Tag Archives: สันติ วีระบุญชัย

หลงเงาจันทร์

นิติ แต่งงานกับ ทิพย์อาภา โดยความเห็นชอบของผู้ใหญ่ ทั้งๆ ที่นิติมีคนรักอยู่แล้วคือ ภัสสร แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกัน คุณพงษ์ผู้เป็นบิดาจึงไม่อนุญาตให้ลูกชายแต่งงานกับคนที่ไม่มีสกุลรุนชาติอย่างภัสสร แม้ว่าคุณอารีย์ ผู้เป็นมารดา จะเห็นใจนิติ แต่ไม่สามารถที่จะขัดใจคุณพงษ์ได้
เมื่อนิติแต่งงานได้ไม่นาน จึงรู้ว่าภัสสรกำลังตั้งครรภ์ ชายหนุ่มจึงแอบไปหาภัสสรพร้อมกับส่งเสียเลี้ยงดูจนภัสสรคลอดลูกสาวคือ พิมพ์ชนก คุณพงษ์เห็นว่าทิพย์อาภาแต่งงานกับนิตินานแล้วแต่ยังไม่มีลูก จึงแนะนำให้ทั้งสองไปปรึกษาหมอ

พิมพ์ชนกอายุได้ 3 ขวบ ภัสสรเริ่มป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หญิงสาวรู้ตัวว่าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก และเธอเองไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ภัสสรจึงบอกกับนิติให้รับลูกไปอุปการะด้วย ถ้าเธอต้องเป็นอะไรไป นิติพาภัสสรไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ที่ทำการรักษาแจ้งกับนิติว่าภัสสรคงมีชีวิตต่อไปไม่นานนัก
นิตินำเรื่องราวของเขากับภัสสรเล่าให้คุณอารีย์ฟัง คุณอารีย์จึงไปเยี่ยมภัสสรที่โรงพยาบาลและสัญญาว่าจะเลี้ยงดูพิมพ์ชนกเป็นอย่างดี ภัสสรขอบพระคุณคุณอารีย์ที่มีเมตตาต่อพิมพ์ชนก คุณอารีย์ให้นิติไปสารภาพกับคุณพงษ์และทิพย์อาภา

เมื่อคุณพงษ์รู้เรื่องทั้งหมดเขาไม่พอใจที่ลูกชายแอบไปมีลูกกับภัสสร แต่ด้วยความที่เห็นแก่หลาน เขาจึงอนุญาตให้นำพิมพ์ชนกเข้ามาอยู่ในบ้านได้ ในขณะที่ทิพย์อาภามีท่าทีเฉยเมยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากภัสสรได้จบชีวิตลง พิมพ์ชนกจึงเข้ามาอยู่ในความดูแลของนิติกับทิพย์อาภา คุณอารีย์รู้สึกเอ็นดูหลานสาว ในขณะที่คุณพงษ์แอบมองดูหลานอยู่ห่างๆ แต่ด้วยความน่ารักของพิมพ์ชนกสามารถทำให้คุณพงษ์ใจอ่อนยอมญาติดีกับหลานสาว และแสดงความรักได้อย่างสนิทใจ

ในขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังหลงรักเด็กน้อย ทิพย์อาภาได้เริ่มตั้งครรภ์ สร้างความดีใจให้กับนิติรวมทั้งคุณพงษ์และคุณอารีย์เป็นอย่างมาก ในที่สุดทิพย์อาภาได้ให้กำเนิดบุตรสาวคือ เขมจิรา สร้างความตื่นเต้นยินดีแก่ทุกคนในครอบครัว

เด็กทั้งสองเติบโตมาท่ามกลางความรักจากทุกคนในครอบครัว มีเพียงทิพย์อาภาคนเดียวเท่านั้นที่แสดงออกว่าเธอรักและตามใจเขมจิรามากกว่าพิมพ์ชนก เพราะไม่ว่าเขมจิราจะทำผิดหรือถูก ทิพย์อาภามักจะเข้าข้างเขมจิราอยู่เสมอ ทำให้เขมจิรามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง และชอบโยนความผิดให้พิมพ์ชนกเสมอมา

พิมพ์ชนกรู้ดีว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของทิพย์อาภา แต่เธอกับเขมจิราก็มีพ่อคนเดียวกัน พิมพ์ชนกจึงมีความรักให้กับเขมจิราอย่างจริงใจ หญิงสาวยอมเป็นเบี้ยล่างของเขมจิรา โดยมีทิพย์อาภาเป็นคนคอยให้ท้ายเขมจิราตลอดเวลาเช่นกัน

หลังเรียนจบหลักสูตรพยาบาล พิมพ์ชนกได้เข้าทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งพร้อมกับริสา เพื่อนรักที่เรียนจบมาด้วยกัน ทั้งสองได้พบกับ อานนท์ แพทย์หนุ่มรูปหล่อประจำโรงพยาบาล เมื่อพบกัน อานนท์รู้สึกถูกชะตาพิมพ์ชนกเป็นอย่างมาก แต่หญิงสาวไม่ได้รู้สึกอะไร ตรงกันข้ามกับริสาก็รู้สึกหลงรักอานนท์ทันทีเมื่อแรกเห็น

เขมจิรากำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง หญิงสาวไม่สนใจการเรียน วันๆ ได้แต่ควงผู้ชายไปเที่ยว จนนิติเอือมระอากับพฤติกรรมของลูกสาว เมื่อเห็นผลการเรียนของเขมจิราที่มักจะสอบไม่ผ่าน แต่ทุกครั้งที่นิติว่ากล่าวตักเตือนเขมจิรา ทิพย์อาภาจะต้องคอยออกรับแทน และมักจะพูดประชดพาดพิงไปถึงพิมพ์ชนก เขมจิราไม่ได้เก่งเหมือนพิมพ์ชนกลูกรักของนิติ จึงทำอะไรไม่เคยถูกใจพ่อเลยสักครั้ง

เขมจิราเริ่มออกหนีเที่ยวกลางคืน จนกระทั่งคืนหนึ่งได้พบกับ พลาทิป ด้วยความที่ชายหนุ่มหน้าตาดีและเอาอกเอาใจเขมจิรา หญิงสาวจึงแอบคบหาเป็นแฟนกับชายหนุ่ม โดยที่เธอบอกกับพลาทิปว่าเธอชื่อ พิมพ์ชนก สุวรรณเวศน์ ทั้งสองคบหากันจนกระทั่งมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง

ธนาคิม หนุ่มนักเรียนนอกลูกชายของ เอมอร ซึ่งเป็นเพื่อนรักของทิพย์อาภา เดินทางกลับถึงประเทศไทยหลังจากจบการศึกษา ชายหนุ่มเป็นเพื่อนรักกับพลาทิป เมื่อธนาคิมได้พบกับพลาทิป ชายหนุ่มทั้งสองพูดคุยถามถึงสารทุกข์สุขดิบของกันและกัน พลาทิปเล่าถึงพิมพ์ชนก (เขมจิรา) สุวรรณเวศน์ ว่าเป็นผู้หญิงที่เขารักและกำลังจะแต่งงานด้วย

วันหนึ่งอานนท์มาหาพิมพ์ชนกที่บ้านได้พบกับเขมจิรา หญิงสาวรู้สึกสนใจอานนท์ทันทีเมื่อแรกเห็นจึงเข้ามาพูดคุยกับชายหนุ่ม อานนท์เองก็รู้สึกถูกใจเขมจิราเช่นกัน เมื่อชายหนุ่มไป เขมจิราจึงมาถามพิมพ์ชนกว่าอานนท์เป็นใคร และถามว่าชายหนุ่มเป็นแฟนกับพิมพ์ชนกหรือเปล่า พิมพ์ชนกปฏิเสธ

เขมจิราตามไปหาอานนท์ที่โรงพยาบาล โดยอ้างว่ามาหาพิมพ์ชนก เมื่อพบกันชายหนุ่มจึงชวนเขมจิราออกไปทานอาหาร เขมจิราแกล้งชวนให้พิมพ์ชนกไปด้วยแต่หญิงสาวปฏิเสธ ริสาแอบมองอานนท์กับเขมจิราที่ออกไปด้วยกัน พิมพ์ชนกจึงถามเพื่อนของเธอว่ารู้สึกอย่างไรกับอานนท์ ริสาพยายามซ่อนความรู้ไว้แต่ด้วยความที่ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน พิมพ์ชนกจึงรู้คำตอบนั่นดี

