เขาจึงให้มีคณาตามไปทำข่าวด้วย มีคณาได้เห็นหน้านักค้ายาคนนั้นจากภาพถ่ายที่หิรัณย์ให้ดู ชายคนนั้นมีฉายาที่ทางหน่วยปราบฯ ตั้งให้ว่า สุภาพบุรุษ และการไปทำข่าวครั้งนี้เป็นเรื่องตื่นเต้นมากสำหรับมีคณา ตั้งแต่ที่สนามบินกรุงเทพฯ ไปเลย เพราะเธอต้องเผชิญหน้าจัง ๆ กับ สุภาพบุรุษ ซึ่งมานั่งรอขึ้นเครื่องอยู่กับเธอ ทุกคนในหน่วยหายใจกันไม่ทั่วท้อง กลัวมีคณาทำเรื่องแตก แต่มีคณาก็ไม่ได้ทำแตก สุภาพบุรุษไม่สะดุดใจสงสัยเธอเลย การติดตามจับสุภาพบุรุษไม่ใช่งานง่ายเพราะเขาทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทย ไม่พกอุปกรณ์สื่อสารใด ๆ ไม่ใช้โทรศัพท์ของโรงแรมจะ โทรหาใครก็จะใช้โทรศัพท์สาธารณะตามสถานท่องเที่ยว
 
สารวัตรหิรัณย์และมีคณาตามสุภาพบุรุษไปด้วยกัน เพราะสุภาพบุรุษเคยเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว และเมื่อเจอกันจัง ๆ หน้ากับสุภาพบุรุษที่สถานที่ท่องเที่ยวที่เชียงราย หิรัณย์รีบรับสมอ้างอย่างเต็มใจว่ามาฮันนีมูนกับมีคณา ทีมงานเฝ้ารออย่างอดทนจนถึงคืนที่สุภาพบุรุษลงมือซื้อขายยาเสพติดกับผู้ผลิต และนัดส่งสินค้ากันในผับ หน่วยฯ บุกจับ มีคณาตามถ่ายภาพข่าว แต่การเข้าจับกุมไม่สำเร็จง่ายนัก เพราะฝ่ายค้ายารู้ตัว เนื่องจากมีเสียงนกหวีดดังเป็นสัญญาณเตือน เลยเกิดยิงกันสนั่น คนที่มาเที่ยวผับหนีกันอลหม่าน มีคณาถ่ายภาพข่าวตามสัญชาตญาณนักข่าว และได้เห็นว่าในกลุ่มนักเที่ยวที่วิ่งหนีออกมาจากผับมีอยู่คนหนึ่งที่คุ้นหน้าว่าจะเป็นฝรั่งค้ายาอีกคนที่มีฉายาเด็กใหม่ มีคณาถ่ายภาพเขาได้หลายภาพ การจับกุมสำเร็จมีตำรวจบาดเจ็บบ้าง ผู้ร้ายหนีไปได้บ้าง ตำรวจตามล่า เด็กใหม่ ต่อ มีคณาช่วยจับเด็กใหม่ได้ด้วยความบังเอิญ เสี่ยงและทุลักทุเล ตำรวจได้ผลงานที่น่าพอใจ มีคณาได้ทั้งข่าวสด ๆ และสกู๊ปจากภาคสนามให้หนังสือพิมพ์ของเธอ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเธอและสารวัตรหิรัณย์พัฒนาเป็นความรัก
 
ส่วนทหารเสือสาวอีกสองคนของสยามสาร คือมัทนากับสาระวารี ก็ติดต่ออยู่กับหนุ่มหล่ออีกสองคน มัทนาติดต่อกับ เขตต์ตวัน ดาราและเศรษฐีชาวภูเก็ต เพื่อทำสกู๊ปชีวิตของเขา สาระวารีติดต่อกับษมา เศรษฐีหนุ่มเจ้าของเกาะยานก เพื่อทำสกู๊ปเรื่องที่เขาขอเปิดบ่อนกาสิโนและมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้เปิด เป็นที่รู้กันว่าความสัมพันธ์ของสองหนุ่มกับสองสาวไม่ใช่แค่เรื่องงาน หากแต่เป็นเรื่องของหัวใจด้วย แต่การไปทำสกู๊ปของสาระวารีที่เกาะยานกทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อไปเจอเหตุการณ์วางระเบิดเพื่อลอบฆ่าษมา และเธอโดนเข้าทำให้บาดเจ็บสาหัส งานสืบสวนและปราบปรามยาเสพติดพาหิรัณย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีไขมุกดำคิเรยนะ ที่ทางประเทศญี่ปุ่นจะถวายแก่องค์จักรพรรดิ แต่โดนขโมยโดยชายไทยที่โตในญี่ปุ่น และหนีเข้ามาในประเทศไทย ผู้ร้ายรายนี้เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดด้วย มัทนาได้ไข่มุกดำแสนสวยมาจากเขตต์ตวัน ไม่มีใครคิดว่ามันจะโยงกับกรณีไข่มุกคิเรยนะ สารวัตรหิรัณย์ต่อเรื่องได้ รู้ว่ามัทนาตกอยู่ในอันตราย แต่เมื่อจะบอกให้มัทนาระวังตัว มัทนาก็โดนลักพาตัวไปพอดีโดยชายชื่อ เชน ซึ่งมัทนาเคยบอกมีคณาว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับเขตต์ตวัน แต่ที่จริงแล้วเชนเป็นศัตรูคู่แค้นกับเขตต์ตวัน เขตต์ตวันก็ถูกจับตัวไปด้วย เมื่อตำรวจไปช่วยได้นั้น มัทนาถูกซ้อมยับเยินสลบไม่ได้สติ เด็กสาวอีกจำนวนหนึ่งถูกขังอยู่กับมัทนาด้วย สาว ๆ ถูกเตรียมส่งตัวไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ เขตต์ตวันถูกทำร้ายหน้าเป็นแผลยาว
 
จากกรณีที่มัทนาเกือบโดนพาไปขาย ประกอบกับเรื่องน้องสาวที่ถูกขายไปเป็นโสเพณี ทำให้มีคณาอยากเจาะข่าวเรื่องขบวนการค้าผู้หญิง เธอยืนยันกับหัวหน้าว่าจะทำถึงแม้จะอันตรายมากก็ตาม มีคณาตัดสินใจทำสิ่งที่เสี่ยงมากคือแฝงตัวเข้าไปกับสายขายผู้หญิงเพื่อไปให้ถึงต้นตอข่าวโดยแจ้งความประสงค์จะขายตัว เธอเริ่มจากการหารายละเอียดจากเด็กสาวที่ตำรวจช่วยรอดมาได้พร้อมมัทนา มีคณาไม่บอกสารวัตรหิรัณย์ว่าเธอกำลังจะทำอะไร รู้ว่าเขาต้องขัดขวางแน่นอน เธอจึงเลือกช่วงที่เขาไปดูงานที่อเมริกาเป็นช่วงลงมือ มีคณาแฝงตัวเข้าสู่พวกค้าผู้หญิงได้สำเร็จ เธอถูกส่งไปถึงมาเลย์และได้เจอกับธิดาอย่างไม่คาดฝัน แต่ไม่นานนักความแตก มีคณากับธิดาถูกตามล่า ธิดายอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อให้มีคณาหนีรอด สารวัตรหิรัณย์แทบคลั่งเมื่อกลับมารู้เรื่องว่ามีคณาทำอะไร เขาตามจนเจอและช่วยเธอได้ฉิวเฉียดก่อนที่มีคณาจะยับเยินและถูกฆ่า
 
มีคณาได้ข่าวคึกโครมซ่องใหญ่ถูกทลายมาลงหนังสือพิมพ์ของเธอ แต่หิรัณย์สั่งเธอเลิกทำข่าวเสี่ยงแบบนี้อีกชั่วชีวิตและขอเธอแต่งงาน ธาราตาย ธิดารอดมาได้ เธอเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยมีมีคณาคอยประคับประครองจิตใจ แต่ธิดาต้องเผชิญกับปัญหาในการที่จะอยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นที่มองว่าคนที่มีอาชีพอย่างเธอน่ารังเกียจ ธิดากลับไปอยู่บ้านทางเหนือกับแม่ เพราะพ่อหมดสภาพเนื่องจากเหล้า และธำรงหมดฤทธิ์เนื่องจากพิการเพราะอุบัติเหตุจากการขี่มอเตอร์ไซค์คึกคะนอง มอเตอร์ไซค์ที่ซื้อด้วยเงินขายตัวของธิดา ซองการ์ดเชิญงานแต่งงาน 3 ซองวางเรียงกันอยู่บนโต๊ะของไชยวัฒน์ สามทหารเสือสาวของเขาทยอยกันแต่งงานในช่วงเวลาไล่ ๆ กัน มีคณาแต่งกับสารวัตรหิรัณย์ มัทนาแต่งกับเขตต์ตวัน สาระวารีแต่งกับษมา ถึงเวลาหาทหารเสือชุดใหม่ให้สยามสารแล้ว ติดตามชม ละครฟ้ากระจ่างดาว ได้ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครฟ้ากระจ่างดาว

 
รายชื่อนักแสดงนำ ในละคร ฟ้ากระจ่างดาว
 
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ รับบท สารวัตรหิรัณย์
ภีรนีย์ คงไทย รับบท มีคณา
อธิชาติ ชุมนานนท์ รับบท เขตต์ตวัน
อุรัสยา เสปอร์บันด์ รับบท มัทนา
ชาคริต แย้มนาม รับบท ษมา
ราศรี บาเลนซิเอก้า รับบท สาระวารี
อรุณณภา พาณิชจรูญ รับบท หมวดวิมลิน
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท บานเช้า
รสริน จันทรา รับบท มั่นสิน
ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ รับบท สันติ
โจโจ้ ไมอ็อคชิ รับบท ไชยวัฒน์
จักรพันธ์ จันโอ รับบท ธำรง
ศานติ สันติเวชชกุล รับบท บุญสม
ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์ รับบท ทัพขันธ์
เบญจสิริ วัฒนา รับบท สุนันทา
ยุวดี ไทยหิรัญ รับบท เจ๊นิด
สมมาตร ไพรหิรัญ รับบท ผู้การพิรุณ
ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ รับบท พ่อหิรัณย์
ชนานา นุตาคม รับบท กัลยา (แม่หิรัณย์)
กฤติกา ซิงห์ รับบท วันทนีย์ (น้องหิรัณย์)
ภัทรินทร์ เจียรสุข รับบท ธิดา
ปีเตอร์ ธูนสตระ รับบท สุภาพบุรุษ
ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท พ่อมัทนา
สุปราณี เจริญผล รับบท แม่มัทนา
อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์ รับบท สาวิตรี
มิรา โกมลวณิช รับบท ศกุนตลา
อนุธิดา อิ่มทรัพย์ รับบท วาสิฏฐี
อาเธอร์ เบญจกุล รับบท เอกชัย
ออกัส พรรษกร รับบท สาลินี
พงศนาถ วินศิริ รับบท จิตติ
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ รับบท โศภี (ศัลยกรรม)
ชุมพร เทพพิทักษ์ รับบท หลวงพ่อจรูญ

โดมทอง

คุณมณฑา หญิงสาวงามสง่าแห่งตระกูลผู้ดี ได้สมรสกับเจ้าพระยาสรรักษ์ไกรณรงค์ เจ้าของคฤหาสน์ที่สวยงามราวกับความฝันชื่อ โดมทอง ซึ่งด้านหน้าติดภูเขา ด้านหลังติดทะเล โดยหลังแต่งงาน คุณมณฑาได้พาน้องสาวที่เกิดจากภรรยาคนสุดท้ายของบิดามาด้วย คุณพลับพลึง หรือ คุณน้อย จึงมีอายุห่างจากคุณมณฑาค่อนข้างมาก ในขณะที่คุณมณฑาเป็นคนรักแรงเกลียดแรง แฝงด้วยความอำมหิตอย่างคาดไม่ถึง เข้มงวด และเจ้าอารมณ์ สร้างความตึงเครียด อึดอัดใจให้กับผู้ที่อยู่ใกล้เสมอ แต่คุณพลับพลึงและเสียงเพลงลาวครวญจากจะเข้ของเธอ กลับนำความสดใส มีชีวิตชีวามาสู่ โดมทอง และ ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ฯ
 
คุณมณฑาเริ่มเอะใจเมื่อท่านเจ้าคุณสั่งให้ปลูกทุ่งดอกพลับพลึง แต่ท่านเจ้าคุณก็แก้โดยปลูกต้นมณฑาไว้ในสวน นางพิศ บ่าวคนสนิท คอยยุยงว่าทำไมถึงปลูกพลับพลึงมากมายเป็นทุ่ง แต่ปลูกมณฑาไม่กี่ต้น ท่านเจ้าคุณก็แก้ได้อีกว่า ต้นมณฑาไม่เหมาะกับปลูกเป็นทุ่งเหมือนต้นพลับพลึง ถึงแม้คุณมณฑาจะไม่พอใจแค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงออกมากนักด้วยเกรงใจสามี โดยมาไล่เบี้ยเอากับน้องสาวแทน
 
ถึงแม้จะเกรงกลัวพี่สาวขนาดไหน คุณพลับพลึงผู้อ่อนไหวและเยาว์วัยก็ไม่อาจต่อต้านความรัก ความปรารถนาของท่านเจ้าคุณได้ ทั้งสองลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ขณะที่คุณมณฑาตั้งครรภ์ นางพิศเป็นคนจับได้ แล้วนำมาฟ้องนาย คุณมณฑาเคียดแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือด
 
ระหว่างที่ท่านเจ้าคุณไปทำงาน คุณมณฑาสั่งให้นางพิศโบยคุณพลับพลึงจนสลบ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เรื่องนี้ถึงท่านเจ้าคุณเด็ดขาด ขณะเดียวกันคุณหญิงก็มารยาแพ้ท้องมากมายจนท่านเจ้าคุณไม่อาจปลีกตัวมาพบคุณพลับพลึงได้ และถึงแม้จะพบโดยบังเอิญคุณพลับพลึงก็จะพยายามหลบหน้าหลบตา หรือไม่คุณมณฑากับนางพิศก็จะเข้ามาในบริเวณนั้น
 
จนกระทั้งวันหนึ่ง ท่านเจ้าคุณต้องไปราชการต่างจังหวัด ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงคุณพลับพลึง ท่านเจ้าคุณจึงหาโอกาสมาล่ำลา ซึ่งก็ไม่ได้พ้นสายตาของนางพิศ ที่ได้รับคำสั่งให้คอยสอดส่องเป็นหูเป็นตาแทนเจ้านาย คุณมณฑาแค้นแสนแค้น แต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้ ยิ่งได้สังเกตเห็นแววตาท่านเจ้าคุณที่ลอบมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงและอาลัย อาวรณ์ ท่านผู้หญิงแค้นแสนแค้น หากพยายามเก็บอารมณ์ไว้
 
เมื่อท่านเจ้าคุณไปแล้ว คุณมณฑาไม่รอช้า สั่งให้นางพิศไปพาพี่ชายมา แล้วสั่งให้ทั้งสองจับคุณพลับพลึงไปล่ามโซ่ขังในห้องบนยอดโดมทอง คุณพลับพลึงพยายามขอร้องให้ฆ่าเธอให้ตายเสียดีกว่า จะขังทรมานกันแบบนี้ แต่คุณมณฑากลับหัวเราะเยาะ บอกว่าการฆ่ามันไม่สาแก่ใจเท่ากับการที่ต้องทนทุกข์ทรมาน คุณพลับพลึงร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่นั่นกลับทำให้คุณมณฑาสะใจ
 
คุณพลับพลึงถูกขังอยู่ในห้องบนยอดโดมทองนั้น โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ทั้งยังไม่ได้กินข้าวกินน้ำ นายพัน ซึ่งรู้สึกผิดได้แอบเอาข้าวเอาน้ำมาให้ เมื่อคุณมณฑาจับได้จึงไล่นายพันออกไป ไม่ให้มาเหยียบโดมทองอีก และได้สั่งนางพิศให้ตอกตะปูปิดตายห้องนั้นเสีย เสียงคุณพลับพลึงตะโกนออกมา "คุณพี่ใจร้ายเหลือเกิน อิฉันจะไม่ไปไหนจะอยู่รอดูวันสุดท้ายของคุณพี่"
 
เมื่อท่านเจ้าคุณกลับมาไม่เห็นคุณพลับพลึงก็แปลกใจ คุณมณฑารายงานว่าน้องสาวหนีออกไปเพราะสำนึกผิดที่แย่งสามีพี่สาว ท่านเจ้าคุณตกใจที่ภรรยารู้ความจริง ท่านผู้หญิงมารยาน้ำตาไหลซึมเศร้าทำให้ท่านเจ้าคุณไม่กล้าต่อความยาวสาวความยืด อีกทั้งเห็นภรรยากำลังท้องกำลังไส้
 
คุณมณฑาทำเป็นส่งคนออกตามหาน้องสาวแต่ก็ไม่พบ ท่านเจ้าคุณนั้นคิดมากจนตรอมใจล้มเจ็บ ก่อนสิ้นใจท่านเจ้าคุณได้ตั้งจิตอธิฐานว่าจะไม่ยอมไปผุดไปเกิด จนกว่าจะตามหาคุณพลับพลึงพบ หลังจากนั้นคุณมณฑาได้สั่งให้เก็บรูปท่านเจ้าคุณ และรูปเขียนของคุณพลับพลึงไว้ในห้องเก็บของและปิดตายตั้งแต่นั่น
 
โดมทอง ในปี 2500 ยังคงความสง่างามและดูจะขลังยิ่งกว่าเดิม ภายในบ้าน อดิศวร์ วโรดม หลานชายคนเดียวของ คุณมณฑา หรือ ท่านผู้หญิงสรรักษ์ฯ ซึ่งบัดนี้แก่ชราลงไปตามกาลเวลา ได้เข้ามาลาท่านเพื่อลงไปกรุงเทพฯ
 
อดิศวร์นั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนท่านเจ้าคุณราวกับพิมพ์เดียวกัน เหมือนเสียจนกระทั่งบางครั้งเมื่อท่านผู้หญิงกำลังเหม่อลอยและเขาเข้ามาหา ท่านจะพลั้งปากเรียกผิด ท่านผู้หญิงไม่อยากให้อดิศวร์ไปเพราะวันนั้นเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งเป็นวันที่ทรมานที่สุดของท่าน เพราะดวงวิญญาณคุณพลับพลึงจะทรงพลังมาก ด้วยวันนี้เป็นวันตาย และเป็นวันที่คุณพลับพลึงอธิษฐานไว้จะปรากฏให้เห็น พร้อมกับเพลงลาวครวญอันวังเวงเยือกเย็นชวนขนลุก อดิศวร์ซึ่งไม่เชื่อพยายามปลอบโยนและสั่งให้ 2 สาว อุษา กับ แสงแข ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ คอยดูแลท่านผู้หญิงให้ดีด้วย เขาจำเป็นต้องไปร่วมแสดงความยินดีกับ พิณทอง ผู้มีศักดิ์เป็นหลานสาวซึ่งจะเข้าพิธีหมั้นกับ พิชญ์ ชายหนุ่มชาติตระกูลดี
 
ในวันที่เดินทางมากรุงเทพฯ อดิศวร์และเพื่อน ๆ ซึ่งนาน ๆ จะพบกันทีได้ชวนกันไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง และได้พบกับ วิรงรอง เป็นครั้งแรก อดิศวร์รู้สึกสะดุดตาเป็นอย่างมากด้วยความสวยน่ารักสดใสและมีชีวิตชีวาของ เธอ วิรงรองมากับ อนิรุทธ์ เพื่อนสนิท ความสวยสะดุดตาของหญิงสาว กลับกลายเป็นความดูถูกทันทีที่อดิศวร์เห็น ชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาในร้าน เขามาต่อว่าวิรงรองด้วยความหึงหวงจนเกือบชกต่อยกัน วิรงรองดูไร้ค่าทันทีในสายตาของผู้ชายค่อนข้างเข้มงวดอย่างอดิศวร์
 
วิรงรอง กลับมาถึงบ้านด้วยความโกรธและอับอายโดยมีอนิรุทธ์มาส่ง พิชญ์ตามมาขอโทษและปรับความเข้าใจพร้อมกับเอาแหวนออกมายืนยันว่าเขาจะแต่ง งานกับเธอแน่นอน วิรงรองจึงย้อนถามว่าแล้วคู่หมั้นของเขาล่ะ พิชญ์ขอเวลาจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อยและยืนยันว่าเขารักเธอคนเดียว ในขณะที่วิรงรองใจอ่อนจะยอมให้พิชญ์สวมแหวน คุณปราง มารดาวิรงรองกลับบ้านพอดี ความเยือกเย็นของคุณปรางทำให้พิชญ์กลับไปไม่กล้าโต้แย้ง
 
ในงานหมั้นของพิชญ์และพิณทอง อดิศวร์ได้พบกับพิชญ์เป็นครั้งแรกทำให้เขาห่วงหลานสาวทันที เพราะดูท่าทางแล้วพิณทองผู้อ่อนโยนอาจจะต้องเสียใจเพราะผู้หญิงที่อดิศวร์ คิดว่ามารยาคนนั้น และเขาไม่รีรอเลยที่จะพูดเป็นเชิงรู้ทันเมื่ออยู่ตามลำพังกับพิชญ์ว่า พิณทองเป็นคนดีมากหวังว่าพิชญ์คงจะไม่ทำให้เธอเสียใจ ทำให้พิชญ์หวาดระแวงอดิศวร์ว่าจะรู้เรื่องเขากับวิรงรอง
 
ทางด้านคุณปรางเห็นวิรงรองลูกสาวซึมไป จึงปรึกษากับ คุณสุรภี คุณสุรภีนึกได้ว่าญาติผู้ใหญ่ของท่านที่โดมทองกำลังต้องการพยาบาลคนใหม่ เพราะคนเก่าลาออกไป เพราะทนความเจ้าอารมณ์ของท่านผู้หญิงไม่ไหว คุณปรางเห็นเป็นโอกาสดีที่จะแยกวิรงรองให้ไกลจากพิชญ์ อีกทั้งบรรยากาศใหม่ ๆ อาจจะทำให้วิรงรองดีขึ้นจากอาการซึมเศร้าได้ ซึ่งวิรงรองก็ตอบรับในทันที
 
เมื่อเดินทางไปถึงโดมทอง วิรงรองพบว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ตรงกับความฝันและความหวังของเธอ นั้นคือความสวยงามของโดมทอง แต่กระนั้นก็ยังสัมผัสได้กับความลึกลับ ความน่ากลัว และความโศกเศร้าที่ดูเหมือนจะแทรกอยู่ในทุกอณูของบ้าน
 
นอกจากนั้นวิรงรองยังได้ยินเสียงเพลงลาวครวญอันโหยหวนดังมาจากยอดโดมทอง ยิ่งได้พบกับอดิศวร์เธอยิ่งแปลกใจกับความเย็นชาระคนกับความไม่พอใจของอดิศวร์ที่มีต่อเธอ และเมื่อเขาพาเธอไปแนะนำตัวกับท่านผู้หญิง ทุกคนในที่นั้นแม้กระทั้งอดิศวร์เองก็ยังอดประหลาดใจและตกใจไม่ได้ เมื่อท่านผู้หญิงได้แสดงความหวาดกลัว และเกลียดชังวิรงรองอย่างสุดชีวิต และเรียกเธอว่านังพลับพลึง จนอดิศวร์ต้องให้อุษาพาเธอออกไปก่อน ท่านผู้หญิงสั่งให้อดิศวร์ไล่อีนังพลับพลึงออกไป ซึ่งทำให้แสงแขแอบดีใจเพราะความสวยสดใสของวิรงรองทำให้เธอหวาดระแวงว่าอดิศวร์จะพอใจวิรงรอง
 
เมื่ออดิศวร์ออกมา วิรงรองขอกลับกรุงเทพฯ แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาปฏิเสธโดยไม่บอกเหตุผล ซึ่งแม้แต่อุษากับแสงแขก็แปลกใจเช่นกัน อุษานั้นแปลกใจแกมยินดีด้วยรู้สึกถูกชะตากับวิรงรอง ส่วนแสงแขยิ่งเพิ่มความริษยาและเกลียดชังวิรงรองมากขึ้น
 
ถึงแม้อดิศวร์จะห้ามไม่ให้ทุกคนเอ่ยถึงวิรงรองกับท่านผู้หญิงสรรักษ์ แสงแขก็ทำเป็นเผลอไผลทำให้ท่านผู้หญิงรู้ อดิศวร์ยืนยันกับท่านว่าเขามีเหตุผลที่ต้องให้วิรงรองอยู่ที่โดมทองต่อไป ซึ่งเหตุผลกระจ่างขึ้นในทันทีที่พิชญ์กับพิณทองมาฮันนีมูนที่โดมทอง ยิ่งอยู่โดมทองนานวันเข้า วิรงรองยิ่งพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ลึกลับเรียกร้องให้เธอค้นหา เสียงกรีดร้องของท่านผู้หญิงด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีดในยามดึก โดยเฉพาะคืนจันทร์เพ็ญ
 
ผู้ชายในเครื่องแต่งกายโบราณนั่งรถม้ามาหยุดหน้าโดมทอง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเหมือนจะรอใครสักคน เสียงโซ่ที่เหมือนถูกลากตามพื้น เงาลึกลับของผู้ชายที่แต่งตัวเหมือนบ่าวสมัยโบราณที่คอยวนเวียนอยู่ภายนอก บ้าน ทำให้วิรงรองข่มความหวาดกลัวและพยายามสืบหาความจริง
 
