ดอกเบี้ยเคลียร์รัก

เชอร์ รี่ สาวนักเรียนนอก ต้องเดินทางกลับมาประเทศไทย เพราะวิภาวี แม่ของเธอที่ป่วยหนักต้องเข้าโรงเพยาบาล เชอร์รี่กลับถึงเมืองไทย โดยมี วรวิทย์ มารับ เธอตรงไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมวิภาวีทันที วิภาวีมีตึกแถวให้เช่าอยู่ที่ชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกแถวที่พ่อของเชอร์รี่รับมรดกมาจากอากง จนสร้างฐานะขึ้นมาได้ และกิจการเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าเกษตร หลังจากพ่อของเชอร์รี่เสียชีวิตลง วิภาวีก็รับภาระหนักมาโดยตลอดโดยมี อาจุมพล น้องของพ่อและวิวรรณอาสะใภ้เป็นผู้ช่วย เชอร์รี่รับอาสาจะช่วยวิภาวีดูแลกิจการ เพราะไม่อยากให้วิภาวีหักโหมงานมากจนเกินไป

ในขณะ ที่ วสันต์ ก็กลับเมืองไทยเพราะคุณนายอิ่มเอม แม่ของเขาวางแผนว่าป่วยเพื่อหลอกให้ลูกชายกลับมาบ้าน และจะจับให้แต่งงานกับ วารุณี หลานสาวของหุ้นส่วนใหญ่ คุณนายอิ่มเอมหวังจะให้วสันต์เป็นผู้สืบทอดกิจการของบริษัทในเครือ วันนั้นวสันต์จึงรีบไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล

เชอร์ รี่เจอกับวสันต์ตั้งแต่ในสนามบิน เขายืนเงินเธอ 3 บาทเพื่อโทรศัพท์หาแม่ ทั้งสองไม่ถูกชะตากันและกันเลย นับจากย่างเท้าเข้าสู่สนามบินในประเทศไทยจนถึงโรงพยาบาล

วสันต์ พบความจริงว่าถูกแม่หลอก จึงโกรธ ประกอบกับเรื่องวางแผนแต่งงานของแม่ เขาจึงหาทางหลบหลีกแม่ ด้วยการหนีออกจากบ้าน ไม่ยอมกลับเข้าบ้านอีก

วสันต์ ถามหาห้องเช่ากับคนขับแท็กซี่ แท็กซี่จึงพาวสันต์มาที่ตึกแถวย่านชุมชนแห่งหนึ่ง วสันต์ตั้งใจจะหางานทำและเก็บตัวอยู่ที่นี่สักพักก่อนกลับไปจัดการปัญหาที่ บ้าน

ห้องเช่า ที่วสันต์อยู่เป็นของวิภาวีแม่ของเชอร์รี่เอง ที่นี่มีผู้เช่าหลากหลายอาชีพอยู่ มีทั้งคนขับแท็กซี่อย่างบุญหลายที่เช่าอยู่กันหลายคน มาจากหมู่บ้านเดียวกัน วนเวียนเข้าออกเป็นกะ ตามเวลาขับรถและส่งรถของอู่ คุณป้าพิศ ที่ทำข้าวแกงหลากหลายชนิดขาย ร้านเสริมสวยเจ๊พร ร้านกาแฟและของชำเฮียหวัง และมีคุณนายทับทิม เช่าตึกทำหวยบนดิน และสุวัฒน์ที่เปิดเป็นโรงเรียนสอนขับรถ สุวัฒน์มักจะค้างค่าเช่าเป็นเวลานาน เพราะเอาเงินไปเล่นพนันบอลเสียหมด

เชอร์รี่ จำเป็นต้องเข้ามาเรียนรู้ระบบงานในกิจการของวิภาวีเธอได้รู้จักกับ อาจุมพล น้องชายของพ่อที่ทำงานมาตั้งแต่สมัยที่พ่อเธอยังมีชีวิตอยู่ จุมพล มีภรรยาคือ น้าวรรณ ที่เป็นแม่บ้านคอยดูแล วิภาวีแม่ของเชอร์รี่ด้วย จุมพลคิดว่าตนเป็นฝ่ายทำงานหนักและดูแลกิจการทั้งหมด มองวิภาวีว่าอ่อนแอเป็นแค่สะใภ้ กิจการของพี่ชาย น่าจะเป็นของตนมากกว่าจึงไม่พอใจ เชอร์รี่เริ่มสังเกตว่าจุมพลกับน้าวรรณ มักจะพูดจากับแม่อย่างไม่เกรงใจ น้ำเสียงไม่มีความเคารพ บางครั้งก็ตะคอกเสียงดัง เธอต้องออกโรงช่วยแม่บ่อยๆ

