Tag Archives: อคัมย์สิริ สุวรรณศุข

คือหัตถาครองพิภพ 2556

ศรี (ปิยธิดา วรมุสิก) ลูกสาวคนโตวัยขึ้นคานของท่านเจ้าสัว (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) พ่อค้าใหญ่ร่ำรวยมีชื่อเสียง ที่เกิดกับแม่น้อย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) ภรรยาคนที่สอง ศรีครองตัวเป็นโสด ไม่สนใจเรื่องการมีครอบครัว

ก่อนหน้านั้นมีคนมาสู่ขอ แต่ศรีก็ไม่สนใจ ท่านเจ้าสัวทั้งโกรธทั้งกลุ้มใจ ถึงขั้นต้องบังคับจับคลุมถุงชน แต่ศรีก็สร้างเรื่องให้วุ่นวายโดยร่วมมือกับอีเมี้ยน (อริสรา วงษ์ชาลี) พี่เลี้ยงสาวทึนทึก ห้าวๆ คล้ายผู้ชาย เมี้ยนปลอมตัวเป็นเจ้าสาวแทนศรี เพราะเจ้าสาวคลุมหน้าเข้าห้องหอไปเปิดหน้ามาเจ้าบ่าวถึงกับลมใส่ ส่วนศรีมี ศุกล (ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์) น้องชายลูกแม่ใหญ่ (นวลนง จามิกรณ์) ทั้งสองคน แม้จะเป็นลูกต่างแม่แต่รักใคร่และสนิทกันมาก ศุกลที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก รีบช่วยเหลือพาศรีไปแอบที่เรือนแพของแม่พริ้ง (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งอาศัยที่ริมน้ำท่านเจ้าสัวขายเครื่องปั้นดินเผา

เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนท่านเจ้าสัวโกรธมากกล่าวหาว่า เจ้าสัวเอาคนรับใช้มายกให้เป็นสะใภ้ถือเป็นการดูถูกครอบครัว และตัดความเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าสัว ที่แพศุกลได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี สะบันงา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ลูกสาวของพริ้ง เวลานั้นสะบันงากำลังจะลงว่ายน้ำเล่น ศุกลกับศรีขับเรือเครื่องมาอย่างเร่งรีบ ไปชนเอากระดานไม้ที่สะบันงายืนเก้งก้างอยู่จนตกลงไปในน้ำ สะบันงาตกใจร้องหวีดจนผ้าถุงหลุด ไม่กล้าขึ้นมาจากน้ำ ศรีต้องรีบไล่ศุกลให้ไป แล้วเอาผ้าถุงจากแพมาให้สะบันงาใส่ ศุกลหลงรักสะบันงาทันที และเป็นรักแรกพบของทั้งสองคน

พระยาสมิติภูมิ (เดวิด อัศวนนท์) ชาวฝรั่งสัญชาติอังกฤษ คอยเสาะหาผู้หญิงมีฐานะและมีความรู้คู่ควรมาเป็นภรรยา โดยไม่ได้เน้นความรัก พระยาเกษม (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนรักเป็นผู้แนะนำศรีให้ เนื่องเพราะศรีเป็นสาวหัวทันสมัย เขียนอ่านภาษาได้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ศรียังเป็นเพื่อนสนิทของ คุณหญิงลออศรี (กชกรณ์ นิมากรณ์) ภรรยาพระยาเกษมอีกด้วย ท่านเจ้าสัวดีใจมาก เพราะศรีลูกสาวมีวัยถึง 28 ปี เหตุเพราะศรีบ่ายเบี่ยงการแต่งงานหลายครั้ง

เวลาต่อมาพระยาสมิติภูมิมาสู่ขอศรี คุณหญิงลออศรีช่วยอ้อนวอน ศรีลังเลในเบื้องแรก เจ้าสัวกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึงกักตัวศรีไว้ในห้องก่อนแต่งงาน 7 วัน ส่วนอีเมี้ยนนั้นท่านเจ้าสัวแสร้งส่งไปทำธุระต่างจังหวัด ศรีจำต้องแต่งงานกับพระยาสมิติภูมิ กลายเป็น คุณหญิงศรี และมีอำนาจเต็มในคฤหาสน์หลังใหญ่

ค่ำคืนแรกที่ตกเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์ของพระยาสมิติภูมิ ศรีกรีดร้องดังโหยหวนจนท่านพระยาทั้งตกใจ และประหลาดใจ แต่ก็ภูมิใจที่ศรีอุตส่าห์ครองตัวมานาน แต่ยอมแต่งงานกับตน คุณหญิงศรี พาอีเมี้ยนมาเป็นต้นห้อง และหลีกเลี่ยงการหลับนอนกับพระยาสมิติภูมิสม่ำเสมอ โดยคอยจัดหาบ่าวสาวๆ ในบ้าน ไปปรนนิบัติพระยาสมิติภูมิแทน ไม่เว้นแม้แต่อีเมี้ยนก็ต้องยอมไปแก้ขัดให้

หลังจากศรีแต่งงานออกเรือนไปแล้ว เจ้าสัวส่งศุกลไปเรียนเมืองนอกด้านคอมเมิร์ชเพิ่มเติม เพื่อติดต่อค้าขายธุรกิจให้ใหญ่โตมากขึ้น ตลอดเวลาศุกลไม่เคยลืมสะบันงาสาวน้อยตกน้ำคนนั้น เขาตั้งใจเรียนจนจบและเดินทางกลับจากต่างประเทศเร็วกว่ากำหนด ท่านเจ้าสัวผิดหวัง ศุกลไม่ได้เรียนการบริหารธุรกิจกลับไปเรียนด้านวรรณคดีและอักษรศาสตร์

ศุกลกับคุณหญิงศรีเป็นพี่น้องที่รักกันมาก จนถึงขั้นกล้าขอให้คุณหญิงมาบอกท่านเจ้าสัวไปสู่ขอสะบันงา ท่านเจ้าสัวโมโหมากสั่งให้ศุกลเลิกติดต่อกับสะบันงา เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ศุกลลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวจะไปมีเมียเป็นลูกแม่ ค้าเรือนแพยากจน ไม่มีสกุลรุนชาติ นอกจากนี้ท่านเจ้าสัวแอบไล่แม่พริ้งและสะบันงาให้ไปจากที่ดินของตน ห้ามกลับมาอีก ศุกลเศร้าหมองไม่รู้สาเหตุการหายไปของสองแม่ลูก

สะบันงาในวัยเพียง 14 ปี กับแม่พริ้งและพ่อ การค้าขาดทุน เรือนแพโดนยึดเพราะติดจำนองเอาเงินไปรักษาแม่พริ้ง วันหนึ่งแม่พริ้งได้พบกับ แกละ (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) โดยบังเอิญ จนได้รู้ว่าแกละเป็นบ่าวในบ้านพระยาสมิติภูมิ แกละแนะนำให้แม่พริ้งพาสะบันงาไปขายฝากตัวขัดดอกเพื่อเอาเงินไปรักษาตัว แม่พริ้งพาสะบันงามาบ้านพระยาสมิติภูมิ คุณหญิงศรีจำสะบันงาได้และดีใจแทนศุกลจึงรีบรับซื้อสะบันงาเอาไว้รับใช้ หวังให้ศุกลมารับไปเป็นภรรยาสักวัน ความที่สะบันงาอายุน้อยมากไร้เดียงสา จึงรอดพ้นสายตาประกอบกับคุณหญิงพยายามเอาสะบันงาหลบจากพระยาสมิติภูมิเสมอ สะบันงาจึงรอดหูรอดตามาตลอด

แต่แล้ววันหนึ่งสะบันงาก็ได้พบกับเจ้าพระยาสมิติภูมิโดยบังเอิญอย่าง จังๆ ท่านกลับไมได้คิดในแง่ชู้สาวเพราะมองว่าเด็กมาก ได้แต่ติดใจว่าสวยมากแต่ยังเด็ก แต่ท่านพระยาก็ไม่ได้ละเลยสะบันงา

คุณหญิงศรีปกครองคนในบ้านโดยมีอีเมี้ยนเป็นตัวแทน คอยสอดส่องดูแลความเป็นไปในบ้านและหาบ่าวสาวไปปรนนิบัติ รวมทั้งสองพี่น้อง สังเวียน (ธัญสินี พรมสุทธิ์) กับ สังวร (ภารดี อยู่ผาสุก) ที่ต่างเป็นคนขี้อิจฉาและมักใหญ่ใฝ่สูง อีเมี้ยนมักมีปัญหากับบ่าวไพร่ในบ้านเป็นประจำ แต่ไม่มีใครกล้าหือ บ่าวในครัวนินทาเมี้ยนกับคุณหญิงศรีว่าเล่นเพื่อนกัน คุณหญิงศรีโกรธขู่จะเอาโทษกับทุกคนที่พูดเรื่องนี้ จนทำให้เรื่องสงบลง

วันหนึ่งคุณหญิงศรีชวนศุกลมาหาที่บ้าน ศุกลมาพบสะบันงาถึงกับตะลึงงันมองด้วยความดีใจและหลงใหล จากนั้นศุกลจึงแวะเวียนมาเยี่ยมคุณหญิงศรี เพื่อได้พบหน้าสะบันงาบ่อยมากจนดูผิดสังเกตของพวกบ่าวไพร่ โดยเฉพาะน้อย (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) บ่าวปากมากจอมส่อเสียด 1 ในบ่าวที่คอยไปบำเรอความสุขให้ท่านพระยา น้อยจับตาความสัมพันธ์ของสองคนตลอด แม้ไม่ค่อยได้พูดจากัน แต่สะบันงาก็มีใจรักตอบศุกล ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นภรรยาของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิในวันหนึ่ง

ที่นั่นนางเล็กๆ ทั้งหลาย สังเวียน สังวร และน้อย พยายามชิงดีชิงเด่นเพื่อให้เจ้าพระยาสมิติภูมิหลงใหล และแย่งตำแหน่งคุณหญิงศรี ตบตีกันเองก็เคยทำ โดยหารู้ไม่ว่าท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิจะเชิดชูเพียงคุณหญิงเท่านั้น เพราะเหมาะสมคู่ควร บรรดาเมียเล็กเมียน้อยเกลียดคุณหญิงศรีและเมี้ยนมาก ถึงกับทำพิธีสาปแช่งให้คุณหญิงมีอันเป็นไปสารพัด แต่ไม่รอดสายตาเมี้ยน คุณหญิงศรีแสร้งทำเฉยแต่เก็บงำข้อมูลไว้ชำระแค้น

ด้วยความเอ็นดูรักใคร่เป็นพิเศษคุณหญิงศรีสอนวิชาสารพัดทั้งไทย อังกฤษให้สะบันงา ทำให้สะบันงามีความรู้มากมาย เพราะคุณหญิงต้องการให้สะบันงาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่คู่ควรของศุกลผู้เป็น น้องชาย แต่พวกนางเล็กๆ กลับคิดไปว่าคุณหญิงจะเอาสะบันงามาเป็นตัวตายตัวแทนในวันข้างหน้า จึงพากันเกลียดและอิจฉาสะบันงาไปด้วย สะบันงาเป็นเด็กจิตใจดี ใจเย็น อดทน ไม่มองใครในแง่ร้าย ยิ่งทำให้คุณหญิงศรีรักสะบันงามากในฐานะน้องสะใภ้ในอนาคต คุณหญิงศรีบอกสะบันงาเรื่องศุกลรักและจะแต่งงาน สะบันงาเต็มใจรักตอบศุกล ซึ่งทั้งศุกลกับสะบันงาได้พูดจาตกลงกันเรื่องแต่งงานไว้แล้ว เพียงรอเวลาให้สะบันงาโตอีกสักนิด

สังวรออดอ้อนขอร้องพระยาสมิติภูมิอย่าทิ้งขว้าง พระยาสมิติภูมิรับคำทำให้สังวรไม่เกรงกลัวคุณหญิงศรี โดยเฉพาะกับเมี้ยนมักเป็นคู่ปรับกันเป็นประจำ คุณหญิงศรีแม้จะไม่ชอบสังวรแต่ก็ทำให้เธอพ้นหน้าที่ต้องกลับนอนกับพระยา สมิติภูมิ คุณหญิงศรีฉลาดไม่ลดตัวไปทะเลาะกับสังวรให้เป็นหน้าที่ของเมี้ยน สังวรท้องสมใจอยากกะได้ลูกชายมาสืบทอดตระกูลเขี่ยคุณหญิงศรีให้กระเด็น คุณหญิงศรีรับรู้แผนการของสังวร โดยมีเมี้ยนคอยจับตาดู คุณหญิงศรีไม่มีวันยอมให้พระยาสมิติภูมิมีลูกกับบ่าวไพร่ขี้อิจฉาคนใดโดย เด็ดขาด

สังวรยังไม่ทันบอกให้ใครเรื่องตั้งท้องรู้นอกจากสังเวียนน้องสาว น้อยเมียบ่าวผู้ทะเยอทะยานแอบฟังสองพี่น้องคุยกันจึงรีบไปบอกเมี้ยน เมี้ยนไปบอกคุณหญิงหญิงศรี แต่คุณหญิงศรียินดีกับสังวรยกใหญ่เมี้ยนถึงกับแปลกใจ สังวรผยองยกใหญ่วางก้ามตีเสมอเผลอเบ่งทับคุณหญิงศรี

เมี้ยนโมโหและโกรธจัด วางแผนเฉดหัวสังวรออกจากบ้านเนียนๆ ให้คุณหญิงศรี โดยแสร้งชวนสังวรมาคุยในห้องคุณหญิงศรี แล้วทิ้งไว้คนเดียว เมี้ยนจัดแจงนำเอาเครื่องเพชรของคุณหญิงศรีไปซ่อนไว้ในห้องของสังวร พร้อมกับร้องโวยวายว่าสังวรขโมยเครื่องเพชรไป คุณหญิงศรีให้ทางเลือกสองทาง ส่งตำรวจหรือต้องไปจากบ้าน สังวรจำนนต่อหลักฐาน พวกบ่าวไพร่คนในบ้านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มีแต่สังเวียนเท่านั้นที่ไม่เชื่อเต็มที่ว่าสังวรจะขโมย สังวรต้องออกจากบ้านไปโดยมีลูกติดท้องไปด้วย ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิไม่รู้ว่าสังวรท้องรู้แต่ว่าขโมยของคุณหญิงแล้วหนีไป เพราะกลัวความผิด

สังวรกลับไปคลอดลูกชายตั้งชื่อว่า ทอง (โตขึ้นเป็น ศรุต สุวรรณภักดี) พร้อมกับเลี้ยงดูและเสี้ยมสอนให้ทองกลับมาแก้แค้นคุณหญิงศรีแทนตน

หลังจากเห็นพี่สาวถูกใส่ร้าย สังเวียนเจ็บแค้นคุณหญิงศรีที่กลั่นแกล้งสังวร จึงพยายามท้องกับเจ้าพระยาสมิติภูมิให้ได้ สังเวียนสนิทกับแกละที่ยังแคล้วคลาดไม่ได้เป็นภรรยาของท่านสมิติภูมิสักที สังเวียนพยายามไปปรนนิบัติเจ้าพระยาสมิติภูมิแทนคิวของแกละ และคอยเสี้ยมแกละให้ลาออกไปกับ ซ้ง (พศิน ศรีธรรม) กุ๊กจีนที่รักใคร่ชอบพอกันอยู่ ในที่สุดทั้งสองลาออกไปเปิดร้านอาหารจีนภายหลังกิจการเจริญรุ่งเรืองใหญ่โต และมีชื่อเสียงมากในเวลาต่อมา แกละเปลี่ยนชื่อเป็นลออศรีวดี ตามชื่อของคุณหญิงลออศรี ต่อมาเติมวดีข้าไปอีก แกละจึงมีชื่อยาวมากว่า คุณหญิงลออศรีวดี ส่วนซ้งก็เปลี่ยนชื่อเป็นคุณทรงวาด

น้อยเมียบ่าวอีกคนดีใจที่สังวรถูกกำจัดออกไป และหวังมีลูกกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเช่นกัน น้อยอิจฉาสังเวียนที่กลายเป็นคนโปรด คอยติดตามข่าวสังเวียนไปบอกเมี้ยนหวังรางวัล หารู้ไม่ว่าเมี้ยนไม่ไว้ใจน้อยเช่นกัน

ในที่สุดสังเวียนท้องกับพระยาสมิติภูมิ แต่ขอร้องไม่ให้บอกใคร เจ้าพระยาสมิติภูมิรับปาก และทำให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสังเวียนอีก เมี้ยนจับสังเกตอยู่ด้วยความแปลกใจ น้อยมาส่งข่าวว่าสังเวียนน่าจะท้อง คุณหญิงศรีสงบนิ่งด้วยยังไม่แน่ใจ เพราะกำลังวางแผนแต่งงานให้ศุกลกับสะบันงา เมื่อหมดคนที่จะส่งไปให้ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิ อีกทั้งท่านเจ้าพระยาไม่ต้องการน้อยเพราะปากมาก เมี้ยนก็มีรอบเดือน คุณหญิงศรีรักน้องชายมากและหวงสะบันงาไว้ให้น้องชาย จึงยอมไปนอนกับเจ้าพระยาสมิติภูมิเสียเอง พร้อมกับเตือนสะบันงาให้ระวังตัว

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏว่าคุณหญิงศรีท้องมีอาการแพ้และป่วยจนนอนอยู่แต่ในห้อง ไม่สามารถปกป้องสะบันงาให้น้องชายได้อีก แม้สะบันงาจะเฝ้าดูแลคุณหญิงศรีตลอดเวลา แต่ก็ต้องโดนเรียกไปพบท่านเจ้าพระยาในที่สุด

โชคยังดีที่เจ้าพระยาสมิติภูมิไม่ได้หลับนอนกับสะบันงาทันที เพราะจะถนอมเอาไว้ให้สะบันงาเต็มใจรับรักท่าน ท่านหลงรักสะบันงายิ่งกว่าหญิงใดๆ แม้แต่คุณหญิง ยิ่งพบว่าสะบันงาเก่งกาจเพราะเรียนรู้จากคุณหญิง ท่านยิ่งหลงใหล จ้างครูมาสอนสารพัดวิชาให้สะบันงา

ศุกลมาเยี่ยมคุณหญิงศรีและรู้ว่าสะบันงาเข้าไปดูแลปรนนิบัติพระยา สมิติภูมิก็เสียใจมาก คุณหญิงศรีบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอเวลาไม่ได้แล้ว บอกให้ทั้งสองคนหนีไปด้วยกัน น้อยมาแอบฟังจึงรีบไปฟ้องสังเวียน และสังเวียนไปฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิต่อ สังเวียนกร่างใหญ่โตเบ่งมากมีปากเสียงกับเมี้ยนไม่เกรงกลัวใคร เพราะเจ้าพระยาสมิติภูมิคอยให้ท้าย สังเวียนแอบส่งจดหมายถึงสังวรแจ้งข่าวท้องฝาก นายยอด (กษาปณ์ จำปาดิบ) คนรถไปส่ง ด้านนายยอดไม่ชอบหน้าสองพี่น้องจึงแอบเปิดอ่านและเอาจดหมายไปให้เมี้ยนเพราะ หวังรางวัล คุณหญิงศรีอ่านจดหมายจึงรู้ว่าสังเวียนท้องจริง และยังรู้ด้วยว่าสังเวียนเอาสมุนไพรทำให้แท้งลูกใส่ในยาหม้อบำรุงครรภ์ของ คุณหญิงศรี เหตุนี้คุณหญิงศรีจึงป่วยกระเสาะกระแสะ

คุณหญิงศรีแค้นมากแต่อีเมี้ยนแค้นกว่า จึงอาสาจัดการให้ โดยจ้างยอดให้เข้าหาสังเวียน สังเวียนต่อสู้แทงยอดด้วยมีด เมี้ยนเข้าไปเจอสังเวียนอยู่กับยอด จึงต่อว่าเสียงดังและเอาจดหมายที่สังเวียนคิดร้ายกับคุณหญิงโชว์ให้ดู สังเวียนตกใจกลัวมากจนด้วยหลักฐาน เมี้ยนขู่จะบอกท่านเจ้าพระยา สังเวียนจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมลูกในท้อง ส่วนยอดเมี้ยนปิดปากด้วยการลอบวางยาพิษ เจ้าพระยาสมิติภูมิอดสงสัยไม่ได้ แต่คุณหญิงเอาจดหมายที่สังเวียนเขียนถึงพี่สาวให้ท่านเจ้าพระยาอ่าน ท่านพูดไม่ออกเพราะสังเวียนปองร้ายคุณหญิงศรีจึงและคิดร้ายถึงขึ้นจะฆ่าลูก ในในท้องให้แท้ง จึงเงียบและไม่ต้องการให้เรื่องอื้อฉาว

เวลาต่อมาคุณหญิงศรีคลอดลูกสาวชื่อ พริสซิลลา หน้าตางดงามแต่ไม่แข็งแรงนัก คุณหญิงศรีไม่มีน้ำนม เมี้ยนต้องไปเอาบ่าวชื่อ ดา (มนตระกานต์ ทองขาว) พี่สาวของเดือน (อุษณีย์ วัฒฐานะ) มาเป็นแม่นม

น้อยมาบอกให้เจ้าพระยาสมิติภูมิไปดูศุกลกับสะบันงาคุยกันอย่างสนิท สนมใต้ต้นพิกุล ท่านตัดสินใจเลิกทะนุถนอมสะบันงาเอาไว้ต่อไป เจ้าพระยาสมิติภูมิกักสะบันงา ไม่ยอมส่งสะบันงากลับไปดูแลคุณหญิง และให้คุณหมออดุล หมอประจำบ้านมาดูแลพร้อมด้วยพยาบาลและเมี้ยน สะบันงาตกเป็นภรรยาของเจ้าพระยาสมิติภูมิจึงปฏิเสธแต่งงานกับศุกลเพราะมี มลทิน แต่ศุกลกลับไม่ถือสา เขารักสะบันงายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก และให้ตัดสินใจหนีไปกับเขา ศุกลจะส่งรถมารับ นัดหมายให้ออกไปตอนเที่ยงคืนแรมสิบห้าค่ำที่จะมาถึง ถ้าไม่ออกมาเขาจะรอจนกว่าจะตาย สะบันงาสองจิตสองใจ น้อยแอบฟังที่ศุกลบอก แต่บิดเบือนเมื่อมารายงานท่านเจ้าพระยาว่าสะบันงานัดศุกลให้มารับเพื่อจะหนี ไปด้วยกัน ท่านแค้นมาก สั่งน้อยหานักเลงมาให้สองคน โดยท่านเจ้าพระยาสั่งให้เอาศุกลไปทำร้ายสั่งสอนให้เข็ดหลาบเท่านั้น

เมื่อถึงวันนัด สะบันงาไม่ยอมลงไป เพราะไม่ต้องการทรยศต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ศุกลมารอรับสะบันงาตามที่นัดหมายไว้ ขณะเดินไปรอที่ต้นพิกุลใหญ่ เขาโดนสองคนทำร้ายทุบตีและอุ้มหายไป ขณะเดียวกันนั้น คุณหญิงศรีซึ่งอยู่ในห้องกับพริสซิลลาที่ยังแบเบาะมองทางหน้าต่าง เห็นสองคนกำลังอุ้มและทุบตีใครคนหนึ่งไป เอะใจว่าเป็นศุกลจึงลอบลงเรือนตามไปดู ทิ้งให้พริสซิลลาหลับอยู่ตามลำพัง เมี้ยนได้ยินเสียงพริสซิลลาร้องไห้วิ่งมาดู ไม่พบคุณหญิงศรีก็ตกใจมาก จึงมาเรียกน้อยไปตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลา น้อยฉวยโอกาสมากระซิบสะบันงา

เมื่อรู้ว่าพริสซิลลาไม่มีใครดูแลเพราะเมี้ยนจะออกไปตามหาคุณหญิงศรี สะบันงาจึงขอไปดูแลพริสซิลลา ระหว่างทางน้อยกลับชวนไปแวะที่ต้นพิกุลใหญ่ บอกว่ามีคนรอพบถ้าไม่ไปพบเขาจะขึ้นไปหาเจ้าพระยาสมิติภูมิ สะบันงายอมไปแต่ไม่พบใคร น้อยย้อนกลับมาฟ้องท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิว่าสะบันงาไปรอพบศุกล สะบันงาเจอเมี้ยนระหว่างทางจึงรู้ว่าโดนน้อยหลอก เมี้ยนตามเดือนกับดามาดูแลพริสซิลลาแทนแล้ว เมี้ยนโกรธน้อยมากรู้ว่าน้อยหักหลัง แต่ต้องรีบไปตามหาคุณหญิง

ท่านเจ้าพระยาตามลงมาหาสะบันงาชวนกลับเรือนไปโดยไม่บอกว่ารู้เรื่อง ใดๆ สั่งให้สะบันงาอยู่แต่ในห้องอย่าไปไหน ส่วนตนเองออกไปดูผลงาน น้อยแอบวางเพลิงเรือนคุณหญิงศรีหวังให้พริสซิลลาตาย จากนั้นแอบไปดูผลงานที่สองโจรทำร้ายศุกลเพื่อรอรับส่วนแบ่งรางวัลตามที่ตกลง กันไว้ โจรสองคนเกิดโลภทำร้ายศุกลเมื่อเห็นว่ามีทองหยองเงินทองติดตัวมากมาย จึงริบมาหมดกลายเป็นฆ่าชิงทรัพย์ ขณะรูดแหวนติดนิ้วที่มีอักษรไขว้ ศก. คุณหญิงตามมาเจอโจรสองคน กระโจนเข้าไปหาน้องชายด่าว่าโจรเป็นการใหญ่ โจรชั่วสองคนที่กำลังขุดหลุมรอฝังศุกลโมโหใช้จอบฟันเข้าที่หน้าคุณหญิงศรีจน หน้าเละไปข้างหนึ่ง คุณหญิงไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามคลานไปขัดขวางจึงโดนจอบฟันขาเดี้ยงไปข้างหนึ่ง เมื่อจะฟันมือปรากฏว่าคุณหญิงศรีหลบทันก่อนจะแกล้งนอนสลบ

น้อยพรวดออกมาแสดงความยินดีกับสองโจรเพื่อตั้งใจมาขอส่วนแบ่ง โจรสองคนจึงฟันน้อยตายไปด้วย เมื่อฝังศุกลและน้อยเสร็จ สองโจรคิดว่าคุณหญิงศรีตายแล้ว กำลังจะฝัง แต่ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาพบโจรสองคนตามนัดหมายเพื่อให้ค่าจ้างเสียก่อน และรู้ว่าโจรสองคนฆ่าศุกลแถมคุณหญิงศรีนอนตายอีกคน จึงโกรธมากด่าว่าโจรสองคน ทั้งสองคนบอกว่าคุณหญิงศรีมาขัดขวางจึงตัดสินใจฆ่า

ท่านเจ้าพระยาเสียใจมาก และจะยิงโจรทั้งสองคนทิ้งแต่เห็นไฟลุกท่วมบ้านที่คุณหญิงพัก ก็ตกใจกลัวพริสซิลลาโดนไฟครอกจึงรีบหันกลับบ้านเพื่อไปดูลูก โจรสองคนฉวยโอกาสหนีไปพร้อมค่าจ้าง

พอทุกคนคล้อยตัวไป เมี้ยนตามมา และพบสภาพคุณหญิงศรีก็หัวใจสลาย สงสารคุณหญิงจับใจ เมื่อเห็นว่าคุณหญิงยังไม่ตายจึงรีบอุ้มไปหลบที่รถของศุกลที่จอดแอบรออยู่ โดยให้คนรถขับพาไปที่บ้านของตนเองที่ปทุมธานี

ด้านสะบันงารีบออกจากตึกของท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิมาช่วยพริสซิลลา กับเดือนและดา เจ้าพระยามาถึงบ้านไฟมอดไหม้มจนเป็นจุณ พริสซิลลาปลอดภัยเพราะทั้งสามคนช่วยไว้ ท่านซาบซึ้งในน้ำใจของทั้งสาม จากนั้นจึงย้อนกลับมาดูร่างคุณหญิงศรี แต่ร่างคุณหญิงหายไปไร้ร่องรอย จึงเข้าใจว่าพวกโจรพวกนั้นเอาศพไปด้วย ท่านเจ้าพระยาไม่สบายใจมากเรื่องคุณหญิงศรี และกลายเป็นหนามทิ่มแทงให้เจ็บปวดหัวใจจนกลายเป็นโรคหัวใจในเวลาต่อมา

ท่านเจ้าพระยาประกาศว่าคุณหญิงศรีเสียชีวิตในกองเพลิง และจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ส่วนสะบันงาได้รับการยกย่องเป็นภรรยาเอกเลื่อนฐานะเป็นคุณหญิง เธอดูแลพริสซิลลาอย่างดีรักเหมือนลูก พริสซิลลาโตขึ้นปรากฏว่าเป็นออทิสติก แต่คนในสมัยนั้นคิดว่าเด็กปัญญาอ่อน เธอเป็นเด็กสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตา พระยาสมิติภูมิรักลูกสาวคนนี้มาก สะบันงาก็รักใคร่เอ็นดูเช่นกัน สะบันงาไม่เชื่อว่าพริสซิลลาปัญญาอ่อนพยายามดูแลอย่างดี พริสซิลลามีความจำดีอย่างมหัศจรรย์มักรู้อะไรที่ใครนึกไม่ถึง คิดเลขได้เร็ว

