Tag Archives: ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์

อุ่นไอรัก

อุ่นไอรัก

ความรัก ความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัวจะช่วยพยุงชีวิตให้สมบูรณ์ ต่อสู้กับอุปสรรคบนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข

เมยาวี เป็นลูกสาวคนเดียวของ เมศร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจใหญ่กับ วิภาวี ผู้หญิงเก่งที่ร่วมบริหารธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีมาตลอดชีวิต ในวันเกิดครบ 17 ปีบริบูรณ์ของเมยาวี เธอได้รับของขวัญจากพ่อและแม่ที่ล้ำค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนตัว หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจเทียบได้กับสายสิญจน์ที่พ่อและแม่ช่วยกันผูกข้อมือให้เธอในตอนนี้ ด้ายแม้เก่าคร่ำคร่าด้วยผ่านเวลามาเท่าอายุของเธอ เพียงไม่กี่เส้นที่กระหวัดเกี่ยวพันกันนั้นล้วนถอดแบ่งมาจากด้ายมงคลจากพิธีสมรสของพ่อแม่ ความรักอย่างเปี่ยมล้นจากเมศร์และวิภาวี หล่อหลอมรวมในเมยาวีกลายเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตสมบูรณ์พร้อมคนหนึ่ง เมยาวีเป็นดาวเด่นของโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่สุดในกรุงเทพฯ เพียบพร้อมทั้งสติปัญญา รูปร่างหน้าตา ฐานะและชาติตระกูล ชีวิตคุณหนูยาวีไม่เคยพบกับคำว่าผิดหวัง ยกเว้นเรื่องการเรียนและกิจกรรมบางอย่างที่บางครั้งยาวีต้องหล่นลงมาเป็นอันดับสอง เพราะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง…กานติมา

กานติมา หรือ กาเหว่า เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเมยาวีมาตลอด นับตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน กาเหว่าทำหน้าตายเข้ามานั่งโต๊ะที่เพื่อนสองคนของเมยาวี คือ แยม และเยลลี่ จองไว้ก่อนหน้า ด้วยความอารมณ์ร้อนของเยลลี่และอาการขี้เบ่งของแยมทำให้เกิดเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกับกาเหว่า เมยาวีไม่อยากมีเรื่อง แต่ต้องทำเพราะช่วยเพื่อน เธอเลยพลาดท่าเล็บยาวสวยหัก เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจของเมยาวี ทำให้กาเหว่ามองเธอหัวจรดเท้า และรู้สึกเหม็นหน้ากันมาตั้งแต่นั้น เมยาวีและกาเหว่ามีอันต้องปะทะกันอยู่เนืองๆ เพราะทั้งคู่เรียนห้องเดียวกัน ผลการเรียนผลัดกันเป็นที่หนึ่งที่สองมาตลอด ในด้านกิจกรรม…คนหน้าตาดีอย่างเมยาวีมักจะได้เป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งอยู่เสมอ แต่กาเหว่าก็ไม่น้อยหน้า เมื่อไม่สู้เรื่องความสวย เธอก็ผลักดันให้ตัวเองได้เป็นประธานสี ได้ถือธงเดินคู่กับดรัมเมเยอร์ทุกครั้ง ความแตกต่างทางฐานะ หรือชาติตระกูลไม่ได้ทำให้กาเหว่ารู้สึกต่ำต้อยกว่าเมยาวีเลยแม้แต่น้อย หากเรื่องหนึ่งที่กาเหว่าแปลบใจ และอดเปรียบเทียบในใจไม่ได้ คือ ความรัก ความผูกพัน ในครอบครัวของเมยาวีที่ความอบุอุ่นอาบมาอุ่นถึงในหัวใจกาเหว่าเช่นกัน

เมศร์และวิภาวีมักจะมารับมาส่งลูกสาวคนเดียวอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีกิจธุระมากมายเพียงใดก็ตาม รางวัลครอบครัวตัวอย่างของสังคมเป็นเครื่องรับประกันคุณภาพได้ระดับหนึ่ง ความน่ารักสดใส กิริยามารยาทสมบูรณ์แบบของเมยาวี คือสิ่งสะท้อนถึงการเอาใจใส่ของเมศร์และวิภาวีได้เป็นอย่างดี กาเหว่ามองภาพพ่อแม่ลูกพร้อมหน้านั้นอย่างสะท้อนใจ พรระวีไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเธอ แม่ผู้ให้กำเนิดกาเหว่าไม่ได้ตั้งใจจะตั้งท้องเธอสักนิด แต่พลาดท่า…อาชีพหมอนวดทำให้แม่เผอิญตั้งท้องกับลูกค้า โดยไม่รู้ว่าผู้ชายคนไหนที่กาเหว่าจะเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า…พ่อ หลังให้กำเนิดเธอไม่นาน แม่ของกาเหว่าติดโรคทางเพศสัมพันธ์เสียชีวิต พรระวีเพื่อนหมอนวดด้วยกันรับเลี้ยงกาเหว่ามาตั้งแต่นั้น พรระวีรักเอ็นดูกาเหว่าเท่าที่ชีวิตจะสามารถ เพราะพรระวีมักอ้างเสมอว่ายุ่งหนักหนากับธุรกิจร้านเสริมสวยและสถานเสริมความงามครบวงจร ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าคอนโดชื่อดังกลางกรุง ใช้เป็นกิจการบังหน้าที่พรระวีอาศัยเป็นฉากให้ธุรกิจหลัก จากที่เคยเป็นหมอนวดประจำอ่าง พรระวีผันตัวเองมาเป็นเอเย่นต์ส่งหญิงบำรุงบำเรอความสุขของผู้ชายผู้ไร้รักแท้และรักเทียมทั้งหลาย ว่างๆ พรระวีก็รับจ๊อบเป็นอาจารย์พิเศษติวหลักกามสูตรให้บรรดาหมอนวดมือใหม่ คนทั้งคอนโดพากันเมาท์อย่างสรรเสริญ ลูกศิษย์ของพรระวีกระจายกำลังเล่นน้ำอยู่ทั่วทุกอ่างในกรุงเทพฯ

ขณะที่เมยาวีมีบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ สนามหญ้ากว้างขนาดต้องใช้รถกอล์ฟขับไปมาระหว่างตัวบ้าน สระน้ำ สวนสวย และบ้านของบรรดาน้องหมาน้อย กาเหว่ากลับมีบ้านเป็นห้องชั้นบนสุดของคอนโดที่สร้างเพื่อแบ่งให้เช่า แต่ด้วยอิทธิพลบางอย่างของพรระวีที่มีต่อเฮียเจ้าของอาคาร แกถึงกับยอมขายห้องให้พรระวีแทบจะยกฟลอร์ ส่วนที่เหลือก็ให้เช่ารายเดือน บรรดาเพื่อนร่วมอาคารของกาเหว่า ล้วนแล้วแต่ประกอบอาชีพสุจริตและทุจริตปะปนกันไป ตั้งแต่หมอนวดหุ่นอวบอั๋น หางเครื่องวงลูกทุ่งชื่อดังที่วันๆ เอาแต่เปิดเพลงฝรั่ง แต่ที่คุ้นเคยกับกาเหว่ามากที่สุดหนีไม่พ้นอาชีพอิสระอย่าง…เซลส์ โดยไม่ต้องรอให้ท่อง ก.กา หรือ เอ บี ซี ได้ กาเหว่าก็รู้แปลออกตั้งแต่สองขวบว่า เซลส์ในที่นี้หมายถึง ขายตัว

เจ๊อู๋ พี่สายหยุด และพี่กระจง สามเซลส์เนื้อสดรุ่นเก่าลายครามที่กาเหว่าคุ้นเคยและลับฝีปากกันประจำ เจ๊อู๋เป็นตัวตั้งตัวตี คอยโฆษณาอาชีพหากินบนเตียงหนานุ่มให้กาเหว่าฟังอยู่เสมอ หนำซ้ำพรระวีพลอยเห็นดีเห็นงามฝากฝังให้เจ๊อู๋ช่วยอบรมบ่มนิสัยให้กาเหว่าซึมซับสายเลือดแห่งการขายตัว ไม่วายที่กาเหว่าต้องคอยปรามและตักเตือน แต่เจ๊ทั้งสามก็ทำเป็นไขหู ซ้ำยังลอยหน้าลอยตายืนยันว่าพวกหล่อนคือเกิร์ลเฟรนด์ เพื่อนใจประจำคลับวัยใส กาเหว่าเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมและสังคมที่มีคุณภาพคนละขั้วกับเมยาวีอย่างสิ้นเชิง เปียโน บัลเล่ต์ รำไทย แจ๊สแดนซ์ ขี่ม้า จัดดอกไม้ ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมยามว่างที่เมยาวีถนัดและเชี่ยวชาญ ของเล่นที่เมยาวีกำลังเห่อที่สุดตอนนี้คือ ลูกสุนัขพันธุ์ชิทสุราคาแพง ที่เมศร์มอบให้เธอเป็นของขวัญเนื่องในวันที่พ่ออยากให้ เวลาว่างหลังเลิกเรียนเมยาวีจึงเป็นช่วงที่ทำงานหนักที่สุด นั่นคือ หวีขนและผูกโบว์ให้น้องหมาตัวน้อย รวมทั้งพาน้องหมานั่งรถกอล์ฟกินลมชมสวนรอบบ้าน

กาเหว่าก็มีงานอดิเรกหลักเลิกเรียนเช่นกัน แต่ต่างกับเมยาวีตรงที่กาเหว่าไม่ได้หวีขนหมา หากแต่หวีผมหมวย หรือบรรดาหญิงๆ อวบ ขาว สวย หมวย อึ๋ม สตรีอาชีพพิเศษในสังกัดของพรระวี เพื่อเตรียมตัวออกไปหาลูกค้า หน้าที่หลักของกาเหว่าคือรับโทรศัพท์ รายงานสรรคุณ ขายเนื้อสดวัยขบเผาะและขบไม่เผาะทั้งหลาย รวมทั้งเดลิเวอรี่ขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้าตามนัดหมาย ทำให้ถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอว่ามีอาชีพพิเศษเหมือนสาวคนอื่นๆ กาเหว่าหัวเสียทุกครั้งที่ถูกทักว่าเป็นอย่างว่า ด้วง หนุ่มเพื่อนสนิทของกาเหว่าที่เป็นช่างซ่อมรถ เขาคอยปลอบและให้กำลังใจกาเหว่าเธอเสมอ ตรงกันข้ามกับพรระวี ยิ่งได้รู้ว่าเสี่ยๆ สนใจกาเหว่ามากแค่ไหน พรระวียิ่งกระดี๊กระด๊าด้วยความภูมิใจว่า กาเหว่านั้นคงเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแน่นอน พรระวีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโตขึ้นกาเหว่าจะเป็นดาวประจำคลับ พยายามปลูกฝังความรักสวยรักงามให้กาเหว่า ด้วยคอร์สนวดหน้า ขัดผิว ประทินความงามทั้งหลาย แต่กาเหว่าไม่สน เพราะนิสัยออกจะแก่นเซี้ยว เปรี้ยวซ่าส์ กะล่อนเป็นทอมบอย ที่สำคัญ กาเหว่าเกลียดการมีอาชีพพิเศษขายนาผืนน้อยชนิดเข้าไส้ เพราะเห็นตัวอย่างความทุกข์ระทมที่ซ่อนอยู่ในแววตาของแววดาว พี่สาวนอกไส้ที่มีชาติกำเนิดเหมือนกัน

แววดาวกลายเป็นหญิงบริการเพราะความจำนนต่อชะตากรรมของชีวิต พรระวีเกลี้ยกล่อมแกมบังคับให้แววดาวขายตัวโดยอ้างว่าจะไม่ส่งเงินให้เรียนหนังสือ อยากเรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องหาเงินเรียนเอง แววดาวจนแต้มและขาดความกล้าที่จะเผชิญกับการทะเลาะกับแม่ จึงต้องเริ่มอาชีพพิเศษตั้งแต่อายุสิบเจ็ด กาเหว่าเห็นความระทมทุกข์ในแววตาของพี่สาว จึงมุ่งมั่นว่าจะต้องเรียนหนังสือให้เก่ง จบออกมาจะได้มาช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบชะตากรรมอย่างแววดาว แต่ไม่วายโดนค่อนขอดจากแม่พรระวีและการกระแนะกระแหนจากบรรดาเจ๊ๆ สมาชิกสโมสรที่ต่างว่าอาชีพอย่างหล่อนสบายและสนุกที่สุดในโลกแม้ว่าสภาพแวดล้อมจะดูต่ำต้อยน่าอับอาย แต่กาเหว่ายังดำรงชีวิตเป็นปกติ ไปเรียนหนังสือด้วยเงินส่งเสียจากแววดาว เธอไม่อายเรื่องชาติกำเนิด ไม่เคยปกปิด และไม่แยแสกับสายตาเหยียดหยามน่าหมั่นไส้จากแยมและเยลลี่

เมยาวีพอจะรู้เรื่องทางบ้านของกาเหว่าจากการเม้าท์แบบใส่ไข่ของแยมและเยลลี่ ความเห็นใจเป็นความรู้สึกแรกที่เมยาวีรู้สึกกับกาเหว่า เมยาวีเคยแอบให้กาเหว่ายืมอุปกรณ์การเรียนสุดหรู เพราะเข้าใจว่ากาเหว่าคงจะมีเงินไม่พอซื้อมาใช้ แต่ด้วยสายตานิ่งขรึม ใบหน้านิ่ง เชิด ดูทระนงของเมยาวี ทำให้กาเหว่าแปรเจตนาเอื้อเฟื้อของเมยาวีว่าเป็นการดูถูกเธออย่างแรง ในปีการศึกษานั้น เมยาวียิ่งประหลาดใจแกมหมั่นไส้กาเหว่ามากขึ้นอีก เพราะกาเหว่าปฏิเสธการรับทุนการศึกษารางวัลเรียนดี เพราะปีนี้คนมอบรางวัลคือ เมศร์ พ่อของเมยาวีผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ เมยาวียิ่งภาคภูมิใจในตัวเอง เมื่อเห็นความเป็นไปของกาเหว่า เธอคิดเสมอว่าความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อเธอ เป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด และความสุขที่ท่วมท้นตัวเธออยู่ในขณะนี้จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนไปได้เด็ดขาด จนกระทั่งอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ไม่มีใครคาดคิด!

อุบัติเหตุครั้งนั้นพรากชีวิตวิภาวีไปอย่างไม่มีวันกลับ เมยาวีเสียใจกับการจากไปของแม่ แต่ที่ทำให้เธอเสียใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เมศร์ พาอิงอรภรรยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน พร้อมกับองุ่น ลูกสาวตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดูวัยเจ็ดขวบ เมยาวีช็อกกับการกระทำของพ่อ โลกที่สวยงามของเธอแทบถล่มพังลงตรงหน้า ไม่คาดฝันว่าพ่อของเธอจะปกปิดเรื่องเมียน้อยไว้กว่าเจ็ดปี เธอเฝ้าคิดว่าที่ผ่านมาพ่อหลอกลวงเธอมาตลอด ความรักความอบอุ่นที่พ่อมีให้เป็นแค่ภาพลวงตา ขณะที่เมศร์และอิงอรพยายามทำความเข้าใจกับเมยาวี เธอกลับพยายามทำตัวออกห่างครอบครัว หลงเชื่อคำชักจูงของแยมและเยลลี่ที่คอยชักนำไปในทางเหลวไหล เมยาวีเริ่มหนีเที่ยวกลางคืน ท่ามกลางความเป็นห่วงของเมศร์และอิงอร เมศร์พยายามห้ามปรามแต่เมยาวีกลับย้อนเสมอว่า อยู่บ้านไม่มีความสุข เพราะบ้านที่เธอเคยอยู่มีคนแปลกหน้าเข้ามาเพ่นพ่าน เมยาวีน้อยใจพ่อที่ยกห้องนั่งเล่นสีชมพูส่วนตัวของเธอให้องุ่นลูกสาวคนใหม่ ยกเสื้อผ้าน่ารักในวัยเด็กของเธอให้กับองุ่น เมยาวีเริ่มรู้สึกลึกๆ ในใจว่า องุ่นกำลังจะเข้ามาแทนที่เธอ และอิงอรก็เข้ามาแทนที่วิภาวี

“พ่อกำลังจะลืมแม่…อีกหน่อยก็คงลืมว่าลูกชื่อ…เมยาวี” เมยาวีได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมยาวีเผอิญเห็นรูปถ่าย พ่อ แม่ ลูก ของเมศร์ อิงอร และองุ่น โดยไม่มีเธออยู่ในรูปถ่ายนั้น เมยาวีน้ำตาไหลพราก ความอดทนสิ้นสุด ใช่…เป็นเธอเองที่ปฏิเสธการถ่ายภาพครอบครัวในวันนั้น เพราะเมยาวีถือเสมอว่าอิงอรและองุ่นไม่ใช่ครอบครัวของเธอเมยาวีทะเลาะกับเมศร์อย่างรุนแรง สายสิญจน์ที่เมศร์กับวิภาวีเคยผูกข้อมือให้ ที่เธอใส่ติดข้อมือเสมอมาไม่เคยถอด เมยาวีตัดใจกระชากสายสิญจน์ขาดจากกันแล้วปาใส่หน้าพ่อ เมศร์ผิดหวังกับการกระทำของลูกสาว เผลอตบหน้าเมยาวีอย่างแรง เมยาวีเสียใจมากหนีออกจากบ้าน เมยาวีเตลิดออกมาพบกับด้วง เด็กหนุ่มฐานะยากจนที่เมยาวีเคยตกหลุมกลอุบาลหลอกเอาเงินจากข้าวตูน้องชายต่างแม่ของด้วง เมยาวีจำเหตุการณ์นั้นได้อย่างแม่ยำ