นับตั้งแต่เข้าไปในห้องเก็บของที่ปิดตายจนพบรูปวาดของคุณพลับพลึงที่เหมือน เธอราวกับแกะ รูปของท่านเจ้าคุณสรรักษ์ไกรณรงค์ที่เหมือนกับอดิศวร์ราวกับพิมพ์เดียว และวิญญาณนางพิศซึ่งวิรงรองเข้าใจว่าเป็นแม่บ้านของท่านผู้หญิง จะมาปรากฏตัวคอยขัดขวางด้วยใบหน้าเย็นชาไร้ชีวิตจิตใจทุกครั้งที่วิรงรอง กำลังจะค้นพบความจริงบางอย่าง ความริษยาถึงขั้นปองร้ายถึงชีวิตของแสงแข ความเป็นมาของ พันธุ์สูรย์ ชายหนุ่มคนรักผู้ลึกลับของอุษา และที่ร้ายที่สุดคืออดิศวร์ ซึ่งวิรงรองไม่เข้าใจว่าเกลียดชังเธอเรื่องอะไร
 
ระหว่างนี้ ภูไท เจ้าของปางไม้ภูไทและน้องสาวชื่อ ลานนา มาเยี่ยมท่านผู้หญิงและอดิศวร์ที่โดมทอง ที่จริงแล้วทั้งสองพี่น้องเป็น เพื่อนเล่นกับอดิศวร์ อุษา แสงแข รวมทั้งพันธุ์สูรย์ด้วยมาตั้งแต่เด็ก เมื่ออดิศวร์ไล่พันธุ์สูรย์ออกจากบ้านเพราะจับได้ว่าเขารักกับอุษา พันธุ์สูรย์ก็หลบไปทำงานกับภูไทที่ปางไม้ เรื่องความรักของเขากับอุษาภูไทกับลานนาก็รู้ดี
 
การมาวันนี้เป็นการกลับมาพบกันของเพื่อนเก่าจริง ๆ เมื่อลานนาทักวิรงรองอย่างตื่นเต้น สองสาวสนิทกันมากตั้งแต่เรียนอยู่ต่างประเทศ ลานนาเองรู้จักพิชญ์ด้วยเช่นกัน แล้วก็ถึงวันที่พิณทองกับพิชญ์มาถึงโดมทอง พิชญ์ตกใจที่พบวิรงรองที่นี่โดยที่อดิศวร์แนะนำว่าเธอเป็นญาติเขา วิรงรองไม่มีท่าทางผิดปกติเธอทำราวกับพบพิชญ์เป็นครั้งแรก ตรงข้ามกับพิชญ์ที่มีพิรุธจนเห็นได้ชัด ไม่ใช่เพียงอดิศวร์ที่แปลกใจกับอาการสงบนิ่งของวิรงรอง ตัวเธอเองก็แปลกใจที่สามารถเผชิญหน้ากับพิชญ์ได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย เวลานี้เธอยอมรับเขาได้ในฐานะเพื่อนเท่านั้น หลังอาหารค่ำวิรงรองหลบไปเดินเล่นที่ชายหาดคนเดียว กว่าจะรู้ว่าพิชญ์แอบตามมาด้วยเขาก็มาถึงตัวเธอแล้ว
 
พิชญ์พยายามขอคืนดีกับวิรงรอง แต่เธอไม่ยอม เขาหาว่าเธอรักกับอดิศวร์จึงฉวยโอกาสไล่ให้เขาแต่งงานกับพิณทอง วิรงรองไม่ยอมพูดเรื่องนี้ เธอพยายามไล่ให้พิชญ์กลับไปหาพิณทอง แต่กลับทำให้เขาโกรธ พิชญ์ฉวยโอกาสดึงตัวเธอมากอด แต่เธอกลับตบหน้าเขาอย่างแรงและไล่ให้เขากลับไปหาพิณทองที่กำลังเดินตามมา วิรงรองย้ำกับพิชญ์เสียงเข้มว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขาจบไปแล้ว และไม่มีทางที่เธอจะกลับไปหาเขาอีก เมื่อพิชญ์ไปแล้ววิรงรองฟุบตัวร้องไห้อย่างเสียขวัญ เธอเจ็บใจที่พิชญ์หมิ่นน้ำใจและดูถูกเธอเหลือเกิน
 
เสียงของอดิศวร์ที่พูดถึงรอยฝ่ามือเธอบนหน้าพิชญ์ ทำให้วิรงรองตกใจมาก เธอรีบเช็ดน้ำตาทันที ขณะที่เขาพูดต่อเรื่อย ๆ ว่าเขานั่งเล่นตรงนี้นานแล้วและได้ยินทุกอย่าง วิรงรองเงียบกริบเมื่อจู่ ๆ อดิศวร์บอกให้เธอแต่งงานกับเขาและอยู่ที่โดมทองต่อไป
 
วิรงรองเข้าใจว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอเพื่อรั้งตัวไว้ไม่ให้กลับไปยุ่ง เกี่ยวกับพิชญ์อีก วิรงรองอิจฉาพิณทองที่มีอดิศวร์คอยช่วย และทำทุกอย่างเพื่อให้หลานสาวมีความสุขช่างตรงข้ามกับเธอที่ไม่มีใครเข้าใจ สักคน วิรงรองเถียงอดิศวร์อย่างลืมตัวชายหนุ่มดึงเธอมากอดและจูบคน พูดอย่างอ่อนโยนอบอุ่น วิรงรองรู้สึกราวกับโลกหยุดหมุน อ้อมกอดของอดิศวร์อบอุ่นและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เธอผละจากเขาทันทีที่รู้สึกตัวแต่เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ทำร้ายเขาเหมือน พิชญ์ อดิศวร์หัวเราะพูดอย่างรู้ทันพลางรวบมือเธอไว้แล้วรีบจูงเดินย้อนกลับไปรวม กับคนอื่น ๆ พิณทองล้อทั้งคู่จนวิรงรองอายหน้าแดง นั่นทำให้แสงแขเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังเธอมากขึ้นไปอีก
 
คืนนั้นดึกมากแล้วเมื่อแสงแขมาเคาะประตูห้องเรียกเธอออกไปคุยที่ระเบียงและ ขู่ไม่ให้เธอยุ่ง กับอดิศวร์ วิรงรองเห็นใจแสงแขจึงแกล้งหลอกว่าเธอมีคนรักแล้วเขาอยู่กรุงเทพฯ อีกไม่นานเธอจะกลับ ไปหาเขาเธอไม่สนใจอดิศวร์เลยสักนิด แสงแขไม่ค่อยเชื่อนักย้ำแล้วย้ำอีกจนวิรงรองอ่อนใจ เมื่อแสงแขยอมเชื่อและแยกไปนอนแล้ว วิรงรองกลับยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงนั้นจนดึก เธอเหนื่อยใจกับคนที่นี่เหลือเกิน ไม่มีใครยอมฟังและเชื่อในสิ่งที่เธอบอกเลยนอกจากอุษา
 
ฝนเริ่มตกและตกหนักขึ้นทุกทีแต่หญิงสาวคง ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เสียงเพลงหวานเศร้าแว่วมาอีกแล้วพร้อมเสียงรถม้า คราวนี้วิรงรองตั้งใจจะดูให้เห็นกับตาว่าใครขับรถม้า เมื่อเสียงรถม้าหยุดใต้ระเบียงหญิงสาวจึงชะโงกตัวลงไปดูจนเกือบพลัดตก ระเบียง ดีว่าอดิศวร์เข้ามารวบตัวอุ้มไว้ทัน เขาพูดไม่ออกเมื่อเห็นวิรงรอง เธอเปียกโชกทั้งตัว หน้าซีด ตัวรุมร้อนเหมือนจะมีไข้ อดิศวร์รีบอุ้มเธอไปหาอุษาให้ช่วยดูแล อุษาเองก็ตกใจมากและแปลกใจ ที่อดิศวร์กุลีกุจอช่วยเธอปฐมพยาบาลวิรงรองจนดึกกว่าจะยอมไปนอน ราตรีนั้นวิรงรองจึงต้องนอนกับอุษา เธอไข้สูงจนไม่มีใครกล้าปล่อยให้เธอกลับไปนอนที่ห้องตามลำพัง
 
วันรุ่งขึ้นอดิศวร์คอยช่วยอุษาสลับไปดูแลท่านผู้หญิง เขาอยู่กับท่านครั้งละนาน ๆ เพื่อให้อุษาได้ดูแลวิรงรองเต็มที่ อดิศวร์อ่อนโยนกับวิรงรองอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน หญิงสาวหายป่วยทันงานเลี้ยงส่งพิชญ์กับพิณทอง พันธุ์สูรย์ฉวยโอกาสหลบมาพบอุษาโดยมี ภูไท ลานนา และวิรงรองคอยช่วย แต่อดิศวร์ก็รู้จนได้ เขารีบตามออกไปที่สวน วิรงรองกับภูไทรีบตามไปติด ๆ อดิศวร์ต่อว่าพันธุ์สูรย์แรง ๆ หลายคำและพยายามปลอบอุษาให้กลับมาหาเขา พันธุ์สูรย์แค้นใจจึงบอก อดิศวร์ว่าการหายตัวไปของคุณย่าน้อยบางทีท่านผู้หญิงจะรู้ดีที่สุด และเป็นไปได้ที่คุณย่าน้อยจะไม่ได้ออกไปไหนเธออาจอยู่ที่ไหนสักแห่งในโดมทอง นี้ คำพูดของเขาทำให้ทุกคนอึ้งไปหมด
 
เมื่ออดิศวร์ได้สติเขาต่อยพันธุ์สูรย์แล้วพาอุษากลับเข้าบ้านทิ้งทุกคนไว้ ที่นั่น วิรงรองน้อยใจเขาจนบอกไม่ถูก ภูไทไล่พันธุ์สูรย์กลับไปและอยู่เป็นเพื่อนวิรงรอง ผ่านไปครู่เดียวลานนาก็ลงมาหาต่อว่าเพื่อนสาวที่ไม่ยอมบอกเรื่องความ สัมพันธ์ระหว่างเธอกับอดิศวร์ ลานนาไม่ปล่อยให้วิรงรองงงนาน เธอบอกว่าอดิศวร์เพิ่งประกาศในงานว่าเขากำลังจะแต่งงานกับวิรงรอง หญิงสาวพูดไม่ออกข่มความน้อยใจ อดิศวร์ทำอะไรตามใจตัวเองและบังคับจิตใจเธอเหลือเกิน แต่หญิงสาวก็สวมบทบาทว่าที่เจ้าสาวอย่างน่ารัก งานเลี้ยงเลิกทุกคนกลับไปหมดโดมทองเงียบสนิท วิรงรองตัดสินใจจะหนีไปหาลานนา เธอทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่ไม่ทันที่เธอจะออกไป อดิศวร์เข้ามาเห็นพอดีเขารับอาสาจะไปส่งเธอที่บ้านภูไทให้ วิรงรองเดินไปขึ้นรถอย่างตะบึงตะบอน
 
บรรยากาศ ในรถเงียบกริบจนกระทั่งหญิงสาวทนไม่ไหว เธอเอะใจว่าจะถูกหลอก บ้านภูไทอยู่ไกลเกินไปไม่เหมือนที่ลานนาบอกเธอเลย เมื่อเธอประท้วงเขา อดิศวร์กลับรับว่าเขาไม่คิดจะพาเธอไปบ้านนั้นเลยและไม่มีทางเป็นไปได้ เขาไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่นอน วิรงรองโกรธจนพูดไม่ออก อดิศวร์จึงค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกับเธอ แต่กว่าวิรงรองจะได้ยินคำว่ารักก็ยากเต็มที น่าแปลกที่เธอเชื่อเขาและเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าเธอรักเขาเช่นกัน วิรงรองยอมกลับไปโดมทองอย่างเต็มใจ เมื่อพิชญ์กับพิณทองกลับไปแล้ว วิรงรองเริ่มสบายใจขึ้นบ้าง
 
คืนหนึ่งอดิศวร์พาเธอไปงานเลี้ยงที่จวนผู้ว่ากว่าจะกลับดึกมาก คืนนั้นเป็นคืนวันเพ็ญวิรงรองจึงชวนให้เขารอดูรถม้าลึกลับด้วยกัน อดิศวร์ตื่นเต้นที่เห็นว่ารถม้ามีจริงๆ เขาบอกเธอว่าชายคนที่ขับรถม้าไม่ได้มองห้องนอนวิรงรอง สายตาเขามองเลยขึ้นไปที่โดมทองต่างหาก
 
เช้าวันต่อมาอดิศวร์กับตาแสงคนขับรถ ขึ้นไปรื้อประตูและขึ้นไปที่โดมทอง วิรงรองกับอุษาตามไปด้วย บนนั้นมีประตูปิดตายอีกหนึ่งบาน อดิศวร์สั่งรื้อทันที เมื่อประตูเปิดทุกคนจึงเห็นว่ามีห้องอยู่อีกห้องหนึ่งทั้งที่ไม่น่าจะมี ทั้งหมดค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้อง ที่มุมห้องมีร่างทีเหลือเพียงโครงกระดูก และมีโซ่ตรวนเส้นโตถูกล่ามไว้ที่ข้อเท้าอย่างน่าสงสาร สร้อยคอทองคำห้อยล็อกเก็ตรูปเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์ที่ตกอยู่ใกล้ ๆ ทำให้รู้ได้ไม่ยากว่าเธอคือคุณพลับพลึงนั่นเอง
 
อดิศวร์คิดถึงเรื่องที่พันธุ์สูรย์บอกว่า ที่จริงแล้วเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์รักกับคุณพลับพลึง การแต่งงานครั้งนั้นผิดฝาผิดตัว ท่านจำต้องแต่งงานกับคุณมณฑาซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อภรรยาพาคุณพลับพลึงน้องสาวมาอยู่ด้วยทั้งคู่จึงหักใจไม่ได้ จนกระทั่งคุณมณฑาท้องจึงรู้ว่าสามีและน้องสาวมีความสัมพันธ์กัน หลังเธอคลอดลูกซึ่งก็คือพ่อของอดิศวร์ ไม่นานเจ้าพระยาสุรรักษ์ไกรณรงค์ต้องไปราชการหัวเมืองหลายวันและคุณพลับพลึง ก็หายไปจากโดมทองตอนนั้นเอง
 
เสียงของวิรงรองที่บอกเขาให้ไขกุญแจโซ่ที่ล่ามข้อเท้าเธอทำให้อดิศวร์ได้สติ เขาผลุนผลันออกไปจากห้องโดยมีวิรงรองวิ่งตามไปที่ห้องท่านผู้หญิง เธอเข้าไปห้ามอดิศวร์ที่กำลังต่อว่าท่านผู้หญิงอย่างรุนแรง ท่านผู้หญิงปฏิเสธทุกอย่าง เสียงของวิรงรองทำให้ทั้งคู่หันมาหาเธอ ท่านผู้หญิงหน้าซีดเผือดตกใจ ท่านเรียกชื่อพลับพลึงไล่เธอออกไปก่อนจะเป็นลมและสิ้นใจทันที
 
ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด อดิศวร์ค้นกำปั่นข้างตัวท่านผู้หญิงซึ่งท่านหวงนักหนาจึงพบกุญแจ เขารีบไปไขโซ่ที่ล่ามข้อเท้าคุณพลับพลึง กุญแจพวงนั้นยืนยันได้ว่าท่านผู้หญิงอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด อดิศวร์ต้องจัดงานศพถึงสองงานพร้อมกัน เพียงแต่ร่างของคุณพลับพลึงต้องไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใกล้ ๆ เพื่อไม่ให้อื้อฉาวขณะที่ท่านผู้หญิงจัดที่บ้าน
 
หลังจากท่านผู้หญิงสิ้นอดิศวร์กับวิรงรองใกล้ชิดกันมากขึ้น ยืนยันความสัมพันธ์ที่มีต่อกันจนแสงแขแค้นใจแทบคลั่ง เธอรู้ดีว่าอดิศวร์ต้องแต่งงานกับวิรงรองแน่นอน ไม่มีใครขัดขวางเขาได้แน่ วันหนึ่งในระหว่างงานศพขณะที่วิรงรองคุยกับภูไทและลานนา พันธุ์สูรย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาบอกให้พาวิรงรองกลับไปข้างในบ้าน เขาพูดไม่ทันขาดคำเสียงปืนดังขึ้น ร่างวิรงรองทรุดฮวบลงทันที ภูไทรีบช้อนตัวเธอไว้จึงรู้ว่าเธอถูกยิง
 
อดิศวร์ทั้งโกรธและแค้นที่สุดขณะที่หมอกำลังผ่าตัดกระสุนออกให้วิรงรอง อดิศวร์คุยกับพันธุ์สูรย์อย่างเคร่งเครียด และยิ่งโกรธเมื่อรู้ว่าแสงแขอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาให้พันธุ์สูรย์ประสานกับตำรวจตามล่ามือปืนให้ได้ หมอช่วยชีวิตวิรงรองไว้ได้ อดิศวร์ดีใจมากเขาดูแลเธออย่างใกล้ชิดมากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน มือปืนถูกจับตัวได้ไม่กี่วันต่อมา และให้การซัดทอดแสงแขว่าเป็นผู้จ้างวาน แต่แสงแขชิงฆ่าตัวตายเสียก่อน
 
เมื่อเรื่องร้าย ๆ ผ่านไป ได้มีการเตรียมงานมงคลสองงาน หนึ่งคืองานแต่งงานของอุษากับพันธุ์สูรย์ และอีกงาน เป็นงานแต่งของอดิศวร์กับวิรงรอง ที่จะครองรักครองสุขกันที่โดมทองแห่งนี้ไปนานเท่านาน

 

รายชื่อนักแสดงนำ ในละคร โดมทอง

 

วีรภาพ  สุภาพไพบูลย์   รับบท   เจ้าพระยาสรรักษ์ไกรณรงค์ / อดิศวร์ ศิโรดม
ทัศนียา  การสมนุช   รับบท   คุณพลับพลึง และวิรงรอง
จีรนันท์  มะโนแจ่ม   รับบท   ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไกรณรงค์ (คุณมณฑาตอนสาว)
ดวงดาว  จารุจินดา   รับบท   ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไกรณรงค์ (คุณมณฑา)
พิชยดนย์  พึ่งพันธ์   รับบท   พิชญ์
กาญจน์เกล้า  ด้วยเศียรเกล้า   รับบท   พิณทอง
ภูมิภาฑิต  นิตยารส   รับบท   พันธุ์สูรย์
กวินตา  โพธิจักร   รับบท   อุษา
ชวัลกร  วรรธนพิสิฐกุล   รับบท   แสงแข
วีรคณิศร์  กานต์วัฒนกุล   รับบท   ภูไท
กวิตา  รอดเกิด   รับบท   ลานนา
นนทพันธ์  ใจกันทา   รับบท   อนิรุทธิ์
กาญจนา  จินดาวัฒน์   รับบท   คุณปราง
พิราวรรณ  ณ นคร   รับบท   คุณหญิงวัชรวิชิต
ภัสสร  บุณยเกียรติ   รับบท   คุณหญิงแก้ว
กาญจนาพร  ปลอดภัย   รับบท   สุรภี
น้อย  โพธิ์งาม   รับบท   อุไร
วชิรา  เพิ่มสุริยา   รับบท   โอบอ้อม
ไกรลาศ  เกรียงไกร   รับบท   นายสม
รุ้งลาวัลย์  โทนะหงษา   รับบท   บัวคำ
อำภา  ภูษิต   รับบท   นางพิศ
ตฤณ  เศรษฐโชค   รับบท   รมต.พจน์
ปราบ  ยุทธพิชัย   รับบท   นายพรหม
พอเจตน์  แก่นเพ็ชร์   รับบท   นายพัน

ดาวเกี้ยวเดือน

ดาวเกี้ยวเดือน เป็นเรื่องราวของ ประกายดาว ช่างภาพสาวโสดอายุ 32 ปี ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก และเคยมีคนรักมาหลายคนแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในด้านความรักเลย เมื่อถึงวันเกิดได้ไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้าและได้เจอ ศิวะ แฟนเก่าที่พยายามมาก้อร่อก้อติก จนกลายเป็นข่าวดัง ประกายดาวจึงย้ายไปอยู่กับพี่ชายด้วยความเซ็ง เมื่อได้เล่นกับหลานและเริ่มคิดถึงชีวิตที่มีลูกมาเป็นเพื่อนจึงมีความคิด ที่อยากจะมีลูกก่อนอายุ 35 ปี เพราะถ้ามีหลังนั้นอาจจะทำให้ลูกผิดปกติได้ เธอจึงวางแผนที่จะหาพ่อพันธุ์และได้ล็อคเป้าหมายไว้สองคนคือ หม่อมราชวงศ์จันทรภานุ กับ พงศ์จันทร ซึ่งเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อรวยทั้งคู่ ประกายดาวไปเจอกับหม่อมราชวงศ์จันทรภานุในงานแฟชั่น และหมายมั่นที่จะเป็นเพื่อนกับคุณชายจันทร์ให้ได้เพื่อจะได้ขอในสิ่งที่ต้อง การ โดยไม่ต้องการสัมพันธ์ทางกาย เพราะหม่อมราชวงศ์จันทรภานุเป็นคนดัง รวยและมีอิทธพลมากเหมือนซูเปอร์สตาร์คนหนึ่ง

เธอต้องวางแผนสร้างความประทับใจเพื่อให้สนิทสนม และประกายดาวก็ได้ดังใจนึกรวมทั้งเกินจะนึกฝันด้วย นอกจากนี้ประกายดาวได้มีโอกาสรู้จักเป้าหมายที่สองคือ พงศ์จันทร ด้วยความบังเอิญ และได้สานต่อความสัมพันธ์พอสมควรก่อนที่จะขึ้นเชียงใหม่ไปเพื่อทำตามแผนตี สนิทคุณชายจันทร์ หม่อมราชวงศ์จันทรภานุเป็นยิ่งกว่าที่ประกายดาวหวังไว้ เมื่อได้ไปเจอกันที่เชียงใหม่ได้คุยได้ไปเที่ยวด้วยกันหลายที่ หม่อมราชวงศ์จันทรภานุชอบประกายดาวมากและมอบสร้อยเพชรรูปดาวให้เข้าชุดกับ สร้อยที่ประกายดาวมี แต่แผนการกลับไม่ราบรื่นเมื่อประกายดาวบังเอิญมาเจอแฟนเก่าสามคนพร้อม ๆ กันกับเป้าหมายที่ 2 ที่มาประชุมงานที่เชียงใหม่ เรื่องราวต่าง ๆ ดูผิดแผนและวุ่นวายไปหมด แล้วอย่างนี้เธอจะมีลูกก่อนอายุ 35 ปีได้ไหมนี่… ติดตามความสนุกเข้มข้นของ ละครดาวเกี้ยวเดือน

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ดาวเกี้ยวเดือน

เจนี่  เทียนโพธิ์สุวรรณ   รับบท   ประกายดาว
อธิชาติ  ชุมมานนท์   รับบท   ม.ร.ว จันทรภานุ
กัญญ์รัณ  วงศ์ขจรไกล   รับบท   ม.ร.ว นิมมานนรดี
รฐา  โพธิ์งาม   รับบท   อรอุมา
อัฐมา  ชีวนิชพันธ์   รับบท   มิลินทร์
โชติมา  นวคุณากร   รับบท   หมวดอรดี (ต้นอ้อ)
รมิดา  ประภาสโนบล   รับบท   รติรส
กรุณ  ซอโสตถิกุล   รับบท   พงศ์จันทร
นิภาภรณ์  ฐิติธนาการ   รับบท   นันทินี
ภัทรภณ  โตอุ่น   รับบท   อภิเชษฐ์
สุพจน์  จันทร์เจริญ   รับบท   แดนดิน
ธนานน  ตั้งไพบูลย์    รับบท   ศิวะ

ฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก

ฟาร์มหมื่นไร่ ป่าสมบูรณ์ผืนใหญ่ที่ใคร ๆ ก็ปรารถนาจะครอบครอง ฝ่ายหนึ่งต้องการเปิดรีสอร์ทล่องไพร อีกฝ่ายหนึ่งต้องการใช้เป็นที่ซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้น บางเรื่องลงเอยด้วยความตาย บางเรื่องลงท้ายด้วยความรัก วิศว์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงต้องการครอบครองฟาร์มหมื่นไร่เพื่อเปิดรีสอร์ทล่องไพร ต้อนรับนักท่องเที่ยว ทว่า มินตรา นายหญิงแห่งฟาร์มกลับต้องรักษาผืนป่าธรรมชาติเอาไว้ให้คนรุ่นต่อไปเพราะเป้า หมายอันแตกต่างทำให้นักธุรกิจหนุ่มต้องกลายเป็นนักวิจัยกำมะลอเพื่อหาทาง เปลี่ยนใจหญิงสาว แต่สุดท้าย ใครกันที่ต้องเปลี่ยนใจโดยไม่รู้ตัว
 
วิศว์ ทายาทตระกูลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถูกยื่นคำขาดจาก อมรินทร์ ผู้เป็นพ่อให้ติดต่อซื้อฟาร์มหมื่นไร่ซึ่งมีพื้นที่ติดกับป่าอุดมสมบูรณ์ เพื่อทำรีสอร์ท วิศว์กลุ้มใจกับภารกิจนี้มาก หากเขาทำงานครั้งนี้ไม่สำเร็จก็จะถูกตัดออกจากกองมรดกอย่างแน่นอน เพราะนี่เป็นไม้ตายที่อมรินทร์ยื่นให้กับลูกชายหนุ่มเจ้าสำราญที่บ่ายเบี่ยง ความรับผิดชอบงานของครอบครัวมาตลอด
 
