Tag Archives: ปรียานุช ปานประดับ

สกาวเดือน

‘ทรงกลด บริรักษ์นรากร’ มหาบัณฑิตหนุ่ม ถูกมารดาเรียกตัวกลับจากต่างประเทศโดยด่วนเพราะกลัวว่าเขาจะแต่งงานกับสาวต่างชาติ คุณหญิงมารดาพยายามที่จะจับคู่เขาให้กับสาวสังคมชั้นสูงหลายคนแต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำเลยหนีไปเขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกที่เขียนค้างไว้ที่บ้านไร่ของพี่ชายที่ศรีราชา

ที่นั่นชายหนุ่มได้พบกับ ‘สกาวเดือน ราชไมตรี’ หรือ ‘กระต่าย’ เด็กสาวจอมเซียนประจำไร่ และยังได้รู้จักกับ ‘เพ็ญลักษณ์ ราชไมตรี’ ผู้เป็นอาของกระต่าย ชายหนุ่มผูกมิตรกับกระต่ายเพระคิดว่าจะใช้ความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันเป็นสะพานไปหาผู้เป็นอา โดยเขาเองก็รู้สึกเอ็นดูกระต่ายอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในขณะที่กระต่ายเองก็พยายามทำหน้าที่แม่สื่อของตนอย่างเต็มที่

ลอดลายมังกร

ลอดลายมังกร เป็นเรื่องราวชีวิตของ อาเหลียง มีภรรยาชื่อ เหมยหลิง มีลูกชายเล็ก ๆ 2 คนชื่อ อาเทียน กับ แอนดี้ อาเหลียงได้เดินทางจากซัวเถาสู่เมืองไทยด้วยเรือสำเภาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ อาจั๊วและหลงจู๊บุ๋น ด้วยความหวังที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว

อาเหลียงได้เริ่มกิจการเล็ก ๆ จนขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น และได้แต่งงานอีกครั้งกับภรรยาชาวไทย ชื่อ เนียม (ซึ่งต้องยุติความฝันในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยมาแต่งงานกับอาเหลียง) และมีลูกด้วยกันหลายคน จนกระทั่งเหมยหลิงพร้อมลูกได้เดินทางสู่เมืองไทยเพื่อตามหาอาเหลียง ความวุ่นวายในครอบครัวก็เกิดขึ้น พร้อม ๆ กับการขยายตัวของกิจการ ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว ด้วยความยึดมั่นในคุณธรรมและความขยัน ด้วยการเตือนใจด้วยตัวอักษรคำว่า “หงี” ซึ่งหมายถึงคุณธรรมที่ติดไว้กลางบ้าน

หลายปีผ่านไป ลูกหลานของอาเหลียง เหมยหลิง และ เนียม ก็เติบโตขึ้น หลายคนได้ช่วยขยับขยายกิจการจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะแอนดี้บุตรชายคนรอง ในขณะที่เทียนบุตรชายคนโตกลับทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จเลย ในขณะที่หลาน ๆ ของอาเหลียง แต่ละคนก็มีบุคลิก นิสัยแตกต่างกันออกไป และชาญชัย ลูกชายเพียงคนเดียวของแอนดี้และเป็กกี้ ภรรยาชาวฮ่องกงของแอนดี้ ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยการเอาใจมาแต่เล็ก ก็ได้สร้างความหายนะให้แก่กิจการและเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลในบั้นปลายชีวิตของอาเหลียง โดยที่เรื่องราวทั้งหมดถูกบอกเล่าผ่านโดย นภา หลานชายของอาเหลียงที่เป็นลูกชายของ นพ ลูกชายคนรองของอาเหลียงกับย่าเนียม

นักแสดงละคร ลอดลายมังกร ปี พ.ศ. 2535

นพพล โกมารชุน แสดงเป็น อาเหลียง
ปรียานุช ปานประดับ แสดงเป็น เนียม
อภิรดี ภวภูตานนท์ แสดงเป็น เหมยหลิง
สัญญา คุณากร แสดงเป็น ชาญชัย
ปัญญา นิรันดร์กุล

 

เมียหลวง

ดร.วิกันดา พันธ์ภากร แต่งงานกับ ดร.อนิรุทธ์ ศัลวิทย์ มีลูกด้วยกัน2คน คือ โหน่ง ลูกชายคนโต กับ นุ่น ลูกสาวคนเล็ก วิกันดา มีเพื่อนสนิท2คน คือ อนงค์นารถ และ ฉวีเพ็ญ ซึ่งต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ซึ่งทั้งคู่มีปัญหาเรื่องสามี อย่าง อนงค์นารถ มีสามีคือ พลเวทย์ชื่นชอบในการอ่านหนังสือธรรมะเป็นอย่างมาก จนอนงค์นารถเบื่อ ส่วน ฉวีเพ็ญดูเหมือนจะหนักสุด เพราะสีหนาทสามีของเธอติดการพนันทุกอย่าง แต่เธอก็สามารถยิ้มได้เมื่ออยู่กับเพื่อน

แล้ววันหนึ่ง ฉวีเพ็ญ เห็นอนิรุทธ์อยู่กับผู้หญิงที่ร้านอาหาร จึงมาบอกวิกันดา แต่ อนิรุทธ์ โกหกวิกันดาว่าไปกับสิทธิชัย เมื่อถามอีกครั้ง อนิรุทธ์เลยบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวเสิร์ฟ ชื่อนงคราญ วิกันดารับไม่ได้ พยายามระวังตัวมากขึ้นแต่ก็ไม่สามารถตามอนิรุทธ์ได้ทัน

