Tag Archives: ลิขิต เอกมงคล

อุบัติเหตุ 2533

อุบัติเหตุ การพบกัน ไม่ว่าเพื่อรักหรือเพื่อชัง ไม่ว่าบทเลวหรือดี ที่มีให้แก่กันและกัน มันเป็นบุพเพ เป็นอุบัติเหตุ
ดั่งเขาและเธอ…วิศนี…อารุม เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดกับวิศนี เป็นสิ่งที่พบได้เสมอในชีวิต
และหากอุบัติเหตุนั้น มันแยกแยะถูกผิด ต่างความเห็นกันออกไป คุณจะพบว่า จริงแท้แล้ว ไม่มีสิ่งใดจากภายนอก จำทำให้มนุษย์เป็นมลทินได้
แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในต่างหาก ที่ทำให้มนุษย์ทุกข์และเป็นมลทิน

นักแสดงละคร อุบัติเหตุ พ.ศ. 2533

ลิขิต เอกมงคล
สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์,
สุรศักดิ์ วงษ์ไทย
สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์
ไพโรจน์ ใจสิงห์
ลินดา ค้าธัญเจริญ
พิพัฒน์พล โกมารทัต
อมรา อัศวนนท์
พรสุดา ต่ายเนาว์คง
อรุโณทัย จิตตรีขันธ์
วิไลลักษณ์ ไวงาน
จิตตรา จำเริญศักดิ์
ดวงหทัย ดารา
ประสงค์ เกิดสกุล
ไสว ปิ่นแก้ว

เสราดารัล

นาคิม ผู้นำการกู้ชาติ ได้ลักพาตัวลูกสาวท่านฑูตไทย “พันไมล์” เหยื่อผู้บริสุทธิ์จากโลกเสรี เพื่อแลกกับนักโทษการเมือง แต่บังเอิญความรักที่ดูเหมือนจะเกิดผิดทาง ค่อยๆ ฟักตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ทว่าลึกซึ้ง

     ในท่ามกลางสงครามร้อนระอุของสงคราม นาคิม ผู้นำกลุ่มกองกำลังกู้ชาติกับพันไมล์ หญิงสาวลูกสาวทูตไทยที่ถูกใช้มาเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง ความรักเกิดที่นั่น พร้อมกับข้อต่อรองที่ต้องทำ     ดอกเสรายังคงบาน รอคอยเธอ..เสมอ พันไมล์
     (นุสบา วานิชอังกูร) สาวสวยที่เพิ่งเรียนจบแพทย์มาจากอังกฤษ ได้รับจดหมายจากพ่อและแม่ซึ่งเป็นทูตไทยประจำเมืองสิคาล ขอให้เดินทางไปเยี่ยม และอยู่ช่วยงานเลี้ยงของสถานทูต พันไมล์จึงร่ำลาคุณยายและเดินทาง
     เมื่อถึงสนามบินสิคาล พันไมล์ก็ต้องแปลกใจเมื่อมีคนมารับถึงบันใดเครื่อง แต่ก็ยอมไปเพราะผู้มารับอ้างว่าท่านทูตให้มารับ กว่าจะรู้ตัวก็ถูกหลอกออกมานอกเมืองไกลมาก และต้องขึ้นขี่ม้า โดยถูกผูกตาซ้อนท้ายชายหนุ่มคนหนึ่ง
     นาคิม (ลิขิต เอกมงคล) เมื่อถึงหมู่บ้านชลา พันไมล์ถูกปล่อยให้เป็นอิสระอยู่ในบ้านคล้ายกระท่อม (ของนาคิม) กับคนใช้สาวชื่อกาหลี (กังสตาล)
     หลายวันที่ต้องอยู่อย่างมืดมนไม่มีใครอธิบายอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งผู้นำขลาได้นำนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายคนมาประชุมที่บ้านนาคิม เธอจึงรู้ว่าชายหนุ่มคนไหนคือนาคิม
     ทุกคนอธิบายว่า จับตัวเธอมาเป็นตัวประกัน เพื่อจะแลกกับบุคคลที่สำคัญที่สุดของรัฐขลา ที่ถูกนายพลบินยา (สหัสชัยชุมรุม) จับไป โดยสืบเรื่องของพันไมล์มาโดยละเอียดแลัว พันไมล์โกรธมากและไม่ยอมญาติดีกับนาคิมเลย

สารวัตรใหญ่

สารวัตรใหญ่ เป็นเรื่องราวของ พ.ต.ต.ใหญ่ เวโรจน์ เป็นอดีตตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่สารวัตรใหญ่ ที่ สภอ.พระลาน จังหวัดพระกำแพง ในเริ่มแรก ใหญ่ไม่แน่ใจว่าตนจะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้หรือไม่ เพราะเคยแต่ทำงานด้านปราบปรามผู้ก่อการร้ายมาตลอด ในวันแรกที่ย้ายไป เขาก็ได้พบกับการทำหน้าที่ของตำรวจที่นั่นแล้ว และพบว่ามันเป็นพื้นที่ ๆ สกปรก เต็มไปด้วยอาชญากรรม การคอรัปชั่น ตำรวจก็ไม่เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี ว่าที่ ร.ต.ต.พิทยาธร นายตำรวจหนุ่มจบใหม่เฝ้าดูอยู่และหวังให้ใหญ่เป็นแบบอย่าง จึงเป็นหน้าที่ของใหญ่ เวโรจน์ นายตำรวจน้ำดีที่มีอุดมคติ ผู้ที่จะมาทำหน้าที่สารวัตรใหญ่ที่นี่จะต้องเอาชนะและเปลี่ยนแปลงพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่ที่ดีให้ได้

