Tag Archives: ภูริ หิรัญพฤกษ์

เส้นไหมสีเงิน

คุณยายบุหงา เศรษฐินีม่าย อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ ดูเหมือนจะมีความสุขแต่แท้จริงแล้วกับเป็นคนแก่ที่เหงาเศร้า เพราะลูกทั้ง 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงกลณีและอุบลวรรณเลี้ยงแม่ไม่ได้สักคน คุณยายจึงย้ายกลับมาอยู่บ้านเดิมกับแม่ครัวเก่าแก่เพียง 2 คน โดยมีเพื่อนบ้านเก่าอยู่รั้วติดกัน คือ คุณตาพจน์

คุณตาพจน์ เป็นชาวสกลนครมีลูกชาย 1 คน ภรรยาตายและมีหลานที่คุณตาต้องรับหน้าที่ดูแลอีก 4 คน คือ แพรวา ไหมคำ ฝ้าย และป่าน คุณตาและหลาน ๆ ผูกมิตรกับคุณยายด้วยการเด็ดผักสวนครัวข้างรั้วให้ ส่วนคุณยายก็ทำอาหารมาให้ และมีการเชิญไปทานข้าวซึ่งกันและกันบ้างเพิ่มความสนิทสนมทำให้คุณยายรู้สึกอบอุ่นรักหลานคุณตาเหมือนหลานตัวเอง

ฝ้าย ชวน แพร ไปงานรับน้องใหม่ที่มหาวิทยาลัยทำให้ แพร รู้จักกับมอดลูกชายของอุบลวรรณซึ่งหล่อมาดนายแบบ เรียนดี เก่งกีฬาว่ายน้ำ ร้องเพลงเพราะ มอดแอบชอบแพรแต่แพรไม่สนใจเพราะมอดดูหยิ่งผยอง ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษจนกระทั่งแพรได้รู้จักกับหนึ่งลูกชายของจงกลณีที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และทำงานบริษัททัวร์ที่เชียงใหม่แพรก็แอบชอบหนึ่งพราะดูเขาเป็นคนดีมีน้ำใจและรักคนแก่เหมือนกัน

จงกลณีเอาแต่เล่นการพนันจนมรดกและหนี้สินท่วมตัว จึงไปหลอกคุณยายว่าตนจะไปลงทุนค้าขายกับเพื่อน และขอโฉนดบ้านนี้ไปค้ำประกันเงินกู้ แต่คุณยายปฏิเสธเพราะรู้ว่าถ้าให้ไปก็คงไม่ได้ไถ่คืน จงกลณีกลับมาอีก พร้อมนักเลงที่จ้างและขอโฉนดบ้านนี้ไปและหลอกคุณยายว่าตนเป็นหนี้จ่ายเช็คเด้งไปสิบล้าน ถ้าไม่เคลียร์จงกลณีจะถูกฆ่าตายคุณยายถึงกับทรุด อดที่แวะมาต้องเข้าประคองและห้ามคุณยายให้โฉนดที่ดินอันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายแก่ จงกลณี แต่คุณยายจำใจให้ไปเพราะกลัวนักเลงจะทำร้าย

ไหม ป่าน มอด ชวนคุณยายหลบจงกลณีไปพักผ่อนที่สกลนคร แต่ก่อนคุณยายได้เขียนจดหมายทิ้งให้ จงกลณีว่าเปลี่ยนใจไม่ขายบ้านแล้ว พร้อมกับทิ้งเช็คไว้ห้าแสนบาทและโฉนดก็ถูกอุบลวรรณฉกไปต่อหน้าต่อตาบ้านที่สกลนครขาดเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มอดต้องการ อีกทั้งมอดยังต้องช่วยไหมทำกับข้าวและ ช่วยงานบ้านสารพัดจนจับไข้ คุณยายช่วยเช็ดตัวให้จดมอดซึ้งใจอีกทั้งได้ช่วยไหมให้พ้นจากการถูกข่มขืนจาก เพื่อนบ้านติดกัน

ทำให้ไหมรู้สึกดีขึ้นหลังจากกลับมามอดเปลี่ยนแปลงไปเขาไปเช่าห้องแคบ ๆ เป็นนักร้องใน ห้องอาหารหาเงินค่าเช่าและค่าเล่าเรียนเอง ส่วนหนึ่งดัดแปลงบ้านเป็นเกสท์เฮาส์ให้ฝรั่งเช่า แพรช่วยหนึ่งเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และช่วยตกแต่งเต็มที่ แพรดูมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดหนึ่ง ส่วนไหมกับมอดก็เริ่มมีใจ ให้กัน

เมื่ออุบลวรรณมาเห็นบ้านกลายเป็นเกสท์เฮาส์ก็หาว่าคุณยายโดยจงกลณียุคุณยายซึ่งแข็งขึ้นกว่าเดิม น้อยใจว่าอุบลวรรณไม่ใช่แม่อย่ามายุ่งกับสมบัติและให้เอาโฉนดมาคืนด้วย มอดซึ่งเดินออกมาจากบ้านคุณ ตาพอดีก็โดนอุบลวรรณหาว่ามอดมาอยู่กันกับผู้หญิงบ้านนั้น โดยคุณยายเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจ มอดทนไม่ได้ ต่อว่าแม่ของเขาว่าดูถูกเพื่อนแล้วยังมาหาเรื่องคุณยายอีกจึงให้แม่เอาโฉนดมาคืน

เมื่อเรื่องราววุ่น ๆ ผ่านไปคุณยายเลยต้องทำหน้าที่ให้หลานด้วยความเต็มใจและมีความสุขที่สุดในชีวิตด้วยการไปขอหมั้นแพรให้หนึ่งและขอหมั้นไหมให้มอดติดตามเรื่องราวดรามาสะท้อนสังคมและจะทำให้คุณ ๆ เห็นคุณค่าของคำว่า ” ครอบครัว ”

รายชื่อนักแสดง เส้นไหมสีเงิน
1. อธิชาติ ชุมนานนท์
2. ภูริ หิรัญพฤกษ์
3. อาทิตยา ดิถีเพ็ญ
4. เพชรลดา เทียมเพชร

สัญญาแค้นแสนรัก

แหวน (พิยดา อัครเศรณี) กับ เชิด(ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ ) นักต้มตุ๋น กำลังจะแต่งงานกัน แหวนไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเชิดหลอก แต่แหวนต้องการจะแต่งงานเพื่อที่จะได้ไม่ไปแต่งงานกับ สนธยา(ภูริ หิรัญพฤกษ์ ) เธอจึงขอยืมเงินพ่อเพื่อที่จะนำมาจัดงานแต่งงาน แต่เธอบอกพ่อว่าจะเอาเงินนี้มาลงทุนทำธุรกิจ เชิดได้ว่าจ้างให้บริษัทของเจษ(ณัฐวุฒิ สกิดใจ)จัดงานแต่งงาน แต่สุดท้ายเมื่อมีงานแต่งงาน เชิดกลับหนีไปพร้อมเงินค่าสินสอด แหวนจึงโกรธจัด ใช้ปืนไล่ยิง สุดท้ายก็ตามตัวไม่พบ เจษมาทวงเงินค่าจัดงานกับแหวน แต่แหวนไม่มีให้ เจษจึงให้แหวนมาทำงานใช้หนี้ที่บริษัท พัชชา(เมย์ เฟื่องอารมย์)แฟนสาวของเจษไม่พอใจที่แหวนมาทำงานกับเจษ จึงเสนอที่จะใช้เงินให้แต่เจษไม่รับ ความสัมพันธ์ของเจษกับแหวนดีขึ้นเรื่อยๆ

วงแหวน สาวโอเปอร์เรเตอร์ที่กำลังจะแต่งงานกับ เชิดชัย แฟนหนุ่มที่คบหาดูใจกันได้ไม่กี่เดือน เชิดชัยได้แสดงความกล้าหาญช่วยชีวิตวงแหวนจากโจรที่มาดักจี้ วงแหวนประทับใจมากโดยไม่รู้เลยว่าเชิดชัยเป็นนักต้มตุ๋น และทั้งหมดเป็นแผนของเชิดชัยที่หลอกให้ผู้หญิงตายใจมานักต่อนัก เชิดชัยสารภาพรักและขอวงแหวนแต่งงาน วงแหวนรับปากด้วยความดีใจสุดขีด วงแหวนเองก็พ่อกับแม่บังคับให้แต่งงานกับ สนธยา ลูกชายคนเดียวของ กำนันสุข ผู้ทรงอิทธิพลแถวบ้าน

เชิดชัยอ้างว่ากลัวพ่อแม่ของวงแหวนที่ดูถูกที่เขาจน จึงต้องการที่จะจัดงานแต่งงานยิ่งใหญ่และขอให้วงแหวนช่วยสร้างภาพ ด้วยการหาเงินมาสำรองจ่ายค่างานแต่งงานและสินสอดไปก่อน วงแหวนหลงกลยอมโทร.ทางไกลไปหลอก วงศ์ ผู้เป็นพ่อว่าต้องการยืมเงิน 2 แสนไปลงทุนทำธุรกิจขายตรงกับเพื่อน วงศ์ส่งเงินมาให้วงแหวนตั้งใจว่าจะคืนเงินสินสอดให้พ่อหลังจบงาน และเอาเงินจากซองช่วยงานแต่งงานมาเป็นค่าจ้างบริษัทจัดงานที่เชิดชัยติดต่อมา

