Category Archives: ละครปี 2549

ปิ่นมุก

บ้านชยานันท์ มีประมุขของบ้านคือ คุณย่ามาลา มีลูกชายคนเดียวคือ คุณชาญศักดิ์ ซึ่งมีภรรยา 4 คน ภรรยาคนแรกชื่อ ปาน เป็นสาวใช้ หายสาบสูญไปตอนท้องแก่ใกล้คลอด ภรรยาคนที่ 2 คือ คุณหญิงฉวี คุมอำนาจเงินทั้งหมด แต่คุณหญิงเป็นหมันจึงขอบุตรชายชาวไร่มาเลี้ยง โดยมีข้อแม้ให้ใช้นามสกุลเดิมชื่อ อาติยะ พิษณุเวช เมื่อเรียนจบจากอังกฤษก็ได้มาบริหารงานกิจการทุกอย่างแทนคุณชาญศักดิ์ที่ เสียชีวิตกะทันหัน

ภรรยาคนที่ 3 คือ วลัย เป็นคนกลัวความจน และมีนิสัยทะเยอทะยาน มีลูกคือ ทัศนาวลัย และสิทธา ลูกชายที่มีนิสัยกระเดียดไปทางผู้หญิง ภรรยาคนที่ 4 คือ บุษบง มีลูกสาวคือ บุษบา หลังจากที่คุณชาญศักดิ์เสียชีวิต คุณย่ามาลาก็หลงๆ ลืมๆ ชอบอาละวาดคนอื่นจนถูกแยกไปอยู่คนเดียว วันหนึ่งบุษบงนำเด็กสาวชื่อ ปิ่น มาเป็นคนใช้ในบ้านชยานันท์ แต่ที่จริงเธอคือ ปิ่นมุก ลูกสาวติดท้องของปาน เธอเข้ามาตามหาพินัยกรรมเพื่อทวงสิทธิ์ของแม่

ทุกวันปิ่นมุกจะแอบปีน รั้วบ้านออกไปเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งที่นั่นเพื่อนๆ เรียกเธอว่า มุก มุกเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับบุษบา บุษบาจึงรู้เรื่องของปิ่นมุกและยอมช่วย บุษบามีเพื่อนสนิทบ้านติดกันชื่อ พิสมัย ( ไก่ ) พิสมัยอยู่กับพี่ชายชื่อ ภานุ ( กบ ) สิทธาเองก็รู้เรื่องปิ่นมุก เขาเห็นปิ่นมุกเหมือนญาติ ปิ่นมุกจึงมีบุษบง บุษบา สิทธา พิสมัย และภานุ คอยช่วยเหลือ ทัศนาวลัยไม่ถูกชะตากับปิ่นมุกตั้งแต่เห็นหน้า เลยหาเรื่องกลั่นแกล้งตบตีสารพัด

ปิ่นมุกรู้ซึ้งว่าแม่ปานต้องเจอกับ การดูถูกเหยียดหยามเพียงใด เธอรู้สึกเกลียดพวกชยานนท์เป็นทวีคูณ และสัญญากับตัวเองว่าจะแก้แค้นทุกคนที่ทำร้ายแม่ปานของเธออย่างสาสม แต่การสืบหาพินัยกรรมต้องมีการสะดุดหลายครั้ง เพราะสายตาที่จ้องจับผิดของอาติยะ ซึ่งไม่เชื่อเลยว่าเธอเป็นเพียงคนรับใช้บ้านนอกไร้เดียงสา ทัศนาวลัยเห็นอาติยะสนิทสนมกับปิ่นมุกเกินฐานะ เกิดความอิจฉาเลยจับปิ่นมุกไปเฆี่ยนและขังไว้ในเรืองหลังเล็ก เรือนที่แม่ปานเคยอยู่

ปิ่น มุกใช้โอกาสนี้หาพินัยกรรมแต่ก็ไม่เจอ แม้ปิ่นมุกจะหมั่นไส้ในความเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วของอาติยะ แต่ลึกๆ เธอก็แอบเผลอใจให้อาติยะแบบไม่รู้ตัว แต่อาติยะไม่ได้คิดกับปิ่นมุกเกินเจ้านายกับลูกจ้าง เพราะหัวใจของเขาได้มอบให้แก่ มุก ดีเจ.สาวปากกล้าที่จัดรายการวิทยุของมหาวิทยาลัย ซึ่งอาติยะโทรไปขอเพลงทุกคืน โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าปิ่นกับมุกคือคนเดียวกัน อาติยะอยากเห็นหน้าดีเจ.มุกถึงขนาดโทรหา อ.นิพนธ์ เพื่อนซึ่งเป็นคนก่อตั้งรายการวิทยุที่มุกเป็นดีเจ.อยู่

เขาต้องการ เจอหน้ามุกแต่มุกรู้ทันหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ปิ่นมุกเริ่มสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่คุณย่ากินยาสมุนไพรที่วลัยจัดหาให้ คุณย่าจะมีอาการคลุ้มคลั่งมากขึ้น ในทางกลับกันเวลาไม่กินอาการกลับดีขึ้น ปิ่นมุกสืบจนรู้ว่าเป็นยากล่อมประสาทอย่างรุนแรง ปิ่นมุกเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณหญิงฉวี แต่วลัยไหวตัวทันสลับเปลี่ยนยาใหม่ ปิ่นมุกถูกวลัยกับทัศนาวลัยทำร้ายและถูกคุณหญิงฉวีไล่ออกจากบ้าน อาติยะจึงพาปิ่นมุกมาอยู่กับ แม่ทิพย์ ที่ไร่พิษณุเวช

และการมาอยู่ ที่นี่ทำให้ปิ่นมุกรู้จักตัวตนอาติยะ แต่ปิ่นมุกยังดื้อที่จะกลับไปบ้านชยานันท์ ประจวบเหมาะกับที่คุณย่าคลุ้มคลั่งเรียกหาแต่ปิ่นมุก ปิ่นมุกจึงได้กลับมาที่บ้านชยานันท์อีกครั้ง วลัยหวังที่จะหุบสมบัติทั้งหมดของชยานันท์ จึงแอบเอาคุกกี้ใส่งาไปให้คุณหญิงฉวีกินเพราะรู้ว่าคุณหญิงแพ้งาอย่างรุนแรง โชคดีที่ปิ่นมุกพาคุณหญิงส่งโรงพยาบาลทัน

ปิ่นมุกได้เจอ พ่อเลี้ยงวุฒิไกร ตอนที่พ่อเลี้ยงมาเป็นกรรมการตัดสินคัดตัวเป็นเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัย มุกแกล้งทำตัวสนิทสนมกับพ่อเลี้ยง เพราะรู้ว่าพ่อเลี้ยงคบอยู่กับทัศนาวลัย พ่อเลี้ยงหลงมุกมากถึงขนาดบุกมาปล้ำมุกถึงห้องอัดรายการ และบอกอาติยะว่ามุกเป็นเด็กที่ตัวเองเลี้ยงไว้ อาติยะมาได้ยินพอดีจึงเสียใจมาก กลับไปอยู่ที่ไร่พิษณุเวชแม่ทิพย์พูดให้สติว่าอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ตาไม่ เห็น อาติยะจึงโทรไปที่สถานีวิทยุนัดเจอมุกที่ดาดฟ้าตอนเที่ยงคืน

เพื่อ ฟังคำอธิบายทั้งหมด ปิ่นมุกตัดสินใจจะเล่าความจริงทุกอย่างให้อาติยะฟัง แต่ยังไม่ทันจะไปตามนัดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วลัยพาทนายมาที่บ้านพร้อมพร้อมกับเอาพินัยกรรมปลอมมาเปิดต่อหน้าทุกคน พินัยกรรมระบุว่าคุณชาญศักดิ์ยกบ้านชยานันท์ให้กับวลัยและลูก ส่วนอาติยะจะมีสิทธิในมรดกก็ต่อเมื่อแต่งงานกับทัศนาวลัย วลัยพานักเลงมาลากตัวคุณย่า คุณหญิงฉวี และบุษบงไปอยู่บ้านพักคนชรา

และ ยึดครองบ้านชยานันท์ ปิ่นมุกโดนซ้อมจนสลบไม่สามารถไปหาอาติยะได้ อาติยะตัดใจจากมุกซมซานกลับมาบ้าน แต่ก็ต้องตกใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อาติยะขอให้วลัยพาทุกคนกลับบ้าน แต่วลัยมีข้อแม้ว่าทุกคนต้องอยู่ใต้อำนาจของเธอ และอาติยะต้องแต่งงานกับทัศนาวลัย คุณหญิงฉวีและคุณย่าถูกวลัยจิกใช้และดูถูกเหยียดหยามสารพัด เหมือนกรรมตามสนองที่ท่านทั้งสองเคยทำไว้กับปานในอดีต

