Category Archives: ละครปี 2553

ละครช่อง 3 ปี 2553

มงกุฎดอกส้ม 2553

มงกุฎดอกส้ม เป็นเรื่องราวของ คำแก้ว สาวน้อยเมืองเหนือ วัยประมาณ 15 ปี บอบบางแลดูน่าสงสาร เธอมีความฝันสวยงามเฉกเช่นเด็กสาวทั่วไปในรั้วคอนแวนต์ นั่นคือการสวมชุดวิวาห์ที่ขาวสะอาด ฟูฟ่อง แลดูบริสุทธิ์ราวกับเจ้าหญิงน้อย ๆ ในเทพนิยาย และดอกส้มคือดอกไม้ที่คำแก้วรักมากที่สุด เธอปรารถนาและรอคอยมาชั่วชีวิตที่จะได้นำมันมาร้อยเป็นมงกุฎและสวมใส่ในวัน แต่งงาน อนิจจา…ความจริงและความฝันช่างห่างไกลกันลิบลับนัก เมื่อเธอต้องถูกส่งมาเป็นภรรยาน้อยของเจ้าสัวชราท่านหนึ่งแห่งย่านภาษีเจริญ ภายหลังการเสียชีวิตของบิดาเนื่องจากหนี้สินที่มากมาย และมารดาเลี้ยงของเธอไม่ปรารถนาจะเลี้ยงดูเธออีกต่อไป

เจ้าสัวเชงสือเกียง คือว่าที่สามีของคำแก้ว มาบัดนี้เขามีอายุประมาณ 60 ปีแล้ว แม้ว่าวัยจะล่วงเลยมาขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการหาภรรยาเล็กๆ เพื่อเสริมบารมีของท่านเจ้าสัวลดลงเลยแม้แต่น้อย แต่ตรงกันข้ามท่านกลับพออกพอใจยิ่งนักที่สามารถสรรหาภรรยาเด็กขนาดคำแก้วได้ ท่านเจ้าสัวรอคอยวันที่เขาจะได้ครอบครองความงามและความบริสุทธิ์นี้อย่างใจ จดจ่อ

คำแก้วเดินทางมาถึงยังคฤหาสน์ใหญ่สีแดงเก่าคลาคล่ำแห่งคลองภาษีเจริญอย่าง เงียบเชียบ โดยที่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า บัดนี้คุณนายที่สี่หรือภรรยาคนใหม่ของท่านเจ้าสัวได้เดินทางมาถึงแล้ว เนื่องจากท่านเจ้าสัวรู้ดีว่าการหาภรรยาเล็ก ๆ เพื่อมาเสริมบารมีในวัยขนาดนี้นั้นเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่ไม่ใช่น้อย ท่านจึงเลือกที่จะไม่บอกกล่าวใครเพื่อไม่ให้เป็นการตะขิดตะขวงใจเสียเปล่า ๆ เมื่อมาถึงคำแก้วได้ กิมลั้ง เด็กสาวชาวจีนท่าทางแก่นแก้วและซุกซนไม่เกรงกลัวใคร ให้มาเป็นต้นห้องคอยรับใช้เธอ

แต่การพบกันครั้งแรกระหว่างคำแก้วและกิมลั้งนั้นไม่เป็นที่น่าประทับใจสัก เท่าไรนัก เมื่อกิมลั้งเองก็รู้สึกได้ว่า คุณนายคนใหม่นั้นแลดูสวยงามและเยือกเย็นก็จริง หากแต่เป็นเพียงภาพลวงตาที่เห็นภายนอกเท่านั้น แท้จริงแล้วเธอซ่อนความอำมหิตและร้ายกาจอยู่ภายใต้ท่าทีที่เรียบเฉยนี้เลยที เดียว กิมลั้งเกลียดคุณนายคนใหม่ เธอมีความฝันและความทะเยอทะยานอยู่ไม่น้อยทีเดียว เมื่อเธอหวังที่จะเป็นคุณนายที่สี่แห่งอาณาจักรตระกูลเชงแห่งนี้ ความมือไวใจเร็วของท่านเจ้าสัวที่ผ่านมาทำให้กิมลั้งย่ามใจและใฝ่ฝันจะเป็น คุณนายใช้ชีวิตอย่างร่ำรวยสุขสบาย เธอเกลียดคุณนายคนใหม่ที่มาแย่งตำแหน่งของเธอ ส่วนคำแก้วเองก็รู้สึกเกลียดชังเด็กสาวที่ช่างต่อล้อต่อเถียง ชอบซุบซิบนินทา แถมยังมีท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อเธอยิ่งนัก

ท่านเจ้าสัวพาเธอไปแนะนำตัวต่อภรรยาทั้งสามคนซึ่งอยู่ที่นี่มานานแสนนาน เม่งฮวย ภรรยาชาวจีนคนแรกของท่านเจ้าสัวที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา บัดนี้เธอกลายเป็นเพียงหญิงที่ไร้เสน่ห์ในสายตาของสามี หากแต่ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านท่านเจ้าสัวก็ให้เกียรติเธอเป็นผู้ดูแลบริหาร และจัดการเรื่องผลประโยชน์ รายรับรายจ่ายและเป็นผู้ที่คอยควบคุมดูแลบริวารทุกคน อำนาจสิทธิ์ขาดทุกอย่างจึงเป็นของเม่งฮวย โดยที่ท่านเจ้าสัวไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่มาร่วมหลับนอนกับเธอเฉกเช่นสามีภรรยาทั่วไปอีกด้วย เม่งฮวยต้อนรับคำแก้วตามหน้าที่ทั้ง ๆ ที่ในใจลึก ๆ แล้ว เธอไม่เห็นด้วยเลยที่ท่านเจ้าสัวมีภรรยาเพิ่มและอายุน้อยถึงเพียงนี้

เย นหลิง คือภรรยาคนที่สองของท่านเจ้าสัว ท่านเจอเธอเมื่อเดินทางไปติดต่อการค้าที่สิงคโปร์ในฐานะหลานสาวท่านทูต แต่ไม่มีใครที่ล่วงรู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้เป็นหลานสาวท่านทูต โดยสายเลือด หากแต่เป็นเพียงญาติห่าง ๆ ของแม่บ้านที่ทำงานให้แก่ท่านทูตเท่านั้น ความน่ารักสวยงามบวกความฉลาดเฉลียวและทะเยอทะยาน ทำให้เยนหลิงสามารถจดจำและเลียนแบบมารยาทสมบัติผู้ดีได้ทุกประการ และเมื่อวันเวลาผ่านไปเธอก็สามารถเลื่อนฐานะกลายเป็นหลานสาวท่านทูตได้อย่าง แนบเนียน และด้วยความทะเยอทะยานนี้เอง ทำให้เธอกลายเป็นภรรยาคนที่สองของเจ้าสัวเชงสือเกียงภายในระยะ เวลาที่ไม่นานนัก เยนหลิงแสดงท่าทีต้อนรับคำแก้วอย่างอบอุ่นแม้ว่าหางตาจะแอบแสดงความอิจฉา ริษยาและความดุร้ายออกมาบ้าง แต่เธอก็พยายามซ่อนมันไว้ภายใต้ท่าทีที่เรียบร้อย อ่อนหวาน น่ารักตามแบบฉบับของเธอ

เหม่เกว่ หรือ โรส คุณนายนางเอกคณะอุปรากรจีน เธอเป็นคนที่สวยที่สุดในบรรดาภรรยาทั้งหมดของท่านเจ้าสัว ยามว่างเธอมักชอบร้องเพลงและร่ายรำอยู่เสมอ ๆ ท่าทางที่ร่าเริงดั่งนกตัวน้อย ๆ มารยาหญิงหลายร้อยเล่มเกวียนที่สรรหามาใช้ ทำให้โรสเป็นที่โปรดปรานของท่านเจ้าสัวยิ่งนัก ซึ่งสร้างความอิจฉาให้แก่บรรดาภรรยาคนอื่น ๆ ของท่านเจ้าสัวอย่างยิ่ง คำแก้วขออนุญาตท่านเจ้าสัวไปพบโรสด้วยตัวเธอเอง หากแต่โรสไม่ยอมออกมาพบบอกแต่เพียงว่าไม่สบายให้เธอกลับไปก่อน คำแก้วกลับมาที่ห้องของเธอด้วยความรู้สึกแปลก ๆ กับคนที่นี่ ทุกคนเป็นเช่นไรไม่มีใครล่วงรู้ได้ ทุกอย่างยากแท้แก่การหยั่งถึงความจริงใจที่อยู่เบื้องลึกยิ่งนัก

คืนแรกของการเข้าหอ คำแก้วไม่ได้มีความรู้สึกอิ่มเอมในความรักหรือความสุขสมหวังใด ๆ เลยแม้แต่น้อย เมื่อสามีของเธอคืกนกกระยางแก่คนหนึ่งในความรู้สึกเท่านั้น กลางดึกในคืนวันนั้นเองท่านเจ้าสัวก็จำต้องรีบจากภรรยาคนล่าสุดของท่านไป เนื่องด้วยโรสไม่สบาย ไม่มีใครรู้ว่าโรสป่วยเป็นอะไร แต่สิ่งที่แท้จริงคือท่านเจ้าสัวก็ไม่ได้กลับมาที่ห้องคำแก้วอีกเลยตลอดค่ำ คืนนั้น คำแก้วเองก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด แต่ตรงข้ามเธอกลับรู้สึกสบายใจอย่างประหลาดเมื่อต้องอยู่คนเดียว เธอใช้เวลาในขณะนั้นเพื่อนึกถึงบ้านที่เชียงดาว ไร่ส้ม และบิดาของเธอ ซึ่งล้วนแต่เป็นอดีตและความทรงจำที่มีค่า มีความสุข และไม่มีวันหวนกลับมาได้อีกเลย

ชีวิตในแต่ละวันของคำแก้วดำเนินไปอย่างช้า ๆ และน่าเบื่อหน่าย เธอเริ่มเล็งเห็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายใต้ความร่ำรวยและอาณาจักรที่ใหญ่โตของตระกูลเชงแห่งนี้ เต็มไปด้วยความลึกลับและมืดดำหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ไม่ใช่น้อย ปริศนาบ่อน้ำหลังบ้านที่ดูรกร้างและเย็นเยียบ บ่อซึ่งใคร ๆ ต่างเรียกขานว่ามันคือบ่อนรก หญิงสาวกี่คนที่ต้องตายอย่างน่าอนาถในบ่อร้างนั่น ความอิจฉาริษยาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างภรรยาทั้งสามคนของท่านเจ้าสัว เป็นสิ่งที่เธอเริ่มเบื่อหน่าย ทำให้เธอต้องคอยระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา

โรสหรือคุณนายที่สาม หญิงสาวที่ร่าเริงดังนกน้อยอยู่ตลอดเวลา เธอเริ่มแวะเวียนมาเป็นเพื่อนคุยของคำแก้วอยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะมีทีท่าแปลกในตอนแรกก็ตาม โรสคุยได้ทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องบนเตียงซึ่งทำให้คำแก้วรู้สึกกระดากอยู่ไม่ ใช่น้อย ไปจนถึงชีวิตความเป็นอยู่ต่าง ๆ ในบ้านที่ต้องแข่งขันกับภรรยาต่าง ๆ ของท่านเจ้าสัว คู่อาฆาตที่สำคัญของโรสหาใช่ใครอื่นคือ เยนหลิงสตรีหน้าเนื้อใจเสือคนนั้นนั่นเอง เธอแข่งมีลูกกับโรส และแล้วโรสก็เป็นฝ่ายชนะเมื่อเธอมีลูกชายและคลอดออกมาก่อนลูกสาวเยนหลิง ทั้งที่เยนหลิงให้หมอใช้คีมดึงเด็กออกมาอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่เป็นผล โรสหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างภาคภูมิใจในชัยชนะของตนเอง ในขณะที่คำแก้วรู้สึกสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง

เยนหลิงคืออีกคนที่พยายามสร้างความสนิทสนมกับคำแก้วตลอดเวลา บ่ายจัดวันหนึ่งเยนหลิงต้องการให้คำแก้วเป็นผู้ตัดผมให้แก่เธอ แม้ว่าคำแก้วจะปฏิเสธหลายต่อหลายครั้งว่าเธอไม่มีความถนัดในเรื่องนี้เลย และแล้วก็เกิดเหตุขึ้นเมื่อกรรไกรคมกริบได้ตัดใบหูของเยนหลิงเข้าโดยบังเอิญ เสียงร้องโอดโอยปนกับเสียงด่าทอได้ดังขึ้นก้องอาณาจักรตระกูลเชง คำแก้วหน้าซีดเผือด เธอหลบเข้าไปในห้องและอยู่ที่นั่นตลอดบ่ายโดยที่ไม่กล้าออกมาอีกเลย แต่เหตุการณ์นี้กลับสร้างความสะใจและสาสมใจให้แก่โรสและเม่งฮวยยิ่งนัก สองคุณนายหัวเราะอย่างสะใจที่มีใครสักคนสามารถจัดการนังคุณนายที่สองจอมยิ่ง ผยองได้

วันที่เก้า เดือนเก้า เป็นวันที่คารวะญาติอาวุโสตามธรรมเนียมจีนโบราณ วันนั้นเป็นวันแรกที่คำแก้วได้มีโอกาสพบกับ คุณชายใหญ่ หรือ คุณก้องเกียรติ เจนพาณิชย์สกุล บุตรชายคนโตของเม่งฮวย เมื่อแรกที่ได้พบหน้าก้องเกียรติรู้สึกถึงความผูกพัน ความสงสาร และความอบอุ่นอย่างประหลาดที่เขามีให้แก่แม่เลี้ยงสาวของเขาเอง ซึ่งคำแก้วเองก็รู้สึกไม่แตกต่างกันนัก คุณชายใหญ่ไม่ได้พักที่นี่หากแต่มีบ้านส่วนตัวอยู่ที่สาธร โดยท่านเจ้าสัวมอบกิจการทั้งหมดให้เขาเป็นผู้ดูแล จัดการบริหารงานทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว ส่วนท่านเจ้าสัวก็มาใช้ชีวิตส่วนตัวของท่านอย่างมีความสุขที่คฤหาสน์แดงริม คลองภาษีเจริญแห่งนี้ คำแก้วได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณชายใหญ่บ้างตามโอกาส ทั้งคู่รู้สึกดีต่อกัน คำแก้วรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดที่มีเขาคอยเป็นเพื่อน ทำให้ความรู้สึกเธอในการอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้เริ่มดีขึ้น ก้องเกียรติชอบเป่าขลุ่ยและนั่นเป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวที่เธอชอบเช่นกัน เขาสัญญาว่าจะหาครูมาสอนให้เธอ คำแก้วดีใจมาก อย่างน้อยชีวิตของเธอก็ไม่น่าเบื่อ ว่างเปล่า และเหงาหงอยจนเกินไปนัก

เรืองยศ เพื่อนสนิทของก้องเกียรติ หนุ่มหน้าสวยราวกับอิสตรีก็ไม่ปานคือครูสอนดนตรีของคำแก้ว เขาลอบมองพฤติกรรมระหว่างเรืองยศและคำแก้วบ่อยครั้งอย่างไม่สบายใจนัก ไม่มีใครรู้ว่าหนุ่มหน้าสวยเพื่อนสนิทของก้องเกียรติคนนี้จะมีความรักที่ผิด วิสัยธรรมชาติตามครรลองที่ถูกที่ควร เขามีจิตฝักใฝ่เสน่หาก้องเกียรติยิ่งนัก แต่แล้ววันหนึ่งเรืองยศกลับบอกความจริงแก่คำแก้วว่า แท้จริงแล้วก้องเกียรติแอบมีใจให้เธอ มันคือความจริงที่ทำให้คำแก้วมีความสุขและความทุกข์ไปได้ในขณะเดียวกัน เพราะรู้ดีว่าความรักนี้เป็นความรักต้องห้ามที่ไม่อาจเป็นไปได้อย่างมิต้อง สงสัย เรืองยศลอบมองความทุกข์ระทมของคำแก้วอย่างสาสมใจ

วันที่เจ็ดเดือนสิบสอง คืองานฉลองครบรอบวันเกิดของท่านเจ้าสัวอายุครบ 65 ปี บรรดาคุณนายต่าง ๆ ของท่านเจ้าสัวประชันการแต่งตัวกันอย่างเอิกเกริก มีเพียงคำแก้วเท่านั้นที่แต่งตัวแบบไทย ๆ สร้างความไม่พอใจให้แก่ท่านเจ้าสัวและบรรดาคุณนายทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ในงานเต็มไปด้วยเสียงอ่อนหวาน หัวร่อต่อกระซิกตลอดเวลาระหว่างท่านเจ้าสัวและบรรดาคุณนายทั้งหลาย คำแก้วรู้สึกเบื่อหน่ายกับภาพมายาจอมปลอมเหล่านี้เต็มที คำแก้วคิดจะหลบหน้าผู้คนเพื่อไปพักผ่อน แต่เหตุการณ์ก็ไม่เอื้ออำนวยให้ทำเช่นนั้นได

เมื่อ คุณชายเล็ก หรือ คุณเกียรติกร กับ คุณหนูกรรณิการ์ บุตรสาวคนสุดท้อง ซึ่งเป็นลูกชายของโรสและลูกสาวของเยนหลิง วิ่งไล่จับจนชนแจกันใบงามหล่นลงมาตกแตก สองพี่น้องทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เม่งฮวยถลันมาตบหน้าลูกเลี้ยงทั้งสองพร้อมทั้งดุด่าอย่างหยาบคาย ร้อนถึงมารดาของเด็กทั้งสองต้องเข้ามาห้ามทัพ บรรดาคุณนายทั้งสามจึงเริ่มด่าทอและทะเลาะกันอย่างรุนแรง เมื่อต่างฝ่ายต่างก็คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก คำแก้วเริ่มรู้สึกรำคาญและเบื่อหน่าย เธอจึงพูดเปรย ๆ ขึ้นมาว่ามันไม่น่าเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตขนาดนั้นก็แค่แจกันใบเดียว คุณนายทั้งสามหันกลับมารุมเล่นงานเธอทันทีว่า เพราะความเป็นตัวซวยของเธอทำให้เรื่องร้าย ๆ ต้องเกิดขึ้นในบ้านอยู่เสมอ คำแก้วเดินช้า ๆ ออกมาจากในงาน เธอพยายามสะกดความระทมขมขื่นที่มีอยู่เต็มอกอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่มีอยู่ได้อีกต่อไป เธอทรุดตัวลงนั่งริมสวนแห่งนั้นและร้องไห้อย่างหนัก เมื่อไม่สามารถอดทนต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว

เธอหลบหน้าผู้คนไปนอนพักผ่อนตอนบ่าย ระหว่างที่นอนหลับ เธอฝันเห็นหญิงสาวมากมายที่ตะเกียกตะกายร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา คำแก้วสะดุ้งตื่นด้วยความรู้สึกหวาดกลัว แต่แล้วเธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นสู้อีกครั้งด้วยการแต่งตัวลงไปร่วมงานในตอนค่ำ ที่โต๊ะอาหารคำแก้วพยายามเอาอกเอาใจท่านเจ้าสัวด้วยการกอดจูบท่านต่อหน้า สาธารณะชน แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นดังที่คิด ท่านเจ้าสัวโกรธมากที่เธอบังอาจทำเช่นนั้นต่อหน้าธารกำนัล เขาลุกขึ้นผลักเธอออกด้วยความรังเกียจและขยะแขยง