เมื่อพิมพ์ชนกกลับถึงบ้านจึงบอกกับเขมจิราว่าอานนท์เป็นคนจริงจังกับชีวิต หญิงสาวกลัวว่าถ้าเขมจิราคิดจะควงอานนท์เล่นๆ จะทำให้ชายหนุ่มผิดหวังและเสียใจในภายหลัง เขมจิราไม่สนใจที่พิมพ์ชนกพูด แถมย้อนว่าหญิงสาวคงรู้สึกเสียดายที่อานนท์มาสนใจตนแทนที่จะเป็นพิมพ์ชนก

เขมจิราเริ่มตีตัวออกห่างพลาทิป ชายหนุ่มจึงบุกมาหาหญิงสาวที่บ้าน โดยถามหาพิมพ์ชนก เขมจิราเห็นจึงรีบหลบไป เมื่อพลาทิปกลับไปแล้วเธอจึงรีบโทรศัพท์นัดพลาทิปให้ออกมาพบ เมื่อทั้งสองพบกัน เขมจิราบอกเลิกกับพลาทิป โดยอ้างว่าเธอไม่พร้อมที่จะแต่งงานในตอนนี้ เมื่อชายหนุ่มยืนยันว่าเขาจะรอจนกว่าหญิงสาวเรียนจบ เขมจิราจึงตัดบทว่าเธอไม่ได้รัก พลาทิป

พลาทิปเสียใจมาก กลับถึงบ้านจึงดื่มเหล้าเมายาจนขาดสติ จากนั้นจึงใช้ปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต พ่อของชายหนุ่มรีบโทรศัพท์ส่งข่าวธนาคิม ชายหนุ่มรับรู้เรื่องราวด้วยความตกใจ เมื่อธนาคิมเดิมทางมาถึง พ่อกับแม่พลาทิปจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนจะเกิดเรื่อง พลาทิปพูดถึงพิมพ์ชนกอย่างคนเพ้อคลั่งเหมือนกับคนอกหัก ธนาคิมเข้าใจในทันทีว่าพิมพ์ชนกต้องบอกเลิกความสัมพันธ์ของเธอกับพลาทิป ทำให้เพื่อนรักเขาต้องเสียใจจนกระทั่งตัดสินใจจบชีวิตลงเช่นนี้

ธนาคิมจดจำชื่อพิมพ์ชนกอย่างไม่มีวันลืม และคิดได้ว่าสักวันถ้าเขามีโอกาสได้พบกับหญิงสาวชื่อพิมพ์ชนก สุวรรณเวศน์ แล้วเขาจะต้องแก้แค้นแทนพลาทิปให้สาสมกับสิ่งที่หญิงสาวทำกับเพื่อนรักของเขา เขมจิรารู้ข่าวการเสียชีวิตของพลาทิปทางหน้าหนังสือพิมพ์ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่พยายามซ่อนอาการไว้ไม่ให้ใครรู้

ธนาคิมได้พบกับเขมจิราในวันหนึ่ง จากการแนะนำของเอมอรกับทิพย์อาภา เมื่อเขมจิราพบกับชายหนุ่มก็รู้สึกถูกใจ และเมื่อรู้ว่าทิพย์อาภาต้องการให้หญิงสาวหมั้นหมายกับชายหนุ่ม เขมจิราจึงตอบตกลงทันที ส่วนธนาคิมนั้นไม่เต็มใจนักแต่ต้องยอมทำตามความต้องการของเอมอร ที่สำคัญเมื่อเขารู้ว่าคนที่เขาจะหมั้นด้วยนั้นนามสกุล สุวรรณเวศน์ ชายหนุ่มจึงตอบตกลงหมั้นกับเขมจิราในทันที

อานนท์รู้ข่าวจากพิมพ์ชนกว่าเขมจิราจะหมั้นกับธนาคิม ชายหนุ่มจึงมาหาเขมจิราที่บ้านเพื่อถามถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน หญิงสาวบอกว่าเธอรู้สึกกับอานนท์แค่เพื่อนเท่านั้น ชายหนุ่มจึงกลับไปด้วยความเสียใจ พิมพ์ชนกเห็นเหตุการณ์จึงตามไปปลอบใจอานนท์

พิมพ์ชนกตามมาที่บ้านพักของอานนท์ที่โรงพยาบาล เห็นชายหนุ่มกำลังดื่มเหล้าอย่างหนักจึงพยายามพูดเตือนสติอานนท์ อานนท์ระบายความในใจและเล่าความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างเขากับเขมจิราให้พิมพ์ชนกฟังอย่างลืมตัว หญิงสาวรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ และขอร้องให้อานนท์เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะเธอกลัวว่าเขมจิราจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ก่อนถึงวันหมั้นของธนาคิมกับเขมจิรา ธนาคิมมาหาเขมจิราที่บ้าน ทำให้ได้พบกับพิมพ์ชนกเป็นคนแรก เพราะชีวิตส่วนใหญ่ของพิมพ์ชนกจะพักอยู่ที่บ้านพักในโรงพยาบาล เขมจิราแนะนำให้ธนาคิมรู้จักกับพิมพ์ชนก ชายหนุ่มมีท่าทางเหมือนกับรู้จักพิมพ์ชนกมาก่อน เขมจิราใส่ไฟว่าพิมพ์ชนกชื่อดังในหมู่ผู้ชาย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ธนาคิมอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

พิมพ์ชนกแปลกใจที่ธนาคิมมีท่าทางเหมือนเคยรู้จักกับเธอ และเมื่อมีโอกาสพบกันตามลำพัง ธนาคิมเข้ามาพูดจาแทะโลมดูถูกพิมพ์ชนก จนหญิงสาวรู้สึกไม่ชอบหน้าชายหนุ่ม และเมื่อถึงงานวันหมั้นของธนาคิมกับเขมจิรา พิมพ์ชนกมากับอานนท์และริสา ธนาคิมเห็นว่าพิมพ์ชนกสนิทสนมกับอานนท์จึงเข้าใจว่าชายหนุ่มคือเหยื่อรายใหม่ของพิมพ์ชนก เขมจิราแสดงท่าทางไม่แยแสอานนท์ แม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามบอกให้หญิงสาวทบทวนให้ดีก่อนที่จะรับหมั้นธนาคิม ริสารู้สึกเห็นใจอานนท์มากยิ่งขึ้น

อานนท์เริ่มดื่มเหล้าหนักขึ้นไม่เป็นอันทำงานทำการ ริสาเข้ามาคอยดูแลปลอบใจอานนท์ด้วยความเป็นห่วง และความรักที่มีต่อชายหนุ่ม อานนท์รู้ดีว่าหญิงสาวมีใจให้กับเขา แต่ชายหนุ่มให้ได้แค่ความเป็นเพื่อน แต่เมื่อริสาเข้ามาในขณะที่อานนท์เกิดความรู้สึกอ่อนไหวและขาดสติ ในที่สุดทั้งสองได้ตกเป็นของกันและกัน ซึ่งริสายินยอมอานนท์ด้วยความเต็มใจ

ริสาตระหนักดีว่าอานนท์ไม่สามารถที่จะลืมเขมจิราได้ แต่หญิงสาวหวังว่าสักวันความรักความจริงใจที่มีให้กับชายหนุ่มคงจะสามารถเยียวยารักษาแผลใจให้กับอานนท์ได้ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับอานนท์ ชายหนุ่มมีท่าทีเฉยชาและเริ่มตีตัวออกห่างในขณะที่ริสาพยายามเข้าไปใกล้ชิดอานนท์มากยิ่งขึ้น

เมื่อได้รับการปฏิเสธจากอานนท์ทำให้ริสารู้สึกเสียใจ พิมพ์ชนกนั้นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนเธอ หญิงสาวจึงเข้ามาปลอบใจและให้กำลังใจว่าสักวันอานนท์คงจะรู้เองว่าใครที่รักเขามากที่สุดและที่สำคัญเขมจิราน้องสาวของเธอไม่เหมาะกับชายหนุ่มที่ดีอย่างอานนท์