พ่อเลี้ยงวุฒิ ไกรตัดหน้าพาทัศนาวลัยไปจดทะเบียนสมรสเพราะอยากได้สมบัติ วลัยสืบรู้ว่าปิ่นคือปิ่นมุกลูกสาวของปาน วลัยโกรธมากพังเรือนปานจนย่อยยับ อาติยะรู้เรื่องทั้งหมดก็เสียใจหนีกลับไร่พิษณุเวช ปิ่นมุกสิ้นหวังเพราะนอกจากจะทวงความยุติธรรมให้แม่ไม่ได้ ยังต้องสูญเสียอาติยะคนที่เธอรักไปอีกคน ปิ่นมุกกลับไปเรือนแม่ปานและได้พบกับพินัยกรรม ซึ่งซ่อนอยู่หลังรูปของพ่อชาญศักดิ์กับแม่ปาน

ปิ่นมุกทวงบ้านชยา นันท์กลับคืนมาได้สำเร็จ แต่เธอถูกวลัยลักพาตัวไปฆ่าอาติยะมาช่วยได้ทัน แต่ปิ่นมุกก็พลาดถูกยิงอาการสาหัส วลัยกลายเป็นคนบ้า ส่วนทัศนาวลัยถูกพ่อเลี้ยงวุฒิไกรทิ้งทั้งที่ยังท้องอ่อนๆ ทัศนาวลัยแค้นเอามีดแทงพ่อเลี้ยงจนเป็นอัมพาต และไปสำนึกผิดอยู่ในคุก ปิ่นมุกกับอาติยะแต่งงานกันและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านชยานันท์อย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดงละคร ปิ่นมุก

ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แสดงเป็น อาติยะ
พัชราภา ไชยเชื้อ แสดงเป็น ปิ่นมุก
นพพล พิทักษ์โล่พานิช แสดงเป็น สิทธา
เมย์ เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น ทัศนาวลัย
นุสรา สุขหน้าไม้ แสดงเป็น บุษบา
อติมา ธนเสนีวัฒน์ แสดงเป็น พิสมัย
สิทธิพร นิยม แสดงเป็น ภานุ
อัมรินทร์ สิมะโรจน์ แสดงเป็น พ่อเลี้ยงวุฒิไกร
กรองทอง รัชตะวรรณ แสดงเป็น วลัย

บ้านนี้มีรัก

บ้านนี้มีรัก เป็นละครโทรทัศน์ แนวซิทคอม ออกอากาศทางช่อง 9 ทุกวันอาทิตย์เวลา 18.00 – 19.00 น. ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

ครอบครัวครื้นเครง ชุลมุน อลเวง ครบรส ความสนุก

เรื่องย่อ

รัก ลูกชายคนกลาง และก็เป็นเหมือนตัวกลางของบ้านที่แสนจะอบอุ่น และด้วยความที่เป็นลูกคนกลางนี่แหละ ที่ทำให้รักต้องรับกรรมทุกสถานการณ์ เพราะไม่ว่าคนในบ้านจะมีปัญหาอะไร ทุกคนต่างพุ่งมาปรึกษา และให้รักแก้ปัญหาเป็นคนแรกเสมอ และตัวสร้างปัญหาประจำบ้านคือ น้องชายวัยคะนอง ลิงค์ หนุ่มมหาวิทยาลัยปี 1 ที่กวนบาทาทุกสถานการณ์ ปากเสีย ขี้โม้ ไม่มีกาลเทศะ ผู้ที่พร้อมจะพาปัญหาเข้ามาในบ้านตลอดเวลา

นอกจากรักจะต้องรับศึกคือ ลิงค์น้องชายตัวแสบแล้ว รักยังต้องเจอกับ ริน พี่สาวจอมโวยวายปากร้าย ที่มีสามีไม่เอาไหน และไม่ได้เรื่องอย่าง แฮงค์ กับ มิค หลานชายขี้สงสัย ที่ไม่เชื่อใจใครนอกจากรัก แต่ก็มักจะโดนสอนอะไรผิดๆ จากลิงค์เสมอๆ แต่รักเองก็ยังมี แม่ คนแก่ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดไปเองว่ายังสวยไม่สร่าง ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน เป็นที่พึ่งในยามที่ท้อแท้

สกล คนสวนจอมซุ่มซ่าม เฟอะฟะเป็นที่สุด เพ็ญ สาวใช้ช่างสอดรู้สอดเห็น ผู้ที่เห็นเรื่องของคนอื่นเป็นเหมือนเรื่องของตัวเอง และยังมีผู้มาแวะเวียนสร้างสีสันให้กับครอบครัวนี้ เบญ แฟนของรัก สาวน้อยจอมจับผิดคิดมาก แต่ปากหวาน เป็นแฟนกับรักตั้งแต่มัธยม เจี๊ยบ เพื่อนร่วมงานของรัก ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายในบ้าน เพราะคิดว่าบ้านเพื่อนก็เหมือนบ้านตัวเอง

รายชื่อนักแสดง บ้านนี้มีรัก

ภูธเนศ หงส์มานพ รับบท รัก

ณัฎฐพงษ์ ชาติพงษ์ รับบท ลิงค์

ชุติมา นัยนา รับบท ริน

โจโจ้ ไมอ๊อกซี่ รับบท แฮงค์

นภัสกร บุษราคัมวดี รับบท มิค

โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบท แม่

รัชวิน วงศ์วิริยะ รับบท เบญ

แม็คก้า ชวนชื่น รับบท เจี๊ยบ

บางรักซอย 9

บางรักซอย 9 คือ ละคร ซิทคอม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชัดเจน สถาปนิกหนุ่มเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ และได้เช่าบ้านของแป้ง เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในบ้าน และความสัมพันธ์ของชัดเจนกับแป้งที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

บัวแก้วจักรกรด

ณ เมืองสุรกานต์ “องค์ชายเพชรดารา” ในวัยเด็กได้ซุกซนนำลิงจ๋อไปเที่ยวเล่นในตลาด ลิงจ๋อเป็นของขวัญที่มาจากเมืองแขก เป็นลิงที่ซนมากจนทำให้ชาวบ้านตกใจตกน้ำตายไป พระราชาอนุวงศ์กริ้วลูกชายมากสั่งให้นำลิงจ๋อไปเผา เพชรดารารักของเล่นมาก จึงพาลิงจ๋อหนีไปกลับยานโพยม แล้วไปเจอกับ บัวแก้ว และทานตะวันที่หนีท่านตาฤาษีมาเที่ยวบนฟ้า และทั้งสองก็ได้เจอกับ ยักษ์เมฆภัติ ที่อยากได้ยานโพยมกับบัวแก้วจักรกรด จึงขว้างขวานวิเศษออกไป ขวานวิเศษได้ทำลายยานโพยมและบัวแก้วจักรกรดตกลงไป หลายปีผ่านมา เพชรดารา เติบโตขึ้นจึงเดินทางกลับบ้านเมืองระหว่างทางได้เจอกับ เมฆสิทธิ์ พญายักษ์แห่งนครกรุงกลางหาวที่กำลังจะไปเลือกคู่กับ องค์หญิงบัวแก้ว จึงเกิดการต่อสู้ แต่เมฆสิทธิ์เอาชนะเพชรดาราไม่ได้ แต่เพชรดาราก็สังหารเมฆสิทธิ์ไม่ได้เช่นกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามได้ในละครพื้นบ้านเรื่อง บัวแก้วจักรกรด

บัวปริ่มน้ำ

ผกามาลิน สาวสวยวัยสามสิบ เป็นนักขายมืออาชีพที่เป็นที่ยอมรับทั้งในแวดวงธุรกิจและแวดวงสังคม เธอคิดว่าตัวเองนั้นช่างโชคดีที่มีรูปเป็นทรัพย์ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เธอจึงบริหารเสน่ห์เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินและงาน แต่เมื่อใดก็ตามที่เมียและลูกของผู้ชายที่เธอคบหาอยู่เกิดรู้ระแคะระคาย เธอก็จะบอกเลิกความสัมพันธ์ทันที เพราะเธอไม่ต้องการทำลายครอบครัวของใคร โดยเฉพาะกับลูกๆ ของฝ่ายชาย ที่ผกามาลินแคร์ความรู้สึกของเด็กๆนั้น เพราะเธอเองเคยมีลูกมาแล้วกับ มิ่งขวัญ ซึ่งเป็นรักแรกของเธอ แต่ด้วยความไม่พร้อมของทั้งคู่จึงเลิกรากันไป ผกามาลินยกลูกสาวของเธอ ให้เป็นลูกของพี่สาวและพี่เขยของเธอเอง แม้จะเป็นได้แค่น้าแต่เธอก็อยากให้ลูกได้มีภาพความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับตัว เธอ ไม่ว่าเธอจะมีความประพฤติที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมอย่างไร แต่เธอก็ยังคงเป็น “น้าลิน” ที่สวย เก่ง และแสนดีอยู่เสมอ

