ภาคม ภาคยสมบัติ ชายหนุ่มผู้สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปและทรัพย์ ต้องตกอยู่ในห้วงอารมณ์ที่จับต้นชนปลายไม่ถูก เมื่อเขาฝันถึงหญิงงามนางหนึ่งเป็นประจำเกือบทุกคืน นางมารปรากฏกายเฉพาะยามหลับรูปกายอรชรงามหมดจดราวรูปปั้นของนางนั้น ยิ่งทำให้ภาคมแทบไม่อยากลืมตาตื่น
ในเวลาเดียวกันนั้น เจิดจำรัสภรรยาของเขามีโอกาสติดตามบิดาผู้เป็นรัฐมนตรีไปประชุมในประเทศ เพื่อนบ้าน เจิดจำรัสได้ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอมโบราณอันเคยรุ่งเรืองโดยมิเคย ล่วงรู้มาก่อนว่าดินแดนนั้นเอง คือที่มาแห่งความร่ำรวยมั่งคั่งของนายภาคย์ บิดาของภาคม
นายภาคย์ บิดาของภาคมเป็นเศรษฐีใหญ่มีธุรกิจมากมาย ผ่านชีวิตวัยหนุ่มมาอย่างโชกโชน มีภรรยาน้อยมาหลายคนจนภรรยาหลวงระอา ในที่สุดนายภาคย์ก็หยุดลงที่ภรรยาน้อยคนสุดท้าย เป็นหญิงวัยแรกรุ่นจากบ้านป่าชื่อลำดวน เขาพบเธอเมื่อ 5 ปีก่อน ด้วยอำนาจเงินของนายภาคย์หญิงสาวอ่อนโลกที่บังเอิญมีนามพ้องกับหญิงคนรัก เก่านายภาคย์เมื่อวัยเยาว์ จึงมาเป็นบ้านเล็กของนายภาคย์อย่างสงบเสงี่ยม แม้นายภาคย์จะให้บ้าน ทรัพย์สิน รถยนต์ และบริวาร เพื่อความสุขสบาย ลำดวนก็ยังวางตัวสมถะตลอดมา นางสวดมนต์ทุกคืนเป็นกิจวัตร ปรนนิบัติเอาใจสามีอย่างไม่บกพร่อง นายภาคย์จึงทั้งรักและเกรงใจเมียสาว
นานวันภาคมยิ่งพะวงเพ้อถึงอนัณยตา หญิงสาวที่มาให้เขาสัมผัสได้เพียงในฝัน พฤติกรรมนี้สร้างความเจ็บปวดใจให้แก่ภรรยาของภาคมเป็นอย่างมาก เพราะแม้ระหว่างมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ภาคมยังพร่ำเอ่ยนามอนัณยตาราวกับเจิดจำรัสไม่มีตัวตน
ภาคมยังคงลุ่ม หลงนางในฝันอย่างล้ำลึก นางพาเขาท่องไปในดินแดนที่สวยงามราวสรวงสวรรค์มีปราสาทหินเด่นสง่าตรงสุดทาง ในไพรกว้าง กลิ่นกายแกมกลิ่นไม้หอมกรุ่น เหนืออื่นใด คือ องค์เอวอันมีอาภรณ์ประดับน้อยชิ้น แต่งามประหลาดเสมือนรูปปั้นนางอัปสร อนัณยตาดึงดูดใจให้เขาเข้าใกล้ทีละน้อย
คืนหนึ่งนายภาคย์ฝันถึงเพื่อนร่วมสาบานที่หายสาบสูญไป เขาตื่นขึ้นอย่างตระหนก เช้าวันนั้น เวทย์คนสนิท และมือปืนเก่าแก่คู่ใจรุดมาหานายภาคย์ เขาคือผู้ที่รับคำสั่งให้ฆ่านายสัมพันธ์เพื่อนชาวเขมรร่วมสาบานเมื่อ 30 ปีก่อน นายเวทย์เล่าว่านายสัมพันธ์มาหาเขาในฝัน กล่าวคำพูดปริศนาว่า ถึงเวลาแล้ว…เสวยสุขกันมานานแล้ว นายภาคย์ฟังแล้วถึงกับเป็นลมล้มไป