เชอร์ รี่เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเก็บค่าเช่าและจัดระบบการเก็บเงินใหม่ให้ตรงเวลา และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้หลายคนมีปัญหาโดยเฉพาะ สุวัฒน์ ที่พยายามยุยงให้คนอื่นเบี้ยวค่าเช่าไปด้วย ทำให้เกิดการกระด้างกระเดื่อง จนเชอร์รี่จำใจต้องเป็นนางมารร้ายกำราบพฤติกรรม ผู้เช่าจอมป่วนลงอย่างอลวนอลเวง  จนกระทั่งเชอร์รี่เชอร์รี่ได้ช่วยสุวัฒน์จากการข่มขู่ของเจ้าหนี้พนันบอล ซึ่งลุกลามไปถึงขนาดเรียกตำรวจมาจับโต๊ะบอลซึ่งเป็นของอาจุมพลทำให้จุมพลฝัง ใจเจ็บ

ฝ่ายผู้เช่าก็ยกวสันต์ขึ้นเป็นผู้ต่อรอง เรียกร้องสิทธิของผู้เช่าทั้งการเรียกเก็บค่าน้ำค่าไฟที่แพงเกินจริง การซ่อมแซมตึกทำให้เชอร์รี่กับวสันต์ที่ไม่ถูกชะตากันอยู่แล้วกลายเป็นไม้ เบื่อไม้เมากันมากยิ่งขึ้น  เชอร์รี่มองว่า วสันต์เป็นหน่วยกล้าตายที่จะต่อกรกับเจ้าของตึกเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ต่อรองและแก้ไขสัญญาบางอย่าง วสันต์เป็นไม่เบื่อไม่เมากับเชอร์รี่ได้สมน้ำสมเนื้อที่สุด แต่ขณะเดียวกันทั้งสองคนก็รู้สึกผูกพันขึ้นทีละนิดทีละน้อย

การ ต่อสู้ฟาดฟันกันของเชอร์รี่กับวสันทำให้เชอร์รี่รู้ว่ามีการเรียกเก็บค่า เช่าเกินจริง ค่าน้ำ ค่าไฟ เกินจริง โดยการบริหารคดโกงของจุมพล และที่สำคัญเชอร์รี่พบว่าตึกแถวได้ถูกจำนองไว้กับธนาคารและกำลังจะหลุดจำนอง เธอต้องรักษาสมบัติชิ้นนี้ของพ่อเอาไว้

เชอร์รี่ ต้องปรึกษากับเพื่อนสนิทของเธอ วรวิทย์ที่ทำงานฝ่ายสินเชื่อในธนาคารซึ่งทำให้วสันต์เข้าใจผิดตลอดเวลาว่า วรวิทย์กับเชอร์รี่เป็นคนรักกัน

ฝ่ายวสันต์เองก็มี น้องมีมี่ สาวน้อยวัยใสน่ารัก ลูกสาวคุณนายทับทิมร้านหวยบนดิน มาพัวพันหลงรักอยู่ยิ่งทำให้ทั้งคู่ หมั่นไส้กันไปต่างๆ นานา และการตามล่าตัววสันต์ของคุณนายทับทิมและวารุณีก็ทำให้เขาต้องระวังตัวหลบๆ ซ่อนๆ ตลอดเวลา ครั้งหนึ่งเชอร์รี่เคยต่อว่า วสันต์ว่าเป็นผู้ชายไม่เอาไหนไม่ทำการทำงานหลบหนีปัญหา ทำให้วสันต์เกิดฮึดสู้พยายามจะเอาชนะคำสบประมาทของเธอ

วสันต์ หางานทำเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เขาแอบติดต่อกับทางบ้านแบบเล่นซ่อนหา สร้างความปั่นป่วนและกลุ้มใจให้กับคุณนายอิ่มเอมแม่ของเขามาก ในที่สุดเขาก็ได้รับงานเขียนภาพประกอบให้หนังสือและนิตยสารเป็นครั้งคราว บางครั้งก็ต้องค้างค่าเช่าบ้าง จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟช้าบ้างสร้างความรำคาญให้เชอร์รี่บ้างเป็นระยะๆ

การ เปิดโปงการโกงของจุมพล รายได้ของจุมพล เป็นชนวนให้เกิดการทะเลาะกันอย่างใหญ่โต จนเชอร์รี่ไล่อาจุมพลออก ทำให้จุมพลวางแผนจะเผาตึกเพื่อแก้แค้น

