Category Archives: ละครปี 2551

ดินเนื้อทอง

มุกหอม แม่ค้าส้มตำฝีมือเลื่องลือในมุกดาหาร โตมาได้เพราะแม่ค้าส้มตำอย่าง ยายแค เก็บมาเลี้ยง มุกหอมเข้ากรุงเทพฯ วันแรกก็เจอกับ สงกรานต์ หนุ่มครีเอทีฟ ในงานเลี้ยงฉลอง 5 ปีของบริษัทโฆษณาคิซซี่ คิซซี่ ของสาวใหญ่ แนนนี่ มุกหอมได้เดินแบบด้วยความเข้าใจผิดของสาวออฟฟิศจอมอิจฉาอย่าง วีณา

ท่าม กลางบรรยากาศสนุกสนาน มีคลื่นใต้น้ำแย่งชิงตำแหน่งระหว่าง สงกรานต์กับ ทวงเทพ ขณะที่มุกหอมต้องปะทะกับแม่ค้าส้มตำเจ้าข้างๆ อย่าง คำปลิว และ มะเดื่อ ศึกไหนจะหนักเท่าศึกหัวใจเมื่อ ตวงใจ ต้องการแต่งงานกับแฟนหนุ่มอย่างสงกรานต์ แต่สงกรานต์ไม่อยากได้ชื่อว่าอาศัยความรวยของแฟนที่เป็นลูกสาวเจ้าของตึกคือ กรณ์ และ หยาดพิรุณ เจ้าของตลาดสด สงกรานต์พบว่ามุกหอมคือแม่ค้าส้มตำหน้าตึกก็แสดงความรังเกียจ

มุกหอม น้อยใจแต่ไม่ยอมไปไหน เพราะอยากรู้ว่าหยาดพิรุณคือลูกสาวยายแค หรือแม่บังเกิดเกล้าของเธอหรือเปล่า ตวงใจเข้าใจว่ามุกหอมคิดจับสงกรานต์ ต่างจาก พีรพล นักเรียนนอกลูกชายของ พิชญะ เจ้าของโชว์รูมรถที่ซึ้งน้ำใจมุกหอมตั้งแต่แรก หยาดพิรุณมีความลับคับอก เพราะในสมัยสาวเคยมีความสัมพันธ์กับครูฝรั่งจนกระทั่งตั้งท้อง จึงไม่อยากพบกับยายแคและมุกหอมนัก เพราะรู้ว่ายายแครู้ความลับของตนบัวชมพู ฟอร์ด รับบท มุกหอม

แต่ มุกหอมก็ยังตั้งหน้าตั้งตาจะเข้าไปใกล้ชิดกับหยาดพิรุณ พร้อมกับความน้อยใจที่หยาดพิรุณแสดงท่าทางรังเกียจตนและยาย ในที่สุดมุกหอมก็ตัดสินใจยอมแต่งงานกับสงกรานต์ตัดหน้าตวงใจ เพราะต้องการเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดกับครอบครัวของหยาดพิรุณมากขึ้น เจียม แม่บ้านของหยาดพิรุณรู้เรื่องนี้ก็ระแวง พยายามกำจัดมุกหอมและยายแค เพราะความจริงแล้วเจียมรู้ว่ามุกหอมเป็นลูกแท้ๆ ของหยาดพิรุณที่ตนเอามาสับกับตวงใจลูกของตัวเอง

โดยได้รับความร่วม มือจาก เสก ลูกชายของยายแค เจียมหันไปร่วมกับ เล้ง, เฮียตู้ และ เจ๊สว่าง สามพ่อแม่ลูกเจ้าของอิทธิพลในตลาด ให้พยายามจัดการกับมุกหอม แต่ทุกครั้งมุกหอมก็เอาตัวรอดได้ทุกครั้งเพราะมีพีรพล, ใบคูณ และ ชมพู กลุ่มเพื่อนคู่หูมาช่วยไว้ได้ ในที่สุดเจียมก็ลงมือเอง จนกระทั่งฆ่ายายแคและเสกเป็นการปิดปากไว้ได้ แต่ก่อนตายเสกบอกให้หยาดพิรุณรู้ความจริงว่ายายแคเป็นแม่ที่แท้จริงของหยาด พิรุณ

แต่ยกหยาดพิรุณให้คุณหญิงซึ่งเป็นเจ้านายเอาไปเลี้ยงตั้งแต่แบ เบาะ หยาดพิรุณตกใจมากและเริ่มฉุกคิดถึงสิ่งที่มุกหอมพยายามจะบอกว่าตนเป็นลูก แท้ๆ จนกระทั่งแน่ใจมากขึ้นเมื่อหยาดพิรุณพบว่ากรุ๊ปเลือดของตวงใจไม่ตรงกับของ ตัวเอง ในที่สุดหยาดพิรุณก็เอากรุ๊ปเลือดของมุกหอมมาพิสูจน์ จนรู้ความจริงทั้งหมด จึงเรียกทนายมาแก้พินัยกรรม แต่เจียมรู้เข่าจึงบุกมาฆ่าหยาดพิรุณ แต่สงกรานต์ช่วยเอาไว้

สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท พีรพลหยาด พิรุณรีบหนีไปหามุกหอมเพื่อขอโทษที่ไม่ยอมรับมุกหอมมาตลอด แต่กลับถูกเล้งดักยิงตายในอ้อมกอดของมุกหอมนั่นเอง ตวงใจแค้นมากที่มุกหอมกลายมาเป็นลูกอีกคนของหยาดพิรุณ จึงไม่ยอมรับและหาทางกลั่นแกล้งครอบครัวของสงกรานต์ที่ยอมรับมุกหอมเป็น สะใภ้ และทวงหนี้ที่ครอบครัวของสงกรานต์ติดไว้ มุกหอมพยายามจะช่วยเหลือ แต่สงกรานต์ไม่ยอมรับเพราะหึงหวงที่มุกหอมให้ความสนิทสนมกับพีรพลมากเกินไป

ใน ที่สุดมุกหอมก็น้อยใจย้ายบ้านออกมา ราชา กับ ทิพยงค์ รีบไล่ให้สงกรานต์ไปง้อมุกหอม เจียมที่หนีหัวซุกหัวซุนไป กลับมาหาตวงใจที่บ้านและพยายามจะจับตวงใจไปอยู่กับตน ตวงใจจึงแกล้งให้เจียมโทรตามมุกหอมมาช่วยแล้วดัดหลังทำร้าย แต่สงกรานต์กับพีรพลเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน จนเกิดอุบัติเหตุให้ตวงใจกับพีรพลตกลงไปจากตึกด้วยกัน แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไร เพราะใบคูณกับชมพูพาตำรวจมากางผ้าใบรอไว้

เจียม เห็นลูกเกือบตายเพราะตน จึงเริ่มสำนึกความผิดที่เคยทำไว้ และยอมมอบตัวกับตำรวจ ในขณะที่ตวงใจก็ซึ้งน้ำใจของมุกหอมที่หวังดีกับตน ทั้งสองจึงปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด มุกหอมจึงกลับมาบริหารตลาดด้วยตัวเอง และปรับปรุงตลาดให้มีมาตรฐานขึ้นมาอีกครั้ง ในวันงานเฮียตู้และเล้งซึ่งรับจ้างมาเฟียมาฆ่ามุกหอม เพราะต้องการจะขายตลาด บุกเข้ามาจะยิงมุกหอม แต่สงกรานต์ไปช่วยไว้ได้ ทำให้มุกหอมเริ่มยอมรับว่าคนที่มีความรักให้เธอเสมอมา และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปก็คือสงกรานต์คนนี้นี่เอง

รายชื่อนักแสดงละคร ดินเนื้อทอง

ธนา สุทธิกมล รับบท สงกรานต์
บัวชมพู ฟอร์ด รับบท มุกหอม
สุพจน์ จันทร์เจริญ รับบท พีรพล
เจนสุดา ปานโต รับบท ตวงใจ
วรฤทธิ์ เสาวรส รับบท ชมพู
ณัฏฐนันท์ เกียรติรดาฐนิต รับบท ใบคูณ
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท หยาดพิรุณ
ชุดาภา จันทรเขตต์ รับบท เจียม
เมทนี บุรณศิริ รับบท พิชญะ

ดาวเปื้อนดิน

ก้องภพเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่แต่ง งานแล้วกับนวลลออมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อเอื้อมดาวซึ่งเพิ่งเรียนจบวิศวกรและ เข้ามาทำหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างโรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดจันทบุรีโดยมีอา รัณหรืออาร์ม แฟนหนุ่มลูกชายของท่านรัฐมนตรีสุทินกับคุณหญิงฤดีรับหน้าที่เป็นสถาปนิค ธัชพงษ์ ลูกชาย วินัย เพื่อนของก้องภพ แอบรักเอื้อมดาว แต่เมื่อธัชพงษ์รู้ว่าเอื้อมดาวคบกับอาร์ม ก็อกหักและไปเรียนต่อที่อเมริกา

พัชระ คนงานคู่ใจของก้องภพพลั้งมือฆ่าเจ้าหนี้ตาย จึงพาภรรยาและลูก คือบงกชเกศและรินลดามาฝากให้ดูแล ก้องภพรับปากเพราะต้องการทดแทนบุญคุณที่พัชระเคยช่วยชีวิต บงกชเกศกับรินลดาเป็นคนทะเยอทะยานสองแม่ลูกวางแผนที่จะเข้ามาเป็นคุณนายของ บ้าน บงกชเกศทำทุกอย่างจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับก้องภพ และให้เบาะแสกับตำรวจจนพัชระสามีเก่าถูกจับติดคุกนานนับสิบปี

เอื้อมดาวกับนวลออเสียใจอย่างมากที่ถูกทรยศ แต่กลุ่มเพื่อนอันมี มุกดา จานีน และวีรเทพคอยให้กำลังใจ เอื้อมดาวบอกเรื่องความร้ายกาจของสองแม่ลูกให้อาร์มฟังแต่อาร์มไม่เชื่อ เพราะภายนอกรินลดากับบงกชเกศดูอ่อนหวาน และประการสำคัญรินลดาเล่าให้อาร์มฟังว่าแท้จริงแล้วก้องภพเป็นฝ่ายขืนใจบงกช เกศ

อาร์มกับเอื้อมดาวเริ่มมีปัญหากันโดยมีรินลดาเป็น ต้นเหตุ ประจวบเหมาะกับรัฐศาสตร์วิศวกรหนุ่มที่แอบหลงรักเอื้อมดาวมานานเข้ามาใกล้ ชิด ทำให้อาร์มหึงหวงเกิดผิดใจกับเอื้อมดาวอย่างรุนแรง เป็นจังหวะเดียวกับอาร์มถูกส่งตัวไปดูงานที่อเมริกา ทำให้อาร์มต้องห่างเหินจากเอื้อมดาวไปโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันได้ปรับความเข้าใจ กัน รินลดารู้เรื่องก็รีบขอก้องภพไปเรียนต่อที่อเมริกาเพื่อตามอาร์ม

ธัชพงษ์มีโอกาสกลับมาเยี่ยมเมืองไทยและได้เจอกับ จานีน พนักงานธนาคารสาวสวย ธัชพงษ์ตามจีบจนจานีนใจอ่อนยอมรับรักแต่มีสัญญาว่าธัชพงษ์ต้องเลิกเจ้าชู้ อย่างเด็ดขาดเพราะพ่อของจานีนเจ้าชู้มากจนแม่ตรอมใจตาย ธัชพงษ์รับปาก ก่อนที่จะกลับอเมริกาไปเรียนต่อ

ที่อเมริการินลดาพยายามทำตัวใกล้ชิดกับอาร์มเพื่อ หวังเอาชนะใจ แต่อาร์มยังคงเฉยชาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจรินลดาแต่อย่างใด รินลดาโกรธมากแกล้งส่งข่าวบอกเอื้อมดาวว่าขณะนี้คบกันอยู่กับอาร์ม เอื้อมดาวเสียใจมากคิดว่าอาร์มเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นวลลออกับเอื้อมดาวผิดหวังในตัวก้องภพมาก เมื่อรัฐศาสตร์ขอแต่งงาน เอื้อมดาวจึงตกลงเพราะต้องการพานวลลออออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และที่สำคัญ เอื้อมดาวอยากจะลบความเจ็บปวดใจจากอาร์ม

มุกดา ,จานีน, วีรเทพ บอกให้เอื้อมดาวคิดให้ดี อย่าตัดสินใจเพียงเพราะต้องการประชด เอื้อมดาวบอกไม่ได้ประชดเพราะในขณะนี้อาร์มคบกับรินลดาอยู่ อาร์มรู้ข่าวจากรินลดาว่าเอื้อมดาวมีคนรักใหม่ก็เสียใจมาก ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของรินลดานั่นคืออาร์มกับเอื้อมดาวตัดขาดกัน

อาร์มเปลี่ยนไปเป็นผู้ชายที่เย็นชา ด้วยความเหงา รินลดาแอบมีความสัมพันธ์กับ ธัชพงษ์ ที่บังเอิญเจอกันในผับ แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้น ธัชพงษ์เกิดความละอายใจรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ผิดสัญญากับจานีน

เมื่อดูงานเสร็จอาร์มก็กลับเมืองไทย รินลดารีบตามกลับไปด้วยทั้งที่ยังเรียนไม่จบอารมณ์ประชดที่รู้ว่าเอื้อมดาว กำลังจะแต่งงานกับรัฐศาสตร์ทำให้อาร์มยอมที่จะคบกับรินลดา เอื้อมดาวสุดแสนที่จะช้ำใจ เมื่อรัฐศาสตร์เห็นรินลดาครั้งแรกก็ตะลึงเพราะรินลดาสวยมาก รินลดารู้เข้าก็ใช้มารยาสารพัดยั่วยวนจนรัฐศาสตร์ลุ่มหลงจนถึงขนาดล้มเลิก งานแต่งงาน เอื้อมดาวโกรธมากจึงบอกกับตัวเองว่าจะต้องแย่งอาร์มกลับมาเป็นการตอบแทน

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธัชพงษ์กลับมาเมืองไทย ธัชพงษ์ตกใจมากเมื่อรู้ว่าจานีนเป็นเพื่อนสนิทของเอื้อมดาว ในขณะที่จานีนก็คิดมากเพราะรู้ว่าธัชพงษ์ยังไม่ลืมเอื้อมดาวด้วยความน้อยใจ จานีนจึงทำห่างเหินจากธัชพงษ์ ด้วยความเป็นห่วงเอื้อมดาว ธัชพงษ์จึงบอกอาร์มเรื่องที่เคยมีความสัมพันธ์กับรินลดา เมื่ออาร์มรู้ความจริงจึงกลับมาขอคืนดีกับเอื้อมดาว ทั้งคู่กลับมาคบกันอีกครั้ง

แต่จานีนกับธัชพงษ์กลับแตกหัก เพราะจานีนรับไม่ได้ที่ธัชพงษ์ผิดคำสัญญา ด้วยใจรักจริง ธัชพงษ์ไม่ท้อพยายามทำทุกอย่างเพื่อขอคืนดีกับจานีน แต่จานีนไม่ยอมเพราะลึกๆยังค้างคาใจที่ว่า ธัชพงษ์รักเอื้อมดาวมากขนาดยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งยอมผิดใจกับเธอ ธัชพงษ์ละอายใจ เพราะแท้จริงแล้วธัชพงษ์ยังตัดใจจากเอื้อมดาวไม่ได้จริงๆ รัฐศาสตร์พารินลดาไปอยู่ที่สวนปาล์มทางภาคใต้

พัชระออกมาจากคุก แค้นมากที่รู้ว่าก้องภพกับบงกชเกศทรยศจึงบุกไปยิง บงกชเกศหลบทัน แต่ก้องภพเจอที่สำคัญบาดเจ็บสาหัสจนเป็นอัมพาต บงกชเกศจึงหนีไปอยู่กับท่านนายพลสมมาตร เอื้อมดาวกับอาร์มตกลงที่จะแต่งงานกัน