ภาพอาถรรพ์

เชษฐา เกรียงไกรฤทธิ์ (ลิขิต เอกมงคล) ซื้อคฤหาสน์เก่าแก่มาจากคุณปิ่นสุดา (วจี อรรถไกวัลวที) แม่ของอนงค์วดี (ชฎาพร รัตนกร) ทีแรกเชษฐา จะรื้อตึกเก่าทิ้งแล้วสร้างใหม่ แต่ความที่อนงค์วดี ซึ่งเป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูลสิงหมนตรี เป็นคนรักษาสมบัติเก่าแก่ของบรรพบุรุษ ไม่อยากให้รื้อทิ้ง จึงหาทางเปลี่ยนใจเชษฐา โดยท้าให้เชษฐาลองค้างที่บ้านนี้ 1 คืน เพราะรู้ว่าบรรพบุรุษของตัวรักบ้านนี้มากเช่นกัน และเป็นทีรู้กันในหลุ่มญาติๆว่า ใครก็ ตามที่มาอยู่ที่นี่คืนแรกจะต้องได้รับการล้อหลอกจากบรรพบุรุษท่านใดท่านหนึ่งเสมอ เชษฐา รับคำท้า นอนค้าง 1 คืน พร้อมมนัส (อนุชา อึ้งวัฒนา) ทนายความของเชษฐา และอนงค์วดี

คืนนั้นมนัสโดนล่อหลอกโดย คุณย่าน้อย (บุษกร พรวรรณศิริเวช) ซึ่งเป็นแฟนของมนัสในชาติที่แล้ว ก็ฝังใจจำความงาม ความน่ารักอยู่ตลอดมา ส่วนอนงค์และเชษฐาฝันตรงกันถึงเรื่องในอดีตที่ชาติก่อนเชษฐาเป็นเจ้าคุณ แล้วมามีความสัมพันธ์กับ คุณประยงค์ (มนฤดี ยมาภัย) ทั้งๆ ที่แต่งงานกับอร (อนงค์วดีในชาติก่อนนั่นเอง) พอเช้าเชษฐาก็เปลี่ยนใจไม่รื้อตึกเก่าจริงๆ อนงค์และปิ่นสุดาพอใจมาก เชษฐาตกลงปรับปรุงบ้านเพื่อเป็นสโมสรส่วนตัวรับเฉพาะสมาชิก และแขกของสมาชิกเท่านั้น มีห้องออกกำลังกาย อบไอน้ำ ห้องประชุมเล็ก ห้องจัดงานเลี้ยง ห้องพักผ่อน ครบถ้วนสำหรับบริการสมาชิก หลังจากคืนนั้นเชษฐาก็ติดอกติดใจคิดถึงแต่คุณประยงค์ (ซึ่งเป็นทวดของอนงค์วดี) ในฝันตลอดมาจนลืมสนใจสลวยเกษ (วชิรา เพิ่มสุริยา)เพื่อนหญิงคนเก่าไปเลย สลวยเกษพยายามทุกวิถีืทางให้เชษฐาขายบ้านต่อ หรือรื้อทิ้งเพราะรู้มาจากวิชัย (วีรยุทธ รสโอชา) ญาติของอนงค์วดี ซึ่งเคยมาจีบสลวยเกษ ว่าในบ้านนี้มีภาพอาถรรพ์ ซึ่งเป็นภาพของบรรพบุรุษของตระกูลอยู่ แต่เชษฐาก็ไม่สนใจ ไม่ยอมขายไม่ยอมทำลาย แม้แต่ภาพที่บอกว่ามีอาถรรพ์ โดยเฉพาะภาพคุณทวดประยงค์เป็นภาพที่ติดใจเชษฐามาก เพราะคุณประยงค์ในภาพเป็นคนสวยดุ มีเสน่ห์มาก

50 ปีที่แล้วมีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งรุนแรงที่สุดเท่าที่วิญญาณของคุณประยงค์เคยทำมาก็ คือ เมื่อครั้ง คุณหญิงธรรมวรานุรักษ์ (วิไลลักษณ์ วัยงาม) ย่าของวิชับ ยังสาวแต่งงานมีลูกสาว 1 คนน่ารักมาก เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในบ้าน คุณหญิงตั้งชื่อว่าลูกสวาสดิ์ (ด.ญ.หยาดทิพย์ ราชปรางค์) พอลูกสวาสดิ์อายุได้ 5 ขวบ วันหนึ่งคุณหญิงเห็นวิญญาณคุณประยงค์มาบอกว่า ” อีกเดือนนึงเด็กคนนี้จะต้องไปอยู่กับฉัน” คุณหญิงตกใจมาก ร้องไห้คร่ำครวญพร้อมทั้งกราบไหว้บูชา ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเพื่อขอให้คุ้มครองลูกสวาสดิ์ แต่เนื่องจากหมดอายุของลูกสวาสจริงๆ วันหนึ่งลูกสวาสดิ์มาเล่าว่า คุณประยงค์มาพาไปเล่นน้ำฝนสนุกมาก แล้วหลังจากนั้น 3 วันลูกสวาสดิ์ก็ ตายด้วยโรคปอดบวม ซึ่งเป็นวันที่ครบ 1 เดือนพอดีตามที่คุณประยงค์มาบอกไว้ ใครๆ เลยกลัววิญญาณ คุณประยงค์อย่างฝังอกฝังใจมาตั้งแต่นั้น คนในตระกูล ก็รู้เรื่องนี้กันทุกคน

