Category Archives: ละครช่อง 9

บ้านนี้มีรัก

บ้านนี้มีรัก เป็นละครโทรทัศน์ แนวซิทคอม ออกอากาศทางช่อง 9 ทุกวันอาทิตย์เวลา 18.00 – 19.00 น. ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549

ครอบครัวครื้นเครง ชุลมุน อลเวง ครบรส ความสนุก

เรื่องย่อ

รัก ลูกชายคนกลาง และก็เป็นเหมือนตัวกลางของบ้านที่แสนจะอบอุ่น และด้วยความที่เป็นลูกคนกลางนี่แหละ ที่ทำให้รักต้องรับกรรมทุกสถานการณ์ เพราะไม่ว่าคนในบ้านจะมีปัญหาอะไร ทุกคนต่างพุ่งมาปรึกษา และให้รักแก้ปัญหาเป็นคนแรกเสมอ และตัวสร้างปัญหาประจำบ้านคือ น้องชายวัยคะนอง ลิงค์ หนุ่มมหาวิทยาลัยปี 1 ที่กวนบาทาทุกสถานการณ์ ปากเสีย ขี้โม้ ไม่มีกาลเทศะ ผู้ที่พร้อมจะพาปัญหาเข้ามาในบ้านตลอดเวลา

นอกจากรักจะต้องรับศึกคือ ลิงค์น้องชายตัวแสบแล้ว รักยังต้องเจอกับ ริน พี่สาวจอมโวยวายปากร้าย ที่มีสามีไม่เอาไหน และไม่ได้เรื่องอย่าง แฮงค์ กับ มิค หลานชายขี้สงสัย ที่ไม่เชื่อใจใครนอกจากรัก แต่ก็มักจะโดนสอนอะไรผิดๆ จากลิงค์เสมอๆ แต่รักเองก็ยังมี แม่ คนแก่ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดไปเองว่ายังสวยไม่สร่าง ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน เป็นที่พึ่งในยามที่ท้อแท้

สกล คนสวนจอมซุ่มซ่าม เฟอะฟะเป็นที่สุด เพ็ญ สาวใช้ช่างสอดรู้สอดเห็น ผู้ที่เห็นเรื่องของคนอื่นเป็นเหมือนเรื่องของตัวเอง และยังมีผู้มาแวะเวียนสร้างสีสันให้กับครอบครัวนี้ เบญ แฟนของรัก สาวน้อยจอมจับผิดคิดมาก แต่ปากหวาน เป็นแฟนกับรักตั้งแต่มัธยม เจี๊ยบ เพื่อนร่วมงานของรัก ที่ชอบเข้ามาวุ่นวายในบ้าน เพราะคิดว่าบ้านเพื่อนก็เหมือนบ้านตัวเอง

รายชื่อนักแสดง บ้านนี้มีรัก

ภูธเนศ หงส์มานพ รับบท รัก

ณัฎฐพงษ์ ชาติพงษ์ รับบท ลิงค์

ชุติมา นัยนา รับบท ริน

โจโจ้ ไมอ๊อกซี่ รับบท แฮงค์

นภัสกร บุษราคัมวดี รับบท มิค

โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบท แม่

รัชวิน วงศ์วิริยะ รับบท เบญ

แม็คก้า ชวนชื่น รับบท เจี๊ยบ

บ้านทรายทอง 2521

พจมาน เด็กสาวผู้มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีและชาติกำเนิดของตน แม้จะเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาก็ตาม เธอจำเป็นต้องจากบ้านสวนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนหนังสือต่อ ตามความประสงค์ของบิดาที่เขียนสั่งไว้ก่อนเสียชีวิต ให้พจมานไปอาศัยอยู่กับครอบครัวหม่อมพรรณราย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของพ่อที่บ้านทรายทอง เธอถูกกลั่นแกล้งตั้งแต่เข้ามาอยู่ โดยมีหม่อมแม่และคุณหญิงเล็กน้องสาวของชายกลาง รวมถึงคนรับใช้ทุกคนในบ้านคอยแกล้งเธอ ชายกลางสงสาร และให้คุณหญิงใหญ่พี่สาวคนโตคอยช่วยเหลือ และพจมานก็คอยดูแลเอาใจใส่น้องชายคนเล็กของชายกลางที่เป็นง่อย เธอแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่เข้มแข็งอดทนมีจิตใจที่ดีงาม จนสามารถเอาชนะใจของชายกลาง และอีกหลายๆ คน จนเป็นผลสำเร็จ จนทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในที่สุด

บางรักซอย 9

บางรักซอย 9 คือ ละคร ซิทคอม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ชัดเจน สถาปนิกหนุ่มเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ และได้เช่าบ้านของแป้ง เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในบ้าน และความสัมพันธ์ของชัดเจนกับแป้งที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ

ในฝัน

เจ้าชายพิรียพงศ์ รัชทายาทแห่งแคว้นพรหมมินทร์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาสำหรับกษัตริย์กับ เจ้าชายโอริสสาวัฒนา หรืออีกพระนามหนึ่งว่า เจ้าชายเสนาบดี ณ แคว้นกุสารัฐ ที่นั่นเจ้าชายพิรียพงศ์ทรงทราบว่า เจ้าหลวงกุสารัฐ ซึ่งทรงพระชราภาพ มีพระธิดาองค์เดียวซึ่งทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากคือ เจ้าหญิงรัชทายาท ผู้ซึ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดา เจ้าหญิงเป็นที่หมายปองของเจ้าชายที่เป็นพระญาติพระวงศ์ โดยเฉพาะ เจ้าชายชัยฉัตร ซึ่งจบการทหาร และเจ้าชายบุษกร ผู้ซึ่งศึกษา ณ ประเทศฝรั่งเศส แต่เจ้าหญิงรัชทายาทไม่เคยมีพระเนตรประทานใครอื่นเลย นอกจากเจ้าโอริสสาวัฒนาแต่พระองค์เดียว แม้กระนั้นเจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ไม่เคยแสดงความสนพระทัยในองค์เจ้าหญิง รัชทายาทแม้แต่น้อย