รินลดารู้ข่าวว่าอาร์มจะแต่งงานกับเอื้อมดาวก็ โกรธจัดบุกเข้ามาในงานแต่งแล้วประกาศว่าเอื้อมดาวแย่งสามีของตัวเอง เอื้อมดาวพลั้งปากโต้ตอบว่ามันก็สาสมแล้วที่รินลดาแย่งรัฐศาสตร์ไป อาร์มได้ยินเสียใจมาก จึงล้มเลิกงานแต่งงานและบอกว่าจะกลับไปคบกับรินลดา แต่รัฐศาสตร์ที่ตามมาไม่ยอมพยายามลากรินลดาออกจากงาน ที่สุดรินลดาก็ผลักรัฐศาสตร์จนหัวกระแทกเสาหมดสติกลายเป็นเจ้าชายนิทรา พ่อแม่ของรัฐศาสตร์จะเอาเรื่องรินลดาให้ถึงที่สุด รินลดารีบหนีไปหาบงกชเกศ ขอให้นายพลสมมาตรช่วย ท่านนายพลตกลงแต่มีข้อแม้ว่ารินลดาต้องเป็นเมียของท่าน

รินลดาโกรธที่ธัชพงษ์เอาความสัมพันธ์ในอดีตไปบอก อาร์ม จึงขับรถพุ่งเข้าชนจนธัชพงษ์บาดเจ็บสาหัส เมื่อจานีนรู้เรื่องก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ด้วยความรักทำให้จานีนยอมที่จะลดทิฐิหันมาปรับความเข้าใจกับธัชพงษ์ ที่สุดทั้งสองคนก็ตกลงที่จะแต่งงานกัน ท่ามกลางความยินดีของเอื้อมดาวและกลุ่มเพื่อน

คุณสนธยากับคุณปราณี พ่อแม่ของรัฐศาสตร์ขอให้เอื้อมดาวไปดูแล ราวกับปาฏิหาริย์ไม่นานรัฐศาสตร์ก็ฟื้นขึ้นมารินลดารู้ข่าวรีบกลับไปหารัฐ ศาสตร์หวังจะฟื้นความสัมพันธ์เพราะไม่อยากเป็นเมียนายพลแก่ ด้วยรักรินลดาอย่างมากรัฐศาสตร์ตกลง แต่คุณสนธยากับคุณปราณีไม่ยอม รินลดาโกรธมากจึงแอบผลักคุณปราณีจนตกบันไดกลายเป็นอัมพาต และขอให้ท่านนายพลช่วยกำจัดเอื้อมดาวแต่ท่านนายพลปฏิเสธ

พัชระที่ดักซุ่มดูอยู่เมื่อเห็นบงกชเกศมาหาก้องภพ ก็ได้โอกาสอีกครั้ง พัชระดักฆ่าบงกชเกศจนตาย ส่วนก้องภพสลบหมดสติ บังเอิญคืนนั้นรัฐศาสตร์เป็นคนพบเหตุการณ์เขาจำได้แม่นว่าใครเป็นฆาตกรแต่ ไม่รู้ว่าพัชระคือพ่อของรินลดา รินลดาเที่ยวกล่าวหาจนใครๆเชื่อว่าครอบครัวของเอื้อมดาวฆ่าบงกชเกศ

เอื้อมดาวเอาตัวไปพัวพันกับท่านนายพลเพื่อแก้แค้น รินลดา เมื่อท่านนายพลหลงใหลเอื้อมดาวก็ขอให้ท่านนายพลไล่รินลดาออกจากบ้าน รินลดารู้เข้าก็แทบคลั่งไปร้องห่มร้องไห้กับอาร์ม อาร์มยิ่งเข้าใจว่าเอื้อมดาวว่าเป็นคนร้ายกาจ รัฐศาสตร์ต้องการที่จะช่วยครอบครัวของเอื้อมดาวให้หลุดพ้นจากมลทินจึงเข้า เป็นพยานว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ว่าใครฆ่าบงกชเกศ รินลดาโกรธมาก

ก้องภพตามหาพัชระจนเจอแล้วก้มลงกราบแทบเท้าขอโทษ ในเหตุการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมา และขอให้พัชระยอมมอบตัวรับเป็นคนฆ่าบงกชเกศเพื่อครอบครัวของเขาจะได้พ้นผิด รินลดาบอกว่างั้นขอแค่ชีวิตของก้องภพแล้วทุกอย่างก็จะจบสิ้น รินลดาโยนปืนให้ก้องภพ ก้องภพหยิบปืนมายิงตัวตายต่อหน้าพัชระ พัชระสลดใจกับการกระทำของก้องภพยอมเข้ามอบตัว

เอื้อมดาวเสียใจมากที่พ่อตาย บอกกับตัวเองว่าจะทำทุกอย่างให้รินลดาต้องตายทั้งเป็น เอื้อมดาวออกอุบายจนรินลดามาพบตามนัด รินลดาไม่ซื่อแอบไปบอกอาร์มจนอาร์มที่ตามมาเข้าช่วยรินลดาไว้ได้ทัน อาร์มด่าเอื้อมดาวอย่างรุนแรงว่าร้ายกาจใจร้ายใจดำ เอื้อมดาวโต้ตอบบอกอาร์ม สำหรับคนที่ทำให้พ่อของเธอต้องตาย แค่นี้มันยังน้อยไป และขอให้อาร์มจำไว้ไม่มีทางที่เธอจะปล่อยรินลดาไปเด็ดขาด

รินลดาแค้นจัดหาทางกำจัดเอื้อมดาว จึงขอให้ชาตรีลูกน้องคนสนิทของท่านนายพลช่วยโดยการเอาตัวเข้าแลก และยังสั่งให้ชาตรีฆ่าท่านนายพลแต่ชาตรีสำนึกผิดมาสารภาพกับเจ้านาย ท่านนายพลเห็นตัวตนที่แท้จริงของรินลดาที่คิดจะฆ่าแม้กระทั่งตัวท่าน ท่านนายพลช้ำหนัก ออกปากยกรินลดาให้ลูกน้อง ชาตรีจึงสั่งให้ลูกน้องจับตัวรินลดามารุมโทรมจนเสียสติ

อาร์มเองก็โกรธเข้าใจว่าทั้งหมดเป็นการกระทำของ เอื้อมดาว ด้วยทิฐิเอื้อมดาวแกล้งยอมรับ อาร์มโกรธมากจึงปล้ำเอื้อมดาว หลังจากนั้นก็บอกท่านสุทินว่าจะไปอยู่ต่างประเทศ ธัชพงษ์กับจานีนหาทางที่จะทำให้เอื้อมดาวคืนดีกับอาร์ม แต่เอื้อมดาวยังคงใจแข็ง ท่านนายพลรู้เรื่องจึงบอกท่านสุทินว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะการ กระทำของรินลดาและตอนนี้เธอก็ได้รับกรรมแล้ว

ท่านสุทินจึงมาพบกับเอื้อมดาวและให้สติ ถึงตัวท่านเองจะไม่ใช่คนที่ดีนักแต่ก็ไม่ใช่คนเลว รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว แต่คนที่บริสุทธิ์อย่างเอื้อมดาว ท่านอยากคิดให้ดี คุณค่าของคนอยู่ที่คุณความดี อย่าเป็นดวงดาวที่ต้องมาแปดเปื้อนดินเพราะความอาฆาตพยาบาท เพราะไม่อย่างนั้นความโกรธแค้นของเอื้อมดาวจะทำร้ายทุกคน และที่สำคัญมันจะทำร้ายเอื้อมดาวเอง เพราะทุกวันนี้เอื้อมดาวก็อยู่อย่างไม่มีความสุข

ท่านสุทินบอกอาร์มกำลังจะไปอยู่ต่างประเทศ พัชระกับนวลลออขอให้เอื้อมดาวยุติความแค้นแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่รัก เธอ กลับไปเป็นเอื้อมดาว ดวงดาวที่มีคุณค่าคนเดิม เอื้อมดาวลังเล รัฐศาสตร์จึงไปบอกความจริงทุกอย่างกับอาร์ม และก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป อาร์มก็กลับมาปรับความเข้าใจกับเอื้อมดาว ทั้งสองตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่และลืมเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆที่ผ่านมา

ดาวจรัสฟ้า

ดาวจรัสฟ้า  เป็นเรื่องราวของหมอลำสองคณะจะมาประชันกันระหว่างวงของ สาวน้อยเพชรบ้านแพง  และ วงหนูภารวิเศษศิลป์ ทั้งสองวงเป็นที่มีฝีมือการแสดงหมอลำได้ดีพอๆ กัน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อนายเคน ที่เป็นเจ้าของวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง   ล้มป่วย ถึงกับเส้นเลือดในสมองแตก เพราะ นายก้อง เจ้าของ วงหนูภารวิเศษศิลป์ ใช้วิธีสกปรก จ้างคนไปป่วน ทำให้คนดูแห่ไปดู วงหนูภารวิเศษศิลป์ กันหมด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้นายเคนล้มฟุบไป และเสียชีวิตในที่สุด  หลัง งานศพ ดาวคาดคั้นถาม ฟ้า พี่สาวว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อ  ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ฟ้า ผู้เป็นพี่สาวก็ไม่กล้าที่บอกให้น้องฟัง ดาวจึงตัดสินใจทำการสืบหาต้นตอว่าใครทำกับพ่อ หลังจากนั้น  ดาว จึงแอบไปสมัครเป็นนักร้องประจำวง หนูภารวิเศษศิลป์ ด้วยน้ำเสียงและหน้าตา ดาวได้รับเลือกเป็นนางเอกหมอลำคนใหม่ จึงทำให้พัชรี ลูกสาวของบุษบา ไม่พอใจจึงหาวิธีกลั่นแกล้งดาวให้ออกจากวง

แต่ดาวก็อดทนเป็นอย่างสูง โดยมีแหล ตัวตลกประจำวงที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ยิ่ง เธอถูกกลั่นแกล้งมากเท่าไหร่ พล ที่เป็นหัวหน้าวงก็ยิ่งเห็นใจ ทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ในช่วงเวลา 1 เดือน ที่ดาวได้มาอยู่ในวงหนูภารวิเศษศิลป์ เธอก็ซ้อมร้องเพลง และยังโชว์ลีลาการแสดงหมอลำที่อ่อนช้อยสวยงาม

หลัง จากการฝึกซ้อมจบลงก็จะเป็นการประชันเพลงหมอลำกันขึ้นระหว่างวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง และวงหนูภารวิเศษศิลป์ เกิดขึ้นระหว่างนั้น พล ก็ได้สารภาพบอกรัก ดาว เธอลำบากใจเป็นที่สุด เมื่อความรักของเธอ ต้องมาเกิดขึ้นกับความแค้น  แต่ดาวก็จากพลไป ไปพร้อมกับขึ้นแสดงโชว์ให้กับวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง  พร้อม กับการที่เหนือกว่าพลทุกอย่าง ทำให้คนดูแห่ไปดูวงสาวน้อยเพชรบ้านแพงกันจนหมด   พลบุกไปหา ดาวที่ข้างหลังเวทีด้วยความเสียใจ ฟ้า เดินออกมาหาดาว พลจึงรู้ว่า ดาวเป็นลูกสาวของนายเคนเจ้าของวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง ที่เสียชีวิตไปแล้ว  ณัฐแค้นดาวหนักขึ้น พยายามหาทางทำร้ายจิตใจฟ้า เพราะฟ้าเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ ซึ่งต่างจากดาวที่ไม่ยอมใคร

ดาว กลับไปคุมวง สาวน้อยเพชรบ้านแพง ที่มีฟ้าผู้เป็นพี่สาวคอยให้ความช่วยเหลือและเป็นนางเอกประจำวง  และยังมีนางพิม ผู้เป็นแม่คอยอยู่เบื้องหลัง ให้กำลังใจลูกสาวทั้งสองที่จะกอบกู้วงให้กลับมาเหมือนเดิม

และ ในช่วงนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น งานที่เจ้าภาพมัดจำไว้  ถูกยกเลิกไปเกือบหมด เนื่องจากวงหนูภารวิเศษศิลป์ ใช้วิธีสกปรก ด้วยการตัดราคาลดลง จึงทำให้คนที่จ้างยกเลิกเกือบหมด ดาวตัดสินใจบุกเข้าบ้านพักของพล ดาว และ พล  เผชิญหน้ากันทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรง  ดาวและพล ประกาศเป็นศัตรูกัน  แหล่ และ จ่อย ตัวตลกประจำวง หนูภารวิเศษศิลป์ ต่างเป็นไส้ศึกนำความเคลื่อนไหวของวงหมอลำของตัวเองมาเล่าให้กันฟัง ทั้งสองพยายามทำหน้าที่เป็นกาวใจ ให้ดาว และ พลกลับมาคืนดีกันแต่ก็ถูกกีดกันของฝีมือจากสองแม่ลูก ทัง พัชรี และ บุษบา  พยายามขัดขวางตลอดเวลา  และในที่ขณะที่สถาณการณ์สงบลงก็เกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง เมื่อฟ้า พบว่าตัวเองตั้งท้อง  นางพิมพา โกรธจัด ทุบตีลูก และไล่ออกจากบ้านด้วยความโกรธ ดาวตัดสินใจ จาก พล แม้รู้ว่าพลจะรู้อยู่แกใจว่าเขาไม่ใช่คนทำ ให้ฟ้าท้อง ขณะที่ฟ้ายอมรับสภาพเมียของผู้ชายที่ไม่ได้รัก และเธอก็ถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ แถมยังถูก ณัฐ พูดประชดประชันอยู่เสมอ

การประกวดหมอลำ ชิงถ้วยรางวัลประจำปี งานนี้ เป็นเป้าหมายขอลวงหมอลำทุกวง เพราะถ้าหมอลำวงไหนได้รางวัล นั่นหมายถึงเงิน และชื่อเสียง และวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง และ วงหนูภารวิเศษศิลป์ ต้องกลายเป็นคู่แข่งกันอีกครั้ง  พลและ ดาว ต่างก็ต้องการเป็นผู้ชนะ ทำให้ฟ้าตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต แต่เธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะกลับไปเป็นนางเอกคู่กับดาวที่วงสาวน้อยเพชรบ้าน แพง   แต่ในขณะที่วงสาวน้อยเพชรบ้านกำลังแสดงเป็นฉาก สุดท้ายนั่นเอง ร่างของดาวสุดฮวบลง เกิดเรื่องโกลาหล พลวิ่งขึ้นไปรับร่างของดาว ไว้ได้ทัน  ก่อนที่เธอจะล้มลงบนพื้นเวที  พลสารภาพรักดาว ทั้งน้ำตา  และในที่สุด วงหนูภารวิเศษศิลป์และวงสาวน้อยเพชรบ้านแพงยุบรวมกันเป็นหนึ่งกลายเป็นวงดาว จรัสฟ้า ”

เซน…สื่อรักสื่อวิญญาณ

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันนึงเราถูกโชคชะตากำหนดให้ต้องเข้าไปวุ่นวายกับชีวิต ของคนอื่นแบบไม่รู้จบแถมคนเหล่านั้นไม่ใช่คนปกติธรรมดาแต่กลับเป็น “วิญญาณ” ที่ไม่สามารถไปไหนได้จนกว่าจะสะสางปัญหาของตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อน

เซน ช่างภาพประจำกองบรรณาธิการ มีชีวิตที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่ถูกอกถูกใจสาวๆ หน้าที่การงาน รวมทั้งแฟนสาวที่แสนจะเพอร์เฟกอย่างมีดี้ เออีมากความสามารถ เซนใช้ชีวิตอย่างคนเมืองทั่วไป ชอบปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆ มากกว่าจะใช้เวลากับครอบครัว

จนกระทั่งวันหนึ่งเซนประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนทำให้เค้าเกือบจะต้องตาย แต่เมื่อเค้าฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างรอบตัวเค้าก็เปลี่ยนไป เพราะเขากลายเป็น “คนเห็นวิญญาณ” ไปซะแล้ว เซนพยายามจะหนีจากสภาวะที่แปลกประหลาดนี้