ธนาคิมมีโอกาสได้พบกับพิมพ์ชนกอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มต้องมาเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานในโรงพยาบาลที่พิมพ์ชนกทำงานอยู่ หญิงสาวพยายามหลบหน้าธนาคิมเพราะไม่ต้องการต่อปากต่อคำกับชายหนุ่ม และที่สำคัญขณะนี้ธนาคิมเป็นคู่หมั้นของเขมจิรา

เขมจิราเริ่มรู้สึกว่าธนาคิมให้ความสนใจพิมพ์ชนก หญิงสาวจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับทิพย์อาภา พิมพ์ชนกจึงถูกแม่เลี้ยงมาต่อว่า หญิงสาวยืนยันว่าเธอไม่ได้สนิทสนมกับธนาคิมอย่างที่เขมจิราเข้าใจ นิติเข้ามาเตือนสติภรรยาว่าพิมพ์ชนกไม่ทำอะไรอย่างที่ทิพย์อาภากล่าวหาอย่างแน่นอน และบอกว่าเมื่อเขมจิราเรียนจบเมื่อไหร่เขาจะรีบจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด ทิพย์อาภาจะได้สบายใจ

หลังจากเขมจิราจบการศึกษาได้ไม่นาน เอมอรกับทิพย์อาภาจึงปรึกษากันเรื่องงานแต่งงานของลูกๆ แม้ว่าคุณพงษ์กับคุณอารีย์จะทักท้วงว่าเขมจิรายังไม่สมควรที่จะแต่งงานในขณะนี้ เพราะเพิ่งจบการศึกษาและยังไม่มีงานทำ แต่เขมจิรายืนยันกับปู่และย่าว่าเธอต้องการแต่งงานกับธนาคิมให้เร็วที่สุด

ในที่สุดจึงได้กำหนดวันงานมงคลสมรสของทั้งสอง ธนาคิมพาเขมจิราตระเวนแจกการ์ดตามบ้านญาติผู้ใหญ่ต่างๆ เขมจิราดีใจที่จะได้แต่งงานกับธนาคิม หญิงสาวเข้าไปบอกกับพิมพ์ชนกว่าไม่มีทางที่เธอจะปล่อยให้ธนาคิมมาหลงเสน่ห์คนอย่างพิมพ์ชนก และถ้าหาใครไม่ได้เธอยินดียกอานนท์ให้พิมพ์ชนกไว้เป็นคู่ควง พิมพ์ชนกยืนยันกับเขมจิราว่าเธอไม่เคยมีความคิดอย่างที่เขมจิ
รากล่าวหา

ก่อนวันงานแต่งงานของธนาคิมกับเขมจิรา ธนาคิมต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อเคลียร์งานเขียนโปรแกรมของโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำค้างอยู่ เพราะหลังจากแต่งงานแล้วเขมจิราขอร้องให้เขาพาไปฮันนีมูนที่ต่างประเทศ เมื่อเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ รถของชายหนุ่มที่ขับมาประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ เอมอรได้รับโทรศัพท์จากทางตำรวจแจ้งว่าธนาคิมประสบอุบัติเหตุ เธอจึงแจ้งให้ตำรวจนำตัวชายหนุ่มส่งโรงพยาบาลที่พิมพ์ชนกทำงานอยู่

เอมอรจึงรีบเดินทางตามมาที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงได้รับแจ้งจากอานนท์ว่าธนาคิมต้องทำการผ่าตัดเนื่องจากมีเลือดออกในสมอง อานนท์บอกกับเอมอรว่าจะช่วยเหลือธนาคิมอย่างเต็มความสามารถ

นิติ ทิพย์อาภา และเขมจิรา รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลหลังจากได้รับข่าวจากพิมพ์ชนกหลังการผ่าตัดแล้วธนาคิมอาจจะมีอาการอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่มีเลือดออกในสมอง เขมจิราโวยวายใส่อานนท์ว่าฝีมือไม่ถึงทำให้คนรักของเธอต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ พิมพ์ชนกและริสาพยายามอธิบายกับเขมจิราว่าอานนท์ได้ช่วยเหลือธนาคิมอย่างสุดความสามารถแล้ว

หลังจากธนาคิมรู้สึกตัวและอาการดีขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่มีความรู้สึกทางซีกซ้าย อานนท์จึงอธิบายให้ธนาคิมฟังว่า ชายหนุ่มเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซึกทำให้ไม่มีความรู้สึก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการที่มีเลือดออกในสมอง แต่ธนาคิมมีโอกาสที่จะหายเป็นปกติถ้าได้รับการดูแลรักษาตลอดจนการทำกายภาพบำบัดถูกวิธี ธนาคิมเสียใจที่เขาต้องกลับกลายมาเป็นคนพิการ พิมพ์ชนกเข้ามาปลอบใจ แต่ธนาคิมย้อนหญิงสาวว่าที่จริงแล้วเธอคอยจ้องจะสมน้ำหน้าเขาต่างหาก หญิงสาวไม่เข้าใจที่ชายหนุ่มพูด

เขมจิรารับไม่ได้ที่ต้องแต่งงานกับคนพิการอย่างธนาคิม นิติกับทิพย์อาภาบอกว่าธนาคิมต้องหายเป็นปกติอย่างแน่นอน โดยบอกกับเอมอรว่าจะขอเลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน เขมจิราบอกว่าเธอจะไม่อยู่รอธนาคิม ถ้าชายหนุ่มต้องพิการตลอดชีวิตเธอก็จะถอนหมั้น นิติไม่เข้าใจว่าทำไมเขมจิราถึงได้กลายเป็นคนที่มีจิตใจเช่นนี้

เอมอรขอร้องให้นิติกับทิพย์อาภา ช่วยพูดกับพิมพ์ชนก โดยขอให้หญิงสาวรับเป็นคนดูแลธนาคิมหลังจากที่ชายหนุ่มออกจากโรงพยาบาล เพราะพิมพ์ชนกเป็นพยาบาลสามารถดูแลธนาคิมได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเธอไม่ไว้ใจคนอื่นที่จะมาดูแลธนาคิม พิมพ์ชนกชี้แจงกับเอมอรว่าเธอต้องทำงาน เอมอรจึงบอกให้พิมพ์ชนลาออกจากโรงพยาบาล และเธอจะให้เงินเดือนเป็นสองเท่าที่หญิงสาวได้รับ เมื่อธนาคิมหายเป็นปกติแล้ว เธอจะฝากให้พิมพ์ชนกกลับเข้าทำงานในโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง

พิมพ์ชนกจำยอมต้องรับหน้าที่ดูแลธนาคิม โดยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าที่ชายหนุ่มจะหายเป็นปกติ เมื่อธนาคิมออกจากโรงพยาบาล พิมพ์ชนกจึงตามมาอยู่ที่บ้านของชายหนุ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขมจิราตามมาส่งธนาคิมที่บ้านก่อนจะกลับออกไปเขมจิราเข้าไปพูดกับพิมพ์ชนกว่า ขณะนี้คงสมใจพิมพ์ชนกแล้ว เพราะดูท่าทางจะรอโอกาสนี้มานาน และที่สำคัญเขมจิราบอกว่าเธอขอยกธนาคิมให้กับพิมพ์ชนก เพราะคนพิการอย่างธนาคิมก็เหมาะกับเมียพยาบาลอย่างพิมพ์ชนกราวกับกิ่งทองใบหยก เอมอรเข้ามาได้ยินเขมจิราพูดจึงเกิดความรู้สึกไม่ชอบหญิงสาวที่มีท่าทางรังเกียจลูกชายของเธออย่างออกนอกหน้า

ธนาคิมเริ่มอาละวาดใส่พิมพ์ชนกเมื่ออยู่กันตามลำพัง หญิงสาวต้องใช้ความอดทนกับอารมณ์ที่แปรปรวนของชายหนุ่ม พิมพ์ชนกเข้าใจดีว่าธนาคิมต้องรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ หญิงสาวพยายามพูดให้กำลังใจ และขอร้องให้ชายหนุ่มตั้งใจในการทำกายภาพบำบัด