เหตุการณ์ ครั้งนี้ทำให้วสันต์ได้ช่วยเชอร์รี่จากคนร้าย และในขณะที่ไฟไหม้ร้านข้าวแกงของป้าพิศ เชอร์รี่วิ่งเข้าไปช่วยป้าพิศที่อยู่ข้างใน ทำให้ผู้เช่าทุกคนมองเชอร์รี่ว่าความจริงเป็นผู้หญิงที่มีใจประเสริฐคนหนึ่ง โดยเฉพาะวสันต์ประทับใจในความเด็ดเดี่ยวของเชอร์รี่มาก เขาเริ่มตกหลุมรักเธอแต่ก็คิดอยู่เสมอว่าเชอร์รี่มีวรวิทย์เป็นแฟนอยู่แล้ว

ผู้ เช่าได้ร่วมมือกันจับตัวคนร้ายได้ จุมพลถูกจับเข้าคุก เชอร์รี่พยายามหาเงินมาปลดหนี้ให้ทันกำหนดธนาคาร มิฉะนั้นจะต้องโดนยึดตึก เธอปรึกษากับวรวิทย์ว่าจะส่งสินค้าเกษตรไปขายต่างประเทศ และเธอก็พบว่าเครื่องแกงสูตรพิเศษของป้าพิศสามารถโกอินเตอร์ได้ ทำให้เชอร์รี่ขอมาเรียนทำอาหารกับป้าพิศ ทำให้เชอร์รี่ต้องมาเจอกับวสันต์บ่อยขึ้น วสันต์ช่วยเชอร์รี่ออกแบบหีบห่อบรรจุ โดยมีน้องมีมี่ซึ่งเกาะติดกับวสันต์จนเป็นที่น่าหมั่นไส้ตลอดเวลา ส่วนวรวิทย์ก็อยู่ข้างกายเชอรี่ไม่ห่าง วสันต์เห็นความเอาจริงเอาจังกับการทำงานของเชอร์รี่ ยิ่งทำให้ประทับใจ แต่คิดว่าคงไม่มีโอกาส หลายครั้งที่ทั้งสองต่างหึงหวงกันโดยไม่รู้ตัว

แต่ ทั้งหมดนี้ก็อยู่ในสายตาของวรวิทย์ เขาเริ่มรู้สึกว่าตลอดเวลาเชอร์รี่ เห็นเขาเป็นแค่เพื่อนในขณะที่สนใจวสันต์มากขึ้น จนกิจการส่งเครื่องแกงโกอินเตอร์ได้กำไรพอจะปลดหนี้ก็เกิดเรื่องตามมา

บริษัท โอเวอร์พาว์เวอร์ บริษัทในเครือของคุณนายอิ่มเอมกำลังจะพัฒนาชุมชนแถบนี้เข้ากว้านซื้อที่และ ตึกแถวในบริเวณนั้นไปเกือบหมด ตัวแทนบริษัทได้เข้ามาติดต่อกับเชอร์รี่ แต่เชอร์รี่ปฏิเสธไป เพราะเพิ่งจะกู้สถานการณ์มาได้ และต้องการจะรักษาตึกแถวเอาไว้

คุณนายอิ่มเอมวางแผน ให้กลั่นแกล้งเชอร์รี่ด้วยการไปยุยงให้เจ้าของที่และตึกแถวตกลงขายให้บริษัท ไปแล้ว ให้เป็นศัตรูกับเชอร์รี่ โดยอ้างว่าโอเวอร์พาว์เวอร์ต้องยกเลิกโครงการ ทุกคนเลยเสียผลประโยชน์ทำให้เจ้าของที่ดินละแวกนั้นทั้งหมดกลายเป็นศัตรูกับ เชอร์รี่

ในขณะที่พวกผู้เช่า และวสันต์ กลับเข้าใจว่าเชอร์รี่คงจะต้องมาไล่พวกเขาออกไปแน่ๆ พวกเขาหาทางป้องกันว่าจะทำอย่างไรดี

ผู้ เช่ารวมตัวกันเตรียมตัวประท้วง จนเชอร์รี่ต้องมาจัดการสงบศึก ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันดีมากขึ้น รวมไปถึงความสัมพันธ์ของวสันต์กับเชอร์รี่ก็มีทีท่าว่าจะดีขึ้นด้วย