วันต่อมา นายเวทย์ยิงตัวตาย วิญญาณนายเวทย์พยายามเตือนนายภาคย์อีก แต่ถูกวิญญาณหญิงตนหนึ่งเย้ยเยาะไล่ นายภาคย์มอบหมายให้ชัชวาลย์หุ้นส่วนคนสนิทดูแลส่งเสียครอบครัวนายเวทย์ให้ดี ที่สุด คืนงานศพนายเวทย์ พ่อลูกกลับบ้านด้วยกัน นายภาคย์ตัดสินใจเปิดเซฟลับให้ลูกชายดู มันเป็นกล่องเงินสลักฝาเป็นลายนางอัปสร เปิดออกชั้นแรกก็พบไพลินน้ำงามรูปรีคล้ายไข่นก ขนาดเขื่อง 3 เม็ด วางอยู่ในเบ้าเงินจำหลักอักขระที่อ่านไม่ออก เมื่อยกเบ้าไพลินออกก็พบมีมีดงาช้างคาดเส้นทองคำ ฝักเงินฝังทับทิมวางอยู่ด้านล่าง ถัดลงไปอีกชั้นยังมีพลอยสองสีงามประหลาดเม็ดใหญ่มากอีกเม็ดหนึ่ง
การที่นายภาคย์เปิดเซฟให้บุตรชายดูของมีค่า ก็เพื่อเตรียมมอบให้เป็นมรดกสืบต่อไป เขาไม่ได้บอกเล่าถึงมูลเหตุแห่งการได้มา บอกเพียงว่ามีคนเป็นจำนวนมากอยากได้ของมีค่านี้ และคนที่รู้ว่ากล่องใบนี้อยู่ที่นายภาคย์ก็ตายไปหมดแล้ว
ภาพภาคม เปิดรหัสเซฟและลูบไล้กล่องเงินสลักรูปนางอัปสรอย่างลุ่มหลง ตลอดจนภาพเม็ดไพลินน้ำงาม ปรากฏในความฝันของเจิดจำรัสอย่างชัดแจ้ง แม้ตื่นขึ้นก็ยังจำได้ติดตา เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เจิดจำรัสเคยฝันเห็นสามีของเธอเล้าโลมสำราญอยู่ กับหญิงอื่นอย่างปวดใจ และเขาขานชื่อชัดเจนว่า อนัณยตา
ภาคมทนเก็บความรุ่มร้อนใจไว้ไม่ไหว เขาเล่าความฝันให้นายภาคย์ฟัง ตัดสินใจแน่วแน่ว่า อยากจะหย่ากับเจิดจำรัสแล้วออกสืบเสาะหาว่า อนัณยตา มีตัวตนอยู่จริง ณ ที่ใด นายภาคย์ถึงกับอึ้งเมื่อภาคมเล่าว่า เมื่อคืนเจิดจำรัสฝันเห็นตนเคล้าคลออยู่กับอนัณยตา
ในฝันนั้นอนัณ ยตาแทงเขาด้วยมีดด้ามงา คำว่ามีดด้ามงาทำให้นายภาคย์ตกใจมาก เขาเองก็ร้อนรุ่มจนมิรู้จะไปไหนได้ นอกจากที่บ้านลำดวน เมื่อได้ดื่มน้ำฝนเย็นชื่นใจ และการปรนนิบัติดูแลอย่างสงบเสงี่ยมจากเมียสาว นายภาคย์ก็ค่อยสบายใจขึ้นและเริ่มออกหาทางแก้ไขปัญหาที่กำลังจะมาถึง เขาเชื่อว่าภัยร้ายจากกรรมเก่าคงกำลังจะมาถึงตัว
ย้อนไปในอดีต เมื่อยังเป็นเด็กเขาเป็นเพื่อนเล่นกับสัมพันธ์เพื่อนชาวเขมรที่ชายแดน สัมพันธ์มีน้องสาวชื่อโสมาลี ภาคย์กับสัมพันธ์เคยกรีดเลือดเป็นเพื่อนร่วมสาบานกัน ส่วนโสมาลี นั้นฝักใฝ่ทางมนต์ดำไสยศาสตร์อาคม กล่าวกันว่านางมีผีเลี้ยงและหายไปในป่าเมื่ออายุ 15 ปี
เมื่อสงคราม กัมพูชาทำให้แผ่นดินเพื่อนบ้านร้อนเป็นไฟ นายภาคย์ซึ่งกลายเป็นพ่อค้ารู้ลู่ทางธุรกิจแถวชายแดนดีก็มีรายได้จากชาวเขมร ที่ต้องการลี้ภัยสงครามเข้าไทย ความกลัวตายและต้องการอิสรภาพทำให้ผู้อพยพรุ่นแรกๆ ซึ่งเป็นคนชั้นสูงและมีอันจะกิน นำทรัพย์สินเงินทองมากมายมาแลกใบผ่านทางเข้าไทย ทั้งทองคำเก่าแก่ งาช้าง อัญมณี บางคราวยังมีรูปสำริดเศียรเทพที่ตัดจากปราสาทหิน ทรัพย์สินทั้งหลายเหล่านี้ผ่านมาสู่มือนายภาคย์ เพื่อเป็นค่าจ้างและเบี้ยใบ้รายทาง เขามีรายได้จากธุรกิจนี้จนมั่งคั่งร่ำรวย เขาลงทุนไปไม่น้อยเพื่อช่วยสัมพันธ์เพื่อนร่วมสาบานและลำดวนหญิงสาวที่เขา หมายปองข้ามเข้าเขตไทยได้ แต่แล้วนายภาคย์ก็ต้องเสียใจเมื่อทราบว่าลำดวนได้เป็นเมียสัมพันธ์ไป แล้วอย่างเต็มใจ
