Tag Archives: ธันย์ชนก ฤทธินาคา

เสน่ห์บางกอก

เสน่ห์บางกอก มนต์ขลังแห่งมหานคร ที่ใครต่อใครต่างพากันใฝ่ฝันที่ได้มาสัมผัสชีวิตในเมืองกรุง บ้างก็พบกับความสำเร็จบ้างก็พบกับความล้มเหลวถูกหลอกลวง กรุงเทพฯ เป็นทั้งสรวงสวรรค์และขุมนรกได้ในเวลาเดียวกันขึ้นอยู่ที่ใครจะเลือกเส้นทาง เดิน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร บางกอก ก็ยังคงมีมนต์เสน่ห์ชวนให้ใคร ๆ เข้ามาสัมผัส…มิเสื่อมคลาย

บนเวทีคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ แก้วทิพย์ นักร้องลูกทุ่งสาวดาวรุ่งมาแรงกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง คนดูล้นหลาม หลังเวที แพร พนมพร นักร้องหน้าใหม่ และเพิ่งจะได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกเตรียมตัวจะขึ้นร้องเป็นคนต่อไป แพรตื่นเต้นมากจนเดินสะดุดพื้นเวทีล้มลง พร้อมกับเสียงปลุกของ ผึ่ง เพื่อนรัก ที่แท้แพรกำลังฝันนั่นเอง เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้ไปถึงฝัน เมื่อมีงานประกวดร้องเพลงที่หมู่บ้านข้าง ๆ แต่เหมือนฟ้าไม่เป็นใจไม่ทันที่แพรจะออกไปจากบ้าน กำนันปลั่งก็กลับมาเสียก่อน แพรจึงต้องออกอุบายว่าไม่สบาย แล้วเปลี่ยนตัวกับผึ่งเพื่อนรักของเขาให้มานอนคลุมโปงแทน ส่วนตัวแพรก็กระโดดหน้าต่างหนีไป

ระหว่างทางที่เขาขี่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อไปที่งานวัด รถของเขาก็เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของสไบ สาวจอมแก่นเซี้ยวห้าวราว เมื่อรถของแพรมาเฉี่ยวทำให้ข้าวของตกแตกเสียหายหมด สไบจึงโวยวายใส่แพร แต่ด้วยความรีบแพรไม่มีเวลาคุยจึงขี่รถจะไปงานวัดสไบจึงถีบแพรตกท้องร่อง ทำให้แพรเลอะโคลนเต็มตัว แพรโกรธสไบมาก สายสุนีย์ ลูกสาวเจ้าของโรงสีในหมู่บ้านขับรถกระบะผ่านมาพอดีจึงรับแพรขึ้นรถและพาไป ส่ง สไบจึงไปฟ้องกำนันปลั่งที่บ้าน ทำให้กำนันรู้ว่าแพรไม่ได้นอนอยู่ในห้องแต่เป็นผึ่ง

กำนันโกรธมากเมื่อรู้ว่าแพรหนีไปร้องเพลง แพรโกรธแค้นสไบมากที่มาทำลายโอกาสของเขา แพรจะไม่มีวันญาติดีกับสไบอย่างเด็ดขาด เมื่อไม่ได้ประกวดร้องเพลงที่งานวัด แพรจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจร้องเพลงและโกหกพ่อแม่ว่าสอบเอ็นต์ติดต้องใช้เงิน ลงทะเบียนถึงเงิน2แสน สไบแอบรู้เรื่องที่แพรโกหกนี้จึงบอกให้แพรพูดความจริง ถ้าแพรไม่พูดสไบจะพูดเอง กำนันปลั่งกับแม่ช้อยเข้ามาได้ยินพอดีความจึงแตก เมื่อกำนันกับแม่ช้อยรู้ความจริงว่าแพรไม่ได้เอ็นต์ติด จึงบังคับแพรให้แต่งงานกับสไบทันที

แม่ช้อยไปดูดวงให้แพรมาหมอดูบอกว่าแพรจะพ้นเคราะห์ได้และได้เป็นปลัดอำเภอสม ใจก็ต้องบวชเสียก่อน กำนันจึงจัดงานบวชแพร และว่าจ้างวงดนตรีลูกทุ่งชื่อดังมาแสดงในงาน ซึ่งก็คือวงของแก้วทิพย์นั่นเอง แก้วทิพย์มากับศักดิ์ชายผู้เป็นทั้งพ่อและผู้จัดการ แพรดีใจมากพยายามตีสนิทแก้วทิพย์ แพรจึงตัดสินใจหนีเข้ากรุงเทพฯ พร้อมขบวนของวงลูกทุ่งแก้วทิพย์โดยขโมยพระสมเด็จของพ่อไปด้วยเพื่อเอาไปขาย เอาเงินมาเป็นทุนในการทำเดโมเทปเสนอค่ายเพลง

เมื่อ มาถึงกรุงเทพฯ แพรมาขออยู่กับแก้วทิพย์แต่แก้วทิพย์ไม่อยากรับไว้เพราะสำหรับกรุงเทพฯ แล้วแพรนับว่าบ้านนอกมาก แก้วทิพย์มีเสี่ยมาติดพันหลายคนจึงไม่อยากให้ใครเห็นว่าเธอคบหากับเด็กบ้าน นอกอย่างแพร แต่ศักดิ์ชายเห็นพระสมเด็จของแพรก็อยากได้จึงยอมรับไว้ให้อยู่ด้วย แพรบอกศักดิ์ชายว่าถ้าอยากได้พระของเขาก็ต้องให้เขาเป็นนักร้องออกอัลบั้ม ก่อนเขาจึงจะยกพระให้ศักดิ์ชาย ศักดิ์ชายวางแผนปล้นพระจากแพร แต่ปรากฏว่า พระที่แพรขโมยมาเป็นของปลอมคนละองค์กับที่กำนันให้ศักดิ์ชายดู แพรจึงถูกซ้อมแล้วโยนทิ้งข้างถนน

เมื่อกำนันรู้ว่าแพรขโมยพระหนีมากรุงเทพฯ ก็เป็นห่วงมากชวนผึ่ง ลั่นทม แม่ช้อย ตาเอี่ยม เข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาแพรเมื่อแพรถูกซ้อมแล้วโยนออกมาจากบ้านแก้วทิพย์ ขณะที่แพรสะบักสะบอมนั้น ศศิมาก็มาพบเข้าจึงช่วยเหลือแพร พาแพรไปรักษาตัวที่บ้านเธอ ศศิมาเป็นนักร้องคาเฟ่และเป็นเมียน้อยของสมพลเสี่ยเจ้าของค่ายมวยซึ่งเมื่อ เธอตั้งท้องสมพรรู้ก็ไล่เธอออกจากบ้าน แพรรู้เรื่องก็สงสารช่วยดูแลศศิมาอยู่ด้วยกันอย่างพี่น้องคอยพาไปฝากท้องและ พาไปหาหมอ