เขมจิราเริ่มหันกลับมาคบกับอานนท์ ริสารู้สึกเสียใจมากที่อานนท์ยังไม่สามารถตัดใจจากเขมจิราได้ ทิพย์อาภาเตือนสติเขมจิราว่าเธอเป็นคู่หมั้นของธนาคิมไม่ควรจะไปสนิทสนมกับผู้ชายอื่น แต่หญิงสาวยืนยันว่าชีวิตเป็นของเธอ ฉะนั้นเธอพอใจที่จะคบหาใครก็ได้ นิติโทษทิพย์อาภาที่ตามใจลูกจนเสียคน คุณพงษ์กับคุณอารีย์บอกให้ทั้งสองช่วยกันทำให้เขมจิรากลับมาเป็นคนดีมีความคิดให้ได้

เมื่อพิมพ์ชนกอยู่ดูแลธนาคิมเป็นระยะเวลานาน หญิงสาวเริ่มรู้สึกสงสารชายหนุ่มเพราะเขมจิราไม่เคยมาเยี่ยมธนาคิมอีกเลย ชายหนุ่มเริ่มเห็นความดีของพิมพ์ชนก แต่ภาพภายนอกยังคงแสดงความเกี้ยวกราดกับหญิงสาวตลอดเวลา และเมื่ออานนท์มาหาพิมพ์ชนกที่บ้านธนาคิม ชายหนุ่มยิ่งแน่ใจว่า พิมพ์ชนกกำลังคบหาอยู่กับอานนท์ จึงเกิดความไม่พอใจที่พิมพ์ชนกไม่รู้สึกผิดกับการที่ทำให้พลาทิปต้องตาย

ในที่สุดธนาคิมหายเป็นปกติ พิมพ์ชนกจึงบอกกับเอมอรว่าเธอจะกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลตามที่เอมอรบอกเธอไว้ เอมอรขอบคุณที่พิมพ์ชนกดูแลธนาคิมกลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณหญิงสาวอย่างเสียไม่ได้ พิมพ์ชนกรู้สึกน้อยใจที่ธนาคิมไม่เคยเห็นความดีของเธอเลย

อานนท์ยื่นเรื่องขอให้ทางโรงพยาบาลรับพิมพ์ชนกกลับเข้าทำงานอีกครั้ง เขมจิรารู้ข่าวว่าธนาคิมหายเป็นปกติจึงรีบมาหาชายหนุ่มพร้อมกับบอกว่าเธอยังรักธนาคิมอยู่ และบอกว่าเธอจะจัดงานแต่งงานทันทีที่ธนาคิมพร้อม ชายหนุ่มบอกขอให้เขมจิรารอไปก่อนเพราะขณะนี้เขายังไม่พร้อม

อานนท์ เห็นว่าเขมจิราจะทิ้งเขากลับไปหาธนาคิมอีกครั้ง ทำให้ชายหนุ่มเกิดความแค้น จึงต้องการนำเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตนกับเขมจิราไปบอกกับธนาคิม ริสาพยายามเตือนสติอานนท์ว่า ถ้าเขารักเขมจิราจริงก็ควรจะปล่อยหญิงสาวได้อยู่กับคนที่เขารัก เพราะความรักไม่ใช่การครอบครอง แต่เป็นการเสียสละและยินดีกับความสุขของคนที่เรารัก อานนท์เริ่มหันกลับมาทบทวนและเริ่มที่จะคิดได้ว่าใครที่รักเขาอย่างจริงใจ

เอมอรไม่พอใจที่เขมจิราหันกลับมาคบกับธนาคิมอีกครั้ง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากธนาคิมยืนยันที่จะคบกับเขมจิราต่อไป เขมจิราควงมากับธนาคิมเพื่อมาขอบคุณพิมพ์ชนกที่ดูแลธนาคิมจนหายเป็นปกติ พิมพ์ชนกจึงอวยพรธนาคิมกับเขมจิราให้มีความสุขในวันแต่งงานที่จะมาถึง ส่วนเธอก็จะมีข่าวดีกับอานนท์เร็วๆ นี้เช่นกัน

พิมพ์ชนกลงจากเข้าเวรกลางดึกของคืนวันหนึ่ง ธนาคิมมาจอดรถดักรอหญิงสาวในขณะที่จะเดินกลับบ้าน เมื่อพบกันชายหนุ่มบอกกับพิมพ์ชนกว่า นิติป่วยหนัก ทิพย์อาภาให้เขามารับหญิงสาวเพื่อกลับไปดูอาการของนิติ ด้วยความตกใจพิมพ์ชนกจึงรีบขึ้นรถไปกับธนาคิม จึงไม่เห็นว่าริสาเดินตามเธอมา

แทนที่ธนาคิมจะพาพิมพ์ชนกกลับบ้าน เขากลับพาหญิงสาวมาบ้านลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่ชานเมือง เมื่อมาถึงธนาคิมลากตัวหญิงสาวให้เข้าไปในบ้านและเริ่มต่อว่าหญิงสาวว่า ชอบหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายหลงรัก แต่สุดท้ายก็ทำให้ผู้ชายเหล่านั้นต้องผิดหวัง พิมพ์ชนกพยายามอธิบายว่าไม่เคยทำอะไรอย่างที่ธนาคิมกล่าวหา

เมื่อธนาคิมได้ฟังคำอธิบายทำให้เกิดอารมณ์แค้นมากขึ้น ชายหนุ่มจึงใช้กำลังปลุกปล้ำหญิงสาว พิมพ์ชนกพยายามต่อสู้ดิ้นรนขัดขืน แต่ในที่สุดหญิงสาวไม่สามารถสู้กำลังของชายหนุ่มได้ พิมพ์ชนกจึงตกเป็นของธนาคิม ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าพิมพ์ชนกไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน ธนาคิมรู้สึกผิดที่หักหาญน้ำใจของหญิงสาว

พิมพ์ชนกไม่เข้าใจว่าทำไมธนาคิมจึงทำเช่นนี้กับเธอ ธนาคิมพยายามขอโทษในสิ่งที่เขาทำลงไป หญิงสาวบอกว่าถ้าการที่ธนาคิมทำร้ายเธอ เพราะคิดว่าเธอเคยทำผิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม เธอขอยอมรับผิดในสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันคืออะไร พิมพ์ชนกขอให้ธนาคิมลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และรีบพาเธอกลับไปส่งที่บ้านพักก่อนที่ใครจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้

พิมพ์ชนกกลับมาพบกับริสา ด้วยความอัดอั้นตันใจหญิงสาวจึงตรงเข้ากอดเพื่อนและร้องไห้อย่างหนักหน่วง ริสาพอจะเดาเหตุการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเธอ แต่เมื่อเห็นว่าพิมพ์ชนกไม่พร้อมที่จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังได้ เธอจึงได้แต่ปลอบใจและบอกพิมพ์ชนกว่าถ้ามีเรื่องใดให้เธอ ช่วยขอให้บอกกับเธอทันที

พิมพ์ชนกบอบช้ำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนล้มป่วย ริสาเข้ามาคอยดูแลหญิงสาว พิมพ์ชนกกำชับไม่ให้ริสาบอกเรื่องนี้กับคนทางบ้าน ธนาคิมรู้ข่าวจึงรีบมาเยี่ยมหญิงสาวที่โรงพยาบาล ได้พบกับริสา หญิงสาวเล่าว่าพิมพ์ชนกป่วยมาหลายวันแล้วแต่ไม่ยอมให้บอกทางบ้าน เธอจึงตัดสินใจโทรศัพท์ส่งข่าวให้ธนาคิมรู้

เมื่อมีโอกาสอยู่ตามลำพังธนาคิมจึงบอกเขาขอรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป พิมพ์ชนกยืนยันว่าไม่จำเป็นเพราะเธอกับอานนท์กำลังจะแต่งงานกัน ธนาคิมจึงกลับไปด้วยความผิดหวัง เมื่อชายหนุ่มอยู่ตามลำพังจึงเกิดความรู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง จึงรีบตรงไปที่บ้านพ่อกับแม่ของพลาทิป

เมื่อธนาคิมไปถึงจึงถามพ่อกับแม่พลาทิปว่า เคยเห็นผู้หญิงคนรักของพลาทิปบ้างหรือเปล่า แม่เล่าให้ธนาคิมฟังว่าก่อนหน้านั้นพลาทิปเคยพาหญิงสาวที่มีนามว่าพิมพ์ชนกมาแนะนำให้รู้จักพ่อของพลาทิปจึงไปค้นรูปที่ลูกชายถ่ายคู่กับสาวคนรักมาให้ธนาคิมดู