สะบันงายังรักศุกลแม้จะไม่ได้คิดหนีตามไป แต่เข้าใจผิดคิดว่าศุกลหลอกว่าจะมาพบแต่ไม่กลับมาเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีคนเอาไปนินทาว่าเป็นฝีมือของสะบันงา ซึ่งวางแผนกำจัดคุณหญิงศรี ฆ่าตายหมกไว้ที่ไหนสักแห่ง บ้างว่าคุณหญิงศรีหนีตามน้องชายคนละแม่ สะบันงาเสียใจแต่นิ่งเฉยเสีย ท่านเจ้าพระยาคอยปลอบใจและรักสะบันงามากขึ้นทุกวัน และเล่นงานทุกคนที่พูดเรื่องนี้จนพากันเงียบปากไป โดยเฉพาะคุณหญิงลออศรี หรือ แกละนั่นเองคือตัวกระจายข่าวในวงชั้นสูง ภายหลังพระยาเกษมได้มาพบปะสะบันงาจึงรู้สึกดีขึ้น

เวลาผ่านไปสะบันงามีลูกสาวคนแรกกับเจ่าพระยาสมิติภูมิ ชื่อ พริ้มเพรา เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เมี้ยนกลับมาหาสะบันงาบอกว่าขอพาพี่สาวทีพิการมาขอ อาศัยอยู่บ้านท้ายสวน โดยไม่ยอมบอกว่าที่แท้เป็นคุณหญิงศรีนั่นเอง สะบันงาอนุญาตด้วยความเต็มใจ และถามไถ่ถึงคุณหญิงศรี สะบันงาร้องไห้เสียใจที่คุณหญิงศรีหายไป เธอยังเคารพเทิดทูนและรู้ซึ่งในพระคุณคุณหญิงศรีเสมอ เมี้ยนฟังแล้วถึงกับร้องไห้โฮนำความมาบอกคุณหญิงศรี

คุณหญิงได้ทราบว่าสะบันงาปฏิเสธไม่ให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิง เพราะเธอมั่นใจว่าคุณหญิงศรียังมีชีวิตอยู่ คุณหญิงศรีถึงกับตื้นตันน้ำตาคลอขนาดไม่รู้ว่าเป็นคุณหญิงมาอาศัยอยู่ สะบันงายังใส่ใจส่งอาหารขนมนมเนยของใช้ทุกอย่างมาให้กินให้ใช้ แม้ว่าจะแปลกใจไม่น้อยที่รู้ว่าพี่สาวเมี้ยนคนนี้ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และทานอาหารด้วยมีดและส้อม

สะบันงาพยายามขอไปเยี่ยมพี่สาว แต่เมื่อเมี้ยนไปรายงาน ถูกคุณหญิงศรีปฏิเสธ บ่าวไพร่หลายคนไปเดินเล่นแถวนั้นพบหญิงสูงวัยพิการหน้าคล้ายผี ต่างตกใจวิ่งหนีกันทุกคน ภายหลังเมี้ยนไปหาหน้ากากมาให้ใส่บังใบหน้าแทน

คุณหญิงศรีมักแอบไปนั่งที่หลุมฝังศพศุกล นำดอกไม้ไปวางไว้ พูดกับหลุมศพน้องเสมอ เจ้าพระยาสมิติภูมิก็เช่นกันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงมักวนเวียนไปขอโทษ ศุกลที่นั่น จนอยู่มาวันหนึ่งพบดอกไม้วางอยู่เช่นเคย ผู้วางยังไม่ทันออกไปพ้น เจ้าพระยาสมิติภูมิตามไปกระชากไหล่ให้หันกลับมา หญิงคนนั้นใส่หน้ากากเห็นแค่ดวงตาข้างที่ไม่บอด ท่านจำได้ทันทีว่าคือดวงตาของคุณหญิง อุทานเรียกชื่อออกไปคุณหญิงผลักท่านเจ้าพระยาล้มลงแล้วกระเซอะกระเซิงหนีไป เจ้าพระยาสมิติภูมิยิ่งเสียใจมาก สงสารคุณหญิงศรีจับใจ ส่งคนไปสร้างบ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่ มีทุกอย่างครบครันแทนกระท่อมผุพัง

สะบันงาเลี้ยงดูพริสซิลลาอย่างดี จนต่อมา สะบันงามีลูกสาวคนที่สองชื่อ แพรวพรรณราย และลูกสาวคนที่สามชื่อ พราวพิลาส แต่ละครล้วนงดงามน่ารัก แถมยังมีลูกชายคนสุดท้องชื่อพฤกษ์ สมหวังดังปรารถนาของท่านเจ้าพระยาที่จะมีลูกไว้สิบสกุล เดือนผู้แสนดีได้รับการสนับสนุนจากสะบันงา ให้มาเป็นภรรยาคนที่สองของเจ้าพระยาต่อจากเธอ และมีลูกชายกับท่านเจ้าพระยาอายุแก่กว่าพฤกษ์สามวัน ชื่อ พจน์ และได้เกิดเรื่องราวกับพฤกษ์ดังได้กล่าวไปแล้ว พจน์จึงกลายเป็นผู้สืบสกุลแทน

ท่านเจ้าพระยาสมิติภูมิอุปการะเด็กชายคนหนึ่งชื่อ ศีล (พิชยดนย์ พึ่งพันธ์) เนื่องจากพ่อแม่ตาย จากการไปช่วยงานกฐินของท่าน ศีลเป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก และกลับมาทำงานเป็นผู้จัดการห้างของตระกูลสมิติภูมิ เป็นที่ไว้วางใจของทุกคนในบ้าน

สะบันงามีเพื่อนสนิทชื่อ ปานวาด (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เป็นลูกสาวของคุณหญิงลออศรี ปานวาดถูกส่งไปเรียนฝรั่งเศส มีสามีเป็นนักดนตรี ชื่อ ปีแอร์ และมีลูกชายด้วยกันชื่อ ธรรม์ (ชินวุฒ อินทรคูสิน) ปีแอร์โดนรถชนจนพิการ ปานวาดเลิกเรียนเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้รักษาตัวสามี ปีแอร์ทนดูสภาพปานวดลำบากไม่ได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ปานวาดตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้าน คุณหญิงไม่พอใจมาก แต่พระยาเกษมกลับนิ่งเฉย พาปานวาดมาพบกับสะบันงา สะบันงาให้กำลังใจปานวาด

ธรรม์กลายเป็นเพื่อนสนิทกับพริ้มเพรา แพรวพรรณราย โดยเฉพาะพิมพิลาส เนื่องจากชอบดนตรีเหมือนกัน พริ้มเพราสงบเสงี่ยมสุขมรอบคอบ ชอบไปหลังบ้านพบคุณป้าพิการ เธอไม่ตกใจกลัวเช่นคนอื่นพูดด้วยอย่างดี ศรีสอนภาษาให้พริ้มเพราและรักเหมือนลูกสาวอีกคน ศรีส่งข่าวให้ครอบครัวทราบว่ายังไม่ตายแต่ไม่พร้อมจะไปพบ ไม่ต้องการให้พ่อแม่เห็นหน้าผีของตนส่วนศุกลนั้นตายแล้ว ต่อมาภายหลังสิ้นเจ้าสัว ศรีได้รับมรดกทั้งหมดจึงยกต่อให้พริ้มเพรา

ส่วนพริสซิลลามักจะไปเดินเล่นในสวน จนพบศรีกลับจำได้ว่าเป็นแม่ และเรียกเธอว่าแม่ ศรีเสียใจมากแต่ไม่อาจยอมรับว่าเป็นแม่ให้เมี้ยนพากลับไปหาสะบันงา กำชับว่าห้ามบอกพริสซิลลามาเล่นแถวนั้นอีก แต่พริสซิลลาก็แอบมาจนได้

ฟากสองโจรชั่วใช้เงินหมดแล้วย้อนกลับมาจะไถเงินท่านเจ้าพระยาสมิติ ภูมิ พบกับพริสซิลลาสวยงามน่ารักมาด้อมมองเรียกหาแม่จึงฉุดคร่าจะข่มขืน ศรีมาพบใช้จอบฟาดสองคนซมซานหนีไปตายอย่างน่าอนาถ เมี้ยนพาพริสซิลลากลับไปหาสะบันงาอีก สะบันงาตัดสินใจปรึกษาเจ้าพระยาสมิติภูมิเรื่องส่งตัวพริสซิลลาไปรักษาโดยมี หมออดุลคอยดูแล ส่วนอุดร ลูกชายหมอรู้จักคุ้นเคยกับลูกๆ ของสะบันงาและสนิทเป็นคู่ๆ

อุดรสนิทและรักกับพริ้มเพราแต่ไม่สมหวัง เพราะพริ้มเพรารักธรรม์มากกว่า ส่วนธรรม์สนิทสนมกับพราวพิลาสเพราะรักดนตรีเหมือนกัน แพรวพรรณรายคอยตามกลั่นแกล้งทุกคนเพราะไม่มีใครจับคู่ด้วย พฤกษ์สนิทกับพจน์ไปไหนมีพจน์ตามไปด้วยดั่งเงา

ทุกคนดีกับพจน์ยกเว้นแพรวที่ชอบด่าว่าเป็นลูกบ่าว พริ้มเพรามีเพื่อนสนิทชื่อเมขลา เด็กยากไร้มาขอรับใช้ มาร์แมร์ เพื่อแลกกับการได้เรียนโรงเรียนไฮโซ โดยอาสาว่าจะกลับมาสอนหนังสือตอบแทนเมื่อเรียนจบ ไม่มีใครคบกับเมขลาเลย เพราะนิสัยไม่ดียกเว้นพริ้มเพรา เมขลามักหยิบเอาข้าวเอาของและแอบอ้างชื่อพริ้มเพราไปเบ่งใส่ใครต่อใคร

วันหนึ่งพฤกษ์กับพจน์พากันไปขุดไส้เดือนตกปลา กลับไปขุดพบกระดูกคนจึงร้องโวยวายขึ้นมา แพรวตามไปแกล้งพจน์พบแหวนที่โครงกระดูกรีบเอามาบอกสะบันงา สะบันงาเห็นแหวนสลัก ศก. ถึงกับลมจับ และรู้ความจริงว่าศุกลมารอรับเธอจริงๆ แต่โดนฆ่าตาย มั่นใจว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศุกล จึงไปโวยวายต่อว่าเจ้าพระยาสมิติภูมิฆ่าศรีด้วย ท่านเจ้าพระยาหัวใจวายกะทันหัน ก่อนสิ้นลมยังทันได้บอกว่าคุณหญิงยังไม่ตายอยู่ท้ายบ้านสวน สะบันงารีบไปเชิญคุณหญิงศรีกลับมาเอาบ้าน เอาตำแหน่งคืนให้ คุณหญิงศรีไม่ยอมรับ และบอกว่าเธอคือคนสาบสูญขออาศัยอยู่แต่บนเรือนเท่านั้น

สองคนรักใคร่ปรองดองกันดังเดิม สะบันงายอมรับให้ทุกคนเรียกว่าคุณหญิงเนื่องจากคุณหญิงศรีอนุญาตแล้ว เคารพเรียกศรีว่าคุณพี่ เมี้ยนปรึกษาดูแลทุกอย่างในบ้านเช่นเดิม สะบันงามีความสุขมากจนถึงวันที่พฤกษ์ตายสะบันงาใจสลาย ผมที่เคยดกดำเปลี่ยนเป็นสีขาวชั่วข้ามคืน ด้านพริ้มเพรา ถูกส่งให้ส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังเริ่มวัยรุ่น สะบันงาตัดสินใจส่งพจน์ไปแทนพฤกษ์ ส่วนเมขลาอยากไปนอกอย่างพริ้มเพราะบ้าง ตั้งใจเรียนเต็มที่ได้ทุนไปนอกจนได้ ก่อนไปได้ทำทีพบกับศีลที่เคยพบที่บ้านพริ้มเพรา อ้างว่าเป็นเพื่อนพริ้มเพราให้มาหาศีลดูข้าวของเครื่องใช้ไปนอก ศีลใจดีให้เสื้อผ้าไปใส่เมืองนอกมากมายทำให้เมขลาอยากได้ศีลเป็นสามี แต่ศีลนิ่งเฉยมากเมขลาจึงอดใจไว้ก่อน

ศีลกลับเอ็นดูหลงใหลสาวน้อยวัยรุ่นพราวพิลาส ชอบฟังเสียงเธอเล่นเปียโน เขาหาเปียโนมาให้เล่น หาครูมาสอน พราวพิลาสนับถือศีลเป็นญาติผู้ใหญ่ แต่กลับพึงพอใจธรรม์ที่คอยตามติดเล่นดนตรีด้วยกัน โชคร้ายธรรม์ได้เวลาไปเรียนต่อ อาคม สามีใหม่ของปานวาดแนะนำให้ไปเรียนกฎหมาย ธรรม์เคยสัญญากับพราวพิลาสว่าจะไม่ไปไหน เขาจำต้องไปและบอกว่าจะกลับมาเมื่อเรียนจบ แต่พอเรียนจบจริง ธรรม์กลับมาเรียนดนตรีต่อและไปรับพ่อของลูกเพื่อนสนิทชื่อ ชองปอล ข่าวนี้ทำให้พราวพิลาสเสียใจมาก เธอเศร้าซึมและแต่งเพลงหลายเพลงล้วนเศร้าสะเทือนใจ ศีลพยายามปลอบโยนชวนไปร้องเพลงที่ห้องอาหารในโรงแรมใหญ่ ศรีขอร้องให้สะบันงาอนุญาตเพื่อรักษาแผลใจ พราวพิลาสรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อศีลคอยดูแลทำให้อุ่นใจ

ต่อมาศีลไปดูงานเมืองนอกพบเมขลาอยู่ที่เมืองนั้นพอดี เมขลาทำที่ว่าโดนคนร้ายปล้นหมดตัวมาขออาศัยศีลอยู่ และมอมเหล้าจนได้เสียกันกับศีล ศีลไม่สบายใจมากแต่จำต้องแต่งงานเพราะเมขลาท้องส่วนเมขลาคลอดลูกปุ๊บก็สอบ ชิงทุนไปเรียนต่ออีก ทิ้งลูกไว้กับศีลแบบไม่ไยดี ศีลผิดหวังโกรธตัวเองเพราะต้องการขอพราวพิลาสแต่งงาน ศีลอกหัก แต่พยายามประคองตัวเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดี พราวพิลาสเอ็นดูหนูน้อยมาก

พริ้มเพรากลับมาเมืองไทยท่ามกลางความยินดีของทุกคน อุดรกลายเป็นหมอหวังจะแต่งงานกับพริ้มเพราตามที่สะบันงาและศรีคอยสนับสนุน หวังให้พริ้มเพราดูแลกิจการของตนเอง แต่พริ้มเพรากลับหันไปเข้าวัดและจำศีลไม่กลับบ้าน ต่อมาสุดท้ายกลายเป็นบวชชี อุดรผิดวังแต่ก็สนับสนุนช่วยทำหนังสือธรรมะ พริ้มเพรากลับบ้านเมื่อมีเหตุสำคัญเพื่อมาปลอบใจให้คำแนะนำทำให้ทุกคนสงบใจ ได้

ส่วนแพรวพรรณรายร้ายกาจมาก ถึงขั้นแอบไปขึ้นเรือที่พจน์ไปนอก แพรวพรรณรายอยากไปมาก แต่โดนจับได้ก่อน โดนส่งตัวกลับมาบ้าน แต่มาสมหวังเมื่อ เลดี้แลนดอล น้องสาวของพระยาสมิติภูมิตายลง จึงได้มอบมรดกเป็นไร่ชาที่ดาจิริ่งให้พระยาสมิติภูมิ แพรวพรรณรายอาสาไปดูแลไร่ชา สะบันงาค้านแต่ศรีสนับสนุน แพรวพรรณรายหารู้ไม่ว่า พอล (มิกค์ ทองระย้า) หลานชายแท้ๆ ของลอร์ดแลนดอล สามีเลดี้วางแผนฆ่าเจ้าพระยาสมิติภูมิเอาไว้

พอพบหน้ากัน พอลถึงกับตะลึง เพราะไม่ใช่ชายแก่ที่ต้องการฆ่า แต่กลับเป็นสาวน้อยสวยงาม เช่นเดียวกับแพรวพรรณรายพบชายหนุ่มหล่อเหลาผู้น่าหลงใหล มีสาวน้อยข้างไร่ซึ่งรักพอล พยายามมากระแนะกระแหนดูถูกแพรวพรรณรายแต่เจอตอกกลับ พอลเข้าข้างแพรวพรรณรายและบอกสาวน้อยคนนั้นตามตรงว่าเขาไม่ได้รักเธอ พอลช่วยดูแลไร่ชา คอยแนะนำให้แพรวพรรณรายเข้าใจเป็นอย่างดี แล้วบอกลากลับอังกฤษ แพรวพรรณรายเสียใจมากไม่ยอมให้ไป พอลยืนยันจะไปเพราะไม่ต้องการเกาะเธอกิน แพรวพรรณรายขี่ม้าแบล็กการ์ดตัวโปรดของพอลตกเหว ม้าตายแต่แพรวพรรณรายกระโดดเกาะโขดหินไว้ได้บาดเจ็บสาหัส พอลเสียใจมากสารภาพว่ารักแพรวพรรณรายและจะไม่ทิ้งแพรวพรรณรายไปไหน ทั้งคู่ช่วยกันสร้างไร่ชา สร้างโรงแรมกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังไปทั่ว แพรวพรรณรายมีลูกกับพอลสามคน ทุกคนกลับมาคลอดที่เมืองไทย

ทางด้านพราวพิลาสตกหลุมรักศีล และตกเป็นของศีล ศีลสัญญาว่าเมขลากลับมาจะขอหย่าเพื่อมาแต่งงานกับพราวพิลาสทันที พราวพิลาสมีความหวังอีกครั้ง ธรรม์กลับมาเมืองไทยเนื่องจากสามีของชองปอลสำนึกผิดและขอคืนดีโดยที่ชองปอ ลเต็มใจ ธรรม์พยายามงอนง้อพราวพิลาส ทุกคนลุ้นให้พราวพิลาสแต่งงานกับธรรม์ แต่พราวพิลาสเป็นของศีลแล้วธรรม์เสียใจผิดหวังได้แต่โทษตัวเองที่ทิ้งพราว พิลาสไป เมขลากลับมาศีลขอหย่าทันทีเมขลาวางแผนร้ายใหม่ ทำทีตกลงแล้วขอฉลองการจากลาฉวยโอกาสนอนกับศีลจากนั้นโกหกว่าท้อง หลอกมาได้ปีกว่าศีลจับได้จึงขอหย่า เมขลายอมหย่าแต่กลับวางแผนร้ายกับ จิรศักดิ์ เศรษฐีใหม่ให้หลอกปล้ำพราวพิลาสแต่ไม่สำเร็จ ตนเองกลับโดนหลอกเป็นเมียเก็บโดนซ้อม พราวพิลาสได้แต่งงานกับศีลมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกหนูของเมขลา เมขลาสอนให้ลูกเกลียดพราวพิลาสแต่เด็กไม่ยอมเกลียด พอพราวพิลาสมีลูกกับศีล เมขลาจึงหันมาสอนให้ลูกหนูอิจฉาน้องแทน

วันคืนโหดร้ายมาถึง ขณะพราวพิลาสเดินไปชงนม หนูน้อยนั่งมองน้องตัวน้อยในรถเข็นตรงระเบียงเข็นน้องไปติดขอบระเบียง น้องหนูตามไปจะช่วยน้องทำให้ทั้งคู่พลัดตกจากระเบียงพร้อมกัน พราวพิลาสถือขวดนมเดินกลับมาตกตะลึงกระโจนไปที่เด็กทั้งสองกอดประคองไว้พลัด ตกลงมาจากระเบียงพร้อมกันต่อหน้าต่อตาศีลที่กลับมาจากทำงาน เด็กทั้งสองทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนพราวพิลาสขยับตัวเดินไม่ได้ เมขลาเสียใจที่ลูกตนเองตายแต่พราวพิลาสกลับไม่ตาย เมขลาอาละวาดที่โรงพยาบาล เธอเดินหลงไปที่ห้องเก็บศพไม่มีใครเห็นจึงโดนล็อกห้องติดอยู่ในนั้น จนกลายเป็นบ้าในที่สุด

และต่อมาภายหลังทองลูกชายของสังวรได้กลับมาแก้แค้นตอนโตแล้ว แต่เข้าใจผิด จึงไปแก้แค้นคุณหญิงสะบันงาเพราะคิดว่าเป็นคุณหญิงศรี โดยทองปลอมตัวมาทำงานในบ้านหลอก พฤกษ์ จับตัวไปหมายจะฆ่าให้ตาย แต่ความที่พฤกษ์เป็นคนดี ไม่เคยดุด่าว่าร้ายตอบทอง อีกทั้งทองสำนึกว่าพฤกษ์คือน้องจึงฆ่าไม่ลง และเปลี่ยนใจโดยไม่บอกพฤกษ์ให้รู้ว่าจะปล่อย ผูกพฤกษ์ไว้กับพงอ้อกันหนี แต่เป็นเพราะพฤกษ์ตากฝนอดข้าวรอทองกลับมา แม้ที่สุดจะพยายามช่วยตัวเองหนี แต่ไม่สำเร็จ ร่างกายอ่อนแรงอดข้าวตายก่อนที่ทองจะบอกคุณหญิงสะบันงาให้รู้ความจริง

ส่วนทองเมื่อไปถึง ก็โดนตำรวจที่กำลังระดมตามหาพฤกษ์ไล่จับตัว ทองยิงสู้จึงโดนยิงทิ้งตาย กว่าจะเจอศพพฤกษ์ก็อีกหลายวัน สะบันงาหัวใจสลาย ต่อมา พจน์คู่หูและเป็นพี่ชายแก่กว่าสามวันลูกชายของ เดือน เคยเป็นแม่นมของพริสซิลลา ได้เลื่อนฐานะมาเป็นผู้สืบสกุลแทนพฤกษ์ ด้วยความเต็มใจจากสะบันงา

เวลาต่อมา พจน์กลับมาจากทำงานรับราชการ แต่ต้องแบ่งเวลามาบริหารบ้านและกิจการส่วนตัว พจน์ทำได้ดีโดยมีทุกคนให้กำลังใจ พจน์มีคนรักชื่อ กินรี น้องสาวเพื่อนที่ทำงาน กินรีเป็นครูชอบเขียนนิยาย

ในงานเปิดโรงแรมบนเขาของพอลกับแพรวพรรณราย ทุกคนไปกันหมดไม่เว้นแม้แต่พราวพิลาส ที่นั่นพวกเขาพบหมอเก่งมาก อาสารักษาพราวพิลาสให้หายขาด แต่ต้องใช้เวลานาน และต้องไปรักษาตัวที่เมืองนอก ศีลตัดสินใจพาพราวพิลาสไปรักษา และไปอยู่ให้กำลังใจดูแลกันไป ในที่สุดพราวพิลาสก็เดินได้กลับเมืองไทยและมีลูกกับศีลเป็นชายหนึ่งคน ทั้งสองคนตั้งใจจะมีลูกสามสี่คน

พริสซิลลาได้รับการวินิจฉัยว่าไม่ได้ปัญญาอ่อนเป็นแค่ออทิสติก และยังเป็นเด็กอัจฉริยะอีกด้วย ศรีมีความสุขที่พริสซิลลาอาการดีขึ้นมาก คอยอยู่เคียงข้าง ความรักความสุขกลับมาสู่คฤหาสน์หลังนี้มากมายกว่าเดิม เพราะความรักความเสียสละของแม่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก เหมือนดังคำสองคำ “สองมือแม่นี้ที่สร้างโลก”

รายชื่อนักแสดง

1. ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเป็น ศรี / คุณหญิงศรี
2. อคัมย์สิริ สุวรรณศุข แสดงเป็น สะบันงา
3. เดวิด อัศวนนท์ แสดงเป็น เจ้าพระยาสมิติภูมิ
4. อริสรา วงษ์ชาลี แสดงเป็น เมี้ยน
5. โตนนท์ วงศ์บุญ แสดงเป็น พจน์
6. มิกค์ ทองระย้า แสดงเป็น พอล
7. พรพรรณ สิทธินววิธ แสดงเป็น กินรี
8. อัปสรสิริ อินทรคูสิน แสดงเป็น แพรวพรรณราย
9. ชินวุฒ อินทรคูสิน แสดงเป็น ธรรม์
10. พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ แสดงเป็น ศีล
11. เชฟฟานี่ อาวะนิค แสดงเป็น พริ้มเพราะ
12. ซอนญ่า สิงหะ แสดงเป็น พราวพิลาส
13. ปรัชญ์ ปรมิณ แสดงเป็น พฤกษ์
14. ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์ แสดงเป็น ศุกล
15. อุษณีย์ วัฒฐานะ แสดงเป็น เดือน
16. ธัญสินี พรมสุทธิ์ แสดงเป็น สังเวียน
17. ภารดี อยู่ผาสุก แสดงเป็น สังวร
18. พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น ปานวาด
19. ชมพูนุช ปิยธรรมชัย แสดงเป็น น้อย
20. อนิสา กร้านท์ แสดงเป็น พริสซิลลา (ตอนเด็ก)
21. นวินดา เบอร์ต๊อดตี้ แสดงเป็น พริสซิลลา (ตอนโต)
22. ศรุต สุวรรณภักดี แสดงเป็น ทอง
23. กชกร ส่งแสงเติม แสดงเป็น เมขลา
24. ประถมาภรณ์ รัตนภักดี แสดงเป็น แกละ
25. พศิน ศรีธรรม แสดงเป็น อาซ้ง
26. ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล แสดงเป็น พระยาเกษม
27. กชกร นิมากรณ์ แสดงเป็น คุณหญิงลออศรี
28. วรพรต ชะเอม แสดงเป็น อาคม
29. รัฐธรรมนูญ ศรีฤกษ์ แสดงเป็น คุณพระประสาน
30. สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง แสดงเป็น สุกิจ
31. กฤษฏิ์ โมกขะสมิต แสดงเป็น ดำรง
32. ธนศักดิ์ อุ่นอ่อน แสดงเป็น หมออดุลย์
33. เจษฎา รุ่งสาคร แสดงเป็น จีรศักดิ์
34. กษาปณ์ จำปาดิบ แสดงเป็น ยอด
35. เคน สตรุทเกอร์ แสดงเป็น คุณหมอมาร์ติน
36. วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ แสดงเป็น เจ้าสัว
37. นวลนง จามิกรณ์ แสดงเป็น แม่ใหญ่
38. ปิยะดา เพ็ญจินดา แสดงเป็น แม่น้อย
39. ปัทมา ปานทอง แสดงเป็น พริ้ง
40. มนตระกานต์ ทองขาว แสดงเป็น ดา
41. ปวีณ ชิณวงษ์ แสดงเป็น ดิเรก
42. จารุศิริ ภูวนัย แสดงเป็น ทองหยอด
43. อมต อินทนนท์ แสดงเป็น ไอ้เหมาะ

ออกอากาศวันที่ 6 ธันวาคม

ชมภาพวันบวงสรวง และฟิตติ้งละคร

 

ขุนเดช

นายเดื่อง หัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถาน รับปาก อาจารย์ประทีป หัวหน้า คณะศึกษาโบราณคดีของกรมศิลป์ว่าจะปักหลักเฝ้าพระศิลา พระพุทธรูปที่ถูกค้นพบ ในถ้ำศิลาบนเขาหลวง สุโขทัย ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกโจรใจบาปที่จ้องจะมา ลักตัดเศียรพระศิลา โดยเฉพาะกับ กำนันบุญ สุโขทัย ซึ่งมีนิสัยขี้โกงชอบสะสมและ ลักลอบซื้อขายวัตถุโบราณ เมื่อกำนันบุญรู้เรื่องพระศิลาที่ถูกค้นพบ เลยอยากมาได้ไว้ ในครอบครองจึงเดินทางจากสุโขทัย มาศรีสัชนาลัยบ้านของนายเดื่อง เพื่อขอให้ นายเดื่องเปิดทางให้เข้าไปลักตัดเศียรพระ แต่กำนันบุญ ถูกนายเดื่องปฏิเสธและไล่ ตะเพิดอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพล นายเดื่องเป็นห่วงพระศิลาเลย จำเป็นต้องฝาก ขุนเดช ลูกชายวัย 10 ขวบไว้กับ คำปัน หญิงสาวที่แอบชอบพ่อของ ขุนเดช และคอยช่วยเลี้ยงดู ขุนเดช เหมือนลูกแท้ ๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นของ ขุนเดช ที่มีใจรักและ สนใจในศิลปะ โบราณซึ่งถูกถ่ายทอดมาจากพ่อ ทำให้ ขุนเดช แอบขึ้นรถของอาจารย์ประทีปตาม ไปหา พ่อที่ถ้ำศิลา อาจารย์ประทีปกลัวภัยจะเกิดกับนายเดื่องจึงให้ปืนไว้เพื่อป้องกันตัว แต่นาย เดื่องปฏิเสธยืนยันว่าจะใช้แค่ ดาบนิล อาวุธคู่กายสมบัติเก่าแก่ที่นายเดื่องได้รับตกทอดจากบรรพบุรุษ ดาบนิลเป็นดาบเหล็กเนื้อดีที่มีสีดำปลอดตั้งแต่ด้ามและตัวปลอก ซึ่งทำจากเขาควายตายฟ้าผ่า ส่วนเนื้อเหล็กนั้นเป็นเหล็กกล้าชั้นดี ผ่านการตีจากช่างยอดฝีมือ ในศรีสัชนาลัย ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถตีดาบให้ออกมาเป็นสีดำถึงเนื้อในเหล็กได้ ดาบนิลจึงมีความคม กริบและเป็นสมบัติหายาก นายเดื่องรักษาไว้อย่างดีเพราะคำสั่งเสีย ของบรรพบุรุษที่สั่งไว้สืบต่อกันมา ว่าต้องใช้ดาบนิลเพื่อปกป้องแผ่นดินเท่านั้น ฟากกำนันบุญที่โกรธแค้นนายเดื่องมากจึงสั่ง ให้ เสือแชน กับ เสือชิด ลูกน้องคนสนิทพา พวกบุกไปที่ถ้ำ ศิลาเพื่อจัดการกับนายเดื่องและเอาเศียรพระศิลามาให้ได้