โดยที่วงแหวนไม่รู้เลยว่าเงินนั้นไม่ใช่เงินของวงศ์ แต่เป็นเงินค่าสินสอดที่วงศ์ได้มาจากสนธยา เจษฎา เจ้าของบริษัทสร้างรักจำกัด คือบริษัทที่เชิดชัยได้จ้างมาจัดงานให้ บังเอิญว่าฐานะทางการเงินของเจษฎากำลังแย่จึงโก่งค่าตัวและเชิดชัยก็ตกลงทุกอย่าง วงแหวนจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ แต่ครอบครัวของวงแหวนกลับมาร่วมงานด้วยความไม่พอใจ วงแหวนยืนยันว่าเชิดชัยเป็นคนดี แต่สุดท้ายในวันงานเชิดชัยกลับหนีไปจากงาน พร้อมกับเงินสินสอดและซองเงินช่วย

วงแหวนเพิ่งรู้ว่าถูกหลอก โกรธสุดขีดตัดสินใจออกจากงานไปทั้งชุดเจ้าสาวเพื่อตามล่าเชิดชัย เจษฎาเป็นห่วงเกรงหนี้จะสูญจึงตามเจ้าสาวไปที่แฟลตเชิดชัย ขณะเดียวกัน รมช.เดช รมช.กระทรวงการท่องเที่ยวพร้อมวงศาคณาญาติกำลังรอคอยการมาของเจษฎาแฟนหนุ่มที่ พิชชา นางแบบสาวสวยลูกสาวคนเดียวของตระกูลต้องการจะแต่งงานด้วย เดชไม่ชอบเจษฎาแต่ขัดลูกสาวไม่ได้ จึงเปิดโอกาสให้พิชชาพาเจษฎามาเปิดตัวกับญาติมิตรเป็นครั้งแรกในงานรวมญาติครั้งนี้

วงแหวนขับรถตามไปถึงบ้านเช่าของเชิดชัยพยายามจะทวงเงินคืน แต่เชิดชัยไม่ให้วงแหวนคว้าปืนของพ่อออกมาขู่ เชิดชัยกระโดดระเบียงหนีแถมก่อนจะไปยังพูดจาให้วงแหวนเจ็บใจ ทำให้วงแหวนแค้นมากเลยยิงใส่เชิดชัยไปหนึ่งนัด แต่คนที่โชคร้ายกลายเป็นเจษฎาที่ตามไป เจษฎาได้รับบาดเจ็บหมดสติไป ด้วยความกลัวความผิดวงแหวนจึงไม่ยอมแสดงตัว ได้แต่แอบดูเจษฎาที่ถูกพลเมืองดีผ่านมานำส่งโรงพยาบาล ส่วนทางบ้านพิชชารอเก้อ

เดชโกรธมากสั่งให้ลูกสาวตัดขาดจากเจษฎา เมื่อเจษฎาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าชีวิตกำลังย่ำแย่ เขาต้องใส่เฝือกที่แขน ตำรวจจับคนที่ยิงเขาไม่ได้ พิชชาไม่ยอมรับโทรศัพท์ เมื่อไปที่บริษัท กัญญา เลขาฯ ก็รายงานว่าเจ้าหนี้ทุกรายกำลังรุมล้อมเข้ามา เขาโทษวงแหวนเป็นตัวซวยที่ทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ เจษฎาจึงสั่งให้กัญญาและ มะลิ พนักงานในบริษัทไปทวงหนี้วงแหวน ซึ่งวงแหวนกำลังจะหนีแต่ถูกจับได้ซะก่อนเธอสารภาพว่าไม่มีเงิน

เจษฎาจึงบังคับให้เธอใช้แรงงานเพื่อเป็นไถ่หนี้ทั้งหมด 500,000 บาท นอกจากนั้นวงแหวนเพิ่งได้รู้จากวงศ์ว่าเงินที่เธอยืมมานั้นความจริงเป็นเงินค่าสินสอดที่สนธยามาสู่ขอเธอเอาไว้ เท่ากับว่าตอนนี้เธอเป็นหนี้ผู้ชายถึง 2 คนคือเจษฎาและสนธยา วงแหวนหมดทางหนีเลยยอมไปทำงานที่บริษัทของเจษฎา 6,360 บาทต่อเดือน เจษฎาจิกใช้งานวงแหวนสารพัดเพื่อล้างแค้น วงแหวนก็รู้ว่าเจษฎาแกล้งตัวเองก็เอาคืนบ้าง บริษัทสร้างรักเลยกลายเป็นสนามรบ

เจษฎาทำงานหนักเลยไม่มีเวลาไปง้อพิชชาที่ตั้งตารอให้แฟนไปง้อ ในที่สุดพิชชาก็หมดความอดทน เธอไปหาเจษฎาที่ทำงานและพบกับวงแหวน สัญชาตญาณของพิชชาบอกได้ทันทีว่าวงแหวนคือตัวอันตรายสำหรับความรักของเธอ พิชชาเข้ามาวุ่นวายในบริษัทเพื่อกันท่าวงแหวน ทำให้เจษฎากับวงแหวนทะเลาะกันมากยิ่งขึ้น แต่ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งเหมือนทำให้ทั้งสองเข้าใจกันและกันมากขึ้น พิชชาเสนอจะใช้หนี้แทนวงแหวนแต่เจษฎาไม่ต้องการเงินของพิชชา

วงแหวนจึงต้องทำงานที่นี่ต่อไป ดรุณี เพื่อนสาวใหญ่ของวงแหวนต้องการจะจัดงานแต่งงาน วงแหวนอยากหมดหนี้เร็วๆ เลยอาสาเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์งานทั้งหมด และตกลงกับเจษฎาจะทำงานชิ้นนี้เพื่อปลดหนี้แล้วเป็นอิสระจากเจษฎา ซึ่งเจษฎาตกลงแต่รู้สึกเหงาๆ เหมือนว่าต่อไปจะไม่ได้เจอวงแหวนอีก สุดท้ายเรื่องราวชุลมุนวุ่นวายของเจ้าหนี้และลูกหนี้จะลงเอยกันแบบไหน ติดตามชมได้ในละคร “สัญญาแค้นแสนรัก

ปัญญาชนก้นครัว

ชะเอม หรือ เอมิกา คุณหนูคนเก่ง (เรื่องเรียนเท่านั้นนะ) ดันอยากได้ A วิชาการละครของอาจารย์เพี้ยน เพื่อเธอจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ทุนไปทำปริญญาโทต่ออย่างแน่นอน

แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะปรัชญาการละครของ ดร.เพียรทิพย์ คือ “ศิลปะ (การละคร) เพื่อชีวิต” เพื่อการเข้าถึงบทบาทคนใช้ในละคร ทำให้จากคุณหนูต้องอุตริปลอมตัวไปเป็นคนใช้ และมันก็นำมาซึ่งเรื่องราววุ่นวายต่างๆ

บุหงาหน้าฝน

เรื่องราวความโรแมนติกระหว่างชายหนุ่มพเนจรกับสาวบ้านไร่ ที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้จากการถูกลอบทำร้าย ความรักเกิดขึ้น ณ จุดนั้น ประดุจดั่งรักแรกพบ

ปาหนัน (เอม-ศิริพิชยา) แอบหนี ยายเจ่ง(เดือนเต็ม สาลิตุล) หญิงรับใช้เก่าแก่ ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กหลังแม่ปาหนันตาย ออกไปเก็บดอกบุหงาหลังสวนมะพร้าว จู่ ๆ เธอก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มนอนสลบ เนื้อตัวถลอกเต็มไปด้วยเลือด ปาหนันเห็นหนุ่มนิรนามอาการปางตาย จึงรีบให้คนงานแบกร่างกลับมารักษาตัวที่บ้าน แต่พอ นายเคี่ยม (สันติสุข พรหมศิริ) พ่อของเธอ และ สหัส(ภูริ หิรัญพฤกษ์) ลูกน้อง เห็นหน้าชายหนุ่ม ทั้งคู่ก็แทบช็อค  นายเคี่ยมยื่นคำขาดไล่ให้หนุ่มนิรนามออกไปจากบ้าน แต่ปาหนันไม่ยอม