เพราะพระองค์สนพระทัยอยู่แต่ภาระและหน้าที่ใน ฐานะเสนาบดีแห่งสมาพันธรัฐ ผู้อยู่เบื้องหลังการปกครองแคว้นกุสารัฐ ซึ่งกำลังระส่ำระสายด้วยการแก่งแย่งอำนาจ โดยฝ่ายของเจ้าชายชัยฉัตรและเจ้าชายบุษกร รวมทั้งขุนนางผู้ใหญ่ที่คิดกบฏ รวมถึงเทวีศุลีพร ที่ราชสำนักกุสารัฐนี่เอง เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงเป็นทั้งลูกศิษย์และราชเลขานุการส่วนพระองค์ในเจ้าชายโอ ริสสาวัฒนา ทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงเรียนรู้ถึงพระปรีชาสามารถอันล้ำลึกในการปกครอง ทั้งทางด้านการเมือง การทหาร และการทูตในองค์เจ้าชายโอริสสาวัฒนา ทั้งยังทรงเห็นว่าทรงอุทิศพระวรกายและพระหฤทัยให้แก่หน้าที่เจ้าชายเสนาบดี อย่างเต็มพระกำลัง ทรงเปี่ยมได้ด้วยคุณธรรมและสถิตอยู่ในความยุติธรรม ทำให้ทรงเป็นที่รักและเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง ต่อทุกคนที่ประพฤติอยู่ในทำนองครองธรรม

และเป็นที่เกลียดชังแก่ทุกคนที่ไม่หวังดีต่อราชบัลลังก์ โดยเฉพาะเจ้าชายบุษกรผู้ทรงวางแผนล้มราชบัลลังก์ร่วมกับ นายพลตรีสุรีเทพ และเทวีศุลีพร สาวผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาต้องวางแผนรักษาราชบัลลังก์อย่างแยบยล ในช่วงเวลานี้นี่เองที่เจ้าชายพิรียพงศ์ได้ทรงทราบว่า เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงเป็นสหายวัยเยาว์กับ เจ้าหญิงพรรณพิ ลาศ พระพี่นางของพระองค์ ทั้งคู่ได้ทรงเขียนจดหมายโต้ตอบสื่อสารกันเป็นนิตย์ไม่ขาดระยะ และมักทรงปรึกษาหารือส่วนพระองค์และราชการอยู่เสมอ จนมิตรภาพระหว่างทั้งสองพระองค์กลายเป็นความรักซึ่งฝังรากลึกในพระราชหฤทัย ของสองพระองค์ เจ้าหญิงรัชทายาทก็ได้เสด็จมาปรึกษากับเจ้าชายพิรียพงศ์หลายครั้ง ในความที่ทรงน้อยพระทัยในเจ้าชายโอริสสาวัฒนา เลยทำให้เจ้าชายพิรียพงศ์ทรงสงสารและเห็นพระทัยเจ้าหญิงรัชทายาท จนเกิดเป็นความรักโดยไม่รู้พระองค์ เมื่อมีการประชุมสภาเพื่อเลือกราชทูตไปทำสันถวไมตรีกับประเทศยุโรป

เจ้า ชายโอริสสาวัฒนาทรงแสดงท่าทีอย่างชัดเจนในการสนับสนุนเจ้าชายชัยฉัตร เพราะทรงมีคุณลักษณะเหมาะสมกว่าเจ้าชายองค์ใด จนในที่ประชุมเห็นชอบอย่างเอกฉันท์ ทำให้เจ้าชายบุษกรผู้หวังในตำแหน่งนั้นไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าชายชัยฉัตรจึงหันมาสวามิภักดิ์ต่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาอย่างไม่แคลง พระทัยอีกต่อไป สร้างความแค้นใจต่อเจ้าชายบุษกรมากยิ่งขึ้น ในระหว่างนั้นเองที่แคว้นพรหมมินทร์ เจ้าชายโสภณา แห่งแคว้นสาละวัณได้เสด็จประพาสแคว้นพรหมมินทร์ เจ้าหญิงพรรณพิลาศได้ทรงอักษรมาถวายเจ้าชายโอริสสาวัฒนาว่า เจ้าชายโสภณาทรงเป็นเจ้าชายรูปงาม แถมยังโปรดปรานศิลปะเช่นเดียวกับเจ้าหญิง และเจ้าชายยังสนพระทัยเจ้าหญิงอย่างสังเกตได้ชัด เหตุการณ์นี้จึงทำให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงหนักพระทัย ด้วยเกรงว่าความรักจะหลุดลอย

ต่อมาเจ้าหลวงกุสารัฐก็ทรงประชวร มีรับสั่งให้เจ้าชายโอริสสาวัฒนาอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงรัชทายาท แต่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงปฏิเสธและแสดงความเห็นว่า เจ้าชายพิรียพงศ์มีคุณสมบัตินานัปการคู่ควรกับเจ้าหญิงรัชทายาท ซึ่งเจ้าหลวงกุสารัฐก็ต้องยินยอมตามความประสงค์นั้น สร้างความเสียพระทัยต่อเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นอย่างยิ่ง เจ้าชายโอริสสาวัฒนาก็ทรงทูลลาเสด็จไปยังแคว้นพรหมมินทร์เป็นการด่วน เพื่อกีดกันเจ้าหญิงพรรณพิลาสกับเจ้าชายโสภณา เจ้าชายพิรียพงศ์จึงมีโอกาสใกล้ชิดเจ้าหญิงรัชทายาทและเริ่มรู้ใจกัน ที่แคว้นพรหมมินทร์ ท่ามกลางงานเลี้ยงอำลาเจ้าชายโสภณา ข้าหลวงมาทูลเจ้าหญิงพรรณพิลาศว่ามีผู้มาขอเฝ้า ในคืนนั้นเองพระสหายที่รักกันยิ่งก็ได้พบกัน หลังจากทรงจากกันมานานถึงสิบกว่าปี ทั้งสองพระองค์รำลึกถึงวันวานจนสัมพันธภาพลึกซึ้งและหวานชื่นเกินกว่าคำ บรรยาย