สัมพันธ์ กับภาคย์เป็นเสมือนหุ้นส่วน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ สัมพันธ์ไม่เคยรู้ว่ารายได้จากกิจการนี้สูงมหาศาล ทั้งเมื่อพาเข้าไทยและหาทางส่งต่อไปประเทศอื่นๆ เขาเพียงต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติเท่านั้น
วันหนึ่งสัมพันธ์ นำสมบัติที่ซุกซ่อนมาจากฝั่งโน้นมาให้นายภาคย์ดูอย่างร้อนใจ สิ่งที่ห่อหุ้มด้วยผ้าถุงเก่าขาดรุ่ยราวผ้าขี้ริ้วนั้น คือ กล่องเงินเนื้อหนาบรรจุไพลินสามเม็ด มีดด้ามงาและอัญมณีสีประหลาด สัมพันธ์เล่าว่านี่คือสมบัติของเจ้าผู้สร้างนครเก่าแก่ เป็นของศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เคยถูกซุกซ่อนในปราสาทเก่าๆ รกร้าง เพื่อให้พ้นอันตราย และตกมาถึงมือเขาเพียงเพื่อดูแลชั่วคราวรอวันนำกลับคืนบ้านเมือง หาไม่แล้ว สักวันหนึ่งเจ้าของจะต้องตามทวงคืนด้วยเป็นของต้องคำสาป
ความโลภ ทำให้นายภาคย์ไม่คำนึงถึงบาป เขาเคยคุ้นกับเรื่องมนต์ดำลี้ลับในดินแดนเขมรมาตั้งแต่เด็ก รู้คาถาอาคมและการรักษาตัวรอดจากคุณไสย เขารู้ว่าของทั้งหมดนี้สามารถให้คุณอย่างมหาศาลแก่ผู้ครอบครอง
ดัง นั้นเมื่อเพื่อนอ้อนวอนให้ช่วยนำของอาถรรพ์และมีวิญญาณอนัณยตาคุ้มครองอยู่ นี้ไปคืนที่เดิม นายภาคย์จึงแสร้งเดินทางไปด้วย แล้วหักหลังเพื่อนร่วมสาบานด้วยการให้มือปืนฆ่าทิ้งเสียในป่าชายแดน เป็นจริงดังตำนานที่สัมพันธ์เคยกล่าว กล่องเงินจำหลักลายใบนั้นอำนวยโชคให้นายภาคย์อย่างยิ่ง ตลอดเวลาที่ครอบครองอยู่ นายภาคย์มีแต่ความรุ่งเรืองด้วยลาภแลทรัพย์มหาศาลชั่วชีวิต
สิ่งที่ เขาคิดไม่ถึงก็คือ โสมาลียังอยู่ และแรงอาฆาตของโสมาลีนั้นแรงนัก นายภาคย์พยายามตามหาเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่เขาหวังว่าจะมีอาคมพอที่จะปกป้องเขาได้จากแรงอาฆาตของโสมาลี น้องสาวของสัมพันธ์แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอ
เช้าวันหนึ่ง นายภาคย์ตื่นขึ้นพบว่าลำดวนเมียสาวหายไปอย่างไร้ร่องรอย เสื้อผ้าและเครื่องประดับยังอยู่ครบเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้แต่ห้องพระที่ลำดวนเข้าไปสวดมนต์ทุกคืนก็ยังมีรอยมาลัยวางอยู่ เพียงเทวรูปบูชาทั้งหมดเท่านั้นที่หายไป เขาคิดไม่ออกว่าหญิงสาวที่อยู่อย่างสงบเสงี่ยมในบ้านมานานถึง 5 ปี โดยไม่รู้จักโลกภายนอกจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร นอกจากถูกลักพาตัว