ระหว่างนั้น นาวิศ (โตโน่-ภาคิน) ก็ฟื้นขึ้นมาได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน นาวิศจำเสียงนั้นได้แม่นยำ เพราะชายฉกรรจ์เจ้าของเสียงนั้นก็คือสหัส คนที่หลอกพาเค้ามาฆ่าเมื่อคืน นาวิศรู้ว่าทางรอดเดียวคือต้องแกล้งความจำเสื่อม เมื่อนายเคี่ยมเห็นว่านาวิศความจำเสื่อมก็สงสาร ยิ่งปาหนันอ้อนวอนให้ไว้ชีวิต นายเคี่ยมก็ใจอ่อนยอมให้ปาหนันพาชายหนุ่มไปอยู่บ้านเล็กกลางสวนมะพร้าว แล้วให้ เดื่อ(อู๊ด เป็นต่อ) คนงานสวนมะพร้าวคอยดูแล โดยปาหนันตั้งชื่อใหม่ให้นาวิศว่านายพร้าว

ระหว่างรักษาตัวนาวิศพยายามสืบหาสาเหตุที่ถูกหลอกมาฆ่า ด้วยการแอบถามปาหนันถึงนายเคี่ยมบ่อย ๆ แต่ปาหนันก็เอาแต่พูดถึงความดีของพ่อ จนนาวิศมั่นใจว่าไม่มีใครรู้ถึงความโหดเหี้ยมของนายเคี่ยม นาวิศจึงตั้งใจจะกระชากหน้ากากนายเคี่ยมให้ได้

ซึ่ง ความจริงแล้วนายเคี่ยมได้รับคำสั่งจาก ธานี (กัปตัน-ภูธเนศ) อาแท้ ๆ ของนาวิศ ให้วางแผนหลอกนาวิศไประนองเพื่อฆ่าปิดปาก เพราะธานีหวังจะฮุบมรดกทุกอย่างของนาวิศ แต่พอเรื่องราวกลับตาลปัตร นายเคี่ยมจึงต้องปกปิดธานีเรื่องที่นาวิศยังไม่ตาย แต่ ระริน (นิโคล เทริโอ) ภรรยาของธานี กลับสงสัยเรื่องการหายตัวไปของนาวิศ จึงให้ รสา (ฟาง-พิชญา) น้องสาวไปตามหานาวิศที่ระนอง ธานีรู้เข้าเลยสั่งให้ลูกน้องสะกดรอยตามรสาอีกที จนได้รู้ความจริงว่านาวิศยังไม่ตาย ธานีโกรธมากที่นายเคี่ยมขัดคำสั่ง เลยขู่จะเอาชีวิตปาหนันลูกสาวสุดที่รักถ้าไม่จัดการฆ่านาวิศเสีย

นายเคี่ยมเครียดมากแต่เพราะไม่อยากส่งนาวิศไปตาย จึงวางแผนสลับตัวนาวิศกับศพชายนิรนาม แล้วหลอกธานีว่าเป็นศพนาวิศ ธานีดีใจมากเพราะในที่สุดทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็จะตกเป็นของเค้า แต่แล้วความลับเรื่องนาวิศยังไม่ตายก็แตก ธานีโกรธสุดขีดที่ถูกนายเคี่ยมหลอกซ้ำ จึงบุกไปฆ่าทันที แต่นายเคี่ยมกลับพาปาหนันและครอบครัวหนีไปซะแล้ว

ปาหนันหมดอาลัยเมื่อต้องจากกับนาวิศ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งคู่ต่างก็ผูกพันรักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง และเมื่อนาวิศรู้ความจริงทั้งหมดว่า คนที่ต้องการเอาชีวิตเค้าคือธานี นาวิศจึงให้คำมั่นกับปาหนันว่าหลังจัดการกับธานีเรียบร้อย เค้าจะกลับมาหาปาหนัน และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่ ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะจู่ ๆ นาวิศก็ประสบอุบัติเหตุความจำเสื่อม ทำให้ความทรงจำระหว่างเค้าและปาหนันหายไป ธานีจึงได้โอกาสป้อนข้อมูลใหม่ใส่หัวนาวิศ ว่านายเคี่ยมคือคนที่ต้องการฆ่านาวิศ เพราะนาวิศดันไปรู้เห็นเรื่องที่นายเคี่ยมโกงเงินบริษัท

ส่วนปาหนันที่นับวันรอการกลับมาของนาวิศ แต่พอได้เจอกัน นาวิศกลับจำเธอไม่ได้ ทำให้ปาหนันเศร้าเสียใจอย่างหนัก ถึงขั้นตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสหัส คนที่รักและหวังดีกับเธอมาตลอด…สุดท้ายความทรงจำของนาวิศจะกลับคืนมาหรือ ไม่? ความรักระหว่างนาวิศและปาหนันจะลงเอยเช่นไร? ติดตามชมได้ใน ละครบุหงาหน้าฝน ทุกคืนวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ช่อง 5 ละคร บุหงาหน้าฝน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 21 กันยายน 2554

รายชื่อนักแสดงนำในละคร บุหงาหน้าฝน

ภาคิน  คำวิลัยศักดิ์   แสดงเป็น   นาวิศ
ศิริพิชยา  วิสิฐไวทยากุล   แสดงเป็น   ปาหนัน
ภูธเนศ  หงษ์มานพ   แสดงเป็น   ธานี
นิโคล  เทริโอ   แสดงเป็น   ระริน
ภูริ  หิรัญพฤกษ์   แสดงเป็น   สหัส
พิชญา  เชาวลิต   แสดงเป็น   รสา
สันติสุข  พรหมศิริ   แสดงเป็น   นายเคี่ยม
เดือนเต็ม  สาลิตุล   แสดงเป็น   ยายเจ่ง
ยุทธนา  กานิล   แสดงเป็น   แท่น
อู๊ด  เป็นต่อ   แสดงเป็น   เดื่อ
อรรถพร  สุวรรณ   แสดงเป็น   ชาติ
ณัฐญา  หวังวงศ์สกุล   แสดงเป็น   ทับทิม

บ้านเราจงเจริญ

เทศกาล ปีใหม่ย่างกรายเข้ามา หลายต่อหลายชีวิตในกรุงเทพฯ กำลังอยู่ในบรรยากาศแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองที่ RCA ย่านบันเทิงที่เต็มไปด้วยแสงสีและความสนุกสนาน จ๋อมแจ๋ม ในชุดซานตี้สาวสุดเซ็กซี่กับเพื่อนๆ กำลังทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย หน้าที่ของพวกเธอก็คือการเดินแจกสินค้าตัวอย่างให้กับผู้คนที่มาเที่ยวกลาง คืน

แจ๋มเป็นหญิงสาวหน้าตาดีที่อยากเป็นดารา เลยไปสมัครงานที่โมเดลลิ่งของ เจ๊หมิวแต่สุดท้ายหางานทำไม่ได้ เจ๊หมิวเลยพาแจ๋มมารับจ๊อบเดินแจกสินค้า แจ๋มทั้งเมื่อย เหนื่อย และหิว เมื่อเธอถูกเจ๊หมิวหักค่าแรงเพราะแจกของไม่หมดแจ๋มเลยโมโห เอาถุงซานตี้ทุ่มใส่เจ๊หมิวก่อนขอลาออก แต่โชคร้ายถุงอัดเข้าดั้งพลาสติกของเจ๊หมิว เลือดกำเดาสาดกระจายแจ๋มวิ่งหนีเจ๊หมิวไปหลบที่ท้ายรถกะบะจนเผลอหลับไป

เจ้าของรถคันนั้นคือ วิทย์ นายหน้าขายที่ดินจอมกะล่อน ใช้เงินเกินตัวจนเป็นหนี้บานเบอะ เจ้าหนี้เลยบุกมาอุ้มที่งานปาร์ตี้ วิทย์หนีออกมาได้อย่างหวุดหวิดแล้วขับรถหนีกลับบ้านที่ต่างจังหวัด โดยไม่รู้ว่าที่ท้ายรถมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญติดมาด้วย วิทย์เกิดวูบหลับ รถเสียหลักแฉลบลงคูน้ำข้างทาง แจ๋มตกใจตื่นขึ้นมาร้องลั่น วิทย์ก็ตกใจที่เห็นผู้หญิงแปลกหน้าติดรถมาด้วย แจ๋มมองไปรอบตัวเห็นทุ่งนาโล่งเตียนก็โวยวายลั่น วิทย์บอกแจ๋มว่าที่นี่คือ

ระหว่างนั้น เฮียโอ่ง กับเจ๊อึ่ง คนแถวบ้านของวิทย์ผ่านมาเจอ เลยรับวิทย์กับแจ๋มเข้าหมู่บ้านไป อบต.สนอง พ่อของวิทย์แปลกใจที่วิทย์กลับบ้าน โดยไม่บอกล่วงหน้า แถมยังพาผู้หญิงมาด้วย วิทย์ไม่กล้าบอกพ่อเรื่องที่หนีเจ้าหนี้มา เลยโกหกว่าเขากับแจ๋มเป็นแฟนกัน เฮียโอ่งกับเจ๊อึ่งสองผัวเมียเป็นเจ้าของร้านขายของชำเมาท์กันซะข่าวนี้ลือ กระฉ่อนไปทั่ว