รุ่ง ขึ้นก่อนเจ้าชายโสภณาจะเสด็จกลับทรงขอเจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงเป็นราชินีแห่ง แคว้นสาละวัน แต่เจ้าหญิงทรงปฏิเสธได้อย่างชาญฉลาด เจ้าชายโสภณาเสด็จจากไปด้วยความเสียพระทัย ที่แคว้นพรหมมินทร์เจ้าชายโอริสสาวัฒนาได้เข้าเฝ้าเจ้าหลวงพรหมมินทร์ ทูลข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเจ้าชายพิรียพงศ์ และทูลขออภิเษกกับเจ้าหญิงพรรณพิลาศ ซึ่งเจ้าหลวงทรงตอบรับด้วยดี เมื่อเจ้าชายโอริสสาวัฒนาเสด็จกลับกุสารัฐ มรุต ราชองครักษ์ก็ทูลว่ามีการก่อกบฏซ่องสุมกันอยู่ในชนบท เจ้าชายโอริสสาวัฒนาจึงขอเข้าเฝ้าเจ้าหลวงกุสารัฐขอพระราชทานอำนาจให้เจ้า หญิงรัชทายาททรงประกาศกฎอัยการศึกปราบปรามกบฏ ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าชายบุษกรและพรรคพวก แล้วเจ้าชายโอริสสาวัฒนา, เจ้าชายพิรียพงศ์ และมรุตก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านที่มีสายรายงานว่าเป็นแหล่งซ่องสุม

มี การต่อสู้เกิดขึ้นจนมรุตได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าชายบุษกรและพรรคพวกหนีไปได้ และตั้งพระทัยที่จะอาฆาตเจ้าชายโอริสสาวัฒนาถึงชีวิต เจ้าชายชัยฉัตรซึ่งเสด็จยุโรปทรงทราบเรื่องกบฏ ก็รีบกลับกุสารัฐและพร้อมที่จะเป็นกำลังปราบปรามกบฏในครั้งนี้ ในฐานะที่ทรงเป็นชายชาติทหาร แล้ววันอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ก็มาถึง เจ้าหลวงแห่งพรหมมินทร์และพระมเหสีเสด็จมาร่วมงาน เพื่อทรงปรึกษาเรื่องวันอภิเษกของเจ้าชายโอริสสาวัฒนาและเจ้าหญิงพรรณพิลา ศต่อสภาสมาพันธรัฐ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบให้จัดงานขึ้นต่อจากงานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทกับ เจ้าชายพิรียพงศ์ งานอภิเษกของเจ้าหญิงรัชทายาทและเจ้าชายพิรียพงศ์ในครั้งนี้จัดให้มีการ เฉลิมฉลองอย่างมโหฬารรวมทั้งงานซ้อมรบ เจ้าหญิงรัชทายาททรงทำใจเรียนรู้ที่จะรักเจ้าชายพิรียพงศ์

และเจ้า ชายก็ทรงรักเจ้าหญิงแบบพระชายาแทนที่พระองค์จะทรงรักแบบพระสหายเช่นเดิม ในงานซ้อมรบที่จัดขึ้นในวันอภิเษกนั่นเองขณะที่เจ้าชายโอริสสาวัฒนาทรงม้าไป เก็บดอกหยาดฝน อันเป็นดอกไม้ประจำพระองค์เจ้าหญิงพรรณพิลาศ เจ้าชายบุษกรก็ใช้พระแสงปืนสังหารเจ้าชายโอริสสาวัฒนาสิ้นพระชนม์ลงต่อหน้า เจ้าชายพิรียพงศ์และมรุต เจ้าชายชัยฉัตรตามหาตัวคนร้ายอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดก็สังหารเจ้าชายบุษกรอย่างเหี้ยมโหดสมกับบาปกรรมที่ทรงก่อไว้ เจ้าหลวง พรหมมินทร์เสด็จกลับแคว้นและนำข่าวร้ายมาบอกแก่พระธิดา เจ้าหญิงพรรณพิลาศทรงโศกเศร้าอาดูรสุดจะพรรณนา แต่แล้วก็ทรงพบว่า “สิ่งต่างๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นไม่คงทนแน่นอน สิ่งที่เราประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอลืมตาขึ้นก็หายไปหมด เหมือนเป็นในฝันนั่นเอง”

รายชื่อนักแสดงละคร ในฝัน

ธีรภัทร์ สัจจกุล แสดงเป็น เจ้าชายโอริสสาวัฒนา
ซาร่า มาลากุล เลน แสดงเป็น เจ้าหญิงพรรณพิลาศ
อนันดา เอเวอริ่งแฮม แสดงเป็น เจ้าชายพิรียพงศ์
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น เจ้าหญิงรัชทายาท
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น เจ้าชายโสภณา
โอลิเวอร์ พูพาร์ต แสดงเป็น เจ้าชายชัยฉัตร
อรรถชัย อนันตเมฆ แสดงเป็น เจ้าชายบุษกร
เบญจสิริ วัฒนา แสดงเป็น เทวีศุลีพร
ชลิต เฟื่องอารมณ์ แสดงเป็น เจ้าหลวงกุสารัฐ

นัดกับนัด

นัดกับนัด เป็นละครซิทคอม ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ออกอากาศเวลา 17.05 น. – 18.00 น. ทุกวันอาทิตย์ สร้างโดยบริษัท ซีเนริโอ ออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2550 ในชื่อตอน สวัสดีปีใหม่

ธรณีนี่นี้ใครครอง 2555

ธรณีนี่นี้ใครครอง เป็นละครแนวเบาสมอง-กุ๊กกิ๊กเกี่ยวกับเกษตรกรที่สะท้อนชีวิตกลุ่มเด็กวัย รุ่นหนุ่มสาวที่เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่มีใจและอุดมการณ์ที่อยากทำไร่ ทำสวนในชนบท

