Tag Archives: ฐากูร การทิพย์

รักนี้หัวใจมีครีบ

รักนี้หัวใจมีครีบใต้ท้องทะเลกว้างใหญ่ของไทยที่สวยงาม ไปด้วยเหล่าสัตว์น้ำและปากะรังหลากสี ทันใดนั้นร่างของนางเงือกสองนางที่หลุดมายังท้องทะเลเพราะรอยแยกของเปลือก โลกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวของสึนามิ เงือกนางหนึ่งรูปร่างหน้าตาสวย ผิวขาว ดูบริสุทธิ์ อ่อนโยนชื่อ มีนานุช อีกนางเงือกสาวรุ่นพี่สวยสง่าสมวัยคือ มัสยา

ขณะเดียวกันที่ภาควิชาวิจัยทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์ ศ.ดร.ธารา ผู้เป็นอาจารย์ของภาควิชานี้ กำลังออกเรือกลางทะเลเพื่อทำการวิจัยเรื่องมลพิษที่มีต่อสัตว์น้ำ โดยมี ชลนที ลูกชายของเขาที่เป็นนักศึกษาปีสุดท้ายของภาควิชาขอตามมาด้วย ขณะที่กำลังเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำ ชลนทีพลัดตกทะเลพยายามตะเกียกตะกายว่ายเข้าหาเรือแต่เป็นตะคริวจนจมน้ำ ธาราโดดลงไปช่วยแต่หาไม่เจอ ธาราร้องไห้อย่างสิ้นหวัง แต่ขณะนั้นสายตาเขาเหลือบไปเห็นร่างด้านหลังของนางเงือกรำไร ๆ ที่ผิวน้ำ ธาราถึงกับช็อคไม่เชื่อสายตาตนเอง

ขณะที่ชลนทีหมดสติจมดิ่งลงใต้ท้องทะเล เขาได้รับการช่วยเหลือจากนางเงือกทั้งสอง ชลนทีถูกพาขึ้นฝั่งที่หาดร้าง มัสยากลัวว่าชลนทีจะตาย บอกให้มีนานุชช่วยผายปอด เมื่อมีนานุชเดินขึ้นฝั่งครีบและหางนางเงือกได้กลายเป็นขาเหมือนคนธรรมดา ในขณะที่มีนานุชจะก้มประกบริมฝีปากผายปอด ชลนทีก็ลืมตาคืนสติมาพอดี ทั้งสองต่างตกใจ ชลนทียิ่งตกใจเป็นร้อยเท่าที่เห็นว่าสาวน้อยน่ารักคนนี้กำลังเปลือยอยู่ เขาจึงรีบถอดเสื้อเชิ้ตให้ใส่ ส่วนมัสยาโดดหนีหลบไปหลังโขดหิน พอดีกับที่ กุ้งเผา และปูม้า เพื่อนซี้ของชลนทีมาเจอพอดี

ทั้งชลนที กุ้งเผา และปูม้าต่างก็มึนกับภาษากลอนเหมือนวรรณคดีไทยของมีนานุช และเมื่อถามถึงบ้านว่าอยู่ไหนก็ได้คำตอบว่าอยู่ใต้สมุทร กุ้งเผาลงความเห็นว่าต้องบ้าแน่ ๆ ชลนทีพาลเข้าใจว่ามีนานุชต้องความจำเสื่อมเพราะช่วยตนที่จมน้ำ เลยอยากตอบแทนด้วยการดูแล จึงแอบพามีนานุชเข้าพักที่หอพักชายของมหาวิทยาลัย โดยผ่านด่าน น้าหมึก รปภ.จอมเฮี้ยบ ประจำหอพักไปได้อย่างหวุดหวิด

ชลนที กุ้งเผา และปูม้าปรึกษากัน แล้วคิดว่าต้องส่งมีนานุชให้ตำรวจ แต่ชลนทีแย้งว่า ถ้าเลอะเลือนจนให้การอะไรไม่ได้ก็ไม่เป็นประโยชน์ ระหว่างนั้นมีนานุชเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตบนโลก เริ่มจากเห็นชลนทีนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์ ชลกับกุ้งเผาเลยอธิบายว่าตนกำลังหาข้อมูลทำวิจัย ทำให้มีนานุชได้สัมผัสและเปิดโลกมนุษย์กว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว

ที่ภาควิชาวิจัยทางทะเล บุรินทร์ นักศึกษาหนุ่ม หล่อเนี้ยบ ลูกชายของ ดร.นาวิน เจ้าของและอธิการบดีของมหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์ กำลังเตรียมงานปาร์ตี้นักศึกษาประจำปี โดยมีไฮไลท์การประกวดในคอนเซ็ปต์ มิสเมอร์เมด (Miss Mermaid) โดยคนเสนอไอเดียคือ วิฬาร์ ดาวมหาวิทยาลัยสวย เริ่ด เชิด หยิ่ง ซึ่งหวังคว้าตำแหน่งนี้ และเมื่อวิฬาร์ได้ยินว่าชลนทีหนุ่มในดวงใจแอบพานักศึกษาหญิงขึ้นห้อง วิฬาร์จึงบุกไปราวีที่หอของชลนที เมื่อเจอมีนานุช ชลนทีไม่รู้จะอธิบายยังไง จึงแก้ตัวไปว่ามีนานุชเป็นญาติของปูม้าที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ ปูม้าที่ชอบชลนทีอยู่จึงไม่กล้าขัด และพามีนานุชไปอยู่เป็นรูมเมท และด้วยหน้าตาที่น่ารักของมีนานุช ก็ทำให้วิฬาร์ระแวงว่าจะมาแย่งชลนทีกับตน