วันนั้น…ข้าวตูหลอกล่อทำให้เมยาวีเผลอล็อกรถโดยลืมกุญแจไว้ในรถ ข้าวตูทำเป็นติดต่อหาช่างมางัดรถให้ ซึ่งก็คือด้วงผู้เป็นพี่ชายนั่นเอง เมื่อจับได้ว่าข้าวตูสร้างแผน เมยาวีวิ่งไล่จับข้าวตูจนเท้าบวม เธอไปแจ้งตำรวจ แต่จ่าสุชาติไกล่เกลี่ยและบอกถึงนิสัยที่แท้จริงของด้วงให้เมยาวีฟัง เมยาวีถึงกับอึ้งเมื่อรู้ความจริงว่าข้าวตูสร้างแผนเหล่านี้เพื่อหาเงินช่วยด้วง เพราะชีวิตสองพี่น้องสุดจะลำเค็ญนัก ด้วงคืนเงินให้กับเมยาวี ช่วยหาน้ำแข็งมาประคบเท้าให้ ซ้ำยังบริจาครองเท้าแตะฟองน้ำให้กับเท้าที่บวม ส่วนตัวเองเดินเท้าเปล่ากลับบ้านกับข้าวตู  เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เมยาวีแอบชอบด้วงโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าด้วงจะได้แต่เงยหน้าขึ้นมองดอกฟ้าอย่างเมยาวี แต่ไม่กล้าคิดบังอาจจะเด็ดดอกฟ้าเลยสักครั้ง เมยาวีขอพักกับด้วงชั่วคราว แต่ด้วงปฏิเสธและไล่เมยาวีกลับอย่างไม่ใยดี แม้ว่าข้าวตูจะเออออยอมให้ก็ตาม ด้วงสอนเมยาวีถึงการใช้ชีวิตและการเป็นลูกที่ดี แต่เป็นการสอนแบบปากเสียและประชดประชันตามนิสัย เมยาวีฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ก็ซึมซับความหวังดีของผู้ชายปอนๆ คนนี้ ด้วงไล่เมยาวีกลับบ้านได้โดยไม่ไปส่ง แต่จริงแล้ว ด้วงแอบขี่มอเตอร์ไซค์ตามดูเมยาวีอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเมยาวีเข้าบ้านปลอดภัย ด้วงจึงวกรถกลับบ้านอย่างสบายใจโดยไม่รู้ว่าเมยาวีแอบมองอยู่

ด้วงตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเขากับเมยาวี ที่แอบเป็นห่วงขนาดนี้ด้วงก็รู้สึกว่าอาจเอื้อมมากเกินไปแล้ว ด้วงได้วิชา งัดแงะ แกะทุกอย่ามาจากสถานกักกันเยาวชน ครั้งที่เข้าไปเยือนเพราะคดีลักซาลาเปาทิ้งแล้วจากห้างสรรพสินค้าที่ด้วงเคยเป็นพนักงานสมัยเป็นเด็กๆ วิชาชีพทางโจรไม่ได้ทำให้ด้วงหลงเป็นขโมย ตรงกันข้ามกลับทำให้เขาเลือกทำงานได้สารพัด เป็นมนุษย์สาวหลงประจำซอย แต่ด้วงไม่เคยมองใคร ไม่เคยสนใจใคร และด้วยความปากเสียทำให้กลายเป็นคู่ปรับและเพื่อนซี้ของกาเหว่าด้วงหางานทำเพื่อเลี้ยงข้าวตู น้องชายต่างมารดาที่พ่อไปไข่ทิ้งไว้แล้วเขาตามไปเก็บมาเลี้ยงด้วยความเวทนาปนหมั่นไส้ เพราะความแก่นซ่าของข้าวตูทำให้เด็กชายตัวน้อยตั้งแก๊งค์เป็นขาใหญ่ประจำชุมชน ไม่นานก็ได้รู้จักกับองุ่น คุณหนูบ้านหลังใหญ่ที่สุดของชุมชน เพราะข้าวตูแอบปีนรั้วบ้านองุ่นเข้าไปสอยมะม่วงเพื่อเอาไปแบ่งกับส้มซ่า ลูกสาวของเฮียโก้ เด็กตัวเล็กที่สุดของแก๊งค์ แม้จะต่างฐานะต่างชนชั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยความใสซื่อประสาเด็กที่ไม่มีจริตมารยา องุ่นกลายเป็นสมาชิกแก๊งค์ตัวเปี๊ยกของข้าวตูและส้มซ่า โดยการดูอยู่ห่างๆ ของอิงอร ที่เข้าใจเด็ก เอ็นดูข้าวตูและส้มซ่า โดยแบ่งขนมและอาหารให้เสมอ

แต่เพราะอคติ…เมยาวี จึงไม่เคยเห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และน้ำใจของอิงอรเลย ทั้งหมดนี้ยิ่งสร้างความไม่เข้าใจระหว่างเธอกับเมศร์ผู้เป็นพ่อ นับวันช่องว่างระหว่างพ่อ ลูก ยิ่งห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ อิงอรเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของเมยาวีอย่างเป็นกังวลและห่วงใย กาเหว่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงของเมยาวี แม้ว่าจะไม่ถูกชะตากันขนาดไหน แต่ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง กาเหว่าอดเป็นห่วงเมยาวีไม่ได้ ผลการเรียนของ เมยาวีเริ่มตกต่ำลงทุกที คู่แข่งที่เคยแข่งกันมาตลอดอย่างกาเหว่าเริ่มวิตก กลัวว่าจะไม่มีคู่แข่ง กาเหว่าปลอบใครไม่ค่อยเป็น ได้แต่ฉะปะทะกันกับเมยาวีจนสังเกตได้ว่าเมยาวีกำลังขาดที่พึ่งทางใจอย่างที่สุด เมยาวีเริ่มใช้ชีวิตเสเพล เหลวแหลก ออกเที่ยวกับแยมและเยลลี่ แยมเป็นผู้หญิงประเภทเก็บสะสมแต้มจากการนอนกับผู้ชาย เมยาวีเองเกือบจะถลำตัวประพฤติแบบเดียวกับแยมแต่กาเหว่าเผอิญมาเจอและห้ามไว้ได้ทัน ในบางครั้งเยลลี่ก็พาเมยาวีไปร่วมก๊วนซ้อนท้ายแก๊งมอเตอร์ไซค์ซิ่ง ซึ่งมี แบงค์ คู่ขาของเยลลี่เป็นหัวหน้า แบงค์สนใจตัวเมยาวีมาก ถึงกับเสียเงินให้เยลลี่หลอกเมยาวีจนเมยาวีเกือบตกเป็นเดิมพันในการแข่งมอเตอร์ไซค์ โชคดีที่ด้วงซึ่งเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ประจำแก๊งค์ แกล้งทำเป็นเผอิญผ่านมาเจอ ร่วมกับกาเหว่าและข้าวตูช่วยเมยาวีไว้ได้อย่างหวุดหวิด

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ดอกฟ้าอย่างเมยาวี ประทับใจเจ้าด้วงหมาวัดอีกครั้ง… เมยาวีมักไปหลับในห้องเรียนเพราะเที่ยวดึก กาเหว่าคอยเตือนเมยาวีเสมอ แต่เมยาวีไม่เคยเชื่อ ไม่เคยเห็นคุณค่าของกาเหว่าเพราะถือตัวว่ามีฐานะดีกว่า แต่กาเหว่าไม่ใส่ใจยังคงให้ความเป็นห่วง เพราะกลัวว่าเมยาวีจะตกเข้าไปอยู่ในบ่วงกรรมเดียวกับแววดาว แววดาวพยายามทำตัวให้มีความสุข แต่ทุกครั้งหลังจากรับแขก เธอมักน้ำตาริน รังเกียจตัวเองต้องรีบเก็บกวาดเช็ดถูห้องเพื่อหวังจะลบร่องรอยคาวของชีวิต จ่าสุชาติ ตำรวจหนุ่มใหญ่ เป็นชายคนเดียวที่หลงรักแววดาว แต่ไม่เคยเที่ยวผู้หญิง จ่าสุชาติมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมแววดาวเสมอ จนตกเป็นขี้ปากการแซวของเจ๊อู่ สายหยุด และนางกระจง จ่าสุชาติมักอ้างเสมอว่า เขาไม่เคยดีพอสำหรับใคร ได้แต่ร้องเพลงลูกทุ่งกล่อมเววดาวให้หลับผ่านทางสายลมและแสงไฟนีออนที่ลอดเข้าหน้าต่างห้องแววดาว เช่นเดียวกับแววดาวที่คิดว่าเธอก็ไม่สะอาดพอสำหรับใคร กาเหว่า ที่เคยเชียร์แววดาวกับจ่าสุชาติให้ตกลงปลงใจกันซะทีก็ได้แต่ปลง เพราะทั้งคู่ต่างสร้างกำแพงกั้นความรู้สึกของตัวเองจนยากจะพังกำแพงเหล่านั้น

กาเหว่าไม่ค่อยเข้าใจความรัก ตลอดชีวิตรู้จักแต่ความใคร่จากโลกที่เธอเผชิญอยู่ จนกระทั่งได้พบกับคิมหันต์ ลูกชายของคมน์ ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีกับคุณหญิงคนึงนิตย์ คิมหันต์เป็นหนุ่มเพลย์บอย มักจัดงานปาร์ตี้ที่ต้องพึ่งสาวจากคลับของพรระวีอยู่เสมอ วันหนึ่งกาเหว่าทำหน้าที่ขับรถคันโตไปส่งสาวๆ เหล่านั้น ทำให้คิมหันต์เข้าใจผิดว่ากาเหว่าคือหนึ่งในบรรดาหญิงสาวที่ทำอาชีพพิเศษคิมหันต์คิดจะใช้บริการความสุขจากกาเหว่า แต่ต้องหน้าแตกเพราะเจอบทเรียนสั่งสอนจากกาเหว่า จับเขาไปมัดมือมัดเท้าในโบสถ์ยามดึก บังคับให้ไหว้พระชำระจิตใจ แถมยังมัดให้นั่งสมาธิในป่าช้าถึงหนึ่งคืนเต็มๆ คิมหันต์รอดผีมาได้ด้วยความแค้น ปนความรู้สึกเอ็นดูกาเหว่าเป็นพิเศษ เขาเริ่มแวะเวียนเข้ามาใกล้ตัวกาเหว่าบ่อยขึ้น แต่กาเหว่ากลับเห็นว่าคิมหันต์เป็นหนุ่มเพลย์บอยที่เหมือนผู้ชายทั่วไปที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น กาเหว่ายิ่งหมั่นไส้คิมหันต์หาเรื่องแกล้งตลอดเวลา

แต่ยิ่งแกล้งมากเท่าไหร่ กาเหว่ายิ่งเห็นความเหงาเศร้าในตัวคิมหันต์มากขึ้นเรื่อยๆ คิมหันต์ไม่เคยปริปากบอกใครแม้แต่กาเหว่าเรื่องบ้าน เพราะคนทั่วไปมักมองว่าครอบครัวของเขานั้นเป็นครอบครัวตัวอย่าง ตัวเขาเองคงจะเป็นชายหนุ่มที่มีความอบอุ่นที่สุดในโลก ทั้งที่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น คมน์ผู้เป็นพ่อ มัวแต่สนใจกิจกรรมและกิจกามกับเด็กสาว ในขณะที่คุณหญิงคนึงนิตย์ก็มั่วแต่ออกงานสังคมและเข้าสถานเสริมความงามและโรงพยาบาลเพื่อชะลอความสาวและความสวยให้ไม่สร่างซาไปพร้อมกับวัยชราที่เข้ามาเยือน ตั้งแต่เด็กจนโต คิมหันต์ไม่เคยได้กินข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก เขาชินชาที่จะต้องกินข้าวคนเดียว หนำซ้ำตอนเขาป่วยก็เป็นตัวเขาเองที่ขับรถพาตัวเองเข้าโรงพยาบาล แถมแอทมิทตัวเองเสร็จสรรพ พ่อแม่เพียงส่งดอกไม้ฝากเลขามาเยี่ยมเนื่องจากติดภารกิจ ที่รายล้อมรอบตัวคิมหันต์มีแต่ผู้หญิงที่พร้อมเสนอตัวให้ เมื่อรู้ถึงฐานะและเม็ดเงินในกระเป๋า คิมหันต์เคยเชื่ออย่างฝังหัวว่า ผู้หญิงดีๆ ไม่มีเหลืออยู่ในโลก จวบจนเขาได้มาคุย มากินข้าว มารู้จักกาเหว่า ความชุ่มชื่นจึงกลับมารดรินในใจคิมหันต์อีกครั้ง และความรู้สึกที่มีต่อผู้หญิงและความรักเริ่มเปลี่ยนไป

คิมหันต์เริ่มปรับตัวเองให้เลิกเที่ยว เริ่มเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนุ่มมีสาระมากขึ้น ในขณะที่คมน์ผู้เป็นพ่อกลับยิ่งเพิ่มความชั่วให้กับตัวเองอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ผู้หญิงที่เขาหามาปรนเปรอความสุขอายุน้อยลงเรื่อยๆ มูลนิธิเพื่อเด็ก ที่นายคมน์เป็นประธานให้การช่วยเหลือเด็กในชุมชน คมน์มาแจกของเด็กๆ ด้วยตนเอง ทำให้ได้พบกับกาเหว่าและพรระวี คมน์จำได้ว่าพรระวีเคยทำงานอยู่ในสถานอาบอบนวด หนำซ้ำเขายังเป็นลูกค้าประจำ คมน์ในมาดนักบุญใจบาปพยายามติดต่อพรระวีเพราะสนใจกาเหว่า คุณหญิงคนึงนิตย์ เริ่มจับสังเกตได้ว่าคมน์เที่ยวผู้หญิง มีเมียน้อยไม่ต่ำกว่าเจ็ดบ้าน ทั้งสองจึงเริ่มมีปากเสียง คมน์ลงไม้ลงมือกับคุณหญิง จนวันหนึ่งคุณหญิงทนไม่ไดเขอฟ้องหย่า แต่คมน์ไม่ยอมด้วยกลัวชื่อเสียงที่สร้างสมมาชั่วชีวิต คุณหญิงงัดไม้ตาย…อ้างว่ามีโพยรายชื่อลูกค้าของเจ๊พรระวีที่คมน์ไปใช้บริการ รวมทั้งวิดีโอเทปลับเฉพาะที่พร้อมจะแฉทุกเมื่อ คมน์กลัวว่าหากเรื่องฉาวของเขาถูกคุณหญิงเผยออกไปสู่สังคม ชื่อเสียงที่เขาสะสมมาทั้งชีวิตต้องพังพินาศแน่นอน

คมน์ใช้วิสูตร ลูกน้องซึ่งเป็นผู้จัดการอาบอบนวดจัดการเก็บคุณหญิงคนึงนิตย์จนต้องประสบอุบัติเหตุตายอย่างทารุณ คิมหันต์เสียใจกับการตายของแม่อย่างที่สุดโดยไม่รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นายวิสูตรตามหาโพยรายชื่อจากพรระวี กาเหว่ารู้ว่าโพยดังกล่าวจะเป็นภัยสร้างอันตรายต่อแม่และแววดาว รวมทั้งเจ๊ๆ คลับวัยใสคนอื่นๆ เธอตัดสินใจเก็บโพยไว้กับตัวเองเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ในขณะเดียวกันเมยาวีเริ่มตกเข้าไปอยู่ในวงจรการค้ากามของวัยรุ่นและมาม่าซังวัยโจ๋ เยลลี่ที่เคยขายบริการให้คมน์อยู่บ่อยๆ เยลลี่เริ่มผันตัวเป็นแม่เล้าวัยเด็กติดต่อเพื่อนๆ ในสังกัดออกล่าเงินและล่าผู้ชายที่ตัวเองพึงใจ โดยมีโบนัสติดปลายนวมเล็กๆ น้อยๆ เมยาวีถูกยุยงให้ร่วมในวงจรนี้ด้วย หากแต่เธอยังตัดสินใจไม่ขาด กับการตัดสินใจกระโจนลงเหวนรก ด้วยความแค้นที่รู้ว่ากาเหว่ามีโพยอยู่ในมือ และคิดต่อรองเพื่อสวัสดิภาพของเธอ คมน์สั่งให้วิสูตรเล่นงานพวกบ้านพรระวี โดยหลอกล่อจะซื้อบริการคู่นอนเดลิเวอรี่จาก แววดาว และผู้หญิงคนอื่นๆ ในสังกัดพรระวี แต่จุดมุ่งหมายในการนี้ก็คือ ฆ่าทิ้ง

หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกเพื่อนหลอกให้เข้ามาในกิจกาม ด้วยความหลงผิดคือเมยาวี เพราะเมยาวีต้องการประชดพ่อ ประชดชีวิต โชคดีที่กาเหว่า เห็น และตัดสินใจตามไปช่วย ท่ามกลางการต่อสู้ของแก๊งค์เปี๊ยกซ่าส์ ซึ่งนำโดยข้าวตู องุ่นและส้มซ่า โดยการช่วยเหลือของด้วงลูกพี่ใหญ่ ทำให้ทั้งหมดรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่โชคร้ายที่ระหว่างการต่อสู้กับพวกวิสูตร แววต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องกาเหว่าน้องสาวที่เธอรักที่สุดในชีวิต จ่าสุชาติตามมาทันได้เห็นลมหายใจสุดท้ายของแววดาว ซึ่งในที่สุด จ่าสุชาติก็กล้าสารภาพรักกับแววดาวแม้ว่าจะสายไปแล้วก็ตาม