ธนาคิมเห็นหน้าผู้หญิงในภาพที่ยืนคู่กับพลาทิป ชายหนุ่มรู้สึกตกใจถึงกับเข่าอ่อน เพราะผู้หญิงในภาพคือเขมจิราคู่หมั้นของเขานั่นเอง ชายหนุ่มเข้าใจในทันทีว่าเขมจิราคงบอกกับพลาทิปตลอดเวลาว่าเธอคือพิมพ์ชนก ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดมากขึ้นที่ทำร้ายพิมพ์ชนกมาโดยตลอด

ริสารู้ว่าพิมพ์ชนกมีใจให้กับธนาคิม แต่พิมพ์ชนกปฏิเสธว่าเธอไม่เคยเห็นธนาคิมอยู่ในสายตา ริสาบอกว่าถ้าพิมพ์ชนกรู้สึกอย่างไรก็ควรทำตามที่ใจปรารถนา เพราะเขมจิราไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ชีวิตของธนาคิม พิมพ์ชนกจึงพูดด้วยความโกรธว่าผู้ชายเลวๆอย่างธนาคิมก็เหมาะสมแล้วที่จะอยู่กับเขมจิรา ริสาจึงบอกว่าด้วยเหตุนี้พิมพ์ชนกจึงอ้างว่าจะแต่งงานกับอานนท์ เพื่อต้องการกันตัวเองจากธนาคิม พิมพ์ชนกกล่าวขอโทษเพื่อนสาวที่เธออ้างเหตุผลแบบนั้น

ริสานำเรื่องของพิมพ์ชนกกับธนาคิเล่าให้อานนท์ฟัง อานนท์รู้สึกเห็นใจธนาคิมจึงรีบไปหาพร้อมกับอธิบายเรื่องราวระหว่างเขากับพิมพ์ชนกให้ฟัง และยืนยันว่าเขากับหญิงสาวเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน และไม่เคยมีแผนที่จะแต่งงานกันแต่อย่างใด ที่สำคัญคนที่เขารักและต้องการจะแต่งงานด้วยมีเพียงริสาคนเดียวเท่านั้น

เมื่อธนาคิมเข้าใจเหตุการณ์ทุกอย่าง เขาจึงมาหาพิมพ์ชนกที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อปรับความเข้าใจพร้อมกับสารภาพเรื่องราวที่เขาเข้าใจผิดหญิงสาว และยืนยันว่าเขาต้องการจะแต่งงานกับพิมพ์ชนก หญิงสาวต่อว่าที่ธนาคิมตัดสินลงโทษเธอก่อนที่จะรู้ความจริงเป็นอย่างไร พิมพ์ชนกยืนยันว่าเธอจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักอย่างเด็ดขาด ธนาคิมจึงสารภาพกับพิมพ์ชนกว่าเขารักเธอตั้งแต่วันแรกที่พบกัน แต่ด้วยความแค้นที่มีเขาจึงต้องแสดงออกเช่นนั้น

เขมจิราเข้ามาได้ยินที่ธนาคิมสารภาพรักกับพิมพ์ชนก จึงกลับออกไปด้วยความแค้น หญิงสาวตรงไปที่ผับที่เธอชอบไปดื่มเหล้าเป็นประจำ เขมจิราจ้างเด็กเสิร์ฟที่เธอสนิทให้ติดต่อกับพวกมิจฉาชีพให้เธอ เมื่อเธอติดต่อคนร้ายได้แล้วจึงนำรูปของพิมพ์ชนกให้คนร้ายดูและสั่งคนร้ายให้จับตัวพิมพ์ชนกไปข่มขืน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเธอจะจ่ายเงินให้เป็นค่าตอบแทน

หลังจากออกเวรกลางคืน พิมพ์ชนกได้รับโทรศัพท์จากเขมจิราให้กลับมาที่บ้านเพราะทิพย์อาภามีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษาด้วย หญิงสาวจึงรีบขับรถกลับบ้าน ธนาคิมมาหาพิมพ์ชนกที่โรงพยาบาลพบกับริสา หญิงสาวบอกว่าพิมพ์ชนกขับรถออกไปสักครู่เพราะเห็นว่ามีธุระด่วนที่บ้าน ชายหนุ่มจึงรีบขับรถตามพิมพ์ชนกออกไป

เมื่อพิมพ์ชนกขับรถมาถึงระหว่างทางเข้าบ้านมีรถจอดขวางทางอยู่ พิมพ์ชนกจึงต้องจอดรถระหว่างนั้นคนร้ายสามคนช่วยกันลากตัวหญิงสาวขึ้นรถขับออกไป ธนาคิมตามมาทันเหตุการณ์จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจพร้อมกับบอกทะเบียนรถและทิศทางที่คนร้ายกำลังมุ่งหน้าไป ก่อนที่จะรีบขับรถตามรถคนร้ายไป

คนร้ายเห็นด่านตรวจของตำรวจ จึงจอดรถไว้ข้างทางก่อนจะลากตัวพิมพ์ชนกเข้าไปในป่าข้างถนน ธนาคิมขับรถตามมาทันจึงเข้าไปต่อสู้กับคนร้าย ชายหนุ่มพลาดท่าถูกคนร้ายยิงจนล้มลง เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ตำรวจตามมาที่เกิดเหตุได้ทันเวลา ทำให้สามารถช่วยเหลือพิมพ์ชนกและธนาคิมได้อย่างปลอดภัย พิมพ์ชนกรีบขับรถของธนาคิมพาชายหนุ่มไปส่งโรงพยาบาล คนร้ายทั้งหมดถูกตำรวจจับ

คนร้ายให้การกับตำรวจว่าได้รับการว่าจ้างมาจากเขมจิรา ตำรวจจึงนำกำลังไปจับเขมจิราที่บ้าน เมื่อทุกคนในบ้านเห็นตำรวจมาที่บ้านกลางดึกจึงพากันตกใจ เขมจิราคิดว่าตำรวจคงมาแจ้งเรื่องของพิมพ์ชนกจึงไม่เฉลียวใจแต่อย่างใด

เมื่อตำรวจพบกับเขมจิราจึงตรงเข้าจับกุมหญิงสาวพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา ทิพย์อาภาเป็นลมหมดสติเมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมด เขมจิราตกใจจนเสียสติแผดเสียงร้องไห้สลับกับหัวเราะวิ่งหนีไป ตำรวจรีบตามกันออกไปเพื่อจับตัวหญิงสาว

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย ธนาคิมได้รับการช่วยเหลือจากอานนท์จนปลอดภัย พิมพ์ชนกรู้ใจตัวเองว่ารักธนาคิมและให้อภัยเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด เขมจิรามีอาการทางประสาทจึงถูกส่งตัวไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา นิติ ทิพย์อาภา คุณพงษ์ คุณอารีย์ รวมทั้งพิมพ์ชนกไปเยี่ยมหญิงสาวที่โรงพยาบาล ทิพย์อาภารู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขอให้พิมพ์ชนกยกโทษให้เธอ หญิงสาวยืนยันว่าเธอรักและเคารพทิพย์อาภาเหมือนแม่แท้ๆ ของเธอ ส่วนเขมจิราเธอให้อภัยทุกอย่าง เพราะหญิงสาวก็ถือว่าเป็นน้องคนเดียวของเธอ

เอมอรมาสู่ขอพิมพ์ชนกจากทิพย์อาภา ธนาคิมบอกกับทุกคนว่าเขาต้องการแต่งงานกับพิมพ์ชนกให้เร็วที่สุด อานนท์กับริสามาแสดงความยินดีกับธนาคิมและพิมพ์ชนก ทั้งสองกล่าวขอบคุณและอวยพรให้อานนท์กับริสามีความสุขสมหวังและรักกันตลอดไป ธนาคิมสัญญากับพิมพ์ชนกว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เขาจะอยู่ดูแลหญิงสาวตราบจนกว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องจากกัน พิมพ์ชนกบอกว่าคงไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายใดๆ เกิดกับทั้งสองอีกต่อไปแล้ว นอกจากเหตุการณ์ที่เกิดกับหัวใจของทั้งสองที่ต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวตลอดไป

นักแสดงละคร หลงเงาจันทร์
สเตฟาน สันติ วีระบุญชัย แสดงเป็น ธนาคิม
กบ สุวนันท์ คงยิ่ง แสดงเป็น พิมพ์ชนก