จนวันหนึ่งคนดูแลลูกวิกันดาขอลากลับบ้านเลยพานวลมาดูแลแทน เมื่อนวลได้พบอนิรุทธ์ก็มีทีท่าสนใจทันที แต่วิกันดาก็ทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจ จนน้องสาวของถาวร เพื่อนสนิทของอนิรุทธ์ กลับมาจากเมืองนอก อรอินทร์ หย่าขาดกับเจนจบ เพราะทนไม่ได้กับครอบครัวของเจนจบ ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน1คนชื่อนิ่ม อนิรุทธ์ เจอ อรอินทร์ ครั้งแรกก็ถูกชะตา

เมื่อถึงวันเกิด อนิรุทธ์ อรอินทร์มาร่วมงานด้วยและทำท่าสนิทสนมกันจนเกินเพื่อน วิกันดาเริ่มหวั่นไหวแต่ยังนิ่งอยู่ หลังจากนั้นอรอินทร์ก็เริ่มก้าวก่ายในชีวิตครอบครัวของวิกันดามากขึ้น ซึ่งวันหยุดของครอบครัววิกันดาพากันไปเที่ยวทะเล อรอินทร์ขอไปด้วยแล้วบังเอิญเจอ เจนจบ ทำให้อรอินทร์ไม่พอใจ แต่เจนจบกับวิกันดากับคุยกันถูกคอ จนทำให้อนิรุทธ์รู้สึกหวงขึ้นมา หลังจากนั้นเจนจบก็ไปมาหาสู่วิกันดา ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงขึ้นทุกวัน

ส่วนท่านผู้หญิงก็บอกให้วิกันดาอดทนเอาไว้ เพราะหาคนที่ดีกว่าอนิรุทธ์ได้ยาก และก็ฝากนุดีหลานสาวคุณหญิงแวววรรณ ให้มาเป็นผู้ช่วย ซึ่งมีปัญหาอยู่เพราะลุงอยากได้นุดีเป็นเมียน้อย เลยตัดสินใจย้ายออกมาอยู่คอนโดและก็มาเจอกับยุทธการ ที่กำลังแอบชอบนุดีอยู่ แต่เธอไม่แน่ใจว่าชอบเขารึเปล่า

ส่วนวิกันดาก็พยายามสอนนุดีทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย เมื่ออนิรุทธ์กลับมาจากญี่ปุ่นก็พยายามเอาใจวิกันดาทุกอย่าง แต่เธอก็ไม่สนใจ จนวันหนึ่งนุดีมาหาวิกันดาที่บ้านแล้วเธอก็ได้พบกับอนิรุทธ์เป็นครั้งแรก อนิรุทธ์มีทีท่าชอบนุดีอีกคน เมื่อเจนจบกับเค็นกับมาเมืองไทย วิกันดาให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และก็ขอให้เค็นสอนภาษาญี่ปุ่นให้นุดี อนิรุทธ์แสดงทีท่าไม่พอใจ เพราะเค็นเริ่มชอบนุดี

วันหนึ่งอรอินทร์ไปหาเค็น เพื่อจะไปดูหน้านุดี และก็เตือนวิกันดาให้ระวังนุดีเอาไว้ อนิรุทธ์คิดจะแกล้งอรอินทร์จึงอาสาไปรับวิกันดาทุกวันและก็ทำให้เจอนุดีด้วย แต่อรอินทร์ก็ตามประกบตลอดเวลา จนอนิรุทธ์เริ่มรำคาญเลยแกล้งเอาใจนุดีต่อหน้าอรอินทร์จนเธอหมดความอดทน

นุดีลาป่วยและหนีออกจากบ้าน เพราะอรอินทร์กับคุณหญิงแวววรรณจะจับนุดีไปแต่งงาน แต่วิกันดาอยากจะให้นุดีกลับไปคุยกับคุณหญิงแวววรรณให้รู้เรื่อง และวันนั้นอรอินทร์มาบ้านวิกันดาพร้อมปืน วิกันดาพยายามป้องกันต่อสู้จนปืนลั่นทำให้ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะอรอินทร์ที่เริ่มรู้ตัว วิกันดาขับรถไปส่งอรอินทร์ที่บ้าน แต่อรอินทร์ไม่กลับ วิกันดาจึงพาไปพักที่ห้องเค็นแทน อรอินทร์ใช้เหล้าสงบสติอารมณ์ และขอให้วิกันดาอโหสิกรรม วิกันดาก็เต็มใจ อรอินทร์ตัดสินใจเลิกกับอนิรุทธิ์โดยเด็ดขาด

วิกันดาสนิทกับเค็น และเจนจบมากขึ้น ขณะที่อนิรุทธิ์มาเล่นกับลูกเหมือนเดิม ส่วนอรอินทร์หันไปควงวาทินอีกครั้ง และดีกับวิกันดามากกว่าเก่า วันหนึ่ง วิกันดาได้การ์ดเชิญไปงานแต่งของนุดีกับร้อยเอกสุนทร พ่อหม้ายในกรมทหาร วิกันดาไปงานแต่งงานนุดีกับฉวีเพ็ญ จนกระทั่งไปถึง จึงรู้ว่านุดีหนีไป หลังจากวันนั้นไม่มีใครได้ข่าวนุดีอีกเลย

วิกันดากับอนิรุทธิ์ได้รับจดหมายที่นุดีเขียนก่อนฆ่าตัวตาย นุดีสารภาพเรื่องที่หนีมา และบอกรักอนิรุทธิ์อย่างจริงใจ ทำให้อนิรุทธิ์ยิ่งรู้สึกผิด อนิรุทธิ์ยืนยันกับตัวเองอีกครั้งว่าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงอีก งานศพนุดีจัดขึ้นโดยมีท่านผู้หญิงเป็นเจ้าภาพให้ทุกคืน