เมศร์และอิงอรเป็นเบื้องหลังสำคัญของแก๊งค์เปี๊ยกซ่าที่ยกขบวนไปช่วยเมยาวีและกาเหว่าออกมาได้ อิงอรอธิบายถึงความรักของเมศร์ที่มีต่อยาวี รวมทั้งทำความเข้าใจในความรักบริสุทธิ์ที่เธอมีให้มายาวีตลอดมา สิ่งเดียวที่ทำให้ ความรักที่เธอมีให้มายาวี ต่างจากวิภาวีแม่แท้ๆ นั่นคือเธอไม่ได้ให้กำเนิดเมยาวีเท่านั้น ความรักที่เคยมีกำแพงกั้นระหว่างเมศร์ อิงอร และเมยาวีจึงหมดไป เมยาวียอมรับอิงอรและองุ่นเป็นครอบครัวเดียวกัน คิมหันต์ท้อแท้เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้ว พ่อของเขาคือคนบาปในคราบนักบุญ แต่ด้วยการให้กำลังใจของกาเหว่า คิมหันต์เลิกทำตัวเป็นเพลย์บอยและกลับใจมาทำงานเพื่อสังคมในฐานะนักสังคมสงเคราะห์ รณรงค์หาเงินช่วยเหลือหญิงถูกล่อลวงทางเพศ กาเหว่าให้ตั้งชื่อว่า “กองทุนแววดาวเพื่อผู้หญิงและเด็ก”

จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ทำให้พรระวีเลิกเคี่ยวเข็ญให้กาเหว่าเป็นผู้หญิงพิเศษ และเลิกการเป็นเอเย่นต์ส่งเด็กอย่างเด็ดขาด เธอกลับมาขยายกิจการร้านเสริมสวยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยการช่วยเหลือของเจ๊อู๋ สายหยุดและนังกระจงที่ได้คิดเช่นกัน ด้วงได้ทุนเรียนต่อวิชาชีพช่างระดับสูง โดยการช่วยเหลือจากคิมหันต์และกาเหว่า ครอบครัวของเมยาวีเปิดโอกาส ให้การต้อนรับด้วงเป็นอย่างดี ด้วงได้สัมผัสความรักจากครอบครัวเมยาวี ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เขาโหยหามาแสนนาน คือความรักความอบอุ่นที่เติมเต็มโดยครอบครัว

ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท: ช่างปั้นเรื่อง

นักแสดง อุ่นไอรัก
ตะวัน จารุจินดา
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์

เหมือนเราจะรักกันไม่ได้

ศาสตรา สหพาณิชยการ หนุ่มนักธุรกิจนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ผู้มากความสามารถ ศาสตรากำลังจะได้รับรางวัลนักธุรกิจหนุ่มแห่งปี ด้วยการสร้างผลงานให้แก่ บริษัท สหยนต์ จำกัด ( มหาชน ) ธุรกิจหลักของตระกูล แม้เขาจะถูกยกย่องให้เป็นชายผู้เพียบพร้อมอีกทั้งยังมีชีวิตคู่ที่น่าอิจฉา แต่สำหรับเขา กลับเหมือนมีสิ่งหนึ่งขาดหายไปเสมอ ราชาวดี หญิงสาวผู้มาจากตระกูลสูงศักดิ์ เพียบพร้อมด้วยกิริยาวาจา แม้จะเหลือเพียงนามสกุลไม่มีทรัพย์ แต่เธอก็กลายเป็นผู้หญิงที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น เพราะเธอคือคนที่ยืนอยู่เคียงข้างศาสตราในฐานะภรรยา แม้ว่าศาสตราจะไม่เคยรู้ว่าแท้จริงแล้วเขารักราชาวดีหรือไม่ แต่เมื่อการแต่งงานเป็นความเห็นชอบของผู้ใหญ่ เขาจึงไม่เคยคิดจะขัดแย้ง แต่แล้วราชาวดีกลับมีทายาทสืบสกุลให้แก่ เจ้าสัวแสง ผู้เป็นพ่อของศาสตราไม่ได้ เพราะเป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด ไม่สามารถมีบุตรได้เธอจึงน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งนัก ราชาวดีเก็บความคับแค้นใจไปปรึกษา จาด แม่นมเก่าแก่ ซึ่งถูก คุณหญิงรมณียา ไล่ออกจากคฤหาสน์ในข้อหามีสัมพันธ์ลับกับ ท่านชลัมพุ์ จาดจึงออกอุบายให้ราชาวดีหาคนมาท้องแทน เธอจึงคิดจะเลือกคนในบริษัทเพื่อจะได้ควบคุมง่าย ผู้ที่เธอหมายตาไว้คือ ลดา พนักงานประชาสัมพันธ์ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก เธอจึงให้ลดาขึ้นมาทำหน้าที่แทนเลขาฯ ของศาสตราและพยายามขอร้องแกมบังคับให้ศาสตราเทียวรับเทียวส่งลดาบ่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ศาสตราแอบเฝ้ามองมาตลอดคือ เพียงออ หญิงสาวไร้เดียงสา เรียบง่าย และจริงใจ เพียงออเป็นเพื่อนร่วมห้องของลดา และเป็นเพื่อนสนิทของ ไกรวิทย์ ที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้ด้วย ศาสตราได้พบกับเพียงออหลายครั้งก่อนที่เธอจะเข้ามาทำงานด้วย จนกระทั่งได้มีโอกาสรู้จักกัน แต่เมื่อเพียงออได้รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังจะต้องตกเป็นเมียน้อยของศาสตร เธอก็เกลียดเขาเข้าไส้ ทั้งคู่จึงเหมนไม่ถูกคอกันนักเวลาพบกัน แต่ศาสตรากับเพียงออก็ได้มีโอกาสเห็นความดีของกันและกันมากขึ้นทุกๆ วัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่ราชาวดีรู้จึงให้คนสืบจนรู้ว่าเพียงออไม่ใช่เพียงหญิง ชาวบ้าน แต่กลับมาจากตระกูลที่สูงศักดิ์เทียบเท่ากับตน ราชาวดีจึงให้ไกรวิทย์บีบให้เพียงออออกจากงาน โดยแลกกับที่ไกรวิทย์จะไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ่อโกงเงินบริษัทไปเล่นการ พนัน ขณะเดียวกับที่จาดส่ง นิล แฟนหนุ่มไปจัดการวางแผนให้ศาสตรากับลดาอยู่ด้วยกันโดยวางยาสลบ แต่แผนผิดพลาดกลับกลายเป็นเพียงออที่ต้องตกเป็นของศาสตราแทน ลดาตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเพียงออ ไกรวิทย์ที่รู้ว่าเพียงออไม่ใช่คนอย่างที่ลดากล่าวหาจึงช่วยพาเพียงออไปหา ที่อยู่ใหม่ เพียงออรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องแต่ก็ไม่คิดใจอ่อนขอความช่วยเหลือจากศาสตรา เลยฝ่ายไกรวิทย์ที่รู้ว่าศาสตราและเพียงออรู้สึกลึกซึ้งกันแค่ไหนก็หาทางทำ ให้ศาสตราเข้าใจผิด แต่สิ่งที่ไกรวิทย์ทำกลับทำให้ศาสตราและเพียงออเข้าใจกันมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเพียงออก็ยังไม่ยอมรับศาสตรา ศาสตราคอยตามดูแลเพียงออตลอดจนราชาวดีรู้ ด้วยความกลัวว่าศาสตราจะทอดทิ้งไป ราชาวดีจึงตามไปราวีเพียงออถึงที่ทำงานใหม่ แต่กลับรู้สึกว่าทำเกินกว่าเหตุจึงไปปรึกษาจาดจาดกลัวว่าราชาวดีจะถูกศาสตรา ทิ้งจริงๆ และไม่มีเงินมาให้จาดอีกจึงวางแผนฆ่าเพียงออ โดยให้มือปืนไปดักยิงแต่ศาสตรามาช่วยจนถูกยิงแทน ศาสตราคิดว่าเป็นฝีมือของราชาวดีจึงคิดจะหย่าขาดให้หมดเรื่องแต่ราชาวดียอม ตั้งท้องเพื่อมีลูกให้ศาสตราสมหวัง ศาสตราจึงไม่อาจทำร้ายราชาวดีได้ และเพียงออเองก็พูดให้ศาสตรารู้ว่าแท้จริงแล้วเธอก็รักเขา แต่ด้วยคำว่าศักดิ์ศรีและคุณธรรม เธอจึงไม่ยอมให้เขาทำเรื่องผิดต่อผู้หญิงอีกคนหนึ่งเด็ดขาด ศาสตราเข้าใจและกลับไปอยู่กับราชาวดีอย่างเดิม แต่เขากลับรู้สึกว่าชีวิตขาดสิ่งหนึ่งไปมากกว่าเดิม และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสียด้วยซ้ำ ไกรวิทย์เสียใจที่ถูกเพียงออปฏิเสธจึงคิดแก้แค้นกับราชาวดี โดยหลอกให้ราชาวดีมาหาและถ่ายรูปไว้ ศาสตราหลงเชื่อว่าราชาวดีมีอะไรกับไกรวิทย์จริงจึงขอหย่ากับราชาวดี โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแลอกจากบ้านมาขออาศัยอยู่กับเพียงออ เพียงออพยายามพูดให้เขาเข้าใจราชาวดีและกลับไปรักเธอเหมือนเดิม ราชาวดีได้ยินคำพูดของเพียงออจึงรู้สึกผิดที่ทำเรื่องไม่ดีไว้มาก ในที่สุดศาสตราก็ยอมยึดความถูกต้องกลับไปอยู่กับราชวดีเช่นเดิม แต่ก็ยังคงคอยตามเฝ้าดูแลเพียงออห่างๆ เหมือนเดิม เรื่องราวทุกอย่างกำลังจะเดินไปตามครรลอง แต่แล้วราชาวดีก็ได้รู้ความจริงว่าที่แท้จาดคือต้นเหตุของเรื่องๆร้ายๆ ทั้งหมด จาดทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นครอบครัวของราชาวดี ที่ทำให้ตนต้องเสียโฉมจากการลงไปช่วยราชาวดีที่จมน้ำเมื่อสมัยเด็ก และคิดว่าราชาวดีเป็นคนไปบอกคุณหญิงรมณียาเรื่องที่ตนเป็นชู้กับท่านชลัมพุ์ ด้วยราชาวดีจึงได้รู้แผนชั่วของจาดอีกอย่างหนึ่งว่า จาดกำลังคิดกำจัดเพียงออแบบถอนรากถอนโคน จึงรีบบอกให้ศาสตราไปช่วยแต่เมื่อศาสตราไปถึงกลับสายเกินไป เขาต้องเสียผู้หญิงคนสำคัญในชีวิตเขาคนหนึ่งไปเสียแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เพียงออกลับเป็นราชาวดีที่ตามมาช่วยเพียงออไว้แทน เรื่องราวความรักของเขาและเธอจะลงเอยอย่างไร เมื่อบัดนี้ไม่มีกำแพงสูงใหญ่กางกั้น ระหว่างเขาและเธออีกแล้ว แต่เธอจะยอมทลายกำแพงศักดิ์ศรีในใจของเธอเองได้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน เหมือนเราจะรักกันไม่ได้

รายชื่อนักแสดงเหมือนเราจะรักกันไม่ได้
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบท ศาสตรา
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบท เพียงออ
สิริพรรณ หลิมวิจิตร รับบท ราชาวดี
ภารดี อยู่ผาสุข รับบท ลดา
ปัญญาพล เดชสงค์ รับบท ไกรวิทย์
วิภาวี เจริญปุระ รับบท จาด
สินชัย หอมหวน รับบท นิล
พนารัตน์ บุนนาค รับบท คุณหญิงรมณียา
ทูน หิรัญทรัพย์ รับบท เจ้าสัวแสง
ปิยะวรรณ จิตนาธรรม รับบท จลกลณี

ห้องสมุดสุดหรรษา

ชีวิต สุดหรรษาของสาวน้อย ฝุ่น(แตงโม-ภัทรธิดา) ผู้กำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและใฝ่ฝันที่จะเปิดร้านหนังสือ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้อ่านหนังสือ ฝุ่นเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ไฝ(กุ้ง-วิภาวี) เจ้าแม่สำนักทรงเจ้า ฝุ่นไม่ชอบที่แม่ทำอาชีพนี้ทำให้ฝุ่นมีเรื่องทะเลาะกับแม่อยู่บ่อยๆ ฝุ่นพยายามทั้งเรียนละทำงานหนักเพื่อเก็บเงินเปิดร้านหนังสือ ฝุ่นมี นัท(บิ๊ก-ศรุต) เป็นชายหนุ่มรู้ใจ ฝุ่นเอาเงินเก็บทั้งหมดไปเซ้งร้านต่อจากเฮียเม้ง โดยไม่รู้ว่าร้านเฮียเม้งเป็นหนี้อยู่ท่วมหัว ในที่สุดฝุ่นก็ได้เปิดร้านหนังสือ บุ๊คการ์เด้น โดยมี จู้(อัครพงศ์) เป็นสมุนช่วยงานที่ร้าน ฝุ่นมีคู่ปรับคนสำคัญคือ โอ๊ค(อู-ภาณุ) ซึ่งมักดูถูกฝุ่นว่าไม่สามารถพัฒนาร้านหนังสือให้เจริญได้ ฝุ่นเปิดร้านได้อาทิตย์เดียวหนี้สินที่ค้างชำระก็ทำให้ฝุ่นปวดหัว ฝุ่นเปิดร้านได้สามวันมีลูกค้าหนึ่งคน ฝุ่นไปกู้เงินนายเก๋ง(เอ-ปัญญาพล) ดอกโหดแต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น สุดท้ายฝุ่นจึงตัดสินใจละทิ้งความคิดเดิมๆ เธอเปลี่ยนร้านหนังสือที่กำลังจะเจ๊ง ให้เป็นห้องสมุดชุมชนแทน

เรื่องราววุ่นๆของห้องสมุดสุดหรรษาจึงเริ่มขึ้น เมื่อเก๋งเจ้าพ่อเงินกู้ตกหลุมรักฝุ่น นิรันดร์(เกริก ชิลเลอร์) เจ้าของร้านกาแฟก็มาเสนอเปิดมุมกาแฟ ตามด้วยคุณตุ๊ก(ท๊อป-ดารณีนุช) ที่เข้ามาเสนอขายของมากมาย ต่อด้วยลุงเกริก(ตุ่ม-ชลิต) ที่เข้ามาเปิดโต๊ะดูดวง ส่วนนัทกับนุ่น(เปิ้ล-ภารดี) สองพี่น้องก็เสนอให้มีมุมอินเตอร์เนท ด้วยเหตุนี้เองทำให้ฝุ่นมีศัตรูคนสำคัญ คือเจ้หงส์(จิ๊ก-เนาวรัตน์) และสุดท้ายคนที่ทำให้หัวใจของฝุ่นหวั่นไหวกลับเป็น มาร์ค(มาร์คุซ) พิธีกรหนุ่มรูปหล่อเพื่อนสมัยเรียน ปัญหาเรื่องห้องสมุด และปัญหาเรื่องหัวใจ ทำให้ฝุ่นต้องพยายามหาทางออก

แต่ฝุ่นจะสามารถทำให้ทุกคนในชุมชน หันมาสนใจอ่านหนังสือได้หรือไม่ คงต้องติดตามชมในละครซิคคอม “ห้องสมุดสุดหรรษา

ลุย

ลุย หล่มสัก (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เป็นเด็กกำพร้าเติบโตที่หล่มสักโดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งเลี้ยงดู ชีวิตเด็กวัดของลุยผกผันเมื่อผู้มีอิทธิพลในทางนักเลงถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง พระอาจารย์กำชับกับผู้มีอิทธิพลท่านนั้นว่า…ดวงลุยความตายขึ้นอยู่ในมือ เต็มพรืดไปหมด อบรมให้ดีก็จะดี แต่ถ้าร้ายจะร้ายยิ่งกว่ามหาโจร แต่ดูเหมือนว่าการจะอยู่ในเส้นทางชีวิตคนดีของลุยนั้นยากยิ่ง เพราะพ่อบุญธรรมของเขาทำงานให้กับองค์การลับซึ่งทำงานผิดกฏหมาย ลุยเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของอาชญากร…

หลายปีผ่านไป ลุยกลายเป็นหนุ่มรูปร่างบึกบึนแข็งแรงสมชายชาตรี เมื่ออายุ 21 ปีแข่งขันชกมวยชิงรางวัล แรงพลังของเขาทำให้คู่ชกบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนในแถบนั้นต่างพากันโจษจันชื่อ ลุย หล่มสัก

ลุย มีคนรักชื่อ ไทรงาม (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เป็นลูกสาวร้านขายอาหารในตลาด แต่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงเลื่อย ลุยบุกเข้าไปฉุดเจ้าสาวหนีในวันแต่งไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ความรักของลุยที่มีให้ไทรงามไม่เคยจืดจาง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้นที่เขาขอร้องไม่ให้หญิงสาวก้าวก่าย ไทรงามไม่เคยรู้ว่าลุยทำงานอะไร รู้แต่เพียงว่าลุยทำงานให้กับพ่อผู้มีพระคุณ และการทำงานแต่ละครั้ง ลุยได้เงินกลับมาทีคราวละมากๆ

วันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อพ่อของ ลุยถูกหักหลังถูกกลุ่มโจรฆ่าตาย ความแค้นทำให้ลุยเกรี้ยวกราด ลุยบุกเผาทำลายล้างพวกกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อจนราบคาบ แล้วพาไทรงามอพยพไปอยู่กับ กริช ลมกรด (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นายใหญ่ของพ่อ

กริช ลมกรด เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การที่พ่อเขาเคยทำงานให้ ทำเรื่องผิดกฏหมายทั้งค้าอาวุธเถื่อน สินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงของหนีภาษี ยาเสพติด ที่สำคัญ องค์การนี้รับจ้างฆ่าคน !