วันหนึ่งผกามาลินขับรถชนกับ คธา ลูกชายคนเดียวของ เครือมาศ คู่กรณีทางการค้าของผกามาลิน เธอได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล คธามาดูแลใกล้ชิดเพราะเกิดหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ เครือมาศไม่ยอมให้ลูกชายไปคบกับผู้หญิงสกปรกอย่างผกามาลิน เธอคิดตัดไฟเสียแต่ต้นลมโดยดึง คลีทอง หลานสาวมาต่อกรกับผกามาลินแทนเธอ คลีทองประกาศตัวเป็นคู่หมั้นของคธา และตามไปกันท่าทั้งคู่แต่ไม่เป็นผล เพราะนอกจากเธอจะโดน ผกามาลินตอกกลับแรงๆแล้ว เธอเองก็รู้สึกด้อยค่าที่ต้องวิ่งตามผู้ชายที่ไม่สนใจเธอ คธาบอกกับแม่ว่าเขารักและต้องการแต่งงานกับผกามาลินเครือมาศ ขอร้อง ให้คธาเลิกยุ่งกับผกามาลิน พร้อมทั้งสาธยายถึงความเหลวแหลกที่ผ่านมาของผกามาลิน คธายืนยันที่จะแต่งงาน กับผกามาลินไม่ว่าแม่จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ข้างฝ่ายผกามาลินก็คิดแกล้งยั่วให้เครือมาศเจ็บใจเล่น และคธาเองก็เป็นผู้ชายที่น่าสนใจ ความจริงใจและท่าทีสุภาพอ่อนโยนของเขา ก็ทำให้เธอใจอ่อน เครือมาศจ้างคนเอาน้ำกรดไปสาดหน้าผกามาลินหวังให้เสียโฉม แต่พลาดไปโดนเลขาของผกามาลิน

ผกามาลินเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของเครือมาศแน่นอน เธอยืนยันที่จะแก้แค้นเครือมาศให้ได้รับความเจ็บปวดเช่นกัน เครือมาศได้จัดการพิมพ์และ แจกการ์ดแต่งงานระหว่างคธาและคลีทองไปทั่ว เมื่อผกามาลินรู้เรื่องก็ตัดหน้าแอบไปจดทะเบียนสมรสกับคธาทันที ในวันแต่งงานของคธาและคลีทอง ผกามาศเข้ามาในงานพร้อมกับแจกแผ่นซีร็อกซ์ทะเบียนสมรสของเธอกับคธาให้แขก เหรื่อได้รับรู้กันทั่ว เครือมาศประกาศตัดขาดลูกชายและขู่ที่จะยกมรดกให้คลีทอง เธอเชื่อว่าถ้าคธาเหลือแต่ตัวผกามาลินคงจะทิ้งคธาแน่ๆ คธาจึงย้ายไปอยู่กับผกามาลิน และออกหางานใหม่ แต่เครือมาศได้สั่งทุกบริษัทห้ามรับคธาเข้าทำงาน คธาอยู่ในสภาพคนตกงานกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าเกาะเมียกิน เครือมาศรับรู้สภาพลูกชายอย่างเจ็บปวด เพราะยิ่งเธอมุ่งทำลายผกามาลินมากเท่าไหร่ คนที่ถูกทำร้ายก็คือลูกชายเธอเอง ทำให้สภาพจิตใจของเครือมาศ ย่ำแย่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง แต่เธอยังรอการกลับมาของคธา

แต่แล้ววันหนึ่งมิ่งขวัญสามีคนแรกของผกามาลินกลับมา ทำให้ผกามาลินคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เธอจะส่งคธากลับคืนให้เครือมาศ เธอใช้มิ่งขวัญเป็นข้ออ้างในการขอหย่ากับคธา เพราะถ้าเธอบอกเลิกกับเขาในตอนที่เขากำลังรักและลุ่มหลงเธอมันจะทำให้เขา เจ็บปวดใจไม่น้อย โดยที่ผกามาลินไม่ได้รู้เลยว่า มิ่งขวัญกับคลีทองได้เจอกันและมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ซึ่งในวันแต่งงานที่ผกามาลินไปอาละวาดนั้น คลีทองหนีเสียใจออกมาและมิ่งขวัญก็บังเอิญมาเจอและพาเธอไปหลบพักจนเกิดเป็น ความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง…

เครือมาศจ้างผกามาลินด้วยเงิน 30 ล้านให้แยกกับคธา ผกามาลินต้องการล้างแค้นจึงยอมเลิก…แล้วเครือมาศก็จะได้ลูกชายกลับคืนไป อย่างซาก คลีทองเองก็ต้องจากมิ่งขวัญเพราะเข้าใจว่ามิ่งขวัญร่วมมือกับผกามาลินเพื่อ พรากเธอจากคธาเท่านั้น นับเป็นการจบเกมความแค้นของเครือมาศลง โดยไม่รู้ เลยว่าทั้งผกามาลินและคลีทองเองก็ท้องทั้งคู่ ร่วมทั้งเครือมสศเองก็ท้องกับพิศาลเพราะคืนที่เสียใจเรื่องคธา เลยออกไปถูกพิศาล มอมเหล้าจนเมาเช่นกัน

คธาจึงหันไปทุ่มเทให้กับการทำงานและดื่มเหล้ามากขึ้น เพื่อให้ลืมผกามาลิน เครือมาศเฝ้ามองลูกชายอย่างทุกข์ระทม เธอรู้แล้วว่าไม่มีวันที่เธอ จะได้คธาลูกชายคนเดิมกลับคืนมา ส่วนผกามาลินเธอเองก็เจ็บช้ำไม่น้อยไปกว่าคธาหรือเครือมาศ เพราะเธอได้ทำร้ายหัวใจตัวเองด้วยทิฐิความแค้น เธอพยายามหลอกตัวเองมาตลอดว่าคธาคือเงาของมิ่งขวัญ ผู้ชายคนแรกที่เธอเคยรัก แต่เมื่อมิ่งขวัญกลับมาจริงๆ เธอก็รู้ว่าไม่ใช่ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว ทั้งคู่เป็นได้แค่เพื่อน พิศาลขู่ให้เครือมาศเซ็นเช็ค 20 ล้าน แต่เขาก็ยังตามราวีเธอไม่เลิก เพราะต้องการให้เธอเซ็นยกมรดกทั้งหมดให้ แต่เครือมาศไม่ยอม จึงเกิดการ ต่อสู้กัน ผกามาลินมาหาคธาที่บ้านเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงเข้าขัดขวาง พิศาลผลักเครือมาศตกบันได จากนั้นเขาวิ่งหนีไป คธากลับมาถึงพอดีจึงขับรถไล่ตาม เวรกรรมมีจริง พิศาลขับรถประสานงากับรถบรรทุกเสียชีวิตในทันที

เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งเครือมาศรู้ซึ่งหลายๆ เรื่อง ถึงแม้เธอจะไม่ยอมรับว่าผกามาลินเป็นลูกสะใภ้ที่ดี แต่อย่างน้อยที่สุดผกามาลิน ก็คือคนที่คธารัก มิ่งขวัญและคลีทองเองก็ตอบคำถามในใจได้ว่าทั้งคู่คือตัวจริงของกันและกัน ผกามาลินจากรู้แล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตอย่างไร้ทิศทางปล่อยให้เป็นไปตามความวูบไหวของอารมณ์ ทิฐิและความเชื่อมั่นที่เธอยึดติดมันเกือบจะทำร้ายตัวเธอเองกับลูก แต่เพราะคธา ทำให้เธอมีหลัก และรู้ว่าต่อไปควรจะเดินไปในทิศทางใด…นับแต่นี้เธอจะทำหน้าที่เป็นแม่ของ ลูกและเมียที่ดีของเขา เพื่อตอบแทนความอดทน และมั่นคงในรักของคธาที่ทำให้เธอมีวันนี้…วันที่เธอมีครอบครัวที่ครบถ้วน สมบูรณ์…และแล้วดอกบัวที่เคยลอยคลออยู่ปริ่มผิวน้ำ…ก็มีโอกาสชูช่อเบ่ง บานอยู่เหนือท้องน้ำนั้นแล้ว…

