Category Archives: ละครปี 2552

คุณหนูฉันทนา

เมื่อนวลจันทร์ภรรยาของปกป้องเสียชีวิต ปกป้องจึงมีรักครั้งใหม่กับวีรดาทำให้เนตรพธูโกรธและไม่ยอมกลับเมืองไทย ปกป้องจึงหลอกเนตรพธูว่าตนป่วยหนัก เพื่อให้ลูกสาวกลับมา พอเนตรพธูกลับมาเมืองไทย และได้เจอกับอาย น้องต่างมารดาของเธอ เมื่ออายเดินเข้ามาจับมือเนตรพธูเธอจึงสะบัด จนน้องอายตกน้ำ ปกป้องโกรธเนตรพธูมากที่ทำน้องตกน้ำจึงขู่เธอว่าจะยกโรงงานให้กับวีรดา เนตรพธูไม่ยอม เธอจึงพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถดูแลโรงงานได้ โดยเข้าไปเป็นสาวโรงงานตามข้อตกลงของปกป้อง

เมื่อเข้ามาทำงานที่โรงงานเนตรพธูได้เจอกับเพื่อนที่น่ารักอย่างพรพนาและ ชมนาด ที่คอยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด หลังจากนั้นเธอได้เจอกับแท็กซี่หื่นกามทำให้เนตรพธูได้เจอกับขวัญกฤษฎิ์ ดีเจหนุ่ม ความไม่เข้าใจของเนตรพธูที่สงสัยในความสัมพันธ์ของขวัญกฤษฎิ์กับวีรดาแม่ เลี้ยงของเธอ และความเข้าใจผิดของขวัญกฤษฎิ์ที่คิดว่าเนตรพธูเป็นเมียเก็บของท่าน ประธาน ทำให้ความขัดแย้งของทั้งคู่ได้ก่อตัวเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว

หลายครั้งที่ขวัญกฤษฎิ์เกิดสงสัยในความเป็นสาวโรงงานของเนตรพธู ที่เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างได้อย่างคล่องแคลว แต่ขวัญกฤษฎิ์ก็ยังไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วเนตรพธูเป็นใครกันแน่

อำพล ผู้จัดการโรงงานที่คอยจะทำลายธุรกิจของปกป้องทุกวิธีทาง ถูกวีรดาสงสัยว่ายักยอกเงินบริษัท เลยจัดการวางเพลิงโรงงาน หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ด้วยความเป็นห่วงทั้งลูกสาวและโรงงานทำให้ปกป้องมีอาการป่วยกำเริบ เมื่อ เนตรพธูรู้ปัญหาของโรงงานจึงตัดสินใจที่จะบริหารงานแทนพ่อ เธอจึงเข้าร่วมประกวดแฟชั่นหวังจะช่วยกิจการของตนให้หลุดพ้นจากปัญหา ระหว่างที่เธอออกแบบเสื้อผ้าเพื่อเข้าประกวดอยู่นั้น วีรดาก็ได้พูดคุยกับเนตรพธู ทำให้เนตรพธูรู้ว่าวีรดารักพ่อของเธอจริงๆ

ถึงบริษัทของเนตรพธูจะไม่ชนะการประกวด แต่ก็มีนักลุงทุนชาวต่างชาติมาร่วมผลิตสินค้าด้วย ทำให้เนตรพธูตัดสินใจเปิดเผยความจริงว่าตนเป็นใคร เมื่อขวัญกฤษฎิ์ได้ยินจึงเสียใจเพราะคิดว่าตนเองถูกหลอก

ปกป้องสงสารลูกเลยให้วีรดาไปพูดให้ขวัญกฤษฎิ์คิดทบทวนอีกครั้งในเรื่องของ ความสัมพันธ์ระหว่างขวัญกฤษฎิ์กับลูกสาวของตน และในงานแต่งงานของศรลักษณ์กับชมนาดนั่นเอง ขวัญกฤษฎิ์ปรากฏตัวและได้ขึ้นไปขอโทษเนตรพธูบนเวที จากนั้นทั้งคู่ก็บอกรักกันท่ามกลางความยินดีของทุกคนที่โรงงาน

เกาะมหัศจรรย์

เคน เศรษฐีหนุ่มชอบผจญภัย ใช้ชีวิตสนุกไปวันวันเพราะได้รับมรดกมหาศาลจากพ่อแม่ที่ด่วนจากไปทั้งคู่ ความที่มีเงินมาก อยากได้อะไรก็ได้มาโดยง่ายเลยพยายามแสวงหาความตื่นเต้นให้ชีวิต พฤติกรรมของเขาน่ารังเกียจมากสำหรับมิ่งขวัญนักข่าวสังคมที่ถูกมอบหมายให้มา ตามทำข่าวของหนุ่มสุดฮ็อตอย่างเขา เมื่อเคนถูกมิ่งขวัญสัมภาษณ์และจิกกัดดูถูกว่าเคนเป็นพลเมืองที่ไม่มี ประโยชน์ เคนจึงประชดด้วยการ เปิดคฤหาสน์ชายทะเลเลี้ยงเด็กกำพร้า เขม ป้อม พี ปราง ต่อ และมิ้งค์ เข้าไปที่โรงเก็บเรือเร็วของเคน และขอให้เคน ขับเรือให้พวกตนนั่ง เคนต้องการโชว์ความสามารถจึงตอบตกลง ขณะเรือวิ่งอยู่ที่กลางทะเล เด็กๆได้เห็นรุ้งกินน้ำจับขอบฟ้าสวยงาม และขณะที่เด็กๆ กำลังชี้ชวนกันดูนั้น เรือแล่นผ่านสายรุ้งพอดี..เด็กๆ อันมีนิสัยต่างๆ กันคือ