กริชชอบใจในฝีมือยิงปืนของลุยที่แม่นราวจับวาง ตำแหน่งของลุยเมื่อมาอยู่กับกริชจึงเป็น “มือปกาสิต” ซึ่งก็คือ “มือปืนอาชีพ” นั่นเอง

องค์การ ยังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า (ทองขาว ภัทรโชคชัย) , เทียว สิบทิศ (เบคิม ฤทธิ์), ศักดา ปาฏิหาริย์ (ประกาศิต โบสุวรรณ) , และ ปกาศิต จอมพลัง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) จอมบงการหัวหน้าใหญ่

ลุยทำงานให้ กับองค์การอย่างดีเสมอมา ที่องค์การลุยมีโอกาสพบกับ สร้อยคีรี (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) อดีต คนรักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นถึงกลุ่มผู้นำหญิงคนหนึ่ง ความรักในอดีตไม่สมหวังเพราะลุยรู้สึกตัวด้อยค่าจึงปล่อยให้สร้อยคีรีชอบพอ กับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของเขา ทันทีที่พบหน้ากันลุยกับสร้อยคีรีตระหนักว่ายังคงมีความรักและผูกพันระหว่าง กันเพียงใด สร้อยคีรีแอบช่วยเหลือลุยในหลายเรื่อง ไทรงามเองก็สังเกตเห็นและนึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงใด หากแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ลุยกับสร้อยคีรีจึงตกลงจะเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ผลงานและ ความจงรักภักดีของลุยต่อองค์การนับว่าน่าพอใจ แต่เมื่อลุยได้รู้ว่าไทรงามตั้งท้อง เขาเริ่มคิดอยากกลับตัวเป็นคนดีอยากถอนตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้า ทอม (ด.ช.เขมะ วิถี) ลูกชายสุดที่รัก ลุยก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการวางมือจากอาชีพนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ถูกนายทั้งหลายต่อรองเรื่อยมา พร้อมๆ กับสร้อยคีรีเองก็เฝ้าเตือนเขาไม่ให้แสดงตัวว่าจะทำตัวออกห่างองค์การนัก เพราะเธอรู้ว่าลุยจะต้องได้รับอันตรายแน่นอน

จนทอมอายุได้ 5 ขวบ ลุยมีโอกาสช่วยเหลือ แวววัลย์ (แพร เอมเมอรี่) เด็กสาววัยรุ่นกำพร้าใจแตกจากเงื้อมือของอันธพาล แวววัลย์มีอดีตที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน แม่หนีไปกับชู้หนุ่มคนใหม่ ส่วนพ่อถูกฆ่าตายจากการเข้าสู่วงการเมืองได้ไม่นาน แวววัลย์หลงรักลุยและชื่นชมมากเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับ ทอม อยู่บ่อยๆ

ตอน แรกลุยไม่สบายใจที่แวววัลย์เข้ามาสนิทสนมเพราะกลัวไทรงามไม่สบายใจ แต่เมื่อทราบถึงอดีตของแวววัลย์ ลุยถึงกับต้องผงะ เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วแวววัลย์เป็นบุตรสาวของเหยื่อกระสุนของเขาในอดีตใน ยุคแรกๆ ที่เริ่มทำงานให้กับองค์กร ทำให้ลุยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นเมตตาแวววัลย์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแวววัลย์เข้าใจดีและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เธอเข้ามาอยู่เป็นเหมือนคนในครอบครัวของลุย เป็นพี่สาวของทอม

ลุยไม่ อยากขัดแย้งกับนายใหญ่ขององค์การ เขาจำต้องยอมรับงานฆ่านักการเมืองทุจริตคนหนึ่งจากองค์การ แต่งานนี้เองที่ลุยต้องเสียใจมากที่สุด เพราะเขาพลั้งมือลั่นกระสุนใส่เด็กสาวคนหนึ่งที่นักการเมืองคนนี้แอบล่อลวง มาจากผับ และทันทีที่พลิกร่างเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา กลับกลายเป็น แวววัลย์ ที่เผลอเข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่รู้ตัว !

ลุยแทบคลั่งด้วยความ เสียใจ…เขาไม่ตั้งใจจะดับชีวิตเด็กสาวคนที่ตัวเองฆ่า พ่อเธอเลย ลุยรู้สึกผิดในใจอย่างมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวางมือโดยเด็ดขาด เขาทำจดหมายแจ้งองค์การว่าต้องการลาออกและสัญญาว่าจะเก็บรักษาความลับ ทุกอย่างขององค์การไว้ แต่กริชไม่สนับสนุนการตัดสินใจของลุยเพราะรู้ดีว่าองค์การไม่เคยปล่อยให้ใคร เลิกอาชีพนี้ การออกจากองค์การทำได้เพียงสถานเดียวคือ..จบชีวิต !

กริช กับ เดือน แรมกล้า (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนรักของลุยและ สร้อยคีรี พยายามคัดค้าน แต่ลุยตัดสินใจแน่วแน่ เขาพาเมียและลูกหนีไปประจวบเพื่อสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของ สร้อยคีรี ที่หลอกล่อจนเหล่าเจ้านายขององค์การตายใจ ปล่อยให้ลุยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

เมื่อลุยหนีไป ปกาศิต จอมพลัง สั่งให้ลูกน้องในองค์การออกล่าตัวพร้อมๆ กับจับตัวเดือนเพื่อนรักของลุยมาเพราะเชื่อว่าเดือนรู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ ไหน เดือนถูกซ้อมอาการสาหัสแต่เพราะความรักเพื่อนทำให้เดือนยอมทนเจ็บปิดปาก เงียบ ปกาศิตโกรธมากจะเล่นงานเดือนถึงตาย แต่ลูกน้องคนหนึ่งของปกาศิตบังเอิญคุยกับบอย (ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ — ตอนเด็ก / พลูภัทร อัตถปัญญาพล – ตอนโต) แล้วได้ข้อมูลว่า คนที่มารับทอมลูกของลุยคือ ไทรงาม และ ย้อย ศรีไทย เดือนจึงถูกปล่อยตัว และเป้าหมายของปกาศิตเปลี่ยนเป็นย้อยทันที

ย้อยเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ ลุยไว้ใจ เขากับเดือนเป็นเพียง 2 คนที่รู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เงินจากองค์การไม่สามารถทำให้ย้อยพูดถึงลุยได้ การใช้กำลังก็ไม่ได้ผล แต่การขู่ฆ่าเมียรักทำให้ย้อยจำต้องสารภาพหมดเปลือก !

แคล้ว ถูกส่งไปเก็บลุยที่ประจวบฯ แต่ด้วยฝีมือของลุยที่เหนือชั้นกว่าทำให้เขารอดและแคล้วกลายเป็นศพเสียเอง ก่อนตายลุยเค้นความจริงจากแคล้วแล้วก็ต้องแค้นใจอย่างมากเมื่อแคล้วกลับ สารภาพว่าคนที่บอกที่อยู่ของลุยคือ เดือน แรมกล้า เพื่อนรักของเขา !

ความ จริงผิดๆ ที่แคล้วพูดส่งเดชทำให้ลุยคิดว่าเดือนเป็นเพื่อนทรยศ ลุยรีบพาลูกเมียหนีไปชุมพร และวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นเหนือเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพื่อให้องค์การไขว้เขว ชีวิตสงบสุขอย่างที่ลุยต้องการดูจะไกลห่างเสียแล้ว

ปกาศิตหงุดหงิดใจ อย่างมากที่ลุยรอดไปได้ เขาสั่งให้กริชไปจัดการลุยด้วยตัวเอง แต่กริชไม่ทำตาม ปกาศิตโกรธมาก ถ้าไม่ติดเรื่องผลประโยชน์ที่ต้องพึ่งพากันปกาศิตคงฆ่ากริชไปแล้ว

แต่เมื่อทำไม่ได้ ปกาศิตจึงเปลี่ยนเป็นเนรเทศกริชไปประจำการสาขาองค์การที่ฮ่องกงแทน

ก่อน ไปต่างประเทศกริชชวนเดือนไปตามหาลุยเพื่อจะเตือนเขา บอยคิดถึงทอมจึงขอตามพ่อไปด้วย กลุ่มของกริชคลาดกับลุยไปนิดเดียว คนที่ตามลุยเจอกลับเป็นคนของ เทียว สิบทิศ !

เทียวให้คนตามกริชมา ตั้งแต่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่ากริชต้องรู้ที่ซ่อนของลุย แม้กลุ่มของกริชจะคลาดกับลุย แต่ลูกน้องของเทียวปะทะกับลุยแบบเต็มๆ อดีตมือสังหารอย่างลุยเป็นฝ่ายชนะ ลุยตัดสินใจว่าเมื่อภาคใต้ไม่ปลอดภัย เขาจะย้ายไปทางเหนือแทน…

ลุยพาครอบครัวมาลงหลักปักฐานที่จอมบึง ราชบุรี โดยความช่วยเหลือจาก บุปผา (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) กำนันหญิงกร้าว…เพื่อนเรียนของไทรงาม บุปผาช่วยเหลือทั้งเรื่องที่อยู่และที่ทางทำมาหากินให้กับทั้งคู่ หลายเดือนแล้วที่ไม่มีคนขององค์การมาตามล่า พวกเขาอยู่กันอย่างสุขใจ ลุยทำไร่ทำสวน เลี้ยงม้า ทำตัวเป็นชาวไร่เพื่อไม่ให้ชีวิตว่างโดยเปล่าประโยชน์

แต่เมื่อ อันตรายจากองค์การทุเลาเบาบางไป ชีวิตลุยกลับหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงเข้ามาผูกพัน ด้วยความแข็งแกร่งเกินหญิงของกำนันบุปผา ทำให้เธอเริ่มระหองระแหงกับ อัสนี (ภาณุ สุวรรณโณ) หนุ่มชาวบ้านที่ชอบพอกันมานานแล้ว อัสนีเป็นเหมือนหนุ่มที่ชีวิตพบแต่ความล้มเหลว ซึ่งต่างจากแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ลุยเห็นปัญหานี้จึงพยายามช่วยเหลือให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน แต่กาลกลับทำให้อัสนีเข้าใจผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลุยอย่างเปิดเผย…แม้บุปผาจะอธิบายยังไงอัสนีก็ไม่ฟัง

ครอบ ครัวลุยมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือ ประดู่ (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) เด็กสาวกำพร้าที่มาอ้อนวอนขออยู่ด้วย ประดู่พูดได้แต่ไม่มีเสียงฟังทุกอย่างเข้าใจ เด็กสาวขยันช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนทุกอย่าง และเป็นเพื่อนเล่นกับทอมได้เป็นอย่างดี

ลุยบริจาคเงินจำนวนหนึ่ง สร้างวัด โรงเรียน โรงพักตำรวจฯ และบริจาคให้การกุศลมากมาย ไทรงามรู้ดีว่าลุยต้องการสร้างกุศลเพื่อทดแทนความเลวร้ายที่เคยทำมา สร้างความประทับใจให้กับกำนันบุปผาเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอัสนีด้วยเช่นกัน

ความใจบุญ ทำให้ลุยเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น เขาได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อจอมบึง นักบุญปืนไว” เพราะครั้งหนึ่งลุยไปช่วยกำนันบุปผาและตำรวจปราบโจรกระเหรี่ยง ที่บุกเข้ายึดโรงพัก แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของลุยพลิกผันเพราะอัสนีแอบถ่ายภาพไปลงข่าว หนังสือพิมพ์ ! เพราะเริ่มสงสัยว่าลุยกำลังปิดปังสถานะที่แท้จริงกับใครบางคนอยู่ !

เช้า วันหนึ่งไทรงามจะไปส่งทอมที่โรงเรียนเพราะลุยป่วยเป็นไข้ แต่เมื่อไทรงามสตาร์ทรถเกิดเสียงระเบิดบึ้ม ! ไฟลุกท่วมรถ ! ลุยสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเห็นบุคคลที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา ลุยไม่โวยวาย เสียงเขาแหบหายมีเพียงน้ำตาเท่านั้นหลั่งออกมา

ประดู่เข้าใจความ รู้สึกของลุยดี ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียใจอย่างเขามาแล้ว…ประดู่เป็นกำพร้าบ้านถูกโจรปล้น พ่อของเธอถูกยิง แม่และพี่ถูกเรียงคิวข่มขืนก่อนจะถูกไฟครอกตาย เพราะความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ประดู่ร้องไห้สุดเสียง…ร้องจนเสียงหมดจน ถึงปัจจุบัน

ลุยหนีออกมาจากราชบุรีโดยไม่ร่ำลาบุปผาเลย…

ลุย เลือกแก้แค้นจองล้างจองผลาญ คนแรกที่ลุยบุกเข้าไปจัดการคือ เดือน เพื่อนรักของเขาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ระเบิด ลุยฆ่าเดือนโดยไม่ฟังคำอธิบายและรับบอยไปเลี้ยงเป็นลูก บอยรับรู้เพียงว่าพ่อเดือนตายด้วยน้ำมือของคนที่ฆ่าป้าไทรงามกับทอม

เมื่อหายโศกเศร้าเสียใจแล้ว บอยเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ลุยแทบล้มทั้งยืน…

เด็ก ชายเล่าว่า เทียว สิบทิศ มาหาเดือนเพื่อบังคับให้ไปจัดการลุย โดยให้ เด็ด (จักรกฤษณ์ คชรัตน์) ลูกน้องคนสนิทซ้อมพ่อทรมานสารพัด แต่เดือนไม่ยอมทรยศลุยเพื่อนรัก ขรรชัย อินทรีย์ (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ลูกน้องเทียวจึงอาสาทำงานแทน โดยรื้ออุปกรณ์จุดระเบิดไปจากโต๊ะเดือน

สิ่ง ที่บอยเล่าทำให้หัวใจลุยแทบหยุดเต้น เดือนไม่ได้เป็นเพื่อนเลว…แต่เขาต่างหากที่เลว ! เขาฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ… ลุยแค้นใจสาบานกับตัวเองว่าจะจองล้างจองผลาญคนทั้งสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การทั้งหมดเพื่อเป็นการชดเชยให้ ไทรงาม ทอม และเดือน

ปฏิบัติการจองเวรของลุยเริ่มต้นขึ้น เด็ดถูกลุยส่งวิญญาณไปนรกคนแรก ตามด้วยขรรชัย ลุยเผาทั้งคู่เหมือนกับที่พวกมันทำกับไทรงามและทอม…ส่วน เทียว สิบทิศ ลุยได้ สร้อยคีรี อดีตคนรักเก่าให้ความช่วยเหลือ จึงจัดการกับเทียวได้อย่างง่ายดาย

เหลือคนที่ลุยต้องจัดการอีก 3 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า, ศักดา ปาฏิหาริย์ และปกาศิต จอมพลัง…

วัน หนึ่งลุยบังเอิญเจอกับ ปกาศิต จอมพลัง ที่ห้างสรรพสินค้าขณะพาลูกสาวไปซื้อของเล่น เขามีโอกาสฆ่าปกาศิตแต่ลุยทำไม่ลง เพราะปกาศิตกอดลูกสาวแน่น หนำซ้ำเด็กหญิงยังส่งยิ้มแสนบริสุทธิ์ให้อีกด้วย ลุยจึงปล่อยปกาศิตและไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะริมฝั่งภาคตะวันออกตามคำชวนของ สร้อยคีรี ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเหมือนคู่ชีวิตคนใหม่ของเขาไปแล้ว

อดีต สามีที่เสียชีวิตไปแล้วของสร้อยคีรีเป็นเพื่อนรักกับลุย สร้อยคีรีเป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์การ มีความสามารถในใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงทำงานหลายอย่างจนสัมฤทธิ์ผล สร้อยคีรีชวนลุยไปเป็นหุ้นส่วนโรงแรมบนเกาะแห่งนั้น

ลุยไปพบ ฟางแก้ว (มรกต กิตติสาระ) เจ้าแม่ผู้อิทธิพลแถบ ตะวันออกเพื่อขอพึ่งบารมี ทันทีที่เห็นหน้าลุย ฟางแก้วถึงกับพึงพอใจในความเป็นนักเลงกล้าหาญ แต่ลุยไม่มีจิตใจคิดถึงความรัก ความเศร้าภายในจิตใจยังคงตอกย้ำทำให้เขาตกอยู่ในห้วงของความเศร้าอยู่ไม่ คลาย

ฟางแก้วแสร้งทำเป็นไม่ไว้ใจลุย ยื่นข้อเสนอให้เขายอมมาเป็นมือขวาของเธอเพื่อสร้างอิทธิพลและเป็นศัตรูกับ องค์การอย่างถาวร ซึ่งความจริงแล้วเธอต้องการสนิทสนมกับลุยให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งกลายเป็นประเด็นความโกลาหลในความรักระหว่าง ฟางแก้ว ลุย และ สร้อยคีรี ท่ามกลางอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากองค์การฯ

หลังจากประลองความ เป็นหญิงไปได้พักใหญ่ ระหว่างฟางแก้วกับสร้อยคีรีจึงยอมยุติศึกชิงนายชั่วคราว เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกันคือองค์การ ทั้งสามคนร่วมมือกันเก็บ ศักดา ปาฏิหาริย์ ขณะมาเที่ยวที่เกาะ เพื่อให้ชีวิตสงบสุขของลุยสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป !

หลังจากนั้น เป็นต้นมา…ฟางแก้วยอมหลีกทางสร้อยคีรี ลุยกับสร้อยคีรีจึงสามารถดำเนินกิจการโรงแรมได้ราบรื่น โดยมีฟางแก้วเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่ยังไม่วายก่อสงครามกุหลาบแย่งชิงลุยมาเป็นคนรักระหว่างกันอยู่เนืองๆ แต่ไม่รุนแรง

สิบปีผ่านไป…เกาะแห่งนั้นเจริญมากขึ้น บ้านพักริมทะเลถูกดัดแปลงเป็นที่พักตากอากาศโก้หรู โรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแน่นอนว่ารีสอร์ทหรูหราที่สุดในย่านนั้น “ไข่มุกตะวันออก” เป็นของลุยและสร้อยคีรี นั่นเอง

ขณะนี้ลุยทำธุรกิจโรงแรมอย่างเต็ม ตัว ออกเดินทางรอบโลกไปกับกริชอยู่บ่อยๆ โดยยังระวังตัวจากองค์การเพราะไม่อยากมีเรื่องและเบื่อหน่ายการตามล่าชีวิต ระหว่างกันเต็มทนแล้ว

ลุยสนับสนุนบอยให้เรียนต่อการโรงแรม ปัจจุบันบอยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ไข่มุกรีสอร์ท รับผิดชอบบริหารรีสอร์ทแทนลุยได้อย่างเต็มตัว โดยมีผู้ช่วยสาวแสนสวยคือ ประดู่ เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยบอยไม่รู้เลยว่าด้วยความผูกพันทำให้ประดู่หลงรักบอย อย่างเต็มหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้บอยมีความสุขได้

นอกจากบอยจะไม่รู้ว่าประดู่หลง รักแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าน้องสาวทักทายและใกล้ชิดแบบถึงเนื้อ ถึงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้ประดู่ขัดใจมากที่สุด เห็นจะเป็นกรณีที่บอยพยายามจะยัดเยียดเธอให้เป็นแฟนกับ องศา (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนนายแพทย์หนุ่มอายุเท่ากัน บุคคลิกคร่ำเคร่งเต็มไปด้วยความเชย หากแต่จิตใจเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี

ทั้งสามคนออกเที่ยวด้วยกัน บ่อยครั้ง บอยพยายามสร้างเรื่องจะทำให้ประดู่ชอบองศาให้ได้ แต่เหตุการณ์ทุกครั้งกลับทำให้บอยกับประดู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนจึงดูอลเวงอยู่ไม่น้อย

เมื่อลุยออกเดินทาง ไปโปรโมทโรงแรมรอบโลก เขาสั่งเสียบอยว่าอย่าเพิ่งมีครอบครัว…ถ้าศัตรูอีก 2 คนยังไม่เลิกตามราวี เพราะลุยไม่อยากให้บอยมีชีวิตครอบครัวที่เศร้าเหมือนตัวเอง

แต่ดู เหมือนบอยจะทำในสิ่งที่ลุยเตือนไม่ได้ เขารู้สึกถูกชะตา น็อท (แซมมี่ เคาว์เวล) ลูกค้าสาวสวยของไข่มุกรีสอร์ทที่เดินทางมาพักพร้อมกับ เมธา (พีรวิชญ บุนนาค) คู่หมั้น ในตอนแรกห้องพักของรีสอร์ทเต็มหมด แต่พอบอยได้เจอน็อท เขายินดีให้เธอกับเมธาไปพักที่ห้องชุดส่วนตัว แถมลดราคาให้เป็นพิเศษ ตัวน็อทเองรู้สึกดีกับบอยตั้งแต่แรกเห็น ความสุภาพของบอยยิ่งทำให้หญิงสาวสบายใจที่จะพูดคุยด้วย

วันนั้น…บอยจึงรู้ว่าน็อทถูกพ่อบังคับให้มาเที่ยวกับคู่หมั้น คนที่เธอไม่ได้รักเลยสักนิด !

เมธา เป็นลูกชายของ ศักดา ปาฏิหาริย์ หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ขององค์การที่ตายไปแล้ว ความเป็นลูกเจ้าพ่อทำให้เมธาเป็นนักเลงชอบวางอำนาจ น็อทเบื่อเต็มทนกับการอยู่กับผู้ชายอย่างเมธา เธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาจึงเกลียดมากเวลาที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของเธอออก นอกหน้า

น็อทอยากหนีไปให้ไกลๆ จึงหลอกให้เมธากลับไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาของให้เธอ ส่วนเธอเองถือโอกาสนี้ไปล่องเรือเล่นกับบอย…

บอย ยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะพาน็อทไปเที่ยว เขาพาหญิงสาวไปยังหาดทรายแก้วเกาะส่วนตัวของลุยที่ไม่มีใครรู้จัก มนต์เสน่ห์ของทะเลสวยงามสะกดให้ทั้งคู่รักกัน ทั้งสองกลับไปที่ รีสอร์ทด้วยความสดชื่น แต่ก็ยังแฝงความกังวลใจ…บอยรู้สึกผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นเมธา แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง เขาก็ยากจะต้านทาน

เมธาหัวเสียอย่างมากเมื่อ กลับมาถึงโรงแรมแล้วไม่เจอคู่หมั้น เขาหึงหวงบอยแทบบ้าแต่เก็บอาการไว้ เมธาสังเกตแววตาของน็อทและบอยที่มองกันบ่อยครั้ง มั่นใจว่าหัวใจของน็อทตอนนี้เป็นของบอยไปแล้ว

เมธาโกรธมากประกาศกลาง งานเลี้ยงว่าบอยเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นเขาไปอย่างหน้า ไม่อาย เมธาท้าให้บอยสู้กับตนอย่างลูกผู้ชาย บอยจำต้องรับคำท้าเพื่อไม่ให้ใครมองว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ อ่อนแอ…วันรุ่งขึ้นบอยใช้ศิลปมวยไทยต่อสู้กับเมธาอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพลังแห่งความรักมีอานุภาพมากกว่าพลังแค้น เขาชนะเมธาขาดลอย

เมธา ได้รับบาดเจ็บ น็อทจำต้องพาตัวเขากลับกรุงเทพฯ พร้อม ทองเพชร เหล็กกล้า แขกผู้ไม่ได้รับเชิญของโรงแรม ตอนนี้ทองเพชรมีกิจการทัวร์ใหญ่โต เขาสืบจนรู้ว่าสร้อยคีรีคือหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ทไข่มุกตะวันออก ทองเพชรแปลกใจมากเมื่อได้เห็นบอย เพราะเขาจำได้ดีว่าบอยคือลูกของเดือนที่ลุยเก็บไปเลี้ยง

ทองเพชรเอา เรื่องไปเล่าให้ปกาศิตฟัง ทั้งสองเชื่อมั่นว่าสร้อยคีรีหักหลังองค์การและเป็นพวกเดียวกับลุย เขาต้องหาทางทำให้ลุยโผล่ออกมาให้ได้ สำหรับเรื่องของน็อท ปกาศิตจัดการให้น็อทเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเมธา งานแต่งจะจัดขึ้นในปลายเดือน หญิงสาวตกใจอย่างมาก แม้จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ได้ผล

น็อทเสียใจมากหนีกลับไปหาบอยที่เกาะ สร้อยคีรีรู้ว่าน็อทเป็นลูกสาวปกาศิตศัตรูเก่าของลุยจึงเตือนบอย แต่ความเกลียดชังของคนในรุ่นพ่อไม่ได้ทำให้สองหนุ่มสาวหวั่นไหว ความรักทำให้ทั้งคู่เปิดเผยกายและใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยประดู่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่าง แต่เธอจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อ บอย คนที่เธอรัก

ปกาศิตโกรธ มากเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนรักกับลูกของศัตรู เขากับทองเพชรส่งคนไปเก็บเจ้าแม่ฟางแก้วและสร้อยคีรีก่อนที่ลุยจะกลับมา ความแค้นของลุยกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อพบว่าสร้อยคีรีและฟางแก้วถูกฆ่า ตายอย่างทารุณ หลักฐานมีดที่ทิ้งไว้ทำให้เขารู้ทันทีว่าคนที่ลงมือคือใคร

ลุย นำมันกลับไปคืนให้ ทองเพชร เหล็กกล้า ด้วยตัวของเอง ลุยปลิดชีวิตของทองเพชรโดยไม่ยาก เขาโทรศัพท์ไปหาปกาศิต…ประกาศว่าเขากลับมาแล้ว และกำลังจะทวงหนี้ชีวิตด้วยชีวิต

ปกาศิตเริ่มหวาดวิตก…เพราะเหลือ เพียงตัวคนเดียว ตัวการใหญ่ขององค์การเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต ปกาศิตวางแผนร้ายขอร้องให้น็อทพาบอยมาพบ โดยอ้างว่าเขากับลุยมีเรื่องเข้าใจผิดกันหลายอย่าง บอยเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ลุยกับเขาเข้าใจกันได้

ลุยวางแผนจัดการ ทุกอย่างในชีวิต แบ่งมรดกให้บอยและประดู่ กริช ลมกรดรับรู้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจึงกลับมาจากฮ่องกงเพื่อช่วยจัดการ ปัญหาทุกอย่าง แต่แล้วขณะที่ลุยสารภาพกับกริชว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเดือนตายด้วยความเข้าใจผิด บอยบังเอิญมาได้ยินเข้า !

บอยเสียใจและแค้นใจมากเมื่อทราบว่าคนที่ตนเองเคารพรักกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อ จิตใจของบอยยามนี้มีทั้งความรักและความแค้น…

บอย ตัดสินใจเด็ดขาดจะฆ่าลุยเพื่อแก้แค้นแทนพ่อ เขาบุกเข้าไปหาลุยด่าว่าสารพัด กริชเข้ามาห้ามและชี้แจงให้ฟังว่าลุยฆ่าเดือนเพราะความเข้าใจผิด แต่บอยก็ไม่ฟังเสียง เขาเล็งปืนไปยังลุยที่นั่งสงบนิ่ง ยินดีให้บอยยิงเขาให้ตาย

บอยตัดสินใจลั่นไกปืน ! แชะ !! ปืน นั้นไม่มีกระสุน บอยคลานเข้าไปก้มลงกราบแทบเท้าลุย…บอกว่าคนที่เขาเหนี่ยวไกปืนยิงไปเมื่อ ครู่นี้คือคนที่ฆ่าพ่อ เขาได้ล้างแค้นให้พ่อแล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

รุ่ง เช้า…เมื่อ ลุย บอย กริช เดินออกมาจากบ้านกลับถูกพวกของ ปกาศิต จอมพลัง และกลุ่มสมุนซึ่งมาซุ่มอยู่ระดมยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บอยรับอาสาฝ่ากระสุนปืนออกจากพวกเหล่าร้ายเพื่อไปเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ก็ไปไม่รอด…บอยถูกเมธาซัดด้วยปืนสลบเหมือด

ลุยถูกยิงอย่างไม่มี ทางสู้ จึงใช้อุบายล่อให้พวกเหล่าร้ายบุกเข้ามาในบ้าน รอบบ้านของลุยเต็มไปด้วยระเบิดชนิดร้ายแรงสามารถถล่มพวกเหล่าร้ายทั้งหมดภาย ในพริบตาเดียว

ลุยกับกริชกระโดดหลบลงมาจากบ้าน แต่กริชโชคร้ายถูกกระสุนของปกาศิตคว่ำไป ลุยบ้าเลือดปักหลักยิงโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง… แต่ลุยพลาดถูกปกาศิตและเหล่าร้ายรุมยิงพรุนไปทั้งตัว ร่างของลุยลอยหมุนคว้างลงไปฟุบใกล้ๆ กับบอยซึ่งนอนสลบอยู่ ปกาศิต จอมพลัง กับสมุนโจรนับร้อยต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่พิชิตลุยลงได้

ด้วยลม หายใจเฮือกสุดท้าย…ลุยตะกายร่างคว้าปืนที่ตกอยู่ข้างๆ บอย เล็งยิงไปที่สวิชต์ลับซึ่งเป็นที่รวมของชนวนระเบิดที่ตนเองฝังไว้…

ด้วยวิญญาณของนักสู้ก่อนจะสิ้นลม…ลุยยิงเข้าไปที่กลางสวิชต์ระเบิด บ้านระเบิดแหลกลาญไปพร้อมกับชีวิตชั่วร้ายของ ปกาศิต จอมพลัง

การจบชีวิตลงของลุยและปกาศิตทำให้องค์การลับต้องล่มสลายลงไป

บอยกับน็อทหลังจากคลายจากความเศร้าโศกเสียใจแล้วจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน

ประดู่กับหมอองศาพบรักและยอมรับหัวใจซึ่งกันและกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายและความเศร้าโศกมาด้วยกัน

พวกเขาทั้งสี่คนตั้งใจจะใช้อดีตอันเลวร้ายของผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสอนใจให้กับตัวเองในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป

ความเลวร้ายและเวรกรรมมีอยู่จริงบนโลก…ไม่ช้าก็เร็วมันจะตามมาสนองตอบต่อผู้กระทำ ความดีงามต่างหาก…ที่จะยืนยงคงอยู่ตลอดไป

รายชื่อนักแสดงละึคร ลุย
วี วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ลุย หล่มสัก
แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบทเป็น สร้อยคีรี
ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม รับบทเป็น ไทรงาม
พล พูลภัทร อรรถปัญญาพล รับบทเป็น บอย
แซมมี่ ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ รับบทเป็น น็อท
เขตต์ ฐานทัพ รับบทเป็น หมอองศา
ธันย์ชนก ฤทธินาคา รับบทเป็น ประดู่
แพร เอมเมอรี่ (แพร) รับบทเป็น แวววัลย์
อคัมย์ศิริ สุวรรณสุข รับบทเป็น กำนันบุปผา
ภาณุ สุวรรณโณ รับบทเป็น อัสนี
มรกต กิตติสาระ รับบทเป็น ฟางแก้ว
พีรวิชญ์ บุนนาค รับบทเป็น เมธา
ดนัย สมุทรโคจร รับบทเป็น เดือน แรมกล้า
อนุสรณ์ เดชะปัญญา รับบทเป็น กริช ลมกรด
โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบทเป็น ปกาศิต จอมพลัง
ทองขาว ภัทรโชคชัย รับบทเป็น ทองเพชร เหล็กกล้า
เบคิม ฤทธิ์ รับบทเป็น เทียว สิบทิศ
ประกาศิต โบสุวรรณ รับบทเป็น ศักดา ปาฎิหาริย์
ภูธฤทธิ์ พรหมบรรดาล รับบทเป็น ขรรชัย อินทรีย์
จักรกฤษณ์ คชรัตน์ รับบทเป็น เด็ด
ด.ช.มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ รับบทเป็น บอย (ตอนเด็ก)
ด.ช.เขมะ วิถึ รับบทเป็น ทอม
เลิศพร อารยะโกศล รับบทเป็น สถิตย์
เวนย์ ฟอลโคเนอร์ รับบทเป็น สิงห์

รักแท้แก้ได้

อ่านต่อ ชายหนุ่ม…เจ้าเสน่ห์ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธ ชายหนุ่ม…ผู้ไม่เคยศรัทธาในความรัก แต่กลับถูกโชคชะตาเล่นตลก… จาก “หนุ่ม” กลายเป็น “สาว” สิ่งเดียวที่ช่วยเขาได้คือ..รักแท้

รายชื่อนักแสดงละคร รักแท้แก้ได้

1 ธนพล นิ่มทัยสุข รับบทเป็น ศรัณย์
2 ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบทเป็น อบเชย
3 ชนะพล สัตยา รับบทเป็น ตุ้ม
4 อคัมย์ศิริ สุวรรณสุข รับบทเป็น ศรัณย่า
5 อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ รับบทเป็น ดาว
6 ธราภา กงทอง รับบทเป็น มะนาว
7 อนัญญา ชินแสงชัย รับบทเป็น น้ำหวาน
8 สมฤทัย กล่อมน้อย รับบทเป็น แสงจันทร์
9 วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ รับบทเป็น ชาติ
10 เทพยุดา ศรียาภัย รับบทเป็น ภูมิใจ
11 ปาลิตา โกศลศักดิ์ รับบทเป็น น้ำค้าง
12 ดร.ปัทมาฆะ สุคนธมาน รับบทเป็น ย่าอุ่นเรือง
13 ชมพูนุช ปิยะธรรมชัย รับบทเป็น น้ำแข็ง
14 ปวารา อภิพูนลาภ รับบทเป็น พิม
15 ปริษา ธนาวิวัฒน์ รับบทเป็น เฟื่องฟ้า
16 ปภัสรา เตชะไพบูลย์ รับบทเป็น ลินดา
17 วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง รับบทเป็น ป้ามะเฟือง
18 อะตอม สัมพันธภาพ รับบทเป็น ชาตรี
19 ศตวรรษ ดุลยวิจิตร รับบทเป็น ศรุต
20 พาทิศ พิสิฐกุล รับบทเป็น ภูมิชาย