อบต.สนองจัดงานทำบุญปีใหม่ที่วัด ชาวบ้านพากันมาร่วมงานเพราะอยากดูหน้าแจ๋ม รวมไปถึงสายชล ชายหนุ่มที่เรียนจบจากกรุงเทพฯ แล้วกลับมาทำเกษตรที่บ้านเกิด แจ๋มสนิทกับสายชลอย่างรวดเร็วจนวิทย์อดหมั่นไส้ไม่ได้ น้ำอ้อย พัฒนากรสาวแก่นกะโหลก ลูกสาวของเฮียโอ่งและเจ๊อึ่งที่แอบชอบสายชลอยู่ เห็นแจ๋มใกล้ชิดสายชลก็อดหมั่นไส้ไม่ได้เหมือนกัน จึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับแจ๋มทันที ส่วนวิทย์เครียดเพราะโดนเจ้าหนี้ขู่จะเอาชีวิต วิทย์ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน แต่ในงานบุญนี้เองที่วิทย์ได้พบทางออก ที่อำเภอจงเจริญมีพื้นดินกันดารแห้งแล้งจนชาวบ้านขายที่ดินไปอยู่ในเมือง สายชลพยายามบอกชาวบ้านรักษาที่ดินเอาไว้ แต่ก็ลำบากเพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมมากว้านซื้อที่ดินไปทำโกดังเก็บสารพิษ วิทย์จึงคิดเอาที่ดินของพ่อไปขายเพื่อเอาค่านายหน้าไปใช้หนี้ แต่เรื่องไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะสายชลทดลองทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวทางพระราชดำริของในหลวง เขาทำในที่ดินของเขาเองแล้วได้ผลดี จึงชวนชาวบ้านให้ทำตาม และโน้มน้าว อบต.สนอง ซึ่งมีที่ดินอยู่หลายสิบไร่ให้ทำเป็นแบบอย่างเพื่อให้ชาวบ้านเกิดความเชื่อ มั่น แต่ความคิดของสายชลสวนทางกับวิทย์ เมื่ออบต.สนองตกปากรับคำสายชล วิทย์จึงพยายามขัดขวาง

สายชลเริ่มขุดสระในที่ดินของ อบต.สนอง โดยมีน้ำอ้อยคอยช่วยเหลือ วิทย์อาสาเข้าไปช่วย อบต.สนองเลยให้แจ๋มตามไปช่วยวิทย์ แจ๋มชื่นชมสายชลและวิทย์ แต่เธอไม่รู้ว่าวิทย์มีแผนสกปรก น้ำอ้อยสังเกตเห็นพิรุธบางอย่างในตัววิทย์จึงบอกสายชล แต่สายชลไม่เชื่อในที่สุดวิทย์ก็ทำสำเร็จ สายชลทำงานไม่สำเร็จตามที่ อบต.สนองกำหนดไว้ จึงยอมรับความพ่ายแพ้ วิทย์เตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ แจ๋มรู้สึกอาลัยอำเภอจงเจริญ

วิทย์ มาถึงกรุงเทพฯ และเตรียมรับเงินจากการขายที่ดิน แจ๋มรู้ถึงแผนร้ายของวิทย์ เธอเสียใจมากที่วิทย์เห็นแก่ตัวคิดทำลายบ้านเกิด จึงทะเลาะกับวิทย์อย่างรุนแรง พอวิทย์คิดได้มันก็สายไปเสียแล้ว อบต.สนองและชาวบ้านได้รับข่าวร้ายว่าบ้านเกิดกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นโรงเก็บ สารพิษ สายชลขอโทษน้ำอ้อยที่ไม่เชื่อเธอตั้งแต่แรก ฝ่ายวิทย์ที่สำนึกตัวแล้วจะเข้ามาช่วยเหลือบ้านเกิดของเค้ายังไง ? และบทสรุปความสัมพันธ์ระหว่างวิทย์กับแจ๋มจะลงเอยอย่างไร ?

บ่วงรัก

พิณทอง อาศัยอยู่กับ พรรณี แม่ของเธอและ เพชรแท้ พี่ชาย ในชุมชนแออัดแถบชานเมือง หลังจากพ่อของพิณเสียชีวิตพรรณีก็ต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการรับผ้ามาเย็บ ที่บ้าน พิณเรียนจบปวช. ด้านการตลาด และได้ทำงานในบริษัทธุรกิจส่งออกของ ธานินทร์ เลิศชัยวัฒน์ ในตำแหน่งผู้ช่วยโอปเรเตอร์ แต่พิณโดน ชนะศึก ลูกชายของธานินทร์ไล่ออกเพราะบกพร่องในหน้าที่ ด้วยความสงสารและรู้ว่าพิณเป็นลูกสาวของอดีตคนรักเก่า ธานินทร์จึงรับพิณเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขา

เพชรเรียนจบปวช. สาขาพลศึกษา และทำงานเป็นครูฝึกที่สปอร์ตคลับแห่งหนึ่ง และที่นี่เองทำให้เพชรได้พบกับ ชนกนันท์ น้องสาวของชนะศึก ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันคอยหาทางกลั่นแกล้งกันตลอดเวลา ธานินทร์พยายามหาทางใกล้ชิดพิณเพราะอยากรู้เรื่องของพรรณี ทำให้ชนะศึกกับชนกนันท์เข้าใจผิดคิดว่าพิณจะมาหลอกธานินทร์ ชนะศึกหาทางกลั่นแกล้งพิณด้วยการให้ทำงานหนักๆ แต่สุดท้ายความใกล้ชิดกัน ทำให้ความรู้สึกของชนะศึกที่มีต่อพิณเริ่มเปลี่ยนไป

ชนก นันท์เข้าใจผิดเรื่องธานินท์กับพิณถึงขั้นบุกเข้าไปตบพิณถึงที่ทำงาน ก่อนจะกลับไปฟ้องอังคณา อังคณาจึงสั่งให้ เรืองโรจน์ เลขาส่วนตัวของธานินทร์ตามสืบเรื่องนี้ ด้านชนะศึกได้ขอร้องให้ธานินทร์ย้ายพิณมาทำงานกับเขาแทน โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้เกิดคำครหา แต่จริงๆ แล้วเขาอยากให้พิณมาอยู่ใกล้ๆ ชนกนันท์ตามไปหาเรื่องพิณที่บ้านและได้พบกับเพชร ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ชนกนันท์หลอกเพชรออกมาข้างนอกให้นักเลงรุมทำร้าย เพชรแค้นใจมากตามไปต่อว่าถึงคอนโด ก่อนจะลงมือปลุกปล้ำชนกนันท์

อังคณา รู้ความจริงจึงเรียกพรรณีมาต่อว่า พรรณีขอร้องธานินทร์ให้เลิกยุ่งกับเธอและครอบครัว คืนนั้นเองพรรณีให้เพชรกับพิณช่วยกันเก็บข้าวของย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่น อังคณาโหมกินเหล้าจนเมามาย แล้วพร่ำเพ้อว่าธานินทร์ไม่เคยรักเธอ เรืองโรจน์ปลอบอังคณาและในที่สุดทั้งสองต่างก็ตกเป็นของกันและกัน สองเดือนผ่านไป ชนกนันท์ตรวจพบว่าตัวเองตั้งท้อง เพชรรู้ข่าวรีบมาหาชนกนันท์ที่บ้าน เธอบอกกับเพชรว่าจะทำแท้ง เพชรโกรธมากต่อว่าชนกนันท์อย่างรุนแรง

ก่อนกลับคนขับรถของชนะศึก เห็นเพชรจึงสะกดรอยตามไปและได้รู้ที่อยู่ของครอบครัวพิณ จึงรีบรายงานให้ชนะศึกทราบ ชนะศึกรู้เรื่องอังคณากับเรืองโรจน์ รู้สึกผิดหวังในตัวอังคณามาก ชนะศึกตัดสินใจบอกที่อยู่ของพรรณีให้ธานินทร์รู้ ธานินทร์รีบไปหาพรรณี ธานินทร์บอกกับพรรณีว่าเขาตัดสินใจจะหย่าขาดจากอังคณาเพื่อจะมาดูแลพรรณี และขอให้พรรณีพาไปไหว้พระที่เกาะแห่งหนึ่งที่ทั้งคู่เคยไปไหว้มาด้วยกัน ชนะศึกรับอาสาพาทุกคนไปที่เกาะ

ระหว่าง ที่ชนะศึกกับพิณกำลังจะปรับความเข้าใจกัน เพชรได้เข้ามาบอกข่าวร้ายเรื่องเรือที่ธานินทร์กับพรรณีนั่งไปด้วยกันเกิด อุบัติเหตุ ธานินทร์กับพรรณีจมน้ำเสียชีวิตด้วยกันในพินัยกรรมของธานินทร์ระบุไว้ว่า ทรัพย์สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นโมฆะ หากชนะศึกไม่ได้แต่งงานกับพิณ อังคณาไม่พอใจมาก หลังจากชนะศึกกับพิณจดทะเบียนสมรสกันแล้ว พิณได้ขอตัวกลับไปเก็บของที่บ้าน และเธอก็ไม่ย้อนกลับมาหาชนะศึกอีกเลย