ขุนเดช ที่แอบตามอาจารย์ประทีปมาหาพ่อที่เขาหลวงแต่เกิดพลัดหลงอยู่ในป่า หาทาง ไปหาพ่อที่ถ้ำศิลาไม่ได้ โชคดีที่เจอ หลวงพ่อสุข พระธุดงค์ที่มาปักกลดอยู่ในบริเวณเขาหลวง หลวงพ่อสุขเคยเจอกับนายเดื่องที่บริเวณถ้ำศิลาจึงพา ขุนเดช ไปหาพ่อ นายเดื่องโกรธลูกชาย มากที่แอบหนีมาจะลงมือตี แต่หลวงพ่อสุขห้ามไว้บอกพรุ่งนี้เช้า จะเป็นคนพา ขุนเดช กลับไปที่ ศรีสัชฯ เอง คืนนั้นนายเดื่องจึงจำเป็นต้องให้ ขุนเดช นอนค้างอยู่ในถ้ำ ขุนเดช นอนฟังพ่อเล่าเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเขาหลวงให้ฟังว่า เขาหลวง แห่งนี้ก็คือ พระขพุง ผีเทวดาที่สถิตย์อยู่ที่นี่ยิ่ง ใหญ่กว่าเทวดาในเมืองสุโขทัย หากผู้ครองเมืองสุโขทัยจะเป็นผู้ใดก็ตาม รู้จักนบไหว้และทำพิธีเซ่นสรวงถูกต้องแล้ว เมืองสุโขทัยย่อมตั้งมั่นถาวรยั่งยืน แต่หากไม่รู้จักนบไหว้ ไม่มีการพลีบูชาตามแบบแผนแล้ว ผีในเขาหลวงจะไม่คุ้มไม่เกรง เมืองสุโขทัยก็จะล่มจม เพราะเหตุนี้นายเดื่อง จึงต้องมาเฝ้าพระศิลาเอาไว้จากพวกคนใจบาป ขุนเดช เองก็รับปากพ่อว่าเมื่อโตขึ้นจะใช้ ดาบนิลทำหน้าที่รักษาสมบัติของชาติแบบพ่อ แต่ระหว่างนั้นพวกเสือแชน เสือชิดก็บุก เข้ามา นายเดื่องเป็นห่วงลูกชายจึงสั่งให้ ขุนเดช ไปหลบซ่อนตัว แล้วใช้ดาบนิลเข้าต่อสู้ กับพวกเสือแชน เสือชิด แต่สุดท้ายนายเดื่องก็สู้พวกมันไม่ได้ เพราะในระหว่างการต่อสู้ ดาบนิลเกิดหักเพราะความเก่าแก่ของดาบนิลที่ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน นายเดื่อง ถูกพวกมันฆ่าตายอย่าง เหี้ยมโหดทารุณต่อหน้าต่อตาขุนเดชแล้วตัดเอาเศียรพระศิลาไป เสือชิดได้ยินเสียงของ ขุนเดช ที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ จึงคิดจะจัดการลูกชายนายเดื่องด้วย อีกคนแต่ขุนเดชก็คว้าเอาดาบนิลที่บัดนี้ เป็นเพียงแค่ดาบหักมาเป็นอาวุธป้องกันตัวและ หนีพวก มันเข้าหายไปในป่าเขาหลวง

กลางดึกคืนนั้นขณะที่หลวงพ่อสุขกำลังนั่งเจริญสมาธิอยู่ในกลด หลวงพ่อสุขได้ เห็นนิมิตรบางอย่างที่น่าตกใจ ในนิมิตรนั้นหลวงพ่อเห็นความเสื่อมทรามของผู้คนที่ไม่ เคารพต่อ พระพุทธศาสนา ศิลปะโบราณวัตถุถูกย่ำยีกลายเป็นเครื่องประดับข้างฝาบ้าน พระพุทธรูปต้องอยู่หลังกรงขังกั้นไม่ให้ผู้มีจิตศรัทธากราบไหว้ บางองค์ก็ถูกรุมขัดถู เพื่อขอหวยมัวเมาในกิเลศ พระพุทธรูปที่งดงามตามโบราณสถานก็ถูกตัดเศียรเรียงราย จนน่าเวทนา หลวงพ่อสุขสะดุ้งตื่น จากนิมิตรพร้อมกับเสียงร้องขอความช่วยเหลือจาก ขุนเดช ที่กำลังถูกพวกเสือแชน เสือชิดไล่ตามล่า และคิดว่าขุนเดชตกหน้าผาตายไปแล้ว จึงพากันกลับไป แต่ที่จริงแล้ว ขุนเดช หลบซ่อน ตัวอยู่ในซอกหินด้วยความตื่นกลัวและ ตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก ภาพของพ่อที่ถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดต่อหน้าต่อตา ภาพของพระศิลาที่ถูกตัดเศียรทำให้ ขุนเดช กลัวจนช็อคหมดสติ

หลวงพ่อสุขไปพบนายเดื่องถูกฆ่าตายที่ถ้ำศิลา จึงออกตามหา ขุนเดช ด้วยความเป็นห่วงและได้พบ ขุนเดช สลบอยู่ที่ซอกหินจึงปลุก ขุนเดช ให้ตื่น แต่ ขุนเดช กลับลุกขึ้น มาแสดงอาการเกรี้ยวกราด ดุดัน ใช้ดาลนิลหักที่กำไว้แน่นไล่ทำร้ายหลวงพ่อเหมือนกับ สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง หลวงพ่อรู้ว่าที่ ขุนเดช เป็นอย่างนี้เพราะอาการช็อคตกใจกลัวจนเสียสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ หลวงพ่อนั่งนิ่งและแผ่เมตตาให้ ขุนเดช ใจสงบ ซึ่งก็ได้ผล ขุนเดช สงบนิ่งไปและเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายน่าเวทนา หลวงพ่อสุขจำเป็นต้องเป่ากะหม่อม ขุนเดช ให้หลับอย่างสงบ

ข่าวการตายของนายเดื่องและการหายตัวไปของ ขุนเดช ลูกชายนายเดื่อง เป็นที่โจษจันไปทั่วสุโขทัยว่าเป็นฝีมือของพวกโจรใจบาป จ่าแท่น ซึ่งรักและเคารพนายเดื่องเหมือนพี่ชาย คิดว่า ขุนเดช น่าจะยังมีชีวิตอยู่ จึงชวนคำปันซึ่งเป็นน้องสาวออกตามหา ขุนเดช แต่ทั้งคู่ก็ไม่พบร่องรอยของ ขุนเดช คำปันร้องไห้เสียใจทำใจไม่ได้ว่า ขุนเดช จะตาย ชาวบ้านที่เชื่อเรื่องผี ๆ สาง ๆ พากันพูดกันปากต่อปากว่า พระขผุงคงเอาตัว ขุนเดช ไปอยู่ด้วยที่เขาหลวง

10  ปีต่อมา หลวงพ่อสุขซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เลี้ยงดู ขุนเดช จนเติบโตเป็นหนุ่มหน้าตาดี มีความฉลาดเฉลียว โดยสามารถสอบเข้าเรียนเป็น นักศึกษาในคณะโบราณคดีด้วยคะแนนสูงสุด แต่ ขุนเดช จำเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อนไม่ได้ เพราะผลจากการตกใจ กลัวจนช็อค ส่วนดาบนิลหักของนายเดื่องที่ติดตัว ขุนเดช มา หลวงพ่อสุขก็เก็บรักษาเอาไว้ในกุฎิ ไม่เคยนำมาให้ ขุนเดช เห็นเพราะเกรงว่า ถ้า ขุนเดช จับดาบนิลนี้อีกครั้ง ความโกรธแค้นเกรี้ยว กราดราวกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของ ขุนเดช อย่างที่หลวงพ่อเจอในอดีตจะกลับมาสิงสู่ใน ร่างของ ขุนเดช อีกครั้ง แต่หลวงพ่อ ก็ไม่เคยรู้ว่าหลายต่อหลายคืน ขุนเดช มักจะฝันร้ายเห็นภาพเศียรพระศิลาถูกตัด ซึ่ง ขุนเดช ก็ไม่กล้าเล่าให้ หลวงพ่อฟังเพราะกลัวว่าจะทำให้อาการอาพาธของหลวงพ่อที่ไม่ค่อยดีอยู่จะทรุดหนักขึ้น

ใกล้ ๆ วัดที่ ขุนเดช อาศัยอยู่เป็นโรงหล่อพระของ ลุงเถิน ที่เอ็นดูขุนเดชเพราะเป็น เด็กหนุ่มเอาการเอางานมักมาช่วยงานลุงเถินเสมอ ๆ แถม ขุนเดช ยังช่วยติวหนังสือให้ ดารา ลูกสาวคนสวยของลุงเถิน ที่อยากจะสอบเข้าเรียนในคณะโบราณคดีเหมือนอย่าง ขุนเดช ดารา มักจะค่อนขอดและงอนพ่อบ่อย ๆ หาว่าพ่อรัก ขุนเดช เหมือนลูกชาย ที่เป็น อย่างนั้นเพราะลุงเถินมักจะชวน ขุนเดช ให้อยู่คุยเรื่องในอดีต เมื่อครั้งที่ลุงเถินเคยเป็น นักเลงเพลงดาบ โดยได้ฝีมือตี เหล็กตีดาบมาจากปู่ที่เป็นคนสุโขทัย ลุงเถินให้ ขุนเดช ดู ดาบที่ลุงเถินกับพ่อช่วยกันตีตอนเป็นหนุ่ม มันคือดาบสีดำปลอดที่ด้ามและตัวปลอกทำ จากเขาควายตายฟ้าผ่าซึ่งเรียกว่า ดาบนิล ที่ตอนนี้หาช่างตีอีกไม่ได้แล้ว เมื่อตอนลุงเถิน เป็นหนุ่ม ๆ เคยใช้ดาบนิลออกไปมีเรื่องมีราวตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน ทั้ง ๆ ที่บรรพบุรุษเคยสั่งไว้ว่าดาบนิลตีขึ้นเพื่อปกป้องแผ่นดินเท่านั้น ผลก็เลยทำให้ลุงเถินชีวิตไม่ เจริญก้าวหน้าจนเกือบตายหลายครั้ง ลุงเถินจึงเลิกเป็นนักเลงดาบ หันมาใช้วิชาความรู้ มาหล่อพระแทนเพราะไม่อยากทำบาปอีก ส่วนดาบนิลก็เก็บรักษาไว้ อย่างดี ลุงเถินกลัว ว่าถ้าตัวเองตายไปจะถ่ายทอดวิชาพวกนี้ให้ลูกสาวไม่ได้ จึงสอนให้ ขุนเดช ทั้งวิชาเชิง ดาบ เชิงมวยคาดเชือกและการตีดาบไว้เป็นความรู้ติดตัว เพราะเชื่อในความเป็นคนดีของ ขุนเดช ว่าจะไม่ใช่ในทางที่ผิด

เวลาที่ ขุนเดช ไปไหนมาไหนกับดารา ใคร ๆ มักจะคิดว่าสองคนเป็นคนรักกัน แม้แต่ ย้ง หรือ ยงยุทธ เพื่อนสนิทของ ขุนเดช ที่กำลังสอบเข้าเรียนตำรวจก็คิดอย่างนั้น ขุนเดช อ่านใจ ของเพื่อนได้ว่า ย้งเองก็แอบชอบดาราแต่ไม่กล้าแสดงออก เลยคิดจะช่วยให้ย้งได้มีโอกาสตามลำพังกับดารา ขุนเดช ชักชวนไปเที่ยวอยุธยากัน เพื่อชมโบราณ สถาน แต่ดารารู้ตัวว่า ขุนเดช ทำเพื่อย้ง ดาราเลยน้อยใจเพราะตัวเองก็แอบชอบ ขุนเดช อยู่ ดาราจะนั่งรถบัสกลับกรุงเทพฯ เองคนเดียว แต่ระหว่างทางไปเจอกับ ประดับ ลูกชาย นายทหารนิสัยเกกมะเหรกเกเรเพราะมี พ่อเป็นนายทหารยศใหญ่โต จึงกร่างไม่กลัวใคร ประดับกับเพื่อนฝูงพยายามที่จะชวนดาราให้ขึ้นรถไปด้วยกัน ขุนเดช กับย้งตามมาเจอ เข้าเลยมีเรื่องกับประดับและเข้าตาจนถูกพวกประดับล้อมกรอบ โชคดีที่อาจารย์ประทีป และคณะศึกษาโบราณคดีขับรถผ่านมาพบเข้า พวกประดับจึงต้องล่าถอยไป แต่ก็เก็บ สมุดจดบันทึกของดาราได้ ทำให้ประดับรู้ว่าดาราเป็นใครและเรียนอยู่ที่ไหน อาจารย์ ประทีปอาสาพาพวกขุนเดชไปส่งที่กรุงเทพฯ เพราะกำลังไปที่นั่นเหมือนกัน และ อาจารย์ประทีปก็สะดุดชื่อของ ขุนเดช เป็นอย่างมาก ยิ่งได้รู้ว่า ขุนเดช เป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่ในวัดและเป็นนักศึกษาโบราณคดี ที่มีความรู้เกี่ยวกับสุโขทัยจนหาตัวจับได้ยากก็ยิ่งสนใจ

ขุนเดช กลับมาที่วัดก็ทราบข่าวร้ายว่าหลวงพ่อสุขอาพาธหนักแต่ไม่ยอมไป โรงพยาบาลเพราะคิดว่าเมื่อถึงเวลาต้องละสังขารก็ขอให้เป็นไปตามกรรม ส่วนอาจารย์ ประทีปด้วยความสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อสุขถึงตั้งชื่อเด็กที่เอามาเลี้ยงว่า ขุนเดช จึงขอเข้า ไปมนัสการกราบหลวงพ่อ และก็จำได้ว่าหลวงพ่อสุขคือพระธุดงค์องค์เดียวกันกับที่เคย เจอที่เขาหลวงเมื่อ 10 ปีก่อน เลยยิ่งมั่นใจว่าต้องเกี่ยวข้องกับ ขุนเดช ลูกชายนายเดื่องที่หา ศพไม่พบจนทุกวันนี้ หลวงพ่อเลย เล่าให้อาจารย์ประทีปฟังถึงสาเหตุที่ต้องพา ขุนเดช มาอยู่ที่วัดและเลี้ยงดู ขุนเดช เพราะ ขุนเดช เห็นภาพพ่อตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา จึงช็อคและจำความไม่ได้ หลวงพ่อกลัวว่าถ้าโจร พวกนั้นรู้ว่า ขุนเดช ยังมีชีวิตอยู่จะเป็น อันตราย จึงพา ขุนเดช มาที่กรุงเทพฯ แต่ ขุนเดช ก็ยังคงมีจิตวิญญาณของคนศรีสัชนาลัย เพียงแค่ภาพโบราณสถานของสุโขทัยจากในหนังสือ ขุนเดช ก็สามารถจดจำรายละเอียดที่มาได้หมด หลวงพ่อสุขเอาดาบนิลหักของนายเดื่องออกมาให้ อาจารย์ประทีปดูเพื่อ ยืนยันว่าเป็น ขุนเดช ลูกชายนายเดื่องจริง ๆ หลวงพ่ออยากให้อาจารย์ประทีปรับปากว่าจะ คืนดาบนิลอันนี้ให้ ขุนเดช ก็ต่อเมื่อจิตใจของ ขุนเดช นิ่งสงบพอและรู้จักคำว่า อโหสิ เพราะถ้า ขุนเดช ยังมีจิตที่ไม่นิ่ง แม้ดาบนิลนี้จะเป็นเพียงแค่ดาบหักและมีแต่รอยบิ่น แต่ความกราดเกรี้ยวของขุนเดชจะทำให้ดาบหักกลับมามีความคมยิ่งกว่าเก่าไม่ต่างอะไร กับคมดาบในมือของทหารพระร่วง

ประดับตามมาหาดาราถึงที่โรงหล่อพระแต่ถูกลุงเถินกับ ขุนเดช ไล่ตะเพิดเพราะ ดันมาลองดีกับเถินนักเลงเก่า ประดับเจ็บแค้นที่ถูกด่าสาดเสียเทเสีย จึงใช้อิทธิพลของ พ่อพาทหารบุกไปโรงหล่อพระแจ้งข้อหาเท็จกับนายเถินว่าซ่องสุมอาวุธสงคราม เพื่อเป็นประโยชน์ให้พวกกบฏ เถินปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม และไม่สนใจการเมือง ประดับจึงสั่งให้พรรคพวกบุกทุบทำลายพระพุทรูปที่หล่อเสร็จ แล้วต่อหน้าต่อตาดาราและนายเถินที่แทบหัวใจ สลายที่เห็นพระพุทธรูปถูกทำลาย ประดับเอาปืนที่นำมายัดไว้ในองค์พระเพื่อเป็นหลักฐาน เล่นงานนายเถินให้ถูกจับกุม

ขุนเดช ต้องพาดาราให้ไปพักอยู่กับย้งที่บ้านเพื่อความปลอดภัย ไม่ให้ถูกประดับ ตามมารังควาญอีก ย้งกับดารารู้สึกกลัวแววตาของ ขุนเดช ที่บอกว่าจะจัดการทุกอย่างให้ เมื่อย้งถามว่า ขุนเดช คิดจะทำอะไร ขุนเดช ก็ไม่ปริปากพูดสักคำ ขุนเดช ไปที่โรงหล่อ พระที่เหลือแต่เศษซาก ของพระพุทธรูปที่ถูกทำลาย เศียรพระที่ถูกทุบทำลายจนหลุด จากบ่าทำให้ภาพอดีตในวัยเด็ก ของ ขุนเดช ผุดเข้ามาสร้างความเจ็บปวดให้ ขุนเดช อีก แต่ ขุนเดช ก็ยังไม่รู้ว่าภาพเหล่านั้นคืออะไรและเกี่ยวข้องกับตัวเองยังไง ขุนเดช รู้ว่า ดาบนิลของลุงเถินที่เคยใช้เมื่อวัยหนุ่มเก็บซ่อนไว้ที่ไหน ขุนเดช นำมันออกมาแล้ว มุ่งหน้าไปหาประดับที่กำลังดื่มกินอยู่ในบาร์

คืนนั้นเองที่อาการอาพาธของหลวงพ่อสุขกำเริบหนัก หลวงพ่อสุขถามหา ขุนเดช แต่ไม่มีใครรู้ว่า ขุนเดช อยู่ที่ไหน ดาบนิลหักตกลงมาจากชั้นวาง นิมิตรที่หลวงพ่อเคยเห็นเมื่อ 10 ปี ก่อนกลับมาอีกครั้ง เศษซากปรักหักพังของโบราณสถานถูกทำลาย เศียรพระเป็นเพียงเครื่อง ประดับข้างฝาบ้าน ภาพพระพุทธองค์กลายเป็นภาพประดับ ข้างฝาห้องน้ำของฝรั่งต่างชาติ หลวงพ่อสุขหายใจรวยรินพูดเป็นคำสุดท้ายก่อน มรณภาพว่า “จากนี้ไปไม่มีใครหยุด ขุนเดช ได้อีกแล้ว”

ขุนเดช ควงดาบนิลของลุงเถินบุกเข้าไปเล่นงานพวกประดับจนเกิดการต่อสู้โรมรันพันตู แต่ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว ขุนเดช เลยพลาดท่าถูกพวกประดับจับตัวได้ พวกมันซ้อม ขุนเดช ทั้งเตะทั้งอัดจนสบักสะบอม ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่โดนทำร้ายกระตุ้น ให้ภาพในอดีตของ ขุนเดช กลับคืนมาอีกครั้ง คราวนี้ ขุนเดช เริ่มประติประต่อเรื่องราว เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ขุนเดช จำได้ว่าเขาคือลูกชายนายเดื่อง ผู้ที่สาบานว่าจะถวายชีวิตปกป้องสมบัติของพระร่วงไม่ให้ใครย่ำยี ขุนเดช เองก็สาบาน กับพ่อว่าจะถวายชีวิตเป็นทหารของพระร่วง แห่งศรีสัชนาลัย พวกประดับเห็น ขุนเดช นิ่ง ไปก็นึกว่าหมดสภาพแล้ว แต่ ขุนเดช กลับลุกขึ้นมา ด้วยแววตากราดเกรี้ยวน่ากลัวราวกับ ว่ามีสัตว์ร้ายเข้ามาสิงสู่ ขุนเดช คว้าดาบนิลได้และเกือบจะ สังหารประดับด้วยการบั่นคอ แต่ ขุนเดช ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีกลุ่มทหารเข้ามายุติการก่อเหตุวิวาท ประดับนึกว่าคนของพ่อมาช่วยแต่ประดับคิดผิด เพราะทหารที่บุกเข้ามายุติเหตุการณ์เป็นทหารฝ่ายปฏิวัติ เพราะเวลานี้รัฐบาลทหาร (จอมพล ป.) ถูกคณะปฏิวัติ (จอมพลสฤษดิ์) เข้ายึดอำนาจหลัง เกิดการเลือกตั้งสกปรก และรัฐบาลได้รับการคัดค้านจากประชาชนอย่างหนัก

ประดับและครอบครัวต้องหลบหนีภัยการเมืองออกนอกประเทศ ลุงเถินถูกปล่อยตัวออกจากคุกให้เป็นอิสระ ส่วน ขุนเดช กลับมาไม่ทันได้กราบหลวงพ่อสุขที่มรณภาพไปในคืนนั้น ในงานศพของหลวงพ่อสุข ขุนเดช บอกอาจารย์ประทีปว่าตนเอง จำความได้แล้วว่าเป็นลูกชายนายเดื่องที่หลวงพ่อช่วยชีวิตเอาไว้ เวลานี้เมื่อสิ้นบุญหลวง พ่อแล้วก็ถึงเวลาที่เขาควรจะกลับไป ยังบ้านเกิดที่ศรีสัชนาลัย แต่อาจารย์ประทีปทักท้วง อยากให้ ขุนเดช ได้เรียนโบราณคดีต่อให้จบ จะได้บรรจุเข้ารับราชการ ขุนเดช ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าอยากจะสานต่องานที่พ่อทำ เพราะรับปากพ่อไว้ก่อนตาย อาจารย์ประทีป ไม่สามารถเปลี่ยนความตั้งใจของ ขุนเดช จึงรับปากว่าจะช่วยให้ ขุนเดช ทำงานขุดแต่งโบราณสถานที่ศรีสัชนาลัยซึ่งกำลังขาดคนอยู่ ขุนเดช กราบขอบคุณอาจารย์ประทีป และพร้อมจะเดินทางกลับบ้านเกิดทันที อาจารย์ประทีปตามไปที่กุฏิหลวงพ่อสุข ถามหาดาบนิลที่หลวงพ่อเก็บเอาไว้ แต่ลูกศิษย์วัดบอกว่า ขุนเดช ได้มาเอาดาบนิลนั้น ไปแล้ว อาจารย์ประทีปรู้สึกใจคอไม่ดี เมื่อนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อสุขที่กำชับไว้ว่า “อย่าคืนดาบนิลหักนี้ให้ ขุนเดช จนกว่า จิตใจของ ขุนเดช จะนิ่งสงบพอและรู้จักคำว่า อโหสิ เพราะถ้า ขุนเดช ยังมีจิตที่ไม่นิ่ง แม้ดาบนิลนี้จะเป็นเพียงแค่ดาบหักและมีแต่ รอยบิ่น แต่ความกราดเกรี้ยวของ ขุนเดช จะทำให้ดาบหักกลับมามีความคมยิ่งกว่าเก่า ไม่ต่างอะไรกับ คมดาบในมือของทหาร พระร่วง”

ขุนเดช จากไปอย่างเงียบ ๆ แม้แต่ย้งกับดาราก็ไม่รู้ว่า ขุนเดช หายไปไหน เพราะ ขุนเดช ไม่ยอมบอกใครถึงอดีตของตัวเอง คงมีแต่ลุงเถินคนเดียวที่ได้พบ ขุนเดช เป็นคนสุดท้าย ขุนเดช เอาดาบนิลของลุงเถินมาคืนและให้ลุงเถินดูดาบนิลหักของพ่อ รวมถึงได้เล่าเรื่องราวในอดีตของตัวเองให้ฟัง ลุงเถินดีใจและคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ชีวิต ขุนเดช จะกลับมาวนเวียนกับดาบนิล อีกครั้ง เพราะเพราะ ขุนเดช คือลูกหลานสุโขทัย สืบเชื้อสายจากทหารของพระร่วงที่มีดาบนิลเป็นอาวุธ ลุงเถินจึงไม่รับดาบนิลของตัวเองคืน และมอบให้กับ ขุนเดช เก็บเอาไว้เพื่อเตือนสติตัวเองว่า “ถึงดาบจะเป็นอาวุธที่อันตราย แต่สิ่งที่อันตรายกว่าคมดาบก็คือใจ ขอให้ขุนเดชใช้ดาบนิลเพื่อปกป้อง แผ่นดิน”

10 ปีผ่านไป….ศรีสัชนาลัยงดงามและมีมนต์ขลังด้วยศิลปะโบราณวัตถุอันทรง คุณค่า ขุนเดช ทำงานเป็นหัวหน้าคนงานขุดแต่งโบราณสถานให้กับอาจารย์ประทีป และตั้งหน้าตั้งตาทำนุบำรุงโบราณสถานที่ตัวเองรักยิ่งชีวิต หลังจากที่ ขุนเดช ทำงานเสร็จ จึงมาเดินเที่ยวชมวัด และได้เข้าไปไหว้พระอจนะที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีชุม ในขณะที่กำลังไหว้พระอยู่ก็ได้ยิน เสียงเสี่ยงเซียมซี จึงหันไปตามเสียงที่ได้ยินและได้พบกับ บัวทอง เด็กสาวสวยวัยเพิ่งจะ 19 กำลังเขย่ากระบอกเซียมซีเสียงดัง และอธิษฐานขอพรขมุบขมิบตามประสาเด็กสาววัยรุ่น ขุนเดช รู้สึกขำท่าทีของเด็กสาว จึงแกล้งพูดแหย่เล่นด้วยความเอ็นดู บัวทองไม่พอใจจึงลุกเดินหนีไป ขุนเดช เดินตาม บัวทองจึงรีบวิ่งไปหาแม่ ขุนเดช เห็นแม่ของบัวทองจึงจำได้ว่าเป็น น้าคำปัน ที่เคยเลี้ยงดู ขุนเดช ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ขุนเดช ดีใจที่ได้เจอน้าคำปันที่นี่อีกครั้ง เพราะไม่ได้เจอกันตั้งแต่คราวที่พ่อถูกฆ่าตาย เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ได้กลับมาที่ศรีสัชนาลัยก็ได้ ข่าวว่าน้าคำปันกับจ่าแท่นพากันย้ายจากศรีสัชฯ ไปตั้งรกรากที่อื่น น้าคำปันกอด ขุนเดช ด้วย น้ำตาว่าเพิ่งจะรู้เรื่อง ขุนเดช เมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง เพราะตอนที่ย้ายจากศรีสัชฯไปเป็นการย้าย เพราะกลัวพวกโจรที่ฆ่าพ่อ ขุนเดช จะย้อนมาทำร้าย ส่วนจ่าแท่นก็โดนย้ายตามเจ้านาย แต่ตอนนี้สามีของน้าคำปันเพิ่งเสียและจ่าแท่นก็เพิ่งจะได้ย้ายกลับมาที่ศรีสัชฯแล้ว น้าคำปันแนะนำให้ ขุนเดช รู้จักกับบัวทองลูกสาวของน้าคำปัน ขุนเดช ยิ้มให้บัวทองอย่างเอ็นดูและชมว่าสวย เหมือนน้าสมัยสาว ๆ แต่บัวทองกลับแลบลิ้นใส่ขุนเดชเพราะรู้สึกหมั่นไส้ ที่ทำเป็นอวดเก่ง อวดภูมิความรู้เรื่องโบราณสถาน และทำมาเป็นสั่งสอน คำปันต้องปรามลูกสาวที่แก่นแก้วเป็น ม้าดีดกะโหลก ขุนเดช ไม่ติดใจอะไร บอกเด็กก็คงเป็นเด็ก บัวทองสวน ขุนเดช กลับทันทีว่าปีนี้ อายุ 19 ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว น้าคำปันอ่อนอกอ่อนใจฝากขุนเดชช่วยดูแลน้องด้วย ขุนเดช รับปาก อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ

ที่วัดพระพายหลวง สุโขทัย ขณะที่ ขุนเดช กำลังยืนแจกชะแลงและเครื่องมือให้กับคนงานอยู่ แต่มีคนงานคนหนึ่งซึ่งมีท่าทีแปลก ๆ มันชื่อ ไอ้เถร พ่อแม่ของมันพามาฝากให้ทำงาน กับ ขุนเดช เพราะฐานะทางบ้านยากจน ขุนเดช จึงรับไว้ให้มาทำงานเป็นคนงานขุดแต่งโบราณสถาน ไอ้เถรมีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อยและชอบขโมยพระในกรุ ขุนเดช สงสัยในท่าทางมีพิรุธ แต่ไม่ได้ติดใจอะไรปล่อยในทำงานปกติ พอตกกลางคืนเถรแอบใช้ชะแลงที่ ขุนเดช แจกให้ทำงาน เข้าไปขุดกรุขโมยพระเพื่อไปขายให้กับกำนันบุญ พอรุ่งเช้า ขุนเดช มาเจอร่อยรอยการขโมยพระ และเห็นรอยชะแลงที่หน้าดินซึ่งชะแลงแต่ละอันขุนเดชจะทำรอยตำหนิเอาไว้ ทำให้ ขุนเดช รู้ว่าใครเป็นคนขุด ตกดึก ขุนเดช จึงไปลากตัวเถรและเอาชะแลงของเถรมาที่กรุพระ แล้วให้เถรนำ ชะแลงไปเทียบกับรอยดินว่าเป็นชะแลงอันเดียวกันรึป่าว แต่เถรขัดขืนจึงต่อสู้กัน จนเถรยอมเอาชะแลงไปเทียบกับรอยดิน พบว่าเป็นรอยเดียวกัน เถรรีบปฏิเสธ แล้วบอกว่าอาจจะมีคนขโมยชะแลงของตนเองไปทำความผิดก็ได้ ขุนเดช จึงให้เถรสาบานโดย การเอามือล้วงเข้าไปในข้องปลา พร้อมทั้งสาบานว่าหากเอามือล้วงไปแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นแสดงว่าไม่ได้ทำความผิด ซึ่งในข้องนั้น ขุนเดช ได้แอบเอางูเห่าใส่ไว้อยู่ พอเถรล้วงลงไปจึงโดนงูกัด แต่เถรแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขุนเดช จึงปล่อยตัวเถรไป ระหว่างทางพิษของงูออกฤทธิ์ เถรจึงหมดลมเสียชีวิตเพราะพิษงู รุ่งเช้าที่ร้านของคู่ผัวเมีย นายฮวด กับ สาลี่ ร้านกาแฟ ประจำหมู่บ้าน พวกชาว บ้านต่างพากันโจษจันพูดคุยกันถึงเรื่องการตายของไอ้เถร นายฮวด ถามจ่าแท่นที่เป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน เพราะชอบมาฟังพวกชาวบ้านคุยกัน ว่าคิดยังไงกับการตายของไอ้เถร ซึ่ง ขุนเดช ก็นั่งฟังอยู่ จ่าแท่นบอกเพียงแต่ว่าเถรถูกงูเห่ากัดตาย ขุนเดชบอกสมควรแล้วที่เป็นแบบนั้น ขุนเดช จ่ายเงินค่ากาแฟแล้วจะไปทำงานต่อ แต่จ่าแท่นรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ เจ้านายคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่โรงพักของศรีสัชฯ จ่าแท่นแนะนำ ร.ต.ท.ยงยุทธ หรือ หมวดยงยุทธที่เพิ่งย้ายมาประจำอยู่ที่ศรีสัชฯให้ทุกคนได้รู้จัก ขุนเดช กับหมวดยงยุทธพบหน้า กันก็จำได้ดีว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันนั่นเอง

วันคืนเก่า ๆ ของหมวดยงยุทธกับ ขุนเดช กลายมาเป็นเรื่องคุยกันที่บ้านพักของหมวด ยงยุทธ ขุนเดช ถามหมวดถึงดาราเพราะไม่ได้ข่าวเลยตั้งแต่ ขุนเดช ย้ายมาอยู่ที่ศรีสัชฯ ผู้หมวด อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หนักใจที่จะพูดถึงดารา บอก ขุนเดช เพียงแต่ว่าดาราเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะโบราณคดี อย่างที่ฝันไว้ และตัวเองก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วเพราะต้องย้ายไปทำงานหลายจังหวัด ยงยุทธ ชวน ขุนเดช วกกลับมาคุยเรื่องการตายของไอ้เถร เพราะเกิดความสงสัยว่าไม่น่าจะเกิดจากงูกัด จนเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตอนไปชัณสูตรศพเห็นร่อยรอยการถูกตีด้วยของแข็งตามร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าของแข็งนั้นคืออะไร จ่าแทนสงสัยถามย้อนว่าหมวดคิดว่านี่เป็นคดีฆาตกรรม หมวดยงยุทธตอบว่าค่อนข้างแน่ใจ แต่จ่าแท่นไม่คล้อยตามข้อสันนิษฐานของหมวดคิดว่าในศรีสัช ฯไม่มีฆาตกร เพราะชื่อศรีสัชนาลัยหมายความว่าเป็นเมืองของคนดี ขุนเดช ได้แต่ฟัง เงียบ ๆ ในขณะที่หมวด ยงยุทธสนใจดาบที่ ขุนเดช พกอยู่ ขุนเดช บอกเพียงแต่ว่าเป็นดาบของพ่อที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย หมวดยงยุทธอยากจะขอดู ขุนเดช ว่ามันเป็นเพียงแค่ดาบหักที่มีแต่สนิมใช้ขุดหญ้าดายหญ้ายังไม่ได้เลย

ต่อมาไม่นานได้มีคณะอาจารย์และนิสิตนักศึกษาจากกรุงเทพฯ มาเรียนรู้และดูงาน เกี่ยวกับเรื่องโบราณสถาน อาจารย์ประทีปแนะนำให้ขุนเดชรู้จักกับอาจารย์ดารา เมื่อทั้งคู่ได้พบกัน ขุนเดช จึงนึกได้ว่าท่าทีอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของหมวดยงยุทธ มีความหมายซ่อนเร้น แท้จริงก็คือทุกวันนี้หมวดยงยุทธก็ยังพยายามตามจีบดาราอยู่ เพราะเป็นผู้ชายตรง ๆ จีบผู้หญิงไม่เป็น ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมายังไม่สามารถเอาชนะใจดาราได้ เมื่อสบโอกาสรู้ว่าอาจารย์ดาราจะ มาปักหลักทำงานที่ศรีสัชฯ จึงทำเรื่องขอย้ายตามมา เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง ขุนเดช ถามอาจารย์ดาราถึงลุงเถิน ดาราบอกพ่อเสียไปเมื่อ 3 ปีก่อน ขุนเดช รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปเคารพศพ ดาราชวนจึงชวน ขุนเดช ไปทำบุญทำสังฆทานให้พ่อด้วยกัน แต่ระหว่างที่ทำบุญด้วยกันที่วัด อาจารย์ดาราได้เจอบัวทอง ดาราสังเกตเห็นท่าทีของบัวทองที่สนิทสนมกับ ขุนเดช ก็พอจะเดาออกว่า ขุนเดช กับบัวทองน่าจะมีใจให้กัน และทำใจยอมรับว่า ขุนเดช ไม่เคยมองเธอในฐานะคนรักเลยสักครั้ง อาจารย์ดาราจึงยับยั่งชั่งใจและเริ่มเปิดใจให้กับหมวดยงยุทธ

ระหว่างนั้นกำนันบุญและลูกชายชื่อ สัมฤทธิ์ ซึ่งมีนิสัยไม่ต่างจากพ่อทั้งขี้โกง เจ้าชู้ และชอบเก็บสะสมวัตถุโบราณโดยเฉพาะพระเครื่อง พระผงที่อยู่ในกรุเจดีย์ สองพ่อลูกคิดแผนชั่วจะขโมยวัตถุโบราณและตัดเศียรพระ แต่หาคนฝีมือดีไม่ได้เพราะลูกน้องที่ใช้ให้ไปทำก็ถูกขุนเดชจัดการจนเกือบหมด จึงนึกถึงนายเปรื่อง อยุธยา หรือฉายา เปรื่อง เสียงแปล่ง โจรมืออาชีพลักลอบขุดเจาะขโมยพระ ทำมาทั่วทุกสารทิศ เปรื่องเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับพระองค์ ใหญ่ที่ร้านกาแฟนายฮวด ขุนเดช รู้สึกสงสัยในตัวเปรื่อง จึงแอบตามไปพบเปรื่องกำลังขโมยตัด เศียรพระองค์ใหญ่ ขุนเดช จึงเข้าไปจัดการเปรื่อง ทั้งคู่ต่อสู้กัน เปรื่องล้มไปใส่องค์พระ เศียรพระที่เปรื่องเจาะไว้จึงตกลงมาทับร่างเปรื่องเสียชีวิต

แต่กระนั้นโจรชั่วหนักแผ่นดินก็ยังไม่หมดไป ยังมีสองพ่อลูก ผู้ใหญ่น่วม กับลูกชายชื่อ น้ำ ที่มีนิสัยนักเลงอันธพาล คบโจร โกงการพนัน ฉุดผู้หญิง ชอบขโมยขุดพระขุดเจดีย์ รู้มาว่าเจดีย์บนเขามีสมบัติและกรุพระเก่าอยู่ จึงขึ้นเขาไประเบิดเจดีย์เพื่อขโมยพระในกรุ แต่ก็ถูก ขุนเดช ตามฆ่า โดยใช้ดาบนิลของลุงเถินที่เหมือนกับดาบนิลของพ่อซึ่งใช้การไม่ได้ มาเป็นอาวุธ ต่อสู้กับพวกคนเลวทั้งสองคน ขุนเดช ใช้เชือกรัดคอน้ำโหนกับต้นไม้ตายแล้วนำศพมาประจาน

เหตุการณ์ของโจรขโมยพระที่ถูกฆ่าตายหลายคน ทำให้หมวดยงยุทธสงสัยและเริ่มตามสืบหาฝีมือของฆาตกรรายนี้ แต่หมวดยงยุทธก็จนปัญญาจนเมื่อผลการพิสูจน์หลักฐานแน่ชัดว่าของแข็งที่ใช้ทำร้ายพวกคนร้าย มีลักษณะตรงกับปลอกดาบที่ ขุนเดช พกติดตัวทุกประการ หมวดยงยุทธจึงมั่นใจว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช ซึ่งตั้งศาลเตี้ยลงทัณฑ์พวกโจรใจบาปโดยไม่สนใจกฎหมาย ทำให้หมวดยงยุทธไม่พอใจ ขุนเดช และคอยจับผิด ว่า ขุนเดช จะต้องมีดาบเล่มอื่นอีกที่ไม่ใช่แค่ดาบนิลหักของพ่อ ซึ่งพกไว้ตบตาคนอื่น หมวดยงยุทธพยายามพูดกับจ่าแท่น ให้เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช และกล่าวว่า ขุนเดช เป็นวีรบุรุษบาป ให้จ่าแท่นช่วยกันหาหลักฐานมามัดตัวขุนเดชให้ได้ แม้ว่า ขุนเดช จะเป็นเพื่อนเก่า แต่กฏหมายก็ต้องศักดิ์สิทธิ์เมื่ออยู่ในมือผู้พิทักสันติราษฎร์

หลังจากที่กำนันบุญทำงานไม่สำเร็จ ไม่มีสมบัติโบราณส่งไปให้ตามใบสั่งจากกรุงเทพฯ เพราะถูกขัดขวางจาก ขุนเดช ตลอด ทำให้ ท่านรัฐมนตรีปราชญ์ ผู้ชื่นชอบในวัตถุโบราณ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังใบสั่งที่ส่งไปให้กำนันบุญจัดหามาให้เริ่มแสดงอาการไม่พอใจ แต่ด้วยความที่เป็นถึงรัฐมนตรีจึงไม่สามารถออกหน้าได้ รัฐมนตรีปราชญ์จึงเรียกประดับทนายความและเลขาประจำตัวมาจัดการทุกอย่างให้ได้ตามประสงค์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากที่ประดับหนีภัยการเมืองไปอยู่เมืองนอก ประดับเรียนจบทางด้านกฏหมายและเดินทางกลับมาทำงานเป็นทนาย และเลขาส่วนตัวให้กับท่านรัฐมนตรี เพราะมีจุดประสงค์ที่อยากจะก้าวขึ้นสู่อำนาจอีกครั้งหลังจากที่พ่อต้องตายอยู่ที่เมืองนอก ประดับจึงจำยอมให้ท่านรัฐมนตรีโขกสับต่าง ๆ นา ๆ โดยในระหว่างนั้นก็วางแผนตีสนิทกับ ปารมี ลูกสาวคนสวยวัยเพียง 16 ของท่าน รัฐมนตรีเพื่อใช้เป็นสะพานให้ตัวเองยกฐานะเป็นลูกเขยท่าน ซึ่งแผนการของประดับก็ดูจะสดใสเพราะปารมี เป็นเด็กสาวแก่แดด ชอบช้อบปิ้ง และชอบหนุ่มหล่อ ๆ  ซึ่งประดับก็เรียกความสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ประดับต้องทำอย่างลับ ๆ ไม่ให้ท่านรัฐมนตรีรู้แผนการและไม่ให้ปารมีรู้ด้วยว่าประดับ มีคู่ขาเป็น คำผกา นักร้องในบาร์ที่นอกจากจะขายเสียงแล้วยังขายร่างกายเพื่อแลกกับเงิน และยอมทำตามทุกอย่างที่ประดับเรียกใช้ เพราะหวังว่าเมื่อวันที่ประดับขึ้นมามีอำนาจยิ่งใหญ่ เธอก็จะได้อานิสสงค์จากประดับ

ท่านรัฐมนตรีมีใบสั่งที่ให้ประดับไปจัดการหามาให้ได้ ประดับรู้จักกับ แจ็ค ฝรั่งพูดไทย คล่อง เป็นพ่อค้าวัตถุโบราณที่กรุงเทพฯ เดินทางมาขโมยวัตถุโบราณด้วยตนเอง โดยให้กำนันบุญคอยช่วยเหลือ แจ๊คระเบิดเจดีย์ แล้วใช้รถพังวัตถุโบราณต่าง ๆ พังเป็นหน้ากอง โดยไม่เกรงกลัวความผิด เพราะถือว่ามีเส้นสายใหญ่เป็นถึงรัฐมนตรี ขุนเดช รู้เรื่องจึงไปจัดการฆ่าโดยการแขวนคอแจ๊คหน้าเจดีย์ การตายของแจ็คทำให้ประดับต้องโดนท่านรัฐมนตรีเรียกไปด่า ประดับ จึงต้องอาศัยอำนาจของท่านรัฐมนตรีมากดดันตำรวจในพื้นที่ให้เร่งมือจัดการตามล่าตัวฆาตรที่กำลังลอยนวลอยู่นั่นเองที่ทำให้ประดับได้เจอกับหมวดยงยุทธ ดาราและ ขุนเดช ประดับแสดงท่าทางเจ้าชู้กับดาราเหมือนเมื่อก่อน แต่คราวนี้ประดับโดนหมวดยงยุทธขู่จะเล่นงาน ถ้ามายุ่งกับดาราอีก ประดับเลยขู่หมวดยงยุทธว่าจะอยู่ในหน้าที่ตำรวจได้อีกไม่นาน เมื่อไหร่ที่เขามีอำนาจทั้งสามคนต้องโดนแก้แค้นชนิดหาแผ่นดินยืนไม่มี แต่ประดับก็อยู่ในสุโขทัยได้ไม่นานต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เพราะท่านรัฐมนตรีเรียกตัวให้กลับด่วน แต่ประดับต้องการรู้ความเคลื่อน ไหวของพวก ขุนเดช อริเก่า และประดับก็ไม่ค่อยไว้ใจพวกกำนันบุญอยู่เป็นทุนเดิม จึงสั่งให้คำผกาย้ายเข้ามาอยู่ที่ศรีสัชฯ เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ คอยส่งข่าวคราวให้ประดับรู้ตลอดเวลา แต่คำผกามาอยู่ที่ศรีสัชฯ ได้วันแรกก็มีเรื่องมีราวกับบัวทอง เพราะไปดูถูกบัวทองกับคำปันจนมีเรื่องมีราวทำให้คำผกากับบัวทองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน

ส่วนเรื่องด่วนนั่นก็คือท่านรัฐมนตรี จับได้ว่าประดับกับปารมีแอบลักลอบมีความสัมพันธ์ กันจนปารมีตั้งท้อง ประดับโดนท่านรัฐมนตรีเรียกคนมาซ้อมเพราะไม่พอใจ แต่ท่านรัฐมนตรีก็ไม่กล้าเอาเรื่องประดับถึงโรงพักฐานพรากผู้เยาว์ เพราะกลัวจะเป็นข่าวฉาวโฉ่ ปารมีก็มาอ้อนวอนพ่อ ขอร้องให้ไว้ชีวิตประดับเพราะรักกันจริง ๆ และให้เห็นแก่ลูกในท้อง ท่านรัฐมนตรีทำอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องเลื่อนฐานะประดับให้ขึ้นมาเป็นลูกเขย ซึ่งก็สมใจประดับทันที

กำนันบุญเริ่มหงุดหงิดหัวเสียไม่รู้จะไปพึ่งใครให้ทำงานให้ ทำให้รู้สึกขวางหูขวางตาลงไม้ลงมือกับทุกคนไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ รำพัน เมียใหม่ของกำนันและเป็นแม่เลี้ยงของ สัมฤทธิ์ ก็โดนกำนันตบตีระบายอารมณ์ เพียงเพราะรำพันปล่อยให้ ทิพย์ ลูกสาววัย 12 ที่เกิดกับกำนันบุญซึ่งเป็นปัญญาอ่อนชอบฟ้อนรำรบกวนอารมณ์กำนัน จนกำนันคิดจะส่งทิพย์ให้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้า แต่รำพันก็อ้อนวอนขอเลี้ยงไว้เพราะยังไงก็ลูก กำนันบุญเริ่มเบื่อเมียอย่างรำพันจึงหันไปสนใจคำผกา พยายามให้แก้วแหวนเงินทองปรนเปรอคำผกาทุกอย่าง ซึ่งคำผกาก็ชอบอกชอบใจเพราะเป็นคนเห็นแก่เงิน จึงใช้มารยายั่วให้กำนันหลงหัวปักหัวปำหลอกเอาทรัพย์สินเงินทอง แต่เมื่อวันที่คำผการู้ว่าประดับจะต้องแต่งงานกับปารมี และเห็นเค้าลางว่าตัวเองอาจจะถูกประดับเฉดหัวส่ง คำผกาจึงยอมตกเป็นของกำนันบุญ ใช้ความเป็นหญิงสองผัวหลอกเอาสมบัติจากกำนันอย่างไม่อายฟ้าอายดิน

กำนันบุญนึกถึงเสือแชน ลูกน้องเก่าซึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นผู้ลงมือฆ่าพ่อของ ขุนเดช ให้กลับมาช่วยงานขโมยพระ เสือแชนไม่ชอบสะสมวัตถุโบราณ แต่จะชอบสะสมอาวุธโบราณ เช่น มีด หอก ดาบ เมื่อตำรวจสืบทราบจึงส่งสายตำรวจชื่อนายเหลือง เข้าไปตีสนิทโดยเอาดาบโบราณไปให้เสือแชนเพื่อสร้างความไว้วางใจ เหลืองบอกเสือแชนว่าถ้าอยากได้อีกก็ยังมีอีกเยอะ เพราะรู้แหล่งที่ฝังสมบัติอยู่ในถ้ำบนเขา เสือแชนหลงกลเชื่อจึงตามเหลืองขึ้นไปในถ้ำ เมื่อสบโอกาสเหลืองผลักเสือแชนตกลงไปก้นถ้ำ แล้วออกมาตามหมวดยงยุทธกับจ่าแท่นซึ่งรออยู่ด้านนอกเพื่อรอจับ แต่ระหว่างนั้น ขุนเดช ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถ้ำก็ได้โอกาสล้างแค้นให้พ่อ โดยปล่อยงูจงอาจให้กัดเสือแชน แล้วใช้ดาบนิลฟันคอเสือแชนจนหลุดจากบ่า พอตำรวจเข้ามาก็เจอแต่สภาพศพของเสือแชนที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับหมวดยงยุทธว่าต้องเป็นฝีมือของ ขุนเดช แน่ ๆ

การตายของเสือแชนทำให้กำนันบุญแค้นใจมาก จึงสั่งคนไปลอบยิง ขุนเดช ขณะที่กำลังตกแต่งเจดีย์พุ่มข้าวบิณฑ์ ขุนเดช ร่วงลงมาจากยอดเจดีย์แต่รอดตายเพราะตกลงมาในดงต้นพุทธรักษา ในขณะที่ ขุนเดช ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหมวดยงยุทธกับ จ่าแท่นก็มาตรวจที่เกิดเหตุ จ่าแท่นเจอดาบนิลของ ขุนเดช ที่ตกอยู่จึงหยิบขึ้นมาดู แต่พอชักดาบออกมาพบว่าข้างใน ไม่ใช่ดาบหักอย่างที่ ขุนเดช เอาให้ดูมาตลอด แต่มันเป็นดาบนิลที่คมกริบ จ่าแท่นตกใจมาก หรือว่าที่หมวดยงยุทธสงสัยจะเป็นเรื่องจริง แต่พอหมวดยงยุทธเดินมา จ่าแท่นรีบเก็บดาบเข้าฝักแล้วทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น จ่าแท่นรีบตามไปที่ โรงพยาบาลแล้วฝากดาบนิลให้บัวทอง เอาไปคืนขุนเดชโดยที่ยังเก็บเอาความสงสัยไว้กับตัว

ด้านกำนันบุญพอรู้ว่า ขุนเดช ยังไม่ตาย จึงได้ปรึกษาหารือกับ วงศ์ เจ้าของบ่อนพนัน ที่คอยสนับสนุนและทำงานให้กำนันบุญมาโดยตลอด ว่าจะจัดการ ขุนเดช กับพวกคนอื่น ๆ ที่ คอยขัดขวางอย่างไรดี จึงสั่งให้วงศ์รวบรวมลูกน้องไปก่อกวนสถานที่ต่าง ๆ จนสร้างความโกลาหล โดยเฉพาะกับกลุ่มนักศึกษาชายและหญิงของอาจารย์ดาราที่โดนพวกนักเลงบ่อนของวงศ์คุกคามความปลอดภัย บุกเข้าไปทำอนาจารนักศึกษาสาว ๆ เมื่ออาจารย์ดาราจะเอาเรื่อง วงศ์ก็หัวหมอใช้อิทธิพลของกำนันบุญเอาตัวรอดจากคุกจากตะรางออกมาได้ ทำให้อาจารย์ดาราไม่พอใจหมวดยงยุทธที่ปล่อยให้พวกนอกกฏหมายทำอะไรได้ตามอำเภอใจ หมวดยงยุทธเองซึ่งถูกผู้ใหญ่กดดันมาเรื่องฆาตกรฆ่าโจรก็หลุดปากสวนกลับเพราะไม่พอใจที่ถูกอาจารย์ดาราต่อว่า และคิดว่าอาจารย์ดาราเห็นด้วยกับการกระทำของวีรบุรุษบาปที่พวกชาวบ้านกำลังยกย่องเชิดชู แต่สิ่งที่มันทำก็ไม่ต่างจากอาชญากรคนหนึ่ง !!

วงศ์ย่ามใจทำเรื่องผิดกฎหมายได้โดยไม่เกรงกลัวเพราะถือว่ามีกำนันบุญและรัฐมนตรี ที่คอยหนุนหลังกำนันบุญช่วยอยู่ และเมื่อรู้เรื่องว่ามีสมบัติอยู่บนเขาจึงได้ชักชวน นางหวาด ซึ่งเป็นเมียขึ้นไปขุดสมบัติด้วยกัน เมื่อวงศ์ขุดเจอดาบทองคำส่วนหวาดเจอกำไลทองจึงดีใจพากันกลับบ้าน พอรุ่งเช้าวงศ์ถูกผีเข้าสิงเอาดาบทองคำไล่ฟันเมีย หวาดจึงต่อสู้แล้วใช้มีดฟันวงศ์จนตาย ส่วนตนเองพอฆ่าผัวตายจึงเป็นบ้าเอาดาบและกำไลทองคำหนีเข้าป่าหายสาบสูบไป

สำหรับนายสัมฤทธิ์ลูกชายของกำนันบุญ ซึ่งเคยเจอบัวทองในงานวัดจึงรู้สึกถูกตาต้องใจในความสวยของบัวทอง สัมฤทธิ์พยายามตามจีบและเอาของมีค่ามาให้บัวทองเพื่อหวังจะชนะใจ แต่บัวทองไม่เล่นด้วยแถมยังเกลียดเข้าไส้ คำผกาเองก็เกลียดบัวทองอยู่แล้วจึงเป่าหูให้สัมฤทธิ์วางแผนฉุดบัวทองมาทำเมีย สัมฤทธิ์เห็นด้วยจึงวางแผนให้ลูกน้องและ จำเริญ คนงานเก่าของขุนเดชมาช่วยฉุดบัวทองไปไว้ที่กระท่อมร้าง บัวทองเกือบจะตกเป็นของสัมฤทธิ์ โชคดีที่นางหวาดโผล่มาอาละวาดเอาดาบไล่ฟันสัมฤทธิ์ บัวทองจึงหนีหลุดไปได้ สัมฤทธิ์โกรธมากจึงยิงนางหวาดตายและเอากำไลทองมาจากนางหวาด พอตำรวจรู้เรื่องจาก หมอน้อย หมอประจำหมู่บ้านที่เป็นที่เคารพของทุกคน ซึ่งเห็นเหตุการณ์บัวทองถูกฉุดและมาแจ้งความให้ตำรวจไปช่วยบัวทอง จ่าแท่นจึงนำกำลังมาช่วยหลาน จำเริญซึ่งคอยดูต้นทางอยู่ได้ยินพวกลูกน้องของสัมฤทธิ์คุยกันว่า บัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช จึงตกใจมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าบัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช ซึ่งเป็นหัวหน้าเก่า สาเหตุที่จำเริญยอมทำชั่วช่วยสัมฤทธิ์ฉุดบัวทอง ทำไปเพราะอยากได้เงินไปให้แม่ที่กำลังป่วยและจะบวชทดแทนบุญคุณให้แม่ แต่พอรู้ว่าบัวทองเป็นแฟนของ ขุนเดช จำเริญเริ่มกลัวจึงรีบหนีไป ส่วนสัมฤทธิ์ก็เกือบโดนตำรวจจับได้ แต่ได้มา เจอ เสือเพิก เพื่อนเก่าของกำนันบุญมาช่วยไว้ แล้วพาไปอยู่ที่ซุ้มโจรด้วยกันช่วยกันออกปล้น ฆ่าชาวบ้าน แต่สัมฤทธิ์คิดชั่วอยากได้ลูกน้องของเสือเพิกมาเป็นของตัวเอง จึงหักหลังฆ่าเสือเพิกแล้วตั้งตัวเป็นหัวหน้าโจรซะเอง

หลังจากที่จำเริญกับพวกคนอื่นๆหนีตำรวจมาได้ก็มาถูก ขุนเดช ไล่ล่าฆ่าตายที่ละคน เหลือแต่จำเริญที่หนีมาบวชเพื่อทดแทนคุณแม่จนได้ เพราะกลับตัวกลับใจสำนึกผิดหวังว่าการบวชครั้งนี้นอกจากทดแทนบุญคุญแม่แล้วยังจะช่วยลบล้างความผิดที่ทำมา ขุนเดช ตามมางานบวชของจำเริญ โดยมีหมวดยงยุทธกับจ่าแท่นแอบตามมาดู ขุนเดช ว่าจะฆ่าจำเริญหรือไม่  แต่เมื่อ ขุนเดช มาเจอจำเริญที่อยู่ในผ้าเหลืองแล้วจึงอโหสิกรรมทุกอย่างให้กับจำเริญ จ่าแท่นจึงรู้สึกโล่งใจที่ขุนเดชไม่ทำอะไรวู่ว่ามลงไป

คำว่าอโหสิกรรมที่ ขุนเดช กล่าวต่อหน้าพระจำเริญทำให้ ขุนเดช เริ่มคิดได้ และการดูแลเอาใจใส่ของบัวทองในระหว่างที่ ขุนเดช พักรักษาตัวตอนที่ถูกยิง ก็ทำให้หัวใจของ ขุนเดช ที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีความรักให้ใครก็เริ่มอ่อนผ่อนลง เมื่อรู้ข่าวเรื่องโจรขโมยพระ ขุนเดชก็พยายามถอยและไม่ลงมือเอง แต่ส่งเบาะแสให้กับตำรวจให้เป็นฝ่ายจัดการ  จนกระทั่งมีชายเชื้อสายจีนไว้ผมเปียยาว ขายของเด็กเล่น อาศัยอยู่บนเรือ ชาวบ้านเรียกเค้าว่า จีนเปีย เข้ามาในศรีสัชฯ  ขุนเดชรู้สึกสงสัยในท่าทีมีพิรุธจึงพยายามสืบจนรู้ว่าเป็นพวกขโมยพระแล้วนำพระมาซ่อนไว้บนเรือ ขุนเดช จึงให้เบาะแสกับตำรวจจนตำรวจสามารถจับจีนเปียไว้ได้

จีนเปียถูกขังอยู่ในตะรางแต่ได้วางแผนจะแหกคุกออกไปจึงโกหกว่าหิวน้ำ ให้ตำรวจเอาน้ำมาให้ พอตำรวจเผลอจึงเอามีดเล็กที่ซ่อนอยู่ที่ผมเปียออกมาปาดคอตำรวจตายแล้วหลบหนีออกไป ตำรวจพยายามไล่ล่าจีนเปีย แต่จีนเปียก็สามารถหนีไปได้ ขุนเดช จึงต้องออกโรงด้วยตนเอง จัดการฆ่าจีนเปียแล้วนำศพมาส่งให้ที่สถานีตำรวจ