ยัยไบบ้า

ภายใต้คฤหาสน์หลังใหญ่ของ ท่านบริรักษ์ มหาเศรษฐีพันล้านซึ่งมีลูกทั้งหมด 4 คน พี่ชายคนโต ชายชาญ เป็นคนเห็นตัวเห็นแก่ได้ ไม่รักพี่น้อง แต่เชื่อฟังเมียที่โลภมากอย่าง เฉลาลักษณ์ ทุกอย่าง ส่วนลูกสาวคนรอง สุดสรวง ก็เป็นม่ายสาวที่ยังสวยเซ็กซี่ โหยหาความรักจากหนุ่มๆ อย่าง สำราญ นักธุรกิจจอมปลอมที่มาปอกลอกเงินทอง แถมลูกสาวคนเดียวที่นิสัยชอบเอาแต่ใจอย่าง นกยูง ยังโดนสำราญปล้ำเป็นเมียทั้งแม่ทั้งลูก ส่วน ชายมาด สุขุมสุภาพเรียบร้อยเป็นพวกนิยมไม้ป่าเดียวกัน หลงรักเด็กหนุ่มอย่าง ศักดิ์ นักโทษหนีคดีมาหลอกเอาเงินอย่างเดียว ลูกสาวคนเล็ก ดวงใจ เป็นคนหัวอ่อน แอบชอบหมอประจำตระกูลอย่าง ประวิตร แต่หมอประวิตรกลับมีใจให้ สไบ เด็กสาวหน้าตาดีแต่สติไม่ดีที่บริรักษ์เก็บมาอุปการะเพราะความสงสาร และด้วยความสงสารทำให้ลูกๆ พากันอิจฉาที่บริรักษ์มอบความเอ็นดูให้กับสไบ ความวุ่นวายเริ่มขึ้นในงานวันเกิดท่านบริรักษ์ เมื่อสุดทรวงกับนกยูงจับสไบไปขังไว้ในห้องเก็บของแล้วเกิดไฟไหม้ โชคดีที่ กวิน กับทนาย สมโภช มาช่วยไว้ท สไบจึงรอดพ้นความตายออกมา บริรักษ์เลี้ยงดูสไบเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง แต่ด้วยความอิจฉาดวงใจแกล้งผลักสไบตกทะเลแต่กวินผ่านมาช่วยไว้ทัน ก่อนตายบริรักษ์มอบสร้อยล๊อกเกตให้สไบเป็นที่ระลึก การตายของบริรักษ์ทำให้สไบเสียใจจนหมดสติพอฟื้นขึ้นมาอาการทางโรคประสาทก็หาย แต่สไบยังแกล้งบ้าต่อมีเพียงหมอประวิตรที่รู้ความจริง ที่สไบต้องแกล้งบ้าก็เพราะกลัวลูกๆ ของบริรักษ์รุมทำร้าย เพราะบริรักษ์เขียนพินัยกรรมว่าจะยกสมบัติทั้งหมดให้กับผู้ที่ดูแลสไบ ทุกครอบครัวจึงต้องสลับกันดูแลสไบเพราะถ้าสไบเลือกใครคนนั้นก็จะได้ครอบครองสมบัติ ระหว่างการดูแลทุกคนก็หาทางกำจัดสไบไปด้วย แต่ก็โดนสไบแกล้งคืนแบบถึงพริกถึงขิงจนทุกคนเริ่มเกรงๆ สไบ ทนายสมโภชจึงยกหน้าที่ดูแลสไบให้กับกวินทั้งสอนหนังสือ สอนการเรียนรู้ชีวิต และด้วยความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองคนผูกพันกันจนกวินเริ่มสงสัยในความฉลาดเกินคนบ้าของสไบ นกยูงซึ่งแอบชอบกวินก็หาเรื่องแกล้งสไบที่ได้อยู่ใกล้ชิดกวินกว่าตัวเอง สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถดูแลสไบได้ ทนายสมโภชก็ไม่ยอมเปิดพินัยกรรม ชายมาดกับศักดิ์จึงจัดการฆ่าทนายสมโภชตามคำยุแย่ของชายชาญกับเฉลาลักษณ์ แต่พอเปิดพินัยกรรมท่านบริรักษ์ได้สำเร็จ บริรักษ์กลับยกสมบัติทั้งหมดให้การกุศลเสียแล้ว ทุกคนจึงช่วยกันหากุญแจเปิดตู้เซฟแต่หาเทไรก็ไม่เจอ นกยูงซึ่งแอบฟังกวินคุยกับสไบเรื่องตู้เซฟก็มาบอกสุดสรวงว่ากุญแจอยู่ที่สไบ ทั้งสุดสรวงและชายมาดจึงวางแผนจับสไบไปทรมานเพื่อให้บอกที่ซ่อนของกุญแจตู้เซฟ สไบเจ็บปวดจนเพ้อถึงที่ซ่อนออกมา ชายชาญกับเฉลาลักษณ์ซึ่งแอบฟังอยู่ก็รีบกลับไปหากุญแจที่บ้านบริรักษ์ทันที สมบัติมหาศาลในตู้เซฟใครจะเป็นผู้ได้ครอบครอง?? สไบจะรอดชีวิตกลับออกมาหรือไม่ กวินจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่าตัวเองแอบหลงรักคนบ้า !! ติดตามได้ในละคร ยัยไบบ้า
รายชื่อนักแสดง ยัยไบบ้า
ธนา สุทธิกมล รับบท กวิน
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบท สไบ
กรรชัย กำเนิดพลอย รับบท ชายมาด
สุภัสสร มามีเกตุ รับบท นกยูง
เจฟฟรี่ เบญจกุล รับบท หมอประวิตร
พรรำพา สุขได้พึ่ง รับบท ดวงใจ
สัจจากาจ จิตพึ่งธรรม รับบท ศักดิ์
สุภาภรณ์ คำนวนศิลป์ รับบท เฉลาลักษณ์
ธีระพงษ์ เหลียวรักวงศ์ รับบท ชายชาญ

เปลวไฟในฝัน

ลานดอกหญ้า คือชื่อชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ชุมชนนี้มีพี่น้องสองหนุ่มน้ำใจดีอาศัยอยู่ บัว หนุ่มหน้าตาดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น ทั้งที่ร่างกายไม่แข็งแรงเพราะเป็นโรคหัวใจ กุหลาบ หนุ่มหล่อเข้ม ถูกเก็บมาจากกองขยะ พอโตมาเขาก็กลายเป็นฮีโร่ของคนในชุมชน เป็นมือขวาของเฮียไก่ที่เปิดบ่อนและพ่อค้ายา ทั้งสองเป็นลูกของ จำปา แม่ค้าขายข้าวแกงในชุมชน บัวและกุหลาบอายุเท่ากัน เกิดปีเดียวกัน จึงมีความสนิทสนมกันมาก

เมื่อในอดีตจำปาเคยทำงานกวาดถนนเลี้ยงดูบัว ลูกชายเพียงลำพัง เพราะ สมชาย สามีขี้เมาชอบตบตีจำปาเพื่อไถเงินไปกินข้าว วันหนึ่งจำปาเก็บเด็กชายวัยไล่เลี่ยกับบัวในขยะเอามาเลี้ยง และตั้งชื่อว่ากุหลาบ สมชายไม่พอใจจึงหาเรื่องทุบตีกุหลาบและจำปาเป็นประจำ กระทั่งเด็กทั้งสองทนไม่ไหวบัววิ่งไปแจ้งความกับตำรวจ ส่วนกุหลาบเข้าต่อสู้กับสมชายและใช้ขวดเหล้าฟาดสมชายจนเลือดอาบ เป็นเหตุให้สมชายต้องไปสงบสติอารมณ์ในคุกหนึ่งคืน

จำปาตัดสินใจพาลูก หนีเข้ากรุงเทพฯ เพราะกลัวสมชายตามมาเล่นงานกุหลาบเพราะความแค้น จำปาและลูกๆ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ลานดอกหญ้า เธอต้องทำงานหนักเพื่อเก็บเงินเอาไว้ใช้ผ่าตัดบัวที่เป็นโรคหัวใจ 10 ปีผ่านไปทั้งสองเติบโตเป็นหนุ่มวัยรุ่น จำปายึดอาชีพค้าขายอาหาร กุหลาบรับจ้างเป็นลูกน้องให้กับ เฮียไก่ เพื่อเก็บออมไว้เป็นค่าผ่าตัด สมชายออกจากคุกก็ดั้นด้นตามหาจำปาและลูกๆ เขาเล่นละครตบตาบัวจนบัวเกิดความสงสาร

ยอมให้สมชายเข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งที่จำปาไม่ต้องการ วันหนึ่งบัวเจ็บหน้าอกต้องพาส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าจะต้องผ่าตัดเป็นการด่วน กุหลาบรีบวิ่งกลับบ้านเพื่อนำเงินมาให้หมอ แต่เขากลับเห็นสมชายกำลังจะเอาเงินก้อนของพวกเขาไป ทั้งสองยื้อแย่งเงินกันกุหลาบบอกว่าจะเอาเงินไปเป็นค่าผ่าตัดบัวลูกชายแท้ๆ ของเขา แต่สมชายไม่เชื่อด้วยความโมโหกุหลาบเล่นงานสมชายจนหมอบ และจับโยนลงมาจากตึกทำให้สมชายขาหัก

แต่ ไม่ถึงกับตายส่วนกุหลาบติดคุก บัวได้โควต้าเรียนกฎหมายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ขณะที่กุหลาบต้องเข้าไปอยู่ในสถานพินิจ เส้นทางชีวิตของทั้งสองหนุ่มจึงเดินสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ในสถานพินิจกุหลาบถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานา เพราะอันธพาลที่พยายามจะทำให้กุหลาบเป็นคนเลวตลอดเวลา วันเวลาผ่านไปบัวเรียนสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุด เป็นวันเดียวกับที่กุหลาบได้ออกมาจากสถานพินิจ บัวสอบเข้าทำงานในสำนักงานอัยการ

และพยายามให้กุหลาบหันมาทำงาน สุจริตแทนการทำให้เฮียไก่ แม้กุหลาบจะช่วยเฮียไก่ทำงานแต่ก็ไม่เข้าร่วมแก๊ง และเขาก็ยังมีคำสอนของจำปาที่ให้เขาทำตัวเป็นคนดี คอยเตือนเขาอยู่ในหัวตลอดเวลา เฮียไก่พยายามชักชวนให้กุหลาบมาเป็นมือปืนให้ตัวเอง แต่กุหลาบปฏิเสธมาตลอดเฮียไก่จึงทำทุกวิถีทางเพื่อบีบให้กุหลาบสมยอม และในเวลาเดียวกันเฮียไก่ก็หันมาสนใจ มะลิ เด็กสาวทอมบอยที่ชอบอำพรางตัวเองเพื่อความปลอดภัย

ตอนที่มะลิยังเป็น เด็กบ้านของเธอถูกไฟไหม้ บัวฝ่ากองเพลิงเข้าไปช่วยเธอเอาไว้ทำให้มะลิฝังใจอยู่กับความทรงจำเมื่อใน อดีต เธอบอกกับตัวเองว่าเธอจะต้องตามหาคนที่ช่วยเธอในตอนนั้นให้ได้ และเมื่อมะลิมาอยู่ที่ชุมชนฯ เธอก็ป่วนชาวบ้านในชุมชนให้เดือดร้อนตลอดเวลา และเธอก็ถูกบัวกำราบเอาไว้ตลอดเช่นกัน นิกร เศรษฐีที่ร่ำรวยมาจากยาเสพติดกำลังเป็นเป้าสายตาของตำรวจ ร่วมกับ ลพ หุ้นส่วนผลิตยาบ้าที่กลับใจเพราะลูกสาว ลีลาวดี

นิกรกลัวลพเปิด โปงอดีตของตนจึงส่งลูกน้องไปลอบยิงลพจนเสียชีวิต ส่วนลีลาวดีถูกบัวช่วยหนีรอดไปได้ บัวจึงฝากให้กุหลาบช่วยดูแลเธอระยะหนึ่ง กุหลาบพาลีลาวดีมาอยู่ที่เกาะ ซึ่งการมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้ทำให้กุหลาบและลีลาวดีมีความผูกพันกันขึ้น บัวคิดว่าหลักฐานของลพต้องอยู่ที่บ้าน จึงเอาหมายค้นไปขอตรวจค้นแต่ก็ไม่พบอะไร บัวจึงขอให้ลีลาวดีช่วย ลีลาวดีเคยฝันเห็นลพที่แกลเลอรีของเธอจึงคิดว่าหลักฐานเอาผิดนิกรต้องอยู่ ที่นั่น

แต่ เมื่อไปค้นดูก็ไม่พบหลักฐานใดๆ นอกจากจดหมายที่เขียนไว้ว่าสมบัติของเขาทั้งหมดอยู่ที่เรือนไทย หญิงสาวจึงพาทุกคนไปที่นั่น ลีลาวดีอยู่ที่บ้านเรือนไทยและใช้เวลาส่วนใหญ่ค้นหาหลักฐานจนทั่ว กุหลาบหลงรักลีลาวดีแต่คิดว่าเธอเหมาะสมกับบัวมากกว่า จึงได้แต่แอบเฝ้าระวังเธออยู่ห่างๆ ตอนที่เธออยู่บ้านเรือนไทย สมชายซึ่งกลับมาอยู่กับลูกชายอีกครั้งและยังรังเกียจกุหลาบเหมือนเดิม พยายามทำให้บัวผิดใจกับกุหลาบและจับบัวมัดมือชกจะให้แต่งงานกับลีลาวดีให้ ได้

แต่หญิงสาวไม่สมยอมเพราะใจเธอหลงรักกุหลาบอยู่ กุหลาบพยายามห่างลีลาวดี แต่เมื่อเขายิ่งห่างลีลาวดีก็ยิ่งตาม ทำให้บัวเกิดหึงหวงและเครียดหนัก และตัวเขาเองก็ถูกสมชายยั่วยุให้เกลียดกุหลาบ สองพี่น้องจึงมีปัญหากันมาเรื่อยๆ เฮียไก่ฉวยโอกาสนี้กล่อมกุหลาบให้มาเป็นพวกของตน ทำให้กุหลาบเริ่มหวั่นไหวแต่ทุกครั้งลีลาวดีก็จะเข้าไปขัดขวาง ทั้งที่ตัวเธอเองก็กำลังถูกพวกเฮียไก่และนิกรตามล่า กุหลาบปฏิเสธความรักของลีลาวดี ทำให้เธอเสียใจมากจึงประชดด้วยการหันไปรักบัวแทน

แต่สุดท้ายเธอก็ หลอกใจตัวเองไม่ได้ ผิดกับบัวที่หลอกตัวเองมาตลอดเวลาว่าลีลาวดีรักตน ทำให้มะลิที่แอบรักบัวอยู่ต้องผิดหวังและเสียใจ เฮียไก่กลั่นแกล้งกุหลาบต่างๆ นานา และยัดเยียดยาเสพติดให้เขา จนกุหลาบถูกจับไปติดคุกในข้อหามียาเสพติดในครอบครอง คนในชุมชนฯ รู้ว่ากุหลาบบริสุทธิ์จึงขอร้องให้บัวประกันน้องชายออกมาแต่บัวไม่ยอม เฮียไก่จึงประกันตัวกุหลาบออกไป เฮียไก่ทำเช่นนั้นเพื่อจะดึงกุหลาบออกมาจากคุก และหาเรื่องให้เขาฆ่าคนตายจะได้ถูกยัดเยียดว่าเป็นฆาตกร

ถ้ากุหลาบ ถูกบีบคั้นว่าเป็นคนเลวมากๆ เขาจะได้หันมาจับปืนยอมเป็นมือขวาให้เฮียไก่ และแผนของเฮียไก่ก็เหมือนจะได้ผล เพราะกุหลาบก็เหมือนผ้าขาวที่เมื่อแปดเปื้อนด้วยสีดำความสกปรกก็จะกระจายไป ทั่วผืนผ้า ก่อนที่บัวจะขึ้นว่าความคดีของกุหลาบ มะลิและลีลาวดีช่วยกันหาหลักฐานอย่างหนัก ถ้าลีลาวดีเจอหลักฐานกุหลาบอาจจะถูกกันไว้เป็นแค่คนส่งของ สุดท้ายลีลาวดีก็หาหลักฐานจนเจอในรูปวาดของลพนั่นเอง ลีลาวดีเอาหลักฐานมาให้บัว

ทั้งหมดวางแผนล่อนิกรและเฮียไก่ออกมาให้ ตำรวจจับ จนเกิดการต่อสู้กุหลาบถูกยิงบาดเจ็บสาหัสบัวโรคหัวใจกำเริบ จำปาหัวใจแทบสลายเมื่อเห็นลูกชายทั้งสองนอนอยู่ในห้องไอซียูกำลังจะตายทั้ง คู่ การผ่าตัดเสร็จสิ้นลงทั้งสองปลอดภัยจากการผ่าตัด ลำแสงยามเช้าทอดผ่านเข้ามาในห้องพยาบาลที่ชายหนุ่มทั้งสองนอนอยู่ด้วยกัน พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงวันที่จะออกไปสู่โลกที่โหดร้ายอีกครั้ง เขาทั้งสองรู้สึกว่าอย่างน้อยชีวิตก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไปนัก…ตราบใดที่ความดียังคงอยู่

รายชื่อนักแสดงละคร เปลวไฟในฝัน

เขตต์ ฐานทัพ แสดงเป็น บัว
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ แสดงเป็น มะลิ
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ แสดงเป็น กุหลาบ
อารยา เอ.ฮาร์เก็ต แสดงเป็น ลีลาวดี
ปิยะดา เพ็ญจินดา แสดงเป็น จำปา
เลิศพร อารยะโกศล แสดงเป็น สมชาย
ทัฬห์ อมรบุณยกร แสดงเป็น เฮียไก่
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ แสดงเป็น นิกร
วสุนทรา ศรีทองสุข แสดงเป็น หลิงหลิง