เขม เป็นเด็กกล้าหาญ ช่างคิด ส่วนป้อมสำรวยชอบคุยโม้แต่ขี้ขลาด พีนั้นใจร้อนวู่วาม แต่ซื่อสัตย์ ส่วนต่อกับมิ้งค์เห็นแก่ตัวและขี้อิจฉา ปรางเป็นเด็กหงิมๆ นิสัยดี ต้องคอยไกล่เกลี่ยความประพฤติของเพื่อนอยู่เสมอ แต่ทุกคนมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกับเคนคือ ชอบสนุกและผจญภัย

เด็กๆ ทั้งหลายสนุกเต็มที่เพราะได้นั่งเรือเร็วในทะเลเป็นครั้งแรกและขณะที่เขา กำลังตื่นเต้นกับความงดงามของสายรุ้งอยู่นั้น ก็เกิดพายุหมุนอย่างกะทันหัน ทุกคนมีความรู้สึกว่า ตัวเองถูกพายุพัดหมุนติ้ว เข้าไปในท้องฟ้า ตรงจุดกึ่งกลางของสายรุ้งพอดี

มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่บนเกาะที่แปลกตาแห่งหนึ่งที่พวกเขาไม่ รู้จักเลย รอบๆ ตัวเต็มไปด้วย หมอกควันและต้นไม้บางต้นมีลักษณะประหลาด บางแห่งก็แห้งแล้งมีแต่โขดหิน และไม้ยืนต้นที่ตายแล้ว เด็กๆ ได้พบซากสัตว์หลายชนิดที่พวกเขาไม่รู้จัก..ทุกคนจึงพากันหวาดกลัวมากและที่ สำคัญบนเกาะไม่มีอาหารที่เด็กต้องการเลย และพวกเขาก็ตามหาเคนไม่พบ ทุกคนคิดว่าพวกตนต้องตายบนเกาะแน่ๆ แต่เขมเด็กชายที่กล้าหาญที่สุดปลุกปลอบใจให้เพื่อนๆ สู้เพื่อชีวิตรอด..ทุกคนเริ่มมีกำลังใจ ทั้งๆ ที่บางคนก็เห็นแก่ตัวและอ่อนแอ บางคนพูดมาก แต่เขมก็พยายามให้ทุกคนช่วยเหลือตัวเอง ขณะที่ทุกคนหิวโหยพวกเขาก็รู้สึกมีสิ่งผิดปกติอีก..พวกเขาได้ยินเสียงเหมือน ต้นไม้ใหญ่ถูกลากมา..พร้อมกับกลุ่มฝุ่นควันตลบเหมือนมีพายุทราย..ทุกคนหาที่ กำบังแต่เมื่อทุกอย่างสงบเงียบก็ได้เห็นปูยักษ์ตัวหนึ่ง ยืนทะมึนกางก้ามซึ่งใหญ่โตเท่าขาคน

เด็กๆ ต่างหนีปูยักษ์ไม่คิดชีวิต..เข้าไปอยู่ในถ้ำ..ไม่มีใครกล้าออกมาทั้งวันทั้ง คืนจนป้อมทนหิวไม่ไหวถึงกับเป็นลม เขมสงสารจึงชวนพีออกไปดู เห็นปูยักษ์ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เขมจึงชวนให้ทุกคนต่อสู้ เขาให้กำลังใจและวางแผนร่วมมือกันปราบปูยักษ์ ด้วยความสามัคคีกัน พวกเด็กๆก็สามารถฆ่าปูยักษ์เอามาทำเป็นอาหารได้สำเร็จ..

ขณะที่เขากินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ พวกเขาก็ได้เห็นเรือลำหนึ่งแล่นผ่านเกาะ เด็กๆ ดีใจกันมาก เขาจุดไฟเพื่อให้เรือเห็นพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่เรือลำนั้นก็แล่นผ่านไปทั้งๆ ที่พวกเด็กๆ มองเห็นว่าคนบนเรือส่งกล้องมาทางตนไม่มีใครเข้าใจว่า เหตุใด คนบนเรือจึงไม่เห็นพวกเด็กๆ เลย

ส่วนเคนนั้นพบตัวเองอยู่ในป่าใกล้บ้าน ทุกคนพากันลงโทษว่าเขาทำให้เด็กๆ เสียชีวิตโดยเฉพาะมิ่งขวัญ โจมตีเคนอย่างหนัก ว่าเคนไม่มีความรับผิดชอบ เคนเสียใจมากแต่เขามีความรู้สึกว่า เด็กๆ ต้องไม่ตาย เขายืนยันกับมิ่งขวัญว่าเขาจะพาเด็กๆ กลับมาให้ได้ทั้งๆ ที่เขาก็ยังไม่รู้ว่าเด็กหายไปไหน

เคนหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรีบไปยังคฤหาสน์ชายทะเลเพื่อจะขับเรือไปยังจุดที่พบสายรุ้ง ขณะเดียวกัน มิ่งขวัญก็มาที่คฤหาสน์เพื่อเก็บข้อมูลไปทำข่าว มิ่งขวัญเข้าขัดขวางเคนเพราะคิดว่าเคนจะหนีออกนอกประเทศ แต่เคนท้าให้มิ่งขวัญไปกับเขาเพื่อตามหาเด็กๆ มิ่งขวัญรับปาก เคนกับมิ่งขวัญขับเรือออกไปในทะเลและพบเกาะแห่งหนึ่ง เคนคิดว่าเด็กๆ น่าจะอยู่บนเกาะนั้น เคนกับมิ่งขวัญ เริ่มออกตามหาเด็กๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นเด็กๆ ทั้งๆ ที่เด็กๆ เห็นเขา เป็นเพราะว่าขณะนั้นเคนและเด็กๆได้อยู่กันคนละมิติแล้ว เคนจึงผ่านเด็กๆไปอย่างน่าเสียดาย