เมื่อเห็นแนวโน้มแล้วว่าเจ้าของฟาร์มอย่าง พ่อเลี้ยงอิน และหลานสาวสุดสวยอย่าง มินตรา ไม่มีทางยอมขายที่อย่างแน่นอน วิศว์จึงต้องออกอุบายลากเพื่อนรักอย่าง โดม และ จูดี้ มาสวมรอยเป็นทีมงานทำสารคดีเกี่ยวกับฟาร์มโคนมเพื่อหาช่องสำรวจพื้นที่และหา โอกาสการเกลี่ยกล่อมคู่ปู่หลานในภายหลัง แล้ววิศว์ก็ทำสำเร็จเพราะในที่สุดพ่อเลี้ยงอินก็อำนวยความสะดวก แถมเชื้อเชิญให้เขาและเพื่อน ๆ มาอาศัยอยู่ในไร่เพื่อทำสารคดีจนกว่าจะเสร็จ ความจริงมินตราไม่ถูกชะตากับผู้ชายกะล่อน ท่าทางไม่น่าไว้วางใจอย่างวิศว์เอาเสียเลย แต่โชคดีที่เธอประทับใจสุภาพบุรุษชวนฝันอย่างโดมแต่แรกเห็น ประกอบกับติดใจในความน่ารักของจูดี้ จึงยอมให้ความร่วมมือกับทีมทำสารคดีกำมะลอ
 
เดิมทีสถาปนิกสาวอย่างจูดี้ไม่อยากจะตามมาปักหลักอยู่ที่ฟาร์มหมื่นไร่นัก แต่ถูกวิศว์ขอร้องแกมบังคับให้มาออกแบบว่าที่รีสอร์ทแห่งใหม่ให้ ประกอบกับว่าเป็นจังหวะที่จูดี้กำลังจะถูกจับคลุมถุงชนกับลูกชายของเพื่อน พ่อแม่ เธอจึงเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการหาข้ออ้างเพื่อหาทางชิ่งออกจาก สถานการณ์คับขัน แต่หารู้ไม่ว่าตนต้องมาเจอกับ ตุ๊ดตู่ ว่าที่เจ้าบ่าวซึ่งก็หนีการแต่งงานที่ว่ามาเป็นหัวหน้าคนงานของฟาร์มตั้งแต่ สามเดือนก่อน
 
ส่วนโดมนั้นปกติจะเป็นมือขวาของอมรินทร์ที่ช่วยจัดการงานสำคัญต่าง ๆ ในบริษัทธเนศวสุ แต่หนนี้อมรินทร์ต้องยอมปล่อยให้โดมมาที่ฟาร์มหมื่นไร่เพื่อคอยประกบวิศว์ใน การพิชิตภารกิจ เพราะที่จริงแล้วงานนี้คือเดิมพันสำคัญว่าวิศว์จะได้รับการยอมรับจากบอร์ด ของธเนศวสุให้รับตำแหน่งสำคัญของบริษัทต่อไปหรือไม่ มิฉะนั้นในอนาคตหุ้นใหญ่ของบริษัทอาจจะต้องเปลี่ยนมือกลายไปเป็นของคนนอก ตระกูลซึ่งอมรินทร์ไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นแน่ นอกจากงานหลักในการดูแลกิจการโคนมของฟาร์มแล้ว มินตรายังมีจ๊อบพิเศษในฐานะนางแบบเจ้าประจำของดีไซเนอร์เพื่อนรักอย่าง วุ้น ที่แวะเวียนเข้าออกฟาร์มหมื่นไร่ราวกับเป็นบ้านตัวเอง ในขณะที่มินตราและบรรดาสาว ๆ ดูจะเป็นปลื้มกับโดมแทบจะออกนอกหน้า แต่วุ้นกลับรู้สึกไม่ถูกชะตา และมีเรื่องปะทะคารมกับโดมแทบจะเป็นประจำ ซึ่งวุ้นเองก็ไม่เข้าใจเหมือนว่าเพราะอะไรทั้ง ๆ ที่เธอกับเขาค่อนข้างมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกันจนน่าจะเป็นคู่หูที่ดีด้วย ซ้ำ ที่น่าตลกก็คือวุ้นกลับเข้าขาได้ดีกับคนที่เพื่อนรักไม่ชอบหน้าอย่างนายวิศว์ไปซะนี่
 
ตั้งแต่มาอยู่ในฟาร์มวิศว์กับเพื่อนก็พยายามจะใช้การทำสารคดีบังหน้าเพื่อ แอบรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับที่นี่ ขณะเดียวกันหนุ่มที่มั่นใจในเสน่ห์ของตนเองอย่างวิศว์ก็เร่งสานสัมพันธ์แบบ จู่โจมกับมินตราเพราะคิดว่าจะทำให้การเจรจาซื้อขายที่ดินนั้นง่ายขึ้น ดีไม่ดีเขาอาจจะได้ที่ดินพร้อมเจ้าของที่ดินในราคาแพ็คเกจอีกต่างหาก แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วิศว์คิด ดูเหมือนยิ่งเขาพยายามเข้าใกล้และสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองเป็นฮีโร่สำหรับ มินตราเท่าไหร่ อะไร ๆ ดันกลับตาลปัตร แถมทุกอย่างที่เขาทำลงไปยิ่งทำให้มิตรารู้สึกรังเกียจ และผลักเขาให้กระเด็นห่างจากเธอมากยิ่งขึ้น ตรงกันข้ามกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโดมที่ดูจะขยันงอกงามราวกับต้นไม้ ที่ได้น้ำได้ปุ๋ย สิ่งที่เกิดขึ้นถึงกับทำเอาหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างวิศว์เกิดอาการเสียศูนย์ จึงพาลโกรธมินตราที่ทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจที่สั่งสมมาทั้งชีวิต สถานการณ์จึงพลิกผัน จากที่ตั้งใจมาสานไมตรีกลายเป็นว่าวิศว์กลับมีเรื่องกระทบกระทั่งกับมินตรา แทบไม่หยุดหย่อน
 
เกตุสุดา เจ้าของโรงแรมข้าง ๆ ฟาร์มหมื่นไร่เป็นอีกรายที่พยายามเทียวไล้เทียวขื่อพ่อเลี้ยงอินกับมินตรา เพื่อเจรจาขอซื้อที่ดินให้นายทุน ถึงแม้จะถูกปฏิเสธครั้งแล้ว แต่เกตุสุดาก็ยังไม่ละความพยายามเพราะเงินค่านายหน้าที่จะได้รับนั้นราคาสูง ลิ่ว ยิ่งได้มาพบกับหนุ่มรูปงามอย่างวิศว์ที่เข้ามาประจำการอยู่ที่นี่ หล่อนยิ่งขยันหาเรื่องเข้าออกจนหัวกระไดฟาร์มไม่แห้ง แถมเธอมักจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยคอยเติมเชื้อความขัดแย้งระหว่างวิศว์และ มินตราให้หนักข้อขึ้นอยู่เป็นประจำ
 
ดูเผิน ๆ เหมือนกับว่าสงครามระหว่างวิศว์และมินตราจะดำเนินต่อไปแบบไม่เห็นจุดจบ แต่นานวันการปะทะที่เกิดขึ้นกลับทำให้ทั้งคู่ได้เห็นตัวตนของกันและกันจน เกิดความผูกพันโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งวิศว์ได้บังเอิญรู้ว่าที่แท้สถานะทางการเงินของฟาร์มหมื่นไร่กำลัง คลอนแคลน เขาก็ยิ่งได้เห็นความเข้มแข็งที่น่าชื่นชมของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างมินตราที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาผืนดินอันเป็นที่รักของพ่อและปู่ ไว้อย่างสุดใจขาดดิ้น
 
ขณะที่ฟาร์มหมื่นไร่กำลังเผชิญกับปัญหานานาที่พร้อมใจกันดาหน้าเข้ามารุม เร้า มาวิน อาของมินตราที่มักหายตัวไปจากฟาร์มเสมอก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับ ประกาศิต มิตรใหม่ด้วยความที่ท่าทีของประกาศิตมีลักษณะภูมิฐาน และดูมีหลักมีการ มีน้ำใจ จึงทำให้พ่อเลี้ยงอินและมินตรารู้สึกเป็นมิตรด้วยโดยหารู้ไม่ว่าประกาศิตมี แผนการร้ายกาจต่อมาวินและฟาร์มหมื่นไร่
 
และแล้วฟาร์มหมื่นไร่ก็ต้องตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ เพราะจู่ ๆ ก็ไม่มีลูกค้ารายใดรับซื้อน้ำนมดิบจากฟาร์มอีกเลย นี่น่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับวิศว์ที่หาวิธีเล่นงานมินตราให้จนมุมเพื่อบีบ คอซื้อที่ดินจากเธอให้ได้ แต่ทุกอย่างกลับเป็นไปในทางตรงข้าม วิศว์พยายามทำทุกวิถีเพื่อแก้ปัญหาให้ฟาร์มหมื่นไร่ แถมยังใช้ความรู้ด้านอาหารที่มีเสนอให้ทางฟาร์มแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างเกี่ยว กับนมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และทำให้เก็บผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานขึ้น แถมแนะนำให้พ่อเลี้ยงกับ มินตราเปิดฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ จนสามารถพลิกฟื้นฟาร์มหมื่นไร่ให้กลับมาดำเนินการได้อีกครั้งในรูปแบบที่น่า สนใจขึ้น
 
สำหรับการเกิดใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมของฟาร์มหมื่นไร่นั้นกลับทำให้ประกาศิตถึง กับเต้นเป็นเจ้าเข้า เพราะที่ผ่านมาเขานั่นเองเป็นคนวางแผนต่าง ๆ นานาเพื่อหาทางทำให้ฟาร์มปิดตัว  ประกาศิตและพรรคพวกต้องการที่ดินของฟาร์มเพราะติดป่าชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเหมาะแก่การใช้เป็นที่ซ่อนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ รวมถึงใช้เป็นเส้นทางลำเลียงไม้เถื่อน ประกาศิตเดินหน้าใช้แผนการณ์ใหม่อีกครั้งด้วยการลงทุนลงทุนลงแรงล่อให้มาวิ นอาของมินตราติดกับ ความสัมพันธ์ระหว่างอาหลานคู่นี้แม้จะไม่ค่อยดีนัก แต่ประกาศิตก็รู้ว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับมาวิน ฟาร์มหมื่นไร่ก็ไม่มีทางหลีกหนีความรับผิดชอบได้เด็ดขาด แผนการณ์เผาโรงแรมป้ายความผิดให้กับมาวินจึงต้องรีบทำโดยเร่งด่วน ซึ่งผู้ร่วมสมคบคิดก็ไม่ใช่ใคร หากแต่เป็นเกตุสุดาเจ้าของโรงแรมที่กำลังเจ็บใจเพราะพลาดหวังในรักจากวิศว์
 
งานรื่นเริงส่งท้ายปีที่จัดขึ้นในฟาร์ม จึงกลายเป็นวันที่มินตราและพ่อเลี้ยงอินได้รับข่าวร้ายเรื่องเพลิงไหม้ โรงแรมฝีมือมาวิน มาวินซึ่งตกอยู่ในสภาพตกใจและมึนงงเพราะฤทธิ์ยาที่ประกาศิตคอยปรนเปรอให้ ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าเป็นฝีมือตน พ่อเลี้ยงอินเสียใจจนโรคหัวใจกำเริบต้องเข้าโรงพยาบาล มูลค่าความเสียหายรวมแล้วประมาณร้อยเจ็ดสิบล้านบาท เกตุสุดากดดันมินตราอย่างหนัก
 
มินตราตัดสินใจขายฟาร์มหมื่นไร่ สถานที่ที่หล่อนรักที่สุด เพื่อนำเงินมาล้างหนี้สินในครั้งนี้ โดยที่ประกาศิตแอบกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความลำพองใจ ทว่าจู่ ๆ กลับมีโทรศัพท์มาถึงมิตราเพื่อเสนอซื้อที่ดินของหล่อนด้วยราคาสองร้อยล้าน บาทตามราคาประเมิน หลายคนในห้องตกตะลึง จะมีก็เพียงวิศว์ที่ยิ้มด้วยความพึงใจ เพราะเขานั่นเองที่แอบออกไปโทรสั่งจูดี้ให้ปลอมเสียงโทรศัพท์เข้ามาขอเสนอ ซื้อที่ดินกับมินตรา
 
ทั้งหมดกลับมาที่ฟาร์มหมี่นไร่ ยกเว้นพ่อเลี้ยงอินและมาวินที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ เรื่องร้าย ๆ คลี่คลายไปในทางที่ดี ทว่าในช่วงที่มินตราพาม้าสีหมอกกลับคอกหล่อนกลับโดนกลุ่มคนร้ายซึ่งหนึ่งใน นั้นมี นายโพด คนงานมาดดาวร้ายของฟาร์มจับตัวไป วิศว์สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของม้าสีหมอกที่วิ่งกลับมาตามเขาที่บ้านใหญ่ ชายหนุ่มตามไปจนมั่นใจว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นกับมินตราแน่ ๆ เขาจึงควบม้าดำคู่อริตามไปช่วยหญิงสาวทันที แต่ชายหนุ่มก็พลาดท่าโดนจับตัวไปด้วยอีกคน
 
คนจำนวนมากมาชุมนุมที่ฟาร์มหมื่นไร่ด้วยความเป็นห่วงวิศว์และมินตรา ระหว่างนั้นเองจูดี้ได้รู้จากปากบิดามารดาของตัวเองว่าที่แท้ตุ๊ดตู่คือว่า ที่เจ้าบ่าวของตัวเอง วิศว์และมินตราฟื้นขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ที่ปางพักไม้แห่งหนึ่งกลางป่า ทั้งสองได้รับรู้ว่าภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนั้นเป็นเพราะการตัดไม้ทำลายป่าของกลุ่มคนเหล่านี้
 
เรื่องราวเลวร้ายลงทุกที มินตราช็อกมากเมื่อรู้ว่าที่แท้ประกาศิตกับพรรคพวกที่จับเธอมาคือผู้ที่ทำ ให้พ่อของเธอหายสาปสูญไปในป่าอย่างไม่มีวันกลับ ประกาศิตตั้งใจจะฆ่าปิดปากทั้งสองเสีย แต่โชคดีที่น้ำป่าได้พัดถล่มปางพักไม้ที่ชั่วร้ายจนราบเป็นหน้ากลอง สองหนุ่มสาวเองก็โดนอุทกภัยพัดพามาจนหลงป่าเช่นเดียวกัน และคืนแรกในถ้ำกลางป่านี่เอง ที่แสงสว่างแห่งความรักของคนทั้งสองได้เรืองรองออกมาจนปิดไว้ไม่มิดอีกต่อไป วิศว์จุมพิตมินตราครั้งแรกด้วยความรักสุดหัวใจในคืนที่ดาวเกลื่อนฟ้านี่เอง วิศว์ได้เห็นธรรมชาติที่สวยงาม และป่าไม้ที่โดนทำลายด้วยพวกคนชั่ว ชายหนุ่มสำนึกทันทีว่า โครงการรีสอร์ทของบริษัทตนนั้นผิดมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มคิดแล้ว และถ้าเปลี่ยนเป็นโครงการของบริษัทเขา ต้นไม้ในป่าอาจจะโดนทำลายไปมากกว่านี้ก็เป็นได้ เขาตัดสินใจได้แล้วว่าตัวเองควรจะก้าวเดินไปในทางไหน ระหว่างการเลือกที่จะเป็นผู้สร้างสรรค์หรือผู้ทำลาย
 
วิศว์และมินตราหาทางออกจากป่าจนสามารถมาพบกับกลุ่มคนที่มาช่วยโดยบังเอิญ แต่ในจังหวะนั้นประกาศิตได้โผล่ออกมาจัดการทั้งคู่ และกะจะเก็บทั้งหมดให้กลายเป็นผีเฝ้าป่าเหมือนที่เคยทำกับพ่อของมินตรา การปะทะกันระหว่างสองฝ่ายเป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อเห็นท่าไม่ดีประกาศิตพยายามจะหนีแต่วิศว์รีบเข้าตะครุบ เขาต่อสู้กับประกาศิตจนประกาศิตพลาดท่าตกหน้าผาน้ำตกลงไป
 
ตุ๊ดตู่ที่กลับมาจากการตามไปช่วยเหลือมินตราแปลกใจกับท่าทีของจูดี้มาก แล้วเขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่โดนจับคลุมถุงชนด้วยนั้น เป็นคนเดียวกับคนที่ตัวเองกำลังตกหลุมรัก ตุ๊ดตู่จึงรีบตามไปง้อและขอจูดี้แต่งงานด้วยความชื่นมื่น
 
ปมปัญหาภายนอกได้ไขออกจนหมดแล้ว หากปมในใจวิศว์นี่สิที่ยังไม่ได้รับการแก้ วิศว์กลุ้มใจเหลือเกินว่าจะบอกหญิงสาวที่ตัวเองรักอย่างไรดีถึงตัวตนที่แท้ จริงของเขา ชายหนุ่มเฝ้ารอเวลาที่โดมจะนำพิมพ์เขียวโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติที่คิดขึ้น มาแทนที่โครงการรีสอร์ทตัวเดิมมาให้ และในตอนนั้นเองที่เขาจะสารภาพความจริงทั้งหมดต่อหญิงสาวผู้เป็นที่รัก ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน เพราะโดมกลับนำพิมพ์เขียวคนละตัวกับที่วิศว์ต้องการมาให้มินตรา มินตราเปิดดูเนื้อความข้างใน และนั่นเองที่หล่อนได้รับรู้ว่าความจริงแล้ววิศว์คือทายาทนักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ชื่อดังที่มีจุดประสงค์จะครอบครองฟาร์มหมื่นไร่ สิ่งปลูกสร้างภายในพิมพ์เขียวล้วนแล้วแต่จะเปลี่ยนแปลงฟาร์มให้กลายเป็นสิ่ง ที่ล้วนเอื้อต่อการทำลายธรรมชาติทั้งสิ้น มินตราตรงมาขอคำตอบจากวิศว์ทันที วิศว์อยากจะแก้ตัว แต่หญิงสาวออกปากขับไล่เขาออกจากฟาร์มหมื่นไร่โดยที่วิศว์ยังไม่ทันได้เอ่ย คำว่ารักเสียด้วยซ้ำ วิศว์กลับกรุงเทพฯ ด้วยใจระทม มินตราเองก็ไม่ต่างกัน
 
คนเดียวที่ดีใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็คือโดมที่สามารถขัดขวางไม่ให้ ทั้งคู่ลงเอยกันได้ แต่ลึก ๆ โดมก็รู้สึกเจ็บปวดเพราะเขารู้ดีว่าจริง ๆ แล้ววิศว์กับมินตรามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันมากแค่ไหน วิศว์รักเธอมากพอที่จะยอมถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้รับตำแหน่งสำคัญของบริษัทธเนศ วสุ หรือแม้กระทั่งยอมถูกตัดออกจากกองมรดกของตระกูลในฐานะทายาทคนเดียวเพื่อแลก กับผืนดินอันเป็นที่รักของหญิงคนรัก แต่โดมก็ถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดสาสมแล้วที่วิศว์ควรได้รับ เพราะที่จริงแล้วเขาต่างหากที่ควรจะมีจะได้ในทุก ๆ อย่างพอ ๆ กับวิศว์ ที่ผ่านมาโดมทนทำงานอยู่กับครอบครัววิศว์ด้วยความเคียดแค้น เพราะก่อนที่ดิเรกพ่อของโดมจะตายไปนั้น เขาบอกกรอกหูลูกตลอดมาว่าอมรินทร์พ่อของวิศว์ทรยศเพื่อนรักอย่างเขาที่ช่วย กันก่อตั้งบริษัทด้วยกันมาจนมีทุกวันนี้ จากที่เคยสัญญาจะให้หุ้นเป็นการตอบแทน อมรินทร์กลับหาเรื่องไล่ดิเรกออกจากบริษัทจนทำให้เขาเครียดเป็นอัมพาตและ ตรอมใจตายในที่สุด เพราะฉะนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่เขาจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับพ่อ
 
โดมใช้จังหวะนี้หาทางสานสัมพันธ์กับมินตราที่กำลังบอบช้ำทางจิตใจจากวิศว์ ด้วยการทำให้มินตราตายใจโดยยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนทั้ง หมด มินตราฟังแล้วก็รู้สึกเห็นใจ แล้วพลอยโกรธแค้นวิศว์กับครอบครัวไปด้วย โดมแอบใช้พิมพ์เขียวฉบับล่าสุดของวิศว์มาช่วยปรับปรุงฟาร์มหมื่นไร่ มินตรารู้สึกประทับใจกับสิ่งที่โดมทำให้มาก จูดี้รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่โดมทำให้มิตราที่ไร่เพราะมันเหมือนกับ พิมพ์เขียวล่าสุดที่เธอออกแบบตามที่วิศว์สั่ง จูดี้จึงไปถามโดม โดมโกหกว่าวิศว์ให้เขาทำสิ่งนี้ให้มินตราแทนโดยไม่ต้องบอกว่ามาจากเขา มิฉะนั้นมินตราคงไม่ยอมรับ และคงคิดว่าพิมพ์เขียวฉบับล่าสุดคือสิ่งที่วิศว์ทำมาเพื่อแก้ตัว จูดี้จึงปล่อยเลยตามเลย
 
โดมเสนอการสร้างรีสอร์ทแนวอนุรักษ์ธรรมชาติในฟาร์มให้กับมินตราโดยพูดให้ดู ดีว่าเป็นการแบ่งปันธรรมชาติให้คนอื่นได้ชื่นชมบ้าง ถ้าเราจะเก็บฟาร์มและผืนป่าไว้เองก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวเพราะที่จริงธรรมชาติ เป็นสมบัติของทุกคน ฟังแล้วมินตราก็รู้สึกผิดแล้วเห็นดีเห็นงามกับความคิดของโดม แต่ติดอยู่ที่เธอไม่มีเงินทุนมากพอ โดมจึงได้ทีแนะนำให้ร่วมหุ้นกับธเนศวสุโดยที่มินตราลงทุนเป็นที่ แล้วให้ธเนศวสุลงเงินก่อสร้าง มินตราปฏิเสธทันทีเพราะธเนศวสุคือบริษัทของวิศว์ที่ต้องการจะครอบครองที่ดิน ของเธอ โดมบอกให้ใจเย็น ๆ ตราบใดที่มีตนอยู่รับรองว่าตนจะรักษาผลประโยชน์ของฟาร์มหมื่นไร่เป็นที่ตั้ง และเน้นเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติจริง ๆ พ่อเลี้ยงอินยอมตามข้อเสนอของโดม เพราะจริง ๆ แล้วยังไงที่ดินก็ยังเป็นของฟาร์มหมื่นไร่อยู่ แต่ต้องแลกกับการที่วิศว์ต้องเป็นคนดูแลงานในส่วนของรีสอร์ทที่จะทำตั้งแต่ ขั้นตอนการก่อสร้างเลย โดมตกใจกับข้อเสนอขอพ่อเลี้ยง ในขณะที่มิตราปฏิเสธทันที แต่พ่อเลี้ยงอินอ้างว่าตนอยากให้บทเรียนกับคนที่เคยจะเอาที่ดินที่ตนรักไปทำ ธุรกิจ เขาจะได้เรียนรู้ว่าที่ดินผืนนี้มีคุณค่าทางใจมากกว่าคุณค่าทางเงินนัก โดมจึงต้องยอม
 
เพราะหวังจะทำคะแนนกับบอร์ดของธเนศวสุเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในบริษัท โดมเอาเรื่องดังกล่าวไปเสนอกับที่ประชุม ทั้งอมรินทร์และบอร์ดปฏิเสธทันที เพราะต้องการซื้อที่ดินผูกขาดเป็นเจ้าของเองไม่ใช่ร่วมหุ้นกับฟาร์มหมื่นไร่ โดมโน้มน้าวที่ประชุมว่าให้ใจเย็น ๆ เราควรจะทำตามเงื่อนไขของทางนั้นดีกว่าไม่มีโอกาสทำรีสอร์ทเลยไม่ใช่หรือ ที่สำคัญเรายังใช้โปรเจคท์นี้ทำแคมเปญสร้างภาพลักษณ์โปรโมทบริษัทเกี่ยวกับ การสร้างรีสอร์ทเพื่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อีก ถือเป็นการสร้างมูลค่าให้บริษัทโดยที่เรายังได้ผลประกอบการเป็นการตอบแทน หลังจากนั้นเราค่อยเจรจาเพื่อซื้อฟาร์มหมื่นไร่มาเป็นของบริษัทในภายหลังก็ ยังทัน ที่ประชุมฟังแล้วก็ลงมติเห็นด้วยกับโดม แถมผลพ่วงจากโปรเจคท์นี้ทำให้โดมได้รับตำแหน่งหนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดซึ่ง วิศว์ควรจะได้รับด้วยคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์จากบอร์ดทุกคนรวมทั้ง อมรินทร์ด้วย
 
ในที่สุดวิศว์ก็กลับมาที่ฟาร์มหมื่นไร่อีกครั้งเพื่อทำเริ่มโปรเจคท์ทำ รีสอร์ทอนุรักษ์ธรรมชาติแต่อยู่ภายในการบังคับบัญชาของโดม งานนี้ในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรงมินตราจึงต้องพูดคุยประสานงานกับวิศว์อย่าง เสียไม่ได้ โดมกลัวถ่านไฟเก่าระหว่างทั้งคู่จะปะทุอีกครั้งจึงตัดสินใจขอเธอเป็นแฟน ซึ่งเธอก็ตอบตกลง ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากประชดวิศว์ อีกส่วนนึงก็เพราะคิดว่าเป็นวิธีการขั้นเด็ดขาดที่จะสั่งใจตัวเองไม่ให้ไป ว่อกแว่กวอแวกับวิศว์อีก
 