เปรี้ยวตลาดแตก

อีเปรี้ยวตลาดแตก สมญานี้ ชาวบ้านอำเภอปลายดง พร้อมใจกันตั้งให้ เปรี้ยว (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) สาวแก่นเก่ง และแกร่งกล้า ที่แม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องสยบให้กับความห้าวของเธอ แต่ก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ส่งคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง อย่างร้อยตำรวจเอก เชียรฉาย ชนานนท์ (เขตต์ ฐานทัพ) มาเป็นสารวัตรประจำสภอ. ปลายดง แต่สารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกเจอ เพราะเปรี้ยวดันไปออกฤทธิ์กับเชียรฉาย โดยไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับสารวัตรคนใหม่ จนทั้งคู่พบหน้ากันเมื่อไร ต้องปะทะกันตลอด แม้ว่าจะมี อาสำอาง (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ที่เลี้ยงเปรี้ยวมาแต่แบเบาะคอยห้ามปราม แต่ลับหลังอาสำอาง เปรี้ยวต้องหาทางแกล้งเชียรฉายอย่างเจ็บแสบ

ที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพฯ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่

แต่การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพลตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพง ๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ

แต่ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้ รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉายที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน

ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด

ท่าน อธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉายกับ เปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ

ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง

กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน

คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว  แต่เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน แต่หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดงมาก ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับ ใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง

เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม ต่อมาคุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว

หมอ แขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้ง ๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป

ที่แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด

คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวนขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่แม่แท้ ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยังคิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วยซึ่งเมื่อ แขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทั้จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน

ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่าจะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไปทั้งที่ตัวเองถูกยิง จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป… เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก

ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็ว ๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว

กระทั่ง หลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า อีเปรี้ยวตลาดแตก เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน…. ติดตามชม ละคร  เปรี้ยวตลาดแตก
รายชื่อนักแสดงในละคร เปรี้ยวตลาดแตก

เขตต์ ฐานทัพ   แสดงเป็น   เชียรฉาย
ภัทรธิดา  พัชรวีระพงษ์   แสดงเป็น   เปรี้ยว
อภิษฏา เครือคงคา   แสดงเป็น   สิริยา
อธิชนัน ศรีเสวก   แสดงเป็น   พ.ญ.แขฉวี
เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์   แสดงเป็น   อวน
พิมพรรณ ชลายนคุปต์   แสดงเป็น   สำอาง
ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา   แสดงเป็น   แสน
ปาลิตา โกศลศักดิ์   แสดงเป็น   ไขลดา
พิพัฒน์พล โกมารทัต   แสดงเป็น   เสี่ยเส็งศักดิ์
โกวิท วัฒนกุล   แสดงเป็น   กำนันสาย
รวิช ไรวินทร์    แสดงเป็น   หมู่ปลิว
มัณฑนา หิมะทองคำ   แสดงเป็น   ทิพย์จันทร์
ตฤณ เศรษฐโชค   แสดงเป็น   อังศุธร
นราธิษณ์ น้ำค้าง   แสดงเป็น   เปี๊ยก
วิมลพรรณ ชาลีจังหาญ   แสดงเป็น   กิมฮวย
เจี้ยวจ๊าว เชิญยิ้ม   แสดงเป็น   พลแหยม
เดี่ยว ดาราฉาย   แสดงเป็น   พลเฉื่อย
ธีรพงศ์ ตระกูลตั้งอนันต์   แสดงเป็น   สด
ศุภกรชัย แปลกประเสริฐ   แสดงเป็น   ส่ง
อรีย์สรวง นิลวรรณ   แสดงเป็น   สมใจ
นภัทร สงวนวงศ์   แสดงเป็น   ติงลี่

ดำขำ

กาฬมณี(แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์)หรือ หนูดำ สาวน้อยจอมซ่าแห่งบ้านนาปี จังหวัดเลย ตกใจมากเมื่อรู้ว่าผู้ใหญ่แดง(จักรกฤษณ์ อำมรัตน์)พ่อของเธอได้ตกลงหมั้นหมายเธอให้แต่งงานกับลูกชายของเพื่อนรักเอา ไว้ตั้งแต่เล็ก คู่หมั้นของเธอคือทุติยะ(ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตน์รักษ์)หนุ่มโสดเนื้อหอมลูกชายคนเดียวของ ทิวา(ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) และพวงแก้ว(ภัสสร บุญยเกียรติ)ทุติยะเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะชาติตระกูล เขาจึงปฏิเสธการแต่งงานกับสาวบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน เพราะเค้าเองก็มีดาววดี(แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล)สาวเซ็กซี่เป็นคู่ควงอยู่แล้ว

กำนันแดงกับทิวาเป็นเพื่อน รักกันตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่มีสัญญาใจจะให้ลูกชายกับลูกสาวของตนแต่งงานกัน โดยมีของขวัญงานแต่งงานเป็นที่ดิน 1,000ไร่ ทิวาไม่อยากเสียคำพูดจึงบังคับให้ทุติยะไปดูตัวหนูดำที่บ้านนาปี ส่วนหนูดำเมื่อรู้ว่าทุติยะเป็นคนกรุงที่เย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ เจ้ายศเจ้าอย่าง รังเกียจความบ้านนอก หนูดำเลยแกล้งทาตัวจนดำปี๋ ทำตัวไร้รสนิยม ไร้การศึกษาให้ทุติยะรังเกียจ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแต่งงานกัน ทุติยะรังเกียจหนูดำตามความคาดหมาย เขาประกาศไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้หญิงอย่างหนูดำเด็ดขาด

ขณะเดิน ทางกลับรถของทุติยะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ หนูดำไปพบเข้า จึงเอาตัวไปรักษา เมื่อทุติยะฟื้นขึ้นมา หนูดำรู้ว่าทุติยะความจำเสื่อม เลยได้ทีแก้แค้นผู้ชายที่ดูถูกเธอ ด้วยการเอาตัวทุติยะไปเก็บไว้ในไร่ เธอหลอกทุติยะว่าเขาเป็นคนงานในไร่ของเธอ ชื่อ นายทุย หนูดำกลั่นแกล้งนายทุยสารพัด ให้ทำงานหนักอยู่กับดินกินกับทราย มีป้าถนอม(ธงธง-คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ)แม่ครัวในไร่ของหนูดำเพียงคนเดียวที่รู้ว่านายทุยคือใคร ป้าหนอมจึงได้แต่แอบช่วยนายทุยเป็นบางครั้ง หนูดำส่งข่าวในนามของทุติยะ หลอกทางบ้านว่าเขาหนีไป และจะไม่กลับบ้านจนกว่าพ่อจะยกเลิกการแต่งงานกับหนูดำ

ดาววดีร้อน ใจมากเมื่อทุติยะแฟนหนุ่มหายไป บังเอิญเธอมีเหตุต้องเดินทางผ่านมาแถวจังหวัดเลย เธอเห็นคนหน้าตาคล้ายกับทุติยะ แต่อยู่ในสภาพของคนงาน เธอจึงมาตามสืบ แต่ปรากฏว่านายทุยจำดาววดีไม่ได้ ดาววดีเองก็รังเกียจนายทุยที่มีฐานะเพียงคนงาน แต่ดันไปติดใจ ธงรบ (โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์)พัฒนากรรูปหล่อที่มาหลงรักหนูดำ

ใน ขณะเดียวกันนั้นนายทุยก็มี บัวตอง(แพร-พรรัมภา สุขได้พึ่ง)คนงานสาวในไร่มาแอบชอบ บัวตองตามเอาอกเอาใจนายทุย ไม่ว่านายทุยจะถูกหนูดำกลั่นแกล้งยังไง บัวตองก็อาสามาช่วย จนหนูดำชักจะหมั่นไส้บัวตองอยู่เหมือนกัน หนูดำซ่อนนายทุยไว้ได้ไม่นาน ก็โดนผู้ใหญ่แดงจับได้ คุณพวงแก้วจึงให้ดาววดีมารับตัวทุติยะกลับไปรักษาจนหาย เมื่อทุติยะจำความได้ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ก็ทั้งโกรธทั้งหมั่นไส้หนูดำ ทุติยะจึงหาทางเอาคืน

ทุติยะประกาศตกลง แต่งงานกับหนูดำ เพราะจะหาทางแก้แค้น ตอนแรกหนูดำไม่ยอม แต่ผู้ใหญ่แดงขู่ว่าถ้าผิดสัญญาที่ดินมรดกทั้งหมดจะต้องยกให้กับทุติยะ หนูดำจึงจำใจต้องเข้าพิธีแต่งงาน หนูดำเข้าพิธีแต่งงานในสภาพของสาวบ้านนอกตัวดำปิ๊ดปี๋ และลงมาอยู่กับบ้านทุติยะที่กรุงเทพฯ หนูดำเสี้ยมให้บัวตองที่ติดตามมากรุงเทพฯ อาละวาดกับดาววดี ส่วนตัวเองก็พยายามทำทุกวิถีทางให้ทุติยะหย่ากับตน ทั้งทำตัวสนิทสนมกับคนรับใช้ในบ้าน อาทิ มะลิ(ศิวพร พันธรักษ์),ป้าหอม(จันทนา ศิริผล)และไอ้ไม้(ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์)คนขับรถ หนูดำนำทีมเปิบข้าวเหนียว จกปลาร้า เว้าอีสาน ฯลฯ อย่างไม่เห็นแก่หน้าใคร เมื่อมีการประกวดเดินแบบหนูดำก็ไปสมัคร แต่ดันทาตัวดำขึ้นเดินแบบ ทำให้ตระกูลทิชาพันธ์อับอายขายหน้าไปทั่วสารทิศ ทุติยะเริ่มสงสัยเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาเหมือนหนูดำแต่ตัวขาว แต่งตัวสวยงามทันสมัยมาคอยสะกดรอยตามเค้ากับดาววดี เขาพยายามจะจับให้ได้ แต่หนูดำก็เอาตัวรอดไปได้ทุกที ธงรบขอให้หนูดำเลิกปลอมตัว หนูดำบอกจะทำทุกอย่างจนกว่าจะได้ที่ดินคืน

ทิวากับผู้ใหญ่แดงเห็นว่า การแต่งงานของหนูดำกับทุติยะท่าทางจะไปไม่รอด จึงวางแผนหลอกทั้งคู่ไปหย่าขาดกันซะ แล้วจะเอาที่ดินไปขายให้กับเสี่ยดำเกิง(กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี)ที่มาติดต่อขอซื้อที่เพื่อทำสนามกอล์ฟ คุณพวงแก้วดีใจใหญ่ เพราะรังเกียจลูกสะใภ้บ้านนอกคนนี้เต็มที หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วสาเหตุที่ทิวาต้องการจะให้ทุติยะแต่งงานกับหนูดำ เพราะครอบครัวทิชาพันธ์กำลังจะล้มละลาย หนูดำกับทุติยะจึงจำเป็นต้องกันหน้าเข้าหากัน เพราะรู้ดีว่าหากมีการสร้างสนามกอล์ฟ จะต้องมีการทำลายธรรมชาติขนานใหญ่ ทั้งยาฆ่าแมลงจำนวนมาก และยังแย่งน้ำดิบจากชาวบ้านมาใช้เลี้ยงหญ้าในสนาม ทำให้ชาวนาชาวไร่บ้านนาปีต้องเดือดร้อนแน่ๆ หนูดำกับทุติยะจึงบอกผู้ใหญ่แดงและทิวาไปว่าตกลงจะอยู่ด้วยกันต่อ แต่พ่อของทั้งคู่ก็มีข้อแม้ต่อว่าทั้งหนูดำกับทุติยะจะต้องมีลูกด้วยกัน เป็นจังหวะเดียวกับที่บัวตองเกิดพลาดท่าเสียทีไอ้ไม้คนขับรถจนมีท้องขึ้นมา บัวตองไม่อยากมีลูก เพราะไม่ได้รักไอ้ไม้ หนูดำจึงแกล้งท้อง และรับเอาลูกของบัวตองมาเป็นลูกตน แม้ผู้ใหญ่แดงและทิวาจะสงสัย แต่ก็อยากรู้ว่าทั้งคู่จะมาไม้ไหน จึงปล่อยเลยตามเลย หนูดำกับทุติยะจึงต้องเล่นบทเป็นพ่อแม่จำเป็น สร้างความวุ่นวายไปทั้งบ้าน แต่พอได้มาเล่นเป็นพ่อแม่ลูกความรู้สึกดีๆ ก็ค่อยๆ เกิดขึ้น แต่การณ์กลับตาลปัตร เมื่อไอ้ไม้กับบัวตองทนละอายแก่ใจไม่ไหว จึงแต่งงานกันแล้วขอลูกกลับไปเลี้ยงเอง

พอ โดนจับได้ว่าทั้งสองรวมหัวกันโกหก ผู้ใหญ่แดงจึงมีคำสั่งให้หนูดำกับทุติยะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านนาปีเพื่อจะ ได้ดูแลใกล้ๆ แต่คุณพวงแก้วกลับส่งดาววดีตามไปเพื่อชิงลูกชายจากสะใภ้ตัวดำกลับมา ดาววดีบุกไปรังควานถึงบ้านนาปี แต่หนูดำก็สู้ไม่ถอย

เสี่ยดำเกิง เห็นเรื่องที่ดินมีปัญหายืดเยื้อ จึงส่งคนมาทำร้ายข่มขู่หนูดำ แต่ทุติยะช่วยไว้ทัน หนูดำกับทุติยะเริ่มรู้สึกดีต่อกัน ทิวาสารภาพความจริงกับพวงแก้ว พวงแก้วเลยรวมหัวกับดาววดี หาทางทำให้หนูดำได้รู้ความจริงว่า ที่ทุติยะยอมแต่งกับเธอก็เพราะหวังสมบัติ เมื่อหนูดำรู้ความจริงก็เสียใจมาก จึงขอหย่าขาดจากทุติยะ และเดินทางกลับจังหวัดเลยคนเดียว สุดท้ายความรักระหว่างทุติยะกับหนูดำจะลงเอยเช่นไร?

รายชื่อนักแสดงละคร ดำขำ
ณวัฒน์ กุลรัตน์รักษ์ แสดงเป็น ทุติยะ
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ แสดงเป็น หนูดำ
อรจิรา แหลมวิไล แสดงเป็น ดาว
อนุชิต สพันธ์พงษ์ แสดงเป็น ธงรบ
ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์ แสดงเป็น ไม้
พรรัมภา สุขได้พึ่ง แสดงเป็น บัวตอง
จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ แสดงเป็น กำนันแดง
ศตวรรษ ดุลยพินิจ แสดงเป็น ทิวา
ภัสสร บุญยเกียรติ แสดงเป็น พวงแก้ว
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น เสี่ยดำเกิง
ศิวพร พันธรักษ์ แสดงเป็น มะลิ
คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ แสดงเป็น ป้าถนอม
เต่า เชิญยิ้ม แสดงเป็น บุญโฮม
นิทัศน์ ธำรงค์ แสดงเป็น จูลี่
จันทนา ศิริผล แสดงเป็น ป้าหอม

คู่ป่วนอลวน

พล มัณฑนากรหนุ่มหล่อ พ่อตายมีแต่แม่ที่ชอบแอบเล่นการพนัน พล ฝีมือดีบ้างานจนลืมแฟนเสมอ กระทั่งวันสำคัญนัดถ่ายรูปกับ กุสุมา ที่สตูดิโอแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมพิมพ์เป็นการ์ดแต่งงาน พลจะไปรับชุดแต่งงานที่ร้านตัดเสื้อหรูของ คุณวิวาห์วดี มาให้เธอเพื่อเอาใจและแก้ตัวที่ชอบผิดนัด กุสุมาเป็นลูกสาวคนเดียวของ สมพงษ์ เจ้าของร้านทองที่มีชื่อเสียงและรวยมาก เธอเป็นสาวสวย อ่อนหวาน น่ารัก ตามใจแฟน ไม่ต่อว่าต่อขาน พลจะดูหนังบู๊แต่เธออยากดูหนังรัก พลจะกินอาหารญี่ปุ่นแต่เธอจะกินอาหารจีนก็ไม่ขัดข้อง เธองอนกับเขาเรื่องเดียวคือผิดนัด

กุสุมาถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจเป็น คุณหนู แถมยังผู้หญิงสุดๆ กุสุมาจัดการเตรียมงานแต่งงานเองทั้งหมดล่วงหน้าถึงสามเดือน กุสุมาต้องการทุกอย่างต้องดีที่สุดและผิดพลาดน้อยที่สุด ชุดแต่งงานก็เช่นกันเธอเลือกแบบที่หรูหรา ปักระยิบพริบพราวไปหมด ออกแนวเว่อร์ แต่เมื่อกุสุมาลองสวม เธอสวยน่ารักเหมือนเจ้าหญิงในนิทาน พลก็โอเค กิตติ เพื่อนสนิทของพลและ อำนาจ พ่อของกิตติ เจ้าของบริษัทที่พลทำงานด้วย มักจะเตือนพลเสมอให้สนใจแฟนสาวแสนดีมากๆ เพราะมองเห็นความต่างในนิสัยของทั้งคู่ กุสุมาเกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง ขณะที่พลเป็นคนบ้างาน งานต้องมาก่อนเสมอ