ที่ ร้านอาหารตามสั่งของ เจ๊กั้ง ทุกคนต่างแปลกใจกับพฤติกรรมประหลาด ๆ ของมีนานุช เช่น ดื่มน้ำเยอะมากแถมเหยาะเกลือไปครึ่งกระปุกก่อนดื่ม และไม่ยอมกินอาหารอื่นใดนอกจากสาหร่าย เจ๊กั้งนึกว่ามีนานุชสติเพี้ยน มีแต่ นีโม่ ลูกสาววัย 7 ขวบของเจ๊กั้งที่เป็นเด็กช่างฝันชอบอ่านนิทานที่ชอบคุยกับมีนานุช

เพื่อน ๆ ทุกคนเริ่มจับสังเกตได้ว่า ชลนทีกับมีนานุชเริ่มมีใจให้กัน แต่ชลนทียังปากแข็งอ้างว่าที่ทำดีกับมีนานุชก็เพราะติดหนี้บุญคุณที่ช่วย ชีวิตไว้ ในขณะที่ปูม้าเริ่มอึดอัดเพราะรู้ว่ามีนานุชก็มีใจให้กับชลนทีเหมือนที่ตน เป็นอยู่ ส่วนบุรินทร์ก็ตั้งตนเป็นคู่แข่งของชลนที เพราะชอบมีนานุชเช่นกัน ทางด้านมัสยาทนเป็นห่วงมีนานุชไม่ไหว ก็แอบขึ้นฝั่งในสภาพล่อนจ้อนมาเจอกับน้าหมึก รปภ. ที่เข้าใจว่ามัสยาเป็นคนบ้า ขณะที่น้าหมึกพยายามไล่มัสยา ศ.ดร.ธารามาพบเข้า เลยช่วยเหลือไว้ มัสยาเพียงแรกเห็นธารา ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่มี เลยพาลหลงรักธาราไปในทันที

ศ.ดร.ธารา ไปสำรวจบริเวณที่ตนเคยพบนางเงือก และพบเห็นเกล็ดปลาประหลาดแวววาวสวยงาม พอนำมาส่องดูในแล็บ ก็พบว่าไม่ใช่เกล็ดปลาชนิดใดบนโลก ในการประชุมอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ดร.นาวิน ให้ทุกคนยื่นหัวข้อวิจัย เพื่อทำการขออนุมัติทุน ศ.ดร.ธารา จึงเสนอหัวข้อการวิจัยเรื่องสัตว์น้ำสปีชี่ส์ใหม่ที่จะทำให้มหาวิทยาลัยโด่ง ดังไปทั่วโลก ดร.นาวิน ชอบอกชอบใจ แต่พอรู้ว่าสัตว์น้ำสปีชี่ส์ใหม่คือ นางเงือก ดร.นาวินก็หัวเสีย แต่ธารายืนยันว่าจะพิสูจน์ให้ได้ว่าในทะเลไทยนั้นมีนางเงือกอยู่จริง ขาดคำที่ประชุมก็หัวเราะเยาะจนธาราเศร้าซึม ชลนทีสังเกตเห็นจึงถามสาเหตุ ธารายอมบอกว่ากำลังพิสูจน์ว่านางเงือกมีจริง ชลนทีถึงกับอึ้งแต่ก็เชื่อมั่นในตัวพ่อว่าไม่ได้เพี้ยน ถึงแม้ชลนทีจะไม่เชื่อเรื่องนางเงือกเลยก็ตาม

ธาราไปนั่งดื่มปรับทุกข์ พอดีกับที่ อุทก นักข่าวหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งโดนไล่ออก ได้ยินธาราพล่ามเรื่องนางเงือก ก็สนใจคิดว่าถ้าได้ทำข่าวนางเงือกก็จะได้เป็นนักข่าวดังไปทั่วโลก อุทกจึงร่วมมือกับธารา มัสยาเตือนธาราว่าอย่าเสียเวลาสืบหาเลย เพราะนางเงือกเมื่อขึ้นบกครีบหางก็จะกลายเป็นขาเหมือนมนุษย์ทั่วไป ธาราย้อนถามว่าแล้วถ้าขาเปียกน้ำล่ะ มัสยาพลั้งหลุดปากตอบไปว่าถ้าเปียกน้ำ ขาก็จะกลายเป็นครีบหางอีกครั้ง

ถึงวันวาเลนไทน์วิฬาร์พยายามนัดเดทกับชลนที แต่ต้องผิดหวังเพราะชลนทีนัดกับมีนานุชไปแล้ว ชลนทีพามีนานุชไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แล้วเริ่มสังเกตเห็นความแปลกประหลาด เมื่อเห็นว่ามีนานุชเดินผ่านตู้ปลาการ์ตูนก็ต่างมาเรียงแถวกันทักทาย เมื่อมาถึงตู้ปลาฉลาม ปลาฉลามพุ่งตรงเข้ามาแล้วขยับปากคุยกับมีนานุช ก่อนจะผงกหัวคำนับทักทาย ชลนทีจึงถามสาเหตุแต่มีนานุชอ้ำอึ้งไม่ตอบ ชลนทีได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ

ขากลับฝนตกลงมา มีนานุชมีอาการกลัวการเปียกฝน จนชลนทียิ่งงงหนัก มีนานุชซื้อถุงขยะมาห่อตัวกันฝนจนมิดชิด ชลนทีไปปรึกษากุ้งเผา ก็ได้ความว่ามีนานุชอาจเป็นโรคกลัวน้ำ แต่ความสงสัยของชลนทีก็เพิ่มทวีขึ้น เมื่อชลนทีกับมีนานุชไปหาวิฬาร์ที่ห้องพักซึ่งมีแมวเปอร์เซีย มีนานุชมีท่าทางกลัวแมวในขณะที่แมวก็มาดม ๆ เลีย ๆ แต่ที่ขาของมีนานุช

คืนหนึ่งที่ห้องอาบน้ำในหอพัก มีนานุชกับมัสยา แอบมานอนแช่น้ำในสภาพนางเงือกอย่างสบายอารมณ์ ทั้งสองมีความเห็นตรงกันคืออยากอยู่บนโลกมนุษย์ ยังไม่อยากกลับไปโลกใต้สมุทร มัสยาสะบัดครีบหางตีน้ำเล่น เผอิญ ศ.ดร.ธารา เดินผ่านมานึกว่าเกิดเรื่องร้ายในห้องอาบน้ำนักศึกษาหญิง จึงรีบทุบประตู มีนานุชกับมัสยารีบเอาไดร์เป่าครีบหางให้แห้ง จนธาราพังประตูเข้ามาเห็นมัสยาและมีนานุชนั่งอยู่กับพื้นมีผ้าเช็ดตัวปิดขา ทั้งสองร้องลั่นว่าโป๊อยู่ ให้ธาราออกมารอข้างนอก เมื่อทั้งสองเดินออกไป ธาราเข้าไปสำรวจก็ได้เจอเกล็ดนางเงือกแบบที่เคยเห็น และเมื่อนำไปตรวจในแล็บ จึงรีบโทรบอกอุทก ทั้งสองตั้งสมมุติฐานว่าอาจมีนางเงือกแฝงกายอยู่ในมหาวิทยาลัย

ทางมหาวิทยาลัยจัดให้มีการออกค่ายเพื่อสร้างอาคารของโรงเรียนในชนบทบนภูเขา ห่างไกลความเจริญ แต่แท้จริงแล้วธารามีจุดประสงค์ที่จัดค่าย เพื่อต้องการสืบว่ามีนางเงือกแฝงอยู่กับนักศึกษาหรือไม่ โดยอุทกปลอมตัวเป็นคนหาของป่าแอบเอากล้องถ่ายรูปไป ธาราชวนแกมบังคับให้นักศึกษาทุกคนลงเล่นน้ำตก แต่มีนานุชไม่อยากลงน้ำ ธารายุให้ชลนทีดึงมีนานุชให้ลงไปเล่นน้ำด้วย ปรากฏว่ามีนานุชไม่ยอมขึ้นจากน้ำจนดูมีพิรุธ เมื่อปลอดคนมีนานุชแอบขึ้นมา อุทกรีบกดชัตเตอร์ถ่ายรูปไว้แม้จะเห็นไม่ชัดแต่ก็พบว่ามีหางปลาโผล่ในภาพ

กลับมาที่มหาวิทยาลัยธารากับอุทกเล่าให้มัสยาฟังว่ามีนานุชเป็นนางเงือก มัสยาตกใจแต่ก็แกล้งถามถึงแผนการต่อไป ธาราบอกว่ามีนานุชกับชลนทีกำลังดูใจกันอยู่ จึงจะใช้โอกาสนี้ทำให้ชลนทีชวนมีนานุชไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านตากอากาศของตน และจะหาทางสาดน้ำเพื่อให้มีนานุชกลับสภาพเป็นนางเงือก

ณ บ้านตากอากาศริมทะเล ขณะทานอาหาร ธาราสาดน้ำใส่หน้าตักและขาของมีนานุชจนเปียกโชก อุทกซึ่งแอบถ่ายภาพนิ่งและบันทึกภาพเคลื่อนไหว ปรากฏว่าไม่เกิดอะไรขึ้น ธาราหน้าแตกโกหกชลนทีว่าไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสาเหตุที่มีนานุชไม่เป็นไรก็เพราะมัสยาแอบบอกไว้ล่วงหน้า พอกลับหอพักจึงเห็นว่ามีนานุชเอาพลาสติกที่ใช้ห่ออาหารพันไว้มิดชิด ตั้งแต่ปลายเท้ายันหน้าอก ก่อนจะสวมเสื้อและกางเกงขายาวปิดไว้