หลังจากได้รับตำแหน่งหน้าที่และอำนาจมากขึ้น โดมก็ดูจะหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ เขาวางแผนยุยงให้บอร์ดบริษัทเกิดความไม่ไว้วางใจประธานกรรมการอย่างอมรินทร์ แถมแนะนำให้อมรินทร์จัดการผิดพลาดจนจนหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ต้องตกเป็นของ ธนาคาร เป็นเหตุให้อมรินทร์ต้องหลุดจากเก้าประธานกรรมการของบริษัทตัวเองไปโดย ปริยาย อมรินทร์เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเหมือนกับที่ดิเรกพ่อของโดมเคยเป็น วิศว์ขออนุญาตพ่อเลี้ยงอินพาพ่อและครอบครัวมาพักฟื้นร่างกายและจิตใจจาก อาการอัมพฤกษ์ที่ฟาร์มหมื่นไร่ และที่นี่เองที่ทำให้อมรินทร์ได้พบกับพ่อเลี้ยงอินซึ่งเป็นสหายเก่าแก่เจ้า สัวผู้เป็นพ่อของเขา อมรินทร์จำได้ว่าเคยเจอพ่อเลี้ยงอินตั้งแต่ตัวเองยังเป็นเด็กเล็ก พ่อเลี้ยงอินเองก็บอกว่าตั้งแต่ตอนนั้นตนพยายามหาทางติดต่อกับเจ้าสัวแต่ก็ ไม่สำเร็จ เพิ่งรู้ว่าที่แท้เจ้าสัวเปลี่ยนแซ่เป็นธเนศวสุไปแล้ว
 
ช่วงที่อมรินทร์ใช้ชีวิตอยู่ที่ฟาร์มหมื่นไร่ท่ามกลางธรรมชาตินั้นทำให้คน ที่มีชีวิตแบบมีเป้าหมายไว้พุ่งชนอย่างเขาค้นพบว่าความสุขในชีวิตคืออะไร พ่อเลี้ยงอินให้หลักธรรมดำเนินชีวิตมากมายกับเขาจนคลายทุกข์ และปล่อยวางมากขึ้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมวิศว์ถึงสามารถยอมเอาความรักที่มีให้กับ มินตรา และความรักที่มีให้กับธรรมชาติที่ฟาร์มหมื่นไร่แลกกับทรัพย์สินจากมรดก และตำแหน่งสูงในบริษัทได้ อาการป่วยของอมรินทร์ดีขึ้นตามลำดับ แถมสัมพันธภาพระหว่างพ่อลูกก็งอกงามขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และจากการได้ทำงานใกล้ชิดกันทำให้ดูเหมือนว่ามินตราจะรู้จักและเข้าอกเข้าใจ วิศว์มากขึ้น ในที่สุดทั้งคู่ก็ไม่สามารถหักห้ามหัวใจตัวเองได้จึงกลับมารักกันอีกครั้ง ในเมื่อแผนทำลายความสุขของครอบครัววิศว์กลับกลับตาลปัตร แถมวิศว์ยังแย่งมินตรากลับไปได้อีกครั้ง โดมจึงยิ่งแค้นใจหนักเข้าไปอีก
 
วันหนึ่งมีชายหนวดเฟิ้มชื่อสิทธิ์มาสมัครงานเป็นคนงาน มินตรารับเขาไว้เพราะฟาร์มกำลังต้องการแรงงานเสริม ประกอบกับสงสารที่เขาพิการขากระเผลก แต่ทุกคนหารู้ไม่ว่ากำลังเปิดประตูให้มัจจุราชเดินเข้ามาในบ้าน เพราะแท้ที่จริงแล้วสิทธิ์คือประกาศิตที่รอดตายจากการตกหน้าผาน้ำตกจากการ ต่อสู้กับวิศว์ ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นประกาศิตต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพื่อให้ไม่ถูกตำรวจจับกุม ขาที่หักไปทำให้เขากลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตแถมยังใช้ชีวิตอย่างอด ๆ อยาก ๆ ที่ต้องดั้นด้นกลับมาที่ฟาร์มหมื่นไร่เพราะประกาศิตต้องการชำระหนี้แค้นที่ วิศว์ทำให้ชีวิตเขาต้องพบจุดจบแบบนี้
 
แล้วโอกาสของประกาศิตก็มาถึงเมื่อวิศว์อยู่ในที่ปลอดคน แต่ขณะที่เขากำลังจะเข้าเล่นงานวิศว์ ตุ๊ดตู่โผล่มาเห็นเข้าจึงกระโดดเข้าไปผลักวิศว์จนถูกลูกกระสุนเสียเอง ประกาศิตเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนีออกไป โดมผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงรีบวิ่งไล่ตามประกาศิตไปจนทันในที่สุด โดมเข้าตระครุบแล้วแย่งปืนมาจ่อไปที่ประกาศิต เขาจึงเห็นว่าที่แท้คนร้ายคือสิทธิ์ โดมถามว่าสิทธิ์ทำแบบนี้ทำไม สิทธิ์โพล่งออกมาด้วยแค้นและจนตรอกว่าจะมาฆ่าวิศว์ไง แล้วก็ถามว่าจำกันไม่ได้หรือว่าตนคือประกาศิตคนที่พวกแกคิดว่าตายแล้วไง วันนี้ตนกลับมาเพื่อเอาคืนไอ้คนที่ทำให้ตนตายทั้งเป็น สุดท้ายตนก็ทำไม่สำเร็จ โดมจะฆ่าก็ฆ่าอย่าเสียเวลา แต่โดมกลับบอกว่าตนจะฆ่าคนที่มีศัตรูคนเดียวกับตนทำไม ประกาศิตงง โดมบอกว่ารับรองว่านายได้ล้างแค้นแบบได้เงินเป็นของแถมด้วยแน่ ๆ
 
โดมวางแผนใหญ่เพื่อจัดการวิศว์อย่างรัดกุม แต่ขณะที่ประกาศิตกำลังตามไปจัดการวิศว์ตามที่นัดแนะไว้ โดมก็ได้รู้ว่าตนเข้าใจผิดมาตลอดเรื่องที่พ่อถูกอมรินทร์หักหลังด้วยการไล่ ออกจากบริษัท เพราะความจริงแล้วดิเรกพ่อของเขาต่างหากที่แอบยักยอกเงินจำนวนมากจากบริษัท มาตลอดเวลา อมรินทร์โกรธและเสียใจมากที่เพื่อนรักอย่างดิเรกทรยศตนได้ลงคอ อมรินทร์ไล่ดิเรกออกเพื่อตัดปัญหาโดยที่ไม่เคยปริปากบอกเรื่องนี้ให้ใครรับ รู้โดยเฉพาะตัวโดมที่ภาคภูมิใจในตัวพ่อของตนมาตลอด แถมพอดิเรกตายไปอมรินทร์ก็เลี้ยงดูส่งเสียโดมกับแม่เป็นอย่างดี ให้ความรักความเมตตาราวกับโดมเป็นลูกอีกคนหนึ่งของเขา โดมรู้สึกผิดมากรีบตามไปช่วยวิศว์กับอมรินทร์ที่กำลังจะเผชิญหน้ากับความตาย แล้วโดมก็ช่วยสองพ่อลูกในจังหวะที่เกือบจะสายเกินไปเพราะทั้งคู่ได้รับบาด เจ็บโชคดีที่ส่งโรงพยาบาลทัน
 
โดมสารภาพเรื่องทั้งหมดกับอมรินทร์และวิศว์ทั้งน้ำตา แต่สองพ่อลูกกลับเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่ถือโทษโกรธเคือง แถมอมรินทร์ยังยกหน้าที่ในส่วนของตนที่บริษัทให้โดมดูแลแทนด้วยความไว้วางใจ เหมือนเดิม โดมกราบแทบเท้าอมรินทร์และสัญญาว่าจะทวงคืนหุ้นของบริษัทกลับคืนมาให้ อมรินทร์ตามเดิมให้ได้ ส่วนวิศว์ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับมินตราที่ฟาร์มหมื่นไร่อย่างมีความสุข ทั้งสองช่วยสานฝันของกันและกันในผืนดินที่อบอวลไปด้วยความรัก ติดตามความสนุกสนานของ ละครฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.45 – 20.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก
 
นักแสดง ละคร ฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก
 
วรเวช ดานุวงศ์   รับบท   วิศว์
ศรีริต้า เจนเซ่น   รับบท   มินตรา
โทนี่ รากแก่น   รับบท   โดม
ฟีฟี่ เบลค   รับบท   มานา
อินทิพร แต้มสุขิน   รับบท   จูดี้
เปรมณัช สุวรรณานนท์   รับบท   ตุ๊ดตู่
มนตรี เจนอักษร   รับบท   พ่อเลี้ยงอิน
สาวิตรี สุทธิชานนท์   รับบท   เกตุสุดา
ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว   รับบท   อมรินทร์
ณัฐฐา ลอยด์   รับบท   ลักษมี
กรุณพล เทียมสุวรรณ   รับบท   มาวิน
ทนงศักดิ์ ศุภการ   รับบท   ประกาศิต
ไกรลาศ เกรียงไกร   รับบท   พูน
ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา   รับบท   โพด
โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว   รับบท   ไพโรจน์

ทองเนื้อเก้า

ทองแท้นั้นต่อให้ถูกไฟไหม้เผาผลาญจนหลอมละลาย ก็ยังคงคุณค่าความเป็นทองได้ฉันใด หัวใจอันแข็งแกร่งของคนซึ่งไม่ย่นหย่อมต่อความทุกข์ยากแสนสาหัสของชีวิต ก็คือเครื่องพิสูจน์คุณค่าของความเป็นคนฉันนั้น

แม่ปั้นแทบลมจับเมื่อรู้ว่าสันต์ลูกชายของตนพลาดท่าได้เสียกับลำยองเพราะรู้อยู่เต็มอกว่าพื้นสันดานเดิมของบ้านลำยองเป็นเช่นไร ส่วนยายแลเมื่อรู้ว่าลูกสาวจับสันต์ทำผัวได้ก็ตีปีก ฝันหวานว่าตนจะได้พลอยสบายไปด้วย เพราะสันต์เป็นจ่าทหารเรือ ที่มีอนาคตคนไม่เลวคนหนึ่ง

พ่อสินแม่ปั้นจำใจรับลำยองเข้าในบ้านฐานะลูกสะใภ้เพราะลำยองตั้งท้องแต่ลำยองก็ไม่เคยช่วยงานใด ๆ เลยทั้งงานบ้าน หรืองานขายของอ้างว่าแพ้ท้อง หนำซ้ำยังยักยอกหมูไก่ไข่กับข้าวของสดที่มีไว้ขาย กลับไปบำรุงบำเรอญาติพี่น้องตัวเองอีกต่างหาก

ลำยองเรียกร้องความสะดวกสบายทุกอย่างที่อยากได้และสันต์ก็จำใจต้องตามใจและให้เท่าที่จะให้ได้แต่ก็ดูเหมือนลำยองจะไม่รู้จักพอเสียที แม้แต่สันต์กลับบ้านผิดเวลาลำยองก็อาละวาดหาเรื่องว่าสันต์มีผู้หญิงใหม่ สันต์อิดหนาระอาใจ และรู้สึกผิดที่พลาดท่าได้ลำยองมาเหมือนเอานรกเข้ามาไว้ในบ้าน ให้พ่อแม่พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย เพราะนับวันสันดานแท้ ๆ ของลำยองก็ปรากฏเด่นชัดขึ้นทุกที

ลำยองคลอดได้ลูกชายในวันมหามงคล สันต์จึงตั้งชื่อลูกว่า วันเฉลิม เด็กชายนำสิ่งดี ๆ มาให้ครอบครัวมากมาย ย่าเก็บแหวนทองได้วงหนึ่งในตลาด ปู่ถูกลอตเตอรรี่ 200 บาท เจ้านายให้เงินทำขวัญ สันต์จึงสะสมเอาไว้ให้วันเฉลิม สันต์ได้เลื่อนยศเป็นจ่าและได้รับเลือกให้เข้าเรียนต่อโรงเรียนนายเรือ ลำยองไม่ยอมเลี้ยงลูก ภาระหน้าที่ตกเป็นของแม่ปั้นพ่อสิน ยายแลหายาดองมาให้ลำยองกินบำรุง ลำยองให้สันต์ออกไปอยู่บ้านเช่าตามลำพัง เพราะทนความจู้จี้ของแม่ปั้นไม่ไหว สันต์ปฏิเสธเพราะไม่ต้องการทิ้งพ่อแม่ ลำยองยิ่งขัดใจ ยายแลชวนลำยองไปดูดวงกับหมอดูเข้าทรง หมอดูทักว่าลำยองเป็นคนวาสนาดีเพราะเป็นนางฟ้ามาเกิด จะต้องได้พบเทพบุตรครองคู่กับเทพบุตร ลำยองพอใจชื่อในคำทำนายหัวปักหัวปำ

ลำยองเริ่มติดยาดองเหล้าจนอดไม่ได้ สันต์ไม่พอใจจึงมีปากเสียงกัน ลำยองด่าลามปามไปถึงพ่อแม่สันต์ สันต์เหลืออดจึงตบหน้าลำยอง ลำยองโกรธจัด หอบวันเฉลิมหนีไปอยู่บ้านยายแล สันต์เริ่มเห็นเค้าลางของการอยู่กันไม่ยืด คิดจะปล่อยลำยองไปแล้วเอาลูกมาเลี้ยงเอง ด้วยความสงสารลูก จึงจำใจไปง้อลำยองโดยจะพยายามอดทนกับพฤติกรรมลำยอง ลำยองอยากได้โทรทัศน์อ้อนให้สันต์ซื้อให้แต่สันต์ปฏิเสธ ลำยองงอนประกาศประชดว่าจะหาเงินซื้อโทรทัศน์ด้วยตัวเอง ด้วยการไปทำงานโรงงาน

ที่โรงงานเครื่องเคลือบ ลำยองสวยเด่นกว่าสาวโรงงานคนไหน จนเป็นที่ต้องตาต้องใจนายกวงลูกชายเจ้าของโรงงาน ลำยองลำพองใส่ เชื่อมั่นในเสน่ห์และความสวยของตน และต้องการหาที่หวังใหม่จึงอ่อยกวง ยายแลไม่ทัดทานแถมยุยงส่งเสริมให้ลูกสาวจับกวงทำผัวเย้ยสันต์ซะอีก

แม่ปั้น พ่อสิน เสนอเงินสามพันบาทแลกตัววันเฉลิมกลับมาเลี้ยงเองแต่ลำยองปฎิเสธ เพราะต้องการสองหมื่นบาท ลำยงน้องสาวลำยองสงสารวันเฉลิมพยายามพูดจาโน้มน้าวลำยองให้ยกวันเฉลิมคืนปู่ย่าแต่ก็ไม่เป็นผล ยายแลฝันเฟื่องถึงลูกเขยคนใหม่ว่าต้องเป็นเทพบุตรดุจดังหมอดูทำนายไว้แน่ ๆ

กวงเอาอกเอาใจลำยองจนออกหน้าออกตา ทั้งซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้ พาไปดูหนัง เข้าร้านเสริมสวย ปรนเปรอลำยองจำลำยองแน่ใจว่าได้พบเทพบุตรตัวจริงแล้ว ส่วนแม่ปั้นพ่อสินทำใจที่ไม่ได้วันเฉลิมมาเลี้ยง ได้แต่ปลอบใจสันต์ว่าผัวใหม่ลำยองคงจะเลี้ยงวันเฉลิมได้ดี

ลำยองยั่วยวนกวง หวังให้กวงเอ่ยปากขอแต่งงาน และจดทะเบียนให้เป็นเรื่องเป็นราวแต่กวงก็ทำเฉยกับเรื่องนี้ เขาได้แต่รับปากจะทำบ้านหลังเล็ก ๆ ให้ลำยองหลังหนึ่ง จะเลี้ยงดูลำยองอย่างดี โดยลำยองไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยจะหาคนใช้มาให้ ขอเพียงแค่ลำยองมีลูกชายให้เขาเท่านั้น ลำยองดูล่ำซำเพราะทองที่กวงซื้อให้เต็มคอเต็มแขน แต่ลำยองต้องปกปิดกวงว่าวันเฉลิมคือลูกตน เพราะลำยองกลัวว่ากวงจะรับไม่ได้ ใคร ๆ ก็ยุให้สันต์แฉความจริงกับกวงเพื่อจะได้ลูกคืนมา แต่สันต์ก็ทำไม่ลงเพราะรักลูก สันต์ยังคงส่งเสียให้ค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละสามร้อยบาท ส่วนลำยองก็คุยโวว่าสันต์โง่ ชีวิตดูเหมือนจะสุขสบายบนกองเงินกองทอง แต่ลำยองก็ไม่ยอมเลิกกินเหล้า เพราะชื่อว่ากินแล้วผิวพรรณดี

วัน ๆ ลำยองไม่ทำอะไรนอกจากแต่งตัวสวยไว้คอยผัว กวงมาค้างกับลำยองเฉพาะคืนวันพุธและศุกร์โดยอ้างว่าต้องไปดูงานที่โรงงานปากน้ำ ลำยองภาคภูมิใจกับการมีคนใช้เพราะมันแสดงว่ามีฐานะและศักดิ์ศรี ลำยองอ้อนกวงขอให้ซื้อตู้เย็นให้ ทั้งที่กวงแนะนำให้หาอะไรทำแก้เหงาเช่นเย็บผ้า แต่ลำยองก็ไม่เอาเพราะขี้เกียจ คนใช้ยังเอือมระอากับนิสัยสกปรก ไม่มีระเบียบของลำยอง แต่ก็แปลกใจที่วันเฉลิมรู้ประสาสอนง่ายผิดกันมากจนไม่น่าเชื่อว่าวันเฉลิมจะเป็นแค่หลานลำยอง คนใช้รู้ดีว่ากวงมีลูกมีเมียอยู่แล้วและลำยองคือเมียเก็บ และแล้ววันหนึ่งความก็แตก ลำยองรู้ความจริงว่าตนเป็นแค่คุณนายบ้านที่สอง ลำยองถึงกับอึ้งส่วนกวงก็รู้ความจริงว่าวันเฉลิมเป็นลูกลำยองกับผัวคนก่อน ต่างฝ่ายต่างยอมรับสถานภาพของกันและกันไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอำพรางอีกต่อไป

วันเฉลิมได้ไปโรงเรียนอนุบาล สันต์ทำใจและตัดใจเพราะเห็นลูกไม่ลำบาก ผัวใหม่ลำยองคงจะเลี้ยงดี สันต์พบรักใหม่กับเทวีเพื่อนของน้องสาว เทวีเป็นครูจบถึงขั้นปริญญา แต่ถึงจะตัดลำยองจากหัวใจได้ แต่สันต์ก็ตัดสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกไม่ขาด ลำยองตั้งท้องกับกวง ยายแลลุ้นให้ได้ลูกชายจะได้มัดกวงเอาไว้ได้ กวงรักและเอ็นดูวันเฉลิมไม่น้อย

ข้างบ้านวันเฉลิมด้านหนึ่งคือครอบครัวหนูสมฤดี พ่อแม่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ส่วนอีกด้านหนึ่งคือครอบครัวนักธุรกิจมีลูกชายรุ่นเดียวกับวันเฉลิมชื่อ พิพัฒน์ วันเฉลิมได้เห็นความสมบูรณ์พร้อมของสองครอบครัว ที่อยู่ข้างบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน พ่อแม่ลูก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกอิจฉาแต่ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ พิพัฒน์ เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านจึงเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ทุกอย่าง ในการดำรงชีวิตพรั่งพร้อม อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หามาให้ทุกอย่าง แต่พิพัฒน์ก็เป็นเด็กที่เคยชินต่อการเป็นผู้รับอย่างเดียว ไม่เคยถูกสอนให้รู้จักการแบ่งปัน ในขณะที่หนูสมฤดีได้รับการอบรมเลี้ยงดูให้รู้จักเห็นอกเห็นใจและมีน้ำใจต่อผู้อื่นเสมอ

ลำยองยังไม่เลิกกินเหล้าเพราะติดเสียแล้ว ลำยองเย้ยว่าเงินสามร้อยที่สันต์ให้ทุกเดือนขี้ปะติ๋วไม่อยากได้ สันต์จึงเก็บใส่ธนาคารไว้ให้ลูกตั้งใจสะสมไว้ให้วันเฉลิมเป็นทุนการศึกษา ลำยองเจ็บท้องและคลอดลูกชายสมใจ แต่เด็กไม่สมบูรณ์หมอบอกเพราะแม่กินเหล้าตอนท้อง กวงกลุ้มใจและเริ่มทำท่าทำทางไม่ยุ่งกับลำยอง จนลำยองโกรธและอาละวาด กวงไม่พอใจที่ลำยองไม่ยอมเลิกเหล้า ประกอบกับทางบ้านรู้ความจริงว่ากวงแอบมามีเมียน้อย เมียกวงออกคำสั่งเด็ดขาดให้กวงเลิกกับลำยอง แม่กวงแนะทางออกให้กวงเอาลูกชายที่เกิดกับลำยองมาเลี้ยงเอง โดยให้กวงเอาเงินฟาดหัวลำยองไปซักก้อน

คนใช้ขอลาออกเพราะทนต้องคอยรับใช้เจ้านายอย่างลำยองไม่ไหว กวงมาเจรจาขอลูกไปจากลำยองแลกกับเงินสองหมื่นบาท ลำยองต่อรองขอเป็นสามหมื่น กวงจำยอมและพาลูกไปจากลำยอง ลำยองไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับยายแล เพราะกลัวถูกขอส่วนแบ่ง ลำยองซื้อทองหยองมาใส่เต็มตัว แต่ในที่สุดยายแลก็รู้ความจริง และประณามลำยองว่าขายลูกกิน ลำยองได้คิดเหมือนกันว่าไม่น่าให้ลูกไป แต่ก็ยังมั่นใจว่ากวงจะกลับมาหาตนอีก แต่กวงก็หายต๋อมไม่เคยโผล่หน้ามาอีกเลย ลำยองตามไปหากวงถึงที่โรงงาน แต่ถูกกันตัวไว้ไม่ได้พบกวง ลำยองยังไม่ละความพยายามยังเที่ยวไปดักเจอกวงอีก จนในที่สุดก็ได้เผชิญหน้ากับเมียกวงและถูกไล่ตะเพิด ลำยองบีบน้ำตาเล่นละครบทแม่ จนเมียกวงเวทนา ส่งเงินมาให้ลำยองอีกสองหมื่น เพื่อเป็นทุนค้าขาย เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ลำยองก็นำเงินมาก็ซื้อตู้เย็นอันเป็นความฝันสูงสุดของชีวิตพร้อมกับฉลองด้วยการกินเหล้าอย่างสบายใจ ยายแลชวนลำยองเล่นหวย เพราะเห็นลำยองมีเงิน ยายแลออกความคิดในการทำมาหากินให้ลำยองทำหลายอย่าง แต่ลำยองไม่เอาเลย ประกาศจะหาผัวใหม่ให้ได้รวยกว่าเก่า ลำยองตามยายแลเข้าบ่อนใช้ชีวิตตามประสาคนมีเงิน

ลำยองเพลินในบ่อนจนลืมลูก วันเฉลิมกลับจากโรงเรียนต้องไปอาศัยบ้านหนูสมฤดีนั่งรอแม่เพราะเข้าบ้านไม่ได้ พ่อแม่พิพัฒน์ไม่ยอมให้ลูกมาเสวนากับวันเฉลิม เพราะฐานะต่างกัน วันเฉลิมไปกุฏิหลวงตาปิ่นและอาศัยกินนอนที่นั่น ลำยองกลับมาค่ำมืดไม่เจอลูกก็โวยวายพ่อสินแม่ปั่นลักพาตัวไป แต่พอรู้ว่าวันเฉลิมไปอยู่กับหลวงตาปิ่นก็ทำเฉย แถมไม่ไปตามลูกกลับบ้านอีกต่างหาก ลำยองสนุกกับชีวิตในบ่อน เล่นได้บ้างเสียบ้างแต่เสียมากกว่าได้ และในบ่อนนั่นเองลำยองก็ได้รู้จักกับเมืองเทพ เมืองเทพเป็นเศรษฐีที่ดินแถวนั้น เป็นเจ้าของตึกให้เช่าแต่อาชีพหลักคือเล่นการพนัน นอกจากชื่อที่สะดุดหูแล้ว ลำยองยังหูพึ่งเมื่อรู้ว่าเมืองเทพยังไม่มีลูกเมีย

ลำยองหาคนใช้ใหม่มาดูแลบ้าน วันเฉลิมได้ความคิดดี ๆ ได้รับการอบรมสั่งสอนหลายอย่างจากม่อมสาวใช้คนนี้ไม่น้อย น่าสะเทือนใจตรงที่การสั่งสอนอบรมควรจะเป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่ แต่ลำยองกลับไม่เคยทำหน้าที่นั้นเลย ลำยองเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตในบ่อนแต่กลับลืมดูแลลูก โรงเรียนทวงทั้งค่ารถโรงเรียนและค่าเทอมลำยองก็ไม่สนใจหงุดหงิดที่จะต้องควักกระเป๋าเสียเงินกับการเรียนของวันเฉลิม จะคืนวันเฉลิมให้ปู่ย่ากลับไปเลี้ยงก็กลัวเสียหน้า ลำยองปลื้มเมืองเทพมากเพราะรสนิยมเดียวกัน สกปรกไม่มีระเบียบเหมือนกัน และชอบการพนันเหมือนกัน