เชอร์ รี่กับวสันต์เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น วสันต์จึงรู้ว่าเชอร์รี่ฝันอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองเธอชอบทำกับข้าวทำ ขนม  ส่วนวสันต์คิดแค่เพียงเอาตัวรอดไปวันๆ เขารักงานศิลปะแต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี วสันต์ยังมีความลับเรื่องปกปิดฐานะของตัวเองไม่ให้เชอร์รี่รู้อีกด้วย

วสันต์ ตั้งใจจะช่วยเชอร์รี่สู้กับนายทุนที่พยายามจะมาซื้อตึก และการข่มขู่ต่างๆ จนในที่สุดวสันต์ก็สืบรู้ว่าบริษัทโอเวอร์พาว์เวอร์เป็นบริษัทในเครือของแม่ เขานั่นเอง

วสันต์ต้องกลับเข้าบ้านไป เพื่อจัดการกับเรื่องนี้เขาเผชิญหน้ากับแม่เป็นครั้งแรก แม่ของวสันต์ต่อรองให้ วสันต์เข้ามาทำงานดูแลโครงการนี้เสียเอง และจัดการนัดดูตัวให้วสันต์กับวารุณีหลานสาวของ ม.ร.ว.พิณพงษ์ หุ้นส่วนใหญ่ในโครงการ เพื่อช่วยเหลือเชอร์รี่ และความต้องการจะรักษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนในตึกแถวเอาไว้ วสันต์จึงจำใจเข้าตีสนิทกับวารุณีเพื่อจะเปลี่ยนใจ ม.ร.ว.พิณพงษ์

วสันต์ ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างห้องเช่ากับที่บ้าน ทำตัวลับๆ ล่อๆ เป็นที่น่าสงสัย ทำให้วารุณีต้องออกมาตามหาและสืบรู้ว่าที่จริงวสันต์แอบมาหลบอยู่ที่ตึกแถว และมีทีท่าว่าชอบพอเชอร์รี่อยู่ วารุณีเล่าให้คุณนายอิ่มเอมฟัง และวารุณียังไปยุยงให้ ม.ร.ว.พิณพงษ์ ซื้อตึก แล้วรื้อตึกนี้ทิ้งให้เร็วที่สุดเพื่อกันเชอร์รี่ออกไปจากวสันต์

วิภาวี แม่ของเชอร์รี่เครียดเรื่องตึกแถวทำให้อาการกำเริบเข้าโรงพยาบาล และคุณนายอิ่มเอมป่วยเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง ที่โรงพยาบาล คุณนายอิ่มเอม คิดถึงลูกชายที่ไม่ยอมมาเยี่ยม คุณนายอิ่มเอมได้เจอแม่ของเชอร์รี่และเชอร์รี่โดยบังเอิญ และรู้สึกถูกชะตากับเชอร์รี่มาก แม่ของทั้งสองปรับทุกข์กันเรื่องลูกๆ ของตัวเอง โดยต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วสันต์ต้องเข้าไปเยี่ยมแม่อย่าระแวง จนในที่สุดความลับเรื่องวสันต์เป็นลูกชายของคุณนายอิ่มเอมก็เปิดเผย ทั้งผู้เช่าและเชอร์รี่เข้าใจผิดไปว่า วสันต์แอบปลอมตัวมาดูลาดเลาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ผ่านมาล้วนเป็นการหลอกลวงทุกคนจึงโกรธมาก

วารุณี วางแผนจะสร้างความแตกแยกเข้าใจผิดให้กับเชอร์รี่และผู้เช่าโดยการหลอก และขู่บังคับสุวัฒน์ที่ติดเงินพนันบอล ให้ลอบวางเพลิงเพื่อให้ผู้เช่าเข้าใจว่าเชอร์รี่หน้าเลือดเห็นแก่เงิน จะเผาไล่ที่ และทำให้เชอร์รี่คิดว่ามีผู้คนแค้นเธอขนาดจะเผาตึก สุขภาพของวิภาวีที่ทรุดลงเพราะปัญหารุมเร้า รวมไปถึงการที่วสันต์ได้ไปสนิทสนมกับผู้หญิงอื่นและไปอยู่ฝ่ายนายทุน ทำให้เธอหมดกำลังใจ เพื่อตัดปัญหาความยุ่งยากและความปลอดภัยของทุกคน เชอร์รี่ตัดสินใจขายตึกไปในที่สุด