อรอินทร์พาวาทินมาที่บ้านวิกันดาเพื่อบอกเรื่องแต่งงาน วิกันดากับอนิรุทธิ์แสดงความยินดีกับทั้งคู่ วิกันดาไปหาเค็นเพราะสงสารเรื่องนุดี การไปครั้งนี้ วิกันดาและอนิรุทธิ์ได้พบเจนจบ แต่เจนจบขอลากลับก่อน เมื่ออยู่กับเค็นสองคน เค็นพยายามพูดให้วิกันดาลดทิฐิในใจเพื่อความสุขในอนาคต ก่อนกลับเค็นย้ำเรื่องเซียมซี ที่วิกันดาจะได้คนรักกลับคืน เค็นบอก อนิรุทธิ์ว่าอย่าปล่อยให้เพชรหลุดมือ อนิรุทธิ์ขอวิกันดาเริ่มต้นใหม่ แต่วิกันดายังตอบตัวเองไม่ได้ อนิรุทธิ์จึงพยายามต่อไป แม้ตอนนี้วิกันดาจะยังไม่ตกลงแต่อนิรุทธิ์ยังมีเวลาอีกเยอะ ในเมื่อทั้งสองคนได้อยู่บ้านเดียวกันอีกครั้ง

นักแสดงละคร เมียหลวง

ยุรนันท์ ภมรมนตรี รับบท ดร.อนิรุทธิ์
ปรียานุช ปานประดับ รับบท ดร.วิกันดา
อภิรดี ภวภูตานนท์ รับบท อรอินทร์
ทัศนีย์ ชลหวรรณ รับบท นุดี
วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง รับบท นวลรัตน์

เพลิงพระนาง

เจ้าหลวงปิตุลา พ่อของเจ้าอนัญทิพย์ ถูกพี่ชายของเศกขระเทวีสำเร็จโทษ และยึดอำนาจ ตั้งตนเป็นเจ้าหลวงองค์ใหม่ เจ้าหลวงบูรพคามเป็นคนนิสัยกักขฬะ ตรงข้ามกับน้องสาวที่เป็นคนใจบุญสุนทาน ขี้สงสารโดยสิ้นเชิง เมื่อเจ้าอนัญทิพย์หมดอำนาจวาสนาลง ก็ถูกพวกเจ้านางอื่นๆ เยาะเย้ยว่า เป็นเจ้านางที่มีแม่เป็นเพียงแม่ค้านั่งตลาด เจ้าอนัญทิพย์แค้นใจมาก และคิดหาทางจะช่วงชิงบ้านเมืองให้กลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง

เจ้าเมืองคุ้ม  คนรักของอนัญทิพย์ เจ้าเมืองคุ้มสงสารเจ้าอนัญทิพย์ จึงสัญญาว่าจะเอาเมืองทิพย์คืนมาให้อนัญทิพย์ให้ได้ สุดท้ายก็สามารถเอาชนะได้ แล้วขึ้นเป็นเจ้าหลวงแทน โดยสัญญาว่าจะยกอนัญทิพย์เป็นพระมหาเทวี แต่ด้วยคำทัดทานของเจ้าสำเภางามผู้เป็นแม่ ว่าเจ้านางเศกขระเทวี ได้ตำแหน่งเป็นพระนางหน่อเจ้าแล้ว จึงจำเป็นต้องยก เจ้านางเศกขระเทวี เป็นพระมหาเทวีแทน ยิ่งสร้างความเจ็บใจให้กับเจ้าอนัญทิพย์มากขึ้นเป็นทวีคูณ

เมื่อเจ้าเมืองคุ้มเป็นใหญ่ เจ้าเมืองมีด ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของเมืองทิพย์ จึงได้ยกเจ้านางตองนวลให้เป็นพระสนมอีกคนหนึ่ง นอกจากนั้น ตอนที่เจ้าเมืองคุ้มออกไปรบกับฝรั่ง ก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ยังโชคดี ที่ได้สาวชาวป่า ชื่อยอดพุ่มช่วยไว้ หลังจากนั้น เจ้าเมืองคุ้มก็รับมาเป็นเจ้านางอีกคน

ต่อมา เจ้านางทั้งหลายก็มีลูกกันทุกคน เจ้านางเศกขระ มีลูกสาว คือ ทองพญาพระนางหน่อเจ้า เจ้าอนัญทิพย์ มีลูกสาว 2 คน คือ เจ้านางปิ่นมณี พี่สาว กับ เจ้านางเรณุมาศ  น้องสาว ซึ่งนิสัยต่างกันสิ้นเชิง คือ พี่ได้นิสัยมาจากแม่ อย่างเต็มเปี่ยม ส่วนน้องเป็นคนขี้สงสาร ขี้กลัว และหัวอ่อน

เจ้านางตองนวล มีลูกชายชื่อ ตองแปง  เป็นคนไม่เอาไหน ขี้เหล้าเมาหยำเป ริมบึง  มีลูกชายชื่อ เจ้าครองภพ ส่วนเจ้านางยอดพุ่ม มีลูกชายชื่อ เจ้าม่านฟ้า แต่ด้วยความกลัวอันตราย จึงลี้ภัยไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าเมืองคุ้ม ฝากลูกชายไว้ให้ ส่วนตัวเองหนีไปบวชชี

เจ้าอนัญทิพย์วางแผนเตรียมให้ม่านฟ้าครองอำนาจแทน เพราะม่านฟ้า หลงรักเรณุมาศ สุดท้ายก็ทำสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือของบัวไหล ข้าไทคนสนิท วางยาเจ้าเมืองคุ้มจนอ่อนแอลง อนัญทิพย์จึงสวมรอย บงการทุกอย่างจนม่านฟ้าได้เป็นเจ้าหลวง โดยมีอนัญทิพย์คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง

สุดท้าย อนัญทิพย์ก้อหาทางจัดการเศกขระเทวีจนได้ โดยการแกล้งทำสำนึกผิด หลอกคนอื่นว่าตัวเองเหนื่อยหน่ายชีวิต เลยอยากหันหน้าหาพระธรรม เลยหลอกเศกขระว่าเจอพระธาตุร้างบนเขา อยากชวนไปบูรณะด้วยกัน แล้วสุดท้าย ด้วยความไว้ใจ เศกขระจึงถูกฆ่าตายอยู่บนเขานั้นเอง

