Tag Archives: ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

รักประกาศิต

ผู้หญิง ต่อให้แข็งกร้าว ใจเด็ดปานใด หากหัวใจย่อมอ่อนหวานกับความรัก กับคนที่รักเสมอ ?ยายนิดหนีตามผู้ชาย ไม่บอกกล่าวใคร มีคนเห็นว่าผู้ชายขับรถมารับไป? เพียงประโยคเดียวของลัคนาที่พูดออกมาง่ายๆ โดยไร้การยั้งคิด เป็นผลให้ศักดิ์ศรีของเธอ?นริศรา สุริยรักษ์ มัวหมองตลอดมา ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ในวงแวดล้อมของสังคมใหม่ที่ได้ประสบ ?นริศรา? ยอมทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นหญิง เธอยอมทำงานหนัก ทั้งๆ ที่มือบอบบางทั้งคู่ไม่เคยแม้แต่จะหยิบจับงานใดเลย กายเหนื่อยล้า พักก็หาย หากหัวใจเหนื่อยอ่อน ยากนักจะจางหายได้? ทุกชีวิตในไร่ ?สุพัฒนา? รักใคร่ นับถือผู้จัดการคนใหม่ที่เป็นหญิง หากแกร่งดั่งชายอกสามศอก ทุกคนยอมรับต่อความดี ยอมรับต่อความอดทน มานะ แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ ในความรู้สึกลึกๆ นริศราต้องการอะไร ?ทุกอย่างที่ผมสั่ง คุณต้องทำได้ หากไม่พอใจ คุณจะลาออก ผมก็ไม่ว่า? คำพูดห้าวๆ ห้วนๆ ประโยคนั้น ฝังแน่นลงในหัวใจ เธอเฝ้ากระซิบกับตัวเองเสมอ ?ผู้ชายคนนั้นต้องรับผิดชอบคำพูด และความคิดที่ดูถูกผู้หญิงอย่างเรา? น้ำกับน้ำมัน ไม่มีวันเข้ากันได้ฉันใด ภูชิชย์-นริศรา ก็ไม่แตกต่าง ภูชิชย์?เม็ดดินทุกเม็ด ต้นไม้ทุกต้น คือจิตวิญญาณและลมหายใจของเขา ชีวิตเขาคืองาน เขามองผ่านสตรีมานักต่อนัก หากกับเธอคนนี้ เหตุใดเขาจึงหยุดมองพินิจพิจารณา นริศรา?งานทุกอย่างทำให้ลืมเรื่องราวแต่หนหลัง งานคือสิ่งที่จะพิสูจน์ศักดิ์ศรีของตัวเอง หากกระแสอุ่นๆ ที่รายล้อมเธออยู่ขณะนี้?คืออะไร? รักประกาศิต บทประพันธ์ของ ก.สุรางคนางค์ เรื่องราวของความรักละเมียดละไม ที่ค่อยๆ ก่อตัวประสานเข้ากัน จนกลายเป็นความรักที่เหนียวแน่น ผูกรัดคนสองคนไว้อย่างสุดที่จะหลีกหนี ในความขัดแย้ง ในการกระทำภายนอก ภูชิชย์-นริศรา คือคู่กัดที่ฝีมือไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน แต่ใครเลยจะรู้ ลึกลงไปกว่านั้น ทั้งสองแอบซ่อนสิ่งใดไว้ หัวใจทระนงสองดวงไม่มีวันรู้ว่า ?รัก? ได้ประกาศิตเขาและเธอมาเช่นไร คนที่อยู่บนที่สูงได้ ย่อมเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ และความรักจะยิ่งใหญ่ได้ ต้องเป็นความรักที่ยืนยงตลอดกาล!

รายชื่อนักแสดงนำ ละคร รักประกาศิต

ณัฐวุฒิ  สกิดใจ   แสดงเป็น   ภูชิชย์
ทักษอร  ภักดิ์สุขเจริญ   แสดงเป็น   นริศรา
สรวิชญ์  สุบุญ   แสดงเป็น   นิพนธ์
ณปภา  ตันตระกูล   แสดงเป็น   สุพัฒนา
พิจิตรา  สิริเวชชะพันธ์   แสดงเป็น   เจ้าทิพย์ดารา
สุรยนต์  อรุณวัฒนกุล   แสดงเป็น   โป๊ะ
สุพจน์  จันทร์เจริญ   แสดงเป็น   วิทวัส
โชติรส  แก้วพินิจ   แสดงเป็น   รัชนิดา
สกาวใจ  พูนสวัสดิ์   แสดงเป็น   ลัคนา
วรันลักษณ์  ศิริมะณีวัฒนา   แสดงเป็น   ลาวัณย์
ศิระ  แพทย์รัตน์   แสดงเป็น   ผล
รมิดา  ประภาสโนบล   แสดงเป็น   บัวเกี๋ยง
ถนอม  สามโทน   แสดงเป็น   ลุงปั๋น
พิมพ์พรรณ  บูรณะพิมพ์   แสดงเป็น   แม่อุ้ย
พรรษชล  สุปรีย์   แสดงเป็น   พร
เจสสิกา  ภาสะพันธุ์   แสดงเป็น   มอลลี่
กรุณพล  เทียนสุวรรณ   แสดงเป็น   ณรงค์
วิวัฒน์  ผสมทรัพย์   แสดงเป็น   เจ้าเทพมงคล
เพ็ญพักตร์  ศิริกุล   แสดงเป็น   เจ้าดาระกา

ริษยา

วังอโยธยาหรือวังเจ้ามีหม่อมชุลี เป็นเจ้าของวังและไม่ชอบสุงสิงกับใคร มีเพียงคนรับใช้ที่สนิทคือ อบสวาทและลูกสาว ม.ร.ว.วรรศิกา ผู้มีนิสัยเก็บกดเพราะถูกเลี้ยงให้อยู่ในกฎระเบียบประเพณีอย่างเคร่งครัด ที่วังอโยธยา หม่อมชุลีตั้งแง่เกลียดชังชนก เมื่อรู้ว่าชนกเป็นลูกของชวนชื่น เพราะคิดว่าชวนชื่นส่งลูกชายมาเพื่อเปรียบเทียบกับลูกชายของตน ชนกได้เจอกับคุณหญิงวรรศิกาแต่ก็ไม่ได้ถูกใจเพราะเห็นว่าเป็นคนที่เงียบขรึม คุณชายหริพันธ์ได้เป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาวรรณคดีอังกฤษ เขาเป็นที่ชื่นชอบของนิสิตสาวรวมทั้งชนนี น้องสาวของชนก หริพันธ์ได้เล่าถึงชนนีลูกสาวอีกคนของชวนชื่นให้หม่อมชุลีฟัง ทำให้หม่อมชุลีอยากเจอชนนี และเมื่อมีโอกาสได้เจอหน้ชนนีหม่อมชุลีก็คิดแผนร้ายขึ้นในใจ ไม่กี่วันต่อมา ท่านหญิงนวลก็มาสู่ขอชนนีให้กับคุณชายหริพันธ์ที่บ้านกรกตพงษ์ สร้างความแปลกใจให้กับนพและชวนชื่นมาก ชวนชื่นดีใจเพราะคิดว่าหม่อมชุลียกโทษให้เธอแล้ว และเมื่อถามชนนีก็รู้ว่าเธอหลงรักหริพันธ์จึงตัดสินใจให้ทั้งคู่แต่งงานกัน สร้างความเสียใจให้กับเจตต์ ชายหนุ่มที่แอบหลงรักชนนีอยู่ งานแต่งงานถูกกำหนดขึ้นทันทีหลังจากชนนีเรียนจบ หม่อมชุลีอยากให้จัดงานอย่างเงียบๆ เพราะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่ชนกและนพไม่ยอม หม่อมชุลีโกรธมากจึงไม่ไปร่วมงานของบ้านกรกตพงษ์ มีเพียงเจ้าบ่าวคนเดียวเท่านั้น เมื่อถึงเวลาส่งตัวญาติสนิทฝ่ายเจ้าสาวทุกคน ก็พากันเดิทางไปที่วังอโยธยาเพื่อส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว นพอาลัยอาวรณ์และเป็นห่วงชนนีมาก ชวนชื่นจึงเข้าไปคุยกับหม่อมชุลีและฝากฝังชนนีให้หม่อมชุลีช่วยดูแล แต่เมื่อชวนชื่นรู้ว่าหม่อมชุลียังไม่หายโกรธตนก็รู้สึกเสียใจและเป็นห่วง ชนนีขึ้นมา และเมื่อทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันชนนีก็ทราบว่าหริพันธ์มีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งกับอบสวาท ทำให้เธอรู้สึกเสียใจมาก หริพันธ์ต้องไปราชการที่เชียงใหม่ โดยมีอบสวาทตามไปดูแลตามคำสั่งของหม่อมชุลี ชนนีเกิดป่วยขึ้นมาหม่อมชุลีไม่ให้ใครมาดูแล เพราะคิดว่าคงจะหึงอบสวาท วรรศิกาเป็นห่วงชนนีจึงแอบไปบอกให้ชนกรีบไปรับน้องสาวส่งโรงพยาบาลทำให้ หม่อมชุลีโกรธมากและยื่นคำขาดว่าไม่ต้องกลับมาที่วังอีกเพราะเต็มใจไปกันเอง หมอตรวจพบว่าชนนีป่วยเป็นลูคีเมียและตั้งครรภ์ แต่ด้วยพิษไข้ทำให้เธอแท้ง หริพันธ์กลับจากราชการที่เชียงใหม่ไม่พบชนนี หม่อมชุลีบอกว่าชนนีไม่สบายจึงรักษาตัวที่บ้าน หริพันธ์รู้สึกเป็นห่วงแต่ก็ทำได้เพียงแค่โทรไปถามข่าวคราวเท่านั้น ท่านหญิงนวลต่อว่าหม่อมชุลีที่ทำไม่ถูก และบอกความจริงว่าชนนีไม่สบายมากแล้วยังแท้งลูกอีกด้วย หริพันธ์ รู้สึกเสียใจ ผิดกับหม่อมชุลีที่รู้สึกสะใจที่สามารถเอาชนะชวนชื่นและนพได้ หริพันธ์ได้ปรับความเข้าใจกับชนนีพร้อมทั้งชวนเธอไปอยู่ต่างประเทศกับเขา พร้อมวรรศิกา หม่อมชุลีรู้ว่าหริพันธ์มาพบชนนีที่บ้านและวรรศิกาก็หนีออกจากบ้านไป สร้างความโกรธแค้นให้กับหม่อมชุลีจนโรคหัวใจกำเริบ จึงตัดสินใจยกสมบัติทั้งหมดให้กับอบสวาท แล้วหม่อมชุลีก็ตายไปพร้อมกับไฟแห่งความริษยาอาฆาต ที่ทำห้หม่อมชุลีมีแต่ความทุกข์ ไม่สงบมานาน เมื่อเสร็จพิธีศพหม่อมชุลี อบสวาทต้องการให้หริพันธ์มาอยู่ด้วยพร้อมทั้งจะยกสมบัติให้ทั้งหมด แต่หริพันธ์ปฏิเสธพร้อมทั้งบอกให้ทำทุกอย่างตามความประสงค์ของหม่อมชุลี วรรศิกาตัดสินใจไปต่างประเทศพร้อมกับพี่ชายเพื่อลืมชนกที่ไม่มีทีท่าจะรัก เธอเลย จนวันเดินทางมาถึงทุกคนมาส่งหริพันธ์ ชนนี และวรรศิกาที่สนามบินแล้วระหว่างที่กำลังร่ำลากัน ชนกก็ดึงวรรศิกาเข้ามากอด บอกรักเธอและให้เธอไปอยู่ที่โน่นก่อนแล้วจะตามไปทีหลัง ทุกคนยินดีไปกับความรักของทั้งคู่

นักแสดง ริษยา

มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช รับบท หม่อมชุลี
จริยา แอนโฟเน่ รับบท อบสวาท
นิธิ สมุทรโคจร รับบท ชนก
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท คุณชายหริพันธุ์
ลดา เองชวเดชาศิลป์ รับบท ชนนี
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ รับบท คุณหญิงวรรศิกา
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท ท่านหญิงนวล
เกรียงไกร อุณหนันท์ รับบท นพ
สุพรรษา เนื่องภิรมย์ รับบท ชวนชื่น
กมลา กำภู ณ อยุธยา รับบท ยอดธิดา
ณัฐินี สิทธิสมาน รับบท เจียน
พิมพ์พรรณ บูรณะพิมพ์ รับบท พุด
แดน เหตระกูล รับบท เจตน์

รอยไหม

รอยไหม เป็นเรื่องราวของ เรริน (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) เห็นธาตุแท้ของ ธนินทร์(เจสัน ยัง) คู่หมั้นที่หมั้นกันเอาไว้หลายปีแล้วด้วยการจัดการของผู้ใหญ่ เพราะธนินทร์แอบขายผ้าทอผลงานของเธอโดยไม่บอกกล่าว เรรินโกรธมาก เดินทางขึ้นเชียงใหม่ทันที เธอต้องการสงบสติอารมณ์ ที่เชียงใหม่เรรินแวะเวียนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อชมการทอผ้า และที่แม่แจ่ม เธอได้พบ สุริยวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์) และได้ อาศัยรถของเขากลับเข้าเมืองด้วย เรรินได้ที่พักเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของที่อัธยาศัยดีในคืนแรกที่พักเธอได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เธอจึงลุกออกมาและได้พบชายคนหนึ่ง เขาพูดคุยกับเธอเหมือนรู้จักคุ้นเคยมานาน เขาแสดงความยินดีที่เธอกลับมาแล้ว สร้างความงงงวยให้เรรินเป็นอย่างมาก

เรรินพบว่าสุริยวงศ์เป็นน้องชายวันดารา(อรอนงค์ ปัญญาวงศ์)เจ้าของรีสอร์ตเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และเมื่อรู้ว่าเรรินสนใจงานผ้าโบราณ เขาจึงอาสาพาเรรินไปพบ บัวเงิน(พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าของเขา เพราะบัวเงินครอบครองผ้าโบราณล้านนามากมาย นาทีแรกที่บัวเงินได้เห็นหน้าของเรริน ทุกอย่างกลับตาลปัตร บัวเงินไล่ตะเพิดและด่าทอเรริน รวมถึงแสดงความเกลียดชัง สร้างความงุนงงให้กับเรรินและสุริยวงศ์ บัวเงินรู้ดีว่ามณีรินกลับมาแล้ว เพื่อทวงแค้นของเธอ เรรินได้แวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้า และในบรรดาผ้าตระกูลล้านนา เธอรู้สึกผูกพันกับผ้ากลุ่มไทเขินจากเชียงตุงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผ้าซึ่งเจ้าของเดิมคือ เจ้านางมณีริน(ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) รวมถึงประวัติเรื่องเล่าชีวิตของเจ้านางมณีรินได้ดึงดูดความสนใจของเรริน เป็นอย่างมากจนเธออยากรู้จัก เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เมื่อรู้ว่าเรรินสนใจผ้าโบราณ จึงพาเธอเข้าไปชมผ้าผืนหนึ่งที่ยังทอไม่เสร็จและทันทีที่เรรินได้เห็นผ้าผืน นั้น เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์เธอเข้าไปนั่งลงและเริ่มทอผ้าผืนนั้นต่อทันที ช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับการทอผ้า และการได้พบชายแปลกหน้ายามวิกาล ทำให้เธอเหมือนได้หลุดไปสู่อีกมิติหนึ่งและได้รู้จักเจ้านางมณีริน

