Tag Archives: นภัสกร มิตรเอม

อเวจีสีชมพู

อเวจีสีชมพู เป็นเรื่องราวความรักต่างวัยของ ปะวะหล่ำ สายน้อยวัย 17 กับ โปดก น้าชายหนุ่มต่างสายเลือดที่ต้องมาแต่งงานกันตามคำขอร้องก่อนตายของแม่ของปะวะหล่ำ

แม่ของปะวะหล่ำถูกลอบยิงเสียชีวิตตั้งแต่ปะวะหล่ำยังเด็ก โดยฝากฝังให้โปดก ช่วยดูแลและแต่งงานกับปะวะหล่ำเพื่อให้เธอรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกา โดยเฉพาะศพลพ่อแท้ ๆ ของเธอ ศพลต้องการฮุบที่ดินสวนส้มโดยอาศัยความเป็นพ่อ เบื้องหลังความตายของถมปัดคือศพล ถาปนาตาของปะวะหล่ำชังศพล แต่ก็ขัดขวางการแต่งงานของโปดกกับปะวะหล่ำ เพราะคิดว่าโปดกต้องการสมบัติเหมือนกัน

ปะวะหล่ำเพิ่งเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีที่ 5 เท่านั้น ทำให้เรื่องแต่งงานจึงต้องปิดเป็นความลับ โปดกสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินปะวะหล่ำ และจะดูแลปะวะหล่ำอย่างดีจนกว่าปะวะหล่ำจะอายุครบ 20 ปี โดยจะเป็นผู้ปกครองปะวะหล่ำ แต่หากพบปะวะหล่ำพบคนที่รัก ในตอนที่ปะวะหล่ำมีอายุครบ 20 ปี  โปดกจะคืนอิสรภาพให้ ปะวะหล่ำเคารพโปดกอยู่แล้ว เพราะโปดกเลี้ยงและปกครองมาตั้งแต่เกิด จึงไม่ลำบากใจและยอมรับในทุกคำพูดของโปดก ศพลรวมหัวกับศก ผู้เป็นพ่อสร้างความสนิทสนมกับปะวะหล่ำ หวังให้ปะวะหล่ำตายใจและคืนสิทธิ์การเป็นผู้ปกครองให้โดยศพลและศกไม่รู้เลยว่าปะวะหล่ำแต่งงานกับโปดกแล้ว

ปะวะหล่ำดูแก่นแก้ว สู้คน แต่จริง ๆ แล้วอ่อนไหว พอศพลมาทำดีด้วยเธอจึงคิดจะแบ่งสวนส้มให้ แต่เรื่องกลับแตกว่าโปดกกับปะวะหล่ำเป็นสามีภรรยากันแล้ว ศพลจึงหมดหวังและโกรธถมปัด จินตนาเมียถมทอง น้องสาวของถมปัด มาที่สวนส้มเพื่อเอาสมปัดของถมปัด ปะวะหล่ำจึงให้ไปบ้าง แต่ถมทองก็ยังคงคอยมาสร้างความรำคาญใจให้กับโปดกและปะวะหล่ำเสมอ ๆ ศพลแค้นทั้งถมปัดและปะวะหล่ำ จึงไปเปิดเผยเรื่องการแต่งงานของปะวะหล่ำกับโปดกให้ทางโรงเรียนของปะวะหล่ำทราบ ปะวะหล่ำจึงถูกไล่ออกจากโรงเรียน

โปดกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปะวะหล่ำจึงเรียนระบบการศึกษานอกโรงเรียนอยู่กับบ้าน ปะวะหล่ำและโปดกจึงมีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้น โปดกพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ ทำให้ปะวะหล่ำน้อยใจเพราะคิดว่าโปดก ไม่รักตนแล้ว

ศกและศพลใช้แผนชั่วในโกงที่ดินปะวะหล่ำ และพยายามซื้อตัวทัน คนงานเก่าแก่ แต่ไม่สำเร็จ โปดกเกรงว่าปะวะหล่ำอาจจะได้รับอันตราย จึงย้ายมาทำงานที่สวนเพื่อจะได้ดูแลปะวะหล่ำ ทำให้ความสัมพันธ์ทางใจของทั้งคู่ยิ่งผูกพันกันเพิ่มมากขึ้น ปะวะหล่ำเรียนการศึกษานอกโรงเรียนและสอบเทียบจนจบชั้นมัธยมปลาย โปดกโน้มน้าวให้ปะวะหล่ำเรียนวิชาที่จะนำความรู้มาพัฒนาสวนส้มได้ แต่ปะวะหล่ำไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายปะวะหล่ำก็เปลี่ยนใจเพราะตระหนักว่าจะต้องรักษาผืนแผ่นดินที่แม่ของเธอสร้างขึ้นมาไว้เป็นอนุสรณ์  ปะวะหล่ำโดยเธอสอบติดที่มัธยมเชียงใหม่ ภาควิชาอุตสาหกรรมอาหาร โปดกภูมิใจที่ปะวะหล่ำเข้าใจความหวังดีของเขา

ปะวะหล่ำโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่เรื่องของความรักของปะวะหล่ำยังเด็กเสมอในสายตาโปดก ศพลยังไม่เลิกราความต้องการจะครอบครองสวนส้ม เขายุคนงานในสวน จนคนงานลาออกเกือบหมด แต่โปดกและทันร่วมแรงร่วมใจจนชนะใจคนงานทั้งหมด

ที่มหาวิทยาลัยปะวะหล่ำได้เพื่อนสนิทรู้ใจคือ วิภาวรรณ และได้รู้จักกับวิภาค พี่ชายของวิภาวรรณ รุ่นพี่ร่วมชมรมเดียวกัน วิภาคหลงรักปะวะหล่ำ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มงอกงาม  ความรักเติบโตไปในทางที่ถูกที่ควร วิภาคพาปะวะหล่ำไปรู้จักกับพ่อแม่ ปะวะหล่ำเข้ากับพ่อแม่วิภาคได้ดี ส่วนโปดกก็เริ่มรู้ว่าปะวะหล่ำเกิดความรักกับคนวัยเดียวกัน โปดกเข้มงวดกับปะวะหล่ำมากขึ้นจนมีปากเสียงกันหลายครั้งเพราะหึงหวงในตัวปะวะหล่ำโดยไม่รู้ตัว แต่โปดกก็พยายามเตือนสติตัวเองและถอยออกมา

ศพลลงทุนทำสถานที่เที่ยวกลางคืน โดยได้นายทุนอย่างตติยะร่วมหุ้นด้วย ศกจะลงเล่นการเมืองต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงขายที่ดินสวนส้ม โปดกจึงแอบส่งคนไปซื้อไว้ ศพลเป็นหนี้ตติยะ เขาเห็นว่าตติยะถูกใจปะวะหล่ำ จึงคิดล้างหนี้ด้วยการขายลูกสาวกิน แต่โปดกมาช่วยได้ทัน ปะวะหล่ำมีวิภาคเยียวยา ส่วนโปดกก็ได้ศศิลดาที่ทำธุรกิจทางเหนือช่วยรักษาแผลใจ ศพลแค้นโปดกที่ขัดขวางทุกสิ่งที่เขาทำ จึงส่งมือปืนมาเก็บโปดก แต่ทันรับเคราะห์แทน ปะวะหล่ำรู้ความจริงว่าศพลคือคนบงการฆ่าแม่ของเธอ เธอเสียใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าพ่อแท้ ๆ ของตนเป็นผู้ทำลายชีวิตเธอ

โปดกจ้างสถาปนิกออกแบบรีสอร์ทในสวนส้มและบ้านหลังใหญ่ เพื่อเป็นเรือนหอให้ปะวะหล่ำและวิภาค วันที่ปะวะหล่ำจบการศึกษาวิภาคขอเธอแต่งงาน ทั้งโปดกและปะวะหล่ำน่าจะมีความสุข แต่ทั้งคู่กลับหม่นหมองเหมือนมีบางสิ่งที่อยู่ในใจยังไม่ถูกปลดปล่อยออกมา วันที่ปะวะหล่ำอายุครบ 20 ปี วิภาคหมั้นปะวะหล่ำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปะวะหล่ำเลือกแหวนเพชรให้โปดกหมั้นศศิลดา โปดกบอกความจริงกับวิภาคเรื่องสถานภาพของเขากับปะวะหล่ำ เพื่อแสดงความจริงใจให้วิภาครับทราบและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้วิภาคฟัง แต่วิภาคกลับรับความจริงนี้ไม่ได้รวมถึงพ่อแม่ของวิภาคก็เช่นกัน ปะวะหล่ำเสียใจ เธอไล่โปดกไปจากชีวิตเธอ ทั้งคู่ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน แม้จะเศร้าแต่โปดกก็ยกทุกอย่างให้ปะวะหล่ำ รวมทั้งเรือนหอซึ่งโปดกตั้งใจสร้างให้ปะวะหล่ำและวิภาคด้วย

ปะวะหล่ำไม่รู้ว่าศศิลดากับโปดกไม่ได้หมั้นกัน โปดกสารภาพว่าเขารักปะวะหล่ำคนเดียว ปะวะหล่ำดูแลรีสอร์ทที่เพิ่งเปิดตัว ทันมาบอกว่ามีลูกค้ามาเช่าเรือนหอ ปะวะหล่ำไปขอเรือนหลังนั้นคืนเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครเช่า แต่ลูกค้าคนนั้นกลับเป็นโปดก โปดกสารภาพกับปะวะหล่ำว่าตลอดเวลา 4 ปี ที่ต้องแบบรับภาระปะวะหล่ำนั้น ในตอนแรกเขายอมรับว่าเขารู้สึกเหมือนเขาตกอยู่ในอเวจี แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยินดีเพราะสิ่งเหล่านี้มันกลายเป็นอเวจีสีชมพูสำหรับเขา

ปะวะหล่ำจะตัดสินใจอย่างไรกับคำสารภาพรักของโปดก วิภาคจะเปลี่ยนใจกลับมารักปะวะหล่ำหรือไม่ ศพลจะได้รับผลกรรมที่ก่อกับชีวิตของถมปัดและปะวะหล่ำอย่างไร ติดตามหาคำตอบ ได้ใน “อเวจีสีชมพู

ภูตพยาบาท

เรื่องราวของ เพชร เด็กสาวตาบอดที่ถูกเลี้ยงมาในโรงเรียนคนตาบอดที่ก่อตั้งโดยกลุ่มมิชชันนารี เนื่องจากมีผู้พบถูกทิ้งอยู่ชายป่าจังหวัดกาญจนบุรีและไม่สามารถติดต่อหาญาติได้ เพชรมีความสามารถทางไวโอลิน  แต่ในขณะเดียวกันเธอก็สามารถได้ยินเสียงร่ำร้องของวิญญาณที่เจ็บปวดทั้งจากคนที่ตายไปแล้ว และคนที่อยู่ในอาการโคม่าที่วิญญาณล่องลอยออกจากร่างในช่วงเวลาอันสั้น เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนที่สามารถมีคลื่นความถี่ของจิตที่ตรงกัน แต่ที่ร้ายที่สุด เธอถูกคุกคามอยู่ตลอดเวลาจากเจ็ดพรายตายโหงที่พยายามติดต่อ ขู่เข็ญ บังคับให้เธอทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ แต่เด็กสาวไม่เข้าใจ จนทำให้วิญญาณเหล่านั้นโกรธและทำร้ายเธอจนเกิดบาดแผลตามลำตัว แต่ผู้คนรอบข้างของเธอไม่รู้ถึงความจริงข้อนี้และคิดว่าเธอเป็นบ้าชอบทำร้ายตัวเองและก็มองเธอเหมือนตัวประหลาด

แต่เพชรถึงแม้จะอยู่ในตมก็ยังเป็นเพชรที่จะฉายแสงเมื่อโอกาสมาถึง ในวันที่อายุครบแปดขวบ เกิดคดีสะเทือนขวัญที่สามีใหม่ของเศรษฐีนีแจ้งความว่าภรรยาหายไป สังคมต่างตระหนกในการหายสาบสูญของเศรษฐีนีคนนี้ สำนักข่าวต่างรายงานความก้าวหน้าของการตามหาร่องรอย แต่เพชรกลับถูกรบกวนจากวิญญาณร้ายของเศรษฐีนีที่พยายามรังควาญเธออย่างไม่หยุดหย่อนจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายเป็นระยะๆ ในวันนั้นเองที่ ณัฐฐา ตำรวจหญิงไปทำบุญที่โรงเรียนคนตาบอดก็ได้เห็นปีศาจทำร้ายเด็กสาว และทั้ง ๆ ที่บาดเจ็บเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย เด็กหญิงกลับบอกว่าคนที่ทำร้ายเธอไม่ใช่ปีศาจ หากแต่เป็นผู้หญิงแก่ที่บังคับให้เธอไปช่วยออกมาจากที่คุมขังในโกดังร้างชานกรุงเพราะเธอใกล้จะตายเต็มทีแล้ว หญิงแก่คนนั้นเรียกตัวเองว่า เจ๊เล้ง ด้วยความตกใจ ตำรวจสาวปะติดปะต่อเรื่องราวของเพชรเข้ากับคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น และเพียรหาตามที่เด็กสาวบอกจนพบเศรษฐีนีในสภาพเพิ่งเสียชีวิตไม่เกินหนึ่งชั่วโมงจากการถูกซ้อมอย่างทารุณ จากพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจสามารถสาวไปจนถึงตัวการที่อยู่เบื้องหลังที่เป็นคนจ้างฆ่าซึ่งก็คือสามีที่ไปแจ้งความนั่นเอง ซึ่งแอบไปมีเมียน้อยและเมียหลวงจับได้จะหย่าจึงฆ่าปิดปากในที่สุด

การเปิดโปงฆาตกรรมรายนี้ทำให้เด็กสาวกลายเป็นคนโด่งดังในชั่วข้ามคืน ผู้คนทั่วสารทิศต่างก็ให้ความสนใจในพลังพิเศษที่มีอยู่ในตัวเด็ก แต่ดร.กษิน นักวิทยาศาสตร์สาขา Parapsychology ได้ยื่นมือเข้ามาเพื่อตรวจดูอาการของเด็กซึ่งเขาเชื่อว่าตามหลักวิทยาศาสตร์ วิญญาณจะมีพลังของคลื่นไฟฟ้าน้อยมากและเรียกว่าคลื่นเคสล่าซึ่งมักจะปล่อยออกมาจากผู้ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันหรือผู้ที่บาดเจ็บสาหัส ซึ่งพยายามต่อสู้เฮือกสุดท้ายเพื่อให้มีชีวิตรอด และพลังนี้ก็เฉกเช่นเดียวกับคลื่นวิทยุที่ผู้ที่สมองมีความละเอียดอ่อนจะสามารถรับคลื่นนี้ได้ ซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักในนามของผู้ที่มีสัมผัสที่หกนั่นเอง และหน้าที่ที่สำคัญของดร.กษินก็คือความพยายามจะช่วยเพชรให้รอดพ้นจากการรบกวนของวิญญาณร้ายทั้งเจ็ดที่คุกคามและทำร้ายเธอ

แต่ในขณะที่การรักษาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น สังคมก็ต้องตกตะลึงเมื่อคุณราชันย์ ทนายความผู้ดูแลกองมรดกเลือดของตระกูลอภิไพศาล เจ้าของธุรกิจหลายร้อยล้านไม่ว่าจะเป็นตลาด กิจการขนส่ง และห้องเย็น กลับขออำนาจศาลเพื่อตรวจสอบเพชรว่าเธอจะเป็นน้องขวัญ ลูกสาวของนายอำนาจ ลูกชายคนที่สามของตระกูลอภิไพศาลและนาง ยศวดี ภรรยาที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยหรือไม่ ซึ่งทายาททั้งหลายของตระกูลอภิไพศาลต่างกำลังยื้อแย่งมรดกกองโตนี้ทั้งทางกฎหมายและนอกกฎหมาย ในขณะเดียวกัน ผู้ที่มีสิทธิ์ในกองมรดกนี้ต่างล้มหายตายจากกันไปไม่ว่าจะด้วยเหตุตามธรรมชาติหรืออุบัติเหตุ รวมทั้งการฆาตกรรมที่ไม่อาจจับตัวผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษได้จนเป็นข่าวครึกโครมมาตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา และด้วยการตรวจสอบดีเอ็นเอจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพชรก็คือเด็กสาวที่สูญหายไปคนนั้น

ทางผ่านกามเทพ

ไตรภพ ทราบข่าวว่านายอรรณพ บิดาตนกำลังจะแต่งงานใหม่กับสาวสวยคราวลูกชื่อพิมลภา ทั้ง ๆ ที่แม่เลี้ยงที่รักของเขากำลังป่วยหนัก ไตรภพจึงบินกลับมาเมืองไทยด้วยความโกรธแค้น ไตรภพได้รู้จักกับอาทร แฟนเก่าของพิมลภาที่กำลังเสียใจที่พิมลภาเลือกที่จะแต่งงานกับเศรษฐีอย่าง อรรณพ อาทรพยายามติดต่อพิมลภา ผ่านภัทรลดา น้องสาวของพิมลภา แต่ไม่สำเร็จ ไตรภพเกลียดชังพิมลภาทั้งที่ยังไม่เคยพอหน้า

วันงานแต่งงาน ไตรภพสวมรอยเป็นอาทร เขียนจดหมายนัดให้พิมลภามาพบ พิมลภาไม่พอใจ และให้น้องสาว ภัทรลดาไปแทน ไตรภพเข้าใจผิดว่าภัทรลดาเป็นพิมลภา จึงจับตัวภัทรลดาไป เพื่อหวังจะทำลายพิธีแต่งงานของพ่อ

ไตรภพขังภัทร ลดาไว้ที่บ้านพักริมทะเล และกลั่นแกล้งทรมานต่าง ๆ นาๆ ทางบ้านภัทรลดาต่างเป็นห่วง แต่พิมลภากลับไม่ยอมพูดถึงจดหมายนัดแนะ และไม่ยอมแจ้งความให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วตัวเองก็ไปฮันนีมูนกับอรรณพ โดยไม่สนใจว่าน้องสาวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ทางฝ่ายภัทรลดาวางแผน หนี โดยใส่สลอทในอาหารของไตรภพ แต่พอเอาเข้าใจกลับสงสารไตรภพ และพาไปส่งโรงพยาบาล เป็นเหตุให้ทั้งสองซึ้งน้ำใจกัน ไตรภพจึงตัดสินใจพาภัทรลดากลับบ้าน ขณะเดียวกันไตรภพทราบข่าวอรรณพเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บสาหัส เป็นอัมพาตครึ่งตัว ไตรภพรีบไปเยี่ยมพ่อ จึงรู้ว่าหญิงสาวที่เขาจับมา ไม่ใช่ภรรยาใหม่ของพ่ออย่างที่เข้าใจ

พิมลภาเบื่อหน่ายที่สามี พิการ จึงออกเที่ยวเตร่ และให้ไตรภพดูแลบริษัทแทน ภัทรลดากลับบ้าน และเริ่มต้นทำงาน เพื่อลืมเรื่องที่ผ่านมา อาทรอาสาหางานให้ โดยฝากงานให้ภัทรลดากับบริษัทของไตรภพ ไตรภพดีใจมากที่ได้เจอภัทรลดาอีกครั้ง และได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นน้องสาวของพิมลภา แต่ภัทรลดาทำเป็นไม่สนใจ

ปิ่น มณี แม่ของภัทรลดา ไม่แน่ใจว่าระหว่างที่ภัทรลดาหายตัวไป เกิดอะไรขึ้น จึงคิดจะจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำ จับคู่ให้กับหมวดยงยุทธ ภัทรลดาคุยกับหมวดยงยุทธถูกคอ จึงคบหากันเป็นเพื่อน โดยยงยุทธมีแฟนอยู่แล้วชื่อทาริกา

ยงยุทธ และอาทร ต่างผลัดกันรับส่งกับภัทรลดา ทำให้ไตรภพไม่พอใจ หึงหวงโดยไม่รู้ตัว ฝ่ายอรรณพ เมื่อเห็นพิมลภาไม่สนใจ จึงเริ่มเห็นความดีของเมียเก่ามากขึ้น ฝ่ายพิมลภาพยายามกลับไปหาอาทร แต่อาทรไม่สนใจ พิมลภาจึงดื่มเหล้าเมาตกเป็นเมียของนายคำนึงลูกน้องเก่า นายคำนึงวางแผนถ่ายวิดีโอแบล็กเมย์รีดไถเงินจากพิมลภา พิมลภาไม่มีทางออก จึงขอยืมเงินภัทรลดา ภัทรลดาเป็นห่วงพี่สาว จึงขอยืมเงินไตรภพ แต่เกิดความเข้าใจผิดบางอย่าง ภัทรลดารีบร้อนจึงหยิบเงินจากตู้เซฟไปก่อน

ไตรภพ รู้เรื่องเงินหายไป จึงเข้าใจผิดว่าภัทรลดาตั้งใจยักยอกเงินบริษัท เขาโกรธมาก ไล่ภัทรลดาออกจากงานทันที ภัทรลดาไปทวงเงินกับพิมลภา เธอก็ไม่รับผิดชอบ ไตรภพยื่นข้อเสนอให้ภัทรลดาแต่งงานกับเขาเพื่อใช้หนี้ โดยไม่จดทะเบียนด้วย ภัทรลดาไม่มีทางออกจึงยอมตกลงด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจที่คนรักไม่เข้าใจ

หลัง งานแต่งงาน ไตรภพกับภัทรลดาอยู่กันอย่างไม่มีความสุข เพราะต่างคนต่างมีแผลในใจ พิมลภาขอหย่ากับอรรณพ และได้ทรัพย์สมบัติไปจำนวนมหาศาล นายคำนึงตามมาขอใช้เงินอีก พิมลภาโกรธใช้ปืนยิงนายคำนึง ภัทรลดาและอาทรไปยื่นเรื่องประกันตัว โดยได้รับความช่วยเหลือจากหมวดยงยุทธ

ภัทรลดามัวแต่ยุ่งกับเรื่อง ของพี่สาว จนไม่มีเวลาโทรบอกทางบ้าน เมื่อกลับไปถึง ไตรภพโกรธมาก ด้วยอารมณ์หึงหวง จึงด่าว่าภัทรลดาอย่างรุนแรง เธอเสียใจมาก วิ่งหนีออกจากบ้านจนถูกรถชนเข้าโรงพยาบาล ไตรภพพยายามง้องอนภัทรลดา แต่ภัทรลดาไม่ยอมให้อภัย

พิมลภาพ้นโทษ เพราะคำนึงไม่เอาเรื่อง เธอกลับตัวกลับใจ คิดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยมีอาทรคอยเป็นกำลังใจ พิมลภานำเงิน 5 แสนคืนภัทรลดา สองพี่น้องปรับความเข้าใจกันได้ ภัทรลดานำเงินไปคืนไตรภพ พร้อมขออิสระจากการเป็นเมียบำเรอ ขอจบทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้ ไตรภพเสียใจดื่มเหล้าเมามายจนสุขภาพทรุดโทรม ภัทรลดาเริ่มใจอ่อน และยอมกลับไปเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นที่รักยิ่งของไตรภพอีกครั้ง

นักแสดงละคร ทางผ่านกามเทพ

แอนดริว เกร็กสัน แสดงเป็น ไตรภพ
เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แสดงเป็น ภัทรลดา
สกาวใจ พูลสวัสดิ์ แสดงเป็น พิมลภา
นภัสกร มิตรเอม แสดงเป็น อาทร
มนตรี เจนอักษร แสดงเป็น อรรณพ

ตม

คุณใหญ่เป็นหญิงวัย 61 ปี มีลูกสามคนคือ พิจิกษ์ ( ป้อม ) อายุ 35 ปี พิพัฒน์ ( บี๋ ) อายุ 32 ปี และ อภิสิทธิ ( เบิ้ม ) อายุ 25 ปี คุณใหญ่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางต่อสู้มากับสามีเพื่อทำธุรกิจ แต่สามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น จึงแยกทางกัน คุณใหญ่หอบลูกคนเล็กไปอยู่บ้านเดิม ( ราชบุรี ) ค้าขายผลิตภัณฑ์จากพืชผักผลไม้ และทำสวนอาหาร หาเงินมาเลี้ยงลูกด้วยความขยันขันแข็ง จนไม่มีเวลาดูแลลูกด้วยตัวเอง เธอมอบหมายให้ยายม้อย ชาวบ้านข้างเคียงซึ่งชอบกินเหล้า ดูแลลูกชาย

แต่ การที่เด็กอยู่ใกล้ชิดกับคนที่ขาดความรับผิดชอบ กินเหล้าเมายา มีผลทำให้เขาเห็นสิ่งมันเมาเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา และติดนิสัยเหล่านี้เข้ามาโดยไม่รู้ตัว ประกอบกับที่แม่ไม่มีเวลาเอาใจใส่สั่งสอน เบิ้มจึงเป็นคนก้าวร้าว และเอาแต่ใจตนเอง ชอบการเอาชนะเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้ตนเอง พิจักษ์ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก ส่วนพิพัฒน์ อยู่กับพ่อ ซึ่งจ้างพี่เลี้ยงราคาแพงดูแลจนกลายเป็นคุณหนู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เมื่อสามีตาย พิจักษ์ได้รับมอบหมายให้ดูแลมรดกร่วมกับพิพัฒน์ ส่วนเบิ้มติดยาสร้างปัญหาให้กับตนเองและแม่เป็นอย่างมาก พิจักษ์เติบโตกับพ่อแม่ในช่วยที่ยังไม่มีเงินทองมากมายนัก จึงยังติดดินและรู้จักรับผิดชอบ

การที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ต่าง ประเทศ จึงได้เรียนรู้การช่วยตนเอง เขาไปรับจ้างล้างจาน เสิร์ฟอาหารในยามว่างที่เมืองนอก ปัจจุบันพิจักษ์ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในคอนโด เขาดูแลธุรกิจของพ่อ จนประสบความสำเร็จ พิจักษ์มีความห่วงใยให้กับผู้อื่นสูงและขยันทำงานมากเกินไป จนล้มป่วยเพราะลืมที่จะดูแลตัวเอง พิจักษ์พอใจในตัวอภิญญา เลขาคนใหม่ของเขาเป็นอย่างมาก เพราะเธอมีความฉลาด เข้มแข็งมีจิตใจที่ถูกกล่อมเกลาแล้ว จึงคิดดี คิดเป็น ทำให้เขาเกิดศรัทธา แต่เมื่อพบว่าตนเองเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจึง พยายามตีจากเพราะเกรงว่าจะเป็นภาระแก่คนอื่น และไม่ยอมบอกใครแม้แต่แม่ของตน เกรงว่าจะทำให้ทุกคนเสียใจ

พิจักษ์ส่งอภิญญาไปช่วยงานพิพัฒน์โดย ไม่เห็นแก่ความสบายของตน ทำให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้น สุดท้ายพิจักษ์จึงบอกแม่ถึงเรื่องอาการป่วย แม่กลับไม่ให้เขาเป็นทุกข์กับความตายแต่ให้ใช้ทุกลมหายใจให้เป็นประโยชน์ ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสที่จะได้สร้างความสุข ให้แก่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งป้อมก็ทำเช่นนั้นจนสิ้นชีวิต โดยมีอภิญญาดูแล ปฏิบัติเขาจนวันสุดท้าย พิพัฒน์เกิดมาในช่วงที่พ่อแม่มี เงินแล้ว และกำลังไม่ลงรอยกัน ความทุกข์ของพ่อแม่ที่ขัดแยังกัน ทำให้พิพัฒน์ ซึมซับแรงกระแทกที่พ่อแม่มีต่อกันเขาถูกเลี้ยงด้วยพี่เลี้ยงราคาแพง ที่ปรณนิบัติเขาอย่างเอาอกเอาใจตามหน้าที่ของพี่เลี้ยง พิพัฒน์จึงหยิบโหย่ง ทำอะไรไม่เป็น วัตถุราคาแพงทำให้เขามีความมั่นใจเพราะถูกพ่อเลี้ยงมาด้วยวัตถุ ขาดการพัฒนาทางจิตใจจึงหลงคนง่าย การหลงไหลในวัตถุ มองเห็นคนแต่เปลือกนอก จึงถูกคนเหล่านั้นหลอกใช้ ล้มเหลวในธุรกิจล้มเหลวในชีวิตครอบครัว เพราะความไมีรู้จักเลือก

พิพัฒน์ มีภรรยาชื่อเจนนี่ และมีลูกชายอายุ 5 ขวบ ชื่อมิ๊ก ซึ่งถูกทิ้งให้อยู่กับพี่เลี้ยงเพราะพ่อแม่จมอยู่กับปัญหาของตนจนลืมลูก มิ๊กเริ่มมีนิสัยก้าวร้าว และเอา แต่ ใจตนเอง คุณใหญ่มองเห็นประวัติศาสตร์ ที่กำลังจะซ้ำรอยจากประสบการณ์ของตนเอง เธอจึงเข้าไปช่วยพยุงครอบครัวนี้ไว้ ให้เจนนี่รู้จักหน้าที่ของความเป็นแม่ เป็นภรรยาที่ดี โดยการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น คิดดี คิดเป็น เพื่อจูงใจสามีที่ดื้อดึง และโอหังให้กลับมามีศรัทธาต่อเธอ

คุณใหญ่จำนองบ้านเพื่อช่วยพิพัฒน์ พิสูจน์ความสามารถของตนเองในเชิงธุรกิจ ถึงแม้ใครๆ จะไม่ศรัทธาในตัวเขาแต่เธอก็ยืนยันที่จะเป็นฟูกรองรับความล้มเหลวของลูก ตามหน้าที่ของแม่ เธอช่วยพัฒนาจิตใจของเจนนี่ให้คิดเป็น ก่อนที่จะสายเกินไปในที่สุดพิพัฒน์ก็ละอายต่อความเห็นแก่ตัวของตนเอง และเริ่มฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จนประสบความสำเร็จด้วยความช่วยเหลือของอภิญญา ซึ่งป้อมส่งเข้ามาช่วยงาน ความฉลาดของอภิญญาทำให้ พิพัฒน์ขายสินค้าฟุ่มเฟือยที่เขาสั่งมามากมายจนหมด สามารถคืนเงินให้กับคุณใหญ่ และดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ความที่เบิ้ม ใช้ชีวิตอยู่กับแม่และยายม้อย เขาจึงรู้สึกต่ำต้อยที่ไม่เท่าเทียมพี่ ๆ ไม่เห็นคุณค่าของตนเอง เขาประชดชีวิตด้วยการเสพยา เพื่อเรียกร้องความไม่อิ่มในอารมณ์ กว่าเบิ้มจะหลุดพ้นจากากรเป็นทาสของยาเสพติด ก็เหนื่อยยากไปทั้งครอบครัว แม่เสียเงินทองที่เก็บหอมรอมริบตลอดชีวิตไปเป็นจำนวนมาก เบิ้มพยายามพิสูจน์ตัวเอง และเลิกยาเสพติดได้ในสถานบำบัด การสอนให้คิดและรับผิดชอบ ทำให้เขามุ่งมี่นที่จะทำงานแทนพี่ชาย ที่เสียชีวิต แต่กว่าเบิ้มจะสร้างศรัทธาให้กลับคืนมาได้เขาต้องอดทนต่อการดูถูก และคำนินทร เป็นกรรมที่ต้องชดใช้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอาฆาต เขากลับไปเสพยาอีกครั้งเพราะใจอ่อน แต่ก็สามารถหลุดพ้นออกมาได้ในที่สุด เมื่อเห็นเพื่อน ๆ ที่อยากกลับตัวกลับใจ สมองเสื่อมจนหมดหนทางที่จะแก้ไข

เมื่อทุกคนกลับมาในสภาพปกติ คุณใหญ่ก็กลับมาอยู่ราชบุรี อย่างสมถะ และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เธอได้ทำหน้าที่ของแม่ที่ เธอควรทำตั้งแต่ลูกยังเล็ก แต่เนื่องจากความรู้เธอจึงเห็นว่าไม่สำคัญจนต้องเหนื่อยกับชีวิตในตอนแก่ก็ ยังดีที่เธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์และคิดได้ก่อนที่อีกหลายๆ ชีวิตที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องล่มสลายเพราะความไม่รู้ของเธอเอง

รายชื่อนักแสดงละคร ตม

ภัทราวดี มีชูธน แสดงเป็น คุณใหญ่
ธนากร โปษยานนท์ แสดงเป็น พิพัฒน์
นภัสกร มิตรเอม แสดงเป็น พิจักษ์
สราวุฒิ มาตรทอง แสดงเป็น เบิ้ม
รินลณี ศรีเพ็ญ แสดงเป็น เจนนี่
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ แสดงเป็น อภิญญา
ด.ช.ณชวนนท์ เหาตะวานิช แสดงเป็น มิก