ใกล้ถึงวันเปิดสโมสร เชษฐาเริ่มติดใจอนงค์วดี เลยหาทางให้ได้พบกัน บ่อยๆ จึงไปบอกคุณปิ่นสุดา ว่าอยากให้อนงค์วดีเป็นประชาสัมพันธ์ให้เพราะอนงค์วดีรักบ้านเก่าอยู่แล้ว จะได้มาอยู่ในที่ที่รัก และจะได้แนะนำสมาชิกชมสถานที่ได้อย่างถูกต้อง คุณปิ่นสุดาถูกใจมาก เพราะแอบหวังอยู่ในใจอยากให้อนงค์วดีแต่งงานกับเชษฐา จึงไปขอร้องแกมบังคับอนงค์วดีให้มาทำงานอนงค์วดีไม่อยากมาแต่ขัดแม่ไม่ได้ จึงต้องมาทำงานที่บ้านทีมีภาพอาถรรพ์ โดยเชษฐาจัดห้องให้พักอยู่เลย คืนวันเปิดสโมสรมีแขกมามากมาย ลูกสวาสดิ์ซึ่งเป็นวิญญาณวนเวียนอยู่ในบ้าน สนุกมากกับการที่เห็นคนมาเยอะแยะ ก็ออกมาร่วมสนุกด้วย ใครๆก็ ติดใจในความน่ารักของเด็กผมจุกคนนี้กันหมด แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นผี สลวยเกษก็มาในงานด้วย มาวางท่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเชษฐา และพูดข่มอนงค์วดีตลอดเวลา เชษฐาก็แก้แทนให้ทุกครั้ง

คืนนั้นขณะที่เชษฐากำลังจะขึ้นไปนอน ก็ถูกอำนาจของคุณประยงค์บังคับไว้ ทำให้เชษฐารู้สึกตัวเป็นเจ้าคุณ… เจ้าคุณอุ้มคุณประยงค์ ไปที่ห้องนอนของคุณประยงค์และอยู่ด้วยกันทั้งคืน จนเช้าเชษฐารู้สึกตัว ระหว่างที่กำลังสับสนว่าจริงหรือฝันกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็นึกกลัวว่าคงถูกผีหลอก ผลุนผลันออกจากห้องมาชนกับอนงค์วดีอย่างจัง อนงค์วดี ตกใจถามว่า ทำไมเชษฐามานอนอยู่ีที่ห้องคุณทวดประยงค์ หลังจากวันนั้น อนงค์วดีเป็นห่วงเชษฐามากขึ้น เพราะเขาว่านิยายพิศวาสระหว่างมนุษย์กับปีศาจ นั้นมักจะลงเอยด้วยชีวิตมนุษย์ อนงค์วดี จึงตั้งใจที่จะคอยดูแลและปกป้องเชษฐามากขึ้น เพราะเริ่มจะชอบเชษฐาเช่นกัน ขณะเดียวกัน ทุกคนก็สังเกตว่าเชษฐาดูป้ำๆ เป๋อๆ เหมือนสติเลื่อนลอย อยู่บ่อยๆ ชาวบ้านบอกว่าเหมือนคนถูกผีดูดเลือด แต่ตัวเชษฐาเองไม่รู้สึกอะไร รู้แต่ว่าชักจะชินกับการเห็นคุณประยงค์บ่อยๆ และอยู่ด้วยกันแทบทุกคืนเหมือนคุณประยงค์เป็นภรรยาในฝัน

คุณประยงค์ทำให้เชษฐาและอนงค์วดีรำลึกถึงอดีตบ่อยๆ ว่าชาติที่แล้ว เชษฐาคือเจ้าคุณ ซึ่งแต่เดิมมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ จนกระทั่งเรียนจบ มีใจรักกับคุณประยงค์ลูกสาวเจ้าของบ้าน แต่เนื่องจากธิดาผู้สูงศักดิ์จะลดตัวลงมาแต่งงานกับคนอาศัยไม่ได้ จนกระทั้งเจ้าคุณได้รับราชการแล้วกลับไปภูมิลำเนาเดิมได้แต่งงานกับอร ( อนงค์วดี ) และมาเป็นเจ้าคุณ จึงพอเทียบกับคุณประยงค์ได้ พอมาราชการที่กรุงเทพฯ ก็มาพักที่บ้านนี้อีกครั้ง คุณประยงค์กลับมายึดเอาเจ้าคุณไว้ตลอดเวลาจนอรเสียใจ น้อยใจ ขอกลับบ้านเจ้าคุณก็ไม่ยอมกลับ ขณะนั้นอรมีเพียงคุณน้อย (คุณย่าน้อย) เท่านั้นเป็นเพื่อน (คุณน้อยเป็นหลานคุณประยงค์) คอยปลอบโยนให้กำลังใจ โดยที่คุณน้อย มีคนรักคือ หลวงขจร (มนัส) จะต้องไปแต่งงานกับ ผู้หญิงที่ผู้ใหญ่หาให้ คุณน้อยก็ปักใจแน่วแน่แต่เพียงหลวงขจรคนเดียวเท่านั้น ถึงกับกระโดดน้ำตายในเวลาต่อมา เมื่อรักไม่สมหวัง อรมีญาติคนหนึ่งติดตามจากต่างจังหวัดด้วยชื่อ เกด (สลวยเกษ) เป็นกึ่งญาติกึ่งบ่าว และเป็นภรรยาน้อยด้วยเกดเป็นคนปากกล้าไม่ยอมใคร ชอบตีเสมอนายในบางครั้ง