เจ้านางมณีริน เป็นเจ้าหญิงจากแคว้นเชียงตุงที่ถูกส่งตัวมาเชียงใหม่ เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าศิริวัฒนา(ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ทั้งที่เธอไม่ได้รู้สึกรักเขาเลย เจ้านางมณีรินหนีออกจากคุ้มเจ้าหลวงไปเที่ยวตลาด โดยมีนางคำเที่ยง(สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ) พี่เลี้ยงคนสนิทติดตามไปด้วย ที่ตลาด มณีรินได้รู้จัก เจ้าศิริวงศ์ (อธิชาติ ชุมนานนท์)และมิตรภาพเบ่งบานเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างรู้ใจกันและกันจนก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ความจริงเรื่องสถานะของกันและกัน ความรักของคนทั้งคู่จึงกลายเป็นรักต้องห้าม

บัวเงินหม่อมของเจ้าศิริวัฒนา เมื่อรู้ว่ามณีรินเดินทางมาเพื่อแต่งงานกับศิริวัฒนา จึงคุมแค้นและต้องการกำจัดมณีรินให้พ้นทาง แล้วโชคเข้าข้างบัวเงินเมื่อ เจ้าหลวง (เผ่าทอง ทองเจือ) และพระชายา(ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ) ไว้วางใจให้บัวเงินเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลมณีริน มณีรินชอบทอผ้า พระชายาจึงมอบหมายให้บัวเงินเป็นครูสอนมณีริน บัวเงินเหยียบย่ำ ถากถางมณีริน ต่าง ๆ นานา แต่ฝีมือมณีรินยิ่งดีวันดีคืน ผลงานผ้าทอของมณีรินเป็นที่ปลาบปลื้มชื่นจิตพระชายาเป็นนักหนา และท่าทางศิริวัฒนาจะรักมณีรินมากขึ้นทุกวัน แต่โอกาสก็เข้าข้างบัวเงินเสมอ ครั้งหนึ่งบัวเงินจงใจผลักมณีรินตกน้ำ โดยตั้งใจจะให้เสียหน้า เฉย ๆ แต่มณีรินกลับจมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ศิริวงศ์มาช่วยไว้ได้ทันเวลา ยิ่งทำให้ความผูกพันระหว่างมณีรินและศิริวงศ์กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในงานถวายผ้าห่มพระธาตุ เจ้าหลวงและพระชายาสั่งให้มณีรินและบัวเงินแข่งขันกับทอผ้า บัวเงินใช้กลโกงในการทอ ทำให้มณีรินไม่มีฝ้ายในการทอผ้า แต่ในนาทีสุดท้ายนั้นเองศิริวงศ์ ซึ่งล่วงรู้แผนการของบัวเงิน ก็ขนฝ้ายจำนวนมากมาให้มณีริน ผลการแข่งขันได้หักหน้าบัวเงินอย่างแรง เพราะมณีรินเป็นฝ่ายถูกตัดสินให้เป็นฝ่ายชนะด้วยฝีมือปักผ้าแบบเชียงตุง เพิ่มเข้าไป บัวเงินสะสมความแค้นต่อมณีริน และยิ่งรู่สึกว่าเจ้าหลวงลำเอียงเอ็นดูมณีรินมากกว่า

อีเม้ย(ชุดาภา จันทเขตต์) ขี้ข้าคนสนิทของบัวเงิน ออกความคิดช่วยกำจัดมณีรินโดยใส่งูเห่าไว้ในกระชุดอกไม้ หวังให้งูกัดมณีริน แต่คนที่รับเคราะห์ถูกงูกัดคือศิริวงศ์ มณีรินดูดพิษงูจากแขนศิริวงศ์ โดยไม่กลัวความตาย ทั้งคู่รักกันมากขึ้น และอีเม้ยเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ อีเม้ยถูกจับเฆี่ยนเพราะถูกจับได้ว่าเป็นผู้ต้องสงสัย แต่มณีรินขอชีวิตอีเม้ยไว้ไม่ถือโทษเพราะถือว่าไม่มีหลักฐาน

ศิริวัฒนา สนใจในตัวบัวเงินน้อยลงทุกที อีเม้ยออกความคิดทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งเป็นเรื่องผิดอาญาแผ่นดิน ศิริวัฒนาล้มป่วยเพราะโดนของ ศิริวงศ์และมณีรินล่วงรู้แผนการของบัวเงิน และกำจัดมนต์ดำนั้นได้ เจ้าหลวงไม่ค่อยสบาย แต่อาการดีขึ้นด้วยอาหารที่มณีรินจัดขึ้นถวาย เจ้าหลวงจึงมอบหมายให้มณีรินดูแลเรื่องอาหารตลอดไป บัวเงินคุมแค้นและใช้โอกาสนี้ ยอกย้อนมณีริน โดยใส่ยาพิษในอาหาร หวังจะฆ่าเจ้าหลวง และกำจัดมณีรินไปพร้อม ๆ กัน อีเม้ยยอมเป็นฝ่ายรับเคราะห์แทนบัวเงิน โทษฐานวางยาเจ้าหลวง อีเม้ยฆ่าตัวตาย โดยสั่งเสียบัวเงินไว้ว่าวิญญาณของตนจะอยู่รับใช้บัวเงินตลอดไป บัวเงินล่วงรู้ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของมณีรินกับศิริวงศ์เพราะผีอีเม้ย บัวเงินแฉเรื่องเลวร้ายนี้ หวังให้ศิริวัฒนากำจัดมณีริน ศิริวัฒนาโกรธจัดแต่เมื่อทั้งมณีรินและศิริวงศ์ ยอมรับความจริง และให้ขอศิริวัฒนา เห็นใจในความรักแท้ ศิริวัฒนาก็อ่อนลง

วันสงกรานต์ ศิริวงศ์นัดพบมณีริน ผีอีเม้ยเข้าสิงครอบงำศิริวัฒนา ตามไปและพลั้งมือฆ่าศิริวงศ์ มณีรินเสียใจอย่างหนัก ต้องการตายตามชายที่รัก ศิริวัฒนารู้สึกผิดที่พลั้งมือฆ่าน้องชาย แต่ต้องการไถ่โทษด้วยการแต่งงานและดูแลมณีรินอย่างดีที่สุด ศิริวัฒนาออกคำสั่งให้มณีรินทอผ้าตุ๊มเพื่อให้ใช้ในพิธีแต่งงาน มณีรินมิได้ขัดขืน ตั้งใจทอผ้าตุ๊มให้เสร็จโดยหวังจะใช้ผ้าผืนนี้ผูกคอตายตามศิริวงศ์ บัวเงินขัดขวางมณีริน กรอกยาพิษจนมณีรินขาดใจตายคากี่ทอผ้า ศิริวงศ์ตรอมใจและตายตามในที่สุด

บัวเงินเหมือนอยู่ในนรกตลอดเวลาเจ็ดสิบปี เมื่อมณีรินกลับมาเกิดใหม่ในฐานะเรริน บัวเงินจึงยังคุ้มแค้น บัวเงินและผีอีเม้ยขัดขวางเรรินทุกวิถีทางไม่ให้เรรินทอผ้าผืนนั้นเสร็จ แต่ด้วยความช่วยเหลือของทั้งศิริวัฒนาและศิริวงศ์ เรรินก็ทอผ้าผืนนั้นเสร็จสมบูรณ์จนได้ บัวเงินสั่งผีอีเม้ย เข้าสิงธนินทร์เพื่อจับตัวเรรินไปฆ่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปอย่าลืมติดตามชมละคร รอยไหม

รายชื่อนักแสดง ละคร รอยไหม

สุริยวงศ์,เจ้าศิริวงศ์ รับบทโดย อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์

เรริน,เจ้าหญิงมณีริน รับบทโดย แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

เจ้าสิริวัฒนา รับบทโดย ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ

ธนินทร์ รับบทโดย เจสัน ยัง

หม่อมบัวเงิน(วัยชรา) รับบทโดย พิสมัย วิไลศักดิ์

หม่อมบัวเงิน(วันสาว) รับบทโดย เมย์ เฟื่องอารมย์

วันดารา รับบทโดย อรอนงค์ ปัญญาวงศ์

วงพระจันทร์ รับบทโดย พิมลรัตน์ พิศลยบุตร

สรัญญา รับบทโดย ธนิดา กาญจนวัฒน์

พรรณวรินทร์ รับบทโดย รัชนี ศิระเลิศ

คำเที่ยง(แก่) รับบทโดย น้ำเงิน บุญหนัก

คำเที่ยง (สาว) รับบทโดย สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ

ไหมแม รับบทโดย วราพรรณ ทรัพย์ธนะอุดม

อีเม้ย รับบทโดย ชุดาภา จันทเขตต์

เจ้าหลวง รับบทโดย เผ่าทอง ทองเจือ

พระชายา รับบทโดย ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติภิภพ

สล่าพันธ์ รับบทโดย เกรียงไกร อุณหะนันท์

เมื่อดอกรักบาน

สายไหม สาวเชียงใหม่วัยสิบแปดปีกำลังลังเลใจที่ถูก ชาย โชติรส เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เล็ก ขอแต่งงาน เพราะเคยเป็นม่ายขันหมากเธอจึงไปขอคำปรึกษาจาก สายบัว ผู้เป็นแม่ซึ่งเห็นดีเห็นงามด้วย แต่การแต่งงานขอทั้งคู่ก็ต้องชะงัก เมื่อพ่อแม่ของฝ่ายชายอ้างว่า ฤกษ์แต่งงานปีนี้ไม่มี แต่ความจริงแล้วมันไม่มีทางมีเลย เพราะคนทั้งคู่หาใช่เนื้อคู่กันไม่ ในเย็นวันนั้น สายไหมได้เจอกับ กานท์ การุณย์ นักศึกษาหนุ่มหล่อจากบางกอกผู้ซึ่งรู้สึกเหมือนถูกศรรักปักอกทันทีที่เห็น สายไหม กานท์รีบหาข้อมูลจากเพื่อนรักชื่อ ตะวัน และตื๊อให้พาไปที่บ้านของสายไหม ตะวันเปิดโอกาสให้ทั้งสองได้พูดคุยกันตามลำพัง กานท์รีบบรรยายความรู้สึกและความรักให้สายไหมรับรู้ทันที แม้จะแสดงท่าทีว่าไม่เชื่อ แต่ในใจ สายไหมรู้ดีว่าตนเกิดรักแรกพบเข้าให้แล้ว สายไหมโกหกแม่ว่าตะวันชวนไปงานเลี้ยง สายบัวไม่อนุญาตเพราะวันนั้นสายไหมต้องเข้าพิธีหมั้นกับชายโดยที่สายไหมไม่ รู้มาก่อน ชายเห็นท่าไม่ดีจึงขอคุยกับสายไหมตามลำพังและต้องพบกับความจริงที่เจ็บปวด ว่าเธอไม่เคยคิดจะรักเขาแบบชู้สาวเลย ชายยอมรับความจริงและเข้าใจว่า สายไหมชอบพออยู่กับตะวัน เคลียหญิงสาวที่มาติดพันกานท์เจอกานท์ระหว่างทางและต้องการให้เขาพาเธอไปรับ ชุดสำหรับงาน กานท์จึงขอให้ตะวันไปรับสายไหมแทน ตะวันรับปากโดยมีข้อแม้ว่า กานท์ต้องบอกความในในของตะวันที่หลงรักเคลียให้เธอรู้ กานท์รับปาก

ในคืนนั้น กานท์มีความสุขมากที่ได้อยู่กับสายไหม เขาขอให้เธอตอบรับรัก ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มาเสนอหน้าให้เห็นอีก เคลียเห็นท่าทีที่กานท์แสดงออกต่อสายไหมเยี่ยงคนรักก็เจ็บใจ เลยบอกให้กานท์รู้ว่าสายไหมเป็นแม่ม่าย กานท์บอกให้เคลียกลับบ้าน เคลียวิ่งร้องไห้ออกไปโดยมีตะวันวิ่งตามไปด้วย ระหว่างทางฝนตกหนัก ตะวันพาเคลียไปหลบฝนในกระท่อม และพูดปลอบใจ ทำให้เคลียเคลิบเคลิ้มและตกเป็นของเขาในที่สุด หลังจากนั้นกานท์ถามตะวันเรื่องของสายไหมจนได้รู้ว่า สายไหมเคยแต่งงานกับพ่อเลี้ยงอินทรเพราะต้องการช่วยแม่ แต่คืนวัน ส่งตัวพ่อเลี้ยงอินทรถูกคู่อริยิงตาย ถึงแม้เคลียจะเป็นของตะวันแล้ว แต่ใจของเคลียยังคงคิดถึงแต่กานท์ ทำให้เคลียหนีออกจากบ้านและขอตามกานท์ไปอยู่ที่กรุงเทพฯด้วยโดยอ้างว่าพ่อ เลี้ยงจะข่มขืนแต่ที่จริงแล้วเธอหนีตะวันที่พาพ่อแม่มาสู่ขอเธอนั่นเอง

เมื่อตะวันได้ยินข่าวว่าเคลียหนีไปกับกานท์ก็มาคาดคั้นเอากับสายไหมที่ไม่ รู้เรื่องอะไรเลย เพื่อความสบายใจ สายไหมจึงรับปากว่าจะเขียนจดหมายถึงกานท์ให้มายืนยันความบริสุทธิ์ หากเขาไม่มาเธอจะพาตะวันไปหาเขาเอง กานท์อ่านจดหมายของสายไหมแล้วจึงรีบออกเดินทาง เคลียลงทุนกราบขอร้องให้กานท์ปิดเรื่องของเธอไว้ เมื่อถึงเชียงใหม่ ตะวันก็ซ้อมกานท์จนน่วม เมื่อตะวันถามกานท์ถึงเรื่องของเคลีย กานท์จึงโกหกไปว่าเคลียไม่ได้อยู่กับตน ตะวันจึงหยุดและขอโทษ พร้อมจะลงไปตามหาเคลียที่บางกอก สายไหมฝ่าสายฝนมาหากานท์ กานท์ถอดเสื้อของตนให้หญิงสาวเปลี่ยน ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงลงมา สายไหมกระโดดเข้าหาชายหนุ่มด้วยความตกใจ บรรยากาศพาให้คนทั้งสองเดินตามทางที่หัวใจปรารถนา สายบัวออกมาตามหาสายไหม แต่ตะวันออกมาช่วยแก้ต่างให้และชวนสายบัวเดินกลับทางอ้อมเพื่อให้สายไหมกลับ ถึงบ้านก่อน