ชนก นันท์นัดหมอทำแท้ง เพชรมาดักรอชนกนันท์วิ่งหนีไปแล้วโดนรถชนอย่างแรงจนแท้งลูก เพชรรีบพาชนกนันท์ไปส่งโรงพยาบาล และได้พบกับชนะศึก ชนะศึกจึงสารภาพกับเพชรว่าเขาต้องการพิณและอยากให้พิณไปใช้ชีวิตอยู่กับเขา ในฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพชรจึงยอมบอกที่อยู่ของพิณที่นครนายก ระหว่างทางชนะศึกประสบอุบัติเหตุ ช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปเป็นอัมพาต ชนะศึกจึงล้มเลิกความคิดที่จะตามพิณกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับคนพิการ

สามเดือนผ่านไปมีคนมาชวนพิณให้ไปทำงานที่ไต้หวัน พิณอยากจะลืมเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจจะไปไต้หวัน แต่ก่อน ไปพิณต้องเตรียมเอกสารทางกฎหมายมากมาย ที่สำคัญเธอต้องได้รับความยินยอมจากสามีตามกฎหมายเสียก่อน นั่นหมายความว่าชนะศึกจะต้องเซ็นยินยอมการจากไปของเธอ แต่พิณจะทำใจไปพบชนะศึกอีกครั้งได้หรือไม่ แล้วสุดท้ายเรื่องราวความรักของพิณและชนะศึกจะลงเอยเช่นไร ติดตามชมเรื่องราวสุดเข้มข้นนี้ได้ในละครดราม่าเรื่อง “บ่วงรัก”

รายชื่อนักแสดงละคร บ่วงรัก

รัฐศาสตร์ กรสูต แสดงเป็น ชนะศึก
พิชญา ศรีเทพย์ แสดงเป็น พิณทอง
ภูริ หิรัญพฤกษ์ แสดงเป็น เพชรแท้
เมย์ เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น ชนกนันท์
พิศาล อัครเศรณี แสดงเป็น ธานินทร์
ดวงตา ตุงคะมณี แสดงเป็น อังคณา
กาญจนา จินดาวัฒน์ แสดงเป็น พรรณี

ชิงชัง

ผู้ใหญ่แก้ว กับ นางทองคำ แห่งท่าน้ำอ้อย นครสวรรค์ มีลูกสาว 4 ใบเถา คือ อิ่ม อุ่น บังอร อารีย์ ทุกคนต่างหวังจะมีชีวิตที่ดี แต่ความรัก โลภ โกรธ หลง ที่มีอำนาจเหนือกว่าทุกสิ่ง ทำให้สี่พี่น้องต้องแก่งแย่งชิงดีกัน จนชีวิตผันผวนไปอย่างที่คาดไม่ถึง อิ่ม พี่สาวคนโต เป็นที่รักของ ยอด นักเลงเจ้าถิ่น เช่นเดียวกับ อิน ลูกชายเศรษฐีใหญ่แห่งท่าน้ำอ้อย ก็หมายปองอิ่มอยู่เช่นกัน เมื่อยอดใช้คุณไสยทำเสน่ห์ให้อิ่มยอมตกเป็นของเขา แล้วพาอิ่มหนีไปก่อนวันแต่งงาน อินจึงประกาศทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อล้างแค้นยอด เพื่อเอาตัวอิ่มกลับคืนมา

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการจองเวร ที่ทำให้ทุกชีวิตต้องเปลี่ยนไป อุ่น ถูกพ่อบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานกับอินแทนอิ่ม อุ่นจึงหนีออกจากบ้าน ยิ่ง น้องชายของยอดที่แอบชอบอุ่น ตามอุ่นไปด้วย ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าอุ่นกับยิ่งหนีตามกัน อุ่นใช้ชีวิตระหกระเหินไปตามยถากรรม

บังอรที่แอบรักอินอยู่ จึงได้แต่งงานกับอินสมใจ แต่อินกลับไม่เหลือใจรักให้ใครนอกจากอิ่ม บังอรถูกทอดทิ้งเลยหาทางออกด้วยการคบชู้กับ สมชาย ส่วนอิ่มกับยอดถูกมารผจญ เพราะ อิน ไม่วางมือระรานยอด อินจ้างให้ มาลัย ซึ่งชอบในตัว ยอด อยู่แล้ว ใช้มนต์เสน่ห์จนทำให้ยอดหลง อิ่มเสียใจมากจึงหนีไปจากยอด

ส่วนอารีย์หลังชีวิตผกผันต้องหนีไปกับ ปิงกรรมกรลูกจ้างในบ้าน และสุดท้ายก็ตกเป็นของ ปิง ด้วยความจำใจ ปิงรักอารีย์มากแต่อารีย์คิดตลอดเวลาว่าจะต้องหลุดพ้นจากความยากลำบากกับการ อยู่กับปิงให้ได้ แต่แล้วความทุกข์ก็มาเยือนอารีย์ ซ้ำ เมื่อต้องตั้งท้องกับ ปิง ทำให้อารีย์ต้องทนอยู่กับ ปิง ด้วยความจำใจ

ยิ่ง มั่นใจว่า ยอด ไม่ได้รัก มาลัย จะต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ยิ่งจึงกลับไปหา ยัง ผู้เป็นพ่อ และพากันไปปรึกษาหลวงลุง หลวงลุงบอกว่าให้หาทางเอาตัวยอดมาเข้าพิธีล้างอาถรรพ์ให้ได้ อินจะมาขัดขวาง แต่ไม่ทัน หลวงลุงมาเอาตัวยอดไปจนได้

ยอดหลุดจากเสน่ห์ รู้ว่าตนเสียอิ่มไปแล้ว ยอดตั้งใจว่าจะไปตามอิ่ม แต่ไม่มีใครรู้ว่าอิ่มอยู่ไหน อินรู้ว่ายอดหลุดจากเสน่ห์ กลัวว่ายอดจะเอาตัวอิ่มคืนไป จึงเร่งให้คนตามหาอิ่มให้เจอก่อนยอดอิ่มไปขายขนมที่สถานีรถไฟ ชวนอารีย์ไปช่วยขาย ตอนแรกอารีย์ไม่เต็มใจ แต่โดนอิ่มบังคับให้ช่วยปิงทำมาหากิน

อารีย์ไปขายของ แล้วได้พบกับ พงษ์ นายทหารยศร้อยเอก พงษ์ติดใจอารีย์ เพราะดูไม่ออกว่าอารีย์กำลังท้อง อารีย์เห็นพงษ์แล้วคิดถึงความฝันตอนเด็กของเธอ ที่อยากจะเป็นคุณนายขึ้นมาอารีย์จึงหว่านเสน่ห์ใส่พงษ์ ปกปิดไม่ให้รู้ว่ามีผัวแล้ว อินเจอตัวอิ่มก่อน อินบอกให้อิ่มรู้ว่ายอดหลุดจากเสน่ห์แล้ว และกำลังจะทิ้งมาลัยมาหาอิ่ม ตอนแรกอิ่มดีใจ แต่อินหลอกอิ่มว่ามาลัยกำลังตั้งท้องลูกของยอด เมื่อยอดมาเจออิ่ม อิ่มจึงปฏิเสธยอดไป ทำให้ยอดเสียใจมาก

ยอดกลับไปที่บ้านหนองโพ อุ่นดีใจที่ยอดกลับมา อุ่นหวังว่าเมื่อยอดเลิกกับอิ่ม จะหันมาหาตน แต่มาลัยกลับย้ายตามเข้ามาอยู่ แสดงตัวอ้างความเป็นเมีย มาลัยแกล้งทำเป็นท้อง ยอดจึงต้องจำทนอยู่กับมาลัยเพื่อรับผิดชอบ มาลัยกับอุ่นมีเรื่องตบตีกันไม่เว้นแต่ละวัน อุ่นสงสัยว่ามาลัยจะโกหกยอดเรื่องตั้งท้อง

ส่วนบังอรยังคบชู้กับสมชาย เอียดกับอ๋าสงสัยบังอร เริ่มจับตามมองอุ่นจับได้เรื่องมาลัยโกหก ยอดรีบจะไปบอกอิ่ม มาลัยบอกอินว่าแผนแตก อินไหวตัวทัน เลยแกล้งสร้างสถานการณ์ให้ยอดเข้าใจผิด ยอดไปเห็นอิ่มกับอิน เข้าใจว่าอิ่มตัดสินใจเลือกอินไปแล้ว จึงกลับมาหนองโพด้วยความช้ำใจยอดหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ล้มเจ็บ มาลัยทนเบื่อไม่ไหวเลยทิ้งยอดไป อุ่นคอยดูแลยอด ยอมทำทุกอย่าง ถึงขั้นไปเป็นกรรมกรขุดดิน ตัดอ้อย เพื่อหาเงินมาเลี้ยงยอด