เพราะพ่อแม่เขาไม่ได้ร่ำรวย พลต้องทำงานหนักเก็บเงินเองเพื่อซื้อบ้านสบายน่าอยู่ และรถยนต์ดีๆ เพื่อให้คู่ควรกับกุสุมาเพื่อให้ว่าที่พ่อตาสมพงษ์สบายใจว่าลูกสาวจะไม่ตก อับ พลสามารถทำงานหาเงินให้กุสุมาอยู่อย่างสบายได้ ปัญหาสำคัญของเขามีเรื่องเดียวคืองาน ที่ทำให้ผิดนัดกับเธอ งานถ่ายรูปก็เช่นกันพลผิดเวลาตั้งแต่ไปรับชุดแต่งงานที่ร้านตัดชุด ตอนเข้าไปก็ชนกับ ภาวิกา ที่หิ้วถุงชุดสวนออกมา ภาวิกาไม่พอใจที่พลชนแล้วว่าเธอเกะกะซุ่มซ่ามโดยไม่มองหน้า ภาวิกาด่าพลว่าไอ้บ้า พลรับชุดแต่งงานออกจากร้านแล้วรีบวิ่งจนถึงลิฟท์ ในลิฟต์มีเพียงพลและสาวสวย มาดเท่ ยืนอยู่เท่านั้น

เธอถือถุงใบใหญ่ ที่มีชื่อร้านเสื้อหรูเหมือนกับเขา พลเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นชุดแต่งงาน ภาวิกาจ้องหน้าพลเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ พลยิ้มเพราะจำไม่ได้ว่าเขาชนเธอกลับหาว่าเธอไม่มีมารยาท จู่ๆ ลิฟต์กระชากอย่างแรง หนุ่มสาวทั้งคู่เสียหลักเกือบล้มกอดกันถุงตกจากมือ ลิฟต์หยุดสนิทภาวิภายังไม่ทันสะบัดตัวจากพล พลรีบสะบัดก่อนรีบกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ พลเอะอะโวยวาย พลเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด ภาวิกายืนนิ่งดูเหมือนใจเย็นทั้งที่ในใจหวั่นๆ ทั้งคู่เถียงกัน เพราะภาวิกาพูดเตือนว่าการกระทำของเขาเสียแรงเปล่าๆ สู้อยู่นิ่งๆ รอการช่วยเหลือจะดีกว่า

แต่พลก็ยังหงุดหงิดเพราะรู้ว่า ตัวเองผิดนัด ภาวิกาบอกว่าเธอก็ผิดนัด เวลาผ่านไปพนักงานแก้ไขลิฟท์ได้ ทั้งคู่รีบร้อนออกจากลิฟต์ไม่ได้ล่ำลากันเพราะไม่ชอบหน้ากัน หยิบถุงผิดโดยไม่รู้ตัว พลรีบไปที่สตูดิโออย่างเร็วที่สุด พลเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของสมพงษ์ กุสุมาร้องไห้จนตาบวม พลขอโทษและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น สมพงษ์ตำหนิแรงกว่าทุกครั้ง แต่ที่ร้ายที่สุดจนพลอยากจะบ้าตายเมื่อเห็นว่าชุดแต่งงานหรูของกุสุมาที่เขา หอบมาไม่ใช่ชุดของเธอ พลนึกรู้ทันทีว่าเขาคงสลับถุงกับภาวิกาในลิฟต์นั่นเอง เขาโทรติดต่อกลับไปที่ร้านกว่าจะได้หมายเลขโทรศัพท์ของภาวิกา

คุย กันไปทะเลาะกันไปกว่าจะรู้เรื่องตกลงกันได้ก็ค่ำมากแล้ว สมพงษ์อารมณ์เสียรีบพากุสุมากลับบ้าน ส่วนภาวิกาไปช้าเช่นกัน ศุภสิทธิ์ สัตว์แพทย์สุดหล่อใจเย็นคนรักของเธอมาต่อว่าที่มาช้าและหยิบชุดสลับมา แต่ นันทา มารดาของศุภสิทธิ์ ที่ไม่ต้องการให้ภาวิกามาเป็นสะใภ้ดีใจมาก ออกแนวสมน้ำหน้าว่าเป็นลางร้ายสงสัยว่าจะไม่ได้แต่งงาน เธอไม่ชอบภาวิกาเพราะภาวิกาพ่อแม่ตาย ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากพระยาพานทองที่ไหน ตรงข้ามกับศุภสิทธิ์ที่มีบรรพบุรุษเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีเกียรติ เพียงเอ่ยนามสกุลก็รู้ว่าผู้ดีเก่า ภาวิกาเช่าทาวน์เฮาส์อยู่กับ อรจิรา เพื่อนสนิทตามลำพังภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบท ภาวิกา

ยิ่ง ทำให้นันทาดูแคลนไม่เชื่อว่าผู้หญิงสาวๆ หน้าตาดีจะสามารถทำงานเลี้ยงตัว และอยู่กันได้โดยไม่มีผู้ชายอื่นมาเลี้ยงดู เธอพยายามเตือนลูกชายแต่ศุภสิทธิ์ได้แต่ขำแม่ว่า ไม่เข้าใจชีวิตในสังคมสมัยใหม่เขาเชื่อใจภาวิกา ศุภสิทธิ์รู้ว่าการที่มารดาตั้งข้อรังเกียจแฟนสาวสารพัด ก็เพราะต้องการให้เขาแต่งงานกับ กานดา ลูกสาวของ สมร เพื่อนสนิทของแม่ นันทาตั้งข้อรังเกียจภาวิกามากเท่าใดเขาก็ยิ่งรักเธอมากขึ้นทุกวัน พลกับภาวิกานัดกันไปแลกชุดคืนที่ผับเจ๋งของเขากับกิตติ วันรุ่งขึ้นพลไม่ได้ไปพบภาวิกาตามนัดเพราะแท่งทองสุนัขตัวโปรดของกุสุมาไม่ สบาย เขาต้องเป็นธุระพาไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง

โดยไม่รู้ว่าเป็น คลินิกของศุภสิทธิ์สัตวแพทย์หนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวของภาวิกา ศุภสิทธิ์รับตัวแท่งทองไว้ดูอาการ ส่วนพลต้องอยู่กับกุสุมาปลอบเธอจนลืมเรื่องนัดกับภาวิกา ภาวิกาโกรธพลมากที่ไม่มีความรับผิดชอบ เธอรู้ว่านันทาต้องการให้งานแต่งงานล้มเลิกไป เพราะไม่อยากได้เธอเป็นสะใภ้ เวลานี้เธออยากเอาชนะคำสบประมาทของว่าที่แม่สามีให้ได้ ทั้งภาวิกากับพลวุ่นกับงานและเรื่องส่วนตัวจนไม่ได้แลกชุดเสียที ในที่สุดอรจิรารับอาสาไปพบพลแทน ขณะที่พลให้เพื่อนชื่อกิตติไปแทนเขาเช่นกัน ระหว่างที่ฝากเพื่อนทำธุระให้ ภาวิกาและพลต้องมาพรีเซ้นท์งานตกแต่งคฤหาสน์หรูให้กับ วิเชียร และสายสม

ลูกค้า รายใหญ่จ่ายไม่อั้น แต่ก็ละเอียดและจู้จี้มากเช่นกัน ทุกอย่างต้องดูดี มีรสนิยม สมบูรณ์แบบที่สุด สองหนุ่มสาวต้องข่มใจทำงาน ทั้งที่ภาวิกาอยากอาละวาดที่พลผิดนัดเธอ พลเองก็เช่นกันเขากลัวว่าจะไม่ได้ชุดแต่งงานไปให้กุสุมา กว่าลูกค้าจะตัดสินใจให้ภาวิกาดูแลตกแต่งชั้นล่างและพลตกแต่งชั้นบน ทั้งคู่เหนื่อยจนพูดไม่ออกแต่ก็รู้ดีว่างานนั้นสำคัญ ไม่มีงานก็ไม่มีเงินเพราะลูกค้าคือพระเจ้า เรื่องวุ่นวายมากขึ้นเมื่อมีคนมาขโมยชุดแต่งงานของภาวิกา ที่กิตติเผลอวางไว้ก่อนจะตามหาอรจิราพบ กิตติมองชุดวิวาห์ของกุสุมาแล้วเห็นใจภาวิกาที่สุด เขาโกรธตัวเองที่สับเพร่าจนชุดหายไปได้

กิตติขอให้อรจิราพาไปหาภาวิ กาเพื่อขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนภาวิกากำลังดินเน่อร์อย่างโรแมนติคอยู่กับศุภสิทธิ์ ขณะที่พลกับกุสุมาก็อยู่ที่ร้านเดียวกัน ทั้งอรจิราและกิตติจึงได้พบกับคู่กรณีพร้อมหน้า ภาวิกาหน้าเสียใจหายสังหรณ์ลึกๆ ว่าเธอคงไม่ได้แต่งงานกับศุภสิทธิ์แน่ๆ พลกับภาวิกาทะเลาะกันอีก คนที่เข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ได้ดีที่สุดคือกุสุมา เธอขอโทษภาวิกาอย่างอ่อนหวาน เห็นใจที่สุด และขอรับผิดชอบเรื่องนี้เอง วันรุ่งขึ้นสองสาวนัดพบกันที่ร้านตัดเสื้อ ภาวิกาต้องเลือกชุดในร้านแทนการตัดใหม่ เพราะใกล้ถึงวันงานอีกสองอาทิตย์เต็มทีทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย

ทว่า ภาวิกาต้องพบอุปสรรคสำคัญ เมื่อนันทากับสมรวางแผนขัดขวางในนาทีสุดท้าย โดยนันทาทำเป็นป่วยหนักจนศุภสิทธิ์ว้าวุ่น เหมือนกรรมตามสนองเมื่อหมอตรวจพบว่านันทามีอาการของโรคหัวใจรุนแรง การป่วยของมารดาทำให้ศุภสิทธิ์จำใจต้องขอเลื่อนงานแต่งงาน ภาวิกาฝืนใจว่าเข้าใจทุกอย่างเพื่อให้เขาสบายใจทั้งที่เธอเจ็บปวดที่สุด เธอมั่นใจแล้วว่าเธอกับเขาคงไม่ใช่คู่กัน ภาวิกาไปเยี่ยมนันทาตอนอยู่หน้าห้องได้ยินเสียงคุยของนันทา สมร และกานดา รู้ว่าสมรกับกานดาเป็นคนวางแผนแกล้งป่วยจนป่วยจริง ภาวิกาเข้าไปต่อว่ากานดา เรื่องราวใหญ่โตเพราะภาวิกาเป็นคนตรงเล่นละครไม่เป็น

ต่างกับกานดา ที่เสแสร้งจริตมารยาแพรวพราว ออดอ้อนออเซาะนันทา เรื่องจึงกลายเป็นความผิดของภาวิกา กานดาเยาะเย้ยว่าเธอต่างหากที่เป็นเจ้าสาวตัวจริงของศุภสิทธิ์ ความเสียใจทำให้ภาวิกาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เธอดื่มจนเมาทั้งดื่ม ทั้งร้องไห้ ประชดชีวิตอยู่ที่ผับของกิตติ ภาวิกาเมาจนไม่รู้เรื่อง พลมาช่วยไว้ทันก่อนที่เธอจะตกเป็นเหยื่อของมารสังคม คืนนั้นพลต้องอยู่กับเธอทั้งคืนโดยขับรถไปเรื่อยๆ พลพยายามปลอบและให้กำลังใจ แต่หญิงสาวกลับอาละวาด เขาจึงเปลี่ยนเป็นซ้ำเติมและดูถูกเธอแทน ภาวิกาจึงได้สติ เวลาผ่านไปภาวิกากลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ รับบท ศุภสิทธิ์โดย ได้กำลังใจจากกุสุมา ศุภสิทธิ์ และอรจิรา แม้แต่กับพลเอง ทั้งคู่ทำงานด้วยกัน ทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง แต่กลับทำให้เริ่มผูกพันกันอย่างไม่รู้ตัว วันหนึ่งภาวิกาไปที่คลินิกของศุภสิทธิ์และพบกุสุมาอยู่ที่นั่น เธอมาเยี่ยมแท่งทองสุนัขตัวโปรดทุกวัน ภาวิกามองเห็นความเหมาะสมระหว่างศุภสิทธิ์กับกุสุมา ทั้งคู่รักสัตว์มาก ครอบครัวฐานะร่ำรวย นิสัยโรแมนติคคล้ายๆ กัน ขณะที่ทั้งพลและเธอเกลียดสัตว์เลี้ยงทุกชนิด หาเงินตัวเป็นเกลียว ภาวิกาอยากให้ศุภสิทธิ์มีความสุข ผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาที่สุดคือกุสุมาไม่ใช่กานดา ภาวิกาวางแผนให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันโดยแอบขโมยแท่งทองไปเลี้ยงเอง

กุสุมา เสียใจมากแต่พลกลับไม่สนใจเท่าที่ควร เขาดีใจเสียด้วยซ้ำ กุสุมาเคยคุยกับภาวิกาเรื่องพล ภาวิกาเคยบอกให้เธอทบทวนอีกครั้ง พลกับเธอนิสัยต่างกันหลายอย่างจริงๆ การหายไปของแท่งทองทำให้เธอได้คิด คนที่เดือดร้อนช่วยเธอตามหาแท่งทองด้วยความจริงใจคือศุภสิทธิ์ เวลาผ่านไปทุกอย่างเป็นไปตามแผน ภาวิกาค่อยๆ พากุสุมาไปพบนันทาและความน่ารัก อ่อนหวานของกุสุมาทำให้นันทาเอ็นดู กานดาทนไม่ไหวแสดงตัวตนที่แท้จริงเข้าจนได้ เมื่อวันหนึ่งกานดาตามไประรานกุสุมาอย่างร้ายกาจหยาบคายถึงที่ร้านทอง โดยไม่รู้ว่าภาวิกาพานันทามาเห็นโดยบังเอิญ

นันทาเสียใจและขอโทษภาวิ กา ทว่าหญิงสาวกลับบอกว่ากุสุมาเหมาะสมกับศุภสิทธิ์มากกว่าตน ส่วนกุสุมาตัดสินใจบอกพลตามตรงขอเลื่อนการแต่งงาน เมื่อพลไม่ได้เข้าใจเธอเลย แต่งงานไปชีวิตครอบครัวต้องมีปัญหาแน่นอน กุสุมารู้ตัวว่ารักศุภสิทธิ์แต่เธอไม่อยากวุ่นวายกับกานดาจึงจะไปเรียนต่อ ต่างประเทศ ศุภสิทธิ์เองก็เพิ่งรู้หัวใจตัวเองว่ารักกุสุมา แต่จนปัญญาที่จะรั้งเธอไว้ การตัดสินใจของกุสุมาทำให้พลเสียใจมาก ไม่ยอมทำงานดื่มแต่เหล้า ภาวิกาจึงต้องช่วยเตือนสติด้วยรู้สึกผิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเธอนั่น เอง ภาวิกาทำให้พลจิตใจดีขึ้นและยอมรับความจริงได้

วันหนึ่งพลมาหาภา วิกาที่บ้านจึงพบแท่งทอง เขารู้ทันทีว่าภาวิกานี่เองที่ขโมยมันมา เขาอยากโกรธแต่โกรธไม่ลง ภาวิกาทำให้เขารักเธอเสียแล้ว เรื่องจึงกลับเป็นว่าพลกับภาวิกาช่วยกันวางแผนให้ศุภสิทธิ์ได้สารภาพรักและ ขอแต่งงานกับกุสุมา อย่างแสนหวานซึ่งเรียบร้อยด้วยดี ภาวิกามีความสุขที่ศุภสิทธิ์ได้แต่งงานกับผู้หญิงแสนดี เวลาผ่านไปพลกับภาวิกาเป็นคู่กัดที่เพื่อนๆ รู้ว่าต่างก็รักกัน ภาวิกาจึงโดนหลอกให้มาช่วยพลที่หันมาดื่มเหล้าทำตัวไร้สาระอีกครั้ง ปากว่าไม่แต่ภาวิกาก็ทนไม่ได้เป็นห่วงเขาอย่างบอกไม่ถูก เธอตามมาที่ผับเมื่อเห็นพลดื่มเมามาย เธออาละวาดด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจจนเพื่อนๆ แอบยิ้ม

พลซึ่ง แกล้งเมาฉวยโอกาสดึงเธอมานั่งตักกอดไว้แน่น แววตาหวานระยิบของเขาทำให้ภาวิกาเอะใจแต่หนีไม่พ้นเสียแล้ว เธออายจนหน้าแดงเมื่อพลจูบแก้มเธอเบาๆ เขากระซิบให้เธอรับผิดชอบที่ทำให้เขาอกหักด้วยการแต่งงานกับเขา ภาวิกาแข็งใจปฏิเสธทั้งที่รักเขาเหลือเกิน ภาวิกายอมแพ้หัวใจตัวเองเมื่อพลสารภาพว่าเขารักเธอที่สุด หญิงสาวตกใจเมื่อได้ยินเสียงเฮ เสียงปรบมืออย่างพอใจของเพื่อนๆ คือ กิตติ อรจิรา ศุภสิทธิ์ และกุสุมา ดังขึ้น เธอพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนของพลแต่เขาไม่ยอม ภาวิกาจึงได้แต่ซุกตัวกอดเขาไว้แน่นอย่างมีความสุขณิชานันท์ ฝั้นแก้ว รับบท กุสุมา

รายชื่อนักแสดง คู่ป่วนอลวน

วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบท พล
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ รับบท ภาวิกา
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ รับบท ศุภสิทธิ์
ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว รับบท กุสุมา
รติพงษ์ ภู่มาลี รับบท กิตติ
อุษณีย์ วัฒฐานะ รับบท กานดา
ดวงดาว จารุจินดา รับบท นันทา
ประถมาภรณ์ รัตนภักดี รับบท อรจิรา

ออกอากาศเมื่อ พุธ พฤหัสบดี 22 ตุลาคม 2551 – 27 พฤศจิกายน 2551