และแล้วการเดินทางของหนุ่มสาวและกลุ่มเด็กๆ ที่เปรียบเสมือนเส้นขนานก็เริ่มขึ้น ซึ่งการผจญภัยนี้เองก็ได้สอนบทเรียนอันมีค่ามากมายให้แก่พวกเขา

รายชื่อนักแสดงละคร เกาะมหัศจรรย์

1 อรุชา โตสวัสดิ์     เคน
2 คีตภัทร อันติมานนท์     มิ่งขวัญ
3 กฤตยชญ์ ทิมเนตร     เขม
4 ปราณวรินทร์ ปามี     ปราง
5 จิรายุ ละอองมณี     ป้อม
6 ชินวัตร ชะนะปาโมกโข     พี
7 ดรันย์ ตันติวิชิตเวช     ต่อ
8 ปฏิมากร เลิสบูรโณทัย     มิงค์
9 อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ฯ     พีระพล
10 ศิรินุช เพชรอุไร     สีตลา

ออกอากาศเมื่อ 1 ตุลาคม 2551 – 24 กุมภาพันธ์ 2552 จันทร์ถึงศุกร์ 18.15 น.

กุหลาบเหนือเมฆ

ไอริณ (พัชราภา ไชยเชื้อ) ชักชวนเพื่อนซี้อย่าง อรนุช (วรนุช วงษ์สวรรค์) ลูกสาว เจ้าสัวเจริญ (ไกรสีห์ แก้ววิมล) มหาเศรษฐีพันล้านมาร่วมหุ้นด้วยหวังว่าจะทำให้นิตยสาร Working Women มีชื่อเสียงไปด้วย แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เพราะอรนุชกลับกลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด วางแผนให้ อรนิช (กรรณาภรณ์ พวงทอง) แย่ง พีรเทพ (ธีร์ วณิชนันทธาดา) คู่หมั้นของไอริณและฮุบกิจการนิตยสารไปครอบครอง ไอริณเครียดแค้นมากเลยประกาศก้องว่าจะล้มนิตยสาร Working Women ให้ได้พร้อมกับจะทำให้อรนุชและอรนิชจนปวดอย่างที่สุด

 

หลังจากนั้นเธอ เลยคิดที่จะเปิดตัวนิตยสาร Chic Women มาแข่งกับอรนุช แต่ติดตรงที่เธอไม่มีเงินลงทุน ดังนั้นเพื่อนสนิทอย่าง เลอลักษณ์ (ณัฎฐินี เจียรวนนท์) จึงยืนมือเข้ามาช่วย หลังจากที่ คุณหญิงดาริกา (ดวงดาว จารุจินดา) ป้าแท้ ๆ ของไอริณทราบเรื่องเลยขอร่วมหุ้นด้วย ทำให้ไอริณมีเงินไปคืนเลอลักษณ์ได้ เพียงสองปีนิตยสารของไอริณก็มีชื่อเสียงขึ้นมา แต่อรนุชกับอรนิชกับเล่นลูกไม้สกปรกโดยใช้ชื่อเจ้าสัวแย่งเอาลูกค้าที่ซื้อ แอดโฆษณาในนิตยสารเธอไป ทำให้เธอต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น

 

วันหนึ่งเธอ ได้มีโอกาสพบกับ อนาวิน (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ชายหนุ่มที่อรนุชรักโดยบังเอิญกับอุบัติเหตุเดินชนกันจนกาแฟหกรดราดเสื้อผ้า ของอนาวินทำให้เขาไม่พอใจ เพราะเขาต้องรีบไปพบลูกค้า ทำให้ไอริณเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเซลล์แมน เลยแสดงความรับผิดชอบโดยการพาเขาไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของเลอลักษณ์แล้วยืม เสื้อผ้าของ คิมหันต์ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) มาให้เขาใส่ต่อ จากนั้นเธอก็ไปเจอเขาอีกครั้งที่ร้านอาหาร ขณะที่เขากำลังนั่งคุยกับ คุณอาทร (พงษ์ประยูร ราชอาภัย) พ่อของเขาที่หนีแม่คือ คุณบุปผา (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ออกมา ส่วนไอริณที่เห็นเหตุการณ์ก็คิดว่าเขากำลังพยายามขายสินค้าอยู่ เลยหวังดีเข้าไปช่วยพูดขายสินค้าให้ แล้วก็เรียกอนาวินว่าคุณกาแฟ ซึ่งอนาวินจำใจให้ไอริณเรียก เพราะไม่อยากทำให้เธอหน้าแตก หลังจากนั้นไอริณก็ได้รู้จักชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเขา

 

จากนั้นไม่นานไอริณทราบข่าวว่านิตยสาร Working Women จะจัดงานครบรอบ 3 ปี โดยมีแผนจะประกาศความสำเร็จด้วยการเซ็นสัญญาขายโฆษณาให้กับห้างสรรพสินค้า ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งมี วาริรินทร์ (อังคณา ทิมดี) เป็นเจ้าของและมีแผนประกาศหมั้นของอรนุช ซึ่งไอริณประกาศจะทำลายทั้ง 2 แผนการ

 

เธอพยายามติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับวาริรินทร์แต่ก็ไม่เป็น ผล โดยสืบรู้มาว่าวาริรินทร์แอบมีความสัมพันธ์ลับรักต่างวัยกับนายแบบหนุ่ม นิค (วินเซนต์ คินนี่) ซึ่งไอริณปล่อยว่าอรนิชสนใจนิคเป็นการส่วนตัว แล้วก็เดินหน้าสร้างความแตกแยกให้อรนิชและพีรเทพแตกคอกัน โดยหลอกให้พีรเทพมาเจอที่ผับแล้วส่งสาวโคโยตี้เซ็กซี่ไปประกบ พร้อมกับส่งข่าวให้ปาปารัชซี่ทำให้อรนิชเสียหน้าและโกรธมากต้องการประชดพีร เทพด้วยการทำท่าทีสนใจนิคออกนอกหน้า สร้างความไม่พอใจให้กับวาริรินทร์จนถึงกับยกเลิกการเซ็นสัญญาโฆษณาแล้วไป ซื้อโฆษณากับชิค วูแมนแทนในวันก่อนหน้าที่จะมีงานฉลองครบรอบ 3 ปี นั่นก็ทำให้แผนการไอริณสำเร็จไป 1 ข้อ

 

ต่อจากนั้นไอริณก็สั่งให้ เรวัติ (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัฒน์) สืบเรื่องของแฟนอรนุชซึ่งเรวัติหนักใจมาก เพราะแฟนอรนุชก็คืออนาวินเพื่อนรักสมัยเรียนของเขา เรวัติจึงพยายามโน้วน้าวใจให้ไอริณเปลี่ยนใจแต่ไม่เป็นผล เรวัติเลยตัดสินใจบอกไอริณว่าแฟนอรนุชชื่อวิน เป็นรองประธานบริษัทไนน์อาร์คิเทค ซึ่งข้อมูลแค่นี้ก็ทำให้เธอมั่นใจว่าสามารถจัดการได้เลยวางแผนไปดักพบที่ ไซต์งานเพื่อว่านเสน่ห์ให้เขามาตกหลุมรักและประกาศเลิกหมั้นกับอรนุช แต่เธอดันซุ่มซ่ามเดินชนกับอนาวินล้มลงก้นกระแทกพื้น อนาวินเลยต้องพาไปส่งบ้าน

 

พอไอริณรู้ว่าอนาวินทำงานในบริษัทไนน์อาร์ คิเทคก็เลยมัดมือชกโดยให้อนาวินร่วมแผนการด้วย ซึ่งอนาวินก็อยากรู้ว่าไอริณจะมีแผนการอะไรต่อไป จนอนาวินรู้เรื่องราวทั้งหมดจากเรวัติเลยวางแผนซ้อนแผนใช้ วิทวัส (เจจินตัย อันติมานนท์) มาปลอมตัวเป็นอนาวินแทน โดยให้ข้อเสนอว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งถ้าผ่านการทดสอบในครั้งนี้ซึ่งเขาก็รับข้อเสนอนั้น

 

แผนการเลยเริ่มต้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น จู่ ๆ ไอริณก็เริ่มสงสัยพฤติกรรมแปลก ๆ ของอนาวินและเรวัติ เธอเลยตัดสินใจสืบจนรู้ว่าอนาวินคือแฟนของอรนุช ทำให้เธอคิดว่าอนาวินและอรนุชร่วมมือกันหลอกเธอ เธอเลยคิดกลั่นแกล้งทั้งคู่ โดยโทรศัพท์ไปหาอนาวินด้วยน้ำเสียงน่าสงสารขณะอยู่กับอรนุช ด้วยความเป็นห่วงอนาวินเลยไปพบไอริณที่บ้าน ไอริณรู้ตัวว่าตัวเองคงแพ้อรนุชแล้วเลยวางแผนตั้งกล้องถ่ายคลิปตัวเองกับ อนาวินส่งไปให้อรนุชดู แต่ทว่าด้วยความเศร้าเสียใจที่โดนหลอก ไอริณกลับร้องไห้ออกมาเพราะคิดว่าสิ่งที่อนาวินทำดีกับตนเป็นการหลอกลวง อนาวินพยายามปลอบทำให้เขาเผลอจูบเธอ ไอริณโกรธมากเลยไล่เขาออกไป โดยไม่ยอมพูดคุยปรับความเข้าใจแม้แต่นิดเดียว

 

ส่วนอรนิชก็หลงใหลนิคมากเลยคิดวางแผนที่จะครอบครองเขาคนเดียวพร้อมทั้งเขี่ยพีรเทพทิ้ง โดยการแอบนำคลิปที่นิคถ่ายวาริรินทร์อย่างวาบหวามออกมาปล่อยว่อนเน็ต จนวาริรินทร์เสียชื่อเสียง นิครู้ความจริงเลยต่อว่าอรนิชและประกาศว่าตนเองรักวาริรินทร์ทำให้อรนิชเสียหน้า แล้วพีรเทพที่โดนอรนิชเขี่ยทิ้งก็หมดตัวเลยคิดที่จะหาเงินโดยการนำคลิปลับของอร นิชไปขายแต่ได้ราคาไม่ดี เลยนำไปต่อรองกับไอริณ พอได้ดูคลิปก็สงสารอรนิชเลยหลอกล่อเอาคลิปวิดีโอจากพีรเทพมาโดยการแกล้งกลับ มาคืนดีด้วย พีรเทพย่ามใจจูบไอริณขณะเผลอ จนอนาวินมาเห็นเลยเข้าใจผิดเขาเลยพยายามตัดใจจากไอริณ

 