ขณะนั้นมีการรุกรานจากประเทศอังกฤษ ชาวเมืองทิพย์ไม่สามารถต่อสู้ได้ เมืองทิพย์ต้องตกเป็นของฝรั่ง ส่วนตองนวล เอาตัวรอดด้วยการเข้ากับฝรั่ง ถึงขนาดยอมเป็นเมียนายฮาร์ท แม่ทัพฝรั่ง หวังจะให้ตองแปงเป็นเจ้าหลวง แต่ผิดคาด ฝรั่งรังเกียจตองแปง ที่ชอบทำตัวกักขฬะใส่ฝรั่ง เลยแต่งตั้งครองภพให้เป็นเจ้าหลวงแทน โดยให้แต่งงานกับทองพญา ตองแปงโกรธมาก ชักดาบจะฟันฝรั่ง เลยถูกรุมยิงตาย ตองนวลช็อคสุดขีด จนสลบเหมือดไป

เจ้าอนัญทิพย์ ม่านฟ้า ปิ่นมณี และเรณุมาศ ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่อินเดีย ปิ่นมณีไม่สนใจอะไร ขอแค่ได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุขก็พอ  ในขณะที่อนัญทิพย์ไม่สามารถตัดใจได้ วันหนึ่ง บัวไหล นางข้าไทคนสนิท ได้ตายลง เนื่องจากโรคชรา กอปรกับเป็นวัณโรค ก่อนตาย บัวไหลขอร้องว่าอยากกลับเมืองทิพย์ อนัญทิพย์รับปากบัวไหล จึงได้นำเถ้ากระดูกของบัวไหลไปเมืองทิพย์ด้วย

ที่เมืองทิพย์ อนัญทิพย์พบว่า คุ้มหลวงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว กู่ (สุสาน) เจ้าหลวงปิตุลา ผู้เป็นพ่อ กลายเป็นบ้านพักผู้ว่าการไปแล้ว อนัญทิพย์เศร้าโศกมาก อนัญทิพย์ได้พบริมบึง และเครืออร ปรับทุกข์กันตามประสาคนแก่ ได้รู้ว่า ครองภพถูกปลดแล้ว ได้ออกไปอยู่กินแบบชาวบ้านกับทองพญา ยุครุ่งเรืองของเมืองทิพย์ จบไปแล้ว

อนัญทิพย์ไปที่หอคำ หอคำขณะนั้นกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว ชุดเจ้าหลวง ชุดพระมหาเทวี มงกุฎพระมหาเทวีถูกเก็บไว้ในตู้ อนัญทิพย์ได้พบผู้หญิงบ้าคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นคือตองนวล ที่เสียลูกชายไป จึงเสียสติกลายเป็นคนบ้านับแต่นั้น เที่ยวเดินเพ่นพ่านอยู่ในบริเวณคุ้มหลวงอยู่อย่างนั้น

ในคืนนั้น อนัญทิพย์แอบลอบเข้าไปในหอคำ เอาชุดเจ้าหลวงของเมืองคุ้มออกมานั่งกอดอยู่บนตั่งทอง แล้วก็ค่อย ๆ หายใจอ่อนแรงลง และตายอยู่บนตั่งทองนั้นเอง

ผู้ชายไม้ประดับ

จาร จารึกความรู้สึก ความฝัน หลากหลายของสตรีที่พระพรหมท่านลิขิตชีวิตให้แผกแตกต่างกันมากมาย หากลึกซึ้งถึงก้นบึ้งแห่งหัวใจ สิ่งที่ทุกนางโหยให้หา คือ ความรักแท้ มั่นคงยงยืน จากชายคนรัก แต่ อนิจจา ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นได้เพียง “ผู้ชายไม้ประดับ” เท่านั้นเอง

ปราสาทมืด

ปราสาทมืด ซ่อน ความลับเอาไว้พร้อมกับผู้คนที่มีบุคลิกและพฤติกรรมอันแปลกประหลาดเต็มไปด้วยปริศนา เมื่อ ม.จ.อุมารังษี ย่างก้าวเข้ามา ความมืดดำก็คล้ายจางหายไปด้วยหัวใจอันอ่อนโยนของเธอ แต่ทว่าความรักท่างกลางแรงอาฆาตแค้นนั้น จะสว่างไสวได้ดังที่ปรารถนาหรือ

น้ำเซาะทราย 2536

พุดกรอง และ วรรณรี เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน แต่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกคนดูเคร่งขรึม จืดชืด แต่ไม่เคยทำผิด แต่อีกคนพราวเสน่ห์ยั่วยวนไปทั้งตัว ชีวิตคู่ของ ภีม และ วรรณรี มีรอยปริ เมื่อ วรรณรี จับได้ว่าสามีและเพื่อนแอบมีสัมพันธ์กันเกินเลย เรียกให้ชัดก็คือแอบเป็นชู้กัน สงครามเย็นจึงเกิดขึ้น !!

นักแสดงละคร น้ำเซาะทราย ปี พ.ศ. 2536

ศรัณยู วงษ์กระจ่าง แสดงเป็น ภีม
สินจัย หงษ์ไทย แสดงเป็น วรรณนรี
ปรียานุช ปานประดับ แสดงเป็น พุดกรอง
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น พงษ์สนิท

ดาวพระศุกร์

ดาวพระศุกร์เป็นเด็กที่นางวิภา วงศ์สะอาด มาคลอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทางโรงพยาบาลเลี้ยงดูดาวพระศุกร์จนอายุได้ 9 เดือน ก็มีคนมาขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ชีวิตในบ้านพ่อเลี้ยงที่เกรงใจภรรยาและแม่เลี้ยงใจร้าย ในตอนแรกจนกระทั่ง 4 ขวบกว่า ดาวพระศุกร์มีพิกุลเป็นพี่เลี้ยงคอยปกป้อง ช่วยเหลือ ให้รอดจากคุณนายมารศรี แม่เลี้ยงตีบ่อย ๆ จนวันหนึ่งคุณนายไล่พิกุลออก ดาวพระศุกร์จึงต้องทนเลี้ยงน้องที่เกิดมาคล้ายเป็นลูกอิจฉาของคุณนายถึง 4 คน ซึ่งคุณนายรักดั่งแก้วตาตลอดเวลา ดาวพระศุกร์มีหน้าที่ทำงานบ้าน ทำกับข้าวดูแลทุกคนในบ้านอย่างดี ถ้าทำผิดแม้เพียงนิดเดียวก็จะถูกคุณนายทุบตีอย่างทารุณ คุณนายดุด่าและบอกความจริงว่า คุณนายและท่านนายพันไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง และบอกว่าแม่จริงชื่อ วิภา วงศ์สะอาด ดาวเสียใจมาก พ่อเลี้ยงปลอบว่าวันหนึ่งแม่จริงของดาวก็จะมารับดาวจึงทนรอคอยความหวัง

วัน หนึ่งดาวไปตลาด พบเด็กชายขอทานซึ่งแกอดข้าวมา 2 วันจนแทบเป็นลม ดาวนึกสงสารจึงให้มาที่บ้าน หาข้าวให้กินด้วยใจบริสุทธิ์ และเล่าให้ฟังว่าชีวิตตัวเองเป็นอย่างไร แก่รับฟังด้วยความสงสารและเห็นใจ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ คนข้างบ้านคนหนึ่งเห็นดาวคุยกับแก่ ก็ไปฟ้องคุณนายว่าดาวริอ่านคบผู้ชาย คุณนายโกรธมาก ตบตีดาวอย่างหนักที่สุด หาว่าคบผู้ชาย เผลอหลุดปากบอกความจริงเรื่องแม่ของดาวทิ้งดาวไว้ที่โรงพยาบาลและไม่มีวัน ที่จะมารับกลับ ดาวจึงหมดความอดทนและสิ้นหวังในการรอคอย ดาวตัดสินใจหนีออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้น ( อายุ 11 ขวบ )

ขณะ ที่ศศิประภา แม่ที่จริงของดาวพระศุกร์ ซึ่งต่อมาแต่งงานใหม่กับพลตรีพีรยุทธ มีลูกชายใหม่ 1 คน ชื่อแดง ตลอดเวลาไม่มีใครรู้ความลับของศศิประภานอกจากนมแม้นคนเดียว ศศิประภาไม่เคยลืมลูกสาวที่ตัวเองตั้งชื่อให้ว่าดาวพระศุกร์ ไม่เคยลืมแววตาของลูก และปานแดงรูปหัวใจเหนืออกซ้ายของดาว ศศิประภาทุกข์ทรมานใจทุกครั้งที่คิดถึงลูกคนแรก

ขณะ ที่แก่เดินขอทานอยู่นั้น บังเอิญได้พบกับภาคย์ ภาคย์สงสารให้เงินถึง 2 ครั้ง แต่ด้วยความซื่อแก่เผลอเล่าเรื่องของดาวพระศุกร์ให้ศศิประภาฟัง ศศิประภารู้ทันทีว่าดาวคือลูกศศิประภาตามไปหาดาวที่บ้านคุณนายมารศรี จึงรู้ว่าดาวหนีออกจากบ้านไปแล้ว

ดาวเร่ร่อนขอทานอยู่กับเกรียงและ อู๊ด เด็กขอทานข้างถนนอยู่ 2 – 3 ปี หลังจากขอทานดาวก็ริอ่านเป็นขโมยโดยมีนายชุมเด็กวัยรุ่นเป็นหัวหน้า ชีวิตของดาวต้องต่อสู้ดิ้นรนไปจนกระทั่งพบกิ่งแก้วโสเภณีชั้นสูงคนหนึ่ง บอกว่าดาวหน้าตาดี จึงชวนไปอยู่ด้วยกันที่บ้านซึ่งเป็นของฉวีแม่เล้าของตัวเอง บ้านของฉวีเป็นบ้านชั้นดี รับเฉพาะแขกที่มีสตางค์เท่านั้น

ขณะนั้น ดาวอายุได้ประมาณ 14 ปี ต้องเติบโตในบ้านนั้น พบเห็นเรื่องราวของชีวิตผู้หญิงเหล่านั้นจนชิน กิ่งแก้วพยายามสอนหนังสือให้ดาว จนดาวมีความรู้เทียบได้เท่ากับมัธยม 6 สมัยนั้น พอดาวโตขึ้นอายุได้ 16 – 18 ปี ฉวีก็เริ่มให้ดาวออกทำงาน ดาวเคยรู้รสชาติของความจนความลำบากมาก่อนจึงไม่กล้าขัดขืน แต่กลับหาวิธีเอาตัวรอดด้วยการมอมเหล้าแขกบ้าง หาคนมาแทนบ้าง เมื่อดับไฟแล้วบ้าง สารพัด เพื่อรักษาพรหมจารีย์ไว้อย่างเหนียวแน่น ดาวใช้วิธีเหล่านี้เอาตัวรอดได้ตลอดมาจนได้ฉายาว่า แม่ดาวจอมกะล่อน

และ เพราะวิธีสับตัวเองเอาคนอื่นมาแทนนี่เอง แขกคนหนึ่งเกิดติดโรคจึงเข้าใจว่าติดมาจากดาว เจ้าสำนักจึงให้พยาบาลมาตรวจโรค ดาว บังเอิญพยาบาลคนนั้นคือ อรทัย พยาบาลที่เป็นคนทำคลอดดาว จำดาวได้เพราะปานแดงรูปหัวใจ และชื่อดาว ดาวถามอรทัยจนใจอ่อนยอมเล่าเรื่องของดาวให้รับรู้จนหมด เพื่อน ๆ ของภาคย์ 2-3 คน เคยโดนลูกไม้ของดาวมาแล้วก็ไปเล่าให้ภาคย์ฟัง ภาคย์สนใจจึงมาทดลองบ้าง ภาคย์หลบเลี่ยงลูกไม้ของดาวทุกชนิด เช่น ไม่ดื่ม ไม่ดับไฟ ไม่อมทอฟฟี่ แต่ดาวก็เล่นไม้ตายโดยใช้ยาสลบ จนกระทั่งภาคย์หมดสติทั้งคืนจนเช้า

พอ ภาคย์รู้สึกตัว แทนที่จะโกรธ ภาคย์เกิดสนใจดาวและขอซื้อจากเจ้าสำนักในราคา 1 แสนบาททันที แล้วรับตัวดาวไปอยู่ที่บ้าน ดาวจำต้องไปเพราะถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าต้องอยู่บ้านนี้ตลอดไป ดาวตั้งใจว่าจะหาทางหาเงินมาใช้กับภาคย์เพื่อแลกกับอิสระภาพให้จนได้ ภาคย์พาดาวไปอยู่บ้านเลี้ยงดูอย่างดีในฐานะกึ่งน้องกึ่งญาติ ภาคย์ให้ดาวเรียนการบ้านการเรือนกับนมเชื่อม และเรียนคณิตศาสตร์กับตัวเองให้ศศิประภาญาติของภาคซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ขอดาวมาสอนภาษาอังกฤษ และมาหยารัศมี สาวสังคมที่มาติดภาคย์ช่วยสอนดนตรีให้ด้วย

ดาวต้องอดทนเรียนทั้ง ๆ ที่ใจไม่ชอบสักอย่างดาวเริ่มหลงรักภาคย์ ขณะเดียวกันก็นึกรู้ว่าศศิประภาคือแม่ที่แท้จริงของตัวเอง ด้วยแรงน้อยใจที่แม่ไม่ยอมรับเป็นลูกดาวทำฤทธิ์กับศศิประภาทุกอย่าง ศศิประภาก็ได้แต่เสียใจอยู่คนเดียวบอกใครไม่ได้ เมื่อใดที่ศศิประภาเผลอแสดงความรัก ความห่วงใย ดาวจะย้อนกลับอย่างเจ็บแสบเสมอ ทำให้ศศิประภายิ่งช้ำใจหนักขึ้น นอกจากดาวจะน้อยใจ ในตัวแม่บังเกิดเกล้าแล้วยังต้องต่อสู้กับมาหยารัศมีทุกรูปแบบเพราะมาหยา รัศมีกลัวว่าดาวจะมาแย่งภาคย์ไปจากตน จึงหาทางกลั่นแกล้งใส่ความดาวตลอดเวลา ซึ่งภาคย์เองก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่ก็ทำให้ดาวต้องเสียใจทุกครั้ง เหตุการณ์ผ่านไปภาคย์เริ่มรักดาวและดาวเองก็รักภาคย์มากเช่นกัน แต่ต่างคนก็สงวนท่าที

วัน หนึ่งในงานราตรีสโมสร ดาวจงใจแต่งตัวค่อนข้างโป๊เพื่อประชดภาคย์ ทำให้มีหนุ่ม ๆ 2 คนมาตามติดดาว คนหนึ่งคือ เศกสรรค์ เพื่อนของภาคย์ และอีกคนหนึ่งคือผู้พิพากษา อรรถ ซึ่งติดใจดาวมากจนศศิประภาผู้กำความลับอย่างแน่นอยู่ตกใจแทบเป็นลม มาหยารัศมีขัดขวางอรรถกับดาวจนเกิดเรื่อง ภาคย์ต้องลากตัวดาวกลับทันทีขณะที่ขับรถกลับบ้านอย่างหัวเสีย ภาคย์แกล้งขับเร็ว ๆ ไปทางอื่นอยู่นานกว่าภาคย์จะพาดาวกลับบ้าน ดาวก็เริ่มจับไข้แต่ไม่ยอมบอก รุ่งขึ้นดาวก็เป็นไข้ตัวร้อนไม่ได้สติเพ้อร้องหาแม่อย่างน่าสงสาร

ภาคย์ เฝ้าดูแลดาวทุกอย่างจนเด็กรับใช้ในบ้านเริ่มซุบซิบว่าภาคย์รักดาว ระหว่างที่ดาวป่วยท่านผู้พิพากษาอรรถส่งดอกไม้มาเยี่ยมดาวทุกวัน ภาคย์หึงแต่ไม่ยอมรับ ได้แต่หาเรื่องทะเลาะกับดาวไม่เว้นแต่ละวัน ท่านผู้พิพากษาสงสารดาวมาก ถึงกับให้เงินดาว 1 แสนบาทเป็นค่าไถ่ตัว และจะรับไปอยู่ด้วยกัน แต่พอดาวเอาเงินให้ภาคย์ ภาคย์โกรธมากประกอบกับเมาจึงลืมตัว เข้าปล้ำดาวจนดาวต้องตกเป็นของภาคย์ รุ่งเช้าภาคย์เสียใจในการกระทำของตัวเองมาก

แต่ก็คิดไม่ตกว่าจะทำ อย่างไรดี เพราะถ้าแต่งงานกับดาว ก็เป็นปัญหาหลายอย่าง หนึ่งดาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ คุณนายมารศรีซึ่งเป็นแม่ตามกฎหมายคงไม่ยอม สองภาคย์เองก็ไม่แน่ใจว่า ดาวจะปรับตัวเป็นภรรยาได้สมกับฐานะหรือยัง และสามมาหยารัศมีก็คอยหาเรื่องวุ่น ๆ จนได้ ระหว่างที่ภาคย์ลังเลจะทำอย่างไรดี

ดาวซึ่งสูญสิ้นทุกอย่างในชีวิต ผิดหวังทั้งแม่ตัวเอง แม่เลี้ยง แล้วยังคนรักซึ่งยังคงคบหามาหยารัศมีอยู่ ดาวท้อแท้มาก มีแต่ผู้พิพากษาอรรถเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจดาวจนดาวใจอ่อนยอม ตกลงจะแต่งงานกับอรรถ ศศิประภาหมดความอดทนจึงต้องยอมบอกความจริงว่า ที่แท้อรรถคือพ่อแท้ ๆ ของดาวนั่นเอง ท้ายที่สุดดาวคิดสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดของตนเอง เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีตนซักคน มาหยารัศมีก็คงได้แต่งงานกับภาคย์ ศศิประภาก็จะได้คืนดีกับท่านนายพลฯเพราะตอนที่นายพลฯ พีรยุทธ สามีของศศิประภารู้ว่าศศิประภา มีลูกมาก่อนก็โกรธถึงกับขอแยกทาง ดาวจึงตัดสินใจหนีทุก ๆ คนไป

ภาคย์ขับรถตามดาวจนประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่เป็นอะไรมากนักต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่ง ดาวหนีมาอยู่ที่ราชบุรีซึ่งดาวแอบซื้อที่ดินเอาไว้ไม่บอกใครแต่เพราะที่ดิน ข้าง ๆ กับของดาวเป็นของพิกุลพี่เลี้ยงคนแรกของดาว พิกุลจึงเป็นคนนำข่าวไปบอกกับทุก ๆ คน ภาคย์รีบตามมาหาดาวทันที ทิ้งให้มาหยารัศมีกับอรรถทำความรู้จักให้ดีขึ้น เพราะทั้งสองมีท่าทางพอใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ภาคย์ตามมาพบดาว งอนง้อขอคืนดี จนดาวใจอ่อน เรื่องราวทั้งหลายจึงจบลงด้วยความสุข

ผู้กำกับ : สยาม สังวริบุตร
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : ภาวิต-ลุลินารถ
บทประพันธ์ : อักษราพันธ์

นักแสดง
ศรราม เทพพิทักษ์
สุวนันท์ คงยิ่ง
ปรียานุช ปานประดับ,

คือหัตถาครองพิภพ 2538

คือหัตถาครองพิภพคือหัตถาครองพิภพ เริ่มต้นเรื่องราวของ คุณหญิงศรี (จารุณี สุขสวัสดิ์) เป็นเมียพระราชทานของเจ้าพระยาสมิติภูมิ (ธรรมชาติ แฟร์เน็ต) ที่เป็นฝรั่งมาจากประเทศอังกฤษ แต่งงานโดยไม่เต็มใจเพราะอุปนิสัยตัวเองไม่ชอบผู้ชาย จึงหาเมียบ่าวให้เจ้าคุณอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าหญิงคนไหนตั้งท้อง คุณหญิงจะหาทางกำจัดไปในทันที โดยมี เมี้ยน (อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ) บ่าวที่จงรักภักดีเป็นคนจัดการให้ สองพี่น้อง สังวร สังเวียน บ่าวผู้หญิงที่อยู่ในบ้าน ก็ไม่พ้นชะตากรรมนั้น จนกระทั่งสบันงา (ปรียานุช ปานประดับ) ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้เกิดปัญหารักสามเส้า ระหว่างศุกล (ทรงสิทธ์ รุ่งนพคุณศรี) น้องชายของคุณหญิง และท่านเจ้าคุณ จนเกิดเป็นเรื่องร้ายแรงต่างๆ ตามมา

ผู้กำกับ : สยาม สังวริบุตร
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : ศัลยา
บทประพันธ์ : น้ำอบ

นักแสดงละคร คือหัตถาครองพิภพ

ปรียานุช ปานประดับ เป็น “สบันงา” (รางวัลเมขลา ผู้แสดงนำหญิงดีเด่น ประจำปี 2538)
จารุณี สุขสวัสดิ์ แสดงเป็น “คุณหญิงศรี” (รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ดารานำหญิงดีเด่น ประจำปี 2538)
ธรรมชาติ แฟร์เน็ต แสดงเป็น “เจ้าพระยาสมิติภูมิ”
อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ์ แสดง เป็น “เมี้ยน”
ทรงสิทธ์ รุ่งนพคุณศรี แสดงเป็น “ศุกล”
นัท มีเรีย แสดงเป็น “พริ้มเพรา”
คลาวเดีย จักรพันธุ์ แสดงเป็น “พราวพิลาศ”
ชาช่า อัลเทอร์เมท แสดงเป็น “แพรวพรรณราย”
มิเชล ชีเกรฟเดลี่ แสดงเป็น “พริสซิล่า”
อัษฎา พานิชกุล แสดงเป็น พจน์
สวิช เพชรวิเศษศิริ แสดงเป็น พฤกษ์
มาฬิศร์ เชยโสภณ แสดงเป็น ศีล
ฟร้อนท์ มอนท์โกเมอรี่ แสดงเป็น อลิซาเบธ
คริสโตเฟอร์ มาวิน แสดงเป็น พอล
ชัยวัฒน์ ฮิลเดอบรานด์ แสดงเป็น ธรรม์
วิทิต แลต แสดงเป็น ทอง
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ แสดงเป็น เมขลา
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล แสดงเป็น หมออุดร
แรม วรธรรม แสดงเป็น คุณหลวงหมออดุลย์
เสาวลักษณ์ ศรีอรัญญ์ แสดงเป็น สังวร
นุจรินทร์ วงศ์จินดา แสดงเป็น สังเวียน
ปริญญ์ วิกรานต์ แสดงเป็น ซ้ง
วชิรา เพิ่มสุริยา แสดงเป็น แกละ
อรุโณทัย จิตรีขันธ์ แสดงเป็น แม่เดือน
สิริยา นฤนาท แสดงเป็น แม่ดา
นรินทร ณ บางช้าง แสดงเป็น ปานวาด
สุดารัตน์ เดชากุล แสดงเป็น คุณหญิงละออศรี
พูลสวัสดิ์ ธีมากร แสดงเป็น กุ๊กฮก
รจิต ภิญโญพานิช แสดงเป็น แม่ปริก
พูนสวัสดิ์ ธีมากร แสดงเป็น กุ๊กฮก
เพ็ญศิริ สุภาพันธ์ แสดงเป็น น้อย

นักแสดงรุ่นเด็ก
หยาดทิพย์ ราชปาล แสดงเป็น พริ้มเพรา
สกุลรัตน์ ใจซื่อ แสดงเป็น แพรวพรรณราย
อุษามณี ไวทยานนท์ แสดงเป็น พราวพิลาศ
นัทธฤทัย ปานวิเชียร แสดงเป็น พริสซิลล่า

ออกอากาศวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน 2538

นักแสดงที่วางตัวไว้จะเล่นบท พจน์ คือ ธรรม์ โทณะวณิก ซึ่งเป็นลูกชายของ คุณน้ำอบ ผู้แต่งนวนิยาย คือหัตถาครองพิภพ มาถ่ายภาพฟิตติ้งไว้ แต่เสียชีวิตซะก่อน

กนกลายโบตั๋น

เมื่อรู้ว่า”วิภาดา” หลานสาวกำลังจะเดินทางไปทัศนาจรประเทศจีน คุณยายก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เรียกเธอมาเล่าให้ฟังถึงน้าหญิงคนเล็กของเธอ…ม.ร.ว.หญิงริมทอง…ว่าได้ เดินทางไปเมืองจีนแล้วก็เลยไม่กลับ เพราะไปแต่งงานกับคนจีนที่นั่น…คุณยายคิดถึงและเป็นห่วงลูกสาวมากแต่ไม่ รู้จะติดตามถามข่าวกับใคร เพราะลูก ๆ คนอื่น ๆ ของคุณยายต่างก็รู้สึกไม่พอใจที่น้องคนเล็กตัดสินใจเช่นนั้น ทุกคนตัดใจจากน้องได้ แต่คนเป็นแม่ย่อมตัดลูกสาวของตนไม่ได้คุณยายขอให้วิภาดาช่วยติดตามหาน้าหญิง ของเธอให้ได้ วิภาดารับปากคุณยาย แม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะพบคุณน้านั้นมีน้อยเต็มที เพราะประเทศจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน…แต่อาจเป็นด้วยโชคชะตาหรือฟ้า กำหนดก็เหลือคาด วิภาดาได้พบกับน้าหญิงของเธอจนได้ เพราะลูกชายของน้าบังเอิญมาทำงานเป็นไกด์ให้กับกลุมนักทัศนาจรที่วิภาดาเดิน ทางมาด้วยพอดีวูซูหลิน…เป็นหนุ่มชาวจีนที่มีสายเลือดไทยครึ่งหนึ่งจากผู้ เป็นแม่…แม่ผู้ถือกำเนิดมาในตระกูลศักดินา…เขารู้สึกประทับใจในตัว วิภาดาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ด้วยความสดใสร่าเริงของหญิงสาว…จากความผูกพันทางสายเลือดในเบื้องต้น ก่อตัวเป็นความรู้สึกอันลึกซึ้งระหว่างกัน เพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ที่วิภาดาไปพักอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ๆ ของครอบครัววู
วิภาดากลับมาเมือง ไทยพร้อมด้วยกำลังใจอันสำคัญยิ่งที่มอบให้กับคุณยายของเธอ ในขณะที่ญาติ ๆ คนอื่น ๆ ไม่มีใครสนใจใยดีเมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจของครอบครัวเกิดซวดเซ วิภาดาจำต้องรับหมั้นกับชายหนุ่มรุ่นพี่…และแต่งงานกันในเวลาต่อมา…
แต่ การแต่งงานของเธอนั้นเป็นไปเพียงเพื่อหน้าที่และความรับผิดชอบโดยแท้ หัวใจของเธอยังผูกพันลึกซึ้งอยู่กับญาติหนุ่มชาวจีน เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในจีน (หลังการเสียชีวิตของประธานเหมา ช่วงประมาณปี ๒๕๒๐-๒๕๒๑) จีนเปิดประเทศมากขึ้น ผู้คนเดินทางไปมาระหว่างประเทศได้มากขึ้น วูซูหลินมีโอกาสติดตามคณะผู้แทนรัฐบาลจีนมาเยือนประเทศไทย วิภาดาได้พยายามติดต่อจนสามารถพาวูซูหลินมาเยี่ยมคุณยายของเขาได้ ท่ามกลางสายตากึ่งสนอกสนใจ กึ่ง ๆ ประเมินท่าทีจากบรรดาญาติ ๆ …และในตอนนี้เอง ซูหลินก็ได้รับรู้ว่า…วิภาดาแต่งงานแล้ว…หรือวิภาดาจะเป็นเพียงความฝัน สำหรับเขาไปแล้วจริง ๆ อย่างที่แม่ของเขาเคยพร่ำเตือน…ถ้าเช่นนั้น…ดอกโบตั๋นจะเกี่ยวพันร้อย รัดกับกิ่งก้านลายกนกได้อย่างไร…?นิยายรักลึกซึ้งและมั่นคงระหว่างคนสองคน ที่ต่างสัญชาติ ต่างวัฒนธรรม มีเพียงเสี้ยวส่วนของสายเลือดที่เป็นสายใยโยงกันไว้…กับความผูกพันอันลึก ซึ้งที่อุปสรรคใด ๆ ก็มิอาจกั้นขวาง…

ออกอากาศ วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2533 ถึง วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2534

ผู้กำกับ : มานพ สัมมาบัติ
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : ศัลยา
บทประพันธ์ : ศรีฟ้า ลดาวัลย์

นักแสดง
นพพล โกมารชุน
ปรียานุช ปานประดับ