แต่กลายเป็นว่ายิ่งหนี วิญญาณก็ยิ่งมาขอร้องให้เซนช่วย หนึ่งในนั้นคือวิญญาณของสาวสวยคนนึงที่จำอะไรไม่ได้ เธอไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร และทำไมถึงได้กลายมาเป็นวิญญาณล่องลอยอยู่อย่างนี้ เธอจึงมาขอร้องให้เซนช่วยตามหาร่างของเธอ นับตั้งแต่นั้นเซนเลยต้องใช้ชีวิตอยู่กับวิญญาณของหญิงสาวอย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้ แถมยังต้องคอยสะสางปัญหาสารพัดอย่างให้กับวิญญาณต่างๆ ที่มาขอความช่วยเหลืออีกด้วย

เซนจะช่วยเหลือวิญญาณเหล่านั้นได้หรือไม่? ที่สำคัญชีวิตที่เคยสงบสุขของเซนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ชุมชนคนรักดี

 สุดรัก ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ บูรพา เสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการผลิตอะไหล่เครื่องยนต์

 

    เดิน ทางกลับจากอเมริกาช่วงปิดภาคเรียน แต่ไม่มีใครมารับที่สนามบิน จึงว่าจ้าง ทิม แท็กซี่หนุ่มให้ไปส่งเธอที่บ้าน ทิมถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสัมภาระของสุดรักที่มากมายและหนักอึ้ง จนรถของเขาเกือบจะแล่นไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นสุดรักยังอุ้ม แคนดี้ สุนัขฝรั่งปากเปราะที่เห่าตลอดเวลา ขึ้นรถมาด้วย

 

    ระหว่าง ทาง สุดรัก สังเกตว่าทิมฟังวิทยุคลื่นหนึ่งอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ และใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกับใครบางคนเป็นระยะ ซึ่งสุดรักถือว่าเสียมารยาทมาก จึงตำหนิทิมอย่างรุนแรง แต่ทิมกลับไม่สนใจ แถมยังตวาดให้แคนดี้เงียบด้วย สุดรักโมโหมาก แต่ทันใดนั้นทิมกลับรถอย่างรวดเร็ว และ ขับไล่ล่าตาม รถกระบะคันหนึ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่สนเสียงกรี๊ดของสุดรัก ซึ่งกว่าสุดรักจะ
    รู้ว่ารถกระบะที่ทิมไล่ตาม นั้นคือโจรปล้นร้านทองที่ขโมยรถคนอื่นขับหนีตำรวจมา หัวใจสุดรักเกือบหยุดเต้น เมื่อทิมถึงกับขับรถปาดหน้าโจรจนรถกระบะพลิกคว่ำ สุดรักถือจังหวะที่ทิมลงไปจับโจร อุ้มแคนดี้วิ่งหนีออกจากรถ แต่โชคร้ายที่ทิมถูกโจรใช้อาวุธทำร้ายและจับสุดรักเป็นตัวประกัน ขณะที่ตำรวจตามมาถึงพอดี ก่อนที่ความรู้สึกของสุดรักจะดับวูบ แคนดี้ก็กระโจนเข้าขย้ำโจรจนต้องปล่อยสุดรัก และถูกตำรวจจับในที่สุด

 

    ที่ โรงพยาบาล บูรพากับ ศจี ภรรยาและ สุดฝัน น้องสาววัย 6 ขวบของสุดรักรีบมาเยี่ยมสุดรัก บูรพาโกรธมากที่รู้ว่า ทิมเป็นต้นเหตุทำให้ลูกสาวเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงอาละวาดทิมที่เพิ่งทำแผลเสร็จและยิ่งได้รู้ว่า ทิมไล่ล่าคนร้ายเพราะเป็นสมาชิกของวิทยุชุมชนคนรักดี บูรพาก็ยิ่งโกรธเป็นหลายเท่า เขาพาสุดรักกลับบ้านโดยตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่า จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดกับวิทยุคลื่นนี้ หลังจากที่ปล่อยทุกอย่างให้ยืดเยื้อมานาน ศจีแอบผิดหวังเล็กๆ ที่สุดรักไม่เป็นอะไร

 

    วิทยุ ชุมชนคนรักดีเป็นคลื่นวิทยุที่ บรรเจิด อดีตนักข่าวนสพ.ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้บริหารวิทยุชุมชนซึ่งมีบูรพาเป็นเจ้า ของคลื่น แรกๆ บูรพาตั้งใจจะใช้คลื่นนี้เป็นกระบอกเสียงสร้างภาพให้ตนเองเพื่อจะลงเล่นการ เมือง จึงยอมให้บรรเจิดทำคลื่นนี้เป็นคลื่นที่ทำสาธารณะประโยชน์ให้ชุมชน โดยสร้างเครือข่ายคนรักดีขึ้นมาจากคนหลากหลายอาชีพที่ต้องการช่วยเหลือผู้คน ในสังคม ไม่ว่าจะเป็น แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ สามล้อเครื่อง คนขับรถบรรทุก พ่อค้า แม่ขาย หนุ่มสาวโรงงาน พนักงานออฟฟิศ หมอ ตำรวจ หรือข้าราชการ และทิมก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายนี้ แต่เมื่อวิทยุชุมชนคนรักดีเติบโต บูรพากลับพบว่าเขาไม่สามารถจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างที่ตั้งใจ จึงคิดจะยึดคลื่นคืนจากบรรเจิด แต่ยังไม่สามารถทำได้ถนัดนัก จึงเริ่มหาเรื่องตัดงบสนับสนุนคลื่นลงและขอให้บรรเจิดไปหาสปอนเซอร์เอง ซึ่งบรรเจิดก็พยายามดิ้นรนประคับประคองคลื่นมาได้

 

    ใน งานเลี้ยงต้อนรับสุดรักที่บูรพาจัดขึ้น สื่อมวลชนมากมายยกย่องบูรพาในฐานะที่เป็นเจ้าของคลื่นชุมชุนคนรักดี สุดรักจึงได้รู้ว่าคลื่นนี้เป็นที่นิยมมาก แต่เธอก็ต้องแปลกใจที่ได้ยิน บูรพาคุยกับทนงคนสนิทให้ดำเนินการบีบให้ บรรเจิดคืนคลื่นให้ตนโดยเร็ว รุ่งขึ้นสุดรักจึงแอบไปสังเกตการณ์ที่สถานี ซึ่งที่นั่นสุดรักได้พบว่าเป็นเพียงตึกเล็กๆ เก่าๆ ที่มีคนทำงานอยู่ไม่กี่คน ตั้งแต่ บรรเจิด ผู้บริหารสถานี ม้าศึก ดีเจจอมกวน(บาทา) น้ำหวาน ช่างเสริมสวยที่ใฝ่ฝันจะเป็นดีเจ
    ลุง ธงชาติ หมอดูแม่นๆ ที่ยังรับจ๊อบทำขวัญนาค กวาดคอเด็ก และงานจิปาถะมากมาย บรรเจิดเข้าใจว่าสุดรัก จะมาสมัครเป็นดีเจจึงกุลีกุจอต้อนรับและพาชมสถานี พร้อมทั้งอธิบายถึงอุดมการณ์ต่างๆ สุดรักฟังแล้วรู้สึกทึ่ง เมื่อกลับมาบ้าน สุดรักเปิดวิทยุฟังจนเช้าได้รับรู้ถึงการช่วยเหลือสังคมที่น่าประทับใจของ คลื่นชุมชุนคนรักดีจนทำให้เธอต้องกลับไปที่สถานีอีกครั้ง โดยไม่คาดฝัน สุดรักถูกบรรเจิดยัดเยียดให้ทำหน้าที่ดีเจแทนม้าศึกที่โดนวัยรุ่นรุมตื๊บจน ต้องเข้าโรงพยาบาล (แท้จริงแล้ว เป็นฝีมือทนง) สุดรักจำใจเป็นดีเจจำเป็น ซึ่งก็ต้องเจอกับกรณีเร่งด่วน เมื่อทิมแจ้งเข้ารายการว่ามีอุบัติเหตุ และต้องการให้ช่วยประสานตำรวจและรถโรงพยาบาล ซึ่งสุดรักก็พูดผิดๆ ถูกๆ เพราะเธอแทบไม่รู้จักถนนหนทางในกรุงเทพเลย ทำให้ทิมฉุนขาดทะเลาะกับสุดรักแบบออกอากาศจนผู้ฟังงงเต๊ก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเครือข่าย ก็ทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ทิมยังติดใจบุกไปดูหน้าดีเจถึงสถานีแล้วถึงกับอึ้งที่เห็นสุดรัก สีหน้าดูถูกของทิมทำให้สุดรักเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ยังไม่ยอมบอกใครว่า เธอคือลูกสาวของบูรพา

 

    บูรพา คาดโทษบรรเจิดที่เอาดีเจสมัครเล่นมาทำให้เสียชื่อสถานี และขอตัดเงินสนับสนุนลงอีก บรรเจิดประชุมขอตัดเงินเดือนพนักงาน และเปลี่ยนใจไม่จ้างสุดรักเป็นพนักงานเพราะไม่มีเงินจ่าย สุดรักแอบโอนเงินส่วนตัวเข้าบัญชีบรรเจิด โดยทำให้บรรเจิดเข้าใจว่าเป็นเงินบริจาคจากผู้ฟังทางบ้าน บรรเจิดออกอากาศขอบคุณ ทำให้บูรพาขัดใจมาก

 

    เกิด พายุฝนนอกฤดู ทำให้ป้ายโฆษณาล้มทับรถ ทิมเห็นเหตุการณ์และแจ้งเข้าสถานีเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทำให้เสี่ยวิชัยเจ้าของป้าย และเป็นเพื่อนทางธุรกิจของบูรพาไม่พอใจ บอกให้บูรพางดออกอากาศเรื่องนี้ บูรพาไปที่สถานีและก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวเองเป็นดีเจอยู่ บูรพาจะลากสุดรักกลับบ้าน แต่สุดรักไม่ยอม ขอทำงานต่อไป บูรพายื่นคำขาดปิดสถานี แต่สุดรักยืนยันว่าหากพ่อทำอย่างนั้นจะหนีออกจากบ้านไม่กลับไปเรียนอีก บูรพาแค้นมาก บรรเจิดเข้าไกล่เกลี่ยขอร้องให้บูรพาผ่อนผันเวลาโดยจะพยายามหาสปอนเซอร์มาทำ กำไรให้ได้ บูรพาจำยอมโดยให้เวลาสามเดือน ถ้าทำไม่ได้ ต้องคืนคลื่นและสุดรักต้องกลับไปเรียนต่อ สุดรักรับปาก

 

    ใน ที่สุดคลื่นชุมชนคนรักดีจึงได้ออกอากาศต่อไป ภายใต้แรงกดดันของบูรพา ซึ่งในทางตรงกันข้ามกลับเป็นแรงผลักดันให้สุดรักตั้งใจเรียนรู้งาน และฝึกฝนอย่างหนักที่จะเป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อสังคมที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันสุดรักได้เรียนรู้ปัญหาต่างๆ ในสังคมมากมายที่ถูกละเลย พร้อมกันนั้นก็ได้รู้จักกับผู้คนที่แม้ต่างฐานะ แต่กลับมีอุดมการณ์เดียวกัน เช่น จิมมี่ ดารานักบู๊ชื่อดังที่มาเป็นหน่วยอาสากู้ภัย แสงดาว หมออาสาประจำคลื่น แก๊งสามซิ่ง วินมอเตอร์ไซด์หัวใจลูกทุ่งที่มีกระทิงเป็นหัวหน้า และหลงเสน่ห์สุดรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ฯลฯ

 

    โดย ผู้คนทั้งหมด ก็จะผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้ามาในแต่ละสถานการณ์ที่มีผู้ร้องเรียนความเดือด ร้อนผ่านวิทยุชุมชนขอความช่วยเหลือ ดังตัวอย่างเรื่องราวต่อไปนี้

 

 

    คุณหมอใจเพชร

 

    แสง ดาวหมออาสาพบว่า ที่แผนกฉุกเฉินที่เธอประจำอยู่ มีคนไข้ที่บาดเจ็บ ฟกช้ำดำเขียวมารักษาเป็นประจำ และส่วนมากจะเป็นคนหน้าเดิมๆ รวมทั้งแก๊งสามซิ่งด้วย เมื่อถามถึงสาเหตุการบาดเจ็บทุกคนก็ตอบว่า ตกต้นไม้บ้าง รถชนบ้าง แต่เมื่อดูจากบาดแผลแล้ว แสงดาวไม่คิดเช่นนั้น จึงไหว้วานให้เครือชุมชนคนรักดี ช่วยตามสืบ ก็พบว่าที่แท้ ทุกคนถูกมาเฟียเงินกู้คนหนึ่งใช้วิธีทวงหนี้แบบหฤโหด ขณะเดียวกัน ก็มีคนโฟนอินเข้ามาในคลื่นชุมชนคนรักดีให้ช่วยตามหาญาติที่ถูกอุ้มหายไป เพราะไม่มีเงินส่งเจ้าหนี้ และระบุว่า เจ้าหนี้ผู้นั้นคือเฮียเลิศที่เป็นทั้งเจ้าของที่ดินและกิจการสถานบันเทิง ยามค่ำคืนมากมาย บรรเจิดสั่งให้สุดรักตัดสายทิ้งทันที แถมยังบอกว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะบรรเจิดเองก็เป็นลูกหนี้เฮียเลิศด้วย เมื่อแสงดาวรู้ความจริงก็รู้สึกโกรธมาก จึงตัดสินใจฉีกหน้ากากเฮียเลิศให้จงได้ ปฏิบัติการหักเหลี่ยมมาเฟียจึงเริ่มขึ้น โดยสามสาว สุดรัก แสงดาวและน้ำหวาน ปลอมตัวเข้าไปใกล้ชิดเฮียเพื่อใช้คลิปวีดีโอบันทึกพฤติกรรมการรีดไถ ข่มขู่ และ ขโมยสัญญาทาสมาเป็นหลักฐานให้กับตำรวจ

 

    ทั้งสามก็ได้พบกับ เฮียเลิศมีลูกสาวคนหนึ่ง ชื่อ น้ำค้าง อายุประมาณ 8 ขวบ และป่วย

 

    สารพัด โรค ทั้งหอบ หืด ภูมิแพ้ และลมชัก ซึ่งเฮียเลิศรักลูกสาวคนนี้มาก แต่น้ำค้างกลับเฉยเมยไม่ยอมพูดจากับเฮียเลิศ ซึ่งเฮียเลิศเข้าใจว่าเป็นเพราะอาการป่วย แต่แท้จริงแล้ว น้ำค้างเคยแอบเห็นเฮียเลิศและลูกน้องทำร้ายพวกลูกหนี้จึงรู้สึกกลัวและผิด หวังในตัวพ่ออย่างรุนแรง วันหนึ่งน้ำค้างอาการกำเริบแสงดาวเข้าปฐมพยาบาล จนทำให้เฮียเลิศจับได้ว่าแสงดาวปลอมตัวมา เฮียเลิศจะจัดการปิดปากแสงดาว แต่น้ำค้างร้องห้าม ทำให้เลิศต้องเปลี่ยนใจเป็นจับตัวสามสาวไว้ การหายไปของสามสาวทำให้สมาชิกหนุ่มอย่างทิม จิมมี่และม้าศึกเป็นห่วงมาก ออกติดตามหาจนพบ ขณะที่น้ำค้างอาการหนัก แทนที่จะจับเลิศส่งตำรวจทุกคนจึงต้องรีบพาน้ำค้างส่งโรงพยาบาล น้ำค้างของร้องให้เลิศเลิกทำร้ายคน เลิศรับปากและยินยอมรับโทษ

 

 

    สมบัติของตี๋น้อย

 