ในที่สุดเจ้าคุณก็มาสารภาพกับอรว่าได้คุณประยงค์เป็นเมียตั้งแต่ตอนอยู่ที่นั่น แต่ไม่ยอมยกให้ใครเป็นเมียหลวงจนกว่าใครจะมีลูกให้ก่อน แล้วอรก็ท้องก่อนจริงๆ คุณประยงค์โกรธมาก และบ่าวที่จงรักภักดีของคุณประยงค์ คือ อีทิ้ง ก็ผลักอรตกบันใดจนตาย เมื่อท้องแก่ใกล้คลอด อีทิ้งเป็นเมียของนายกลับ ซึ่งเป็นคนเดียวที่มีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันอายุร้อยกว่าปี หลังจากที่อรตาย เจ้าคุณไม่สนใจคุณประยงค์อีกเลย และบอกว่าจะกลับบ้าน คุณประยงค์พยายามทุกวีถีทางเพื่อให้เจ้าคุณกลับมารักแต่ไม่สำเร็จ

พอมาถึงสมัยปัจจุบัน คุณประยงค์ก็พยายามช่วงชิงเอาเจ้าคุณ (เชษฐา) กลับมาอีกครั้ง พยายามทุกวีถีทางที่จะกำจัดอนงค์วดีอีก แต่เชษฐาในชาตินี้เข้มแข็ง กว่าเจ้าคุณในชาติที่แล้วมาก คุณประยงค์จึงผิดหวังอีกครั้ง ส่วนวิญญาณ คุณย่าน้อยก็เฝ้ารอคอยแต่หลวงขจร จนกระทั่งหมดอายุของมนัสเองพอดี มนัสตกน้ำตายเช่นกัน เชษฐาสั่งปิดสโมสรชั่วคราว ระหว่างทำศพมนัสวันหนึ่ง เชษฐา ก็ขอแต่งงานกับ อนงค์วดี เชษฐา เตือนสติ อนงค์วดี ตลอดเวลาว่าให้มีสติอย่าหลับเพราะพอรู้สึกง่วงงุนจะต้องตกอยู่ใต้อำนาจคุณ ประยงค์อีก เหมือนทุกครั้ง แล้วจู่ๆวันหนึ่งเชษฐาก็หายไป หาเท่าไรก็หาไม่พบ จนกระทั่ง 3 วันผ่านไป อนงค์วดี หมดหนทางก็มาวิงวอนหน้าภาพกับต้นตระกูลขอให้ท่านช่วยทันใดนั้น ภาพของท่านก็หล่นลงมา ปู่กลับเข้ามาพอดี เดินเข้าไปผนังหาปุ่มประตููกล ผนังตรงนั้นก็เลื่อนออกมา เชษฐา อยู่ข้างในกับกองกระดูกอีก 2 กอง ความลับทั้งหมดเลยเปิดเผยว่า ในอดีตคุณประยงค์จับเจ้าคุณมาขังไว้จนตาย แล้วครั้งนี้พอเห็นว่าไม่สมหวัง วิญญาณคุณประยงค์ ก็เลยพาเชษฐา มากักขังไว้อีกเช่นกัน ปู่กลับเป็นคนเอากระดูกเมียมาเผาพร้อมรูปของคุณทวดประยงค์นั่นเอง

นางทาส

เย็น ถูกพ่อแม่นำมาขายให้กับ คุณหญิงแย้ม ตั้งแต่อายุ 15 ปี ตกอยู่ในความปกครองของทาสหญิงชราชื่อ นางฟัก ดูแลฝึกหัดให้สันทัดงานผู้ลากมากดี ภายหลังคุณหญิงก็เรียกให้ไปรับใช้บนเรือน เพราะเย็นผิวพรรณหมดจดหน้าตาสะสวย เมื่ออายุยี่สิบปีจึงได้ชื่อว่าเป็นอนุภรรยาคนหนึ่งของ พระยาสีหโยธิน เย็นไม่ลืมว่าตัวตกเป็นของบุรุษผู้มีอายุคราวบิดามารดา เพราะความกลัวเกรงบุญบารมีหาใช่เพราะสมัครรักใครไม่ กระนั้นเย็นก็ตั้งหน้าสามิภักดิ์โดยสุจริต เจ้าคุณเมตตาเป็นพิเศษ จึงก่อให้เกิดริษยาในหมู่เมียน้อยด้วยกัน

เย็นอายุน้อยกว่าเขาทั้ง นั้น ซ้ำมีชื่อว่าเป็นทาสมาแต่เดิมก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว คุณหญิงจึงเอ็นดูกว่าอนุภรรยาคนอื่นๆ แปลกแสนแปลกด้วยเมื่อปีหนึ่งล่วงไป คุณหญิงและเย็นก็มีครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าคุณตื่นเต้นดีใจเท่าไหร่ เย็นก็ถูกริษยาจากเพื่อนเมียน้อยเท่านั้น เย็นรู้ว่าถ้าเย็นเป็นมารดาลูกของเจ้าคุณ ก็อาจถูกใส่ความว่าประพฤติชั่วกับชายอื่น มันหมายถึงอันตรายยิ่งใหญ่ทีเดียว แต่โชคดีที่คุณหญิงตั้งครรภ์ด้วย หลังจากแต่งงานมานาน เมื่อเวลาใกล้กำหนดคลอด เจ้าคุณมีราชการต้องไปค้างอยู่ต่างจังหวัดมีกำหนดสามสิบวัน