ส่วนเลอลักษณ์ กับเรวัติกำลังจะแต่งงานกัน เพราะเลอลักษณ์เกิดตั้งท้องกับแฟนเก่าอย่างคิมหันต์ แต่คิมหันต์ไม่รับผิดชอบแถมปล่อยข่าวว่าเลอลักษณ์เป็นผู้หญิงใจแตก สร้างความเสื่อมเสียให้เลอลักษณ์จนไม่อยากจะแต่งงานเพราะอับอาย ไอริณจึงสืบหาคนปล่อยข่าวจนรู้ว่าเป็นอรนุชและอรนิช เลยไปหาคิมหันต์เพื่อจะให้มาแถลงข่าวขอโทษที่ปล่อยข่าวทำให้เลอลักษณ์เสีย หาย โดยขู่ว่าถ้าไม่ยอมจะให้ตำรวจไปทลายปาร์ตี้ยาอีแล้วออกข่าวว่าคิมหันต์เป็น สายให้ตำรวจ เขาเลยจำใจตกลง

 

นอกจากนั้นไอริณก็นัด 2 สาวมาพบก่อนแถลงข่าว แล้วนำภาพวิดีโอลับของพีรเทพและอรนิชมาคืนเพื่อแสดงความจริงใจและขอให้อรนุช อยู่ร่วมงานแถลงข่าวต่อเพื่อช่วยแก้ข่าวให้เลอลักษณ์ อรนิชซาบซึ้งใจที่ไอริณไม่คิดจะทำลายตนแต่อรนุชไม่ยอมเพราะการออกมาขอโทษ เท่ากับยอมรับว่าเป็นคนปล่อยข่าว ไอริณจึงจำใจโชว์ภาพเธอกับอนาวินให้อรนุชดู จนอนาวินแอบได้ยินเลยน้อยใจที่ไอริณแอบถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อนำมาแก้แค้นอรนุช เท่านั้น

 

รายชื่อนักแสดงละคร กุหลาบเหนือเมฆ

ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ แสดงเป็น อนาวิน / คุณกาแฟ
พัชราภา ไชยเชื้อ แสดงเป็น ไอริณ
วรนุช วงษ์สวรรค์ แสดงเป็น อรนุช
กรรณาภรณ์ พวงทอง แสดงเป็น อรนิช
ณัฎฐินี เจียรวนนท์ แสดงเป็น เลอลักษณ์
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ แสดงเป็น เรวัติ
ธีร์ วนิชนันทธาดา แสดงเป็น พีรเทพ
นพพล พิทักษ์โล่พานิช แสดงเป็น คิมหันต์
นันทศัย พิศลยบุตร แสดงเป็น อนิรุทธิ์
เจจินตรัย อันติมานนท์ แสดงเป็น วิทวัส
นาท ภูวนัย แสดงเป็น พิธาน
ดวงดาว จารุจินดา แสดงเป็น คุณหญิงป้าดาริกา
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แสดงเป็น คุณบุปผา
อังคณา ทิมดี แสดงเป็น วาริรินทร์
วันชัย เผ่าวิบูล แสดงเป็น คุณป๋า
พงษ์ประยูร ราชอาภัย แสดงเป็น อาทร
อำพันธุ์ งามจิตสุขศรี แสดงเป็น เดือนเต็ม
ไกรสีห์ แก้ววิมล แสดงเป็น เจ้าสัวเจริญ
วินเซนต์ คินนี่ (วินนี่) แสดงเป็น นิค
นันท์นภัส ภัทรายุตวรรตน์ แสดงเป็น นิชา
พิมพ์ศิริ คชหิรัญ แสดงเป็น โสภิตา
พรอนันต์ ศรีจันทร์ แสดงเป็น ป้าสร้อย
พีรุตม์ สวนสุข แสดงเป็น นายจำรัส

ออกอากาศ จันทร์-อังคาร 21 ธันวาคม 2552 – 9 กุมภาพันธ์ 2553

กำนันอี๊ด

กำนันอี๊ด (เอมี่ กลิ่นประทุม) เป็นกำนันหญิงแห่งตำบล หนองน้ำใส เธอได้เป็นกำนันเพราะมีพ่อเป็นกำนันมาก่อนคือ กำนันอ้อ ซึ่งกำนันอ้อจัดว่ามีฐานะ ทำสวนผลไม้ ทำไร่ ทำฟาร์ม ก็เพราะแม่อ้อยของกำนันอี๊ดมีฐานะ

เมื่อกำนันอ้อเสียชีวิตกระทันหัน กำนันอี๊ดซึ่งติดตามทำงานให้แก่ตำบลเคียงข้างมากับพ่อจึงได้รับความไว้วางใจ และได้แรงสนับสนุนรวมทั้งแรงขอร้องให้เธอขึ้นเป็นกำนันตำบลหนองน้ำใสตามพ่อ เธอ

กำนันอี๊ดขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่อายุ 6 ขวบก็ไม่มีแม่แล้ว จึงต้องช่วยพ่อมากกว่าเดิม คือต้องทำงานบ้าน ต้องเลี้ยงน้องคนเดียว นั่นคือ น้องแอ้ม (อัมรินทร์ ธีราธนันพัฒน์)น้องสาว กำนันอี๊ดจึงรักน้องแอ้มมาก ความรักที่พี่มีต่อน้องได้รับการบวกความรักเสมือนเป็นแม่เข้าไปด้วย เพราะต้องดูแลน้องแทนแม่ที่จากไป น้องแอ้มจึงกลายเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของกำนันอี๊ด เรียกได้ว่า ใครมาทำอะไรน้องแอ้ม กำนันอี๊ดจะปี๊ดจนบางทีลืมคิดหน้าคิดหลัง เพราะกำนันอี๊ดให้สัญญากับแม่ไว้ ว่าจะรัก และดูแลน้องแอ้มให้เหมือนที่แม่รัก