สันต์แต่งงานใหม่กับเทวี ลำยองฟังข่าวของสันต์ด้วยความขุ่นเคืองใจ วันเฉลิมคิดว่าอีกไม่นานพ่อก็คงลืมตนเพราะพ่อมีครอบครัวใหม่ก็คงจะมีลูกใหม่ด้วย หลวงตาปิ่นเฝ้าสอนให้วันเฉลิมต้องตั้งใจเรียนหนังสือเรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถเรียนได้ เพราะความรู้จะทำให้วันเฉลิมไม่ลำบากในวันข้างหน้า ลำยองตั้งท้องลูกอีกคนกับเมืองเทพ แต่ไม่ได้อยู่กินกันเป็นกิจจะลักษณะ ม่อม (คนใช้) สอนให้วันเฉลิมรู้จักทำงานบ้านทุกอย่างจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ ตรงกันข้ามกับพิพัฒน์ที่มีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแต่พ่อแม่กลับไม่เคยสอนให้ลูกทำอะไรเลยเพราะถือว่างานบ้านเป็นงานต่ำ เป็นงานของคนใช้เท่านั้น คนที่จะเป็นเจ้าคนนายคนในวันข้างหน้าเขาไม่ทำกันหรอก

วันเฉลิมได้เจอเมียใหม่ของพ่อ เทวีเอ็นดูวันเฉลิมมาก ม่อมจะขอลาออก ลำยองขัดใจเพราะไม่มีใครช่วยเลี้ยงลูกที่จะเกิดออกมา ลำยองเสียไพ่มาก โทษว่าลูกในท้องไม่นำโชค ทองหยองที่ใส่อยู่ต้องปลดออกขายจนหมดตัว แต่ทองของวันเฉลิมตอนผูกข้อไม้ข้อมือกับสันต์ลำยองขายไม่ลงเพราะยังไงสันต์ก็คือผู้ชายคนแรกของเธอ และลำยองสงสารวันเฉลิมอยู่เหมือนกัน ลำยองรู้ดีว่าทองเส้นนี้เป็นของลูก ลำยองคลอดได้ลูกสาว เมืองเทพไม่ยอมไปดูลูกไม่เคยสนใจ ทั้งที่ยายแลไปตามตัวถึงบ่อน ยายแลผิดหวังมาก ลำยองเลือกผัวผิดจริง ๆ

ชุด ผัวของลำยงซึ่งขยันทำมาหากินเกิดสุขภาพแย่ ขับเรือหางยาวรับจ้างไม่ไหวเงินทองที่หายากอยู่แล้วยิ่งทำให้สถานภาพง่อนแง่น ลำยองเกี่ยงให้ยายแลเลี้ยงลูกให้ คุณยายข้างบ้านมีน้ำใจให้เสื้อผ้าเด็กที่หนูสมฤดีไม่ได้ใช้แล้ว ลำยองโวยวายว่าดูถูกลูกตน แต่ยายแลด่าเตือนสติลำยองให้ลำยองลดการเล่นการพนันลงบ้าง และเพื่อเห็นแก่ลูกให้รับของที่คนอื่นเขามีน้ำใจแบ่งปันมาให้

ลำยองไปทำงานโรงงานพลาสติก แต่ทำได้แค่สองวันก็เลิก บ่นว่างานหนัก เปลี่ยนมาทำโรงงานเย็บสมุด แต่ก็อยู่ได้แค่หนึ่งเดือนบ่นว่าค่าแรงถูก ยายแลด่าลำยองว่าไม่เคยทำอะไรเป็นโล้เป็นพาย แต่ลำยองก็แน่ใจกับงานอาชีพใหม่ ลำยองจะเปิดบ้านเป็นบ่อนและแบ่งห้องให้เช่า

หลวงตาปิ่นสอนวันเฉลิมว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดีและไม่ควรไปข้องแวะ แต่วันเฉลิมก็ต้องวิ่งซื้อของให้คนในบ่อน ได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ลำยองเงินร่อยหรอ วันเฉลิมจึงต้องย้ายมาเรียนโรงเรียนวัด เพราะฉะนั้นความสุขของวันเฉลิมก็คือ การได้อยู่โรงเรียนและกุฎิหลวงตาปิ่น สันต์ได้รับเลือกให้ไปเข้ารับการอบรมเมืองนอก สันต์ส่งเสื้อกันหนาวมาให้วันเฉลิม วันเฉลิมพอจะชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาบ้างที่พ่อไม่ลืมตน เมื่อกลับมาสันต์ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าลำยองทำบ้านเป็นบ่อน

เทวีคลอดลูกสาว เป็นลูกคนที่สองกับสันต์ ส่วนลำยองก็ได้ผัวอีกคนเป็นคนทำงานรับจ้างที่มาเช่าห้องบ้านลำยอง เวลาผ่านไปจนวันเฉลิมอายุได้ 7-8 ขวบ ป่องน้าชายวันเฉลิมมาขับเรือรับจ้างแทนชุดแต่หาเงินได้เท่าไรก็หมดไปกับเหล้า แถมเพื่อนแต่ละคนที่คบก็เป็นนักเลง สันต์ยังไม่ล้มเลิกความคิดชวนวันเฉลิมไปอยู่ด้วย ข้อใหญ่ใจความคือเขาต้องการให้วันเฉลิมได้เรียนหนังสือจริง ๆ จัง ๆ สันต์ไปเจรจากับยายแล ยายแลก็เห็นด้วยเพราะเหลืออดเหลือทนกับพฤติกรรมลำยองและสงสารหลาน แต่ลำยองไม่ยอมโวยวายว่าหมดค่าเลี้ยงดูวันเฉลิมไปตั้งเท่าไหร่ พอจะใช้งานได้ก็จะมาเอาตัวไป ลำยองเรียกเงินห้าหมื่นแลกกับตัววันเฉลิม ยายแลด่าเช็ดว่าลำยองเป็นแม่ขายลูกกิน ลำยองถือสิทธิ์ความเป็นแม่ในเมื่อเป็นคนเบ่งมันออกมาก็ต้องมีสิทธิ์ในตัวลูก สันต์มาลุยกับลำยองเองแต่ต้องผิดหวังกลับไป พ่อสินแม่ปั้นรวบรวมเงินทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อจะเอาตัววันเฉลิมมาอยู่ด้วย แต่ก็ได้เงินไม่พอกับที่ลำยองเรียกมา สันต์ได้แต่ปวดใจ

ปานออกขายผลไม้ดองแทนตาปอ เพราะพ่อสุขภาพเริ่มย่ำแย่ แป้งต้องเลิกเรียนและมาช่วยลำยองขายก๋วยเตี๋ยว ลำดวนหายตัวไปอยู่กับผู้ชายที่ไหนไม่รู้ วันเฉลิมนับวันจะกลายเป็นเด็กเงียบขรึมมีหลวงพี่บวชใหม่ชวนให้มาอยู่ที่วัด ในเวลาว่างหลวงพี่จะสอนหนังสือให้วันเฉลิมเสมอ วันเฉลิมได้สิ่งดี ๆ จากหลวงพี่รูปนี้ไม่น้อย สันต์เจียดเงินสองพันมาให้ลำยองไว้ใช้ดูแลลูก แต่ลำยองก็เอาไปเล่นไพ่กินเหล้าหมด เงินสองพันไม่ตกถึงวันเฉลิมหรือลูกคนไหน แม้แต่บาทเดียว

เด็กในวัยเดียวกันต่างก็มีพัฒนาการจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่สมวัยเด็ก แต่วันเฉลิมดูเหมือนจะโตเป็นผู้ใหญ่เกินวันวัย ในขณะที่พิพัฒน์มีของเล่นมากมายอยากได้อะไรพ่อแม่ก็หาซื้อมาให้แต่วันเฉลิมต้องทำงานบ้านเลี้ยงน้องไม่มีเวลาเหลือสำหรับการเล่น ส่วนบ้านคุณยายหนูสมฤดียังคงมีน้ำใจต่อวันเฉลิมอย่างสม่ำเสมอ บ่อนลำยองเริ่มเสื่อมความนิยมลง คนน้อยลง ลำยองหงุดหงิดเพราะรายได้ลดลง วัน ๆ ของวันเฉลิมหมดไปกับการเลี้ยงน้อง ตาปอเริ่มเลอะเลือนความจำเสื่อม ลำดวนหอบลูกมาให้ยายแลช่วยเลี้ยงอีกคน แล้วหายหน้าไปใครก็รู้ว่าลำดวนไปเป็นกระหรี่อยู่ในซ่องไหนสักแห่ง

กำนันเสือเจอลำยองในบ่อน และเกิดติดใจลำยองเจรจาขอซื้อบ้านลำยอง ตั้งใจจะรื้อไม้ไปปลูกบ้านใหม่ ลำยองยอมเป็นเมียกำนันเสือหวังให้กำนันเสือเลี้ยงดู กำนันเสือก็มีน้ำใจประมาณหนึ่ง ส่งข้าวของจากสวนของตัวเอง เช่นมะพร้าวแห้งมาให้ลำยองขายแลกเป็นเงิน ซึ่งลำยองก็ไม่ได้ไปนั่งขายเอง ฝากลำยงขายที่แผงขนมแต่เที่ยวไปเก็บเงินที่ขายได้ทุกวัน

กำนันเสือกลัวว่าลำยองจะหมดตัวในบ่อน จึงรับจำนองบ้านที่ดินลำยองเอาไว้ ลำยองเองก็เกรง ๆ กลัว ๆ กำนันเสืออยู่ เพราะกำนันเสือเป็นคนจริงและดุ กำนันขอให้วันเฉลิมอ่านหนังสือให้ฟังเพราะสายตาไม่ค่อยดีแล้ว วันเฉลิมมักได้สตางค์ค่าขนมหลังจากอ่านหนังสือให้กำนันฟังเสมอ อ้อยน้องสาวที่พิการทางสมองเป็นภาระที่เพิ่มมากขึ้นให้วันเฉลิม อ้อยเคยซนจนถูกไฟลวกมือและแขนอ้อยจึงเข็ดและกลัวไฟมาก

ลำยองติดบ่อนบ้านช่องไม่กลับ วันเฉลิมคอยแม่จนดึกดื่นทุกวัน วันไหนฝนตกหนักหลังคาก็รั่วไม่ได้หลับได้นอนกันทั้งคืน ลำยองเคยไม่กลับบ้านมาสามวันสามคืน วันเฉลิมได้แต่เป็นห่วงแต่พอลำยองกลับมาในตอนดึกของอีกวัน ลำยองก็พาผู้ชายแปลกหน้ามานอนด้วย รุ่งเช้าวันเฉลิมจึงพบว่าบ้านถูกยกเค้า โทรทัศน์ซึ่งดูเหมือนเป็นสมบัติชิ้นเดียวติดบ้านก็ถูกหิ้วไปด้วย ลำยองไม่รู้จักเข็ด ป่องถูกตำรวจจับเพราะรวมหัวกับแก็งปล้นร้านของชำ

เทวีคลอดลูกชายกับสันต์อีกคน สันต์ได้เลื่อนยศเป็นนายเรือเอก ชีวิตของคนอื่นเหมือนจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ พิพัฒน์ได้เข้าโรงเรียนเอกชนชั้นนำมีชื่อเสียง แต่วันเฉลิมก็ยังคงเรียนโรงเรียนวัด ลำยองนอกใจกำนันเสือหิ้วผู้ชายมานอนด้วยไม่เลือกหน้าเพราะความเมา ลำยองขู่วันเฉลิมไม่ให้พูดให้กำนันเสือรู้ จนลำยองตั้งท้องลูกอีกคนหวังมัดให้กำนันเสือเลี้ยงดู ไม่หายหน้าไปอย่างผัวคนก่อน ๆ ยายแลพอรู้ว่าลำยองท้องก็ถึงกับช็อกตาค้าง เพราะความจริงเหนือความจริงก็คือ กำนันเสือเป็นหมัน ไม่มีทางมีลูกได้อีกแล้ว

เมื่อกำนันเสือรู้ความจริงก็โกรธจัดเค้นความจริงจากวันเฉลิม วันเฉลิมตอบได้เพียงว่าตนเป็นลูกไม่สามารถควบคุมความประพฤติแม่ได้ ยายแลคิดว่ากำนันคงยึดบ้านลำยองแน่แล้วแต่ผิดคาด กำนันเสือเวทนาวันเฉลิม ปล่อยบ้านให้เป็นของลำยองต่อไปเพราะเห็นแก่วันเฉลิม แต่บอกให้วันเฉลิมกลับไปอยู่กับปู่ย่า จะได้พ้นจากนรกตรงนี้ วันเฉลิมปฎิเสธ บอกกำนันเสือว่าตนไม่สามารถทิ้งแม่กับน้องไปได้ คุณยายสมฤดีสอนว่า กรรมของใครก็ของมัน ไม่มีใครไปรับผิดชอบแทนกันได้ วันเฉลิมควรจะช่วยตัวเองให้รอดเสียก่อน จึงจะสามารถช่วยคนอื่นได้ แต่วันเฉลิมก็มุ่งมั่นกับความคิดตัวเอง ลำยองพอใจที่กำนันเสือยกบ้านให้ ลำยองมองคนอื่นว่าโง่เง่าไปเสียหมด ไม่เคยคิดเลยว่าอานิสงส์ที่เกิดขึ้นมาจากวันเฉลิมแท้ ๆ พ่อสินตั้งปณิธานว่าจะแยกวันเฉลิมออกจากลำยองให้ได้ ไม่อยากเห็นชีวิตวันเฉลิมต้องตกต่ำตามลำยองไปมากกว่านี้

คราวเคราะห์ไฟไหม้ตลาดริมน้ำติดแพพ่อสินแม่ปั้น ทุกคนช่วยกันขนของหนีไฟ แม่ปั้นเสียดายที่ไฟจะไหม้เรือนที่วันเฉลิมเคยอยู่ตั้งแต่แบเบาะ เพราะแม่ปั้นตั้งใจเอาไว้ว่าจะยกเรือนนั้นให้วันเฉลิมมาอยู่ แม่ปั้นเปรยกับพ่อสิน อยากให้วันเฉลิมได้บวช จะได้พ้นทุกข์ แม่ปั้นสั่งเสียกับพ่อสินว่าตนเก็บสะสมเงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อบวชวันเฉลิม ทุกคนอลหม่านกับการดับไฟ ไฟไม่ได้ลามมาถึงเรือน พ่อสินรีบมาบอกข่าวดีแม่ปั้น แต่ก็พบว่าแม่ปั้นสิ้นลมไปแล้วอย่างสงบ

ทุกคนต้องการให้วันเฉลิมบวชให้แม่ปั้นตามคำสั่งเสีย แต่วันเฉลิมไม่ยอมบวชเพราะไม่สามารถทิ้งแม่และน้องไปได้ พ่อสินเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ลำยองไม่คิดจะไปงานศพแม่ปั้น เพราะเกลียดอดีตแม่ผัว ถึงกับประกาศว่า ถึงตายกูก็ไม่ไปเผาผี พ่อสินบอกวันเฉลิมว่า แม่ปั้นยกบ้านให้วันเฉลิม วันเฉลิมจะมาอยู่เมื่อไรก็ได้ พ่อสินให้วันเฉลิมดูซองเงินที่แม่ปั้นสะสมไว้เพื่อบวชวันเฉลิม แต่วันเฉลิมก็ยังไม่ยอมรับปาก พ่อสินท้อใจ เทวีออกความคิดต้องให้ยายแลร่วมมือด้วย ยายแลหมดแค้นแม่ปั้น ประกอบกับเห็นความเหลวแหลกของลำยอง สงสารวันเฉลิมจึงอยากช่วยและยินดีร่วมมือ โดยออกอุบายลวงลำยอง

ลำยองท้องแก่ เอาแต่บ่นว่าลูกทรมานแม่ ยายแลเล่นละครว่าเห็นพระพุทธรูปประทับยืนบนดอกบัวเหนือหัววันเฉลิมแล้วก้มลงกราบวันเฉลิม ลำยองถึงกับขนลุกซู่ซ่า ยายแลพูดถึงหมอชด ลำยองอยากตามไปด้วยหวังจะให้หมอชดดูดวงให้ แถมเผลอ ๆ จะได้เลขเด็ดมาด้วย หมอชดกวาดยาให้ลูกลำยอง และแอบสังเกตเห็นหน่วยก้านของวันเฉลิมเห็นแววว่าจะเอาดีได้จึงเล่นละครกับยายแลตบตาลำยอง ดูดวงเข้ามากมายแล้วบอกกับลำยองว่า วันเฉลิมเป็นคนมีบุญกลับชาติมาเกิด จะได้เป็นผู้สืบทอดพระศาสดา ไถ่บาปให้พ่อแม่ละทำให้พ่อแม่เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะฉะนั้นคนเป็นแม่ไม่ควรขัดขวางการบวชของลูก ลำยองขนลุกซู่ซ่าอยากดวงดีจึงเปลี่ยนใจให้วันเฉลิมบวชทันที วันเฉลิมยังละล้าละลัง ลำยองจึงรับปากว่าจะกินเหล้าและเล่นไพ่ให้น้อยลง วันเฉลิมจะได้สบายใจ วันเฉลิมบวชเณร ทุกคนชื่นชมยินดี เณรวันเฉลิมรับบิณฑบาตรถึงหน้าบ้าน หนูสมฤดีกับคุณยายก็ได้ตักบาตรเณรทุกวัน เณรวันเฉลิมเรียนหัวดีพอมีสมาธิกับการเรียนทุกอย่างที่ได้เรียนก็รู้อย่างทะลุปรุโปร่ง อาหารที่ได้จากบิณฑบาตรมาเหลือกิน เณรก็หิ้วกลับไปเลี้ยงน้องเลี้ยงแม่ทุกวัน ลำยองไม่เลิกเหล้าและการพนัน ยังคงเข้าออกบ่อนตามเคยเพราะมันคือสิ่งเสพติดสำหรับเธอไปแล้ว

เทวีหอบข้าวของมาถวายเณรมากมายโดยบอกว่าให้เณรเลือก ถ้าเณรเหลือใช้ก็ให้ทำทานตามสบาย เณรรู้อยู่เต็มอกว่าโยมแม่เลี้ยงตั้งใจจะเผื่อแผ่ไปถึงน้อง ๆ ของเณร เณรวันเฉลิมเจริญรุ่งเรือง และเป็นความหวังของท่านพระครูว่าวัดนี้จะมีสามเณรเหรียญเก้าในอีกไม่ช้า หลวงตาปิ่นส่งข่าวให้สันต์รู้ว่าลำยองเอาบ้านเข้าจำนองกับเฮียเก๊าเจ้าของบ่อนเพราะว่าเล่นเสียมากทุกคนได้แต่ปลง ลำยองพาชีวิตตัวเองดิ่งจมลงสู่นรกลึกลงทุกที และในที่สุดบ้านก็ถูกเขายึดไป เณรวันเฉลิมมัวแต่ยุ่งเรื่องเรียน จึงไม่ค่อยมีเวลาไปเยี่ยมโยมแม่กับน้อง ๆ เมื่อมาบ้านหลังจากไม่ได้มาเพียงไม่นาน ก็พบบ้านถูกปิดเสียแล้ว ทุกคนย้ายกลับไปอยู่รวมกันที่บ้านยายแล

ลำยงหันมาขายผักเพราะพ่อสินยกที่ให้ เหน่งก็ย้ายมาอยู่กับลำยง ลำยงติดโรคซิฟิลิสงอมแงม ยายแลไปขอยาจากหมอชดมาให้กินก็ขี้เกียจกินเพราะขม ลำดวนกลับตัวกลับใจเลิกอาชีพโสเภณีกลับมาอยู่บ้าน ประพันธ์ทหารยศนายสิบมาตามจีบ ลำดวนต้องปกปิดอดีตของตัวเอง เพราะกลัวประพันธ์จะรับไม่ได้ แต่ละคนดูเหมือนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ที่เคยก้าวผิดพลาดก็กลับตัวกลับใจเพราะคิดได้ แต่ลำยองกลับยิ่งถลำลึกจนยากที่จะถอนตัว

ลำยองโรคกำเริบขึ้นสมอง เตลิดหนีออกไปจากบ้าน เณรวันเฉลิมแวะมาเยี่ยมโยมแม่แต่ละครั้งก็ไม่เคยได้พบ ยายแลโกหกเณรว่าแม่ไม่อยู่ ลำยองไปสิงสถิตอยู่โรงลิเกร้าง บอกใครต่อใครว่าตนเป็นนางฟ้ามาเกิด วันเฉลิมสอบได้นักธรรมตรี และเตรียมตัวสอบนักธรรมโท พ่อสินไปเจอลำยองที่โรงลิเกร้าง รีบมาส่งข่าวยายแล ยายแลสั่งให้ป่องกับปานไปลากตัวลำยองกลับมา ก่อนที่เณรจะไปเห็นเข้า ลำยงจะพาลำยองไปส่งโรงพยาบาลบ้าปากคลองสานแต่โรงพยาบาลไม่รับ ให้เอาตัวลำยองไปที่คลินิคแทน รถแล่นผ่านโรงเครื่องเคลือบของกวง ลำยองเกิดจำได้ กระโดดหนีลงจากรถหายสาบสูญ ลำยงจนปัญญาตามจับลำยองไม่ทัน เณรรู้แต่ว่าโยมแม่ไม่ค่อยสบายนิดหน่อย และที่เณรไม่เคยเจอโยมแม่ก็เพราะโยมแม่ไปบ่อน

ลำยองกลับไปที่โรงงานของกวงเพราะในจิตใต้สำนึกเทพบุตรของเธออยู่ที่นี่ อภิชาติลูกชายลำยองออกมาเห็นคนบ้าก็หัวเราะชอบใจ กวงจำลำยองได้ถึงกับอึ้งที่เห็นสภาพลำยอง กวงเวทนาให้อภิชาติเอาเงินไปให้ลำยอง อภิชาติเข้าใกล้ลำยองเกิดกลัวขึ้นมา และจะไม่ยอมเข้าใกล้ลำยองอีก ลำยองกลับไปอยู่โรงลิเกร้าง เพราะติดใจฉากสวรรค์ที่เก่าขาดรุ่งริ่ง เณรว้าวุ่นใจที่โยมแม่หายไป สันต์ได้ข่าวจึงให้เงินลำยงให้พาลำยองไปหาหมอ ลำยงพาปานและจ้างเด็กมาช่วยกันจับตัวลำยอง เณรตามลำยงมาจนพบความจริง เณรวิ่งไล่กวดลำยองทั้งผ้าเหลืองสร้างความแตกตื่นให้กับคนทั้งถนน เณรค้นพบในบัดเดี๋ยวนี้เองว่านรกอยู่ตรงนี้เอง หมอจำใจรับตัวลำยองไว้เป็นคนไข้เพราะสงสารเณร เณรคิดมากเป็นทุกข์หนัก ตัดสินใจสึกเพื่อกลับมาดูแลแม่

สันต์โกรธมากเมื่อรู้ว่าลำยองเป็นต้นเหตุให้เณรจะทิ้งผ้าเหลือง พ่อสินปลอบใจว่ายังดีกว่าให้เณรแหกผ้าเหลือง สันต์พยายามหว่านล้อมให้เณรเปลี่ยนใจ ลูกเลือกได้ถ้าจะเลือก แต่ลูกไม่เห็นแก่ตัวพอ ลูกรักตัวเองน้อยเกินไป รักคนอื่นมากเกินไป แต่เณรตอบเพียงสั้น ๆ ว่า คนอื่นคนนั้น คือแม่ของผม วันเฉลิมสึกออกมาช่วยงานทำมาหากินและดูแลแม่ ยายแลปวดหัวใจเพราะจะว่าไปแล้ว ก็ต้องโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด สันต์เอาเงินมาให้แต่วันเฉลิมยกให้เหน่งน้องชายเพื่อซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้าไปโรงเรียน

วันเฉลิมได้เจอหนูสมฤดีเป็นครั้งคราว เด็กหญิงยังมีน้ำใจต่อเขาเหมือนเดิมแบ่งปันขนมและของใช้มาให้เขาเสมอ พิพัฒน์กลายเป็นเพื่อนเล่นที่พ่อแม่ทั้งสองบ้านไว้ใจให้เด็กทั้งสองคบหากัน วันเฉลิมกันตัวเองออกมาห่าง พ่อแม่พิพัฒน์มองว่าวันเฉลิมไม่สมควรเป็นเพื่อนลูก เพราะฐานะต่างกัน ส่วนบ้านหนูสมฤดีปลูกฝังลูกเสมอว่าถ้าคบใครให้ดูที่จิตใจ