แพรออกหางานทำ ไปรับจ้างขับรถแท็กซี่ เจอคนจี้รถแท็กซี่ แต่โชคดีที่ชัยอดีตนักมวยชื่อดังมาช่วยไว้ได้ทัน ชัยจึงชวนแพรมาทำงานที่ค่ายมวยและเห็นแววของแพรที่จะเป็นนักมวยได้ ชัยแยกจากค่ายเดิมมาเปิดค่ายใหม่ของตัวเอง นักมวยตามชัยมาเยอะทำให้ สมพลเจ้าของค่ายเดิมไม่พอใจ ในวันขึ้นชกที่สนามมวย นักมวยของชัยถูกทำร้ายขึ้นชกไม่ได้ เหลือแค่แพรยังไม่พร้อมขึ้นชก แต่เมื่อได้เจอสไบที่มาดูมวยตามความชอบของเธอ สไบพูดยั่วแพรว่าไม่เป็นลูกผู้ชายไม่สู้คน ด่าว่าแพรต่าง ๆ นา ๆ จนแพรโกรธฮึดสู้และเอาชนะได้ในที่สุด ทำให้แพรดังในชั่วพริบตา มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แพรบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง

กำนันและทุกคนที่มาด้วยเห็นแพรทางทีวีในรายการมวยจึงรีบไปหาที่สนามมวย ทั้งหมดจึงได้พบกันต่างดีใจ ทุกคนจึงย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยของชัย แต่ความดีใจของสไบก็ต้องชะงักเมื่อเห็นศศิมาที่กำลังท้องเข้ามาดูแลแพรราว กับเป็นเมียแพรสไบเข้าใจผิดว่าศศิมาเป็นเมียแพร  ทำให้เกิดอาการงอนเศร้าอยากกลับศาลาเกวียน

เมื่อนักมวยของสมพลขอย้ายมาอยู่ค่ายของชัยเพิ่มมากขึ้นจากการที่แพรชนะ สมพลจึงยกพวกบุกมาที่ค่ายของชัยและได้เจอศศิมาอยู่กับแพรจึงโกรธคิดว่าแพร เป็นชู้กับเมียน้อยตนเอง ศศิมาเสียใจต่อว่าสมพลเรื่องลูกในท้องทำให้ทุกคนรู้ความจริงว่าเด็กในท้อง ไม่ใช่ลูกของแพร สไบจึงยอมเข้าใจและไม่หนีกลับศาลาเกวียน ชัยสงสารศศิมา และแอบชอบศศิมาตั้งแต่แรก แต่เพราะคิดว่าเป็นเมียของแพรจึงไม่กล้าแสดงออก แต่ในเมื่อไม่ใช่ ชัยจึงแสดงความรักต่อศศิมาและขอดูแลเธอกับลูก เขาจะรับเป็นพ่อของเด็กเอง

ก้านหนีคดีเผาบ้านเบิ้ม ที่ศาลาเกวียนเข้ามากรุงเทพฯ ก็มาอยู่กับสมพล เป็นนักเลงหัวไม้ประจำค่ายมวย เมื่อเห็นแพรก็ตามมาเล่นงานแพรเพราะแค้นที่สไบหนีจากศาลาเกวียนมาตามหาแพร และได้รู้ว่า สมพลไม่ถูกกับชัย ก้านจึงคิดแผนชั่วทำร้ายทั้งแพรและชัย ตามความฝันของแพรคืนการเป็นนักร้อง สไบก็เห็นดีด้วยจึงเข้าไปสมัครเป็นคนรับใช้ในวงแดนเซอร์ คอยช่วยจัดชุดแดนเซอร์รับใช้คนในวงดนตรี ทำทุกอย่างเพื่อหวังจะใกล้ชิดกับการร้องเพลง

วัน หนึ่งเมื่อถึงเวลาแสดงดนตรี นักร้องคั่นเวลาที่ร้องอยู่มาไม่ได้ แพรจึงเสนอตัวร้องแทน เมื่อแพรร้องเพลงจบได้รับเสียงปรบมือจากคนดูอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง แถมรับพวงมาลัยหน้าเวทีคล้องคอจนล้น  สไบยืนดูอยู่หลังเวทีดีใจน้ำตาคลอคิดว่าฝันของแพรต้องเป็นจริงแน่ ๆ หัวหน้าแดนเซอร์เข้ามาชื่นชมบอกแพรอย่าหยุดตัวเองแค่นี้หาหนทางเข้าไปสู่การ เป็นดาวให้ได้ แพรจึงไปสมัครประกวดในรายการชุมทางเสียงทอง แต่ก็ตกรอบแรกซุ่มซ้อมกลับเข้าไปประกวดรายการชุมทางเสียงทองใหม่ได้รับ รางวัลชนะเลิศ มีค่ายเพลงสนใจอยากออกเทปให้แพร กำนันคัดค้าน จะลากแพรกลับบ้านศาลาเกวียน แพรไม่ยอมกลับ เขาร้องให้กำนันเห็นแก่ความฝันของเขา ชีวิตนี้เขาอยากเป็นนักร้อง สไบเองก็ช่วยพูดกับกำนันให้ยอมใจอ่อน อนุญาติให้แพรได้เป็นนักร้อง กำนันจึงขอสัญญาแลกเปลี่ยนว่า หลังจากเป็นนักร้องแล้ว แพรกับสไบต้องแต่งงานกัน ทั้งสองยอมรับปาก

ความดังของแพรไปถึงหูแก้วทิพย์กับศักดิ์ชาย แก้วทิพย์จึงมาออดอ้อนแพรต่าง ๆ นานาให้ยอมมาเป็นนักร้องในค่ายของเธอ และสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเข้าใจผิดกับสไบและกำนัน จนแพรยอมยกเลิกสัญญากับค่ายเดิมไปอยู่กับแก้วทิพย์ สไบเสียใจมาก ตอนนี้แพรไม่เชื่อใครแล้วนอกจากแก้วทิพย์เพราะเธอทำให้แพรเป็นนักร้องดังได้ มากกว่านี้เธอสัญญากับเขาว่า จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่พร้อมกับเปิดอัลบั้มเพลงใหม่ที่จะส่งให้แพรดังสุด ๆ มันเป็นความฝันของแพร ศักดิ์ชายทำเพลงให้แพรอย่างจริงจัง เพื่อหลอกล่อให้แพรอยู่กับเขาและจะให้แพรแจ้งเกิดเป็นนักร้องลูกทุ่งระดับ อินเตอร์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้

ศักดิ์ชายขู่กำนันถ้าไม่เอาพระมาให้เขาจะทำลายความฝันของแพรล้มเลิกการแสดง คอนเสิร์ตซึ่งจะทำให้แพรเสียชื่อเสียง เพราะจากยอดขายบัตรล่วงหน้าหลายหมื่นใบแสดงว่าคนดูกำลังรอชมคอนเสิร์ตของแพร กำนันกลัวว่าแพรจะเสียชื่อเสียงจึงยอมเอาพระไปแลก สไบสงสารกำนันจึงแอบไปหาแพรเตือนสติให้แพรตาสว่าง แต่กลับถูกแพรด่าว่าสไบขัดขวางความฝันของเขาและไล่สไบกลับศาลาเกวียน สไบเสียใจมาก