และก่อนหน้าที่จะกลับสิบสองวัน คุณหญิงแย้มก็ได้คลอดลูกชายและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพร้อมกับเย็นให้กำเนิดเด็กหญิง โดยมิคาดฝัน นางฟักก็มาบอกว่า คุณหญิงขอเปลี่ยนเอาลูกของเย็นไปเป็นลูกของท่าน ให้เย็นรักษาเป็นความลับไว้ตลอดอายุ และให้รางวัลอย่างงาม เย็นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งนั้นหวงแหนเลือดในอก ปรารถนาจะได้โอบอุ้มเลี้ยงดูเองให้สมกับอุ้มท้องมาเกือบเต็มขวบปี แต่อีกใจหนึ่งนั้นหวั่นกลัวอำนาจอันยิ่งใหญ่ของภรรยาหลวง ไม่แน่ว่าการปฏิเสธจะเกิดผลร้ายแก่ตัวสักแค่ไหน

แต่นางฟักชักแม่น้ำ ทั้งห้าหว่านล้อม อ้างว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของลูก เป็นลูกคุณหญิงต้องดีกว่าเป็นลูกของนางทาสแน่นอน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเจ้าคุณก็ตาม เย็นจึงยอม ค่ำวันนั้นคนในบ้านก็รู้ทั่วกันว่าลูกของเย็นตาย ส่วนลูกของคุณหญิงรอดชีวิตเป็นผู้หญิง เจ้าคุณกลับมาบ้านตามกำหนด ครั้นทราบว่าลูกของเย็นเป็นชายแต่ตายเสียก็บ่นเสียดาย ส่วนคุณหญิงได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเลิศ ทารกซึ่งได้ตำแหน่งธิดาคุณหญิงแย้มเติบโตรวดเร็ว ผิวพรรณผ่องใส เป็นที่รักของเจ้าคุณและคุณหญิงผู้ตั้งตนเป็นมารดาอย่างยิ่งกบ-สุวนันท์ คงยิ่ง

เย็น ได้ให้น้ำนมได้อุ้มชูเลี้ยงดูโดยคำสั่งของคุณหญิงเป็นบางครั้ง ซึ่งทำให้เย็นเก็บความชื่นชมเสน่หาบุตรสาวอยู่กลายเป็นของคนอื่นไว้คนเดียว ท่านเจ้าคุณยังคงรักและเมตตาเย็น พร้อมทั้งมีความหวังว่าเย็นอาจจะมีลูกให้ท่านอีก เพราะอนุภรรยาอื่นๆ ไม่ปรากฎว่าใครจะตั้งครรภ์เลย จนในวันหนึ่ง ทิดยืน พี่ชายของเย็นมาบอกว่าพ่อเจ็บ แม่ให้มาขอขึ้นค่าตัวเย็นไปรักษาพ่อ เย็นไม่กล้าให้พี่ชายเอ่ยปากกับท่านเจ้าคุณ จึงให้ตะกรุดทองซึ่งเจ้าคุณให้ผูกตอนตั้งท้องไปแทน แต่การณ์กลับเป็นผลร้ายแก่เย็น

ด้วย บุญมี อนุภรรยาของเจ้าคุณที่ริษยาเย็นอยู่ ได้กล่าวโทษฟ้องว่าเย็นคบผู้ชายถึงให้เป็นสิ่งของกัน เย็นจึงโดนหวายเฆี่ยนเจียนตาย และถูกถอดลงมาเป็นนางทาสตามเดิม เย็นต้องมาเป็นลูกมือนางในคนครัว ตำน้ำพริก ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว หุงข้าว ผ่าฟืน ล้างถ้วยชามรามไห แล้วแต่นางในจะใช้ เหนื่อยสายตัวแทบขาด ที่ร้ายที่สุดคือห่างเหินลูกรักชนิดสุดเอื้อม กระนั้นก็ตามเย็นก็คอยหาโอกาสแอบเข้าไปใกล้ชิด อุ่นเรือน ( คุณหนูแดง) อยู่เสมอจนวันหนึ่ง วันที่เย็นเข้าไปหา นางพุ่ม พี่เลี้ยงคุณแดง อุ้มคุณแดงเชยชม

ก็ปรากฏว่าสร้อยข้อเท้าคุณแดงหายไป นางพุ่มระบุว่าเย็นมาอุ้มคุณแดง เย็นจึงถูกเฆี่ยนเป็นครั้งที่สอง จนคุณหญิงสงสารหยิบสร้อยเส้นใหม่ออกมาและบอกว่าหาพบแล้ว เย็นจึงรอดพ้นจากอาญาไปได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าคุณก็สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เย็นเข้าใกล้อุ่นเรือน เวลาผ่านไปตามลำดับอุ่นเรือนโตเป็นสาวแรกรุ่นจำเริญตา ในขณะที่เย็นร่างกายเสื่อมโทรมไปเพราะงานหนัก ผิวพรรณด้านหลังงองุ้ม ผมหงอกเกือบทั่วศีรษะ วันหนึ่งขณะที่เย็นกำลังพักผ่อน หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก

ก็ได้ยินเสียง นางสาลี่ อนุภรรยารุ่นเก่าคนหนึ่งของเจ้าคุณ และอีทาสหน้าตาขี้ริ้วชื่อ แอบ นัดแนะกันจะล่ออุ่นเรือนมาให้ ทิดคล้อย ซึ่งอดีตเป็นพระนักเทศน์ตัวลือ เย็นตกใจแทบสิ้นชีวิต เฝ้าตรึกตรองหาทางป้องกันอุ่นเรือนจนกระทั่งถึงวันนัด เย็นไปดัก ณ ที่นัดพบเพื่อห้ามอุ่นเรือน อุ่นเรือนโกรธจัดถึงกับตบหน้าเย็น แต่เย็นไม่ฟังเสียงเฝ้าวิงวอนจนถึงกับต้องยื่นคำขาดว่า จะขัดขวางถึงตายก็ยอม เมื่อสาลี่มาถึงรู้ว่าความแตกแล้วก็กรีดร้องขึ้นเต็มเสียงว่า เย็นพยายามแย่งของจากอุ่นเรือน อีกครั้งหนึ่งที่นางทาสถูกโบยจนสลบคาหวาย

ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่มแต่ คำน้อยมิได้หลุดจากปากเพราะรู้ว่าคือโทษหนักต่อลูกรัก จนในที่สุดอุ่นเรือนทนไม่ได้ต้องสารภาพกับคุณหญิง เย็นจึงรอดพ้นจากหวายลงหลังซ้ำสอง สิ่งที่ได้ตอบแทนคือคุณหญิงพาอุ่นเรือนมาขอโทษเย็นถึงเรือนพัก อุ่นเรือนร้องไห้จนตัวโยน จับมือเหี่ยวแห้งมากำไว้ขณะที่กล่าวคำขอโทษ เย็นจูบปลายเท้าลูกน้ำตาไหลพรากเมื่อตอบว่า ถึงบ่าวจะตายเพราะช่วยคุณก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะบ่าวรักคุณเหลือเกิน คุณหญิงบอกความจริงเจ้าคุณ และวันรุ่งขึ้นเมื่อใกล้พลบ ใต้ถุนหอนั่งก็มีการเฆี่ยนกันอีก ครั้งนี้คือสาลี่กับนางแอบ

หลังจาก นั้นสาลี่ก็ถูกถอดลงทำงานตักน้ำผ่าฟืนข้างล่าง หลังจากนั้นไม่นานด้วยเดชะพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ ซึ่งมีต่อพสกนิกรแห่งพระองค์ ได้ทรงออกพระราชบัญญัติประกาศให้เลิกทาสทั่วพระราชอาณาจักร ปวงประชาราฎร์ทั้งหลายต่างชื่นชมโสมนัส สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้เป็นล้นพ้น แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วทุกหลังคาเรือน พระอารามทั่วไปเคาะระฆังแสดงความปลื้มปิติ และเป็นความหมายให้สำเนียงนี้อุโฆษขึ้นไปถึงเทพยดาเจ้าเบี้ยงบนฟากฟ้าโน่น

ตาม เคหะสถานท่านผู้มีทาสใช้สอย บางรายก็เสียดายอำนาจซึ่งหลุดลอยไป บางแห่งก็ยินดี โดยเฉพาะพระยาสีหโยธิน เจ้าคุณโสมนัสชื่นชมเป็นที่ยิ่ง ประกาศให้ทุกคนในบ้านมีการรื่นเริงได้เต็มที่ ปัจจุบันนางทาสเย็นไม่ต้องทำงานหนักตรากตรำแล้ว คุณหญิงให้นั่งดูแลหอนั่ง เย็นค่อยแจ่มใสอ้วนท้วนนุ่งห่มสะอาดนัยน์ตา มีโอกาสได้พบปะใกล้ชิดลูกโดยไม่มีใครรังเกียจ แม้ฝ่ายอุ่นเรือนเองจะไม่รู้จักว่าเป็นแม่ ตามวิสัยของมารดากับบุตร ย่อมมีสัมพันธ์ทางสายโลหิตใกล้ชิดอยู่เสมอ อุ่นเรือนจึงรักเย็นมาก

เจ้า คุณเคยปรารถกับตัวเองว่า เย็นเป็นคนดีพอใช้ เสียแต่ใจมันรักชั่วเห็นคนเลวดีกว่าพระยาอย่างเรา ไม่งั้นป่านนี้กินนอนกันสบาย และวันที่ความจริงปรากฏขึ้นก็มาถึง เมื่อทิดยืนพี่ชายมาหาเย็นพร้อมทั้งเงินค่าไถ่ ความจริงเปิดเผยว่าผู้ที่เจ้าคุณคิดว่าเป็นชู้ของเย็นเมื่อเกือบยี่สิบปี ก่อนนั้นคือ พี่ชาย เจ้าคุณอึ้งไปด้วยสำนึกในความผิด ทั้งเสียใจและเสียดายความหลังเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางใดจะแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ ได้แต่ขออโหสิต่อเย็นอยู่ในใจ เย็นมีชีวิตเป็นสุขขึ้นมาก ความดีทุกอย่างปรากฏขึ้นแล้ว แต่ความจริงที่อุ่นเรือนคือบุตรสาวที่แท้จริงของเย็น จะปรากฏหรือไม่ คอยติดตามชมกันต่อไปในละคร นางทาส