    เรื่อง ของดาบชัย ทนายจอมปลิ้นปล้อนของตระกูลมหาศาลแอบยักยอกเอาเพชรนิลจินดามูลค่าหลายล้าน ที่น่าจะเป็นของตี๋น้อยทายาทคนสุดท้ายของตระกูลไปเป็นของตัวเอง แต่ความซวยเนื่องจากความล่อกแล่กของลูกสมุนทำให้ลืมเงินไว้ในแท็กซี่ของทิม และด้วยความวุ่นวายโกลาหลในขณะที่ขับรถตามทิมจนมาถึงวิทยุชุมชนคนรักดี ก็ดันลืมตี๋น้อยทายาทที่แท้จริงของเงินจำนวนนั้นเอาไว้ที่สถานีวิทยุ ความเจริญจึงบังเกิดแก่พนักงานทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุดรักที่
    เพิ่ง ปฏิเสธพ่อของเธอที่จะเอาเธอไปประกวดนางงามเนื่องจากเกลียดเด็ก แต่กลับเป็นคนที่ต้องดูแลตี๋น้อย ที่ชื่นชอบในการกินและขับถ่ายเป็นระยะๆ สลับกับการร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง

 

    ใน ขณะเดียวกันนั้นเอง ดาบชัยที่สมุนทำเงินหายไปก็ไม่กล้ากระโตกกระตากแจ้งความหรือประกาศหาเพชรนิล จินดาอย่างเปิดเผย เพราะอาจพากันเข้าซังเตได้ถ้าตำรวจถามหาที่มาของของพวกนั้น จึงแกล้งขอให้วิทยุชุมชนคนรักดีประกาศหากระเป๋าเดินทางใบใหญ่และบอกเพียงว่า ภายในเป็นเอกสารและสมบัติเล็กน้อยที่มีคุณค่าทางจิตใจ ทางรายการจึงกระจายข่าวไป

 

    แต่ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ กระเป๋าใบนี้เดินทางจากแท็กซี่ของทิมไปวนเวียนอยู่กับเหล่าคนจนที่เป็นแฟน รายการวิทยุชุมชนคนรักดีที่มาช่วยเลี้ยงตี๋น้อยกันอย่างทั่วหน้า และที่สำคัญก็คือ คนเหล่านั้นต่างก็กำลังประสบเคราะห์กรรมต่างรูปแบบอาทิ ทิมที่กำลังถูกยึดรถแท็กซี่คู่ใจเพราะขาดส่งค่างวด บรรเจิดผู้ที่พยายามหาเงินมาทำงานสถานีวิทยุก่อนที่ตึกจะถูกตัดน้ำตัดไฟ ฯลฯ ซึ่งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลในกระเป๋าสามารถแก้ปัญหาของพวกเขาได้และในขณะ เดียวกันดาบชัยก็ส่งสมุนมาคอยตามรอยของกระเป๋าเพื่อถือโอกาสปล้นเอาเงินกลับ คืนไป
    แต่เหล่าคนดีก็สามารถต่อสู้กับความ เย้ายวนของเงินจำนวนมหาศาลได้สำเร็จ และก็ช่วยให้ตี๋น้อยได้ครอบครองทรัพย์สมบัติที่เป็นของบรรพบุรุษของเขาในที่ สุด

 

    คุณพ่อเซลล์แมน

 

    เรื่อง ต่อมาเป็นเรื่องราวของสุบิน เซลส์แมนที่ขอให้ทางรายการช่วยประกาศหาตัวส้มโอ ลูกสาวของเขาที่หายไปจากบ้าน แต่เมื่อส้มโอติดต่อกลับมา ทางสถานีจึงได้รู้ความจริงที่ว่าส้มโอไม่ได้หายไปจากบ้านแต่เธอตั้งใจหนีไป จากบ้าน เพราะเสียใจที่สุบินไม่เข้าใจในความรักของเธอที่มีต่อพี่บิ๊กเทพบุตรในสายตา ของเธอ แต่เป็นเดนสังคมในสายตาของสุบินซึ่งพยายามทำทุกวิถีทางตั้งแต่ดุ ด่า เฆี่ยนตีจนถึงขั้นกักขังและหน่วงเหนี่ยวสิ่งที่เธอถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ ส่วนตัวของเธอและเธอยืนยันที่จะไม่กลับบ้าน

 

    ศึก พ่อลูกคู่นี้ทำให้บรรดาสมาชิกของวิทยุชุมชนคนรักดีแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย ด้านหนึ่งเห็นด้วยกับสุบินและคิดว่าเขามีสิทธิที่จะปกป้องลูกสาวของเขาจาก เงื้อมมือมาร ส่วนอีกฝ่ายยึดความรักเป็นสรณะ เข้าข้างส้มโอและคิดว่าพ่อของเธอทำเกินไป จนบรรเจิดคิดว่าเขาต้องลงมาระงับข้อพิพาทนี้ และใช้วิทยุชมชนคนรักดีเป็นตัวกลางที่จะสร้างความเข้าใจที่ดีให้เกิดขึ้น ระหว่างพ่อกับลูกสาว และคนที่อาสาจะไปเกลี้ยกล่อมฝ่ายพ่อคือทิม ในขณะที่สุดรักผู้ที่คิดว่าเธอเข้าใจหัวจิตหัวใจของลูกผู้หญิงด้วยกันดีอาสา จะไปหาทางเจรจากับส้มโอ

 

    แต่ สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็คือ การที่บรรเจิดตัดสินใจเอารายการวิทยุชุมชนคนรักดีเข้าไปเกี่ยวข้องกับสองพ่อ ลูกครั้งนี้ กลับเป็นการทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสถานีวิทยุตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง ทั้งนี้ก็เพราะนายบิ๊กนั้นที่จริงแล้วเป็นลูกสมุนของแก๊งค์หาผู้หญิงค้า ประเวณี โดยเหยื่อสาวๆ เหล่านั้นก็คือวัยรุ่นที่มีปัญหากับพ่อแม่อย่างเช่นส้มโอ

 

    ซึ่งสมาชิกชุมชนคนรักดีก็ต้องร่วมแรงร่วมใจกันช่วยส้มโอให้หลุดพ้นเงื้อมมือมารให้จงได้

 

    เมื่อเวลาสามเดือนผ่านไป สัญญาระหว่างบูรพากับสุดรักครบกำหนด บรรเจิดก็ยังไม่สามารถจะหาสปอนเซอร์มาสนับสนุนสถานีได้เพียงพอ คลื่นวิทยุชุมชนคนรักดีจำต้องประกาศปิดตัวลงท่ามกลางความเศร้าใจของบรรดา สมาชิก แม้แต่ตัวบูรพาเองก็รู้สึกใจหาย เพราะที่ผ่านมาเขาก็ประทับใจในความสามัคคี ความร่วมแรงใจกันเพื่อช่วยเหลือสังคมของเหล่าสมาชิกชุมชนคนรักดีอยู่ไม่น้อย แต่เหตุผลที่เขาต้องยืนยันเจตนารมณ์เดิม ก็เพราะไม่สามารถยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างสุดรักกับทิมที่นับวันจะใกล้ชิด แนบแน่นขึ้น เขาจึงเลือกที่จะให้ลูกสาวกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ

 

    วัน สุดท้ายที่คลื่นชุมชนคนรักดีออกอากาศ มีผู้คนที่เป็นแฟนสถานีหลั่งไหลกันมาอย่างมากมาย ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ไปจนถึงคนชรา คนยากจนไปจนถึงมหาเศรษฐี จนที่ทำการของสถานีวิทยุเล็กๆ แทบจะไม่มีที่ยืน และวันนั้นเองที่ทุกคนได้ตระหนักว่า การทุ่มเทกำลังสร้างความดีตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่สูญเปล่า…..แต่เรื่อง ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อ ทนงถูกบูรพาจับได้ว่า แอบยักยอกเงินบริษัทไปเล่นการพนัน จึงจับตัวบูรพาไปเพื่อขอให้บอกรหัสเซฟ สุดรักร้อนใจมาก ขอให้บรรเจิดช่วย การตามหาตัวบูรพาโดยเครือข่ายชุมชนคนรักดีจึงเริ่มขึ้น โดยมีแฟนสถานีคอยลุ้นจนในที่สุดทิม จิมมี่และแก๊งสามซิ่ง ก็ตามไปช่วยบูรพาได้ทัน บูรพามาถึงสถานีก่อนจะปิดทำการในวินาทีสุดท้าย และคำกล่าวอำลาของเขาต่อแฟนรายการก็เปลี่ยนเป็นการกล่าวขอบคุณต่อชุมชนคนรัก ดี และขอคืนสถานีให้กับบรรเจิดและสมาชิกทุกคน ท่ามกลางความยินดีของเหล่าสมาชิกและแฟนรายการ …… เรื่องของชุมชนคนรักดีจึงจบลงอย่างน้ำเน่าด้วยประการฉะนี้

ใจสู้มุ่งสู่ฝัน

เสียง เชียร์กระหึ่มกึกก้องไปทั่วสนามกีฬาเซปักตะกร้อ ทุกคนต่างก็มารอดูลูกตบล้อเกวียนของเตชิน และหนึ่งในนั้นก็มีโค้ชนำชัย ซึ่งเป็นโค้ชทีมชาติได้มาดูด้วยเพื่อมาคัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมทีมชาติ การแข่งขันของคู่นี้ดำเนินไปอย่างดุเดือดทั้งลีลาและชั้นเชิงสูสีกันมากแต้ม ผลัดกันนำผลัดกันตาม จนคนดูและคนเล่นหายใจหายคอแทบไม่ทันและสิ่งที่ทุกคนในสนามกำลังรอคอยอยู่ นั้น ก็คือ ลูกตบล้อเกวียน เตชินกระโดดหมุนตัวกลางอากาศคล้ายกับกงล้อที่กำลังหมุน ลูกตะกร้อกระทบเท้าของเตชินและพุ่งตรงไปยังฝ่ายตรงข้าม แต่ลูกตะกร้อกลับพุ่งกลับมายังฝ่ายของเตชินอย่างรวดเร็วด้วยลูกตบซันแบ็กของ ประกาศิต

ผอ.ชาญวิทย์ เรียกครูพละทุกคนมาประชุมเรื่องการคัดตัวนักกีฬาไปร่วมแข่งขันกีฬามัธยมแห่ง ชาติซึ่งจะมีขึ้นในปลายปีนี้ ผอ.ชาญวิทย์ต้องการเหรียญทองมากที่สุด โดยเฉพาะกีฬาเทนนิสซึ่งอดีตโรงเรียนนี้เคยเป็นแชมป์สี่ปีซ้อนแต่หลังจากครู อำนวยถูกดึงตัวให้ไปเป็นโค้ชกับโรงเรียนคู่แข่งตั้งแต่นั้นมา โรงเรียนนี้ก็ไม่เคยได้รับเหรียญใดๆ อีกเลย ความหวังนี้จึงตกมาอยู่ที่ครูสอนเทนนิสคนใหม่ชื่อครูเปียโน เธอหนักใจที่ ผอ.คาดหวังกับเธอไว้สูงมากถึงแม้เธอจะเคยเป็นแชมป์เยาวชนมาก่อนก็ตาม แต่การที่เปียโนมาเป็นครูพละที่นี่ก็เพราะความจำเป็นบางอย่าง นั่นก็คือเธอต้องการใบรับรองว่าเธอเป็นครูพละเพื่อที่จะไปยื่นต่อกองประกวด นางสาวไทย ซึ่งนี่คือความฝันของเธอตั้งแต่วัยเยาว์ เรื่องนี้เป็นความลับมีเพียงแม่และพ่อของเธอเท่านั้นที่รู้ เพราะแม่เธอเป็นคนฝากเธอเข้าทำงานที่โรงเรียนนี้เอง

เตชิน รู้สึกว่าโรงเรียนนี้เน้นไปทางกีฬาฝรั่ง เขาจึงเสนอกีฬาเซปักตะกร้อซึ่งเป็นกีฬาไทยๆ ขึ้นมาเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักกีฬาของไทยที่นับวันก็จะถูกกลืนหายไปกับ สังคมตะวันตก แต่ทุกคนเห็นว่าเป็นเรื่องตลกโดยเฉพาะ ครูสมพร ซึ่งเป็นครูสอนฟุตบอลที่เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะนำเหรียญทองหรือแม้กระทั่ง เหรียญทองแดงมาให้กับโรงเรียน เพราะเด็กที่นี่ไม่มีพื้นฐานกีฬาประเภทนี้เลย และที่สำคัญโรงเรียนเอกชนที่มีแต่ลูกคนรวยๆ เรียนกันคงไม่มีใครอยากเตะตะกร้อ เพราะทุกอย่างต้องดูอินเตอร์ แต่เตชินก็ยังยืนยันว่าจะสร้างทีมเซปัคตะกร้อขึ้นมาและพร้อมที่จะเอาตำแหน่ง ของตัวเองเป็นประกัน ถ้าเขาไม่สามารถนำชัยชนะมาได้ ผู้อำนวยการเห็นว่าเตชินมีความมุ่งมั่นและเห็นว่าเตชินเองก็เป็นอดีตนักกีฬา ตะกร้อดาวรุ่งที่มีชื่อเสียงมาก่อน จึงอนุญาตให้เตชินจัดทีมนักกีฬาตะกร้อขึ้นมา แต่พอเสร็จการประชุมผู้อำนวยการก็สร้างความกดดันกับเตชิน โดยเน้นว่าห้ามให้เขาเสียหน้าเป็นอันขาด

ในวันรับสมัครนักกีฬา มีเด็กไม่กี่คนที่เข้ามาร่วมชมตะกร้อและเด็กแต่ละคนไม่มีความสามารถพอจะเป็น นักกีฬาได้เลย ปัญหาอีกอย่างนั่นก็คือ สนามกีฬา สำหรับฝึกซ้อมไม่มีเป็นของตัวเองเพราะเป็นชมรมที่เกิดขึ้นกะทันหัน

ลุงหมอกซึ่งเป็นภารโรงรู้สึกสงสารเตชินจึงหาที่ฝึกซ้อมให้ นั่นก็คือลานจอดรถที่ติดกับสนามเทนนิสเอาไว้เป็นที่เล่นชั่วคราวไปก่อน โดยลุงหมอกนำปูนขาวมาโรยตีเส้นและเอาเน็ตมาขึงกับเสาไฟฟ้าแค่นี้ก็เป็นสนาม ตะกร้อได้แล้ว เด็กๆ ในชมรมพากันลาออกเพราะเห็นความไม่พร้อมของชมรมแต่เหลือเพียง โฟกัสคนเดียวที่มีศักยภาพด้านกีฬาต่ำสุดแต่มีความตั้งใจจริงยังอยู่

ชมรมเทนนิสซึ่งอยู่ข้างๆ มีเปียโนเป็นครูสอนก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะเด็กๆ มาสมัครเยอะเกินไป โดยเฉพาะวัยรุ่นชายที่ไม่ได้ตั้งใจมาเป็นนักกีฬาแต่จุดประสงค์หลักก็เพื่อ เข้ามาจีบสาวในชมรมที่ขึ้นชื่อว่าสวยทั้งครู สวยทั้งนักเรียน เด็กสาวหลายคนล้วนเป็นลูกคุณหนูไฮโซหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะ น้ำค้าง ไข่มุก และสีรุ้ง ซึ่งเป็นดาวของโรงเรียนนี้ ชมรมเทนนิสจึงได้ฉายาว่า ชมรมรวมดาว

ในชมรม สีรุ้ง และ ไข่มุก เป็นนักกีฬาเทนนิสซึ่งทั้งคู่ก็เก่งไม่แพ้กัน จึงเป็นสาเหตุให้ทั้งสองสาวต้องชิงดำชิงแดงกันเป็นที่หนึ่งของครูสาว เพื่อจะได้เป็นตัวแทนไปแข่งขัน ส่วน น้ำค้าง เป็นฝ่ายสันธนาการของชมรมมีหน้าที่คอยบริการน้ำท่าให้เพื่อนๆ

กลุ่มของนาย ฟีม และ บอส นักเรียนชั้น ม.4 ทั้งคู่เป็นคู่หูที่แสบพอๆ กัน พวกเขาสร้างความวุ่นวายให้กับชมรมเทนนิสอย่างมาก เพราะเอาแต่แซวสาว จนพวกเธอไม่มีสมาธิในการซ้อม เปียโนจึงตัดปัญหาโดยการไล่นักเรียนชายออจากชมรมจนหมดให้เหลือเพียงนักเรียน หญิงเท่านั้น