แก้วทิพย์รู้ว่าสไบมาหาแพรก็ไม่พอใจสั่งก้านสั่งสอนสไบโดยจับสไบมาข่มขืน ขณะที่แพรรอเวลาจะขึ้นคอนเสิร์ตเขาได้ยินแก้วทิพย์คุยกับก้านเรื่องให้ไปจับ สไบ แพรตกใจจึงรีบออกจากหลังเวทีเพื่อที่จะไปช่วยสไบ ก้านกับพวกฉุดสไบมาที่โกดังร้างแพรกับชัยตามมาพบเกิดการต่อสู้กันแพรพลาดท่า ถูกก้านแทง แต่ชัยช่วยแพรไว้ได้ก้านกับพวกถูกชัยอัดสะบักสะบอมหนีไปได้ แพรเขาปกปิดบาดแผลของตัวเองไว้แล้วขึ้นเวทีร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต เขาจนจบเพลงพร้อมกับร่างกายของเขาค่อย ๆ ล้มลงกองบนเวที สไบตกใจรีบเข้ามาดูก็พบว่าแพรบาดเจ็บทุกคนจึงรีบนำแพรส่งโรงพยาบาล แก้วทิพย์และก้านถูกตำรวจจับข้อหาจ้างวานให้ทำร้ายสไบและทำร้ายร่างกายแพรจน บาดเจ็บสาหัส แพรต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวันโดยมีสไบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลาย แพรก็ได้รู้ความจริงว่าใครที่รักและหวังดีต่อเขาจริง ๆ แพรตัดสินใจกลับศาลาเกวียนกับกำนันและสไบ เขาขอสไบแต่งงาน กำนันยอมไปง้องอนนายเบิ้มเพื่อขอสไบให้กับแพร นายเบิ้มกลั่นแกล้งกำนันต่าง ๆ กำนันยอมทำตามนายเบิ้มทุกอย่าง จนนายเบิ้มใจอ่อนยอมยกโทษให้ และยกสไบให้แต่งงานกับแพร

กำนัน เมื่อหมดหวังที่จะมีลูกชายเป็นปลัดอำเภอ ก็หันมาทุ่มเทให้ลูกสะใภ้แทน กำนันส่งสไบไปเรียนมหาวิทยาลัยจนจบรัฐศาสตร์และกลายเป็นปลัดอำเภอหญิงคนแรก ของศาลาเกวียนเป็นที่ภาคภูมิใจของทุกคน แพรกลายเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่ประกาศตนว่าแต่งงานแล้ว ไม่ว่าไปไหนเขาก็ต้องแนะนำให้ใคร ๆ รู้จักว่าสไบเป็นเมียของเขาเสมอจนเป็นที่ชื่นชมของวงการ ติดตามชม ละครเสน่ห์บางกอก

รักอยู่หมัด

“เกียรติ ของนักศึกษา คือการได้รับใช้ประชาชน” นี่คือปณิธานของกลุ่ม “เพื่อนช่วยเพื่อน” ที่มีปลายฟ้า นักศึกษาสาวที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ในการช่วยเหลือประชาชนเป็นสมาชิกอยู่ด้วย ปลายฟ้าสมัครเข้าชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งเป็นชมรมที่ทำกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชนในมหาวิทยาลัยเอกชนที่เธอเรียนอยู่ โดยมีสมาชิกของชมรมคนสำคัญก็คือ ธารวิ สาวสวยเพื่อนสนิทของปลายฟ้า และแก้วนักศึกษาหนุ่มหน้าตาเกือบหล่อ และสติปัญญาเกือบฉลาด ซึ่งกิจกรรมที่ปลายฟ้า และเพื่อนๆ ในชมรมทำส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกิจกรรมที่มีโอกาสเสี่ยงภัยเกือบทั้งนั้น

ครั้งหนึ่งปลายฟ้าออกค่ายอาสาที่ชุมชนแห่งหนึ่ง เธอพบกับเด็กชายคนหนึ่งดูท่าทางซึมเศร้า เธอจึงเข้าไปพูดคุยด้วย และพบว่าพ่อของเด็กติดการพนันไม่มีเงินให้เขาไปเรียนหนังสือ ปลายฟ้า ธารวิ และแก้วจึงตัดสินใจปลอมตัวเข้าไปในบ่อน เพื่อไปเตือนสติพ่อของเด็ก แต่ด้วยความที่เป็นคนซุ่มซ่ามไม่ระวังตัว หนวดของแก้วเกิดหลุด ทำให้นักเลงคุมบ่อนจำได้ว่าเป็นนักศึกษา และจะเข้ามาทำร้าย โชคดีที่ปกรณ์แฟนหนุ่มของปลายฟ้าไปตามตำรวจมาทันเวลา ไม่เช่นนั้นเธอคงจะตกอยู่ในอันตราย

…เหตุการณ์ทั้งหมดไม่รอดพ้นสายตา คุณหญิงเนตรดาวแม่ของปลายฟ้า เพราะปกรณ์นำเรื่องไปฟ้อง ปกรณ์ไม่อยากให้ปลายฟ้าทำกิจกรรมช่วยคนจนที่เขาแสนจะรังเกียจ ซึ่งมีจุดประสงค์เดียวกับคุณหญิงที่เป็นห่วง และไม่อยากให้ลูกสาวไปทำงานช่วยเหลือสังคมที่เสี่ยงอันตราย เพราะเข้าใจดีว่าลูกของเธอยังอ่อนต่อโลกนัก แต่ในที่สุดคุณหญิงก็ต้องยอมแพ้ความมุ่งมั่นของปลายฟ้า ยอมให้เธอทำงานที่เธอรัก โดยมีข้อแม้อยู่อย่างเดียว นั่นก็คือ… “ต้องให้บอดี้การ์ดที่แม่หามาติดตามไปด้วย” คุณหญิงประกาศกร้าว
คุณหญิงแนะนำให้ปลายฟ้ารู้จักกับ ธงไทบอดี้การ์ดหนุ่มลูกชายเพื่อนสนิทของคุณหญิง ธงไทดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่เบื้องหลังเขากลับเป็นนักมวยที่มีฝีมือครบเครื่อง ถ้าไม่ติดเรียนธงไทอาจจะไปเป็นนักมวยอาชีพแล้วก็ได้ ธงไทเรียนอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ของมหาลัยเปิดแห่งหนึ่ง โดยฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้เป็นผู้พิพากษา ด้วยความที่ต้องหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงต้องทำงานทุกอย่างที่พอจะได้เงิน รวมถึงการเป็นบอดี้การ์ดด้วย

“นายนี่นะ จะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน ดูแลตัวเองยังไม่ได้เลยมั๊ง”…ปลายฟ้าก็สบประมาทธงไทตั้งแต่แรกเห็น เพราะบอดี้การ์ดในความคิดของเธอต้องเป็นหนุ่มล่ำ แต่งตัวดี ใส่สูทใส่แว่นดำ แต่ธงไทตรงกันข้ามทุกอย่าง ธงไทมาในชุดสบายๆ รูปร่างของเขาแม้ จะไม่ผอม..แต่ก็ไม่ได้ล่ำอย่างที่เธอคิด ปลายฟ้าปฏิเสธบอกแม่ว่าสาระรูปอย่างนี้จะดูแลใครได้ต่อหน้าธงไท
เย็นวันนั้นธงไทกลับมาบ้านซ้อมมวยอย่างอารมณ์เสีย บ่นเรื่องปลายฟ้ากับน้าเดชครูมวยเก่าที่เป็นคนสอนวิชามวยไทยให้กับธงไท และป้องเพื่อนสนิทที่อยู่บ้านเดียวกันว่าต้องหาทางเอาชนะคุณหนูจอมแสบให้ได้ “ยัยคุณหนูปากจัด คอยดูนะ ต้องแกล้งให้เข็ด”…. ป้องเองก็บอกว่าวันนี้ตนไปเจอนักศึกษาคนหนึ่งสวยมาก และตกหลุมรักเข้าให้แล้ว “ผู้หญิงอะไรน่ารักชะมัด”…ป้องได้แต่เพ้อถึงสาวที่เขาเจอวันนี้… .จนน้าเดชทนไม่ไหวเตะก้านคอป้องเบาๆ หนึ่งทีด้วยความเอ็นดู และบอกว่าน้ำหน้าอย่างเอ็งใครจะสน แต่ดูเหมือนแข้งของน้าเดชจะไม่สามารถห้ามป้องให้คิดถึงสาวสวยที่เขาเจอเมื่อ ตอนกลางวันได้