ชุด สามีของลำยงป่วยเป็นอัมพฤกษ์ทำงานไม่ได้ ลำยงกลุ้มใจเพราะต้องทำงานหนักคนเดียวแต่ก็ไม่เคยบ่น วันเฉลิมอาสาช่วยงานไปจ่ายของที่ตลาด จัดแผงขายกับข้าว และช่วยปลอกผลไม้ขาย วัน ๆ ของวันเฉลิมหมดไปกับการทำงาน ดูแลแม่ ดูแลน้อง ดูแลตาปอที่เลอะเลือนด้วยโรคความจำเสื่อม ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตสนุกสนานเฉกเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วไป วันเฉลิมอายุสิบห้าแล้ว ป่องชวนวันเฉลิมไปทำงานกับตนหลอกล่อว่าเป็นงานสบายได้เงินง่ายแต่วันเฉลิมปฏิเสธเพราะไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับงานทุจริต ลักขโมยคนอื่นกิน วันเฉลิมต้องพาแม่และน้องคนสุดท้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลเสมอ ป่องออกความคิดให้ทิ้งน้องเล็กไว้ที่โรงพยาบาลให้หมอดูแลไปเลยจะได้หมดภาระไปอย่างหนึ่ง แต่วันเฉลิมทำไม่ลง วันเฉลิมแบกภาระทุกอย่างไม่เห็นแก่เหนื่อย จนใคร ๆ ต่างพากันเวทนา ลำยงแช่งในใจให้ลำยองตาย ๆ ไปเสียทีจะได้หมดทุกข์หยุดสร้างเวรต่อใคร ๆ

ยายแลเครียด หาทางออกของความทุกข์ทรมานไม่ได้ตัดสินใจซื้อยาเบื่อหนูมา กะจะให้ลำยองกิน วันเฉลิมจะได้หมดเวรเสียที เอายาเบื่อหนูคลุกข้าวจะป้อนลำยองอยู่แล้ว แต่ลำยองเกิดมีสติสตังค์กลับคืนมาถามถึงลูก ยายแลเปลี่ยนใจฆ่าลำยองไม่ลง แต่บาปก็บังเกิด ตาปอกินข้าวคลุกยาเบื่อหนูนั่นเอง ตาปอทุรนทุรายและขาดใจตาย ส่วนลำยองก็วิกฤตช็อก และมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเช่นกัน ในนาทีสุดท้ายวันเฉลิมได้แต่ปลอบใจแม่ให้ลืมความเจ็บปวดทรมานด้วยการนึกถึงคุณพระ ลำยองขาดใจตายในอ้อมกอดของวันเฉลิม วันเฉลิมตัดสินใจบวชอีกครั้ง ยกบุญกุศลทั้งหมดให้แม่และตาปอ คนที่ดีใจที่สุดคือสันต์ ยายแลรับสารภาพกับสันต์ว่าตนเป็นคนคิดฆ่าลำยองเอง แต่ตาปอมารับเคราะห์แทน เณรมาเยี่ยมยายแลและปลดปล่อยบาปในใจยายแล เณรปลอบใจยายว่าต้นเหตุของความเดือดร้อนทั้งหมดคือตัวเณรเอง แต่ตาปอมารับเคราะห์แทน เณรต้องการที่จะบวชให้นานที่สุดเท่าทีจะนานได้ เณรชี้ทางสว่างให้ยายใช้ชีวิตบั้นปลายที่ยังเหลือยู่ปฏิบัติธรรม ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ และช่วยงานที่วัด ยายแลเห็นทางสว่างเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่และความสงบในชีวิต

อ้อย น้องสาวพิการทางสมองกลับมาอยู่บ้านเพราะอายุเลยเกณฑ์การได้อยู่โรงเรียนสอนคนปัญญาอ่อนซึ่งเทวีดิ้นรนพาไปฝากฝังหลายปีต่อมา อ้อยบ้าผู้ชายจนใคร ๆ พากันพูดว่านิสัยได้มาจากลำยอง อ้อยควบคุมตัวไม่ได้ ทุกคนก็ยุ่งจนไม่สามารถคุมได้ อ้อยเสียทีให้ผู้ชายทั้งฝูงจนตั้งท้อง ลำยงกับลำดวนรู้ความจริงก็สายเกินกว่าจะเอาเด็กออกเสียแล้วเมื่ออ้อยคลอดลูกจึงจับทำหมัน ลำดวนรับเด็กไปเลี้ยงจดทะเบียนเป็นพ่อแม่เด็กและตั้งใจว่าเมื่อรู้ประสาก็ต้องบอกความจริงให้เด็กรู้ว่าอ้อยคือแม่ที่แท้จริง

เหน่งตัดสินใจเรียนตัดเย็บเครื่องหนังเพราะสนใจและเทวีก็ให้คำแนะนำว่าควรจะเรียนสายอาชีพตามที่เหน่งถนัดและสนใจจริง ยายแลเป็นห่วงอ้อยเพราะดึกดื่นแล้วยังไม่กลับบ้านจึงออกไปตามหา ฝนตกพรำทั้งคืน ยายแลเปียกปอนกลับมาเป็นไข้จนซม ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นไข้ธรรมดา หายาให้กินพอประทัง ยายแลสิ้นใจด้วยอาการปอดบวม หลวงตาปิ่นมรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา

หนูสมฤดีกับพิพัฒน์เป็นแฟนกัน ดูเหมาะสมกันด้วยประการทั้งปวง พิพัฒน์จะได้ไปเรียนต่อเมืองนอก ในปีต่อมาสมฤดีก็สอบได้ทุนและบินตามไปเรียนเมืองนอกเช่นกัน ส่วนวันเฉลิมก็ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาพระธรรม ลำยงลุยหาตัวพ่อเด็กลูกอ้อย โดยใช้วิธีขู่เข็ญจึงหาเงินมาก้อนหนึ่งเป็นทุนเลี้ยงลูกอ้อยต่อไป เพราะแต่ละคนไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อเด็กแต่กลัวความผิดฐานล่อลวง เทวีแนะนำให้จิตราน้องสาวคนที่สองของวันเฉลิมเรียนครู จิตราตั้งอกตั้งใจเรียนเต็มที่ เณรวันเฉลิมเมื่ออายุครบก็บวชเป็นพระ พระวันเฉลิมได้รับคำแนะนำจากหลวงพี่ที่วัดให้ไปเรียนต่อที่อินเดีย เมื่อสอบเปรียญเก้าได้นักธรรมเอกแล้ว พระวันเฉลิมจึงบินไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดีย

ในอินเดีย พระวันเฉลิมได้พบสัจธรรมของชีวิตได้สัมผัสความทุกข์ยากของมนุษย์ได้เห็นความรวยที่สุด พร้อม ๆ กับความยากจนที่สุดจนพระเกิดปัญญาและพบว่า ความทุกข์ยากที่เขาได้ผจญมาและคิดว่ามันน่าสังเวชนักหนานั้น แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงผงธุลีเมื่อเที่ยบกับความทุกข์ทั้งมวลในโลกยากไร้ใบนี้ พระเดินทางกลับมาเมืองไทยกลับมาจำพรรษาที่วัดเดิมได้สองสัปดาห์ก็สึกออกมาเป็นฆราวาส

เหน่งมีกิจการเล็ก ๆ ของตัวเอง รับจ้างเจ็กฮวดเย็บกระเป๋าเพราะเขายังไม่มีทุนมากพอ จิตราเรียนจบแล้วสมัครไปเป็นครูอยู่ทางอีสานแล้วหายสาบสูญไม่มีใครได้ข่าวคราวอีกเลย อ้อยกลายเป็นโสเภณีอาชีพ มีความสุขในซ่อง เพราะอ้อยชอบทางนี้ โดยได้หนึ่งในผัวที่เคยพากันมาเป็นเจ้าของซ่องและแมงดา ลูกคนสุดท้องของเทวีตายเพราะรถคว่ำ คุณยายหนูสมฤดียังแข็งแรงเพราะสุขภาพดี วันเฉลิมแวะมาเยี่ยมและพูดคุยเป็นเพื่อนด้วยเสมอ วันเฉลิมได้ข่าวหนูสมฤดีบ้างและคิดว่าเธอคงติดใจเมืองนอกจนไม่อยากกลับเมืองไทยเสียแล้ว

เทวีออกความคิดให้วันเฉลิมเขียนตำราทางปรัชญาจากประสบการณ์ชีวิตที่เขาได้พบและสัมผัสมาจากอินเดีย หนังสือ สองฝั่งคงคา จึงเกิดขึ้น นอกจากเขียนหนังสือแล้ววันเฉลิมยังเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยด้วย วันเฉลิมตัดสินใจไปเรียนต่ออเมริกา หางานทำและเรียนไปด้วยเพื่อให้ได้ปริญญาจะได้สามารถบรรจุเป็นข้าราชการได้

ที่อเมริกา ในอพาร์ทเม้นท์นักศึกษาไทย วันเฉลิมได้พบอภิชาติน้องชายร่วมมารดาโดยไม่คาดคิด อภิชาติมีปัญหาในชีวิตอย่างหนักจนต้องไปพึ่งเหล้า วันเฉลิมสร้างความไว้วางใจจนอภิชาติยอมเล่าปัญหาให้วันเฉลิมฟัง วันเฉลิมช่วยพูดจนอภิชาติได้คิดและมีกำลังใจที่จะต่อสู้ปัญหาด้วยการพิสูจน์ตัวเองให้คนที่สบประมาทเขาต้องยอมรับในความสำเร็จ เมื่อกลับมาเมืองไทยอภิชาติจึงได้รู้ความจริงว่าวันเฉลิมคือพี่ชายของเขา สายสัมพันธ์ที่ขาดหายไปเริ่มสานต่ออีกครั้งอภิชาติสำนึกบุญคุณวันเฉลิมจึงตอบแทนด้วยการช่วยเหลือน้อง ๆ ของวันเฉลิม เหน่งมีโอกาสเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องหนังของตัวเอง มีโอกาสวางขายในห้างดัง อภิชาติให้คนช่วยตามตัวจิตรากลับมาอย่างปลอดภัย หลังจากหายสาบสูญไปนาน อ้อยเข็ดขยาดกับการเป็นโสเภณี เพราะติดโรคงอมแงม อ้อยหันมาประกอบอาชีพใหม่คือทำไข่เค็ม เพราะอ้อยชอบกินไข่เค็ม

ก่อนกลับจากอเมริกา วันเฉลิมได้พบกับหนูสมฤดีเธอเป็นฝ่ายจำเขาได้และเข้ามาทักสมฤดีอกหักจากพิพัฒน์เพราะพิพัฒน์หลอกลวงเธอ สมฤดีเจ็บปวดจนไม่มีแก่ใจจะกลับเมืองไทยทั้งคู่ได้สานต่อความสัมพันธ์กันจนพัฒนากลายเป็นความรัก เมื่อเรียนจบวันเฉลิมกลับมาเมืองไทยกับสมฤดี ทั้งคู่ได้บรรจุเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างคณะกัน สมฤดีมั่นใจที่จะร่วมชีวิตกับชายหนุ่มผู้มีจิตใจมั่นคงแข็งแกร่งตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ติดตามชมความเข้มข้นของ ละครทองเนื้อเก้า ได้ทุกวันพุธ – พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครทองเนื้อเก้า

รายชื่อนักแสดงนำ ในละคร ทองเนื้อเก้า

ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท สันต์
วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท ลำยอง
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงค์ รับบท แม่ปั้น
ญาณี ตราโมท รับบท พ่อสิน
ฉันทนา กิตติยานนท์ รับบท ยายแล
ชลิต เฟื่องอารมย์ รับบท ตาปอ
โชติรส แก้วพินิจ รับบท ลำยง
มะปราง วิรากานต์ รับบท ลำดวน
สมจิต จงจอหอ รับบท ชุด
ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ รับบท เสี่ยกวง
พิศาล อัครเศรณี รับบท กำนันเสือ
ธนากร โปษยานนท์ รับท เมืองเทพ
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท หมอชด
อรรถพล เทศทะวงศ์ รับบท แป้ง
ณฉัตร จันทพันธ์ รับบท ป่อง
ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ รับบท ศรีวรรณ

ยัยบุญกับหมอทึ่ม

สัตวแพทย์จอมยียวน ปะทะ เจ้าของไร่สาวแสบ ใครจะแน่กว่ากัน
 
ทัชมา หรือ ทึ่ม สัตวแพทย์หนุ่มหล่อ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำลังถ่ายรูปกับเพื่อนในวันรับปริญญาอย่างมีความ สุข ผิดกับกำนันเถอะ ผู้เป็นพ่อที่ทั้งเสียหน้า และโกรธลูกชายตัวดีที่หลอกให้เขาหลงดีใจและไปป่าวประกาศทั่วตำบลว่า เรียนหมอรักษาคน แต่แท้จริงเรียนหมอรักษาสัตว์ ปารมี หรือลูกปลา น้องสาวทัชมาต้องปลอบให้พ่อใจเย็น ปารมีกำลังเรียนคหกรรมศาสตร์ปีสุดท้าย แม้พ่อจะไม่ชอบ แต่ปารมีก็อ้อนจนพ่อยอม ทัชมากลับไปอยู่บ้าน มีแป้นแล้น สาวประเภทสองวัยดึก สาวใช้เก่าแก่ของบ้านกำนันเถอะคอยดูแล และส่งตาหวานตลอดเวลา แต่ทัชมาเคยชินแล้วจึงไม่สะเทือนอะไร
 
กำนันเถอะกลับมาจากทำบุญที่วัดด้วยความอับอาย เพราะผู้คนต่างหัวเราะเยาะเขา กำนันเถอะโมโหที่ทัชมาไม่เห็นความหวังดี หลังจากภรรยาเสียชีวิตตั้งแต่ลูกยังเล็ก กำนันก็ดูแลลูกตามลำพัง คาดหวังว่าลูกจะได้ดีตามแนวที่ตนวางไว้ กำนันเถอะคิดดัดนิสัยทัชมาจึงไปที่ไร่สะท้านทรวง สระบุรี ขอให้บุญจิรา หรือ แม่บุญ เจ้าของไร่รับทัชมาทำงาน กำนันเถอะเป็นญาติห่าง ๆ กับแม่ของบุญจิรา และเคยทำงานที่ไร่ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก แม้พ่อแม่บุญจิราจะเสียไปแล้ว แต่บุญจิราก็นับถือกำนันเหมือนญาติสนิท จึงตกลงรับทัชมา กำนันเถอะกลับมาบังคับให้ทัชมาไปเป็นโคบาลที่ไร่สะท้านทรวง  ทัชมาไม่อยากไป แต่ขัดไม่ได้ เพราะพ่ออ้างว่าทัชมาต้องใช้หนี้ที่พ่อส่งเรียน แป้นแล้นอยากไปด้วย แต่กำนันไม่ให้ไป
 
กำนันเถอะให้ไอ้จุก คนขับรถรับจ้างไปส่งที่ไร่ กำนันเคยมีบุญคุณกับไอ้จุก ไอ้จุกจึงไม่คิดเงิน แต่วันนี้ รถกระบะไม่อยู่ เขาเลยขับอีแต๋นไปส่งแทน ทัชมาแอบนินทาบุญจิราในใจว่าเป็นสาวแก่ เอาใจยาก แต่เมื่อได้พบตัวจริง ทัชมาตะลึง เพราะบุญจิรายังสาวและสวย แม้จะเป็นม่ายมีลูกถึงสามคนก็ตาม ทัชมาคิดว่าเธอคงมีสามีหลายเชื้อชาติ เพราะลูกที่เกิดมาหน้าตาไม่เหมือนกันเลย ไร่สะท้านทรวงกว้างใหญ่ มีทั้งฟาร์มโคนม คอกม้า โรงเรือนเพาะพันธุ์วัวชั้นดีส่งนอก และพื้นที่ทำการเกษตรแผนใหม่ บุญจิราให้ทัชมาทดลองงานที่ฟาร์มโคนมและเตือนให้เขาทำตามกฎของไร่อย่างเคร่ง ครัด
 
เช้าวันแรก ทัชมาเจอการรับน้องจากลูก ๆ (บุญธรรม) ของบุญจิรา นำโดยทอมมี่ ลูกชายคนโตเชื้อสายเยอรมัน คองโก ลูกชายคนรองเชื้อสายเคนย่า และเด็กหญิงลูกหมี ลูกสาวคนเล็กเชื้อสายเกาหลี ทั้งสามเกณฑ์ลูกคนงานในไร่มาเป็นกองทัพอินเดียแดงไปถล่มทัชมา อรชร สาวใช้ที่ดูแลเรือนใหญ่ของบุญจิราบอกว่าหากทัชมาเป็นผู้หญิงจะโดนรับน้อง ด้วยการทำผีหลอก
 
ในไร่สะท้านทรวง ส่วนที่เป็นบ้านพักคนงาน จะมีร้านค้า โรงอาหารสำหรับลูกจ้าง ร้านค้าแห่งเดียวในไร่เป็นของนางปีบ เมียตาผาน คนงานเก่าแก่ในไร่ ทุกเช้าทั้งคู่จะทะเลาะกันเสมอ โดยเฉพาะเมื่อตาผานดื่มเหล้าจะเห็นผู้ชายทุกคนเป็นชู้กับเมียตัวเอง เช้านี้ก็เช่นกัน ทัชมามาซื้อแปรงสีฟัน ก็ถูกตาผานหาว่าเป็นชู้กับนางปีบ จนเขาต้องกลับไปมือเปล่า
 
ด้านทรงศักดิ์ หรือเสี่ยซ้ง หนุ่มตี๋ลูกชายเสี่ยทรงเกียรติ เจ้าของโรงเก็บพืชพันธุ์ทางการเกษตรแห่งใหญ่มาตามจีบบุญจิรา และมีของกำนัลมาด้วยทุกครั้ง เด็ก ๆ ไม่ชอบทรงศักดิ์เลย เพราะรักและหวงแม่มาก ที่สำคัญทรงศักดิ์ขี้เหนียว และชอบกดขี่คนอ่อนแอกว่า จึงถูกเด็ก ๆ เรียกลับหลังว่า ตี๋แสบ ระหว่างที่ทรงศักดิ์คุยกับบุญจิรา เด็ก ๆ แอบยิงหนังสติ๊กใส่ทรงศักดิ์จนล้มด้วยความสะใจ และยอมให้แม่ลงโทษ ทัชมาเจอตาผานที่ฟาร์ม ตาผานหายเมาจำทัชมาไม่ได้จึงทักทายอย่างดี และพาทัชมาเดินดูรอบฟาร์มพร้อมเล่าสาเหตุที่ไม่เลี้ยงโคเนื้อ เพราะบุญจิราสงสารไม่อยากส่งพวกมันไปโรงฆ่าสัตว์ ทำให้ทัชมาประทับใจ ตกเย็น ทัชมากลับที่พักก็ถูกลูกดอกลอบทำร้าย แต่เขาหลบทัน เด็ก ๆ ไม่พอใจที่ทัชมาไม่ยอมลงให้ แถมยังพูดจาสั่งสอนพวกเขาอีก ทัชมารู้จากตาผานว่าเด็ก ๆ ต้องทดสอบทุกคนเพื่อความปลอดภัยของบุญจิราที่จะไม่ถูกใครทำร้ายและถูกหลอก แต่ทัชมาไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเด็ก ๆ
 
ทรงศักดิ์ขับรถมาหาบุญจิราอย่างเร็วจนเฉี่ยวทัชมาตกคูและไม่รับผิด ทัชมาจึงตอบโต้ด้วยถ้อยคำเจ็บแสบให้ทรงศักดิ์เจ็บใจ ด้านเด็ก ๆ วางแผนหลอกผีทัชมา แต่นำมาทดสอบกับทรงศักดิ์ จนเขาตกใจขับรถลอยไปติดบนรั้ว และจับไข้หัวโกร๋นผมร่วงหมดหัว เด็ก ๆ พอใจมากใช้แผนนี้กับทัชมา แต่ทัชมารู้ทันเอาคืนจนเด็ก ๆ จับไข้หัวโกร๋น เขาปีนบันไดขึ้นมาดูเด็ก ๆ เด็ก ๆ เจ็บใจผลักบันไดล้มจนทัชมาขาหักต้องเข้าเฝือกและนอนพักที่โรงพยาบาล บุญจิราขอโทษแทนลูก ๆ แต่ก็ย้ำว่าทัชมาไปหลอกผีเด็ก ๆ ก่อน
 
ด้านแป้นแล้นกับปารมีคิดถึงทัชมาจึงขอพ่อกำนันไปเยี่ยมทัชมา โดยบอกว่ากลัวทัชมาจะหอบลูกกลับมาหากไม่ไปเยี่ยม กำนันจึงยอม บุญจิราต้อนรับปารมีกับแป้นแล้นอย่างดี เพราะเธอรู้จักปารมีตั้งแต่เด็ก ๆ บุญจิราอนุญาตให้ปารมีและแป้นแล้นอยู่กี่วันก็ได้ หมอให้ทัชมากลับบ้านได้ เขาลากขาที่ยังใส่เฝือกไปซื้อของร้านนางปีบ ตาผานดื่มเหล้าเมาจำทัชมาไม่ได้จึงคว้ามีดไล่ฟันหาว่าเขาเป็นชู้ ทัชมาวิ่งหนีอย่างลืมตัว แต่กลายเป็นดี เพราะรุ่งเช้า เขาก็หายเป็นปกติกลับไปทำงาน ขณะที่คนงานล้างโรงเรือนเตรียมรับม้าเจ็บจากคอกนายเกริกพลที่โคราช เขามีอิทธิพลในกลุ่มนักพนันม้าแข่ง บุญจิรารับอนุบาลม้าพันธุ์ให้เกริกพล ตอนนี้ม้าสำคัญอย่างเด็ดดวงดารกา เจ็บหนัก ซึ่งถ้าม้าหมดประโยชน์จะถูกฆ่า เรียกว่าจบตำนานอย่างสมศักดิ์ศรี ทัชมาที่รู้เรื่องไม่เห็นด้วย
 
บุญจิราต้อนรับเกริกพลที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวมา เกริกพลคิดจะรวมคอกม้าน้อยใหญ่เป็นคอกเดียว และทำให้การแข่งม้าเป็นกีฬาระดับประเทศ เขาชวนบุญจิราร่วมหุ้น เพื่อไร่สะท้านทรวงจะเป็นแหล่งอนุบาลพันธุ์ม้า และสนามฝึกที่ใหญ่ที่สุด บุญจิราปฏิเสธแต่เกริกพลไม่ยอมแพ้ คิดรวบหัวรวบหางเธอเมื่อมีโอกาส เด็ก ๆ ไม่ชอบเกริกพลอย่างมากแต่ยังหาวิธีจัดการไม่ได้ ทัชมาดูแลและพูดคุยกับเด็ดดวงดารกาอย่างเพื่อน จนมันไว้ใจเขา แต่กลับตกใจกลัววิ่งหนีเตลิดไปเมื่อเห็นเกริกพล เกริกพลให้บุญจิราหามันให้พบเพื่อจะจบชีวิตมัน ทัชมาสงสัยว่าเกริกพลอาจทรมานสัตว์ แต่บุญจิราไม่เชื่อ
 
ทรงศักดิ์ล้อเลียนทอมมี่ว่าเป็นกะเทย และด่าเด็ก ๆ ว่าเป็นแค่เด็กที่บุญจิราเก็บมาเลี้ยง เด็ก ๆ โกรธมากต่อยทรงศักดิ์จนลงไปกอง ด้านปารมีเห็นว่าทัชมาหายดีจึงเตรียมตัวกลับ แต่บุญจิราชวนให้อยู่ฝึกงานช่วงปิดเทอม เพราะพนักงานธุรการเพิ่งลาออกไป ปารมีตกลงทันที ทำให้แป้นแล้นดีใจมาก ทัชมาพบเด็ดดวงดารกาที่ชายป่าก็ดีใจมากเข้าไปพูดคุยจนมันสงบลง ทัชมาแอบพามันกลับไปรักษาโดยไม่ให้บุญจิรารู้ ด้านเด็ก ๆ ไม่พอใจที่ทรงศักดิ์มาทานข้าวกับบุญจิรา จึงแกล้งเอาหมามุ่ยโรยขอบแก้วกาแฟ เมื่อทรงศักดิ์ดื่มเข้าไปก็คันจนปากเจ่อ เด็ก ๆ กลัวถูกลงโทษจึงหลบไปที่คอกม้า ลูกหมีอยากขี่ม้าแต่ปากแข็ง ทัชมาเห็นจึงแกล้งขี่เจ้าลิลลี่โชว์เด็ก ๆ ทำให้ลูกหมีไม่พอใจมาก บุญจิราโกรธมากเมื่อรู้ว่าทัชมาเจอเด็ดดวงดารกาแล้วไม่บอกเธอ ทัชมาขอเวลาพิสูจน์ความจริง บุญจิราไม่อยากมีปัญหากับเกริกพลจึงปฏิเสธ เด็ก ๆ ได้ยินว่าจะมีม้าถูกฆ่าก็แอบไปดู ทัชมาสอนให้เด็ก ๆ จับม้าด้วยความรัก เด็ก ๆ สงสารจึงขอไม่ให้แม่ฆ่าม้า บุญจิรายอมให้ทัชมาพิสูจน์ความจริง
 
เด็ก ๆ เอาขนมไปให้เด็ดดวงดารกา แต่ทัชมาห้ามไว้ เพราะกลัวม้าท้องเสีย เขาใช้โอกาสนี้ต่อรองให้เด็ก ๆ ทำตามคำสั่งเขาในการดูแลเด็ดดวงดารกา เด็ก ๆ ตกลงทันที บุญจิราไม่ยอมรับโทรศัพท์เกริกพลเพื่อถ่วงเวลา บุญจิราเดินทางไปรับเด็กหญิงมะลิ เด็กทารกขี้โรคมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคน เด็ก ๆ ทั้งสามมาช่วยกันดูแลน้องอย่างดี ทัชมาแปลกใจที่บุญจิรามีลูกเพิ่มขึ้นอีก แต่ตอนนี้เขาสนใจเรื่องของเด็ดดวงดารกามากกว่า เพราะอาการของมันไม่ดีขึ้น ทัชมาตรวจอย่างละเอียดจนพบยาโด๊ป สารกระตุ้นที่มีอันตรายสูง เด็ดดวงดารกาถูกใช้ยาโด๊ปมานานจนกระดูกผุ กล้ามเนื้อตาย เกริกพลกลับมาที่ไร่อีกครั้ง ทัชมาจึงพาเด็ดดวงดารกาไปซ่อนบ้านตาผาน เกริกพลยืนยันจะมาอีกในวันรุ่งขึ้น เด็ก ๆ หาทางจัดการเกริกพล โดยใช้กระสุนดินเหนียวยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ จนเครื่องเสียการทรงตัวตกในป่าละเมาะ เกริกพลบาดเจ็บเลยแจ้งตำรวจด้วยความโมโห ตำรวจใช้สุนัขดมกลิ่น ทำให้เด็ก ๆ กลัวถูกจับ ทัชมาให้เด็ก ๆ อยู่ใกล้ไหปลาร้า จนสุนัขดมกลิ่นไม่เจอ เด็ก ๆ รอดตัว แต่ยังไม่ยอมรับทัชมา
 