แต่ สิ่งที่ทำให้เขาเกือบช็อคคือภาพถ่าย เป็นภาพที่เขากับลำดวนขณะเปลือยเปล่าอยู่ด้วยกัน มีรอยคราบเลือดแห้งกรังเขียนไว้ว่า ด้วยเลือด…ด้วยวิญญาณ…ด้วยคำสาบาน…ด้วยชีวิต วันหนึ่งระหว่างที่ภาคมนอนหลับ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเจิดจำรัส ว่าความฝันของตนเองจะเป็นจริงเพียงไร เจิดจำรัสแอบเข้าไปยังบ้านของนายภาคย์ เปิดรหัสห้องสมุดเปิดเซฟตามที่เห็นในฝัน เธอต้องตะลึงราวต้องมนต์สะกดเมื่อพบว่ามีของล้ำค่าอยู่จริงทุกชิ้นเหมือนที่ เคยฝันเห็น แม้รู้ดีว่าของทั้งหมดก็ต้องตกทอดเป็นมรดกของเธอผู้เป็นสะใภ้คนเดียวของบ้าน แต่ความอยากได้ใคร่รู้ เจิดจำรัสหยิบไพลินไป 1 เม็ด ด้วยตั้งใจจะขอยืมไปนอนดูเล่นประสาผู้หญิง คืนนั้นเจิดจำรัสถูกมนต์ของอนัณยตาพาดิ่งสู่ความฝันและคว้าไพลินเม็ดนั้นไป เมื่อตื่นขึ้น เธอหาไพลินเม็ดนั้นไม่พบ แม้จะค้นจนแทบพลิกห้องดูจนทั่ว และคืนนั้น ภาคมก็หลับไปกับความรักที่มีต่ออนัณยตา โดยไม่คิดจะตื่นขึ้นมาอีก…
จ้าละหวั่น กันไปทั่วทั้งบ้าน มารดาของภาคมและเจิดจำรัสต่างไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไร แม้แต่แพทย์ก็กล่าวว่าดูเป็นการนอนหลับไปเฉยๆ นายภาคย์ได้รับรู้เรื่องนี้อย่างหวั่นหวาด หรือกรรมชั่วในอดีตและแรงอาฆาตของโสมาลี หญิงอัปลักษณ์ลี้ลับกำลังจะสนองเขา ด้วยการพรากลำดวนเมียรักและลูกชายคนเดียวของเขาไปพร้อมกัน และไม่สามารถทำร้ายเขาโดยตรงได้ เนื่องจากเขารู้อาคมและระวังการใช้ชีวิตตลอดทุกฝีก้าว เฉพาะอย่างยิ่งอาหารการกิน ที่ร้านขายวัตถุโบราณแหล่งจับจ่ายของนักสะสมของเก่าชาวต่างชาติ ภาคย์มาขอร้องจันท์ขาว หญิงสาวเจ้าของร้านขายของเก่าให้บอกที่อยู่เพื่อนเก่าคนหนึ่งของเขา หลังจากที่เคยมาหาก่อนหน้านี้แล้วได้รับการปฏิเสธ
ศิขร เพื่อนร่วมงานเก่าแก่ที่นายภาคย์ต้องการพบอย่างยิ่ง บัดนี้นัยน์ตาบอดพำนักอยู่ในบ้านทรุดโทรมริมน้ำที่มีทางเดินเข้าออกค่อนข้าง ลำบาก จันท์ขาวยอมปิดร้านครึ่งวันเพื่อพานายภาคย์ไปพบ อ้อนวอนอยู่นานมาก ศิขรซึ่งละเลิกจากทางไสยศาสตร์หันพึ่งธรรมะจึงแอบยัดของบางอย่างใส่มือภาคย์ ในนาทีเดียวกับที่จันท์ขาวเข้ามาเร่งให้กลับพอดี เพราะเธอนัดลูกค้าไว้ที่ร้าน ระหว่างที่ภาคมจมดิ่งอยู่ในดินแดนในฝันอันสวยงามราวภาพมายา อนัณยตานำเขาท่องไปทั่วในวันคืนอันรุ่งเรืองแห่งอดีตกาลของอาณาจักรขอมโบราณ เขาเริงรื่นเพลินใจในเสน่ห์อารยธรรมและรสรักหอมหวานที่อนัณยตาปรนเปรอ