เชลยศักดิ์ 2534

ม.จ.ไตรศักดิ์ สันติวงศ์ เสด็จพ่อของอลิสา (จินตรา สุขพัฒน์)  และอดิศักดิ์ (ฐาปกรณ์  ดิษยนันท์)  แต่ก่อนที่จะจากได้ฝากฝังความแคนระหว่างตระกูลอัศวราช กับสันติวงศ์ ให้สองพี่น้องช่วยกันแก้แค้นสานต่อให้สมใจบรรพบุรุษสงครามโลกยุติลงเสรีไทย กลายเป็นวีระบุรุษของไทยทั้งมวล  โยธิน อัศวราช (ลิขิต เอกมงคล) กลับบ้านมาพร้อมด้วยภิรมยา (สมรัชนี เกสร) สาวคู่รักพระยาสวามิภักดิ์ราช กลุ้มใจกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และการค้าย่ำแย่ อดิศักดิ์เลยคิดแก้แค้นแทนพ่อ สวมรอยฉวยโอกาสหวังแก้ค้นให้สาสม จนกระทั่งพระยาสวามิภักดิ์เสียที ชิวิตของโยธินเลยหักเห เพราะต้องตกเป็นเชลยของอดิศักดิ์ หนึ่งปีเต็ม ๆ  โยธินเลยกลายเป็นคนละคน ท่ามกลางความพอใจของสองพี่น้องเป็นอันมาก ชีวิตที่ขมขื่นที่ม่อนผาหลวง ของโยธินที่ดำเนินไปแต่ละวันจนกระทั่งได้รู้จักกับอานนท์(ด.ช.ปอ เนติลักษณ์) ซึ่งเป็นญาติห่างๆ กับอลิสาและอดิศักดิ์ แต่โยธินพยายามปกปิดฐานะตัวเองยิ่งปิดเท่าไรอดิศักดิ์ก็ยิ่งต้องการเปิดเผย ให้มากเท่านั้นอดิศักดิ์ให้โยธินเป็นครูให้กับอานนท์ด้วยแผนการอันแยบยล โยธินพยายามเร่งวันเร่งคืนเพื่อให้ครบหนึ่งปีเต็มและยิ่งสาแก่ใจอดิศักดิ์ และอลิสามาก เพราะต้องการให้โยธินมารับรู้บารมีและอำนาจของตนด้วย โยธินหนีไปให้ไกลแสนไกล แต่ก็ไปไหนไม่ได้ โยธินเขียนจดหมายไปให้พ่อ แต่จดหมายถูกอดิศักดิ์กักเอาไว้

 

ร่วมด้วย ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์, อรรถชัย อนันตเมฆ, วีรยุทธ รสโอชา, สมรัชนี เกษร, วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง, สมบัติ เมทะนี, ชนาภา นุตาคม, ธงไท ธวัช, สุระ มูรธานนท์, สมชาย สามิภักดิ์, บุญส่ง ดวงดารา, ทวนธน คำมีศรี, ราชิต ชูเมือง, ด.ช. ปอ เนติลักษณ์, ดวงดาว จารุจินดา, วิทยา สุขดำรงค์, สยุมพร รัตนปรารมย์, วันต์ กรรณภูติ, ระวิน ชุมเกษียร

จำเลยรัก 2531

จำเลยรัก เป็นเรื่องราวของความแค้นของ หฤษฎิ์ (ลิขิต เอกมมคล) พี่ชายที่ต้องสูญเสียน้องชายไปเพราะความรักศันสนีย์ เขาโกรธแค้นหญิงสาวต้นเหตุ ถึงกับจับตัวมาลงโทษเพื่อให้หายแค้น แต่ไม่รู้ว่าจับมาผิดคน ไปจับโศรยา (สาวิตรี สามิภักดิ์) แทน และเมื่อเขารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว เขาจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อศันสนีย์ก็มาหว่านเสน่ห์และเข้าใจว่าหฤษฎิ์ต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ

นักแสดงละคร จำเลยรัก

ลิขิต เอกมงคล แสดงเป็น หฤษฎิ์
สาวิตรี สามิภักดิ์ แสดงเป็น โศรยา
ชไมพร จตุรภุช แสดงเป็น ศันสนีย์

ยอดมนู ภมรมนตรี, ชนาภา นุตาคม, ไพโรจน์ ใจสิงห์, พิราวรรณ ประสพศาสตร์, สุรพล ไพรวัลย์, สุรศักดิ์ วงษ์ไทย, รัชนี จันทรังษี

จำเลยรัก ลิขิต สาวิตรี

เวอร์ชั่นนี้ดังมากๆ เป็นละครภาคค่ำ ที่ประสบความสำเร็จมากของช่อง 7 ครับ

ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว

ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เสือเหนาะตกใจสุดขีดวิ่งหนีออกจากถ้ำ มีอาการเหมือนคนวิกลจริตแบบที่คนโบราณเรียกว่า “เป็นไข้หัวโกร๋น” มหาเสน่ห์เห็นพี่ชายหายไปหลายวันจึงออกตามหาพร้อมด้วยมะขิ่น พบเสือเหนาะพูดจาไม่รู้เรื่องพร่ำบ่นแต่เรื่องขุมทองในถ้ำ และทหารญี่ปุ่นทั้งหมดพยายามกลับไปที่ถ้ำแต่ไม่พบ
มหาเสน่ห์เชื่อเรื่องที่เสือเหนาะพูดเพราะมีทองแท่งหนึ่งประทับตราภาษาญี่ปุ่นเป็นเครื่องยืนยัน หลายปีต่อมา เสือเหนาะกลายเป็นคนบ้าบอพูดจาแต่เรื่องขุมทรัพย์ กินเหล้าหัวราน้ำจนไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง มหาเสน่ห์เห็นแก่อนาคตของมะขิ่น จึงได้ขายทรัพย์สมบัติบางส่วนของเสือเหนาะส่งให้มะขิ่นไปอยู่กับป้าที่กรุงเทพฯ เพื่อเรียนหนังสือ ส่วนตัวเองก็ทำกิจการให้เช่าเรือแพ สำหรับนักท่องเที่ยว