ทัชมาให้ตาผานช่วยหาที่ซ่อนเด็ดดวงดารกาใหม่ ตาผานแนะให้ไปหลบที่ถ้ำหินปูนในป่า แต่ทัชมามีปัญหาการขนย้ายเด็ดดวงดารกา เด็ก ๆ มาช่วยทำรถลาก แต่ใช้ไม่ได้ผล ทั้งหมดจึงใช้แผนสองของคองโก เกริกพลกับทรงศักดิ์มาหาบุญจิราพร้อมกัน ทั้งสองพูดจาข่มกันจนเกริกพลลืมเรื่องม้า เด็ก ๆ แกล้งบอกว่ากำลังทำงานพิเศษล้างรถหาเงิน ทรงศักดิ์อยากเอาหน้าบุญจิราจึงให้เด็ก ๆ ล้างรถเขา ทัชมาจึงใช้รถขับพาเด็ดดวงดารกาเข้าป่า ก่อนจะเอารถกลับมาจอดในสภาพยับเยิน ทัชมาขอสัญญาจากเด็ก ๆ ว่าจะไม่บอกใครเรื่องที่ซ่อนเด็ดดวงดารกา เด็ก ๆ ตกลงด้วยความเต็มใจ
 
เกริกพลหงุดหงิดที่ยังกำจัดเด็ดดวงดารกาไม่ได้จึงเรียกทวีผล ลูกน้องคนสนิทกลับจากอเมริกาหลังหนีคดีไปเป็นคนเก็บขี้ม้า เกริกพลให้ทวีผลแฝงตัวไปสืบข่าวและฆ่าม้า ขณะที่ทัชมาติดต่อนิธิ เพื่อนนักข่าวให้ช่วยหาข่าวเก่า ๆ เกี่ยวกับเกริกพลและการแข่งม้า มีทั้งข่าวเด็ดดวงดารกาชนะการแข่ง ข่าวนักธุรกิจชื่อดังหลายคนล้มละลาย ฆ่าตัวตายเพราะแพ้พนัน ผิดกับเกริกพลที่ร่ำรวยมหาศาลขึ้นมาแทน
 
เด็ก ๆ ทั้งสามพบว่ามีผู้บุกรุกจากกับดักที่วางไว้ จึงไปดู และพบทวีผลห้อยอยู่บนต้นไม้ ทวีผลแกล้งอ่อนข้อให้เด็ก ๆ จนเด็ก ๆ ถูกชะตาทวีผล ที่เรียกตัวเองว่า โคบาลนิกกี้ และอ้างตัวเป็นจ็อกกี้ที่เก่งมาก จนเด็ก ๆ รับทวีผลเข้าเป็นพวก เด็กหญิงมะลิป่วยกะทันหัน ทัชมากับบุญจิราจึงพาไปโรงพยาบาลหมอตรวจพบว่ามะลิเป็นไข้เลือดออกต้องถ่าย เลือด ทัชมาอาสาให้เลือดมะลิ ทำให้บุญจิราซึ้งใจ ด้านบุญปลึ้มเห็นทวีผลครั้งแรกก็หลงชอบ จึงหาที่นอนให้ทวีผลเพื่อรอพบบุญจิราวันรุ่งขึ้น ทวีผลหาโอกาสเดินสำรวจคอกม้า ตาผานส่งข่าวให้ทัชมารู้ ทัชมาจึงแอบสังเกตทวีผล ทวีผลแกล้งตามจีบปารมีเพื่อล้วงความลับของทัชมา และอาสาพาเด็ก ๆ ไปส่งโรงพยาบาล บุญจิราไม่ถูกชะตากับทวีผลแต่ก็ยอมรับเขาเข้าทำงาน วันต่อมาบุญจิราให้ทัชมามารับเธอกับมะลิกลับบ้าน แต่เด็ก ๆ ให้ทวีผลมารับแทน บุญจิราไม่พอใจที่ทวีผลขับรถผาดโผนทำให้เด็ก ๆ หลงผิดว่าเป็นสิ่งดีจึงตำหนิเขา ด้านทัชมาหาหลักฐานได้ว่ามีการฆ่าเด็ดดวงดารกาโดยเจตนา แต่เขายังไม่บอกบุญจิรา เพราะกลัวบุญจิราเข้าข้างเกริกพล เด็ก ๆ เกลียดทัชมามากขึ้น เพราะทวีผลคอยยุยง และสร้างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตอย่างโคบาลสะท้านทรวง มีเด็ก ๆ ทั้งสามเป็นตัวตั้งตัวตี รวมถึงอรชร ปารมี แป้นแล้น และนางปีบที่หันมาแต่งตัวเป็นโคบาลสาว บุญปลึ้มที่พลอยปลื้มทวีผลไปด้วยจนหลงลืมดูแลมะลิ ทำให้ถูกบุญจิราตัดเงินเดือน
 
บุญจิราไม่พอใจที่ทวีผลสอนเด็ก ๆ ใช้ความรุนแรงแบบคาวบอยทำร้ายทัชมา จึงให้ทวีผลไปเป็นลูกน้องทัชมาช่วยงานที่คอกม้า ทัชมาสั่งให้ทวีผลโกยขี้ม้า ทวีผลจึงไปโอดครวญกับเด็ก ๆ เด็ก ๆ มาจัดการทัชมา แต่โดนทัชมาใช้งานแทน เขาว่าทายาทเจ้าของไร่ต้องเป็นงานทุกอย่าง บุญจิรารู้สิ่งที่ทัชมาทำก็สนับสนุนและสั่งให้เด็ก ๆ ไปทำงานกับทัชมาทุกวัน ทัชมาดัดนิสัยเด็ก ๆ โดยให้ทำงานทุกอย่างและกินข้าวพร้อมคนงาน ทวีผลทำผิดกฎเข้างานช้า จึงถูกทัชมาลงโทษให้งานล่วงเวลา ด้านแม่เปล่ง แม่ครัววัยหกสิบลาออกไปแต่งงาน บุญจิราจึงให้นางปีบมาเป็นแม่ครัว ทวีผลหลอกถามปารมีจนรู้ว่า ทุกเช้าทัชมากับตาผานเข้าไปในป่า ก็สงสัย ด้านลูกหมีนึกถึงเด็ดดวงดารกาขึ้นมาจึงชวนพี่ ๆ ไปดู ทวีผลแอบตามไป แต่ถูกเด็ก ๆ จับได้ ทวีผลทายผิดว่าเด็ก ๆ มาจับผีเสื้อ ทำให้ลูกหมีผิดหวังที่ทวีผลไม่เก่งอย่างที่คิด ทวีผลหลอกถามถึงม้าป่วยจากนางปีบจนเกือบรู้เรื่องแต่ตาผานมาพอดี เขาหมั่นไส้ทวีผลจึงแกล้งเมาหาว่าทวีผลเป็นชู้กับนางปีบและต่อยทวีผลจนสลบ
 
เหตุการณ์นี้ทำให้ลูกหมีผิดหวังในตัวทวีผลอีก และเริ่มผิดใจกับพี่ชายที่เข้าข้างทวีผล และดูถูกผู้หญิง ทั้งสามทะเลาะกันจนบุญจิราเริ่มหนักใจกับพฤติกรรมเด็ก ๆ ทัชมาปลอบใจบุญจิรา และบอกว่าสักวันเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และเลิกเห่อคาวบอยไปเอง บุญจิรารู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับทัชมา บุญจิราตั้งใจจะมอบลูกม้าตัวใหม่ให้เป็นของขวัญวันเกิดลูกหมี เธอขอให้ทัชมาช่วยฝึกลูกหมีให้พร้อมสำหรับดูแลม้า จากวันนั้น ทัชมาฝึกและให้ลูกหมีทำงานหนักขึ้น จนลูกหมีทนไม่ไหวขอให้ทวีผลท้าดวลกับทัชมา แต่ทวีผลปฏิเสธอ้างว่าเป็นวันพระ ทำให้ลูกหมีผิดหวังรุนแรง เด็ดดวงดารกาอาการดีขึ้น ทัชมาได้ข้อมูลว่าทวีผลเป็นคนของเกริกพล แต่ยังไม่มีหลักฐาน ทวีผลสะกดรอยตามทัชมาจนรู้ที่ซ่อนเด็ดดวงดารกา เกริกพลสั่งให้ทวีผลฆ่าม้าและทัชมาก่อนการแข่งนัดหน้า
 
เกริกพลจะจัดงานเปิดตัวยอดเยาวมาลย์ ม้าตัวใหม่ที่ไร่สะท้านทรวง บุญจิราจึงเชิญทรงศักดิ์มาเป็นกันชน ด้านทัชมาวางแผนเปิดโปงเกริกพลในงาน ขณะที่เด็ก ๆ ทะเลาะกันหนักขึ้น จนพี่ ๆ ไล่ลูกหมีออกจากบ้านโทษฐานที่ทำให้พวกเขาถูกบุญจิราดุที่จำคำพูดหยาบคายของ ทวีผลมาพูด ลูกหมีเสียใจหนีไปทันที บุญจิราเป็นห่วงขอให้ทัชมาช่วยตามหา ทัชมากับตาผานมั่นใจว่าลูกหมีไปหาเด็ดดวงดารกาเลยรีบตามไป ลูกหมีมาปรับทุกข์กับเด็ดดวงดารกา จึงพบทวีผลจะฆ่าเด็ดดวงดารกา เขาจะฆ่าลูกหมี แต่ทัชมากับตาผานมาช่วยไว้ทัน และต่อยทวีผลสลบไป ทั้งสองรีบพาลูกหมีและเด็ดดวงดารกากลับ เด็ก ๆ เริ่มยอมรับทัชมา ลูกหมีเล่าความเลวของทวีผลให้ทุกคนฟัง ปารมีกับแป้นแล้นถูกทวีผลจับไปในป่า ทัชมาจะตามไปช่วยและขอให้บุญจิราเตรียมงานเลี้ยงตามปกติ เด็ก ๆ  ตัดสินใจเข้าป่าไปช่วยปารมี ลูกหมีใช้ความสามารถในการแกะรอยจนพบปารมี แต่ก็ถูกทวีผลจับตัวไว้ ตาผานกับทัชมาที่ตามมาเผาว่านเพชรหลับเพื่อรมควันทวีผล แต่ลมพัดหวน จนทั้งคู่สลบไปและถูกทวีผลจับไว้
 
บุญจิราเป็นห่วงทุกคนจึงไปขอร้องเด็ดดวงดารกาให้ช่วยตามหาเด็ก ๆ เด็ดดวงดารกาทำเสียงเหมือนตอบรับก่อนวิ่งนำเข้าป่าไป ทวีผลเปิดโปงปูมหลังของเด็กทั้งสามที่บุญจิรารับเป็นลูกบุญธรรม ทำให้ทัชมารู้ความจริงและสงสารที่ทั้งสามเป็นเด็กกำพร้า ทวีผลยื่นคำขาดให้ทัชมาเอาม้ามาแลก และหันไปตบทอมมี่ที่ตะโกนด่าเขา ทัชมากับตาผานโมโหใช้หัวพุ่งใส่ทวีผลพร้อมกัน ทวีผลชักมีดมาสู้ แต่ถูกเด็ดดวงดารกาที่ตามมากระโจนใส่จนกระเด็นไปสลบ ทัชมาจับทวีผลไปขังที่คอกม้า
 
ใน งานเลี้ยง เกริกพลหลอกให้เสี่ยทรงเกียรติพนันม้า ทรงศักดิ์พยายามห้ามพ่อแต่ไม่เป็นผล   ขณะที่กำนันเถอะมาเยี่ยมทัชมากับปารมีพอดี เขาตามหาทัชมาไปจนถึงคอกม้า และได้ยินเสียงทวีผลร้องให้ช่วย ด้วยความใจดี กำนันเถอะจึงช่วยทวีผลจนตัวเองถูกจับไว้เอง ดีที่ตาผานมาช่วยไว้ได้ เกริกพลให้ลูกน้องฉีดยาโด๊ปให้ม้า โดยไม่รู้ว่าทัชมาแอบเปลี่ยนยาพวกนั้นแล้ว การแข่งขันม้าการกุศลเพื่อนำเงินสร้างชมรมอาชาช่วยม้าป่วยม้าพิการเริ่มขึ้น ระหว่างนั้น เสียงประทัดที่เด็ก ๆ วางไว้ทั่วสนามแข่งก็ดังขึ้นจนม้าตกใจวิ่งวุ่น จากนั้นเด็ดดวงดารกาก็ปรากฏตัว เด็ก ๆ ช่วยกันแฉความผิดของเกริกพล และยิงกระสุนดินเหนียวใส่ ทำให้เกริกพลโมโหควักปืนออกมายิง ทัชมากอดบุญจิราหลบกระสุน เด็ดดวงดารกาโดดทับเกริกพล ทวีผลจะเข้าช่วย แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ถูกตำรวจจับ ขณะที่เด็ดดวงดารกาโดนยิง ทัชมาช่วยเหลือจนมันรอดชีวิต ทัชมาปลอบใจบุญจิราที่ต้องเสียลูกค้ารายใหญ่อย่างเกริกพล แต่เขาสัญญาจะช่วยฟื้นฟูคอกอนุบาลม้าให้เป็นที่รู้จักในฐานะนักอนุรักษ์ ทัชมาจับมือบุญจิราให้กำลังใจ ทำให้เด็ก ๆ ที่แอบดูยิ้มพอใจ
 
เกริกพลประกันตัวเองออกมา แต่ก็ต้องหลบการตามฆ่าจากนักพนันที่เสียผลประโยชน์ ลูกหมีทำอาหารเช้าให้ทัชมา ทัชมาจำใจทานขนมปังและไข่ไหม้ เพราะไม่อยากให้ลูกหมีผิดหวัง กำนันเถอะบังคับให้ทัชมาไปทำงานเป็นผู้จัดการฟาร์มหมูที่พิจิตรของดวงสมร แม่ม่ายสามีตาย เพราะกำนันเถอะแอบชอบดวงสมร โดยไม่รู้ว่าดวงสมรชอบซื้อผู้ชายเป็นของว่าง และนางสนใจทัชมา  กำนันไปลาออกกับบุญจิราแทนทัชมา ทำให้บุญจิราน้อยใจ ทัชมาจึงรีบมาง้อและยืนยันกับบุญจิราว่าจะไม่ไปไหน จนกว่าเจ้าของไร่จะไล่ออก ลูกหมีที่แอบฟังอยู่ดีใจมาก และยอมเป็นสาวกคุณหมอทึ่มตลอดไป
 
เมื่อทัชมาปฏิเสธ กำนันเถอะก็ไม่ยอมแพ้ไปรับดวงสมรมาที่ไร่ ดวงสมรดูออกว่าทัชมารักบุญจิราจึงกันท่าและพยายามอ่อยทัชมา แต่ทัชมาไม่เล่นด้วย ขณะที่ทรงศักดิ์มาขอบคุณทัชมาที่ช่วยให้พ่อของเขาไม่ต้องเสียพนันม้า ทั้งคู่ตกลงเป็นเพื่อนกัน ทรงศักดิ์เห็นดวงสมรครั้งแรกก็สนใจ เด็ก ๆ ไม่ต้องการให้ทัชมาไปจึงแกล้งหลอกผี จนดวงสมรเป็นลมถูกส่งโรงพยาบาล กำนันตามไปดูแล แต่ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าทรงศักดิ์ดูแลดวงสมรอยู่แล้ว ด้านทัชมาตัดสินใจบอกรักและขอบุญจิราแต่งงาน บุญจิราตกลงแต่งงานด้วยความปลื้มใจ เธอบอกข่าวดีกับทัชมาเรื่องไร่สะท้านทรวงได้รับเลือกให้เป็นที่อนุบาลม้า แข่งจากคอกต่าง ๆ เพราะเรื่องเด็ดดวงดารกา ขณะที่ปารมีบอกกำนันเถอะเรื่องที่ทัชมาจะแต่งงานกับบุญจิรา ทำให้กำนันเถอะดีใจลืมเรื่องโกรธเคืองทัชมาทั้งหมด
 
ในวันแต่งงาน กำนันเถอะหอบสินสอดทองหมั้นมามากมายเพื่อให้เกียรติบุญจิรา ขณะที่เด็ดดวงดารกากลับมาเดินได้เป็นปกติ ทัชมากลายเป็นโคบาลประจำไร่สะท้านทรวงที่สงบสุขตลอดไป ติดตามชม ละครยัยบุญกับหมอทึ่ม

 

ครัวซองทำนองรัก

ซองฝันเห็นชายหนุ่มแปลกหน้า 3 คนมาขอให้ซองเลือกและแต่งงานด้วย ซองได้แต่แปลกใจ ป้าเอี้ยงบอกว่ามันน่าจะเป็นฝันบอกเหตุอะไรซักอย่าง ที่เวทีของร้านครัวซอง มากาเร็ต (เจนนิเฟอร์ คิ้ม) กำลังวาดลีลาเร้าร้อนสะกดตาเจ้าสัวซ่ง (ทศพล) แต่การโชว์ของมากาเร็ตครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สะกดสายตาของเจ้าสัวได้เท่านั้น มันยังหยุดลมหายใจเจ้าสัวซ่งในชั่วเสี้ยวนาที หลังจากที่มากาเร็ตพลาดเหยียบชายกระโปรงตัวเองจนชุดเกราะอกหลุด เจ้าสัวซ่งเห็นมากาเร็ตน้อยเต็มตา อึ้ง ทึ่ง เสียว จนหัวใจวายตายคาที่ด้วยใบหน้าอิ่มเอม

วันต่อมาพินัยกรรมของเจ้าสัวซ่งถูกเปิด อาทิตย์และเสียวซ่านหวังว่าจะได้รับร้านครัวซองเป็นมรดก แต่ทั้งคู่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าสัวมอบร้านครัวซองให้กับ ลูกสาวของ ศักดา ลูกชายคนโต ซึ่งเป็นพี่ชายของอาทิตย์ ทนายหวางส่งนักสืบตามหาตัวซองทายาทของศักดาจนเจอ

ทำ ให้ทนายหวาง (ปุ๊-มนตรี) ต้องเปิดพินัยกรรมที่เจ้าสัวซ่งเคยเขียนไว้ว่า จะยกร้านครัวซองให้กับ ซอง (หนูนา) หลานสาวคนโตของตระกูล ซองไม่อยากรับมรดกที่ไม่ใช่ของตัว แต่ด้วยความที่ป้าเอี้ยงก่อหนี้สินจนรัดตัวแถมยังถูกเจ้าหนี้ยึดร้าน ยึดปู่สาก (สากที่ป้าเอี้ยงเชื่อว่ามีความวิเศษทุกครั้งที่กราบไหว้ และใช้ตำส้มตำ ป้าเอี้ยงจะเหมือนมีองค์มาลงทำให้ตำส้มตำได้รสเด็ดมาก) ซองไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องยอมรับมรดก

แต่ซองก็ต้องตกที่นั่งลำบากอีกครั้งเมื่อทนายหวางแจ้งเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า ซองจะต้องเลือกแต่งงานกับหนึ่งในสามของหลานชายเพื่อนสนิทของเจ้าสัวซ่ง ภายใน 1 ปี ร้านครัวซองที่เป็นมรดกที่ซองได้รับมาจึงมาพร้อมกับเรื่องราวปวดหัวที่ซองจะ ต้องเผชิญตลอด 1 ปีเต็ม จนกว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใคร ระหว่าง การัน (ก็อต-จิรายุ) หนุ่มนักธุรกิจ ฉลาด ปากร้าย , นที (ป็อป-พัชฌพัฒน์) เชฟหนุ่มนักเรียนนอก สุภาพ อบอุ่น และ เสียงศิลป์ (อลิน) ศิลปินผู้มีดนตรีในหัวใจ มรดกของซองจึงได้มาพร้อมความปวดหัว เรามาช่วยกันลุ้นว่าชายในฝันของซองจะเป็นใคร..? ติดตามชมเรื่องราวสนุกสนาน กุ๊กกิ๊ก น่ารักนี้ได้ใน ละครครัวซองทำนองรัก

นักแสดงละคร ครัวซองทำนองรัก

หนึ่งธิดา โสภณ   รับบท   ซอง
พิชฌพัฒน์ ตันทา   รับบท   นที
จิรายุ ตันตระกูล   รับบท   การัน
เจมส์ อลิน วี   รับบท   เสียงศิลป์
สุทธิพงษ์ วัฒนจัง   รับบท   อาทิตย์
มนตรี เจนอักษร   รับบท   ทนายหวา
จักรพันธ์ ตัณฑะสุวรรณ   รับบท   ผัดบวบ

ออฟฟิศพิชิตใจ

โกมินทร์ (ก้อง สหรัถ สังคปรีชา) และ วิภา (มาช่า วัฒนพานิช) คู่รักที่เป็นเจ้าของบริษัทขายสิ่งประดิษฐ์ไอเดียเก๋ที่แต่งงาน และช่วยกันสร้างบริษัทขึ้นมาทั้งสองคนอยู่กินกันมานาน จนกระทั่ง รักเริ่มจืดชืด ไร้ซึ่งความโรแมนติก และความตื่นเต้น ซึ่งบ่อยครั้งที่ทั้งคู่ทะเลาะกันทำให้ลูกน้องที่ออฟฟิศของตนต้องเจอเรื่องราวปวดหัวนี้ด้วย

โกมินทร์จึงคุยกับวิภาว่าแท้จริงแล้วชายหญิงแต่งงานอยู่กินด้วยกันนั้นมันเกิดจากอะไร เงินทอง หรือ ความรัก โกมินทร์บอกว่า เกิดจากเงินทอง วิภาบอกว่า เกิดจากความรัก ทั้งสองความคิดไม่เหมือนกันจึงท้าพิสูจน์กัน

ทั้งสองเลือก ตาน้ำ (กาย รัชชานนท์ สุขประกอบ) ซึ่งเป็นหลานของวิภา และเป็นพนักงานในบริษัทและ มัทรี (น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์) พนักงานในบริษัทอีกคนให้เป็นตัวแทนของตัวเอง (หนุ่มสาวทั้งสองไม่รู้ตัวเลย) โดยแอบบงการเจ้ากี้เจ้าการอยู่เบื้องหลังให้ทั้งสองรักกันให้ได้

โดยโกมินทร์พยายามให้รักกันด้วยเงิน ส่วนวิภาต้องการให้รักกันเพราะเกิดจากหัวใจ เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้นในซิทคอม ออฟฟิศพิชิตใจ ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 22.30 – 23.45 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ละครออฟฟิศพิชิตใจ

คุณชายรณพีร์

คุณชายรณพีร์บุตรชายคนสุดท้องซึ่ง เกิดจากมารดาผู้เป็นหม่อมเอก กำลังเดือดร้อนใจเมื่อหม่อมเอียดยื่นคำขาดว่าจะต้องแต่งงานกับ ม.ล.วิไลรัมภาเท่านั้น เพราะไม่อยากให้หลานชายที่เนื้อหอมหว่านเสน่ห์สาวจนทั่วเมืองอย่างที่เป็น อยู่ และเพื่อให้บรรลุพระประสงค์ของหม่อมเจ้าวิชชากร ที่ต้องการสะใภ้เทวพรหมสักคนหนึ่ง แต่รณพีร์ก็ไม่ยอมง่าย ๆ เพราะคิดเสมอว่าพี่ชายทุกคนพบรักแท้โดยหลีกเลี่ยงการคลุมถุงชนได้ เขาเองก็ต้องการที่จะตามหารักแท้ให้กับหัวใจเหมือนกัน

และแล้ววาสนาโชคชะตาก็ได้นำพาให้ เพียงขวัญ ดาราสาวตกลงมาสู่อ้อมกอดของ ม.ร.ว.รณพีร์ หนุ่มนักบินผู้สูงศักดิ์ จากอุบัติเหตุในกองถ่ายทำภาพยนตร์ รักแรกพบจึงเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน รณพีร์ตกหลุมรักเพียงขวัญทันที แต่ในที่สุดก็เธอคือคนเดียวกันกับดาราดาวรุ่งที่มีข่าวฉาว กับผู้กำกับฯ ชนะและยอดยศเพื่อนรัก ยอดยศกำลังคลั่งไคล้จนถึงกับตีจากพิมพรรณคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานด้วย อย่างไม่ยุติธรรม ทำให้ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อดาราสาวเปลี่ยนเป็นเดียดฉันท์ทันที ถึงแม้เพียงขวัญจะขอบคุณที่เขามาช่วยชีวิตเธอไว้ได้