ธารากับอุทกยังไม่ละความพยายาม ในงานการประกวดมิสเมอร์เมด ซึ่งวิฬาร์หมายมั่นปั้นมือว่าจะชนะ ได้จ้างฝ่ายศิลป์มืออาชีพให้ทำหางเงือกสุดสวยใส่ประกวด แต่เมื่อเห็นหางนางเงือกของมีนานุชสวยพอ ๆ กับตน จึงจุดไฟเผาหางเงือกของมีนานุช แต่ขณะที่มีนานุชจะถอนตัวจากการประกวด ธารากับอุทกก็มาสาดน้ำ คราวนี้อุทกกดชัตเตอร์ได้ภาพมีนานุชมีหางเป็นเงือก จากนั้นชลนทีกับกุ้งเผาก็มาอุ้มมีนานุชขึ้นเสลี่ยง ประกวดจนชนะได้ตำแหน่งมิสเมอร์เมด ธารานำภาพไปยืนยันกับ ดร.นาวิน แต่กลับถูกไล่ออก เพราะไม่รู้สึกว่าภาพมีนานุชมีหางเป็นเงือกเป็นเรื่องแปลกแปลก เพราะการประกวดมิสเมอร์เมด ก็ต้องแต่งเป็นนางเงือก มัสยาเห็นใจแต่พูดความจริงไม่ได้ ชลนทีได้อ่านสมุดบันทึกเกี่ยวกับนางเงือกที่ธาราเขียนไว้ พร้อมรูปถ่ายที่น้ำตก ทำให้ชลนทีแคลงใจเริ่มสืบหาประวัติของมีนานุช ก็พบว่าไม่มีประวัติในสารระบบ ชลนทีถามมีนานุช แต่มีนานุชรับปากว่าจะบอกความจริงในวันหนึ่ง

ความรักของชลนทีกับมีนานุชกำลังไปได้สวย ถึงแม้จะมีอุปสรรคจากวิฬาร์ และบุรินทร์ ส่วนกุ้งเผาก็ถือคติน้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน เลยหยอดจีบปูม้าทุกทีที่มีโอกาส จนความรักเริ่มจะงอกเงยให้เห็นบ้างแล้ว

ในวันสงกรานต์ มีนานุชไม่รู้ว่าวันสงกรานต์คือการสาดน้ำเล่นกัน มีนานุชโดนธารา และชายอีก 3 คนกับปืนฉีดน้ำกระบอกโตที่ธาราจ้างมา รุมฉีดน้ำจนมีนานุชกลายสภาพเป็นนางเงือก โดยมีสมเจตน์ถ่ายทำวิดีโอไว้ตั้งแต่เรียวขาทั้งสองข้าง ขึ้นเกล็ดกลายเป็นหางเงือกไว้อย่างชัดเจนทุกขั้นตอน ชลนทีทั้งช๊อค เสียใจ ผิดหวัง และโกรธมีนานุชที่ไม่ยอมบอกจริง และเมื่อธารากับอุทกรายงาน ดร.นาวิน น้าหมึก รปภ. จึงจับตัวมีนานุชไป

มีนานุชถูกจับไปแช่ในอ่างน้ำ พร้อมกับล่ามโซ่ล็อกอย่างแน่นหนา ในห้องแล็บโดยมีน้าหมึก ดร.นาวิน ศ.ดร.ธารา อุทก และมัสยาเฝ้าอยู่ไม่ห่าง มัสยาได้ยินว่า ดร.นาวินจะนำมีนานุชไปขายต่อให้นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา ในราคามหาศาลถึง 30 ล้านเหรียญโดยไม่คำนึงถึงว่านางเงือกน้อยจะโดนกักขังทำวิจัยไปชั่วชีวิต ชลนที่เห็นสภาพของมีนานุชจึงรู้สึกสงสารจับใจ โทษว่าเป็นความผิดตนที่ไม่ปกป้องมีนานุช ชลนทีจึงชวน กุ้งเผา ปูม้า เจ๊กั้ง และ นีโม่ ช่วยกันวางแผนให้ชลนทีกับมีนานุชหนีไปด้วยกัน บุรินทร์รู้เรื่องเลยแอบไปฟ้อง ดร.นาวิน สุดท้ายจึงต้องสลับเอามัสยาในร่างนางเงือกมาอยู่ในอ่างน้ำแทน ทำเอา ศ.ดร.ธาราถึงกับช็อคที่คนอยู่ข้าง ๆ ตัวเองมาตลอดก็เป็นนางเงือก ธารารู้ว่า ดร.นาวินจะขายร่างของนางเงือกให้กับต่างชาติเพื่อเงินมหาศาล ไม่ใช่เพื่อความก้าวหน้าของวงการวิทยาศาสตร์ทางทะเลของคนไทย ก็รับไม่ได้ จึงเปลี่ยนใจช่วยมัสยาและหนีไปด้วยกัน

ทีมวิจัยของอเมริกาที่ต้องการซื้อนางเงือกไปศึกษาวิจัยได้ส่ง แฟรงค์ เดอะ คิลเลอร์ ฝรั่งมือปืนล่าปลาฉลามมาช่วยตามล่า ชลนที มีนานุช กุ้งเผา ปูม้า ธารา และมัสยา ต่างหนีตามกันไป พวกเค้าเกือบโดนจับได้แต่กุ้งเผากับปูม้าปลอมเป็นนางเงือก ทำให้ทีมตามล่าสับสนจนตามจับผิดตัว ชลนทีกับมีนานุชหนีไปอาศัยนอนในวัด ทั้งสองเริ่มยอมรับว่าความรักครั้งนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะการอยู่บนโลกมนุษย์อันตรายเกินไปสำหรับมีนานุช