หลังจากที่สัมฤทธิ์เป็นหัวหน้าโจรปล้นฆ่าชาวบ้าน จนถูกทางการกดดันตามล่าตัว สัมฤทธิ์จึงหนีกลับมากบดานที่บ้านกำนันบุญที่ใช้อิทธิพลของตัวเองซ่อนลูกชายเอาไว้ไม่ให้ใครกล้าเข้ามายุ่ง ทางฟากรัฐมนตรีปราชญ์ที่พยายามปกปิดเรื่องลูกสาวท้องโตในวัยเรียนมาตลอด แต่เรื่องอื้อฉาวก็ไม่สามารถปกปิดได้ สาเหตุเพราะประดับทะเลาะกับปารมี เนื่องจากไปจับได้ว่าประดับไปมีอะไรกับคำผกาโสเภณีร่านราคาถูก และรู้ความจริงว่าประดับไม่เคยรักเธอเลย คิดแต่จะใช้เป็นเครื่องมือเพื่อได้เข้ามาเป็นลูกเขยรัฐมนตรี ปารมีน้อยใจประดับขับรถออกจากบ้านแล้วไปชนแม่ค้าข้างถนนตาย กลายเป็นข่าวครึกโครม ลูกสาวรัฐมนตรีท้องโตขับรถชนคนตาย ชื่อเสียงของรัฐมนตรี ปราชญเสียหายหนัก จนมีข่าวแว่วมาว่ามีสิทธิ์จะถูกถอดถอน ประดับกลัวว่าตัวเองจะเสียโอกาสถ้าไม่มีพ่อตาเป็นรัฐมนตรี จึงอาสาว่าจะทำทุกอย่างไม่ให้ท่านรัฐมนตรีหลุดจากเก้าอี้ รัฐมนตรีปราชญ์รู้มาว่าถ้าสามารถหาเครื่องชามสังคโลกโบราณที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาเป็นสินบนให้กับผู้ใหญ่ในพรรคได้ เก้าอี้ของตัวเองก็จะไม่หลุด เพราะเครื่องชามสังคโลกที่ยังสมบูรณ์และงดงามไร้ที่ติ ไม่ได้ใช่ของหากันง่าย ๆ เท่าที่มีอยู่ก็มีแต่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเท่านั้น ประดับอาสาว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เองเพราะก่อนหน้านี้ได้ข่าวจาก ทางกำนันบุญว่ามีการค้นพบเครื่องชามสังคโลกในสภาพสมบูรณ์ที่ศรีสัชฯ

ประดับเดินทางมาหากำนันบุญ ซึ่งได้ยืนยันเรื่องเครื่องชามสังคโลกว่ามีการค้นพบแล้วจริง ๆ โดยรู้มาจากลูกน้องที่เคยแอบเข้าไปลักขุดขโมยของโบราณในที่ดินของหมอน้อย และรู้ว่าหมอน้อยมีเครื่องชามสังคโลกโบราณอยู่ กำนันบุญจึงไปทาบทามขอซื้อแต่ถูกหมอน้อยปฏิเสธ หมอน้อยบอกกำนันบุญว่าได้บริจาคที่ดินรวมถึงเครื่องชามสังคโลกให้กับทางการหมดแล้วเพื่อเป็นประโยชน์แก่แผ่นดิน กำนันบุญโกรธมากจึงให้สัมฤทธิ์พาลูกน้องไปปล้นที่บ้านหมอน้อย สัมฤทธิ์ฆ่าหมอน้อย เมียและลูก รวมถึงนายชื่นคนงานเฝ้าไร่ตายทั้งบ้าน แต่โชคดีที่นายชื่นแค่บาดเจ็บ จึงมาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพวกสัมฤทธิ์เป็นคนลงมือฆ่าหมอน้อยและครอบครัว หมวดยงยุทธบุกไปตามจับสัมฤทธิ์ที่บ้านกำนันบุญ แต่กำนันบุญรู้ตัวว่าตำรวจจะมาเพราะจับลูกชายเพราะรำพันแอบส่งข่าวให้ตำรวจรู้ว่าสัมฤทธิ์กบดานอยู่ที่บ้าน สัมฤทธิ์รอดไปได้โดยส่งให้ไปกบดานอยู่กับ นายซ้อน ลูกน้องเก่าที่ทำไร่อยู่ที่เขาพนมเพลิง ส่วนรำพันถูกกำนันบุญตบตีทำร้ายจะเอาถึงตาย ทิพย์ร้องไห้กระจองอแงเข้าไปกอดไม่ให้พ่อทำร้ายแม่ กำนันโกรธลูกสาวปัญญาอ่อนและทนรำคาญไม่ไหว คำผกายุส่งให้กำนันบุญจับลากตัวไปส่งโรงพยาบาลบ้า เพราะทนรำคาญทิพย์ที่ชอบมาทำให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่บ่อย ๆ

แต่ระหว่างฉุดกระชากลากถูทิพย์สะบัดตัวหนี กำนันบุญกับคำผกาที่ช่วยกันจับตัวทิพย์อยู่เกิดพลาดท่าตกบันไดลงมาหมดสติทั้งคู่ ซึ่งในระหว่างที่หมดสติไปนั่นเอง กำนันบุญได้ฝันเห็นภาพในอดีตของตัวเองที่เคยไปลักตัดเศียรพระ และได้เจองูเห่านับเป็นสิบ ๆ ตัวเลื้อยปกป้ององค์พระ พวกลูกน้องพากันกลัวว่าเป็นงูเจ้าไม่ควรไปยุ่งหรือไปทำร้ายไม่อย่างนั้นบาปจะติดตัว แต่กำนันบุญไม่เกรงกลัวบาปกลัวกรรมเอาถังน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาฆ่างูเจ้าจนตายเกลี้ยง หลังจากนั้นไม่นานรำพันก็คลอดลูกออกมาเป็นทิพย์ ที่ตอนเกิดมีเกล็ดตามตัวเหมือนเกล็ดงู และเมื่อโตขึ้นทิพย์ก็มีอาการปัญญาอ่อนไม่สมประกอบ ส่วนคำผกาก็ฝันเห็นภาพตัวเองตอนเป็นเด็กยากจนไม่มีข้าวกิน จนต้องไปลักขโมยข้าวแม่ค้าคนหนึ่งเป็นประจำ จนวันนึงเขาจับได้และสั่งไม่ให้ขโมยอีกถ้าอยากกินก็ให้มาขอ แต่เพราะสันดานชอบลักเล็กขโมยน้อยที่ติดเป็นนิสัย เมื่อเห็นแม่ค้ามีสร้อยทองใส่ก็อยากได้จึงแอบขโมยมาเก็บไว้ เมื่อแม่ค้าจับได้คำผกาก็ผลักแม่ค้าล้มลงไปที่ถนนจนถูกรถชนตาย

เมื่อกำนันบุญกับคำผกาฟื้นขึ้นมาก็พบว่ารำพันได้พาทิพย์หนีไปแล้ว ส่วนกำนันบุญเมื่อพยายามจะลุกขึ้นก็ทำไม่ได้อย่างเหมือนก่อน เพราะแข้งขาไม่มีเรี่ยวมีแรงจะขยับไปไหนก็ต้องใช้วิธีเลื้อยเอาคล้ายกับงูที่ต้องเลื้อยไปมา หมอบอกว่าที่กำนันบุญเป็นอย่างนี้สาเหตุมาจากการตกบันไดทำให้เส้นประสาทที่ขาเสียหาย คำผกาเห็นเข้าก็รู้สึกทุเรศลูกตาไม่สนใจใยดีกำนันบุญอีก และแอบขโมยกุญแจห้องเก็บสมบัติของกำนันเพื่อเข้าไปลักเอาแก้วแหวนเงินทองของกำนัน โดยเฉพาะกับกำไลทองที่สัมฤทธิ์เอามาจากศพนางหวาด แต่เมื่อคำผกาเอากำลังมาสวม คำผกาก็มีอาการไม่ต่างจากนางหวาดที่คลุ้มคลั่ง ควงดาบออกไล่ฟันลูกน้องกำนันบุญ และหนีมาเจอประดับ คำผกาก็พยายามทำร้ายประดับ ในที่สุดก็ถูกประดับยิงตายและเก็บเอากำไลทองจากคำผกามาไว้กับตัวเอง

กำนันบุญเริ่มกังวลและคิดถึงบาปกรรมที่เคยทำไว้กับงูเจ้าในอดีต ประดับมาหากำนันบุญเพื่อขอเอาชามสังคโลกที่ได้มาจากหมอน้อย กำนันบุญยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมนอกจากเรื่องเงินแล้ว อยากจะขอให้ท่านรัฐมนตรีช่วยเหลือลูกชายให้พ้นคดี และช่วยหาหมอเก่ง ๆ มารักษาให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง เพราะเกรงกลัวว่าถ้าไอ้ ขุนเดช มันรู้ตัวเองกลายเป็นแค่ไอ้พิการ มันต้องตามมาจัดการฆ่าแก้แค้นที่เคยไปฆ่าพ่อมันแน่ ๆ ประดับเลยได้รู้ว่า ขุนเดช ศัตรูในอดีตที่เคยฝากความแค้นกันไว้นั้นตอนนี้มันก็ยังตามรังควาญเขาไม่หยุด ประดับคิดแผนการบางอย่างที่จะจัดการกับ ขุนเดช เพื่อสางความแค้น เลยทำเป็นรับปากกับกำนันบุญว่าจะจัดการตามที่ต้องการทุกอย่าง แต่พอลงจากเรือนของกำนันบุญได้ไม่เท่าไหร่ ประดับก็สั่งลูกน้องให้จัดการเผาบ้านกำนันบุญ ทรัพย์สมบัติของกำนันบุญก็สั่งให้คนขนออกมาจนเกลี้ยง ลูกน้องคนไหนที่ไม่ยอมแปรพักต์ก็จัดการฆ่าตายให้หมด แล้วใช้เลือดเขียนบนผนังเรือนว่านี่คือการ แก้แค้นของ ขุนเดช

การตายของหมอน้อยพร้อมกับครอบครัว สร้างความเสียใจให้กับทุกคนในศรีสัชฯที่ ต้องสิ้นคนดี ขุนเดช รักและเคารพหมอน้อยเหมือนญาติผู้ใหญ่จึงโกรธแค้นเป็นอย่างมากและ คิดแก้แค้นให้หมอน้อย นายซ้อนซึ่งให้ที่พักกับสัมฤทธิ์แอบมาพบกับ ขุนเดช เพื่อส่งข่าวเรื่องของสัมฤทธิ์ให้รู้ ถึงนายซ้อนจะเคยเป็นลูกน้องของกำนันบุญ แต่ตอนนี้ก็กลับตัวกลับใจแล้ว จึงขอให้ ขุนเดช ไปจัดการกับนายสัมฤทธิ์ที่เขาพนมเพลิง ขุนเดช จึงตามไปฆ่าโดยขุดหลุมพราง ให้สัมฤทธิ์ตกไปในหลุมแล้วใช้น้ำมันราดเผาสัมฤทธิ์ทั้งเป็น และยืนดูมันตายอย่างทรมาณให้สาสมกับความผิดที่เคยทำ หมวดยงยุทธตามมาพบ ขุนเดช ฆ่านายสัมฤทธิ์ซึ่งเป็นหลักฐานคาตา ยงยุทธขอให้ ขุนเดช มอบตัว เพราะตอนนี้ ขุนเดช กลายเป็นอาชญากรที่ตำรวจต้องการ หลังจากที่ไปปล้นเผาบ้านของกำนันบุญ ขุนเดช ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนไปปล้นบ้านกำนันบุญ หมวดยงยุทธและจ่าแท่นเชื่อว่า ขุนเดช ไม่ได้ทำและโดนใส่ร้าย จึงต้องขอร้องให้ ขุนเดช มอบตัวเพื่อไปพิสูจน์ความจริงกับศาล แต่ ขุนเดช ไม่ยอมมอบตัวสู้และเข้าต่อสู้กับหมวดยงยุทธจนเอาตัวรอดหนีไปได้

ที่จริงแล้วกำนันบุญยังไม่ตาย แต่ถูกประดับจับตัวเอาไว้เพื่อเรียกให้ ขุนเดช มาจัดการ โดยประดับเตรียมซ้อนแผนให้ตำรวจมาพบตอนที่ ขุนเดช ฆ่ากำนันบุญ ประดับส่งข่าวเรื่อง กำนันบุญให้ ขุนเดช รู้ผ่านทางอาจารย์ดาราว่ากำนันบุญอยู่ที่ถ้ำ พระศิลาบนเขาหลวง ที่ ๆ พ่อของ ขุนเดช ถูกฆ่าตาย อาจารย์ดาราเตือน ขุนเดช ไม่ให้ไป ตกหลุมพรางของประดับ และอาจารย์ประทีปก็เอาคำพูดของหลวงพ่อสุข ที่เคยเตือน เอาไว้พูดให้ ขุนเดช รู้ แต่ ขุนเดช ยืนยันว่าชีวิตเขาเกิดมาเพื่อปกป้องสมบัติของชาติ เขาคือทหารของพระร่วง ขุนเดช เดินทางไปที่ถ้ำศิลาและได้ พบกำนันบุญในสภาพนั่ง รถเข็นน่าเวทนา กำนันบุญขอร้อง ขุนเดช ให้ไว้ชีวิต อ้างว่าตอนนี้ตัวเองก็ไม่เหลืออะไร อีกแล้วได้รับกรรมที่เคยทำไว้แล้วอยากให้ ขุนเดช อโหสิให้ ขุนเดช ลังเลใจนึกถึงคำพูด ของหลวงพ่อสุขที่อาจารย์ประทีปบอกไว้และคำสัญญากับบัวทองว่าจะใช้ชีวิตด้วยกัน อย่างสงบ ขุนเดช คิดจะอโหสิให้กำนันบุญ แต่กลับถูกกำนันยิงเข้ากลางอกด้วยปืน ที่ซุกเอาไว้ในรถเข็น ขุนเดช ทรุดฮวบหายใจรวยรินเจ็บใจที่โดนกำนันบุญหลอก ประดับโผล่เข้ามาหัวเราะสะใจที่ ขุนเดช โดนเล่นงาน กำนันบุญอ้างว่าประดับสั่งให้ทำ ประดับเข้ามาจิกหัว ขุนเดช สมเพชเวทนาอยากเห็น ขุนเดช ตายต่อหน้าต่อตา เพราะถ้าขืนปล่อยให้ตำรวจได้ตัวไป วันนึง ขุนเดช ก็ต้องพ้นโทษออกมาอีก ประดับทิ้ง ขุนเดช ไว้ ในถ้ำกับกำนันบุญ ขุนเดช เกือบจะตายอยู่แล้วแต่ด้วยคำพูดของพ่อที่พูดถึง พระขพุงผี ผีเทวดาที่ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาใด ๆ บนเขาหลวง ขุนเดช ก็ฮึดลุกขึ้นมา กำนันบุญจะยิง ขุนเดช ซ้ำแต่ ขุนเดช ก็ฟันฉับเข้าที่คอด้วยดาบนิล กำนันบุญคอขาดกระเด็นสาสมกับกรรมที่ทำไว้

หมวดยงยุทธกับจ่าแท่นและกำลังตำรวจตามมาที่เขาหลวงเพื่อต้องการระงับเหตุและจับตัว ขุนเดช บัวทองกับอาจารย์ดาราตามจ่าแท่นมาด้วยเพราะเป็นห่วง ขุนเดช แต่หมวดยงยุทธสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นไปที่เขาหลวง อาจารย์ดาราขอร้องหมวดยงยุทธให้ ปล่อย ขุนเดช ไป แต่หมวดยงยุทธยืนยันว่าเขาต้องทำทุกอย่างตามความถูกต้อง เพราะถ้าเขาทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องชาตินี้เขาก็คงทนมองหน้าใครไม่ได้อีก และอาจารย์ดาราก็คงจะภูมิใจในตัวเขาไม่ได้ อาจารย์ดาราน้ำตารื้นยอมเข้าใจว่าหมวดยงยุทธมีความจำเป็น จึงยอมอยู่กับบัวทองที่ตีนเขาหลวง

ขุนเดช ในสภาพที่บาดเจ็บหนักไล่ล่าตามหาตัวประดับในป่าบนเขาหลวง ประดับคิดว่าตัวเองน่าจะหาทางออกได้แต่ก็เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ เมื่อทางออกที่เคยเดิน กลับไม่เหมือนเดิม ประดับเริ่มเดินวนเวียนอยู่ในป่าจนหลวงทาง และได้ยินเสียงหวีด ร้องน่ากลัวไปทั่วป่า ประดับยิงปืนไปทั่วเพราะคิดว่าเป็นฝีมือของ ขุนเดช แต่ภาพที่ประดับเห็นกลับเป็นภาพของนักรบโบราณเดินไปเดินมาอยู่รอบตัว และหนึ่งในกลุ่มนักรบโบราณก็คือ ขุนเดช ที่ยืนจังก้า ในมือถือดาบนิลที่ชักออกมาเป็นดาบคมกริบ ขุนเดช ตวัดดาบเข้าสู้กับประดับและใช้มันเสียบทะลุหัวใจของประดับจนตายคาที่ จ่าแท่นกับหมวดยงยุทธตามมาพบ ขุนเดช ในสภาพหายใจรวยริน ขุนเดช บอกหมวดยงยุทธว่าเสียใจที่ให้หมวดจับเข้าคุกไม่ได้ เพราะคงสิ้นลมหายใจอยู่ที่เขาหลวงแห่งนี้ ขุนเดช ขอร้องหมวดยงยุทธว่าปล่อยให้เขาตายอยู่ที่นี่ จะได้เป็นผีเฝ้าสมบัติของบรรพบุรุษจากพวกใจบาป ขุนเดช แน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตาหมวดยงยุทธ

รัฐมนตรีปราชญ์มาที่สุโขทัยเพื่อรับถ้วยชามสังคโลกที่ประดับเก็บไว้ให้ เมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องของประดับที่ไปเกี่ยวข้องกับพวกค้าวัตถุโบราณ ท่านรัฐมนตรีด่าประดับว่าเป็นพวกสารเลวและเพิ่งรู้เห็นความเลวของมันเหมือนกันสาสมที่มันตายซะได้แถมยังรับปากกับประชาชนว่าจะกวาดล้างพวกขายสมบัติชาติให้สิ้นซาก แต่ครั้นเมื่อท่านรัฐมนตรีกลับมาถึงบ้านก็พบว่าประดับได้ส่งของขวัญมาให้ปารมี โดยสั่งให้ลูกน้องเอามาให้ก่อนที่ประดับจะตาย ปารมีเปิดกล่องของขวัญออกมาพบว่าเป็นกำไลทอง ปารมีเห็นว่าสวยดีจึงสวมกำไลทอง เข้าไปแล้วก็เกิดอาการคุ้มคลั่ง ลุกขึ้นมาไล่ทำร้ายรัฐมนตรีปราชญ์จนตกบันไดคอหักตายคาที่ ส่วนปารมีก็กลายเป็นบ้าเดินเพ้อละเมอว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงหายออกจากบ้านไป

หมวดยงยุทธกับจ่าแท่นและชาวบ้านทุกคนร่วมกันจัดงานเผาศพให้ ขุนเดช ทุกคนมาร่วมงานศพ บัวทองยืนร้องไห้เสียใจ แค้นที่คนดี ๆ อย่าง ขุนเดช ต้องมาตายเพราะฝีมือคนชั่ว บัวทองเสียใจมากจึงได้เดินหลบออกไป จ่าแท่นเดินตามมาแล้วเล่าความจริงให้บัวทองฟังว่า ขุนเดช ยังไม่ตาย ตอนนี้หลบพักรักษาตัวอยู่ และเป็นความตั้งใจของหมวดยงยุทธที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าวีรบุรุษบาปอย่าง ขุนเดช ได้ตายจากไปแล้ว บัวทองดีใจเมื่อรู้ดังนั้น จึงพาแม่ไปอาศัยอยู่กับ ขุนเดช ไปปลูกไร่ ไถ่นาอยู่กันตามประสาอย่างมีความสุข โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ขุนเดช ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนหมวดยงยุทธได้เลื่อนยศขึ้นเป็น ผู้การที่จังหวัดสุโขทัยและได้แต่งงานกับอาจารย์ดารา ทุก ๆ วันหมวดยงยุทธมักจะยืนมองโบราณสถานที่ยังทรงคุณค่า และนึกขอบใจ ขุนเดช ที่เสีย สละตัวเองเพื่อปกป้องสมบัติและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ให้อยู่สืบไป….. ติดตามชม ละครขุนเดช

รายชื่อนักแสดงนำในละคร ขุนเดช

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์   รับบท   ขุนเดช
ศุกลวัฒน์ คณารศ   รับบท   ร.ต.ท.ยงยุทธ
อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล   รับบท   บัวทอง
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข   รับบท   อาจารย์ดารา
สุรวุฑ ไหมกัน   รับบท   กำนันบุญ สุโขทัย
ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์   รับบท   ประดับ (ลูกเขยปราชญ์)
อุษณีย์ วัฒฐานะ   รับบท   คำผกา
ขวัญกวินท์ ธำรงรัฐเศรษฐ์   รับบท   ปารมี (ลูกรมต.)
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์   รับบท   สัมฤทธิ์ (ลูกบุญ)
เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์   รับบท   รัฐมนตรีปราชญ์
ภารดี อยู่ผาสุข   รับบท   คุณหญิง
วันชัย เผ่าวิบูลย์   รับบท   อาจารย์ประทีป
วินัย ไกรบุตร   รับบท   เดื่อง (พ่อขุนเดช)
รชยา รักษ์กสิกรณ์   รับบท   คำปัน (แม่บัวทอง)
วีระชัย หัตถโกวิท   รับบท   จ่าแท่น (ลุงบัวทอง)
ธนา สินประสาธน์   รับบท   เถิน (พ่อดารา)
ตฤณ เศรษฐโชค   รับบท   หมอน้อย
น้ำทิพย์ เสียมทอง   รับบท   มะลิ
ประถมาภรณ์ รัตนภักดี   รับบท   สาลี่
ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง   รับบท   หลวงพ่อสุข
ยอดชาย เมฆสุวรรณ   รับบท   หลวงลุง
ฆนัท นาคถนอมทรัพย์   รับบท   อาจารย์ดำรง
พิพัฒน์พล โกมารทัต   รับบท   ฮวด
ปริษา ทนาวิวัฒน์   รับบท   รำพัน (เมียใหม่บุญ)
ณปภัช วรพฤทธานนท์   รับบท   ทิพย์ (ลูกรำพันบุญ)
พชร กระต่ายทอง   รับบท   เปี๊ยะ (น.ศ.)
ชญานี ธิติ   รับบท   กบ (น.ศ.)
ธัชพร วาจา   รับบท   หยิน (น.ศ.)

รายชื่อนักแสดงรับเชิญ

สุรพันธุ์ ศรีวิลัย   รับบท   เสือเพิก (เพื่อนเก่า)
ณรงค์ เจนครองธรรม   รับบท   เสือชิด (ลูกน้อง)
ยุพข่าน ดัสกร   รับบท   เสือแชน (ลูกน้อง)
ณรัฐ พัฒนาพงศ์ชัย   รับบท   ลูกน้องประดับ
เนรัญ ศรีสันต์   รับบท   ลูกน้องกำนันบุญ
ชมวิชัย เมฆสุวรรณ   รับบท   ลูกน้องสัมฤทธิ์
จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ   รับบท   เถร
เวนซ์ ฟอลโคเนอร์   รับบท   เปรื่อง อยุธยา
พงศนารถ วินศิริ   รับบท   ผู้ใหญ่น่วม
รอน สมูเรนเบิร์ก   รับบท   แจ๊ค
โอลิเวอร์ บีเวอร์   รับบท   วงศ์
ณรงค์ฤทธิ์ ป้อมภู่   รับบท   จำเริญ
นิมิตร ทยานุวัฒน์   รับบท   จีนเปีย
ธนัช ศรีบรรจง   รับบท   ตากล้ำ (พ่อเถร)
พจนี ใยละออ   รับบท   ยายแช่ม (แม่เถร)
จิณณะ จอมขันเงิน   รับบท   น้ำ (ลูกน่วม)
ปวารา อภิพูนลาภ   รับบท   หวาด (เมียวงศ์)
โชคดี พักภู่   รับบท   ชื่น (คนงานหมอน้อย)
อิทธิกร สาธุกรรม   รับบท   ซ้อน เขาพนมเพลิง

สัญญาแค้นแสนรัก

แหวน (พิยดา อัครเศรณี) กับ เชิด(ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ ) นักต้มตุ๋น กำลังจะแต่งงานกัน แหวนไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเชิดหลอก แต่แหวนต้องการจะแต่งงานเพื่อที่จะได้ไม่ไปแต่งงานกับ สนธยา(ภูริ หิรัญพฤกษ์ ) เธอจึงขอยืมเงินพ่อเพื่อที่จะนำมาจัดงานแต่งงาน แต่เธอบอกพ่อว่าจะเอาเงินนี้มาลงทุนทำธุรกิจ เชิดได้ว่าจ้างให้บริษัทของเจษ(ณัฐวุฒิ สกิดใจ)จัดงานแต่งงาน แต่สุดท้ายเมื่อมีงานแต่งงาน เชิดกลับหนีไปพร้อมเงินค่าสินสอด แหวนจึงโกรธจัด ใช้ปืนไล่ยิง สุดท้ายก็ตามตัวไม่พบ เจษมาทวงเงินค่าจัดงานกับแหวน แต่แหวนไม่มีให้ เจษจึงให้แหวนมาทำงานใช้หนี้ที่บริษัท พัชชา(เมย์ เฟื่องอารมย์)แฟนสาวของเจษไม่พอใจที่แหวนมาทำงานกับเจษ จึงเสนอที่จะใช้เงินให้แต่เจษไม่รับ ความสัมพันธ์ของเจษกับแหวนดีขึ้นเรื่อยๆ

วงแหวน สาวโอเปอร์เรเตอร์ที่กำลังจะแต่งงานกับ เชิดชัย แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันได้ไม่กี่เดือน เชิดชัยได้แสดงความกล้าหาญช่วยชีวิตวงแหวนจากโจรที่มาดักจี้ วงแหวนประทับใจมากโดยไม่รู้เลยว่าเชิดชัยเป็นนักต้มตุ๋น และทั้งหมดเป็นแผนของเชิดชัยที่หลอกให้ผู้หญิงตายใจมานักต่อนัก เชิดชัยสารภาพรักและขอวงแหวนแต่งงาน วงแหวนรับปากด้วยความดีใจสุดขีด วงแหวนเองก็พ่อกับแม่บังคับให้แต่งงานกับ สนธยา ลูกชายคนเดียวของ กำนันสุข ผู้ทรงอิทธิพลแถวบ้าน

เชิดชัยอ้างว่ากลัวพ่อแม่ของวงแหวนที่ดูถูกที่เขาจน จึงต้องการที่จะจัดงานแต่งงานยิ่งใหญ่และขอให้วงแหวนช่วยสร้างภาพ ด้วยการหาเงินมาสำรองจ่ายค่างานแต่งงานและสินสอดไปก่อน วงแหวนหลงกลยอมโทร.ทางไกลไปหลอก วงศ์ ผู้เป็นพ่อว่าต้องการยืมเงิน 2 แสนไปลงทุนทำธุรกิจขายตรงกับเพื่อน วงศ์ส่งเงินมาให้วงแหวนตั้งใจว่าจะคืนเงินสินสอดให้พ่อหลังจบงาน และเอาเงินจากซองช่วยงานแต่งงานมาเป็นค่าจ้างบริษัทจัดงานที่เชิดชัยติดต่อมา

โดยที่วงแหวนไม่รู้เลยว่าเงินนั้นไม่ใช่เงินของวงศ์ แต่เป็นเงินค่าสินสอดที่วงศ์ได้มาจากสนธยา เจษฎา เจ้าของบริษัทสร้างรักจำกัด คือบริษัทที่เชิดชัยได้จ้างมาจัดงานให้ บังเอิญว่าฐานะทางการเงินของเจษฎากำลังแย่จึงโก่งค่าตัวและเชิดชัยก็ตกลงทุกอย่าง วงแหวนจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ แต่ครอบครัวของวงแหวนกลับมาร่วมงานด้วยความไม่พอใจ วงแหวนยืนยันว่าเชิดชัยเป็นคนดี แต่สุดท้ายในวันงานเชิดชัยกลับหนีไปจากงาน พร้อมกับเงินสินสอดและซองเงินช่วย

วงแหวนเพิ่งรู้ว่าถูกหลอก โกรธสุดขีดตัดสินใจออกจากงานไปทั้งชุดเจ้าสาวเพื่อตามล่าเชิดชัย เจษฎาเป็นห่วงเกรงหนี้จะสูญจึงตามเจ้าสาวไปที่แฟลตเชิดชัย ขณะเดียวกัน รมช.เดช รมช.กระทรวงการท่องเที่ยวพร้อมวงศาคณาญาติกำลังรอคอยการมาของเจษฎาแฟนหนุ่มที่ พิชชา นางแบบสาวสวยลูกสาวคนเดียวของตระกูลต้องการจะแต่งงานด้วย เดชไม่ชอบเจษฎาแต่ขัดลูกสาวไม่ได้ จึงเปิดโอกาสให้พิชชาพาเจษฎามาเปิดตัวกับญาติมิตรเป็นครั้งแรกในงานรวมญาติครั้งนี้

วงแหวนขับรถตามไปถึงบ้านเช่าของเชิดชัยพยายามจะทวงเงินคืน แต่เชิดชัยไม่ให้วงแหวนคว้าปืนของพ่อออกมาขู่ เชิดชัยกระโดดระเบียงหนีแถมก่อนจะไปยังพูดจาให้วงแหวนเจ็บใจ ทำให้วงแหวนแค้นมากเลยยิงใส่เชิดชัยไปหนึ่งนัด แต่คนที่โชคร้ายกลายเป็นเจษฎาที่ตามไป เจษฎาได้รับบาดเจ็บหมดสติไป ด้วยความกลัวความผิดวงแหวนจึงไม่ยอมแสดงตัว ได้แต่แอบดูเจษฎาที่ถูกพลเมืองดีผ่านมานำส่งโรงพยาบาล ส่วนทางบ้านพิชชารอเก้อ

เดชโกรธมากสั่งให้ลูกสาวตัดขาดจากเจษฎา เมื่อเจษฎาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าชีวิตกำลังย่ำแย่ เขาต้องใส่เฝือกที่แขน ตำรวจจับคนที่ยิงเขาไม่ได้ พิชชาไม่ยอมรับโทรศัพท์ เมื่อไปที่บริษัท กัญญา เลขาฯ ก็รายงานว่าเจ้าหนี้ทุกรายกำลังรุมล้อมเข้ามา เขาโทษวงแหวนเป็นตัวซวยที่ทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ เจษฎาจึงสั่งให้กัญญาและ มะลิ พนักงานในบริษัทไปทวงหนี้วงแหวน ซึ่งวงแหวนกำลังจะหนีแต่ถูกจับได้ซะก่อนเธอสารภาพว่าไม่มีเงิน