รณพีร์จึงรีบนำเรื่องนี้ไปเตือนเพียงขวัญ แต่เธอกลับไม่เชื่อ และทำท่ารังเกียจเขาจนออกนอกหน้า และยังมีนายอัทธ์ หนุ่มหน้าตาดี มาตามรับ-ส่งอีก ทำให้รณพีร์ผู้ที่ไม่เคยถูกผู้หญิงหมางเมิน ถึงกับอารมณ์เสียเพราะนึกไม่ถึงว่าเพียงขวัญจะไม่สนใจไยดีเขาถึงเพียงนี้ แต่เขากลับเป็นห่วงหญิงสาว จึงขับรถตามเธอไปห่าง ๆ ตลอดวันเพื่อดูสถานการณ์ แต่ก็พลาดจนได้เมื่อเจอกับวิไลรัมภาลากตัวไปที่อื่น และคลาดสายตาจนเพียงขวัญถูกจับตัวไปรณพีร์ตามไปช่วยทัน ทำให้เพียงขวัญรู้สึกซาบซึ้งและเสียใจที่ไม่เชื่อเขาแต่แรก จนเกือบเสียท่าเสี่ยเพ้ง ทำให้สองคนได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

รณพีร์เข้ามาคลุกคลีกับครอบครัวของเพียงขวัญ ด้วยการโกหกว่าตนเป็นลูกชาวสวนยากจนมาจากบ้านนอก ท่ามกลางความไม่พอใจของบุหลันน้าแท้ ๆ ของเพียงขวัญที่ปากร้ายและมักพูดจาดูถูกเพียงขวัญเรื่องสักวันหนึ่งจะต้องตก เป็นเมียน้อย และท้องไม่มีพ่อ หัวใจเพียงขวัญเหมือนถูกสาป เมื่อยิ่งรู้ความจริง ม.ร.ว.รณพีร์กับม.ล.วิไลรัมภา เป็นคู่หมายกันและกำลังจะมีงานมงคลเกิดขึ้น รณพีร์รู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เขากลายเป็นคนที่เพียงขวัญเกลียดชัง เขาถูกตัดสัมพันธ์ทันที อีกทั้งหม่อมเอียดก็ได้มัดมือชก หาฤกษ์ยามกับทางฝ่ายหญิงจนเป็นมั่นเหมาะ และให้เลิกคบหากับดาราสาวทันที

รณพีร์จึงหลบเลี่ยงด้วยการไปอยู่ที่กองบินตั้งแต่วันนั้น รณพีร์ใช้ความพยายามในการง้อและปรับความเข้าใจ แต่ทุกอย่างก็ไร้ผล เพราะสิ่งที่เขากระทำเหมือนไม่ให้เกียรติเธอและกระทบใจเธอมากเพราะอดุลย์พ่อ ของเธอก็หลอกลวงแม่เรื่องมีครอบครัวอยู่แล้ว ทำให้เธอเกลียดชังพ่อตัวเองมาก น้าบุหลันเองก็ถูกสามีทอดทิ้งจนต้องเลี้ยงประณตตามลำพัง แต่รณพีร์ก็ไม่เลิกความพยายาม เขาหมั่นไปหาเธอ ถึงแม้จะเจอกับความเย็นชาและยังมีนายอัทธ์ที่คอยขัดขวางอย่างจริงจัง แต่เขาก็ไม่ท้อเพราะอย่างน้อยเขาก็รับรู้ได้ว่า ในใจเพียงขวัญมีเขาเพียงคนเดียว และเธอก็รักเขาด้วยใจไม่เกี่ยวกับฐานันดรศักดิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขามีกำลังใจฝ่าฟันม่านประเพณีเพื่อเธอ

ฝ่ายหม่อมเอียดทนไม่ได้ ที่รณพีร์จะคว้าดาราหนังชื่อเสียงอัปยศ มาเป็นสะใภ้จุฑาเทพคนสุดท้าย นางจึงไปหาเพียงขวัญที่กองถ่ายยื่นคำขาด พร้อมกับเงินก้อนใหญ่ให้เลิกรากับรณพีร์ เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีความดีงาม สิ่งที่คลางแคลงใจของรณพีร์ก็จางหายไปเมื่ออัทธ์เป็นแค่พี่ชายไม่ใช่คู่รัก การที่เพียงขวัญกุเรื่องการแต่งงานก็เพียงเพราะต้องการให้เขาเลิกราตามที่ หม่อมเอียดขอร้องเธอเท่านั้น เมื่อรณพีร์ออกจากโรงพยาบาล เขาจึงขอเพียงขวัญเป็นพยาบาลดูแลเขา ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่รักษาต่อ ทำให้หม่อมเอียดต้องเลยตามเลยให้เพียงขวัญมาอยู่ที่วังจุฑาเทพ

เรื่องราวเลวร้ายกลับกลายเป็นดี เพราะเพียงขวัญได้พิสูจน์ถึงความดีงามให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ถึงแม้เธอจะได้รับ ความกดดันมากมายเพียงใด ก็ไม่ได้ทำให้เธอต้องทำร้ายใครต่อใคร เหมือนวิไลรัมภาที่อยู่ในตระกูลสูงแต่จิตใจกลับต้อยต่ำ ทำให้หม่อมย่าทั้งสองแห่งจุฑาเทพ เข้าใจอย่างถ่องแท้ในใจแล้วว่าเกียรติยศ ฐานันดรศักดิ์ใด ๆ ก็มิสู้ความดี ที่ต้องมีไว้ประจำกายและประจำใจที่ใคร ๆ ก็มีอาจฉุดรั้งให้ตกต่ำลงได้

และด้วยเหตุการณ์นี้เอง นภาเริ่มใจอ่อนกับอดุลย์พ่อม่าย ที่ไม่เคยลืมความรักกับนางรำ ที่สวยที่สุดคนนั้นเมื่อยี่สิบปีก่อน ทั้งสองเริ่มรื้อฟื้นความสัมพันธ์ขึ้นใหม่ อัทธ์เริ่มจีบจันทน์กระพ้ออย่างเป็นจริงเป็นจัง บุหลันเองก็สารภาพออกมาว่าที่เธอปากร้ายกับเพียงขวัญ ก็เพราะไม่ต้องการให้เพียงขวัญถูกผู้ชายหลอกเหมือนนภาและตนเอง ผู้กำกับชนะ แม้ถูกเสี่ยแห้งไล่ออกไม่ให้ทำหนัง รณพีร์ก็หานายทุนใหม่มาให้ชนะจนได้ ศักดาลูกเจ้าตัวใหญ่ เห็นอุปกรณ์สลิงของชนะ เป็นนวัตกรรมที่มีอนาคต เขาผลักดันให้ชนะสร้างหนังต่อจนเสร็จ ชนะกลายเป็นผู้กำกับคนดังไปทันที

ความรักของ ม.ร.ว.รณพีร์ สิงห์หนุ่มคนสุดท้องของจุฑาเทพ ก็ปิดฉากลงด้วยความรักและความเข้าใจ ท่ามกลางความอบอุ่น ของพี่ชายและพี่สะใภ้ ต่อมาไม่นานพวกเขาก็ได้ผลิตทายาทแข่งขันกันอย่างไม่น้อยหน้า ทุกคนมองเด็กชายทั้งห้าคนอย่างปลื้มใจ เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปวันเก่า ๆ ที่พวกเขาได้มาเป็นพี่น้องที่รักกันแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง และพวกเด็ก ๆ ก็คงจะเป็นห้าสิงห์แห่งจุฑาเทพรุ่นต่อไปที่จะไม่มีวันทิ้งกันแน่นอน ติดตามชม ละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรณพีร์ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรณพีร์

นักแสดงละคร คุณชายรณพีร์

เจมส์ มาร์ รับบท รณพีร์
ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง รับบท เพียงขวัญ
จารุวรรณ ปัญโญภาส รับบท หม่อมเอียด
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท ย่าอ่อน
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ รับบท พ่อเลี้ยงอดุลย์
ฐากูร การทิพย์ รับบท อัทธ์
สาวิตรี สุทธิชานนท์ รับบท จันทน์กระพ้อ
ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท นภา
มนัสวิน นันทเสน รับบท ชนะ
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท ยาย
อริศรา วงษ์ชาลี รับบท บุหลัน
ศศิเดช ศศิประภา รับบท ประณต
กนกร ใจชื่น รับบท บงกช
ศานติ ศันติเวชกุล รับบท เสี่ยเพ้ง
เมธัส รัตนวารีสิน รับบท ยอดยศ
ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ รับบท พิมพรรณ
ปาลิดา คุ้มวงศ์ดี รับบท ไฮไล
เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา รับบท ม.ล.วิไลรัมภา
จักริน ภูริพัฒน์ รับบท ขันติ
วริศ ลิ่มอติบูลย์ รับบท กำพล
สมิทธิ ลิขิตมาศกุล รับบท ศักดา
พาที สารสิน รับบท จ่าละไม
ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท เดชคำแหง
ฐานุพงศ์ ศักดิ์ธนาวัฒน์ รับบท ถนอม
ณัฐนี สิทธิสมาน รับบท สมศรี
กรินทร์ อารีรักษ์ รับบท สมบุญ
อุษณีย์ พึ่งป่า รับบท แจ๋ว
โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบท คุณนายทองสุข
ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท คุณนายมิ่ง
ศิรินุช เพ็ชรอุไร รับบท คุณนายสดใส

คุณชายรัชชานนท์

เมื่อ ม.ร.ว.รัชชานนท์ จุฑาเทพ หรือคุณชายเล็ก หนีการดูตัวที่หม่อมย่าเอียดต้องการจับคู่กับ ม.ล.ศินีนุช เทวพรหม เพื่อทำตามพระประสงค์ของหม่อมเจ้าวิชชากรที่ต้องการดองกับเทวพรหมให้จงได้ รัชชานนท์จึงร่วมวางแผนกับรณพีร์ น้องชายคู่หูคู่เที่ยว หนีการดูตัวกับศินีนุชได้อย่างเฉียดฉิว โดยรีบหนีไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธาประจำที่จังหวัดหนองคายและออก เดินทางไปโดยไม่บอกใคร การไปของรัชชานนท์ทำให้ทุกคนที่วังจุฑาเทพวุ่นวายกันไปหมด
 
ที่หนองคายรัชชานนท์ได้ช่วยจันทา สาวบ้านป่าลูกสาวของพรานเจ้ยจากการข่มเหงของทหารเวียงพูคำ รัชชานนท์เป็นขาลุยชอบเดินป่าถ่ายรูปจึงขอให้พรานเจ้ยนำทางเที่ยวในป่า โดยมีจันทาร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งไม่ได้รู้เลยว่าการเดินทางเข้าป่าครั้งนี้ทำให้ชีวิตของรัชชานนท์ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อต้องเจอกับกลุ่มทหารเวียงพูคำตามมาแก้แค้น ทั้งจันทาและรัชชานนท์ถูกยิงบาดเจ็บ ส่วนพรานเจ้ยปกป้องลูกสาวจนตัวตาย แต่ก่อนหน้านั้นได้ให้สร้อยรูปพระจันทร์แก่จันทาไว้ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง ของเธอรัชชานนท์และจันทารอดชีวิตเพราะได้สร้อยสาวบ้านป่าลึกลับและ จ่อย เพื่อนคู่หูได้ช่วยไว้
 
สร้อยกับจ่อยช่วยกันพารัชชานนท์กับจันทาเข้ามารักษาตัวอยู่ที่หมู่บ้านวลาหก ซึ่งเป็นหมู่บ้านลี้ภัยของชาวเวียงพูคำ สร้อยค้นพบว่ารัชชานนท์คือคนในคำทำนายของแม่เฒ่าที่จะมาทำลายมนต์หมอกที่ปก ป้องหมู่บ้านวลาหกให้เสื่อมคลาย จึงพยายามจะกำจัดรัชชานนท์ออกไปแต่ก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งพ่อใหญ่ พ่อของสร้อยและเป็นผู้นำหมู่บ้านได้สั่งไว้ให้ดูแลรัชชานนท์จนกว่าจะถึงเวลา เพราะรัชชานนท์จะเป็นผู้นำของสำคัญกลับมาสู่ชาวเวียงพูคำ สร้อยทำอะไรไม่ได้เพราะไกรสรและแฮรี่มือขวาของพ่อใหญ่ต่างเห็นชอบในทางเดียว กัน
 
รณพีร์กับชัชวีร์มาหารัชชานนท์ที่หนองคายจึงรู้ว่า รัชชานนท์หายเข้าไปในป่า เรื่องรู้ถึงวังจุฑาเทพธราธรและพุฒิภัทรจึงต้องไปช่วยตามรัชชานนท์ในป่า โดยศินีนุชขอตามไปด้วย ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากย่าอ่อน และการบีบคั้นจากคุณหญิงดารณีนุช ทำให้หม่อมเอียดต้องออกปากให้หลานชายพาศินีนุชไปด้วย รณพีร์กับชัชวีร์ไม่ยอมรอพวกพี่ชาย ออกเดินทางไปก่อนโดยได้พรานเกิ้นพรานป่าปลดระวางพาไป
 
แม่เฒ่ารักษารัชชานนท์กับจันทาจนหายดี รัชชานนท์รู้สึกผิดที่ได้พาจันทาเข้าป่ามาแล้วทำให้ต้องสูญเสียพ่อไป และทำให้เธอต้องขาดที่พึ่งพิง จึงตัดสินใจขอจันทาแต่งงานและรับปากจะพาไปอยู่ที่พระนครด้วย จันทารู้สึกตัวเองต่ำต้อยไม่กล้าจะรับปากแต่ใจจริงก็เอนเอียงไปแล้ว
 
แต่แล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไป เมื่อสร้อยกลุ้มใจเรื่องที่พ่อใหญ่ต้องการให้เธอออกจากหมู่บ้านไปพร้อมกับ รัชชานนท์ เมื่อรู้ว่าอีกไม่นานพวกทหารเวียงจะต้องตามมาถึงหมู่บ้านวลาหก นายพลเซกองได้โค่นบังลังก์เจ้าหลวงสุริยวงศ์เมื่อสิบห้าปีก่อน ทำให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ ชาวเวียงพูคำต่างพากันอพยพข้ามมาไทย นายพลเซกองจอมเผด็จการได้สั่งให้พวกทหารเวียงตามจับตัวกลับไปเพื่อไม่ให้รวม กลุ่มเป็นกองกำลังกู้ชาติ พ่อใหญ่ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่จงรักภักดีต่อเจ้าหลวง จึงเป็นเป้าหมายให้ทหารเวียงคอยเล่นงาน
 
สร้อยไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อใหญ่จึงต้องผลักไสไล่ส่งให้เธอไปด้วย เธอจึงขึ้นไปหารัชชานนท์ที่เรือนเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ รัชชานนท์เห็นใจสร้อยจนเผลอไผลกอดปลอบใจสร้อย ไกรสรและแฮรี่มาพบทั้งสองใกล้ชิดกันในที่รโหฐานกลางดึก เห็นว่าทั้งคู่ทำเรื่องผิดผีเข้าแล้ว พ่อใหญ่จึงตัดสินให้ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มิฉะนั้นเขาก็ต้องถูกลงโทษถึงแก่ชีวิตทีเดียว พิธีถูกจัดขึ้นอย่างดีตามประเพณีทำให้จันทาเสียใจมาก รัชชานนท์จึงขอให้จันทามาเป็นน้องสาวเพื่อเขาจะได้ดูแลเธอไปตลอดชีวิต
 
ในที่สุดธราธรกับพุฒิภัทรก็มาสมทบกับรณพีร์และชัชวีร์ โดยมีศินีนุชเป็นภาระให้การเดินป่าเป็นไปอย่างทุลักทุเล ธราธรจึงต้องสั่งให้ศินีนุชรออยู่ที่แคมป์ แล้วทั้งสี่ก็เดินทางค้นหาจนเจอเข้ากับรัชชานนท์พี่น้องเจอกันดีใจมากแต่ก็ ต้องช็อกเมื่อรู้ว่า รัชชานนท์แต่งงานแล้ว ยังดีที่ศินีนุชว่าที่คู่หมั้นรัชชานนท์รอพวกเขาที่แคมป์ชายป่าไม่อย่างนั้น คงเกิดเรื่องใหญ่ สร้อยโกรธเมื่อรู้เรื่องรัชชานนท์มีคู่หมายอยู่แล้วจนชัชวีร์ต้องมาทำความ เข้าใจกับสร้อยให้ปิดบังเรื่องแต่งงานจนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพฯ เพราะกลัวศินีนุชจะโวยวายทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตได้
 
เมื่อถึงเวลาพ่อใหญ่สั่งให้สร้อยไปอยู่กรุงเทพฯ กับรัชชานนท์ โดยมีภารกิจต้องตามหาเจ้ารังสิมันต์เจ้าชายรัชทายาทให้เจอ พร้อมกับให้จ่อยไปตามดูแลด้วย จ่อยกล่อมจนจันทายอมไปด้วย ก่อนกลับรัชชานนท์ได้จดทะเบียนสมรสกับสร้อยกันเหนียวไว้เพื่อไม่ให้หม่อม เอียดบิดพลิ้วไล่สร้อยไป และทันทีที่หม่อมเอียดกับย่าอ่อนรู้เรื่องก็ลมแทบจับ ต่างผิดหวังที่ไม่สามารถจับคู่ให้หลานได้เสียที
 
หม่อมเอียดยังเมตตาให้โอกาสสร้อยหนึ่งเดือนที่จะทำตัวให้เป็นแม่ศรีเรือน เพราะสร้อยไม่มีคุณสมบัติทั้งกิริยาและการเรือน เพราะเป็นสาวชาวป่า สร้างความรังเกียจให้ย่าอ่อนอย่างมาก จึงมีการทดสอบให้สร้อยทำอาหารที่คิดว่าอร่อยที่สุดให้ชิม สร้อยจึงเลือกทำข้าวต้มมัดแต่เหล่าคุณชายไม่มั่นใจจึงนำขนมจากร้าน ม.ล.เกษรา มาสับเปลี่ยนให้ย่าทั้งสองชิมจนพอใจ แต่เมื่อสร้อยรู้ความจริงก็ไปสารภาพว่าไม่ใช่ฝีมือของตนเอง ทำให้ย่าทั้งสองได้เห็นว่าอย่างน้อยสร้อยก็มีความซื่อสัตย์และคาดโทษเหล่า คุณชายที่ทำเรื่องแบบนี้ขึ้น
 
พอดีรัชชานนท์ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการประท้วงครั้งใหญ่ของราช อาณาจักรเวียงพูคำที่มีนายพลเซกองกุมอำนาจปกครองอยู่ และปกครองแบบเอารัดเอาเปรียบจนชาวบ้านต้องการฟื้นฟูระบอบเดิมที่เคยมีเจ้า หลวงสุริยวงศ์ปกครอง เซกองจึงบุกไปที่หมู่บ้านจับตัวเจ้าหลวงสุริยวงศ์มาขังไว้ที่เวียงพูคำ ทำให้รัชชานนท์ตกใจเพราะเมื่อเห็นภาพของเจ้าหลวงสุริยวงศ์เป็นคนเดียวกับพ่อ ใหญ่ ดังนั้นสร้อยจึงต้องเป็นเจ้าหญิงสร้อยฟ้าแห่งราชอาณาจักรเวียงพูคำที่เขาเคย ได้ยินชื่อนั่นเอง แต่เขาก็ปิดเป็นความลับเพราะเกรงว่าสร้อยจะวู่วามหนีกลับไปช่วยพ่อเสียก่อน
 
ต่อมาได้มีการจัดเลี้ยงต้อนรับคณะกรรมการยูเนสโกเพื่อหาทางแก้ปัญหากรณีประท้วง ของราชอาณาจักรเวียงพูคำ รัชชานนท์พยายามปิดบังเรื่องนี้กับสร้อยแต่ไม่สำเร็จ สร้อยจึงร่วมอยู่ด้วยในฐานะพลเมืองของเวียงพูคำ ในงานเลี้ยงนี้เองสร้อยก็ทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถจากความคิดว่าเธอเป็น เพียงสาวชาวป่าไร้การศึกษา แต่เธอกลับต้อนรับพูดคุยกับคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีต่างประเทศด้วยภาษา อังกฤษ และภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษา สร้อยซักถามการเมืองเกี่ยวกับประเทศของเธอและรู้ว่าจะมีการเดินทางไปเจรจาใน เร็ว ๆ นี้เพื่อคลี่คลายด้วย สร้อยดีใจมาก
 
แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อความจริงเปิดเผยว่า ม.ล.ชัชวีร์ เทวพรหม แท้จริงแล้วเป็นเจ้าชายรังสิมันตุ์ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 18 ปีก่อน หลังจากเจ้าส่องดาวถูกไล่ล่าจึงนำโอรสมาฝากไว้กับ ม.ร.ว.อนุพันธ์ ที่เป็นพระสหาย จึงเลี้ยงรับไว้เป็นลูกอีกคน เมื่อเรื่องราวกระจ่างทำให้ ม.ล.ชัชวีร์ สำนึกในหน้าที่ที่ต้องกลับไปกู้บัลลังก์และช่วยพระบิดาที่ถูกจับไว้ด้วย เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณชายรัชชานนท์จึงเปิดเผยเรื่องที่ตนเองรู้ว่า สร้อยก็คือเจ้าหญิงสร้อยฟ้าพระขนิษฐาของเจ้าชายรังสิมันตุ์ ซึ่งสร้อยเองก็ไม่เคยรู้ฐานะตัวเองมาก่อนทำให้สองพี่น้องได้พบหน้ากันเป็น ครั้งแรก
 
คุณชายทั้งสามยกเว้นคุณชายปวรรุจที่ไม่อยู่จึงตกลงใจที่ร่วมกันช่วย ม.ล.ชัชวีร์ กู้บัลลังก์คืนมาให้ได้ ทั้งหมดจึงเดินทางไปที่เวียงหูคำพร้อมกับคณะยูเนสโก แต่ปรากฏว่าถึงสนามบินถูกทหารดักจับตัวทุกคนไป ยกเว้นเจ้าหน้าที่ยูเนสโกเท่านั้น ทำให้รัชชานนท์ใช้โอกาสอันน้อยนิดสารภาพรักกับเจ้าหญิงสร้อยฟ้า เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน และทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักที่มีต่อกันอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก
 
แต่แล้วคนที่จับมากลับเป็นคนของคุณชายปวรรุจ เพราะเขารู้จากเจ้าหน้าที่พูดว่ามีคนแจ้งให้เซกองรู้ตัวแล้วว่าเจ้าชาย รังสิมันตุ์ได้เดินทางเข้าไปเวียงพูคำ เขาจึงออกอุบายจับตัวทุกคนมาในที่ปลอดภัยก่อนแล้วค่อยหาจังหวะเข้าไปใหม่ และแล้วการประท้วงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เหล่าคุณชายได้ช่วยกันกู้บัลลังก็ให้กับ ม.ล.ชัชวีร์ จนสำเร็จ ทั้งสองคนได้รับสถาปนาเป็นเจ้าชายรังสิมันตุ์และเจ้าหญิงสร้อยฟ้าอย่างสม เกียรติ แต่ก็ทำให้รัชชานนท์รู้สึกตัวเองต่ำต้อยขึ้นมาทันที พอเมามายก็ฉีกทะเบียนสมรสต่อหน้า และหนีกลับไปอย่างเงียบ ๆ ทำให้เจ้าสร้อยฟ้าเสียกำลังใจอย่างมาก
 
สองเดือนต่อมา เจ้าสร้อยฟ้าลาออกจากตำแหน่งเจ้าหญิงและได้กลับมาหาคุณชายรัชชานนท์พร้อมกับ ทะเบียนสมรสที่คัดสำเนามาใหม่ และจะขออยู่กันคุณชายรัชชานนท์ตลอดไป ทำให้ย่าเอียดและย่าอ่อนที่เพิ่งรู้เรื่องว่าที่แท้สร้อยสาวชาวป่ากลับกลาย เป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์จนหลานชายตัวเองแทบเอื้อมไม่ถึง ถ้าเธอไม่สละตำแหน่งลงมาครองคู่ ทำให้ย่าเอียดกับย่าอ่อนนับถือในความรักของเจ้าหญิงชาวป่าที่เคยดูถูกไว้ อย่างหมดใจ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานครองคู่กันอย่างมีความสุขติดตามชม ละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์ เริ่มตอนแรกวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2556
 
รายชื่อนักแสดงนำในละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายรัชชานนท์
 
ธนิน มนูศิลป์   รับบท   รัชชานนท์
ณฐพร เตมีรักษ์   รับบท   สร้อยฟ้า
พงศกร เมตตารินกานนท์   รับบท   จ่อย
จรณ โสรัตน์   รับบท   ม.ล.ชัชวีร์
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง   รับบท   เจ้าหลวงสุริยวงศ์
ธนากร โปษยานนท์   รับบท   ม.ร.ว.อนุพันธ์
มยุริน ฝองผุดพันธ์   รับบท   ม.ร.ว.ดาณีนุช
สันติสุข พรมศิริ   รับบท   นายพลเซกอง
ศักราช ฤกษ์ธำรง   รับบท   ไกรสร
โอลิเวอร์ บีเวอร์   รับบท   แฮรี่
ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์   รับบท   แม่เฒ่า
เอกพันธ์ บันลือฤทธ์   รับบท   โพนโฮง
ต๋อง ชวนชื่น   รับบท   บุญโฮม
เตชินท์ ปิ่นชาตรี   รับบท   ทับทิม
ภัทรากร ตั้งศุภกุล   รับบท   จันทา
เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์   รับบท   เจ้าส่องดาว
อุดม ชวนชื่น   รับบท   พรานเกิ้น
อ.เกริกเกียรติ พันธ์พิพัฒน์   รับบท   พรานเจ้ย