นักแสดงละคร บัวปริ่มน้ำ

รุจิรา ช่วยเกื้อ  แสดงเป็น  ผกามาลิน
ทฤษฏี สหวงษ์  แสดงเป็น  คธา
ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ  แสดงเป็น  มิ่งขวัญ
จริยา แอนโฟเน่  แสดงเป็น  เครือมาศ
พิตต้า ณ พัทลุง  แสดงเป็น  คลีทอง
รอน บรรจงสร้าง  แสดงเป็น  พิศาล
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ  แสดงเป็น  นลินี
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ  แสดงเป็น  ชาญ
รุ้งทอง ร่วมทอง  แสดงเป็น  พรรษา
ปาจรีย์ ณ นคร  แสดงเป็น  กรุณา
อเล็ก เรนเดลล์  แสดงเป็น  สาโรจน์

ในฝัน

เจ้าชายพิรียพงศ์ รัชทายาทแห่งแคว้นพรหมมินทร์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์กับ เจ้าชายโอริสสาวัฒนา หรืออีกพระนามหนึ่งว่า เจ้าชายเสนาบดี ณ แคว้นกุสารัฐ ที่นั่นเจ้าชายพิรียพงศ์ทรงทราบว่า เจ้าหลวงกุสารัฐ ซึ่งทรงพระชราภาพ มีพระธิดาองค์เดียวซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากคือ เจ้าหญิงรัชทายาท ผู้ซึ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดา เจ้าหญิงเป็นที่หมายปองของเจ้าชายที่เป็นพระญาติพระวงศ์ โดยเฉพาะ เจ้าชายชัยฉัตร ซึ่งจบการทหาร และเจ้าชายบุษกร ผู้ซึ่งศึกษา ณ ประเทศฝรั่งเศส แต่เจ้าหญิงรัชทายาทไม่เคยมีพระเนตรประทานใครอื่นเลย นอกจากเจ้าโอริสสาวัฒนาแต่พระองค์เดียว แม้กระนั้นเจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ไม่เคยแสดงความสนพระทัยในองค์เจ้าหญิง รัชทายาทแม้แต่น้อย

เพราะพระองค์สนพระทัยอยู่แต่ภาระและหน้าที่ใน ฐานะเสนาบดีแห่งสมาพันธรัฐ ผู้อยู่เบื้องหลังการปกครองแคว้นกุสารัฐ ซึ่งกำลังระส่ำระสายด้วยการแก่งแย่งอำนาจ โดยฝ่ายของเจ้าชายชัยฉัตรและเจ้าชายบุษกร รวมทั้งขุนนางผู้ใหญ่ที่คิดกบฏ รวมถึงเทวีศุลีพร ที่ราชสำนักกุสารัฐนี่เอง เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงเป็นทั้งลูกศิษย์และราชเลขานุการส่วนพระองค์ในเจ้าชายโอ ริสสาวัฒนา ทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงเรียนรู้ถึงพระปรีชาสามารถอันล้ำลึกในการปกครอง ทั้งทางด้านการเมือง การทหาร และการทูตในองค์เจ้าชายโอริสสาวัฒนา ทั้งยังทรงเห็นว่าทรงอุทิศพระวรกายและพระหฤทัยให้แก่หน้าที่เจ้าชายเสนาบดี อย่างเต็มพระกำลัง ทรงเปี่ยมได้ด้วยคุณธรรมและสถิตอยู่ในความยุติธรรม ทำให้ทรงเป็นที่รักและเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง ต่อทุกคนที่ประพฤติอยู่ในทำนองครองธรรม

และเป็นที่เกลียดชังแก่ทุกคนที่ไม่หวังดีต่อราชบัลลังก์ โดยเฉพาะเจ้าชายบุษกรผู้ทรงวางแผนล้มราชบัลลังก์ร่วมกับ นายพลตรีสุรีเทพ และเทวีศุลีพร สาวผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาต้องวางแผนรักษาราชบัลลังก์อย่างแยบยล ในช่วงเวลานี้นี่เองที่เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงทราบว่า เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงเป็นสหายวัยเยาว์กับ เจ้าหญิงพรรณพิ ลาศ พระพี่นางของพระองค์ ทั้งคู่ได้ทรงเขียนจดหมายโต้ตอบสื่อสารกันเป็นนิตย์ไม่ขาดระยะ และมักทรงปรึกษาหารือส่วนพระองค์และราชการอยู่เสมอ จนมิตรภาพระหว่างทั้งสองพระองค์กลายเป็นความรักซึ่งฝังรากลึกในพระราชหฤทัย ของสองพระองค์ เจ้าหญิงรัชทายาทก็ได้เสด็จมาปรึกษากับเจ้าชายพิรียพงศ์หลายครั้ง ในความที่ทรงน้อยพระทัยในเจ้าชายโอริสสาวัฒนา เลยทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงสงสารและเห็นพระทัยเจ้าหญิงรัชทายาท จนเกิดเป็นความรักโดยไม่รู้พระองค์ เมื่อมีการประชุมสภาเพื่อเลือกราชทูตไปทำสันถวไมตรีกับประเทศยุโรป

เจ้า ชายโอริสสาวัฒนาทรงแสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนเจ้าชายชัยฉัตร เพราะทรงมีคุณลักษณะเหมาะสมกว่าเจ้าชายองค์ใด จนในที่ประชุมเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ ทำให้เจ้าชายบุษกรผู้หวังในตำแหน่งนั้นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าชายชัยฉัตรจึงหันมาสวามิภักดิ์ต่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาอย่างไม่แคลง พระทัยอีกต่อไป สร้างความแค้นใจต่อเจ้าชายบุษกรมากยิ่งขึ้น ในระหว่างนั้นเองที่แคว้นพรหมมินทร์ เจ้าชายโสภณา แห่งแคว้นสาละวัณได้เสด็จประพาสแคว้นพรหมมินทร์ เจ้าหญิงพรรณพิลาศได้ทรงอักษรมาถวายเจ้าชายโอริสสาวัฒนาว่า เจ้าชายโสภณาทรงเป็นเจ้าชายรูปงาม แถมยังโปรดปรานศิลปะเช่นเดียวกับเจ้าหญิง และเจ้าชายยังสนพระทัยเจ้าหญิงอย่างสังเกตได้ชัด เหตุการณ์นี้จึงทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงหนักพระทัย ด้วยเกรงว่าความรักจะหลุดลอย

ต่อมาเจ้าหลวงกุสารัฐก็ทรงประชวร มีรับสั่งให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงรัชทายาท แต่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงปฏิเสธและแสดงความเห็นว่า เจ้าชายพิรียพงศ์มีคุณสมบัตินานัปการคู่ควรกับเจ้าหญิงรัชทายาท ซึ่งเจ้าหลวงกุสารัฐก็ต้องยินยอมตามความประสงค์นั้น สร้างความเสียพระทัยต่อเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นอย่างยิ่ง เจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ทรงทูลลาเสด็จไปยังแคว้นพรหมมินทร์เป็นการด่วน เพื่อกีดกันเจ้าหญิงพรรณพิลาสกับเจ้าชายโสภณา เจ้าชายพิรียพงศ์จึงมีโอกาสใกล้ชิดเจ้าหญิงรัชทายาทและเริ่มรู้ใจกัน ที่แคว้นพรหมมินทร์ ท่ามกลางงานเลี้ยงอำลาเจ้าชายโสภณา ข้าหลวงมาทูลเจ้าหญิงพรรณพิลาศว่ามีผู้มาขอเฝ้า ในคืนนั้นเองพระสหายที่รักกันยิ่งก็ได้พบกัน หลังจากทรงจากกันมานานถึงสิบกว่าปี ทั้งสองพระองค์รำลึกถึงวันวานจนสัมพันธภาพลึกซึ้งและหวานชื่นเกินกว่าคำ บรรยาย