ยิ่งสงสารอุ่น เลยตัดสินใจหาเงินด้วยการปล้นเรือขนสินค้าที่ผ่านไปมา ข่าวเรือถูกปล้นแพร่ออกไป อินสั่งเพิ่มอาวุธป้องกันเรือขนข้าวของตน แต่ไม่มีใครรู้ว่าโจรนั้นคือยิ่ง นอกจากไอ้หมาน ที่เป็นสมุนคอยช่วยยิ่ง อิ่มยังรักและคิดถึงยอดอยู่ อินคอยใส่ไฟว่ายอดเลวร้ายอย่างไร เพื่อให้อิ่มตัดใจจากยอด แต่อิ่มก็ไม่สนใจอินอยู่ดี เพราะเห็นแก่บังอร

อิ่มไปขายขนมจีน ให้อารีย์มาช่วย อารีย์ท้องเริ่มใหญ่ กลัวพงษ์จะเห็น เลยโกหกพงษ์ว่าจะไปช่วยพี่สาวขายของ ขึ้นๆ ล่องๆ คงจะเจอกันยาก ให้พงษ์ติดต่อเธอทางจดหมายแทน วันหนึ่ง ระหว่างที่ยิ่งไม่อยู่ ยอดเพ้อด้วยพิษไข้ ยอดเพ้อหาอิ่ม อุ่นรู้ว่าเธอไม่มีทางได้ความรักจากยอด อุ่นสวมรอยเป็นอิ่มเข้าหายอด เพราะต้องการจะเป็นของยอดสักครั้ง ยิ่งกลับมาบ้าน อุ่นตัดสินใจรับปากแต่งงานกับยิ่ง แล้วตัดสินใจจะลืมเรื่องราวทั้งหมด

ยิ่งดีใจมาก สัญญากับอุ่นว่าขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหน้า จะแต่งงานกัน อารีย์เขียนจดหมายติดต่อกับพงษ์ โดยวางใจว่าปิงไม่มีทางรู้ เพราะปิงไม่รู้หนังสือ แต่จริงๆ แล้วปิงเริ่มผสมคำอ่านได้ และสงสัยว่าใครส่งจดหมายถึงอารีย์เป็นประจำ ยิ่งอยากได้เงินซื้อทองหมั้นให้อุ่น ยิ่งได้ข่าวเรือข้าวของอินจะผ่าน ความอยากได้เงินผสมกับความแค้น ยิ่งตัดสินใจปล้นเรือข้าวของอิน

บนเรือ ยิ่งเจออิน ยิ่งทำร้ายอินบาดเจ็บ แต่ตัวเองก็โดนยิงปางตาย ยิ่งหอบร่างกลับมาหาอุ่น สารภาพทุกอย่างแล้วสิ้นใจไป อุ่นกับยอดเสียใจมาก อินเห็นโอกาสจะทำลายยอด จึงให้การกับตำรวจว่ายอดเป็นโจรปล้นเรือตน ตำรวจออกล่าตัวยอด หมานมาเตือนให้ยอดหนี ตำรวจกำลังจะมาจับยอด ยอดเลยต้องหนี

อินยังบาดเจ็บจากการที่ถูกทำร้ายบนเรือ อิ่มรู้ข่าวว่าตำรวจออกล่ายอด เป็นห่วงมาก อิ่มมาพบอินเพื่อขอร้องไม่ให้เอาเรื่องยอด อินว่าถ้าต้องการให้เขาถอนคดี อิ่มต้องมาปรนนิบัติเขาจนกว่าจะหาย อิ่มยอมทำตาม เพื่อให้อินไม่เอาเรื่องยอด ยอดปลอมตัวมาแอบดูอิ่ม เห็นภาพบาดใจอีกครั้ง ยอดจึงหนีไป

อารีย์คลอดลูกก่อนกำหนด ปิงดีใจมาก แต่อารีย์ไม่สนใจเลย มุ่งแต่จะเสิรมสวยให้กลับมาสาวเหมือนเดิม ปล่อยให้ปิงเลี้ยงลูกคนเดียว อิ่มช่วยปิงเลี้ยงลูกด้วยความอ่อนใจ
อุ่นอยู่ตัวคนเดียวที่หนองโพไม่ได้ เลยกลับมาหาพ่อแม่ที่ท่าน้ำอ้อย แต่เกิดผิดใจกับผู้ใหญ่แก้ว สองพ่อลูกทะเลาะกันใหญ่โต จนตัดพ่อตัดลูกกันอีกครั้ง อุ่นลั่นปากว่าจะไม่มาเหยียบบ้านผู้ใหญ่แก้วอีก
อุ่นไม่มีที่ไป เร่ร่อนไปจนเป็นลม ชดมาช่วยอุ่นเอาไว้

อุ่นฟื้นขึ้นมา เจอชด ชดจะปลุกปล้ำเอาอุ่นเป็นเมีย แต่อุ่นดันอาเจียนใส่ชด อุ่นไปหาหมอ ปรากฏว่าอุ่นท้อง อุ่นบอกชดว่าเป็นลูกของยิ่ง ชดโกรธมาก แทนที่จะเลี้ยงอุ่นเป็นเมีย เลย
เอาอุ่นไปขาย ให้เป็นคนงาน ทำงานรับใช้บรรดาโสเภณีในซ่องของชาติชาย

อินอาการดีขึ้น เริ่มควงอิ่มไปไหนๆ บังอรมาอาละวาด อิ่มเกรงใจบังอร ไม่อยากมายุ่งกับอิน อินเอาเรื่องของยอดมาขู่ อิ่มเลยต้องจำยอมตามเงื่อนไขของอินอย่างจำใจ อิ่มยังถามข่าวคราวของยอดจากหลวงลุง แต่ไม่มีใครรู้ ใครๆ บอกอิ่มว่ายอดคงไม่แคล้วเป็นโจร แต่ความจริงยอดเปลี่ยนชื่อเป็น “เสือ” เป็นจับกังที่โรงสีเถ้าแก่ส่ง ยอดไปอยู่กับเพื่อนชื่อแสน ด้วยความที่ยอดขยันและหน้าตาดี ทำให้ วนิดา ลูกสาวเถ้าแก่ส่งแอบชอบยอด ยอดไม่สนใจ แต่ ดำ หัวหน้าคนงานที่แอบรักวนิดาอยู่ อิจฉาและต้องการจะกำจัดยอดแสนแนะนำให้ยอดรู้จักปิง แต่ยอดไม่รู้ว่าปิงคือผัวของอารีย์

มีคนไปเจออุ่นในซ่องที่มโนรมย์ ข่าวไปถึงผู้ใหญ่แก้ว ผู้ใหญ่แก้วล้มไปอีกครั้ง คราวนี้อาการสาหัส อิ่มจึงตัดสินใจกลับไปท่าน้ำอ้อยเพื่อปรนนิบัติพ่อที่ป่วย เมื่อไม่มีอิ่ม อารีย์จึงได้โอกาสนัดหมายกับพงษ์ จะไปหาที่บางกอก ในคืนที่อารีย์จะเอาลูกหนีไปปิงจับได้ ไม่ยอมให้เอาลูกไป เกิดการต่อสู้ยื้อยุดกัน จนเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน ปิงติดอยู่ในกองไฟ อารีย์พาลูกหนี ปิงร้องไห้ใจจะขาดด้วยความอาลัยลูก ไฟสงบลง ไม่มีใครพบร่างของปิง ปิงหายสาบสูญไป ไม่มีใครรู้ว่าปิงไปไหน

อารีย์เอาลูกชายมาฝากอิ่ม ให้อิ่มรับเป็นแม่ของเด็กชายที่หลวงลุงตั้งชื่อให้ว่า “อาทิตย์” แล้วอารีย์ก็จากไป บังอรโดนเอียดอ๋าจับได้ว่าแอบไปหาผู้ชายอื่น เอียดและอ๋าฟ้องอิน แต่ไม่มีหลักฐาน อินไม่หึงบังอร แต่ตั้งใจว่าถ้าหาหลักฐานได้เมื่อไหร่ จะได้มีเหตุหย่าขาดจากบังอร จึงสั่งให้เหนาะสะกดรอยตามบังอร วนิดาเอาใจยอด ดำหมั่นไส้ เลยลงมือทำร้ายยอด แต่ดันแพ้ ดำอาฆาตยอด อิ่มได้ข่าวว่ามีคนเห็นยอดอยู่ที่โรงสีเถ้าแก่ส่ง เลยไปตามหา อิ่มเจอวนิดา วนิดาบอกว่าไม่มีคนงานชื่อยอด อิ่มหมดหวัง แต่ในใจยังแอบรักและรอคอยยอดด้วยความซื่อสัตย์

อุ่นท้องโต ทำงานในซ่องของชาติชาย ทำงานหาเงินมาได้ก็โดนชดตบตีเอาไปหมด อุ่นได้แต่เก็บความแค้นไว้ ในใจวันหนึ่ง ระหว่างที่เรือขนข้าวไปบางกอก ดำฉวยโอกาสทำร้ายยอดตกน้ำไป ทุกคนเข้าใจว่าตายแสนมาบอกอิ่มว่ายอดตายแล้ว อิ่มเสียใจมาก อุ่นได้ข่าวยอดตายจากหมาน เสียใจ อุ่นคลอดลูกเลยในคืนนั้น