ถึงไม่ได้อยู่ชมรมเดียวกัน แต่ได้ใกล้ชิดกันก็ยังดี บอส จึงชวน ฟีม มาสมัครเป็นนักกีฬาตะกร้อ เตชิน รู้ทันความคิดของสองคนนี้จึงจับมาฝึกอย่างหนักเพื่อไม่ให้มีเวลาแซวพวกสาวๆ อีก

แต่ปัญหายังไม่จบ จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้ แต่ลูกกลมๆ ของทั้งสองฝ่ายก็มักจะกระดอนข้ามมาอยู่เสมอ จึงทำให้เกิดการปะทะคารมของทั้งสองชมรมขึ้นบ่อยๆ โดยเฉพาะ เปียโน กับ เตชิน ซึ่งต้องคอยห้ามนักเรียนทั้งสองฝ่าย สุดท้ายครูทั้งสองกลับทะเลาะกันเอง ทำให้คนทั้งคู่กลายเป็นคู่กัดกัน ในสายตาของเตชิน เปียโน ไม่เหมาะกับการสอนพละอีกต่างหาก เธอจะใส่ชุดสวยงามและรองเท้าส้นสูงตลอดเวลาไม่ตั้งใจสอน ดีแต่แต่งตัวสวยไปวันๆ เขาจึงพูดกับเธอตรงๆ ว่า ถ้าทำตัวเหลาะแหละแบบนี้อย่ามาสอนให้เสียเวลาเลย ไปประกวดนางงามไปเล่นละครหรือไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้น่าจะดี กว่า เพราะไม่อย่างนั้นเด็กจะไม่ให้ความเคารพและนับถือ เปียโน โกรธจัด ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ไม่เคยยอมใครจึงท้าพนัน ว่าในการนำนักกีฬาไปแข่งครั้งนี้ถ้าใครแพ้กลับมามือเปล่า คนนั้นจะต้องลาออกและเธอจะพิสูจน์ให้เห็นว่า สวยๆ อย่างเธอนี่แหละจะนำชัยชนะมาให้โรงเรียน เตชิน รับคำท้าทันที

ไข่มุก หัวโจก ของชมรมเทนนิส ชวนเพื่อนร่วมกันแอนตี้ครูเปียโน โดยไม่ให้ความร่วมมือในการฝึกซ้อม เปียโน เริ่มเข้าใจในคำพูดเตือนสติของเตชินและในใจของเปียโนก็แอบขอบคุณเตชินอยู่ ลึกๆ แต่ก็อดโกรธไม่ได้ที่โดนเตชินดูถูก เธอสัญญากับตัวเองว่าตั้งแต่นี้เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่

ส่วนพ่อของทั้งสองเจอหน้ากันทีไรก็ต้องแขวะใส่กันตลอด ทั้งที่เมื่อก่อนเคยเป็นเพื่อนรักกันแท้ๆ ธีระนาถ เคยรับราชการเป็นครูแต่ตอนนี้เกษียรแล้ว เขาเปิดชมรมดนตรีไทยที่บ้านเพื่อให้เด็กๆ และคนทั่วไปในชุมชนมาเรียนกัน ธีระนาถ พ่อของเตชินมักจะพูด แซว ทรงผมเอลวิสของส่ง ธรรมทัศ ที่ไม่เข้ากับหน้าแป๊ะยิ้มเอาเสียเลย ส่วนธรรมทัศเองก็มักจะพูดกระทบกระทั่งเรื่องความเชยของธีระนาถทั้งเล่นดนตรี ไทย ทั้งการแต่งตัว แต่ฝีปากสู้ธีระนาถไม่ได้ก็มักใช้ไม้ตายโดยการทวงเงินค่าเช่าที่ แล้วรีบเดินจากไป แต่ลึกๆ แล้วสาเหตุของการไม่ถูกกันนั่นก็คือ สมัยที่ทั้งคู่หนุ่มๆ เคยรักผู้หญิงคนเดียวกัน นั่นก็คือ แม่ของ เปียโน แต่สุดท้ายคนที่ได้ครอบครองเฉิดโฉม คือ ธรรมทัศ เพราะฐานะที่ร่ำรวยจึงทำให้ผู้ใหญ่ของเฉิดโฉมยกเธอให้กับเขา แต่ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตาม ธรรมทัศก็ยังรู้สึกหึงๆ และไม่ไว้ใจธีระนาถตลอดเวลาเพราะรู้ดีว่าหัวใจของเฉิดโฉมนั้นเคยมีธีระนาถ นั่งอยู่ในห้องหัวใจ

เปียโน เปลี่ยนตัวเองไปเป็นคนละคนจนทุกคนไม่เชื่อสายตา เธอดูจริงจังมากขึ้น ไม่เหยาะแหยะเหมือนเมื่อก่อน ทั้งการแต่งตัว ก็ดูเปลี่ยนไปจน เตชิน ตกใจ การแข่งเทนนิสประเภทคู่ของสโมสรที่เปียโนจะพาเด็กๆ ไปลับฝีมือใกล้เข้ามา แต่ไข่มุกและสีรุ้งไม่เชื่อฟังการสอนของเปียโนเลย ถึงเธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว แต่ภาพเก่าๆ ของเธอก็ยังอยู่ในหัวของเด็กๆ เพื่อเป็นการสั่งสอน เปียโนเลยท้าแข่งกับไข่มุก ซึ่งเป็นหัวโจก ถ้าเปียโนชนะ ไข่มุกต้องยอมเชื่อฟังเธอทุกอย่าง แต่ถ้าเปียโนแพ้ ไข่มุกอยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย ข่าวนี้ดังไปทั่วโรงเรียน ในวันแข่งขันทั้งครู และนักเรียนมารอลุ้นจนล้นขอบสนาม ผลปรากฏว่า เปียโน ชนะขาด

เตชิน พบว่า บอส มีลูกเตะที่หนักหน่วงจึงวางตัวให้ไปอยู่ตำแหน่งเสิร์ฟ แต่ต้องปรับเรื่องการใช้แรงและการกำหนดทิศทางของลูก ส่วนฟีมที่อยากเป็นตัวตบแต่กลับได้เป็นตัวชงทำให้เขาไม่พอใจเท่าไหร่ ส่วนโฟกัสต้องคอยเก็บลูก แต่ระหว่างที่ว่างก็แอบเดาะลูกคนเดียวจนเตชินเห็นแววเลยเอามาเป็นตัวสำรอง สำหรับตัวตบเขายังหาไม่ได้

ผอ.ชาญวิทย์ ตามตัววิทยา ลูกชายคนเดียวของเขาให้กลับมาช่วยบริหารโรงเรียน ทำให้เขาได้พบกับครูเปียโน เขาถึงกับตะลึงในความงาม เขาพยายามตามจีบเปียโนจนดูเหมือนทั้งสองคนเป็นแฟนกัน เพราะขณะที่เปียโนซ้อมกีฬาให้เด็กๆ วิทยาก็ไปนั่งดูที่ขอบสนามอยู่เสมอ แต่เปียโนก็ไม่ได้มีท่าทางว่าจะชอบเขาเลย มีเพียงวิทยาเท่านั้นที่คิดไปคนเดียว

ระหว่างที่เตชินกำลังฝึกเด็กๆ เล่นตะกร้อ เขาสังเกตเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งมายืนดูพวกเขาซ้อมอยู่เสมอ แต่ก็อยู่แค่พักเดียวแล้วก็กลับไป

เด่นดนัย เป็นเด็กยากจนแต่เรียนดี มีโอกาสเรียนที่นี่เพราะได้รับทุนจาก ผอ.ชาญวิทย์ ตกเย็นต้องไปช่วย ชื่น ซึ่งเป็นแม่ ขายของชำในตลาด ส่วนพ่อตายตั้งแต่เขายังเด็ก เด่นดนัย มีนิสัยเก็บตัวเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่เรื่องเรียนเขาเป็นที่หนึ่งทุกครั้ง เขาชอบมาดูเพื่อนๆ ซ้อมตะกร้อแต่ไม่อยากเข้าชมรมเพราะต้องรีบกลับบ้านไปช่วยแม่ขายของ เตชินลองให้เขาเล่นให้ดูปรากฏว่าเด็กคนนี้แหละคือตัวตบที่เขาตามหา เตชินจึงไปขออนุญาตกับแม่ของเขาและสัญญาว่าซ้อมเสร็จเมื่อไหร่จะรีบไปส่งที่ บ้านทันที ชื่นดีใจมากที่ลูกตัวเองจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ วัยเดียวกันบ้าง เพราะสงสารลูกที่ต้องรีบกลับมาช่วยแม่ทำงานจนเด่นดนัยเกือบจะไม่มีเวลาของ ความเป็นวัยรุ่นอีกเลย

เตชิน ฝึกซ้อมเด็กๆ จนมีความพร้อม ครูทุกคนในโรงเรียนไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้ชมรมอนาถากลายเป็นชมรมตะกร้อขึ้น มาจนได้ เตชินสามารถนำทีมชนะการแข่งขันนัดกระชับมิตรระหว่างโรงเรียนด้วยลูกตบล้อ เกวียนที่ฝึกให้กับเด่นดนัย ส่วนเปียโนก็ใช่ย่อยเพราะเธอสามารถนำทีมเทนนิส เอาชนะสโมสรต่างๆ ได้เช่นกันจึงทำให้เธอเป็นที่ยอมรับของทั้งสองสาวและคนในโรงเรียนมากยิ่ง ขึ้น ทำให้ ผอ.ชาญวิทย์ เอ่ยปากชมเชย

ความสัมพันธ์ของเปียโนกับเตชินก่อตัวขึ้นเพราะเตชินไปเชียร์การแข่งขัน เทนนิสทุกแม็ตพร้อมกับเด็กๆ ในชมรม ทำให้วิทยารู้สึกหมั่นไส้ที่คนทั้งคู่สนิทสนมกัน

กลุ่มของ ไข่มุก สีรุ้ง จากที่ไม่ชอบ บอส กับ ฟีม เท่าไหร่เพราะเห็นว่าเป็นคนที่เกเรไปวันๆ แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับมีความตั้งใจมุ่งมั่นฝึกซ้อมทำให้พวกเธอชื่นชมในตัวพวก เขา ถึงบอส กับฟีม จะเริ่มจริงจังกับการเล่นกีฬาจนนิสัยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้จักแบ่งเวลาจึงทำให้การเรียนเขาตกต่ำกว่าเดิม พ่อแม่ของพวกเขาเลยสั่งให้ออกจากชมรมตะกร้อ ทั้งสองขอโอกาสกับผู้ปกครองอีกครั้งว่าจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพราะการเล่น ตะกร้อมันคือส่วนหนึ่งของพวกเขาไปแล้ว แม่ของบอสยื่นเงื่อนไข ถ้าการเรียนยังคงตกต่ำลงไปอีกคราวนี้ต้องออกจากชมรม ไข่มุก และ สีรุ้ง เห็นใจบอสกับฟีมมากจึงช่วยกันติวหนังสือให้กับพวกผู้ชาย จนกลายเป็นความสนิทสนม

ส่วนเด่นดนัย รู้สึกเป็นห่วงชื่นที่ต้องทำงานหนักอยู่คนเดียวจนช่วงนี้เริ่มป่วย หลายครั้งที่เขาอยากออกจากโรงเรียนเพื่อไปช่วยแม่ทำงานหาเงิน ไม่อยากให้แม่ลำบาก เด่นดนัยเก็บความทุกข์นี้ไว้คนเดียว มีเพียงน้ำค้างเท่านั้นที่สามารถเป็นเพื่อนระบายความทุกข์ในใจของเขาได้

วิทยา ต้องการหักหน้าเตชิน โดยการนำทีมของโค้ช ประกาศิต คู่ปรับเก่าของเตชินเข้ามาแข่งถึงโรงเรียน การแข่งตะกร้อกับทีมของประกาศิตมีเวลาเตรียมตัวไม่มากนัก เขาจึงฝึกเด็กหนักขึ้นกว่าเดิมจนร่างกายแต่ละคนล้าไปหมด คนมาดูการแข่งขันครั้งนี้จนล้นสนาม ธีระนาถขนดนตรีไทยไปชุดใหญ่ทั้งฆ้องวง กลองยาว ไปนั่งเชียร์กันถึงขอบสนามสร้างสีสันให้กับการแข่งขันเป็นอย่างมาก การแข่งขันครั้งนี้ดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ไม้ตายลูกเตะล้อเกวียนของเตชินก็กลับพ่ายแพ้ให้แก่ลูกตบซันแบ็คของฝ่าย ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง มันทำให้เหมือนฝันร้ายของเขากลับมาอีกครั้ง

วิทยา สะใจในความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของเตชินมาก ส่วน ผอ.ชาญวิทย์ ให้กำลังใจเตชินแต่สำหรับเตชิน เขารู้สึกมืดแปดด้านเพราะไม่รู้จะเอาชนะลูกตบซันแบ็คอย่างไร เตชินหมดกำลังใจที่จะต่อสู้ ธีระนาถ พ่อของเตชินจึงเตือนสติให้สู้กับความกลัวที่มีต่อลูกตบซันแบ็กหากเตชินยัง หนีต่อไป ก็เท่ากับว่าต้องแพ้ไปตลอดชีวิต ทุกครั้งที่เตชินมีปัญหาเขามักจะระบายออกด้วยการเล่นดนตรีไทย เขาเล่นดนตรีได้เกือบทุกชนิด นั่นก็เป็นเพราะว่าธีระนาถพ่อของเขาได้ปลูกฝังและฝึกซ้อมให้กับเขาตั้งแต่ เด็กๆ ถึงแม้ว่าช่วงแรกๆ เตชิน จะต่อต้านดนตรีอยู่บ้างเพราะเขาชอบเล่นกีฬามากกว่า จนวันหนึ่งเตชินค้นพบว่าดนตรีที่พ่อของเขา พล่ามสอนให้นั้นมันมีประโยชน์กับเขามากเสียงดนตรีที่ฟังแล้วซาบซึ้งใจอย่าง ขลุ่ยหรือซอก็ทำให้เขามีสมาธิ ส่วนฆ้อง ระนาดและกลองเขาใช้ระบายอารมณ์เมื่อยามที่หงุดหงิดหรือเครียดเตชินจะตีดนตรี พวกนี้จากทำนองที่เล่าร้อนดุดัน จนค่อยๆ อ่อนลงและแผ่วเบา และสติกับสมาธิก็กลับมาเหมือนเดิม ธีระนาถบอกกับเตชินอยู่เสมอว่า ถ้าหากเรามีดนตรีในหัวใจ ชีวิตก็จะเบิกบานเพราะดนตรีก็คือศิลปะแขนงหนึ่งที่จะทำให้เรามีความสุขและ อิ่มเอมกับเสียงของมัน

เตชิน รวบรวมสติแล้วคิดวิธีแก้ลูกตบชันแบ็กแต่ก็คิดไม่ออก วันหนึ่งลุงหมอกแนะนำเทคนิคแก่เตชินว่าต้องทำยังไงถึงสามารถแก้ลูกตบซันแบ็ก ได้ เตชินไม่อยากจะเชื่อคำของภารโรงแก่ๆ แต่เมื่อทำตามคำแนะนำของลุงหมอก ปรากฎว่าสามารถแก้ลูกตบซันแบ็กได้จริงๆ เตชินจึงรีบกลับไปหาลุงหมอกที่ห้องพักแต่ลุงหมอกไม่อยู่ เตชินพบว่าในห้องลุงหมอกมีรูปลุงหมอกสมัยหนุ่มๆ ใส่ชุดนักกีฬาทีมชาติและถ้วยรางวัลเต็มไปหมดเตชินจึงรู้ความจริงว่าลุงหมอก เป็นนักตะกร้อในตำนานที่เขาชื่นชมตั้งแต่เด็กๆ แต่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการเล่นจนเอ็นข้อเท้าขาดทำให้เขาไม่สามารถเล่น ตะกร้อได้อีกเลย