ชลนทีกับมีนานุชถูกตามล่าไปจนมุมที่ริมทะเล แต่ชลนทียืนกางแขนขวางไว้จนโดนยิงเข้าที่แขน มีนานุชรีบหนีลงน้ำแต่แฟรงค์ก็โดดตามไป ขณะที่แฟรงค์เล่งยิงมีนานุช มัสยาในร่างนางเงือกก็ฉุดร่างของแฟรงค์ดำดิ่งจมลงน้ำจนหมดสติ บุรินทร์ในชุดประดาน้ำคว้าฉมวกโดดตามลงไป แต่ก็เจอมีนานุชบีบสายออกซิเจนจนหายใจไม่ออก ก่อนที่มีนานุชกับมัสยาจะนำร่างของทั้งสองขึ้นมาบนฝั่งให้ ดร.นาวิน กับสมเจตน์ช่วยกันปฐมพยาบาลจนฟื้นคืนสติ ทำเอาทุกคนยอมรับนับถือน้ำใจของนางเงือกทั้งสอง แต่สมเจตน์บอกว่าตนได้โทรตามทั้งทหารเรือ และตำรวจน้ำมาที่นี่ ชลนทีเห็นว่าไม่มีเวลาแล้ว จึงรีบขอร้องให้มีนานุชไปซะ ทั้งสองร้องไห้ร่ำลากันด้วยความเจ็บปวด เป็นที่ซาบซึ้งแก่ทุกคน ส่วนธารากับมัสยาก็ร่ำลากันด้วยความผูกพัน มัสยาฝากให้ธารากระตุ้นให้มนุษย์โลก รักและดูแลสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะไม่มีสิ่งแวดล้อมให้ดูแล

หนึ่งปีต่อมา กุ้งเผากับปูม้า กลายเป็นแฟนกันไป ชลนทียังไม่ยอมคบใคร แม้วิฬาร์จะยังพยายามทำดีด้วย ชลนทีมานั่งเหงา ๆ บนสะพานปลาที่ยื่นไปในทะเล เขาเห็นหางปลาคล้ายนางเงือกตีผิวน้ำขึ้นมา แต่พอเพ่งมองก็หาไม่เจอ เปรยว่าคงตาฝาดไปเอง เพราะยังคิดถึงมีนานุชอยู่ แต่พอหันมาอีกที ก็เห็นขาของคน ๆ หนึ่งมายืนอยู่ข้าง ๆ และร่างนั้นก็ค่อย ๆ นั่งลงเคียงข้างชลนที…ซึ่งก็คือ นางเงือกมีนานุช นั่นเอง…. เรื่องราวความรัก ข้ามน้ำ ข้ามสมุทรของเค้าและเธอจะลงเอยอย่างไร…. ความรักเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าคุณเชื่อและศรัทธาในความรัก…. ติดตามชม ละครรักนี้หัวใจมีครีบ

ผู้กำกับ : บัณฑิต ทองดี
ผลิตโดย : บริษัท เมคเกอร์ เค จำกัด
เขียนบท : ทองเอก

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร รักนี้หัวใจมีครีบ

ฐากูร การทิพย์   แสดงเป็น   ชลนที
ลักษณ์นารา เปี้ยทา   แสดงเป็น   มีนานุช
จักรพันธ์ จันโอ   แสดงเป็น   กุ้งเผา
ฮารุ ยามากูชิ   แสดงเป็น   ปูม้า
โชคชัย บุญวรเมธี   แสดงเป็น   บุรินทร์
เจสสิกา ภาสะพันธุ์   แสดงเป็น   วิฬาร์
วิชุดา พินดั้ม   แสดงเป็น   มัสยา
เกริก ชิลเลอร์   แสดงเป็น   ธารา
ราตรี วิทวัส   แสดงเป็น   เจ๊กั้ง
วาศิตา แฮเมเนา   แสดงเป็น   นีโม่
สันติสุข พรหมศิริ   แสดงเป็น   ดร.นาวิน
โป้งเหน่ง เชิญยิ้ม   แสดงเป็น   น้าหมึก
สุรินทร คารวุตน์   แสดงเป็น   อุทก
ดีใจ ดีดีดี   แสดงเป็น   อาจารย์เต่า
หทัยชนก กองคำ   แสดงเป็น   ไข่มุก
รักนี้หัวใจมีครีบ