เจษฎาจึงบังคับให้เธอใช้แรงงานเพื่อเป็นไถ่หนี้ทั้งหมด 500,000 บาท นอกจากนั้นวงแหวนเพิ่งได้รู้จากวงศ์ว่าเงินที่เธอยืมมานั้นความจริงเป็นเงินค่าสินสอดที่สนธยามาสู่ขอเธอเอาไว้ เท่ากับว่าตอนนี้เธอเป็นหนี้ผู้ชายถึง 2 คนคือเจษฎาและสนธยา วงแหวนหมดทางหนีเลยยอมไปทำงานที่บริษัทของเจษฎา 6,360 บาทต่อเดือน เจษฎาจิกใช้งานวงแหวนสารพัดเพื่อล้างแค้น วงแหวนก็รู้ว่าเจษฎาแกล้งตัวเองก็เอาคืนบ้าง บริษัทสร้างรักเลยกลายเป็นสนามรบ

เจษฎาทำงานหนักเลยไม่มีเวลาไปง้อพิชชาที่ตั้งตารอให้แฟนไปง้อ ในที่สุดพิชชาก็หมดความอดทน เธอไปหาเจษฎาที่ทำงานและพบกับวงแหวน สัญชาตญาณของพิชชาบอกได้ทันทีว่าวงแหวนคือตัวอันตรายสำหรับความรักของเธอ พิชชาเข้ามาวุ่นวายในบริษัทเพื่อกันท่าวงแหวน ทำให้เจษฎากับวงแหวนทะเลาะกันมากยิ่งขึ้น แต่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งเหมือนทำให้ทั้งสองเข้าใจกันและกันมากขึ้น พิชชาเสนอจะใช้หนี้แทนวงแหวนแต่เจษฎาไม่ต้องการเงินของพิชชา

วงแหวนจึงต้องทำงานที่นี่ต่อไป ดรุณี เพื่อนสาวใหญ่ของวงแหวนต้องการจะจัดงานแต่งงาน วงแหวนอยากหมดหนี้เร็วๆ เลยอาสาเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์งานทั้งหมด และตกลงกับเจษฎาจะทำงานชิ้นนี้เพื่อปลดหนี้แล้วเป็นอิสระจากเจษฎา ซึ่งเจษฎาตกลงแต่รู้สึกเหงาๆ เหมือนว่าต่อไปจะไม่ได้เจอวงแหวนอีก สุดท้ายเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายของเจ้าหนี้และลูกหนี้จะลงเอยกันแบบไหน ติดตามชมได้ในละคร “สัญญาแค้นแสนรัก

ลิลลี่สีกุหลาบ

เถ้าแก่จาง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง เจ้าของบริษัทเงินทุนชื่อโด่งดัง มีบ้านใหญ่โต มีฟาร์มเลี้ยงม้า และเป็นผู้มีอิทธิพล มีลูกสาวคนเดียวชื่อ หลีฮั้ว หรือ ลิลลี่ เป็นคนสวยเอาแต่ใจตัวเอง เถ้าแก่จางจะให้ลิลลี่แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนสนิทชื่อ ปีเตอร์ แต่ลิลลี่ไม่รักเขา จึงหนีการแต่งงานมาเมืองไทย เพราะมีเพื่อนคนไทยชื่อ ศุภนภา และศุภนภาสอนภาษาไทยแก่ลิลลี่จนสามารถพูดได้ แต่เมื่อลิลลี่บินมาถึงเมืองไทย ปรากฏว่าศุภนภาย้ายบ้านไปแล้ว หล่อนจึงต้องไปอาศัยโรงแรมดังนอนชั่วคราวเพื่อสืบหาตัวศุภนภา

เถ้าแก่จางให้คนสนิท 2 คน ชื่อเพ้งกับเต็ก บินตามมาเมืองไทย เพื่อรับลูกสาวกลับ เพ้งเป็นคนใจเย็น สุขุม ผิดกับเต็กที่ใจร้อน มุทะลุ ทั้งสองสืบหาลิลลี่ตามโรงแรม ได้พบหล่อนหลายครั้ง จวน ๆ จะจับตัวหล่อนได้ แต่ลิลลี่ใช้ความฉลาดว่องไว หนีคนของบิดาไปได้ทุกครั้ง ครั้งหนึ่งหนีไปชนกับณพ และณพช่วยหล่อน เพราะหล่อนตะโกนว่าถูกลวนลาม ณพชกต่อยกับเพ้งและเต็ก แล้วพาหญิงสาวหนีไป ลิลลี่แต่งตัวเก่ง เปรี้ยว โฉบเฉี่ยว แต่งหน้าจัด ณพเข้าใจว่าหล่อนเป็นผู้หญิงหากิน และถูกแมงดามาตามจับตัว ลิลลี่เห็นณพมีฝีมือจึงว่าจ้างให้เป็นบอดี้การ์ดคุ้มครอง ณพนึกสนุกและกำลังเซ็งกับชีวิต จึงรับงานนี้

ลิลลี่ไม่รู้ว่าณพเป็นคนร่ำรวย เห็นแต่งตัวปอน ๆ ธรรมดา ๆ ที่แท้ณพเป็นตำรวจ แต่เพิ่งลาออกจากราชการเพราะเบื่องาน บวกกับทะเลาะกับบิดาและแม่เลี้ยง จึงออกจากบ้านใหญ่ไปอยู่คอนโดส่วนตัว พ่อของณพชื่อ คุณอาคม เป็นพ่อม่ายนักธุรกิจ เพิ่งแต่งงานกับกระดังงาลนไฟ ปทุมวดี ม่ายสาวที่เสน่ห์ร้อนแรง อายุคราวลูก คุณอาคมหลงใหลในตัวปทุมวดีมาก ถึงขนาดยอมมอบกุญแจตู้เซฟดอกหนึ่งกับหล่อนและท่านถืออีกดอกหนึ่ง (เวลาเปิดตู้เซฟต้องใช้กุญแจ 2 ดอก เปิดพร้อมกัน) ปกติกุญแจดอกนี้ณพเป็นคนถือไว้ คุณอาคมหลงเมียจนขอจากลูกชายมาให้เมียใหม่

ณพมองออกว่าปทุมวดีไม่ได้รักบิดาจริง แอบได้ยินโทรศัพท์ติดต่อกับชายอื่น จะมาปอกลอก หลอกลวงเงินของท่าน จึงเตือนสติ แต่คุณอาคมไม่เชื่อ ทะเลาะกับบุตรชาย ณพจึงออกจากบ้าน ปทุมวดีไม่ได้รักคุณอาคมจริง ๆ  ยอมเป็นเมียท่านเพราะต้องการสมบัติในตู้เซฟ ซึ่งมีเพชรนิลจินดามหาศาล โดยร่วมมือกับ นายพิพัฒน์ ซึ่งเป็นชายชู้ และเป็นคนวางแผน

ปทุม วดีได้กุญแจจากท่านดอกหนึ่ง ก็รอจังหวะจะขโมยอีกดอกหนึ่งเพื่อเปิดตู้ขโมยเครื่องเพชรแต่ยังไม่ทันได้ ขโมย วันหนึ่งปทุมวดีออกไปช็อปปิ้ง หล่อนหยิบกุญแจออกมาชื่นชม ขณะที่เดินบนถนนขณะนั้นบังเอิญตำรวจเทศกิจจับแม่ค้าหาบเร่ ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าวิ่งหนีตำรวจ วิ่งชนหล่อน ปทุมวดีถูกกระแทกไปชนกับลิลลี่ ซึ่งออกมาเดินหาของกินพอดี กุญแจในมือปทุมวดีหล่นไปในกระเป๋าใบโตของลิลลี่ ปทุมวดีจะทวงพวงกุญแจจากลิลลี่ แต่ในตอนนั้นเพ้งกับเต็กตามลิลลี่มาทัน จะจับลิลลี่กลับฮ่องกง ลิลลี่จึงวิ่งหนี ปทุมวดีวิ่งตามทวงกุญแจไม่ทัน

พิพัฒน์โกรธปทุมวดีที่ทำกุญแจหล่นหาย แต่ปทุมวดีบอกว่าจำลิลลี่ได้แม่นยำ และได้ยินเพ้งกับเต็ก พูดกับลิลลี่เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง ลิลลี่คงจะเป็นนักท่องเที่ยว และพักอยู่โรงแรมแถวย่านที่หล่อนไปช้อปปิ้ง พิพัฒน์กับปทุมวดีสืบจนรู้ว่าลิลลี่พักอยู่โรงแรม และรู้จักณพลูกเลี้ยง จึงทำให้ต้องระมัดระวังยิ่งขึ้น เพราะเกรงณพจะระแวง

พิพัฒน์ส่ง กิติ และอำนวย 2 สมุน นักเลงออกตามจับลิลลี่ เพื่อขอกุญแจคืน..ลิลลี่เข้าใจผิดคิดว่ากิติกับอำนวยเป็นคนของเตี่ย จึงไม่เกรงกลัว ได้แต่หนีเอาตัวรอดอย่างสนุกสนาน ตื่นเต้น โดยไม่รู้ว่าอันตรายกำลังมาถึงตัว หล่อนมีณพคอยช่วยเหลือ

กิติกับอำนวยลงมือรุนแรงจนณพ เพ้งและเต็กสงสัย ทำไมมีอีกสองคนตามประกบลิลลี่ ณพสงสัยที่สุดเพราะถ้าเป็นเพ้งกับเต็ก จะไม่ทำรุนแรงกับลูกสาวนาย จึงสืบว่ากิติกับอำนวยเป็นพวกใคร จนทราบว่าเป็นคนที่ชู้ของปทุมวดีส่งตัวมา เขายิ่งแปลกใจหนักขึ้นว่าทำไมปทุมวดีมาเกี่ยวข้องกับลิลลี่ กลายเป็นว่าลิลลี่ต้องหนีถึงสองพวก คือ พวกเพ้งกับเต็ก คนของเตี่ย กับอีกพวก กิติกับอำนวยคนของปทุมวดี ตลอดเวลาณพคอยช่วยเหลือเป็นองครักษ์ปกป้องดูแลใกล้ชิด จนทั้งสองรักกันและกันเพราะความใกล้ชิด

กิติและอำนวยทำงานล้มเหลวเสมอ เนื่องจากณพขัดขวาง ยังมีเพ้งกับเต็ก คอยช่วยรักษาความปลอดภัยให้ลิลลี่ นายพิพัฒน์จึงต้องเปลี่ยนแผน ณพให้ลิลลี่ย้ายไปอยู่คอนโดของเขา เพ้งกับเต็กตามมาจับตัวลิลลี่ มีสาวหนึ่งในคอนโดชื่อ นัดดา มาช่วยลิลลี่กับณพจนรอด

นัดดาเริ่มสนิทกับ ณพ และลิลลี่ ทำท่าจะหลงรัก ณพ.. ทำให้ลิลลี่หึงหวง ที่แท้ นัดดา คือนางนกต่อของพิพัฒน์ ส่งมาทำงานแทนกิติและอำนวย ให้นัดดามาตีสนิทเพื่อขโมยกุญแจจากกระเป๋าของลิลลี่ นัดดามีโอกาสค้นกระเป๋าของลิลลี่ แต่ไม่พบกุญแจของปทุมวดี จึงกลับไปรายงานนายพิพัฒน์ โดนนายพิพัฒน์ตบหน้า และให้นัดดากลับไปค้นห้องของลิลลี่อีกครั้ง ณพและเพ้งสืบว่าใครที่ทำร้ายลิลลี่ จนมาสงสัยนัดดา ณพแปลกใจที่นัดดาเกี่ยวข้องกับนายพิพัฒน์ และแม่เลี้ยงของเขา…

เพ้ง ได้พบกับนัดดา รู้สึกสนใจหญิงไทยคนนี้เป็นพิเศษ เขาขอให้นัดดาช่วยเกลี้ยกล่อมให้ลิลลี่กลับฮ่องกง เพราะอยู่กรุงเทพฯ ไม่ปลอดภัย นัดดาเองก็ถูกชะตากับเพ้ง หล่อนบอกว่าต้องทำงานให้กับพิพัฒน์ เนื่องจากพ่อหล่อนเป็นหนี้สินพิพัฒน์ ทำงานครั้งนี้เป็นการล้างหนี้ เพ้งจึงจะออกเงินก้อนหนึ่งให้นัดดาไปเคลียร์หนี้.. นัดดาซาบซึ้งแต่ไม่ยอมรับ

ณพ สงสัยในพฤติกรรมของพิพัฒน์กับปทุมวดี..บวกกับนัดดาไม่ใช่คนเลวร้าย จึงขอให้นัดดาร่วมมือกับเขา.. ณพ เป็นคนเจอกุญแจตู้เซฟของบิดาตกอยู่ในกระเป๋าของลิลลี่.. ณพจึงวางแผนกับนัดดาตลบหลังพิพัฒน์กับปทุมวดี ณพให้กุญแจตู้เซฟกับนัดดานำไปให้พิพัฒน์ ปทุมวดีรีบดำเนินตามแผน ขโมยกุญแจของคุณอาคมเปิดตู้นิรภัย.. ขณะนั้น ณพกับคุณอาคมปรากฏกายขึ้น ปทุมวดีขนสมบัติหนีไปไม่รอด..ถูกจับ นายพิพัฒน์หนีไปได้ โกรธแค้นลิลลี่กับพรรคพวก รู้ว่าลิลลี่เป็นลูกมหาเศรษฐี..จะจับลิลลี่ ให้กิติกับอำนวยมาจัดการกับณพ..และจับลิลลี่ไป..เพ้งกับเต็กมาช่วยไม่ทัน.. ณพ เพ้ง และเต็กร่วมมือกันช่วยเหลือลิลลี่ โดยนัดดาช่วยบอกลู่ทางและช่วยลิลลี่สำเร็จ.. แต่ณพถูกยิงเพราะกั้นกระสุนให้ลิลลี่ พิพัฒน์ถูกเพ้งกับเต็กจับส่งตำรวจ.. เถ้าแก่จางบินมาเมืองไทยมาพบกับ ณพ..ผู้ชายที่ลิลลี่เลือกแทนปีเตอร์คู่หมั้นหนุ่ม เถ้าแก่จางยอมยกลิลลี่ให้ณพ เพราะกลัวลูกสาวจะหนี เพ้งคู่กับนัดดา ณพคู่กับลิลลี่…. สมหวังในความรัก ติดตามชม ละครลิลลี่สีกุหลาบ

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

แดน เทพ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ซูเปอร์สตาร์วัยสามสิบเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงและร้ำรวยถึง ขีดสุด มีแฟนเป็นซูเปอร์โมเดลชื่อปรายฟ้า (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) ทั้งคู่จะหมั้นกันในหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่ก็เกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้นซะก่อน แดนเทพได้รับอีเมล์ปริศนาจากเด็กสาวชื่อไอด้า (พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์) ที่อ้างว่าเป็นลูกสาวของแดนเทพกับเคท (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ไอด้าตามสืบเรื่องพ่อและหนีมาเมืองไทยโดยมีโอ๋ (พรรัมภา สุขได้พึ่ง) เพื่อนสนิทของแม่ให้ความช่วยเหลือ แดนเทพกังกลเรื่องที่ไอด้าจะมาเมืองไทยจนทำงานไม่ได้ จึงเล่าเรื่องไอด้าให้ปั๋ง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ผู้จัดการส่วนตัวฟัง เรื่องที่เคยทำเคทสาวไทยท้องเมื่อ 15 ปีก่อนตอนซัมเมอร์ที่ฮอลแลนด์ แต่แม่ของฝ่ายหญิงกีดกันไม่ให้เจอกันอีก แดนเทพไม่เชื่อเรื่องที่ไอด้าเป็นลูกสาวของตน ปั๋งบอกให้แดนเทพปิดเรื่องนี้ไว้เพราะกลัวจะกระทบกับเรื่องงานและเรื่องปราย ฟ้า ปั๋งอาสาจัดการทุกอย่างให้และจัดแจงไปรับไอด้าที่สนามบิน ปั๋งพาไอด้าไปพักที่เพนท์เฮาส์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของแดนเทพ

เมื่อแดนเทพและไอด้าเจอกันปั๋งยื่นข้อเสนอแลกหลักฐานด้วยเงินก้อนโตแต่ไอด้า ไม่รับ ไอด้ายื่นข้อเสนอให้แดนเทพเป็นพ่อตนเองหนึ่งอาทิตย์ แดนเทพให้ไอด้ามาอยู่ที่บ้านของคุณยุทธ (วันชัย เผ่าวิบูล) คุณเอื้อ (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) และผู้พันดนัย (สุรวุฒิ ไหมกัน) พ่อ แม่และพี่ชายของแดนเทพ เป็นเหตุให้แดนเทพนั่งเป็นจำเลยให้พ่อแม่และพี่ชายสอบสวนแดนเทพจึงขอความ ร่วมมือจากพ่อ แม่และพี่ชาย และบอกว่าแค่ได้หลักฐานจากไอด้าทุกอย่างก็จะจบ

ไอด้าใช้เวลาอยู่กับแดนเทพและครอบครัวอย่างสนุกสนาน แดนเทพทำอาหารให้ไอด้าทาน นั่งดูรายการโปรดเป็นเพื่อนไอด้าและทุกเย็นก็รีบกลับมาทานข้าวด้วยและในขณะ เดียวกันก็จ้องจะแฮ็คหลักฐานจากไอด้าแต่ถูกไอด้าจับได้ตลอด คุณเอื้อ คุณยุทธและผู้พันดนัยก็เอ็นดูไอด้าเพราะความน่ารัก ถึงวันเฉลยหลักฐานของไอด้า หลักฐานก็หายไปด้วยฝีมือของเคท เคทกับไอด้าทะเลาะกันยกใหญ่ โอ๋ซ้อนแผนแย่งหลักฐานจากเคทมาได้ และเอาไปให้พ่อแม่ พี่ชายของแดนเทพและแดนเทพดู และบอกว่าตอนนี้เคทแม่ของไอด้าตามมาเอาตัวไอด้ากลับไปแล้ว

เคทพาไอด้าออกจากบ้านแดนเทพ แต่ลืมของไว้ที่บ้านแดนเทพ จึงกลับไปเอาของและเจอแดนเทพเข้าอย่างจัง แดนเทพโวยวายเรื่องที่เคทไม่บอกว่าเธอท้องเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เคทไม่รู้เรื่องที่แม่ของเธอกีดกันแดนเทพกับเธอ เธอจึงไม่เถียงด้วยเพราะคิดว่าแดนเทพเป็นคนไม่รับผิดชอบและทิ้งเธอไปก่อน ไม่ทันที่แดนเทพกับเคทจะเถียงกัน โอ๋โทรมาบอกว่าอยู่โรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคเครียด ต้องได้รับการรักษาด้วยความอบอุ่นและทางจิตใจ คุณเอื้อขอให้เคทและไอด้าอยู่เมืองไทยต่อจนอาการไอด้าดีขึ้น เคททนอยู่บ้านแดนเทพทั้งที่เกลียดขี้หน้า

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ปรายฟ้าอยาก รู้เรื่องของแดนเทพจึงส่งเอื้อมดาว (อธิชนัน ศรีเสวก) ศิลปินในค่ายที่แอบชอบแดนเทพตามแดนเทพแทนตน แลกกับการขึ้นแท่นนางเอกใหม่ เอื้อมดาวตกลงทันที ส่วนทางด้าน ปาปารัสซี่หนุ่มชื่อโม่ง (วิชญ จารุจินดา) ตามถ่ายภาพแดนเทพและไอด้าจนมีข่าวว่าแดนเทพมีกิ๊กเด็ก ปั๋งก็ออกมายอมรับตามนั้นเพราะกลัวว่าจะกระทบกับงาน เคทกับแดนเทพอยู่ร่วมกันในบ้านทั้ง 2 คนได้กลับมาเรียนรู้ซึ่งกันและกับใหม่อีกครั้ง แดนเทพทำตัวน่ารักขึ้น ในวันหนึ่งขณะที่ เคท แดนเทพและไอด้าช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว ปรายฟ้าแอบปีนรั้วเข้ามาเห็นเข้า แดนเทพบอกความจริงทั้งหมดกับปรายฟ้า ปรายฟ้าเสียใจวิ่งสติแตกออกไป ปั๋งหาทางตั้งรับเพราะคิดว่าปรายฟ้าต้องเอาคืนแน่ ๆ แต่ปลายฟ้าวางฟอร์มทำเฉยแล้วกลับช่วยส่งข่าวและให้แดนเทพทำกิจกรรมสาธารณ กุศลสร้างชื่อเสียงให้แดนเทพดังขึ้นไปอีก ปั๋งเอ่ยปากชมเปราะถึงความมีน้ำใจของปรายฟ้าที่ไม่แก้แค้นแดนเทพ ปรายฟ้าขอให้แดนเทพรับปากว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะต้องไม่มีการเลื่อนวัน หมั้น

โม่งยังไม่วางมือจากครอบครัวแดนเทพเพราะถูกจ้างพิเศษจาก คีตะ (กฤษณกัณฑ์ มณีผกาพันธ์) ศิลปินจอมอิจฉาร่วมค่ายเดียวกัน ทนไม่ได้ที่แดนเทพมีงานล้นมือ คีตะตั้งรางวัลให้กับโม่งอย่างงามหากโม่งเปิดโปงเรื่องของแดนเทพได้ ในช่วงนั้นไอด้าและเคทต้องทำทุกทางเพื่อเลี่ยงนักข่าว จนเคททนไม่ไหวพาไอด้าย้ายไปอยู่คอนโด ครอบครัวแดนเทพรู้เข้าก็พยายามทำทุกวิธีให้ทั้งสองคนกลับมาใกล้ชิดกันอีก ครั้ง โดยเฉพาะผู้พันดนัยวางแผนกับผู้พันต้อม (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนรักนายทหารให้ช่วยจีบเคทเพื่อเร่งปฏิกิริยาแความหึงหวงของแดนเทพ ผู้พันต้อมตกหลุมรักเคทเรื่องเลยอิรุงตุงนังเข้าไปอีก

ด้านโม่งลงทุนย้ายไปอยู่คอนโดที่เดียวกับไอด้าและตีสนิทกับไอด้าเพื่อจะคุ้ย ข่าวเรื่องแดนเทพ รุ่นพี่ของโม่งที่เป็นโมเดลลิ่งเห็นไอด้าจึงชวนไปถ่ายโฆษณา ไอด้ามีงานหลายชิ้น แต่ชิ้นที่ไอด้าเห็นจะดี๊ด๊าที่สุดก็คือโฆษณาที่แดนเทพเล่นเป็นพระเอก โม่งจับตาดูจนแน่ใจว่าไอด้ากับเคทเป็นลูกเมียของแดนเทพ คีตะได้ภาพแอบถ่ายของแดนเทพ เคทและไอด้าจากโม่ง แล้วส่งให้เอเจนซี่สินค้าหนุ่มโสด แดนเทพถูกถอดและคีตะได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์แทน แดนเทพกลายเป็นคนเงียบขรึม ส่วนโม่งได้ค่าจ้างเป็นเงินก้อนโตจากคีตะ ก็เอามาเลี้ยงข้าวและซื้อของให้ไอด้า ไอด้าสงสัยว่าโม่งเอาเงินมาจากไหน โม่งเริ่มสึกผิด เคทเค้นโม่งจนรู้เบื้องหลังารเป็นพรีเซนเตอร์ของคีตะ เคทดุ่ยไปเอาเรื่องกับคีตะ คีตะถึงกับอึ้งที่เจอผู้หญิงเอาจริงอย่างเคท แอบประทับใจเคทอยู่เงียบ ๆ

คีตะจับสังเกตได้ว่าเคทกับแดนเทพรักกันจึงคิดแย่งเคทมาจากแดนเทพ แดนเทพเห็นเคท อยู่กับคีตะโดยบังเอิญในวันที่เคทไปส่งไอด้าที่บ้านแดนเทพ ทั้งสองคนมีปากเสียงกัน เคทเก็บกดจึงกับความดื้อและเลี้ยงยากของไอด้า แดนเทพรู้สึกผิดจึงกอดเคท ปรายฟ้าเข้ามาเห็นวิ่งร้องไห้ออกไปเกือบถูกรถชนแดนเทพช่วยไว้ทัน ปรายฟ้าอยู่ในอ้อมกอดแดนเทพ เคทมองด้วยความเจ็บปวดก่อนออกรถไป ปรายฟ้า ไม่ไว้ใจความสัมพันธ์แดนเทพกับเคท ปรายฟ้าจึงวางแผนให้ไอด้าเข้าใจผิดเคท ไอด้าหนีไปเที่ยวกับเอื้อมดาวและหนุ่มไฮโซแต่เห็นท่าไม่ดีจึงขอตัวกลับและ เปิดประตูขณะรถวิ่งอยู่ ปรายฟ้าที่ขับตามหลังมาปาดหน้ารถแล้วพาไอด้ากลับบ้านแล้วให้สัญญาณหนุ่มไฮโซ ให้พาเอื้อมดาวไปแทน แดนเทพอึดอัดในความดีของปรายฟ้าที่ผุกมัดตัวเขามากขึ้นทุกวัน

แดน เทพรู้ใจตัวเองว่าผู้หญิงที่ตัวเองรักคือเคทแต่ยิ่งเข้าใกล้เคทเท่าไหร่เคท ยิ่งทำตัวออกห่างด้วยการไปเดทกับคุณต้อมและคีตะ โอ๋พยายามช่วยแดนเทพตามจีบเคทแต่ถูกปั๋งขัดขวางอยู่ตลอด เคทพยายามให้คีตะวางมือจากแดนเทพแต่ไม่สำเร็จ ทางเดียวที่จะช่วยแดนเทพได้คือพาไอด้าไปจากเมืองไทย แดนเทพไม่ยอม เคทอ้างว่าคบกับคุณต้อมและจะพาไปให้แม่ดุตัว แดนเทพจึงยอมให้กลับฮอลแลนด์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์ พ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์
พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ไอด้ามีงานร่วมกับแดนเทพและคีตะ มีนักข่าวมาทำข่าว คีตะพยายามเปิดโปงความสัมพันธ์ของสองคนพ่อลูกจนน่ารำคาญ คีตะจึงใช้แผนสกปรกโดยการลวนลามไอด้า แดนเทพทนไม่ไหวเข้าไปชกกับคีตะ และประกาสว่าไอด้าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเอง และให้ปั๋งจัดแถลงข่าวเรื่องเคทกับไอด้า นักข่าวตามล่าตัวเคทกับไอด้า คุณเอื้อรับไอด้าไปเก็บตัวเงียบ ส่วนแดนเทพกับเคทไปซ่อนตัวเงีบย ๆ กันอยู่ที่ต่างจังหวะ ทั้งสองคนมีเวลาปรับความเข้าใจกัน แดนเทพสั่งดอกไม้เพื่อจะขอเคทแต่งงานระหว่างที่ไปรับดอกไม้ก้ปล่อยให้เคทอ ยู่คนเดียว ปรายฟ้าโผล่มาหาเคทพูดว่าทุกอย่างที่แดนเทพทำก็เพื่อลูกเท่านั้นทำให้เคท น้อยใจหนีกลับกรุงเทพฯ มาก่อน แดนเทพกลับมาเจอแต่ปรายฟ้า เธออ้างว่าเคทด่าว่าเธอแล้วก็เดินออกไป ปรายฟ้าให้ข่าวกับนักข่าวว่าเธอกับแดนเทพยังดีกันอยู่และเธอก็สนิทกับไอด้า ลูกติดของแดนเทพด้วย และวางแผนให้นักข่าวมาถ่ายรูปตอนที่เธออยู่กับแดนเทพว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูน อีกด้วย ข่าวที่ออกมาจึงว่าแดนเทพกับปราบฟ้ามีข่าวดีแน่นอนส่วนเคทเป็นแค่เมียเก่า เท่านั้น

เคทเห็นข่าวหมดความอดทนจึงพาไอด้ากลับฮอลแลนด์ ไอด้าโกรธเคทหนีออกจากเครื่องบินทำให้เคทตามลงมา ตามหาทั้งที่ไม่รู้จักทางในกรุงเทพฯเลย ปรายฟ้าโทรบอกเคทว่าไอด้าอยู่ที่บ้านแดนเทพแล้ว เคทกลับไปแต่เห็นภาพที่แดนเทพ ไอด้า และปรายฟ้าอยู่ด้วยกันเข้าจึงเสียใจและร้องไห้ออกไป ไอด้าเห็นเคทเข้าวิ่งไปหาแม่อย่างรู้สึกผิด แดนเทพต่อว่าเคท เคทไม่สนใจฟังแดนเทพ ถามความสมัครใจว่าไอด้าจะอยู่ที่ไหน ปรายฟ้าช่วยพูดให้ไอด้าเห็นใจแม่ ไอด้าฝืนความรู้สึกบอกว่าจะกลับฮอลแลนด์กับแม่ แดนเทพจะตัดสินใจอย่างไร จะเลือกหมั้นกับปรายฟ้า หรือ ตามหาหัวใจของตัวเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตาในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

รายชื่อนักแสดงนำในละคร พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์

ศุกลวัฒน์  คณารศ     แสดงเป็น     แดนเทพ
อคัมย์สิริ  สุวรรณศุข     แสดงเป็น     เคท
พลอยปภัส      ธนันต์ชัยกานต์     แสดงเป็น     ไอด้า/ไอยดา
กาญจน์เกล้า  ด้วยเศียรเกล้า     แสดงเป็น     ปรายฟ้า
กฤษณกัณฑ์  มณีผกาพันธ์     แสดงเป็น     คีตะ
พรรัมภา  สุขได้พึ่ง     แสดงเป็น     โอ๋
อธิชนัน  ศรีเสวก     แสดงเป็น     เอื้อมดาว
สุรวุฒิ  ไหมกัน     แสดงเป็น     ผู้พันดนัย
นพพล  พิทักษ์โล่พานิช     แสดงเป็น     ท่านชายต้อม
โอลิเวอร์  บีเวอร์     แสดงเป็น     ปั๋ง
วันชัย  เผ่าวิบูล     แสดงเป็น     คุณยุทธ
ปภัสรา  เตชะไพบูลย์     แสดงเป็น     คุณเอื้อ
วิชญ  จารุจินดา     แสดงเป็น     โม่ง
ภัทรี  ชนะศักดิ์     แสดงเป็น     แอน
พรรณี  โต๊ะนายี     แสดงเป็น     แม่บ้านแดนเทพ
สมชาย  ลีลารักษ์สกุล     แสดงเป็น     อั๋น

พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน

ฝ้ายแก้ว เด็กสาวจากเพชรบุรี ตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ โดยมาอาศัยอยู่กับ ทักษ์ ลูกชายของ ทินกร พ่อหม้ายลูกติดที่มาแต่งงานกับ ฝน พี่สาวของฝ้าย ทำให้ฝ้ายมีศักดิ์เป็นน้าของทักษ์ ทั้งที่ทั้งคู่ต่างมีอายุเท่ากัน ด้วยความที่ฝ้ายเป็นคนช่างพูด และชอบเจ้ากี้เจ้าการไปในทุกๆ เรื่อง ทำให้ผู้ชายที่ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอดอย่างทักษ์รำคาญในบางครั้ง ทั้งสองคนมักจะทะเลาะกันบ่อยๆ ฝ้ายยังคอยดูแลอาหารการกินของทักษ์กับ ทราย น้องสาย และยังช่วยทักษ์ขายเสื้อผ้าที่แผงข้างถนนด้วย

ทักษ์เรียน และทำงานควบคู่กันไปด้วย เพื่อส่งเสียน้องสาวคนเดียวคือทราย ให้ได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ทรายเป็นเด็กขี้อายและไม่มั่นใจ เธอมีความลับในใจก็คือ การแอบหลงรัก กวินทร์ รุ่นพี่หนุ่มสุดฮอต ซึ่งทรายก็ทำได้แค่เพียงแอบมองวินเท่านั้น เพราะวินมักจะมีสาวๆ รุมล้อมตลอดเวลา แต่ผู้หญิงที่วินยอมรับว่าเป็นแฟนก็คือ แพรดาว สาวสวยดาวมหาวิทยาลัยคนเดียวเท่านั้น วันหนึ่งแพรทะเลาะกับวินเรื่องความเจ้าชู้ เธอขับรถหนีออกมาจนมาน้ำมันหมดอยู่กลางซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง โชคดีที่เจอทักษ์เข้าโดยบังเอิญ ทักษ์เข้ามาช่วยเหลือแพร

นั่น เป็นความประทับใจแรกที่ทำให้แพรมาซื้อเสื้อที่แผงของทักษ์เป็นการตอบแทน ปื๊ด เพื่อนแผงข้างๆ ล้อทักษ์ ทักษ์เองก็มีท่าทีว่าชอบแพรอยู่เหมือนกัน ทั้งสองจึงไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยๆ จนฝ้ายนึกหมั่นไส้ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของแพรกับวินก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ วินเริ่มสงสัยว่าแพรมีผู้ชายคนใหม่ จนมาวันหนึ่งทรายเกิดอุบัติเหตุ วินสงสารเลยพาทรายไปทำแผลที่โรงพยาบาลและยังมาส่งทรายที่ซอยบ้าน เลยทำให้วินเห็นแพรขับรถสวนออกมาจากในซอย วินสงสัยเลยขอให้ทรายช่วยสืบว่าแพรมาหาใครในซอยนี้ ทรายสืบจนรู้ว่าที่แท้แพรมาหาและคบกับทักษ์อยู่

แต่ทรายไม่กล้าบอ กวินเพราะกลัวมีเรื่อง ด้านฝ้ายก็โกรธที่ทักษ์ผิดนัดกับเธอแล้วไปทานข้าวกับแพร เธอจึงไปปรึกษากับ เต้ย เพื่อนอัธยาศัยดีที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เต้ยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ้ายรู้สึกดี เพราะเต้ยเองก็แอบชอบฝ้ายอยู่เช่นกัน ทักษ์และแพรตกลงที่จะคบหากัน แพรมาช่วยทักษ์ขายเสื้อที่แผง ฝ้ายรู้สึกว่าที่ที่เคยเป็นของเธอตอนนี้ได้กลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว คนเดียวที่ฝ้ายระบายด้วยได้ก็คือเต้ยนั่นเอง วินแค้นทักษ์เรื่องแพร จึงเข้ามาใกล้ชิดทราย ฝ้ายรู้เรื่องเข้าจึงพยายามเตือน แต่ทรายซึ่งหลงรักวินมาตลอดไม่ยอมเชื่อ

และขอให้ฝ้ายสัญญาว่าจะไม่ บอกเรื่องนี้กับทักษ์โดยเด็ดขาด ใกล้จะถึงวันเกิดแพร วินรู้ว่าแพรจะชวนทักษ์ไปงานวันเกิดที่บ้านด้วยเพื่อแนะนำทักษ์ให้ พจน์ และเพ็ญ คุณพ่อคุณแม่ของเธอรู้จัก วินจึงชวนทรายไปด้วย โดยที่ทรายไม่รู้ว่าเธอจะกลายเป็นเครื่องมือที่วินใช้ยั่วทักษ์ วินหลอกให้ทรายมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรม ก่อนที่จะพาไปงานวันเกิดเพื่อน แล้ว แอบโทรศัพท์ไปบอกทักษ์ว่าทรายอยู่กับตนที่โรงแรมเพื่อปั่นหัว ทักษ์อึ้งเมื่อมาเห็นทรายอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดู จึงรีบจัดการให้ทรายใส่เสื้อผ้า แล้วรีบพาเธอกลับบ้านทันที

ทักษ์มา พบวินที่งานวันเกิดของแพร จึงตรงเข้าไปชกหน้าวินทันที แพรเสียใจที่ทักษ์ทำลายงานวันเกิดของเธอ วินสะใจที่ยั่วโมโหทักษ์สำเร็จ มิหนำซ้ำยงทำให้พ่อแม่ของแพรมองทักษ์ในแง่ร้าย ทักษ์กลับบ้านและบังคับให้ทรายเลิกคบกับวิน ทรายไม่ยอมเลิก สองพี่น้องทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก ทรายขนเสื้อผ้าหนีออกจากบ้าน แต่ไม่มีที่ไป วินเห็นแก่ทรายที่เคยเป็นพยานปากเอกช่วยพูดกับตำรวจให้เขาพ้นข้อกล่าวหาตอน ที่ขับรถชนตาย วินเลยจำใจให้ทรายอาศัยอยู่ในคอนโดของตนเอง ด้านแพรกลับมาหาทักษ์เพื่อขอโทษ

และบอกว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะเธอ พยายามจะให้ทักษ์เป็นอย่างที่เธอต้องการ ต่อไปนี้เธอจะเป็นฝ่ายพยายามปรับตัวเข้าหาทักษ์ แม้ในใจทักษ์จะรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับแพรเท่าเดิม แต่ก็ใจอ่อนยอมที่จะกลับมาคบหากับแพรอีกครั้ง ฝ้ายไม่เห็นด้วยและพยายามพูดให้ทักษ์ตัดใจจากแพร ทักษ์ไม่พอใจที่ฝ้ายมีอคติกับแพร ฝ้ายเสียใจมากจึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านของทักษ์ โดยที่มีเต้ยคอยช่วยเหลือ การที่ไม่มีฝ้ายอยู่ทำให้ทักษ์ยิ่งรู้ว่าฝ้ายสำคัญกับเขามากแค่ไหน ขณะเดียวกันเต้ยเองก็รู้ว่าการที่ฝ้ายห่างกับทักษ์ ไม่ทำให้ฝ้ายลืมทักษ์ได้เลย

เต้ยคิดจะหลีกทางให้โดยการตัดสินใจไปรับทุนเรียนต่อที่ต่างประเทศ เมื่อทักษ์กับแพรกลับมาคบกันอีกครั้ง ความสัมพันธ์ ของคนทั้งสองในครั้งนี้จะยาวนานหรือไม่ ด้านเต้ยจะยอมทิ้งฝ้ายไปเรียนต่อเพื่อหลีกทางให้เธอกลับไปหาทักษ์ตามที่ตัว เองคิดไว้จริงๆ หรือเปล่า แล้วทรายจะสมหวังในรักที่วินไม่เคยเหลียวแลเลยหรือไม่ เรื่องราวความรักของคนทั้ง 6 จะลงเอยในรูปแบบไหน ??? ติดตามชมในละคร “พรุ่งนี้ไม่สาย…ที่จะรักกัน”

รายชื่อนักแสดง พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน

อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบท ทักษ์
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข รับบท ฝ้ายแก้ว
พงษ์สิรี บรรลือวงศ์ รับบท เต้ย
ชนัญญา ตั้งบุญจิตร รับบท แพรดาว
วิชญบูล ลี้สุวรรณ รับบท กวินทร์
ธีวรา ภาวะพรหม รับบท ทราย

นางสาวรักดี

รักดี สาวน้อยผู้ถือคติ คิดดี ทำดี แล้วชีวิตจะดีเอง มุ่งมั่นทำงานส่งตัวเองเรียนในกรุงเทพแม้จะเรียนไม่เก่งแถมมีความจนเป็น อุปสรรคก็ไม่เคยท้อ สองปีที่ผ่านมารักดีรับจ๊อบสุจริตทุกรูปแบบรวมทั้งได้ทุนนักกีฬา ของมหาวิทยาลัยจนเอาตัวรอดมาได้ รักดีเชื่อมั่นว่าเธอเก่ง เธอเจ๋ง และสู้ปัญหาได้ทุกอย่าง โดยไม่รู้เลยว่าอุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิตเพิ่งเดินทางมาถึง พร้อมกับหนุ่มไฮโซรูปหล่อที่ชื่อว่า ภีม!

วันสุดท้ายของการขอทุนนักกีฬาในปีที่สาม รักดีที่เพิ่งเลิกจากงานพิเศษต้องควบมอเตอร์ไซค์รับจ้างของ ต๋อย ผู้ประกาศตัวเป็นลูกน้องคู่ใจไปทั้งชุดตัวตลกเพื่อไปทดสอบให้ทันเวลา ระหว่างทางเธอเห็น ภาวิณี ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าแล้วตกใจเป็นลม พลเมืองดีอย่างรักดีหรือจะทนเฉย รักดีตามไปเล่นงานคนร้ายเสียหมอบและแย่งกระเป๋าคืนมาได้แต่กลับถูกภีม พี่ชายของภาวิณีกล่าวหาว่าเป็นโจรเสียเอง รักดีต้องไปติดแหงกอยู่ที่โรงพักด้วยใจร้อนรน กว่าภาวิณีจะฟื้นจากสลบมายืนยันว่ารักดีไม่ใช่คนร้าย โอกาสขอทุนนักกีฬาของเธอก็ได้หมดลงเสียแล้ว และรักดีก็ยิ่งโกรธแสนโกรธเมื่อภีมหนีหน้าไปเฉย ๆ โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษใด ๆ รักดีสุดแค้น เจอกันอีกเมื่อไร มีเคลียร์!

ความจริงภีมไม่ได้หนี เพราะรักดีไม่มีความสำคัญพอที่ภีมจะใส่ใจด้วยซ้ำ แต่ที่เขารีบร้อนกลับไปเพราะเกิดเรื่องยุ่งขึ้นในบริษัท เมื่อ เผด็จ ญาติของภีมซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดไปมีเรื่องกับเอเจนซี่ที่ดูแลโฆษณา เปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ของภีม แต่โชคดีที่ แดน ช่วยเคลียร์ให้สำเร็จ ภีมจึงไม่ต้องปวดหัวมากนัก ทั้งภีมและแดนต่างเหนื่อยใจกับเผด็จที่มักสร้างปัญหาให้ตามแก้อยู่เสมอ ขณะเดียวกันเผด็จรู้สึกเสียหน้าและเจ็บใจที่ถูกภีมซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ตำหนิต่อหน้าพนักงานในบริษัทอยู่เรื่อย แดนเตือนภีมให้เกียรติเผด็จบ้าง แต่ภีมไม่สนใจ ภีมทำงานจนลืมว่าวันนี้เป็นวันเกิดของ ทิชา คู่หมั้น จนทิชาโทรมาทวงด้วยความน้อยใจ โชคดีที่แดนจำได้และเตรียมของขวัญพร้อมจองร้านอาหารไว้ให้เรียบร้อย ภีมจึงเอาตัวรอดไปได้

คืนนั้นแดนกลับบ้านด้วยความรู้สึกเหงา นงเยาว์ ที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภีม แดนและทิชามาตลอดไม่พอใจแทนที่แดนต้องเป็นฝ่ายถอยและยอมให้ภีมทุกครั้ง แดนบอกว่าเขาเต็มใจทำเพราะเห็นภีมเป็นพี่ รวมทั้งพิทักษ์ พ่อของภีมมีบุญคุณที่เลี้ยงดูเขามา นงเยาว์ไม่เห็นด้วยเพราะตามศักดิ์แล้วแดนควรเป็นทายาทอันดับหนึ่งของตระกูล หากผไท พ่อของแดนซึ่งเป็นพี่ชายของพิทักษ์ไม่เสียชีวิตไปก่อน แต่แดนพอใจในฐานะปัจจุบันของตนและยืนยันว่าเขามีความสุขดี

รักดีต้องดิ้นรนหาเงินจ่ายค่าเทอมและค่าเช่าบ้าน ลุงเพิ่ม เจ้าของร้านส้มตำละแวกบ้านรักดี วิทย์ เพื่อนบ้านของรักดี กับ ต๋อย ช่วยกันคิดว่าจะหางานอะไรให้รักดีทำดี แต่ด้วยความซื่อ(บื้อ) ต๋อยพารักดีไปทำงานในร้านคาราโอเกะ ถูก เผด็จ(ญาติของภีม)กับ กำพล เมาลวนลามเลยโชว์วิชามวยไทยผสมเทควนโดจัดการซะน่วม ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีหญิงไทยใจกล้า รักดีเลยโดนเด้งจากงานตั้งแต่คืนแรก และต้องขึ้นโรงพักปะทะคารมกับ ภีม อีกครั้ง รักดีสุดกลุ้มจะหาเงินจากไหน ด้วยวุฒิ ม.6 ทำอะไรไม่ได้มากแถมยังต้องเรียนไปด้วย จนกระทั่ง ต๋อย เห็นประกาศรับสมัครงานเซลขายคอนโด เงินดี แต่รับเฉพาะวุฒิ ป.ตรี ด้วยความจำเป็นบวกกับสงสาร รักดี ต๋อย ปลอมวุฒิของ รักดี ไปสมัครงานให้

ในวันสมัครรักดีได้พบกับแดนและประทับใจในความสุภาพของเขาอย่างจัง ต๋อยเห็นแดนเข้าถึงกับยุส่งว่าหากรักดีได้หนุ่มคนนี้เป็นแฟนคงสบายไปทั้ง ชาติ แต่รักดีมุ่งมั่นแค่ทำงานและเรียนเท่านั้น รักดีได้งาน แต่หนทางของเธอก็มีอันสะดุดเมื่อรักดีพบว่าเจ้านายตัวจริงของเธอคือภีม ภีมจำรักดีได้แม่น ด้วยความไม่ถูกชะตาบวกกับไม่เชื่อว่ารักดีจบปริญญาตรีจริงจึงหาทางจับผิด และความเลยแตกจนได้ ภีมไล่รักดีออก แต่ภาวิณีขอให้ภีมรับรักดีไว้โดยให้เหตุผลว่ารักดีพลาดขอทุนเพราะช่วยเธอ ภีมขัดน้องสาวคนเดียวไม่ได้จำใจรับรักดีกลับเข้าทำงานอีกครั้ง โดยมีข้อแม้ว่ารักดีต้องทำงานตรงกับวุฒิ รักดียืนกรานว่าเธอทำได้ทุกอย่าง แต่ต้องแทบหงายหลังเมื่อภีมสั่งให้เธอเป็น รปภ.

ต๋อย ปลอบรักดีว่ารปภ.เป็นงานง่ายได้เงินสบาย แค่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในป้อม แต่การเป็น รปภ.ของรักดีไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะ เนตรละออ เลขาสาวเปรี้ยวของแดนซึ่งมีเหตุปะทะคารมกับรักดีตั้งแต่วันแรกอยากเอาใจภีม ด้วยการช่วยกำจัดรักดีออกไปจากบริษัท เนตรละออหาทางแกล้งรักดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่รักดีแสนอึดและทนขนาดโดนแกล้งให้ไปเฝ้าไซต์งาน ให้เป็นยามกะกลางคืนจนโดนหลอกผีก็ยังรอดมาได้ ในที่สุดถึงขั้นใส่ร้ายว่ารักดีเป็นสายโจรแต่เหตุการณ์กลับโอละพ่อ เพราะรักดีจับหัวขโมยที่แอบเข้ามางัดแงะบริษัทได้จริง รักดีสะใจที่ไม่มีใครทำอะไรเธอได้โดยไม่รู้เลยว่าตนได้สร้างศัตรูใหม่ขึ้นมา อีกคน เพราะโจรงัดแงะที่เธอจับได้นั้นแท้จริงเป็นคนที่เผด็จส่งมาขโมยเอกสารสำคัญ ในบริษัท เผด็จไม่พอใจที่อำนาจบริหารธุรกิจทั้งหมดตกอยู่ในมือของภีมซึ่งเป็นหลาน เขาหาทางโกงบริษัทล้วงความลับและลอบผ่องถ่ายทรัพย์สินออกจากบริษัทอย่างลับ ๆ โดยมี เสี่ยกำพล เป็นตัวช่วย โดยไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกกำพลหลอกใช้

เผด็จ ป่วนเอเจนซี่ที่ทำ PR เปิดตัวคอนโดให้ภีมจนเอเจนซี่ถอนตัวกลางคัน ภีมต้องให้พนักงานในบริษัทลุยกันเองโดยมีทิชาช่วย พนักงานทุกคนต้องเร่งงานกันดึกดื่น รักดีต่อว่าภีมที่ใช้งานคนแต่ไม่ดูแลสวัสดิการพนักงาน แถมยุให้พนักงานเรียกร้องสิทธิ์ทำให้ภีมหงุดหงิด แต่แดนกลับเห็นด้วยกับรักดี รักดีอาสาสอนการป้องกันตัวเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยให้พนักงาน แต่เนตรละออและพนักงานสาว ๆ ส่วนใหญ่ไม่สนใจ มีแค่ แดน ภาวิณี และพนักงานไม่กี่คนที่เห็นด้วย จนกระทั่งเกิดเหตุทิชาเกือบถูกจี้ในที่จอดรถบริษัทแล้วรักดีช่วยไว้ได้ ภีมรู้สึกผิดแต่ไม่อยากยอมรับตรง ๆ เมื่อแดนเสนอให้รักดีมีหน้าที่ใหม่ เป็นฝ่ายดูแลความปลอดภัยและสวัสดิการของพนักงาน ภีมจึงตกลง

หน้าที่ใหม่ของรักดีทำให้เธอเข้ามามีส่วนร่วมกับพนักงานในบริษัท รวมถึงรู้เรื่องราวของภีมมากขึ้น ขณะเดียวกันความมีน้ำใจและความจริงใจของรักดีทำให้ภีมเริ่มรู้สึกดีกับเธอ ขึ้นมาทีละน้อย การได้ต่อปากต่อคำกับรักดีกลายเป็นความสนุกโดยที่ภีมไม่รู้ตัว ทิชาเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้และรับไม่ได้ หลังเสร็จสิ้นงานเปิดตัว โครงการคอนโดใหม่ของภีมได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น รักดีแอบกระซิบแดนเสนอให้มีโบนัสพิเศษของพนักงานด้วยการให้บริษัทพาไปเที่ยว ทิชา เผด็จและเนตรละออ ต่างขบขันกับข้อเสนอของรักดีเพราะรู้ว่าคนบ้างานอย่างภีมถือว่าเรื่องเที่ยว ไร้สาระ แต่แล้วทุกคนต้องแปลกใจเมื่อภีมตกลง

ภีมพาพนักงานทั้งหมดไปเที่ยวต่างจังหวัด เนตรละออหวังใช้โอกาสนี้สร้างปาฏิหาริย์ จับภีมให้อยู่หมัด แต่รักดีเห็นเข้าเสียก่อนจึงแกล้งป่วนจนแผนของเนตรละออพังไม่เป็นท่า แต่ทิชากลับเข้าใจผิดว่ารักดีคิดจับภีม ทิชาด่ารักดี ทะเลาะกับภีมแล้วหนีกลับกรุงเทพฯ โดยไม่บอกใคร ด้วยความเป็นห่วงทุกคนออกตามหาทิชา แต่ภีมกับรักดีเกิดอุบัติเหตุพลัดหลงไปด้วยกันจนต้องอยู่ค้างคืนกันตามลำพัง และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้คุยกันดี ๆ โดยไม่ทะเลาะกัน ภีมเริ่มรู้สึกดี ๆ กับรักดี ส่วนรักดีก็เริ่มเห็นข้อดีในตัวภีม และความใกล้ชิดก็ทำให้รักดีเริ่มหวั่นไหว แต่รักดีก็พยายามหักห้ามใจเพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ และในคืนเดียวกันนั้น แดนเป็นฝ่ายต้องปลอบใจทิชาให้เชื่อมั่นในตัวภีม ทั้งที่หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวด

หลังกลับถึงกรุงเทพฯ ภีมกับทิชาคืนดีกัน รักดีพยายามหลบหน้าภีมเพื่อหักใจ แดนพยายามมีความรักใหม่ ต๋อยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรกับใครชอบใจความเป็นสุภาพบุรุษของแดนและทุ่มแรง เชียร์ให้รักดีลงเอยกับแดนสุดตัว แดนและรักดีเริ่มสนิทกันมากขึ้นจนเป็นที่น่าสงสัย ทั้งคู่รู้ตัวดีว่ารู้สึกต่อกันแค่เพื่อนเท่านั้น แต่ภีมกับทิชาต่างเริ่มหงุดหงิดกับข่าวนี้โดยไม่รู้ตัว แต่ก่อนที่ภีมจะรู้ใจตัวเองว่าเขาหงุดหงิดเพราะอะไร ก็เกิดเรื่องที่ทำให้ภีมไม่พอใจอย่างแรงขึ้น เมื่อรู้ว่าภาวิณีเกิดชอบพอกับวิทย์ หนุ่มเพื่อนบ้านจน ๆ ของรักดี ภีมออกตัวขวางเรื่องนี้เต็มที่ ส่วนรักดีก็เชียร์วิทย์สุดแรงเช่นกัน ทั้งภีมและรักดีจึงกลับมาเป็นคู่ปรับกันอีกครั้ง

ภีมเริ่มเข้มงวดกับภาวิณีมากขึ้นเพื่อกีดกันไม่ให้ภาวิณีมีโอกาสพบกับวิทย์ แต่รักดีก็หาทางช่วยให้ทั้งคู่ได้พบกันจนได้ ทิชาคิดว่ารักดีกับวิทย์เป็นพวกหวังรวยทางลัดยิ่งทำให้ภีมไม่พอใจ เมื่อห้ามภาวิณีไม่ได้ ภีมตัดสินใจตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการส่งภาวิณีไปเรียนต่อต่างประเทศโดยไม่ฟังคำ เตือนของแดน ภาวิณีเสียใจมาก เธอตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือหนีออกจากบ้าน ภีมโกรธแทบคลั่ง เขาไปตามภาวิณีที่บ้านเช่าของวิทย์แต่ก็ไม่พบ

ภาวิณีไปอยู่กับรักดีและห้ามรักดีบอกเรื่องนี้กับภีมเด็ดขาด รักดีอึดอัดใจเพราะแม้จะเห็นใจในความรักของวิทย์และภาวิณีแต่นี่ไม่ใช่การ แก้ปัญหาที่ถูกต้อง ติ๋มที่แอบชอบวิทย์ พอรู้ว่าวิทย์มีแฟน ก็รีบมาหาเรื่องทันที แต่ติ๋มคนเดียวหรือจะสู้รักดีกับภาวิณีได้ ติ๋มฝากความแค้นไว้กับสองสาว อีกสิบปีมาชำระก็ยังไม่สาย ลุงเพิ่มอบรมสั่งสอนให้ติ๋มเลิกอาฆาต แต่ติ๋มไม่ยอมแพ้ คนอย่างติ๋มฆ่าได้หยามไม่ได้ ทางด้านภีมเมื่อน้องสาวที่รักมากหายไปก็กลุ้มใจจนกลายเป็นคนละคน ภีมใส่ใจงานในบริษัทน้อยลง เสี่ยกำพลได้ทียุให้เผด็จขอคุมโครงการคอนโดใหม่ริมน้ำด้วยตัวเอง และใช้โอกาสนี้กอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัว ทั้งแก้ราคาวัสดุก่อสร้าง สลับสเปควัสดุแถมยังสร้างปัญหากับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงจนโครงการเกิด ความเสียหาย แดนสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติและพยายามเตือนให้ภีมรู้ตัว ภาวิณีรู้ว่าภีมมีปัญหาก็เป็นห่วง ขอร้องรักดีกับวิทย์ให้ช่วย รักดีลำบากใจแต่ก็ตกลง

รัก ดีให้วิทย์และต๋อยช่วยสืบหาความจริงจนรู้ว่าเสี่ยกำพลอยู่เบื้องหลังเรื่อง นี้ แดนและรักดีแปลกใจที่กำพลรู้ความลับในบริษัทมากมายจนเริ่มจับตามองหาหนอน บ่อนไส้ในบริษัท ทั้งคู่พยายามสืบหาตัวการอย่างลับๆ แต่กลับทำให้ภีมและทิชาเข้าใจว่าแดนและรักดีแอบคบกัน ด้วยความหึงหวงโดยไม่รู้ตัว ภีมตามก่อกวนและทะเลาะกับรักดีบ่อยขึ้น ติ๋มรู้โดยบังเอิญว่าภีมเป็นพี่ชายของภาวิณี ติ๋มเลยได้โอกาสชำระแค้นด้วยการไปฟ้องภีมว่ารักดีให้ที่ซ่อนกับภาวิณี แม้ว่าลุงเพิ่มจะห้ามปรามแล้วก็ตาม แต่ติ๋มก็ดอดไปบอกภีมจนได้ ภีมบุกไปลากตัวภาวิณีกลับบ้านด้วยความโกรธ ภาวิณีเสียใจ รักดีรู้สึกผิดกับทุกคน วิทย์เศร้าแต่ไม่ถอดใจ สักวันเขาจะทำให้ภีมเชื่อมั่นในความรักและความจริงใจที่เขามีต่อภาวิณีให้ ได้ วิทย์มุ่งมั่นสร้างอนาคตเพื่อภาวิณี

ทิชาไม่พอใจที่แดนรู้ทุกอย่างแต่เก็บเป็นความลับ หาว่าแดนทำเพื่อแกล้งภีมเพราะอิจฉาที่ภีมมีพร้อมทุกอย่างต่างจากแดน แดนเสียใจที่ทิชาไม่เคยมองเขาในแง่ดี แดนประกาศว่าเขาไม่เคยอิจฉาภีมโดยเฉพาะเรื่องความรัก เพราะเขามีผู้หญิงที่รักแล้ว คือรักดีนั่นเอง ทิชาตะลึงพูดไม่ออก ภีมรู้เรื่องใจแทบลุกเป็นไฟ ภีมเตือนรักดีอย่าเพ้อฝันเกินตัวเพราะแดนแค่หลงผิดชั่ววูบเท่านั้น ด้วยทิฐิ รักดีโกรธและพลั้งปากไปว่าเธอก็รักแดนเช่นกัน ทำให้ภีมถึงกับอึ้งไป ติ๋มได้รู้ว่าแดนกับรักดีคบกัน ก็แทบดิ้น เพราะรักดีได้ดีกว่าเธออีกแล้ว

รักดีและแดนเริ่มคบกันอย่างเปิดเผย ความดีของทั้งคู่ทำให้ต่างเริ่มสับสนและคิดว่านี่คือความรักที่แท้จริง เนตรละออแทบเต้นเร่า ๆ ด้วยความริษยาที่รักดีได้ดีเกินหน้าเกินตา แต่ก็ดีใจที่รักดีไม่เกี่ยวข้องกับภีมอีก เหลือเพียงทิชาที่ยังเป็นก้างชิ้นใหญ่เท่านั้น ขณะเดียวกันภีมและทิชาเริ่มไม่มีความสุขและหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นความสนิท สนมระหว่างแดนกับรักดีที่มากขึ้นทุกวัน ภาวิณีตั้งข้อสังเกตว่าภีมชอบรักดี แต่ภีมปากแข็งไม่ยอมรับ แต่แล้วทุกคนก็ต้องวางความรู้สึกส่วนตัวไว้ก่อนเมื่อแดนพบความผิดปกติของ บัญชี มีเงินจำนวนมากหายไป ภาวิณีบังเอิญเห็นเผด็จและเสี่ยกำพลแอบติดต่อกันก็สงสัย

วิทย์อาสาเข้าไปทำงานกับเสี่ยกำพลเพื่อสืบเรื่องทั้งหมด ภีมเข้าใจผิดว่าวิทย์คือตัวการที่ทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นเขาก็โมโห รักดีอยากบอกความจริงแต่วิทย์กับแดนคิดว่าควรปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน เผด็จรู้ว่าถูกสงสัย จึงหลอกใช้ความโง่ของเนตรละออ รวมทั้งความรักของ นงเยาว์สร้างสถานการณ์โยนความผิดให้แดน แต่ในที่สุด วิทย์ได้ข้อมูลที่ช่วยให้แดนและรักดีเปิดโปงเผด็จได้สำเร็จ ภีมตะลึงเมื่อได้รู้ความจริง