รุ่ง ขึ้นก่อนเจ้าชายโสภณาจะเสด็จกลับทรงขอเจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงเป็นราชินีแห่ง แคว้นสาละวัน แต่เจ้าหญิงทรงปฏิเสธได้อย่างชาญฉลาด เจ้าชายโสภณาเสด็จจากไปด้วยความเสียพระทัย ที่แคว้นพรหมมินทร์เจ้าชายโอริสสาวัฒนาได้เข้าเฝ้าเจ้าหลวงพรหมมินทร์ ทูลข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเจ้าชายพิรียพงศ์ และทูลขออภิเษกกับเจ้าหญิงพรรณพิลาศ ซึ่งเจ้าหลวงทรงตอบรับด้วยดี เมื่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาเสด็จกลับกุสารัฐ มรุต ราชองครักษ์ก็ทูลว่ามีการก่อกบฏซ่องสุมกันอยู่ในชนบท เจ้าชายโอริสสาวัฒนาจึงขอเข้าเฝ้าเจ้าหลวงกุสารัฐขอพระราชทานอำนาจให้เจ้า หญิงรัชทายาททรงประกาศกฎอัยการศึกปราบปรามกบฏ ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าชายบุษกรและพรรคพวก แล้วเจ้าชายโอริสสาวัฒนา, เจ้าชายพิรียพงศ์ และมรุตก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีสายรายงานว่าเป็นแหล่งซ่องสุม

มี การต่อสู้เกิดขึ้นจนมรุตได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าชายบุษกรและพรรคพวกหนีไปได้ และตั้งพระทัยที่จะอาฆาตเจ้าชายโอริสสาวัฒนาถึงชีวิต เจ้าชายชัยฉัตรซึ่งเสด็จยุโรปทรงทราบเรื่องกบฏ ก็รีบกลับกุสารัฐและพร้อมที่จะเป็นกำลังปราบปรามกบฏในครั้งนี้ ในฐานะที่ทรงเป็นชายชาติทหาร แล้ววันอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ก็มาถึง เจ้าหลวงแห่งพรหมมินทร์และพระมเหสีเสด็จมาร่วมงาน เพื่อทรงปรึกษาเรื่องวันอภิเษกของเจ้าชายโอริสสาวัฒนาและเจ้าหญิงพรรณพิลา ศต่อสภาสมาพันธรัฐ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบให้จัดงานขึ้นต่อจากงานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทกับ เจ้าชายพิรียพงศ์ งานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ในครั้งนี้จัดให้มีการ เฉลิมฉลองอย่างมโหฬารรวมทั้งงานซ้อมรบ เจ้าหญิงรัชทายาททรงทำใจเรียนรู้ที่จะรักเจ้าชายพิรียพงศ์

และเจ้า ชายก็ทรงรักเจ้าหญิงแบบพระชายาแทนที่พระองค์จะทรงรักแบบพระสหายเช่นเดิม ในงานซ้อมรบที่จัดขึ้นในวันอภิเษกนั่นเองขณะที่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงม้าไป เก็บดอกหยาดฝน อันเป็นดอกไม้ประจำพระองค์เจ้าหญิงพรรณพิลาศ เจ้าชายบุษกรก็ใช้พระแสงปืนสังหารเจ้าชายโอริสสาวัฒนาสิ้นพระชนม์ลงต่อหน้า เจ้าชายพิรียพงศ์และมรุต เจ้าชายชัยฉัตรตามหาตัวคนร้ายอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดก็สังหารเจ้าชายบุษกรอย่างเหี้ยมโหดสมกับบาปกรรมที่ทรงก่อไว้ เจ้าหลวง พรหมมินทร์เสด็จกลับแคว้นและนำข่าวร้ายมาบอกแก่พระธิดา เจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงโศกเศร้าอาดูรสุดจะพรรณนา แต่แล้วก็ทรงพบว่า “สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่คงทนแน่นอน สิ่งที่เราประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอลืมตาขึ้นก็หายไปหมด เหมือนเป็นในฝันนั่นเอง”

รายชื่อนักแสดงละคร ในฝัน

ธีรภัทร์ สัจจกุล แสดงเป็น เจ้าชายโอริสสาวัฒนา
ซาร่า มาลากุล เลน แสดงเป็น เจ้าหญิงพรรณพิลาศ
อนันดา เอเวอริ่งแฮม แสดงเป็น เจ้าชายพิรียพงศ์
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น เจ้าหญิงรัชทายาท
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น เจ้าชายโสภณา
โอลิเวอร์ พูพาร์ต แสดงเป็น เจ้าชายชัยฉัตร
อรรถชัย อนันตเมฆ แสดงเป็น เจ้าชายบุษกร
เบญจสิริ วัฒนา แสดงเป็น เทวีศุลีพร
ชลิต เฟื่องอารมณ์ แสดงเป็น เจ้าหลวงกุสารัฐ

น่ารัก

น่ารัก เป็นเด็กสาวอายุ 16 ปี อยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าแสงดาว เป็นบ้านของมูลนิธิ เปลวไฟส่องแสง หนึ่งในบ้านอุปถัมภ์เด็กกำพร้า ของมหาเศรษฐี โชติช่วง ผู้ซึ่งชอบทำบุญ ใครๆ มักจะคิดว่าโชติช่วงเป็นชายกลางคนอายุประมาณ 50 ปี แต่ที่จริงโชติช่วงอายุแค่ 28 ปี เป็นนักธุรกิจด้านอาหารสำเร็จรูปต่างๆ โชติช่วงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่กับพี่สาว และหลานสาวจอมเฮี้ยว ปริศนา อายุ 16 ปีเท่าน่ารัก โชติช่วงเลี้ยง สุรวุฒิ เด็กหนุ่มที่เป็น กำพร้าอายุ 18 ปี ไว้อีก 1 คนที่บ้าน ปริศนาไม่ชอบสุรวุฒิเลยและชอบแกล้งต่างๆ นาๆ โดยหารู้ไม่ว่าสุรวุฒินั้นยอมปริศนาเพราะรักปริศนามากนั่นเอง

น่ารักอายุ16 ปีแก่เกินกว่าจะอยู่ในบ้านอุปถัมภ์เพราะไม่มีคนรับเลี้ยงดู แต่น่ารักก็ช่วยงานในบ้านอุปถัมภ์ทุกอย่าง ดูแลเลี้ยงเด็ก ๆที่อายุน้อยกว่า จนครูใหญ่รักน่ารักมาก วันที่บ้านเลี้ยงฉลองคริสมาสต์ โชติช่วงนึกสนุกอยากมาเยี่ยมเด็ก ๆ เลยแต่งตัวป็นซานตาครอส เอาขนมและอาหารมาให้เด็กๆ มากมาย ที่โรงอาหารน่ารักจัดการขัดถูจัดเตรียมงานอย่างสนุกสนาน โชติช่วงเฝ้าดูและนึกชอบโดยไม่รู้ตัว ปริศนามากับโชติช่วงด้วย และนึกรังเกียจความยากจนและกำพร้าของเด็ก ปริศนาทะเลาะกับน่ารัก ครูใหญ่จำใจต้องลงโทษน่ารักและกักบริเวณจนน่ารักไม่ได้ออกมางานเลี้ยงที่ตน ก็ใฝ่ฝันหา โชติช่วงในชุดซานต้าใจดีแอบเข้าไปเยี่ยมปลอบใจและให้ของขวัญเป็นผ้าพันคอผืน สวยและกล่องสีเขียนรูป น่ารักก็มอบผ้าเช็ดหน้าทำเองให้โชติช่วง ทั้งคู่รู้สึกซาบซึ้งในกันและกัน คืนนั้นถึงแม้ข้างนอกห้องจะมีงานเลี้ยงสนุกสนาน น่ารักกลับไม่นึกอิจฉา เธอจุดเทียนรอบห้องและจัดงานเลี้ยงเล็กๆ กับซานต้าสองคนอย่างมีความสุข

โชติช่วงมาเยี่ยมบ้านกำพร้าแสงดาวอีกครั้งพร้อมนายพร้อมทนายความ เพื่อจัดการให้น่ารักได้ไปอยู่โรงเรียนประจำและเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมที่ โรงเรียนเอกชน อย่างหรูที่ปริศนาเรียนอยู่ น่ารักเห็นโชติช่วงแสนหล่อก็อายและจำไม่ได้ว่าคือแซนต้าใจดี โชติช่วงเองก็ทำเป็นจำไม่ได้ และให้ครูใหญ่ และนายพร้อมหลอกน่ารักว่านายพร้อมคือโชติช่วงเศรษฐีใจดีเจ้าของเงิน น่ารักก้มลงกราบที่เท้านายพร้อมทั้งน้ำตาพร้อมกับ สาบานว่าจะตั้งใจเรียน และกลับมาช่วยครูใหญ่ทำงานที่บ้านเด็กอุปถัมภ์ ที่โรงเรียนประจำที่เชียงใหม่น่ารักและปริศนาทะเลาะกันตลอดเวลา พร้อมกับมีการแบ่งพรรคพวก ออกเป็น 2 แก๊ง คือแก๊งของน่ารักเด็กยากจนแต่เรียนดีและครูรัก กับแก๊งของปริศนาลูกเศรษฐีเจ้าของโรงเรียนที่เกเรและครูต้องเอาใจ เรื่องราวในโรงเรียนและเรื่องของน่ารักอยู่ในสายตาโชติช่วงผู้ซึ่งเข้ามา เป็นน้าของปริศนาและใช้ชื่อว่าน้าโชติ

สุรวุฒิสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ได้ โชติช่วงจึงใช้ให้สุรวุฒิตามไปดูแลปริศนาบ่อย ๆ ที่นั่นปริศนายังคอยตามราวีและแกล้งสุรวุฒิตลอดเวลาพร้อมกับจับคู่ให้สุ รวุฒิและน่ารักว่าเหมาะสมกันเหมือนหมามุ่ยกับใบตำแยเพราะเป็นเด็กกำพร้าต้อย ต่ำเหมือนกัน โชติช่วงรู้เรื่องและเกิด อาการขวางใจตลอดเวลาพร้อมกับพยายามสอดส่องเรื่องของน่ารักมากขึ้น 2 ปีผ่านไป ปริศนา และน่ารักเรียนจบ วันงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จปริศนา ขอควงน้าโชติ ออกงานให้เพื่อน ๆอิจฉาตาร้อน สุรวุฒิเองก็เห็นใจน่ารักเลยอาสาพาน่ารักไปงานเลี้ยง ที่ในงานโชติช่วงขอน่ารักเต้นรำ ปริศนาอิจฉาปนหมั่นไส้เลยรวมหัวกับเพื่อนแกล้งน่ารัก..เอาน้ำหวานราดน่ารัก จนเลอะไปทั้งตัว สุรวุฒิต่อว่าปริศนาเลยโดนโกรธและตบหน้า น่ารักหลบมาอยู่หลังงานเลี้ยง ร้องไห้เสียใจคนเดียวเงียบ ๆแต่โชติช่วงก็ตามมาเจอช่วยปลอบใจแถมพาน่ารักไปกินไอศกรีมกันสองคนฉลองต่อ น่ารักเริ่มจิตใจหวั่นไหวหนักมากขึ้น

ปริศนาจอมเฮี้ยวไม่อยากเรียนต่อเพราะเบื่อ จึงได้ขอแม่และน้าไปเที่ยวเกาะกับเพื่อน ๆ โชติช่วงให้สุรวุฒิตามไปดูแล ปริศนาโกรธมากมาย น่ารักเองไม่ต้องการเรียนต่อเพราะต้องการกลับมาใช้หนี้ทุนที่ได้รับไป โชติช่วงให้ทนายพร้อมมาเกลี้ยกล่อมให้เรียนต่อแต่น่ารักกลับขอเรียนพวก วิชาการเรือนแทน เพราะเห็นว่านำมาใช้กับบ้านเด็กกำพร้าได้ โชติช่วงยินยอม ที่เกาะที่ปริศนาไปเที่ยวกับเพื่อนเกิดพายุเข้า ปริศนาติดเกาะกับสุรวุฒิ สุรวุฒิยอมแพ้ใจ ตนเองเมื่อโดนปริศนาต่อว่ามากๆ และบอกรัก…ปริศนาช๊อค เมื่อกลับมาถึงบ้านปริศนาขอแม่และน้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันทีน่ารัก เรียน การเรือนแค่ 2 ปีก็เรียนจบตลอดเวลาที่เรียนโชติช่วงเฝ้าตามดูแลและอดใจไม่ไหวจึงแสดงอาการ บอกรักเป็นนัยๆ ตลอดเวลา น่ารักไม่กล้าที่จะรัก น้าโชติเพราะกลัวเรื่องชนชั้น ประกอบกับพี่สาวของโชติช่วงรังเกียจน่ารักและสุรวุฒิมาก ปริศนาเองก็หายเงียบไปไม่เคยส่งข่าวใดๆ เลย สุรวุฒิและน่ารักที่หัวอก เดียวกัน จึงดูเหมือนรักกันและเหมาะสมกันมาก ทำให้โชติช่วงอิจฉาแต่ทำอะไรไม่ได้

ปริศนากลับมาเยี่ยมบ้าน 2 เดือนยังร้ายจนน่าเข็ดฟันและยังกลั่นแกล้งน่ารักตลอดเวลาจนโชติช่วงโมโหหลาย ครั้ง จริงๆ แล้วปริศนาพบว่าตนเองก็ชอบสุรวุฒิแต่ชนชั้นที่ต่างกัน การที่เคยแกล้งและตั้งข้อรังเกียจ และการที่นึกว่าน่ารักและสุรวุฒิเป็นแฟนกันทำให้ปริศนาโกรธมาก ที่กรุงเทพ วีระเดช เพื่อนนักเรียนของปริศนาที่กลับ มาด้วย กินเหล้าเมายาและทำตัวน่ารังเกียจ แต่ปริศนากลับใช้มาเป็นตัวกลั่นแกล้งทำให้สุรวุฒิช้ำใจแต่ปริศนา กลับ ติดกับโดนวีระเดชมอมเหล้าและจะข่มขืน สุรวุฒิไปช่วยทันแต่ถูกแม่ของปริศนาประณาม ทั้งๆ ที่สุรวุฒิแอ่นอกรับอย่างสุภาพบุรุษและขอแต่ง งานเพื่อกู้หน้าให้ปริศนา โชติช่วงขอให้ปริศนาเลือกว่าจะแต่งงานหรือกลับไปเรียนต่อให้จบหรือลืมเรื่อง ทั้งหมดเสีย ปริศนาเลือกที่จะไปเรียนต่ออย่างชอกช้ำอีกหน แต่หนนี้ปริศนาเข้าใจหัวใจตนเองแล้ว ปริศนาไปลาสุรวุฒิผู้ต่ำต้อย แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าโชติช่วงได้วางแผนให้สุรวุฒิ ไปเรียนต่อที่เดียวกันกับปริศนาเพราะกลัวว่าวีระเดชจะตามรังควานปริศนา ปริศนานั่งร้องไห้บนเครื่องบินและพบว่าผู้โดยสารข้างๆ คือสุรวุฒิ สุรวุฒิบอกว่าโชติช่วง อนุญาตให้ตนแต่งงานกับปริศนาที่โน่นได้ถ้าปริศนายินยอม ปริศนาขอเวลาเรียนต่ออีก 2 ปีถึงจะแต่งงานแต่ยอมหมั้นก่อน ทั้งคู่มีความสุขมาก

น่ารักโดนแม่ของปริศนาพี่สาวของโชติช่วงรังควานหนักเมื่อรู้ว่าปริศนาบินไป กับสุรวุฒิ หาว่าน่ารักจะจับโชติช่วงเพราะร่ำรวย น่ารักงงมากเมื่อรู้ว่าน้าโชติที่แสนดีคือคุณท่านโชติช่วงเจ้าของมูลนิธิที่ เคารพ น่ารักไปเจอนายพร้อมและต่อว่าพร้อมกับเสียใจมาก ยิ่งเจอโชติช่วงที่บอกรักและขอแต่งงานยิ่งน้อยใจ
น่ารักหนีออกไปจากโรงเรียนและหายไปท่ามกลางความสับสนเสียใจของโชติช่วง น่ารักหนีไปอยู่กับอารยาเพื่อนรักสมัยที่เรียนโรงเรียน ประจำ และทำงานใน ร้านอาหารเงียบๆ โดยไม่บอกใคร นอกจากปริศนาซึ่งได้กลายมาเป็นเพื่อนรักตั้งแต่ก่อนเดินทางไปเรียนต่อ ปริศนาแอบโทรบอกโชติช่วง

โชติช่วงดีใจมากรีบบินไปหาน่ารักและขณะที่ขับรถไปหาน่ารักกลางหุบเขานั่นเอง ก็ประสบอุบัติเหตุรถชน ข่าวออกมาว่าคนขับรถตายแต่จริงๆ คือคนขับรถให้โชติช่วงตายจริงๆ แต่ตัวโชติช่วงกระเด็นมานอกรถบาดเจ็บ น่ารักคิดว่าโชติช่วงตายใจสลายและยอมรับว่ารักน้าโชติมากมายมหาศาล ที่โรงพยาบาล
น่ารักพบว่าโชติช่วงบาดเจ็บสาหัสอาจจะเดินไม่ได้ น่ารักอาสาพยาบาลและดูแลตลอดเวลา โชติช่วงแกล้งโกหกว่าถ้ากลายเป็นคนพิการจะเป็นอย่างไร น่ารักยังจะรักรึเปล่า แต่น่ารักกลับร้องไห้เสียใจว่าโชติช่วงแกล้งลองใจ ยังไงก็จะรักและดูแลโชติช่วงไปจนตาย ทั้งคู่ก็จบลงอย่างมีความสุข น่ารักกลายเป็นครูใหญ่ที่อุทิศตนให้เด็กกำพร้าที่ต้องการความรักจากสังคมเสมอ