มารดา ของภาคมปรึกษาผู้ทรงศีล เขาทำพิธีได้เพียงคล้องสายสิญจ์และปัดเป่าเรื่องร้ายให้เบาบาง แต่ไม่สามารถลบรอยกรรมและแรงอาฆาตของวิญญาณที่รอการล้างแค้นนานนับปีนับ ศตวรรษได้ นายภาคย์กลับมาบ้าน นำยาเม็ดกลมสีดำที่ศิขรเรียกว่า “ลูกเลือนสวาท” ยัดใส่มือให้ มาใส่ปากภาคมพร้อมอ่านคาถากำกับ ภาคมฟื้นขึ้นอย่างงุนงง ทั้งที่ไม่ต้องการจะตื่น เขาต้องการกลับไปหาอนัณยตา การหายไปของลำดวนและการที่เขาเกือบสูญเสียลูกชายทำให้นายภาคย์สำนึกในกรรม ที่ก่อไว้กับเพื่อนร่วมสาบานและการทำเงินจากการค้าชีวิตคนแลกกับของสำคัญคู่ บ้านคู่เมือง ที่ไม่ต่างอะไรกับการเป็นโจรปล้นชาติปล้นแผ่นดิน เขาไม่อาจสู้หน้าลูกชายได้ แต่ก็ต้องปกป้องเขาจากแรงอาฆาตของโสมาลีและวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่จะทวงของ คืน เขาตัดสินใจเขียนจดหมายเล่าอดีตอันน่าละอายให้ภาคมอ่าน แล้วหนีหน้าหายไป
ภาคมได้รับรู้เรื่องราวปูมหลังของบิดาจากจดหมาย ฉบับนั้นเอง ความตอนหนึ่งคือที่มาของทรัพย์สมบัติในบ้านว่าเพิ่มพูนได้มาจากของ ศักดิ์สิทธิ์ที่บิดาเก็บไว้เพื่อให้โชค เพราะเมื่อชายแดนเขมรลุกเป็นไฟเพราะสงครามนั้น มีการโยกย้ายเทวรูปสำคัญหลายองค์ไปซ่อนให้พ้นมือต่างชาติ ในบรรดาเทวรูปเหล่านั้น มีเทวรูปสำคัญมากองค์หนึ่ง ก่อนย้ายได้ถูกถอดเครื่องทรงเครื่องประดับล้ำค่าลงเก็บไว้ในกล่องเงินสลักลง คาถาอาคมไว้ และนั่นเองคือของมีค่าในเซฟของบิดา นายภาคย์ย้ำขอให้ภาคมตามหาไพลินเม็ดที่หายไปจากเบ้ากลับมาคืนเพื่อรอติดต่อ ให้คนมารับกลับไปคืนยังบ้านเมือง นายภาคย์รุดไปปรึกษาศิขรเพื่อนเก่าให้หาทางช่วย แต่ศิขรก็เสียชีวิตไปต่อหน้า ภาคมก็เปิดดูเซฟอีกครั้ง กล่องเงินสลักลายหายไปแล้ว เขาว้าวุ่นผลุนผลันออกจากบ้าน ในช่วงเวลานั้น คุณหญิงศรีสวัสดิ์ชวน
เจิดจำรัสลูกสะใภ้ไปหาที่พึ่งทางใจที่นาง รู้จัก จันทน์ขาวปรากฏตัวในฐานะเจ้าของร้านของเก่าอีกครั้ง เธอเป็นผู้นำร่างทรงมาพบคล้ายบังเอิญ ไม่มีใครทราบว่าร่างนั้นคือลำดวน ในชื่อ ศิริปรางค์ คำทำนายที่ตรงความจริงทุกประการทำให้ทั้งสองทึ่ง แต่คุณหญิงศรีสวัสดิ์ไม่อาจทนฟังวิธีการทำเสน่ห์ที่แม่หมอแนะเจิดจำรัสได้ เจิดจำรัสหญิงที่ทะนงในรูปและโชคของตนเองต้องตัดสินใจว่า เธอจะทำเสน่ห์เพื่อเรียกสามีกลับคืนด้วยพิธีกรรมสกปรก หรือจะปล่อยให้เขาหลุดมือไป เธอสับสนว่านี่คือความรักที่แท้หรือความหึงหวง ภาคมมุ่งหน้าไปที่บ้านริมทะเลของบิดา ระหว่างทางพบชายชราคนหนึ่งขออาศัยรถไปลงที่บ้านเก่าๆ ในดงมะม่วง ชายชราผู้นี้หยั่งรู้ถึงอดีตและความทุกข์ใจของทั้งนายภาคย์และภาคม คำปลอบใจและความปรารถนาดีของชายชราทำให้จิตใจของภาคมดีขึ้น เขาขับรถต่อไปยังบ้านพักชายทะเลของนายภาคย์ คนเฝ้าบ้านฝากมะพร้าวน้ำหอม และดอกลำดวนหอมกรุ่นใส่รถให้ภาคมนำกลับบ้านไปฝากบิดา