นายฮิโรชิ อายุ 50 ปี ปัจจุบันเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทญี่ปุ่นที่มันคงแห่งหนึ่ง เขามีภรรยาเป็นคนไทยชื่อ เสาวลักษณ์ ดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลม ทั้งสองมีลูกด้วยกันเป็นชายชื่อ ธนา หรือ ทาคุมิ เรียนจบ ม.6 ในเมืองไทย ฮิโรชิจึงส่งลูกชายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในโตเกียวในสาขาธรณีวิทยาจนใกล้จะจบปริญญาโท แต่ธนาวัยเด็กเป็นคนชอบเล่นกีฬา แม้จะมีสายเลือดญี่ปุ่น แต่มวยไทยเป็นสิ่งที่ธนาชอบ นอกจากนั้นเขาก็ยังชอบการเดินทางท่องเที่ยว ในช่วงปิดภาคเขาจึงชอบขอเงินพ่อไปเที่ยวดูสิงสาราสัตว์อยู่แถวอาฟริกาใต้ ฮิโรชิยามว่างของเขาก็คือการออกไปตกปลาแถวแม่น้ำแคว หรือตามเขื่อนแถบนั้นจนคนในท้องที่รู้จักนายฮิโรชิกันหมด การไปเมืองกาญจน์บ่อยๆ ของนายฮิโรชิมีสิ่งเคลือบแฝงที่ไม่มีใครรู้
แม้กระทั่งเสาวลักษณ์ ฮิโรชิจะไปกับนายแก้วคนรถ ซึ่งรับใช้มานานนับสิบปี พ่อของฮิโรชิคือ นายทหารญี่ปุ่นซึ่งเคยมาประจำการอยู่ในประเทศไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง พ่อของเขารู้เรื่องการซุกซ่อนทองนับสิบตันอันเป็นขุมทรัพย์นั้นอยู่ตรงไหน แต่มั่นใจว่ามันมีอยู่จริงในถ้ำแห่งหนึ่งแนวชายแดนไทยติดต่อกับเมียนม่า และแผนที่ลายแทงถูกซ่อนไว้ที่วัดแห่งหนึ่ง ฮิโรชิเก็บความเชื่อนี้ไว้นานปี เขาเชื่อว่าพ่อต้องไม่โกหกเขา

มะขิ่นกำลังฝึกซ้อมเทควันโดเพื่อเข้าแข่งขันในวิทยาลัย เธอต้องสละสิทธิ์ในการแข่งขันเพื่อกลับบ้านมางานศพพ่อด้วยความแค้น และความสงสัย ลูกเสือก็ย่อมมีเลือดเสือ เธอประกาศว่าจะหาคนฆ่าพ่อให้ได้ และจะค้นหาแหล่งขุมทรัพย์ให้ได้เพื่อพ่อ บ้านมหาเสน่ห์ถูกรื้อค้นกระจุยกระจายในคืนวันนั้น ทำให้มหาเริ่มรู้ว่าการมีลายแทงไว้กับตัวเป็นอันตราย เขาไม่รู้ว่าใครฝ่ายไหนต้องการลายแทง การหายไปอย่างไร้ร่องรอยของฮิโรชิ
ทำให้เสาวลักษณ์ต้องเรียกตัวธนากลับมา ธนาต้องบินด่วนจากโยฮันเนสเบอร์กสู่กรุงเทพฯ อย่างกะทันหัน ธนาไม่ได้เค้าเงื่อนอะไรจากแม่เพราะพ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง เขาจึงมุ่งการสืบหาไปที่สถานฑูตญี่ปุ่นและกัลยา เลขาฯ ของพ่อ กัลยาให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ กัลยาพาเขาไปหาในโนโบรุที่พัทยา ก็ได้เรื่องเพียงว่าพ่อหักหลังเขาในการดำน้ำหาลายแทงขุมทรัพย์ เมื่อได้แผนที่แล้วก็ยิงลูกน้องเขาสองคนบาดเจ็บแล้วหนีไป ธนาไม่เชื่อว่าพ่อจะเป็นคนอย่างนั้น แต่เขาก็เก็บความสงสัยไว้เงียบๆ โนโบรุประกาศว่าเขาจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับคนที่เคยหักหลังเขา และขออยู่อย่างสงบ สอนดำน้ำต่อไป

นักแสดงละคร ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว

อู๋-นวพล ภูวดล
เมย์-บัณฑิตา ฐานวิเศษ

กิ่งไผ่

แม้จะไม่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย แต่เขาก็ยังรำลึกถึงคุณของแผ่นดินที่เคยให้พึ่งพักอาศัยในยามที่พลัดบ้านเมืองมา

ละครเรื่องนี้เป็นละครย้อนยุคประมาณรัชกาลที่ 7-8 จุลจิตต์ เป็นลูกบ่าวในบ้านของท่านองค์พระ เป็นเด็กจีนที่อยู่ในบ้านของผู้ดีชาวไทยแล้วจะโดนคนแกล้งแต่จะมีคุณฟุ้ง ที่เป็นลูกเจ้านายคอยช่วยเหลือ แต่ตอนหลังมีญาติรับไปอยู่ต่างประเทศ ไปเรียนวิศวกรที่อเมริกา และได้สัญชาติอเมริกันแต่ก็ยังไม่ลืมความเป็นไทย ไม่ลืมความกตัญญู พอกลับมาอีกครั้งหนึ่งเป็นวิศวกรชื่อ จอห์น ลี ซึ่งตอนนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป คุณฟุ้งกลายเป็นโจรต้องไปอยู่ในป่า ส่วนจุลจิตน์เป็นวิศวกร แล้วคุณฟุ้งก็มาเป็นลูกน้องในเหมือง  วิถีชีวิตของคนสองคนจากบ่าวกลายเป็นวิศวกร แล้วจากลูกเจ้านายกลายเป็นชีวิตอีกแบบหนึ่งตกต่ำผกผัน