เมื่อกานท์กลับมากรุงเทพฯ พบว่า เคลียท้องและไม่ยอมบอกว่าใครเป็นพ่อ แม่ของกานท์คิดว่าเขาเป็นพ่อของเด็กเลยบังคับให้รับผิดชอบ ขณะนั้นสายไหมมาหากานท์ที่กรุงเทพฯแต่กลับเจอเคลียมาต้อนรับในฐานะภรรยาและ สภาพท้องโตใกล้คลอด สายไหมใจสลาย เดินไปสลบหน้าบ้านชาย ทั้งชายและตะวันที่มาขอชายให้ช่วยตามหาสายไหม รีบพาสายไหมไปโรงพยายามและพบว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ เมื่อได้สติ สายไหมก็หนีกลับบ้านและได้รู้ว่าแม่เธอป่วยเสียชีวิตแล้ว สายไหมคิดฆ่าตัวตายแต่ตะวันตามมาช่วยไว้ทัน ตะวันรับปากสายไหมจะรับเป็นพ่อเด็กและดูแลเธอเอง ส่วนกานท์เมื่อคาดคั้นถามเคลียจึงรู้ว่าสายไหมมาหาตนที่บ้าน แต่เคลียโกหกว่าเด็กในท้องเคลียเป็นลูกของกานท์ กานท์จึงรีบขึ้นเชียใหม่ไปปรับความเข้าใจกับสายไหม แต่สายไปเพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับตะวัน กานท์ถูกตะวันซ้อมจนนอนจมกองเลือดเหมือนหมาข้างถนน เหตุการณ์ทั้งหมดกานท์โทษเคลียคนเดียว กานท์บอกจะรับเป็นพ่อเด็ก ส่วนเคลียกานท์ขอไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป เคลียช้ำใจ

เมื่อคลอดลูกเสร็จก็หนีไปทิ้งแค่จดหมายที่บอกความจริงว่าตะวันคือพ่อของเด็ก และเคลียก็คิดจะฆ่าตัวตาย ชายผ่านมาและได้ช่วยเธอไว้ ชายคอยเป็นเพื่อนและปลอบใจเคลียตลอด ส่วนกานท์ที่ตามหาเคลียเห็นรองเท้าของเคลียถอดทิ้งไว้ที่สะพานก็เข้าใจผิด ว่าเธอตายแล้ว 22 ปีผ่านไป สุริยนลูกชายของเคลียและตะวันได้เดินทางมาเชียงใหม่เพื่อทำงานและปราบปราม การทุจริต เขาได้รู้จักกับพ่อเลี้ยงเรืองฤทธิ์ซึ่งกำลังวางแผนใส่ร้ายว่าตะวันลักลอบ ตัดไม้ผิดกฎหมาย เพื่อจะฮุบกิจการของตะวันและสายน้ำผึ้ง ลูกสาวซึ่งแท้จริงแล้วคือลูกของกานท์กับสายไหมมาเป็นของตนทำให้สุริยนและ ตะวันมีเรื่องบาดหมางถึงขั้นเลือดตกยางออกกันหลายครั้ง ระหว่างที่พยายามตามหาคนผิด สุริยนก็ได้ตกหลุมรักสายน้ำผึ้งและพยายามทุกวิถีทางที่จะได้พบกับเธอ แต่เมื่อสายไหมและตะวันรู้ว่าเขาเป็นลูกกานท์ก็สั่งให้สายน้ำผึ้งเลิกคบและ บังคับให้เธอหมั้นกับพ่อเลี้ยงเรืองฤทธิ์ทันที

ส่วนสุริยนถูกรัญจวนน้องสาวเรืองฤทธิ์และเมียเก็บของตะวันพยายามปล้ำในป่า แต่หนีมาได้ ทางด้านรัญจวนกลับโดนเมฆ ลูกน้องของเรืองฤทธิ์ข่มขืนและถูกยิงตายก่อนที่จะได้พูดความจริง ตะวันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือของสุริยน สั่งให้ลูกน้องจับตัวสุริยนและซ้อมแทบปางตาย เมื่อกานท์ทราบข่าวก็รีบมาหาลูกชาย ระหว่างทางได้เจอกับเคลียที่ตอนนี้แต่งงานกับชายและย้ายไปอยู่เมืองนอก ทั้งสองจึงขอตามกานท์ไปด้วย เมื่อถึงเชียงใหม่ กานท์บอกความจริงเรื่องที่สุริยนคือลูกของตะวันโดยมีเคลียช่วยยืนยันอีกคน ทันใดนั้น เรืองฤทธิ์ก็บุกยิงตะวัน แต่ก็ถูกสุริยนฆ่าตาย ตะวันได้กอดและตายในอ้อมกอดของลูกชายตัวเอง เคลียสารภาพความจริงทุกอย่างกับสายไหมว่าเธอและกานท์ไม่เคยมีอะไรกัน และสุริยนก็คือลูกของเธอกับตะวัน สายไหมจึงเผยความจริงว่า สายน้ำผึ้งก็มิใช่ลูกของเธอกับตะวัน แต่เป็นลูกของเธอกับกานท์ กานท์จึงทราบความจริง กานท์ตามง้อสายไหมและยืนยันกับเธอว่าเขายังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง ด้านสุริยนก็สัญญากับสายน้ำผึ้งว่าจะรักและภักดีกับเธอตลอดไป หนุ่มสาวสองวัยกำลังตกอยู่ในห้วงรักอีกครั้ง ใจจึงเบิกบานราวกับดอกรักยามได้สัมผัสกับฝนแรก และเมื่อเมฆฝนเคลื่อนผ่านไป ดอกรักจึงแย้มกลีบและบานสะพรั่งดูสะอาดหมดจดงดงามและมั่นคง ณ ที่แห่งนั้น “สันกำแพง”

 

นักแสดงละคร เมื่อดอกรักบาน

แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ  … สายไหม
มาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์  … กานท์ การุณย์
ชาย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ  … ตะวัน
พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์  … เคลีย
ต่าย ณัฐพล ลียะวณิช  … สุริยน
นุ่น ศิริพันธ์ วัฒนจินดา  … สายน้ำผึ้ง
แจ๊บ เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล  … ชายโชติรส
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล  … สายบัว
สุเชาว์ พงษ์วิไล  … ชุ่ม
ดวงใจ หทัยกาญจน์  … อุ่นเรือน
วาสนา สิทธิเวช  … แสงหล้า
ดิลก ทองวัฒนา  … พ่อเลี้ยงเติม
รัญญา ศิยานนท์  … แม่เลี้ยงเครือวัลย์
กฤตย์ อัทธเสรี  … พ่อเลี้ยงวิเชียร
ทาริกา ธิดาทิตย์  … คุณนายละออง การุณย์
พิมพ์พรรณ บูรณะพิมพ์  … พิศ
วิสรรค์ ฉัตรรังสิกุล  … เฮียร้านกาแฟ
สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์  … พ่อเลี้ยงอินทร
เบญจสิริ วัฒนา  … รัญจวน
วรเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ  … จร
พุทธชาติ พงษ์สุชาติ  … คำหล้า
วรรณกิต ศิริพุฒ  … เมฆ
วุฒิ คงคาเขตร  … ศักดิ์
ณัฎฐณิชา ฝั้นแก้ว (น้องฝ้าย / นักแสดงใหม่)  … นิดา

พระจันทร์สีรุ้ง

พระจันทร์สีรุ้ง เป็นชีวิตนางโชว์ของอารักษ์ (อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ที่ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 35 เพราะคลื่นลูกหลัง ที่มาแรงกว่า ทำให้เขารับไม่ได้ที่ จะต้องกลายไปเป็นแค่ตัวตลกคั่นรายการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ… เขากำลังมีลูกชาย

ตะวัน (บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เป็นลูกของ อรดี (แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์) หมอนวดซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับอารักษ์ หล่อนตั้งใจจะคลอดลูก แล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อตามผัวใหม่ ชาวเยอรมันไปต่างประเทศ ด้วยความที่อารักษ์รัก และสงสารเด็กน้อย ที่ไม่มีใครต้องการ เหมือนชีวิตของตน ที่เคยระเห็จออกจากบ้าน เพราะพ่อซึ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จนประกาศตัดญาติขาดมิตร อารักษ์เลยได้มาใช้ชีวิต เป็นนางโชว์กับ ป้อ (ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา) เพื่อนสนิทถึงพัทยา อารักษ์ได้ตัดสินใจที่จะขอตะวันมาเลี้ยงเป็นลูก ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ของบรรดาเพื่อนชาวสีม่วงด้วยกัน โดยเฉพาะกับชัชชัย (ปัญญาพล เดชสงค์) แฟนหนุ่มที่กำลังคิดตีจาก ได้โอกาส เอาเรื่องเด็กน้อย มาอ้างเพื่อแยกทางกับ อารักษ์ ทำให้เขาเสียใจมาก ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่เพราะเสียงร้องของตะวัน ทำให้เขาได้ฉุกคิดว่าตนยังมีภาระ ที่สำคัญภาระยิ่งใหญ่ของคำว่า…พ่อ

อารักษ์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทิ้งความเป็นเพศที่สาม แล้วย้ายตัวเองไปอยู่เชียงใหม่ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ เซ้งตึกแถวที่หน้าตลาดสดย่านชานเมือง เปิดเป็นร้านทำผมชื่อว่า “ตะวันซาลอน” มีบรรดาแม่ค้าแม่ขาย และชาวบ้านในละแวกนั้น แห่กันมาใช้บริการแทบทุกวัน เพราะความที่เจ้าของร้านเป็นคนอัธยาศัยดี แล้ววันหนึ่งอารักษ์ก็ได้ช่วยชีวิตแก้วตา (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์) จากการตามล่าของพวกค้าผู้หญิง ที่หลอกซื้อหญิงสาวจากพ่อแม่จะพาไปทำงานที่มาเลย์ หล่อนหลบหนี แล้วระหกระเหินมาจนถึงหน้าร้าน ด้วยความสงสารในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจึงให้ที่ซ่อน แล้วแจ้งตำรวจให้สกัดจับพวกค้าผู้หญิง จนสามารถช่วยชีวิตหญิงสาวได้อีกหลายคน แก้วตาระลึกในบุญคุณของอารักษ์ จึงขออยู่ช่วยงานที่ร้าน และอาสาที่จะช่วยดูแลตะวันอีกแรง

ถึงแม้ว่าอารักษ์จะพยายามบอกและแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะกับตะวัน แต่กิริยาที่สุภาพ นิ่มนวล ก็ทำให้ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ทำให้อารักษ์ไม่สบายใจ เกรงว่าลูกชายจะมีปมด้อย จนเมื่อตะวันโตถึงวัยเข้าเรียน เขาเป็นเด็กฉลาด และหน้าตาดี จึงมีแต่คนรักใคร่ บรรดาลูกค้าที่มาทำผมก็มักจะหยอกเอิน ให้ช่วยหยิบจับ ทำนั่นทำนี่ให้ จนอารักษ์ต้องคอยสั่งห้าม สร้างความสงสัยให้กับเด็กน้อย จนต้องแอบมาบ่นให้แก้วตาฟัง หญิงสาวซึ่งใช้ชีวิตร่วมกับสองพ่อลูกมานาน รู้ดีว่าอารักษ์คิดอะไร หล่อนซึ่งแรกๆ ก็เคยแอบชอบชายหนุ่ม แต่พอรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และช่วยเขาปิดบังความจริงกับเด็กน้อย

วิถีชีวิตของตะวันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ล้อเรื่องพ่อเป็นกะเทยจนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ เด็กน้อยซึ่งถูกพ่อสอนให้เป็นคนรักสันติ มักจะมาบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่เสมอทุกครั้งที่มีปัญหา เขาชอบนอนหนุนตัก ให้พ่อเล่านิทานให้ฟังใต้แสงจันทร์

แต่แล้วเมื่อตะวันอายุสิบขวบ ได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น จนพอจะรับรู้เห็นความผิดปกติของอารักษ์ที่ไม่เหมือนพ่อของเพื่อนๆ ถึงแม้อารักษ์จะพยายามปิดบังอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อป้อนำบรรดาเพื่อนเก่าร่วมคณะนางโชว์มาเยี่ยมเยือน ภาพพ่อที่ทำตัวกรี๊ดกร๊าดสนิทสนมกับแขกแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ ทำให้ตะวันแน่ใจในสิ่งที่เขากลัว ความจริงที่เด็กน้อยพยายามหลอกตัวเองเรื่องพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง

ตะวันเสียใจจนถึงขั้นหนีออกจากบ้านไปขอพักกับครูชนะ (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ครูพละที่สนิทที่สุด ขณะนั้นอารักษ์และบรรดาเพื่อนๆ พยายามตามหาด้วยความเป็นห่วงถึงกับไปแจ้งความ ระหว่างที่ตะวันอยู่กับชนะนั้น ครูหนุ่มก็พยายามกล่อมจนเด็กน้อยเริ่มอ่อนลง และเข้าใจโลกมากขึ้น ยิ่งเห็นใครต่อใครวิ่งวุ่นตามหาตน โดยเฉพาะพ่อที่ถึงกับถูกรถชนก็ทำให้เด็กน้อยได้คิด และยอมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง อารักษ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตะวันฟังโดยไม่ปิดบัง เว้นแต่เรื่องอาชีพของแม่เด็กน้อย เพื่อให้ตะวันยังมีภาพแม่ที่แสนดีไว้ในใจ

ถึงแม้ความจริงจะเปิดเผย แต่อารักษ์ก็ยังคงทำตัวปกติ เพื่อรักษาหน้าลูกชาย เขาจัดการย้ายโรงเรียน และให้แก้วตาออกหน้า เป็นผู้ปกครองแทนตน เพื่อไม่ให้ตะวันต้องเป็นขี้ปากของใคร จนเมื่อเวลาผ่านไป ตะวันโตขึ้น และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ชายหนุ่มต้องแยกจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาเช่าอยู่หอพักตามลำพัง โดยที่ทั้งสองพ่อลูก ก็ยังคงติดต่อถามไถ่กันทางโทรศัพท์แทบทุกวัน

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ตะวันได้รู้จักกับ ปลายฟ้า (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) นักศึกษาต่างคณะ ลูกสาวคนสวยของสถาพร (ถา-สถาพร นาควิลัย) นายตำรวจใหญ่ หญิงสาวเป็นดาวของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับตะวัน ที่ถูกเลือกให้เป็นเดือน ในงานกีฬาประเพณีของสถาบัน ทำให้ทั้งสองต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งทำให้ตะวันรู้สึกชื่นชม ในความน่ารัก และพยายามจะผูกมิตร ด้วยแต่ปลายฟ้ากลับไม่สน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ตะวันตกหลุมรักเธอมากขึ้นไปอีก โดยมองข้ามเกยูร (ปีใหม่-สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) เพื่อนสาวที่แอบชอบตนอยู่

ตลอดเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ตะวันได้เพียรเฝ้าติดตามความเป็นไปของปลายฟ้าด้วยความรัก จนรู้ว่าเธอชอบทำอะไรที่ไหน รวมทั้งรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และคำแนะนำของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาตลอด เวลา ตะวันจึงแอบส่งดอกไม้และข้อความซึ้งๆ ให้เธอที่คณะทุกวัน จนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจพยายามจะหาตัวเจ้าของดอกไม้ให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันเสมอ

แล้วในที่สุดตะวันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปลายฟ้ายิ่งขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจไปคัดเลือกตัวแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบได้รับบทนำคู่กับหญิงสาว ตลอดการซ้อมตะวันพยายามเอาใจปลายฟ้าจนเธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่บ้านรวมทั้งตะวัน ทำให้ชายหนุ่มพบว่าช่องว่างระหว่างเขากับเธอนั้นมีมากกว่าที่คิด เมื่อหญิงสาวมีฐานะต่างกับเขามาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขายอมแพ้ ตะวันตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นเด็กรับรถให้ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะหาเงินพาหญิงสาวไปทานอาหารหรูๆสักมื้อหนึ่งพร้อมกับบอกความในใจ ที่เก็บไว้ตลอดสี่ปี และที่นั่นทำให้เขาได้ช่วย ภัครินทร์ (นุ่น-สินิทรา บุญยศักดิ์) ฝ่ายดูแลศิลปินของ “เลิฟลี่ เรคคอร์ด” จากโจรวิ่งราว ภัครินทร์เห็นหน่วยก้านของตะวัน จึงชวนไปลองเทสต์เสียงดู แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ

ตะวันมีโอกาสได้พบกับครอบครัวของปลายฟ้าในวันแสดงละครเวที ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในบุคลิกของสถาพร และดารณี (ไก่-สุปราณี เจริญผล) พ่อแม่ของหญิงสาว และในระหว่างการแสดงตะวันก็เผลอใจไปจูบปลายฟ้านอกบท สร้างความขัดเคืองให้หญิงสาว จนไม่ยอมพบหน้าด้วย ตะวันกลุ้มใจจึงได้แต่โทรไปปรับทุกข์กับผู้เป็นพ่อ อารักษ์จึงแนะนำให้ลูกชายไปขอโทษหญิงสาว

ใน งานวันเกิดของปลายฟ้าที่ถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาว ตะวันอาศัยเกยูรให้พาเข้างาน เขาให้ของขวัญ และออกไปร้องเพลงขอโทษตามที่อารักษ์สอนไว้จนปลายฟ้าเริ่มจะอ่อนลง ยอมรับคำขอโทษจากชายหนุ่ม พร้อมทั้งแนะนำศศิน (เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ชายคนรักที่เป็นลูกชายของศักดา (อาเชาว์-สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองใหญ่ให้ตะวันได้รู้จัก ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ และเลี่ยงออกไปจากงาน ภัครินทร์ที่มาร่วมงานเพราะเป็นญาติผู้พี่กับปลายฟ้า นำวีดีโอภาพและเสียงของตะวันมาให้พบโชค (ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์) เจ้าของค่ายเพลงดังฟัง ตะวันจึงถูกเรียกให้เข้าไปพบ และกล่อมให้เป็นศิลปินเบอร์ใหม่ของเลิฟลี่เรคคอร์ด

ตะวันดีใจโทรไปแจ้งข่าวดีกับพ่อ แต่อารักษ์กลับเป็นห่วง กลัวว่าเมื่อตะวันดังแล้วจะลืมพ่อกะเทยคนนี้ แต่ชายหนุ่มรับปากว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เขาตั้งใจจะหาเงินมากๆ เพื่อเก็บไว้ซื้อบ้านอิงดอยให้พ่ออยู่กับเขาตอนแก่ อารักษ์ได้แต่ย้ำลูกชายให้ปิดเรื่องของตนเอาไว้ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ตะวันตัดสินใจดร็อปการเรียนเอาไว้ชั่วคราว ในเทอมสุดท้าย ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งปลายฟ้านั้นจบการศึกษากันในหมด ชายหนุ่มถูกจับเปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเปิดตัวด้วยการถ่ายแบบ เพื่อสร้างความนิยม ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้อง

ตะวันเริ่มกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆ มาให้ความสนใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้ปลายฟ้าได้มากกว่าความเป็นเพื่อน จนเมื่อเขาได้พบศศินควงสิริกานดา (มิ้ม-อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) ดาราน้องใหม่ไปร่วมงานวันเกิดของนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง จึงพยายามที่จะหาทางเตือนปลายฟ้า แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อ เธอถึงขั้นไปสอบถามความจริงจากชายคนรัก แต่กลับพบว่าศศินกำลังอยู่กับสิริกานดาจริง ปลายฟ้าจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับศศิน ช่วงนี้เองที่ตะวันได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความจริงใจที่มีต่อปลายฟ้า เขาเฝ้าปลอบ และเล่านิทานพระจันทร์ที่พ่อเคยเล่าให้เธอฟัง จนปลายฟ้ารู้สึกเข้มแข็ง และเปิดใจยอมรับชายหนุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นเป็นความรักเมื่อชายหนุ่มสารภาพว่า เขาเป็นเจ้าของดอกไม้ที่ส่งให้ตลอดเวลาสี่ปี

ในที่สุดผลงานชิ้นแรกของการเป็นศิลปินของตะวันก็ออกสู่สาธารณชน เขากลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ในขณะที่งานเพลงกำลังไปด้วยดี ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฟ้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คบหาเพียงไม่นาน แต่ทั้งสองก็ผูกพันและเข้าใจในกันและกันมาก แต่ก็ต้องพยายามปิดบัง คอยหลบนักข่าวตามคำแนะนำและขอร้องของภัครินทร์

แต่แล้วช่วงเวลาที่สวยงามของตะวันก็สะดุดลง เมื่อชายหนุ่มได้พบกับอรดี แม่ซึ่งทิ้งเขาไป หลังจากที่ตามสามีใหม่ไปใช้ชีวิตในเยอรมันได้ยี่สิบปี พอสามีตายอรดีก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ จึงบินกลับมาเมืองไทย ตั้งใจลงทุนทำธุรกิจเอาเงินไปลงหุ้นกับวิมล (ดี้-ชนานา นุตาคม) เพื่อนเก่าร่วมอาชีพเปิดบริษัทผลิตเครื่องสำอาง แต่เกิดไปสะดุดใจกับชื่อและนามสกุลของนักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อตะวัน จึงสืบจนรู้ว่าเป็นลูกชายตนที่ยกให้อารักษ์ไป เธอจึงมาแสดงตัวให้ตะวันได้รู้จัก เพื่อหวังว่าความดังของลูกชายจะช่วยทำให้ธุรกิจของเธอก้าวหน้า แต่ตะวันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับ เมื่อแม่ที่ตนวาดฝันไว้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อรดีทั้งปากร้าย แต่งตัวจัดจ้าน ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่พ่อเคยบอก อีกทั้งความรักที่เขามีต่อปลายฟ้าก็เริ่มมีปัญหา เมื่อศศินย้อนกลับมาขอคืนดีกับหญิงสาวอีกครั้ง

ศศินรู้ว่าปลายฟ้ามีใจให้กับตะวัน เขาจึงแสร้งทำดี ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ปลายฟ้าตายใจ ในการยอมรับเขาเป็นเพื่อน แต่ชายหนุ่มกลับสร้างสถานการณ์โดยหลอกใช้เกยูร หาโอกาสให้หล่อนได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่ม และเป่าหูจนปลายฟ้ารู้สึกแคลงใจ ขณะเดียวกันศศินก็พยายามทำดีกับปลายฟ้าเพื่อให้ตะวันได้เห็น จนนักร้องหนุ่มซึ่งกำลังว้าวุ่น ขาดความยับยั้งชั่งใจต่อว่าปลายฟ้าว่ากำลังจะหวนกลับไปคบหาศศิน ทำให้หญิงสาวเสียใจ และต่อว่าชายหนุ่มไปอย่างแรง ก่อนจะหลบหน้าผู้คน หนีปัญหาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด

ตะวัน เสียใจเรื่องปลายฟ้า และสับสนเรื่องอรดี จึงคิดหนีปัญหาวุ่นวายกลับไปหาพ่อ แต่ระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถตกเขา นักร้องหนุ่มถูกส่งมารักษาตัวที่กรุงเทพ แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ แต่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของอรดีที่อ้างหลักฐานจากทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด และพยานบุคคลยืนยันกับหนังสือพิมพ์ จนตะวันต้องยอมรับอรดีเป็นแม่ โดยที่จิตใต้สำนึกลึกๆ ของเขากลับไม่มั่นใจ

ข่าวร้ายของตะวันทำให้อารักษ์รีบลงมาดูอาการลูกชาย พร้อมกับแก้วตาและครูชนะซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่รักกัน แต่เขากลับพบอรดี และถูกกีดกันไม่ให้เห็นหน้าตะวัน โดยขู่ว่าความเป็นเพศที่สามของอารักษ์จะทำให้ลูกเสียชื่อเสียง อารักษ์ต้องคิดหนัก แอบเข้าไปพบลูกชาย แล้วก็พบว่าตะวันจำเขาไม่ได้ และยังแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นหน้าเขา โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายได้ถูกผู้เป็นแม่เป่าหูว่า อารักษ์เป็นพวกโรคจิตที่คลั่งศิลปินหนุ่มๆ หนุ่มใหญ่รู้สึกเจ็บปวด และยอมหลีกทางให้อรดีดูแลตะวัน เขาเลือกเป็นความทรงจำที่หายไป เพื่อให้ลูกชายได้มีอนาคตที่สดใส อารักษ์จึงพาแก้วตากับครูชนะกลับเชียงใหม่โดยไม่ยอมบอกความจริงให้ทั้งสอง เข้าใจ

ตลอดเวลาที่ตะวันอยู่โรงพยาบาล เกยูรมาคอยดูแลชายหนุ่มด้วยความรัก หญิงสาวจึงรู้เห็นสิ่งที่อรดีพยายามจะปิดบังตะวันเรื่องอารักษ์เข้าโดย บังเอิญ อรดีกลัวว่าหญิงสาวจะเปิดเผยความจริง จึงยื่นข้อเสนอให้เธอเก็บความลับนี้ไว้ แลกกับการสนับสนุนให้เธอได้รักกับตะวัน และจัดการทำลายข้าวของที่เกี่ยวกับปลายฟ้าของตะวันจนหมดสิ้น เพื่อให้เกยูรวางใจจนยอมรับปาก

ปลายฟ้าได้รู้ข่าวของตะวัน เธอก็รีบรุดขึ้นมาเยี่ยมชายคนรัก แต่กลับพบว่าตะวันคนใหม่นี้ ไม่เหมือนคนเดิมที่รู้จัก เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนสุภาพ ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจ นอกจากนั้นยังพบเกยูรแสดงตัวว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มอีก ก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้าเสียใจ ช่วงเวลานี้ศศินก็แทรกเข้ามาทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้หญิงสาวในฐานะพี่ชายที่ แสนดี

ด้วยความกลัวว่าปลายฟ้าจะหวนกลับไปหาตะวันอีก ศศินจึงคิดขัดขวางคนทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งกว้างขวางด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อ รู้ว่าธุรกิจของอรดีที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนกำลังมีปัญหา เมื่อวิมลเชิดเงินหนีไป และทิ้งหนี้สินไว้ให้อรดีรับผิดชอบ ศศินจึงทำเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนทำธุรกิจด้วย โดยมีข้อเสนอให้สาวใหญ่ช่วยขัดขวางไม่ให้ตะวันได้หวนกลับมาคบหากับปลายฟ้า

ตะวันเริ่มสับสน และรู้สึกขัดตากับสิ่งรอบตัวไปหมด เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อรดีพยายามจะยัดเยียดใส่หัวเขาเกี่ยวกับเรื่องใน อดีต แต่ชายหนุ่มกลับไม่พบหลักฐานใดๆ ในบ้าน ที่ยืนยันว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอรดีเลยสักชิ้น อรดีพยายามสร้างภาพแม่ลูกที่รักกันให้ใครๆ ได้เห็น ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และส่งผลให้กิจการเครื่องสำอางกระเตื้องขึ้น โดยความช่วยเหลือของศศินที่เข้าไปดูแลด้านการตลาดให้อีกแรง

ปลาย ฟ้าซึ่งยังรักตะวัน ตั้งใจจะทำให้เขาฟื้นคืนความทรงจำได้อีกครั้ง แต่อรดีกลับปฏิเสธความหวังดี หญิงสาวจึงได้แต่ไปปรับทุกข์กับศศิน เพราะคิดว่าชายหนุ่มเข้าใจ ศศินจึงถือโอกาสขอคืนดีอีกครั้ง แต่ปลายฟ้าปฏิเสธเพราะหัวใจของเธอมอบให้ตะวันไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มจึงแสร้งยอมรับความจริง และเปิดทางให้หญิงสาวได้ช่วยเหลือตะวันเต็มที่ สร้างความรู้สึกที่ดีให้ปลายฟ้า แต่เขากลับไปกำชับให้อรดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าได้มีโอกาสพบกับตะวันตามลำพัง

ปลายฟ้าตั้งใจจะเอารูปถ่ายของเขาและเธอมาพิสูจน์ความจริงกับตะวัน แต่กลับถูกเกยูรซึ่งอรดีให้มาช่วยดูแลตะวันขัดขวาง ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนึกสงสัยในท่าทีของปลายฟ้า อรดีจึงตัดสินใจเปิดตัวเกยูรกับสื่อต่างๆ ว่าเป็นคู่รักของตะวัน เพื่อให้ปลายฟ้าตัดใจ ซึ่งก็ได้ผล หญิงสาวเสียใจจนคิดว่าหมดหวัง จึงได้แต่ขอร้องศศินให้ช่วย ศศินจึงจำเป็นต้องให้อรดีนัดตะวันออกมาให้ปลายฟ้า ในขณะที่เขากลับเรียกนักข่าวให้มา ทำให้นักร้องหนุ่มซึ่งกลัวเป็นข่าว เข้าใจว่าปลายฟ้าคิดจะใช้สื่อเพื่อจะจับเขา จึงพาลโกรธไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ จากปลายฟ้า

หลังจากกลับมาเชียงใหม่ อารักษ์ก็ยังคงติดตามข่าวคราวของตะวันโดยตลอด แก้วตาตัดสินใจแต่งงานกับครูชนะ ทั้งสองส่งการ์ดเชิญให้ตะวันมาร่วมงาน แต่กลับถูกอรดีเก็บไว้ ทำให้บรรดาคนรู้จักที่เชียงใหม่เข้าใจว่าชายหนุ่มลืมตัว อารักษ์ต้องช่วยแก้ต่าง ทั้งที่ใจก็หวังจะได้พบหน้าลูกชายอีกสักครั้ง กิจการตะวันซาลอนเริ่มมีปัญหา เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเข้ามาในตลาด สุขภาพที่เริ่มจะทรุดโทรม ความเคร่งเครียด และความเป็นห่วงลูกชาย ทำให้อารักษ์หน้ามืดบ่อยขึ้น เมื่อไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์จึงเลือกที่จะปิดทุกคนเพื่อความสบายใจ นอกจากปรีดาเพื่อนสนิท และประกาศขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพ จะได้ดูความเป็นไปของลูกชาย โดยหลอกทุกคนว่าจะไปอยู่กับตะวัน

ปรีดาซึ่งกลายเป็นเจ้าของบาร์เบียร์ที่พัทยาเป็นห่วงเพื่อน จึงทิ้งงานขึ้นมาเยี่ยมอารักษ์ที่กรุงเทพพร้อมกับเจสัน ฝรั่งซึ่งทั้งสองเคยช่วยชีวิตจากโจร ตอนมาทำธุรกิจที่พัทยาใหม่ๆ เจสันกำลังจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด เขามอบเงินให้อารักษ์ไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อใช้รักษาตัว แต่อารักษ์เลือกที่จะนำเงินก้อนนั้นเก็บไว้ไปซื้อบ้านอิงดอย บ้านในฝันของสองพ่อลูก โดยให้แก้วตาช่วยดูแล และโกหกทุกคนว่าเป็นเงินที่ตะวันฝากมา