ภาคมไม่ลืมคำ เตือนของชายชราที่ห้ามรับใครขึ้นรถระหว่างทางโดยเด็ดขาด แต่กลิ่นดอกลำดวนหอมในกระทงนั้นต่างหากที่ตามมาด้วยตลอดทางจนถึงบ้าน แรงแค้นของนางมารเร่งทำร้ายครอบครัวนายภาคย์ด้วยการพาให้ภาคมดิ่งลึกลงไปใน ฝันที่จะเสพย์สุขกับอนัณยตาอีก ขณะที่เจิดจำรัสก็ได้รับรู้ว่าภาคหมดรักเธอแล้วโดยสิ้นเชิง
เจิด จำรัสกินยาตาย ช่วยวินาทีที่ความตายกำลังยื้อยุดกับชีวิตของเจิดจำรัส เธอได้พบชายชราคนเดียวกับที่ภาคมได้พบในดงมะม่วง แม้เจิดจำรัสในภพปัจจุบันไม่ใช่คนดีเลิศ แต่ก็ไม่ใช่คนบาป เธอเป็นเพียงเหยื่อความแค้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมชั่วของนายภาคย์เลย และเมื่อย้อนไปในปางก่อน เจิดจำรัสเป็นคนดีมีเมตตาเอื้ออาทรต่อผู้ทุกข์ยาก ชายชราปรากฏตัวเพื่อเรียกสติเจิดจำรัสให้ข่มความทุกข์ใจครั้งนี้ และกลับไปสู่ชีวิตเดิมเพื่อช่วยสามีด้วยความมีสติ เพราะมีเพียงเธอผู้เดียวเท่านั้นที่ช่วยกู้สถานการณ์ได้
ภาคย์เริ่ม ได้คิด ว่าที่แท้ลำดวนเมียรักคือร่างทรงของโสมาลีที่เข้ามาในชีวิตเขา รอเวลาแก้แค้นอย่างอดทน เฝ้าปรนนิบัติจัดอาหารและน้ำดื่ม สวดมนต์ทำพิธีกรรมนานาทุกคืนเพื่อทำลายอาคมในตัวเขาตลอด 5 ปีเต็ม อีกซีกหนึ่งของเมือง นายชัชวาลย์ รองประธานบริษัทของนายภาคย์กำลังกราดเกรี้ยว บ่นบริภาษจันทน์ขาว ผู้เป็นทั้งภรรยาลับ และเป็นร่างทรงหนึ่งของโสมาลี โทษที่ไม่กำจัดลำดวนเสีย แต่ปล่อยกลับไปอีก จนนายภาคย์สงสัยและจับลำดวนส่งตำรวจ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยข้อหาอะไรก็ตาม ย่อมนำความเดือดร้อนมาถึงเขาได้ทั้งสิ้น เพราะนายชัชวาลย์นี่เอง คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการพาคนต่างด้าวเข้าเมืองในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
นาย ชัชวาลย์ลำเลิกบุญคุณอย่างโกรธเกรี้ยวกับจันทน์ขาว เขาลงทุนไปมากมายช่วยให้ผู้คนจากชายแดนได้เข้ามามีโอกาสทำพิธีกรรมต่าง ๆ ด้วยเวทย์มนต์คุณไสยตามที่ต้องการ และยังจัดการให้ร่างทรงร่างสื่อเหล่านั้นเข้าถึงตัวนายภาคย์ได้ ขอเพียงแค่ให้นายภาคย์และภาคมพินาศลงและเขาได้เข้ายึดครองกิจการเท่านั้น แต่นานวันอนัณตยาก็ยังไม่ยอมทำร้ายภาคมให้เรื่องจบสิ้น เขาก่นด่าว่าอนัณยตาเป็นวิญญาณที่โหยหิวเล่นรักไม่รู้จักอิ่ม พลันร่างของจันทน์ขาก็โงนเงนล้มลง ชัชวาลย์ตกใจเพราะเชื่อว่าโสมาลีไม่สามารถเข้ามาในห้องพิเศษใต้ดินห้องนี้ ของเขาได้ แต่เพราะนี้คือ อนัณยตา วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เข้มแข็งกว่าโสมาลี ด้วยแรงแค้นที่ใกล้จะบรรลุผล มาบัดนี้อนัณยตาไม่ต้องใช้นายชัชวาลย์เป็นเครื่องมืออีกต่อไปแล้ว