เผด็จเข้าตาจนขอให้กำพลช่วย แต่กลับถูกปฏิเสธแถมยังโยนความผิดให้เผด็จรับคนเดียวทั้งหมด เผด็จหนีไป ภีมยอมเปิดใจรับว่าวิทย์เป็นคนดีและยอมให้ภาวิณีคบกัน ภีมแก้ปัญหายุ่ง ๆ ในบริษัทได้สำเร็จแต่เขากลับไม่มีความสุขเท่าที่ควร ทิชาเองก็เช่นกัน ด้วยความสับสนของหัวใจ ภีมประกาศแต่งงานกับทิชา แดนช็อกและรู้ใจตัวเองทันทีว่ายังรักทิชาอยู่ รักดีเข้าใจ และเตือนให้แดนทำตามความรู้สึกที่แท้จริงก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

รักดีพยายามหักใจทำเพื่ออนาคตของตัวเองและก้าวไปข้างหน้า รักดีลาออกเพื่อทุ่มเทเรียนให้จบ ภีม กลับมาเป็นคนบ้างาน มุ่งมั่นทำในสิ่งที่เขาเชื่อว่าควรทำแต่กลับไม่มีความสุข ภาวิณีและวิทย์พยายามเตือนทุกคนให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและยอมรับเสียงเรียก ร้องของใจตัวเอง แต่ทั้งสี่คงยังเต็มไปด้วยความสับสน ในที่สุดแดนสารภาพรักกับทิชา ทิชาตะลึง รู้ใจตัวเองว่ารักแดนแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะวันแต่งงานถูกกำหนดขึ้นแล้ว

เมื่อ ถึงวันงาน เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเมื่อเผด็จกลับมาเพื่อแก้แค้น เผด็จวางแผนลักพาทิชาไป แต่รักดีที่ตั้งใจมาแสดงความยินดีกับภีมเพื่อตัดใจมาพบเข้าและพยายามช่วยจึง ติดร่างแหไปด้วย ทั้งแดนและภีมต่างร้อนใจพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนที่รัก แดนและภีมตามไปที่โกดังร้างเพื่อส่งมอบเงินไถ่ตัวรักดีและทิชาโดยไม่รู้ว่า เผด็จคิดฆ่าภีม รักดีพยายามเตือนภีมให้รู้ตัวจนเกิดปะทะกันขึ้น เหตุการณ์วุ่นวาย แดนช่วยทิชาจนตัวเองบาดเจ็บ ภีมเอาตัวบังกระสุนให้รักดี เผด็จเห็นท่าไม่ดีพยายามหนี แต่วิทย์และภาวิณีพาตำรวจตามมาได้ทัน เผด็จจึงถูกจับได้พร้อมกับหลักฐานที่สาวถึงเสี่ยกำพล เรื่องวุ่นวายทั้งหมดจึงยุติลง

ทิชายอมรับหัวใจตัวเองและประกาศเลิกงานแต่งงานท่ามกลางความตกใจของทุกคน ภีมขอจัดงานใหม่อีกครั้งโดยให้แดนเป็นเจ้าบ่าวแทนเขา รักดียินดีกับแดนและทิชาที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี แต่เธอกลับหลบหน้าภีมเพราะคิดว่าตนไม่คู่ควร ทว่าภีมไม่ใส่ใจ ภีมไปหารักดีหลังเธอสอบเสร็จวันสุดท้ายเพื่อขอให้รักดีกลับมาทำงานกับเขาอีก ครั้ง ในตำแหน่ง รปภ. รักษาดูแลหัวใจของเขาคนเดียว รักดีตอบตกลงด้วยความอาย และเรื่องราวความรักของทุกคนก็ลงเอยอย่างมีความสุข ติดตามชม ละคร นางสาวรักดี

รายชื่อนักแสดงนำในละคร นางสาวรักดี

อคัมย์สิริ  สุวรรณศุข   แสดงเป็น   รักดี
อัษฏาวุธ  เหลืองสุนทร   แสดงเป็น   ภีม
ธันญ์  ธนากร   แสดงเป็น   แดน
พรรัมภา  สุขได้พึ่ง   แสดงเป็น   ทิชา
ธราภา  กงทอง   แสดงเป็น   ภาวิณี
อะตอม  สัมพันธภาพ   แสดงเป็น   วิทย์
อติมา  ธนเสนีวัฒน์   แสดงเป็น   เนตรละออ
ปัญญาพล  เดชสงค์   แสดงเป็น   ต๋อย
สาริน  บางยี่ขัน   แสดงเป็น   เผด็จ
ตระการ  พันธุมเลิศรุจี   แสดงเป็น   เสี่ยกำพล
ดวงดาว  จารุจินดา   แสดงเป็น   นงเยาว์
พวง  แก้วประเสริฐ   แสดงเป็น   ลุงเพิ่ม

ดุจดาวดิน

ดุจดาวดิน เป็นเรื่องราวของ “ทินภัทร” หรือ “บุญทิ้ง” ทายาทมหาเศรษฐีที่หายสาบสูญไปเพราะความริษยาและอาฆาตของพี่น้องในตระกูล บุญทิ้งระเหเร่ร่อนท่ามกลางความโหดร้ายจนได้เข้าไปอยู่ในคณะลิเกจนกลายเป็น ลิเกเด็กขวัญใจมหาชน สายเลือดที่สูงส่งดุจดาวที่พราวฟ้ากลับต่ำต้อยและด้อย ค่า ทว่าสวรรค์ยังมีตาที่นำพา “ภาคิน” กับ “ปานฟ้า” สองหนุ่มสาวผู้มีใจรักต่อกันและมีอุดมการณ์อันแรงกล้าช่วยเหลือให้เขาได้ กลับสู่ฟ้าดังเดิมดั่งดาวดิน ละครโทรทัศน์แนวดราม่าเข้มข้น ที่ปลุกปลอบหัวใจผู้คนให้เชื่อมั่นว่าความดีย่อมคงทนดุจดั่งดาวที่เจิด จำรัส  แม้ว่าจะเป็นเพียง “ดาวดิน” แต่ศักดิ์ศรีแห่งดาวก็ย่อมพราวพร่างอยู่บนฟ้าในที่สุด

ยามดึกสงัด ขณะที่ชีวิตของผู้คนกำลังหลับใหล  แต่ชีวิตน้อยๆ ของเด็กชาย  “บุญทิ้ง” ต้องทำงานเป็นเด็กเช็ดรองเท้าตามร้านค้าริมทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาถูกพ่วง หัวหน้าแก๊งเด็กเร่ร่อนบังคับให้หาเงิน ด้วยผิวพรรณสะอาดผิดเด็กเร่ร่อนอื่นๆ ดวงตาแสนเศร้า และท่าทีฉลาดเหมือนลูกผู้ลากมากดี ทำให้ใครเห็นก็สงสาร บุญทิ้งจึงเป็นเด็กที่ทำเงินให้พ่วงมากที่สุด แต่แล้วสวรรค์ของพ่วงก็ถูกทลายลงเมื่อภาคิน เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็กร่วมมือกับร้อยตำรวจโทตุลย์ จับกุมแก๊งขอทานในค่ำคืนหนึ่ง พ่วงถูกจับทำให้เด็กๆ หลายชีวิตต้องมาอาศัยอยู่ที่มูลนิธิของภาคิน รวมถึงบุญทิ้งด้วย

หลายวันต่อมา  ภาคินได้นำเด็กๆ ไปแข่งขันวาดภาพที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางกรุง ขณะที่เด็กๆ กำลังวาดรูปกันอยู่นั้นภาคินเกิดมีปากเสียงกับปานดาว ผู้บริหารของห้างสรรพสินค้า ปานฟ้า ซึ่งเป็นแม่งานห้าม แต่ก็ไม่เป็นผล ภาคินนำเด็กๆ กลับมูลนิธิ ผลการประกวดปรากฏว่าบุญทิ้งได้รับรางวัลชนะเลิศ ปานฟ้าจึงนำเงินรางวัลมามอบให้ที่มูลนิธิ โดยมีก้องภพ คู่หมั้นของเธอไปด้วย ปานฟ้าเกิดความศรัทธาการทำงานของภาคินเป็นอย่างมาก ทำให้ก้องภพไม่พอใจ การมาของปานฟ้าทำให้เฟื่องแก้ว เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ซึ่งแอบรักภาคินอยู่หวั่นเกรงว่าจะเสียภาคินไป จึงแอบน้อยใจเงียบๆ แต่ตุลย์ ซึ่งทำงานประสานกับมูลนิธิได้เข้ามาปลอบใจ

ก้อง ภพกับภาคินเป็นพี่น้องต่างมารดากัน แม่ของก้องภพคือคุณหญิงวิมลวรรณ ตั้งข้อรังเกียจที่ภาคินเป็นลูกที่เกิดจากนางเอกลิเกนามว่าบุษบา ซึ่งมาได้เสียกับอานนท์ ผู้เป็นสามีในงานแสดงที่บ้าน วิมลวรรณยึดลูกของบุษบาไว้ แล้วไล่บุษบาออกไปจากบ้าน ก้องภพจึงมักแสดงท่าทีข่มภาคินเป็นประจำ ทำให้ภาคินมุ่งมั่นทำงานมูลนิธิ โดยไม่ใส่ใจสมบัติของครอบครัว ส่วนบุษบายึดอาชีพลิเกเหมือนเดิม โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “กัญญา” ทำหน้าที่ฝึกสอนและแสดงด้วย คนในคณะเรียกเธอว่าแม่ครูกัญญา บุษบาติดตามความเคลื่อนไหวของครอบครัวอานนท์อยู่เป็นประจำ เธอจึงทราบว่าลูกชายของเธอเป็นใคร อยู่ที่ไหน

จุดประสงค์ของปานฟ้า ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานของภาคินก็คือการตามหา “ทินภัทร” ลูกชายของปานเดือน พี่สาวคนกลางซึ่งสูญหายไปตั้งแต่อายุเพียงหนึ่งขวบ ปานเดือนเสียสติจนต้องอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์ ปานดาวกับภูวดล ผู้สามีพยายามตอกย้ำว่าปานเดือนเป็นบ้า ทำลูกหาย อาการของปานเดือนมีแต่แย่ลง ทำให้ปานดาวกับภูวดลเชื่อมั่นว่าธัญวิทย์หรือน้องธัญ ลูกชายของตนจะเป็นผู้ครอบครองมรดกมหาศาลของตระกูลเพียงคนเดียว

ปานฟ้าพาปานเดือนมาที่มูลนิธิ  ปานเดือนถูกชะตากับบุญทิ้ง จึงขอเติมบุญกับสายอุษา ผู้เป็นพ่อแม่ว่าจะอุปการะบุญทิ้งในฐานะลูกที่หายไป  อนิรุทธิ์ สามีของเธอก็เห็นว่าบุญทิ้งอาจช่วยเยียวยาอาการป่วยของปานเดือนได้  ปานดาวเกรงว่าธัญวิทย์ ลูกชายตนจะถูกแบ่งสมบัติจึงให้พิม คนเลี้ยงธัญวิทย์หาทางกำจัดบุญทิ้งเสีย  พิมใช้ให้ก้าน สามีที่เพิ่งออกจากคุกมาลักพาตัวบุญทิ้งไปจากมูลนิธิ แต่บุญทิ้งหนีไปได้ โชคชะตานำพาให้บุญทิ้งไปพบแม่ครูกัญญา  ต่อมาไม่นาน แม่ครูก็สอนให้บุญทิ้งร้องรำลิเกจนกลายเป็นลิเกเด็กขวัญใจคนดูไปในเวลาไม่ นาน

การหายตัวไปของบุญทิ้งทำให้ปานฟ้ากับภาคินร่วมมือกันตามหา เฟื่องแก้วกับตุลย์ร่วมติดตามไปด้วย ก้องภพขัดขวางและหาทางนำตัวปานฟ้ากลับ  ทำให้ข้อขัดแย้งระหว่างภาคินกับก้องภพมีเพิ่มมากขึ้น  ภาคินสารภาพกับปานฟ้าว่าเขาตระเวนดูลิเกเพราะต้องการตามหาแม่ ซึ่งเป็นนางเอกลิเกนามว่าบุษบา แต่ก็ยังไม่เคยพบ ปานฟ้าขอติดตามภาคินไปดูลิเกบ้าง เผื่อว่าจะได้พบกับบุญทิ้งด้วย

ปาน เดือนมีอาการทรุดลงหลังจากที่บุญทิ้งถูกลักพาตัวไป  ปานดาว ภูวดลและพิม พยายามหาทางทำร้ายปานเดือนทุกวิถีทาง ต่อมาปานฟ้ากับภาคินได้พบกับลิเกคณะแม่ครูกัญญา  ทั้งสองจำบุญทิ้งได้ จึงขออุปการะบุญทิ้ง แต่แม่ครูกัญญาจำภาคิน ลูกชายของเธอได้เช่นกัน แม่ครูกัญญาจึงพาบุญทิ้งหนีไปอีก ปานเดือนยิ่งมีอาการทรุดหนัก
บุษบา หรือแม่ครูกัญญาไม่ยอมรับงานการแสดงในที่ชุมชนใหญ่ ๆ ทำให้ชาวคณะลิเกลาออกไปอยู่คณะอื่น  ต่อมาด้วยความยากจน และความกตัญญู บุญทิ้งแต่งชุดลิเกร้องรำขอเงินคนเดินผ่านไปมาเป็นที่น่าสงสาร ผู้คนบริจาคเงินให้แก่บุญทิ้ง แม้ว่าบุษบาจะขอให้บุญทิ้งเลิกเป็นลิเกแต่บุญทิ้งก็ไม่สนใจ  บุษบาพยายามทำงานหลายอย่างเพื่อทดแทนอาชีพลิเก  ตุลย์ได้พบกับบุษบาและบุญทิ้ง จึงส่งข่าวให้ปานฟ้ากับภาคินทราบ  ระหว่างที่ปานฟ้าพาเติมบุญกับสายอุษามารับตัวบุญทิ้งนั้นเอง ปานดาวก็ให้ก้านฆ่าบุญทิ้งเสีย แต่เติมบุญมาเห็นเข้า ก้านจึงจับตัวเติมบุญไปด้วย โดยเรียกค่าไถ่เป็นเงินมหาศาล

ปานดาว สั่งตำรวจให้จัดการกับก้าน แล้วพาตัวเติมบุญกลับมาให้ได้  พิมโกรธที่ปานดาวหักหลังจึงขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่องที่ปานดาวเป็นตัวการที่ทำ ให้ทินภัทรหายไปและจะเปิดเผยว่าเด็กชายธัญวิทย์ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของปาน ดาว  เพราะภูวดลสามีของปานดาวเป็นหมัน ธัญวิทย์คือลูกชายของพิมซึ่งภูวดลนำมาอุปโลกน์ว่าเป็นลูก ปานดาวตกใจมาก เสนอเงินมหาศาลให้ก้านปล่อยตัวเติมบุญกลับมาได้  และสัญญาว่าธัญวิทย์จะได้รับมรดกคนเดียว แต่เมื่อเติมบุญกลับมาก็ยังไม่ลืมบุญทิ้ง ชายชราป่วยหนัก พร่ำเพ้อแต่บุญทิ้ง
ปานฟ้ากับภาคินจึงต้องติดตามบุญทิ้งมาให้ได้ แม้ว่าก้องภพจะขัดขวางอย่างไรก็ตาม ปานฟ้าปฏิเสธความรักที่ก้องภพมีต่อเธอ ยิ่งทำให้ก้องภพแค้นใจในตัวภาคินมากยิ่งขึ้น
พิมเริ่มมีอำนาจเหนือปาน ดาว บังคับปานดาวให้ทำทุกอย่างตามที่ตนต้องการ  ปานดาวเครียดจัด ยิ่งรู้ว่าภูวดลมีเมียน้อยก็เกิดปากเสียงกันขึ้น  ปานดาวลุแก่โทสะฆ่าภูวดลตาย ถูกจับติดคุก  พิมหนีไป โดยลักพาตัวธัญวิทย์ไปด้วย  ภาคินกับตุลย์และปานฟ้าออกติดตามคนร้าย ซึ่งรู้ในเวลาต่อมาว่าคือก้านสามีของพิมนั่นเอง

ตำรวจวิสามัญ ฆาตกรรมก้านตาย พิมแค้นเคืองมากจึงยิงปานฟ้า แต่ภาคินช่วยไว้ได้  และทั้งหมดช่วยเหลือธัญวิทย์กับบุญทิ้งมาได้  บุญทิ้งมาทันดูใจเติมบุญ ตุลย์กับเฟื่องแก้วนำพ่วงมาดูตัวพิม พ่วงยืนยันว่าพิมคือผู้หญิงที่นำเด็กชายบุญทิ้งมาขายให้ตนในราคาถูกๆ เพื่อให้บุญทิ้งเป็นเครื่องมือหากินของตน  ทุกคนจึงรู้ว่าบุญทิ้งคือทายาทที่แท้จริง
ความสุขสงบกลับคืนมาอีกครั้ง ปานดาวซึ่งติดคุกอยู่ขอร้องให้ปานฟ้าอย่าบอกความจริงว่าธัญวิทย์ไม่ใช่ลูก ของเธอ ปานฟ้ารับปากและสัญญาว่าจะรักธัญวิทย์เหมือนเคย แม้ว่าธัญวิทย์จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลก็ตาม บุญทิ้งกลับมาเป็น “ทินภัทร” ปานฟ้าแต่งงานกับภาคิน ส่วนตุลย์แต่งงานกับเฟื่องแก้ว โดยพิธีแต่งงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีการเลี้ยงอาหารแก่เด็กเร่ร่อนที่ มูลนิธิ ก้องภพยอมรับความพ่ายแพ้และมุ่งมั่นจะบริหารงานของครอบครัวต่อไป บุษบามาเป็นแม่บ้านให้แก่มูลนิธิ ภาคินดีใจที่ได้แม่ของตนกลับคืนมา หลังจากที่ตามหามาเป็นเวลานาน

ทินภัทรหรือบุญทิ้ง เด็กชายผู้มีชาติตระกูลสูงส่งต้องระเหเร่ร่อนอย่างยากลำบาก ไม่ต่างจากดาวที่เคยพราวพร่างอยู่กลางฟ้าต้องตกลงมาบนดิน  แต่แสงแห่งดาวก็ยังเจิดจ้าดั่งดาวดินที่ไม่มีวันสิ้นแสง  ดุจเดียวกับภาคินและปานฟ้า ซึ่งเกิดมาสูงส่งแต่ก็ได้ใช้แสงแห่งดาวให้ความสว่างไสวแก่ผู้ยากไร้ให้ดิน ได้มีแสงสว่างเช่นเดียวกับดาวบนฟ้านั่นเอง

ดั่งดวงตะวัน

ในยุคสมัยพ.ศ.2518  เป็นยุครุ่งเรืองของการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตร จากโรงเรียนชายอันเกรียงไกร 4 โรงเรียน นำทัพโดยหนุ่ม    สุดหล่อ เท่ โด่งดังที่สุดในรุ่น 4 คนคือ หิน อ๊อด แก้ว และธง สาวๆ เรียกพวกเขาทั้ง 4 ว่า จตุรเทพ และจากการแข่งขันฟุตบอลนี้ ทำให้ทั้ง 4 คน ได้รู้จักจนกลายเป็นเพื่อนรัก จวบจนกลายเป็นหนุ่มใหญ่ในปัจจุบัน
หิน จอมเกเร ภายหลังเรียนจบเข้ารับราชการเป็นตำรวจ แต่ด้วยความประพฤตินอกคอก เลือดร้อน ชอบลุยจับโจรมือเปล่า ทำให้ได้เป็นแค่จ่า จ่าหินมีลูกชาย ชื่อดิน เข้ารับราชการเป็นตำรวจเหมือนจ่าดิน แต่นิสัยแต่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำให้เลื่อนขั้นเป็นหมวดในเวลาไม่นาน
อ๊อด เข้าวงการบันเทิงจนเป็นพระเอก รุ่งเรืองอยู่ช่วงสั้นๆ แต่ก็ยังมีงานโชว์ตัวประปราย อ๊อดเป็นต้นตำรับเพลย์บอย ที่ไม่ยอมแก่ อ๊อดยังทำตัวหนุ่ม ทันสมัย ควงสาวพาร์ตไทม์ และใช้ชีวิตคนเดียว อ๊อดมีลูกชายและลูกสาวที่อ๊อดไม่เคยดูแลคือ เข้มและเปรี้ยวหวาน
แก้ว หนุ่มผู้อ่อนโยน คล้ายจะเป็นคนในกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากที่สุด เพราะเป็นวิศวกรมีบริษัทเป็นของตนเอง ร่ำรวย มีภรรยานิสัยดี ชื่อฝ้าย และมีลูกสาวที่น่ารักชื่อไหมทอง
ธง  สุภาพบุรุษพูดน้อย รับราชการเป็นครู ธงพอใจในชีวิตที่พอเพียง ไม่หวังมีเงินมากและมีเกียรติยศชื่อเสียง ทำให้เมียของธงหนีไปแต่งงานใหม่ แต่ทิ้งลูกสาวชื่อนกน้อย ผู้ทะเยอทะยานและเป็นคนบ้าวัตถุนิยม ไม่เคยเชื่อฟังคำสอนของธง

ในวัย 45 ปี กลุ่มจตุรเทพ จะนัดพบกันทุกอาทิตย์ที่สนามฟุตบอลของโรงเรียนที่ธงเป็นครูอยู่ พวกเขาแวะมาพบปะสังสรรค์ และช่วยฝึกซ้อมฟุตบอลให้เด็กยากจน กลุ่มจตุรเทพแย่งกันทำทุกอย่างในทีม บางวันก็ต่อยกันเอง จนเด็กๆ ในทีมล้วนเอือมระอาแม้ว่าทั้ง หิน อ๊อด แก้ว และธง จะใช้ชีวิตผ่านร้อนหนาวมามากมายสมชายชาตรี แต่ไม่มีบทบาทใดที่เขาจะมีความสุขเท่าบทบาทของการเป็นพ่อ และแล้วพวกเขาทั้งสี่ต้องเผชิญชีวิตร่วมกันอีกครั้ง เนื่องจากเรื่องสับสนอลหม่านของลูกๆ

หมวดดิน ต้องตามสืบคดีในบ่อนคาสิโนแห่งหนึ่ง ในวันที่ทลายบ่อนหมวดดินปลอมพัวเป็นนักพนันเข้าไป โดยซ่อนกล้องและไมโครโฟนไปด้วย ให้บังเอิญจ่าหินก็แอบเข้าไปในบ่อนด้วย ทันทีที่เห็นผู้หญิงโดนตบตี จ่าหินก็บันดาลโทสะ เข้าชกต่อย หมวดดินเห็นพ่อมีเรื่องจึงเข้าไปช่วยจนกล้องและไมโครโฟนหล่นกลางวง 2 พ่อลูกต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มนักเลงแต่ก็หนีรอดมาได้โดยไหวพริบของหมวดดิน หมวดดินโกรธพ่อมาก ทะเลาะกันใหญ่โตจนหมวดดินตัดสินใจย้ายข้าวของไปอยู่หอพักทันที

ต่อมาหมวดดินได้รับมอบหมายให้รับงานใหม่ ตามสืบจับเจ้าของโต๊ะพนันรายใหญ่ ชื่อเข้ม ภายนอกเป็นคนดี แต่จริงๆ เป็นคนเจ้าเล่ห์ หลอกลวง เข้มมีน้องสาวชื่อเปรี้ยวหวาน ที่มีความเชื่อว่าเข้มเป็นคนดี หมวดดินตามตัวเข้มไม่พบ จึงเอาตัวมาพัวพันกับเปรี้ยวหวาน โดยโกหกเรื่องการเป็นตำรวจ
อ๊อด พึ่งทราบว่าตนมีลูก จึงขอนัดพบเปรี้ยวหวาน เปรี้ยวหวานทราบตั้งนานแล้วว่าอ๊อดคือพ่อ แต่เธอเมินเฉยเพราะอ๊อดทำให้แม่เสียน้ำตา และไม่เคยสนใจใยดีตนและพี่ชายเลย ด้านจ่าหินไม่พอใจที่ลูกชายเอาแต่ตามหญิงสาว จึงให้แอนและเอ๋อ สาวไซด์ไลน์ที่รู้จักตามสืบ เปรี้ยวหวานได้พบแอนและเอ๋อ พอรู้ว่ามีอาชีพอะไรก็สนใจอยากได้ข้อมูลไปเขียนหนังสือ จึงติดตามสองสาวไปพบลูกค้า จ่าหินเห็นเลยเข้าใจผิดคิดว่าเปรี้ยวหวานเป็นสาวบริการเหมือนแอนและเอ๋อ
เย็นวันหนึ่งกลุ่มจตุรเทพ ได้นั่งพุดคุย ปรึกษาหารือกันเรื่องลูก จ่าหินและอ๊อดต่างปรึกษากัน และด่าเรื่องคนที่มาติดพันลูก โดยไม่รู้เลยว่าเป็นลูกสาวและลูกชายของทั้งคู่ กลุ่มจตุรเทพจึงนึกอยากช่วยดินและเปรี้ยวหวาน โดยการสะกดรอยตามและอัดวิดีโอเปรี้ยวหวานที่ตามสองสาวไปหาข้อมูล แต่พออ๊อดเห็นว่าเป็นเปรี้ยวหวานก็ตกใจ
จ่าหินรีบไปตามหมวดดินให้มาดู สาวที่ติดพันว่าเป็นสาวไซด์ไลน์ พอจ่าหินเจอหน้าเปรี้ยวหวานก็ด่าทันที อ๊อดโมโหที่จ่าหินมาด่าว่าลูกของตน ความลับของหมวดดินจึงแตก ดินโกรธพ่อมากที่ก้าวก่ายงานของเขา ทั้งยังทำให้จ่าหินกับอ๊อดทะเลาะกัน หมวดดินจึงอธิบายการทำงานให้เปรี้ยวหวานฟัง แต่เปรี้ยวหวานไม่เชื่อเรื่องพี่ชาย แต่ก็ยอมให้ความร่วมมือ เพราะคิดว่าพี่ชายตนไม่ผิด

แก้ว รู้เรื่องทั้งหมดว่าหมวดดินต้องการตามหาเข้ม แต่กลับบอกใครไม่ได้เพราะ เข้มกลายเป็นลูกเขยของตน และซ่อนตัวอยู่ในครอบครัวของแก้วมานานแล้ว เพราะเข้มคบหากับไหมทองลูกสาวของเขาและได้เสียกันจนตั้งท้อง ไหมทองหลงเข้มจนโงหัวไม่ขึ้น และทุกคนในบ้านก็เพิ่งรู้ว่า เข้มเป็นเจ้าพ่อโต๊ะบอลที่ทางการต้องการตัวจากหมวดดิน

พอเปรี้ยวหวานรู้ว่าเข้มเป็นลูกเขยของแก้ว และมีแนวโน้มจะทำตัวเป็นจริงตามที่หมวดดินบอก เปรี้ยวหวานจึงคืนดีกับหมวดดิน แต่กลับทำให้นกน้อยไม่พอใจ เพราะนกน้อยแอบชอบหมวดดินมาตั้งแต่เด็กแล้ว เธอหาทางคอยขัดขวาง ส่วนเปรี้ยวหวานยอมรับอ๊อดเป็นพ่อ จึงไปอยู่กับอ๊อดที่คอนโด ชีวิตครอบครัวของอ๊อดกำลังจะเริ่มมีความสุข แต่ครอบครัวของแก้วกำลังจมดิ่ง  ไหมทองยังคอยให้เงินช่วยเหลือเข้ม ทำให้หมวดดินและทางการจับตัวเข้มไม่ได้สักที ตำรวจบุกทะลายบ่อนเข้ม และลูกน้องเข้มซักทอดถึงไหมทอง แต่แก้วก็ออกมารับผิดแทนลูก

สุดท้ายคน ที่เจอตัวเข้มคือไหมทอง ที่แม้จะใกล้คลอดก็ยังคงออกติดตามเข้มร่วมกับหมวดดิน จนถึงวันที่เข้มจะหนีออกนอกประเทศจึงมาลาไหมทอง แต่ไหมทองเจ็บท้องจะคลอดเข้มจึงนำตัวไหมทองไปไว้ที่สถานีอนามัยแต่ไม่มีเจ้า หน้าที่อยู่ เข้มจึงต้องเป็นคนทำคลอดลูกด้วยตนเอง เข้มรู้สึกถึงความประหลาดที่เกิดขึ้นทำให้เข้มรู้สึกสำนึกในความผิดและยอม มอบตัวกับทางการในที่สุด
ส่วนจ่าหินและหมวดดินก็เข้าใจกันเพราะขณะ ติดตามเข้มที่หลบหนี หมวดดินถูกแก๊งพนันยิงแต่จ่าหินเข้ารับกระสุนแทน จ่าหินเข้ารับการผ่าตัดจนพ้นขีดอันตราย หมวดดินคบเปรี้ยวหวานอย่างเปิดเผยและแต่งงานกันอย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดงละคร ดั่งดวงตะวัน

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง   จ่าหิน
สันติสุข พรหมศิริ   แก้ว
เมทนี บุรณศิริ    อ๊อด
นุติ เขมะโยธิน    ธง
พัชฎะ นามปาน   หมวดดิน
สมชาย เข็มกลัด   เข้ม
สุนิสา เจทส์    เปรี้ยวหวาน
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข   ไหมทอง
พริมรตา เดชอุดม   นกน้อย
ปนัดดา วงศ์ผู้ดี   ฝ้าย
ปาณิสรา พิมพ์ปรุ   แป๊ด
ธรากร สุขสมเลิศ   เป้
ชุดาภา จันทเขตต์   แอ๋ว
สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์  จ่านิด
จรรยา ธนาสว่างกุล   เอ๋อ
รชตวัน เวโรจน์    แอน