ในวัยเด็ก กำนันอี๊ดเติบโตมาเหมือนเด็กในต่างจังหวัดที่พ่อแม่สอนให้เป็นคนดี มีศีลธรรมเป็นกุลสตรีแต่ความที่พ่อชอบพากำนันอี๊ดไปไหนต่อไหนด้วยเวลาออกไป ปฏิบัติหน้าที่กำนัน กำนันอี๊ดจึงติดความแข็งแกร่งจากพ่อมาด้วย ดังนั้นจึงมีนิสัยลึกๆ ของผู้ชายที่ไม่ชอบใช้อารมณ์จนเกินงาม และมีความคิด ตัดสินใจได้เด็ดขาด และรู้จักควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกของตนเองรวมทั้งรู้จักหน้าที่ และเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อส่วนรวม

ในวัยเด็ก กำนันอี๊ดก็เหมือนเด็กหญิงที่เรียบร้อยแฝงแววแก่น มีเพื่อนฝูงมากมาย ทั้งชายหญิง และมีเพื่อนหลายวัยเพราะไปไหนกับพ่อบ่อย ในหมู่เพื่อนของกำนันอี๊ด มีหนุ่มน้อยผู้หนึ่ง ชื่อ พิทักษ์ (อานัส ฬาพานิช) เขาแก่กว่าเธอ 7 ปี และออกจะเป็นเพื่อนที่พิเศษสำหรับเธอ เพราะพิทักษ์เปรียบเสมือนไอดอลของเด็กๆ ที่หนองน้ำใส

พิทักษ์เป็นลูกชาวนาจนๆ ที่สุดท้ายก็ต้องเสียที่นาของตนให้กับนายทุน แล้วจึงไปทำงานรับจ้างในไร่ ทำให้พิทักษ์ตั้งเจตนารมย์ไว้ว่า เขาต้องเรียนให้ดี เรียนให้สูง และหาทางมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนให้จงได้ โดยเฉพาะ พัฒนาคนให้รู้จักรู้เท่าทันคน

พิทักษ์จึงตั้งใจเรียน และเรียนเก่งจนได้ทุนมาโดยตลอด เป็นที่โจษขานในตำบล อำเภอ และจังหวัด เด็กๆ ที่ดีๆ หลายคน จึงมองพิทักษ์เป็นไอดอลของพวกเขา ในขณะที่เด็กไม่ดีก็จะอิจฉาริษยาเขาเป็นธรรมดา

พิทักษ์ และกำนันอี๊ดเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ความที่พิทักษ์เก่ง และดี จึงได้รับตำแหน่งหัวหน้าห้อง หัวหน้าชั้นเรียน หัวหน้านักเรียนมาโดยตลอด และเขาก็รัก และดูแลเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน และรุ่นน้องเป็นอย่างดี

กำนันอี๊ดเองก็ประทับใจเขามาตลอด ยามเย็นเขาเคยเดินมาส่งเธอที่บ้าน แม้ว่าบ้านเขาจะไกลไปอีกตำบล แต่วันนั้น กำนันอี๊ดเล่นซน ตกต้นไม้ขาแพลง พ่อมารับไม่ได้ พิทักษ์ก็มาส่งเธอ

ครั้งหนึ่งเคยลื่นตกน้ำตก พิทักษ์ก็เคยลงไปช่วย และที่โรงเรียนพิทักษ์ก็เคยก่อความดี ความประทับใจทิ้งไว้ให้เมื่อเกิดเรื่องหนึ่งขึ้น คือกำนันอี๊ด และเพื่อนๆ ไปเล่นเจาะห้องน้ำครู แต่ไม่ได้แอบดู กะเจาะเพราะครูไม่ดี ให้ครูมีคนมาแอบดู ครูรู้ จับพวกเธอได้ แต่พิทักษ์ก็ออกหน้ารับไว้ว่าเขาเป็นคนเจาะจนปีสุดท้าย เขาอดเป็นประธานนักเรียน อีกทั้งหลายเย็นที่พิทักษ์และเพื่อน เล่นกับน้องๆ อย่างกลุ่มเธอ เขาสอนเรื่องการพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ จนพับเป็นกระดาษทายใจ พอเลิกเล่น ต่างก็เก็บกลับบ้านกันไป แต่กำนันอี๊ดไม่ชอบแย่งกับเพื่อนๆ และคนอื่น พิทักษ์เห็นแล้วก็เลยพับให้เธอต่างหาก 1 ชิ้น ซึ่งกำนันอี๊ดก็เก็บเอาไว้ และเก็บความประทับใจในวัยเด็กนี้ไว้จนแม้กระทั่ง พิทักษ์ได้ทุนไปเรียนที่กรุงเทพฯ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ และเรียนรัฐศาสตร์ จนไปจบปริญญาโทที่เมืองนอก จนกระทั่งวันที่เธอได้เป็นกำนัน และเก็บไว้ทุกวันเสมอมา

เด็กหลายๆ คนเก็บพิทักษ์เป็นไอดอล แต่กำนันอี๊ด กลับหวั่นไหวเมื่อรู้ว่าพิทักษ์กำลังจะกลับมาเป็นปลัดอำเภอที่บ้านเกิด หลายคนไปรับพิทักษ์ กำนันอี๊ดก็แอบไปเฝ้ามอง แต่ไม่กล้าทักเพราะกลัวเขาจะจำไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นกำนันเป็นผู้ใหญ่บ้าน

