Tag Archives: ธาวิน เยาวพลกุล

เหลี่ยมเพชรกะรัต

เหลี่ยมเพชรกระรัต เป็นเรื่องราวของ กะรัต สาวสวย เปรี้ยว บุคลิกมั่นใจมาก เธอเรียนจบเร็วจึงเริ่มทำงานเร็วตั้งแต่อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ กะรัตรักงานโฆษณา เธออยากเป็นครีเอทีฟที่มีความสามารถ มีชื่อเสียงด้วยความสามารถและฝีมือ แต่เพียงปีแรกกะรัตต้องเปลี่ยนงานถึง 3 ครั้ง เป็นเพราะความสวยบวกกับการแต่งตัวเปรี้ยวอย่างสาวมั่น ทำให้เจ้าของบริษัทที่เป็นผู้ชายเห็นเธอเป็นขนมที่ต้องเขมือบให้ได้ ทั้ง 3 รายส่อแววเฒ่าหัวงูตั้งแต่เริ่มงานไม่นาน สารพัดข้อเสนอที่จะให้เธอทั้งบ้าน รถ และอื่น ๆ

แม้กระทั่งเลื่อนตำแหน่ง แต่กะรัตเป็นผู้หญิงที่รักศักดิ์ศรี รักนวลสงวนตัว ต่างกับการแต่งกายที่มักจะเปรี้ยว และ Sexy จนเหมือนยั่วยวนตลอดเวลา ที่จริงแล้วเธอเกิดเป็นคนสวย และ Sexy มีเสน่ห์ด้วยตัวเอง ถึงแม้เธอจะแต่งตัวเรียบร้อยทว่าเธอก็ยังสวยบาดตาบาดใจ และ Sexy ไม่เปลี่ยน กะรัตเป็นคนเก่งและฉลาด วันนี้เธอกำลัง Present สตอรี่บอร์ดงานโฆษณาสินค้านมเปรี้ยวยี่ห้อหนึ่ง เธอแต่งตัวเรียบเก๋ สวย และ Present งานด้วยความมั่นใจ เธอตั้งใจคิดและอดนอนหลายวัน กว่าจะได้รับงานที่ถูกใจ เมื่อ Present เสร็จ กะรัตก็ไม่ผิดหวังเมื่อลูกค้าพอใจมาก และเซ็นสัญญาให้บริษัทโฆษณาของ เกษม ทำโฆษณาให้ กะรัตเพิ่งมาทำงานที่นี่ไม่กี่สัปดาห์ แต่เกษมก็มั่นใจที่มอบงานชิ้นนี้ให้เธอรับผิดชอบ เธอจึงภูมิใจมาก เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วเกษมเรียกกะรัตไปพบ เขาชื่นชมเธอมาก และบอกว่าคืนนี้เขาจะเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้ ที่ห้องอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งจะมีการร้องคาราโอเกะกันด้วย เขาบอกอีกว่าเขาเลี้ยงเธอและเพื่อนร่วมงานทั้งแผนก กะรัตรีบกลับบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เธอพบ อ้อมขวัญ อยู่บ้านแล้ว กะรัตและอ้อมขวัญเป็นเพื่อนสนิทกัน บิดาและมารดาเสียชีวิตแล้วเหมือนกัน ทั้งคู่เช่าคอนโดหรูกลางเมืองอยู่ด้วยกัน อ้อมขวัญทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของบริษัท เอส เอส โฆษณา เมื่อกะรัตบอกข่าวดี อ้อมขวัญดีใจกับเพื่อนด้วย และเร่งให้ไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อกะรัตแต่งตัวเสร็จออกมาจากห้อง อ้อมขวัญยิ้มให้เพื่อนอย่างชื่นชม กะรัตสวยจริง ๆ รูปร่างสมส่วนอิ่มเอิบ Sexy ยิ่งสวมชุดราตรีสั้นสายเดี่ยวสีชมพูหวานเก๋ ยิ่งทำให้เธอสวยมากขึ้น กะรัตแต่งตัวอย่างมั่นใจเสมอ เธอชอบสไตล์เปรี้ยว เฉี่ยว เท่ห์ ซึ่งเหมาะกับเธอมาก เมื่อถึงห้องอาหารกะรัตแปลกใจที่เห็นเกษมนั่งดื่มอยู่คนเดียว สาวสวยเริ่มหวาดระแวง แต่เท่าที่ทำงานร่วมกันมาร่วมเดือน เกษมไม่มีท่าว่าจะเจ้าชู้หัวงูกับเธอเลย จะอย่างไรก็ตามเธอต้องระวังตัวไว้ก่อน กะรัตถามหาเพื่อน ๆ เกษมมองเธอด้วยแววตากรุ้มกริ่ม จนกะรัตเย็นวาบด้วยความขยะแขยง และพยายามไม่คิดมาก เกษมบอกเธอว่าเพื่อน ๆ ไปหาของขวัญมา เซอร์ไพรส์ เธอ เขาพยายามคะยั้นคะยอให้เธอดื่ม กะรัตจิบเป็นพิธี ตรงข้ามกับเกษมที่ดื่มราวกับน้ำ เวลาผ่านไปนานผิดสังเกต กะรัตเริ่มกระวนกระวายนั่งไม่ติด เกษมเริ่มออกลายเจ้าชู้ เขาเริ่มจากแตะนิดแตะหน่อย กะรัตขยับหนี เกษมไม่ลดละ กะรัตหวังว่าเพื่อนเธอหรือพนักงานสักคนจะโผล่เข้ามาช่วยเธอ เกษมมองกิริยาหวาด ๆ ของกะรัตอย่างช้า ๆ ก่อนจะบอกว่า คืนนี้เป็นคืนพิเศษของเธอกับเขาเท่านั้น ไม่มีเพื่อนหรือพนักงานคนไหนของบริษัทมาเพราะเขาไม่ชวน เกษมมองกะรัตด้วยตาเจ้าชู้ และพยายามลวนลามเธอมากขึ้น กะรัตหลบไปหลบมา เพราะไม่อยากตกงานอีก พยายามเตือนสติเกษม แต่เขาไม่สนใจในเมื่อสาวสวย Sexy อยู่ตรงหน้า แล้วสถานที่ก็เหมาะสำหรับจะจู๋จี๋กันอยู่แล้ว เขารอวันนี้มานาน รอวันที่กะรัตจะไว้ใจเขา เขาชอบเธอและอยากให้เธอเป็นของเขา เกษมก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่นที่มองว่ากะรัตเป็นสาว “รักสนุก” หารู้ไม่ว่าสาวเปรี้ยวอย่างกะรัต รักศักดิ์ศรีและรักนวลสงวนตัวที่สุด เกษมได้ใจที่เห็นกะรัตนิ่ง เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังพยายามอดทนและทนไม่ไหว เมื่อเกษมตรงเข้าปล้ำเธออย่างบ้าคลั่ง กะรัตระวังตัวอยู่แล้วจึงหลบจนเกษมล้มลง เขาไม่เลิกความตั้งใจพยายามปล้ำเธออีก กะรัตจึงหยิบที่เขี่ยบุหรี่อันใหญ่ฟาดศีรษะเขาอย่างแรงจนหัวแตกเลือดอาบหน้า กะรัตตกใจเหมือนกันที่เห็นเลือด แต่เกษมกลับบ้ามากกว่า เขากลับยิ้มและตรงเข้าหาเธออีก แถมบอกว่าถ้ากะรัตชอบแบบซาดิสต์ เขาก็จะสนองอารมณ์เธอให้เต็มที่ แววตาหื่นกามของเกษมทำให้กะรัตสุดจะทน เธอจึงฝากเขาซ้ำอีกรอยจนเกษมนิ่งไป กะรัตอังนิ้วกับจมูกเขาจนแน่ใจว่าเขาไม่ตาย เธอจึงหยิบกระเป๋าสตางค์ของเกษมขึ้นมา อย่างไรเสียเธอต้องได้ค่าจ้างของเธอเดือนนี้ ซึ่งตกลงกันว่าเป็นเงิน 20,000 บาท กะรัตเปิดกระเป๋าและหยิบเงินออกมาหมด เธอนับได้เพียงหมื่นเดียว ขณะที่กะรัตอารมณ์เสียอยู่ที่ไม่ได้เงินเท่าที่ต้องการ เกษมก็รู้สึกตัว เขาโวยวายทันที เมื่อเห็นเธอหยิบเงินจากกระเป๋าเขา เลือดบนศีรษะไหลลงมาอาบหน้า เขากุมหัวอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นเลือดเปื้อนเต็มมือ เกษมโวยวายว่าเธอเป็นขโมย กะรัตไม่อยากมีปัญหาเธอจึงรีบวิ่งออกจากห้องนั้น เธอชนผู้ชายคนหนึ่งจนล้มไปด้วยกัน กะรัตรีบลุกขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เกษมออกมาโวยวายว่า เธอล่อลวงทำร้ายและปล้นทรัพย์ ชายคนนั้นมองกะรัตอย่างลังเล สาวสวย เปรี้ยว และ Sexy เสื้อผ้าสวยยับยุ่ง เงินสด ๆ อยู่ในมือกับภาพของเกษมซึ่งกุมหัวเลือดไหล เขาเลือกที่จะเชื่อเกษม เขาคว้าตัวกะรัตไว้แต่สาวสวยไวกว่า เธอสะบัดหลุดและวิ่งหนีอย่างเร็ว นึกเจ็บใจรองเท้าส้นสูง 4 นิ้วของตัวเองที่ทำให้ไม่คล่องตัวเท่าที่ควร กะรัตหนีสุดชีวิตพลางนึกแค้นเกษมที่เลวที่สุด ลวนลามเธอแล้วยังหาว่าเธอเป็นขโมยอีก กะรัตวิ่งไปถึงลานจอดรถก่อนจะถึงรถเธอ ชายคนนั้นก็วิ่งมาทัน เขารวบเธอไว้ทั้งตัว กะรัตพยายามอธิบายเขาก็ไม่ฟัง กะรัตโมโหจึงกระแทกส้นสูงลงบนเท้าเขาอย่างเต็มแรง จนเขาปล่อยตัวเธอและก้มลงกุมเท้าอย่างเจ็บปวด กะรัตบอกเขาเสียงเข้มว่าเขาเข้าใจผิด เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหาย ทว่าท่าทางเขาจะไม่เชื่อ กะรัตจึงบอกว่าให้เขาเลิกยุ่งกับเธอเสียไม่งั้นเธอจะตะโกนให้คนช่วยว่าเขาลวนลามจะปล้ำเธอ ซึ่งได้ผลเขาตกใจด้วยไม่คิดว่าสาวสวยจะฤทธิ์มากขนาดนี้ กะรัตฉวยโอกาสวิ่งหนีไปที่รถ และขับกลับคอนโดอย่างโมโหสุด ๆ ทั้งโมโหและไม่รู้จะโทษใครดีที่เธอต้องตกงานเพราะปัญหาซ้ำซากเดิม ๆ อย่างนี้ ทำไมคนเราประเมินคนจากการแต่งตัว แต่ไม่ดูความสามารถ กะรัตกลับเข้าห้องอย่างเหนื่อยสุด ๆ อ้อมขวัญซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ตกใจที่เห็นสภาพเพื่อนรัก กะรัตเสื้อผ้ายับยุ่ง ผมสลวยที่เกล้าและติดกิ๊ฟเพชรหลุดลุ่ย กะรัตเดินโผเผมานั่งอย่างเซ็ง ๆ อ้อมขวัญรีบรินน้ำเย็นให้เพื่อนดื่ม เธอรอโดยไม่ถามเพราะรู้ว่าเดี๋ยวเพื่อนก็เล่าเอง ซึ่งก็จริงตามนั้น กะรัตเล่าด้วยท่าทางเซ็ง ๆ ที่โมโหที่สุดคือ เธอยังได้เงินเดือนไม่ครบ เธอเจ็บใจพลเมืองดีจอมยุ่งที่เข้ามาขัดขวางทำให้เธอต้องหนีเกษมจนเหนื่อย อ้อมขวัญซึ่งเป็นสาวหวานเรียบร้อยตกใจมาก เธอกลัวว่าเกษมจะแจ้งตำรวจมาจับกะรัต เพราะไปทำร้ายเขา แต่กะรัตไม่กลัว ในเมื่อเธอเป็นคนถูกทำร้าย เธอมั่นใจว่าเกษมไม่กล้าแลกชื่อเสียงของเขากับเธอแน่นอน กะรัตเข้าห้องนอน เริ่มเหนื่อยและท้อกับชีวิตตัวเองที่ต้องหางานใหม่อีกแล้ว เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้า ดำรงอาของเธอไม่โกงฮุบกิจการโรงงานทอผ้า และผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งต่างประเทศ ซึ่งพ่อของเธอกับอาลงทุนร่วมกัน กะรัตจำได้ว่าพ่อเอาบ้านไปจำนองและกู้เงินมาลงทุนหลายสิบล้าน แต่เมื่อพ่อตาย อาดำรงกลับบอกว่าโรงงานขาดทุนอาจถึงต้องขาย เงินลงทุนของพ่อเธอนั้นหมดไปกับการใช้หนี้แล้ว เธอไม่ได้เป็นหุ้นส่วนต่อจากพ่อแทนการรับสภาพหนี้หลายล้านก็น่าจะดีแล้ว แม่ของเธอตรอมใจกับเรื่องนี้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา กะรัตแค้นใจมาก เธอยังโชคดีที่บิดานำเงินเข้าบัญชีให้เธอไว้ก้อนใหญ่พอสมควร มากพอที่เธอจะเรียนจบ และเหลือพอที่กะรัตจะใช้ชีวิตสบาย ๆ ถ้าไม่ฟุ้งเฟ้อเกินไป ประสบการณ์ชีวิตทำให้กะรัตไม่ประมาท เธอเก็บเงินไว้และถอนมาใช้แต่ที่จำเป็น เธอเรียนจบและรีบหางานทำทันที เธอรักงานโฆษณา รักงานครีเอทีฟ และจะไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาเด็ดขาด ส่วนที่บ้าน “จตุทยา” เรืองรอง ภรรยาม่ายของ สมศักดิ์ เจ้าของบริษัท เอส เอส โฆษณา นั่งรอ ชัย ลูกชายคนเล็กอย่างเป็นห่วง เรืองรองแต่งงานกับสมศักดิ์หลังจากภรรยาเขาตายแล้ว สมศักดิ์มีลูกติด 1 คน ชื่อ นิพนธ์ ตอนแต่งงานกัน นิพนธ์ อายุเพียง 3 ขวบ เรืองรองเลี้ยงนิพนธ์เหมือนลูกแท้ ๆ จึงไม่มีปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แต่สมศักดิ์ทั้งรักและสงสารนิพนธ์ที่กำพร้าแม่ จึงตามใจจนนิพนธ์เสียนิสัย เขาเอาแต่ใจ ขี้เกียจเรียนและค่อนข้างเกเรเพราะพ่อตามใจ อีกไม่นานเรืองรองก็ท้อง เธอคลอดลูกเป็นผู้ชาย ก็คือ “ชัย” นั่นเอง เรืองรองเห็นโทษของการเลี้ยงลูกอย่างตามใจจากนิพนธ์ เธอจึงเลี้ยงชัยอีกแบบหนึ่ง ไม่ตามใจ แต่ไม่กดดัน บีบบังคับ ชัยจึงเป็นชายหนุ่มที่มีความรับผิดชอบ มีความคิด เขาจบปริญญาตรีและไปเรียนต่างประเทศ 4 ปี ชัยไม่กลับบ้านเลย ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด ชัยเรียน 4 ปี แต่ได้ปริญญา 2 ใบ เขาเรียนทั้งตรี และโทในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ชัยกลับมาแล้ว เรืองรองหวังว่าลูกชายคนนี้จะช่วยบริหาร บริษัท เอส เอส โฆษณาของสมศักดิ์ให้รุ่งเรืองต่อไป เธอรู้ว่าสมศักดิ์สามีนั้นรักบริษัทนี้มาก เขาทุ่มเททำงานจนบริษัทเติบโตมีชื่อเสียงก่อนจะเสียชีวิต เขาก็ยังสั่งให้ลูกและเรืองรองดูแลบริษัทต่อไป แต่เมื่อสมศักดิ์ตายไป นิพนธ์กลับไม่สนใจทำงาน เขาจะเข้าบริษัทก็เพื่อเซ็นเอกสารสำคัญกับเบิกเงินค่ารับรองลูกค้าเท่านั้น เรืองรองเองก็ไม่ถนัดงานด้านนี้ จึงได้แต่ฝากการบริหารไว้กับคนเก่าแก่ลูกน้องสมศักดิ์ ซึ่งบริษัทก็ทำกำไรได้แต่ไม่รุ่งเรืองเหมือนสมัยสมศักดิ์ยังอยู่ เรืองรองอดคิดไม่ได้ว่าถ้านิพนธ์สนใจกิจการของครอบครัวบ้างคงจะดี เรืองรองรอไม่นานชัยก็กลับเข้ามา เขาเดินเขยกอย่างเห็นได้ชัด เรืองรองอดถามไม่ได้ว่าเขาเป็นอะไร ชัยจึงเล่าเรื่องที่เขาเป็นพลเมืองดีพยายามจับแม่เสือสาวที่ตีหัวเหยื่อและขโมยเงินไป เขาจับเธอได้แล้ว แต่เธอเจ้าเล่ห์กระทืบเท้าเขาอย่างแรง รองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ดของเจ้าหล่อนทำให้เท้าเขาเจ็บน่าดู เรืองรองตกใจมากและเตือนให้เขาระวังตัว กรุงเทพเดี๋ยวนี้น่ากลัวมาก ชัยหัวเราะอย่างไม่คิดอะไรประสาคนหนุ่ม เขาบอกมารดาว่าเขาจะเข้าไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งพนักงานส่งเอกสาร ซึ่งเป็นตำแหน่งต่ำสุด เขาอธิบายว่าเขาอยากรู้จักคนและงาน การเริ่มต้นจากตำแหน่งต่ำ ๆ จะทำให้เขารู้จักพนักงานทุกคนดีกว่าจะเริ่มต้นที่ “คุณชัย จตุทยา” รองประธานบริษัท เรืองรองแม้จะงงกับความคิดลูกชาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า “การรู้จักคน” นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะคนในบริษัทของครอบครัว ส่วนนิพนธ์เมื่อรู้ความคิดของน้องชาย เขาคิดว่าน้องชายเพี้ยน งานตำแหน่งนั้นทั้งเหนื่อยและถูกใช้ราวกับคนรับใช้ แต่ชัยไม่เดือดร้อน ยังยืนยันตามเดิม แถมยังขอร้องทั้งมารดาและพี่ชายว่าถ้าพบเขาที่บริษัทก็ห้ามทักเด็ดขาด เขากลัวว่าแผนจะแตก วันรุ่งขึ้น กะรัตแต่งตัวเตรียมสมัครงานอีกครั้ง เธอได้ยินอ้อมขวัญพูดโทรศัพท์แว่ว ๆ ก็พอเดาได้ว่า อ้อมขวัญมีนัดกับ วีรเดช อีกแล้ว ซึ่งกะรัตไม่พอใจมากเพราะวีรเดชแต่งงานแล้ว ในแวดวงไฮโซ วีรเดชกับ พจนีย์ ภรรยาเป็นคู่สามี – ภรรยาตัวอย่างที่ถึงแม้จะแต่งงานกันมานาน 12 ปี แม้ไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งคู่ก็ยังสวีทหวานแหววต่อกันเสมอ คำสัมภาษณ์ลงแมกกาซีนผู้หญิงเล่มดัง วีรเดชพูดชัดว่าเขารักภรรยาของเขามาก ถึงจะมีข่าวเขากับผู้หญิงอื่น แต่เขาพูดได้เต็มปากว่าเขาภูมิใจภรรยาของเขามาก ซึ่งเขาเปรียบเป็นเพชรแท้ในชีวิต ผู้หญิงอื่นเป็นแค่ทางผ่าน กะรัตอ่านเจอแค้นจนแสนแค้นแทนเพื่อน แต่ซื้อหนังสือมาให้อ้อมขวัญอ่านไม่ทัน กะรัตอ่านหนังสือที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง เมื่อกลับไปอีกหนังสือเล่มนั้นก็ไม่อยู่แล้ว เธออยากให้อ้อมขวัญรู้ว่าวีรเดชเป็นอย่างไร อ้อมขวัญรักวีรเดชมาก เธอพบเขาโดยบังเอิญเพราะเธอไปติดต่องานที่บริษัทแมกกาซีนแฟชั่นของวีรเดชในวันหนึ่ง ด้วยความเพลียและเหนื่อยอ้อมขวัญจึงเป็นลม ก่อนที่เธอจะล้มลง วีรเดชเข้ามาพบพอดี เขาอุ้มเธอไปที่ห้องรับรองลูกค้าโดยมีพนักงานหญิงตามไปด้วย วีรเดชดูแลเธออย่างดีและเป็นสุภาพบุรุษทำให้อ้อมขวัญประทับใจเขามาก แม้อายุจะต่างกันเกือบยี่สิบปี แต่อ้อมขวัญก็ไม่สนใจ ขอเพียงเธอได้รักเขา ไปกินข้าวและเที่ยวกับเขาบ้างเธอก็พอใจแล้ว วีรเดชเองก็พอใจอ้อมขวัญเช่นกัน เธอสวย หวาน เรียบร้อย บอบบางน่าทะนุถนอม วีรเดชจึงไม่เคยล่วงเกินเธอมากไปกว่ากอดหรือหอมแก้มเนียนใสเบา ๆ เท่านั้น กะรัตถามเพื่อนรักตรง ๆ ว่า มีอะไรเกินเลยกับวีรเดชหรือไม่ เธอไม่อยากให้อ้อมขวัญต้องทำผิดมากไปกว่านี้ ถึงแม้ไม่มีอะไรกัน แต่ก็ต้องถือว่าผิดศีลธรรมอยู่ดี อ้อมขวัญเองก็รู้ตัว แต่ก็ห้ามใจไม่ได้สักที กะรัตได้แต่เตือนเพื่อนอย่างเป็นห่วงก่อนออกไปสมัครงาน จนใกล้เที่ยงกะรัตเดินออกจากบริษัทโฆษณาที่ไปสมัครงานอย่างเพลีย ๆ เธอไปมาหลายแห่งแล้วทุกแห่งบอกให้รอเรียกสัมภาษณ์ทั้งนั้น ระหว่างเดินอยู่บนทางเท้า เธอได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วยว่าถูกวิ่งราวกระเป๋า กะรัตหันไปดูก็เห็นผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งโบกมือร้องให้ช่วย ขณะเดียวกันเธอก็เห็นชายวัยรุ่นผอม ๆ วิ่งผ่านหน้าเธออย่างเร็ว กะรัตวิ่งตามทันที เธอเคยเป็นนักวิ่งแข่งของโรงเรียนมาก่อนระดับแชมป์เลยทีเดียว เธอวิ่งกวดคนร้ายไม่ลดละ รองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ทำให้เธอวิ่งไม่ถนัด กะรัตวิ่งพลางสลัดรองเท้าทิ้งอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งทันคนร้ายจนได้ คนร้ายเมื่อจวนตัวก็โยนกระเป๋าถือของเหยื่อใส่หน้ากะรัตเพื่อหนีต่อ แต่กะรัตหลบทัน เธอก้าวไปหามันอย่างลืมตัว คนร้ายชักมีดคัตเตอร์อันใหญ่ขึ้นมาทันที กะรัตยกแขนขึ้นป้องกันใบหน้าตามสัญชาตญาณ คมมีดคัตเตอร์กรีดลงบนแขนเธอเป็นแผลลึกและยาว ก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายกว่านี้ ก็มีพลเมืองดีซึ่งเป็นผู้ชายตามมาช่วยจับคนร้ายไว้ทัน กะรัตหยิบกระเป๋าถือหรูราคาแพงส่งให้เจ้าของ ซึ่งอุตส่าห์วิ่งกระหืดกระหอบตามมา กะรัตอดนึกชมไม่ได้ที่สตรีผู้นั้นดูดี แต่งตัวงามสมวัย เมื่อส่งกระเป๋าคืนให้เจ้าของแล้ว กะรัตทำท่าจะไปแต่เรืองรองหรือเจ้าของกระเป๋าท้วงว่าเลือดที่แขนไหลมาก กะรัตมองแขนตัวเองเห็นเลือดไหลอาบแขนก็ชักตกใจเหมือนกัน เธอจึงยอมให้เรืองรองพาไปโรงพยาบาล หมอต้องพาเธอไปเย็บแผลเพราะแผลยาวและลึกอย่างน่ากลัว ระหว่างเรืองรองรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เธอโทรตามชัย แต่เขาอยู่ไกลมากจึงติดต่อนิพนธ์มาดูแลมารดาแทน เมื่อพบกันนิพนธ์กอดเรืองรองอย่างห่วงใย จะอย่างไรผู้หญิงที่เป็นแม่เลี้ยงคนนี้ก็ดูแลเขามาอย่างลูก เมื่อรู้เรื่องจากเรืองรอง นิพนธ์เสนอให้เงินกะรัตก้อนหนึ่งเพื่อเป็นรางวัล แต่เมื่อเห็นกะรัตสาวสวยผู้ช่วยเหลือมารดา นิพนธ์มองอย่างตะลึงและไม่เชื่อว่า สาวสวยสูงเพรียวแต่งตัวเปรี้ยวคนนี้คือคนที่ช่วยเหลือมารดา เรืองรองขอไปส่งหญิงสาวที่บ้าน แต่กะรัตปฏิเสธบอกว่าเพื่อนมารับแล้ว เมื่อเธอขอตอบแทนกะรัตที่ช่วยเหลือเธอ กะรัตปฏิเสธอย่างน่ารัก เธอตอบว่าเธอช่วยโดยไม่หวังอะไรตอบแทน โดยนิสัยแล้วเธอไม่ชอบพวกเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้ว นิพนธ์พยายามยื่นข้อเสนอเพราะอยากคุยกับสาวสวย แต่อ้อมขวัญมาพอดี อ้อมขวัญแปลกใจที่เห็นกะรัตยืนคุยกับเรืองรอง ประธานบริษัท และ นิพนธ์ ลูกชายซึ่งเป็นผู้บริหารคนสำคัญ เอื้อมขวัญทำความเคารพทั้งสองคนอย่างเรียบร้อย เรืองรองถามชื่อพลเมืองดีคนสวย กะรัตบอกอย่างเรียบร้อย นิพนธ์มองตามอย่างเสียดาย เมื่อกลับบ้านเรืองรองเล่าให้ชัยฟัง ขณะที่นิพนธ์บอกแต่ว่า กะรัตสวย และเก่งมาก ชัยฟังเรื่องกะรัตอย่างไม่สนใจ เขาห่วงมารดามากกว่า ชัยบอกว่าทรัพย์สินไม่ต้องเสียดาย เขาเป็นห่วงมารดามากกว่า แต่เรืองรองบอกว่าในกระเป๋ามีเข็มกลัดเพชรซึ่งสมศักดิ์ให้เธอไว้ ซึ่งเป็นของมีค่าต่อจิตใจของเธอมาก เรืองรองพูดถึงความดีของกะรัตอีกหลายคำ และพยายามหาทางตอบแทนเธอ ชัยจึงแนะให้เรืองรองถามเพื่อนกะรัตที่ทำงานที่บริษัทดูแล้วกัน วันรุ่งขึ้น เรืองรองจึงไปบริษัทและเรียกอ้อมขวัญมาคุย เมื่อรู้ว่ากะรัตกำลังหางานทำและเธอต้องตกงานเพราะอะไร เรืองรองสงสารมาก เธอให้กะรัตมาสมัครงานที่บริษัท เอส เอส โฆษณาทันที ด้วยความเห็นชอบอย่างเต็มที่ของนิพนธ์ อ้อมขวัญมาบอกกะรัตอย่างดีใจ กะรัตเองก็ดีใจเช่นกัน แต่ก่อนเริ่มงานใหม่ เธอไปทวงเงินที่เหลือจากเกษม จึงรู้ว่าเกษมพูดถึงเธออย่างเสียหาย กะรัตโมโหจึงอาละวาด และว่าเขาเจ็บ ๆ ต่อหน้าลูกค้า เมื่อกะรัตทวงเงิน เกษมจึงยอมจ่ายแต่โดยดี เพราะท่าทางของกะรัตนั้นพูดจริงทำจริงแน่ กะรัตรับเงินที่เหลือมาอย่างสะใจ เธอออกจากห้องเกษมและออกมาประกาศกับพนักงานโดยเฉพาะผู้หญิงว่า ให้ระวังเกษมซึ่งเป็นคนเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ และหัวงูให้ดีแล้วกัน เสียงของกะรัตดังเข้าไปถึงหูเกษม เขาโกรธจนหน้าแดงแต่ไม่กล้าโวยวายเพราะเขาผิดจริง ต้นเดือน กะรัตมาทำงานที่ เอส เอส โฆษณา เธอพบชัยซึ่งมาในมาดของพนักงานส่งเอกสาร ทั้งคู่จำกันได้ดี กะรัตอธิบายชัยอีกครั้ง แต่สายตาเขาดูไม่เชื่อ กะรัตไม่ว่าอะไร เมื่อถึงบริษัททั้งคู่ต้องอึ้งเมื่อพบว่าทำงานที่เดียวกัน ในออฟฟิศฝ่ายโฆษณา มี โชติ ที่ดูจะเป็นมิตรกับกะรัต ส่วน พิทักษ์ กับ รัชนี นั้นดูไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะรัชนีที่ประกาศความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ในบริษัทพิทักษ์กับ รัชนี วางมาดราวกับเจ้าของ จนชัยนึกตำหนินิพนธ์ว่าควรเข้ามาดูบ้าง รัชนีวางอำนาจข่มกะรัตกับชัยจนน่าเกลียด แต่ทั้งคู่ไม่สนใจ เวลาผ่านไปชัยได้รู้ว่ากะรัตเป็นผู้หญิงน่ารัก จริงใจ และน่าคบ กะรัตไม่ถือตัว ไม่แบ่งชนชั้น เธอนับถือคนที่นิสัยใจคอ ไม่ใช่เปลือกนอก ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น นิพนธ์ทำยุ่งเมื่อส่งดอกไม้มาให้กะรัต รัชนีหึงจนตาลาย เพราะนิพนธ์กับเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน และทุกครั้งเขาบอกว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ แต่มาวันนี้นิพนธ์ดูจะสนใจกะรัตมากไป รัชนียิ่งหาเรื่องกะรัตมากขึ้นทุกวัน วันหนึ่งพิทักษ์บอกว่าบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่กำลังเปลี่ยนแคมเปญโฆษณา และพิทักษ์อยากให้บริษัทได้งานนี้ รัชนีเจ้าเล่ห์วางแผนชวนกะรัตไปเจรจากับ พิชิต ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณาด้วยกัน กะรัตไปเพราะงาน ในห้องอาหารญี่ปุ่น กะรัตถูกบีบให้นั่งคู่พิชิตโดยพิทักษ์กับรัชนีอยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งคู่รู้ดีว่าพิชิตชอบดื่มและชอบผู้หญิง พิชิตเองเมื่อเห็นกะรัตก็ถูกใจ พอเริ่มเมาก็เริ่มลวนลามจนกะรัตโมโห พิทักษ์และรัชนีไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเธอเลย ความอดทนของกะรัตสิ้นสุดเมื่อพิชิตบอกว่าเขาจะเสนอเรื่องให้ประธานบริษัทคือ คุณยุทธ์ ทันที ถ้ากะรัตยอมไปกับเขาและอยู่กับเขาตลอดคืน กะรัตยกแก้วเหล้าสาดหน้าพิชิต และหนีกลับทันที เธอหวั่นใจว่าอาจตกงานอีกครั้ง ส่วนอ้อมขวัญถูกพจนีย์ภรรยาวีรเดชตามระราน ตบหน้าประจานถึงบริษัท เธอทั้งเจ็บทั้งอาย ดีว่า อนุชา น้องวีรเดช คอยช่วยทุกครั้ง อนุชาเป็นเพื่อนกับชัย เขาสงสารอ้อมขวัญเพราะรู้ฤทธิ์พจนีย์ดี กะรัตกัดฟันทำงานต่อไปเพราะชัยให้กำลังใจ นิพนธ์ยังตามส่งดอกไม้ไม่เลิก จนกะรัตเบื่อเต็มที เธอไม่ชอบทะเลาะกับใคร รัชนีให้พิทักษ์บีบให้กะรัตลาออก โดยยื่นคำขาดให้เธอติดต่อขอโทษพิชิต เพื่อทำสัญญาโฆษณากับบริษัทของยุทธ์ให้ได้ภายใน 1 เดือน กะรัตยอมอดทนไปติดต่อ จนพิชิตยอมพบ เขานัดเธอคนเดียวที่ห้องอาหารเดิม กะรัตไม่วางใจนัก เธอเล่าให้ชัยฟังอย่างอดไม่ได้ วันต่อมา กะรัตไม่สบายใจจึงไปก่อนเวลา เธอแวะพักใจ พักสมองที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ระหว่างเดินเล่น เธอเห็นเด็กวัยรุ่นวิ่งไล่กัน และชนชายแก่คนหนึ่งตกน้ำ กะรัตรีบลงไปช่วยลุงคนนั้นทันที อะไรบางอย่างทำให้เธอเล่าให้ชายชราซึ่งบอกว่าชื่อยุทธ์ฟังเรื่องงาน ลุงยุทธ์ฟังอย่างสนใจ ก่อนแยกจากกันกะรัตให้เงินแกกลับบ้าน 100 บาทอย่างหวังดี แล้วก็ถึงวันนัดกับพิชิต กะรัตแต่งตัวเรียบร้อยเป็นพิเศษ เธอแวะสวนสาธารณะตามเคย และพบลุงยุทธ์อีก ยุทธ์คืนเงินให้เธอ ธนบัตรถูกพับอย่างเรียบร้อย แต่กะรัตไม่รับ เธอขอให้แกเอาใจช่วยให้เธอทำงานสำเร็จ เมื่อพบพิชิต แม้กะรัตจะระวังตัวอย่างดี เธอก็พลาดจนได้ พิชิตแอบวางยาเธอ กะรัตหลับไม่รู้เรื่อง พิชิตประคองเธอไปอย่างกระหยิ่มใจ เขากะจะแก้แค้นกะรัตให้เจ็บแสบ พอพิชิตประคองกะรัตถึงรถ ชัยเข้ามาช่วยเธอพอดี ชัยกับพิชิตต่อยกัน พิชิตสู้ไม่ได้ ชัยจึงพากะรัตไปทาวน์เฮ้าส์ของเพื่อนและเฝ้าเธอทั้งคืน จนใกล้เช้ากะรัตจึงรู้ตัว เธอขอบคุณชัย และกินอาหารกับเขา ชัยทอดเบค่อน ไข่ดาว ปิ้งขนมปังอย่างคล่องแคล่ว เมื่อกะรัตถามเขาก็บอกว่าอยากเก่ง อยากหรูบ้าง ระหว่างกินข้าวกะรัตแนะให้ชัยเรียนต่อ และถ้ามีโอกาสเธอจะสนับสนุนเขาเอง ชัยยิ่งประทับใจเธอมากขึ้น เวลาผ่านไป ชัยและกะรัตสนิทกันมาก ชัยดีใจที่กะรัตไม่รักนิพนธ์ วันหนึ่งกะรัตพาชัยไปพบยุทธ์และพาไปกินข้าว กะรัตเล่าเรื่องพิชิตให้ยุทธ์ฟัง ซึ่งยุทธ์ฟังอย่างสนใจ ส่วนชัยกับยุทธ์มองตากันเหมือนรู้ว่าต่างก็มีความลับต่อกัน ในเย็นวันต่อมาชัยแอบมาพบยุทธ์ ทั้งคู่คุยกันอย่างเปิดอก จึงรู้สถานะที่แท้จริงของกันและกัน ชัยดีใจมากที่รู้ว่ายุทธ์คือประธานบริษัทเบียร์ กะรัตถูกบีบให้ทำสัญญาให้ได้ ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะไม่บอกกะรัต ส่วนอ้อมขวัญตัดสินใจบอกเลิกกับวีรเดช แต่วีรเดชไม่ยอมขอนัดอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกะรัตรู้เธอไม่ยอมให้อ้อมขวัญไป เธอจะไปเอง เมื่อถึงเวลานัดชัยขอไปเป็นเพื่อนด้วย กะรัตพูดรุนแรงกับวีรเดชมากจนตัดสินใจกลับ ส่วนชัยรออยู่ข้างนอกเขาเห็นพจนีย์คอยหน้าร้านอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ น่าสงสัย เมื่อกะรัตออกมาชัยจึงประกบทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่พจนีย์สาดน้ำกรดใส่กะรัตเพราะเข้าใจว่าเป็นอ้อมขวัญ ชัยกระชากกะรัตหลบอย่างเฉียดฉิว น้ำกรดไม่โดนหน้าแต่แรงสาดน้ำกรดทำให้แขนกะรัตและชัยโดยพิษของมันเต็มที่ วีรเดชตกใจมากรีบพาทั้งคู่ไปโรงพยาบาล กะรัตเจ็บมากกว่า ส่วนชัยทำแผลแล้วก็ไปนั่งเฝ้ากะรัต อ้อมขวัญรู้เรื่องรีบตามมาโรงพยาบาล เธอพบวีรเดชและรู้ว่าลึก ๆ ในใจแล้ว วีรเดชรักพจนีย์มากกว่าเธอ เมื่อเขาขอให้อ้อมขวัญขอร้องกะรัตไม่ให้แจ้งความเพื่อเห็นแก่พจนีย์และชื่อเสียงของเขา อ้อมขวัญเจ็บใจและตาสว่าง เธอกลับไปบอกให้กะรัตและชัยแจ้งความ แต่กะรัตกลับใช้มาเป็นเครื่องต่อรองกับวีรเดชให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับอ้อมขวัญ วันต่อมา เมื่อกะรัตมาทำงานก็โดนพิทักษ์ซึ่งเป็นคู่ขาเก่าของรัชนี และรัชนีบีบเรื่องสัญญาอีก พอดีว่าวันนั้นยุทธ์มาบริษัทมาในแบบธรรมดา ซึ่งแกถูกรัชนีชนจนล้มบาดเจ็บ และไล่แกอย่างรังเกียจ แต่ชัยกับกะรัตออกมารับพอดี รัชนียิ่งไม่พอใจเพิ่มขึ้น กะรัตพา 2 หนุ่มต่างวัยไปกินข้าว เมื่อส่งยุทธ์แล้ว ชัยพยายามบอกเป็นนัยว่าเขาชอบกะรัต ซึ่งเธอมีท่าว่าไม่รังเกียจ ขณะที่ทุกคนวุ่นวายกัน จึงไม่รู้ว่าพิทักษ์แอบยักยอกเงินบริษัทไปมากมาย จนชัยเห็นรัชนีทะเลาะกับพิทักษ์ เขาจึงสังเกตมากเป็นพิเศษ ก่อนสิ้นเดือนรัชนีข่มขู่กะรัตอีกเรื่องสัญญาบริษัทเบียร์ กะรัตไม่สนใจ จนถึงวันสุดท้าย ระหว่างกะรัตค่อย ๆ เก็บของเพราะคิดว่าคงต้องออกจากงานอีกแล้ว ยุทธ์ก็เข้ามาคราวนี้เขาแต่งตัวสมภาคภูมิ รัชนีไล่ตามเคย ยุทธ์ตรงไปหากะรัตและพูดชัดเจนว่าจะมาจ้างบริษัท เอส เอส โฆษณาทำโฆษณา รัชนีช็อค แต่ยังปากดีดูถูกแกอีก กะรัตเริ่มโมโห ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย พิชิตวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบพร้อมกระเป๋าเอกสาร รัชนีและพิทักษ์แทบช็อคเมื่อพิชิตขอโทษยุทธ์และถูกตำหนิต่อหน้าคนอื่น พิชิตบอกว่ายุทธ์คือประธานบริษัทเบียร์ที่พิทักษ์และรัชนีบีบกะรัตหนักหนานั่นเอง ยุทธ์ระบุให้กะรัตรับผิดชอบงานนี้คนเดียว รัชนีเสียหน้ามากเธอง้อนิพนธ์ แต่นิพนธ์ปฏิเสธ รัชนีจึงหันมาหาพิทักษ์ พิทักษ์จำยอมรับส่ง เพราะรัชนีรู้ความลับของเขา ทั้งคู่ไม่รู้ว่าชัยก็รู้เช่นกัน แล้ววันหนึ่ง ทุกคนในบริษัทตกใจกันหมดทุกคน เมื่อเรืองรองและชัยในมาดของ ชัย ลูกชายของเรืองรอง และตำรวจมาจับพิทักษ์และรัชนีข้อหาฉ้อโกง ความจริงของชัยทำให้กะรัตโกรธ ยิ่งก่อนหน้านี้ รัชนีเป่าหูว่าชัยจีบเธอเพราะเธอง่าย กะรัตเสียใจที่สุด เธอเขียนใบลาออกเพราะโกรธชัย กะรัตไม่ยอมพบชัยอีก เธอไปพบกับยุทธ์บ่อย ๆ ส่วนชัยเมื่อเคลียร์งานเสร็จ จึงตามไปง้อกะรัตที่สวนสาธารณะ เขารู้ว่าเธออยู่ที่นั่น เพราะยุทธ์ช่วย เมื่อชัยมากะรัตจะหนี ยุทธ์เตือนเธอว่า เธอและชัยเป็นคนดี เธอควรเปิดโอกาสให้ชัยอธิบายบ้าง ยุทธ์เดินไปเพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มสาว และเหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อฝนตกอย่างแรง ชัยจึงฉุดกะรัตไปหลบฝน เขาฉวยโอกาสกอดเธอพลางสารภาพเรื่องทั้งหมด กะรัตเองยอมแพ้ใจเธอเอง เพราะเธอก็รักเขาเช่นกัน ชัยขอเธอแต่งงาน กะรัตแกล้งทวงแหวนเพชร ชัยจึงจูบเธอ บอกว่าจูบมัดจำแทนแหวนเพชรสำหรับ กะรัตผู้หญิงที่เขารัก และอยากให้เป็นเพชรในชีวิต กะรัตยิ้มพลางซุกอกชัยอย่างอบอุ่น เธอสัญญาว่าจะเป็นเพชรให้สมกับชื่อกะรัตของเธอเช่นกัน ส่วนอ้อมขวัญให้อนุชาดูแลรักษาหัวใจ จนเริ่มมีความสุขอีกครั้ง ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี

สายน้ำสามชีวิต

สุกรม พลทหารเรือที่ใฝ่ฝันอยากเป็นฝีพายเรือราชพิธี มีเพื่อนรักคือ อาเต็ง พ่อค้าขายไอติม อาเต็งต้องสูญเสียพ่อจากการปิดตลาดปล้น สุกรมจึงพาอาเต็งเข้ากรุงเทพฯ มาพายเรือขายโอเลี้ยง จนสุกรมได้เจอกับ แก้วประยงค์ ลูกสาวคหบดีที่เป็นดั่งน้ำทิพย์กลางดวงใจ แต่พ่อและแม่จับแก้วประยงค์คลุมถุงชน สุกรมมีโอกาสช่วยแก้วประยงค์หนีเพราะแก้วประยงค์เข้าใจผิดว่าสุกรมคืออาเต็ง ที่นัดให้พายเรือมารับ ทั้งหมดหนีไปบ้าน แต้ว แฟนอาเต็งแม่ค้าขายปลาช่อน ที่นั่นแก้วประยงค์ได้มีโอกาสซึมซับความงดงามของชีวิตท้องทุ่งก่อนจะกลับมา ถูกกักขังอีกครั้ง สุกรมถูกพ่อของแก้วประยงค์สั่งให้คนมาทำร้ายจนแขนหักไม่สามารถลงเรือเป็น ฝีพายได้ ไม่เพียงสุกรมที่สูญเสียความฝันแต่พ่อของเขาก็ผิดหวังจนตรอมใจตาย สุกรมทิ้งความหลังและมุมานะทำงานจนร่ำรวยไปขอแต่งงานกับแก้วประยงค์ได้ แต่อาเต็งกลับไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำธุรกิจของเพื่อน สุกรมกับอาเต็งผิดใจกันอย่างหนัก อาเต็งและแต้วขอแยกตัวไปขายข้าวที่ริมน้ำโขง สุกรมคลุ้มคลั่งที่เพื่อนรักไม่เข้าใจจึงเผาเรือ แก้วประยงค์ฝ่ากองไฟเข้าไปหยิบพายจนเกือบแท้งลูก สุกรมหันหลังให้สายน้ำแห่งอดีตและเริ่มต้นใหม่ในฐานะพ่อค้าที่ร่ำรวย
 
เวลาผ่านไป 20 ปีเส้นทางของแม่น้ำสามสายก็มาบรรจบกันเมื่อ เจ้าพระยา ลูกชายของสุกรมและ โขงเข้ม ลูกชายของอาเต็ง เป็นนักศึกษร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน และเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับ สาละวิน ชายหนุ่มทั้ง 3 มีแม่น้ำสายเล็กๆ คือ น้ำอิง ที่เป็นศูนย์กลางจิตใจของกลุ่มเพื่อน โขงเข้มไม่ถูกชะตากับเจ้าพระยาเพราะต่างคนต่างมีความเก่งในตัวเอง โขงเข้มเป็นคนใจเร็วต่างจากเจ้าพระยาที่สุขุม ส่วนสาละวินเป็นคนร่าเริง เจ้าพระยาห่วงใยน้ำอิงแต่น้ำอิงกลับหลงเชื่อความเป็นสุภาพบุรุษของ วิสันธร จนถูกหลอกมอมยาถ่ายภาพเปลือย สาละวินและเจ้าพระยาไปช่วยไว้ทันและสัญญาว่าจะปิดเป็นความลับชั่วชีวิต เพราะเห็นแก่จิตใจที่บอบบางของน้ำอิง เจ้าพระยาชอบไปหาอาเต็งพ่อของโขงเขคุยกันถูกคอเรื่องข้าวและเรือ ในขณะที่โขงเข้มไม่เคยสนใจและมุ่งแต่ทำธุรกิจ จนอาเต็งรู้ว่าเจ้าพระยาคือลูกของสุกรม เจ้าพระยาถามถึงประวัติของพ่อที่ถูกปิดตาย แต่อาเต็งไม่ยอมเล่าและให้ที่อยู่ของ นิมิต คนสนิทของสุกรม เจ้าพระยาจึงได้รู้ที่มาของพ่อว่าร่ำรวยจากการโกง สองพ่อลูกทะเลาะกันเพราะสุกรมไม่สนใจเรื่องเรือหรือสายน้ำที่ลูกชายรัก สุกรมจะเผาเรือที่เจ้าพระยาต่อทิ้ง แต่ไม่ที่ค้ำเรือหักทับลงกลางตัวสุกรม สุกรมเป็นอัมพาตครึ่งล่าง เมื่อนึกถึงอดีตสุกรมก็ขอพายจากแก้วประยงค์มาพายท่านกบินและเห่เรือบทชมไม้ ซึ่งหมายถึงแก้วประยงค์จนสิ้นลมต่อหน้าเมียและลูก เจ้าพระยาสะเทือนใจมากและรู้ว่าความฝังใจของพ่อคือเรื่องเรือและสายน้ำ
 
พอเรียนจบโขงเข้มขอแต่งงานกับน้ำอิง เจ้าพระยาได้แต่ยินดีกับความรักของทั้งคู่และมุ่งมั่นไปทำข้าวปลอดสารพิษ พลิกฟื้นแผ่นดินและสายน้ำด้วยเกษตรอินทรีย์ แต่โชคร้ายที่สาละวินเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวต้องการเงินจำนวนมากในการรักษา ตัว น้ำอิงหาทางช่วยแต่สาละวินสละโควต้าการได้ยารักษาฟรีให้กับเด็ก สาละวินนั่งสมาธิจนกาอาการทุเลาจึงตัดสินใจออกบวชเป็นพระนักพัฒนา และจำวัดอาศัยอยู่ใกล้กับเจ้าพระยา เจ้าพระยาฟื้นฟูการพึ่งพาตนเองในชุมชนแต่ก็ถูกต่อต้านจากชาวบ้าน มีเพียง เบนซิน และเบญทราย นักวิชาการเกษตรสองพี่น้องที่คอยช่วยเหลือ เจ้าพระยาจัดตั้ง กลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจิตสำนึกสาธารณะ และตั้งคำถามกับทุกคนว่า ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ เราใช้หมดแล้ว มนุษย์ฉกฉวยความอุดมสมบูรณ์ไปจากดิน ตอนนี้ต้องซื้อความสมบูรณ์ใส่ลงไปในดินในน้ำเท่าไหร่จึงจะพอ เจ้าพระยาไปหาอาเต็งบ่อยๆ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องข้าว ตรงข้ามกับเส้น ทาง ชีวิตของโขงเข้มที่โลดแล่นในฐานนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง จนไม่มีเวลาให้น้ำอิงเจ้าพระยาจึงได้แต่คอยปลอบใจน้ำอิงโขงเข้มมีคู่ค้าคือ สริน ภรรยาเก่าของวิสันธร สรินหลงรักโขงเข้มและได้เห็นรูปเปลือยของน้ำอิงในห้องวิสันธรก็รีบเอามาให้ โขงเข้มดู โขงเข้มโกรธมากและรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาถามน้ำอิงอับอายมาก เจ้าพระยาขอให้โขงเข้มหยุดพูดยิ่งทำให้เพื่อนสองคนผิดใจกัน โขงเข้มเครียดมากจนป่วยทำให้ธุรกิจทรุด น้ำอิงคอยเป็นกำลังใจให้ เจ้าพระยแต่มองภาพความรักความผูกพันของโขงเข้มกับน้ำอิงอย่างเจ็บปวด โขงเข้มลงทุนกับนักธุรกิจหลายประเทศเพื่อซื้อที่ดินรอบๆ หมู่บ้านที่เจ้าพระยาทำเกษตรอินทรีย์ สาละวินขอบิณฑบาตที่ดินแต่ก็ไม่เป็นผล ความบาดหมางของเพื่อนรุนแรงขึ้นเมื่อโขงเข้มขอให้น้ำอิงมีลูก น้ำอิงจึงเอ่ยปากขอแลกลูกกับที่ดิน 97 ไร่ของเจ้าพระยา แต่เจ้าพระยาบอกว่าจะมีประโยชน์อะไรเมื่อที่ดินล้อมรอบพันกว่าไร่ที่ อุตส่าห์พลิกฟื้นมาหลายปีถูกขายไปหมดแล้ว โขงเข้มเข้าประชุมเรื่องเศรษฐกิจ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และเพิ่งมองเห็นหายนะที่มากับความเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ เจ้าพระยาขอคุยกับโขงเข้มเรื่องอนาคตข้าวหอมมะลิไทยที่กำลังจะถูกจีนตีตลาด ด้วยข้าว เชาไทหมี่ ที่แปลว่า เหนือพันธุ์ข้าวไทย ในขณะที่กำลังสับสนโขงเข้มเจอข่าวร้ายว่า แต้ว แม่ชาวนาของตัวเองกำลังจะตาย แต้วเสียดายที่ไม่ได้อยู่เห็นหน้าหลานจึงปลดสร้อยข้อมือรูปเม็ดข้าวให้กับ โขงเข้ม โขงเข้มร้องไห้และขอโทษที่ไม่เคยยอมรับว่าแม่เป็นชาวนา โขงเข้มรีบไปหาเจ้าพระยาเพราะตัดสินใจแล้ว แต่ไม่ทันที่คนร้ายลอบยิงเจ้าพระยา โขงเข้มเอาตัวขวางกระสุนแทน โขงเข้มกำรวงข้าวและวางมือน้ำอิงไว้บนอุ้งมือของเจ้าพระยา พระสาละวินสลดใจกับชะตากรรมของเพื่อน จุดจบของแม่น้ำสามสายจะบรรจบกันอีกครั้งเช่นไร ติดตามได้ในละคร สายน้ำสามชีวิต
 
รายชื่อนักแสดง สายน้ำสามชีวิต
 
ณัฐวุฒิ สกิดใจ รับบท เจ้าพระยา
วรัทยา นิลคูหา รับบท น้ำอิง
ธนา สุทธิกมล รับบท โขงเข้ม
วงศกร ปรมัตถากร รับบท สาละวิน
ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท สุกรม
ธาวิน เยาวพลกุล รับบท อาเต็ง
เขมนิจ จามิกรณ์ รับบท แก้วประยงค์
ไปรยา สวนดอกไม้ รับบท แต้ว
นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบท วิสันธร

วังน้ำค้าง

“วังน้ำค้าง สวรรค์ริมทะ​เลที่มี​แต่​ความสงบสุข  ต้องกลาย​เป็นอ​เวจีที่​เร่าร้อน ​เมื่อบันลือประมุขของวังต้อนรับลำ​เพาสาวสวย​แสนอาภัพ​เข้ามา​ในหัว​ใจ ​ทำ​ให้​ไฟริษยาลุก​โชนขึ้น​ใน​ใจระรินญาติสาว​ผู้มอบหัว​ใจ​ให้​เขามาตลอด  ​และ​ความ​แค้นนั้น​ก็ตกทอดมา​ถึง รัตติกาลลูกติดท้องของลำ​เพา​ซึ่งต่อมา​ก็​ได้ครอบครองหัว​ใจของธนนท์ ชายหนุ่มทายาทคน​เดียวของบันลือที่​ทำ​ให้ระริน​เกิด​ความรักครั้ง​ใหม่  ระริน​ซึ่งกำลังจะสูญ​เสียทุกอย่าง จะ​ทำอย่าง​ไร ​เพลิง​แค้นของ​เธอจะ​แผด​เผา​ให้วังน้ำค้างกลาย​เป็นจุน​หรือ​ไม่……”

ลำ​เพา สาวชนบท​แสนสวยรักกับ ​เดียว พลทหารยากจน ​แม่บังคับลำ​เพา​แต่งงานกับ​เศรษฐี​ซึ่ง​เป็นนัก​เลง ​เดียวกลับมาจากรบ​เขาขาพิ​การต้อง​ใช้​ไม้ค้ำ ลำ​เพา​และ​เดียว​ได้​เสียกันวันที่​เดียวกลับมา ​โดย​เดียว​ไม่รู้ว่ารุ่งขึ้นลำ​เพาต้อง​แต่งงาน ลำ​เพาหนี​การ​แต่งงาน ​แต่ถูกกลุ่ม​เศรษฐีตามล่า ​เดียวยิงตาย​ทั้งหมด​เขา​โดนจับ ​โดนตัดสินจำคุกยี่สิบปี ลำ​เพาหนีออกจากบ้าน ระหว่างลำ​เพา​เดินทางทอดอาลัย​ไม่รู้จะ​ไป​ไหน บันลือ มหา​เศรษฐี​เจ้าของ​เกาะวังน้ำค้างขับรถผ่านมา บันลือชอบ​เธอทันที​เมื่อ​แรก​เห็น ​เมื่อรู้ว่าลำ​เพา​ไม่มีที่​ไป บันลือพาลำ​เพา​ไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของ​เขาที่ริมทะ​เล ​เขาอยู่กับญาติสาวชื่อระริน ​และชายรับ​ใช้​ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อพร ​แม้จะ​เป็นสาวสวย​แต่ระรินยังคงครอง​โสด ​เพราะตั้ง​แต่ที่​เธอต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของบันลือ หลังจากพ่อ​แม่​เสียชีวิตด้วยอุบัติ​เหตุ  ระริน​ก็​แอบหลงรักบันลือตั้ง​แต่​เด็ก ​แต่​ไม่กล้า​แสดงออก

จนกระทั่งบันลือ​แต่งงาน ​และภรรยา​เสียชีวิตลง ทิ้ง​เพียงลูกชาย​ไว้1คน ​ซึ่งบันลือ​ก็ส่ง​ไป​เรียนที่กรุง​เทพฯ  ​เมื่อ​เรียนจบมัธยม​ก็ส่งต่อ​ไป​เรียนที่ต่างประ​เทศ ระริน​จึง​ได้อยู่กับบันลือ​ในคฤหาสน์อย่างมี​ความสุขมาตลอด จนกระทั่ง บันลือรับลำ​เพามาอยู่ด้วย ​และ​ให้​ความสนิทสนม​เป็นพิ​เศษ   ระริน​จึงริษยาลำ​เพามาก ลับหลังบันลือ

ลำ​เพาถูกระรินกระ​ทำต่างๆ นานา ​แต่​เธอ​ก็อดทน​เพราะรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องอ่อนๆ ​ไม่สามารถระ​เห​เร่ร่อน​ไปอยู่ที่อื่น​ได้  ยิ่งนานวัน บันลือ​ก็ยิ่ง​เอ็นดูลำ​เพามากขึ้นจนกลาย​เป็น​ความรัก  บันลือขอลำ​เพา​แต่งงาน​และขอรับ​เป็นพ่อของ​เด็ก​เอง  ระริน​แค้น​ใจมาก วันหนึ่ง​เมื่อ หนู​แดง ลูกสาวของลำ​เพาอายุยัง​ไม่ครบขวบ ​และ​เป็นวันที่ปลอดคน บันลือ​ไม่อยู่บ้าน นายพรพาหนู​แดง​ไปตัดดอก​ไม้ที่สวนวังน้ำค้างระรินหลอกลำ​เพา​ไปธุระด้วยกัน ที่​เกาะ ​เมื่อ​ถึงกลางทะ​เล ระรินตีลำ​เพาจนตกน้ำ ลำ​เพาว่ายน้ำ​ไม่​เป็น​เธอจมทะ​เลตาย บันลือรู้​เรื่องลำ​เพาประสบอุบัติ​เหตุจมน้ำตาย บันลือรับ​เลี้ยงหนู​แดง​เป็นลูก ​เขาตั้งชื่อหนู​แดงว่ารัตติกาล

​เกือบยี่สิบปีผ่าน​ไป รัตติกาล​โต​เป็นสาวสวย บันลือรักมาก ตรงข้ามกับระรินที่ยังปัก​ใจว่า รัตติกาลมา​แย่ง​ความรักของบันลือ​ไป  รัตติกาล​เรียกนายพรที่​เลี้ยง​เธอมาตลอดตั้ง​แต่​เด็กว่าตา บันลือขอร้องระริน​และตาพร​ให้ปกปิดว่า​เขา​ไม่​ใช่พ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​และ​ให้ปกปิดว่าพ่อ​แท้ๆ ของ​เธอ​เป็น​ใคร ​แต่วันที่บันลือ​เข้ากรุง​เทพ​เพื่อ​ไปรับ ธนนท์ ลูกชาย​ซึ่งกลับจากอ​เมริกา ระรินรุกรานรัตติกาล ​และ​เมื่อรัตติกาล​เถียงระริน​โกรธจัด ตบหน้ารัตติกาล​และ​เผย​ความจริงว่า รัตติกาล​ไม่​ใช่ลูกบันลือ​แต่​เป็นลูก​ไอ้ขี้คุก​ผู้ร้ายฆ่าคนตาย รัตติกาล​เสีย​ใจมากวิ่งหนี​เตลิดออกจากบ้าน ​เธอวิ่ง​ไป​เจอ สีมา สาวลูกชาวประมงยากจน สีมา​ทำตัว​เป็นทอม รัตติกาลบอกว่า​เธอจะ​ไปตาย สีมากระชาก​ไว้​ไม่​ให้​ไป ชวนรัตติกาล​ไปอยู่ด้วย บันลือกลับมา ระรินบอกว่ารัตติกาลหนีออกจากบ้าน คงหนีตาม​ผู้ชาย

บันลือออกตามทุกวันจน​เจอรัตติกาล ช่วยสีมา​ทำประมง บันลือขอร้อง​ให้รัตติกาลกลับบ้าน สีมาขอตาม​ไปอยู่ด้วย ระริน​แสดง​ความพึงพอ​ใจ​ในธนนท์ ​แบบหญิงชอบชาย  ​เพราะธนนท์คล้ายบันลือตอนหนุ่มๆมาก ​เธอหา​โอกาส​เคลมธนนท์ ​แต่ตาพรมาขัดจังหวะทุกครั้ง ธนนท์​เอง​ก็รู้ตัว ​เขา​เลี่ยงอย่างสุภาพกับระริน ธนนท์รักรัตติกาลทันทีที่​เห็น รัตติกาล​ก็​เช่น​เดียวกัน บันลือสนับสนุนอย่าง​ไม่ออกหน้าออกตา​เกิน​ไป ​แต่ระรินหึงหวงริษา ระรินมอม​เหล้าธนนท์ จะปล้ำ​เขา ​แต่ตาพรมาขัด​ไว้​ได้อีก ระริน​โกรธมาก ต่อมาระรินจะฆ่ารัตติกาลขณะนอนหลับ ตาพรมาช่วยทัน ​แก​ไม่​ได้​ทำอะ​ไรระริน ​แค่ยืนมอง​เฉยๆ ​แต่ตาพร​ไม่​เคยพูดกับ​ใคร​เรื่องระรินที่จะ​เคลมธนนท์ ​และจะฆ่ารัตติกาล ระรินยัง​แค้นรัตติกาลที่จะ​ได้ทุกอย่าง​ไปจากวังน้ำค้าง​เพราะรัตติกาลจะ​ เป็นคู่ครองของธนนท์​แน่นอน

ระรินลวงรัตติกาลจะ​ไปฆ่ากลางทะ​เล​เหมือนที่​เคยฆ่าลำ​เพามา​แล้ว ​โดยหลอกว่าธนนท์ประสบอุบัติ​เหตุ ​เมื่อ​เรือมา​ถึงที่ที่ลำ​เพา​เคยจมน้ำตาย ระริน​เตรียมฆ่ารัตติกาล​โดยรัตติกาล​ไม่รู้​เลยว่า​เธอกำลังจะถูกฆ่า ​แต่​แล้วระริน​เห็นผีลำ​เพา​โผล่ขึ้นมาจาก​ใต้ทะ​เลมายืนบนผิวน้ำ ​และ​เดินมาหา​เธอ​ใน​เรือ​โดย​ไม่พูดจาอะ​ไร​เลย ​แต่ลำ​เพาจ้องจะ​เอา​เรื่อง ลำ​เพายังสวย​เหมือน​เมื่อครั้ง​เธอยังมีชีวิตอยู่ ระรินกลัวลำ​เพาจน​เป็นลม รัตติกาล​ไม่รู้​เรื่อง ​เมื่อระริน​เป็นลม ​เธอพา​เรือกลับ​เข้าฝั่ง ระหว่างยัง​ไม่ฟื้นระริน​เห็นลำ​เพามารับ​เธอ​ไปด้วยกัน ระริน​ไปด้วยอย่าง​เต็ม​ใจ ​แต่​เมื่อลำ​เพา​ให้​เธอลง​เรือระรินหวีดร้อง​ไม่​ไปด้วย ​เธอตื่นขึ้นมา​เห็นธนนท์กับรัตติกาลนั่ง​เฝ้าอยู่อย่างห่วง​ใย ระรินกอดธนนท์ราวกอดขอ​ความช่วย​เหลือจากชายคนรัก

​เดียวพ้น​โทษ ​ไปหา​แม่ของลำ​เพาที่บ้าน ​แม่ของลำ​เพาสำนึก​ใน​ความผิดที่​ทำ ​แก​เอาจดหมายของลำ​เพา​ให้​เดียวอ่าน ​เดียวรู้ว่าลำ​เพามีลูกสาวกับ​เขา ​และลำ​เพา​ไปอยู่ที่วังน้ำค้างกับชายที่ชื่อบันลือ​เดียว​ไปที่​เกาะวังน้ำ ค้าง พบรัตติกาล รัตติกาลรู้สึกว่าถูกชะตากับชายคนนี้ตั้ง​แต่​แรก​เห็น ​เธอบอกว่าพ่อของ​เธอ​เป็นชายขี้คุกชื่อ​เดียว ​แม่ของ​เธอชื่อลำ​เพา ​แต่​แม่ตาย​ไปตั้ง​แต่​เธออายุยัง​ไม่ครบขวบ​เดียวช็อกที่ลำ​เพาตาย จากนั้น​เดียวมา​แอบดูรัตติกาลทุกวัน ​ไม่คิดจะ​เปิด​เผยว่าตัว​เอง​เป็นพ่อ​เพราะขณะนี้ลูกสาวมีชีวิตที่สูงส่ง กว่า​เขามาก รัตติกาล​ให้ดอกกุหลาบ​แดงของวังน้ำค้าง​แก่ชายพิ​การลึกลับทุกวัน จนวันหนึ่งระริน​เห็น ​และตอกหน้า

รัตติกาลต่อหน้าธนนท์ว่า​แอบลักลอบพบชาย​ไม่มีหัวนอนปลาย​เท้าฉันชู้สาว รัตติกาล​แก้ตัว​ไม่​ได้ ​แต่บันลือ​ไม่​เชื่อว่ารัตติกาลจะ​เป็นดังที่ระรินกล่าวหา ระริน​ให้ตาพร​เป็นพยาน ตาพรบอกว่า​ไม่​เคย​เห็นรัตติกาลคุยกับชาย​แปลกหน้าที่​ไหน​เลย ระริน​โกรธที่ตาพร​โกหก​เข้าข้างรัตติกาล​ทั้งๆ ที่ตาพร​ก็อยู่กับรัตติกาลตอนรัตติกาลพบกับ​เดียว รัตติกาลกับธนนท์ร่วมมือกันจับสีมาลอกคราบ​ความ​เป็นทอม​ให้กลับ​เป็นหญิง ​เพราะ​เห็น​แล้วว่าจริงๆ สีมา​เป็นสาวที่สวยมาก ​และพ่อบันลือ​ก็อ้างว้างว้า​เหว่มานาน ควรจะมีคู่​ใจ​เสียที สีมา​แต่งกาย​เป็นสาว​แล้วสวยจริงๆ บันลือถูก​ใจมาก ระรินยังอาฆาตที่จะฆ่ารัตติกาลตลอด

วันหนึ่งสบ​โอกาสที่สีมา​เอา​เครื่องดื่ม​ไป​ให้คุณๆ ​แต่ละคน​ในบ้าน ระริน​แอบ​ใส่ยาพิษ​ในนมสดของรัตติกาล ​แต่บันลือ​เกิดอยากดื่มนมสด ​เขา​เอาของรัตติกาล​ไปดื่มก่อน ​ให้สีมา​ไป​ทำ​ให้รัตติกาล​ใหม่ ระรินยินดี​เมื่อ​ได้ยิน​เสียงสีมาหวีดร้อง ​แต่​แล้วกลับตก​ใจ​เมื่อคนดื่มนมผสมยาพิษคือบันลือ หมอล้างท้องช่วยบันลือทัน ​เมื่อบันลือกลับบ้าน​ได้ ​เขาพูดกับระริน ​เขารู้ว่าระรินตั้ง​ใจจะฆ่ารัตติกาลรู้ว่าระรินหลงรักธนนท์ฉันชู้สาว ​แต่​เมื่อระริน​เป็นญาติ​เขา ​เขา​จึง​ไม่​ทำรุน​แรง​ถึงกับจะส่ง​เธอ​ให้ตำรวจ ​แต่​เขาจะตัดปัญหา​ให้ธนนท์​แต่งงานกับรัตติกาล ทุกอย่างจะ​ได้จบลง​เสียที

วัน​แต่งงานของธนนท์กับรัตติกาล ​เดียวมา​แอบดู​ความรุ่ง​เรือง​ในชีวิตลูก ระริน​เห็น​แฉกลางงาน​แต่งว่า​เดียว​เป็นชายชู้ของรัตติกาล ​เดียว​เข้ามา​ในงาน บอกว่า​เขาคือชายที่มา​แอบดูรัตติกาลตลอด​เพราะ​เขารักรัตติกาล ​แต่​ไม่​ใช่ฉันชู้สาว ​เพราะ​เขาคือพ่อของรัตติกาล ทุกคนตะลึง​ไปหมด รัตติกาลดี​ใจที่​ได้พบพ่อที่​แท้จริงที่​เธอ​เฝ้าตามหามาตลอด ​เดียว​แฉอีกว่า​เขารู้จากชาวประมงว่าลำ​เพา​ไม่​ได้จมน้ำตาย​เอง ​แต่ระรินฆ่าลำ​เพา ระรินช็อค​ไม่ยอมรับ ​เธอวิ่ง​ไป​ในตึก ค้น​ได้ปืนพก ​แต่ก่อนที่จะกลับออก​ไป ระริน​เห็นภาพวาดของลำ​เพากลาย​เป็นลำ​เพาจริงๆ ​เดินออกมาจากภาพวาด มาชวนระริน​ไปด้วยกัน ระริน​ไม่ยอม​ไปด้วย จะยิงลำ​เพา ตาพร​เข้ามา​ในตึกระรินมอง​เห็นตาพร​เป็นลำ​เพา ยิงตาพรตาย ​แล้วระรินวิ่ง​เตลิดออกนอกตึก ​เธอกำลัง​เสียสติ ระรินวิ่ง​ไปท่าน้ำ ​เจอลำ​เพารออยู่ ลำ​เพาบอก​ให้​ไปด้วยกัน ​ไป​ในที่ที่จะ​ไม่มี​ใครตามระริน​เจอ ระรินดี​ใจว่าจะหนีพ้นที่ฆ่าตาพร ลง​เรือ​ไป ​ไป​ถึงทะ​เลจุดที่ระริน​เคยฆ่าลำ​เพา

ระริน​เห็นลำ​เพาลุกลง​ไป​เดินบนผิวน้ำทะ​เล ระรินตก​ใจ ลำ​เพา​เรียกระรินลง​ไป ระรินนึก​ได้ว่าลำ​เพาตาย​แล้วระรินกลัวมาก จะหนี ​ในที่สุดระรินตกทะ​เล จมน้ำ ธนนท์ขับ​เรือพาบันลือมา​ถึง​เรือระรินที่ลอยอยู่ ​แต่หาระริน​ไม่​เจอ​แล้ว บันลือรู้ว่าระรินชด​ใช้กรรมที่ก่อ​ไว้​แล้ว บันลือ​เ​ก็บปืนที่ตกอยู่​ใน​เรือ​ไป ทุกคน​ในงาน​แต่งงานนึก​ถึง​เดียวขึ้นมา​ได้ ​แต่​เดียวหาย​ไป​แล้ว มี​แต่กระดาษพับวางอยู่​ใต้กุหลาบ​แดงดอกหนึ่ง ​เป็นจดหมายที่​เดียว​เขียนฝากฝังรัตติกาล​ให้กลับคืน​เป็นลูกสาวของบันลือ ​และสำนึก​ในบุญคุณของบันลือ ตัว​เขา​เองขอ​เพียงที่น้อยนิดบน​เกาะวังน้ำ-ค้าง​ให้​เขา​ได้อาศัยชมบุญ รัตติกาลทุกวัน รัตติกาลกับธนนท์สังหรณ์ รีบ​ไปที่​เกาะวังน้ำค้าง ร่าง​เดียวนอนคว่ำหน้า​เสียชีวิตอยู่​ในน้ำทะ​เล ​เขากระ​โดดหน้าผาลงมา

ภารกิจพิชิตดอกฟ้า

เสียงประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดล่าสุดดังไปทั้งหมู่บ้าน สมาชิกทุกคนพร้อมใจกันทิ้งภารกิจประจำวันเพื่อหยุดฟังหวย แม้กระทั่งชื่อหมู่บ้าน “ห้วยใหญ่” ก็ถูกทองปิดจนไม้โทหายกลายเป็นหมู่บ้าน “หวยใหญ่” เพราะความบ้าหวยแท้ๆ แต่ยกเว้น สมสนุก ที่ไม่สนใจหวยหรือการพนันใดๆ ทั้งสิ้น สมสนุกอยากเข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพฯ โดยมีความตั้งใจที่จะนำความรู้มาพัฒนาหมู่บ้าน สร้างอาชีพให้คนในหมู่บ้านเลิกความงมงายเสียที

ด้วยหวังว่าความเป็น แชมป์มวยของเขาจะพาเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยในฝันได้ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ สมสนุกได้มาพักอยู่กับ หลวงตาบูลย์ อีกมุมหนึ่งของเมือง น้องแก้ม ลูกสาวคนเดียวของ พล.ต.ต.จิรายุส ตำรวจมือปราบกับ คุณสินีนาฏ นักธุรกิจสาวใหญ่ กำลังจะไปมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก และขอพ่อขากับแม่ขาไปมหาวิทยาลัยเองโดยมีรถของที่บ้านมาส่ง พอลงจากรถเธอหันไปเจอรถขายข้าวเหนียวหมูปิ้งที่อยากกินจนเกือบโดนรถเฉี่ยว

แต่ สมสนุกมาช่วยไว้ทันสบตาแรกที่ทั้งคู่เจอกัน สมสนุกก็ถูกใจน้องแก้มขึ้นมาทันทีความรู้สึกของหมามองเครื่องบินแวบขึ้นมา ทันที สมสนุกมาถึงมหาวิทยาลัยอย่างทุลักทุเล แล้วต้องพบความผิดหวังเมื่อทางมหาวิทยาลัยไม่รับเขาเข้าเรียน เพราะไม่รู้ว่าแชมป์มวยไทยงานวัดจะสร้างชื่อให้สถาบันตรงไหน แต่สถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษเมื่อโจรจับอธิการบดีเป็นตัวประกัน สมสนุกช่วยอธิการบดีไว้ อธิการบดียินดีรับสมสนุกเข้าเรียนเป็นกรณีพิเศษ

ใน มหาวิทยาลัยสมสนุกได้พบเพื่อนร่วมก๊วน วอก หนุ่มหน้ามน สมเสร็จ ที่ชอบลืมตัวหยิบของชาวบ้านมาขายต่อ ฉวน ที่กวนประสาทได้อย่างถึงกึ๋น พี่ประโยชน์ ในมหาวิทยาลัยสาวเพียบและหนึ่งในหญิงที่แอบชื่นชอบวีรกรรมของสมสนุกก็คือ น้ำหวาน สาวหน้าหวานแต่นิสัยสุดห้าว ซึ่ง สิบทิศ ช้อปเปอร์หนุ่มมาดเท่ชอบน้ำหวานอยู่ ที่มหาวิทยาลัยยังมีน้องแก้มและ อนาวิน สาวๆ หลายคนอาจจะชื่นชมอนาวินแต่ไม่ใช่น้ำหวานแน่

น้ำ หวานไม่เข้าใจว่าผู้อะไรจะหน่อมแน้มได้ขนาดนั้น แต่อนาวินกลับชอบที่น้ำหวานเข้มแข็ง วันหนึ่งอนาวินและเพื่อนๆ หนีเที่ยวกันเหมือนเด็กๆ จนเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทั้งหมดถูกผู้ร้ายไล่ล่าจนเกือบจะเอาตัวไม่รอด ดีที่แก๊งค์ช้อปเปอร์ของสิบทิศผ่านมาพอดีเลยช่วยมาได้ทัน สมสนุก, น้ำหวาน กับเพื่อนๆ ไม่เข้าใจว่าผู้ร้ายต้องการอะไร เพราะพวกเขาก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวเลยสักนิดเดียว มีเพียงอนาวินกับน้องแก้มเท่านั้นที่รู้ความจริง

ผู้ร้ายกลุ่มนี้คือ ผู้ไม่หวังดีที่ต้องการเก็บเจ้าชายอนาวินนั่นเอง สมสนุกไม่ละความพยายามที่จะเลิกชอบน้องแก้ม แถมยังหวังจะพิชิตใจพ่อขาแม่ขาของน้องแก้มใหได้ จนเกิดเรื่องราวหลายอย่างชุลมุนวุ่นวายทุกครั้งคะแนนที่น่าจะทำเพิ่มกลับ ยิ่งลดลงจนต่ำกว่าศูนย์ แต่สิ่งที่ทำให้สมสนุกยังมีกำลังใจก็คือน้องแก้มที่เริ่มเห็นใจดอกฟ้าเริ่ม โน้มตัวลงมา วิกฤติเกิดกับอนาวินอีกครั้งเมื่อทีมไล่ล่าตามมาเจอที่พำนักของเจ้าชาย

อนาวิน ได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญจากน้ำหวาน น้ำหวานเอาอนาวินมาซ่อนในห้องนอนของตัวเอง ทั้งสองคนได้อยู่ใกล้ชิดกันจนขนลุกโดยไม่ไม่รู้ตัว เรื่องนี้สิบทิศถึงกับประกาศสงครามกับอนาวิน แต่ด้วยความดีของอนาวินกลับทำให้สิบทิศกลายเป็นหนึ่งในแก๊งค์ของอนาวินและสม สนุกไปแล้ว แล้วความจริงทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยว่าอนาวินเป็นเจ้าชายของประเทศพนาพิสุทธิ์ ทั้งหมดสัญญากันไว้ว่าจะรักษาความลับให้แก่กัน

ความรักของสมสนุกกับ น้องแก้มดูท่าจะราบรื่น เพราะน้องแก้มกับอนาวินเองก็รู้ใจตัวเองว่ามีความรู้สึกกันเพียงแค่พี่น้อง แต่อุปสรรคชิ้นโตคงหนีไม่พ้นพ่อขาแม่ขาของน้องแก้ม สมสมัย แม่ของสมสนุกไม่สบายหนักจนสมสนุกต้องกลับบ้านไปดูแล ทำให้ทั้งสมสนุกกับน้องแก้มห่างกัน น้องแก้มขอให้เพื่อนพาไปเยี่ยมสมสมัย จิรายุสกับสินีนาฏตามมาทันที เมื่อเห็นสภาพแวดล้องชนบทก็รับไม่ได้ จิรายุสลั่นวาจาทันที

ถ้า สมสนุกทำน้ำในคลองให้สะอาดและขจัดความบ้าหวยได้ภายในหนึ่งเดือนจะยอมเปิดทาง ให้ทั้งคู่คบหากัน เรื่องบำบัดน้ำเป็นหน้าที่ของอนาวินที่สั่งลูกน้องมาทำความสะอาดได้ในพริบตา ส่วนเรื่องหวยสมสนุกและเพื่อนๆ ช่วยกันอบรม สร้างงานและสร้างความคิดที่ถูกต้องให้ชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนักเพราะมี รูด้า เจ้ามือหวยและเจ้าของบ่อนทรงอิทธิพล แถมยังเป็นนักการเมืองทรงอิทธิพลของประเทศพนาพิสุทธิ์

ที่หอบเงินมา ฟอกเงินในเมืองไทยเพื่อที่จะกลับไปโค่นอำนาจของเจ้าชายอนาวินอีกด้วย ทั้งหมดตั้งใจจะถอนรากถอนโคนให้ได้ เพื่อความรักของสมสนุกและแผ่นดินเกิดของอนาวินการผจญภัยเพื่อหัวใจจึงเกิด ขึ้น จิรายุสนำกำลังตามมาช่วยแต่เสียท่าถูกรูด้าจับตัวไป สมสนุกสวมหัวใจสิงห์พาเพื่อนๆ ไปช่วยเอาตัวกลับมาได้พร้อมจัดการกับรูด้าได้สำเร็จ จิรายุสแพ้ใจและความดีที่สมสนุกมีให้ต่อน้องแก้มยอมให้ทั้งสองคนคบกันได้

ทั้ง หมดกลับไปตั้งใจเรียนเพื่อทำความฝันของตนให้เป็นจริง สิบทิศยอมละทิ้งความเป็นหัวหน้าแก๊งค์ช้อปเปอร์กวนเมือง พี่ประโยชน์เรียนจบในวัยสามสิบกว่า และทำงานเป็นเรื่องเป็นราว ฉวนนำวิชาความรู้มาใช้ทำให้เขามีอาชีพทำมาหากินอย่างภาคภูมิ สมเสร็จหายมือไวสอบเป็นตำรวจ วอกเรียนเก่งจนจะไปต่อดอกเตอร์ อนาวินคบกับน้ำหวานด้วยความรักทั้งสองคนตั้งใจเรียน ก่อนจะวางแผนไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบในประเทศเล็กๆ ของอนาวิน

ส่วน หมาวัดอย่างสมสนุกเอาความรู้ไปทำให้ชาวห้วยใหญ่เลิกงมงายเรื่องหวยจนสำเร็จ และเผยแพร่ไปสู่หมู่บ้านที่รายรอบ ที่เด็ดกว่านั้นหมาวัดอย่างสมสนุกที่วันๆ ได้แต่ชะเง้อมองเครื่องบินลำสวยอย่างน้องแก้ม วันนี้เครื่องบินลำสวยถูกยิงตกลงมาให้เชยชมแล้ว ด้วยกระสุนความดีที่สมสนุกพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น คนดี…ซึ่งยังมีอีกมากมายในซอกหลืบนับร้อยมุมของสังคมไทย

รายชื่อนักแสดง ภารกิจพิชิตดอกฟ้า

ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท สมสนุก
ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ รับบท น้องแก้ม
ธาวิน เยาวพลกุล รับบท อนาวิน
กชกร ศุภการกิจกุล รับบท น้ำหวาน
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท วอก
สลิล สุภาพงศ์ รับบท สมเสร็จ
ยังเติร์ก กัลป์ รับบท สิบทิศ
คุณาวุฒิ เหลืองเสรี รับบท ฉวน
ก้าว บางกรวย รับบท พี่ประโยชน์

เพื่อนรักเพื่อนร้าย

ไตรจักร และ ตรีเทพ เป็นเพื่อนรักกัน ไตรจักรเป็นลูกกำพร้ามีน้องสาวชื่อ เครือวัลย์ ที่พิการอาศัยอยู่กับ ยาย ส่วนตรีเทพเกิดมาท่ามกลางครอบครัวที่มีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง ทำให้เขาตั้งตัวเป็นศัตรูกับความจน ตรีเทพมาอยู่กับไตรจักรเพราะว่าพ่อถูกตีตายและแม่ถูกจับเข้าคุก ด้วยความใกล้ชิดตรีเทพจึงใช้เครือวัลย์เป็นที่ระบายความกำหนัดในวัยหนุ่มโดย ที่ไม่มีใครรู้

ตรีเทพและไตรจักรสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่ตัวเองหวัง และทั้งคู่ก็ได้พบกับ เวทิตา ดาวคณะอักษรศาสตร์ ทั้งคู่ต่างก็หลงรักเวทิตาแต่สุดท้ายเวทิตาก็มีใจให้ไตรจักร ทำให้ตรีเทพมองดูด้วยความริษยา ในคณะยังมี สรีรัญ ลูกสาวคนเดียวของเจ้าของหนังสือพิมพ์มหาชน แต่ไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร เธอทำตัวทอมๆ หลงรักไตรจักรแต่เก็บไว้ ส่วนตรีเทพไม่เห็นสรีรัญในสายตา

เทอมสุดท้ายของปี 4 ไตรจักรและตรีเทพต่างเป็นที่จับตามองว่าใครจะครองเกียรตินิยมอันดับ 1 และเป็นธรรมเนียมที่นักเรียนที่เรียนดีที่สุดจะได้เข้าทำงานที่หนังสือพิมพ์ มหาชน ก่อนสอบไล่ปลายภาคเรียนตรีเทพแอบใส่ยาเบื่อหนูในแก้วน้ำให้ไตรจักรดื่ม ทำให้ไตรจักรไปสองไม่ไหวผลการสอบออกมาทำให้ตรีเทพได้เป็นที่ 1 ของภาควิชา วันแรกของการทำงานไตรจักรไปแสดงความยินดีกับตรีเทพด้วยความบริสุทธิ์ใจและ ยืนยันว่าจะสอบเข้าให้ได้ ส่วนสรีรัญไปเรียนต่อต่างประเทศ ระหว่างรอทดสอบและเรียกตัวจากมหาชน ไตรจักรไปทำงานที่ร้านอาหารของ วิชัย พ่อของเวทิตา ความขยันและความซื่อสัตย์ของไตรจักรทำให้วิชัยเริ่มชอบ ส่วนตรีเทพก็เอาใจวิชัยโดยการเอาร้านอาหารไปโปรโมตในหนังสือพิมพ์ ทำให้ร้านอาหารเป็นที่รู้จัก แล้วไตรจักรก็ผ่านการทดสอบจากมหาชน

แต่ก่อนวันสัมภาษณ์งานตรีเทพแอบมาขโมยเงินของวิชัยไป เพื่อให้วิชัยเข้าใจไตรจักรผิด วันรุ่งขึ้นขณะที่วิชัยโวยวายไล่ตีไตรจักร เขาก็พลาดออกไปนอกถนนและถูกรถชน ทำให้ไตรจักรไม่ได้ไปสัมภาษณ์งาน วิชัยกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ ตำรวจตรวจสอบบัญชีธนาคารของไตรจักร และพบเงินที่ยายถูกหวยจำนวนใกล้เคียงกับจำนวนเงินของวิชัยที่หายไป ยายและเครือวัลย์ไม่สามารถบอกที่มาของเงินได้เพราะกลัวความผิด

ด้านตรีเทพก็ไปบอกมหาชนเรื่องไตรจักรต้องคดี ทำให้มหาชนไม่รับไตรจักรเข้าทำงาน ไตรจักรถูกจับเข้าคุกและเครือวัลย์พบว่าตัวเองตั้งท้องได้ 3 เดือนแล้ว แต่ว่าตรีเทพบังคับไม่ให้เธอบอกใครว่าเขาเป็นพ่อเด็ก ตรีเทพไปเยี่ยมวิชัยเสมอและเอาใจด้วยการพาวิชัยไปทำกายภาพบำบัดและใส่ขา เทียม วิชัยเห็นว่าตัวเองพิการอีกทั้งร้านก็ไม่มีคนดูแลจึงบังคับให้เวทิตาแต่งงาน กับตรีเทพ

เวทิตาเอาเรื่องนี้ไปบอกไตรจักร ไตรจักรคิดว่าตรีเทพรักเวทิตาจริงจึงบอกเลิกกับเวทิตา เพราะว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีอนาคต เวทิตาเสียใจมากจึงกลับไปบอกตรีเทพว่าเธอยอมแต่งงานกับเขา วันที่ตรีเทพและเวทิตาแต่งงานกันเป็นวันที่ไตรจักรดีใจและเสียใจมากที่สุด ช่วงเวลาที่ไตรจักรอยู่ในคุกเป็นช่วงเวลาที่ตรีเทพกำลังไต่เต้าอย่างมีความ สุขในมหาชน ด้วยการมีความสัมพันธ์ลับๆ กับหัวหน้าข่าวชื่อ จีรวรรณ

ส่วนเรื่องครอบครัวเขาก็กำลังจะไปด้วยดี ถ้าสรีรัญลูกสาวคนเดียวของมหาชนไม่กลับมาเสียก่อน สรีรัญกลายเป็นผู้หญิงสวยเปรี้ยวจบโทบริหารจากเมืองนอก ตรีเทพเห็นสรีรัญก็เกิดปิ๊งขึ้นมาและอยากเป็นเจ้าของบริษัท ตรีเทพเริ่มทอดทิ้งครอบครัว 1 ปีผ่านไปหลังจากไตรจักรออกจากคุก ไตรจักรได้มาทำงานเป็นคนขับรถที่มหาชน วันหนึ่งนักข่าวที่จะต้องไปทำข่าว นายพลฉลอง นักการเมืองทุจริต

ไตรจักรสวมบทบาทเป็นนักข่าวแทน วันต่อมาข่าวและรูปที่ไตรจักรทำได้รับการตีพิมพ์อย่างครึกโครม สรีรัญรับไตรจักรเข้าทำงาน เมื่อไตรจักรเข้ามาทำงานในมหาชน สรีรัญชอบแนวทางการทำงานของไตรจักร ตรีเทพหาเรื่องทะเลาะกับเวทิตาแล้วขอเลิก โดยไม่รู้ว่าตอนนั้นเวทิตาเพิ่งตั้งท้อง ตรีเทพแอบไปเบิกเงินของเวทิตาจสหมดเพื่อเอามาซื้อข้าวของยกฐานะตัวเอง แล้วสร้างเรื่องหลอกสรีรัญว่าถูกพ่อตาไล่ออกจากบ้าน

และกำลังจะหย่าเพราะทนเมียดูถูกไม่ไหว เมื่อวิชัยรู้ว่าที่จริงคนที่ขโมยเงินเขาไปและใส่ร้ายไตรจักรจนติดคุกคือตรี เทพ วิชัยก็ด่าตรีเทพอย่างรุนแรง ตรีเทพขาดสติผลักวิชัยหัวกระแทกบันไดเสียชีวิต เมื่อสรีรัญต้องทำงานใกล้ชิดกันทำให้เธอพบว่าไตรจักรเป็นผู้ชายที่เป็นสุภาพ บุรุษโดยแท้ ความทะนงตัวทำให้สรีรัญประทับใจมาก ขณะที่ดอกรักในหัวใจไตรจักรและสรีรัญกำลังเบ่งบาน

ตรีเทพซึ่งดูด้วยความเคียดแค้นจึงวางแผนไปขอหย่ากับเวทิตา พร้อมชี้ช่องทางให้เวทิตากลับไปหาไตรจักร เวทิตาอยู่ในสภาพจนตรอกจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ไตรจักรกลับคืนมา เป็นของตน

พลิกดินสู่ดาว

พลิกดินสู่ดาวเตวิชญ์ เบียดเสียดกับผู้คนที่มาร่วมคัดเลือกเข้าโครงการพลิกดินสู่ดาว ครั้งที่ 2 เพื่อให้กำลังใจ ติรกานต์ น้องสาวคนเดียวของเขาที่กำลังร้องเพลงอย่างสุดฝีมือเพื่อเป็นหนึ่งในผู้ถูก คัดเลือก แต่เมื่อกานต์ร้องเพลงอยู่แล้วก้าวพลาดตกจากเวที รฎา หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรีบโทร.เรียกรถพยาบาล ทีมงานการประกวดต่อว่ากานต์ที่เดินไม่ดูจนตกเวที โดยไม่รู้ว่าแท้จริงกานต์ตาบอดจนเมื่อกรรมการและทีมงานรู้ความจริงกานต์จึง ต้องถูกตัดสิทธิ์ออกจากการคัดเลือก เตสงสารน้องเพราะว่ารู้ว่ากานต์ตั้งใจกับการแข่งขันมากเพียงใด กานต์ขอร้องให้เตสานต่อความฝันที่เธอทำไม่ได้ให้สำเร็จ

เตจึงต้อง ขึ้นเวทีร้องเพลงสิ้นเสียงเพลงทุกคนปรบมือดังกึกก้อง เพราะต่างสัมผัสได้ถึงความรู้สึกในใจของเขา หลังวันคัดเลือกไม่นานเตก็ได้รับแจ้งว่าผ่านการคัดเลือก นั่นหมายถึงกานต์ต้องอยู่คนเดียวดีที่ ปยุทธ เพื่อนบ้านซึ่งแอบชอบกานต์อาสาดูแลเตจึงหายห่วง ในโครงการพลิกดินสู่ดาวผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 10 คนต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้านพักหลายเดือน ต้องฝึกฝนทักษะและการแสดงในด้านต่างๆ ทั้งการร้องเพลงและการแสดง โดยผู้ชมจะเป็นผู้โหวตผ่านระบบโทรศัพท์ตัดสินว่าใครจะอยู่หรือไป ซึ่งนอกจากเตกับรฎาแล้วยังมีผู้เข้าแข่งขันอีก 8 คนได้แก่

ธันวา ชายหนุ่มเจ้าสำอาง มนุษยสัมพันธ์ดี นับดาว หญิงสาวบุคลิกห้าวๆ ติดเฉิ่มเชยซะด้วยซ้ำ ส่าหรี สาวสวยเซ็กซี่ ที่ผู้ชายหลายคนต้องมองตาม แต่เธอก็ซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลาหลังอาหาร ร้อยตะวัน หนุ่มร่างอ้วน มีอารมณ์ขัน และยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่เบื้องหลังชีวิตเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันและเศร้า ลายไท หนุ่มบ้านนอกที่พยายามทำตัวเป็นคนเมือง แต่สำเนียงและลีลาบ่งบอกภูมิลำเนาอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่อโกลาหลทุกครั้งที่ชายหนุ่มคนนี้พยายามปกปิดตัวเอง ประกายมุก สาวสวยขี้เหงา มีโลกส่วนตัวสูง เพื่อนน้อย

จิรชยา ( จีจี้ ) สาวมั่นใจในตัวเองแบบสุดขั้ว เป็นไฮโซที่ยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อชัยชนะ อนุภัทร ( พัตเตอร์ ) หนุ่มนักเรียนนอก ผู้รักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ และเป็นตัวเก็งชนะเลิศในครั้งนี้ ในการแข่งขันสัปดาห์แรกๆ ประกายมุกและร้อยตะวันต้องเป็นคนที่ตกรอบไปก่อน แต่ทั้งคู่ก็ยังได้รับโอกาสให้อยู่ทำงานในทีมงานขของรายการต่อไป ทำให้ประกายมุกได้เข้ามาใกล้ชิดกับเตวิชญ์ จนทำให้รฎาเข้าใจผิดว่าทั้งคู่รักกัน รฎาจึงหันไปสนิทสนมกับธันวา ซึ่งแอบชอบเธอมานานโดยไม่รู้ว่าได้ทำให้เพื่อนรักอย่างนับดาวแอบเสียใจไป ด้วย

เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมกับการตกรอบของผู้เข้าแข่งขัน บ้านพลิกดินสู่ดาวก็เริ่มเงียบเหงาลงไปทุกวัน แต่ละคนเริ่มแสดงธาตุแท้ของตนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะพัตเตอร์กับจีจี้ที่มาเข้าร่วมการแข่งขันโดยมุ่งหวังแต่เพียงชัยชนะ อย่างเดียวเท่านั้น พัตเตอร์กับจีจี้พยายามหาทางเขี่ยเตวิชญ์ออกจากการแข่งขัน เพราะกลัวว่าความตรงไปตรงมาของเตวิชญ์จะโดนใจผู้คนมากกว่า พัตเตอร์จึงไปขอความช่วยเหลือจาก ภัทร์ธารา ผู้บริหารค่ายเทปที่อยู่เบื้องหลังของรายการนี้ และเป็นภรรยาของ เอกวุธ คนเขียนบทชื่อดังที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของรายการพลิกดินสู่ดาว

แต่ สิ่งที่พัตเตอร์ไม่รู้ก็คือภัทร์ธาราเต็มใจช่วยเขาเพราะว่าพัตเตอร์เป็นลูก ที่เกิดจากภัทร์ธารากับสามีเก่าของเธอนั่นเอง พัตเตอร์กับจีจี้ทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดเตวิชญ์ให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที สุดท้ายภัทร์ธาราติดต่อกับเตวิชญ์ให้ มาพบแล้วยื่นข้อเสนอให้เขาออกจากการแข่งขัน แลกกับเงินไปรักษาดวงตาให้น้องสาว เตวิชญ์คิดหนักและตอบตกลงทำให้เขาต้องออกจากการแข่งขันทันที จีจี้เริ่มกลัวว่าตนเองจะแพ้พัตเตอร์จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากเอกวุธ โดยเอาตัวเข้าแลกแต่ปรากฏว่าถูกจับได้จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว จีจี้อับอายจนล้มป่วยและต้องออกจากการแข่งขันไปอีกคน

เอกวุธแอบรู้ ความจริงที่ว่าภัทร์ธารากับพัตเตอร์เป็นแม่ลูกกันก็เกิดความแค้นที่ถูกทรยศ จึงแอบเอาวิดีโอคำพูดของภัทร์ธารามาเปิดบนเวทีประกวดรอบสุดท้าย ทำให้พัตเตอร์ถึงกับช็อกเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน การแข่งขันพลิกดินสู่ดาวเกือบจะล่มเพราะเหตุการณ์กลับตาลปัตรไปหมด รฎาซึ่งเป็นคู่แข่งคนเดียวของพัตเตอร์ก็ประกาศยอมแพ้เพราะไม่อยากแก่งแย่ง ชิงดีกับใครอีกต่อไป โชคดีที่เตวิชญ์เข้ามาแก้สถานการณ์ไว้ด้วยการขอร้องให้คนดูตัดสินที่การร้อง เพลงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เมธา โปรดิวเซอร์ของรายการตัดสินใจที่จะให้โอกาสเตวิชญ์ได้ร้องเพลงในรอบชิงคู่ กับพัตเตอร์

ถึงแม้เตวิชญ์จะร้องเพลงสู้พัตเตอร์ไม่ได้แต่สามารถ่าย ทอดอารมณ์ความสุขผ่านทางเสียงเพลงได้ดีกว่า จนคนดูประทับใจและกระหน่ำโหวตให้เตวิชญ์เป็นผู้ชนะไปในที่สุด เตวิชญ์รู้ว่าพัตเตอร์ผิดหวังจึงยกสัญญาทำเพลงให้อีกฝ่ายเป็นการตอบแทน พัตเตอร์ซึ้งใจมากและเริ่มสำนึกผิดในสิ่งไม่ดีที่ทำเอาไว้ หลังจากจบการแข่งขันพัตเตอร์กลับไปคืนดีกับภัทร์ธารา ส่วนเอกวุธก็เสื่อมเสียชื่อเสียงจาการมีความสัมพันธ์กับจีจี้จนเป็นข่าวอื้อ ฉาว ในขณะที่หนุ่มสาวทั้ง 8 ก็ปรับความเข้าใจกันได้ และจับมือกันสร้างบ้านดาวขึ้นมาเป็นของตนเอง เพื่อให้เป็นโรงเรียนสอนร้องเพลงสำหรับเด็กๆ ที่มีความฝันเช่นพวกตน

ผู้กำกับ : สิทธิวัตร์ ทับแป้น
ผลิตโดย : ดาราวิดิโอ
เขียนบท : ช่างปั้นเรื่อง

รายชื่อนักแสดง พลิกดินสู่ดาว

ศุกลวัฒน์ คณาเรศ รับบท เตวิชญ์
เขมนิจ จามิกรณ์ รับบท รฎา
ธาวิน เยาวพลกุล รับบท ธันวา
อุษามณี ไวทยานนท์ รับบท นับดาว
นวพล ภูวดล รับบท อนุภัทร
มณัญญา ปานหนวดงาม รับบท ส่าหรี
ณัฐนันท์ จันทรเวช รับบท จิรชยา
สมชาย ลีลารักษ์สกุล รับบท ร้อยตะวัน
จันทรนภา เพชรภักดี รับบท ประกายมุก
สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ รับบท ลายไท
อินทิรา เกตุวรสุนทร รับบท ติรกานต์

ปมรักรอยอดีต

ตะวันฉาย ศิมันตรา ทายาทคนเดียวของตระกูลศิมันตรา ที่ร่ำรวยมหาศาล ต้องพักการเรียนต่อในระดับปริญญาเอกและรีบเดินทางจากอังกฤษกลับไทยทันทีที่ รู้ข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุของ บวร , คงเดช และ ณรงค์วิทย์ ซึ่งคือ ปู่ พ่อ และ อาของเขา ตะวันฉายช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น การจัดการเรื่องงานศพผ่านไปอย่างเรียบร้อยด้วยความช่วยเหลือของ ลุงชาญชัย และ แน่แท้ ลูกชายคนเดียวของชาญชัยที่เป็นเพื่อนสนิทและเติบโตมาด้วยกัน ทว่าเมื่อเปิดพินัยกรรม ตะวันฉายยิ่งงงมากขึ้นเมื่อบวรระบุว่าเมื่อท่านจากไปก็ให้จัดการทรัพย์สิน ให้กับบุตรชายทั้งสองคือคงเดช และ ณรงค์วิทย์ แต่ถ้า คงเดช และณรงค์วิทย์เสียชีวิตไปก็ให้แบ่งทรัพย์สินเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน คือให้กับ ตะวันฉาย ศิมันตรา ลูกชายของคงเดช และอีกส่วนให้กับลูกของณรงค์วิทย์ ศิมันตรา และ วรรณา รักบริสุทธิ์ เงื่อนไขในพินัยกรรมบีบให้ชายหนุ่มต้องตามหาลูกของณรงค์วิทย์ผู้เป็นอาซึ่ง เขาไม่เคยรู้มาก่อน เมื่ออยู่กันตามลำพัง ชาญชัยจึงเล่าให้ตะวันฉายและแน่แท้รู้ว่าณรงค์วิทย์ได้วรรณาซึ่งเป็นสาวใช้ ในบ้านเป็นเมียโดยไม่ตั้งใจ และไม่รักเลย ทว่าวรรณานั้นทะเยอทะยานและหาโอกาสจะเป็นสะใภ้คนเล็กของบวรให้ได้

วรรณาอิจฉาคงเดชซึ่งแต่งงานกับ กนกรส จนมีลูกด้วยกันคือตะวันฉาย ปู่บวรทั้งรัก ทั้งหลงหลานชายทำให้กนกรสซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่มีความสุข วรรณานั้นเป็นเด็กสาวบ้านนาที่หัวสูง ช่างฝัน เธอเกลียดการทำนา ดังนั้นพอเริ่มเป็นสาวเธอจึงมากรุงเทพมาทำงานที่บ้านนี้ ไม่นานเธอก็เริ่มมองเห็นทางที่จะสุขสบาย ณรงวิทย์ คือเป้าหมายสำคัญ และเขาก็พลาดจนได้ แม้จะไม่รักแต่เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ บวรรู้ดีว่าลูกชายอึดอัดใจเพราะวรรณาเหิมเกริมและนิสัยไม่ดีหลายอย่าง ท่านจึงต้องช่วยโดยให้ณรงค์วิทย์ไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาจากไปโดยไม่รู้ว่าวรรณาเริ่มตั้งครรภ์ บวรรู้จักวรรณาดีว่า โลภ และ อยากได้เงินมากขนาดไหน ท่านจึงตกลงกับเธอว่าจะให้เงินก้อนหนึ่ง และส่งเงินเพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูลูกทุกเดือนไม่ให้ลำบาก ถ้าวรรณายอมออกไปจากบ้านนี้ บวรสัญญาว่า จะไม่ทิ้งหลานคนนี้เด็ดขาด แต่วรรณาก็ต้องเลี้ยงหลานท่านให้ดีด้วย เงินก้อนใหญ่ทำให้วรรณายอมตกลง เธอมั่นใจว่าถ้าณรงวิทย์กลับมาต้องมาตามเธอกลับไปแน่ๆ บวรมอบให้ชาญชัยญาติสนิทเป็นธุระจัดการเรื่องเงินให้วรรณา

เมื่อณรงค์วิทย์กลับจากต่างประเทศจึงรู้จากบิดาว่าวรรณาหนีตามผู้ชายอื่น ไปนานแล้ว ซึ่งเขาไม่ติดใจออกติดตามแต่อย่างใด ชายหนุ่มทุ่มเทให้กับการทำงาน และมีความสุขดีโดยไม่คิดจะแต่งงานจนกระทั่งเสียชีวิต ชาญชัยให้ข้อมูลบางอย่างกับตะวันฉาย และแน่แท้เพื่อออกตามหาลูกของณรงค์วิทย์ ส่วนวรรณานั้นกลับมาใช้ชีวิตในสลัมเพราะเงินหมด นางอยู่กับ ทอฝัน ลูกสาวคนโต วุ้นเส้น หรือ วริศรา ลูกสาวคนรอง และ เด็กชายลูกชิ้น เด็กทั้งสามรู้ดีว่า วุ้นเส้นกับลูกชิ้นมีพ่อคนเดียวกัน วรรณาไม่เคยพูดถึงพ่อของทอฝันเลย และเวลานี้วรรณามีสามีใหม่อายุคราวลูกอีกคนชื่อ เอก ซึ่งมีอาชีพขี่มอร์เตอร์ไซคล์รับจ้าง ในครอบครัวนี้มีทอฝันคนเดียวที่ขยันทำมาหากิน เธอต้องหาเงินเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง แถมยังต้องหาค่าเทอมให้ลูกชิ้นอีกด้วย เด็กชายสงสารพี่สาวแต่เขาก็ยังเด็กเกินไปกว่าจะช่วยทอฝันได้ วรรณาเองก็เอาแต่เล่นไพ่ ส่วนวุ้นเส้นออกจากโรงเรียนตั้งแต่จบประถมหก เธอทำตัวเป็นสาวเปรี้ยว ใส่สายเดี่ยว นุ่งขาสั้นเดินอวดหนุ่มๆ ตั้งแต่เริ่มสาว ความยากจนทำให้ทอฝันทำได้ทุกอย่าง เธอร้อยมาลัยส่งขายตามสี่แยก หรือถ้าถึงคราวลำบากจริงๆ เธอก็ทำได้กระทั่งแกล้งเดินให้รถชนเพื่อเรียกค่าทำขวัญมาใช้จ่ายในครอบครัว

วันหนึ่งทอฝันต้องใช้วิธีนี้อีกเมื่อต้องหาค่าเทอมให้น้องชายทำให้เธอได้ พบกับตะวันฉายเป็นครั้งแรก ซึ่งชายหนุ่มหยิบเงิน “ทำขวัญ” ให้มากเกินควรแถมยังพูดเหมือนรู้ทันจนทอฝันต้องโวยวายเพื่อดับความอายของตน ทั้งคู่พบกันอีกหลายครั้งแต่ก็ทะเลาะกันตลอดเวลา อีกไม่กี่วันต่อมา แน่แท้ก็ตามวรรณาจนพบ เมื่อรู้เรื่องพินัยกรรมวรรณาก็รีบบอกว่าทอฝันคือลูกของณรงวิทย์ แต่เมื่อรู้ว่าทอฝันคนเดียวที่มีสิทธิในทรัพย์สินวรรณาโวยวายอีก ส่วนทอฝันไม่ยอมไปรับมรดกถ้าต้องทิ้งแม่และน้อง เธอทำให้แน่แท้ประทับใจโดยไม่รู้ตัว เขาพยายามหาทางช่วยเธอโดยบอกว่าพินัยกรรมไม่ได้ห้ามเธอนำเงินมาเลี้ยงแม่และ น้อง ทำให้ทอฝันดีใจมาก ส่วนตะวันฉายไม่ตื่นเต้นอะไรนัก ยิ่งรู้ว่าทายาทอีกคนคือทอฝันเขาก็ยิ่งกลุ้ม แล้ววันที่ตะวันฉายรู้สึกว่าเป็นวันโลกาพินาศก็มาถึง เมื่อ ทอฝันพาแม่และน้องมาคฤหาสน์ “ศิมันตรา” เธอจำเป็นต้องมาเพราะนายเอกสามีคนล่าสุดของวรรณานำบ้านไปจำนองจนถูกไล่ที่ อยู่ ตัวนายเอกหอบเงินหนีหายไป วรรณาแค้นมากแต่ ทอฝัน ศิมันตรา ทำให้นางมีหวังขึ้นมาอีกครั้งตรงข้ามกับทอฝันที่ไม่มีความสุขและปวดหัวกับ วรรณาและวุ้นเส้นที่ใช้เงินมากสุรุ่ยสุร่าย วรรณาหมดไปกับวงไพ่ ส่วนวุ้นเส้นหมดไปกับการแต่งตัว ที่ร้ายคือวุ้นเส้นแสดงออกชัดเจนว่าติดใจตะวันฉาย และทำทุกอย่างโดยไม่อายเพื่อให้ใกล้ชิดกับเขา ทำให้ นกยูง สาวสวยไฮโซ ซึ่งเป็นแฟนของตะวันฉายไม่พอใจมาก ทั้งคู่มีเรื่องตบตีกันบ่อยครั้ง นกยูงพาลไปหมดแม้กระทั่งกับทอฝัน

เมื่อนกยูงร้ายมาทอฝันก็ตอบโต้กลับไปทั้งในมาดนางร้ายและนางเอกที่ฉลาด เชือดเฉือนให้นกยูงได้อายหลายครั้ง ความแค้นและอารมณ์หึงหวงทำให้นกยูงจ้างเอกมาทำร้ายทอฝันแต่แน่แท้มาช่วยไว้ ทัน แม้กระนั้น ทอฝันก็เขียวช้ำอย่างน่าสงสาร ตะวันฉายไม่เชื่อว่าจะมีใครปองร้ายทอฝัน จนทำให้ต้องขัดใจกับแน่แท้ เหตุการณ์วันนั้นทำให้เอกตามเข้ามาอยู่ใน “ศิมันตรา” อีกคน แม้วรรณาจะเกลียดอย่างไรก็ห้ามไม่ได้เพราะเอกรู้ความลับเรื่องทอฝันที่วรรณา เคยเล่าให้ฟัง วันหนึ่งขณะที่ทอฝันเดินเล่นอยู่กับแน่แท้ที่บริเวณสลัมที่เคยอยู่ เธอพบกับ สุภาพสตรีท่าทางดีคนหนึ่งซึ่งเธอมารู้ภายหลังว่าเธอชื่อ เดือน เป็นภรรยาของ มิสเตอร์ จอห์น ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท “ศิมันตรา” เดือนเอ็นดูทอฝันอย่างบอกไม่ถูก ในงานเลี้ยงรับรองจอห์นและเดือน ทอฝัน ไปร่วมงานในฐานะทายาทของ “ศิมันตรา” คนหนึ่ง เธอสวยสง่าจนตะวันฉายตะลึง ส่วนวรรณาซึ่งตามวุ้นเส้นมางานด้วยต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบกับเดือน ตรงข้ามกับเดือนที่ดีใจมากที่พบวรรณา ย้อนไปประมาณยี่สิบปี เดือนและวรรณามาเช่าห้องอยู่ใกล้กันทั้งคู่สนิทสนมกันมาก วรรณานั้นท้องได้ 4-5 เดือน แต่แล้ววันหนึ่งวรรณาลื่นล้มในห้องน้ำ เดือนรีบพาส่งโรงพยาบาล วรรณาแท้งลูก ลูกที่มีณรงค์วิทย์เป็นพ่อ เธอเสียใจมาก ตรงข้ามกับเดือนที่เพิ่งรู้ตัวว่าท้อง เธอดีใจมากแม้พ่อของลูกจะทอดทิ้งเธอไปแล้วก็ตาม เดือนปลอบวรรณาว่า ลูกของเธอก็เป็นลูกของวรรณาด้วย โดยไม่รู้ว่าคำปลอบโยนของเธอทำให้วรรณา วางแผนร้ายทันที ตราบใดที่เธอมีทายาทของ “ศิมันตรา” อยู่ เธอต้องสุขสบายในสักวัน

ดังนั้นเมื่อเดือนคลอดได้ไม่กี่วัน วรรณาจึงขโมยเด็กน้อยนั้นมาเตรียมอุปโลกน์เป็นลูกของณรงค์วิทย์ ซึ่งเด็กคนนั้นคือทอฝันนั่นเอง ความลับเรื่องนี้เอกรู้ดี วรรณาจึงกำจัด เอกไปไม่ได้ เมื่อพบกับเดือน วรรณารู้ว่าเดือนต้องมาตามลูกคืนแน่นอน ความโลภของทั้งเอกและวรรณาทำให้ส่งวุ้นเส้นไปแทน และ จำเป็นต้องเล่าให้วุ้นเส้นรู้เรื่องด้วย เรื่องวุ่นวายมากขึ้นเมื่อตะวันฉายและนกยูงต้องการที่ดินบริเวณสลัมที่ทอฝัน เคยอยู่มาสร้างเป็น ศูนย์การค้า ทอฝันซึ่งมีสิทธิในที่ดินผืนนี้ด้วยไม่ยอม เธอผูกพันกับที่นี่มาก เธอเกิดและโตที่นี่ เป็นครูอาสายามว่าง เธอลำบากมามากทำให้รู้ดีว่าชีวิตในสลัมหรือชุมชนแออัดต้องดิ้นรนเพียงใด ถ้าต้องมาอพยพไร้ที่อยู่อีกจะลำบากที่สุด เธอทำร้ายพวกเขาไม่ลง นกยูงให้ตะวันฉายจ่ายเงินค่าโอนกรรมสิทธิ์กับ ทอฝันเป็นสิบล้าน แต่เธอกลับฉีกเช็คใบนั้นทิ้ง และทะเลาะกับตะวันฉายอีกจนได้ เมื่อทอฝันไม่ยอม นกยูงจึงจ้างเอก ซึ่งนกยูงรู้แล้วว่าเขาคือสามีวรรณาให้ไปบอกวรรณาให้บังคับทอฝันให้ได้ โดยเธอจะจ่ายเงินก้อนโตให้ เมื่อวรรณารู้เรื่องจึงไปบังคับทอฝันให้เซ็นเอกสาร เมื่อทอฝันไม่ยอมวรรณาก็ตบตีจนทอฝัน บาดเจ็บจนเธอต้องยอมเซ็นทั้งน้ำตา ตะวันฉายซึ่งกลับมาพอดีจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขานึกสงสารทอฝันเป็นครั้งแรก ทว่าเพียงวันรุ่งขึ้นวรรณาก็ทำให้ตะวันฉายเข้าใจทอฝันผิด เมื่อนางเข้ามาขอเงินเป็นค่าที่ดินโดยอ้างชื่อทอฝัน ซึ่งเขาก็ยอมพลางนึกดูถูกทอฝัน ความโลภและใจร้อนของนกยูงทำให้เรื่องเลวร้ายลงเมื่อเธอไปจ้างเอกให้ไปวาง เพลิงเผาไล่ที่ชาวสลัม ทอฝันโกรธมากต่อว่าตะวันฉายรุนแรง ขณะที่แน่แท้พยายามบอกว่าตะวันฉายเปลี่ยนใจไม่ซื้อที่ดินแล้วแต่เธอก็ไม่ เชื่อ ส่วนตะวันฉายทั้งเสียใจและน้อยใจทอฝันอย่างบอกไม่ถูก เขาวิ่งฝ่ากองไฟเข้าไปช่วยชาวบ้านขนของและช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งจนตัวเองต้องบาดเจ็บ

ตะวันฉาย พิสูจน์ตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้องกับการวางเพลิงจนทอฝันเห็นใจ เธอหาโอกาสจะขอโทษเขา แต่ตะวันฉายบอบช้ำทั้งกายและใจจนไม่เปิดโอกาสให้เธอเลย วันรุ่งขึ้นนกยูงมาพบตะวันฉายอย่างปลื้มใจในความสำเร็จ ทว่ากลับโดนตะวันฉายต่อว่ารุนแรง เขาพูดชัดเจนว่าเลิกคบกับเธอเด็ดขาด นกยูงกลับไปอย่างโกรธจัด ไม่นานนักตะวันฉายก็ต้องปวดหัวเมื่อกลุ่มชาวบ้านรวมตัวมาประท้วงอยู่หน้า บริษัท เขาพยายามชี้แจงและเสนอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครเชื่อ ก่อนที่เหตุการณ์จะรุนแรงกว่านี้ ทอฝันเข้ามาช่วยเจรจา เธอยืนยันว่า ตะวันฉายไม่เกี่ยวข้องและสำหรับเธอแล้วแม้จะเป็นทายาทของ “ศิมันตรา” แต่เธอก็ไม่คิดทำลายบ้านเกิดตัวเอง เธอพูดชัดเจนว่าเธอเป็นลูกของวรรณาและเคยอยู่ที่นั่นจนชาวบ้านจำได้ ทอฝันเล่าให้ชาวบ้านฟังว่า ตะวันฉายได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้ด้วย ถ้าเขาเป็นตัวการจะไปช่วยจนต้องบาดเจ็บทำไม ทอฝันคว้ามือของตะวันฉายที่โดนไฟลวกจนผิวแดงบวมอักเสบรุนแรงให้ชาวบ้านดู เธอพูดหนักแน่นว่าเธอและตะวันฉายจะช่วยปรับปรุงที่อยู่ สร้างบ้านให้ใหม่ และตอนนี้เธอได้ส่งพนักงานบริษัทนำสิ่งของไปช่วยเหลือแล้ว ตะวันฉายแทบไม่เชื่อตาเมื่อกลุ่มชาวบ้านยอมสลายตัว และเริ่มมีความรู้สึกที่ดีให้ทอฝัน เขายอมให้เธอพาเขาไปทำแผลที่โรงพยาบาล ทอฝันดูแลเขาอย่างอ่อนโยนและจริงใจ นับจากวันนั้นทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ตะวันฉายเริ่มมีความรู้สึกที่ดีให้ทอฝัน ทั้งคู่รักกันโดยไม่รู้ตัว แน่แท้ซึ่งแอบรักทอฝันอยู่เฝ้ามองอย่างไม่สบายใจ ตะวันฉายเหมือนจะลืมไปว่าทอฝันเป็นน้องสาว

ส่วนทอฝันเองแม้จะบอกตัวเองอยู่ทุกวันว่าเธอรักเขามากไปกว่าพี่ชายไม่ได้ แต่สายเกินไป เธอรักเขามากเหลือเกิน วันหนึ่งทอฝันจะออกไปซื้อของ ตะวันฉายจะตามไปด้วย ทอฝันเลยแกล้งเขาโดยการพาไปบางลำพู ตั้งใจจะให้เขาลำบาก เหนื่อย ร้อน จนกลับไปเอง แต่กลายเป็นว่าเขาสนุกกับการช้อปปิ้งสินค้าราคาถูกมาก ขณะกำลังเดินซื้อของ ทอฝันหยุดดูสร้อยเงินเส้นบางสวยคล้องจี้รูปดอกไม้อย่างพอใจแต่ไม่ซื้อจน ตะวันฉายแกล้งยั่วว่าเธอต้องการให้เขาซื้อให้เหมือนพระเอกหนังไทย ทอฝันงอนเดินหนีทันที จนชายหนุ่มต้องตามง้ออย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาพาเธอไปดื่มกาแฟที่ร้านเล็กๆ น่ารักแห่งหนึ่ง ตะวันฉายสั่งขนมอร่อยๆ มาให้เธอ เขาอ่อนโยนกับเธอมากจน ทอฝันใจสั่นเธอต้องคอยเตือนตัวเองว่าเขาเป็นพี่ชาย ตะวันฉายกำลังมีความสุข จู่ๆ แน่แท้ก็เดินเข้ามา ทอฝันขอตัวไปห้องน้ำ แน่แท้จึงขอให้ตะวันฉายช่วยเรื่องทอฝัน เขารักทอฝันและเตรียมแหวนมาแล้วด้วย แน่แท้หยิบกล่องแหวนมาเปิดอวดตะวันฉาย ชายหนุ่มบอกไม่ถูกว่าทำไมต้องเสียใจและเจ็บปวดอย่างนี้ เขาไม่อยากให้ทอฝันรักแน่แท้ และทนไม่ได้ที่จะเสียเธอไป ตะวันฉายพรวดพราดออกไปจากร้านทันที เมื่อ ทอฝันกลับมาที่โต๊ะ แน่แท้บอกว่าตะวันฉายมีงานด่วน ขณะที่ทอฝันโกรธที่เขาทิ้งเธอไปง่ายๆ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อแน่แท้สารภาพรักกับเธอ ทอฝันเข้าใจว่าตะวันฉายหลอกเธอมาที่ร้านนี้และจัดฉากให้แน่แท้ ได้อยู่กับเธอตามลำพัง ทอฝันข่มใจค่อยๆ ปฏิเสธแน่แท้อย่างอ่อนหวานว่าสำหรับเธอแล้วเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดและคง เป็นไปมากกว่านี้ไม่ได้ แน่แท้ผิดหวังแต่ก็ต้องทำใจ เขารู้ว่าทอฝันกับตะวันฉายรักกัน แต่พี่กับน้องจะแต่งงานกันได้อย่างไร ค่ำมากแล้วเมื่อแน่แท้พาทอฝันมาส่ง ตะวันฉายพาลหาเรื่องด้วยความหวง ทอฝันก็ยิ่งยั่วโมโห เธอเองก็โกรธเขาเหมือนกัน ทั้งคู่กลับมาเป็นคู่กัดอีกครั้ง คู่กัดที่แน่แท้มองออกว่าเหมือนเป็นคู่รักมากกว่า ดึกมากแล้วเมื่อตะวันฉายมาเคาะประตูห้องนอนทอฝัน เขาส่งถุงของที่ซื้อเมื่อตอนกลางวันให้เธอและเหน็บแนมว่าเธอคงมีความสุขมาก ที่มีชายหนุ่มที่แสนดีอย่างแน่แท้มาสารภาพรัก

ตะวันฉายขอดูแหวนหมั้น ทำให้ทอฝันเข้าใจผิดมากขึ้นว่าเขารู้เห็นเป็นใจกับแน่แท้ เธอเสียใจอย่างบอกไม่ถูกจึงประชดเขาว่าตะวันฉายเต็มใจยัดเยียดเธอให้เพื่อน รักเหลือเกิน น่าจะพาเธอไปส่งให้แน่แท้ถึงห้องนอน ทอฝันตกใจเมื่อตะวันฉายพูดแค้นๆ ว่าเขาจะตามใจเธอ ตะวันฉายฉวยข้อมือเธอลากออกมาจากห้องอย่างแรง เขาฉุดเธอไปตามทางเดินด้วยท่าทางเอาจริง ทอฝันขัดขืนและพยายามดิ้นหนีสุดฤทธิ์ เธอต้องตกใจอีกครั้งเมื่อตะวันฉายหันกลับมารวบตัวเธอกอดไว้แน่นและจูบเธอ อย่างอ่อนหวาน ตะวันฉาย กระซิบเบาๆ ว่าเขารักเธอ อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาทำให้ทอฝันมีความสุขมากรู้สึกราวกับฝันไป แต่เมื่อได้สติเธอผลักเขาออกอย่างแรง ทอฝันตบหน้าตะวันฉายอย่างแรง เธอบอกเขาทั้งน้ำตาว่าเธอเป็นน้องสาว ไม่ใช่คนรักและคงเป็นไปไม่ได้ตลอดไป ทอฝันวิ่งหนีกลับเข้าห้องไปร้องไห้อีกนาน ส่วนตะวันฉายเองก็เดินคอตกกลับห้องเช่นกัน ทั้งคู่ไม่รู้ว่าวรรณาซึ่งเพิ่งกลับมาจากเล่นไพ่ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด นางไปเล่าให้ลูกสาวฟังที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง วุ้นเส้นกรี๊ดอาละวาดลืมมาดคุณหนูลูกคุณเดือนทันที สองแม่ลูก วางแผนกำจัดทอฝันโดยไม่ทันระวังว่าจะมีใครได้ยิน นกยูงซึ่งบังเอิญนั่งอยู่ใกล้ที่สุดจึงรู้เรื่องทั้งหมด รวมถึงเรื่องที่ทอฝันไม่ใช่ลูกของวรรณาแต่เป็นลูกของเดือนอีกด้วย อารามตื่นเต้นจะไปบอกตะวันฉาย นกยูงพรวดพราดออกจากร้านจนสองแม่ลูกเห็นจนได้ ดังนั้นเธอจึงเป็นเป้าหมายแรกแทนทอฝัน นกยูงโดนเอกลูกน้องทรยศจับตัวไป และวุ้นเส้นยิงเธอตายอย่างเลือดเย็นต่อหน้าวรรณาและเอก การตายของนกยูงทำให้ตะวันฉายและทอฝันใกล้ชิดกันอีกครั้ง แผนกำจัดทอฝันดำเนินต่อไปทันที ทอฝันถูกหลอกไปเพื่อฆ่าทิ้งแต่ ตะวันฉายตามไปช่วยจนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เอกกำลังจะยิงทอฝันแต่บังเอิญมีรถผ่านมา ทอฝันวิ่งไปขอความช่วยเหลือทันที เอกจึงต้องหนีไป พลเมืองดีพาทอฝันและตะวันฉายไปโรงพยาบาล ทอฝันกอดเขาไว้แน่น เธอร้องไห้ตลอดทางรู้ซึ้งแก่ใจว่าเธอรักเขามากแค่ไหน

ระหว่างที่เขาพักฟื้นหลัง ผ่าตัดเอากระสุนออก ทอฝันเฝ้าดูแลเขาไม่ห่าง กรรมตามสนองวุ้นเส้นเมื่อเอกมาขอค่าจ้างแล้วเธอไม่ให้ เอกจึงข่มขืนเธอและถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อขู่ไถเงิน เมื่อเอกไปแล้ววุ้นเส้นจึงเล่าให้วรรณาฟัง สองแม่ลูกแค้นใจมาก คืนนั้นวรรณาพยายามลบคลิปของลูกสาวจากโทรศัพท์มือถือของเอกแต่ไม่สำเร็จเอก เห็นพอดี เขาพยายามบีบคอฆ่านาง แต่วรรณาหนีกระเสือกกระสนออกมาจากห้องแต่ไม่พ้นเงื้อมมือของเอก เขาผลักนางตกบันไดอย่างเหี้ยมเกรียม เสียงร้องของวรรณาทำให้ทุกคนในบ้านออกมาดู เอกหนีไปได้ส่วน วรรณาบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นความจำเสื่อม ทอฝันเสียใจมาก เธอดูแลวรรณาและลูกชิ้นอย่างดีที่สุด โดยมีตะวันฉายเป็นกำลังใจ หนุ่มสาวทั้งคู่สุขใจลึกๆ แต่ต้องทรมานกับความจริงที่เขาและเธอเป็นพี่น้องกัน แน่แท้จึงเตือนสติเพื่อนรักและแนะนำให้เขากลับไปเรียนต่อ ตะวันฉายยอมตกลงทั้งที่ใจทรมานที่สุด ก่อนจากไปเขาให้สร้อยเงินเส้นที่ทอฝันชอบ เขาให้เธอเก็บไว้เป็นที่ระลึกแทนตัวเขา ตะวันฉายบอกเธอเพียงว่าเขาต้องไปติดต่องานที่ต่างประเทศ โดยไม่บอกว่านานเพียงใด ตะวันฉายไปไม่นานวุ้นเส้นนัดเอกมาเพื่อจ่ายเงินแลกคลิปวิดีโอ เอกหลุดปากเรื่องทำร้ายวรรณาเพื่อขู่ไม่ให้วุ้นเส้นทรยศ เอกยังต้องการเงินจากเธออีกมาก ทว่าวุ้นเส้นโกรธจนลืมตัวเมื่อรู้ว่าเอกทำร้ายมารดา ทั้งที่จริงเธอต้องการฆ่าเอกอยู่แล้ว ความแค้นจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ วุ้นเส้นฉวยโอกาสที่เอกเผลอหยิบปืนออกมา แต่เอกเข้าแย่งทันที เขาพลาดจึงโดนวุ้นเส้นกระหน่ำยิงจนตาย วุ้นเส้นตกใจจนเสียสติ ตำรวจพยายามติดต่อทอฝัน แต่ กลายเป็นแน่แท้ที่รู้เรื่องก่อน เขาไปพบวุ้นเส้นที่โรงพัก หญิงสาวพร่ำเพ้อไม่ได้สติเข้าใจว่าแน่แท้คือตะวันฉาย เธอจึงบอกความจริงเรื่องทอฝันเป็นลูกของเดือน แน่แท้ไม่ค่อยเชื่อนัก เขายังไม่ทันบอกทอฝัน วรรณาก็สารภาพเสียเองเมื่อเดือนรีบเดินทางกลับจากอังกฤษมาเยี่ยมนางและวุ้น เส้น เดือน ทอฝัน และแน่แท้อยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อตำรวจเข้ามาจับวรรณาในข้อหาร่วมมือฆ่านกยูง

ทอฝันทนไม่ได้เธอไม่ยอม และพยายามช่วยทุกทางโดยอ้างว่าวรรณาได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่างรักษาตัว ตำรวจจึงสวมกุญแจมือนางล็อคไว้กับเตียงกันหนี เมื่อตำรวจไปแล้ว วรรณายอมแพ้ในความดีของทอฝันจึงเล่าความจริงทั้งหมด นางย้ำว่านางแท้งลูกของณรงค์วิทย์ไปแล้ว และขโมยทอฝันมาจากเดือนเพื่อเตรียมรับมรดกของศิมันตรา วรรณายืนยันว่าทอฝันคือลูกสาวของเดือน ส่วนวุ้นเส้นเป็นลูกสาวของนางเอง เดือนดีใจมากที่ได้ลูกของเธอจริงๆ กลับคืนมา ที่จริงแล้วเธอเอ็นดู และรู้สึกผูกพันกับทอฝันมากกว่าวุ้นเส้นเสียอีก ในช่วงเวลาของความยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้ทอฝันน้อยใจที่ตะวันฉายไม่กลับมาช่วย เขาใจร้ายใจดำทิ้งเธอไปได้จริงๆ ทอฝันคิดถึงตะวันฉายมากและพยายามตัดใจจากเขา แน่แท้จึงสารภาพว่าเขาเองที่แนะนำให้ตะวันฉายจากไป แต่ก็ไม่ทำให้ทอฝันรู้สึกดีขึ้น เธอตัดสินใจไปอยู่ที่อังกฤษกับเดือนโดยพาลูกชิ้นไปด้วย ก่อนเดินทางทอฝันและเดือนไปเยี่ยมและลาวรรณาที่เรือนจำ โดยบอกว่าจะพาลูกชิ้นไปอังกฤษด้วย วรรณาฝากดูแลวุ้นเส้นที่ตกใจจนเสียสติ ถูกส่งไปรักษาตัวที่ศรีธัญญาด้วยทอฝันรับปากอย่างเต็มใจ เมื่อถึงวันเดินทางแน่แท้ขับรถมารับทุกคนที่ศิมันตรา เพื่อไปสนามบิน ทอฝันมอง “ศิมันตรา” อย่างใจหายที่จะจากไป เธอคิดถึงตะวันฉายมากได้แต่ลาและตัดพ้อเขาในใจ เธอไม่หวังว่าจะได้พบกับเขาอีก ทอฝันเดินขึ้นเครื่องอย่างใจลอย พนักงานต้อนรับพาเธอไปนั่งข้างชายคนหนึ่ง ขณะที่เดือนนั่งคู่กับลูกชิ้น ทอฝันนั่งหลับตาเพราะไม่อยากพูดกับใคร เธออยากให้ตะวันฉายอยู่ด้วยเหลือเกิน เครื่องขึ้นได้ไม่นานนักก็ตกหลุมอากาศ ทอฝันตกใจมากผวากอดชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ อย่างไม่รู้ตัว เมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ ทอฝันอายจนหน้าแดงเธอพึมพำขอโทษเขา แต่ชายหนุ่มกลับกอดเธอแน่นและบอกว่าเขาไม่ยอมรับคำขอโทษนั้นจนกว่าเธอจะ บอกว่ารักเขา เสียงเขาเหมือนตะวันฉายมาก ทอฝันผลักเขาออกเต็มแรงและมองเขาเต็มตา เธอยิ้มอย่างดีใจที่ชายคนนั้นคือตะวันฉายจริงๆ ชายหนุ่มกอดเธออย่างแสนรักอีกครั้งก่อนจะสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายของ เธอ เขายกมือเธอขึ้นมาจูบอีกครั้งแววตาตะวันฉายเป็นประกายพราวเมื่อบอกทอฝันว่า เธอต้องอยู่กับเขาที่ “ศิมันตรา” ไปตลอดชีวิต ทอฝันซุกตัวกอดเขาแน่นพึมพำเบาๆ ว่าเธอก็ไม่ยอมให้เขาจากเธอไปอีกเช่นกัน

 นักแสดง ปมรักรอยอดีต

ธาวิน เยาวพลกุล แสดงเป็น ตะวันฉาย ศิมันตรา

อุษามณี ไวทยานนท์ แสดงเป็น ทอฝัน ศิมันตรา

ไปรยา สวนดอกไม้  แสดงเป็น นกยูง

เทพบุตรมายา เทพธิดาจำแลง

รามิล หนุ่มหล่อมาก เนื้อหอมมาก ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีเพราะมรดกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ พ่อแม่ของรามิลเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแต่แม่แก้วหรือคุณแก้วอังกาบ แม่เลี้ยงสุดแสนดีผู้เป็นน้าแท้ๆ ของเขา รามิลใช้ชีวิตเพลย์บอยเต็มที่กับสาวสวยมีระดับทั้งสิ้น ข้อตกลงของเขากับสาวทุกคนคือ คบกันเท่าที่พอใจไม่ผูกพัน และไม่ล่วงล้ำเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ขาประจำล่าสุดของเขา คืออัจฉราวดี นางแบบและดาราสาวสวยเฉี่ยวเปรี้ยว ผู้หมายมาดจะจับเขาให้ได้

แล้ววัน หนึ่งรามิลแทบเป็นบ้าเมื่อแม่แก้วบอกว่า ราเมศวร์ พ่อเขาตกลงหมั้นลูกสาวของภาคินัย เพื่อนรักไว้ให้เขาก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต และคู่หมั้นของเขาคือ ภัครมัย หรือมัดไหม เด็กหญิงที่รามิลเห็นแค่ตอนเด็ก ๆ และไม่เคยเห็นกันอีกเลย แต่เขาจำความซน เฮี้ยว และแสบสุดขั้นของเธอได้ไม่มีวันลืม เธอเคยแกล้งเขาสารพัดรูปแบบจนเขาขยาดและเกลียดขี้หน้าเธอมาก ตั้งฉายาเธอว่าเด็กนรก และที่เจ็บใจคือ รามิลชอบผู้หญิงสวย แต่ ด็กหญิงมัดไหมหน้าตาไม่เอาไหน แถมยังสวมแว่นสายตาหนาเตอะ รูปร่างผอมเหมือนเสาโทรเลข อีกอย่างที่รามิลจำได้คือบ้านเธอมีไร่ชื่อมนตรา มีคอกม้าที่ไร่ และมัดไหมรักม้ามาก

รามิลโวยกับแม่แก้วว่าเขาไม่มี วันแต่งงานกับมัดไหม แต่ถึงกับอึ้งเมื่อแม่แก้วบอกว่าพ่อของเขาและมัดไหมมีเงื่อนไขว่าเมื่อรับ รู้เรื่องหมั้นแล้วรามิลกับมัดไหมต้องแต่งงานกันภายในสามเดือน และถ้ารามิลไม่แต่งงานกับมัดไหมหรือแต่งแล้วอยู่กันไม่ถึงปีเขาต้องยกเงินสด ทั้งหมดที่มีให้มัดไหม ฝ่ายมัดไหมก็เช่นกัน และรามิลอยากตายลงไปเลยเมื่อแม่แก้วบอกว่าทางมัดไหมตอบตกลงจะแต่งงานกับเขา แล้วรามิลตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันแต่งงานกับมัดไหม และก็จะไม่ยอมสูญเสียเงินทั้งหมดให้เธอด้วยเขาจะทำ ให้เธอเป็นฝ่ายปฏิเสธเขา

รา มิลไปหามัดไหม ภาพแรกที่ทำให้เขาถึงตะลึงคือหญิงสาวร่างระหงสวยไม่มีที่ติอยู่บนหลังม้าที่ วิ่งอย่างสง่างาม เธอคือภัครมัยหรือมัดไหม แต่เธอมีแผนอยู่แล้วที่จะแกล้งปั่นหัวเขา เธอจึงบอกว่าเธอไม่ใช่มัดไหมคู่หมั้นของเขา แต่บังเอิญชื่อมัดไหมเหมือนกัน เพียงแต่เธอมีฐานะเป็นคนรับใช้ของมัดไหมคู่หมั้นเขา รามิล เห็นหน้าตาผิวพรรณและเสื้อผ้าราคาแพงของต่างประเทศที่เธอสวมอยู่แล้วไม่อยาก เชื่อเลยว่ามาดอย่างเธอจะเป็นคนรับใช้ แต่อะไรดลใจให้เขาเชื่อไปก็ไม่รู้

และ มัดไหมคนนี้ก็ปากจัดใช่ย่อยไม่ยอมลงให้เขาด้วย เพียงแรกเจอกันเธอก็กัดเขาสะตั้งตัวไม่ติด เป็นสาวใช้บรรดาศักดิ์จริง ๆ กล้ากัดกระทั่งคู่หมั้นของเจ้านาย รามิลแปลกใจว่าเธอรู้รายละเอียดของเขาและคู่หมั้นราวกับเธอคือภัครมัยซะเอง แต่มัดไหมก็เอาตัวรอดไปได้อย่างชาญฉลาด รามิลหัวเสียกลับไป มัดไหมขำกลิ้งกับ ติ๋ม สาวใช้ตัวจริง ติ๋มไม่อยากให้มัดไหมแกล้งรามิล แต่มัดไหมบอกว่าผู้ชายเจ้าชู้เสเพลอย่างรามิลต้องให้บทเรียนแสบ ๆ ซะบ้าง ไม่งั้นจะคิดว่าอะไร ๆโดยเฉพาะผู้หญิง ง่ายไปซะหมด

รามิลไปปรับทุกข์ กับดนุพันธ์ เพื่อนรักของเขา ดนุพันธ์ขำว่ารามิลถูกพ่อดัดหลัง แต่ดนุพันธ์เองก็ ปวดเศียรกับความรักที่ยังไม่มีท่าจะสมหวังของตัวเอง เขาจีบ นาตาชา น้องสาวของรามิลอยู่ และนาตาชายังไม่ยอมรับรักเขา แถมความรักของเขายังมีมารผจญอีกคือ พิมมาดา ที่ตามตื้อเขาจนนาตาชาไม่ไว้วางใจเขา ว่าเขาเจ้าชู้เหมือนรามิล ส่วนนาตาชาก็มีอภิชาติ เจ้าของนิตยสารชั้นนำ ที่เธอเป็นตากล้องให้อยู่ตามจีบ และดนุพันธ์หึงแทบหน้ามืดตาลาย นาตาชาเป็นเพื่อนรักของมัดไหม แสบพอ ๆ กับมัดไหม มัดไหมเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนาน และเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของปารีส เคยขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของโลกมาแล้ว เธอใช้ชื่อว่า แม็ตตี้ นาตาชาขอให้มัดไหมถ่ายแบบและเป็นปกให้นิตยสารของเธอ มัดไหมตกลง แต่ขอแต่งตัวแต่งหน้าแบบแฟนซีแปลก ๆ

รามิลฮึดกลับไปหามัดไหมอีก เขาไปจ้างให้มัดไหมเป็นแฟนเป็นเวลาสามเดือน รามิลกะยิงนกสองตัวด้วยกระสุนนัดเดียว คือทั้งตัดคู่หมั้นที่เขาแสนเกลียด และตัดอัจฉราวดีที่เขารู้สึกว่าเริ่มรุกรานเขา และจะจับเขาจริง ๆ จัง ๆ เขาจะจ่ายค่าจ้างมัดไหมหนึ่งหมื่นเพราะประเมินว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้ แต่มัดไหมเรียกหนึ่งล้าน รามิลต้องยอมจ่าย มัดไหมเรียกเงินล่วงหน้าห้าแสนบาท รามิลนัดกับมัดไหมกินอาหารมื้อค่ำเพื่อปล่อยข่าวเธอเป็นแฟนคนใหม่ของเขา เขาพาเธอไปที่ร้านของ พลอยไพลิน เพื่อนรักของ อัจฉราวดี กะให้พลอยไพลินเห็นเต็ม ๆ ว่าเขามีแฟนใหม่ และเพราะที่ร้านของพลอยไพลินมักมีนักข่าวไปนั่งหาข่าวเป็นประจำด้วย มัดไหมแต่งชุดราตรี สวยจนรามิลตะลึง และเมื่อไปถึงร้านก็โดนพลอยไพลินเสียดสีขบกัด มัดไหมบอกรามิลว่าพลอยไพลินชอบรามิล ที่เธอกัดนั่นเพราะความหึง รามิลไม่เชื่อ พลอยไพลินโทรฟ้องอัจฉราวดี รุ่งขึ้นอัจฉราวดีไปหารามิลถึงบริษัท รามิลเฉย ๆ กับเธอ อัจฉราวดีอาฆาต บอกตัวเองว่าจะทำให้รามิลเจ็บจำไปจนตาย

รามิลนัดพามัดไหมไปงานกาลา ดินเนอร์ วันที่ไปรับมัดไหม เขาเห็นหญิงสาวรูปร่างแบบเดียวกับมัดไหมยืนหันหลังสั่งงานอยู่ เขาเรียกแต่เธอคนนั้นไม่หันมา จนกระทั่งอัคนีหัวหน้าคนงานบอกเธอจึงหันหาเขา รามิลตกใจหน้าเธอเป็นแผลเป็นเละจนเหมือนหน้าผี เมื่อพูดกัน รามิลจึงรู้ว่าเธอคือภัครมัยคู่หมั้นของเขารามิลลืมความเกลียดชัง เขาสงสารเธอมาก ยิ่งภัครมัยมีทีท่าเจียมตัว และพูดทำนองว่าเขาโชคร้ายที่จะต้องเป็นคู่หมั้นหญิงหน้าตาอย่างเธอ รามิลยิ่งสงสารจนพูดแทบไม่ออก เขาพูดอ่อนโยนแสดงความเห็นใจเธอ แทนตัวเองว่าพี่ เรียกเธอว่าน้อง เหมือนที่เคยเป็นเมื่อตอนเด็ก ๆ มัดไหม หน้าผีเข้าบ้านไปหัวเราะกับติ๋มแทบตายว่ารามิลมีตาแต่หามีแววไม่ บอกอะไรก็เชื่อหมด ติ๋มเห็นใจรามิลมาก ให้มัดไหมเลิกเล่นตลกและบอกความจริงรามิล แต่มัดไหมบอกว่าเธอยังสนุกอยู่

มัด ไหมแกะหน้าผีแล้วออกไปต้อนรับรามิลในฐานะมัดไหมสาวใช้ อัจฉราวดียังตามตื้อสม่ำเสมอ จนวันหนึ่งเจอกับมัดไหมและนาตาชา เมื่อเธอพารามิลไปที่ห้องเสื้อของ ยังโซน หรือวายซี ดีไซเนอร์มือใหม่ของไทยที่ไปโด่งดังมากในต่างประเทศ และอัจฉราวดีอยากเป็นนางแบบให้วายซีมาก รามิลเห็นมัดไหมในร้านอาหารอิตาเลียน เขานึกว่าเธอมากับหนุ่ม ไม่รู้ตัวเลยว่าฤทธิ์หึงขึ้นหน้า เขาไปกระชากตัวเธอ มัดไหมเพิ่งเสร็จจากการถ่ายแบบ และยังไม่ได้ถอดคอนแทกเลนซ์สีฟ้าออก เธอเลยทำตัวเป็นแม็ตตี้ พูดไทยไม่ชัดกับเขา รามิลมีทีท่าไม่เชื่อ แต่นาตาชาออกมาช่วยมัดไหมไว้ทัน อัจฉราวดีมาที่กลุ่ม เมื่อเห็นมัดไหมเธอตื่นเต้นมากว่าได้สัมผัสตัวจริงของนางแบบโลก เธอทักมัดไหมว่าแม็ตตี้ รามิลจึงสงบได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ค่อยเชื่อสนิทใจว่ามัดไหมกับแม็ตตี้เป็นคนละคนกัน

อัจฉรา วดีพูดจาไม่เข้าหูนาตาชาเลยโดนนาตาชาด่าไป มัดไหมรู้ว่ารามิลต้องตามเรื่องถึงที่สุดเลยรีบกลับบ้าน แล้วให้ติ๋มสวมหน้ากากหน้าเละเป็นภัครมัยป่วยแล้วเธอดูแล รามิลตามมาถึงบ้านจริง ๆ และเมื่อเห็นภัครมัยปลอมอยู่กับมัดไหมเขาเลยเลิกสงสัย และสงสารภัครมัยหน้าผีขึ้นมาอีก เขาบอกมัดไหมให้บอกภัครมัยว่าคราวต่อ ๆ ไปที่เจอเขาไม่ต้องสวมฮู้ดปกปิดหน้าผี มัดไหมชื่นชมรามิลขึ้นมาหน่อย

รา มิลพามัดไหมไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ คือแม่แก้ว คุณพิศมัย หรือย่าน้อย คุณอุมาพร กับคุณอรรุจิ พี่น้องฝาแฝดผู้พูดกันคำทะเลาะกันสามคำ แต่รักกันมาก ทั้งสี่ท่านทราบความจริงแล้วว่ามัดไหมเป็นใครจึงพยายามร้ายเต็มที่ ถล่มใส่มัดไหมเต็มที่ แล้วต่างลุกไปโดยที่มัดไหมยังไม่ทันได้กราบ มัดไหมน้อยใจมาก เธอไม่รู้เลยว่านี่คือแผนซ้อนแผนของนาตาชากับแม่แก้ว เธอจำต้องค้างที่บ้านสวนตามคำสั่งของรามิล มัดไหมยังเผชิญแผนการดูถูกและกลั่นแกล้งของญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่ของรามิล อัจฉราวดีตามตื้อรามิลทุกวันและไม่รู้ตัวเลยว่าถูกผู้ใหญ่ทั้งสี่ใช้เป็น เครื่องมือทดสอบความรักของรามิลกับมัดไหม

มัดไหมไม่กล้ายอมรับว่าทุก คำพูดและทุกอาการที่เธอแสดงออกต่อรามิลนั้น เกิดจากความหึงหวง รามิลเองก็ไม่อยากยอมรับเหมือนกันว่าความฉุนเฉียวทุกวันของเขาเกิดจากความ รักมัดไหมสาวใช้คนนี้ ความที่รามิลรักมัดไหม และไม่อยากให้เธอจากไปทำให้เขาตัดสินใจพูดกับเธอว่าเขาคงต้องยอมแต่งงานกับ ผู้หญิงที่มีชาติตระกูลตามที่ญาติผู้ใหญ่เห็นสมควร แต่ถ้าเธอไม่รังเกียจเขาจะขอพาเธอหลบไปอยู่ด้วยกันเงียบ ๆ ณ ที่ห่างไกลผู้คน จะรักและทะนุถนอมเธอไม่ให้เธอลำบากไปชั่วชีวิต มัดไหมโกรธ นั่นหมายถึงว่าเธอต้องเป็นเมียน้อย เธอตบหน้ารามิล

ขณะที่มัดไหม กำลังเก็บ เสื้อผ้าจะหนีไปจากบ้านสวน อัจฉราวดีเข้ามาตอกย้ำความเจ็บปวดของเธออีกด้วยทีท่าสงบเสงี่ยมเป็นมิตร อัจฉราวดีบอกว่ารามิลเล่าทุกอย่างให้ฟังหมดแล้วว่ามัดไหมรับจ้างเป็นแฟนของ รามิลด้วยค่าจ้างล้านบาท และเมื่อเธอเห็นว่ารามิลเป็นฝ่ายเลิกสัญญาก่อนกำหนดเธอจึงขอให้รามิลจ่าย เงินให้มัดไหมให้ครบเพื่อว่ามัดไหมจะได้มีเงินไปลงทุนทำอะไรของตัวเอง จะได้ไม่ต้องเป็นคนใช้เขาต่อไป คราวนี้มัดไหมโกรธรามิลจริง ๆ ไม่ใช่โกรธแง่งอนชั่วแวบเหมือนครั้งก่อนๆ มัดไหมขอติดรถอัจฉราวดีเข้าเมือง อัจฉราวดีสมใจ

รามิลตัดสินใจไปหามัดไหมคนหน้าผี เพื่อจะทำความใกล้ชิดกับเธอให้มากขึ้น แต่อีกใจก็จะไปเพราะความหวังว่าจะได้พบมัดไหมสาวใช้เจ้าหัวใจของเขาด้วย ตลอดเวลาที่อยู่กับมัดไหมหน้าผี รามิลไม่มีสมาธิเลย เขาคอยมองหามัดไหมสาวใช้ตลอด มัดไหมหน้าผีถาม แต่รามิลไม่บอกว่าเขาไม่สบายใจเรื่องอะไร เขาเบนเรื่องไปที่จะให้มัดไหมคนนี้ไปปรึกษาแพทย์เรื่องใบหน้าเละ แต่มัดไหมบอกว่าผ่านมานานขนาดนี้แล้วไม่ไปแล้ว แล้วในที่สุดรามิลก็พูดถึงมัดไหมสาวใช้จนได้ มัดไหมบอกว่าลาออกไปแล้วรามิลใจหาย เขาตัดสินใจถามมัดไหมว่าคนเราควรจะแต่งงานด้วยเหตุผลใด มัดไหมบอกว่าด้วยความรัก รามิลถามถึงความเหมาะสม มัดไหมยืนยันความรัก แต่ก็บอกว่าแล้วแต่ความจำเป็นเฉพาะตัวของแต่ละคนด้วย รามิลบอกว่าเขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว เพราะกระทั่งคนที่เขาคิดว่ารู้จักดีก็ยังไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เหมือนว่าคนเราทุกวันนี้ใส่หน้ากากใส่กัน เล่นเอามัดไหมสะดุ้งเพราะว่าเธอก็กำลังใส่หน้ากากอยู่จริง ๆ ด้วย รามิลสับสนมากกระทั่งไม่รู้ตัวเลยว่ามาจากบ้านมัดไหมตอนไหน

ดนุพันธ์ สรุปว่ารามิลรักมัดไหมสาวใช้ ให้เขาตามหาเธอ แต่รามิลบอกว่ามัดไหมมีโอกาสพบผู้ชายดี ๆ แต่ภัครมัยหน้าผีไม่มีใครนอกจากเขา เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับภัครมัย ดนุพันธ์ไปเล่าทั้งที่รามิลบอกว่ารักมัดไหมสาวใช้ และที่บอกว่าจะแต่งงานกับภัครมัยให้นาตาชาฟัง โดยไม่รู้ว่ามัดไหมอยู่กับนาตาชาด้วย นาตาชาให้มัดไหมบอกความจริงกับรามิลก่อนที่นานไปเขารู้เอง มัดไหมเชื่อว่ารามิลจริงใจในกรณีมัดไหมหน้าผี แต่เธอยังอยากทดสอบความจริงใจของเขาต่อมัดไหมสาวใช้ต่ออีก ด้านรามิลก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงมีความรู้สึกใกล้เคียงกันกับผู้หญิงถึง สามคน

สำหรับแม็ตตี้ เขาพอจะรู้ว่าเพราะเธอหน้าเหมือนกับมัดไหมสาวใช้ เขาโทรนัดแม็ตตี้ทานอาหาร เธอพูดถึงมัดไหมสาวใช้อีก รามิลตัดสินใจถามมัดไหมหน้าผีว่ามัดไหมสาวใช้อยู่ที่ไหน รามิลพยายามตามหามัดไหม ใจลอย มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อรถเขามาถึงหน้าไร่มนตราของมัดไหม สถานที่แรกที่เขาได้พบกับเธอ สาวสวยคนหนึ่งควบม้าอยู่ รามิลดีใจที่สุด เขาตะโกนเรียกเธอสุดเสียง เธอไม่ได้ยิน รามิลกดแตรรัว เจ้าตะวันสาดแสงม้าที่มัดไหมควบอยู่ตกใจ สลัดมัดไหมตกจากหลัง รามิลประคองมัดไหม เธอไม่เป็นไรมาก งอนเขาที่ทำให้ตกม้า แล้วรามิลก็งอนมัดไหมบ้าง

เมื่อหนุ่มหล่อผมยาวขี่ม้า อีกตัวมาหามัดไหม มัดไหมเรียกเขาว่าวายซี รามิลเหม็นขี้หน้านายวายซีนี่ทันที และยิ่งงอนหนัก เมื่อมัดไหมสะบัดจากเขาไปหาวายซี ท่าทางเธอไว้ใจนายนั่นมากกว่าเขา เขาพาลว่าเธอแกล้งตกม้าเพื่อเรียกความสนใจ มัดไหมต่อปากต่อคำกับรามิล แล้วเผลอตกเป็นเหยื่อเมื่อโดนเขายั่วว่าสำออย เธอเดินไปขึ้นรถเขา กว่าจะรู้ตัวว่าโดนรามิลเจ้าเล่ห์ใส่ เธอก็ออกมาจากไร่กับเขา เขาจงใจยั่วเธอเพื่อแยกเธอจากวายซี รามิลสารภาพรักกับมัดไหม มัดไหมจึงต้องสารภาพแผนการทั้งหมดของเธอ และสารภาพว่ารักเขาเช่นกัน รามิลมีความสุขที่สุดในชีวิต ติดตามชม ละครเทพบุตรมายาเทพธิดาจำแลง ได้ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี ละคร เทพบุตรมายาเทพธิดาจำแลง

ดอกแก้ว

เจ้าพระยาวงษานุวัติ หรือ วงศ์ วงษา บุรุษหนุ่มใหญ่อายุประมาณ 40 ปี มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองพิจิตรเป็นพ่อม่ายเมียตาย เหลือลูกชายไว้ต่างหน้าคนหนึ่งคือ วันชัย ซึ่งถูกส่งเรียนเมืองนอกตั้งแต่เล็ก เจ้าคุณนั้นด้วยความเป็นม่ายตั้งแต่ยังหนุ่ม จึงได้แม่ช้อย เด็กรับใช้ในบ้านเป็นเมีย แต่ไม่ได้ยกย่องเสมอคุณหญิงภรรยาที่ตายไป แม่ช้อยนั้นยังอายุน้อย เจ้าชู้ จริตจะก้านแพรวพราวมีความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง จึงได้เป็นชู้กับ หลวงมนูกิจธรรม ทนายความหนุ่มเจ้าเล่ห์ของเจ้าคุณวงษานั่นเอง วันหนึ่งเจ้าคุณได้ไปพักร้อนที่บ้านดงเมือง เพชรบูรณ์ พร้อมกับช้อยและหลวงมนูฯ แต่ฝากคนทั้ง 2 ให้พักอยู่กับกำนันบ้านป่าแดง ส่วนตนเองไปตั้งเต็นท์อยู่ริมห้วย

ในอาณาเขตไร่บริเวณบ้านกำนันกับคนรับใช้ 1 คน และพรานหนุ่มชื่อ วาด ซึ่งเป็นผู้นำทางเที่ยว พรานวาดนั้นไปหลงรักกิ่ง สาวสวยบ้านป่าแดงลูกสาวยายคอนขี้โรค ซึ่งถูกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นปอบวาดได้แต่เงื้อ ๆ ง่า ๆ แต่ไม่กล้าบอกรักกิ่งสักครั้ง เพียงแต่คอยให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะให้ได้และได้แต่หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่ากิ่งจะมีใจตอบตน วาดไม่รู้ระแคะระคายแม้แต่สักนิดว่ากิ่งนั้นได้ตกเป็นภรรยาของเจ้าวงษาเจ้า นายของตนเสียแล้ว

เจ้าคุณวงษาพบกับกิ่งโดยบังเอิญ และได้ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทองรักษาแม่ของกิ่งทั้ง 2 ลอบพบปะได้เสียกันจนกระทั่งกิ่งตั้งท้องวาดนั้นหัวใจแทบสลายแต่ก็ต้องจำยอม รับชะตาของตนคอยดูแลให้ความช่วยเหลือกิ่งแทนเจ้าคุณวงษาซึ่งเกิดเป็นไข้ป่า ต้องถูกส่งตัวกลับไปรักษาด่วนที่บางกอก

กิ่งแม้จะเป็นทุกข์ห่วงสามี แต่ก็มีความหวังว่า วันหนึงจะได้พบกันโดยหารู้ไม่แม้แต่น้อยว่าช้อยและหลวงมนูฯ ชู้รัก ได้รู้เรื่องราวของกิ่งและเจ้าคุณหมดทุกอย่างแล้ว และได้วางแผนแยกคนทั้ง 2 ให้จากกันตลอดกาลเจ้าคุณและกิ่งพยายามส่งข่าวถึงกัน แต่ก็ถูกหลวงมนูฯ และช้อย จับได้ ทำลายจดหมายหมดทำให้ทั้ง 2 เข้าใจผิดกัน กิ่งท้องโตขึ้นทุกวัน มีเพียงวาดคอยให้ความช่วยเหลือช้อยเองก็ท้องกับหลวงมนูฯ หลวงมนูฯ คิดการชั่ววางแผนกับช้อยจะฆ่าเจ้าคุณ และกันไม่ให้กิ่งได้เข้ามามีส่วนในทรัพย์สมบัติ โดยจะยัดเยียดลูกของตนและช้อยให้เป็นทายาทแทน

เจ้าคุณได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจึงคิดป้องกันทรัพย์สมบัติให้ลูกโดยเขียน พินัยกรรมยกสมบัติครึ่งหนึ่งจากที่ให้วันชัยให้กับทายาทผู้ที่ถือจดหมายลาย เซ็นเจ้าคุณมาด้วย เจ้าคุณได้พับพินัยกรรมชิ้นเล็ก ๆ นี้ใส่ไว้ในปลอกกระสุนลูกสุดท้ายในปืนด้ามทองประจำตัว

ช้อยและหลวงมนูฯ นั้นกำลังย่ามใจในแผนการ และมักใช้ห้องสมุดในการพบปะกัน เจ้าพระยาวงษาจับได้คาหนังคาเขา หลวงมนูฯ จึงตัดสินใจยิงทิ้ง ขณะนั้นเองเป็นเวลาเดียวกับที่วาดเดินทางมาหาเจ้าคุณด้วยความโกรธแค้นที่ทอด ทิ้งกิ่ง วาดได้บุกเข้ามาพอดี จึงถูกหลวงมนูฯ ยิงด้วยเช่นกันหลวงมนูฯ รีบพาช้อยออกไป แล้วแจ้ง หมื่นท้าวกำแหง ซึ่งเป็นนายตำรวจให้มาจับวาด โดยใส่ร้ายว่าวาดเป็นคนร้ายตามมาฆ่าเจ้าคุณด้วยความแค้นที่เจ้าคุณได้กิ่ง แล้วทอดทิ้ง

ด้าน เจ้าคุณก่อนตายได้มอบปืนให้วาดนำไปให้กิ่งเพื่อมอบแก่ลูก ซึ่งเกิดจากกิ่ง แต่ยังสั่งเสียไม่เสร็จก็ขาดใจตาย วาดรีบหนีไปทั้ง ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลักฐานทั้งหมดดูจะมัดมือกิ่งและวาดว่าเป็นฆาตรกร ตามมาฆ่าเจ้าคุณด้วยความแค้น หมื่นท้าวฯ พบพินัยกรรมของเจ้าคุณในห้องสมุดจ่าหน้าซองว่า อีก 20 ปี จึงให้เปิดพินัยกรรมต่อหน้าคนในตระกูลวงษา

วาดนั้นนำปืนด้ามทองหนีมาจนถึงกระท่อมกิ่ง เล่าทุกอย่างให้กิ่งฟัง มอบปืนให้และบอกให้กิ่งรีบพาลูกหนีไป เพราะอย่างไรเสียหลวงมนูฯ จะต้องตามมาฆ่าปิดปากแน่ ๆ เมื่อวาดได้ทำหน้าที่ของตนเรียบร้อยแล้วจึงได้ขาดใจตายกิ่งกระเซอะกระเซิง อุ้มลูกหนีการตามล่าของหลวงมนูฯ และตำรวจมาพบกับมหาโจรชื่อ เม่น เคราแดง เม่นได้ช่วยกิ่งและลูกไว้ ขับไล่หลวงมนูฯ และตำรวจกลับไปโดยประกาศต่อหน้าตำรวจว่า หลวงมนูฯ นั่นแหละเป็นฆาตรกรเห็นแก่ความดีมีน้ำใจของกิ่งเปลี่ยนมาเป็นความรักแบบน้อง สาว กิ่งจึงได้อยู่อย่างสงบสุข เลี้ยงลูกสาวของตนและลูกชายกำพร้าแม่ของเม่นให้เติบโตขึ้นมาพร้อม ๆ กัน

ลูกสาวของกิ่งได้ชื่อว่า แก้ว ตามชื่อ ดอกแก้ว ดอกไม้ที่เจ้าคุณวงษาโปรดปรานเป็นพิเศษส่วนลูกเม่นชื่อ ไม้ มีความสูงใหญ่และบ้าระห่ำผิดมนุษย์ทั่ว ๆ ไป ไม้นั้นรักแก้วอย่างทะนุถนอมบูชาคอยปกป้องแก้วจากอันตรายทุกอย่าง แม้จะแลกกับชีวิตของตนก็ยอม ส่วนเม่นนั้นกิ่งได้ขอร้องให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี ทำมาหากินอย่างสุจริตในอาณาจักรของตนเอง

ต่อมาแก้วได้พบปืนด้ามทองโดยบังเอิญ และพยายามคาดคั้นถามเรื่องราวต่าง ๆ จากกิ่งกิ่งจำเป็นต้องเล่าเรื่องราวแต่หนหลังให้แก้วฟัง แก้วจดจำชื่อของช้อยและหลวงมนูฯ ด้วยความแค้นพร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า พ่อต้องการให้ตนใช้ปืนด้ามทองซึ่งเหลือกระสุนเพียงนัดเดียวแก้แค้นแทนพ่อ

จวบจนเมื่อสบโอกาสเม่นจำเป็นต้องอพยพอาณาจักรของตนออกไปจากที่แห่งนั้นเพราะ ไปมีเรื่องกับผู้มีอิทธิพล และผู้มีอิทธิพลนั้นได้ไปแจ้งทางอำเภอไว้ ทางอำเภอจะเข้ามาจับเม่นซึ่งกลับตนแล้ว จึงต้องคิดหนีไปหาตั้งรกรากใหม่แทนที่จะต่อสู้ และระหว่างการอพยพนั้นเองแก้วได้ขโมยปืนด้ามทองและชวนไม้หนีไปบางกอก เพื่อแก้แค้นแทนพ่อ

ระหว่างนั้นเป็นระยะสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้ง 2 มาถึงบางกอกอย่างกะเร่อกะร่า โดยแก้วหอบกระบุงซึ่งซ่อนปืนไว้ติดตัวตลอดเวลา ทำให้เป็นจุดสนใจของพวกมิจฉาชีพ กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งวางแผนหลอกทั้ง 2 หวังปล้น แต่ก็ถูกไม้และแก้วตอบโต้หนีกระเจิงไป ไม้และแก้วได้พบกับ ร.ต.ท. กำแหงลูกชายหมื่นท้าวกำแหง ผู้เจริญรอยเป็นตำรวจตามพ่อ กำแหงเอื้อเฟื้อให้ที่พักในฐานะที่แก้วและไม้ เป็นพลเมืองดีช่วยตำรวจ แต่ทั้ง 2 ปฏิเสธเพราะต้องการตามหาหลวงมนูฯ

โชค ชะตาบันดาลให้แก้วและไม้ ได้มีโอกาสช่วยวันชัย ลูกชายของเจ้าคุณฯกับคุณหญิงภรรยาแรกซึ่งมีฐานะเป็นพี่ชายแก้ว วันชัยเกิดถูกชะตาและเมตตาแก้วตามสัญชาตญาณครั้งแรกแก้วปฏิเสธ แต่พอรู้ว่าวันชัยนั้นนามสกุล วงษา จึงเปลี่ยนใจตามไป ทางฝ่ายหลวงมนูฯตลอดหลายปีที่ผ่านมา มักฝันร้ายว่าถูกทวงเอาชีวิตจากทายาทเจ้าคุณฯ ผู้มีปืนด้ามทอง เมื่อรู้ว่าแก้วและไม้ มาอาศัยอยู่ให้เกิดความสังหรณ์และไม่ชอบหน้า จึงสมคบกับช้อยคอยกลั่นแกล้งตลอดเวลา แต่ก็ได้วันชัยคอยปกป้องตลอดเวลายิ่งทำให้ทั้ง 2 ไม่พอใจมากขึ้น

สำหรับลูกสาวของช้อยและหลวงมนูฯ นั้นชื่อ ชไมพร ชไมพรเป็นคนสวยแต่ถือตัว เย่อหยิ่งด้วยหลงคิดว่าตนเป็นลูกเจ้าพระยาวงษานุวัติ ดูถูกแม้กระทั่งหลวงมนูฯ เพราะคิดว่าเป็นลูกจ้างทำให้หลวงมนูฯ น้อยเนื้อต่ำใจตลอดเวลา ช้อยต้องคอยปลอบโยนให้กำลังใจ ซึ่งยิ่งทำให้ชไมพรไม่พอใจพ่อแท้ ๆ ของตัวยิ่งขึ้น ส่วนวันชัยนั้นมีคู่หมั้นสาวสวยชื่อ รุ่งลักษมี เป็นสาวสังคมฟุ้งเฟ้อชอบเที่ยวเตร่ รุ่งลักษมีมีพี่ชายรูปหล่อสำอางชื่อ ราชันย์ พินิจพงศักดา เป็นนักเรียนนอกเช่นกันและเป็นเพื่อนของวันชัยด้วยจึงเนื้อหอมเป็นที่หมาย ปองของสาว ๆ รวมทั้งชไมพร ซึ่งฝากเนื้อฝากตัวสนิทสนมเป็นคอเดียวกับรุ่งลักษมี แต่ราชันย์เอ็นดูชไมพรเช่นน้องสาวเท่านั้น

วันหนึ่งราชันย์ได้มาพบดอกแก้ว จึงเกิดความพอใจในความสวยบริสุทธิ์ ทั้งดอกแก้วเองก็พอใจราชันย์เช่นกัน ท่ามกลางความไม่พอใจของไม้ ยิ่งร้ายไปกว่านั้น ช้อย รุ่งลักษมี และชไมพร ได้วางแผนกลั่นแกล้งดอกแก้วต่าง ๆ นานา แต่อุปสรรคทั้งหมดกลับทำให้ราชันย์และดอกแก้วรักกันยิ่งขึ้นจนกระทั่งวัน หนึ่งดอกแก้วได้ตกเป็นของราชันย์ ไม้รู้เข้าหัวใจแทบสลายแต่ก็จำยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี

เมื่อมาถึงขั้นนี้ ช้อย ชไมพร และรุ่งลักษมี จึงได้วางแผนใส่ร้ายว่าไม้กับแก้วเป็นสามีภรรยากัน ราชันย์หูเบาเชื่อทันทีถึงกับตัดขาดแก้วแก้วได้รับความทุกข์ทรมานมากซ้ำยัง ตั้งท้องไม้แก้แค้นชไมพรซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตี โดยลอบปีนเข้าหาและปลุกปล้ำชไมพร ขณะที่อยู่ด้วยกัน ไม้ได้ยินหลวงมนูฯ พูดปรึกษากับช้อย ไม้และชไมพรเลยได้รับทราบความจริงทั้งหมด ไม้ทั้งเยาะเย้ยชไมพร ชไมพรได้รับบทเรียนจึงเริ่มรู้สึกตัวขณะนั้นหลวงมนูฯ จับได้จึงร่วมมือกับคนใช้ทำร้ายไม้จนความจำเสื่อม ลืมทุกอย่างที่ได้ยินมาจนหมดส่วนชไมพรก็ไม่กล้าพูด

เม่น เคราแดง ได้เดินทางมาบางกอกเพื่อรับลูกและหลานกลับ ได้พบกับความพ่ายแพ้ของแก้วและไม้ จึงปลอบโยนแล้วพากลับบ้าน แต่หลวงมนูฯ ได้ส่งคนตามไปติดต่อกับโจรอีกกลุ่มให้ปลอมเป็นตำรวจไปเผาฆ่าทุก ๆ คนในหมู่บ้านเม่น ทุกคนตายหมดเว้นแก้วกับไม้ซึ่งหนีออกมาได้ไม้ประสบอุบัติเหตุความทรงจำกลับ คืนมา ทั้ง 2 จึงตัดสินใจกลับบางกอกอีกครั้งเพื่อทวงสิทธิ์ของแก้วและแก้แค้นให้เจ้าคุณ

แก้ว และไม้มาถึงในเวลารดน้ำสังข์ระหว่าง ราชันย์และชไมพร พอดีแก้วยกปืนด้ามทองจะยิงหลวงมนูฯ แต่ไม้เข้าขวางไว้ โดยไม่ยอมให้แก้วต้องเป็นฆาตกรไม้ประกาศว่าชไมพรเป็นเมียตน ท่ามกลางความตกตะลึงของทุก ๆ คนหลวงมนูฯ แค้นสุดขีด จึงยิงไม้ ไม้ทรุดล้มลงแต่ได้คว้าปืนด้ามทองยิงหลวงมนูฯ ปรากฏว่ากระสุนด้านหลวงมนูฯ จึงยิงซ้ำ ส่วนกระสุนที่ด้านนั้น เมื่อกระทบพื้นได้หักแยกออกจากกัน ทำให้เห็นว่าภายในมีกระดาษบรรจุไว้แทนดินปืน

ไม้รวบรวมกำลังหยิบมาอ่าน ปรากฏว่าเป็นพินัยกรรมนั่นเอง ความจริงทุกอย่างจึงได้เปิดเผยขึ้นหลวงมนูฯ ผิดหวังจนเป็นบ้ายิงแม้กระทั่งชไมพร ลูกแท้ ๆ ตาย เมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง หลวงมนูฯถูก ร.ต.ท. กำแหง ยิงตาย ส่วนไม้ก่อนสิ้นใจได้ฝากแก้วไว้กับราชันย์ โดยบอกให้ราชันย์รักและทุนถนอมแก้วแทนตนตลอดไป….. ติดตามชม ละครดอกแก้ว

รายชื่อนักแสดงในละคร ดอกแก้ว

ธาวิน  เยาวพลกุล   แสดงเป็น   ราชันย์
ดาวิก้า  โฮร์เน   แสดงเป็น   ดอกแก้ว
มาติกา  อรรถกรศิริโพธิ์   แสดงเป็น   รุ่งลักษมี
ชวัลกร  วรรธนพิสิฐกุล   แสดงเป็น   ชไมพร
เคลลี่  ธนะพัฒน์   แสดงเป็น   เจ้าพระยาวงษานุวัติ (วงศ์ วงษา)
เปรมสินี  รัตนโสภา   แสดงเป็น   กิ่ง
อุษณีย์  วัฒฐานะ   แสดงเป็น   แม่ช้อย
พิชยดนย์  พึ่งพันธ์   แสดงเป็น   ไม้
ธันญ์  ธนากร   แสดงเป็น   พรานวาด
นพพล  พิทักษ์โล่พานิช   แสดงเป็น   วันชัย
อนุวัฒน์  ชูเชิดรัตนา   แสดงเป็น  เติบ
สุรวุฑ  ไหมกัน   แสดงเป็น   หลวงมนูกิจธรรม
วินัย  ไกรบุตร   แสดงเป็น   เม่น เคราแดง
ศตวรรษ  ดุลยวิจิตร   แสดงเป็น   หมื่นท้าวกำแหง
สุพรรษา  เนื่องภิรมย์   แสดงเป็น   นางพินิศ พงศ์ศักดา
อำภา  ภูษิต   แสดงเป็น   ยายกอน
จตุรวิทย์  คชน่วม   แสดงเป็น   ร.ต.ท. กำแหง
เวนซ์  ฟอลโคเนอร์   แสดงเป็น   เสือจั่น
พิพัฒน์พล  โกมารทัต   แสดงเป็น   เศรษฐีต่วน
เฉลิมศักดิ์  แย้มขมัง   แสดงเป็น   เขียด
ณรัฐ  พัฒนาพงศ์ชัย   แสดงเป็น   หมี
พงศนาถ  วินศิริ   แสดงเป็น   ขุนแดง
อัศวิน  เมืองสุวรรณ   แสดงเป็น   หมัด
อุ่นเรือน  ราโชติ   แสดงเป็น   ละม่อม
ป้าตุ้ม  พจนี   แสดงเป็น   ละไม