เพลงรักริมขอบฟ้า

นีรา (ณปภา ตันตระกูล) นักร้องซูปเปอร์สตาร์ของค่ายเพลินเรคครอร์ด ขึ้นโชว์คอนเสิร์ต โดยมี กิดาการ (พรชิตา ณ สงขลา) ลูกพี่ลูกน้องของนีราได้มาชมคอนเสิร์ตพร้อมกับ ญาณี แม่ของนีรา โดยหารู้ไม่ว่าหลังเวทีนั้นนีราถูกนักข่าวตามสัมภาษณ์เรื่องข่าวฉาวว่าเธอ ท้อง หลังจากคอนเสิร์ตมีการเปิดแถลงข่าว นีราประกาศว่ากำลังจะแต่งงานกับ เบน (วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกของ ชารร์ล็อต เมียคนสุดท้ายของ บัณทิต ผู้ก่อตั้งเพลินเรคคอร์ด เจ้าของค่ายที่นีราสังกัดอยู่ ซึ่งเบน เป็นน้องชายต่างมารดาของ บรม (มนตรี เจนอักษร) ซึ่งเป็นลูกเมียหลวงคือ เพลิน นีราถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์โดยมี อัญชลี (เบญจศิริ วัฒนา) ผู้จัดการของบริษัทดูแลอยู่ นักข่าวถามว่าท้องก่อนแต่งหรือเปล่า แต่นีราปฎิเสธ เบนเดินออกมาด้านนอกโดยมีกิดาการดักรอถามว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ เบนย้อนไปว่าแต่งทำไม ทำให้กิดาการเกลียดขี้หน้าของเบนขึ้นมาทันที เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบลูกของในท้องของนีรา ทั้งคู่เถียงกันจน บรรณ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนะกุล)บรรณาธิการนิตยสารบันเทิง บุริม (พิษณุ นิ่มสกุล)โปรดิวเซอร์รุ่นเก๋า และ บัวบุษบา (อภิสรา ฉวีวงษ์) ครูสอนร้องเพลงทั้งสามคนเป็นลูกของ ทิพย์ เมียคนที่สองของบัณฑิต ต้องเข้ามาห้ามโดยมี แจ็ด(ปณิตา พัฒนาหิรัญ) พีอาร์สาวสวยที่แอบหลงรักเบนคาบข่าวไปบอกนักข่าว บรมถือว่าตัวเองเป็นลูกเมียหลวงและเป็นพี่ชายคนโต จึงมักข่มขู่น้องคนอื่นๆให้อยู่ใต้อาณัติเสมอ และเขายังเป็นผู้กุมบังเหียนเพลินเรคคอร์ดอีกด้วย

บรมบังคับเบนพานีรามาอยู่ที่บ้านเพื่อกลบข่าวฉาวระหว่าง นีรากับ ดวงฤทธิ์ (โชคชัย บุญวรเมธี)หรือ ด้วง นักร้องค่ายคู่แข่ง นีราขอร้องให้กิดาการไปอยู่กับเธอด้วย หลังจากนั้นญาณีก็ไปอเมริกาทันที ขณะที่นีราย้ายเข้ามาในบ้านของเบน เขาเองก็หลบหนีการที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับนีราโดยการไปต่างประเทศ ทำให้กิดาการมีอคติกับเขามากขึ้น และเธอยังต้องคอยรับมือกับนักข่าวรวมทั้งจัดระเบียบเพื่อเตรียมความพร้อมการ เป็นแม่ให้นีรา ซึ่งเธอไม่สนใจและยังสนุกกับการรับมือนักข่าวเพื่อเพิ่มความดังให้ตัวเอง

บัวมาเตือนนีราว่าบรมเจ้าเล่ห์และให้เธอกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง แต่นีราไม่ฟัง บี (ฐากูร การทิพย์) ลูกชายคนเดียวของบรมกลับมาจากเมืองนอก และกำลังจะได้ออกอัลบั้ม บรมระดมนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์มือดีมาดูแล ซึ่งบุริมก็ได้รับมอบหมายให้เป็นโปรดิวเซอร์ แต่ด้วยความเอาแต่ใจของบี ทำให้บุริมต้องหนักใจ เบนกลับมาก็เจอนีรายังไม่ออกจากบ้าน คราวนี้เบนไล่นีรา อย่างโมโห กิดาการต่อว่าเบนไม่สนใจใยดีนีราเลย เบนเลยพูดว่าไม่รู้อะไรอย่ามาพูด นีรารู้สึกเบื่อเลยนัดเจอ จอย (จีรนันท์ ปรีดากุล) และ โอม (สุดที่รัก บำรุงญาติ) เพื่อนของเธอไปเที่ยวกลางคืน นีราดื่มจนเมามายโดยไม่สนใจลูกในท้องของเธอจนไปพบด้วง ซึ่งจอยและโอมนัดมาเหมือนกัน พอดีนักข่าวเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จึงตามทั้งคู่ไปถ่ายรูปแต่นีรากับด้วงหนีไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ บรรยากาศเป็นใจทั้งคู่จูบกัน โดยที่ด้วงแอบถ่ายคลิปไว้ด้วย กิดาการออกตามหานีราจึงรู้ว่านีราอยู่ที่ผับ เธอตามหานีราจนเจอแล้วพากลับบ้าน วันต่อมานีราแอบหนีไปหาด้วงที่คอนโด ทั้งคู่เกือบจะมีสัมพันธ์กันแต่นีรายับยั้งทัน ด้วงเลยรู้ว่านีรากำลังท้อง นีราเลยบอกกับด้วงว่าเขาไม่ได้รักเบน แถมท้าให้ด้วงพิสูจน์โดยใช้มือถือถ่ายรูปที่หอมแก้มกันเก็บไว้ นีราตามเบนออกไปทำงานในขณะเดียวกันบีก็มาหาเบนเพื่อให้ช่วยวิจารณ์เพลง เบนก็ถามว่าบีเป็นพ่อของเด็กในท้องของนีราหรือเปล่า บีไม่ยอมรับ เพราะนีรานอนกับคนทั่ววงการแล้ว และบียังบอกว่าพ่อของเขาทำเกินเหตุที่ให้เบนมารับผิดชอบแค่ให้นีราไปทำแท้ง ก็พอแล้ว ทำให้เบนผิดหวังในตัวของบีมาก นีราแสดงความเป็นเจ้าของเบนทำให้แจ็ดไม่พอใจทั้งคู่จึงทะเลาะตบตีกัน เบนทนไม่ไหวจึงบอกกิดาการให้พานีราออกจากบ้านไป ซึ่งนีราทำอย่างนั้นจริงๆ ทั้งคู่จึงต้องช่วยกันตามหาแต่นีรายื่นเงื่อนไขว่าเบนต้องไม่รังเกียจเธออีก เพราะต้องการให้สื่อเห็นว่าทั้งคู่รักกันจริง เบนทำตามแต่กิดาการกลับรู้สึกเจ็บปวดแต่ก็หักห้ามความรู้สึกนั้น