นักแสดงละครเรื่อง น่ารัก

การิน ศตายุ  แสดงเป็น  โชติช่วง
ณฐพร เตมีรักษ์  แสดงเป็น  น่ารัก
วิภาวี ศิริมะณีวัฒนา  แสดงเป็น  ปริศนา
โชคชัย บุญวรเมธี  แสดงเป็น  สุรวุฒิ
วิรากานต์ เสนีตันติกุล  แสดงเป็น  อารยา
ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง  แสดงเป็น  ขิม
อภิชญา ปิยะนุวัฒน์ชัย  แสดงเป็น  จีร่า
ลักษมี ทรัพปรุง  แสดงเป็น  ไพลิน
พรรณชนิดา ศรีสำราญ  แสดงเป็น  ล้ำระวี

นางบาป

วิษณุ นำเอาตำนานของหมู่บ้านบางบาปมาทำเป็นละคร ซึ่งตามตำนานเล่าว่า พระวนาเทพ และ คุณกำไล ได้พาครอบครัวพร้อมด้วยข้าทาสบริวารมาอยู่ที่นี่ มีนางทาสคนหนึ่งชื่อ นางหยาด ที่ใช้ความสวยยั่วพระวนาเทพจนได้เป็นเมียอีกคนหนึ่ง แต่ด้วยความอยากที่จะเป็นเมียเอก นางหยาดจึงวางยาพิษฆ่าคุณกำไลและลูกๆ เมื่อความจริงถูกเปิดเผยนางหยาดโดนแขวนคอ วิษณุได้ ธนัตถ์ และภาพิมล ดาราชื่อดังมาเป็นพระ-นาง พักตรา แสดงเป็นนางร้าย ปาล เป็นพระรองของเรื่อง

วัน เปิดตัวละคร “นางบาป” จัดขึ้นที่สถานที่จริงและ เรืองริน หนึ่งทีมงานของวิษณุได้รู้จักกับนักแสดงที่จะร่วมงานด้วย ซึ่งดาราทุกคนก็เป็นมิตรกับเรืองริน ยกเว้นภาพิมลที่แสดงความไม่ชอบหน้าเรืองริน เพราะเธอหมั่นไส้ที่ดาราชายทั้งสองคนแสดงความสนใจในตัวเรืองรินมากกว่าเธอ ระหว่างการเตรียมงาน วิษณุ, เรืองริน และทีมงานต้องมาดูงานที่บ้านหลังนี้บ่อยๆ จนเรืองรินเริ่มสัมผัสได้กับความแปลกที่เหมือนมีคนแอบจ้องมองอยู่

และ เธอก็มักจะเจอกับเหตุการณ์ที่ลึกลับต่างๆ ฝีมือของวิญญาณนางหยาด และนางหยด สองพี่น้องที่ถูกขังอยู่ในบ้านหลังนี้นั่นเอง วิษณุรับ วิสาข์ เข้ามาเป็นพีอาร์ประจำกองถ่าย หลังจากที่ยกกองถ่ายมาที่บ้านของคุณพระและต้องหยุดการถ่ายทำเพราะฝนตกหนัก และน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถไปไหนได้ ภาพิมลก็ชวนวิสาข์เล่นผีถ้วยแก้วเพื่อเป็นการฆ่าเวลา โดยได้เชิญดวงวิญญาณที่สิงอยู่ในบ้านหลังนี้ให้มา เมื่อเล่นไปแล้วทั้งสองคนก็ไม่สามารถบังคับถ้วยแก้วได้จึงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ไม่มีใครรู้ว่าผีนางหยดได้เข้าสิงร่างของเรืองริน และผีนางหยาดเข้าสิงร่างพักตรา หยดในร่างเรืองรินสนใจกับ
ชีวิต ของคนในยุคนี้และแสดงความร้ายกาจ ส่วนหยาดที่สิงร่างพักตราก็พยายามขออโหสิกรรมกับภาพิมล เพราะรู้ว่าเป็นคุณกำไลในอดีตชาติ ทำให้ภาพิมลหวาดกลัวมาก และปาลยังแอบเห็นพักตราเอาเสื้อสำหรับทาสที่ใช้ในละครมานุ่งแล้วไปตักน้ำมา ถูเรือน ปาลไปบอกเรื่องนี้กับวิษณุถึงได้รู้ว่าเป็นหยาดที่ไม่มีความดุร้ายเหมือนกับ หยด หยาดเตือนวิษณุเรื่องหยด

วิษณุเอาสร้อยพระของเขามาคล้องคอของ เรืองรินจนหายเป็นปกติ วิสาข์ซึ่งหลงรักวิษณุอยู่เกิดมาเห็นสร้อยเข้าก็จะเอาคืน ทำให้วิษณุกับวิสาข์มีปากเสียงกันรุนแรง ด้วยความโกรธทำให้วิสาข์ขับรถฝ่าน้ำที่ท่วมออกไป จนทำให้รถตกถนนและเธอก็จมน้ำ วิษณุกับพวกมาช่วยไว้ แต่วิสาข์ก็ถูกวิญญาณของหยดสิงร่าง พอน้ำลดแล้ววิษณุก็ไปหาหลวงตาซึ่งท่านก็แนะนำให้วิษณุนั่งสมาธิ เพื่อจะได้ติดต่อกับผีนางหยาดและช่วยปลดปล่อยให้หยาดสู่สุคติ แล้ววิษณุก็ได้รู้เรื่องราวในอดีตชาติที่ตนเป็นคุณพระวนาเทพ ที่เป็นคนเจ้าชู้และมีเมียหลายคน

ในจำนวนนั้นก็มีหยดและหยาด ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับคุณกำไลที่เป็นอดีตชาติของภาพิมลนั่นเอง หยาดเป็นคนหัวอ่อนจึงหลงเชื่อแผนการของหยด ทำให้คุณกำไลและลูกๆ ต้องตายด้วยยาพิษ จนตัวเองต้องโดนจับแขวนคอตาย เยื้อน เป็นแม่ของหยาดและหยด รู้เรื่องที่หยดทำทุกอย่างจึงตัดสินใจใช้มีดแทงหยดตาย พร้อมสาปแช่งให้หยดถูกจองจำอยู่ที่บ้านหลังนี้จนกว่าจะสำนึกผิด หยดในร่างของวิสาข์มักจะคอยกลั่นแกล้งคนในกองถ่ายให้ทะเลาะกัน เช่น เมื่อรู้ว่าธนัตถ์ชอบเรืองรินก็พยายามยุให้ภาพิมลมีเรื่องกับเรืองริน

แต่ ปาลก็มักจะเข้ามาช่วยเรืองรินอยู่เสมอ จนเรืองรินเริ่มมีใจให้กับปาล หลังจากแผนการที่วางไว้ไม่ได้ผล หยดก็หลอกเรืองรินมาที่ริมน้ำตอนกลางคืนแล้วก็ผลักเรืองรินตกน้ำ ซึ่งทำให้สร้อยพระที่ใส่อยู่ขาดจากคอ วิญญาณของหยาดเลยมาช่วยเรืองรินไว้ได้ ทำให้เรืองรินรู้ว่ามีวิญญาณสิงอยู่ที่ร่างของวิสาข์ เมื่อวิษณุต้องการช่วยหยาด เลยให้ภาพิมล, ปาล, เรืองริน และตนเองเล่นผีถ้วยแก้ว โดยให้ภาพิมลเชิญวิญญาณหยาดที่สิงร่างของเรืองริน หยาดได้ขออโหสิกรรมจากคุณพระ คุณกำไล และได้ไปผุดไปเกิด