อารักษ์ ไปสมัครเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายดูแลเสื้อผ้าให้ศิลปินที่บริษัทเลิฟลี่เรค คอร์ด โดยอาศัยเพื่อนเก่าๆที่เคยเป็นนางโชว์ด้วยกันมาก่อนแนะนำ ทำให้เขามีโอกาสได้พบกับลูกชายอีกครั้ง แต่ตะวันก็จำหน้าเขาได้ว่าเคยพบที่โรงพยาบาล จึงไม่ค่อยถูกชะตา เพราะคิดว่าอารักษ์เป็นกะเทยที่แอบปลื้มตนตามที่แม่เคยย้ำไว้ สร้างความน้อยใจให้กับอารักษ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องอดทน เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกชาย

อรดีต้องการให้ตะวันถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายของบริษัทตน ศศินเห็นโอกาสที่จะทำให้ปลายฟ้าตัดใจจากตะวันได้เด็ดขาด จึงสนับสนุนให้ตะวันเลือกปลายฟ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วม สร้างความไม่พอใจให้สิริกานดาที่ถูกคาดหมายว่าจะได้งานนี้ การถ่ายทำไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เมื่อปลายฟ้ารู้สึกว่าตะวันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน เขาทั้งหยิ่ง และเรื่องมากจนเธอเสียความรู้สึก จึงพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา แต่กลับยิ่งเป็นการท้าทายตะวัน เขาเอ่ยชวนเธอไปเที่ยวทำราวกับปลายฟ้าใจง่าย เธอจึงปฏิเสธทั้งพูดจาดูถูก จนชายหนุ่มนึกโกรธต้องการเอาชนะ อารักษ์ซึ่งต้องมาช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในเหตุการณ์เห็นความบาดหมางของ ทั้งสอง ก็ได้แต่เตือนสติลูกชาย แต่ตะวันไม่ยอมฟัง และพาลต่อว่าจนอารักษ์ต้องเลี่ยงหลบไปร้องไห้ สร้างความสงสัยให้กับปลายฟ้าในท่าทีที่เขามีต่อตะวัน

ศศินพยายามจะให้ปลายฟ้าเห็นข้อเสียของตะวันยิ่งขึ้นจะได้ตัดใจเสียที เขากล่อมจนสิริกานดายอมร่วมมือยั่วยวนตะวันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพื่อให้ปลายฟ้าเข้าใจผิดตะวันมากขึ้น และก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวซึ่งกำลังมีปัญหาครอบครัว เมื่อผู้เป็นพ่อพัวพันกับคดีทุจริตในราชการเสียใจ และยอมเปิดใจที่จะให้ศศินพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ข่าวเสียหายของตะวันมีมากขึ้น จนถูกพบโชค คาดโทษจะฉีกสัญญา ทำให้ตะวันยิ่งเครียดหนัก อีกทั้งปัญหาหนี้พนันก้อนใหญ่ของอรดี ที่เกิดจากการถูกศศินหลอกให้ไปเที่ยวที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันต้องหาเงินก้อนใหญ่เพื่อมาช่วยเหลือกิจการ ศศินจึงอาศัยโอกาสนี้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นของอรดีทั้งหมด และครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว โดยยังแสร้งทำเป็นดียินยอมให้อรดีดูแลกิจการตามปกติ

ทั้งข่าวสิริกานดา และหนี้พนันของอรดี ทำให้ชื่อเสียงของตะวันเริ่มมีปัญหามากขึ้น ตะวันต้องสร้างภาพทำตัวเป็นคนใหม่ ด้วยการใกล้ชิดเกยูรให้มากขึ้น เพื่อกลบข่าวฉาวกับสิริกานดา นั่นจึงทำให้ปลายฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะล้มเลิกความตั้งใจช่วยชายหนุ่มให้ คืนความทรงจำ เธอส่งดอกไม้ที่เขาเคยให้มาตลอดสี่ปีคืน จนชายหนุ่มรู้สึกสะกิดใจ เขาเริ่มที่จะจำอะไรได้บ้างลางๆ แวะไปที่ร้านอาหารซึ่งเคยมากับปลายฟ้าเป็นประจำ ฟังเพลงที่หญิงสาวชอบ แต่ก็มักจะถูกเกยูรและอรดีขัดขวาง ดึงให้เขาเลิกคิดที่จะสนใจเรื่องในอดีตอีก ช่วงเวลานั้นเองปลายฟ้าก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับศศิน เพื่อให้พ่อของเขาช่วยเหลือพ่อของตนให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริต ทำให้เธอค่อยๆ หายไปจากชีวิตของตะวัน

อารักษ์ซึ่งทำงานฝ่ายเสื้อผ้าก็ได้รับรู้เรื่องราวของลูกชายมาตลอดทั้งจาก เพื่อนร่วมงาน และข่าวต่างๆ เขายังคงพยายามที่จะหาโอกาสคอยเตือนตะวัน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยความเป็นห่วง จนชายหนุ่มไม่พอใจ ก็มักจะพาลระเบิดอารมณ์ใส่ แต่อารักษ์ก็ยังทนนิ่ง และพยายามอดกลั้นความน้อยใจ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายได้มีเขาเป็นที่ระบายความอึดอัดในใจ ตะวันเองนั้นก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่อารักษ์พยายามสั่งสอน แต่ก็ยังคงคิดระแวงในความหวังดีของอารักษ์

อาการ ป่วยของอารักษ์เริ่มหนักขึ้นจนถึงกับเป็นลมในที่ทำงาน หมอที่ตรวจอาการอยากให้เขารีบผ่าตัด แต่อารักษ์กลับประวิงเวลาไว้ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกชายอีก แต่อาการที่กำเริบมากจนเขารู้สึกท้อแท้ อารักษ์รู้ดีว่าปลายฟ้าคือผู้หญิงที่ตะวันรัก จึงไปขอร้องให้หญิงสาวช่วยปลอบใจตะวัน จนปลายฟ้าซึ่งยังตัดใจจากชายหนุ่มไม่ขาดยินยอมที่จะไปพบตะวันอีกครั้ง ชายหนุ่มคิดพิสูจน์ว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงหรือไม่ เขาขอให้เธอพาไปทุกๆ ที่ ซึ่งเธอและเขาเคยไปด้วยกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นและพอที่จะจำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายเขากลับเลี้ยวรถพาเธอเข้าโรงแรม ปลายฟ้าผิดหวังในการกระทำของตะวัน ต่อว่าและตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะหนีออกไปพบกับอารักษ์ซึ่งคอยตามติดลูกชาย ทุกฝีก้าวช่วยพาเธอหลบไปได้

ปลายฟ้าสอบถามความจริงว่าอารักษ์เป็นใคร แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง จนปลายฟ้ายิ่งสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าอารักษ์เป็นคนดี จึงไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องราวที่บ้านให้หนุ่มใหญ่ฟังเพื่อเป็นการระบายความ อัดอั้น อารักษ์จึงแนะนำ และเล่านิทานปลอบใจจนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าอารักษ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตะวันอย่างแน่ นอน

ศศินไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตะวันพยายามจะติดต่อกับปลายฟ้า เขาบังคับให้อรดีจัดการ สาวใหญ่จึงคิดจะให้ลูกชายหมั้นหมายกับเกยูร แต่ตะวันไม่ยอมเพราะชายหนุ่มเริ่มรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักเกยูร จึงนัดหญิงสาวออกมาเพื่อบอกความจริง เกยูรรู้สึกอับอายและเสียใจจนถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทันเวลา แต่ข่าวของเธอทำให้ชื่อเสียงความเป็นนักร้องของตะวันต้องมัวหมองอีกครั้ง

ตะวันกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์สามเส้าระหว่างเขา เกยูร และปลายฟ้า อารักษ์ก็หาโอกาสให้คำแนะนำชายหนุ่มให้ทำตามหัวใจของตัวเอง ตะวันเริ่มมองอารักษ์ในมุมที่ดีขึ้น และยิ่งคุ้นกับคำสอน ท่าทางของอารักษ์ เหมือนว่าความทรงจำจะกลับคืนมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าเรื่องราวความรักในตอนนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะบอกรักปลายฟ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับศศิน ทำให้ปลายฟ้าสับสนระหว่างหัวใจกับความถูกต้อง

อรดีกลุ้มใจที่กล่อมลูกชายไม่สำเร็จ ศศินขู่จะขายกิจการทิ้ง ทำให้อรดียิ่งเครียดหนัก ตามติดลูกชาย จนพบว่าอารักษ์นั้นอยู่ใกล้ชิดตะวันตลอดเวลา และคอยส่งเสริมให้ตะวันกลับไปรักปลายฟ้า เธอจึงกลัวว่าทุกอย่างจะเปิดเผย จึงขู่อารักษ์และคิดให้เงินปิดปาก แต่อารักษ์ไม่ยอมรับ เพราะรู้ตัวว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อรดีจึงเล่าความจริงให้ศศินฟัง และจ้างนักเลงไปเล่นงานจนอารักษ์ต้องเข้าโรงพยาบาล

ปลายฟ้าไปเยี่ยมอารักษ์ที่โรงพยาบาล และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์ขอร้องให้ปลายฟ้าช่วยทำให้ตะวันกลับเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม และยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง แต่เขากลับขอร้องให้เธอเก็บความลับเรื่องเขาเป็นพ่อไว้ เพื่ออนาคตของลูกชาย ปลายฟ้าตรงไปหาตะวัน และขอร้องให้ตะวันไปเยี่ยมอารักษ์บ้าง ตะวันพยายามจะขอความรักจากปลายฟ้า แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้ศศินเสียใจ ตะวันจึงได้ตำหนิตัวเอง อารักษ์จึงพยายามจะหาทางปลอบ แต่ชายหนุ่มกลับพาลว่าเป็นความผิดของอารักษ์ และให้ภัครินทร์ไล่อารักษ์ออกจากงานโดยไม่ยอมฟังคำอ้อนวอนร้องขอของอารักษ์ หนุ่มใหญ่จึงต้องเก็บเสื้อผ้ากลับเชียงใหม่ด้วยความเสียใจ แต่อาการของโรคกำเริบขึ้นระหว่างเดินทางเสียก่อน

ศศินคิดหาวิธีกำจัดตะวันออกจากชีวิตปลายฟ้าได้เด็ดขาด เขาปล่อยข่าวเรื่องอารักษ์เป็นพ่อของตะวันให้หนังสือพิมพ์รู้ จนตะวันสับสนเมื่อเขากลายเป็นคนเนรคุณพ่อซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มยิ่งเครียดจัดเมื่อแวะไปดูอาการอารักษ์ที่โรงพยาบาล แล้วพบกับแก้วตากับครูชนะที่รีบลงมาจากเชียงใหม่หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมด จากปลายฟ้าที่ติดต่อไปเพื่อหวังให้อารักษ์ได้มีญาติมาดูแล แก้วตาตรงเข้าไปตบหน้าตะวันและด่าว่าจนชายหนุ่มรู้สึกสับสนไปหมด

เกยูร เริ่มทำใจได้กับความรักจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เธอมาบอกลาตะวัน แล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังว่าเธอไม่ใช่คนรักของเขา ตะวันเครียดหนักและสับสน เขารู้ดีว่ามีปลายฟ้าคนเดียวที่จะเป็นคนที่ให้ความจริงกับเขาได้ ตะวันบุกไปที่งานแต่งงานของศศินกับปลายฟ้าเพื่อไปชิงตัวเจ้าสาวในงานแต่งงาน ศศินโกรธจัดคิดจะตามเล่นงานตะวัน แต่กลับถูกสิริกานดาซึ่งเข้ามาในงานด้วยความโกรธแค้นที่ชายหนุ่มคิดจะเขี่ย เธอทิ้ง เธอเปิดเผยสิ่งที่ศศินทำทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้ และยิงชายหนุ่มจนบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ก่อนที่เธอจะยอมมอบตัว

ตะวันได้รู้ความจริงจากปลายฟ้าเรื่องที่อารักษ์เป็นพ่อของตน หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพัทยาเพื่อสอบถามจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ของอารักษ์ จนชายหนุ่มยอมเชื่อว่าอารักษ์เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมา ภาพความทรงจำเก่าๆที่หายไปเริ่มชัดเจนอีกครั้ง ตะวันรีบเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปเยี่ยมอารักษ์ แต่ระหว่างทางด้วยความประมาทรถที่ขับก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ

อารักษ์รู้ข่าวลูกชายบาดเจ็บ ก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการลูกชาย จนรู้ว่าตะวันปลอดภัย เขาจึงคิดหนีทุกคนกลับเชียงใหม่ ตะวันรู้สึกตัว คนแรกที่เขาถามถึงนั้นก็คืออารักษ์ อรดีรู้สึกสำนึกผิดที่ตกเป็นเครื่องมือของความโลภและเห็นแก่ตัว และถูกศศินหลอกใช้ จึงสารภาพทุกอย่างให้ลูกชายฟังตามจริง ตะวันขอร้องให้ทุกคนช่วยกันตามหาพ่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอารักษ์ไปไหน มีเพียงตะวันที่จำสัญญาของตนกับพ่อได้ ว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอิงดอยด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปที่บ้านอิงดอยที่พ่อซื้อไว้ตามคำบอกเล่าของแก้วตา และพบอารักษ์กำลังนอนป่วยหนักอยู่ที่นั่น

ตะวันพาอารักษ์ไปส่งโรงพยาบาล อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดด่วน โอกาสรอดชีวิตมีเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์ ตะวันได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อของตนหายดี แล้วในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น เพียงแต่รอให้อารักษ์ฟื้นขึ้น หรือจะหลับชั่วนิรันดร์

ระหว่างนั้นชายหนุ่มต้องปลีกตัวเพื่อไปขึ้นคอนเสิร์ตสำคัญที่เตรียมการไว้ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้สารภาพความจริงทุกอย่างกับแฟนเพลงด้วยน้ำตา และประกาศก้องว่าเขาภูมิใจที่ได้เกิดมามีพ่อกะเทยอย่างอารักษ์ บทเพลงพระจันทร์สีรุ้งที่เขาแต่งให้ผู้เป็นพ่อระหว่างที่เดินทาง ถูกขับขานขึ้นสดๆ ท่ามกลางกำลังใจของทุกคนในที่นั้นที่ส่งไปช่วยอารักษ์ให้ได้ฟื้นคืนกลับมา อีกครั้ง

แล้วก็ เหมือนมีปาฏิหาริย์ อารักษ์ซึ่งหมอลงความเห็นว่าหมดหวังนั้น กลับเริ่มมีอาการตอบสนอง และลืมตาขึ้น เมื่อลูกชายสุดที่รักเดินทางกลับมาหา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถจะจำเรื่องราวต่างๆ ได้อีกเลย แต่ถึงแม้ว่าอารักษ์จะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ตะวันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งพ่อไปอีก เขาเฝ้าคอยดูแล และอยู่กับพ่อที่บ้านอิงดอยแห่งนั้น โดยมีปลายฟ้าซึ่งได้หมั้นหมายกันไว้ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลอารักษ์อย่างมีความสุข