ชัชวาลย์ พนมมือร้องขอชีวิต อนัณยตาเพียงชำเลืองมองโดยไม่สัมผัสแตะต้องคนใจบาป เสียงศีรษะมนุษย์โขกกับพื้นซีเมนต์เป็นจังหวะ หนักแน่น รุนแรง ดังขึ้นแล้วหยุดสนิทลงพร้อมกับเลือดที่สาดกระจายและจิตวิญญาณอันละโมภของนาย ชัชวาลย์ที่หลุดไปจากร่าง ด้วยดวงจิตอันเข้มแข็งและรู้ใจตนเองแน่วแน่ เจิดจำรัสมุ่งหน้าไปหาจันทน์ขาว หญิงที่ทั้งโสมาลีและอนัณยตาผลัดกันใช้เป็นสื่อหรือร่างทรงร่างหนึ่งเพื่อ แทรกเข้ามาสู่สังคมของนายภาคย์ เจิดจำรัสเข้าใจดีถึงความทุกข์ทรมานที่ดวงวิญญาณอนัณยตาต้องแบกรับไว้นานนับ ร้อย ๆ ปี เจิดจำรัสรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีกล่าวขออโหสิกรรมต่ออนัณยตา นาทีแห่งการต่อรองนั้น อนัณยตาพาเจิดจำรัสข้ามมิติไปสัมผัสอาณาจักรของเธอในคืนวันอันรุ่งเรือง บ้านเมืองร่มเย็น ปราสาทหินมหึมาราวสวรรค์สร้าง ผู้คนแต่งกายงามและกลิ่นไม้หอมอวลอยู่รอบกาย
บัดเดี๋ยวภาพนั้นก็ กลายเป็นการสู้รบกันเอง การย่ำยีโดยทัพเพื่อนบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า ชาวบ้านอพยพเทวรูปบูชาองค์เทพตามความเชื่อของตน ผู้คนระหกระเหินซอกซอนเข้าป่าลึก มีเทวาลัยเล็กๆ ระหว่างหุบเขาริมธารน้ำเป็นที่หมาย คนเฝ้าเทวาลัย 2 ผัวเมียพยายามขโมยเทวรูปทองคำและเครื่องทรงประดับอัญมณีมีค่าด้วยความละโมภ กรรมจึงตกแก่บุตรสาววัยแรกแย้มที่กำลังสดใสด้วยความรัก อนัณยตาถูกสังเวยให้ดวงวิญญาณทำหน้าที่พิทักษ์กล่องเงินบรรจุเครื่องทรง เทวรูป ผนึกแน่นด้วยอาคมนานนับร้อยปี ถึงวันนี้ก็มิเคยได้กลับแผ่นดิน ภาพสะเทือนใจเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจิดจำรัสตั้งสติมั่นพร้อมที่จะรับรู้มา ก่อนแล้ว คำสอนของชายชราลึกลับที่พร่ำเตือนให้เจิดจำรัสระลึกสติอยู่เสมอ ทำให้เจิดจำรัสมีกุศลจิตเห็นใจในความทุกข์ทรมาน และร่วมเสียใจในความทุกข์ของวิญญาณอนัณยตา ศรัทธาที่เพื่อนร่วมชาติมีต่อเทวะของตน คือ แรงบันดาลให้อนัณยตามีความมุ่งมั่นแรงกล้าเพื่อบรรลุภารกิจ แต่เมื่อพบคนที่เข้าใจแท้จริง นางก็มิใช่มารร้ายอีกต่อไป
เจิดจำรัส สัญญากับจันทน์ขาวว่า จะพยายามหาของมีค่าทั้งหมดมาคืนอนัณยตา แต่นางมารอีกตนหนึ่งต่างหาก ที่แรงอาฆาตรุนแรงเกินกว่าที่เจิดจำรัสจะสกัดกั้นได้ ภาคมต้องมนต์โสมาลี เขามั่นใจว่าเพียงขอโลหิตบิดาสัก 2 หยด รดลงบนรูปสลักหญิงงามบนกล่องเงินใบนั้น อนัณยตาก็จะปรากฏกายเป็นตัวตนและอยู่กับเขาตลอดไป ขณะที่นายภาคย์ตั้งใจจะนำของมีค่าในกล่องเงินนั้นออกทิ้งทะเลเขาก็ได้รับ โทรศัพท์ของร้องจากภาคมว่า ต้องการกล่องใบนั้นมากที่สุด ด้วยความรักลูก ภาคย์รอภาคมอยู่ที่บ้านริมทะเล รำลึกถึงความผิดบาปที่กระทำมาตลอดชีวิต ทั้งการทรยศเพื่อร่วมสาบาน การยึดถือครอบครองสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจเรียกได้ว่าเป็นการปล้นชาติซ้ำเติมคน ทุกข์ไร้แผ่นดิน การนอกใจภรรยา และวิธีการเลี้ยงลูกอย่างผิดๆ จนจิตอ่อนให้มารรุกได้
เมื่อภาคมตามมาถึง และเฝ้าอ้อนวอนขอกล่องเงินจำหลักลายใบนั้น นายภาคย์ปลงตก แต่สู้ประวิงเวลาด้วยการชวนภาคมดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนจากต้นที่ปลูกเองในบ้าน เพียงอึกแรก เขาก็ได้รับรู้พิษแห่งยาสั่งที่สะสมในตัวเขามานานปี เขารู้จุดจบตัวเอง แข็งใจหยิบกล่องเงินให้แก่ลูกชาย พยักหน้าอนุญาตเมื่อภาคขอกรีดเลือดบิดาหนึ่งหยด รดลงรูปสลักหญิงงามบนกล่อง พลันที่มีดด้ามงาจรดปลายนิ้ว เลือดไหลปรี่รินเปรอะไปทั้งกล่อง แต่ อนัณยตาก็มิอาจมีชีวิต แรงแค้นของโสมาลีทำให้นายภาคย์ได้ชดใช้กรรมที่ก่อไว้แล้ว ด้วยเลือด ด้วยวิญญาณ ด้วยคำสาบาน ด้วยชีวิต เจิดจำรัสมาไม่ทันช่วยชีวิตภาคย์ โสมาลียังคงพยายามเร่งแรงแค้นให้ภาคมเสียสติไปกับความลุ่มหลงลืมตน ทว่า อนัณยตาพยายามปกป้อง ทั้งด้วยความรักที่นางเพิ่งเคยรู้รส และด้วยคุณธรรมที่รู้สติรู้หน้าที่ ว่าการใดควรหรือไม่ควร
ด้วยสติ อันมั่นคงและความรักต่อสามี เจิดจำรัสรีบรับโถน้ำมนต์จากมือบิดามากล่าวบูชาพระพุทธคุณแล้วรินรดลงกางกระ หม่อมภาคมผู้กำลังพร่ำหาอนัณยตาอย่างคลุ้มคลั่ง ภาคมสะดุ้งเยือกเมื่อมารร้ายที่ครอบงำเขาไว้ปลดปล่อยเขาเป็นอิสระ กล่องเงินร่วงตกกระทบพื้น รอยยิ้มเหยียดเย้ยบนปากบางเฉียบแดงฉานด้วยเลือด และเสียงหัวเราะหยันที่ค่อย ๆ จางหาย บอกให้รู้ว่านางมารทั้ง 2 ได้ทำหน้าที่ของตนโดยสมบูรณ์แล้ว
ผู้กำกับ : ชุติกุล สุตสุนทร
ผลิตโดย : เป่าจินจง
เขียนบท : ศิรินภา วสุกุล
บทประพันธ์ : เพไนย เพียงศูนย์
นักแสดงละคร นางมาร
1. ดนุพร ปุณณกันต์ แสดงเป็นเป็น ภาคม
2. วรรัตน์ สุวรรณรัตน์ แสดงเป็นเป็น อนัณยตา
3. เกวลิน คอตแลนด์ แสดงเป็นเป็น เจิดจำรัส
4. นพพล โกมารชุน แสดงเป็นเป็น นายภาคย์
5. สุพรรษา เนื่องภิรมย์ แสดงเป็นเป็น คุณหญิงศรีสวัสดิ์
6. ภัสสร บุญยเกียรติ แสดงเป็นเป็น โสมาลี
7. ยิ่งยง ยอดบัวงาม แสดงเป็นเป็น สัมพันธ์
8. รัชนี ศิระเลิศ แสดงเป็นเป็น จันทน์ขาว
9. ลิซ่า ไปรพิศ แสดงเป็นเป็น ลำดวน
10. วัชระ ปานเอี่ยม แสดงเป็นเป็น ชัชวาล
11. สมภพ เบญจาธิกุล แสดงเป็นเป็น รัฐมนตรีพิเศษ นาภี
12. ดวงใจ หทัยกาญจน์ แสดงเป็นเป็น คุณหญิงสุดใจ
13. ชุมพร เทพพิทักษ์ แสดงเป็นเป็น ปู่