หลงเงาจันทร์ 2562

หมวยอินเตอร์

หมวยอินเตอร์ เป็นเรื่องราวของ ชญานุช หรือ นุช (เขมนิจ จามิกรณ์) ลูกสาวคนเล็กของตระกูล จิตตินันท์ ซึ่งเป็นตระกูลคนไทยเชื้อสายจีนที่มีกิจการค้าข้าวสารรายใหญ่รายหนึ่งของประเทศ ที่มี เถ้าแก่ปอ (เกียรติ กิจเจริญ) ผู้เป็นเตี่ยและเป็นหัวหน้าครอบครัว นุชเป็นสาวยุคใหม่ที่แต่งตัวเปรี้ยวและชอบการแข่งรถซิ่ง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ จึงมักสร้างความปวดหัวแก่เถ้าแก่ปอเป็นอย่างยิ่ง ที่สุดนุชต้องออกจากมหาวิทยาลัยเพราะเตี่ยไม่ให้เรียนต่อ ซึ่งนิสัยของนุช ผิดกับ พล (รวิช ไรวินทร์) พี่ชายคนโต และ ปัท (อาภรศรี ตัณมานะศิริ) พี่สาวคนรอง ที่เชื่อฟังเตี่ยมากกว่า โดยเฉพาะปัทเป็นคนที่หัวอ่อน ขี้กลัว มีบุคลิกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างที่สุด ซึ่งพี่น้อง 3 คนนี้ได้ อี๊เง็ก (นัฏฐา ลอยด์) น้องสาวของแม่ทั้ง 3 คนนี้ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว คอยดูแลอยู่

นุชยังมีเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีก คือ อร (นาเดีย นิมิตรวานิช) อรเป็นคนเก่งทำงานด้วยเรียนด้วย อรทำงานอยู่ที่บริษัทรับจัดงานโฆษณาและประชาสัมพันธ์แห่งหนึ่ง โดยที่มี ชาลี (สันติ วีระบุญชัย) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เพิ่งเดินทางมาสู่ประเทศไทย เป็นทีมงานสำคัญของบริษัทและเป็นเจ้านายของอร การที่ชาลีกลับมาครั้งนี้เพื่อล้างแค้น ตระกูลของ คุณหญิงเอมจิตร (มณีนุช เสมรสุต) ที่เคยทำให้แม่ (ฟรอนต์ มอนโมเกอรี) ของเขาต้องตายเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งชาลีพบกับอรและนุชครั้งแรกด้วยความเข้าใจผิด ชาลีคิดว่านุชเป็นผู้หญิงขายบริการ ทำให้ทั้งคู่ไม่ชอบหน้ากัน

ชาลีวางแผนจนเข้าสู่ตระกูล วรประภา ของคุณหญิงเอมจิตรได้ในที่สุด โดยสนิทสนมกับลูก ๆ ทั้ง 3 คนของคุณหญิงเอมจิตร คือ บารมี (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต และเป็นหมอหนุ่มวัยใกล้เคียงกับชาลีและเป็นเจ้าของโรงพยาบาลของกิจการครอบครัว, สาธิต (กัณฑ์เอนก ทิพวรรณ) น้องชายคนรองที่ชอบนุชอยู่ แต่นุชไม่ชอบด้วย และ ศา (ชโลทร กาหลง) น้องสาวคนเล็กที่เรียนอยู่ที่เดียวกับนุชและอร ชาลีวางแผนให้ศามาชอบพอตนเอง เพื่อที่จะทำลายครอบครัวนี้

ต่อมา บริษัทของอรโดยประธานบริษัทต้องการให้นุชเข้าประกวด มิสไชนีส กาแล็คซี่ ที่มีสมาคมค้าข้าวไทย-จีน เป็นผู้สนับสนุน โดยมี เฮียเล้ง (วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์) นายกฯสมาคม เป็นประธาน อรต้องขอร้องแกมบังคับ ในที่สุดนุชก็ยอมประกวดอย่างไม่เต็มใจและไม่ตั้งใจ เพราะคิดว่าไม่นานคงตกรอบ ซึ่งงานครั้งนี้ชาลีและอรเป็นทีมงานจัดงานด้วย คุณหญิงเอมจิตร และ บารมีก็เป็นกรรมการ และก็มี นภา (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) และ อโนมา (สรวงสุดา ศรีธัญญรัตน์) เพื่อนที่โตมาด้วยกันของทั้งคู่เข้าประกวดด้วย โดยที่นภาและอโนมาก็เป็นเพื่อนที่คอยกลั่นแกล้งนุชมาตั้งแต่เด็กยันโต นภาเป็นลูกสาวของ อาไซ (กฤตย์ อัทธเสรี) เจ้าของกิจการข้าวบรรจุกระป๋องยี่ห้อ เมจิกไรท์ ผู้เป็นทั้งเพื่อนรักเพื่อนแค้นของเถ้าแก่ปอ ซึ่งอาไซเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของการประกวดครั้งนี้ และ มนัส (อรรถชาติ ศรีภักดี) พี่ชายจอมเพลย์บอยของนภากลับจากเมืองนอกหลังจากเรียนไม่จบ ก็ชอบนุชด้วย มนัสพยายามตามจีบนุชด้วยวิธีต่าง ๆ แต่นุชไม่เล่นด้วย และเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิดแทบทุกครั้ง บารมีก็ชอบนุชอยู่ โดยขอให้อรคอยช่วยเหลือ แต่อรกลับแอบชอบบารมีอยู่เงียบ ๆ ไม่กล้าบอก ขณะที่ปัทก็แอบชอบเงียบ ๆ กับ ภารดร หรือ ดร (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) พี่ชายของอรอยู่ แต่เถ้าแก่ปอไม่รู้ เพราะเถ้าแก่ปอกะเกณฑ์มาตลอดที่จะให้นุชแต่งงานกับดร

ในการประกวด นางงามต้องเก็บตัวที่พัทยา นุชต้องวิ่งสลับมาระหว่างบ้านกับพัทยาอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากเถ้าแก่ปอไม่ชอบการประกวดนางงามเป็นอย่างมาก โดยมีคนอื่น ๆ คอยช่วยเหลือ ทั้งยังต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งทุกรูปแบบจากนภาและอโนมา การตามรังควาญของมนัสและสาธิต ซ้ำยังจับสลากได้พักห้องเดียวกับ หลิงหลิง (ตรีชฎา เพชรรัตน์) ผู้เข้าประกวดคนสวยที่เป็นดาวเด่น โดยไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นกะเทยปลอมตัวมา และทำเย็นชากับนุช แต่การที่ชาลีกับนุชได้ใกล้ชิดกัน ทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ซึ่งนุชจะต้องทำให้เตี่ยของตนเองเปลี่ยนความคิดให้ได้ รวมถึงทัศนะคนอื่น ๆ ที่มีต่อกันด้วย การสนุกสนานวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