เปียโนเองก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้เช่นกัน เมื่อทีมของเธอพบกับทีมของ ครูอำนวย ด้วยลูกตบเอสพิฆาต แต่เปียโนกลับท้าครูอำนวยว่าคราวหน้าเด็กของเธอจะต้องชนะแน่ๆ ครูอำนวยเยาะเย้ยและบอกกับเธอว่าให้ไปฝึกมาอีกสิบปีแล้วค่อยมาเจอกันใหม่ก็ ได้ งานนี้ทำให้เปียโนถึงกับเครียดจัดเพราะไหนจะถูกหยาม และกลัวว่าจะไม่สามารถนำชัยชนะมาให้ ผอ.ได้

เตชิน บอกกับเปียโนว่าถึงแม้ว่าวันนี้เราแพ้แต่พรุ่งนี้เราอาจจะชนะ ขอเพียงอย่าสิ้นหวัง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คนทั้งสองเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ความรู้สึกดีๆ จึงตามมา เตชินบอกกับเปียโนว่าเขาจะพาเด็กๆ ไปฝึกที่ชายทะเล ถ้าหากเปียโนสนใจก็ไปด้วยกันได้ถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว เธอรับปากว่าจะไปแต่ขอพาสาวๆ ไปด้วย

ระหว่างอยู่ที่ทะเลเด็กๆ เห็นครูทั้งสองแอบหวานใส่กัน ก็ลุ้นให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริงๆ ให้ได้ จึงทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่สื่อ สร้างเหตุบังเอิญให้สองคนนี้อยู่กับสองต่อสอง

เด็กทุกคนต้องประหลาดใจกับการฝึกแนวใหม่ของเตชิน นั่นคือ ตะกร้อชายหาดซึ่งเป็นเทคนิคที่ลุงหมอกแนะนำมาเพื่อฝึกกำลังขาเพราะพื้นทราย จะมีความหนืดจึงต้องใช้แรงมากกว่าเล่นตะกร้อบนพื้นธรรมดา ขณะที่ทีมของเตชินกำลังซ้อมกันอยู่พวกเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกชาวเลแถวนั้นเข้ามาท้าแข่งกับพวกของเตชิน เตชินนั่งดูวิธีการเล่นของเด็กๆ ชาวเลที่ตบลูกและเสิร์ฟลูกแรงและเร็วจนไม่สามารถจับทางได้ว่าจะมาไม้ไหนจน ทีมเตชินแพ้ราบคาบ เตชินจึงนำกลวิธีที่ชาวบ้านเล่นกันมาประยุกต์ใช้ กับการเล่นแบบสากลจนกลายเป็นการเล่นแบบใหม่และคิดว่าวิธีนี้ต้องปราบลูกตบ ซันแบ็กของทีม ประกาศิต ได้แน่ๆ

เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ เด่นดนัยก็พบว่าแม่ป่วยหนักเพราะต้องทำงานอยู่คนเดียว เขารู้สึกแย่มากที่ทอดทิ้งแม่ไป เขาจึงขอลาออกจากทีม การแข่งขันกำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เตชิน ต้องจัดตำแหน่งกันใหม่ โดยเอาโฟกัสมาแทน ฟีม คือตำแหน่งชง ส่วน ฟีม มาแทน เด่นดนัย คือตำแหน่งตบ ทั้งสามเล่นไม่ค่อยเข้าขากันต้องฝึกกันใหม่เพื่อให้เข้าที่เข้าทาง ทำให้ เตชิน กลุ้มใจมาก

เด่นดนัย นอกจากจะลาออกจากชมรมตะกร้อแล้วเขายังหยุดเรียนไปหลายวัน น้ำค้างรู้สึกเป็นห่วงจึงไปหาเด่นดนัยที่กำลังขายของชำในตลาดเพื่อนำเงินไป รักษาแม่ที่ป่วยอยู่ เด่นดนัยไม่อยากบอกเรื่องนี้กับใคร แต่น้ำค้างนำเรื่องนี้มาปรึกษาเตชินกับเปียโน ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปหาเด่นดนัยที่บ้านแต่ไม่พบ กลับเจอแต่ชื่นแม่ของเขาเท่านั้นที่นอนป่วยอยู่ เตชินกับเปียโนจึงพาชื่นส่งโรงพยาบาลและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด เตชิน และ เปียโนขอร้องให้เขากลับไปเรียนต่อ เพราะเสียดายอนาคตของเด่นดนัย

เปียโนศึกษาวิธีการเล่นเทนนิส ของนักกีฬาระดับโลกหลายๆ คน แล้วเอามาประยุกต์ใช้ให้กับไข่มุกและสีรุ้ง ยิ่งใกล้ถึงวันแข่งขันเปียโนก็ยิ่งกดดัน เพราะหลายคนตั้งความหวังไว้กับเธอสูงมากโดยเฉพาะ ผอ.ชาญวิทย์ และที่สำคัญเธออยากเป็นที่ยอมรับของทุกคนว่าไม่ใช่เธอจะสวยอย่างเดียว แต่ความสามารถก็มีพอตัว

และวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง การแข่งขันกีฬามัธยมแห่งชาติ ซึ่งเปียโนจะต้องพาเด็กๆ ของเธอแข่งในวันแรก ไข่มุกและสีรุ้งก็ตั้งใจเต็มที่เพื่อเป็นของขวัญให้กับเปียโน ทั้งคู่แข่งจนถึงนัดสุดท้าย และต้องมาเจอกับเด็กของครูอำนวย ซึ่งเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดแต่ปรากฎว่าผลการแข่งขันเปียโนสามารถนำชัย ชนะมาให้โรงเรียนชาญวิทย์จนได้ เด็กๆต่างใจดีและขอมอบรางวัลนี้เป็นที่ระลึกกับเปียโน

เสียงเชียร์กระหึ่มกึกก้องไปทั่วสนามกีฬาเซปัคตะกร้อ ทีมของเตชินเข้ามาถึงนัดสุดท้ายต้องมาเจอกับทีมของ ประกาศิต การแข่งขันทุกรอบ ธีระนาถ จะนำวงดนตรีไทยไปเชียร์เพื่อเป็นสีสันทำให้เกิดความฮึกเหิมและความตื่นเต้น มากขึ้น ลุงหมอกแต่งตัวเป็นลิเกเต็มยศเป็นหัวหน้านำเชียร์

การแข่งขันเริ่มขึ้นลูกตบล้อเกวียนของทีม เตชินไม่สามารถทำแต้มได้เลย เพราะฟีมไม่ได้ฝึกมาตั้งแต่แรก จึงทำให้ลูกพุ่งไปไม่แรงเท่าที่ควร เกมส์ล่วงเลยมาถึงปลายเซ็ตที่หนึ่งไม่มีท่าทีชนะทีมของประกาศิตได้เลย การแข่งขันตะกร้อมีการถ่ายทอดผ่านทางทีวีซึ่งเด่นดนัยนั่งดูอยู่ในโรงพยาบาล กับแม่ ชื่นสังเกตเห็นว่าลูกชายดูกระวนกระวายนั่งไม่ติดเก้าอี้อยากไปช่วยเพื่อนมาก เธอจึงขอให้เขาไปทำหน้าที่ของตนเอง

ช่วงกลางของเกมส์ที่สองฝ่ายประกาศิตทำแต้มขาดลอย จนกระทั่งเด่นดนัยมาถึง ทุกคนในทีมรวมทั้งเตชินต่างดีใจ เตชินจึงขอเปลี่ยนตัวโฟกัสออกแล้วเอาเด่นดนัยลงแทนในตำแหน่งตบส่วนฟีมมาเป็น ตัวชงเหมือนเดิม เกมส์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งฝ่ายประกาสิตรุกหนักกว่าเดิม ประเดิมด้วยลูกตบซันแบ็กแต่เด่นดนัยก็สามารถงัดลูกตบซันแบ็กได้ทุกครั้ง เสียงเชียร์ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเด่นดนัยกระโดดลอยตัวท่าล้อเกวียน ฟาดแข้งไปอย่างแรงจนฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถรับได้ ประกาศิตต้องขอเวลานอกเพื่อปรับกลยุทธ์ ตอนนี้ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ การแข่งขันเริ่มขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ทีมของเตชินเป็นฝ่ายรุกบ้าง โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายทำคะแนนได้เลย

เตชินดีใจที่เขาสามารถปราบลูกตบซันแบ็กได้สำเร็จ และได้เอาชนะความกลัวในใจจนหมดสิ้น เขาจะไม่นอนฝันร้ายอีกแล้ว ธีระนาถบอกกับเตชินว่า ถ้าหากคนเรามีความสามัคคีและมีสติในการแก้ปัญหา พลังที่สร้างสรรค์ก็จะเกิดขึ้นทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดี เตชินบอกกับเด็กๆ ทุกคนว่าถึงแม้วันนี้เราจะชนะและได้ถ้วยรางวัล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านั่นคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่เพราะสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั้น ก็คือรางวัลชีวิตต่างหาก เพราพวกเราได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาด้วยกันจนวันนี้เราประสบความสำเร็จร่วมกัน มีความรักความสามัคคี นี่แหละที่เขาเรียกว่ารางวัลชีวิต

ผอ.ชาญวิทย์ จัดงานเลี้ยงขอบคุณทั้งครูและนักกีฬาที่นำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน เมื่อเพลงบรรเลงขึ้น เตชินมาขอเต้นรำกับครูเปียโน ส่วนเด็กๆ ก็จับคู่เต้นรำและในคืนนี้เองเตชินได้บอกรักกับเปียโนท่ามกลางสักขีพยานใน คืนแห่งชัยชนะ

ใจร้าว

กรวิก (เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ซูเปอร์สตาร์หนุ่มผู้เย่อหยิ่ง แข็งกร้าว ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมระดับเอเชีย.. ความ สมบูรณ์แบบของเขาทำให้ถูกจับคู่กับเมลานี (วิกกี้-สุนิสา เจทท์) นักแสดงสาวดาวรุ่ง  แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะในวันประกาศรางวัล กลับมีหญิงสาวนิรนามมาแสดงความยินดีกับกรวิกต่อหน้าแฟนคลับและกองทัพนักข่าว นับร้อย..แถมสาวเจ้ายังเป็นลมล้มลงจนกรวิกต้องอุ้มพาเธอหายตัวไปต่อหน้าต่อ ตาทุกคน..

ช็อต เด็ดชวนเป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้มีหรือเจษฎา (ดุ๊ก-ภานุเดช วัฒนสุชาติ) นักข่าวมือเก๋าวงการน้ำหมึกจะยอมปล่อยให้หลุดมือ เจษฎาตามเกาะติดรถของกรวิกไปจนถึงที่หมาย.. ภัทร (มอริส เค) ผู้จัดการส่วนตัวของกรวิกต้องลงมาเจรจา แต่เจษฎาก็ไม่ยอมลดราวาซอกดันทุรังจนได้รัวชัตเตอร์ภาพในรถของกรวิก…
แต่อย่างว่าซูเปอร์สตาร์หนุ่มกับผู้จัดการตัวแม่ มีหรือจะปล่อยภาพไปได้ เจษฎาได้แต่ภาพความว่างเปล่าในรถ…ภัทรซ้อนแผนคิดแก้ทางเหล่าบรรดาปาปารัส ซี่ตัวแสบอย่างเจษฎาด้วยการให้สองบอดี้การ์ดแวะเปลี่ยนรถระหว่างทาง กรวิกและหญิงสาวในอ้อมแขนของเขาถึงหลุดรอดไปได้อย่างหวุดหวิด กรวิกพาเธอไปที่บ้าน…
…เขาวางเธอลงอย่างทะนุถนอม น้องเอย (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) หญิงสาวคนเดียวที่เคยเติมเต็มชีวิตของเขา ภาพความทรงจำวัยเยาว์ชัดเจนขึ้น น้องเอยคอยเช็ดตัวเมื่อยามป่วย น้องเอยคอยเป็นกำลังใจเวลาคิดถึงแม่ ความรัก ความอาทร ความห่วงหาอาลัยที่มีอยู่ล้นหัวใจกำลังทะลักทะลายออกมา แต่แว๊บนั้นภาพที่น้องเอยทิ้งเขาไปอย่างไร้เยื่อใยในวันที่เขาคิดจะขอเธอ แต่งงานโดยไม่บอกลาเขาแม้แต่คำเดียว ความอ้างว้าง ความโดดเดี่ยวทำให้เขากลายเป็นคนปิดตัว แข็งกระด้าง….และในนาทีนี้ที่เธออยู่ตรงหน้าเขา ความผิดหวัง ชอกช้ำแทรกซึมเข้ามาซ้ำอีก ทำไมเธอถึงทำกับเขาได้เพียงนี้…

ความ สับสนวิ่งวนในหัวสมองของกรวิก…และในนาทีนั้น น้องเอย ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับแววตาของความรัก แต่ก็ไม่สามารถตอบคำถามที่วนเวียนในสมองกรวิกมาตลอดแปดปีได้ว่า เอยทิ้งพี่วิกไปเพราะอะไร เขาทวงถามความยุติธรรม แต่เอยก็ไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้… กรวิกระบายความรัก ความเสียใจออกมาเป็นความแค้น เอยสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของกรวิกเมื่อแปดปีที่แล้วกับกรวิกซูเปอร์สตาร์ ผู้โด่งดังในวันนี้ เขาไล่เธออย่างไร้เยื้อใย เอยกลับไปด้วยความเศร้าแต่ก็ยังอยากจะทดแทนความรู้สึกผิดทั้งหมด… ภัทรและดวงแก้ว (ท๊อป-ดารณีนุช โพธิ์ปิติ) เจ้าแม่มายาต้นสังกัดกรวิก คิดทางออกของข่าวใหญ่ครั้งนี้ด้วยการให้กรวิกแถลงข่าวว่าน้องเอยเป็นเพียง แฟนคลับเท่านั้น… คำพูดตามสคริปท์ของกรวิก ทำร้ายจิตใจน้องเอยเหลือเกิน… แต่เธอก็ต้องก้มหน้ายอมรับกับความผิดที่เป็นฝ่ายทิ้งเขาไป… น้องเอยขอชดใช้ทุกอย่างด้วยการอยู่รับใช้กรวิก 1 ปีเต็มในฐานะผู้จัดการส่วนตัว…
…กรวิกจิกใช้น้องเอยสารพัดวิธี แต่น้องเอยยินยอมทำทุกอย่างโดยไม่เปิดปากบอกว่าความจริงที่เธอหนีหายไปจาก ชีวิตของเขาเพราะโรคร้ายของเธอ ลักษณ์ (น๊อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) นายแพทย์หนุ่มคู่หมั้นที่เดินทางกลับมาพร้อมกัน และคอยยืนเคียงข้างน้องเอยมาตลอด เป็นห่วงและกังวลใจเหลือเกิน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและสัญญาที่น้องเอยให้ไว้กับเขาว่าถ้าเธอชดใช้ให้กับ กรวิกได้สำเร็จ เธอจะเลือกเขาเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเธอตลอดไป แต่ไม่รู้ด้วยพรหมที่แกล้งลิขิตหรือฟ้าดลใจ ลักษณ์มักจะบังเอิญต้องได้พบปะ เจอะเจอและปะทะฝีปากกับเมลานีครั้งแล้วครั้งเล่า เมลานีเองก็แสนจะเกลียดที่ต้องเจอกับเขา…
แต่ ก็แอบตอบไม่ถูกกับความรู้สึกบางอย่างในหัวใจ กรวิกทำทุกวิธีเพื่อ ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจของเอย ทั้งๆ ที่ใจจริงแล้วอยากจะสวมกอดหญิงสาวด้วยความรักทั้งหมดที่มีอยู่จนล้นใจ…