สุวัฒน์ กลุ้มใจมากที่ตัวเองทำผิด เขากลายเป็นคนวางเพลิงทำให้ทุกคนเดือดร้อนทั้งๆ ที่เชอร์รี่เคยช่วยตนเองไว้หลายครั้ง เขาเก็บตัวกลายเป็นขี้เมา ในที่สุดเขาก็ทนความกดดันสำนึกผิดไม่ไหวสารภาพกับแท็กซี่สมหมายกลางวงเหล้า เชอร์รี่กับวรวิทย์รู้เรื่องนี้จึงให้สุวัฒน์เป็นพยาน และใช้เป็นข้อต่อรองกับวารุณีว่าให้เลิกสัญญาซื้อตึกเสีย ไม่อย่างนั้นจะแจ้งตำรวจจับข้อหาผู้บงการให้วางเพลิง วารุณีตกลงแต่มีข้อแม้ว่าเชอร์รี่จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับวสันต์อีกเชอร์รี่ ก็ตอบตกลง ทั้งที่วสันต์ไม่เต็มใจแต่เพื่อช่วยทุกคน เขาต้องยอมรับปาก
วารุณี วารุณีเกลี้ยกล่อม ม.ร.ว.พิณพงษ์ให้ยุบโครงการลง และประกาศว่าจะแต่งงานกับวสันต์เร็วๆ นี้

น้อง มีมี่เสียใจมากที่วสันต์จะแต่งงานกับวารุณี ส่วนวรวิทย์พยายามเอาชนะใจเชอร์รี่ แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาสารภาพรักกับเชอร์รี่ แต่เชอร์รี่ต้องปฏิเสธ เพราะในใจเชอร์รี่ยังเป็นห่วงแต่วสันต์เท่านั้น วรวิทย์เสียใจ แต่ก็เข้าใจอยากให้เชอร์รี่คนที่เขารักสมหวัง น้องมีมี่เริ่มเบนเข็มไปปิ๊งวรวิทย์เพราะเข้าใจคนที่รักเขาข้างเดียวเหมือน กัน มีหัวอกเดียวกัน

พวกผู้เช่ารู้ว่าทั้งเชอร์รี่ และวสันต์ยอมเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อทุกคนก็อยากจะช่วย ทุกคนถึงขนาดบอกเชอร์รี่ว่าจะย้ายออกไปเอง เรื่องทั้งหมดจะได้จบ แต่เชอร์รี่ห้ามไว้ เพราะไม่อย่างนั้นที่ทำมาทุกอย่างก็จะสูญเปล่า

บริษัท ส่งออกในเครือของคุณนายอิ่มเอมได้รับออเดอร์สินค้าเครื่องแกงมาจำนวนมาก ถ้าส่งสินค้าให้ไม่ทันกำหนดจะต้องถูกปรับขาดทุนหลายสิบล้านบาท คุณนายอิ่มเอมต้องเร่งหาสินค้าให้ครบตามจำนวน แต่ก็ยังขาดอยู่จำนวนหนึ่ง เหลือแต่โรงงานของเชอร์รี่เท่านั้นที่ยังไม่ได้ไปติดต่อ คุณนายอิ่มเอมกลัวว่าเชอร์รี่อาจไม่ยอมช่วย วสันต์จำเป็ฯต้องขอให้เชอร์รี่ช่วยผลิตสินค้าให้เชอร์รี่รับปากว่าเรื่อง ส่วนตัวกับธุรกิจนั้นแยกออกจากกัน เธอจะเร่งผลิตให้ทันกำหนด ทำให้คุณนายอิ่มเอมรู้สึกพอใจมาก

คุณนายอิ่มเอมเห็น ว่าวสันต์ลูกชายของตนซึมเศร้าไปมาก ไม่มีชีวิตชีวาก็เริ่มเห็นใจลูก คิดได้ว่าตัวเองบังคับลูกเกินไป แต่วสันต์ก็ยืนกรานว่าเขาจะแต่งงานเพื่อช่วยคนที่เขารัก

วันแต่งงานของวสันต์กับวารุณี วรวิทย์ น้องมีมี่กับผู้เช่าแอบมาหา วสันต์ เพื่อพูดให้วสันต์ตัดสินใจให้ดี วสันต์ตัดสินใจทิ้งพิธีแต่งงานไปหาเชอร์รี่ โดยมีคุณนายอิ่มเอมช่วยรับหน้า ม.ร.ว.พิณพงษ์ เอาไว้

วสันต์ มาหาเชอร์รี่ที่ตึกแถว เขาขอเธอแต่งงานกลางตลาดสด เชอร์รี่เรียกสินสอดเป็นเหรียญบาท 3 อัน ที่เขาเคยยืมเธอเมื่อเจอกันครั้งแรก และบอกว่าจะเก็บดอกเบี้ยจากหัวใจของวสันต์ในอนาคตที่ทั้งสองใช้ชีวิตคู่ร่วม กันนั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *