Tag Archives: บงกช คงมาลัย

เสน่ห์จันทร์

ในงานฉลองพิธีหมั้นระหว่าง เสน่ห์จันทร์ (ตั๊ก บงกช คงมาลัย) เศรษฐีนีม่ายสาวสวยกับ ดามพ์ (สันติสุข พรหมศิริ) เพลย์บอยหนุ่มถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราที่คฤหาสน์นฤบดินทร์ อันเป็นมรดกตกทอดจากอดีตสามีผู้ล่วงลับของเสน่ห์จันทร์ โดยมีป้าสาย (จารุณี สุขสวัสดิ์) พี่เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ของเสน่ห์จันทร์ คอยจัดการทุกอย่างให้นายหญิงของเธอ และ มานิตย์ (รอง เค้ามูลคดี) คนครัวที่ทำอาหารเก่งที่สุดเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารการกินงานดำเนินไปอย่าง ราบรื่น จนกระทั่งมาถึงช่วงสำคัญของงาน เสน่ห์จันทร์กล่าวเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมดื่มแสดงความยินดีกับเธอ และดามพ์ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีดามพ์ก็เป็นลมล้มฟุบไป ท่ามกลางความตื่นเต้นตระหนกของทุกคน

ดามท์เสียชิวิตลงในเวลาต่อมา ตำรวจสรุปว่าดามพ์เสียชิวิต เพราะมียาพิษในแชมเปญ โรมรัน (กัปตัน ภูเนศ หงษ์มานพ) นายตำรวจหนุ่มฝีมือดีได้รับคำสั่งให้มาดูแลคดีนี้ โดยมี จ่าสมหมาย (ชูศรี เชิญยิ้ม) ตำรวจท้องที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ฆาตรกรรมครั้งนั้นและมิ้ม (ตวง ภัสสรี กังวานพงศ์) เด็กจบใหม่ฝึกงานที่เป็นทั้งคู่กัดและผู้ช่วยของโรมรัน ครั้งแรกที่โรมรันเขาได้พบกับเสน่ห์จันทร์ เขาประทับใจในความงามและความอ่อนหวานของเธอ โรมรันสอบปากคำเสน่ห์จันทร์และแขกผู้มีเกียรติในงานพบว่า คนที่น่าสงสัยที่สุดคือ นาน่า (หลิว มนัสวี กฤตานุกูลย์) นักร้องสาวแฟนเก่าของดามพ์ที่เข้ามาอาละวาดในงาน พร้อมกับขู่เอาชีวิตดามพ์ เพราะโกรธแค้นที่ถูกดามพ์สลัดรัก ทันทีที่นาน่าเห็นตำรวจเธอรีบหนีทันที และทิ้งหลอดยาที่น่าสงสัยลงในชักโครกแต่เธอหนีไม่พ้นและถูกรวบตัวในเวลาต่อ มา นาน่าให้การปฎิเสธว่าไม่ได้ฆ่าดามพ์ เพราะเธอรักเค้ามาก แต่คนที่เธอโกรธก็คือ เสน่ห์จันทร์ ที่เข้ามาแย้งคนรักไปจากเธอมากกว่า แต่พอตำรวจสอบถามว่าในเวลาที่เกิดเหตุเธออยู่ไหน นาน่าก็ให้การสับสน วกไปวนมาอย่างน่าสงสัย โรมรันจึงสั่งให้จ่าสมหมายคอยจับตาดูนาน่าไว้ ต่อมากองพิสูจน์หลักฐานแจ้งว่า ยาที่พบในห้องนาน่า เป็นยาเค ไม่ใช่ยาพิษ นาน่าจึงยอมรับสารภาพว่าเธอติดยา ช่วงที่เธอหายไป เธอแอบเข้าไปเสพยาในห้องน้ำ เธอจึงไม่กล้าสารภาพตั้งแต่ครั้งแรก

โรมรันเอาวีดีโอที่ถ่ายในงานมาตรวจสอบ พบว่านาน่าพูดความจริงเนื่องจากช่วงเวลาที่เธอหายไปไม่มากพอที่จะไปวางยาฆ่า ใคร นอกจากนั้นโรมรันยังพบเบาะแสสำคัญของคดีนี้ด้วย เพราะจากวีดีโอที่ถ่ายไว้ ทำให้โรมรันเห็นว่าในช่วงที่ทุกคนยกแก้วดื่มเพื่ออวยพรนั้น เสน่ห์จันทร์ กับดามพ์แลกแก้วแชมป์เปญกันดื่ม จึงรู้ได้ทันทีว่า เสน่ห์จันทร์ต่างหากที่เป็นเป้าหมายของการฆาตรกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่ดามพ์…

โรมรันบอกเรื่องนี้ให้เสน่ห์จันทร์รู้ เธอตกใจเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนคิดฆ่าเธอ โรมรันจึงอธิบายว่าฆาตรกรใส่ยาพิษในแก้วแชมเปญของเธอโดยไม่รู้ว่าเธอจะแลก แก้วดื่มกับดามพ์ ดังนั้นดามพ์จึงเป็นเพียงผู้รับเคราะห์แทนเธอ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง…

เสน่ห์จันทร์ตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รู้ความจริง ณ วินาทีนี้เธอยังคิดไม่ตกว่าใครกันที่จะปองร้ายเธอถึงชีวิต เธอได้แต่ขอร้องโรมรัน ว่าให้ช่วยสืบหาคนนั้นให้ได้ในเร็ววัน นาน่าให้การกับโรมรันว่า ตอนที่เธอออกมาจากห้องน้ำมี เสี่ยบุญชู (ไพโรจน์ สังวริบุตร) เจ้าของกิจการก่อสร้างรายใหญ่เป็นพยาน เพราะตอนนั้นเสี่ยบุญชูเพิ่งทะเลาะกับเสน่ห์จันทร์เสร็จแล้วเดินสวนออกมา เกือบจะชนเธอ ประจวบเหมาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างของเสน่จันทร์ถูกวางระเบิดอย่างไม่มี สาเหตุ โรมรันจึงเริ่มสงสัยเสี่ยบุญชู เขาถามถึงความขัดแย้งระหว่างเธอกับเสี่ยบุญชู (ตามที่นาน่าเล่าให้ฟัง) เสน่ห์จันทร์ยอมรับแล้วเล่าที้งหมดตามความจริงด้วยน้ำตา

วันเกิดเหตุ เสี่ยบุญชูมาข่มขู่เธอไม่ให้ยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างทางด่วนยกระดับแถบ ชายฝั่งทะเลตะวันออกมูลค่าเป็นพันล้านที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า แต่เธอปฎิเสธไม่ขอก้าวก่ายการทำงานของบริษัทฯ เสี่ยบุญชูโกรธมากประกาศจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอไปพ้นทาง ที่สำคัญก่อนจากไปเขาพยายามลวนลามเธอ
โรมรันบอกเสน่ห์จันทร์ว่าคนที่ปองร้ายไม่ยอมวางมือแน่ๆ เตือนให้เธอระวังตัว และให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับเธอหากเกิดเรื่องอะไรไม่ดีก็โทรหาเขาได้ทุก เมื่อ เสน่ห์จันทร์ซาบซึ้งใจ ป้าสายหัวหน้าแม่บ้านและมีศักดิ์เป็นแม่นมของเสน่ห์จันทร์ไม่ค่อยพอใจ หลังโรมรันกลับออกไป ป้าสายเตือนเสน่ห์จันทร์ว่าอย่าทำตัวสนิทสนมกับโรมรันมากนัก เขาอาจจะเป็นอันตรายกับเธอ เสน่ห์จันทร์บอกป้าสายว่า ไม่ต้องห่วง

ในเวลาต่อมาตำรวจจับมือวางระเบิดได้ ปรากฎว่า…ชื่อไอ้หาญเป็นคนของเสี่ยบุญชู พอดีกับที่มิ้มนำรายงานผลการชันสูตรศพดามพ์ พบว่าดามพ์เสียชิวิตเนื่องจากสารพิษที่ชื่อว่า แคนทาริดีน ออกฤทธิ์ในเชิงกระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักแต่ถ้าใส่จำนวนมากทไให้หัวใจวายได้ ในตลาดมืดเรียกตัวนี้ว่า “แมลงวันสเปน”

โรมรันรีบนำหมายค้นไปค้นที่บ้านเสี่ยบุญชูทันที ขณะนั้นเสี่ยบุญชูกำลังมีความสุขกับสาวๆที่บ้าน โรมรันจึงพบไวอากร้า แมลงวันสเปน และยากระตุ้นอื่นๆมากมายตามที่สงสัย เสี่ยบุญชูบอกว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะใช้ยากระตุ้นอารมณ์เพศ ตำรวจจับเชาเช้าคุกเพราะใช้แมลงวันสเปนไม่ได้ โรมรันบอกว่าไอ้หาญรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนวางระเบิดบริษัทของเสน่ห์จันทร์ พร้อมกับรุกไล่ถามเรื่องที่มีคนเห็นเขาทะเลาะกับเสน่ห์จันทร์ และลวนลามในวันงาน เสี่ยบุญชูโมโหจนควบคุมตัวเองไมิอยู่ จึงยอมรับว่าเขาทำจริง แต่คนอย่างเขาไม่เคยคิดจะวางยาพิษฆ่าใคร

โรมรันจึงทำได้แค่เพียงแจ้งข้อหาลอบวางระเบิดแก่เสี่ยบุญชู ซึ่งก็ประกันตัวออกไปได้ภายในวันนั้นด้วยเงินและอิทธิพลที่มีอยู่ สิ่งที่ทำให้เขาเชื่อว่าเสี่ยบุญชูไม่ได้เป็นคนลงมือก็คือ นิสัยของเสี่ยบุญชูไม่ใช่คนที่ฆ่าใครด้วยยาพิษ และวางยาพิษในแก้วแชมเปญ น่าจะทำในเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นาน เพราะตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีช่วงเวลาอันสั้น ซึ่งคนที่ลงมือน่าจะเป็นคนที่ชำนาญในเรื่องการใช้ยานี้ ไม่ใช่นักเลงอย่างเสี่ยบุญชู แต่ใครล่ะจะเป็นผู้ชำนาญคนนั้น

โรมรันกลับมาได้รับข้อมูลใหม่จากมิ้มว่า หลังจากท่านนายพลสามีของเสน่ห์จันทร์ตายลง ได้ทำพินัยกรรม ยกสมบัติทั้งหมดให้เสน่ห์จันทร์เพียงคนเดียว อลิสา (วรรณษา ทองวิเศษ) น้องสาวโอลด์เมดของท่านนายพลยื่นฟ้องร้องแต่ศาลสั่งยกฟ้องให้อลิสาแพ้คดี ที่สำคัญเธออยู่ที่นั่นในวันเกิดเหตุด้วย ที่สำคัญเธอยังเคยเป็นผู้ช่วยเภสัชกรมาก่อนที่จะเป็นเจ้าของฟาร์มม้า

เสน่ห์จันทร์เล่าว่า ความจริงวันนั้นเธอจำได้ว่า เธอเดินผ่านห้องเก็บแชมเปญ และเธอเห็นใครคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆ พอเห็นเธอกับป้าสาย คนๆนั้นก็รีบหลบออกไป อาจจะเป็น อลิสา เพราะเธอเท่านั้นที่เคยเข้าออกบ้านนี้ได้สะดวก โรมรันถามเรื่องคดีมรดกจากเสน่ห์จันทร์แต่เธอไม่ยอมพูดถึง ได้แต่ร้องไห้เมื่อเขาพูดถึงเรื่องมรดกนั้น เขาจึงหันไปสืบเรื่องนี้จากป้าสาย โดยอ้างถึงความปลอดภัยของเสน่ห์จันทร์ ป้าสายเล่าว่า อลิสารักและหวงพี่ชายมาก จึงโทษว่าเสน่ห์จันทร์มาแย่งทุกอย่างไป ทำให้เสน่ห์จันทร์พลอยรู้สึกผิดที่ได้สมบัติทั้งหมดของท่านนายพล ป้าสายเล่าว่าเสน่ห์จันทร์ยอมถึงขั้นยกคอกม้านฤบดินทร์ให้อลิสา แต่อลิสาก็ยังไม่หายโกรธ คอยแช่งให้เสน่ห์จันทร์มีอันเป็นไปอยู่เสมอ แม้กระทั่งวันงาน อลิสายังแต่งชุดดำมาเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนตาย ป้าสายยังเตือนโรมรันอีกว่าจะทำอะไรให้ระวังตัวด้วย

โรมรันไปหาอลิสาที่คอกนฤบดินทร์ อลิสากำลังขี่ม้าอย่างคล่องแคล่ว เธอสงสัยว่าโรมรันมาหาเธอเพราะอะไร แต่ในที่สุดอลิสาก็จับได้ว่าโรมรันเป็นตำรวจ จึงไล่ตะเพิดเขากลับไป อลิสาโกรธ หาว่าเสน่ห์จันทร์กล่าวหาเธอ โรมรันจึงได้รู้ว่าอลิสาเกลียดเสน่ห์จันทร์จริงๆ

วันต่อมาโรมรันได้รับโทรศัพท์จากเสน่ห์จันทร์ ว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนสะกดรอยตาม โรมรันรีบมาช่วย เมื่อเค้าไปถึงก็เห็นอลิสากำลังทำร้ายเสน่ห์จันทร์อยู่ เขาเข้าไปห้ามอลิสาและรวบตัวเอาไว้ได้ในเวลาต่อมา ระหว่างที่โดนจับ อลิสาตะโกนด่าอาฆาตมาดร้ายเสน่ห์จันทร์ราวกับคนเสียสติ เสน่ห์จันทร์กลัวจนตัวสั่น โรมรันจึงนำตัวอลิสาไปกักขังไว้ชั่วคราว อลิสาถูกสอบเครียด เธอยอมรับว่าเกลียดและอยากให้เสน่ห์จันทร์ตาย แต่เธอไม่ได้วางยาพิษ โรมรันยังไม่เชื่อ เพราะว่าสมหมายไปตรวจคอกนฤบดินทร์ พบแมลงวันสเปนที่นั่น

จ่าสมหมายและมิ้มช่วยกันรวบรวมหลักฐานให้โรมรันทำสำนวนคดีเตรียมฟ้องอลิสา ทำให้ได้รู้ว่าแรงจูงใจของเธอคือ ต้องรีบฆ่าเสน่ห์จันทร์ให้ได้ก่อนที่เธอจะแต่งงานใหม่ เพราะหากปล่อยให้เธอแต่งงานไป สมบัติทั้งหมดของนฤบดินทร์จะกลายเป็นสินสมรส โอกาสที่อลิสาจะเอาของของเธอกลับคืนมายิ่งมีน้อยลง อลิสาจึงแอบเข้าไปในห้องเก็บแชมเปญนั้น แล้วใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งนาทีในการวางยาพิษ และแผนของเธอคงจะสำเร็จ ถ้าเสน่ห์จันทร์ไม่แลกแก้วดื่มกับดามพ์ ในช่วงมรณะนั้น

ข่าวจับอลิสาลงหนังสือพิมพ์ พร้อมรายละเอียดต่างๆ พ่อครัวมานิตย์อ่านแล้วพยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด เค้ารีบออกไปนอกบ้านด้วยอาการพิรุธ แล้วจู่ๆก็มีชายลึกลับโทรศัพท์เข้ามาขู่คนในคฤหาสน์นฤบดินทร์ ว่า “ฉันรู้นะว่าแกเป็นคนฆ่า” ก่อนมันจะแบล็คเมล์ข่มขู่เรียกเงิน โรมรันได้รับโทรศัพท์จากชายลึกลับเช่นกัน บอกว่า เขากำลังหลงทางจับคนผิด อลิสาไม่ได้ฆ่าใคร “ผมรู้ว่าใครเข้าไปในห้องแชมปญก่อนเกิดเหตุ” ถ้าอยากรู้เบาะแสว่าใครคือฆาตรากรตัวจริง

หลังจากวางหูจากชายลึกลับ โรมรันก็ขอให้ตำรวจหาที่มาของปลายสาย มานิตย์กลับมาทำงานปกติเหมือนไม่มีอะไร จนกระทั่งถึงวันนัดหมาย มานิตย์ซึ่งมีอาการเบาหวานขั้นรุนแรง ต้องฉีดอินซูลินก่อนออกจากบ้าน โรมรันมารอที่จุดนัดหมาย แต่คนที่นัดไว้ไม่มา จนจ่าสมหมายรายงานว่า โทรศัพท์ลึกลับที่โทรมาหาโรมรันนั้น มาจากบ้านเสน่ห์จันทร์นั่นเอง โรมรันนำตำรวจบุกไปที่บ้าน ไปจนถึงห้องพักของมานิตย์ที่คฤหาสน์นฤบดินทร์ เมื่อตำรวจบุกเข้าไปในห้องมานิตย์ปรากฎว่ามานิตย์ตายเสียแล้ว มีรอยเข็มและรอยไหม้ตามเส้นเลือดบริเวณหน้าท้องของเขา โรมรันตรวจสอบสภาพในห้องมานิตย์ พบข่าวตัดเกี่ยวกับคดีฆาตรกรรมดามพ์ และมีรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในห้องมากมาย โรมรันสั่งให้จ่าสมหมายเก็บไปตรวจสอบ โรมรันสอบถามเรื่องมานิตย์ ไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเขามากนัก รู้แต่ว่ามานิตย์เคยมีครอบครัวแล้ว มีลูก แต่ถูกเมียที่หย่าขาดกีดกันไม่ให้พบลูกสาว ทำให้เขาเป็นคนเศร้าๆ และชอบเก็บตัว มิ้มสืบเพิ่มเติมอีกจนพบว่า เมียของมานิตย์ต้องการเงินก้อนหนึ่งไปตั้งตัว เพื่อแลกกับลูกสาว มานิตย์จึงต้องการใช้เงิน ประกอบกับความบังเอิญได้เห็นว่าในวันเกิดเหตุใครแอบลงไปในห้องเก็บแชมเปญ เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวที่สื่อมวลชนนำเสนอ มานิตย์จึงมั่นใจว่าใครคือ ฆาตรกร เขาจึงโทรไปแบล็คเมย์ ซึ่งคนฆ่ามานิตย์น่าจะเป็นฆาตรกรคนนั้น และแน่นอนว่า ไม่ใช่อลิสา น่าจะเป็นคนในบ้านของเสน่ห์จันทร์เอง

เมื่อโรมรันไปหาเสน่ห์จันทร์ เห็นเสน่ห์จันทร์นั่งร้องไห้อยู่ เธอขอให้เขาอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ และแล้วคืนนั้นเธอกับเขาก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เสน่ห์จันทร์ปรับทุกข์กับโรมรันว่า ยิ่งเขาสาวเข้าใกล้ฆาตรกรมากเท่าไร ก็ยิ่งมีคนตายมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่อาจทนเห็นใครตายอีกโดยเฉพาะเขา เธอขอให้เขาเลิกโรมรันปฎิเสธว่าเป็นหน้าที่ ขอให้เข้าใจจากหลักฐานล่าสุดที่ได้มา ทำให้โรมรันรู้ว่าอลิสาไม่ได้เป็นคนทำร้ายเสน่ห์จันทร์จริงๆ และสาเหตุที่อลิสาบุ่มบ่ามไปหาเสน่ห์จันทร์ในวันนั้นเพราะจะไปตกลงกับเสน่ห์ จันทร์เรื่องคอกม้าของเธอ แต่บังเอิญไปเจอเข้ากับป้าสายเข้าเสียก่อน อลิสาจึงคอบคุมสติอารมณ์ไม่ได้เมื่อเจอหน้าเสน่ห์จันทร์ในเวลาต่อมา

ป้าสาย คนรับใช้ผู้ภักดี เคยมีคดีกับอลิสามาก่อน และยิ่งเมื่อสืบทราบว่า ป้าสายจะเกลียดทุกคนที่ไม่เชื่อฟังเธอโดยเฉพาะดามพ์ ก็ยิ่งทำให้โรมรันเริ่มเข้าใกล้ตัวฆาตรกรมากขึ้นทุกที

โรมรันนำตัวป้าสายมาสอบปากคำอย่างหนัก ในที่สุด ป้าสายก็รับสารภาพว่าเป็นคนฆ่ามานิตย์ ที่รู้ว่าเธอเป็นคนวางยาพิษดามพ์ และคิดจะแบล็คเมล์เธอ เสน่ห์จันทร์ตกใจที่ป้าสายพูดออกมาเช่นนั้น เธอแทบไม่เชื่อหู แต่ป้าสายยืนยันกับโรมรันว่าไม่ได้คิดจะทำร้ายเสน่ห์จันทร์ แต่ต้องการกำจัดดามพ์ ตำรวจพบแมลงวันสเปนอยู่ในห้องป้าสาย ตำรวจนำป้าสายเข้าคุก อลิสาได้รับการปลดปล่อยตัวเป็นอิสระ เธอยังคงเครียดแค้นเสน่ห์จันทร์อยู่เหมือนเดิม

เช้าวันต่อมา จ่าสมหมายแจ้งให้โรมรันรู้ว่าป้าสายเสียชีวิตแล้วด้วยการดื่มยาพิษที่แอบ เข้ามา เสน่ห์จันทร์กอดศพป้าสายร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา โรมรันอยู่เคียงข้างเธอเพื่อปลอบโยน เขาได้รับความผูกพันระหว่างเธอและป้าสายมากขึ้น เมื่อเขาเป็นเพื่อนเธอนำกระดูกของป้าสายไปเก็บที่วัด ที่เดียวกับที่เก็บอัฐิน้องสาวของเสน่ห์จันทร์

คดีปิดลง ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่าย ยกเว้นโรมรัน เพราะสิ่งที่เขาคาใจก็คือ ทำไมฆาตรกรอย่างป้าสายที่จงรักภักดีต่อนายหญิงถึงได้ยอมเสี่ยงเอาชีวิตของ นายหญิงเป็นเดิมพัน ในการวางยาพิษครั้งนี้
เธอรู้ได้อย่างไรว่านายหญิงของเธอจะสลับแก้วดื่มกับว่าที่สามี ณ วินาทีมรณะนั้น เธอไปรู้เรื่องแมลวันสาปนั้นได้อย่างไร หรือเธอมีเหตุผลอื่นใดแอบแฝงหรือเธอรู้อะไร ที่ใครไม่เคยล่วงรู้…

รายชื่อนักแสดง เสน่ห์จันทร์
บงกช คงมาลัย รับบท เสน่ห์จันทร์
ภูธเนศ หงษ์มานพ รับบท รมรัน
จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท ป้าสาย
สันติสุข พรหมศิริ รับบท ดามพ์
ไพโรจน์ สังวริบุตร รับบท เสี่ยบุญชู
ภัสสรี กังวานพงศ์ รับบท มิ้ม
มนัสวี กฤตนุกูลย์ รับบท นาน่า
วรรณษา ทองวิเศษ รับบท อลิสา
รอง เค้ามูลคดี รับบท มานิตย์
ชูศรี เชิญยิ้ม รับบท จ่าสมหมาย
ดารุณี กฤตบุญญาลัย รับบท สมสมัย
วราพรรณ หงุ่ยตระกูล รับบท เอกกะรัต ในละครเสน่ห์จันทร์

สาวน้อย

สาวน้อยเป็นเรื่องราวของ สรรค์ (สน ส่งไพศาล) บุตรชายคนเดียวของ พระชาญ ชลาศัย (เกรียงไกร อุณหะนันท์) เสนาบดีกระทรวงการคลัง สรรค์มีความสามารถในการวาดภาพสีน้ำมัน หลังจากเรียนจบจากฟิลิปปินส์ เขาเดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับได้หมั้นหมายกับ สุวลี (บุษกร ตันติภนา)

คืนวันหมั้นสรรค์ได้รู้ความจริงว่าพ่อมีภรรยาใหม่คือ มารศรี (บงกช คงมาลัย) นักร้องไนท์คลับ ซึ่งมารศรีได้กลายเป็นสาเหตุให้สรรค์ต้องมีกากเสียงอย่างรุนแรงกับพระชาญ ชลาศัย ด้วยความน้อยใจ สรรค์จึงหนีไปอยู่กับบุญมา (รัชชานนท์ สุขประกอบ) เพื่อนสนิท แต่ระหว่างทางสรรค์โดนดักทำร้ายจนทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ

เมื่อ สรรค์รู้สึกตัว ก็พบว่าตนเองอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากเกาะสีชัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ย่านท่าเรือ และได้ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่าเสียม เสียมทำงานเป็นจับกังในเรือ วันหนึ่งเรือแล่นผ่านเกาะสีชังทันที ระหว่างที่เสียมกำลังว่ายน้ำเขาเกิดหมดแรงไปเสียก่อน แต่ก่อนที่เขาจะหหมดสติจมลงไปใต้ท้องทะเล นิด (วรรณรท สนธิไชย) หญิงสาวชาวเกาะมาพบเข้า และได้ให้ความช่วยเหลือจนปลอดภัย เสียมหลงรักนิดตั้งแต่แรกพบ จึงขอมาอยู่อาศัยด้วย แต่เขาเปรียบเหมือนคนพเนจร

จึงทำให้นิ่ม(ศันสนีย์ วัฒนานุกูล) แม่ของนิดและเนือง (พงศ์สิริ บรรลือวงศ์) พี่ชาย รวมถึงเชิด (อาณัติพล ศิริชุมแสง) ชายหนุ่มที่หลงรักนิดมานาน รู้สึกไม่พอใจที่เสียมมาอาศัยอยู่ด้วย พวกเค้าจึงคอยตั้งแง่กับเสียมตลอดเวลา แต่ด้วยความดีของเสียมจึงเอาชนะใจพวกเขาได้ สิ่งที่ทำให้เสียมประหลาดใจ คือการค้นพบว่าตนเอง มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ และสามารถวาดรูปได้อย่างงดงาม ด้วยเหตุนี้เสียมจึงตั้งใจวาดรูปนิดและตั้ง ชื่อรูปนี้ว่า สาวน้อย เขาได้มอบรูปนี้ให้กับเธอ

ในวันแต่งงาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขบนเกาะสีชัง แต่ด้วยเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อพระชาญชลาศัยรู้ว่าสรรค์ความจำเสือมและอาศัยอยู่ที่เกาะสีชัง จึงรีบตามมาพบสรรค์และพากลับไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ผลการรักษาทำให้ความทรงจำของสรรค์กลับมาคืนมา แต่โชคร้ายที่ความจำความทรงจำของสรรค์ตอนที่อยู่เกาะสีชังกลับหายไป แม้กระทั่งนิดหญิงสาวที่สรรค์รักสุดหัวใจเขาก็จำเธอไม่ได้ สุวลีกังวลว่า ความทรงจำของสรรค์จะจำนิดได้

หากทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน เธอจึงออกอุบายให้นิดไปทำงาน เป็นข้ารับใช้ของคุณหญิงมะลิ (วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง) ภรรยาของพระยาธรรมนูญ (เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์) ระหว่างที่นิดเป็นข้ารับใช้ เธอรู้ว่าคุณหญิงมะลิ แอบคบชู้กับหลวงจินดา (ปิยะ วิมุกตายน) เธอจึงคิดจำนำเรื่องนี้ไปบอกพระยาธรรมนูญ แต่ไม่ทันที่จะได้บอก นิดก็ถูกคุณหญิงมะลิจับได้ และหาเรื่องใส่ความจนเธอมีความผิดต้องติดคุก ทำให้นิดได้พบกับชด (อริศรา วงษ์ชาลี) นางละคร ซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ในคุกนี้เองนิดกับชดกลายเป็น เพื่อนที่รู้ใจ เพราะทั้งคู่รักในเสียงเพลงและการแสดงเหมือนกัน จากนั้น ไม่นานแก้ว (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) เพื่อนสนิทของนิด ที่พยายามหาทางช่วยนิดให้พ้นโทษ ได้นำความจริงที่คุณหญิงมะลิคบชู้ไปบอกกับพระยาธรรมนูญ

เมื่อพระยา ธรรมนูญรู้ความจริง จึงช่วยให้นิดและชดพ้นโทษออกมา พร้อมกับจัดตั้งคณะละครของชด ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง จากนั้นไม่นานนิดก็กลายเป็นนางเอกสาวพราวเสน่ห์ ผู้คนต่างชื่นชมและเรียกขานเธอว่า วนิดา เมื่อมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทอง เธอจึงกลับมาหาสรรค์อีกครั้ง เพื่อทวงชายอันเป็นที่รักคืนมาจากสุวลี

ในเมื่อสุวลีทั้งสวยและฉลาด เธอหรือจะยอมแพ้ เมื่อไม่มีใครยอมใคร บทสรุปของการต่อสู้ชิงชัยในความรัก ระหว่างหญิงสองคนจะลงเอยเช่นไร? ตามชมได้ในละคร สาวน้อย

รักแผลงฤทธิ์

ในท่ามกลางปัญหาสังคมมากมายที่รังแต่ จะทวีความรุนแรง ยุ่งยาก และซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด รักและเซ็กซ์ในวัยเรียน การค้าประเวณี ฯลฯ ฉายฉาน ชายหนุ่มที่ถูกเรียกตัวให้เข้ามารับงานสายสืบในชุมชนวัดมะยมหวาน ได้แต่ถามตัวเองว่า อะไรหรือสิ่งใดกันที่จะมีฤทธิ์ร้ายกาจและรุนแรงพอจะต่อกรและยับยั้งปัญหา สังคมเหล่านั้นได้

เขาได้รู้คำตอบเมื่อได้พบพริตตี้สาว เปรี้ยวอย่างบายศรีหรือหนูพุก ซึ่งสายสิญจน์น้องชายคนเดียวของเธอกำลังเดินเลาะเลียบอยู่ที่ปากเหวของปัญหา เหล่านั้นอยู่เช่นกัน

สิ่งนั้นคือรัก รักซึ่งจะแผลงฤทธิ์ สำแดงเดช ต่อสู้กับภัยอันตรายมากมีในสังคม

ไม่ใช่แค่รักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงรักของเพื่อน รักของพ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร รักของครอบครัว และรักของคนในชมุชน ในสังคมนี้ทั้งหมด

รักมีพลานุภาพ

ถึงเวลาแล้วที่รักจะแผลงฤทธิ์ !

นิราศสองภพ

ปารีส 2543 บัวบุษยาผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาตร์สมัยกรุงศรีอยุธยาเธอมาปารีสเพื่อค้นหา หลักฐานประวัติศาตร์ไทย กับบาทหลวงชาวฝรั่งเศสที่บันทึกไว้

กรุงเทพ มหานคร 2543 ทุติยะ ,เอมิล, พอล 3 นักธุรกิจชาวต่างชาติได้สร้าง โรงงานอุตสาหกรรมในกรุงเทพ ขณะที่ทั้งสามล่องเรือยอร์ชชมแม่น้ำเจ้าพระยา ใก้ลกับวัดอรุณพวกเขาก็ได้แล่นเรือผ่านเข้าไปในเขตเหลื่อมเวลา และได้พบกับ ขบวนเรือรบ200-300 ลำ มุ่งหน้าไปยังป้อมวิไชยประสิทธิ์ พวกเขาได้เห็นภาพ การสู้รบระหว่างทหารบนป้อมและทหารในเรือ และในขณะล่องเรือผ่านเขา ได้เห็น ชายประหลาดมีผ้าแพรผืนใหญ่พาดบ่ามีอาการโศกเศร้า แต่เมื่อเรือ ยอร์ชพวกเขาหลุดพ้นจากห้วงเวลา ทั้งสามก็พบผ้าผืนนั้นลอยมาติดเรือยอร์ช ซึ่งเป็นหลักฐานว่าพวกเขาไม่ได้เมาหรือฝัน

ปารีส 2543 บัวบุษยาติดตามข่าวเมืองไทยทางอินเตอร์เน็ตและหนังสือพิมพ์ พบข่าวแปลกๆของชาวต่างชาติ ทั้งสามเธอจึงรีบลาออกจากงานแล้วกลับเมืองไทย

กรุงเทพ มหานคร 2543 บัวบุษยาได้พบทุติยะและผ้าแพรผืนนั้น เธอถามถึงสถานที่พบ และที่บางปะกงชาวบ้าน แถวนั้น ร่ำลือของพฤติกรรมประหลาดของบัวบุษยาที่มาปลูกบังกะโลริมอยู่น้ำ ทุกคืนเธอจะพายเรือและจุดโคม ไฟตามลำน้ำ เหมือนหาอะไรสักอย่าง

เริ่มเรื่อง
กรุงเทพ 2540 เกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจเมืองไทยล่มสลาย บรรพตพ่อของบัวบุษยาซึ่งเป็นประธาน บริษัทไฟแนนซ์ ถูก ตำรวจเศรษฐกิจตามจับตัวเลยต้องหนีไปเมืองนอก บัวบุษยากับยาใจผู้เป็นมารดาต้องนำสมบัติที่เหลือ อยู่ออกมาขาย ใช้หนี้ เชษฐาแฟนของบัวบุษยาบอกเลิกกับเธอในงานเดินแบบของชาวไฮโซ และในงานเดียวกันนี้บัวบุษยา ยังถูกปลดออกจากการเดินแบบครั้งนี้ เชษฐาเลยหันไปจีบลูกพีชลูกสาวนักการเมืองที่มาเดินแบบแทนบัวบุษยา เชษฐาขับรถไปส่งลูกพีชโดยมีบัวบุษยาแอบอยู่ที่เบาะหลังบัวบุษยาใช้ปืนจี้ให้ ลูกพีชลงจากรถ และให้เชษฐาขับต่อ ไปขณะ รถอยู่บนสะพานเชษฐาแย่งปืนจากบัวบุษยาและไล่ยิงเธอ จนบัวบุษยาต้องกระโดดหนีตายลงไปในแม่น้ำ

อยุธยา 2310 บัวบุษยาตะเกียกตะกายโผล่พ้นผิวน้ำ เธอก็ได้เจอกับเทียนชายท่าทาง โหดเหี้ยมในชุดหยักรั้งเปลือยอกกำลังใช้ดาบฟันคอศัตรูถึง 7 คนซึ่งอยู่ในชุดโสร่งและมี ผ้าโพกหัวจนขาดกระเด็น เมื่อเทียนเห็นบัวบุยาก็คิดว่าเธอเป็นไส้ศึกชาวพม่า ด้วย ความแค้นที่ทหารพม่าข่มขืนและฆ่าเรไรเมียของเขาจึงคิดจะฆ่าบัวบุษยาเพื่อ ล้างแค้น บัวบุษยาหนีเทียนไปเจอทหารพม่าแต่เทียนไล่ตามมาทันขณะที่ทหารพม่ากำลังจะข่ม ขืน บัวบุษยา

เทียน จึงเข้าไปช่วยเพราะรู้ว่าเธอไม่ใช่ชาวพม่า และพาเธอกลับมา กรุงศรีอยุธยา ด้วย พอถึงประตูเมืองทหารไม่ยอมเปิดประตูรับเพราะต้องการ ให้ทหารพม่าที่ตามมาติดๆฆ่าเขาแต่เกร็ดกับขวานเพื่อนของเทียน มาช่วยทันและฆ่า พม่าตายหมด เทียนจึง สามารถเข้าเมืองได้ มีคนตั้งใจจะแกล้งเขาโดยไม่เปิดประตูเมืองรับ และก็เป็นเช่น นั้นจริงๆ เพราะท่านเจ้าพระยาเสนาฯนายต้นสังกัดของเขานั้นเอง

มีลูกชายเป็น มหาดเล็กชื่อ หลวงเชิด ที่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ ขี้ประจบ หลวงเชิดเคยหลงรักเรไร แต่เรไรกลับมาแต่งงานกับ เทียน ทำให้หลวงเชิดแค้นใจมากเมื่อ 3-4 ปีก่อนจึงออกอุบายว่าเทียนตาย ในขณะไปรบทำให้เรไรออกตามหาศพ เทียน และ โดนทหารพม่าข่มขืนและฆ่าเธอ ต่อมาหลวงเชิดมาจีบส้มหอมน้องสาวเทียนเพื่อหวังสมบัติ ของเขา แต่ส้มหอม ไม่เล่นด้วยเพราะเธอหลงรักหม่อมเมธีเชื้อพระราชวงค์ขณะที่ชงโคน้องสาวหลวง เชิดก็หลงรัก เทียนแม่นาย จันหอม แม่ของเทียนแต่ง งานกับเจ้าสัวไห่ ( พ่อของเทียน ) ที่เป็นคนจีนเลยถูกคนดูหมิ่น

เมื่อเจ้าสัวไห่ตาย ทิ้งสมบัติมากมายไว้ให้ครอบครัว เลยทำให้คน ในสังคมชั้นสูงหันมายกย่องและนับถือ ความเป็นลูกคนจีนทำ ให้เทียน ถูกตั้งข้อรังเกียจเสมอ แต่ด้วยอำนาจเงินของเขาเลยทำให้เขาก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ แม่นายจันหอมมาดู บัวบุษยาที่เรือนทาสจึงนำบัวมาเป็นบ่าวรับใช้ประจำตัว บัวบุษยาได้ติดตามแม่นายจันหอมไปตามงานสังคมไฮโซ เลยทำให้เธอเห็นความเสื่อม ของสังคมสมัยนั้นก่อนเสียกรุงฯ เมื่อพม่าบุกมาเจ้าพระยาเสนาฯจึงสั่งเทียน ไปรบเพื่อหวังให้เทียนตาย

หลวงเชิดออกอุบายบอกทุกคนว่าเทียนตาย แล้วและให้ทุกคนขนสมบัติมากับตน แต่บัวบุษยามาขัดขวางได้ทัน เทียนรู้ทันว่าเจ้าพระยาเสนากับหลวงเชิดว่าเป็น คนวางแผนเปิดประตูเมืองให้พม่าจึงนำเรื่องไปบอกหม่อม เมธีมาจับตัว ทั้ง สองแต่ หลวงเชิดหนีทันและแค้นเทียนมาก เมื่อพม่าบุกมาถึงกรุงฯ ทำให้ครอบ ครัวเทียนแตกกันไปคนละทาง เทียนปักหลักสู้ตายที่กรุงศรีฯ ส่วนหม่อมเมธี หนีตายไปลพบุรี บัวจึงใช้ผ้าโพกหัวปลอมเป็นชายเพื่อตามหาเทียน ให้ไป สมทบกันที่ลพบุรี หม่อมเมธีตั้งตนเป็นกษัตริย์และกีดกันความเป็นจีนของเทียน

เทียน แต่ส้มหอมกลับขอเป็นข้าราชบริพาร โดยหวังว่าเธอจะได้เป็นชายา กษัตริย์ เทียนตัดสินใจเดินทางเข้าร่วมกับทัพพระยาตากที่มีคนจีนเหมือนเขา ร่วมด้วย ระหว่างทางก็เจอกับหลวงเชิดที่กลายเป็นโจรมาดักทำร้ายและ เผยว่าตนเป็นคนฆ่าและ ข่มขืนเรไร แต่พี่น้องชาวจีนมาช่วยเทียนได้ทันเวลา

เทียนได้รับบาดเจ็บบัวบุษยาเป็นคนดูแลและเกิดเป็นความรัก หลังการกอบกู้ชาติได้สำเร็จบัวบุษยาจึงถามเทียนว่ารักเธอไหมแต่เทียนก็ ปฏิเสธและบอกว่ารักเรไรคนเดียวจึงทำให้เธอเสียใจมากจึงแกล้งกระโดด น้ำตาย และก็จมหายไป เทียนเสียใจมากที่เสียบัวบุษยาไปจึงกระโดดน้ำหา บัวแต่ก็ไม่เจอ มีเพียงแต่ผ้าโพกหัวของบัวที่ปลอมเป็นชายเท่านั้นที่เหลืออยู่

เมื่อบัวโผล่พ้นน้ำก็เลยรู้ว่าตัวเองกลับมายังยุคปัจจุบันอีกครั้ง โปรดติดตามความรักต่างภพของเทียนและบัวบุษยา ได้ว่าจะลงเอยอย่างไรใน “นิราศสองภพ

นักแสดงละคร นิราศสองภพ

1. รวิชญ์ เทิดวงส์ รับบทเป็น เทียน
2. บงกช คงมาลัย รับบทเป็น บัวบุษยา
3. อิสรีย์ สงฆ์เจริญ รับบทเป็น ส้มหอม
4. โจโจ้ ไมอ็อคชิ รับบทเป็น เชิด
5. ชนกวนัน รักชีพ รับบทเป็น ชงโค
6. อำภา ภูษิต รับบทเป็น จันหอม
7. สุรพันธ์ชาวปากน้ำ รับบทเป็น เหลียง
8. เมธี อมรวุฒิกุล รับบทเป็น ซุน