แล้วยิ่งได้เห็นหมอลักษณ์มาคอยตามรับตามส่ง และเอาใจใส่น้องเอยมากเท่าไหร่ กรวิกก็ยิ่งสรรหาทุกวิถีทางถึงขนาดแกล้งทำเป็นรักเมลานี เพื่อทรมานใจเอย…โดยไม่รู้เลยว่าเมลานีรักเขาเข้าจริงๆ ซะแล้ว มิหนำซ้ำยังทำให้ทอปัด (นาตาลี เดวิส) เด็กสาวที่แอบหลงรักกรวิก ทั้งๆ ที่เขารับอุปการะเธอในฐานะน้องสาว  ขัดใจเอามากๆ…
…หมอลักษณ์ใช้เวลา ช่วงที่รอเอยชดใช้ความผิดกับกรวิก ด้วยการเข้าทำงานที่โรงพยาบาลของปราชญ์ (หมู-ดิลก ทองวัฒนา) ซึ่งมีปรัชญา (ลิฟท์-สุพจน์ จันทร์เจริญ) ลูกชายทำหน้าที่บริหารงาน แต่ปรัชญาก็ทำงานไม่ได้เรื่องได้ราว…เอาแต่เจ้าชู้ แถมยังแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแสงฉาย (เมย์ เฟื่องอารมย์) อดีตภรรยาของหมอลักษณ์อีกต่างหาก การดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษของปราชญ์ที่มีให้กับหมอลักษณ์ ทำให้ปรัชญาอิจฉาและค้นหาจนแอบรู้ความจริงจนได้ว่า ลักษณ์คือลูกชายแท้ๆ ของปราชญ์ ส่วนตัวปรัชญาเองกลับเป็นเพียงแค่ลูกติดท้องไม่ใช่ลูกแท้ๆ ความผิดหวังเสียใจ ผสมกับความเครียดแค้นทำให้ปรัชญาคิดร่วมมือกับแสงฉายที่อยากจะแก้แค้นเรื่อง น้องเอยแย่งหมอลักษณ์ สมรู้ร่วมคิดกันวาง แผนกำจัดหมอลักษณ์
ความ สัมพันธ์ของกรวิกกับเอยอยู่ในสายตาหาเรื่องสร้างข่าวของเจษฎาตลอดเวลา ในขณะที่ภัทรก็คอยกันเอาไว้ตลอดศกเหมือนกัน แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังแล้วดวงแก้วที่แสดงออกต่อหน้าใครต่อใคร ว่าคอยป้องกันกรวิกจากปาปารัสซี่หนักหนา กลับแอบลงทุนเปิดหนังสือปาปารัสซี่ให้เจษฎาออกหน้าและตามจิกข่าวกรวิกกับเอย ให้ถึงที่สุด ข้างทอปัดก็ออกฤทธิ์ออกเดชมากขึ้นทุกวัน แถมยังบังเอิญได้รู้จักกับเจษฎาจนได้เสียกันและตกเป็นเครื่องมือในการทำลาย ชื่อเสียงของกรวิกจนได้…
เอยป่วยหนักจากการกลั่นแกล้งของกรวิกจนกระทั่งต้องเข้าโรง พยาบาล กรวิกแสดงออกว่าโกรธที่เอยหายไป แต่ภายในใจที่ร้อนระอุนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง เที่ยวออกตามหาจนกระทั่งได้ข่าวว่าเอยป่วย เขาไม่สนใจความเป็นซูเปอร์สตาร์ของตัวเองออกตามหาที่โรงพยาบาลทุกแห่งแต่ก็ ไม่เจอ เขาเสียใจ สำนึกผิด หมดหวังบวกกับเหล่าแฟนคลับที่ตื่นตาตื่นใจกับการปรากฏตัวของเขา ทำให้ต้องตัดสินใจกลับ แต่ในความชุลมุนนั้นกรวิกได้ยินประกาศขอบริจาคโลหิตให้ผู้ป่วยฉุกเฉิน กรวิกตัดสินใจขอบริจาคโลหิตโดยไม่รู้ว่าผู้ป่วยฉุกเฉินที่จะรับเลือดของเขา ไปล่อเลี้ยงหัวใจที่ขาดแคลนคนนั้นคือเอย ลมหายใจต่อลมหายใจ เลือดจากหัวใจหนึ่งสู่อีกหัวใจหนึ่ง น้องเอยพ้นขีดอันตรายเพราะเลือดของพี่วิก…
ระหว่างพักฟื้นกรวิกก็ได้เจอกับหมอลักษณ์ที่มาขอบคุณผู้บริจาคโลหิตโดยไม่ รู้ว่าเป็นใคร…กรวิกคาดคั่นถามหาเอย…หมอลักษณ์ไม่ยอมบอก กรวิกยิ่งเข้าใจผิด…ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วมีเพียงม่านกั่นผู้ป่วยเป็นกำแพงระหว่างเขาและเธอเท่านั้น
เอยกลับ มาทำงานอีกครั้ง…กรวิกยิ่งระบายความเจ็บช้ำและความเข้าใจผิดมาก ขึ้นทุกที อาการป่วยของเอยก็ทรุดลงเรื่อยๆ จนหมอลักษณ์เป็นห่วงเอย ขอร้องให้หยุดทุกอย่างและกลับต่างประเทศกับเขา…จากวันแรกจนถึงวันนี้ เอยเริ่มคิดว่ากรวิกเกลียดเธอมากจริงๆ..และเห็นว่ากรวิกก็มีเมลานีคอยดูแล อยู่แล้ว

เอยตัดสินใจขอเป็นฝ่ายไป…และวางแผนพากรวิกไปทานข้าว มื้อพิเศษ ย้อนเรื่องราวประทับใจของเขาและเธอให้ได้มากที่สุดก่อนจะจากเขาไป ความรัก ความผูกพัน ความทรงจำที่มีอยู่เต็มเปี่ยมของทั้งสองคน ทำให้กรวิกเองก็เกือบจะเปิดเผยความจริงที่อยู่ในใจว่ารักและห่วงหาน้องเอย ของพี่วิกมากเพียงใด เขาตัดสินใจว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเขาจะใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่าและ ดีกับเธอให้มากที่สุด..

แต่ มันก็สายเกินไปเพราะวันรุ่งขึ้นเขาได้รู้ว่าเอยตัดสินใจบินกลับอเมริกา.. กรวิกเสียใจผิดหวังจนไม่สามารถที่จะทำใจได้ ทำไมเขาถึงต้องเสียเธอไปอีก ภาพที่เขาวิ่งตามหาเธอเมื่อหลายปีก่อนกำลังวิ่งวนเข้ามาทับถมให้หัวใจที่ ร้าวรานเจ็บช้ำอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมมันเกิดขึ้นอีก กรวิกพุ่งตรงไปที่สนามบิน… เสี้ยวนาทีต่อวินาที กรวิกวิ่งวนตามหาน้องเอยอย่างไร้ความหวัง ความอ้างว้าง เดียวดาย ทำให้น้ำตาของลูกผู้ชายอย่างเขาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่น่าเชื่อโชคชะตาของคนทั้งสองทำให้เอยปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา…
กรวิก ไม่ยอมทิ้งโอกาสครั้งนี้พาน้องเอยและหัวใจกับความรักของเขาหนีขึ้นรถไป …ปล่อยให้หมอลักษณ์งงงวยกับการหายตัวไปของเอย…หมอลักษณ์จับต้นชนปลาย เหตุการณ์ทั้งหมดตัดสินใจไปตามหาเอยที่เพนท์เฮ้าท์ของกรวิกแต่ก็ไม่เจอ กลับพบแต่เมลานีที่มาตามหากรวิกเหมือนกัน…

ทำ ให้ทั้งสองคนเริ่มเข้าใจอะไรตรงกันแต่ต่างก็ไม่พูด… แถมระหว่างที่พยายามออกตามหา กรวิกและน้องเอยนั้น สองคนกลับยิ่งรู้สึกดีต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผ่านเหตุการณ์ที่หมอลักษณ์ถูกล้อมฆ่าจากพวกของปรัชญา…ระหว่างนั้น กรวิกตัดสินใจพาเอยไปซ่อนที่เกาะส่วนตัว… และที่นั้นทำให้เอยรู้ว่าตลอดเวลาที่เธอจากไป เธอยังคงอยู่ในหัวใจของเขาเสมอ…
สองคน ใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีค่า หัวใจรักสองดวง ความโหยหา…จะนำพาให้เรื่องราวความรักที่ร้าวรานของ “กริวก” และ “น้องเอย” กลับตาลปัตรลงเอยด้วยหัวใจที่ร้าวรานได้อย่างไร ติดตามชมได้ในละครที่จะทำให้คุณต้องสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของ…“ใจร้าว ”

เจ้าหญิงลำซิ่ง

เจ้าหญิงขวัญวาริน รัชทายาทแห่งอาณาจักรเวียงสิงห์ เด็กสาวยุคใหม่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เธอจึงไปเรียนร้องเพลงโอเปร่าที่ยุโรป ด้วยความที่กำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เล็ก ขวัญวารินเลยต้องอยู่ในความดูแลของ เจ้าวิไลจรัส เจ้าป้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน และคิดจะฮุบสมบัติหลานสาวไว้เอง โดยบังคับให้เจ้าหญิงขวัญวารินแต่งงานกับ เจ้าภาสกร ลูกชายที่ชอบเอาแต่ใจของเธอ แต่ขวัญวารินก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด พอสบโอกาสเธอจึงหนีมาเมืองไทยพร้อมกับ รัศมี องครักษ์หญิงคนสนิทที่เอ็นดูเจ้าหญิงเหมือนน้องสาวแท้ๆ พอ นายพลเดชา พ่อของรัศมีรู้เข้า

จึงให้ 2 สาวไปพักอยู่กับ สุชาติ ลูกน้องเก่าคนสนิทที่อยู่เมืองไทย ชีวิตอิสระในเมืองไทยทำให้เจ้าหญิงเพลิดเพลินจนไม่ได้ระวังตัว เธอเลยถูกลอบสังหารแต่รัศมีปกป้องเจ้าหญิงไว้ได้จนตัวเองบาดเจ็บ ทำให้ทั้งคู่ต้องพลัดหลงกัน เจ้าหญิงขวัญวารินรีบไปขอความช่วยเหลือที่สถานฑูตเวียงสิงห์ แต่กลับพบว่าเจ้าภาสกรได้ยึดอำนาจที่เวียงสิงห์ไปแล้ว แถมยังส่งมือสังหารมาฆ่าเธอ แล้วแถลงการณ์ว่ารัศมีเป็นคนลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิง เมื่อรู้ข่าวนี้เธอจึงหลบหนีจนมาถึงงานวัดแห่งหนึ่งด้วยท่าทีแปลกๆ ทำให้ นาวี เข้าใจผิดว่าเป็นพวกวิ่งราวกระเป๋า เขาเลยจับตัวเธอส่งให้มือสังหารที่คิดว่าเป็นเจ้าทุกข์

เจ้าขวัญวา รินจึงต้องหนีตายอีกครั้ง ทำให้เธอได้เจอนาวีอีกและครั้งนี้เขาต้องตกบันไดพลอยโจนพาขวัญวารินหนีซะเอง ระหว่างการหลบหนีเจ้าหญิงขวัญวารินได้ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม นาวีสงสารทิ้งไม่ลงเลยต้องพาเธอมาอยู่ที่คณะหมอลำซิ่งด้วย โดยโกหกทุกคนว่าวารินเป็นน้องสาว ครูเสน่ห์ เจ้าของคณะหมอลำซิ่งและมีศักดิ์เป็นลุงของนาวีเลยรับเธอเข้าทำงาน วารินรับหน้าที่เป็นลูกมือ ป้าอ่อน ช่างเย็บชุดนักแสดงในคณะทำให้เธอรู้จัก ไอ้จ้อย ลูกชายขี้โม้ของป้าอ่อน ถึงจ้อยจะโผงผาง โวยวายเก่ง แต่นาวียังไว้ใจให้เป็นมือขวาคอยช่วยงานเขาในคณะด้วย

ป้าอ่อนมีเชื้อ สายคนเวียงสิงห์ พอเห็นแหวนที่มีตัวอักษรแปลกๆ และลายปักผ้าของวารินก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นคนเวียงสิงห์แน่ๆ แต่ที่ทุกคนไม่ค่อยไว้ใจขวัญวาริน เพราะเธอชอบทำตัวแปลกๆ รสนิยมเวอร์เกินฐานะ แถมชอบทำตัวเป็นคุณหนูชี้นิ้วใช้คนอื่น ทำให้ หวาน ลูกมืออีกคนของป้าอ่อนหมั่นไส้ พาลให้คิดว่าวารินเป็นสปายที่หมอลำวงอื่นส่งมาสอดแนม ขนาดนาวีเองยังไม่ไว้ใจคอยจับผิดเธอเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ รจนา นักร้องหญิงของวงที่ชอบนาวีอยู่ก็พลอยไม่ชอบหน้าวารินไปด้วย เธอเลยร่วมมือกับ กำไล หัวหน้าแดนซ์เซอร์คู่ซี้โขกสับขวัญวารินสารพัด หนักๆ เข้าถึงขั้นรุมสกรัมวารินกลางบ้านสาวิกา ไชยเดช แสดงเป็น เจ้าหญิงขวัญวาริน ( วาริน )

แต่ ถูกวารินจัดการซะอยู่หมัด รจนาเลยเปลี่ยนแผนใส่ความกับครูเสน่ห์และทุกคนว่าถูกวารินทำร้าย นาวีที่เป็นผู้จัดการวงเลยต้องลงโทษเฆี่ยนน้องสาวด้วยตัวเอง วารินโกรธและน้อยใจที่นาวีเชื่อคนอื่นมากกว่า เธอหักไม้เรียวแล้วหนีออกจากบ้านไป จนเกือบถูกนักเลงลากไปข่มขืน โชคดีที่นาวี จ้อย และ น้าเขียด มือขวาคนสนิทของครูเสน่ห์ช่วยไว้ทัน ทว่าแผนร้ายของรจนากับกำไลที่จะกำจัดวารินยังไม่จบแค่นี้ พวกเธอให้ ชำนิ คู่ขากำไลคอยหาเรื่องวารินอีกแรง แต่ก็ได้ สายชล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครูเสน่ห์กับนาวีคอยปกป้องไว้ได้ทุกครั้ง และระหว่างนั้นรัศมีองครักษ์ที่พลัดหลงกัน

ก็ตามมาสมทบกับเจ้าหญิง ขวัญวารินด้วย ทั้งคู่ตัดสินใจซ่อนตัวอยู่กับคณะลำซิ่งแห่งนี้ จนกว่าเรื่องวุ่นวายในเวียงสิงห์จะยุติ รัศมีจึงช่วยกำหราบชำนิกับกำไลจดอยู่หมัด ขนาดไอ้จ้อยว่าแน่ๆ ยังต้องยอมเป็นเบ๊ เพราะทึ่งในฝีมือการต่อสู้ของรัศมี ผิดกับสายชลที่ไม่ชอบท่าทางห้าวๆ ของเธอ พอๆ กับที่รัศมีก็หมั่นไส้มาดขี้เก๊กของสายชลเช่นกัน ต่อมาไม่นานเศรษฐกิจของคณะเสียงเสน่ห์เริ่มตกต่ำ เพราะสังคมส่วนใหญ่มองคณะลำซิ่งเป็นพวกโชว์อนาจาร หรือไม่ก็เป็นเธคเคลื่อนที่ เนื่องจากคณะลำซิ่งทั่วไปทำเสียชื่อเสียงไว้ คณะเสียงเสน่ห์เลยพลอยไม่มีคนจ้างงานไปด้วย

ทำให้ครูเสน่ห์เคลีย ดหนักล้มป่วยบ่อย ชาวคณะก็พากันลาออกหนีตายไปทำงานที่อื่น ด้านรจนาก็ถือว่าตัวเองเป็นแม่เหล็กของวงเลยฉวยโอกาสโก่งค่าตัวไปด้วย พอนาวีไม่ยอมจ่ายรจนาก็แกล้งมาขึ้นเวทีสาย บางครั้งก็ประชดด้วยการวอล์คเอาท์ไม่ขึ้นแสดงเอาดื้อๆ ก็มี ทำให้คนดูไม่พอใจที่ต้องรอนาน วารินเลยกู้วิกฤตด้วยการขึ้นร้องเพลงคู่กับสายชลแทนรจนา เธอทั้งร้อง ทั้งเต้น สุดฝีมือ เรียกเสียงเฮจากคนดูเกินคาด ขนาดครูเสน่ห์กับนาวียังออกปากชม น้าเขียดถึงกับประกาศบนเวทีว่า “วาริน เสียงเสน่ห์” เป็นหมอลำดาวรุ่งดวงใหม่ของคณะ