เมื่อ อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) เรียนจบวิทยาลัยเกษตร เขาตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆได้เรียนบ้าง หลังจากที่น้องๆ ได้เสียสละหยุดเรียนเพื่อให้เขาได้เรียนมาแล้ว อาทิจเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวของ ประวิทย์ ปลัดอำเภอผู้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และ พูนทรัพย์ แม่ค้าและแม่บ้านที่แสนจะขยันขันแข็ง อาทิจมีน้องเก้าคน เขาจึงมีความจำเป็นต้องหางานทำให้เร็วที่สุด เพื่อจะนำเงินมาส่งเสียน้องๆช่วยพ่อแม่อีกทาง อาทิจไม่คิดที่จะทำงานราชการอย่างพ่อ เขาใฝ่ฝันที่จะมีที่ดินเป็นของตัวเองสักแปลงเพราะต้องการใช้วิชาความรู้ที่ได้เรียนมาให้เกิดประโยชน์ พ่อตัดสินใจส่งตัวเขากลับไปหา ย่าแดง (ดวงตา ตุงคะมณี) เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ในอดีตพ่อซึ่งเป็นลูกชายคนโต ได้ขโมยเงินย่าแดงหนีออกจากบ้าน เพราะไม่ต้องการทำงานหนักในไร่ ย่าแดงยินดีต้อนรับอาทิจเพราะในจำนวนลูกหลานทั้งหมด ต่างก็เป็นหลักเป็นฐานไปหมดแล้ว ไม่มีใครรับช่วงงานในไร่ซึ่งมีมหาศาลทำต่อ อาทิจรับเงื่อนไขของย่าคือต้องทำงานที่สวนโดยไม่ได้รับเงินเดือน แลกกับการที่ย่าจะส่งเสียน้องๆ เรียนต่ออย่างเต็มใจ เพราะนอกจากจะได้ทำงานที่ตัวเองรักแล้ว น้องๆยังได้เรียนต่อและที่สำคัญที่สุดคือ เขาต้องการไถ่โทษให้พ่อสำหรับเรื่องในอดีตที่ผ่านมา

อาทิจทำงานที่สวนอย่างขยันขันแข็ง ย่าแดงเห็นว่าอาทิจมีความมุมานะและตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง จึงมอบที่ดินที่ยังไม่ได้บุกเบิกให้อาทิจ ๑ ไร่ เพื่อใช้ปลูกผักตามที่อาทิจต้องการ นั่นทำให้ ดรุณี (อุรัสยา เสปอร์บันด์) น้องสาวคนสุดท้องของย่าแดง ซึ่งไม่ถูกชะตาและเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอาทิจตลอดเวลาอยู่แล้ว เหม็นขี้หน้าอาทิจหนักขึ้นไปอีก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะดรุณีมีปมในใจกลัวว่าอาทิจจะมาแย่งความรักจากย่าแดงไป เธอรู้ความจริงว่าเธอเป็นเพียงลูกที่เกิดจากเมียคนสุดท้ายของพ่อย่าแดง และพ่อของย่าแดงก็ไม่ใช่พ่อเธอ เธอจึงไม่ได้มีสายเลือดผูกพันกับย่าแดงเลยแม้แต่น้อย ย่าแดงเอาเธอมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะเพียงเพราะสงสาร ซึ่งต่างจากอาทิจที่เป็นสายเลือดของคุณย่าโดยตรง ดรุณีจึงคอยหาเรื่องอาทิจ ในขณะที่อาทิจเองก็ไม่ยอมลงให้ดรุณี เพราะเห็นว่าดรุณีไม่มีเหตุผล แถมยังเอาแต่ใจตัวเองและชอบทำตัวเป็นเด็ก ทั้งคู่ทะเลาะตอบโต้กันทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้ย่าแดงปวดหัวไม่น้อยที่หลานรักทั้งสองไม่ลงรอยกัน

อาทิจตั้งใจทำงานพัฒนาสวน และอยากทดลองปลูกผักผลไม้หลายๆอย่างตามประสาเด็กหนุ่มไฟแรง แต่ความที่เป็นคนต่างถิ่นและไม่คุ้นเคยกับพืชพันธุ์บางอย่าง ทำให้อาทิจไปขุดเอาหน่อกล้วยป่ามาปลูกในไร่ที่บุกเบิกใหม่ ดรุณีและไพฑูร (เบญจพล เชยอรุณ) ซึ่งเป็นหลานห่างๆ ของย่าแดงรู้เรื่องนี้อยู่เต็มอก แต่ไม่มีใครทักท้วงอาทิจแถมยังสั่งห้ามคนงานในไร่บอกความจริงอาทิจ เพราะหวังจะให้อาทิจเสียหน้า

อาทิจมารู้ความจริงว่า ตัวเองเอากล้วยป่าซึ่งนำไปขายไม่ได้เลยมาปลูก ก็เมื่อเขาปลูกมันเสร็จเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มรู้สึกผิดหวัง เสียหน้าและเจ็บใจเหมือนตัวเองผลัดหลงเข้ามาอยู่ในที่ที่มีแต่คนแปลกหน้าจึงหันไประบายกับเหล้า หวังจะให้เหล้าช่วยทำให้ลืมความเจ็บปวดในใจได้บ้าง แต่ทุกอย่างยิ่งเลวร้ายหนักขึ้นไปอีก เมื่อเขาตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองเสียท่าทองประศรี ลูกสาวเจ้าของร้านขายของชำทองประศรีโวยวายว่าอาทิจข่มเหงเธอ และขอให้อาทิจรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น

อาทิจป่วยหนัก ย่าแดงจึงลงโทษดรุณีให้หญิงสาวดูแลอาทิจเป็นการตอบแทน ด้วยการเช็ดตัว จัดยา ทำกับข้าว กวาดถูบ้านหรือแม้แต่ซักผ้า ดรุณีจำต้องกัดฟันทำทุกอย่างให้ชายหนุ่ม เพราะลึกๆในใจ หญิงสาวก็รู้สึกผิดที่ทำให้อาทิจต้องป่วยหนัก

เมื่ออาทิจอาการดีขึ้น ความเก่าก็รุกเข้ามารุมเร้าเขาเมื่อ สิงห์ทอง (ศานติ สันติเวชกุล) และ คำมา (ศิรินุช เพชรอุไร)พ่อแม่ของทองประศรีพาหญิงสาวมาเอาเรื่องอาทิจ และบังคับให้อาทิจรับลูกสาวเป็นเมีย อาทิจต้องฝืนใจแต่งงานกับทองประศรีเพราะ วิไลลักษณ์ (รุ้งทอง ร่วมทอง) ที่เป็นภรรยาของ ประเวทย์ (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ซึ่งเป็นผู้ว่าฯและมีศักดิ์เป็นอาของอาทิจ มาเกลี่ยกล่อมให้อาทิจเห็นแก่ย่าแดงและหน้าที่การงานของญาติๆทุกคน ย่าแดงจัดการแต่งงานให้อาทิจกับทองประศรีตามสมควรแก่ฐานะ เข้าทางวิไลลักษณ์ที่ต้องการกำจัดอาทิจออกไปให้พ้นทาง เวทางค์ (วิวิศน์ บวรกีรติขจร) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เพราะต้องการให้ลูกชายลงเอยกับดรุณีเพื่อหวังมรดกก้อนโตของย่าแดง

ย่าแดงเสียใจเรื่องอาทิจอย่างที่สุด เพราะเคยหวังไว้ว่าหากอาทิจกับดรุณีรักและลงเอยกันได้ ก็จะมีคนสืบทอดอาชีพเกษตรกร และมีคนทำกินบนผืนดินที่ตนเองรักสืบไป แต่เมื่อเรื่องมันไม่เป็นอย่างที่ฝันไว้ ย่าแดงจึงได้แต่ทำใจ ในขณะที่ดรุณีเองก็รู้สึกผิด หญิงสาวรู้ว่าความยุ่งยากทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะเธอคนเดียวแท้ ๆ ที่เป็นต้นเหตุ

ทองประศรีย้ายมาอยู่ที่บ้านพักของอาทิจ อาทิจตัดปัญหาด้วยการย้ายออกมาอยู่ที่บ้านพักคนงานและตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งานโดยบุกเบิกทำไร่ข้าวโพดและกะหล่ำปลี โดยมีย่าแดงสนับสนุนในเรื่องทุนและลงมาช่วยดูแลอย่างเต็มที่ รวมทั้งดรุณีที่ลงมาช่วยปลูกผักช่วยรดน้ำด้วยตัวเอง

อาทิจและดรุณีเริ่มพูดกันดีๆมากขึ้น แต่ก็ยังมีทองประศรีและเวทางค์คอยเข้ามาแทรกกลางระหว่างทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งดรุณีสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้และต้องแยกไปเรียนที่กรุงเทพฯ กับเวทางค์ และวิยะดา น้องสาวเวทางค์ ความสัมพันธ์ที่เหมือนจะแน่นแฟ้นขึ้นก็มีอันต้องห่างหายกันไป แต่ก็ไม่ถึงกลับขาดจากกันซะทีเดียวเพราะย่าแดงจะใช้ให้อาทิจคอยเขียนจดหมายและตอบจดหมายดรุณีที่มีมาเสมอ

ถึงเวลาปิดเทอม ดรุณีขึ้นมาที่สวนคุณย่า ก็พบว่าทองประศรีคลอดลูกแล้ว แต่ทุกคนก็รู้กันว่า ไม่น่าจะใช่ลูกอาทิจ เพราะเด็กคลอดตามอายุครรภ์ปกติ 9 เดือน ในขณะที่อาทิจและทองประศรีเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่ถึง 7 เดือน ดรุณีรู้ความจริงเรื่องนี้ก็ได้แต่สงสารอาทิจ ยิ่งอาทิจไม่พูด ดรุณียิ่งสงสาร หญิงสาวจึงพยายามทำดี พูดดีกับอาทิจเพื่อเป็นการไถ่โทษ การช่วยกันทำงาน การใส่ใจดูแลในเรื่องเล็กๆน้อยๆของดรุณี ทำให้อาทิจรู้สึกประทับใจโดยไม่รู้ตัว แต่เขาก็ต้องตัดความรู้สึกดีๆออกไปจากใจทุกครั้ง เมื่อ เวทางค์ ก้าวเข้ามายืนเคียงข้างดรุณี

อาทิจขอย่าแดงปลูกข้าว ปีแรกล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเพราะพายุโหมกระหน่ำฝนตกหนักน้ำพัดเข้านาจนนาล่ม อาทิจถึงกับท้อ แต่คนที่ทำให้เขามีกำลังใจสู้ขึ้นมาอีกครั้งก็คือ ย่าแดงย่าหลานช่วยกันสานต่อความฝันเรื่องนาข้าวร่วมกันอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ขึ้นอย่างงดงามสมใจ ในวันที่ข้าวออกรวงงดงาม อาทิจเข้าไปบอกข่าวย่าด้วยความดีใจ ย่าแดงปลื้มใจจนน้ำตาไหลและจากไปด้วยรอยยิ้ม อาทิจรู้สึกเหมือนฟ้าฟาดลงมากลางใจที่จากนี้ไป ไม่มีร่มโพธิ์ร่มไทรอยู่กับเขาแล้ว

อาทิจให้ น้าแก้ว (ดารณีนุช โพธิปิติ) คนสนิทของย่าแดง ส่งข่าวให้ดรุณีรู้ ดรุณีรีบกลับมาที่สวนคุณย่า หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญอย่างคนหัวใจสลาย เมื่อรู้ว่าคนที่เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งย่าจากไปโดยไม่มีโอกาสได้ร่ำลา อาทิจอยากเข้าไปปลอบดรุณี แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะเวทางค์ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว

ทนายความเข้ามาเปิดพินัยกรรมฉบับแรก ย่าแดงสั่งเสียให้อาทิจเป็นผู้ปกครองดูแลดรุณีจนกว่าจะเรียนจบ แล้วจึงจะให้เปิดพินัยกรรมฉบับที่สอง อาทิจอยู่ที่สวนย่าแดงอย่างเจียมตัวเพราะเข้าใจว่าเมื่อดรุณีเรียนจบ คุณย่าคงยกทุกอย่างให้ดรุณี ในขณะที่ดรุณีก็คิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าคุณย่าต้องยกทุกอย่างให้อาทิจ

คำสั่งในพินัยกรรมทำให้อาทิจเข้ามาดูแลดรุณีใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งคู่เกิดความรู้สึกดีๆต่อกันมากมาย แต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจเพราะคำว่า “ผู้ปกครอง” กับ “เด็กในความปกครอง”และยิ่งวิไลลักษณ์มาคอยเป่าหูว่า ย่าแดงหมายมั่นจะให้เวทางค์กับดรุณีแต่งงานกันเพื่อดูแลสวนคุณย่าร่วมกัน ยิ่งทำให้อาทิจรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกหนักขึ้นไป

ดรุณีแนะนำให้อาทิจรู้จักเพื่อนสนิทคือตุ่นหรือตุลยานี (สาวิตรี สุทธิชานนท์) ตุ่นดีใจมากมายเพราะเธอเคยเห็นอาทิจหลายครั้งและเรียกอาทิจว่าผู้ชายในฝัน โดยไม่รู้ว่าอาทิจเป็นคนคนเดียวกับพี่ชายที่ดรุณีคอยเชียร์ให้เธออยู่ตลอดเวลา ตุ่นหลงรักอาทิจอย่างหัวปักหัวปำ หญิงสาวขึ้นมาเที่ยวที่สวนคุณย่าเมื่อเรียนจบตามที่ดรุณีชวน ดรุณีเปิดโอกาสให้ตุ่นใช้เวลาอยู่กับอาทิจอย่างเต็มที่

อาทิจเขินสุดๆที่มีผู้หญิงซึ่งเป็นถึงดาวของมหาวิทยาลัยมาคอยเดินตามและเอาอกเอาใจสารพัด แรกๆชายหนุ่มก็ห่วงความรู้สึกของดรุณี แต่เมื่อดรุณีทำเหมือนอยากอยู่กับเวทางค์ และกันเขาออกไปกับตุ่น อาทิจจึงต้องตัดใจ เพราะคิดว่าดรุณีคงชอบเวทางค์จริงๆ ดรุณีเองก็รู้สึกแปลกใจทุกครั้งที่เห็นอาทิจออกไปเที่ยวกับตุ่น ทำไมหัวใจตัวเองถึงได้ร้อนวูบวาบนัก แต่ก็พยายามย้ำบอกตัวเองซ้ำๆว่าเธอจะต้องแก้ไขเรื่องในอดีตที่ผ่านมาให้ได้เธอเคยทำให้อาทิจต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก แต่ครั้งนี้เธอจะทำให้เขาสมหวังกับคนที่เขารักและรักเขาให้ได้

ความสัมพันธ์ที่ผิดฝาผิดตัวของทั้งสองคู่ทำให้น้าแก้วอดรนทนไม่ไหว เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าย่าแดงต้องการให้อาทิจกับดรุณีลงเอยกัน น้าแก้วจึงไปขอร้องทองประศรีซึ่งถูกอาทิจจับได้ว่ามีชู้และถูกไล่ออกไปจากบ้านให้กลับมาช่วย ในวันที่อาทิจจะพาตุ่นไปซื้อแหวนหมั้น ทองประศรีก็อุ้มลูกเข้ามาประกาศต่อหน้าตุ่นว่า ตัวเองเป็นเมียของอาทิจและมีลูกด้วยกันแล้ว ขอให้ตุ่นเห็นใจผู้หญิงด้วยกันและเด็กตาดำๆ อย่าพรากพ่อพรากลูกจากกันเลย

ตุ่นเสียใจหนักเพราะความรักครั้งแรกมีอันต้องพังทลายลง หญิงสาวจึงหนีกลับกรุงเทพฯโดยไม่เปิดโอกาสให้อาทิจชี้แจงเรื่องทองประศรี อาทิจเองก็เสียใจไม่แพ้กันที่ตัวเองผิดหวังเรื่องความรักครั้งแล้วครั้งเล่า ดรุณีอาสาเป็นกาวใจให้อาทิจกับตุ่น ทั้งๆ ที่ตัวเองรู้ซึ้งแก่ใจแล้วว่า รักอาทิจมากมายเพียงใด ดรุณีมาหาตุ่นที่กรุงเทพฯ อธิบายให้ตุ่นเข้าใจเรื่องอาทิจกับทองประศรี ตุ่นเองก็ยังรักและตัดใจจากอาทิจไม่ได้ จึงเปิดโอกาสให้อาทิจมาง้อ

ดรุณีกลับมาบอกข่าวดีกับอาทิจ ทั้งคู่เตรียมจะลงไปหาตุ่น แต่แล้วอาทิจก็โดนงูกัดและล้มป่วยลงซะก่อน ดรุณีโทรศัพท์บอกตุ่น ตุ่นเป็นห่วงอาทิจจะตามขึ้นไปดูแล แต่ก็ถูกเวทางค์ขับรถเฉี่ยวจึงไม่ได้ไป ดรุณีจึงต้องดูแลอาทิจแทน อาทิจซาบซึ้งใจที่ดรุณีช่วยชีวิตเขาด้วยการดูดพิษงูให้ และตลอดเวลาที่เขาป่วย หญิงสาวก็ทำงานแทนเขา ดูแลและเอาใจใส่เขา เป็นความรู้สึกดีๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน

ฟากตุ่นก็หงุดหงิดหนักที่ไม่ได้ขึ้นมาดูแลอาทิจ จึงใส่อารมณ์กับคนที่ทำให้เธอนอนเดี้ยงอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งก็คือเวทางค์ไม่ว่างเว้น วิยะดาแปลกใจที่เวทางค์ทนรับอารมณ์ของตุ่นได้ ดรุณีลงมาเยี่ยมตุ่น พยายามจะนัดวันที่อาทิจจะลงมาหาตุ่นให้ได้ ตุ่นบอกไม่ต้องลงมาเพราะเธอจะขึ้นไปขอคำตอบจากเขาเอง เรื่องที่เคยฝันไว้ด้วยกัน เรื่องที่อาทิจได้ทุนไปเรียนต่อที่เมืองนอกและเธอก็จะตามเขาไปเรียนด้วยเช่นกัน ถ้าอาทิจตกลง เธอจะลืมเรื่องในอดีตทั้งหมดและแต่งงานกับเขาทันที

ดรุณีแสดงความยินดีกับอาทิจล่วงหน้า และขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่อาทิจสร้างไว้ที่สวนคุณย่า ดรุณีจะสานต่องานทั้งหมดที่อาทิจทำไว้ พร้อมกับอวยพรให้อาทิจมีความสุขกับความรักและครอบครัวอันอบอุ่นกับตุ่น

อาทิจรู้สึกหนักใจที่สุดในชีวิตแต่..ชายหนุ่มก็มีคำตอบให้กับชีวิตแล้วเช่นกัน
ติดตามลุ้นเรื่องราวความรัก ของอาทิจกับดรุณีว่าจะลงเอยอย่างไร? ติดตามใน ธรณีนี่นี้ใครครอง