โม่งแดง

นิสา กับ ดาริน สองพี่น้องลูกสาวของดนัยและอุษา ซึ่งเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ต้องพบกับจุดพลิกผันในชีวิตเมื่อ อมาวดี ก้าวเข้ามาเป็นเลขาของ ดนัย อมาวดีเป็นสาวสวยมีเสน่ห์ อมาวดีใช้ความสวยของตัวเองหลอกล่อหว่านเสน่ห์จนดนัยหลงใหล และมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับอมาวดีอย่างลับๆ โดยอมาวดีมีจุดประสงค์ที่จะได้ครอบครองธุรกิจบันเทิงที่มีมูลค่าในตลาดหลัก ทรัพย์นับพันล้านบาทของดนัย อมาวดีวางแผนฆ่าอุษาก่อนจะเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงของนิสากับดารินอย่างเต็มตัว อมาวดีเริ่มเข้ามามีบทบาทในรายการโทรทัศน์ของดนัย อมาวดีคิดการใหญ่หวังจะฮุบสมบัติทั้งหมดของดนัยด้วยการวางแผนฆ่าให้เหมือน กับเป็นอุบัติเหตุรถตกเหว ดนัยพยายามช่วยนิสาและดารินจนออกมาจากรถได้สำเร็จ แต่ตัวเองต้องตาย ด้านนิสากับดารินที่รอดชีวิตพากันหนีและได้พบกับ ยามาดะ เจ้าพ่อยากูซ่าแก็งค์มังกรแดงที่กำลังถูกตามล่าจากแก็งค์ยากูซ่าพยัคฆ์ดำ นิสาช่วยยามาดะหลบหนี ทำให้ยามาดะประทับใจในความฉลาดมีไหวพริบและความกล้าของนิสา ยามาดะจึงตัดสินใจอุปถัมภ์นิสากับดารินและพานิสากับดารินไปเริ่มต้นชีวิต ใหม่ที่ญี่ปุ่น นิสาผู้ซึ่งในใจคุกรุ่นไปด้วยความแค้นในสิ่งที่อมาวดีทำกับครอบครัวของตน ได้ขอร้องให้ยามาดะฝึกสอนศิลปะวิชาต่อสู้ให้อย่างลับๆ โดยไม่ให้ล่วงรู้ไปถึงดาริน นอกจากนี้นิสายังขอร้องให้ยามาดะปกปิดเรื่องแก็งค์ยากูซ่าและดูแลดารินอย่าง เด็กปกติทั่วไป สิบกว่าปีผ่านไป ดาริน เติบโตเป็นหญิงสาวร่าเริงแจ่มใส แก่นแก้ว ช่างพูดช่างเจรจา ลืมเรื่องอดีตไปจนหมด ในขณะที่นิสาเป็นสาวสวยที่สุขุมเยือกเย็น แต่อีกด้านหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ เธอคือผู้มีฝีมือการต่อสู้ที่หาตัวจับยาก และยังติดตามข่าวความเคลื่อนไหวที่เมืองไทยอยู่เสมอ เพื่อรอวันที่จะแก้แค้นอมาวดี ในขณะเดียวกัน เวพัศ นักข่าวหนุ่มไฟแรง ถูกส่งตัวไปสืบข่าวที่ญี่ปุ่น ทำให้เวพัศได้พบกับดาริน ดารินดีใจที่ได้เจอคนไทยด้วยกันจึงพาเวพัศเที่ยว ยิ่งเวพัศรู้ว่าดารินสนใจงานนักข่าว จึงแนะนำให้ดารินไปสมัครงานที่เดียวกับตนเองเมื่อดารินกลับเมืองไทย ดารินแนะนำให้เวพัศรู้จักกับนิสาพี่สาวของตน เวพัศชื่นชมในความสวยของนิสาแต่นิสากลับรำคาญในความเป็นคนช่างพูดและช่าง ทะเล้นของเวพัศ ด้านอมาวดีซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นพิธีกรและเจ้าของรายการโทรทัศน์ชื่อดังที่ ได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง อมาวดีทำรายการโทรทัศน์ช่วยเหลือสังคมและคนด้อยโอกาส จนเป็นที่รักของประชาชนทุกคน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นการกระทำเพื่อเป็นฉากบังหน้าธุรกิจค้าอาวุธ เถื่อนของตน นิสาสงสัยว่าอมาวดีจะต้องมีเบื้องหลังที่ไม่ดีแอบแฝงอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นจริงดังที่นิสาคิดอมาวดีค้าอาวุธโดยมีแก็งค์พยัคฆ์ดำเป็นคู่ค้า สำคัญ นิสา, ดาริน, เวพัศ เดินทางกลับมาเมืองไทย ซึ่งร้อยตำรวจเอกนักรบ นายตำรวจหนุ่มที่มาดักจับวายร้ายรายนี้ที่สนามบิน แต่คนร้ายไหวตัวทันและจับตัวดารินซึ่งอยู่แถวนั้นเป็นตัวประกัน นิสาไม่กล้าแสดงฝีมือต่อหน้า ผู้คนโดยเฉพาะดาริน นักรบเข้าไปช่วยดารินได้ก่อนทำให้ดารินและนิสาประทับใจนักรบ ส่วนตัวนักรบก็ตกหลุมรักนิสาทันที นิสาได้งานเป็นครูในโรงเรียนอนุบาล และเป็นครูประจำชั้นของน้องเบลล์ หลานสาวของนักรบ ส่วนดารินได้งานเป็นนักข่าวฝึกหัดโดยมีเวพัศเป็นพี่เลี้ยงให้ ด้วยความเป็นกันเองของเวพัศทำให้ดารินสนิทสนมกับเวพัศได้อย่างรวดเร็ว แต่กลับทำให้ มนลดา ลูกสาวเจ้าของสำนักพิมพ์ที่แอบปิ๊งเวพัศอยู่ไม่พอใจดาริน มนลดาจึงคอยแกล้งดารินต่างๆ นานา ขณะที่นิสากำลังสืบหาเบื้องหลังความชั่วร้ายของอมาวดี เวพัศเองก็กำลังตามข่าวเรื่องแก็งค์ค้าอาวุธเถื่อนที่มีอมาวดีอยู่เบื้อง หลัง เวพัศปลอมตัวเข้าไปสืบข่าวจากพวกแก็งค์มาเฟียจีนที่นัดซื้อขายอาวุธ เวพัศถูกจับได้จึงรีบหนีกลุ่มผู้ร้ายจนมาถึงทางตัน ในจังหวะนั้นเองหญิงสาวลึกลับในชุด โม่งแดง ก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยเหลือเวพัศต่อสู้กับกลุ่มผู้ร้าย เวพัศนั้นลืมไม่ลงกับรอยยิ้มของสาวในชุดโม่งแดงที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และตัดสินใจตามสืบให้ได้ว่าโม่งแดงคือใคร ด้านดารินเมื่อรู้ว่าเวพัศโดนกลุ่มผู้ร้ายตามไล่ก็ตกใจพยายามโทรเรียกตำรวจ แต่ดันถูกผู้ร้ายเจอตัวเสียก่อน แต่ก่อนที่ผู้ร้ายจะทำอะไรดาริน นักรบผู้ทำคดีนี้ได้เข้ามาช่วยดารินไว้ โม่งแดงปรากฏตัวอีกครั้งที่บริษัทของอมาวดีเพื่อสืบข่าว แต่ถูกพบเข้าจึงเกิดการปะทะกันทำให้ตำรวจบุกมาเพื่อจับคนร้าย ทำให้นักรบได้พบกับโม่งแดงและคิดว่าโม่งแดงคือคนร้าย ด้านเวพัศเริ่มสนใจตามข่าวและเขียนข่าวของโม่งแดง โดยมีดารินเป็นผู้ช่วยตามหาว่าโม่งแดงคือใคร ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาข่าวโม่งแดงก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วในฐานะบุคคลปริศนา ที่ปรากฎตัวเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนทำให้นิสาต้องระวังตัวมากขึ้นเพื่อ ไม่ให้ดารินและเวพัสจับได้ว่าเธอคือโม่งแดง และแล้วนิสากับดารินก็ได้พบกับอมาวดีที่รายการโทรทัศน์ ระหว่างการถ่ายทำอมาวดีสร้างสถานการณ์ก่อนการเปิดตัวลงสมัครสส. ด้วยการให้คนร้ายคลั่งยาบ้าเข้ามาจับเด็กเป็นตัวประกันและทำให้ตนเป็นฮีโร่ ในสายตาประชาชน แต่แล้วกลับกลายเป็นโม่งแดงที่ปรากฏตัวมาช่วยเด็กๆไว้ ระหว่างการต่อสู้โม่งแดงได้ช่วยดารินที่เกือบถูกทำร้ายจนตัวเองได้รับบาด เจ็บก่อนจะหายตัวไป ดารินแอบสังเกตว่าระหว่างที่โม่งแดงปรากฏตัวนิสาได้หายตัวไป