แจ็คให้ข่าวว่านีราตบเธอ จนเป็นข่าวหน้าหนึ่ง อัญชลีออกมาแก้ข่าวให้ ด้วงเอาคลิปมาโชว์ เฮียเชษฐ์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงอาละดินคู่แข่งของเพลินเรคคอร์ด เฮียเชษฐ์จึงสั่งให้คนไปปล่อยคลิปเพื่อทำลายชื่อเสียงของนีรา กิดาการกลับต่อว่าเบนที่ไม่สนใจปล่อยให้นีราเหงาจนต้องไปคบด้วง ทั้งสองเถียงกัน จนเบนโมโหจูบกิดาการ เธอตบหน้าเบนและด่าเขาว่าเป็นพวกฉวยโอกาส เบนตามง้อกิดาการว่าถึงอย่างไรเขาจะไม่มีทางแต่งงานกับนีรา เพราะเขาไม่ใช่พ่อของเด็กในท้องจริงๆ ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันจนความสัมพันธ์ดีขึ้น เบนขอให้กิดาการกลับเข้ามาอยู่ในบ้านอีกครั้งเพื่อดูแลนีรา กิดาการตอบตกลงเพราะอีกใจก็เป็นห่วงนีราเหมือนกัน นีรากลัวเธอจะเสียเปรียบเพราะถ้าคลอดเด็กออกมาเธอก็จะเรียกร้องสิ่งต่างๆยาก บรมไปปรึกษาอัญชลี สารภาพว่าเด็กในท้องของนีราเป็นลูกของบี เขาเป็นห่วงอนาคตของลูกที่กำลังจะออกอัลบั้ม ส่วนอัญชลีปล่อยข่าวว่านีราท้องกับด้วงแล้วไปทำแท้ง เฮียเชษฐ์จัดแถลงข่าวให้ ด้วงบอกว่าเป็นแค่เพื่อน ขณะเดียวกันบัวก็พบหลักฐานว่าอัญชลีเป็นคนปล่อยคลิปหลุด จึงบอกนีราว่าเป็นฝีมือของบรมแน่ นีราจึงเข้าไปพบบรมเพื่อยื่นไม้ตาย เอาคลิปวีดีโอที่บีกำลังเสพยาและขายยาในโรงเรียนสอนร้องเพลง บรมเป็นห่วงอนาคตของลูกชายแล้วจึงยอม บีเองก็ตามหานีราเพื่อจะถามว่าใครถ่ายคลิป นีราตระหนักว่าทุกอย่างจวนตัวแล้ว จึงบอกว่าบัวเป็นคนถ่ายคลิปแลกกับการจดทะเบียนกับเธออย่างลับๆบีจำใจยอม แต่นีราก็ยังใส่ร้ายกิดาการว่าเป็นคนช่วยวางแผนที่กิดาการรักกับเบนเพื่อบีบ บรมตามแผนของบัว เบนไม่ต้องการจดทะเบียนกับนีรา บรมจึงบอกความจริงว่า นีราต้องการหุ้นจากเพลินเรคคอร์ด ทำให้เบนตะลึงที่ได้รับรู้เรื่องจริงและยังต่อว่านีราที่ใส่ร้ายกิดาการ ทำให้กิดาการเสียใจมาก บีอาละวาดตามขู่จะฆ่าบัวถ้าไม่เอาคลิปมาให้เขาทำลาย บัวสารภาพว่าที่ถ่ายคลิปเพราะว่าแค้นที่บรมข่มขืนเธอ ทำให้ทุกคนตะลึงกับความจริง บีต่อว่าบรมทำให้บัวรู้ว่าเวรกรรมตามมาทันบรมแล้ว ในขณะที่บุริมจะขอยอมรับเป็นพ่อเด็กให้นีราแต่เธอไม่ยอมแถมยังพูดดูถูกบุริม จนมีเรื่องกัน กิดาการและเบนมาห้ามทันและพานีราไปโรงพยาบาลเพราะเธอปวดท้องคลอด บรมกลับมาบริษัทเพ่อให้อัญชลีแก้ข่าวแต่เขาพบจดหมายลาออกของเธอแทน