เทพธิดาโรงงาน

นทนา คำวงศ์ หรืออ้อย สาวอีสานบ้านนาต้องลาลุงเกิดพ่อบังเกิดเกล้ามุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ พร้อมด้วยติ๊กเพื่อนซี้ เพื่อเข้ามาทำงานในโรงงานทอผ้ามหาทรัพย์สมบูรณ์ ตามคำชักชวนและการช่วยเหลือของบุญเติมเพื่อนบ้านที่เข้าไปทำงานอยู่ก่อนแล้ว

อ้อย, ติ๊ก เดินทางจากบ้านเกิดสู่เมืองหลวงเป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยความหวังที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ท่ามกลางความเสียใจของออดที่หลงรักอ้อยมานาน แต่อ้อยไม่สนใจเพราะออดชอบอวดเบ่งเป็นนักเลงโตด้วยถือว่าตัวเองเป็นลูก ผู้ใหญ่บ้าน

หากแต่วันแรกของการเดินทางมาสมัครงาน อ้อยกับติ๊กก็ต้องมีเรื่องกับมิจฉาชีพที่มาล่อลวงเอากระเป๋าของเธอไป แต่เผอิญปกรณ์และบุญเติมมาช่วยไว้ได้ก่อน และก็เกิดเป็นรักแรกพบระหว่างปกรณ์กับอ้อย

ความสนิทสนมของทั้งคู่เริ่มต้น เมื่อปกรณ์ลูกชายเจ้าของโรงงานมหาทรัพย์สมบูรณ์ปลอมตัวเข้ามาสมัครงานเป็น พนักงานโรงงานพร้อมกันกับอ้อย โดยมีเสกสรรค์ผู้เป็นพ่อรู้เห็นและช่วยปิดบังรังสิมาผู้เป็นภรรยา เพื่อหวังจะให้ลูกชายได้เรียนรู้และสัมผัสชีวิตของพนักงานในโรงงาน หลังจากที่เรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ

หลังจากได้งานเรียบร้อยบุญเติมพาอ้อยกับติ๊กมาฝากฝังกับป้าทองจันทร์คนงาน เก่าแก่ของโรงงาน และหาห้องเช่าให้เสร็จสรรพ ทำให้อ้อยกับติ๊กได้เพื่อนใหม่เป็นสาวโรงงานเดียวกัน คือสาวและเอื้อง ทั้งหมดถูกชะตากันตั้งแต่แรกเห็น รวมทั้งแป้นโชเฟอร์รถสองแถวด้วยเช่นกันที่หลงรักอ้อยตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ เห็นหน้า

แป้นเดินหน้าจีบอ้อยอย่างมั่นใจในความหล่อของตัวเอง ทำให้มีเรื่องกับบุญเติมที่คอยขัดจังหวะแป้นอยู่เสมอ แต่ถึงแป้นจะเพียรพยายามอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะอ้อยรู้สึกกับแป้นแค่เพื่อนเท่านั้น แป้นยอมรับอย่างผิดหวัง แต่ก็ยังพยายามทำดีโดยแอบหวังว่าสักวันอ้อยอาจจะเห็นใจเขาขึ้นมาบ้าง

ปกรณ์มาทำงานในโรงงานในฐานนะนายหนู มีคนรู้เห็นแค่คมคนขับรถและเสกสรรค์ คมทำหน้าที่เป็นประธานอย่างสุขใจและคอยดูแลปกรณ์ไปในตัวเวลาถูกลอยชายหัว หน้าคนงานใช้งานหนัก

ช็อกโกแลต 5 ฤดู

“ทุก ๆ ความรัก นับจากนี้ จะมี 5 ฤดู ร้อน ฝน หนาว เหงา รัก”

ฤดูร้อน

ฝุ่น (น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์) สาวเท่ ที่รักการทำขนมทุกอย่างที่เป็นช็อกโกแลตสุดหัวใจ กำลังออกแบบตกแต่ง เพื่อเปิดร้านช็อกโกแลต กับแฟนหนุ่มหล่อแสนดี เป้ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ทั้งสองตกหลุมรักกัน เพราะช็อกโกแลต ขณะที่ ฝุ่น กำลังดีใจใกล้เวลาร้านเปิด กลับถูก เป้ บอกเลิกแบบฟ้าผ่า

ห่างไปไม่กี่ร้อยเมตร ตวัด (แดน วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มเจ้าเสน่ห์ วัยเบญจเพส กำลังทะเล้นแหย่แฟนสาว ทิชา (เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ) ที่มาบอกเลิก ตวัด เป็นครั้งที่ร้อยพอดี เก้าสิบเก้าครั้งก่อนหน้านี้ ทิชา ใจอ่อนทุกครั้ง ที่ ตวัด ทำทะเล้นใส่ แต่ครั้งนี้ ทิชา พูดจริง ทำจริง เพราะทนพฤติกรรมเจ้าสำราญต่อไปไม่ไหว

ฝุ่น กลับไปอยู่บ้าน วัน ๆ ได้แต่ลงโทษนั่งด่าตัวเอง จนวันหนึ่งคิดหาเหตุผลด่าตัวเองไม่เจอแล้ว คิดได้ว่าตัวเองไม่ผิดอะไร เลยรวบรวมเรี่ยวแรง กลับไปง้อ เป้ ด้าน ตวัด เองก็ดี๊ด๊าได้ไม่นาน เริ่มเห็นคุณค่าของ ทิชา เลยตั้งใจปรับปรุงตัวใหม่เพื่อไปง้อ ทิชา

ระหว่างนั้น เป้ ที่แม้จะเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ก็เจ็บไม่น้อย และโชคชะตาเป็นใจให้ เป้ ได้เจอกับ ทิชา เพื่อนสมัยมัธยมที่มาขอสมัครงานเป็นพนักงานคนแรกและคนเดียวของร้าน ทั้งคู่ต้องทำงานใกล้ชิดกัน แม้ว่าจะยังไม่พร้อมสำหรับรักครั้งใหม่ แต่มันก็มาแบบไม่รู้ตัว