พอคืนเลี้ยงต้อนรับปลัดพิทักษ์ ทั้งสองก็ได้พบกัน และกำนันอี๊ดได้เห็นความเปลี่ยนไปของพิทักษ์ เขาเคร่งขรึมขึ้น และมีกรอบมากเหลือเกิน ดูไม่ร่าเริง อารมณ์ดี น่ารักเหมือนสมัยยังเด็ก แถมออกความเห็นให้เธอเลิกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ให้ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงทั่วไปทำให้เธอค่อนข้างผิดหวัง

พอได้มาร่วมงานกันมากขึ้น ผู้ใหญ่อี๊ดก็ได้เห็นว่าปลัดพิทักษ์นั้น แม้จะมีความสมัยใหม่แบบตะวันตกแต่ก็ยังมีกรอบความเชื่อแบบตะวันออก ที่ว่า ผู้ชายเจ๋งสุด ผู้ชายเท่านั้น ที่จะเป็นช้างเท้าหน้า ซึ่งจริงๆ แล้ว สำหรับพิทักษ์ เขาฝังใจว่า ที่นาที่ครอบครัวของเขาสูญเสียไปเกิดจากแม่ที่ก้าวเข้ามา ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัว และผู้หญิงอ่อนไหวเกินไปในการตัดสินใจ

ทั้งอี๊ด และพิทักษ์ร่วมงานกันมาก็ทำงานด้วยกันได้ แต่ละโปรเจคก็ต้องมีเรื่องให้บาดหมาง น้อยใจ คิดมาก เกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะกับใจของอี๊ด จนอี๊ดได้เป็นกำนัน และปลัดพิทักษ์ได้เป็นนายอำเภอพิทักษ์

กำนันอี๊ดได้รู้ตัวว่า ตนเองมีใจให้กับนายอำเภอพิทักษ์โดยไม่รู้ตัว อาจเกิดจากความฝันฝังใจในวัยเด็กซึ่งกำนันอี๊ดก็พยายามสลัดความรู้สึกนั้น ให้ออกไปให้ได้เพราะเห็นว่า มีบางอย่างของนายอำเภอพิทักษ์ที่เธอรับไม่ได้ โดยเฉพาะความเป็นคนติดกรอบ มีความเป็นผู้ชายเกินไป และหูเบาเป็นที่สุด

ส่วนนายอำเภอพิทักษ์ ครั้งเมื่อพบกำนันอี๊ดตอบโตแล้ว เขาเห็นว่าเธอสวยขึ้นมาก แต่ในส่วนลึก เขาเป็นคนทำอะไรมีแบบมีแผน และมุ่งมั่นทำงาน ทำให้เขาไม่รู้ตัวว่า จริงๆ แล้วเขาก็สนใจเธอ และแอบเผลอใจไปบ่อยๆ เพียงแต่ไม่แสดงออกในวิธีที่ถูกต้อง ชอบใช้ความเผด็จการของผู้ชายและผู้นำเข้าจัดการ ใช้คำพูดไม่เป็น ปฏิบัติตัวไม่เป็น ทั้งสองจึงดูจะยากที่จะลงเอยกันได้ในเรื่องของความรัก

แต่ที่ทั้งสองเหมือนกันก็คือ การทำเพื่อชุมชนทำเพื่อท้องถิ่นแผ่นดินบ้านเกิดของตน ดังนั้นปณิธานนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เชื่อมคนทั้งสองไว้ ให้ได้พบกัน และพัฒนาความสัมพันธ์ต่อมา

เรื่องที่เริ่มทำความสัมพันธ์พัฒนาชัดเจนขึ้น เมื่ออำเภอหนองน้ำใสได้ต้อนรับปลัดใหม่อีกคนคือปลัดตริณ อัศดง (นวพล ภูวดล)ซึ่ง เป็นลูกชายนักการเมืองและคุณแม่ไฮโซ ที่ถูกเลี้ยงหล่อหลอมอบรมมาอย่างประเภทประคบประหงมมีแม่นมดูแล ซึ่งได้ถูกส่งมาประจำอยู่ที่ตำบลหนองน้ำใส

ปลัดตริณจัดเป็นคุณหนู ที่จะเป็นก็เฉพาะอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ แต่พอพ้นจากบ้าน จากความเก็บกด ตริณจะปลดปล่อย ด้วยการแสดงทีท่าก้าวร้าว โผงผางบ้างเป็นบางขณะ ทั้งๆ ที่ลึกๆ เขาก็หลุดแอบนิ่มอยู่เสมอ

ปลัดตริณเมื่อมาถึงหนองน้ำใส ก็พบกำนันอี๊ด และประทับใจมาก จนแปรเปลี่ยนเป็นความสนใจ และชอบ จนรู้สึกอยากจะคบกำนันอี๊ดเป็นแฟน ในขณะที่เขา และน้องแอ้ม น้องสาวสุดที่รักของกำนันอี๊ด ก็พัฒนาความสัมพันธ์ควบคู่กันไป

การที่ปลัดตริณมาชอบกำนันอี๊ดก็ทำให้กำนันอี๊ดออกจะเสียศูนย์อยู่เหมือนกัน เพราะปลัดตริณก็หล่อมากไม่แพ้นายอำเภอ แต่อ่อนโยนกว่ามาก แต่กำนันอี๊ดก็พอจะรู้ว่า น้องแอ้มเองก็สนใจปลัดอยู่จากพัฒนาการของการรู้จักกันของทั้งสอง

ฝ่ายนายอำเภอพิทักษ์ เมื่อเห็นว่าปลัดตริณดูท่าจะสนใจกำนันอี๊ด ก็ทำให้เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของตนเองที่มีต่อกำนันอี๊ด แต่ความที่เป็นคนอยู่ในกรอบกฎที่ตนเองตั้งดักไว้ ก็ทำให้เขาต้องเป็นผู้ร้ายปากแข็ง รักนะแต่ไม่แสดงออก แสดงออกก็แปลกๆ น่ารักไปอีกแบบ

เรื่องราวของความรัก ได้ถูกพัฒนาไปพร้อมกับเรื่องราววุ่นๆ ของท้องถิ่นหนองน้ำใสในขณะที่กำนันอี๊ดต้องบริหารจัดการ ปราบอธรรมชุมชนเพื่อพิสูจน์ตนเองว่าเป็นผู้หญิงก็ทำได้ และสานต่อเจตนารมย์ของพ่อให้ลุล่วง

ท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านั้น ได้มีศัตรูลับและศัตรูที่พร้อมจะเปิดเผยของกำนันอี๊ดซึ่งก็มีเฮียไล้ (ไพโรจน์ ใจสิงห์) และ ลูกชาย เหล่านายทุน นักธุรกิจที่มองพื้นที่หนองน้ำใสตาเป็นมัน เพราะเป็นที่สวยน่าจะไปสร้างเม็ดเงินทางธุรกิจได้มาก แล้วยังมีกลุ่มเจ๊ฮง (อรุโณทัย จิตรีขันท์)จอมเม้าท์เพิ่มดีกรีของเรื่อง รวมไปถึงกลุ่มที่อยากขึ้นมาบริหารแทนกำนันอี๊ด คอยเป็นอุปสรรคในการทำงาน

อุปสรรคสำคัญอีกอย่าง ก็คืออุปสรรคทั้งเรื่องการงาน การรักษาบ้านเกิดอันเกิดจากกลุ่มนักธุรกิจชาวเมืองกรุงที่เฮียไล้ไปสมคบคิด เจ้าของบริษัทฯ ยักษ์ใหญ่มหาโปรเจค .. อย่างเจ้าสัวพูนศักดิ์ (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ที่มีลูกสาวสวยหยาดเยิ้มผู้ชื่อแพรเพชร (อัจฉรียา อินสว่าง)

ไพศาลเข้ามาเพื่อเพิ่มทุนหนุนเฮียไล้ ดูดี และชักใย ขณะลูกสาวแสนสวยก็ดูดี และทำให้นายอำเภอรวมทั้งปลัด ไขว้เขวได้ทุกที

ปลัดตริณเดินทางมาถึงหนองน้ำใส ในวันหนึ่ง ในช่วงนั้นเกิดคดีไก่หายขึ้น และกำนันอี๊ดก็สามารถหาตัวผู้ร้ายขโมยไก่ได้ด้วยความเสียสละของตนทั้งเงิน และเวลา รวมทั้งความร่วมมือของครูพักตร์ (จินตรา พูนลาภ) น้องแอ้ม และนายวาน (เอกชัย ศรีวิชัย) ปลัด ตริณได้เห็นความสามารถของกำนันอี๊ด ทั้งทางด้านการบริหาร และภูมิปัญญาชาวบ้าน เขาสนใจเธอในขณะที่นายอำเภอพิทักษ์เห็นเป็นธรรมดา แม้จะไม่ธรรมดาแต่ปิดใจยอมรับ

กำนันอี๊ดได้คิดโครงการไว้โครงการหนึ่ง นั่นก็คือโครงการฟื้นฟูวัฒนธรรม และของดีตำบลขึ้นมา เพราะเมื่อก่อน ตำบลหนองน้ำใส ขึ้นชื่อเรื่อง นาสามัคคี คือการทำนาโดยมีการร่วมมือร่วมใจกัน และมีเทศกาลเกี่ยวข้าวของตำบล เป็นบ่อเกิดของพ่อเพลงแม่เพลงมาแต่ครั้งก่อน ซึ่งในเทศกาลนี้ ได้บรรจุไว้ 7 วัน 7 คืน เมื่อชาวบ้านเกี่ยวข้าวร่วมกัน ร้องเพลงกัน ก็จะมีงานรื่นเริงที่วัดจากนั้น จะมีการละเล่นเริงน้ำตก และอื่น ๆ กำนันอี๊ดเห็นว่าหายไป ก็อยากนำกลับมาเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของท้องถิ่นตน และนำไปสู่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ด้วยการนำเสนอตัวตนของท้องถิ่น หรือตัวตนของตนเอง

โครงการนี้ แน่นอน ขัดใจเฮียไล้และนักธุรกิจ แต่ท่านผู้ว่าฯ กลับเห็นด้วย มอบหมายให้นายอำเภอพิทักษ์ไปช่วยจัดการดูแลกับกำนันอี๊ด ซึ่งนายอำเภอพิทักษ์เอง ก็ไม่เชื่อนักว่าจะประสบความสำเร็จ จึงทำไปตามหน้าที่

กำนันอี๊ดและเพื่อนๆ จึงมีอุปสรรคมากมายหลายเหตุการณ์ และจากหลายคนที่ทั้งรักทั้งแค้น .. เป็นอุปสรรคที่ท้าทายแนวความคิด และความฮาจากผู้ชม จากไก่หายไปจนถึงเรื่องของการรักบ้านเกิด และการอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบประเพณี และวัฒนธรรมรวมทั้งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน

ออกอากาศเมื่อ 27 มิถุนายน 2552-12 กันยายน 2552  ทุกวันเสาร์ เวลา 11.15 น.