ผู้ชายมือสอง

เมื่อชัชชมเปิดกิจการร้านอาหาร ทำให้ถวิกาภรรยาสาวก็ถึงขีดสุดของความเบื่อหน่าย เธอออกเที่ยวเตร่และควงหนุ่มนายแบบรุ่นน้องพาไปนอนที่คอนโดโดยไม่สนใจเสียง นินทา แต่เมื่อพรายแพรวมาจี๋จ๋ากับชัชชม ถวิกาก็โกรธแค้น ตามราวีจนลูกสาวคือ ด.ญ.น้ำตาล ขวัญเสีย เพราะถวิกาเพียงแต่กลับมาด่าทอ ตบตีกับพรายแพรวแล้วก็กลับไปเที่ยวกินเหล้ากับหนุ่มๆไม่สนในเสียงคร่ำครวญหา แม่ของน้ำตาลเลย ถวิกากล่าวโทษคุณป้าของชัชชมกับอัญชลีพี่สาวว่า เป็นญาติแก่ๆ ที่เกาะชัชชมจนต้องหากินตัวเป็นเกลียว และไม่มีเวลาสำหรับลูกเมียทั้งๆที่ถวิกาเองไม่เคยเลี้ยงน้ำตาลอย่างจริงจัง เลยตั้งแต่เกิดมาจน 5-6 ขวบ

อัญชลีพี่สาวของชัชชมจ้างชลาศัยมาช่วย งานแคชเชียร์ช่วงกลางคืน อัญชลีได้ตัวชลาศัยมาจากเพื่อนที่เป็นอาจารย์อยู่ที่วิทยาลัยพานิช ชลาศัยปลื้มชัชชมมาตั้งแต่เด็กๆ เธอยังเก็บจดหมายของดีเจชัชชมไว้ในกล่องสมบัติชลาศัยบอกแม่ว่า เธอจะพยายามทำงานและเรียนให้จบโดยเร็ว เพื่อจะได้พาแม่ไปให้พ้นจากบ้าน บวร ซึ่งเธอและคนในบ้านต้องเรียกเขาว่า นาย ให้ได้ในวันหนึ่ง ชลาศัยไม่รู้ว่าอะไรทำให้แม่ไปไหนไม่รอด ไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องทนสภาพอันเลวร้ายในบ้านบวร แต่ก็ทนอยู่มาตั้งแต่เล็กจนโต โดยนายไม่กล้าล่วงเกินเธอเหมือนกับที่ทำกับกำไล สาวใช้ในบ้านหรือแม้แต่กับแม่ของเธอเอง

ทั้งคุณป้าและพี่สาวของชัช ชมพอใจที่ชลาศัยขยันขันแข็ง และเต็มใจทำงาน ทุกคนสังเกตเห็นความสดชื่นเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับชัชชม เมื่อพรายแพรวพบชลาศัยในร้าน ก็เกิดอาการหึงหวงชัชชม จึงหาทางแกล้งฉีกหน้าชลาศัย โดยแกล้งให้ชลาศัยใส่ชุดเด็กเสิร์ฟ ประกอบกับมีงานถ่ายแบบที่เธอให้มาถ่ายที่ร้านของชัชชมเพื่อยั่วถวิกา แต่เมษช่างภาพหนุ่มหล่อกลับติดใจความสวยของชลาศัย และชวนชลาศัยให้รับงานถ่ายแบบ

แรกๆ ถวิกาตามหาเรื่องชัชชมซึ่งมีพรายแพรวมาพัวพัน แต่เมื่อชลาศัยเข้ามาอยู่ในร้านของชัชชม พรายแพรวก็วางแผนให้ถวิกามาช่วยกำจัดชลาศัย และจับมือกับบวรให้มาล่อถวิกาให้ติดกับ โตมรคู่นอนของพรายแพรวแอบส่งนักเลงมาพังร้านของชัชชม ทำให้เขาต้องนับ 1 ใหม่ ถวิกาหย่ากับชัชชมทั้งๆที่พ่อแม่ห้าม เพราะหลังจากราวีจนเหนื่อยแล้วก็เห็นว่าชัชชมไม่ใช่คนมีค่าอะไรสำหรับเธอ เมื่อเทียบกับบวรซึ่งคอยเอาใจอยู่ไม่ห่าง

ชลาศัยพยายามช่วยถวิกาไม่ ให้ตกเป็นเหยื่อของบวรได้หลายครั้ง แต่ด้วยความดื้อดึง ถวิกาก็ตกเป็นของบวร และถูกหว่านล้อมถึงขั้นจดทะเบียน ถวิกาให้บวรไล่ทุกคนออกจากบ้าน ชวนชม ชลาศัย กำไล จึงออกมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน แต่กำไลแอบกลับไปหาบวรทั้งๆที่ถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อเห็นถวิกา กำไลก็เกิดบ้าผลักถวิกาตกน้ำ ชวนชมตามไปทัน ทำให้กำไลรอดมือบวรมาได้

เมษ มาช่วยชลาศัยกับกำไลทำข้าวแกงขายที่บ้านเช่า แต่เมื่อชัชชมซ่อมร้านเสร็จก็มาขอให้ชลาศัยไปอยู่ด้วย เมษผิดหวังที่ไม่สามารถทำให้ชลาศัยรักได้ เกิดบ้าตามแรงยุของโตมร จึงขับรถพาชลาศัยออกไปหาโรงแรมม่านรูดนอกเมือง ชลาศัยหนีออกมาและโทรตามชัชชมให้มารับ

บวรไม่สามารถใช้ทะเบียนสมรส ไปขู่เข็ญพ่อแม่ของถวิกา ก็เกิดโมโหหน้ามืดซ้อมถวิกาจนสะบักสะบอม ถวิกาโทรเรียกน้องสาวมาช่วยแต่ก็เข้าบ้านไม่ได้ ชวนชมรู้ว่าบวรจะทำเหมือนเดิม จึงบอกความลับที่บวรฝังศพภรรยาไว้ในบ้านให้กำไลรู้ และชวนกันไปช่วยถวิกา ถวิกายังบ้าหึงหวงคิดว่าบวรนัดกำไลมาหลับนอน ทำให้แผนแตก เกิดการต่อสู้ กำไลถูกแทงตายไปพร้อมกับบวร และเตรียมพบกับเรื่องราวที่สะท้อนปัญหาสังคม ปัญหาครอบครัว ได้ใน “ผู้ชายมือสอง

รายชื่อนักแสดงละคร ผู้ชายมือสอง

ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
รุจิรา ช่วยเกื้อ
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ
กมลา กำภู ณ อยุธยา
กรรชัย กำเนิดพลอย
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล

โบตั๋นกลีบสุดท้าย

โบตั๋นกลีบสุดท้าย ของ สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมประจำปี ไม่มีใครรู้ว่าสำเภาทองเป็นใคร เพราะทุกครั้งเขาจะให้ ดนัย เด็กวัดที่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัว อาเชง เป็นคนนำต้นฉบับและรับเงินให้ทุกครั้ง สำเภาทองแท้จริงคือ ธีรเดช ( อาจู ) ลูกชายคนสุดท้ายของอาเชงกับ เหมยหลิง สองสามีภรรยาที่อพยพจากเมืองจีน มาขายข้าวมันไก่ในเมืองไทย จนส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนคือ ธีรชัย ( อาโจ ), ธีรชาติ ( อาจิว ) และธีรเดช ( อาจู ) จนจบปริญญา

อาเชงไม่ค่อยชอบอาจูมากนัก เพราะตอนเหมยหลิงท้องอาจู ครอบครัวเขาลำบากถึงกับอพยพหนีมาเมืองไทย อาจูจึงเป็นลูกชัง ขณะที่อาโจและอาจิวเป็นลูกรักที่ได้ทุกอย่างจากอาเชงตลอดเวลา และมักเรียกอาจูว่า ไอ้ตัวซวย ทำให้อาจูกดดันกับชีวิตเสมอมา อาโจเข้ามาทำงานที่บริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนอาจิวเข้าทำงานที่ธนาคาร โดยไม่บอกให้อาเชงรู้เพราะกลัวถูกแบ่งเงินเดือน อาจูระบายความในใจลงในบันทึกตามคำแนะนำของดนัย และให้อาจูเขียนเรื่องสั้นส่งนิตยสาร “ระเบียงสยาม”

งานเขียนของอา จูเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เขาจึงกลายเป็นนักเขียนมืออาชีพในนามปากกา “สำเภาทอง” โดยปิดบังอาเชงและเหมยหลิงเอาไว้ อาโจแต่งงานกับ จรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ สร้างความช้ำใจให้อาเชงไม่น้อยแต่ไม่เคยบอกใคร อาจูรู้ว่าพ่อผิดหวังมากแต่ไม่สามารถปลอบใจได้ อาเชงมักใช้เวลาว่างอ่านนิตยสารระเบียงสยาม เพราะติดใจการเขียนนวนิยายของสำเภาทองมาก อาจูได้รับการทาบทามให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับงิ้ว เขาไม่มีข้อมูลจึงไปสมัครที่คณะงิ้วฉางชิน

ที่เป็นแหล่งข้อมูลแต่ เกือบไม่ได้ทำงานในคณะเพราะ ตันหยง ลูกสาวคนเล็กของ อาฉาง และอาซิน ไม่เชื่อว่าอาจูด้อยการศึกษาและตกงาน อาจูเห็นว่าครอบครัวอาฉางมีแต่ลูกสาว แต่สามารถให้ความรักความอบอุ่นแกลูกๆ ได้ดี แตกต่างจากครอบครัวของเขาที่มีแต่ลูกชาย แต่กลับได้รับความรักไม่เท่ากัน อาจูจึงเอาเรื่องราวชีวิตของอาฉางและข้อมูลเกี่ยวกับงิ้วที่ได้จาก อาซุ่น คนสอนงิ้วของคณะเป็นผู้ให้ข้อมูล ดาหลา ลูกสาวคนโตของอาฉางแต่งงานกับ พงษ์เลิศทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง

ลูก ชายของ เจ้าสัวกำจร กับมาดามเหลียว จนมีลูก 2 คนคือ หยก กับหงส์ ปาหนัน ลูกสาวคนกลางเป็นนางเอกงิ้วที่ เสี่ยเดชา เจ้าของร้านทองจอมอันธพาล, อดิเทพ ผู้กำกับละครเวทีชื่อดัง และ แอนดี้ เพลย์บอยหนุ่มนักเรียนนอกรุมจีบ ตันหยงเป็นลูกสาวคนเล็กที่อยากเปิดอู่ซ่อมรถ มีนิสัยห้าว ชอบโต้เถียงกับอาฉางเป็นประจำ จนเธอคิดว่าพ่อไม่รักเหมือนลูกคนอื่น อาหลง เด็กกำพร้าที่อาฉางและอาซินเลี้ยงไว้เพราะอยากได้ลูกชาย เขาทำทุกอย่างในคณะที่เป็นการตอบแทนบุญคุณ

และแอบรักปาหนัน ข้อมูลทั้งหมดอาจูได้ฟังจากอาซุ่น จึงตั้งชื่อนวนิยายเรื่องใหม่ว่า “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” อาเชงทำงานหนักเพราะหวังเก็บเงินให้ลูกรักทั้ง 2 ได้สบาย จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคไต เขาไม่รู้เลยว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นเป็นเงินที่อาจูหามาจากงานเขียน หนังสือ อาเชงเชื่อว่าอาโจกับอาจิวต้องไปสอนพิเศษเพื่อหาเงินมารักษาตน อาจูกับเหมยหลิงปิดปากเงียบไม่ยอมบอกให้อาเชงรู้ เพราะกลัวว่าอาเชงจะไม่ยอมรักษาตัว ดนัยเห็นอาเชงอคติกับอาจูตลอดเวลา

จึง เอานิตยสารระเบียบสยามมาให้อ่าน อาเชงได้อ่านเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” เรื่องราวของครอบครัวจีนที่มีลูกๆ 3 คนมาอ่าน อาเชงอ่านแล้วอินไปกับเรื่องราว อาเชงรู้ว่าอาจูทำงานในสำนักพิมพ์นี้ จึงฝากอาจูไปชมสำเภาทอง อาจูตื้นตันใจมากที่พ่อกล่าวชมเขาเป็นครั้งแรก แม้พ่อจะไม่รู้ว่าเขาคือสำเภาทองก็ตามที งานแสดงงิ้วเริ่มซบเซา อาฉางไม่อยากให้ศิลปะงิ้วหายไป จึงปรับปรุงการแสดงครั้งยิ่งใหญ่ โดยกู้เงินจากเสี่ยเดชามาใช้ เสี่ยเดชาเป็นคนเจ้าเล่ห์และชอบปาหนันอยู่

เขา จึงยื่นข้อเสนอว่าหากอาฉางหาเงินมาใช้หนี้ไม่ทันกำหนด จะต้องยกปาหนันให้ตนอาฉางยอมตกลง และพยายามทำให้การแสดงมีคนเข้าชมมากๆ เมื่อเสี่ยเดชาเห็นว่าอาฉางจะหาเงินมาใช้หนี้ตนได้ จึงส่งลูกน้องมากลั่นแกล้งจนทำให้โรงงิ้วไฟไหม้ การแสดงต้องยุติลง อาจูยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการให้ไปแสดงที่โรงหนัง และเขาเป็นคนช่วยเขียนบทการแสดง ทำให้ครอบครัวอาฉางพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ตันหยงทีแรกตั้งตนอคติกับอาจู คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง

เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลงและ คิดจะกระชากหน้ากากเขาตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นความดีของอาจูที่คอยช่วยเหลือครอบครัว ความรู้สึกเธอจึงเปลี่ยนไปและโอนเอนมาทางแอบชอบ ขณะที่ความรักของทั้งสองกำลังก่อตัวขึ้น ความลับที่อาจูปิดบังไว้มาตลอดก็ถูกเปิดโปงขึ้น เมื่อตันหยงจับได้ว่าอาจูเป็นนักเขียนนวนิยายในนามสำเภาทอง ทุกคนผิดหวังในตัวเขามากจึงไล่อาจูออกไปจากคณะ อาจูแอบไปดูคณะงิ้วซ้อมการแสดงที่โรงหนัง ช่วงนั้นคณะกำลังมีปัญหาเพราะตันหยงหายตัวไป

อาฉางก็ป่วยหนักจนเข้า โรงพยาบาล อาจูเห็นว่าพ่อลูกทะเลาะกันจึงหาเหตุให้ตันหยงไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล จนทำให้พ่อลูกสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ในวันเกิดอาหลงเขานัดปาหนันไปกินข้าว แต่ปาหนันผิดนัดปล่อยให้อาหลงนั่งอยู่ที่ร้านเพียงลำพัง จึงถูกเสี่ยเดชาและลูกน้องรุมทำร้ายจนขาหัก ไม่สามารถแสดงงิ้วได้อีก อาฉางจึงต้องตามตัวอาจูมาแสดงแทน ดาหลาจับได้ว่าพงษ์เลิศเป็นเกย์จึงขอหย่ากับเขา โดยนำลูกทั้งสองไปเลี้ยงเอง เจ้าสัวกำจรผิดหวังในตัวลูกชายมาก

จึงไล่ออกจากบ้าน พงษ์เลิศตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับคู่ขา อาเชงรู้ความจริงว่าอาจูซื้อบ้านสวนเอาไว้ แทนที่จะดีใจกลับโกรธจัดเพราะเข้าใจว่าลูกชายไปทำงานผิดกฎหมาย จนดนัยต้องโพล่งความจริงออกมาว่า อาจูใช้เงินจากงานเขียนนวนิยายซื้อบ้านหลังนั้นไว้ และเหมยหลิงยังบอกอีกว่าอาจูเป็นคนออกค่ารักษาตัวให้เขา ไม่ใช่อาจิวและอาโจอย่างที่อาเชงเข้าใจ อาเชงฟังแล้วสะท้อนใจอย่างแรง เมื่อรู้ว่าลูกชังไม่เคยทอดทิ้งเขาเลย ผิดกับลูกรักทั้งสองที่ไม่เคยมาเหลียวแล

อาเชงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่ก็แอบไปดูการแสดงงิ้วของอาจูที่โรงหนัง และในที่สุดอาจูกับอาเชงก็ได้ปรับความเข้าใจกัน ปาหนันรู้ว่าอาจูมีใจให้ตันหยง จึงร่วมมือกับอาหลงหาทางให้คนทั้งสองได้สารภาพรักกัน อาจูถือโอกาสบอกรักตันหยงขณะที่แสดงงิ้วบนเวที สร้างความหวั่นไหวให้เธอไม่น้อย อาจิวถูกจับได้ว่ายักยอกเงินธนาคารจึงถูกจับเข้าคุก ให้อาโจมาประกันตัวแต่อาโจปฏิเสธเพราะกลัวพาดพิงมาถึงตน อาจิวโกรธพี่ชายมากจึงเขียนจดหมายไปบอกจรัสศรีว่าอาโจมีเมียน้อย

จรัส ศรีพาลูกน้องไปยิงอาโจจนกลายเป็นอัมพาต อาเชงสงสารลูกชายจับใจจึงตัวมาดูแลที่บ้าน ตันหยงเรียนจบวิชาช่างมาแล้ว อาฉางจึงให้ทุนเปิดอู่ซ่อมรถตามความฝัน และให้ดูแลคิวการแสดงของคณะงิ้วฉางซิน ที่กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” ได้รับรางวัลงานเขียนนวนิยายดีเด่นประจำปี อาจูขึ้นไปรับรางวัลนี้ด้วยความภาคภูมิใจ ไม่นานนักเขาก็เริ่มงานเขียนชิ้นใหม่ในเรื่อง “คือวันที่ฉันรอ” โดยสำเภาทอง และมีตันหยงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างกาย

รายชื่อนักแสดง โบตั๋นกลีบสุดท้าย

อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น ธีรเดช ( อาจู )
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น ตันหยง
เกียรติกมล ล่าทา แสดงเป็น อาหลง
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ แสดงเป็น ปาหนัน
วริษฐ์ ทิพโกมุท แสดงเป็น พงษ์เลิศ
เพชรลดา เทียมเพชร แสดงเป็น ดาหลา
นิรุตติ์ ศิริจรรยา แสดงเป็น อาเชง
เศรษฐา ศิระฉายา แสดงเป็น อาฉาง
ทาริกา ธิดาทิพย์ แสดงเป็น อาซิน

น้ำตาลไหม้

“ปวัน” (อธิชาติ ชุมนานนท์) ได้รู้จักกับสาธร (มนตรี เจนอักษร) หนุ่มใหญ่ที่ดูจะเป็นคนกว้างขวางในสถานที่เที่ยวกลางคืน และสาธรก็ได้ช่วยปวันไว้จากการมีเรื่องกับฝรั่งที่เมาเหล้า ปวันรู้สึกถูกชะตาจึงชวนไปดื่มต่อ สาธรเมามาก ปวันจึงพาไปพักที่บ้านตัวเอง และพาไปส่งบ้านในตอนเช้าเขาจึงรู้ว่าสาธรเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งสูงและท่าทางภูมิฐานผิดจากที่เห็นเมื่อคืน
“พาณี” (ดวงใจ หทัยกาญจน์) เป็นน้องสาวของ “พิมลา” (อรสา พรหมประทาน) แม่ของปวัน ไม่ค่อยชอบใจสาธร พาณี เป็นคนเลี้ยงดูปวันมาตั้งแต่คลอดเพราะพิมลาร่างกายอ่อนแอ พาณีหลงรัก “พนานต์” (กษมา นิสสัยพันธุ์) และได้เสียกันโดยที่พิมลาก็รู้เรื่อง หลังจากที่พิมลาตายพาณีก็อยู่กับพนานต์ จนกระทั่งเขามีผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆและสามีของหญิงที่ไปติดพันยิงตาย ปวันถูกส่งไปเรียนเมืองนอกเมื่อกลับมาจึงสนิทกับพาณีมาก ปวันรู้สึกถูกใจ “ธุมา” (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) สาวสวยนักออกแบบของบริษัท เขาสนใจเธอในขณะที่เธอก็พอใจเขาเช่นกัน แต่ปวันกลับไปเช็คประวัติของธุมาจึงรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว โดยที่สามีกำลังทำปริญญาเอกอยู่ที่อเมริกา ปวันตัดสินใจถอยออกห่างจากธุมา ส่วน “แจ้งหล้า” (พศิน เรืองวุฒิ) ทนายความเพื่อนของปวันที่ขับรถชนรถของธุมาก็ถูกใจเธอแต่เมื่อรู้ว่าเธอแต่งงานแล้วก็ตัดใจ

แต่แล้วปวันก็ตัดใจจากธุมาไม่ได้หลังจากที่เขา กลับมาจากฮ่องกง จึงไปหาธุมาที่บ้านสวนและได้รู้จักกับพ่อแม่ของธุมา เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่มีพี่ชายเป็นลูกติดพ่อ 3 คน คือ ตั้ว (ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) แต (นรินทร์ วุฒินันท์สันติกุล) และ ติก (กรุณพล เทียนสุวรรณ) แต่ทั้งหมดก็สนิทและรักใคร่กันมา จนสนิทกับเพื่อนๆของพี่ชายด้วย โดยเฉพาะ “ ตาว” (วริษฐ์ ทิพโกมุท) เพื่อนของแต ธุมาแต่งงานกับตาวเพื่อเอาเงินสินสอดไปเป็นค่าไถ่จำนองสวนตอนที่ตั้วขับรถชน รถรับส่งนักเรียน ซึ่งความจริงแล้วตาวเป็นเกย์และที่แต่งงานกับธุมาก็เพื่อจะกลับมาเป็นผู้ชายแต่ไม่สำเร็จ ธุมาและปวันไปดูงานที่ฮ่องกงและรู้ใจตัวเองว่ารักเธอและเธอก็รักเขาทั้งสองได้เสียกันโดย ที่ปวันเป็นผู้ชายคนแรกของธุมา เพราะตาวนั้นผูกพันกับเธอแค่ทางกฎหมาย เขาแสดงออกเป็นพี่ชายที่น่านับถือและไม่เคยแตะต้องตัวเธอ เมื่อปวันพูดเรื่องตาวและการใช้ชีวิตคู่ก็จะถูกธุมาตัดบท เธอเองเริ่มรู้สึกผูกพันกับปวันมาขึ้นทุกทีและต่างประทับใจซึ่งกันและกัน

ปวัน ไปเจอแจ้งหล้าได้รู้ว่า “คุณหญิงมาลา” (พิสมัย วิไลศักดิ์) มารดาของตาวร่ำรวยมาก ทำให้ทั้งคู่สงสัยในความรักที่ธุมามีต่อตะวัน ต่อมาปวันนัดพบกับสาธรเพื่อไปดื่มเหล้า สาธรได้พา “ฉัตราภรณ์” หรือ เนียน (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ลูกสาวคนสวยของตัวเองที่เพิ่งกลับจากสวิสเซอร์แลนด์มาด้วย ด้วยท่าทีเรียบร้อยและบริสุทธิ์อ่อนต่อโลกทำให้ปวันเอ็นดูไม่น้อยเมื่อสาธร ฝากฝังเนียนให้ลองฝึกงานที่บริษัทเขาจึงไม่ปฏิเสธ จริงๆแล้วเนียนไม่ใช่เด็กเรียบร้อยการไปอยู่ต่างประเทศก็ไม่ได้ไปเรียนแต่ติดเที่ยวเตร่ ซึ่งสาธรไม่เคยรู้เรื่องของลูกสาว เมื่อเธอเห็นธุมาและปวันรักกันมากจึงทนไม่ได้ และมุ่งมั่นที่จะแย่งปวันมา ครอบครอง ส่วนปวันรักธุมามากขึ้นจนอยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ธุมาขอเวลาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยที่เธอหวังว่าตาวจะหย่าให้โดยดี แต่เรื่องกลับยากกว่าที่คิดเพราะตาวกลับมาพร้อมกับ “แอ” (โชคชัย บุญวรเมธี) ชายคนรัก และต้องการให้ธุมามีลูกเพื่อหวังสมบัติของคุณหญิงมาลา

ด้าน เนียนก็ได้บริหารเสน่ห์กับแจ้งหล้าด้วย ธุมาอ่อนเพลียจึงไปหาหมอและพบว่าตัวเองท้อง ตาวและแอยังเสนอให้เธอมีลูกอยู่เสมอเพราะต้องการเอาสมบัติของแม่มาแบ่งไปลง ทุนทำธุรกิจโดยบอกว่าจะแบ่งให้ธุมาด้วย ตาวมาพบปวันเพื่อให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับธุมาเนียนฝึกงานในบริษัทของปวันโดยเปลี่ยนแผนกไปเรื่อยๆจึงไม่ต้องรับผิดชอบมาก จนมาถึงส่วนบริหารที่เธอมุ่งมั่นจะได้ใกล้ชิดกับปวัน และ “พร้อมทรัพย์” (ปัทมา ปานทอง) ซึ่งพอใจธุมาอยู่แต่เนียนก็วางแผนจนชนะใจได้ จากนั้นเนียนก็ยังวางแผนจนชนะใจพาณีอีกด้วย ปวันและธุมาเข้าใจผิดกันเธอตัดสินใจลาออกและเดินทางไปอยู่กับติกที่ฮาวาย ปวันเดินทางไปที่หาดใหญ่เพื่อเปิดสาขาของบริษัทเนียนรู้เข้าจึงตามไป ปวันเมาหลับไปแต่เนียนก็สร้างสถานการณ์ว่าเขาขืนใจเธอและต้องรับผิดชอบ สาธรไม่ยอมและบอกว่าเนียนท้องให้ปวันรับผิดชอบ ปวันจำต้องแต่งงานกับเนียน ส่วนธุมาเมื่ออยู่ที่ฮาวายก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ติกฟังและคิดจะทำแท้งแต่ เธอก็คิดได้และเก็บลูกในท้องไว้ ต่อมาทั้งคู่ได้เดินทางกลับเมืองไทย ติกนัดพบตาวเพื่อสะสางเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ตาวนึกถึงความหลังที่ลึกซึ้งต่อกัน และเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างติกกับแอ

ตาวบอกติกว่าความสัมพันธ์ ระหว่างเขากับธุมาเป็นเพียงพี่ชายกับน้องสาว และตาวก็ดีใจที่ธุมาท้องเพื่อจะได้เงินจากแม่แต่เธอขอหย่าแทนโดยไม่ขอ ทรัพย์สินใดๆเลย ส่วนชีวิตคู่ของเนียนและปวันก้เป็นไปอย่างระหองระแหง เพราะเนียนทำตัวฟุ่มเฟือยและเอาเรื่องที่ตัวเองท้องเป็นข้ออ้างส่วนพาณีก็ ให้ท้ายร่ำไป แจ้งหล้าสงสัยพฤติกรรมของเนียนจึงแอบสืบอย่างเงียบๆ ปวันได้เจอกับ “วิมาดา” (ภารดี อยู่ผาสุข) ซึ่งมีนิสัยคล้ายธุมาทำให้เขากลับมีชีวิตชีวาขึ้น พาณีมาบอกปวันว่าเนียนจะฆ่าตัวตาย ปวันกลับมาง้อเนียน ส่วนธุมาก็มาเริ่มงานใหม่ที่บริษัทตกแต่งภายในของรุ่นพี่ และต่อมาเธอก็เจ็บท้องในขณะที่ทุกคนไม่อยู่บ้านจึงตัดสินใจให้โรงพยาบาลมา รับทำให้แจ้งหล้าได้พบเธอ ปวันขอหย่ากับเนียนแต่เธอมีเงื่อนไขเป็นทรัพย์สินมากมายรวมถึงสิทธิ์ในตัว ลูก แต่แล้วแจ้งหล้าก็สืบจนรู้ความจริง ตาวเริ่มเบื่อแอแต่แอขู่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ให้คุณหญิงมาลาฟัง ตาวจึงตัดสินใจเล่าเรื่องต่างๆให้แม่ฟัง แจ้งหล้าเปิดเผยเรื่องของเนียนให้พาณีฟังว่าสาธรมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะ การพนัน ส่วนเนียนทำแท้งมาแล้ว 2 ครั้งและไม่สามารถมีลูกได้เพราะตัดมดลูกไปแล้ว แจ้งหล้าพาพาณีมาพบ “บุ้งกี๋” ลูกของธุมากับปวัน ส่วนวิมาดาตัดสินใจไปเรียนต่อ ตาวเดินทางกลับอเมริกาไปกับติก ปวันรู้ความจริงทั้งหมดจึงไปง้อขอคืนดีกับธุมาส่วนเธอจะยกโทษให้หรือไม่ต้อง ติดตามชม น้ำตาลไหม้

ตี๋ตระกูลซ่ง

เคี้ยง และ กิมเน้ย เคยเป็นเจ้าของคณะเชิดสิงโตมีชื่อ แต่ที่ต้องปิดคณะลงเพราะโดนคณะคู่แข่งซื้อตัวคนเชิดหัวสิงโตไป เคี้ยงจึงได้เปลี่ยนอาชีพมาขายกาแฟอยู่ที่ตลาดเยาวราชเพื่อเลี้ยงดู อากง อาม่า และลูกๆ อีกสี่คนคือ ย้ง พี่ชายคนโตที่ต้องดูแลน้องๆ อีกสามคนคือ หมิง, ฟู่, ไช้ วันหนึ่งอาม่าเกิดล้มป่วยและต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งก็พอดีกันกับที่ เจิน ลูกสาวร้านปาท่องโก๋ที่แต่งงานไปกับ หลี่ฟง นักธุรกิจชาวฮ่องกงได้เดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวของเธอที่เยาวราช และได้รู้เรื่องของเคี้ยงทำให้เธออยากจะช่วยเหลือ เจินเลยขอไช้ไปเป็นลูกบุญธรรม

และยังมอบเงินก้อนหนึ่งให้เคี้ยงไป รักษาอาม่าและเป็นทุนในการค้าขายต่อไป เคี้ยงจึงเปลี่ยนไปทำร้านข้าวต้มโดยไปเซ้งร้านข้าวต้มหน้าตลาดซึ่งเป็นที่ ของ เจ้าสัวสรรชัย ซึ่งมีภรรยาสองคน ต่อมากิมเน้ยก็มีลูกชายอีกคนหนึ่งชื่อ เล้ง แต่กิมเน้ยก็คิดถึงไช้ตลอดเวลา เคี้ยงเห็นว่าย้งมีพรสวรรค์ในการเชิดสิงโต เขาจึงฝึกฝนลูกชายอย่างหนักเพื่อเข้าประกวดในงานฉลองวันเกิดของเจ้าสัวสรร ชัย แต่ย้งรู้สึกกดดันจึงใช้ท่าที่ยังฝึกไม่ชำนาญทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เคี้ยงรู้สึกผิดจึงดื่มเหล้าจนเมามายไม่ได้สติเดินไปถูกรถชนตาย