กิดาการ คอยดูแลจนนีราคลอดลูกชาย บีก็ได้เปิดคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แต่เขาแสดงได้สักพักตำรวจก็บุก มาจับหลังเวที เพราะได้คลิปของบีที่เสพยาเสพติดซึ่งคนปล่อยก็คืออัญชลีที่ลาออกไปเป็นผู้ จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอาละดินค่ายเทปคู่แข่ง บีถูกส่งไปโรงเรียนดัดสันดานเป็นเวลาสองปี บรมเองสำนึกที่ตัวเองทำผิดจึงแบ่งหุ้นให้พี่น้องเท่าๆกันแล้วประกาศลาออกจาก ประธานกรรมการ แล้วยกตำแหน่งให้เบนนังแท่นบริหารแทนโดยมีบรรณกับบุริมช่วยดูแล ส่วนบัวดึงกิดาการมาช่วยบริหารโรงเรียนสอนร้องเพลง นีราทนไม่ได้กับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป คือเอาลูกมาเป็นเครื่องต่อรอง อีกทั้งข่าวเสียหายของเธอทำให้ประชาชนรับไม่ได้ จึงอำลาวงการไปอยู่อเมริกากับแม่ของเธอ แต่ก่อนไปนีราพาลูกไปเยี่ยมบีซึ่งเขาเองก็สำนึกผิด นีราก็พร้อมที่จะให้โอกาสเขา เบนขอกิดาการแต่งงาน กิดาการตอบตกลง หลังจากที่บีออกจากโรงเรียนคัดสันดาน เขาก็บินไปหานีรากับลูก และแต่งงานกับเธอเงียบๆที่นั่น โดยมีเบนและกิดาการพาลูกของตนไปร่วมยินดีกับทั้งสองด้วย

รายชื่อนักแสดงละคร เพลงรักริมขอบฟ้า

1.วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท เบน
2.พรชิตา ณ สงขลา รับบท กิดาการ
3.ณปภา ตันตระกูล รับบท นีรา
4.ฐากูร การทิพย์ รับบท บี
5.มนตรี เจนอักษร รับบท บรม
6.โชคชัย บุญวรเมธี รับบท ด้วง
7.เบญจศิริ วัฒนา รับบท อัญชลี
8.อภินันท์ ประเสริฐวัฒนะกุล รับบท บรรณ
9.พิษณุ นิ่มสกุล รับบท บุริม
10.อภิสรา ฉวีวงษ์ รับบท บัวบุษบา
11.ปณิตา พัฒนหิรัญ รับบท แจ็ค
12.จีรนันท์ ปรีดากลุ รับบท จอย
13.สุดที่รัก บำรุงญาติ รับบท โอม
14.ชลลกา ฮวดกระโทก รับบท นิล
15.โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบท เชษฐ์

พันท้ายนรสิงห์

พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือในสมัยพระเจ้าเสือ หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พ.ศ. 2246 – 2251) วันหนึ่งพระเจ้าเสือได้เสด็จประพาสต้นด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัย มาตามคลองโคกขาม โดยมีพันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือ คลองนี้คดเคี้ยวและน้ำเชี่ยวมากไม่สามารถบังคับทิศทางเรือได้ ทำให้หัวเรือชนเข้ากับต้นไม้จนหัวเรือหัก พันท้ายนรสิงห์จึงขอให้พระเจ้าเสือประหารตน

พระเจ้าเสือจึงให้ประหารตัดศีรษะพันท้ายนรสิงห์ แล้วจัดทำศาลขึ้นพลีกรรมพร้อมทั้งหัวเรือ ซึ่งเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล แต่ตามเกร็ดเล่าว่า พันท้ายนรสิงห์ทราบว่าจะมีพวกกบฏมาดักทำร้ายพระเจ้าเสือ เลยจำเป็นต้องทำให้หัวเรือหักเพื่อมิให้ไปถึงจุดที่กบฏวางแผนเอาไว้ โดยยอมให้ตนเองถูกประหารเพราะเป็นกฎมณเฑียรบาลที่ทำหัวเรือพระที่นั่งหักจะ ต้องถูกประหาร เมื่อพระเจ้าเสือทรงทราบจึงได้ให้บันทึกไว้ในพงศาวดาร และให้ตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ถ้าเรื่องตามละครพระเจ้าเสือไม่ยอมประหารแต่ให้ปั้นรูปปั้นแล้วทำการตัดหัว รูปปั้นแทน แต่พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอมเพราะจะเป็นการขัดมณเฑียรบาลจึงขอให้ประหาร มิให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ก่อนที่จะประหารพันท้ายนรสิงห์ซึ่งบ้านน่าจะอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นได้กลับบ้านไปล่ำลาภรรยา และพันท้ายนรสิงห์จึงถูกประหารในวันเดียวกัน

ภายหลังพระเจ้าเสือได้ทรงให้พระยาราชสงคราม คุมไพร่พลจำนวน 3000 คน ทำการขุดคลองลัดคลองโคกขามที่คดเคี้ยว ไปออกที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน กว้าง 5 วา ลึก 6 ศอก สร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ พ.ศ. 2252 ได้พระราชทานนามคลองนี้ว่าคลองสนามไชย ต่อมาเรียกเป็นคลองมหาชัย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองมหาชัย แต่ชาวบ้านเรียกว่าคลองถ่าน