วันแรกที่เริ่มงาน ป้องขอตามธงไทไปด้วยเพราะไม่มีอะไรทำ และมาเจอปลายฟ้ากับธารวิป้องตกใจที่โลกกลมเพราะธารวิคือคนที่เขาเจอเมื่อวาน นั่นเอง ธารวิเองก็ดูเหมือนจะประทับใจป้องมากถึงกับตะโกนออกมาว่า “นายชีกอ คนเมื่อวาน” …….วันแรกปลายฟ้าก็ก่อเรื่องให้ธงไทปวดหัว ด้วยความที่เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นของเธอ ปลายฟ้าเดินไปเจอนักเลงทวงหนี้นอกระบบกำลังทวงหนี้แม่ค้าคนหนึ่งอยู่ ปลายฟ้าเข้าไปช่วย ต่อว่านักเลงพวกนั้น ตอนแรกธงไทก็อยากจะให้ปลายฟ้าได้รับบทเรียนด้วยตัวเอง แต่ก็ทนไม่ได้เพราะคุณหญิงฝากฝังปลายฟ้าไว้กับธงไท ถ้าเธอเป็นอันตรายคุณหญิงต้องเล่นงานเขาแน่ๆ ธงไทจึงเข้าไปช่วยปลายฟ้าจากนักเลงพวกนั้น ด้วยการขับรถคันงามของปลายฟ้าชนเข้าไปที่รถของนักเลง และต่อสู้กันทำให้ปลายฟ้ารู้ว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูง่ายๆ สบายๆ ของธงไทนั้นซ่อนฝีมือการต่อสู้อันเก่งกาจแบบที่เธอไม่เคยเห็น และทำให้เธอรู้อีกว่ารถคันงามของเธอตอนนี้กลายเป็นเศษเหล็กแล้ว
ธงไทตามปลายฟ้าเหมือนเงาตามตัว จนทำให้ปกรณ์แฟนหนุ่มไฮโซของปลายฟ้าไม่พอใจ พยายามหาทางแกล้งธงไทตลอด ตรงกันข้ามกับธารวิกับแก้วที่เห็นว่าธงไทน่ารักดี น่าเป็นแฟนกับปลายฟ้ามากกว่านายปกรณ์ขี้เก๊กตั้งเยอะในขณะเดียวกับป้องก็ เฝ้าตามติดตามกวนใจธารวิไม่ห่าง
การเป็นบอดี้การ์ดของธงไทให้ปลายฟ้าดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่เขาคิดเลย เพราะปลายฟ้าชอบเอาตัวเข้าไปแก้ปัญหาให้ชาวบ้านในเกือบทุกเรื่อง เช่น

-ธงไท และป้องต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิง เข้าไปช่วยปลายฟ้า และธารวิที่ถูกจับไป เพราะทั้งคู่พยายามเข้าไปช่วยหญิงสาวคนหนึ่ง จากการถูกหลอกไปขาย

-ปลายฟ้าเจอเด็กหลงทางคนหนึ่งเลยมาฝากธงไทเลี้ยง โดยกำชับว่าต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด ธงไทจำใจรับ แต่สุดท้ายแก๊งค์ลักเด็กมาตามหาเด็กคนนี้เพราะหนีมา ธงไทจึงต้องเดือดร้อนเข้าไปปราบแก๊งค์ลักเด็กโดยเลี่ยงไม่ได้

-ปลายฟ้าไปออกค่ายอาสาพัฒนาชุมชนของชมรม ทำให้ธงไทที่ใกล้สอบต้องไปด้วย และด้วยความที่เป็นคุณหนูไม่เคยลำบากก็ต้องเดือดร้อนธงไท เรื่องจะนอนยังไง จะอาบน้ำยังไง จนเขาแถบจะไม่มีเวลาอ่านหนงสือหนำซ้ำปลายฟ้ายังไปก่อเรื่องพังบ่อนไพ่ในหมู่ บ้านเขาอีก

เพราะความเจตนาดีของเธอทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตราย จึงร้อนถึงธงไทต้องใช้ความสามารถทางด้านหมัดมวย และศิลปะป้องกันตัวเข้าไปช่วยเหลือทุกครั้งไป

…ความที่ต้องใกล้ชิดกัน และต้องอยู่ด้วยกันตลอด ต้องฝ่าฟันอันตรายด้วยกัน จากคู่กัดปะทะคารมกัน ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรักอย่างช้าๆ แม้ทั้งคู่จะพยายามปฏิเสธความรู้สึกนั้น แต่หลอกคนอื่นหลอกได้ หลอกตัวเองกลับไม่สำเร็จ ติดตามความรักการผจญภัยของทั้งคู่ ร่วมลุ้นไปกับภารกิจตื่นเต้นระทึกใจของทั้งปลายฟ้า และธงไทได้ใน …รักอยู่หมัด

นักแสดงละคร รักอยู่หมัด

เขตต์  ฐานทัพ    รับบทเป็น    ธงไท
ลลนา  ก้องธรนินทร์    รับบทเป็น    ปลายฟ้า
ปิติศักดิ์  เยาวนานนท์    รับบทเป็น    ป้อง
ธันย์ชนก  ฤทธินาคา    รับบทเป็น    รุจี
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์     รับบทเป็น ปกรณ์
วีรินทร์ เชยอรุณ    รับบทเป็น  คุณหญิงเนตรดาว
ค่อม ชวนชื่น    รับบทเป็น  น้าเดช
แจ๊ค หมู่ 7     รับบทเป็น แก้ว

รักกระหน่ำ ซัมเมอร์เซล

เรื่องราววุ่นๆมากมายเกิดขึ้นเมื่อดีไซเนอร์คนเก่าของบริษัทเสื้อผ้าชื่อดังลาออก “มัดหมี่”รับบทโดย“เบเบ้ – ธันย์ชนก ฤทธินาคา พนักงานรับโทรศัพท์ผู้มีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองจึงเสนอตัวแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่“เจนีส”รับบทโดย“แจง – วราพรรณ หงุ่ยตระกูล” เจ้านายผู้ชอบคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลและไม่ยอมให้มัดหมี่ได้เลื่อนขึ้นเป็นดีไซเนอร์ เพราะมีนโยบายว่า