ฝุ่น เตรียมใจมาง้อเต็มที่ แต่กลับเจอ เป้ อยู่กับ ทิชา ที่ดูสนิทสนมกันมาก ทำเอา ฝุ่น จี๊ดจัดจนกลายเป็นแค้น บอกตัวเองว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเอาแฟนคืนมา ส่วน ตวัด ก็เตรียมตัวมาขอคืนดีกับ ทิชา แต่ต้องหน้าหงายกลับไป เพราะ ทิชา ไม่ยอมคืนดี จึงครุ่นคิดหาทางให้ ทิชา กลับมารักเขาอีกครั้ง ทั้งที่ ฝุ่น วางแผนแกล้ง ทิชา เกือบสำเร็จ แต่ ตวัด ที่กำลังแกล้ง เป้ ก็เข้ามาขัดจังหวะแบบไม่ตั้งใจ ทำให้ไม่ถูกกันอย่างแรง จนทั้งคู่ต่างรู้ว่ามีจุดประสงค์เดียวกัน คือสร้างความร้าวฉาน ระหว่าง ทิชา และ เป้ จึงหันมารวมการเฉพาะกิจ แต่อะไรก็ดูไม่ง่ายอย่างที่คิด

ฤดูฝน

ร้านช็อกโกแลตของ เป้ ถูกแกล้ง ลูกค้าหาย ทำท่าจะเจ๊ง แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของ เป้ กับ ทิชา กลับยิ่งแข็งแรง ทั้งคู่ให้กำลังใจกันและกัน จนกลายเป็นความรัก และความรักก็เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งคู่ช่วยกันสร้างสรรค์เมนูขนมช็อกโกแลต ใหม่ ๆ ออกมา ทำให้ร้ายขายดี ส่วน ตวัด และ ฝุ่น ที่ร่วมมือร่วมใจกันวางแผน นานวันเข้าก็เกิดความรู้สึกบางอย่างผลิดอกในใจทั้งคู่แบบไม่รู้ตัว และในที่สุดทั้งคู่สามารถทำให้ เป้ กับ ทิชา เลิกรากัน และกลับไปเป็นแฟนสำเร็จ

ฤดูหนาว

แต่ที่ ฝุ่น กับ ตวัด ไม่รู้ก็คือ หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น ทิชา กับ เป้ รู้ความจริงว่าโดนป่วนจากแฟนเก่า จึงคุยกัน และต่างยอมรับว่ามีถ่านไฟเก่าของแต่ละคนอยู่ในใจลึก ๆ ทิชา จึงวางแผนเพื่อคนทั้งสี่คน โดยการกลับไปคืนดีกันเพื่อพิสูจน์ใจทั้ง ทิชา และ เป้ ว่าสามารถกลบถ่านไฟเก่าในใจให้มอดได้หรือไม่

ฤดูเหงา

ทั้งสองคู่ต่างอยู่กันแบบฝืด ๆ ฝุ่น กับ ตวัด ไม่ยอมรับความจริงว่ารักครั้งเก่ามันสต๊าฟไปแล้ว ทิชา และ เป้ ต่างคิดถึงกัน ทั้งคู่กลบถ่านไฟเก่าในใจมอดไปได้แล้ว และตัดสินใจจะกลับไปหากัน แต่จะแน่ใจได้หรือว่ารัก และร้านจะราบรื่น เพราะยังมี ฝุ่น กับ ตวัด อยู่

ฤดูรัก

แผนการ…ดีดรัก….ตี….กลับของ ทิชา และ เป้ จึงเกิดขึ้น คือทำทุกวิถีทางให้ ฝุ่น กับ ตวัด ลงเอยก่อนวันวาเลนไทน์ แต่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เพราะการจะจับยัยตัวร้ายกับยอดกะล่อนมาดรองกันไม่ธรรมดาแน่ ๆ

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ช็อกโกแลต 5 ฤดู

แดน-วรเวช ดานุวงศ์ รับบทเป็น ตวัด

น้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์ รับบทเป็น ฝุ่น

เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ รับบทเป็น ทิชา หรือ ตี้

ฌอห์ณ จินดาโชติ รับบทเป็น เป้

เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ รับบทเป็น ดุ๋ย

แจ็ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีระวงศ์ รับบทเป็น ปี๊บ

นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์ รับบทเป็น กั๊ซ

อะตอม-กฤชกนก สวยสด รับบทเป็น กีกี้

หลุยส์-พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร รับบทเป็น ฝืด

อลิส ทอย รับบทเป็น ฟ้าใส

โฟน-ญาณิกา ทองประยูร รับบทเป็น ปุ๊

ป๋อมแป๋ม-นิติ ชัยชิตาทรณ์ รับบทเป็น ยูโด

เจ้าจอม

เจ้าจอม เป็นเด็กกำพร้าที่พระเอกของเราสงสาร จึงนำมาเลี้ยงในบ้าน เพราะว่าเจ้าจอมหน้าไปเหมือน ลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของพระเอกที่ตายไป โดยพระเอกคิดว่าถูกฆาตกรรม โดยมีปมเกี่ยวเนื่องกับแม่ตัวเอง พระเอกก็ชอบเจ้าจอมมาก ส่วนเจ้าจอมก็ยกให้พระเอกเป็นวีรบุรุษในดวงใจ ที่บ้านพระเอกก็มีแต่คนเกลียดเจ้าจอม มีแต่พระเอกที่เริ่มหวั่นไหว จนกระทั่งพระเอกต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอก ตัวแม่เขียนจดหมายไปโกหก ทำให้พระเอกเขียนจดหมายตัดพ้อ นางเอกไม่รูความในที่พระเอกส่งมาก็เลยหนีออกจากบ้าน จนพระเอกกลับมาเจ้าจอมก็หายไปแล้ว และแล้ววันหนึ่ง พระเอกก็ได้พบกับ หญิงสาวงดงาม ตระกูลสูงส่ง ที่หน้าเหมือนเจ้าจอมของเขา อีกทั้งหญิงสาวคนนั้น ยังมาเป็นน้องสาวสุดที่รักของเพื่อนสนิทเขาอีกด้วย

นักแสดงละคร เจ้าจอม

แอน ทองประสม
จักรกฤษณ์ อำมรัตน์