เมืองโพล้เพล้ เป็นเมืองที่อยู่บนเส้นคาบเกี่ยวของการเปลี่ยนแปลงจากความคิดของคน หลายกลุ่ม ซึ่งต่างก็หวังให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ หลายบุคลิกในแต่ละ ตัวละครนำเสนอความคิดที่น่าสนใจ แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน นักแสดง เมืองโพล้เพล้ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ แสดงเป็น กำนันโดด กมลชนก โกมลฐิติ แสดงเป็น ป่านา อนันต์…
เบญจรงค์ห้าสี เป็นเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงห้าคน ห้าแบบที่แทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย...มีอยู่อย่างเดียวคือ ทั้งห้าคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เริ่มตั้งแต่มนสินี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ภายนอกเธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าใครเพื่อน ฉลาด สุขุมและเยือกเย็น...มั่นคงทั้งฐานะ และอาชีพการงาน...แต่ใครเลยจะรู้ว่าภายใต้ท่าทีที่มั่นคงของเธอนั้น เธอซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้อย่างเงียบงัน จนวันหนึ่งเมื่อมันแสดงตัวออกมา...นั่นก็เกือบจะทำให้เธอต้องตกลงไปในหุบเหวแห่งชีวิตอันเต็มไปด้วยขวากหนาม... คนที่สอง...วาตี วาตีเป็นสาวเปรี้ยว มีนิสัยตรงไปตรงมาจนออกจะดูโผงผางในบางครั้ง ถ้าเป็นสมัยนี้ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นสาวมั่น...แต่ลึก ๆ ในใจเธอ…
ชะเอม หรือ เอมิกา คุณหนูคนเก่ง (เรื่องเรียนเท่านั้นนะ) ดันอยากได้ A วิชาการละครของอาจารย์เพี้ยน เพื่อเธอจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ทุนไปทำปริญญาโทต่ออย่างแน่นอน แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะปรัชญาการละครของ ดร.เพียรทิพย์ คือ “ศิลปะ (การละคร) เพื่อชีวิต” เพื่อการเข้าถึงบทบาทคนใช้ในละคร ทำให้จากคุณหนูต้องอุตริปลอมตัวไปเป็นคนใช้ และมันก็นำมาซึ่งเรื่องราววุ่นวายต่างๆ
เอมิกา นักศึกษาเอกศิลปะการแสดงปีสุดท้าย ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่ค่อยลงรอยกับ อภิเชษฐ์ เพื่อนร่วมคณะที่มักจะแสดงละครได้ดีกว่าเธอเสมอ นงลักษณ์ เพื่อนสนิทเอมิกาจึงเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธอ อาจารย์เพี้ยน อาจารย์ประจำภาควิชาเขียนบท มีโปรเจคให้นักศึกษาเขียนบทละครเป็นวิชาสุดท้าย ซึ่งใครที่สามารถเขียนบทได้เกรด A จะได้ทุนไปทำปริญญาโทต่อที่ต่างประเทศ อภิเชษฐ์มีไอเดียเขียนบทเรื่องครูดอยเลยจะไปเป็นครูดอยจริง ๆ เอมิกาเขียนเรื่องเกี่ยวกับคนใช้และเพื่อเอาชนะอภิเชษฐ์ เธอจึงตัดสินใจไปเป็นคนรับใช้บ้าง ทั้งที่เธอเป็นคุณหนูจ๋า และไม่เคยทำงานบ้านอะไรมาก่อนเลยในชีวิต…
ปัญญาชนก้นครัว เป็นเรื่องราวของ ชะเอม หรือ เอมิกา สาวน้อยคนเก่งที่โลกของเธอคือการแข่งขันกันในเรื่องเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาการละครของอาจารย์เพี้ยน ที่ถ้าเธอได้ A วิชานี้แล้วละก็ เธอจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ทุนไปทำปริญญาโทต่ออย่างแน่นอน แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะปรัชญาการละครของ ดร.เพียรทิพย์ คือ “ศิลปะ (การละคร) เพื่อชีวิต” เพื่อการเข้าถึงบทบาทคนใช้ในละคร…
น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันของนักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ นอกกรุงเทพมหานคร แต่ละคนมาจากคนละที่ ต่างถิ่น ต่างความคิด และต่างนิสัย แต่ไม่มีวันทอดทิ้งกัน แม้ในยามเกิดปัญหา ความเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากก็คอยให้กำลังใจกัน ร่วมสุขร่วมทุกกัน มีความจริงใจมอบให้แก่กัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหรือปัญหามาด้วยกันได้
น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความผูกพันของนักเรียน นักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเปิดใหม่ นอกกรุงเทพมหานคร แต่ละคนมาจากคนละที่ ต่างถิ่น ต่างความคิด และต่างนิสัย แต่ไม่มีวันทอดทิ้งกัน แม้ในยามเกิดปัญหา ความเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในยามทุกข์ยากก็คอยให้กำลังใจกัน ร่วมสุขร่วมทุกกัน มีความจริงใจมอบให้แก่กัน ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหรือปัญหามาด้วยกันได้ นักแสดง น้ำใสใจจริง 2537 ศรราม เทพพิทักษ์…
พ.ศ. 2490 “ราชาวดี” สาวน้อยวัย 17 ปี เมื่อจบการศึกษาแล้วก็ได้เดินทางมาที่โรงเรียนกุลนารี เพื่อสมัครเป็นครูตามความประสงค์ของมารดาที่ล่วงลับ ไปแล้ว “กาบทอง” อาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนรับราชาวดีเข้าเป็นครูด้วยความเต็มใจ เพราะเธอกับแม่ของราชาวดีเคยรู้จักกันมาก่อน นับแต่ก้าวแรกที่ ราชาวดีเหยียบย่างเข้ามาในเขตโรงเรียนซึ่งเป็นวังเก่าก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะเหมือนมีใครตามเธออยู่ห่าง ๆ และยิ่ง “ถวิล” เพื่อนสนิทของเธอเล่าถึงความน่ากลัว…