หลังจากเหตุการณ์ในค่ำคืนวันนั้น ท่านเจ้าสัวก็แทบจะไม่แตะต้องตัวเธออีกเลย คำแก้วรู้สึกแย่มากเมื่อคิดว่าตนเองต้องถูกปลดเกษียณด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น เธอจึงพยายามหาวิถีทางเพื่อความอยู่รอด การมีทายาทสืบสกุลนั่นคือทางออกที่ดีที่สุด และเป็นวิธีการเดียวกับที่บรรดาคุณนายทั้งหลายใช้มาแล้วอย่างได้ผลจากคำบอก เล่าของโรส คำแก้วจึงใช้มารยาต่าง ๆ นานับประการทำให้ท่านเจ้าสัวกลับมาร่วมหลับนอนกับเธออีกครั้ง ครั้งนี้คำแก้วสามารถทำสำเร็จ แต่โลหิตสีแดงคล้ำที่ออกมาในวันหนึ่งนั่นคือสัญลักษณ์แห่งความพ่ายแพ้ คำแก้วรู้สึกผิดหวังเป็นที่สุด เธอจึงตัดสินใจทำแผนหลอกลวงตบตาทุกคนว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งข่าวนี้สร้างความยินดีให้แก่ท่านเจ้าสัวเป็นอย่างยิ่ง ท่านกลับมารักใคร่และเอาอกเอาใจเธอดังเดิม คำแก้วรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดเธอคือผู้ชนะอย่างแท้จริง แต่ความสุขมักอยู่กับคนเราได้ไม่นาน เมื่อกิมลั้งเด็กรับใช้แสนแสบเห็นผ้าอนามัยซึ่งเปื้อนคราบโลหิตลอยอยู่ใน ชักโครก เธอจึงคิดจะใช้มันเป็นเครื่องทำลายคุณนายที่สี่คนที่เธอเกลียดแสนเกลียดให้ พินาศในทันที คำแก้วเข้ามาเห็นเหตุการณ์นั้น แววตาที่ประสงค์ร้ายของกิมลั้ง ทำให้เธอบังคับให้เด็กรับใช้กินผ้าอนามัยผืนนั้นเข้าไป กิมลั้งจำต้องยอมทำตาม เธอกล้ำกลืนกินมันเข้าไปทั้งน้ำตา ต่อมาจึงเป็นที่โจษขานกันไปทั่วอาณาจักรตึกแดงแห่งนี้ว่า คุณนายที่สี่แม้อายุยังน้อย หากแต่จิตใจเหี้ยมโหดอำมหิตผิดมนุษย์ยิ่งนัก

เหตุการณ์ ในวันนั้นสร้างความขวัญหนีดีฝ่อให้แก่กิมลั้ง เธอจับไข้อยู่หลายวันจนเสียชีวิตในที่สุด คำแก้วรู้สึกสับสนและหวาดกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่หลายวัน ระหว่างนั้นเธอเริ่มสนิทกับโรสและไว้วางใจให้เป็นเพื่อนคุยและที่ปรึกษาที่ ดีเสมอ แต่โรสก็ไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้านนัก เธอเป็นคุณนายเพียงคนเดียวที่ชอบออกจากบ้านไปดูงิ้ว เล่นไพ่ตามที่ต่าง ๆ แถมยังแอบคบชู้สู่ชายอีกด้วย นายแพทย์ทรงชัย หรือ นายซุ่นไช้ เจ้าของร้านขายยาจีนรูปหล่อคือชู้รักของเธอ โรสมักแอบลอบมาพบปะเขาเสมอ ทั้งสองวางอนาคตด้วยกันว่าวันหนึ่งเขาจะเป็นผู้พาโรสหนีจากคฤหาสน์ตึกแดง นั่น โรสเคยชวนคำแก้วออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเป็นเพื่อนบ้างในบางครั้ง หนึ่งในหลายครั้งเธอชวนคำแก้วไปดูเธอเล่นไพ่นกกระจอก ทำให้คำแก้วได้ล่วงรู้ความจริงว่าโรสและนายแพทย์ทรงชัยเป็นอะไรกัน เมื่อเธอก้มไปหยิบไพ่นกระจอกที่บังเอิญหล่นลงไปใต้โต๊ะ และได้เห็นขาคู่หนึ่งเกี่ยวกระหวัดกันอยู่อย่างเหนียวแน่น คำแก้วพยายามเตือนโรสว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องห้ามที่ไม่อาจเป็นจริงไป ได้ มันทำให้โรสโมโหมาก เธอด่าทอคำแก้วอย่างรุนแรง และไม่ให้มายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเธออีก

โรสหญิงสาวอดีตนางเอกคณะอุปรากรจีนเก่า เธอผ่านเรื่องราวแห่งชีวิตในเชิงละครมามากมาย จนหลงคิดว่าตนเองนั้นคือนางเอกตลอดกาล ทั้งที่แท้จริงแล้วความจริงในชีวิตหาเป็นเช่นนั้นไม่ และเรื่องราวการคบชู้สู่ชายของเธอก็หาได้รอดสายตาเล็กแหลมประดุจเหยี่ยวคู่ หนึ่งไปได้

คำแก้วรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเต็มทน เมื่อโรสเพื่อนเพียงคนเดียวมักไม่ค่อยอยู่ไม่มีเวลาว่างจะพบปะพูดคุยกัน เธอเริ่มหันมาสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าเมามายเป็นประจำทุกค่ำคืน วันหนึ่งเธอต้องแปลกใจมากที่พบว่า ผู้ที่เปิดประตูห้องเข้ามาหาเธอนั้นคือคุณชายใหญ่หรือคุณก้องเกียรติแห่ง อาณาจักรตระกูลเชงนี้เอง ก้องเกียรติเข้ามาเพื่อที่ดูแลคำแก้วด้วยความเป็นห่วงเป็นใย อีกทั้งยังมาเพื่อสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงของเขาที่มีต่อเธอมานานแสนนาน อีกด้วย มันคือความจริงที่ราวกับความฝันไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ คำแก้วร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวและเริ่มดื่มเหล้าเมามายอีกครั้ง คำแก้วหลับและฝันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่ากลัวมากมาย เธอสับสน หวาดกลัว และมึนงงกับเรื่องราวต่าง ๆ จนไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวใด ๆ ได้อีกต่อไป ยามบ่ายเธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงด่าทออย่างรุนแรงอยู่ตรงทางเดินห้อง รักต้องห้ามของโรสพบจุดจบวันนี้เอง เมื่อเยนหลิงได้นำคนไปลากโรสกลับมาจากรังรักของเธอและนายแพทย์ทรงชัย โรสร้องไห้แทบขาดใจพร้อมทั้งด่าทอและขู่อาฆาตเยนหลิงอย่างรุนแรง มีเพียงความสะใจและสาสมแก่ใจจากแววตาของเยนหลิงเท่านั้น ในวันนี้เธอสามารถเด็ดแม่ดอกกุหลาบงามดอกนี้ไม่ให้ชูคออยู่บนต้นเป็นเสี้ยน หนามให้แก่เธอได้อีกต่อไป คำแก้วหลับไปอีกครั้งอย่างอ่อนเพลีย สติสัมปชัญญะในการรับรู้เริ่มลดน้อยถอยลงทุกที

เที่ยงคืนเสียงเพลงอุปรากรจีนดังขึ้นอีกครั้ง เสียงแหลมสูงหวานเสนาะบ่งบอกถึงความโศกเศร้าล้ำลึก สุดแสนอาลัยความรัก ความหวังซึ่งสูญสลายอย่างไม่มีวันกลับคืน ปลุกคำแก้วให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอแหวกม่านหน้าต่าง และเห็นโรสกำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงามเป็นภาพครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะถูกชายร่างกำยำหามเธอไปและเหวี่ยงลงสู่บ่อนรกนั่น ภาพที่เห็นทำให้คำแก้วหวาดกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะกรีดร้อง เธอวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องพักส่วนตัวของบุตรชายคนโตของสามีทันที ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีปลาสนาการไปจนหมดสิ้น เธอสูญสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่หลงเหลือแม้แต่ความอดทนซึ่งบอบบางดุจใยแมงมุม คำแก้วไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้อีกต่อไปในอาณาจักรจีนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเต็มไป ด้วยอำนาจมืด บัดนี้เธอรู้แจ้งแล้วว่าความตายลึกลับของหญิงสาวในอดีตเกิดขึ้นได้อย่างไร สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือการตายเอาดาบหน้า

คุณก้องเกียรติชายผู้เดียวที่เธอรักและรักเธอ หากแต่เมื่อผลักบานประตูห้องเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้หัวใจเธอเย็นเยียบและเหน็บหนาวยิ่งกว่าสิ่งใด ภาพชายสองคนเปล่าเปลือยและกอดกระหวัดกันบนเตียงนั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง ชายหนึ่งนั้นคือคนที่เธอสุดรัดสุดบูชาตลอดมา ส่วนอีกชายหนึ่งนั้นคือครูสอนดนตรีสหายสนิทของเขานั่นเอง เธอปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบ ใจแหลกสลายอย่างไม่มีชิ้นดี

เสียงกรีดร้องอย่างรุนแรงเมื่อสติสัมปชัญญะซึ่งเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย ขาดลง ทำให้เชงสือ เกียงต้องรีบเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นคือคุณนายวัยเยาว์ของเขากำลังดึงทึ้งผมตนเองอยู่อย่างรุนแรง ปากก็บ่นพึมพำเพียงคำว่า…ฆาตกร…เขาเข้าไปปลอบประโลมและพยายามเรียกความ ทรงจำเธอให้กลับคืนมา แต่อนิจจา…ทุกอย่างไม่กลับคืนมาดังเดิมอีกต่อไปแล้ว

หลาย เดือนผ่านไป เชงสือเกียงกลับจากสหรัฐอเมริกาพร้อมคุณนายแหม่มคนใหม่ อำนาจเงินบันดาลให้เขากลับมาหนุ่มแน่นได้อย่างไม่น่าเชื่ออีกครั้ง ด้วยฝีมือแพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา บ่อยครั้งที่คุณนายแหม่มของท่านเชงจะเห็นผู้หญิงรูปร่างบอบบาง สวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ราวชุดวิวาห์วนเวียนแหวกกอไม้ดอกกอแล้วกอเล่า หล่อนมักพึมพำกับตัวเอง “มงกุฎดอกส้มของฉันหายไปไหน…ช่วยหามงกุฎดอกส้มให้ฉันที…” … อนิจจา … ไม่มีใครช่วยหล่อนเสาะแสวงหาสิ่งที่ใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต … … ไม่มีใครได้ยินคำพร่ำวอนของคำแก้วเลย…

รายชื่อนักแสดงนำในละคร มงกุฎดอกส้ม

ฉัตรชัย  เปล่งพานิช   รับบท   เจ้าสัวเชงสือเกียง
จริยา  แอนโฟเน่   รับบท   เม่งฮวย / เมีย 1
รินลณี  ศรีเพ็ญ   รับบท   เยนหลิง / เมีย 2
ณัฐริกา  ธรรมปรีดานันท์   รับบท   เหม่เกว่ (โรส) / เมีย 3
วนิดา  เติมธนาภรณ์   รับบท   คำแก้ว / เมีย 4
วิทยา  วสุไกรไพศาล   รับบท   ก้องเกียรติ
อภินันท์  ประเสริฐวัฒนกุล   รับบท   หมอทรงชัย
สุพจน์  จันทร์เจริญ   รับบท   เรืองยศ
มิณทิตา  วัฒนกุล   รับบท   กิมลั้ง
พิศมัย  วิไลศักดิ์   รับบท   อาอึ้ม
ด.ช. รจนกร  อยู่หน้า   รับบท   เกียรติกร (เด็ก)

ไฟอมตะ

ไฟรัก ไฟแค้น และ ไฟฝัน ที่ไม่วันมอดไหม้

อาทิตย์ เกือบจะกลายเป็นฆาตกรปลิดชีวิตบิดาบังเกิดเกล้า ด้วยเหตุที่พ่อบันดาลโทสะใช้ปืนยิงหัววิฑิต น้องคนที่สามของเขา แม้ว่าแม่จะบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเวรกรรมของแม่ แต่สำหรับอาทิตย์แล้วมันไม่ใช่ เรื่องราววุ่นวาย ปัญหาร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว มันเกิดขึ้นเพราะพ่อเพียงคนเดียว พ่อไม่เคยรู้จักคำว่าพอ มีเมียเล็กเมียน้อยนับไม่ถ้วน พ่อทะเลาะกับแม่ และเมื่อโกรธก็จะเฆี่ยนตีลูกจนปางตาย หากไม่คิดถึงแม่ผู้เป็นที่รักยิ่ง ไม่ห่วงว่าใครจะดูแลน้อง ๆ แล้วล่ะก็ อาทิตย์คงต้องก่อกรรมอันใหญ่หลวง สร้างตราบาปอันฝังลึกที่กี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีวันลบเลือนได้…….

ย้อนไปในวันที่เด็กชายฟ้งลืมตาดูโลก ที่กาญจนบุรี สร้างความตื่นเต้นดีใจให้แก่พ่อแม่ที่ได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย ปู่ผูกดวงให้พร้อมทำนายว่า ในอนาคตฟ้งจะเป็นคนเก่ง มีบุญวาสนาทำให้ตระกูลเจริญรุ่งเรือง

ครอบครัวคนจีนมักจะสอนให้ลูกทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ ฟ้งจึงมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ ที่คลานตามกันออกมาทุกปี แถมยังต้องทำงานบ้าน ช่วยแม่นึ่งปลาทู ทำความสะอาดปลาเค็ม เพื่อเอาไปขายในตลาด  พ่อเองก็สอนให้เขารู้จักจัดสินค้า ขายของที่ร้านหน้าบ้าน แม้จะต้องทำงานหนัก แต่ฟ้งก็ไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย คงเป็นเพราะความรักที่พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายและญาติ ๆ มีให้อย่างเปี่ยมล้นนั่นเอง

ฟ้งอยากไปโรงเรียน แต่พ่อก็ไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครช่วยทำงาน แม่จึงช่วยพูดจนพ่อก็ใจอ่อน แต่มีข้อแม้ว่าฟ้งต้องทำหน้าที่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ฟ้งดีใจมาก เขาทำงานอย่างขยันขันแข็งตามที่รับปากไว้ ช่วยเตรียมของ ขายสินค้า แถมยังต้องเลี้ยงดูน้อง ๆ ที่กำลังอยู่ในวัยซุกซน ขนาดวิฑิตหนีโรงเรียนแล้วโดนพ่อตี พี่ใหญ่อย่างฟ้งก็เข้ามาปลอบ สอนน้องให้รู้จักรักการเรียน และพาน้องกลับไปส่งที่โรงเรียนประจำ

วันตรุษจีน ฟ้งได้เงินแต๊ะเอีย 40 บาท ฟ้งเอาเงินไปฝากแม่ แต่วันที่ไปขอเงินมาซื้อขนมให้น้อง แม่กลับบอกว่าเงินหมดแล้ว แถมยังบอกว่าเงินนั่นก็คือเงินที่แม่ให้ฟ้งกินขนมอยู่ทุกวันนั่นเอง ฟ้งร้องไห้ผิดหวังเสียใจเหมือนฟ้าดินถล่มทลาย เมื่อไม่มีเงิน ฟ้งจึงแอบขโมยเงินย่าที่ซ่อนไว้ใต้ที่นอนไปซื้อขนมให้น้อง ๆ กิน พ่อรู้เข้าก็ดุด่าเฆี่ยนตีฟ้งอย่างสาหัส ฟ้งร้องไห้อย่างเจ็บปวด ทำไมพ่อจึงลงโทษเหมือนเขาไม่ใช่ลูก ภาพความรักที่พ่อเคยมีให้ในอดีต ภาพที่พ่อโอบอุ้มเล่นหัว ภาพที่พ่อพร่ำสอนในไร่ หรือแม้แต่ภาพที่พ่อเอาเขาซ้อนท้ายรถเครื่องไปดูหนังกลางแปลง ภาพความอบอุ่นเหล่านั้นมันเลือนหายไปหมดในทันที………

ตรุษ จีนเวียนมาถึงในปีต่อมา ฟ้งไม่ไว้ใจแม่อีกแล้ว เขานำเงินแต๊ะเอียไปฝากธนาคารใกล้ ๆ บ้าน มันปลอดภัยที่สุดแถมยังได้ดอกเบี้ยอีกด้วย ฟ้งกอดสมุดเงินฝากเล่มแรกในชีวิตอย่างมีความสุข และตัวเลขเงินฝากก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อป้าเฮียงย้ายเข้าไปกรุงเทพฯ แล้วยกอุปกรณ์การทำถั่วคั่วให้ ย่าและฟ้งช่วยกันทำถั่วคั่วอย่างแข็งขัน ฟ้งนำถั่วคั่วไปขายที่ลานหนังกลางแปลง เสริมด้วยการขายหนังสือพิมพ์เอาไว้ปูนั่งดูหนัง ฟ้งจึงมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น

เมื่ออายุสิบสอง ฟ้งต้องเข้าไปช่วยพ่อทำไร่ คอยคุมคนงานตัดอ้อย ฟ้งมีน้ำใจให้คนงานเสมอ เขามักจะแอบเอากับข้าวของแห้งในครัวไปแบ่งปันให้คนงานอยู่บ่อย ๆ บางคราวฟ้งก็ต้องขับรถไถเอง แต่ความที่ขับรถไม่เก่งนัก ทำให้วันหนึ่งฟ้งขับรถไถไปครูดกับรถขนอ้อย พ่อโกรธมากใช้กระบอกไฟฉายอันใหญ่ขว้างใส่ฟ้ง กระบอกไฟฉายพุ่งเข้าใส่ขาของฟ้งเต็มแรง ฟ้งทั้งเจ็บปวด และคับแค้นใจ ทำไมพ่อต้องอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ถ้ากระบอกไฟฉายมันพุ่งโดนหัวของเขา อะไรจะเกิดขึ้น

นอกจากพ่อจะอารมณ์ร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ พ่อยังเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า พี่เลี้ยงและสาวใช้ในบ้านคนแล้วคนเล่าต่างก็ตกเป็นเมียของพ่อ พ่อทะเลาะกับแม่ไว้เว้นแต่ละวัน และพ่อก็มักจะระบายอารมณ์ด้วยการเฆี่ยนตีฟ้งแทน แต่ฟ้งก็ไม่เคยปริปากบ่น อะไรที่ทำให้พ่อแม่สบายใจ ทำให้น้อง ๆ มีความสุข ฟ้งจะรีบกุลีกุจอทำให้ แม้งานจะหนัก จะหิว จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม

เมื่อเรียนจบมัธยมต้น ฟ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็น อาทิตย์ เพื่อเตรียมสอบเข้าเตรียมทหาร แต่พอเห็นไถ่ลูกชายป้าเฮียง กลับจากไต้หวันมาเยี่ยมบ้าน ชุดเครื่องแบบนักเรียนของไถ่ดูโก้ สร้างแรงบันดาลใจให้อาทิตย์ไม่น้อย และพ่อเองก็มีความคิดจะให้ลูกชายคนโตมีความรู้มาช่วยกิจการ พ่อจึงตัดสินใจส่งอาทิตย์ไปเรียนที่ไต้หวันบ้าง นั่นจึงเป็นจุดหักเหของชีวิตที่ฟ้งยินดียิ่ง เพราะได้ออกไปจากสภาพซ้ำซากจำเจที่ทำร้ายจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไปสู่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่ ไต้หวัน

ที่นั่น อาทิตย์ต้องเรียนภาษาจีน ปรับตัวกับการอยู่คนเดียว ต้องต่อสู้ อดทน และที่นั่น เขายังได้พบกับ..เคลลี่ เขาพบเธอครั้งแรกที่โต๊ะปิงปอง เคลลี่สวยน่ารัก ไม่ถือตัว มีน้ำใจไมตรี และคอยช่วยเหลือคนต่างถิ่นอย่างอาทิตย์ เคลลี่พาอาทิตย์ไปเที่ยวตลาด ไปเที่ยววัดในวันตรุษจีน ชวนกันขี่จักรยานชมธรรมชาติ ความประทับใจจึงเกิดขึ้น และกลายเป็นความรักทีละเล็กละน้อย เคลลี่เป็นรักแรก และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อาทิตย์ตั้งปณิธานว่าจะแต่งงานด้วย

อาทิตย์ สอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เขาเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กำยำ มีเสน่ห์ไม่น้อย อาทิตย์เล่นกีฬาเก่ง เขาได้เป็นนักกีฬาเหรียญทอง และก็มีเคลลี่อยู่ชิดใกล้ แต่อาทิตย์กลับยังมีความเป็นห่วง คิดถึงแม่ และน้อง ๆ เพราะน้อง ๆ เขียนจดหมายมาเล่าว่า ที่บ้านของเขานั้นยังคงขาดความอบอุ่นอยู่เช่นเดิม พ่ออารมณ์ร้ายมากขึ้น ใช้งานและลงโทษน้อง ๆ อย่างหนัก  แม่ก็ยังบ่นด่าทะเลาะกับพ่อเป็นประจำ

เมื่อจากบ้านไป 3 ปี อาทิตย์จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน และได้พบกับเหตุการณ์เดิม ๆ พ่อทะเลาะกับแม่เรื่องผู้หญิงอื่น อาทิตย์ทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง และเมื่อพ่อเริ่มใช้กำลังทำร้ายเขา อาทิตย์ก็จำต้องตอบโต้ด้วยการชกพ่อเป็นครั้งแรก แต่แล้วเขาเองกลับพลาดท่า กลายเป็นกระสอบทรายให้พ่อถลุง สายใยพ่อลูกจึงขาดผึง เขาจึงจำใจลาพ่อด้วยน้ำตา และตั้งใจว่าจะไม่กลับมาบ้านนี้อีก และนับจากนี้ พ่อจะไม่มีอิทธิพลต่อชีวิตเขาอีกต่อไป เขาต้องกลับไปเรียนต่อและต้องพึ่งตนเอง

แม่เอาเครื่องประดับมาให้อาทิตย์ไปขายเพื่อเป็นค่ากินอยู่และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิตย์จึงเกิดความคิดที่จะทำธุรกิจเล็ก ๆ ขึ้น เขาร่วมหุ้นกับจิตรกร เพื่อนคนไทยที่เรียนด้วยกัน ช่วยกันกว้านซื้อเครื่องประดับสวย ๆ จากโรงรับจำนำ แล้วเอาไปขายที่ไต้หวัน กิจการของเขาไปได้สวย มีกำไรงาม

อาทิตย์กลับเมืองไทยอีกหลายครั้งในช่วงปิดเทอม เขาติดต่อร้านค้าหลายแห่ง เพื่อสั่งซื้อสินค้าจากไต้หวันมาขายในเมืองไทย แม้จะเหน็ดเหนื่อยที่ต้องขึ้นรถเมล์ เดินท่อม ๆ ทั้งวัน แต่อาทิตย์ก็ไม่ย่อท้อ เพราะเขาตั้งใจจะหาเงินเป็นทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่แคนาดา

อาทิตย์นำจักรยานเก่า ๆ ที่รุ่นพี่ที่เรียนจบทิ้งไว้มาซ่อมแซม แล้วขายให้แก่นักศึกษาใหม่ เขาเก็บเงินได้จนซื้อมอเตอร์ไซค์ได้คันหนึ่ง แต่ก็โดนโกง เมื่อนายเฉินเหลยเจ้าของห้องเช่าขอยืมเงิน โดยหลอกให้อาทิตย์นำรถไปจำนำ สุดท้ายเจ้าของบ้านก็หายตัวไป มาสืบรู้ภายหลังว่าเป็นนักพนันตัวยง แถมยังไม่ใช่เจ้าของบ้านที่แท้จริงอีกด้วย อาทิตย์เจ็บใจเป็นที่สุด เสียเงินไม่เท่าเสียรู้คน

เมื่อเรียนจบ พ่อก็เรียกให้เขาไปเป็นผู้จัดการโรงงานอาหารสัตว์ที่พ่อเปิดใหม่ ด้วยความรัก ความห่วงใยแม่ เขาจึงตัดสินใจกลับเข้าบ้านและทำงานให้พ่อ แต่แล้วความขัดแย้งก็เกิดขึ้นอีก คราวนี้ เขาตัดใจทิ้งโรงงานของพ่อ และเดินจากมาอีกครั้ง พ่อโกรธมากและประกาศตัดเป็นตัดตาย และในที่สุดโรงงานของพ่อก็ประสบภาวะขาดทุน ก่อหนี้สินรุงรัง และก่อไฟแค้นที่ไม่มีวันดับ ในใจของพ่อ

อาทิตย์ มุ่งหน้าไปสู้ชีวิตด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ เขาทำธุรกิจส่งออกแต่ก็เป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่เขาก็สู้ไม่ถอย บางวัน..ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว บางวัน..ยังต้องเชิดหน้าทระนงแม้ไม่มีใครให้กู้เงิน แต่บางวันก็ตื้นตันใจยิ่งเมื่อเปิดจดหมายของเคลลี่ที่ส่งมาจากไต้หวันและพบ ว่ามีเงินดอลล่าสอดอยู่ และวัน..ที่มีความสุขที่สุด คือวันที่เคลลี่ตกลงใจแต่งงานด้วย และย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย

เขามีใจมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น เขาจึงทำงานหนัก ธุรกิจดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นตัวแทนขายซอสมะเขือเทศ ส่งปลาทูน่ากระป๋องไปขายยังสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันกิจการส่งออกแป้งมันก็เจริญก้าวหน้า ทำให้บริษัทมีเงินหมุนเวียนเป็นกอบเป็นกำ

แต่แล้ว ความเป็นไปในครอบครัวที่เมืองกาญจน์กลับถึงขีดวิกฤต พ่อยักย้ายเงินกงสีซึ่งเป็นเงินของครอบครัวไปใช้จ่ายส่วนตัว แม่จึงต้องเอาเงินเก็บออกมาใช้ พ่อหาว่าแม่ยักยอกเงินไว้จึงทะเลาะกันใหญ่โต ที่ร้ายที่สุดก็คือพ่อพาเจ๊แอ๊ด เมียใหม่สาวสวย ฐานะดี เข้ามายกย่องในบ้าน

เหตุการณ์ในบ้านเริ่มเลวร้ายมากขึ้น เมื่อเจ๊แอ๊ดแสดงอำนาจบาตรใหญ่ แสดงกิริยาไม่ดีต่อแม่ วิฑิตน้องชายคนที่สามอึดอัดใจเป็นที่สุด เขาทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง แต่ก็พลาดท่าเมื่อพ่อเอาปืนยิงหัว อาทิตย์รู้ข่าวน้องรักถูกพ่อยิง เขาเจ็บแค้นมาก ขับรถห้อตะบึงไปเมืองกาญจน์ด้วยไฟลุกโชน เขาไม่เข้าใจว่าพ่อยิงลูกในไส้ของตนได้อย่างไร พ่อทำร้ายลูก ๆ ตั้งแต่ยังเด็ก และรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนครั้งนี้ถึงกับเอาชีวิต ดังนั้นหนทางเดียวที่จะยุติเรื่องราวเลวร้ายทั้งปวง คือพ่อต้องยุติชีวิตลงด้วยเช่นกัน

แต่ระหว่างทาง ภาพชีวิตทุกภาพได้ย้อนกลับมา ภาพความรัก และ ความผูกพันภายในครอบครัว อาทิตย์สับสนใจยิ่ง และแล้วคำว่า ผู้ให้กำเนิดก็แล่นเข้ามาจับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเข้ามาหยุดอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเขาได้ทันท่วงที หยุด..ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายอย่างมิอาจแก้ไข

อาทิตย์ใจสงบลง และตั้งสัจจะกับตัวเองว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่มีวันทิ้งน้อง ๆ และแม่ เขาจะสร้างบ้านใหม่ บ้านที่ทุกคนจะได้มาอยู่รวมกัน สร้างความรัก ความสุข สร้างครอบครัวอย่างที่ทุกคนเฝ้าฝัน และ เขาจะเป็นผู้สานฝัน โอบอุ้ม ดูแล ให้ความรักแก่ทุกคนด้วยตัวเอง แม้วันนี้จะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่อาทิตย์เชื่อว่า ความมุ่งมั่น ความอดทน ความไม่ย่อท้อจะทำให้เขาสร้างอาณาจักรอมตะในฝันของเขาได้สำเร็จ

โชคดีที่ปาฏิหาริย์ก็มีจริง วิทิตรอดชีวิตแต่กลายเป็นคนที่มีร่างกายที่ไม่สมบรูณ์ดังเดิม แม่ยอมหย่ากับพ่อ และพาน้อง ๆ เข้ามาอยู่รวมกันในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ของอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ แต่ชีวิตก็ไม่ได้เป็นดั่งฝัน เขาเริ่มระหองระแหงกับเคลลี่ จนเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่อาจคลี่คลาย และจบลงด้วยการหย่าร้าง อาทิตย์ปวดร้าวและอ้างว้าง ภาพรักอันงดงามปลิวหายไปกับสายลม ไกลเกินกว่าจะไขว่คว้า ต่อจากนี้ไปเขาต้องยืนหยัดต่อสู้เพียงลำพัง

อาทิตย์ จึงมุทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลืมรักร้าว แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ นรี นักธุรกิจสาว เธอสวย ฉลาด ทำงานเก่ง ให้คำแนะนำเรื่องธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งสองจึงกลายเป็นคนใกล้ชิดที่เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ความสัมพันธก็ไม่ได้ยั่งยืน อาทิตย์เจ็บปวดอีกครั้ง แต่เขาก็ได้พบ แมว สาวสวยนัยน์ตาคมขำ เธอช่างเอาอกเอาใจ มองโลกในแง่ดี แต่อาทิตย์ไม่ก็กล้ารักใครอีก

อาทิตย์ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีความมั่นคงในชีวิต แต่นี่มิใช่ความภาคภูมิใจที่เขาปรารถนา ครอบครัวที่อบอุ่นต่างหากที่เขาเฝ้าฝันมาตลอดทั้งชีวิต เขารับน้อง ๆ คนละแม่ที่พ่อทิ้งขว้างมาดูแล เขาแบ่งงานให้ทุกคนทำตามความถนัด จัดสรรรายได้อย่างยุติธรรม รวมถึงวางแผนอนาคตที่มั่นคงให้น้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคน อาทิตย์เติมสิ่งที่ขาดให้กับทุกคน แต่ทำไม..ในหัวใจของเขาเองกลับยังอ้างว้างนัก..

แต่แล้วเคลลี่ก็กลับมาเยี่ยมเขาในวันหนึ่ง เธอตั้งใจมาขอบคุณที่แม้แยกทางกันไปแต่อาทิตย์ยังช่วยดูแลพ่อและแม่ของเธอ เป็นอย่างดี และก็เธอตกใจที่เห็นภาพรักหวานในอดีตยังคงติดอยู่ที่เดิม ทำให้เธอรู้ว่า แท้จริงแล้ว เขายังคงคิดถึงเธออยู่ทุกลมหายใจ เคลลี่เข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และแม้เส้นทางรักอาจไม่หวนคืน แต่เธอและเขาต่างก็เข้าใจกัน

วันที่แม่ป่วยและจากไป เป็นวันที่อาทิตย์เศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด เขาย้อนนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตและครอบครัวของเขา ยังคงเหลือปมระหว่างเขาและพ่อที่ยังไม่คลี่คลาย อาทิตย์รู้ดีว่าพ่อยังคงใช้อารมณ์ และใช้ชีวิตแบบเดิม และเขาก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรพ่อไม่ได้ อาทิตย์จึงตัดสินใจบวชเพื่อทดแทนพระคุณแม่ ผู้เป็นที่รักยิ่ง และตั้งจิตอโหสิกรรมทุกอย่างที่พ่อเคยทำ ถึงอย่างไร พ่อก็คือผู้มีพระคุณในชีวิตของลูก

เส้นทางชีวิตของอาทิตย์จะเป็นอย่างไรต่อไป..เขาไม่อาจรู้ แต่เขารู้ว่า เขาจะไม่ย่อท้อ เขาจะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง…. ไฟแห่งความดีงามในใจของเขาจะไม่มอดไหม้ และจะเป็น ไฟอมตะ เช่นนี้ตลอดไป โปรดติดตามชม ละครไฟอมตะ

เพลงรักริมขอบฟ้า

นีรา (ณปภา ตันตระกูล) นักร้องซูปเปอร์สตาร์ของค่ายเพลินเรคครอร์ด ขึ้นโชว์คอนเสิร์ต โดยมี กิดาการ (พรชิตา ณ สงขลา) ลูกพี่ลูกน้องของนีราได้มาชมคอนเสิร์ตพร้อมกับ ญาณี แม่ของนีรา โดยหารู้ไม่ว่าหลังเวทีนั้นนีราถูกนักข่าวตามสัมภาษณ์เรื่องข่าวฉาวว่าเธอ ท้อง หลังจากคอนเสิร์ตมีการเปิดแถลงข่าว นีราประกาศว่ากำลังจะแต่งงานกับ เบน (วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกของ ชารร์ล็อต เมียคนสุดท้ายของ บัณทิต ผู้ก่อตั้งเพลินเรคคอร์ด เจ้าของค่ายที่นีราสังกัดอยู่ ซึ่งเบน เป็นน้องชายต่างมารดาของ บรม (มนตรี เจนอักษร) ซึ่งเป็นลูกเมียหลวงคือ เพลิน นีราถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์โดยมี อัญชลี (เบญจศิริ วัฒนา) ผู้จัดการของบริษัทดูแลอยู่ นักข่าวถามว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า แต่นีราปฎิเสธ เบนเดินออกมาด้านนอกโดยมีกิดาการดักรอถามว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เบนย้อนไปว่าแต่งทำไม ทำให้กิดาการเกลียดขี้หน้าของเบนขึ้นมาทันที เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบลูกของในท้องของนีรา ทั้งคู่เถียงกันจน บรรณ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนะกุล)บรรณาธิการนิตยสารบันเทิง บุริม (พิษณุ นิ่มสกุล)โปรดิวเซอร์รุ่นเก๋า และ บัวบุษบา (อภิสรา ฉวีวงษ์) ครูสอนร้องเพลงทั้งสามคนเป็นลูกของ ทิพย์ เมียคนที่สองของบัณฑิต ต้องเข้ามาห้ามโดยมี แจ็ด(ปณิตา พัฒนาหิรัญ) พีอาร์สาวสวยที่แอบหลงรักเบนคาบข่าวไปบอกนักข่าว บรมถือว่าตัวเองเป็นลูกเมียหลวงและเป็นพี่ชายคนโต จึงมักข่มขู่น้องคนอื่นๆให้อยู่ใต้อาณัติเสมอ และเขายังเป็นผู้กุมบังเหียนเพลินเรคคอร์ดอีกด้วย

บรมบังคับเบนพานีรามาอยู่ที่บ้านเพื่อกลบข่าวฉาวระหว่าง นีรากับ ดวงฤทธิ์ (โชคชัย บุญวรเมธี)หรือ ด้วง นักร้องค่ายคู่แข่ง นีราขอร้องให้กิดาการไปอยู่กับเธอด้วย หลังจากนั้นญาณีก็ไปอเมริกาทันที ขณะที่นีราย้ายเข้ามาในบ้านของเบน เขาเองก็หลบหนีการที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับนีราโดยการไปต่างประเทศ ทำให้กิดาการมีอคติกับเขามากขึ้น และเธอยังต้องคอยรับมือกับนักข่าวรวมทั้งจัดระเบียบเพื่อเตรียมความพร้อมการ เป็นแม่ให้นีรา ซึ่งเธอไม่สนใจและยังสนุกกับการรับมือนักข่าวเพื่อเพิ่มความดังให้ตัวเอง

บัวมาเตือนนีราว่าบรมเจ้าเล่ห์และให้เธอกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง แต่นีราไม่ฟัง บี (ฐากูร การทิพย์) ลูกชายคนเดียวของบรมกลับมาจากเมืองนอก และกำลังจะได้ออกอัลบั้ม บรมระดมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์มือดีมาดูแล ซึ่งบุริมก็ได้รับมอบหมายให้เป็นโปรดิวเซอร์ แต่ด้วยความเอาแต่ใจของบี ทำให้บุริมต้องหนักใจ เบนกลับมาก็เจอนีรายังไม่ออกจากบ้าน คราวนี้เบนไล่นีรา อย่างโมโห กิดาการต่อว่าเบนไม่สนใจใยดีนีราเลย เบนเลยพูดว่าไม่รู้อะไรอย่ามาพูด นีรารู้สึกเบื่อเลยนัดเจอ จอย (จีรนันท์ ปรีดากุล) และ โอม (สุดที่รัก บำรุงญาติ) เพื่อนของเธอไปเที่ยวกลางคืน นีราดื่มจนเมามายโดยไม่สนใจลูกในท้องของเธอจนไปพบด้วง ซึ่งจอยและโอมนัดมาเหมือนกัน พอดีนักข่าวเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จึงตามทั้งคู่ไปถ่ายรูปแต่นีรากับด้วงหนีไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ บรรยากาศเป็นใจทั้งคู่จูบกัน โดยที่ด้วงแอบถ่ายคลิปไว้ด้วย กิดาการออกตามหานีราจึงรู้ว่านีราอยู่ที่ผับ เธอตามหานีราจนเจอแล้วพากลับบ้าน วันต่อมานีราแอบหนีไปหาด้วงที่คอนโด ทั้งคู่เกือบจะมีสัมพันธ์กันแต่นีรายับยั้งทัน ด้วงเลยรู้ว่านีรากำลังท้อง นีราเลยบอกกับด้วงว่าเขาไม่ได้รักเบน แถมท้าให้ด้วงพิสูจน์โดยใช้มือถือถ่ายรูปที่หอมแก้มกันเก็บไว้ นีราตามเบนออกไปทำงานในขณะเดียวกันบีก็มาหาเบนเพื่อให้ช่วยวิจารณ์เพลง เบนก็ถามว่าบีเป็นพ่อของเด็กในท้องของนีราหรือเปล่า บีไม่ยอมรับ เพราะนีรานอนกับคนทั่ววงการแล้ว และบียังบอกว่าพ่อของเขาทำเกินเหตุที่ให้เบนมารับผิดชอบแค่ให้นีราไปทำแท้ง ก็พอแล้ว ทำให้เบนผิดหวังในตัวของบีมาก นีราแสดงความเป็นเจ้าของเบนทำให้แจ็ดไม่พอใจทั้งคู่จึงทะเลาะตบตีกัน เบนทนไม่ไหวจึงบอกกิดาการให้พานีราออกจากบ้านไป ซึ่งนีราทำอย่างนั้นจริงๆ ทั้งคู่จึงต้องช่วยกันตามหาแต่นีรายื่นเงื่อนไขว่าเบนต้องไม่รังเกียจเธออีก เพราะต้องการให้สื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันจริง เบนทำตามแต่กิดาการกลับรู้สึกเจ็บปวดแต่ก็หักห้ามความรู้สึกนั้น

แจ็คให้ข่าวว่านีราตบเธอ จนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง อัญชลีออกมาแก้ข่าวให้ ด้วงเอาคลิปมาโชว์ เฮียเชษฐ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงอาละดินคู่แข่งของเพลินเรคคอร์ด เฮียเชษฐ์จึงสั่งให้คนไปปล่อยคลิปเพื่อทำลายชื่อเสียงของนีรา กิดาการกลับต่อว่าเบนที่ไม่สนใจปล่อยให้นีราเหงาจนต้องไปคบด้วง ทั้งสองเถียงกัน จนเบนโมโหจูบกิดาการ เธอตบหน้าเบนและด่าเขาว่าเป็นพวกฉวยโอกาส เบนตามง้อกิดาการว่าถึงอย่างไรเขาจะไม่มีทางแต่งงานกับนีรา เพราะเขาไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องจริงๆ ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันจนความสัมพันธ์ดีขึ้น เบนขอให้กิดาการกลับเข้ามาอยู่ในบ้านอีกครั้งเพื่อดูแลนีรา กิดาการตอบตกลงเพราะอีกใจก็เป็นห่วงนีราเหมือนกัน นีรากลัวเธอจะเสียเปรียบเพราะถ้าคลอดเด็กออกมาเธอก็จะเรียกร้องสิ่งต่างๆยาก บรมไปปรึกษาอัญชลี สารภาพว่าเด็กในท้องของนีราเป็นลูกของบี เขาเป็นห่วงอนาคตของลูกที่กำลังจะออกอัลบั้ม ส่วนอัญชลีปล่อยข่าวว่านีราท้องกับด้วงแล้วไปทำแท้ง เฮียเชษฐ์จัดแถลงข่าวให้ ด้วงบอกว่าเป็นแค่เพื่อน ขณะเดียวกันบัวก็พบหลักฐานว่าอัญชลีเป็นคนปล่อยคลิปหลุด จึงบอกนีราว่าเป็นฝีมือของบรมแน่ นีราจึงเข้าไปพบบรมเพื่อยื่นไม้ตาย เอาคลิปวีดีโอที่บีกำลังเสพยาและขายยาในโรงเรียนสอนร้องเพลง บรมเป็นห่วงอนาคตของลูกชายแล้วจึงยอม บีเองก็ตามหานีราเพื่อจะถามว่าใครถ่ายคลิป นีราตระหนักว่าทุกอย่างจวนตัวแล้ว จึงบอกว่าบัวเป็นคนถ่ายคลิปแลกกับการจดทะเบียนกับเธออย่างลับๆบีจำใจยอม แต่นีราก็ยังใส่ร้ายกิดาการว่าเป็นคนช่วยวางแผนที่กิดาการรักกับเบนเพื่อบีบ บรมตามแผนของบัว เบนไม่ต้องการจดทะเบียนกับนีรา บรมจึงบอกความจริงว่า นีราต้องการหุ้นจากเพลินเรคคอร์ด ทำให้เบนตะลึงที่ได้รับรู้เรื่องจริงและยังต่อว่านีราที่ใส่ร้ายกิดาการ ทำให้กิดาการเสียใจมาก บีอาละวาดตามขู่จะฆ่าบัวถ้าไม่เอาคลิปมาให้เขาทำลาย บัวสารภาพว่าที่ถ่ายคลิปเพราะว่าแค้นที่บรมข่มขืนเธอ ทำให้ทุกคนตะลึงกับความจริง บีต่อว่าบรมทำให้บัวรู้ว่าเวรกรรมตามมาทันบรมแล้ว ในขณะที่บุริมจะขอยอมรับเป็นพ่อเด็กให้นีราแต่เธอไม่ยอมแถมยังพูดดูถูกบุริม จนมีเรื่องกัน กิดาการและเบนมาห้ามทันและพานีราไปโรงพยาบาลเพราะเธอปวดท้องคลอด บรมกลับมาบริษัทเพ่อให้อัญชลีแก้ข่าวแต่เขาพบจดหมายลาออกของเธอแทน

กิดาการ คอยดูแลจนนีราคลอดลูกชาย บีก็ได้เปิดคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แต่เขาแสดงได้สักพักตำรวจก็บุก มาจับหลังเวที เพราะได้คลิปของบีที่เสพยาเสพติดซึ่งคนปล่อยก็คืออัญชลีที่ลาออกไปเป็นผู้ จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอาละดินค่ายเทปคู่แข่ง บีถูกส่งไปโรงเรียนดัดสันดานเป็นเวลาสองปี บรมเองสำนึกที่ตัวเองทำผิดจึงแบ่งหุ้นให้พี่น้องเท่าๆกันแล้วประกาศลาออกจาก ประธานกรรมการ แล้วยกตำแหน่งให้เบนนังแท่นบริหารแทนโดยมีบรรณกับบุริมช่วยดูแล ส่วนบัวดึงกิดาการมาช่วยบริหารโรงเรียนสอนร้องเพลง นีราทนไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป คือเอาลูกมาเป็นเครื่องต่อรอง อีกทั้งข่าวเสียหายของเธอทำให้ประชาชนรับไม่ได้ จึงอำลาวงการไปอยู่อเมริกากับแม่ของเธอ แต่ก่อนไปนีราพาลูกไปเยี่ยมบีซึ่งเขาเองก็สำนึกผิด นีราก็พร้อมที่จะให้โอกาสเขา เบนขอกิดาการแต่งงาน กิดาการตอบตกลง หลังจากที่บีออกจากโรงเรียนคัดสันดาน เขาก็บินไปหานีรากับลูก และแต่งงานกับเธอเงียบๆที่นั่น โดยมีเบนและกิดาการพาลูกของตนไปร่วมยินดีกับทั้งสองด้วย

รายชื่อนักแสดงละคร เพลงรักริมขอบฟ้า

1.วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท เบน
2.พรชิตา ณ สงขลา รับบท กิดาการ
3.ณปภา ตันตระกูล รับบท นีรา
4.ฐากูร การทิพย์ รับบท บี
5.มนตรี เจนอักษร รับบท บรม
6.โชคชัย บุญวรเมธี รับบท ด้วง
7.เบญจศิริ วัฒนา รับบท อัญชลี
8.อภินันท์ ประเสริฐวัฒนะกุล รับบท บรรณ
9.พิษณุ นิ่มสกุล รับบท บุริม
10.อภิสรา ฉวีวงษ์ รับบท บัวบุษบา
11.ปณิตา พัฒนหิรัญ รับบท แจ็ค
12.จีรนันท์ ปรีดากลุ รับบท จอย
13.สุดที่รัก บำรุงญาติ รับบท โอม
14.ชลลกา ฮวดกระโทก รับบท นิล
15.โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบท เชษฐ์

เพลงรักทะเลใต้

บ้านทะเลใต้ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีงานบุญประเพณีที่ยิ่งใหญ่ประจำปี คือบุญเดือนสิบ และเป็นวันบุญใหญ่เปิดให้ชาวบ้านจากทั่วสารทิศได้มาสักการะ พระน้อย พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยศรีวิชัย ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคนด้วย

ในงานบุญเดือนสิบ ไม่ได้มีแค่พิธีชิงเปรต แต่มีศึกชิงนางเกิดขึ้นควบคู่กันเมื่อ นคร (ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) หนุ่มหน้าคมเลือดร้อน ผู้มีจิตใจเดียว พยายามขอความรักจาก สวย (อุ่น ปรียานุช อาสนจินดา) สาวสวยประจำหมู่บ้าน ด้วยการเปิดวงเพลงบรรเลงเพลงจีบ เป็นที่ครื้นเครงในงานบุญ แต่สวยยังแทงกั๊ก ไม่ตอบตกลงซะที นครตามติดสวยทุกฝีก้าว แต่ถูก พ่อผู้ใหญ่คม (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) ขัดขวาง ไม่อยากได้ลูกเขยเป็นหนุ่มสวนยางจน ๆ แถมยังเชียร์ แม็ค (แดน ดนัย สมุทรโคจร) หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ขาวใสลูกชายโทนของ เจ๊เอียด (อำภา ภูษิต) เศรษฐีนีเจ้าของโรงรับซื้อยางและของทะเลผู้ทรงอิทธิพลในอำเภอ สวยเองก็เหมือนจะเปิดทางให้กับแม็ค นครทนไม่ไหวปราดเข้าไปต่อยหน้าแม็คกลางงานบุญ บรรดาผองเพื่อนอย่าง เทพ (โก๊ะตี๋) นักศึกษานิติรามปี 8 หัวหมอรู้ข้อกฎหมาย ที่เพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ และเพื่อนต่างวัยอย่าง น้าไข่ (วีระชัย หัตถโกวิทย์) ภารโรงที่เป็นเสือเก่ากลับใจฉายาไข่ดำร่วมตะลุมบอนด้วย

ครูสันติ (อู ภาณุ สุวรรณโณ) ครูพละหล่อเข้ม ทำหน้าที่เข้าไปห้ามศึก และช่วยเหลือแม็ค ทำให้นครไม่ชอบหน้าครูสันติ เหมารวมว่าเป็นพวกแม็ค จะเปิดศึกกับครูสันติอีกยก ร้อนถึง หลวงปู่เสม (สุภักดิ์ ปิติธรรม) เจ้าอาวาสวัดพระน้อย ปู่ของนคร ต้องห้ามศึกและต่อว่านครยกใหญ่ พ่อผู้ใหญ่ดูถูกซ้ำว่านครเป็นได้แค่พวกชอบใช้ความรุนแรง และสวยเองก็ดูเหมือนจะเข้าข้างแม็คเต็มที่ นครเสียใจ ท้อใจ กลุ้มใจ ปวดใจ หนีเข้าไปนั่งรักษาแผลใจใต้ต้นยางหลังเขา

นคร หยิบเม้าท์ออแกน มาร้องเพลงระบายความรักที่มีต่อสวย และแล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาหานคร นครหลงดีใจคิดว่าเป็นสวย แต่กลับเป็น สาว (เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) สาวตาคมผมยาว น้องสาวของสวย สาวเห็นนครช้ำใจ เธอก็เจ็บปวดใจเพราะลึก ๆ แล้วเธอหลงรักนคร (รักนะ..แต่ไม่แสดงออก) สาวพยายามให้กำลังใจนครในแบบที่ตัวเองถนัดคือ ด่าเพื่อให้นครฮึดสู้ แต่ผลก็คือนครไล่ตะเพิด สาวจึงเปลี่ยนมาเป็นสมน้ำหน้าและท้าทายว่านครไม่มีน้ำยา และไม่มีทางเป็นอะไรได้มากกว่าที่พ่อผู้ใหญ่ดูถูก

นครตัดสินใจลงสมัครแข่งตีกลองประเพณีของอำเภอ โดยมีทีมของสาวเป็นคู่แข่งร่วมกับทีมจากหมู่บ้านอื่น ๆ แต่ดูเหมือนจะกลายเป็นศึกที่ดุเดือดระหว่างทีมของนครกับสาวเท่านั้น สองทีมดวลฝีมือกันไม่มีใครยอมใคร รวมถึงกองเชียร์จากผองเพื่อน ก็เชียร์ประชันกันแบบไม่มีใครยอมตาย ซึ่งประกอบด้วย ดวงใจ (ส้ม ธัญสินี พรหมสุทธิ์) พยาบาลสาวสวย น่ารัก แต่ดุ!!!!! ชอบดุคนไข้  เกลียดคนในเครื่องแบบ เกลียดคนรวย แต่มักจะได้ในทุกอย่างที่ตัวเองเกลียด โฉมงาม (ชมพูนุช กลิ่นจำปา) ลูกสาวเจ้าของร้านชำ และสภากาแฟประจำหมู่บ้าน ดำตับเป็ดแต่อยากเป็นดารา เธอเชื่อว่าเธอเกิดมาเพื่อดับ อั้ม พัชราภา โฉมงามเป็นคู่กัดกับเทพ โดยมี สันติ ร่วมเชียร์ในกองเชียร์ของสาวเพราะอยากใกล้ชิดดวงใจ แต่มักถูกดวงใจไล่ตะเพิดทุกครั้ง ด้วยข้อหาเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่คนปักษ์ใต้บ้านเรา

ผล ประกาศออกมา ทีมของนครได้รางวัล นครหวังใช้เงินไปซื้อของหมั้นสวย แม็คเข้ามาใกล้ชิดสวยมากขึ้นจนสวยหลงเชื่อคารมและสวยเองก็ทะเยอทะยานอยากได้ แฟนรวย ๆ ไม่อยากจมปลักกับสวนยาง เจ๊เอียดก็ออกโรงสนับสนุนลูกชาย โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทุกอย่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ครูสันติเข้ามาใกล้ชิดดวงใจและช่วยเชียร์สาว จนดวงใจรำคาญไล่ออกไป ครูสันติทำเป็นหายออกไปจากสายตาของดวงใจจริง ๆ แต่แท้จริงแล้ว ครูสันติ หรือ สารวัตรสันติ ออกไปไล่ล่าแก๊งค์ค้าน้ำมันเถื่อนที่ซื้อขายอย่างลับ ๆ ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับงานประเพณี แต่ก็ไม่สามารถสาวถึงผู้บงการใหญ่ได้ มีเพียงหลักฐานที่น่าเศร้าใจทิ้งไว้เท่านั้น ครูสันติจำเป็นที่จะต้องแทรกซึมในพื้นที่เพื่อสืบหาผู้บงการใหญ่ต่อไป และยังได้รับมอบหมายภารกิจใหม่ที่สำคัญเพิ่มเติมจากหน่วยเหนืออีกว่า….มี ผู้ลักลอบค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ในพื้นที่

สวยหนีเข้ากรุงเทพกับแม็ค เพราะแม็คสัญญาจะหางานในวงการบันเทิงให้สวย พ่อผู้ใหญ่อับอายที่ลูกสาวหนีตามผู้ชาย บุกไปเอาเรื่องเจ๊เอียด เจ๊เอียดทำไม่รู้ไม่ชี้และไม่รับผิดชอบ  นครใจสลายอีกรอบ หลังรู้ว่าสวยหอบเสื้อผ้าหนีไปกับแม็ค เก็บความช้ำไว้ในอก กลั่นออกมาเป็นบทเพลงแห่งน้ำตา….ท่ามกลางต้นยางสูง ฝนพรำ สาว ปลอบใจและโน้มน้าวให้นครรักคนที่เขารักเราดีกว่าแต่ นคร ไม่รับรู้ฮึดสู้รอบใหม่ รวบรวมไพร่พล มีเทพเพื่อนเกลอนำทีม เดินทางสู่กรุงเทพฯ เพื่อทำคะแนนต่อ โดยไม่สนใจคำทักท้วงของคนรอบข้าง

สาวจึงระดมพลเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามตัวสวยกลับบ้าน เพราะกลัวแม็คหลอก ดวงใจสบโอกาสขอไปอบรมที่กรุงเทพฯ จะได้ไปช่วยสาว ครูสันติ อ้างว่าไปเยี่ยมพ่อแม่ที่กรุงเทพฯ ขอไปด้วยคน เบื้องหลังคือ ครูสันติต้องเข้ามารายงานตัวกับต้นสังกัดเพื่อรายงานผลการปฏิบัติการดวงใจ ไม่ยอมให้ครูสันติไปด้วยกัน แต่โฉมงามกลับซื้อตั๋วรถไฟให้ครูสันติ เพราะเห็นว่าครูสันติเป็นเด็กเทพ  อยากให้นำทางและพาไปพักที่หอหน้าราม หวังใจว่าแมวมองจะได้มาพบเพชรในตมอย่างเธอ

เทพพานครและน้าไข่ มาอาศัยอยู่กับ หลวงอา ที่วัดราชาธิวาส ระหว่างการตามหาสวย นคร ขอให้เทพและน้าไข่พาไปสมัครเรียนราม ด้วยอุดมการณ์ที่ว่าตามหาหัวใจ แต่ก็ต้องหาอะไรใส่สมองด้วย สาวเองก็เช่นกัน ชวนโฉมงามไปสมัครเรียนราม อยากได้ความรู้ไปพัฒนาหมู่บ้าน

นคร มาขอพรพ่อขุน อธิษฐานขอให้ได้เจอหัวใจของตัวเองที่หนีมาเสียที ในขณะที่สาวก็มาขอพรให้ได้เจอสวย และขอให้เรียนจบเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาบ้านเกิด และขอให้นครเห็นใจสักที เทพหาทางสร้างรายได้ด้วยการพาทีมไปร้องเพลงเพื่อชีวิต…ทุกคนมีความหวังที่ จะได้ทำการแสดงในผับใหญ่ใจกลางเมือง ตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ แต่แล้ว…ฝันก็สลาย…ผับใหญ่ใจกลางเมืองของเทพคือ…ร้านหมูกะทะริมถนน ถึงแม้จะไม่ถูกใจโลเกชั่น แต่ด้วยเลือดศิลปิน นครและทีมต่างร้องเพลงเกินเงินค่าจ้าง

ซึ่ง ในคืนนั้นเอง ครูสันติพาสาว,ดวงใจ,โฉมงาม มาเลี้ยงข้าวที่ร้านหมูกะทะเดียวกัน นครดีใจที่เจอคนพรรคพวก เล่นเพลงเอาใจคนบ้านเดียวกัน ลูกค้าขาโจ๋เมาเข้าไปทำรุ่มร่ามสาว นครไม่พอใจลงไปห้ามจนเปิดศึกวางมวย นครพาสาววิ่งหนี ครูสันติปกป้องดวงใจจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ สาวต่อว่านครที่ทำเสียชื่อคนใต้ นครเถียงกลับว่าแล้วจะยอมให้คนอื่นมาลวนลามคนบ้านเดียวกันได้อย่างไร  ทำให้สาวแอบปลื้ม ระหว่างนั้นสาวและนคร เห็นแม็คขับรถเปิดประทุนพาสวยนั่งเคียงข้างแล่นผ่านไป สาวพยายามร้องเรียกและวิ่งตามไป แต่ก็ไม่ทัน

ดวงใจช่วยครูสันติทำแผลที่หอพัก และชวนทุกคนนั่งแท็กซี่ไปส่งครูสันติที่หน้าสลัมซึ่งครูสันติอ้างว่าเป็น บ้าน แต่เมื่อแท็กซี่คล้อยหลัง ครูสันติกลับเดินข้ามถนนเรียกรถกลับไปยังคฤหาสน์ใหญ่  ครูสันติจำใจปิดบังฐานะ เพราะรู้ดีว่าดวงใจยังปักใจเกลียดคนรวย

รุ่งเช้านครและสาว ต่างฝ่ายต่างรีบออกตามหารถของแม็ค สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็มาเจอกันที่ร้านอาหารของแม็ค ซึ่งเป็นวันที่สวยจะต้องถ่ายแบบนิตยสารที่นี่ นครตามตื้อสวย สวยตัดขาดไม่เหลือเยื่อใย สาว พยายามโน้มน้าวให้สวยกลับบ้าน แต่สวยไม่ยอม เพราะตัวเองกำลังจะเดินเข้าสู่วงการบันเทิง โดยที่สวยไม่ล่วงรู้เลยว่าแม็คไม่ได้จริงใจที่จะช่วย ทำทุกอย่างเพื่อหวังเคลมสวย

และที่สวยเพิ่งจะรู้อีกอย่างก็คือแม็คมี แครี่ (สิริลภัส กองตระการ) พริ้ตตี้นักศึกษาสาวเซ็กซี่ประจำร้านอาหารของแม็ค หลบซ่อนเป็นกิ๊กเอาไว้อีกคน แครี่ ตั้งตัวเป็นศัตรูกับสวยอย่างชัดเจน โดยมี กุ๊งกิ๊ง (วรรณพร สิริอังกุล) และ โมโม่ (วันสิริ อ่องอำไพ) เพื่อนสาวพริ้ตตี้สุดแสบ เป็นแนวร่วมช่วยแครี่กลั่นแกล้งสวยทุกครั้งที่มีโอกาส สวยพยายามสู้ ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างอย่างเด็ดขาด ยิ่งทำให้แครี่คิดจะกำจัดสวยไปให้พ้นทาง เพราะแครี่ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของแม็ค โดยไม่รู้เลยว่า กุ๊งกิ๊ง กับ โมโม่ ก็เป็นกิ๊กของแม็คเช่นกัน

สาวพยายามพูดให้นครตัดใจเสียที แต่นครยังยืนยันที่จะตามล่าหัวใจของสวยต่อไป โดยจะทำให้ตัวเองเป็นศิลปินเพื่อชีวิตที่โด่งดังให้ได้ เพื่อให้ศักดิ์ศรีสูสีกับหญิงอันเป็นที่รัก ควบคู่กับการตั้งใจเรียนในคณะมนุษย์ศาสตร์สื่อสารมวลชน ที่นครคิดว่าจะช่วยเปิดทางไปสู่การทำงานในวงการบันเทิง ส่วนสาวเลือกเส้นทางรัฐศาสตร์ เพื่อนำความรู้ทางด้านการปกครองไปช่วยพัฒนาบ้านเกิด ในฐานะผู้ใหญ่บ้านหญิงในอนาคตต่อไป

นครพยายามทำตัวสดใสร่าเริงเพื่อปกปิดความเศร้า ฝ่ายสาว รู้ว่านครเจ็บ สาวก็ยิ่งเสียใจมาก เศร้าไม่แพ้นคร แต่ก็ทำตัวสดใสร่าเริงเช่นกัน เพื่อน ๆ ทั้งสองฝ่ายดูออก จึงคิดกิจกรรมต่าง ๆ นานาในค่ายอาสา เพื่อเยียวยาหัวใจให้นครและสาวกลับมาเป็นปกติ จากสถานการณ์ต่าง ๆ ทำให้ นครและสาวได้ใกล้ชิดกัน ก่อเกิดเป็นความรักความผูกพันที่ลึกซึ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้งนครและสาวก็ยังไว้เชิงเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ในขณะเดียวกัน เทพ,น้าไข่,โฉมงามก็ต้องระดมสมองมาช่วยสร้างความสมานฉันท์ระหว่างดวงใจและ ครูสันติ ไม่นานนักดวงใจก็ใจอ่อน

แม็ค หาโอกาสรวบหัวรวบหางสวย แต่สวยยังเล่นตัว เรียกหาสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะทำให้สวยโด่งดังและแต่งงานกับสวย แม็คไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป เข้าขืนใจสวยแล้วสลัดทิ้ง แครี่ได้ทีเยาะเย้ยถากถางสมน้ำหน้าสวยต่าง ๆ นานา สวยเสียใจมากที่รู้ธาตุแท้ของแม็ค สวยท้องและมีลูกกับแม็ค แต่แม็คไม่สนใจ สวยไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว จึงซมซานกลับบ้านเกิด สวยใช้แผนมอมเหล้านคร และให้นครรับผิดชอบตนและลูก นครไม่เชื่อว่าตัวเองทำอะไรสวย และตอนนี้เค้าก็รักสาวแล้ว แต่ด้วยสงสารนครเลยเลือกตัดใจจากสาวและสร้างครอบครัวกับสวย

พ่อผู้ใหญ่โกรธมากที่สวยถูกแม็คย่ำยี  ไปเอาเรื่องกับเจ๊เอียด เรียกร้องให้แม็ครับผิดชอบสวย เจ๊เอียดโกรธที่แม็ควู่วาม จึงผัดผ่อนประวิงเวลา เรียกตัวแม็คกลับมาด่วน เจ๊เอียดบังคับให้แม็คอดทนทำดีกับสวย เพื่อหลอกล่อให้สวยสืบจากพ่อผู้ใหญ่มาให้ได้ว่าที่ซ่อนของพระน้อยอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นแม็คจะไม่สนใจใยดีสวยอย่างไร เจ๊เอียดก็จะไม่ว่าอีกต่อไป แม็คจำยอมทำตามกลับไปง้อสวย สวยก็ใจอ่อนขอเลิกกับนครจะไปอยู่กับแม็ค แต่….พ่อผู้ใหญ่เข้ามาล่วงรู้สิ่งที่เจ๊เอียดคุยกับแม็คเข้า เจ๊เอียดสั่งลูกน้องฆ่าปิดปากพ่อผู้ใหญ่ทันที แล้วอำพรางคดี สาว สวย และทุกคนช็อคและเสียใจกับการจากไปของพ่ออันเป็นที่รัก สาวประกาศกลางงานศพ จะลากคอฆาตกรมาลงโทษให้ได้!!!!

ครูสันติ ได้ข่าวว่าขบวนการลักลอบค้าพระกำลังจะเข้าไปขโมย พระน้อย จึงเข้าไปป้วนเปี้ยนในวัด ทำให้นครเข้าใจผิด คิดว่าครูสันติจะเข้าไปสืบหาที่ซ่อนพระพุทธรูป ครูสันติจึงยอมบอกความจริงว่าเป็นตำรวจปลอมตัวมาตามสืบคดีลักลอบค้าวัตถุ โบราณ นครจึงขอโทษที่เคยเข้าใจผิดพร้อมรับปากจะช่วยปกป้องพระพุทธรูปของหมู่บ้าน สวยถูกแม็คขู่และบังคับให้เข้าไปล้วงความลับจากนคร แต่นครไม่ยอมหลุดปาก แม็ครู้ว่าสวยทำงานไม่สำเร็จ ก็โกรธมากทำร้ายสวยปางตาย สาวเข้ามาเห็นจะช่วยเหลือสวย แต่แม็คจับสวยเป็นตัวประกัน สั่งให้สาวไปเอาข้อมูลจากนครมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าสวย แล้วทุกคนก็รู้ความจริงว่า เจ๊เอียดและแม็ค เป็นผู้บงการฆ่าผู้ใหญ่บ้านและเป็นผู้ลักลอบค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ของประเทศ

สาวขอร้องนคร นครยอมช่วยและแอบบอกข่าวให้ครูสันติ นครพาสวยพาไปยังที่ซ่อนพระพุทธรูป แม็คและลูกน้องสะกดรอยตามมาจนเจอพระน้อย แม็คจะฆ่านครและสาวที่กรุพระแห่งนี้ แต่แล้วครูสันติก็นำกำลังตำรวจเข้าปิดล้อม เจ๊เอียดซึ่งถูกตำรวจคุมตัว ขอร้องอย่าทำร้ายลูก และบอกให้แม็คยอมมอบตัว แม็คไม่ยอมแพ้ คว้าตัวสาวเป็นตัวประกัน แล้ววิ่งหนีไป

นคร ครูสันติ สวยและทุกคนตามไปช่วย เกิดการไล่ล่า สาวฉวยจังหวะดิ้นหลุดจากแม็ควิ่งหนีไปสวนยาง แม็คยิงใส่ทันที สวยปราดเข้ามาขวางวิถีกระสุนเพื่อปกป้องสาว ขอโทษกับความผิดพลาดของเธอ แล้วสิ้นใจตายในอ้อมกอดของสาว

หลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ดวงใจรู้ความจริงว่าครูสันติเป็นตำรวจ ดวงใจยิ่งโกรธหนักที่ถูกหลอกอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เคยสัญญากันไว้แล้วว่าจะพูดความจริง ครูสันติจึงขอร้องให้เทพและน้าไข่สอนร้องเพลงสำเนียงใต้  สารภาพรักให้ดวงใจเห็นความจริงใจ เพราะรู้ดีว่าดวงใจแพ้เสียงเพลง ในที่สุดก็เป็นจริงอย่างที่ครูสันติคิดไว้ ความรักของดวงใจและครูสันติจึงสมรักสมรส

สาว เสียใจกับการจากไปของสวย นครเข้ามาปลอบใจและขอคำตอบจากสาวอีกครั้งว่า….เธอรักฉันบ้างไหม??? สาวเดินหนีไปก่อนจะหันมาร้องเพลง ใจความว่า ถ้ารักก็ขอให้รักด้วยความจริงใจและให้มาขอ ตนพร้อมจะมอบใจให้กับคนที่รักจริง นครหัวใจพองโตวิ่งเข้าไปกอดสาวพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่ แต่ก็ถูกสาวต่อยกลับ ฐานล่วงเกินก่อนที่แม่จะมาขอ แล้วบรรดาลูกคู่ทั้งหลายที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็โผล่ขึ้นมาแสดงความยินดีกัน อย่างครื้นเครง ติดตามชมละคร เพลงรักทะเลใต้

รายชื่อนักแสดงละคร เพลงรักทะเลใต้

ซี-ศิวัฒน์  โชติชัยชรินทร์   แสดงเป็น   นคร
เบนซ์-ปุณยาพร  พูลพิพัฒน์   แสดงเป็น   สาว
อุ่น-ปรียานุช  อาสนจินดา   แสดงเป็น   สวย
อู-ภาณุ สุวรรณโณ   แสดงเป็น   ครูสันติ
ส้ม-ธัญสินี  พรหมสุทธิ์   แสดงเป็น   ดวงใจ
แดน-ดนัย  สมุทรโคจร   แสดงเป็น   แม็ค
โก๊ะตี๋   แสดงเป็น   เทพ
ชมพูนุช  กลิ่นจำปา   แสดงเป็น   โฉมงาม
วีระชัย  หัตถโกวิทย์   แสดงเป็น   น้าไข่
ปิยะ  ตระกูลราษฎร์   แสดงเป็น   ผู้ใหญ่คม
สุภักดิ์  ปิติธรรม   แสดงเป็น   หลวงปู่เสม
อำภา  ภูษิต   แสดงเป็น   เจ๊เอียด
จ๋อ อมรเทพ   แสดงเป็น   หลวงอา
สิริลภัส  กองตระการ   แสดงเป็น   แครี่
วันสิริ  อ่องอำไพ   แสดงเป็น   โมโม่
วรรณพร  ศิริอังกุล   แสดงเป็น   กุ๊งกิ๊ง

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

แดน เทพ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ซูเปอร์สตาร์วัยสามสิบเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงและร้ำรวยถึง ขีดสุด มีแฟนเป็นซูเปอร์โมเดลชื่อปรายฟ้า (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ทั้งคู่จะหมั้นกันในหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่ก็เกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นซะก่อน แดนเทพได้รับอีเมล์ปริศนาจากเด็กสาวชื่อไอด้า (พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์) ที่อ้างว่าเป็นลูกสาวของแดนเทพกับเคท (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ไอด้าตามสืบเรื่องพ่อและหนีมาเมืองไทยโดยมีโอ๋ (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เพื่อนสนิทของแม่ให้ความช่วยเหลือ แดนเทพกังกลเรื่องที่ไอด้าจะมาเมืองไทยจนทำงานไม่ได้ จึงเล่าเรื่องไอด้าให้ปั๋ง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ผู้จัดการส่วนตัวฟัง เรื่องที่เคยทำเคทสาวไทยท้องเมื่อ 15 ปีก่อนตอนซัมเมอร์ที่ฮอลแลนด์ แต่แม่ของฝ่ายหญิงกีดกันไม่ให้เจอกันอีก แดนเทพไม่เชื่อเรื่องที่ไอด้าเป็นลูกสาวของตน ปั๋งบอกให้แดนเทพปิดเรื่องนี้ไว้เพราะกลัวจะกระทบกับเรื่องงานและเรื่องปราย ฟ้า ปั๋งอาสาจัดการทุกอย่างให้และจัดแจงไปรับไอด้าที่สนามบิน ปั๋งพาไอด้าไปพักที่เพนท์เฮาส์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของแดนเทพ

เมื่อแดนเทพและไอด้าเจอกันปั๋งยื่นข้อเสนอแลกหลักฐานด้วยเงินก้อนโตแต่ไอด้า ไม่รับ ไอด้ายื่นข้อเสนอให้แดนเทพเป็นพ่อตนเองหนึ่งอาทิตย์ แดนเทพให้ไอด้ามาอยู่ที่บ้านของคุณยุทธ (วันชัย เผ่าวิบูล) คุณเอื้อ (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) และผู้พันดนัย (สุรวุฒิ ไหมกัน) พ่อ แม่และพี่ชายของแดนเทพ เป็นเหตุให้แดนเทพนั่งเป็นจำเลยให้พ่อแม่และพี่ชายสอบสวนแดนเทพจึงขอความ ร่วมมือจากพ่อ แม่และพี่ชาย และบอกว่าแค่ได้หลักฐานจากไอด้าทุกอย่างก็จะจบ

ไอด้าใช้เวลาอยู่กับแดนเทพและครอบครัวอย่างสนุกสนาน แดนเทพทำอาหารให้ไอด้าทาน นั่งดูรายการโปรดเป็นเพื่อนไอด้าและทุกเย็นก็รีบกลับมาทานข้าวด้วยและในขณะ เดียวกันก็จ้องจะแฮ็คหลักฐานจากไอด้าแต่ถูกไอด้าจับได้ตลอด คุณเอื้อ คุณยุทธและผู้พันดนัยก็เอ็นดูไอด้าเพราะความน่ารัก ถึงวันเฉลยหลักฐานของไอด้า หลักฐานก็หายไปด้วยฝีมือของเคท เคทกับไอด้าทะเลาะกันยกใหญ่ โอ๋ซ้อนแผนแย่งหลักฐานจากเคทมาได้ และเอาไปให้พ่อแม่ พี่ชายของแดนเทพและแดนเทพดู และบอกว่าตอนนี้เคทแม่ของไอด้าตามมาเอาตัวไอด้ากลับไปแล้ว

เคทพาไอด้าออกจากบ้านแดนเทพ แต่ลืมของไว้ที่บ้านแดนเทพ จึงกลับไปเอาของและเจอแดนเทพเข้าอย่างจัง แดนเทพโวยวายเรื่องที่เคทไม่บอกว่าเธอท้องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เคทไม่รู้เรื่องที่แม่ของเธอกีดกันแดนเทพกับเธอ เธอจึงไม่เถียงด้วยเพราะคิดว่าแดนเทพเป็นคนไม่รับผิดชอบและทิ้งเธอไปก่อน ไม่ทันที่แดนเทพกับเคทจะเถียงกัน โอ๋โทรมาบอกว่าอยู่โรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคเครียด ต้องได้รับการรักษาด้วยความอบอุ่นและทางจิตใจ คุณเอื้อขอให้เคทและไอด้าอยู่เมืองไทยต่อจนอาการไอด้าดีขึ้น เคททนอยู่บ้านแดนเทพทั้งที่เกลียดขี้หน้า

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ปรายฟ้าอยาก รู้เรื่องของแดนเทพจึงส่งเอื้อมดาว (อธิชนัน ศรีเสวก) ศิลปินในค่ายที่แอบชอบแดนเทพตามแดนเทพแทนตน แลกกับการขึ้นแท่นนางเอกใหม่ เอื้อมดาวตกลงทันที ส่วนทางด้าน ปาปารัสซี่หนุ่มชื่อโม่ง (วิชญ จารุจินดา) ตามถ่ายภาพแดนเทพและไอด้าจนมีข่าวว่าแดนเทพมีกิ๊กเด็ก ปั๋งก็ออกมายอมรับตามนั้นเพราะกลัวว่าจะกระทบกับงาน เคทกับแดนเทพอยู่ร่วมกันในบ้านทั้ง 2 คนได้กลับมาเรียนรู้ซึ่งกันและกับใหม่อีกครั้ง แดนเทพทำตัวน่ารักขึ้น ในวันหนึ่งขณะที่ เคท แดนเทพและไอด้าช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว ปรายฟ้าแอบปีนรั้วเข้ามาเห็นเข้า แดนเทพบอกความจริงทั้งหมดกับปรายฟ้า ปรายฟ้าเสียใจวิ่งสติแตกออกไป ปั๋งหาทางตั้งรับเพราะคิดว่าปรายฟ้าต้องเอาคืนแน่ ๆ แต่ปลายฟ้าวางฟอร์มทำเฉยแล้วกลับช่วยส่งข่าวและให้แดนเทพทำกิจกรรมสาธารณ กุศลสร้างชื่อเสียงให้แดนเทพดังขึ้นไปอีก ปั๋งเอ่ยปากชมเปราะถึงความมีน้ำใจของปรายฟ้าที่ไม่แก้แค้นแดนเทพ ปรายฟ้าขอให้แดนเทพรับปากว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะต้องไม่มีการเลื่อนวัน หมั้น

โม่งยังไม่วางมือจากครอบครัวแดนเทพเพราะถูกจ้างพิเศษจาก คีตะ (กฤษณกัณฑ์ มณีผกาพันธ์) ศิลปินจอมอิจฉาร่วมค่ายเดียวกัน ทนไม่ได้ที่แดนเทพมีงานล้นมือ คีตะตั้งรางวัลให้กับโม่งอย่างงามหากโม่งเปิดโปงเรื่องของแดนเทพได้ ในช่วงนั้นไอด้าและเคทต้องทำทุกทางเพื่อเลี่ยงนักข่าว จนเคททนไม่ไหวพาไอด้าย้ายไปอยู่คอนโด ครอบครัวแดนเทพรู้เข้าก็พยายามทำทุกวิธีให้ทั้งสองคนกลับมาใกล้ชิดกันอีก ครั้ง โดยเฉพาะผู้พันดนัยวางแผนกับผู้พันต้อม (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนรักนายทหารให้ช่วยจีบเคทเพื่อเร่งปฏิกิริยาแความหึงหวงของแดนเทพ ผู้พันต้อมตกหลุมรักเคทเรื่องเลยอิรุงตุงนังเข้าไปอีก

ด้านโม่งลงทุนย้ายไปอยู่คอนโดที่เดียวกับไอด้าและตีสนิทกับไอด้าเพื่อจะคุ้ย ข่าวเรื่องแดนเทพ รุ่นพี่ของโม่งที่เป็นโมเดลลิ่งเห็นไอด้าจึงชวนไปถ่ายโฆษณา ไอด้ามีงานหลายชิ้น แต่ชิ้นที่ไอด้าเห็นจะดี๊ด๊าที่สุดก็คือโฆษณาที่แดนเทพเล่นเป็นพระเอก โม่งจับตาดูจนแน่ใจว่าไอด้ากับเคทเป็นลูกเมียของแดนเทพ คีตะได้ภาพแอบถ่ายของแดนเทพ เคทและไอด้าจากโม่ง แล้วส่งให้เอเจนซี่สินค้าหนุ่มโสด แดนเทพถูกถอดและคีตะได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์แทน แดนเทพกลายเป็นคนเงียบขรึม ส่วนโม่งได้ค่าจ้างเป็นเงินก้อนโตจากคีตะ ก็เอามาเลี้ยงข้าวและซื้อของให้ไอด้า ไอด้าสงสัยว่าโม่งเอาเงินมาจากไหน โม่งเริ่มสึกผิด เคทเค้นโม่งจนรู้เบื้องหลังารเป็นพรีเซนเตอร์ของคีตะ เคทดุ่ยไปเอาเรื่องกับคีตะ คีตะถึงกับอึ้งที่เจอผู้หญิงเอาจริงอย่างเคท แอบประทับใจเคทอยู่เงียบ ๆ

คีตะจับสังเกตได้ว่าเคทกับแดนเทพรักกันจึงคิดแย่งเคทมาจากแดนเทพ แดนเทพเห็นเคท อยู่กับคีตะโดยบังเอิญในวันที่เคทไปส่งไอด้าที่บ้านแดนเทพ ทั้งสองคนมีปากเสียงกัน เคทเก็บกดจึงกับความดื้อและเลี้ยงยากของไอด้า แดนเทพรู้สึกผิดจึงกอดเคท ปรายฟ้าเข้ามาเห็นวิ่งร้องไห้ออกไปเกือบถูกรถชนแดนเทพช่วยไว้ทัน ปรายฟ้าอยู่ในอ้อมกอดแดนเทพ เคทมองด้วยความเจ็บปวดก่อนออกรถไป ปรายฟ้า ไม่ไว้ใจความสัมพันธ์แดนเทพกับเคท ปรายฟ้าจึงวางแผนให้ไอด้าเข้าใจผิดเคท ไอด้าหนีไปเที่ยวกับเอื้อมดาวและหนุ่มไฮโซแต่เห็นท่าไม่ดีจึงขอตัวกลับและ เปิดประตูขณะรถวิ่งอยู่ ปรายฟ้าที่ขับตามหลังมาปาดหน้ารถแล้วพาไอด้ากลับบ้านแล้วให้สัญญาณหนุ่มไฮโซ ให้พาเอื้อมดาวไปแทน แดนเทพอึดอัดในความดีของปรายฟ้าที่ผุกมัดตัวเขามากขึ้นทุกวัน

แดน เทพรู้ใจตัวเองว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักคือเคทแต่ยิ่งเข้าใกล้เคทเท่าไหร่เคท ยิ่งทำตัวออกห่างด้วยการไปเดทกับคุณต้อมและคีตะ โอ๋พยายามช่วยแดนเทพตามจีบเคทแต่ถูกปั๋งขัดขวางอยู่ตลอด เคทพยายามให้คีตะวางมือจากแดนเทพแต่ไม่สำเร็จ ทางเดียวที่จะช่วยแดนเทพได้คือพาไอด้าไปจากเมืองไทย แดนเทพไม่ยอม เคทอ้างว่าคบกับคุณต้อมและจะพาไปให้แม่ดุตัว แดนเทพจึงยอมให้กลับฮอลแลนด์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ไอด้ามีงานร่วมกับแดนเทพและคีตะ มีนักข่าวมาทำข่าว คีตะพยายามเปิดโปงความสัมพันธ์ของสองคนพ่อลูกจนน่ารำคาญ คีตะจึงใช้แผนสกปรกโดยการลวนลามไอด้า แดนเทพทนไม่ไหวเข้าไปชกกับคีตะ และประกาสว่าไอด้าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเอง และให้ปั๋งจัดแถลงข่าวเรื่องเคทกับไอด้า นักข่าวตามล่าตัวเคทกับไอด้า คุณเอื้อรับไอด้าไปเก็บตัวเงียบ ส่วนแดนเทพกับเคทไปซ่อนตัวเงีบย ๆ กันอยู่ที่ต่างจังหวะ ทั้งสองคนมีเวลาปรับความเข้าใจกัน แดนเทพสั่งดอกไม้เพื่อจะขอเคทแต่งงานระหว่างที่ไปรับดอกไม้ก้ปล่อยให้เคทอ ยู่คนเดียว ปรายฟ้าโผล่มาหาเคทพูดว่าทุกอย่างที่แดนเทพทำก็เพื่อลูกเท่านั้นทำให้เคท น้อยใจหนีกลับกรุงเทพฯ มาก่อน แดนเทพกลับมาเจอแต่ปรายฟ้า เธออ้างว่าเคทด่าว่าเธอแล้วก็เดินออกไป ปรายฟ้าให้ข่าวกับนักข่าวว่าเธอกับแดนเทพยังดีกันอยู่และเธอก็สนิทกับไอด้า ลูกติดของแดนเทพด้วย และวางแผนให้นักข่าวมาถ่ายรูปตอนที่เธออยู่กับแดนเทพว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูน อีกด้วย ข่าวที่ออกมาจึงว่าแดนเทพกับปราบฟ้ามีข่าวดีแน่นอนส่วนเคทเป็นแค่เมียเก่า เท่านั้น

เคทเห็นข่าวหมดความอดทนจึงพาไอด้ากลับฮอลแลนด์ ไอด้าโกรธเคทหนีออกจากเครื่องบินทำให้เคทตามลงมา ตามหาทั้งที่ไม่รู้จักทางในกรุงเทพฯเลย ปรายฟ้าโทรบอกเคทว่าไอด้าอยู่ที่บ้านแดนเทพแล้ว เคทกลับไปแต่เห็นภาพที่แดนเทพ ไอด้า และปรายฟ้าอยู่ด้วยกันเข้าจึงเสียใจและร้องไห้ออกไป ไอด้าเห็นเคทเข้าวิ่งไปหาแม่อย่างรู้สึกผิด แดนเทพต่อว่าเคท เคทไม่สนใจฟังแดนเทพ ถามความสมัครใจว่าไอด้าจะอยู่ที่ไหน ปรายฟ้าช่วยพูดให้ไอด้าเห็นใจแม่ ไอด้าฝืนความรู้สึกบอกว่าจะกลับฮอลแลนด์กับแม่ แดนเทพจะตัดสินใจอย่างไร จะเลือกหมั้นกับปรายฟ้า หรือ ตามหาหัวใจของตัวเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตาในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

รายชื่อนักแสดงนำในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ศุกลวัฒน์  คณารศ     แสดงเป็น     แดนเทพ
อคัมย์สิริ  สุวรรณศุข     แสดงเป็น     เคท
พลอยปภัส      ธนันต์ชัยกานต์     แสดงเป็น     ไอด้า/ไอยดา
กาญจน์เกล้า  ด้วยเศียรเกล้า     แสดงเป็น     ปรายฟ้า
กฤษณกัณฑ์  มณีผกาพันธ์     แสดงเป็น     คีตะ
พรรัมภา  สุขได้พึ่ง     แสดงเป็น     โอ๋
อธิชนัน  ศรีเสวก     แสดงเป็น     เอื้อมดาว
สุรวุฒิ  ไหมกัน     แสดงเป็น     ผู้พันดนัย
นพพล  พิทักษ์โล่พานิช     แสดงเป็น     ท่านชายต้อม
โอลิเวอร์  บีเวอร์     แสดงเป็น     ปั๋ง
วันชัย  เผ่าวิบูล     แสดงเป็น     คุณยุทธ
ปภัสรา  เตชะไพบูลย์     แสดงเป็น     คุณเอื้อ
วิชญ  จารุจินดา     แสดงเป็น     โม่ง
ภัทรี  ชนะศักดิ์     แสดงเป็น     แอน
พรรณี  โต๊ะนายี     แสดงเป็น     แม่บ้านแดนเทพ
สมชาย  ลีลารักษ์สกุล     แสดงเป็น     อั๋น

พระจันทร์ลายพยัคฆ์

พระจันทร์ลายพยัคฆ์ เรื่องราวระหว่าง สองสาวพี่น้องต่างสกุล แต่เพราะมาประสบเรื่องราวคล้าย ๆ กันเมื่อพ่อซึ่งเป็นตำรวจถูกขบวนการค้ายาเสพติดฆ่าตาย และเมื่อทั้งคู่ได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน และรักใคร่กลมเกลียวเหมือนเป็นพี่น้องสายโลหิตแท้ ๆ แต่ด้วยเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว ที่ทำให้ทั้งคู่ ต้องมาห้ำหั่นกันเอง ทำให้เกิดเป็นปมเรื่องราวความขัดแย้งขึ้น  จึงเป็นที่มาของละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์

จันทร์ ฉาย (อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ) ลูกสาวตำรวจที่เก็บความแค้นตั้งแต่เด็ก เช่น เดียวกับ ปานเดือน (ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม) และ ทิวา (ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) ที่โตมาในครอบครัวตำรวจ จันทร์ฉายเห็นพ่อตัวเองกับพ่อของปานเดือนถูกพวกค้ายาเสพติดยิงตายต่อหน้าต่อตา นวล (ตุ้ม-รสริน จันทรา) แม่ของปานเดือน-ทิวา จึงรับอุปการะจันทร์ฉายเป็นลูกบุญธรรม ทั้ง 3 คน รักกันเหมือนพี่-น้องแท้ๆ แถมยกให้จันทร์ฉายเป็นพี่สาวคนโตคอยปกป้องน้องๆ

หลังเรียนจบปานเดือน กับจันทร์ฉายสอบเข้าเป็นนายร้อยตำรวจหญิงรุ่นเดียวกัน ทั้งคู่ถูกส่งไปฝึกกับ ผู้กองอานนท์ (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณาเรศ) นายตำรวจรูปหล่อแห่งกองปราบฯ ปานเดือนหลงรักอานนท์ตั้งแต่แรกพบ ผิดกับจันทร์ฉายที่ไม่ถูกชะตากับอานนท์เอาซะเลย ระหว่างฝึกภาคปฏิบัติจันทร์ฉายแสดงฝีมือ และคอยช่วยเหลือคนอื่น จนเพื่อนๆ รัก และยอมรับเธอมากกว่าปานเดือน น้องสาวที่ยึดติดกับกฎเกณฑ์จนไม่สนใจมิตรภาพของเพื่อน อานนท์จึงเลือกจันทร์ฉายเป็นผู้ช่วยคนใหม่แทน ไพลิน (เอมี่-เอมิกา บูเฮอร์) สายตำรวจที่ถูกพวกค้ายาฯ ฆ่าตาย เหตุนี้ทำให้ปานเดือนเข้าใจว่าพี่สาวจะแย่งอานนท์ เธอร่วมมือกับ ผู้กองชัชวาล (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) มือปราบคู่ปรับอานนท์ คอยตัดหน้าการจับกุมทีมของจันทร์ฉายทุกครั้ง

ต่อมาทีมอานนท์ได้รับ มอบหมายให้จับกุม ภูผา (เก่ง-ชาติชาย งามสรรพ์) หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่ก็ถูกชัชวาลกับปานเดือนจับกุมตัดหน้าจนเสียแผน แถมเธอยังเกือบถูกภูผาฆ่า โชคดีที่จันทร์ฉายไปช่วยทัน แต่จันทร์ฉายบันดาลโทสะยิงภูผาตาย!! ชำระแค้นที่มันเคยฆ่าพ่อของเธอ กับปานเดือนตาย การกระทำเกินกว่าเหตุทำให้จันทร์ฉายถูกลงโทษ อานนท์ขอร้องปานเดือนช่วยให้ปากคำเข้าข้างจันทร์ฉาย เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอพ้นผิด แต่ด้วยความอิจฉาที่เห็นอานนท์ห่วงใยพี่สาวปานเดือนเลยปรักปรำจันทร์ฉายจน ต้องติดคุก
แม้ภูผาจะถูกฆ่าแต่สมุนมันยังตามแก้แค้นปานเดือน -จันทร์ฉายไม่เลิก จนแม่ของพวกเธอต้องรับเคราะห์ถูกทำร้ายสาหัส แค้นครั้งนี้ทำให้ปานเดือนเกลียดจันทร์ฉายเพิ่มทวีคูณ เพราะคิดว่าพี่สาวเป็นต้นเหตุของเรื่องร้ายๆ หลังพ้นโทษจันทร์ฉายตามแก้แค้นคนทำร้ายแม่บุญธรรมอย่างเลือดเย็น ความผิดซ้ำๆ ทำให้เธอถูกไล่ออกจากราชการ แถมปานเดือนยังประกาศตัดพี่ตัดน้องกับจันทร์ฉาย ทิวาสงสารจันทร์ฉายแต่ไม่กล้าขัดปานเดือน จันทร์ฉายหมดหนทางเลยไปอยู่กับ สมชาย (บอล เชิญยิ้ม) อดีตพนักงานในผับภูผา ทั้งคู่สนิทกันตอนที่เธอปลอมเป็นนักร้องไปสืบคดีให้กองปราบ จันทร์ฉายกับสมชายหุ้นกันขายของจนกลายเป็นเพื่อนซี้

ไม่นาน วายุ (อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์) น้องชายต่างแม่ของภูผา มารับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งแทน ด้วยความที่ภูผาเคยดูถูกแม่วายุไว้มาก ทำให้เขาอยากล้างแค้นพี่ชายมากกว่าจะกำจัดศัตรู จึงแค่ให้ เมธี (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) มือขวาเก่าภูผาไปก่อกวนจันทร์ฉายจนทำมาหากินไม่ได้ อานนท์พยายามช่วยเหลือจันทร์ฉายทุกอย่างแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เพราะเธออยากให้อานนท์รักปานเดือน ส่วนเธอจนตรอกจนต้องบุกไปชำระแค้นกับวายุ จันทร์ฉายโชว์ฝีมือจัดการสมุนเมธีจนวายุทึ่ง! อยากได้เธอมาร่วมงาน แต่จันทร์ฉายไม่คิดทำงานผิดกฎหมาย จนวายุถูกศัตรูลอบทำร้าย และเธออยู่ในเหตุการณ์พอดีจึงปกป้องเขาจนปลอดภัย วายุขอให้จันทร์ฉายมาเป็นบอดี้การ์ด โดยสัญญาจะไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด แถมยื่นเงื่อนไขเป็นเงินก้อนโตให้เธอไปรักษาแม่บุญธรรม จันทร์ฉายจึงยอมตกลง แต่การร่วมแก๊งของเธอทำให้ จอมขวัญ (ปอย-ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์) ภรรยาภูผากับเมธีที่เป็นชู้รักกันไม่พอใจ เพราะพวกมันกำลังจะกำจัดวายุ และยึดอำนาจทั้งหมด ด้วยสัญชาตญาณตำรวจจันทร์ฉายอ่านเกมชั่วของชู้รักคู่นี้ออก จึงขัดขวางแผนร้ายของทั้งคู่ได้ทุกครั้ง

หลังปานเดือนกำจัดจันทร์ ฉายพ้นทาง เธอทำทุกทางให้ได้ใจอานนท์แต่ไม่เป็นผล แถมยังเจอศัตรูหัวใจคนใหม่อย่าง ดุจดาว (แก้มบุ๋ม-พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์) ลูกสาว ท่านวิชาญ (เจี๊ยบ-ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) นักการเมืองใหญ่ ดุจดาวหลงเสน่ห์อานนท์จึงให้เขามาเป็นบอดี้การ์ด อานนท์กับปานเดือนเลยได้เข้านอกออกในบ้านวิชาญบ่อยๆ เลยรู้ว่าจันทร์ฉายไปทำงานให้วายุ วิชาญเดาปมแค้นของปานเดือนที่มีกับพี่สาวออก เลยหว่านล้อมให้เธอร่วมมือกำจัดพวกวายุได้ไม่ยาก ปานเดือนประกาศลากคอจันทร์ฉายเข้าตารางให้ได้ ที่สำคัญเกมนี้วิชาญยังมีเมธีกับจอมขวัญเป็นหนอนบ่อนไส้คอยล้วงความลับ และใส่ร้ายจันทร์ฉายให้วายุฟังบ่อยๆ แต่เขาไม่สนเพราะจันทร์ฉายเป็นคนดี วิชาญให้ ต้าเหว่ย (เชน-ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์) หัวหน้าขบวนการค้ายานรกชนกลุ่มน้อยหลอกซื้อยาจากวายุ พอวันส่งของต้าเหว่ยทำร้ายจนวายุตาบอดแล้วจับเป็นตัวประกัน วายุหว่านล้อมทุกวันจนต้าเหว่ยยอมช่วยเขา แต่หุ้นส่วนต้าเหว่ยไม่เอาด้วย พอถึงวันไถ่ตัวจันทร์ฉายอาสาถือเงินมาเอง ขณะแลกตัวประกันต้าเหว่ยส่งซิกให้จันทร์ฉายคุ้มกันให้วายุ ส่วนตัวเองยิงสกัดหุ้นส่วนเก่าตายคาที่ ช่วยวายุ-จันทร์ฉายรอดมาได้ ทำให้วายุกับต้าเหว่ยกลายเป็นหุ้นส่วนกันทันที

ตลอดเวลาที่วายุตา มองไม่เห็นจันทร์ฉายกับสมชายดูแลเขาอย่างดี ความดีของเธอทำให้วายุหลงรักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานตาของวายุก็มองเห็นปกติ แต่เขาทำเป็นตาบอดเหมือนเดิม เพราะอยากรู้ว่าใครคิดร้ายกับตัวเองบ้าง ถึงรู้ว่าเมธีกับจอมขวัญเป็นพวกวิชาญไปแล้ว แต่วายุไม่โวยวายตามเกมทั้งคู่ต่อ เขาเลยรู้ว่าปานเดือนก็ร่วมมือกับวิชาญ คอยบอกความเคลื่อนไหวของตำรวจให้ขบวนการค้ายาฯ ของวิชาญรู้ จนพวกมันหนีการจับกุมได้ทุกครั้ง เพื่อแลกกับตำแหน่งในราชการ และจะยืมมือวิชาญฆ่าจันทร์ฉาย ปานเดือนถลำลึกหลงผิดจนถอนตัวไม่ขึ้น

ไม่ นานเมธีก็หลอกวายุ-จันทร์ฉาย-สมชายไปให้ปานเดือนจับ งานนี้มีอานนท์กับ จ่าพงศ์ (ค่อม ชวนชื่น) ร่วมทีมด้วย จันทร์ฉายประจันหน้ากับอานนท์ เธอตัดสินใจปกป้องวายุจนอานนท์ต้องโต้กลับ วายุกลัวจันทร์ฉายถูกจับเลยเข้าชาร์จช่วยเธอ ทุกคนตะลึง! ที่ตาวายุมองเห็น เขาอาศัยทีเผลอรัวยิงตำรวจตายเป็นเบือ อานนท์แค้นแทบคลั่งที่สูญเสียเพื่อนๆ เขากระหน่ำยิงใส่รถวายุจนแล่นลับตาไป เมื่อถึงที่พักจันทร์ฉายอาละวาดวายุอย่างหนัก เพราะโกรธที่วายุปิดบังเรื่องการมองเห็น วายุรู้สึกผิดต่อเธอมากเขาขอโทษ และสัญญาจะวางมือจากธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง หากจันทร์ฉายยอมใช้ชีวิตด้วย แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธไร้เยื่อใย ก่อนเดินจากวายุไปทันที

ส่วนอานนท์ก็ ถูกผู้ใหญ่เร่งให้ปิดคดีวายุ เป็นจังหวะเดียวกับที่วายุมาตามหาจันทร์ฉายที่แฟลตอานนท์ 2 หนุ่ม แทบจะฆ่ากันให้ตาย โดยไม่รู้ว่าจันทร์ฉายกำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะเธอตัดสินใจไปกราบลา แม่นวล ที่บ้านเก่า ขณะที่แม่ลูกกอดลากันร้องไห้ ปานเดือนก็โผล่มาจ่อปืนใส่จันทร์ฉายต่อหน้าแม่ ทุกคนตกใจมากบอกให้จันทร์ฉายหนีไป แต่เธอไม่หนีแถมยอมมอบตัวให้ปานเดือนจับโดยดี ท่าทางปานเดือนเหมือนคนเสียสติ ทิวาชาร์จปานเดือนเพื่อให้จันทร์ฉายหนี แต่ปานเดือนตามไม่เลิก โชคดีที่วายุตามมาทันเขาพาจันทร์ฉายหนีตายไปกบดานบ้านเก่าบนเกาะส่วนตัว

ขณะ ที่วายุ-จันทร์ฉาย-สมชายไปถึงท่าเรือ อานนท์-จ่าพงศ์ก็เข้าสกัดจับ แต่ไม่ทันเจรจาจู่ๆ วิชาญก็ส่งสมุนมากำจัดวายุกับพวก งานนี้อานนท์กับจ่าพงศ์เลยต้องช่วยพวกวายุก่อน ระหว่างที่ต่างคนต่างหนีวิถีกระสุน สมุนวิชาญก็ยิงถังน้ำมันตรงที่จันทร์ฉายหลบอยู่ระเบิด!! ร่างของเธอหายไปในพริบตา ทำเอาอานนท์กับวายุช็อก! จนถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บทั้งคู่ จ่าพงศ์กับสมชายต่างก็ช่วยหัวหน้าตัวเองอย่างทุลักทุเล แต่ปานเดือนไม่เชื่อว่าจันทร์ฉายจะตายง่ายๆ เธอยังตามล่าล้างแค้นจันทร์ฉายแทบพลิกแผ่นดิน เรื่องราวการล้างแค้นของ 2 พยัคฆ์สาว ปานเดือน กับ จันทร์ฉาย จะจบลงยังไง? และอานนท์ จะหาทางออกให้หัวใจตัวเองได้หรือไม่?

รายชื่อนักแสดงนำในละคร พระจันทร์ลายพยัคฆ์

ศุกลวัฒน์ คณารศ     แสดงเป็น     อานนท์
พัชราภา ไชยเชื้อ     แสดงเป็น     จันทร์ฉาย
จีรนันท์ มะโนแจ่ม     แสดงเป็น     ปานเดือน
อรรคพันธ์ นะมาตร์     แสดงเป็น     วายุ
ชาติชาย งามสรรพ์     แสดงเป็น     ภูผา
ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์     แสดงเป็น     เมธี
ปวีณา ตันฑ์ศรีสุโรจน์     แสดงเป็น     จอมขวัญ
พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์     แสดงเป็น     ดุจดาว
เอมิกา บูเฮอร์     แสดงเป็น     ไพลิน
ศักราช ฤกษ์ธำรง     แสดงเป็น     ท่านวิชาญ
บอล เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     สมชาย
ค่อม ชวนชื่น     แสดงเป็น     จ่าพงศ์
กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์     แสดงเป็น     ผู้กองชัชวาล
จักรกฤษณ์ กนกพจนานนท์     แสดงเป็น     ชัย
ประชากร ปิยะสกุลแก้ว     แสดงเป็น     ทิวา
ไกรลาศ เกรียงไกร     แสดงเป็น     สารวัตรขจร
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์     แสดงเป็น     ต้าเหว่ย
ชูษี เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     ปกรณ์
ตูมตาม เชิญยิ้ม     แสดงเป็น     คำรณ
รสริน จันทรา     แสดงเป็น     นวล

แฝดนะยะ

เรื่องราวชุลมุนของเวทีประกวดสาว ประเภทสอง เมื่อตัวเต็งประสบอุบัติเหตุหน้าเยินต้องซ่อมด่วน แต่ The Show ยังต้อง Must go on !!! งานนี้เลยต้องหาตัวช่วย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็นแฝดสาวของนางงามตัวเต็งที่มีดีกรีความห้าวขั้นตัวแม่ แล้วอย่างนี้จะขายผ้าเอาหน้ารอดไหวมั้ยเนี่ย

ป้างกับแป้งฝาแฝดชาย-หญิง ถูกจับแยกจากกันเพราะปรียาและประพันธ์ ผู้เป็นพ่อกับแม่ ตัดสินใจแยกทางกัน ปรียาทนผีพนันที่สิงในตัวประพันธ์ไม่ได้ ปรียาได้ลูกชายมาเลี้ยง ขณะที่ประพันธ์ได้ แป้ง ลูกสาวมาเลี้ยงและหอบลูกย้ายไปอยู่ที่พัทยา ด้วยความเป็นแม่ ปรียาเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูป้างมาอย่างทะนุถนอม จนทำให้ป้างเกิดติดใจในความอ่อนโยนของเพศแม่จนอยากเป็นเหมือนแม่บ้าง (ซะงั้น) จากนั้นป้างก็ออกลายกระตุ้งกระติ้ง จนพัฒนามากลายเป็นสาวประเภทสอง เปลี่ยนชื่อเป็น ปรางค์ เมื่อโตขึ้น

แป้งโตมากับการเลี้ยงดูของพ่อที่ดำรงอาชีพนักพนันเป็นงานหลัก เธอจึงกลายเป็นผู้หญิงห่าม ห้าว บ่อยครั้งที่แป้งต้องรับจ้างต่อยมวยโชว์ตามผับ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อ และยิ่งประพันธ์ชอบสร้างปัญหาแค่ไหน แป้งก็ยิ่งเข้มแข็งและรับปัญหาได้ดีแค่นั้น แป้งมีเพื่อนชื่อกระบี่ เพื่อนชายที่หลงรักแป้งมาตั้งแต่เด็ก แป้งก็ไม่เคยคิดเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน

ชีวิตของทุกคนน่าจะดำเนินไปอย่างปกติดี ถ้าเจ๊ตุ่มกะเทยเจ้าของโมเดลลิ่งชื่อดัง เพื่อนสนิทของน้านุช น้องสาวแท้ ๆ ของปรียา ไม่ไปเจอฤทธิ์มีดสั้นของ เจ๊จูน กะเทยรุ่นน้อง แทงข้างหลังทะลุถึงกระเป๋าสตางค์ เพราะโดนดูดเด็กในสังกัดไปจนหมดสต๊อค ทำเอาเจ๊ตุ่มถึงกับตกมันด้วยความโมโหเพราะนอกจากจะรายได้หด เครดิตหายแล้ว ยังโดนคนในวงการหยามเหยียดว่าอยู่ในช่วงขาลง คำจำกัดความอันสุดแสนจะเสนียดหู แทบทนไม่ไหวเจ๊ตุ่มพยายามฆ่าตัวตาย แต่นรกยังไม่ต้องการตัว น้านุชช่วยพาไปล้างท้องทัน

สวรรค์ยังปราณีไม่ปิดทางเจ๊ตุ่ม เมื่อมีการจัดประกวด มีสเรนโบว์ควีน เพื่อหาสุดยอดกระเทยไทยไปประกวดต่างแดน เจ๊ตุ่มกับน้านุชพยายามค้วนหากระเทยเพื่อพาไปประกวดแต่ไม่มีใครเข้าตาเจ๊สัก คน โบราณเขาว่าใกล้เกลือกินด่าง ปรางค์นั้นเองคือกระเทยสวยพร้อมทุกกระเบียดที่ทุกคนมองข้าม เจ๊ตุ่มตัดสินใจส่งปรางค์เข้าประกวด โดยมีเอื้อมเพื่อนรักเป็นคนคอยช่วยแทร์นอีกแรง

แต่ทันทีที่เรื่องนี้รู้ถึงหูปรียา แม่ของปรางค์ ก็แทบเกิดสงครามขนาดย่อมขึ้นในบ้าน เมื่อปรียาค้านหัวชนฝา เพราะกลัวเรื่องนี้จะล่วงรู้ถึงหูประพันธ์ อดีตสามีที่หย่าขาดกันไปตั้งแต่ปรางค์เกิด และเธอจะต้องถูกเยาะเย้ยที่เลี้ยงลูกชายกลายเป็นลูกสาว

ในที่สุด เพราะความรักลูก ทำให้ปรียายอมใจอ่อน ให้ปรางค์ประกวดจนได้ ทันทีที่เจ๊ตุ๋มเปิดตัวปรางค์ สาวประเภทสองในสังกัด ก็ทำเอาเวทีประกวดแทบสะเทือน เพราะปรางค์กลายเป็นตัวเต็งในการประกวดครั้งนี้ในทันที ด้วยลุคส์ สวย ฉลาด มารยาทงามของปรางค์ ทำเอาเจ๊จูนแทบคลั่ง ด้วยความอิจฉา เพราะข้าวฟ่างกระเทยที่เจ๊จูนหมายมั่นว่าจะเอาประกวดพิชิตตำแหน่ง มิสแรนโบว์ควีน ตกเป็นรอง ปรางค์ธิดา ของเจ๊ตุ่ม

ด้านนักรบช่างภาพรุ่นใหม่ไฟแรง รับปากต๊อดช่างภาพเพื่อนสนิท ให้ไปเป็นเพื่อนถ่ายภาพงานประกวดมิสแรนโบว์ควีนที่พัทยา นักรบได้เจอแป้ง และคิดว่าเธอเป็นโจรวิ่งราวกระเป๋า แป้งพยายามอธิบายแต่นักรบไม่เชื่อ และเมื่อถึงเวทีได้เจอปรางค์ นักรบคิดว่าเป็นแป้ง จึงเข้าไปต่อว่าด้วยความสับสน นักรบเลยถูกกลุ่มกระเทยตลุมบอลซะเละเลย

ด้านเจ๊จูนที่ทนเสียหน้าไม่ไหว เพราะเด็กของตัวเองแพ้ปรางค์แทบไม่เห็นฝุ่น จึงวางแผนกำจัดปรางค์ ด้วยการแอบเอาน้ำกรดไปใส่ในเครื่องสำอางค์ของปรางค์ ทำให้ปรางค์หน้าเสียโฉม เจ๊ตุ่มแทบช็อคเมื่อเห็นสภาพของปรางค์ใบหน้ายับเยินถึงเพียงนั้น นุชสงสารเจ๊ตุ่มสุดใจจึงเปิดเผยความลับ ความลับที่ปรางค์เองไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่านั่นคือ…แท้จริงแล้วเธอมีน้อง ฝาแฝดที่เกิดพร้อมกันและมีทุกอย่างเหมือนกันทุกประการ แต่ทว่าน้องของเธอนั้น..เป็นผู้หญิง …..ตึ่งงงง!!!!โอ้วววว..แม่เจ้า

ทั้ง คู่จึงต้องออกค้นหาตัวแป้ง ไม่ยากสำหรับคนอย่างนุช ทันทีที่แป้งเจอกับนุช เจ๊ตุ่ม และล่วงรู้ถึงความลับที่ถูกเก็บไว้ในที่อับชื้นมาเป็นเวลาเท่าอายุเธอ แป้งถึงกับช็อค แต่ด้วยหลักฐานอันแน่นปึกรูปภาพ ตอนเด็กของเธอที่ถ่ายกับแม่และพี่ชายฝาแฝด ทำให้แป้งจำใจต้องยอมรับความจริงมันแสนประหลาดล้ำ เท่านั้นยังไม่พอแป้งยังต้องเหวอเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า เมื่อนุชและเจ๊ตุ่มยื่นข้อเสนอให้แป้งสวมรอยประกวดแทนปรางค์ระหว่างที่ ปรางค์ต้องรักษาหน้า

ด้วยภาวะบีบคั้นหลายประการทำให้ แป้งเริ่มคล้อยตาม ไม่ว่าจะเป็นอาการร้อนเงินที่รุมเร้า และลึก ๆ ก็เห็นใจพี่ชายฝาแฝดที่มาเสียโฉมก่อนจะถึงฝั่งฝัน แป้งจึงยอมรับข้อเสนอของเจ๊ตุ่มจนได้ โดยที่ประพันธ์ไม่รู้

หลังจากตกลงกันได้ เจ๊ตุ่มก็เริ่มฝึกวิทยายุทธการเป็นกะเทยให้กับแป้ง และส่งปรางค์ไปอยู่ที่บ้านกับพ่อประพันธ์ เพื่อกันไม่ให้ประพันธ์รู้เรื่องการประกวดกระเทย เจ๊ตุ่มพาแป้งมาเปิดตัวโรงแรมที่ใช้เก็บตัวนางงาม ในจังหวะที่เจ๊จูนประกาศข่าวอุบัติเหตุของปรางค์พอดี ทำเอาเจ๊จูนหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ประกันไม่รับเครมกันเลยทีเดียว

ด้านนักรบไปเจอโจรปล้น แต่ได้แป้งเข้าไปช่วย จังหวะนั้นเองทั้งสองคนสะดุดล้มปากจูจุ๊บกันโดยไม่ตั้งใจ นักรบถึงกับอึ้งตะลึงค้าง เพราะประทับใจในความสวย น่ารัก ของแป้ง จนเรียกว่าโดนอย่างแรงงงงง ความรู้สึกดี ๆ จึงเริ่มก่อตัวขึ้นกับนักรบ!!

ด้านศักดิ์สิทธิ์และโสภาพ่อแม่ของนักรบ พยายามวางแผนจับนักรบให้คู่กับโชติรสนักธุรกิจสาวเจ้าของห้างดัง และที่สำคัญเธอเป็นเจ้าของรายการทีวี ตามติดชีวิตราชินีสีรุ้ง สปอนเซอร์รายใหญ่ของการประกวด มีสแรนโบว์ควีน นักรบถูกบังคับให้เป็นโปรดิวเซอร์รายการโดยปฎิเสธไม่ได้

เหตุการณ์ชุลมุนเข้าไปใหญ่ เมื่อกระเทยน้อยกลอยใจปรางค์ ที่ต้องทำตัวเป็นแป้ง ต้องขึ้นต่อยมวยชิงแชมป์แทนแป้ง แน่นอนปรางค์โดยยำซะแล่ะบนเวทีมวย แต่เวทีประกวดแป้งขึ้นเวทีในนาม ปรางค์ธิดา ตัวเต็งผู้คว้ารางวัล และกำลังจะคว้ารางวัล มิสแรนโบว์ควีน ในอีกไม่ช้า นักรบที่กำลังถ่ายภาพอย่างตั้งอกตั้งใจ ถึงกับช็อคแทบไปไม่เป็น ที่เมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่ตัวเองรู้สึกดีด้วยเป็นกระเทย…

และแล้วเวลาแห่งความตื่นเต้นก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศชื่อ ปรางค์ธิดา ได้เป็น มิสแรนโบว์ควีน ทำเอาเจ๊ตุ่มน้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตันที่เธอได้ทวงตำแหน่งโมเดลลิ่งนัก ปั้นชื่อดังกลับมาจนได้ ขณะที่ปรางค์กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ที่แป้งสานต่อเจตนารมณ์ของเธอได้จนสำเร็จ แถมแป้งยังได้เงิน 3 แสนบาทจากเจ๊ตุ่มไปใช้หนี้ให้ประพันธ์จนได้

เหมือนทุกอย่างจะลงตัวและจบลงอย่างสวยงาม แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อทางกองประกวดโชว์สัญญาที่ปรางค์ต้องถูกถ่ายทำรายการ เรียวลิตี้ ตามติดชีวิตราชินีสีรุ้ง แถมยังมีงานโฆษณาเข้ามาอีกหลาย ชิ้น และเพราะความจำเป็นทำให้เจ๊ตุ่มกลับมาเว้าวอนแป้งอีกครั้ง ให้เล่นละครสวมรอยเป็นปรางค์ต่อไป จนกว่าแผลที่ใบหน้าของปรางค์จะหายสนิท แป้งจึงจำเป็นต้องกลับมาสวมรอยเป็นปรางค์อีกจนได้ ..เพราะเงินที่ได้มาสามแสนยังไม่พอใช้หนี้พ่อที่ยังเหลืออีกบานเบอะ

จากการประกวดครั้งนี้ นอกจากแป้งจะได้เงินรางวัลและพี่ชายฝาแฝดมาโดยบังเอิญแล้ว เธอยังได้ความรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้รู้ว่าแม่ของเธอยังมีตัวตน และมีชีวิตอยูบนโลกนี้ คำว่าครอบครัวที่เธอไม่เคยได้สัมผัส ค่อยเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในความคิด

โชติรสจับได้ว่านักรบกำลังปิ๊งปั๊งกับแป้ง เธอจึงรีบนำความมาบอกศักดิ์สิทธิ์กับโสภา ทั้งสองคนร้อนรุ่มนั่งไม่ติด คิดร่วมมือกันหยุดยั้ง และทำลายความสัมพันธ์ผิดธรรมชาตินี้ให้ได้ ความรักของนักรบกับแป้งจะลงเอยอย่างไร และความฝันของปรางค์จะสำเร็จหรือไม่ โปรดติดตามชม ละคร แฝดนะยะ

รายชื่อนักแสดงนำในละคร แฝดนะยะ

ทฤษฎี สหวงษ์   แสดงเป็น   นักรบ
แคทรียา อิงลิช   แสดงเป็น   แป้ง / ปรางค์
สาวิตรี สุทธิชานนท์   แสดงเป็น   โชติรส
โกสินทร์ ราชกรม   แสดงเป็น   กระบี่
เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์   แสดงเป็น   เจ๊ตุ่ม
ภัคจิรา วรรณสุทธิ์   แสดงเป็น   นุช
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล   แสดงเป็น   ปรียา
กลศ อัทธเสรี   แสดงเป็น   ประพันธ์
สมมาตร ไพรหิรัญ   แสดงเป็น   ศักดิ์สิทธิ์
กาญจนา จินดาวัฒน์   แสดงเป็น   โสภา
ปาริฉัตร ไพรหิรัญ   แสดงเป็น   ราศี
บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ   แสดงเป็น   ต๊อด
บุ๊กโกะ ธนัชพันธ์   แสดงเป็น   เจ๊จูน
ธัญญรัศมิ์ จิราภัทรภากร   แสดงเป็น   ข้าวฟ่าง
หนูเล็ก ก่อนบ่าย   แสดงเป็น   เอื้อม

ผมไม่อยากเป็นสายลับ

ทองเอก (ไชยา มิตรชัย) เป็นลูกชายคนสุดท้องของ นายบุญทอง (พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร) และ นางทองพลับ (ราตรี วิทวัส) ซึ่งเปิดกิจการร้านขายข้าวสาร ตระกูลข้าวทอง อยู่ในตลาด ทองเอกคลอดก่อนกำหนดจึงทำให้เขาเป็นคนตัวเล็ก พ่อแม่เลี้ยงอย่างประคบประหงมตั้งแต่เล็กจนโต เพราะคิดว่าการเป็นคนตัวเล็กจะต้องอ่อนแอกว่าคนอื่นแม้เขาจะคว้าปริญญาตรี นิติศาสตร์มาให้กับตระกูลแล้วก็ตาม แต่เขาก็ทำให้ทองพลับกินไม่ได้นอนไม่หลับเมื่อเขามุ่งมั่นไปสมัครสอบตำรวจ แต่ทองเอกก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะสอบข้อเขียนเพราะทั้งความสูงและรอบอกของเขา ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ทางการกำหนดไว้ แต่เขาก็หวังว่าอีกสองปีข้างหน้าเขาจะต้องสอบเป็นตำรวจให้ได้

หลังจากวันนั้นทองเอกไม่ทำอะไรเลยนอกจาก โด๊ปทั้งอาหารทั้งวิตามินและออกกำลังกายสองปีต่อมาเขาก็กลับไปสมัครอีกตาม เคย แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนเดิม พล.ต.ท.สนับหรือผู้การหนับ (มนตรี เจนอักษร) เป็นประธานคณะกรรมการสอบคัดเลือก เห็นความมุ่งมั่นของทองเอกหุ่นไม่ให้แต่ใจรักได้ยื่นข้อเสนอให้ทองเอกรับงาน สายลับไปก่อน แต่ทองเอกปฏิเสธข้อเสนอของผู้การหนับเสียงแข็งว่า ผมไม่อยากเป็นสายลับ เขาเอากลับไปคิดเป็นการบ้าน แต่คนที่บ้านไม่มีใครเห็นด้วย จึงทำให้ทองเอกตัดสินใจรับข้อเสนอ

ร.ต.ท.หญิงฉัตรดาว (สุนิษา เจทท์) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้การหนับที่เดินตามรอยเท้าพ่อ แม้คุณนายบานชื่น (สาวิตรี สามิภักดิ์) ผู้เป็นแม่จะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่เพราะกลัวลูกสาวจะไร้คู่ แต่เมื่อลูกสาวไม่เปลี่ยนใจบานชื่นจึงทำตัวเป็นกองหนุนเพื่ออำนวยความสะดวก ให้ลูกสาว ฉัตรดาวยิ้มแก้มปริเมื่อบิดาจะส่งมือดีมาช่วย แต่เธอได้พบกับทองเอกก็ต้องผิดหวังเพราะเขาตัวเล็กแขนขาเล็กหน้าตายัง หวานกว่าพระเอกลิเก ฉัตรดาวดื้อหัวชนฝาที่จะไม่รับทองเอกแต่พอเธอได้อ่านข้อมูลการสมัครสอบเธอก็ เริ่มใจอ่อนแต่เธอมีข้อแม้ให้ทองเอกเข้าคอร์สฟิตร่างกายเรียนรู้พื้นฐานการ ต่อสู้เสียก่อนเธอ จึงจะยอมให้เริ่มงาน

ระหว่างการฝึกฉัตรดาวคอยแกล้งทองเอกจนทองเอกไม่สบายต้องนอนซมอยู่โรงพยาบาล เธอรู้สึกผิดมากที่แกล้งที่เขาหนักเกินไปและเธอยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นที่ได้ ยินเขาเพ้อและพูดแต่ประโยคที่ว่า ผมอยากเป็นตำรวจ ผมไม่อยากเป็นสายลับ ทำให้ฉัตรดาวนึกถึง ร.ต.อ.คมชาญ (จตุรวิทย์ คชน่วม) ทั้งแข็งแรงทั้งสูง คุณสมบัติทางกายพร้อม แต่ทางใจนั่นไม่ได้เรื่องเขามักใช้อำนาจในทางที่ผิด ชอบทำงานเอาหน้า แต่งานหนักงานเสี่ยงไม่ชอบทำ เมื่อทองเอกหายเป็นปกติเขาก็ได้ลงฝึกเป็นสายลับมือใหม่อย่างหนักหน่วงและ สนุกสนาน ฉัตรดาวแอบชื่นชมทองเอกอยู่ในใจ

ฉัตรดาวตัดสินใจมอบงานสายลับให้กับเขาอย่างเต็มใจ ฉัตรดาวไม่รู้ตัวเลยว่า หมวดพัดชา (เบญจศิริ วัฒนา) ลูกน้องของผู้กองคมชาญแอบสะกดรอยดูการฝึกของสายลับคนใหม่ คมชาญก็รีบเตรียมแผนขัดขวางการทำงานของทองเอกเผื่อหวังกีดกันทองเอกให้ไปจาก ชีวิตของฉัตรดาว ภารกิจแรกของการเป็นสายลับของทองเอกคือ ต้องปลอมตัวเป็นพนักงานซ่อมสัญญาณจานดาวเทียมเพื่อไปหาหลักฐานในคฤหาสน์ เนตรวิไล เจ้าแม่วงการเพชรพลอยเมืองไทย เบื้องหลังของเธอคือส่งเด็กสาวและหญิงไทยไปค้าประเวณีที่เมืองนอก แต่ถูกคมชาญซ้อนแผนจนล้มไม่เป็นท่า ฉัตรดาวถูกเจ้านายตำหนิอย่างรุ่นแรง แต่เธอเริ่มสงสัยว่าน่าจะมีคนรู้แผนการของเธอ

เมื่อ ภารกิจที่สองเข้ามา ทองเอกหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะเขาต้องสวมรอยเป็นหนุ่มต่างด้าว เข้าไปทำงานในโรงงานลูกชิ้นปลาของ เสี่ยชานนท์ เบื้องหลังของเสี่ยอานนท์แท้จริงแล้วเขาจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมาทำงาน เป็นจำนวนมาก ทองเอกต้องเข้าไปเก็บต้องเข้าไปเก็บหลักฐานมาให้ได้มากที่สุดเพื่อใช้ดำเนิน คดีกับชานนท์ แต่ก็พลาดอีกตามเคย ครั้งนี้ฉัตรดาวถูกต่อว่าตามเคย ทองเอกขอโทษฉัตรดาวที่ประมาทเกินไป ฉัตรดาวเห็นว่าทองเอกเหนื่อยมาพอสมควรจึงอนุญาตให้เขากลับไปเยี่ยมครอบครัว ที่อยุธยาทองเอกจึงถือโอกาสชวนเธอไปเที่ยว ฉัตรดาวได้สัมผัสถึงความอบอุ่นที่ครอบครัวมีให้ทองเอก และเธอก็ได้บอกกับครอบครัวของทองเอกว่าเขามีคุณสมบัติพียงพอที่จะเป็นตำรวจ เผื่อให้พวกเขาคลายกังวล กลับมาถึงกรุงเทพฯ ฉัตรดาวและทองเอกก็ได้กลายมาเป็นคนรับใช้ของจ่ายอดกับจ่าแย้มถึง 7 วัน ทำให้ทั้งสองคนเริ่มเข้าใจและเรียนรู้จิตใจกันมากขึ้น

หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งลงเกือบทุกฉบับว่า โรม เอกรินทร์ (ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์) ถูกฆ่าตายอย่างอนาถในบ้านหรูกลางกรุง คดีของโรมเป็นคดีที่ใหญ่และเป็นคดีที่คนไทยทั้งประเทศสนใจ ทางการจึงมอบหมายให้ผู้กองหนับจับคนร้ายมาดำเนินคดีเขามั่นใจว่าจะปิดคดีได้ โดยเร็วเพราะ อัศวิน (โอลิเวอร์ บีเวอร์) เจ้าของวงดนตรีเป็นเพื่อนรักเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ คมชาญเมื่อเห็นว่าคดีของโรมเป็นคดีใหญ่ เขาจึงขอผู้การหนับทำด้วย แต่ผู้การหนับรู้จักนิสัยของคมชาญจึงปฏิเสธคำขอ คมชาญทั้งแค้นและน้อยใจผู้การหนับ จึงวางแผนที่จะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของฉัตรดาว

ทองเอกกับฉัตรดาวปลอมตัวเข้าไปในวง โดยทองเอกกลายเป็นนายเอก พ่อครัวประจำวง และฉัตรดาวกลายเป็น ดาว หางเครื่องคนใหม่ประจำวง การสวมรอยเป็นพ่อครัววันแรกเป็นไปได้สวย เพราะฝีมือการทำอาหารของทองเอกสุดยอดใคร ๆ ก็เอ่ยปากชม โดยเฉพาะ กิ๊บซี่ (วสันต์ อุตตมะโยธิน) ส่วนฉัตรดาวสวมบทหางเครื่องเต้นจนแทบจับไข้ อัศวินตัดสินใจแสดงคอนเสิร์ตของ ธันวา (ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ) และ จอมใจ (พาเมล่า บาวเด้นท์) ในอีกสองเดือนข้างหน้า เมื่อธันวาเห็นฉัตรดาวก็ตกหลุมรักหางเครื่องคนใหม่ทันที เขาขยันมาซ้อมร้องเต้นทุกวันเพื่อสานความสัมพันธ์กับฉัตรดาว ฉัตรดาวยอมใกล้ชิดกับธันวาเพื่อหวังสืบคดีเรื่องการตายของโรม ด้านจอมใจก็ขออัศวินให้ อักษร แดนสรวง (ปิยะพงษ์ คำภากุล) มาแต่งเพลงให้เธอ แต่อัศวินบอกให้เธออดทนไม่งั้นจะไม่ได้อะไรเลย ทองเอกก็ตีซี้จอมใจหวังหาข้อมูลเช่นกัน ด้านคมชาญแอบตีซี้จอมใจหวังสืบหาข้อมูลเหมือนกัน

ทองเอกเห็นฉัตรดาวคุยกับธันวาอย่างสนิทสนมก็รู้สึกหมั่นใส โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหงุดหงิด ด้านฉัตรดาวสืบจนรู้ความลับของธันวาเรื่องวันที่โรมตายธันวาได้ให้การกับ ตำรวจว่าเขาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนแต่แท้จริงแล้วเขากลับไปเยี่ยมครอบ ครัวของเขา ฉัตรดาวพอจะสรุปได้ว่าธันวามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของโรมน้อยมาก

งาน คอนเสิร์ต อัศวินโกรธมากที่จอมใจมาไม่ทันจึงให้ทองเอกขึ้นร้องเพลงคู่กับธันวาผู้ชม ถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก จอมใจมาถึงงานเขาถูกอัศวินต่อว่า และเธอก็ตัดสินใจว่าจะขึ้นเวทีเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะแต่งงานกับคมชาญ คมชาญร้อนใจเพราะไม่ได้คบจริงจังแค่ต้องการสืบคดีเท่านั้น คมชาญจึงหลอกให้จอมใจสารภาพผิดและเข้าจับกุม แต่ทองเอกไม่เชื่อว่าคนอย่างจอมใจจะฆ่าโรมได้จึงขอให้ฉัตรดาวเพื่อฟื้นคดี ใหม่แต่ผู้กองหนับคัดค้าน ฉัตรดาวได้รับข้อมูลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าโรมเสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าช็อต ไม่ได้เสียชีวิตเพราะกระสุนปืนเธอและทองเอกจึงเข้าไปในบ้านของโรมจึงพบว่ามี คนเพิ่มโวลต์ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในเครื่องออกกำลังกายและพบลายนิ้วมือเพียง สองคนคือ อัศวินและโรม

ทองเอกสามารถปิดคดีได้อย่างสวยงาม และเขาได้เป็นร้อยตำรวจตรี ทองเอก ข้าวทอง ตามความฝัน ส่วนฉัตรดาวได้เลื่อนขั้นเป็นผู้กอง แม้ทองเอกจะได้เป็นตำรวจสมใจ แต่เรื่องความรักยังไม่เข้าเป้า ส่วนฉัตรดาวก็เฝ้าคิดถึงทองเอกเช่นกัน ความรักของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไรติดตามได้ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครผมไม่อยากเป็นสายลับ เริ่มออกอากาศตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2553

รายชื่อนักแสดงละคร ผมไม่อยากเป็นสายลับ

ไชยยา  มิตรชัย   แสดงเป็น   ทอง
สุนิสา  เจทท์   แสดงเป็น   ฉัตรดาว
จตุรวิทย์  คชน่วม   แสดงเป็น   ผู้กองคมชาญ
เบญจศิริ  วัฒนา   แสดงเป็น   หมวดพัดชา
ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ   แสดงเป็น   ธันวา
พาเมล่า บาวเด้นท์   แสดงเป็น   จอมใจ
มนตรี  เจนอักษร   แสดงเป็น   ผู้การสนับ
สาวิตรี  สามิภักดิ์   แสดงเป็น   คุณนายบานชื่น
ราตรี  วิทวัส   แสดงเป็น   ทองพลับ
พุฒิพงศ์  พรหมสาขา ณ สกลนคร   แสดงเป็น   บุญทอง
โอลิเวอร์ บีเวอร์   แสดงเป็น   อัศวิน
วสันต์ อุตตมะโยธิน   แสดงเป็น   กิ๊บซี่
ปิยะพงษ์ คำภากุล   แสดงเป็น   อักษร
ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์   แสดงเป็น   โรม
ร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมาย

ปฐพีเล่ห์รัก

จู่ ๆ ปฐพี หนุ่มเจ้าแผนการ เจ้าของธารารินรีสอร์ตก็มีตัวป่วนเข้ามาเติมสีสันในชีวิต ชะเอม สาวเจ้าเล่ห์วางแผนเข้ามาสร้างความโกลาหลในรีสอร์ตของชายหนุ่มด้วยเหตุผล บางอย่าง เขา…มีความสุขที่ได้จับตาดูว่าแม่ตัวยุ่งจะป่วนรีสอร์ตของตนอย่างไร

เธอ…ต้องปฏิบัติภารกิจที่หมายมาดจนสำเร็จให้จงได้…ถึงแม้จะมีคนบางคนคอย ตลบหลังก็เถอะ จากคอยจับผิดกลายเป็นความเคยชิน จากความเคยชินก่อตัวเป็นความรัก เมื่อหนุ่มเจ้าแผนการเจอกับสาวเจ้าเล่ห์อะไรจะเกิดขึ้น

เปรี้ยวตลาดแตก

อีเปรี้ยวตลาดแตก สมญานี้ ชาวบ้านอำเภอปลายดง พร้อมใจกันตั้งให้ เปรี้ยว (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) สาวแก่นเก่ง และแกร่งกล้า ที่แม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องสยบให้กับความห้าวของเธอ แต่ก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ส่งคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง อย่างร้อยตำรวจเอก เชียรฉาย ชนานนท์ (เขตต์ ฐานทัพ) มาเป็นสารวัตรประจำสภอ. ปลายดง แต่สารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกเจอ เพราะเปรี้ยวดันไปออกฤทธิ์กับเชียรฉาย โดยไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับสารวัตรคนใหม่ จนทั้งคู่พบหน้ากันเมื่อไร ต้องปะทะกันตลอด แม้ว่าจะมี อาสำอาง (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ที่เลี้ยงเปรี้ยวมาแต่แบเบาะคอยห้ามปราม แต่ลับหลังอาสำอาง เปรี้ยวต้องหาทางแกล้งเชียรฉายอย่างเจ็บแสบ

ที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพฯ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่

แต่การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพลตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพง ๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ

แต่ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้ รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉายที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน

ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด

ท่าน อธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉายกับ เปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ

ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง

กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน

คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว  แต่เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน แต่หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดงมาก ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับ ใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง

เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม ต่อมาคุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว

หมอ แขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้ง ๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป

ที่แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด

คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวนขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่แม่แท้ ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยังคิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วยซึ่งเมื่อ แขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทั้จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน

ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่าจะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไปทั้งที่ตัวเองถูกยิง จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป… เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก

ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็ว ๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว

กระทั่ง หลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า อีเปรี้ยวตลาดแตก เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน…. ติดตามชม ละคร  เปรี้ยวตลาดแตก
รายชื่อนักแสดงในละคร เปรี้ยวตลาดแตก

เขตต์ ฐานทัพ   แสดงเป็น   เชียรฉาย
ภัทรธิดา  พัชรวีระพงษ์   แสดงเป็น   เปรี้ยว
อภิษฏา เครือคงคา   แสดงเป็น   สิริยา
อธิชนัน ศรีเสวก   แสดงเป็น   พ.ญ.แขฉวี
เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์   แสดงเป็น   อวน
พิมพรรณ ชลายนคุปต์   แสดงเป็น   สำอาง
ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา   แสดงเป็น   แสน
ปาลิตา โกศลศักดิ์   แสดงเป็น   ไขลดา
พิพัฒน์พล โกมารทัต   แสดงเป็น   เสี่ยเส็งศักดิ์
โกวิท วัฒนกุล   แสดงเป็น   กำนันสาย
รวิช ไรวินทร์    แสดงเป็น   หมู่ปลิว
มัณฑนา หิมะทองคำ   แสดงเป็น   ทิพย์จันทร์
ตฤณ เศรษฐโชค   แสดงเป็น   อังศุธร
นราธิษณ์ น้ำค้าง   แสดงเป็น   เปี๊ยก
วิมลพรรณ ชาลีจังหาญ   แสดงเป็น   กิมฮวย
เจี้ยวจ๊าว เชิญยิ้ม   แสดงเป็น   พลแหยม
เดี่ยว ดาราฉาย   แสดงเป็น   พลเฉื่อย
ธีรพงศ์ ตระกูลตั้งอนันต์   แสดงเป็น   สด
ศุภกรชัย แปลกประเสริฐ   แสดงเป็น   ส่ง
อรีย์สรวง นิลวรรณ   แสดงเป็น   สมใจ
นภัทร สงวนวงศ์   แสดงเป็น   ติงลี่