อุ่นเอาลูกแบเบาะมาทิ้งไว้ให้ เพราะไม่อยากให้ลูกของยอดโตขึ้นในซ่อง และต้องเรียกคนอย่างชดว่าพ่อ อิ่มรับไว้ด้วยความเต็มใจ หลวงลุงตั้งชื่อให้ลูกของอุ่นว่า ยงชัย อินเห็นว่ายอดตายแล้ว เลยขอแต่งงานกับอิ่ม อิ่มบอกว่าเธอไม่มีวันจะแย่งอินจากบังอร อินบอกว่าบังอรกับเขาอีกไม่นานก็จะแยกทางกัน อิ่มตกใจ ถามว่าเพราะอะไร อินบอกว่าสักวันจะรู้เอง

บังอรมีอาการแพ้ท้อง กลุ้มใจ พยายามปกปิดจากเอียดและอ๋า แต่ไม่สำเร็จบังอรแอบไปปรึกษาสมชาย สมชายแนะให้กินยาขับเลือด บังอรเตรียมตัวจะทำลายเด็กในท้อง แต่โดนอินจับได้เสียก่อน อ๋ากับเอียดตามมาเปิดโปงว่าพ่อของเด็กในท้องคือปลัดสมชาย อินขอหย่ากับบังอร

เรื่องบังอรมีท้องกับชู้มาถึงผู้ใหญ่แก้ว เหมือนฟางเส้นสุดท้าย ผู้ใหญ่แก้วสุดจะทนทานได้ ช้อกแน่นิ่งไป ผู้ใหญ่แก้วอาการร่อแร่ อิ่มเรียกน้องทุกคนกลับมาเพื่อดูใจพ่อในวาระสุดท้าย อารีย์กลับมากับพงษ์ ในฐานะสามีคนใหม่ บังอร-มาพร้อมลูกในท้องที่ไม่มีพ่อ อุ่น-มาในมาดของผู้หญิงทำงานกลางคืนที่กร้านชีวิต ร่างกายมีร่องรอยของการโดนตบตีอย่างต่อเนื่อง ทองคำขอให้ผู้ใหญ่แก้วให้อภัยลูกๆ ทุกคน ทั้งสี่พี่น้องกราบขออภัยพ่อก่อนที่ผู้ใหญ่แก้วจะสิ้นลมไป

ทองคำแบ่งสมบัติชิ้นเล็กๆ คือพระเครื่องและทองของผู้ใหญ่แก้วให้ลูกทั้งสี่ อุ่นยอมแลกพระเครื่องดีๆ ไปหลายองค์กับปืนปืนของพ่อ อิ่มแปลกใจว่าอุ่นจะเอาปืนไปทำไม อุ่นบอกว่า จะเอาไปเปลี่ยนชีวิตของตน อุ่นเอาปืนไปยิงชด แต่พลาด ชดไม่ถึงกับตาย ชาติชายมาเห็น แล้วขู่ว่าถึงชดตาย อุ่นไม่มีทางเป็นอิสระได้ เพราชดขายอุ่นให้เขาไปแล้ว เป็นเงินจำนวนมาก อุ่นบอกว่าเธอยินดีจะทำงานชดใช้ ขอแค่ให้ชดตาย ชาติชายให้อุ่นสัญญาว่ากับทำงานให้ 20 ปี อุ่นรับปาก แล้วยืนดูชาติชายยิงชดอย่างเลือดเย็น บังอรบังคับสมชายให้แต่งงานกับเธอจนได้ ทั้งสองแต่งงานกันได้ไม่เท่าไหร่ บังอรก็แท้งลูกอินขออิ่มแต่งงานอีกครั้ง อิ่มปฏิเสธ เธอตั้งใจจะอุทิศชีวิตเพื่อเลี้ยงดูอาทิตย์และยงชัยให้เป็นคนดี ไม่ผิดพลาดเหมือนพ่อแม่ของเขาทั้งสองคน อินเสียใจมาก จึงตัดสินใจ ออกบวชตลอดชีวิต

รายชื่อนักแสดง ชิงชัง

ภูธเนศ หงษ์มานพ     แสดงเป็น     ยอด
โสภิตนภา ชุ่มภาณี     แสดงเป็น     อิ่ม
รัฐศาสตร์ กรสูต     แสดงเป็น     อิน
พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร     แสดงเป็น     อุ่น
ภูริ หิรัญพฤกษ์     แสดงเป็น     ยิ่ง
อลิชา ไล่สัตรูไกล     แสดงเป็น     บังอร
อรจิรา แหลมวิไล     แสดงเป็น     อารีย์
อรรถพร ธีมากร     แสดงเป็น     ปิง
สรพงศ์ ชาตรี     แสดงเป็น     ผู้ใหญ่แก้ว
เดือนเต็ม สาลิตุล     แสดงเป็น     ทองคำ
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร     แสดงเป็น     สำเภา
ภัสสร บุญยเกียรติ     แสดงเป็น     ละเอียด
สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศารัตน์     แสดงเป็น     มาลัย
รุ่งเรือง อนันตยะ     แสดงเป็น     ปลัดสมชาย
กรุง ศรีวิไล     แสดงเป็น     หลวงลุง
จีระศักดิ์ ปิ่นสุวรรณ     แสดงเป็น     เจ๊กฟาด
วาสิฐี ศรีโลฟุ้ง     แสดงเป็น     ทองแดง
พสิน เรืองวุฒิ     แสดงเป็น     ชด
เรืองฤทธิ์ วิสมล     แสดงเป็น     ดำ
จักกะบุ๋ม เชิญยิ้ม     แสดงเป็น    ไอ้เหนาะ

ใจแจ๋วกับเรือจิ๋ว

เรื่องของเด็กต่างถิ่น ต่างที่ กลุ่มใหญ่ (เด็กมัธยมปลาย) เข้าค่ายกิจกรรมฤดูร้อนของทหารเรือ ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยเข้าฝึกอบรม “เรือใบมด” กับ เรือ โทหนุ่มหล่อ และจ่าทหารเรือจอมตลก แสนสนุกอีก 2 คน

ความชุลมุน วุ่นกับนานาความคิด ความชอบ และ ความถนัด ที่ต่างกันของเด็ก เช่น

“โอ๋”-“เอ๋” สองพี่น้องหนุ่มหล่อ มาจากสุพรรณบุรี มีตา ยาย เป็นครูลำตัด จึงมีทั้งความสมัยใหม่ในตัวของคนรุ่นใหม่ และแอบมีเสน่ห์ตรงได้นู่นนิดนี่หน่อยจากบรรพบุรุษพื้นเพดั้งเดิมมา โดยที่ทั้ง 2 คนไม่รู้สึกว่าน่าขันเหมือนบางคนที่คิด แต่กลับรู้สึกว่า ทั้งภาษาท้องถิ่น และการร้องลำตัดของเขา เป็นความสามารถพิเศษส่วนตัว ที่มีมากกว่าคนอื่นก็แล้วกัน

“นก” เด็กสาวที่ติด “โอ๋” “เอ๋” งอมแงม เป็นเด็กบ้านเดียวกัน สวย น่ารัก แก่นแก้ว เพราะสนิทกับเด็กผู้ชายอย่าง 2 คนนี้มาตลอด จนเหมือนว่า จะเป็นพี่ชายที่น่ารัก และหวงสุดๆ ไม่อยากให้ใครได้มาสนิทหรือ ได้รับความสนใจเท่า

“ก้อย” สาวสวยน่ารัก วัยทีนเอจ น่ารัก น่าจีบ น่าสนใจ เพราะเป็นคุณหนูเด็กกรุงเทพฯ (ด้วยกิริยาท่าที) แต่เมื่ออยู่ในค่าย เธอกลับทำให้เห็นว่าเธอไม่เคยหยิบโหย่ง เป็นคนหนักเอาเบาสู้ หนุ่มๆ ต่างก็อยากวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ…เธอตกเป็นคู่เขม่นกับ “นก” โดยไม่รู้ตัว แต่สุดท้าย จะสอน “นก” ด้วยซ้ำว่า คิดอะไรอยู่ในวัยของตัวเองที่ควรจะคิดก่อนเรียงลำดับ ควบคุมให้ถูก แล้วจะมีจุดมุ่งหมาย มีความสุขในที่สุด เพราะการจัดระเบียบตัวเอง สำคัญกว่าในสิ่งอื่นใด