ส่วนหยดใน ร่างของวิสาข์กลัวว่าจะต้องไปผุดไปเกิด จึงใช้แผนยั่วยวนธนัตถ์และถูกตีจนสลบ หยดติดอยู่ในร่างของวิสาข์ที่นอนสลบอยู่ที่โรงพยาบาลออกไปไหนก็ไม่ได้ จนกระทั่ง ยุพดี แม่ของวิสาข์มาเยี่ยมทำให้หยดตกใจ เพราะยุพดีก็คือเยื้อนแม่ของหยดในอดีตนั่นเอง เมื่อยุพดีเห็นสภาพของวิสาข์ก็ร้องไห้ และเพราะน้ำตาของยุพดีนี่เองที่ทำให้คำสาปกลับมาอีกครั้ง หยดก็ต้องถูกจองจำอยู่ในบ้านหลังนี้อีกครั้ง สุดท้ายปาลกับเรืองรินก็เป็นแฟนกัน และทั้งคู่ก็ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้หยาด ถึงแม้จะไม่สามารถแก้ไขตำนานนี้ให้ถูกต้องได้

รายชื่อนักแสดงละคร นางบาป

อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น ปาล
รุจิรา ช่วยเกื้อ แสดงเป็น เรืองริน
พรชิตา ณ สงขลา แสดงเป็น หยด
อิศริยา สายสนั่น แสดงเป็น หยาด
วัชระ ตังคประเสิร์ฐ แสดงเป็น วิษณุ / คุณพระวนาเทพ
เพชรดา เทียมเพ็ชร แสดงเป็น วิสาข์
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น ธนัตถ์
สโรชา วาทิตตพันธ์ แสดงเป็น ภาพิมล / คุณกำไล

นรกตัวสุดท้าย

ณ อาณาจักรขอม ปีค.ศ.1524 มีเจ้าชายถือกำเนิดขึ้นในราชวงศ์ของกษัตริย์มีนามว่า เจ้าฟ้าดำ ซึ่งในวันที่เจ้าฟ้าดำเกิดนั้นถือว่าเป็นวันกาลีมหาวิปโยค ชีปะขาวจึงทำนายดวงชะตาว่าเจ้าฟ้าดำนี้เมื่อมีอายุครบ 25 ปีจะได้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หากมิได้เป็นตามนั้นก็จะเป็นจ้าวแห่งปีศาจทั้งปวง พระเจ้าศิริวรมัน ผู้เป็นพ่อกลัวว่าเจ้าฟ้าดำจะเป็นภัยร้าย จึงให้สร้างปราสาทบายอนบุเรนทร์ ซึ่งเป็นปราสาทแห่งความดีที่ใช้บูชาพระวิษณุตามคำของชีปะขาวเพื่อแก้เคล็ด

เจ้า ฟ้าดำได้แต่งงานกับ เมตาวตี หญิงสาวที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ต่อมาพระเจ้าศิริวรมันล้มป่วยลง ก่อนที่จะตายได้กำชับเจ้าฟ้าดำให้สร้างปราสาทให้เสร็จ ก่อนที่จะถึงวันทำพิธีแก้เคล็ดเจ้าฟ้าดำได้ถูก เดวิด ผีดิบที่มากับเรือสำเภาดูดเลือดจนหมด และยังต่อชีวิตให้กับเจ้าฟ้าดำโดยการให้เจ้าฟ้าดำดูดเลือดตัวเองเข้าไปแทน เจ้าฟ้าดำกลายเป็นผีดิบควบคุมตัวเองไม่ได้ จนลืมตัวดูดเลือดเมตาวตีจนเมตาวตีตายและเป็นอมตะ

ณ ปัจจุบัน ร้อยตำรวจโทเมษยน และจ่าสีดา ได้รับมอบหมายให้ติดตามผู้ค้าอาวุธสงครามจึงข้ามฝั่งเขมรอย่างไม่ตั้งใจ และเกือบที่จะเอาชีวิตไม่รอด หากไม่เจอ ผู้พันเขียว กับลูกน้องช่วยไว้ พันตรีเขียวถูกชะตากับเมษยนจึงได้ให้สร้อยเครื่องรางไว้ป้องกันตัว ที่บ้านร้างหลังหนึ่งมี หมอผีแขก และจุก ที่คอยสร้างเรื่องใส่พวกชอบลองของ ต่อมาก็มีนายฝรั่งมาซื้อบ้านหลังนี้ไป แต่ทั้งสองก็ต้องประหลาดใจที่นายฝรั่งต้องรับใช้ชายอีกคนเยี่ยงราชา

หมวด เมษยนและจ่าสีดาได้รับงานจาก สารวัตรสมเจตน์ ให้คลี่คลายคดีแก๊งมอเตอร์ไซค์ ที่ปล้นและฆ่าเหยื่ออย่างโหดเหี้ยมด้วยการกัดคอและดูดเลือด แขกกับจุกต้องการที่จะได้บ้านคืนจึงได้ปลอมตัวเป็นผีเพื่อหลอกคนในบ้าน แต่จุกถูกเจ้าฟ้าดำฆ่าตาย โชคดีที่หมอแขกหนีตายออกมาได้จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เมษยนและจ่าสีดาฟัง ในขณะนั้นเมษยนกำลังมีปัญหากับ จ๋า แฟนสาว เพราะพ่อของเธอไม่ชอบเขาและมองว่าเป็นตำรวจไม่มีอนาคต

ไม่มีความ สามารถปิดคดีแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ได้ ซึ่งเป็นจังหวะให้เจ้าฟ้าดำที่ปลอมตัวเป็น ดร.ประเทศ เข้ามาแทรกระหว่างเมษยนกับจ๋า เมษยน, จ่าสีดา, แขกได้เจอกับสมุนของเจ้าฟ้าดำและเกิดการต่อสู้กันจนสมุนของฟ้าดำโดนกระสุน เงินยิงตายจนหมด ต่อมาพวกเขาได้เจอกับผู้พันเขียวอีกครั้ง จึงได้รู้ความจริงว่าผู้พันเขียวเป็นหน่วยเฉพาะกิจเพื่อปราบเจ้าฟ้าดำ และมีเพียงกระสุนเงินเท่านั้นที่สามารถฆ่าเจ้าฟ้าดำได้ ซึ่งก็เหลือเพียง 5 นัดเท่านั้น

สาร วัตรสมเจตน์และจ่าสีดาทำคดีพลาดท่าโดนดูดวิญญาณไปเป็นสมุนเจ้าฟ้าดำ ส่วนจ่าสีดาถูกฆ่าตาย แล้วพวกเมษยนสืบรู้ว่าแท้ที่จริง ดร.ประเทศก็คือเจ้าฟ้าดำที่ปลอมตัวมาเพื่อที่จะครอบครองตัวจ๋า โดยคิดว่าจ๋าคือเมตาวตีกลับชาติมาเกิด เมษยนจึงพาจ๋าหนีไปยังฝั่งเขมรไปซ่อนตัวอยู่ที่ปราสาทแห่งความดี แต่เจ้าฟ้าดำก็ตามมาเจอจนได้ เจ้าฟ้าดำล่อแล้วหลอกให้เมษายนใช้กระสุนเงินจนหมดและชิงตัวจ๋าจากเมษยนได้ อีกครั้ง

เวลานี้เองวิญญาณเมตาวตีปรากฏกายขึ้นและบอกกับเจ้าฟ้าดำว่า จ๋าไม่ใช่ตนที่กลับชาติมาเกิด แล้วยังบอกอีกว่าทุกคนที่โดนเจ้าฟ้าดำฆ่าจะไปเกิดใหม่ไม่ได้สร้างความเสียใจ ให้กับเจ้าฟ้าดำยิ่งนัก เมตาวตีบอกความลับกับเมษยนว่าสร้อยเครื่องรางที่ห้อยอยู่คือกระสุนเงินลูก สุดท้ายที่จะใช้ปราบเจ้าฟ้าดำได้ โดยยิงให้ตรงกลางหน้าผากเจ้าฟ้าดำ เจ้าฟ้าดำก็จะสิ้นชีพลงทันที ติดตามเรื่องราวความสนุกเหล่านี้ได้ในละคร “นรกตัวสุดท้าย”

รายชื่อนักแสดง นรกตัวสุดท้าย

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงเป็น จ้าวฟ้าดำ / ดร.ประเทศ
รวิชญ์ เทิดวงศ์ แสดงเป็น หมวดเมษยน
กัลยกร นาคสมภพ แสดงเป็น เมตาวตี / จ๋า
จิตติมา สำเภาทอง แสดงเป็น จ่าสีดา
เอกพัน บรรลือฤทธิ์ แสดงเป็น ผู้พันเขียว
วุฒินันท์ ภิรมย์ภักดี แสดงเป็น สารวัตรสมเจตน์
กพล ทองพลับ แสดงเป็น หมอแขก
กรกฏ ธนภัทร แสดงเป็น เขมรินทร์
ปีเตอร์ หลุยส์ ไมอ๊อกชิ แสดงเป็น ปิแอร์
วิทิต แลด แสดงเป็น โสภารา