“ดีไซเนอร์ของบริษัทจะต้องเรียนจบจากสถาบันศิลปะชั้นสูงจากต่างประเทศเท่านั้น” มัดหมี่ จึงต้องทำความฝันใช้เวลาหลังเลิกงานมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าของตนเองที่“ตลาดสุขสำราญ”โดยมี“แพรวา”รับบทโดย“น้ำหวาน–กรรณาภรณ์ พวงทอง”เพื่อน สาวสุดที่รักที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษามีฐานะการเงินทางบ้านดี มากเป็นผู้ออกทุนให้ทั้งหมด เริ่มแรกแพรวาไม่อยากร่วมหุ้นด้วยเพราะกลัวความลำบากและห่วงว่าหากต้องนอน ดึกดวงตาและใบหน้าจะหมองคล้ำ แต่เมื่อพบว่าร้านที่จะเช่าถูกขนาบด้วยร้านของชายหนุ่มน้าตาดีทั้งซ้ายและ ขวาความลังเลทั้งหมดจึงหมดไปอย่างง่ายดายและยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าเช่า ที่แสนแพงให้ทันที

ร้านด้านซ้ายเป็นร้านของ “ตุ๊กแก”รับบทโดย “เต็งหนึ่ง – กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์” หนุ่ม หล่อเซอร์มาดศิลปินทายาทตระกูลไฮโซที่ไม่ชอบความเป็นอภิสิทธิ์ชน โกหกที่บ้านว่าไปเรียนต่อต่างประเทศแต่แท้ที่จริงแอบบออกมาเปิดร้านขายของ แต่งบ้านและงานศิลปะที่เขาออกแบบเอง

ร้านด้านขวาเป็นร้านของ “ก้องภพ”รับบทโดย“น้ำ – รพีภัทร เอกพันธ์กุล” หนุ่มหล่อจอมกะล่อนผู้ขายของเครื่องใช้สัพเพเหระหรือเรียกว่าขายทุกอย่างที่คนอยากได้ มุ่งเน้นแต่กำไรเป็นสำคัญไม่เคยคิดเรื่องอื่น

มัดหมี่ตั้งใจและพยายามขายของปรับปรุงดูแลร้านให้ดูดีสวยงามตลอดเวลาเพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ต่างกับแพรวาที่ไม่สนใจเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องความรัก แต่แพรวาเข้าตำรา“รักพี่ เสียดายน้อง” ตัดสินใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกใครดีระหว่างตุ๊กแกกับก้องภพ

ด้านชายหนุ่มทั้ง 2 กลับมีโอกาสใกล้ชิดมัดหมี่มากกว่าแพรวา เพราะหลังจากเปิดร้านได้ไม่นานก้องภพ ก็เข้ามาทำงานที่เดียวกับมัดหมี่ในตอนกลางวัน และตุ๊กแกก็บังเอิญย้ายที่พักมาพักอยู่ที่เดียวกับมัดหมี่ มัดหมี่รู้ดีว่าแพรวาโหดร้ายกับศัตรูหัวใจของตัวเองขนาดไหน มัดหมี่จึงต้องปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะถ้าแพรวารู้เรื่องนี้จะต้องถอนหุ้นเป็นแน่ และความฝันที่จะมีแบรนด์เสื้อผ้าของมัดหมี่ก็คงต้องพังทลายลง

เรื่องราววุ่น ๆ ได้เกิดขึ้นทั้งที่ทำงาน ตลาดสุขสำราญ หอพัก และจากผู้คนในชุมชนที่รายล้อมรอบตัวมากมาย อาทิ “ลุงชวน” รับบทโดย “เด๋อ ดอกสะเดา” ที่กลางวันทำอาชีพรปภ.บริษัทของมัดหมี่ ส่วนกลางคืนหลังออกเวรมาขายข้าวหมูแดงที่ตลาดเป็นรายได้เสริมต่อ“ป้าชื่น”รับบทโดย“เหมี่ยว–ปวันรัตน์ นาคสุริยะ” กลางวันมีหน้าที่ดูแลหอพัก กลางคืนเปิดร้านขายน้ำปั่นที่ตลาด “วิลเลียม” รับบทโดย“น้องโก๊ะ”หลานลุงชวนกับป้าชื่น เด็กเก็บเงินค่าเข้าห้องน้ำที่ตลาด “วิชัย” รับบทโดย “เอก – วิชัย จงประสิทธิ์พร” คนเก็บเงินค่าเช่าแผงจอมเบ่ง ที่คอยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับป้าชื่นและลุงชวนเป็นประจำ

ติดตามชมเรื่องราวมิตรภาพ ความฝัน และความสัมพันธ์ อันอลวนของทั้ง 4 หนุ่มสาว ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด โดยเฉพาะเรื่องความรักของ“มัดหมี่ , แพรววา , ตุ๊กแก และก้องภพ”นั้นว่าจะลงเอยกันหรือไม่อย่างไร ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาทั้งหมดได้ใน “รักกระหน่ำ ซัมเมอร์เซล”

กฤษณกัณท์ มณีผกาพันธ์ รับบท ตุ๊กแก
ธันย์ชนก ฤทธินาคา รับบท มัดหมี่
รพีภัทร เอกพันธ์กุล รับบท ก้องภพ
กรรณาภรณ์ พวงทอง รับบท แพรวา
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบท ป้าชื่น
วิชัย จงประสิทธิพร รับบท วิชัย
เด๋อ ดอกสะเดา รับบท ลุงชวน
วราพรรณ หงุ่ยตระกูล รับบท เจนีส
สุชาดา ตั้งพรทวี(นุช) โต๊ะกลม รับบท ปานวาด
น้องโก๊ะ รับบท วิลเลียม

ชุมชนคนรักดี

 สุดรัก ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ บูรพา เสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการผลิตอะไหล่เครื่องยนต์

 

    เดิน ทางกลับจากอเมริกาช่วงปิดภาคเรียน แต่ไม่มีใครมารับที่สนามบิน จึงว่าจ้าง ทิม แท็กซี่หนุ่มให้ไปส่งเธอที่บ้าน ทิมถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสัมภาระของสุดรักที่มากมายและหนักอึ้ง จนรถของเขาเกือบจะแล่นไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นสุดรักยังอุ้ม แคนดี้ สุนัขฝรั่งปากเปราะที่เห่าตลอดเวลา ขึ้นรถมาด้วย

 

    ระหว่าง ทาง สุดรัก สังเกตว่าทิมฟังวิทยุคลื่นหนึ่งอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ และใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับใครบางคนเป็นระยะ ซึ่งสุดรักถือว่าเสียมารยาทมาก จึงตำหนิทิมอย่างรุนแรง แต่ทิมกลับไม่สนใจ แถมยังตวาดให้แคนดี้เงียบด้วย สุดรักโมโหมาก แต่ทันใดนั้นทิมกลับรถอย่างรวดเร็ว และ ขับไล่ล่าตาม รถกระบะคันหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่สนเสียงกรี๊ดของสุดรัก ซึ่งกว่าสุดรักจะ
    รู้ว่ารถกระบะที่ทิมไล่ตาม นั้นคือโจรปล้นร้านทองที่ขโมยรถคนอื่นขับหนีตำรวจมา หัวใจสุดรักเกือบหยุดเต้น เมื่อทิมถึงกับขับรถปาดหน้าโจรจนรถกระบะพลิกคว่ำ สุดรักถือจังหวะที่ทิมลงไปจับโจร อุ้มแคนดี้วิ่งหนีออกจากรถ แต่โชคร้ายที่ทิมถูกโจรใช้อาวุธทำร้ายและจับสุดรักเป็นตัวประกัน ขณะที่ตำรวจตามมาถึงพอดี ก่อนที่ความรู้สึกของสุดรักจะดับวูบ แคนดี้ก็กระโจนเข้าขย้ำโจรจนต้องปล่อยสุดรัก และถูกตำรวจจับในที่สุด