เมื่อกลับมาที่บ้านดารินพบว่านิสาได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ในที่สุดดารินก็รู้ว่านิสาคือโม่งแดงทำให้ดารินตกใจ แต่เมื่อรู้เจตนาของนิสาก็ดารินเข้าใจและรับปากจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ขอให้เธอเป็นผู้ช่วยของโม่งแดงอีกแรงหนึ่ง ดารินหาโอกาสใกล้ชิดนักรบจนนักรบเองก็หวั่นไหว แต่ก็ฝังใจกับนิสาอยู่ จึงหวังให้ดารินเป็นสะพานไปสู่นิสาทำให้เกิดรักสามเส้า แต่ทุกครั้งที่นักรบมาพบนิสา เวพัศมักจะโผล่มาขัดคอและคอยยียวนกวนโมโหนิสาทุกครั้ง แม้นิสาจะรำคาญเวพัศ แต่ยามที่เวพัศหายไปก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป นิสาสืบเรื่องอมาวดีจนรู้ว่าคฑาคือลูกน้องที่ทำหน้าที่ในธุรกิจผิดกฏหมายแทน อมาวดี จึงพยายามหาหลักฐานว่าอมาวดีเกี่ยวข้องกับคฑาด้วยการแอบตามไปถ่ายรูปอมาวดี กับคฑา แต่ถูกจับได้เสียก่อนจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น โม่งแดงไม่สามารถรับมือคฑาและอมาวดีได้จึงได้รับบาดเจ็บและถูกไล่ล่า จนกระทั่งมาเจอเวพัศที่ขับรถผ่านมา โม่งแดงจึงหลบหนีไปได้แต่ภาพที่ถ่ายไว้กลับอยู่ในมืออมาวดี เวพัศมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับโม่งแดงมากขึ้น เวพัศพยายามจะเปิดดูว่าโม่งแดงเป็นใคร แต่โม่งแดงขอไว้ว่าอย่าเปิดหน้าเธอ สัญญาลูกผู้ชายทำให้เวพัศไม่เปิดหน้าโม่งแดงดู ทำให้นิสารู้สึกชื่นชมและเริ่มมีใจให้กับเวพัศที่เป็นลูกผู้ชายเต็มตัวเพราะ เขาสามารถทำอะไรโม่งแดงที่กำลังบาดเจ็บได้ แต่เขากลับไม่ทำ นักรบมาสารภาพรักกับนิสา ดารินที่ได้ยินเข้าก็ผิดหวังและโกรธนิสา โดยไม่ทันฟังว่านิสาปฏิเสธไม่รับรักนักรบเพราะเห็นแก่ดาริน ทำให้ดารินหมางเมินนิสาและคิดที่จะบอกให้นักรบรู้ว่านิสาคือโม่งแดงแต่ก็มี เหตุมาขัดจังหวะทำให้ดารินไม่ได้บอกนักรบเสียทุกครั้ง ระหว่างนั้นคิมและคฑาถูกสั่งให้ตามเก็บนักข่าวที่พยายามทำข่าวการค้าอาวุธ เถื่อนและสืบไปจนถึงสำนักพิมพ์ของเวพัศ จนได้ทราบจากมนลดาว่าดารินเป็นคนทำข่าว คิมและคฑาจึงตามดารินมาที่บ้านเพื่อฆ่าปิดปากดารินเพราะกลัวดารินจะสืบ เรื่องมาถึงตน นิสาตรงเข้าขวางจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนดารินปลอดภัย แต่ก่อนที่คิมและคฑาจะฆ่าดารินได้สำเร็จ นักรบก็เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ทำให้ดารินและนิสารอดมาได้ ดารินเริ่มรู้ซึ้งถึงความรักที่นิสามีต่อตนจึงคิดที่จะลืมเรื่องนักรบให้ได้ อมาวดีจัดงานเลี้ยงใหญ่เป็นฉากบังหน้าในการส่งอาวุธเถื่อนให้กับแก็งค์ พยัคฆ์ดำ นิสาที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บได้ข่าวจากทาเคชิเรื่องการส่งอาวุธ นิสาและดารินเข้าไปในงานพร้อมเวพัศ ขณะเดียวกันนักรบก็ได้รับมอบหมายให้เข้ามาสืบเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งต่างคนต่างมีเจตนามาสืบเรื่องค้าอาวุธครั้งใหญ่และได้พบกันโดยบังเอิญ นิสาตัดสินใจที่จะเป็นโม่งแดงเข้าไปขัดขวางการค้าครั้งนี้โดยมีดารินถ่าย วิดีโอและเก็บข้อมูลไว้อย่างละเอียดว่าอมาวดีมีส่วนร่วมในงานนี้ด้วย เมื่อตำรวจบุกเข้ามา อมาวดีหนีไปได้ ส่วนคฑามาตายและเป็นแพะรับบาปแทนอมาวดี นักรบรู้ความจริงว่า นิสาเป็นโม่งแดง แต่ลังเลใจที่จะจับนิสา ในขณะที่อมาวดีก็สั่งให้ลูกน้องตามล่าตัวนิสาให้ได้ ทำให้นิสาและดารินต้องหาทางหลบหนีกันไปก่อน ฝ่ายนักรบก็ถูกอมาวดีใส่ความว่ามีส่วนพัวพันกับแก็งค์ค้าอาวุธ ทำให้นักรบต้องหาทางหนีไปตั้งหลักเช่นกัน เวพัศปะติดปะต่อเรื่องราวและรู้เรื่องความสัมพันธ์ครั้งอดีตระหว่างอมาวดี กับนิสาและดาริน ทำให้เวพัศรู้ว่านิสาคือโม่งแดง เวพัศจึงหาทางช่วยนิสา ดารินและนักรบไม่ให้ถูกจับและพาทั้งหมดไปหลบซ่อนตัว พวกของอมาวดีตามมาเจอทำให้ทั้งหมดต้องหลบหนีเอาตัวรอดและพลัดหลงกัน ดารินไปกับนักรบ และเวพัศไปกับนิสา ระหว่างที่ถูกตามล่านิสาต้องต่อสู้กับคนร้าย มีคนซุ่มยิงนิสาเวพัศจึงเอาตัวบัง กระสุนให้กับนิสาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นิสาจึงคอยพยาบาลดูแลเวพัศอยู่ไม่ห่าง จนทั้งคู่มีความรู้สึกดีๆต่อกัน นิสากลัวเวพัสจะได้รับอันตรายอีกจึงเอาเทปความลับของอมาวดีซ่อนไว้ที่ตัวเว พัศ และออกไปล่อคนร้ายไปอีกทางแต่แล้วทั้งคู่ก็ถูกอมาวดีจับไว้และอมาวดีก็ได้ รู้ว่านิสากับดารินคือลูกของดนัยที่ยังไม่ตาย ในวันที่มีการถ่ายทอดสดการสัมภาษณ์อมาวดีที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งโดยเป็น ตัวเต็งของการเลือกตั้งครั้งนี้ เวพัศพบเทปบันทึกภาพหลักฐานการค้าอาวุธเถื่อนของอมาวดีที่นิสาซ่อนไว้ที่ตัว เวพัศ เวพัศจึงร่วมมือกับนักรบไปที่สถานีโทรทัศน์ที่อมาวดีออกรายการ เวพัศสลับเปลี่ยนเทปผลงานความดีของอมาวดีเป็นภาพการค้าอาวุธเถื่อน นักรบไปช่วยนิสาและดารินออกมาได้ โม่งแดงจึงได้โอกาสปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อจับอมาวดีที่กำลังจะหนีไป และจัดการจับอมาวดีได้ในที่สุด ตำรวจมาถึงจึงจับอมาวดีและพยายามจะจับโม่งแดงด้วยแต่เวพัศ ดารินและนักรบวางแผนช่วยโม่งแดง โดยให้คนใส่ชุดโม่งแดงสร้างความสับสนให้ตำรวจจนโม่งแดงหนีไปได้ในที่สุด เรื่องราวจบลงด้วยดี นิสาจึงไม่จำเป็นต้องเป็นโม่งแดงอีกต่อไป เวพัศสามารถหาหลักฐานช่วยเหลือนักรบพ้นจากการถูกใส่ความได้ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรักกัน เหลือแต่เพียงเรื่องของความรักที่ยังไม่ลงตัว

รายชื่อนักแสดง โม่งแดง

ปิยะธิดา วรมุกสิก รับบท นิสา, โม่งแดง

วัชรบูล ลี้สุวรรณ รับบท เวพัศ

ภุมวารี ยอดกมล รับบท ดาริน

สันติ วีระบุญชัย ( สเตฟาน ) รับบท รตอ.นักรบ

พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ รับบท อมาวดี อโนชา กุลวงศ์ รับบท มนลดา

ปีเตอร์ ไมอ๊อกชิ รับบท คฑา

รุ้งนภัฐ บริจินดากุล รับบท คิม

กอล์ฟ กีรติ รับบท โตชิเอโกะ