“โอ๋” กับ “ก้อย” จะเป็นเด็กคู่ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ น่าติดตาม ด้วยความต่างของพื้นเพแล้วโคจรมาศึกษาซึ่งกันและกัน ทำให้ได้เรียนรู้ได้แลกเปลี่ยนแนวความคิด ทัศนคติ การเรียน อนาคต ควบคู่ไปกับปัญหาเฉพาะหน้า ที่เกิดขึ้นระหว่างอบรม”เรือใบมด” ทั้งในห้องเรียนและในการปฏิบัติในท้องทะเล เรื่องราวที่ดำเนินไปในค่ายฝึก จะสอน และให้แง่มุมต่างๆ นานา เช่น การปรับตัวให้เข้ากันได้ การช่วยเหลือแบ่งปันน้ำใจแบบบริสุทธิ์ การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เพราะการกีฬามีอะไรให้คิด ให้แก้ไข ในมุมต่างๆ มากมาย การแล่นเรือใบจะต้องรู้จักอุปกรณ์ต่างๆ ต้องรู้จักทิศทางของลม รู้จักการคำนวณ สอนให้เด็กใช้ความคิด พิจารณา รอบครอบ และช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดเมื่ออยู่กลางทะเล

“ริน” สาวน้อยร่างท้วม อวบขาว น่าตาหน้าเอ็นดูมากๆ เป็นสีสันในกลุ่มเด็กในค่ายนี้ เธอแต่งตัวสดใส เหมาะสม เธอกินๆๆขนมเก่งมาก โดยเฉพาะ ไอศกรีม “ริน” เป็นเพื่อนซี้สนิทกับ “ก้อย” เธออยากสวยเพรียวเหมือนก้อย แต่ก็กำหนดไว้ในความต้องการลิ้มรสอาหาร ขนม นม เนย ไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะสวยในแบบต้นฉบับของตัวเองมากกว่า…ความอ้วนไม่ได้ทำให้เธอ อุ้ยอ้าย เธอได้รับความคล่องตัว กระฉับกระเฉงมาจากการที่คบอยู่กับ ”ก้อย” เพราะ “ก้อย” เป็นสาวสวยที่พึ่งตัวเองซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเข็นรถที่จอดขว้างอยู่คนเดียวได้ ลากเรือลงทะเลคนเดียว เก็บเสา เก็บใบ ล้าง ทำความสะอาดอุปกรณ์ หรือ ครูฝึกสั่งให้ทำอะไรจะต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด จึงเป็นภาพที่น่าดู น่ามอง เมื่อ “สองสาว กทม.ฯ คู่นี้” ถูกคำสั่งให้ปฏิบัติอะไรก็ตาม…รินจะเป็นภาพของสาวสวยร่างท้วมที่ทำให้ความ น่าสนใจจุดอื่นๆในตัวที่น่าประทับใจและเอาเป็นแบบอย่างได้ ถึงแม้ว่าในบางเรื่อง ดูว่าจะเป็นผู้ตาม “ก้อย” อยู่ แต่ก็เรียกว่าเป็นการเลือกตามที่ถูกต้อง ถ้ามีเพื่อน ก็ควรเลือกเพื่อนที่น่าติดตาม เพราะทิศทางของเพื่อนที่ดูดี

“เงี๊ยว” เด็กชายหนุ่มจากแดนอีสาน พูดกลางได้ อีสานได้ ความสามารถพิเศษพื้นบ้าน คือ สวดมนต์ไพเราะเสียงใส น่าฟัง (สำเนียงอีสาน)

“ตั๊กแตน” สาวสีแทน แดนอีสาน พูดกลางได้ อีสานได้ ความสามารถพิเศษพื้นบ้าน คือ สวดมนต์ไพเราะเสียงใส เช่นกัน (สำเนียงอีสาน)

2 คนนี้ มาจากคนละจังหวัด แต่อีสานจะเป็นดินแดนศาสนา พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย เข้าวัด ปฏิบัติธรรม เด็กๆก็จะได้ไปด้วย เสน่ห์ของเด็ก 2 คนก็จะชี้ให้เห็น ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ ความกลัว ละอายต่อบาป ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของคำสอน แต่ก็ผสมผสานกับโลก ความทันสมัยได้อย่างลงตัว ไม่น่าเบื่อหน่าย เป็นตัวแทนของเครื่องมือเตือนใจให้ทุกคนสวดมนต์ภาวนาได้อย่างน่ารัก น่าชังที่สุด เพราะตกค่ำขึ้นมา เขา 2 คน จะพร้อมใจกันตะเบ็งเสียงสวดมนต์ เหมือนกับจะให้เทวดาบนสวรรค์รับรู้ จนหลายครั้งเข้า ทุกคนในค่ายต่างก็ต้องสวดมนต์ตามไปโดยปริยาย

ความน่ารักของชาวอีสาน ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย จะกิน จะอยู่ จะทำอะไร เด็ก 2 คนจะมีวิธีการได้น่ารัก น่าชัง เป็นที่รักของเพื่อนๆ และครูฝึกไปหมด แถมยังพาเพื่อนกินผักแปลกๆได้อีกตั้งหลายชนิด

ตลอดเวลา 1 เดือน ที่อยู่ด้วยกันในค่าย ทำให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนความเป็นตัวตนของกันและกัน แล้วก็หยิบจับของแปลกที่ดีๆ เข้ามาผสมผสานอยู่ในตัวได้อย่างสนุกสนาน ครื้นเครง ได้แง่คิด ได้คำสอน ได้มุมมองที่ดีไว้เตือนใจ ประกอบกับการเป็นอยู่รับรู้เรื่องราวของครูฝึก “เรือโทหนุ่ม วรศาสตร์ หรือ ครูเอ” ที่เปรียบเป็นพี่ชายคนโตได้เป็นอย่างดี เขาผู้มีประวัติการปฏิบัติตัวจากเยาวชน จนเป็นทหารของชาติ และยังเป็นครูฝึกสอน “เรือใบมด” ให้กับเด็กรุ่นแล้วรุ่นเล่า ส่งเด็ก ส่งทีมเยาวชนนานาชาติมากี่รุ่นแล้ว หัวใจของการเป็นครูฝึกนักกีฬา ยังเปี่ยมล้นไปด้วย พลังผักดันให้เยาวชนหัวใจแจ๋ว มีจุดมุ่งหมาย มีความรักชาติ กษัตริย์ รู้จักใช้ความสามารถตามระดับที่มีอยู่สร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเมืองได้

ถึงแม้ว่าอุปสรรคในชีวิตส่วนตัวของ “ครูเอ” ที่มีแทรกเข้ามาต่างๆนานาไม่ว่าจะเป็นสายงาน ความรัก และอนาคต แต่ “ครูเอ”ก็ถูกฝึกมาจากลูกผู้ชายเป็นนายทหารผู้เคร่งครัดกฎระเบียบ วินัย มากกว่าส่วนตัว ประเทศชาติเป็นหลัก และเขาก็ได้รับผลตอบแทนที่ลงตัวได้ในที่สุด

“ครูเค” พบรักกับ “สาวทราย” ลูกแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ เบเกอรี่ แสนอร่อยของชาวสัตหีบ ทรายเรียนปี 4 มหาวิทยาลัยดัง คณะเศรษฐศาสตร์ จัดว่าครบสูตรสาวเมืองนี้ ต้องเก่ง กล้า สามารถ เพราะอยู่ในดงทหารเรือ ถ้าจิตใจไขว้เขวไม่หนักแน่น ไม่เป็นของตัวเอง ก็อาจจะจบชีวิตเป็นแม่บ้านทหารเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว

“ครูเอ” มีคู่แข่งเป็นลูกชายเจ้าของกิจการมากมายในเมืองพัทยา-สัตหีบ ชื่อว่า “ตริน” ด้วยความที่มีธุรกิจเยอะ ลูกน้องเยอะ (แต่ไม่ถึงกับเป็นมาเฟีย) อุปนิสัยจึงดู”แน่ๆ” ไม่กลัวใคร เพราะไปไหนมาไหนคนเดียวไม่เป็น จึงรู้แต่วิธีที่จะอยู่แบบ “มีเพื่อน” ข้อเสียเปรียบก็คือ เวลาตัวต่อตัว นายทหารหนุ่มของเราก็ได้เปรียบ ด้าน มาด ความสง่างาม ประกอบกับวิชาชีพ

เชิงรักหักสวาท ของทั้ง 2 ฝ่าย จะมีชั้นเชิงที่ชวนติดตาม โดยมีฝ่ายสมาชิกพรรคของทั้ง 2 ฝ่ายที่เห็นได้ชัด ในความแก่น เซี้ยว เฮี้ยว เข้ม เด็กๆเหล่านั้นจะนำพา ”ชีวิตในค่ายเยาวชนกับเรือมด” ในแบบฉบับของ “คนหัวใจแจ๋วๆกับเรือจิ๋วๆ” ไปพบกับบรรยายกาศหลากหลาย ล้วนแล้วแต่แทรกแก่นสาร สาระ ชีวิต น้ำตา พึ่งพา แก้ไข บทเรียนสอนใจ จะค้นหาจุดไหนของชีวิต รับไปเลยทุกรส สนุก ขบขัน เฮฮา แง่คิดมุมมองที่ดีๆ