 

    ที่ โรงพยาบาล บูรพากับ ศจี ภรรยาและ สุดฝัน น้องสาววัย 6 ขวบของสุดรักรีบมาเยี่ยมสุดรัก บูรพาโกรธมากที่รู้ว่า ทิมเป็นต้นเหตุทำให้ลูกสาวเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงอาละวาดทิมที่เพิ่งทำแผลเสร็จและยิ่งได้รู้ว่า ทิมไล่ล่าคนร้ายเพราะเป็นสมาชิกของวิทยุชุมชนคนรักดี บูรพาก็ยิ่งโกรธเป็นหลายเท่า เขาพาสุดรักกลับบ้านโดยตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่า จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับวิทยุคลื่นนี้ หลังจากที่ปล่อยทุกอย่างให้ยืดเยื้อมานาน ศจีแอบผิดหวังเล็กๆ ที่สุดรักไม่เป็นอะไร

 

    วิทยุ ชุมชนคนรักดีเป็นคลื่นวิทยุที่ บรรเจิด อดีตนักข่าวนสพ.ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้บริหารวิทยุชุมชนซึ่งมีบูรพาเป็นเจ้า ของคลื่น แรกๆ บูรพาตั้งใจจะใช้คลื่นนี้เป็นกระบอกเสียงสร้างภาพให้ตนเองเพื่อจะลงเล่นการ เมือง จึงยอมให้บรรเจิดทำคลื่นนี้เป็นคลื่นที่ทำสาธารณะประโยชน์ให้ชุมชน โดยสร้างเครือข่ายคนรักดีขึ้นมาจากคนหลากหลายอาชีพที่ต้องการช่วยเหลือผู้คน ในสังคม ไม่ว่าจะเป็น แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ สามล้อเครื่อง คนขับรถบรรทุก พ่อค้า แม่ขาย หนุ่มสาวโรงงาน พนักงานออฟฟิศ หมอ ตำรวจ หรือข้าราชการ และทิมก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายนี้ แต่เมื่อวิทยุชุมชนคนรักดีเติบโต บูรพากลับพบว่าเขาไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างที่ตั้งใจ จึงคิดจะยึดคลื่นคืนจากบรรเจิด แต่ยังไม่สามารถทำได้ถนัดนัก จึงเริ่มหาเรื่องตัดงบสนับสนุนคลื่นลงและขอให้บรรเจิดไปหาสปอนเซอร์เอง ซึ่งบรรเจิดก็พยายามดิ้นรนประคับประคองคลื่นมาได้

 

    ใน งานเลี้ยงต้อนรับสุดรักที่บูรพาจัดขึ้น สื่อมวลชนมากมายยกย่องบูรพาในฐานะที่เป็นเจ้าของคลื่นชุมชุนคนรักดี สุดรักจึงได้รู้ว่าคลื่นนี้เป็นที่นิยมมาก แต่เธอก็ต้องแปลกใจที่ได้ยิน บูรพาคุยกับทนงคนสนิทให้ดำเนินการบีบให้ บรรเจิดคืนคลื่นให้ตนโดยเร็ว รุ่งขึ้นสุดรักจึงแอบไปสังเกตการณ์ที่สถานี ซึ่งที่นั่นสุดรักได้พบว่าเป็นเพียงตึกเล็กๆ เก่าๆ ที่มีคนทำงานอยู่ไม่กี่คน ตั้งแต่ บรรเจิด ผู้บริหารสถานี ม้าศึก ดีเจจอมกวน(บาทา) น้ำหวาน ช่างเสริมสวยที่ใฝ่ฝันจะเป็นดีเจ
    ลุง ธงชาติ หมอดูแม่นๆ ที่ยังรับจ๊อบทำขวัญนาค กวาดคอเด็ก และงานจิปาถะมากมาย บรรเจิดเข้าใจว่าสุดรัก จะมาสมัครเป็นดีเจจึงกุลีกุจอต้อนรับและพาชมสถานี พร้อมทั้งอธิบายถึงอุดมการณ์ต่างๆ สุดรักฟังแล้วรู้สึกทึ่ง เมื่อกลับมาบ้าน สุดรักเปิดวิทยุฟังจนเช้าได้รับรู้ถึงการช่วยเหลือสังคมที่น่าประทับใจของ คลื่นชุมชุนคนรักดีจนทำให้เธอต้องกลับไปที่สถานีอีกครั้ง โดยไม่คาดฝัน สุดรักถูกบรรเจิดยัดเยียดให้ทำหน้าที่ดีเจแทนม้าศึกที่โดนวัยรุ่นรุมตื๊บจน ต้องเข้าโรงพยาบาล (แท้จริงแล้ว เป็นฝีมือทนง) สุดรักจำใจเป็นดีเจจำเป็น ซึ่งก็ต้องเจอกับกรณีเร่งด่วน เมื่อทิมแจ้งเข้ารายการว่ามีอุบัติเหตุ และต้องการให้ช่วยประสานตำรวจและรถโรงพยาบาล ซึ่งสุดรักก็พูดผิดๆ ถูกๆ เพราะเธอแทบไม่รู้จักถนนหนทางในกรุงเทพเลย ทำให้ทิมฉุนขาดทะเลาะกับสุดรักแบบออกอากาศจนผู้ฟังงงเต๊ก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเครือข่าย ก็ทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ทิมยังติดใจบุกไปดูหน้าดีเจถึงสถานีแล้วถึงกับอึ้งที่เห็นสุดรัก สีหน้าดูถูกของทิมทำให้สุดรักเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ยังไม่ยอมบอกใครว่า เธอคือลูกสาวของบูรพา

 

    บูรพา คาดโทษบรรเจิดที่เอาดีเจสมัครเล่นมาทำให้เสียชื่อสถานี และขอตัดเงินสนับสนุนลงอีก บรรเจิดประชุมขอตัดเงินเดือนพนักงาน และเปลี่ยนใจไม่จ้างสุดรักเป็นพนักงานเพราะไม่มีเงินจ่าย สุดรักแอบโอนเงินส่วนตัวเข้าบัญชีบรรเจิด โดยทำให้บรรเจิดเข้าใจว่าเป็นเงินบริจาคจากผู้ฟังทางบ้าน บรรเจิดออกอากาศขอบคุณ ทำให้บูรพาขัดใจมาก

 

    เกิด พายุฝนนอกฤดู ทำให้ป้ายโฆษณาล้มทับรถ ทิมเห็นเหตุการณ์และแจ้งเข้าสถานีเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทำให้เสี่ยวิชัยเจ้าของป้าย และเป็นเพื่อนทางธุรกิจของบูรพาไม่พอใจ บอกให้บูรพางดออกอากาศเรื่องนี้ บูรพาไปที่สถานีและก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวเองเป็นดีเจอยู่ บูรพาจะลากสุดรักกลับบ้าน แต่สุดรักไม่ยอม ขอทำงานต่อไป บูรพายื่นคำขาดปิดสถานี แต่สุดรักยืนยันว่าหากพ่อทำอย่างนั้นจะหนีออกจากบ้านไม่กลับไปเรียนอีก บูรพาแค้นมาก บรรเจิดเข้าไกล่เกลี่ยขอร้องให้บูรพาผ่อนผันเวลาโดยจะพยายามหาสปอนเซอร์มาทำ กำไรให้ได้ บูรพาจำยอมโดยให้เวลาสามเดือน ถ้าทำไม่ได้ ต้องคืนคลื่นและสุดรักต้องกลับไปเรียนต่อ สุดรักรับปาก

 

    ใน ที่สุดคลื่นชุมชนคนรักดีจึงได้ออกอากาศต่อไป ภายใต้แรงกดดันของบูรพา ซึ่งในทางตรงกันข้ามกลับเป็นแรงผลักดันให้สุดรักตั้งใจเรียนรู้งาน และฝึกฝนอย่างหนักที่จะเป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อสังคมที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันสุดรักได้เรียนรู้ปัญหาต่างๆ ในสังคมมากมายที่ถูกละเลย พร้อมกันนั้นก็ได้รู้จักกับผู้คนที่แม้ต่างฐานะ แต่กลับมีอุดมการณ์เดียวกัน เช่น จิมมี่ ดารานักบู๊ชื่อดังที่มาเป็นหน่วยอาสากู้ภัย แสงดาว หมออาสาประจำคลื่น แก๊งสามซิ่ง วินมอเตอร์ไซด์หัวใจลูกทุ่งที่มีกระทิงเป็นหัวหน้า และหลงเสน่ห์สุดรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ฯลฯ

 

    โดย ผู้คนทั้งหมด ก็จะผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาในแต่ละสถานการณ์ที่มีผู้ร้องเรียนความเดือด ร้อนผ่านวิทยุชุมชนขอความช่วยเหลือ ดังตัวอย่างเรื่องราวต่อไปนี้

 

 

    คุณหมอใจเพชร

 

    แสง ดาวหมออาสาพบว่า ที่แผนกฉุกเฉินที่เธอประจำอยู่ มีคนไข้ที่บาดเจ็บ ฟกช้ำดำเขียวมารักษาเป็นประจำ และส่วนมากจะเป็นคนหน้าเดิมๆ รวมทั้งแก๊งสามซิ่งด้วย เมื่อถามถึงสาเหตุการบาดเจ็บทุกคนก็ตอบว่า ตกต้นไม้บ้าง รถชนบ้าง แต่เมื่อดูจากบาดแผลแล้ว แสงดาวไม่คิดเช่นนั้น จึงไหว้วานให้เครือชุมชนคนรักดี ช่วยตามสืบ ก็พบว่าที่แท้ ทุกคนถูกมาเฟียเงินกู้คนหนึ่งใช้วิธีทวงหนี้แบบหฤโหด ขณะเดียวกัน ก็มีคนโฟนอินเข้ามาในคลื่นชุมชนคนรักดีให้ช่วยตามหาญาติที่ถูกอุ้มหายไป เพราะไม่มีเงินส่งเจ้าหนี้ และระบุว่า เจ้าหนี้ผู้นั้นคือเฮียเลิศที่เป็นทั้งเจ้าของที่ดินและกิจการสถานบันเทิง ยามค่ำคืนมากมาย บรรเจิดสั่งให้สุดรักตัดสายทิ้งทันที แถมยังบอกว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะบรรเจิดเองก็เป็นลูกหนี้เฮียเลิศด้วย เมื่อแสงดาวรู้ความจริงก็รู้สึกโกรธมาก จึงตัดสินใจฉีกหน้ากากเฮียเลิศให้จงได้ ปฏิบัติการหักเหลี่ยมมาเฟียจึงเริ่มขึ้น โดยสามสาว สุดรัก แสงดาวและน้ำหวาน ปลอมตัวเข้าไปใกล้ชิดเฮียเพื่อใช้คลิปวีดีโอบันทึกพฤติกรรมการรีดไถ ข่มขู่ และ ขโมยสัญญาทาสมาเป็นหลักฐานให้กับตำรวจ

 

    ทั้งสามก็ได้พบกับ เฮียเลิศมีลูกสาวคนหนึ่ง ชื่อ น้ำค้าง อายุประมาณ 8 ขวบ และป่วย

 

    สารพัด โรค ทั้งหอบ หืด ภูมิแพ้ และลมชัก ซึ่งเฮียเลิศรักลูกสาวคนนี้มาก แต่น้ำค้างกลับเฉยเมยไม่ยอมพูดจากับเฮียเลิศ ซึ่งเฮียเลิศเข้าใจว่าเป็นเพราะอาการป่วย แต่แท้จริงแล้ว น้ำค้างเคยแอบเห็นเฮียเลิศและลูกน้องทำร้ายพวกลูกหนี้จึงรู้สึกกลัวและผิด หวังในตัวพ่ออย่างรุนแรง วันหนึ่งน้ำค้างอาการกำเริบแสงดาวเข้าปฐมพยาบาล จนทำให้เฮียเลิศจับได้ว่าแสงดาวปลอมตัวมา เฮียเลิศจะจัดการปิดปากแสงดาว แต่น้ำค้างร้องห้าม ทำให้เลิศต้องเปลี่ยนใจเป็นจับตัวสามสาวไว้ การหายไปของสามสาวทำให้สมาชิกหนุ่มอย่างทิม จิมมี่และม้าศึกเป็นห่วงมาก ออกติดตามหาจนพบ ขณะที่น้ำค้างอาการหนัก แทนที่จะจับเลิศส่งตำรวจทุกคนจึงต้องรีบพาน้ำค้างส่งโรงพยาบาล น้ำค้างของร้องให้เลิศเลิกทำร้ายคน เลิศรับปากและยินยอมรับโทษ

 

 

    สมบัติของตี๋น้อย

 

    เรื่อง ของดาบชัย ทนายจอมปลิ้นปล้อนของตระกูลมหาศาลแอบยักยอกเอาเพชรนิลจินดามูลค่าหลายล้าน ที่น่าจะเป็นของตี๋น้อยทายาทคนสุดท้ายของตระกูลไปเป็นของตัวเอง แต่ความซวยเนื่องจากความล่อกแล่กของลูกสมุนทำให้ลืมเงินไว้ในแท็กซี่ของทิม และด้วยความวุ่นวายโกลาหลในขณะที่ขับรถตามทิมจนมาถึงวิทยุชุมชนคนรักดี ก็ดันลืมตี๋น้อยทายาทที่แท้จริงของเงินจำนวนนั้นเอาไว้ที่สถานีวิทยุ ความเจริญจึงบังเกิดแก่พนักงานทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุดรักที่
    เพิ่ง ปฏิเสธพ่อของเธอที่จะเอาเธอไปประกวดนางงามเนื่องจากเกลียดเด็ก แต่กลับเป็นคนที่ต้องดูแลตี๋น้อย ที่ชื่นชอบในการกินและขับถ่ายเป็นระยะๆ สลับกับการร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง

 

    ใน ขณะเดียวกันนั้นเอง ดาบชัยที่สมุนทำเงินหายไปก็ไม่กล้ากระโตกกระตากแจ้งความหรือประกาศหาเพชรนิล จินดาอย่างเปิดเผย เพราะอาจพากันเข้าซังเตได้ถ้าตำรวจถามหาที่มาของของพวกนั้น จึงแกล้งขอให้วิทยุชุมชนคนรักดีประกาศหากระเป๋าเดินทางใบใหญ่และบอกเพียงว่า ภายในเป็นเอกสารและสมบัติเล็กน้อยที่มีคุณค่าทางจิตใจ ทางรายการจึงกระจายข่าวไป

 

    แต่ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ กระเป๋าใบนี้เดินทางจากแท็กซี่ของทิมไปวนเวียนอยู่กับเหล่าคนจนที่เป็นแฟน รายการวิทยุชุมชนคนรักดีที่มาช่วยเลี้ยงตี๋น้อยกันอย่างทั่วหน้า และที่สำคัญก็คือ คนเหล่านั้นต่างก็กำลังประสบเคราะห์กรรมต่างรูปแบบอาทิ ทิมที่กำลังถูกยึดรถแท็กซี่คู่ใจเพราะขาดส่งค่างวด บรรเจิดผู้ที่พยายามหาเงินมาทำงานสถานีวิทยุก่อนที่ตึกจะถูกตัดน้ำตัดไฟ ฯลฯ ซึ่งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลในกระเป๋าสามารถแก้ปัญหาของพวกเขาได้และในขณะ เดียวกันดาบชัยก็ส่งสมุนมาคอยตามรอยของกระเป๋าเพื่อถือโอกาสปล้นเอาเงินกลับ คืนไป
    แต่เหล่าคนดีก็สามารถต่อสู้กับความ เย้ายวนของเงินจำนวนมหาศาลได้สำเร็จ และก็ช่วยให้ตี๋น้อยได้ครอบครองทรัพย์สมบัติที่เป็นของบรรพบุรุษของเขาในที่ สุด

 

    คุณพ่อเซลล์แมน

 

    เรื่อง ต่อมาเป็นเรื่องราวของสุบิน เซลส์แมนที่ขอให้ทางรายการช่วยประกาศหาตัวส้มโอ ลูกสาวของเขาที่หายไปจากบ้าน แต่เมื่อส้มโอติดต่อกลับมา ทางสถานีจึงได้รู้ความจริงที่ว่าส้มโอไม่ได้หายไปจากบ้านแต่เธอตั้งใจหนีไป จากบ้าน เพราะเสียใจที่สุบินไม่เข้าใจในความรักของเธอที่มีต่อพี่บิ๊กเทพบุตรในสายตา ของเธอ แต่เป็นเดนสังคมในสายตาของสุบินซึ่งพยายามทำทุกวิถีทางตั้งแต่ดุ ด่า เฆี่ยนตีจนถึงขั้นกักขังและหน่วงเหนี่ยวสิ่งที่เธอถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ ส่วนตัวของเธอและเธอยืนยันที่จะไม่กลับบ้าน

 

    ศึก พ่อลูกคู่นี้ทำให้บรรดาสมาชิกของวิทยุชุมชนคนรักดีแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย ด้านหนึ่งเห็นด้วยกับสุบินและคิดว่าเขามีสิทธิที่จะปกป้องลูกสาวของเขาจาก เงื้อมมือมาร ส่วนอีกฝ่ายยึดความรักเป็นสรณะ เข้าข้างส้มโอและคิดว่าพ่อของเธอทำเกินไป จนบรรเจิดคิดว่าเขาต้องลงมาระงับข้อพิพาทนี้ และใช้วิทยุชมชนคนรักดีเป็นตัวกลางที่จะสร้างความเข้าใจที่ดีให้เกิดขึ้น ระหว่างพ่อกับลูกสาว และคนที่อาสาจะไปเกลี้ยกล่อมฝ่ายพ่อคือทิม ในขณะที่สุดรักผู้ที่คิดว่าเธอเข้าใจหัวจิตหัวใจของลูกผู้หญิงด้วยกันดีอาสา จะไปหาทางเจรจากับส้มโอ

 

    แต่ สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ การที่บรรเจิดตัดสินใจเอารายการวิทยุชุมชนคนรักดีเข้าไปเกี่ยวข้องกับสองพ่อ ลูกครั้งนี้ กลับเป็นการทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสถานีวิทยุตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง ทั้งนี้ก็เพราะนายบิ๊กนั้นที่จริงแล้วเป็นลูกสมุนของแก๊งค์หาผู้หญิงค้า ประเวณี โดยเหยื่อสาวๆ เหล่านั้นก็คือวัยรุ่นที่มีปัญหากับพ่อแม่อย่างเช่นส้มโอ

 

    ซึ่งสมาชิกชุมชนคนรักดีก็ต้องร่วมแรงร่วมใจกันช่วยส้มโอให้หลุดพ้นเงื้อมมือมารให้จงได้

 

    เมื่อเวลาสามเดือนผ่านไป สัญญาระหว่างบูรพากับสุดรักครบกำหนด บรรเจิดก็ยังไม่สามารถจะหาสปอนเซอร์มาสนับสนุนสถานีได้เพียงพอ คลื่นวิทยุชุมชนคนรักดีจำต้องประกาศปิดตัวลงท่ามกลางความเศร้าใจของบรรดา สมาชิก แม้แต่ตัวบูรพาเองก็รู้สึกใจหาย เพราะที่ผ่านมาเขาก็ประทับใจในความสามัคคี ความร่วมแรงใจกันเพื่อช่วยเหลือสังคมของเหล่าสมาชิกชุมชนคนรักดีอยู่ไม่น้อย แต่เหตุผลที่เขาต้องยืนยันเจตนารมณ์เดิม ก็เพราะไม่สามารถยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างสุดรักกับทิมที่นับวันจะใกล้ชิด แนบแน่นขึ้น เขาจึงเลือกที่จะให้ลูกสาวกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ

 

    วัน สุดท้ายที่คลื่นชุมชนคนรักดีออกอากาศ มีผู้คนที่เป็นแฟนสถานีหลั่งไหลกันมาอย่างมากมาย ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ไปจนถึงคนชรา คนยากจนไปจนถึงมหาเศรษฐี จนที่ทำการของสถานีวิทยุเล็กๆ แทบจะไม่มีที่ยืน และวันนั้นเองที่ทุกคนได้ตระหนักว่า การทุ่มเทกำลังสร้างความดีตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่สูญเปล่า…..แต่เรื่อง ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อ ทนงถูกบูรพาจับได้ว่า แอบยักยอกเงินบริษัทไปเล่นการพนัน จึงจับตัวบูรพาไปเพื่อขอให้บอกรหัสเซฟ สุดรักร้อนใจมาก ขอให้บรรเจิดช่วย การตามหาตัวบูรพาโดยเครือข่ายชุมชนคนรักดีจึงเริ่มขึ้น โดยมีแฟนสถานีคอยลุ้นจนในที่สุดทิม จิมมี่และแก๊งสามซิ่ง ก็ตามไปช่วยบูรพาได้ทัน บูรพามาถึงสถานีก่อนจะปิดทำการในวินาทีสุดท้าย และคำกล่าวอำลาของเขาต่อแฟนรายการก็เปลี่ยนเป็นการกล่าวขอบคุณต่อชุมชนคนรัก ดี และขอคืนสถานีให้กับบรรเจิดและสมาชิกทุกคน ท่ามกลางความยินดีของเหล่าสมาชิกและแฟนรายการ …… เรื่องของชุมชนคนรักดีจึงจบลงอย่างน้ำเน่าด้วยประการฉะนี้