หลาย ปีผ่านไป เดวิด ชาน ( ไช้ ) ก็เรียนจบจากอเมริกา หลี่ฟงอยากให้ชานมาช่วยงานที่บริษัท แต่ชานกลับสนใจงานบันเทิงและไปรับงานหนังแอ็คชั่น เมื่อหลี่ฟงรู้เรื่องเข้าก็ไม่พอใจจนเกิดปากเสียงกัน และพลั้งปากพูดเรื่องที่ชานไม่ใช่ลูกแท้ๆ ชานตกใจมากเมื่อทราบเรื่องว่าตนเองไม่ใช่ลูกของเจินและหลี่ฟง ชานจึงตัดสินใจมาตามหาพ่อแม่ที่เมืองไทยด้วยข้อมูลเพียงแค่พ่อแม่ของเขาขาย กาแฟอยู่ที่เยาวราช ทันทีที่ชานถึงเมืองไทยเขาก็ถูกจี้เอาทรัพย์สินไปหมด แต่ยังโชคดีที่แท็กซี่ใจดีพาไปส่งที่เยาวราช ซึ่งที่เยาวราชกำลังมีงานไชน่าทาวน์เฟสติวัล

ชาน เข้าร่วมประกวดหนุ่มสาวไชน่าทาวน์ เพราะหวังจะนำเงินรางวัลมาใช้จ่าย ชานได้พบกับฟู่ซึ่งมาประกวดด้วยโดยมีเล้งเป็นพี่เลี้ยงให้ เล้งซึ่งแอบชอบ จินดา เป็นลูกสาวแม่ค้าขายหมูแถวเยาวราชอยู่ จึงไม่พอใจที่จินดากับ หมวยเล็ก ให้ความสนใจชานมากกว่าตน เล้งจึงคิดแผนแกล้งชานแต่กลับเป็นการช่วยให้ชานชนะการประกวด โดยที่เล้งไม่รู้เลยว่าชานคือพี่ชายอีกคนหนึ่ง หลังงานเลิก มนสิชา และ มัญชรี ลูกสาวของเจ้าสัวสรรชัยที่มาเป็นกรรมการก็ถูก ทรงพล อากู๋ของมนสิชาส่ง เปียว มาสร้างสถานการณ์ลอบยิงมัญชรี แต่หมิงและชานมาช่วยไว้ได้

เล้งชวนฟู่ขโมยเงินรางวัลของชานเพื่อไป จ่ายค่ารักษาอาม่า แต่กลับพลั้งมือทำให้ชานบาดเจ็บและเกิดความสงสารจึงพาชานกลับบ้านตระกูลซ่ง ด้วย ชานฟื้นขึ้นมากลายเป็นคนความจำเสื่อม ชานอยากตอบแทนบุญคุณที่ตระกูลซ่งคอยช่วยเหลือ จึงช่วยสร้างจุดขายให้กับร้านข้าวต้มจนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมากมาย เจ้าสัวสรรชัยให้มัญชรีไปดูงานบริษัทเดินเรือสินค้า แต่ทรงพลใช้ตำแหน่งและอำนาจลักลอบขนยาเสพติดออกไปกับเรือสินค้าโดยไม่มีใคร รู้ ส่วนมนสิชาก็มาเป็นเลขาของเจ้าสัวเพื่อช่วยงานศูนย์การค้าที่ร่วมทุนกับ ไพโรจน์

โดยไม่รู้ว่าไพโรจน์เข้ามาร่วมทุนครั้งนี้เพื่อดึงให้เจ้า สัวให้ห่างจากบริษัทเดินเรือ เพื่อการส่งยาเสพติดที่เขาร่วมมือกับทรงพลจะได้สะดวกขึ้น เจ้าสัวสรรชัยคิดสร้างโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่โดยต้องไล่ที่ชาวบ้านใน ตลาดและตึกแถวในซอย แต่การไล่ที่ต้องชะงักเมื่อเจ้าสัวสรรชัยเกิดพลัดตกบันไดทำให้ร่างกายซีกขวา ใช้การไม่ได้ ลูกน้องคนสนิทของเจ้าสัวแนะนำให้เจ้าสัวมารักษากับอากง ซึ่งเป็นหมอฝังเข็มที่บ้านตระกูลซ่ง ทรงพลส่งลูกน้องมาเล่นงานมัญชรีแต่หมิงมาช่วยไว้ได้ เจินกับหลี่ฟงเป็นห่วงชานจึงจ้างตำรวจไทยให้สืบเรื่องของชาน

มัญชรีประทับใจหมิงเคยช่วยชีวิตจึงมาอุดหนุนที่ร้านบ่อยๆ มนสิชาพาเจ้าสัวมาฝังเข็มกับอากงเป็นประจำจนเธอกับชานเริ่ม เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน มัญชรีให้ชานมาทำงานเป็นผู้ช่วยของเธอ ทันทีที่ชานมาทำงานชานพบความผิดปกติของบัญชรายการสินค้าแต่ยังไม่บอกใคร ต่อมาอากงรักษาเจ้าสัวจนหายเป็นปกติแต่ไม่ยอมรับเงิน เจ้าสัวสรรชัยจึงหาบ้านใหม่ให้เป็นการตอบแทนแต่อากงปฏิเสธ ชานปรึกษามัญชรีเรื่องบัญชีที่ผิดปกติ ทรงพลรู้ตัวจึงส่งลูกน้องมาลอบยิงมัญชรีบนเรืองสินค้าแต่พลาดไปถูกหมิง ลูกน้องของทรงพลถูกจับและซัดทอดทรงพล

ส่วนไพโรจน์ก็กลัวติดร่างแหจึง วางแผนฆ่าทรงพล โดยไม่รู้ว่าฟู่ซึ่งมาทำงานกับ ไพบูลย์ ลูกชายของไพโรจน์รู้เรื่องทั้งหมด เรื่องคดียาเสพติดทำให้การเงินของเจ้าสัวมีปัญหา ดังนั้นจึงขายหุ้นศูนย์การค้าให้ไพโรจน์ด้วยความไว้ใจ แต่ไพโรจน์กลับบีบให้เจ้าสัวจัดการเรื่องงานแต่งงานของมนสิชากับไพบูลย์ลูก ชายของเขา มัญชรีทะเลาะกับเจ้าสัวเรื่องที่บังคับให้น้องสาวแต่งงานกับลูกชายไพโรจน์ เธอจึงลาออกจากบริษัทและย้ายไปอยู่ข้างนอก ขณะรองานใหม่เธอก็ไปช่วยงานที่ร้านข้าวต้ม

ชานไปค้นหาหลักฐานแต่ ไพบูลย์รู้ตัว และสร้างหลักฐานปลอมว่าชานร่วมมือกับทรงพลทำให้ชานถูกจับ เมื่อตำรวจตรวจรูปพรรณสัณฐานก็รู้ว่าชานคือลูกชายนักธุรกิจชาวฮ่องกงที่หาย ตัวไป เจินและหลี่ฟงรู้เรื่องก็รีบมาเมืองไทยและก็รีบไปหาชานที่โรงพัก ซึ่งพอดีกับที่ความจำของชานกลับมาเหมือนเดิม เจินได้พบกับครอบครัวตระกูลซ่งก็จำได้จึงรู้ว่าความจริงว่าชานก็คือไช้ ฟู่เล่าความจริงทั้งหมดกับตำรวจทำให้ชานพ้นผิด เมื่อชานรู้เรื่องที่มนสิชาถูกบังคับให้แต่งงานก็หาทางช่วย โดยเชิดสิงโตและชิงตัวมนสิชาออกมา

ตำรวจรวบรวมหลักฐานมาจับไพบูลย์ แต่ไพบูลย์คิดหนีจึงโดนยิงตาย มนสิชาขอไปอยู่ที่บ้านตระกูลซ่ง ทำให้เจ้าสัวโกรธถึงกับประกาศไล่ที่บ้านตระกูลซ่ง ทุกคนย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่ชานและพ่อแม่บุญธรรมซื้อให้ เจ้าสัวคิดถึงลูกสาวจนล้มป่วย และเริ่มคิดได้จากคำพูดของอากงที่มาช่วยฝังเข็ม เจ้าสัวไปขอโทษคนตระกูลซ่งและยกเลิกการไล่ที่ แต่ขอให้ลูกสาวทั้งสองกลับไปอยู่ด้วยกัน และอนุญาตให้มนสิชากับชานคบกันอย่างเปิดเผย และแล้วทุกอย่างก็จบลงอย่างมีความสุข

รายชื่อนักแสดงละคร ตี๋ตระกูลซ่ง

อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น เดวิด ชาน ( ไช้ )
บัวชมพู ฟอร์ด แสดงเป็น มนสิชา
ดนัย จารุจินดา แสดงเป็น หมิง
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น มัญชรี
ไมค์ กิ่งโพยม แสดงเป็น ฟู่
ปองศักดิ์ รัตนพงศ์ แสดงเป็น เล้ง
อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกูล แสดงเป็น ไพบูลย์
สาวิตรี สามิภักดิ์ แสดงเป็น กิมเน้ย
เศรษฐา ศิระฉายา แสดงเป็น อากง
ดิลก ทองวัฒนา แสดงเป็น เคี้ยง

จำเลยรัก 2551

หฤษฎ์ รังสิมันตุ์ ชายหนุ่มเจ้าของเหมืองแร่ใหญ่ทางภาคใต้ เกิดความแค้นเป็นที่สุดเมื่อ หริณ รังสิมันตุ์ น้องชายของเขาฆ่าตัวตาย โดยสาเหตุก็คือ ศันสนีย์สาวสวยรวยเสน่ห์ และยังเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ พระยาและคุณหญิงศุภอรรจน์

ศันสนีย์ ศุภอรรจน์ คือสาวสังคมที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆมากมาย เพราะเธอมีเรือนร่างที่สวยงาม เปรี้ยวเฉียว และชาติตระกูลที่ดี จึงทำให้หนุ่มๆ พากันหลงใหลและหนึ่งในนั้นก็คือ หริณชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยหลงรักหญิงสาวที่ชื่อ โสรยา หญิงสาวผู้อาภัพ ที่ต้องสูญเสียบิดาตั้งแต่อายุห้าขวบ แถมบิดาก็เป็นแค่ข้าราชการชั้นผู้น้อย จึงไม่ได้ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้กับมารดาของเธอ การเลี้ยงลูกที่อยู่ในวัยกำลังกำลังนอนถึงสามคน จึงเป็นภาระสำคัญสำหรับมารดาเธอมาก ดังนั้นคุณหญิงผู้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของมารดาจึงขอโสรยามาเลี้ยงไว้ เพื่อเป็นเพื่อนเล่นกับ ศันสนีย์ ศุภอรรจน์

ในช่วงเวลานั้น หริณเป็นแฟนกับโสรยา แต่เมื่อหริณได้มาเจอกับศันสนีย์ ก็เปลี่ยนใจมาหลงรักศันสนีย์แทน แต่โสรยาก็ไม่เคยคิดแค้นแต่อย่างใด เธอคิดเพียงว่าหากได้ทดแทนพระคุณของผู้มีพระคุณก็เพียงพอแล้ว โสรยายอมเป็นฝ่ายเจ็บปวด เพื่อให้ ศันสนีย์ มีความสุขกับหริณ แต่แล้วศันสนีย์ก็เกิดเบื่อหริณขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้เป็นเพราะฐานะชาติตระกูลของหริณนั้นเทียบไม่ได้เลยกับตระกูลศุภ อรรจน์ ศันสนีย์จึงปฏิเสธหริณอย่างไม่มีเยื่อใยและลบหริณออกจากความทรงจำ แล้วหันไปรับหมั้นกับ ธวัชชัย ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปด้วยฐานะ ความรู้ และชาติตระกูล ซึ่งน่าจะทำให้ชีวิตของศันสนีย์สุขสบายในอนาคต

แต่เมื่อวันหนึ่งสาวใช้ในบ้านยื่นนาม บัตรของชายหนุ่มที่มาขอพบศันสนีย์ถึงหน้าบ้าน ชายคนนั้นคือ หฤษฏ์ รังสิมันตุ์ พี่ชายของ หริณ เขามาขอพบเพื่อเคลียร์ปัญหาของน้องชาย ศันสนีย์ไม่อยากพบหน้า จึงขอให้โสรยาไปรับหน้าหฤษฏ์แทน ทันทีที่ หฤษฏ์พบโสรยา ก็เข้าใจผิดว่าเป็นศันสนีย์ จึงจับตัวโสรยาไปกักขังไว้ที่กระท่อมกลางป่าโดยมีนายใบ้เป็นคนดูแล เพื่อต้องการให้ล้างแค้นและให้ชดใช้ความผิดในการที่ทำให้หริณฆ่าตัวตาย แต่หฤษฎ์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นหญิงคนที่ลักพาตัวมา สามารถทำอาหารและงานบ้านอื่นได้อย่างชำนาญผิดกับสิ่งที่เขาเคยทราบว่า ศันสนีย์เป็นสาวไฮโซที่ทำอะไรจำจด

นานวันเข้าหฤษฎ์ใจอ่อนและเกิดความรัก ขึ้นกับโสรยาในนามของศันสนีย์  จนทำให้บุญทายภรรยาที่เคยนอกใจของหฤษฎ์ ไม่พอใจแอบวางแผนให้นายใบ้ปล้ำโสรยา แต่โชคดีที่ หฤษฎ์มาช่วยไว้ได้ทัน และขับไล่บุญทายออกไปจากชีวิตของเขา

ด้วยความรักที่ก่อตัวขึ้นในใจและสงสาร หฤษฎ์จึงตัดสินใจปล่อยตัวโสรยาไป ส่วนโสรยานั้นก็ถึงแม้ต้องจากหฤษฎ์ไปก็ไปเพียงแต่ตัว เพราะหัวใจของโสรยาที่หฤษฎ์คิดว่าเป็นศันสนีย์นั้นตกเป็นจำเลยรักของหฤษฎ์ไป หมดแล้ว
เวลาผ่านไปจนวันหนึ่ง ศันสนีย์ได้พบกับหฤษฎ์ก็หลงรักทันที เธอจึงตัดสินใจทิ้งคู่หมั้นอย่างธวัชชัยโดยไม่ลังเล เหมือนครั้งที่เธอทำกับหริณ หฤษฎ์เองพอทราบว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงที่เขาลักพาตัวไปคือโสรยาซึ่งเป็นน้อง สาวแสนดีของศันสนีย์ ก็ยอมเข้ามาพัวพันกับศันสนีย์เพราะหวังที่จะแก้แค้นแทนน้องชาย จนเมื่อความจริงปรากฏศันสนีย์จึงไม่เหลือใครอยู่เคียงข้างกายแม้เพียงสักคน ศันสนีย์จึงหันกลับไปหาธวัชชัย ซึ่งธวัชชัยก็พร้อมที่จะให้อภัยศันสนีย์ทุกอย่าง  ส่วนหฤษฎ์ก็สามารถปรับความเข้าใจกับโสรยา หญิงสาวที่เขารักอย่างสุดหัวใจได้ในที่สุด

นักแสดงละคร จำเลยรัก
อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น หฤษฎ์
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น โศรยา
รินลณี ศรีเพ็ญ แสดงเป็น ศันสนีย์
ชาตโยดม หิรัณยักษฐิติ แสดงเป็น ธวัชชัย
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น บุญทาย
คงกระพัน แสงสุริยะ แสดงเป็น ใบ้
กมลา กำภู ณ อยุธยา แสดงเป็น ชนิดา
รุ่งเรื่อง อนันตยะ แสดงเป็น หริณ