จากนั้นครูเสน่ห์ก็ ตัดสินใจปั้นขวัญวารินเป็นหมอลำประจำวง แถมครูยังส่งให้เธอกับนาวีไปเรียนวิชาหมอลำกับเพื่อนสนิทที่โคราช แต่พอทั้งคู่ไปถึงก็พบว่าเพื่อนครูเสน่ห์เสียชีวิตไปแล้ว ภรรยาของเขาเลยฝากเอกสารสำคัญกับทั้งคู่มาให้ครูเสน่ห์ พร้อมเล่าอดีตที่ครูทั้งสองสร้างวงหมอลำมาด้วยกัน สายชลกับวารินมีแรงฮึดขึ้นโชว์บนเวทีท่ามกลางความภูมิใจของครูเสน่ห์อีก ครั้ง ทั้งคู่โชว์หมอลำซิ่งเต็มที่จนครองใจบรรดาแฟนเพลงสำเร็จ ทำให้รจนาตกกระป๋องแค่ข้ามคืน รจนาจึงคิดจะชิงเรตติ้งคืนด้วยการแต่งตัวโป๊ และหาวิธีสกปรกกลั่นแกล้งวารินเช่นเคย

ธีรวีร์ อัศวศิริชัยกุล แสดงเป็น สายชลแต่ รัศมีกับนาวีรู้แกวซะก่อนเลยช่วยวารินไว้ได้ รจนาเลยให้ชำนิกับกำไลลักพาตัววาริน แล้วบอกทุกคนว่าวารินหนีไปอยู่กับคณะอื่น แต่รัศมีไม่เชื่อจับพิรุธจนรจนายอมสารภาพ รจนาแสร้งตีหน้าเศร้าขออโหสิกรรมกับทุกคน ครูเสน่ห์ใจอ่อนไม่แจ้งความ แต่แค่ไล่รจนากับพวกออกจากคณะ หลังเรื่องวุ่นๆ นาวีคิดวางแผนกอบกู้ชื่อเสียงของหมอลำซิ่งด้วยการออกอัลบั้มใหม่ แต่พวกเค้าไม่มีทุนนาวีเลยคิดจะไปพึ่ง เสี่ยอำนวย เจ้าของค่ายเพลงอีกครั้ง เสี่ยได้แนะนำให้นาวีรู้จักกับ กวิน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน และให้กวินเป็นคนดูแลโปรเจกท์นี้แทน แค่เจอวารินครั้งแรกกวินก็หลงเสน่ห์จนปลุกปล้ำเธอ

โชคดีที่สายชลกับ นาวีพาวารินหนีไปก่อน กวินแค้นมากจึงหันไปปล้ำและปั้นรจนาแทน หนำซ้ำรจนายังปล่อยข่าวว่าวารินเป็นเมียกวิน จนไม่มีค่ายเพลงไหนยอมปั้นวาริน แต่จู่ๆ สถานการณ์ก็พลิกผัน เมื่อวารินบังเอิญไปช่วย พนิดา ลูกสาวเจ้าของค่ายเพลงคู่แข่งของกวินที่ถูกรุมทำร้าย พนิดาซาบซิ้งน้ำใจวารินมากจึงวิ่งเต้นให้เธอได้ออกเทปสมใจ กวินกับรจนาเลยคิดจะปล่อยข่าวใส่ร้ายวารินอีก แต่ครูเสน่ห์รู้ทันเลยหาทางให้วารินได้แก้ข่าวผ่านสื่อ เหตุการณ์นี้ทำให้วารินดังชั่วข้ามคืนพร้อมๆ กับอัลบั้มเพลงชุดใหม่ของคณะเสียงทองที่กำลังวางตลาด กวินแค้นใจสุดๆ เลยทุ่มโปรโมทรจนาสุดตัว

ด้วยการเปิดคอนเสิร์ตประชันกับคณะเสียงทอง แต่วารินไม่หวั่นเพราะครูเสน่ห์และทุกคนในคณะเสียงทองให้กำลังใจ เมื่อถึงเวลาวารินโชว์ลีลาสุดฤทธิ์จนได้ใจแฟนๆ มาครอง แถมยังขึ้นแท่นเป็นราชินีหมอลำคนใหม่อีกด้วย ชัยชนะครั้งนี้นำมาซึ่งชื่อเสียงและเงินทอง แต่วารินไม่เคยฟุ่มเฟือยซ้ำยังเอาเงินไปช่วยเหลือคนยากไร้ ทุกคนเลยขนาดนามเธอว่า “เจ้าหญิงลำซิ่ง” ตรงข้ามกับพวกกวินที่หมดเนื้อหมดตัว รจนาก็ได้แต่กินเหล้าเมาจนไปมีอะไรกับชำนิ ทำให้กำไลฟิวส์ขาดตัดขาดกับรจนา แถมยังเอาข่าวฉาวนี้ไปขายให้หนังสือพิมพ์จนรจนาเสียชื่อ ขนาดกวินกับชำนิยังตีตัวออกห่าง

รจนาแค้นจัดบุกไปยิงวาริน แต่สายชลปกป้องเธอจนตัวเองบาดเจ็บ แต่สุดท้ายรจนาก็โดนตำรวจรวบตัวจนได้ วารินรู้สึกเป็นหนีบุญคุณสายชล เธอจึงคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด พนิดาคิดว่าทั้งคู่ชอบกันเลยปล่อยข่าวรักโปรโมทจนนาวีหึง บวกกับที่พนิดาแอบชอบนาวีทั้งคู่จึงได้ใกล้ชิดกัน ด้านกวินที่หนีหนี้ไปอยู่เวียงสิงห์เลยได้เจอเจ้าวิไลจรัสโดยบังเอิญ กวินได้ทำงานเป็นคนดูแลมหรสพวันขึ้นครองราชย์ของเจ้าภาสกร พอได้เข้านอกออกในวังบ่อยๆ เลยเห็นรูปเจ้าขวัญวาริน กวินขายข่าวนี้ให้เจ้าภาสกรทันที ขณะนั้นรัศมีก็ช่วยให้วารินกับนาวีได้ปรับความเข้าใจกัน

โดยให้นาวีแต่งเพลงรักง้อวารินได้สำเร็จ ไม่นานเจ้าภาสกรก็ให้คนมาจับวารินไปและฆ่ากวินปิดปาก ทำให้สถานการณ์ในณัฏฐินี เจียรวนนท์ แสดงเป็น รัศมีเวียง สิงห์เปลี่ยนแปลง เพราะประชาชนออกมาต่อต้านเจ้าภาสกร เจ้าวิไลจรัสจึงจะจับลูกชายแต่งงานกับวารินเพื่อลดกระแสแข็งข้อทั้งหมด รัศมีกับนาวีจึงเสี่ยงตายไปช่วยเจ้าขวัญวารินในวัง แต่ทั้งคู่พลาดถูกเจ้าวิไลจรัสจับได้ เจ้าขวัญวารินจำใจอภิเษกกับภาสกร เพื่อแรกกับอิสรภาพของคนที่เธอรักถึงสองคน เมื่อชีวิตของเจ้าหญิงขวัญวารินถึงทางตัน เธอจะหาทางออกให้กับตัวเองยัง? ตามให้กำลังใจเธอได้ในละคร “เจ้าหญิงลำซิ่ง”

รายชื่อนักแสดง เจ้าหญิงลำซิ่ง

วงศกร ปรมัตรถากร แสดงเป็น นาวี
สาวิกา ไชยเดช แสดงเป็น เจ้าหญิงขวัญวาริน ( วาริน )
ธีรวีร์ อัศวศิริชัยกุล แสดงเป็น สายชล
ณัฏฐินี เจียรวนนท์ แสดงเป็น รัศมี
อรรคพันธ์ นะมาตร์ แสดงเป็น เจ้าภาสกร
อรวรรษา ฐานวิเศษ แสดงเป็น รจนา
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น กำไล
สุรัตนา ข้องตระกูล แสดงเป็น เจ้าวิไลจรัส
ทนงศักดิ์ ศุภกร แสดงเป็น นายพลเดชา

จิ๋วแจ๋วจริงใจ

พราว (ส้ม – ธัญสินี พรมสุทธิ์) เด็กสาวกำพร้า ที่ได้รับการอุปการะจาก ครูแสงดาว (ต้อม – รชนีกร พันธุ์มณี) คุณครูสอนนาฏศิลป์ผู้อารีแห่งชุมชน ลานดอกหญ้า พราวถวิลหาความรักและไออุ่นจากครอบครัว แต่ครูแสงดาวก็เลี่ยงที่จะแสดงความรู้สึกแบบตรงๆ พราวจึงแสดงออกโดยการแก่นเซี้ยวและเป็นหัวโจกของชุมชนโดยมี กระเป๋า (ปอย – ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ปลาทู (ด.ช. ศิลปิน อยู่หน้า) และ ปูม้า (ด.ญ. ภูษณิศา ปิติธนสารสมบัติ) เป็นสมาชิกร่วมขบวนการ โดยมีคู่ปรับคนสำคัญคือ เฮียกุ่ย (โอ – วรุฒ วรธรรม) นายทุนเงินกู้ประจำชุมชน

วันหนึ่งพราวเกือบทำไฟไหม้ชุมชน ครูแสงดาวจึงให้ข้อคิดกับพราวโดยใช้ปมด้อยผลักดันทำสิ่งดีให้กับสังคม พราวและเพื่อนๆ จึงก่อตั้งกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ปลุกจิตสำนึกเยาวชนให้ทำความดี

คืนหนึ่งกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ได้ไปช่วยชายหนุ่มผู้ประสบอุบัติเหตุโดยบังเอิญ เขาได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองจนความจำเสื่อม ครูแสงดาวจึงให้ความช่วยเหลือด้านที่พัก ทุกๆคนในชุมชนเรียกเขาว่า บังเอิญ (เขตต์ ฐานทัพ) บังเอิญได้ช่วยปรับปรุงสวนผัก, เล้าหมู, เล้าไก่ รวมถึงยังช่วยวินิจฉัยโรคต่างๆ ให้กับคนในชุมชนราวกับเป็นนายแพทย์ใหญ่ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือเขามีพื้นฐานทางด้านนาฏศิลป์อย่างดี จนได้เป็นพระเอกประจำคณะนาฏศิลป์ของครูแสงดาวอีกคน

บริษัท อสังหาริมทรัพย์ ข้ามชาติ โดย วันวิทู (สอง – นพเก้า โกเจริญกิจ) เข้ามากว้านซื้อที่ดินในแถบชุมชนลานดอกหญ้า ไปพัฒนาเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ โดยคนในชุมชนดอกหญ้าต้องย้ายออกไปภายใน 1 เดือน บังเอิญ, พราว, ครูแสงดาว และกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” จึงร่วมกันตระเวนเปิดการแสดงเพื่อหาเงิน จำนวน 100 ล้านบาท มาซื้อที่ดินคืน ด้วยความตั้งใจของกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” และแรงใจจากประชาชน สุดท้ายกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ก็หาเงินได้ครบตามกำหนด

ในวันที่ บังเอิญ และ พราว นำเงินไปให้ วันวิทู เฮียกุ่ย กับพวกได้มาปล้นเงินและเผาเงินทั้งหมด บังเอิญ ต่อสู้ กับ เฮียกุ่ย แล้วพลาดหัวกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เขาจำได้ว่าเขาคือ วันดนู พี่ชาย ต่างมารดาของ วันวิทู แต่เขาจำเหตุการณ์ทั้งหมดที่ชุมชนลานดอกหญ้า และพราวไม่ได้ เขา กับ วันวิทู ยังคงเดินหน้าจะยึดชุมชน ลานดอกหญ้า ต่อไป พราว ครูแสงดาว และผู้คนในชุมชนดอกหญ้าได้แต่เฝ้ามองวันที่ชุมชนลานดอกหญ้าจะถูกยึด

วันสุดท้าย ของชุมชน ลานดอกหญ้า ก่อนที่จะถูกแปรสภาพไปเป็น แหล่งเศรษฐกิจใหม่ พราว ครูแสงดาว และ กลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” เปิดการแสดงเป็นการอำลาให้กับชุมชนลานดอกหญ้า บังเอิญที่วันดนูผ่านมาพอดี เสียงระนาดและปี่พาทย์ดึงความทรงจำที่สูญหายไป ณ ชุมชนแห่งนี้กลับมา

ในวันแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน ทั้งไทย และ ต่างประเทศ วันดนูไปประกาศว่าแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ชุมชน ลานดอกหญ้า ยังอยู่ตามเดิม วันดนูหรือนายบังเอิญของชาวชุมชนลานดอกหญ้าก็ยังคงกลับมาเป็นสมาชิกกลุ่ม “จิ๋วแจ๋วจริงใจ” ตามเดิม รวมถึงยังคงเล่นนาฏศิลป์ กับพราวในทุกอาทิตย์ตามชุมชนต่างๆ รวมทั้งมุ่งมั่นทำความดีต่อเนื่องโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พร้อม ๆ กับสานความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อไป

นักแสดงละคร จิ๋วแจ๋วจริงใจ

รัชนีกร พันธ์มณี     ครูแสงดาว
เขตต์ ฐานทัพ     บังเอิญ (วันดนู)
วรุฒ วรธรรม     เฮียกุ่ย
ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา     กระเป๋า
นพเก้า โกเจริญกิจ     วันวิทู
ด.ช.ศิลปิน อยู่หน้า     ด.ช.ปลาทู
ด.ญ.ภูษณิศา ปิติธนสารสมบัติ     ด.ญ.ปูม้า
รุ่งทอง ร่วมทอง     เพ็ญ (แม่กระเป๋า)
เกริก ชิลเลอร์     สว่าง
วิทยา เจตะภัย     ลุงเดช
วีระชัย หัตถ์โกวิท     ห้อย
แจ๊ด เชิญยิ้ม     โหน

จำเลยรัก 2551

หฤษฎ์ รังสิมันตุ์ ชายหนุ่มเจ้าของเหมืองแร่ใหญ่ทางภาคใต้ เกิดความแค้นเป็นที่สุดเมื่อ หริณ รังสิมันตุ์ น้องชายของเขาฆ่าตัวตาย โดยสาเหตุก็คือ ศันสนีย์สาวสวยรวยเสน่ห์ และยังเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ พระยาและคุณหญิงศุภอรรจน์

ศันสนีย์ ศุภอรรจน์ คือสาวสังคมที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆมากมาย เพราะเธอมีเรือนร่างที่สวยงาม เปรี้ยวเฉียว และชาติตระกูลที่ดี จึงทำให้หนุ่มๆ พากันหลงใหลและหนึ่งในนั้นก็คือ หริณชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยหลงรักหญิงสาวที่ชื่อ โสรยา หญิงสาวผู้อาภัพ ที่ต้องสูญเสียบิดาตั้งแต่อายุห้าขวบ แถมบิดาก็เป็นแค่ข้าราชการชั้นผู้น้อย จึงไม่ได้ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้กับมารดาของเธอ การเลี้ยงลูกที่อยู่ในวัยกำลังกำลังนอนถึงสามคน จึงเป็นภาระสำคัญสำหรับมารดาเธอมาก ดังนั้นคุณหญิงผู้เป็นน้องสาวแท้ๆ ของมารดาจึงขอโสรยามาเลี้ยงไว้ เพื่อเป็นเพื่อนเล่นกับ ศันสนีย์ ศุภอรรจน์

ในช่วงเวลานั้น หริณเป็นแฟนกับโสรยา แต่เมื่อหริณได้มาเจอกับศันสนีย์ ก็เปลี่ยนใจมาหลงรักศันสนีย์แทน แต่โสรยาก็ไม่เคยคิดแค้นแต่อย่างใด เธอคิดเพียงว่าหากได้ทดแทนพระคุณของผู้มีพระคุณก็เพียงพอแล้ว โสรยายอมเป็นฝ่ายเจ็บปวด เพื่อให้ ศันสนีย์ มีความสุขกับหริณ แต่แล้วศันสนีย์ก็เกิดเบื่อหริณขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้เป็นเพราะฐานะชาติตระกูลของหริณนั้นเทียบไม่ได้เลยกับตระกูลศุภ อรรจน์ ศันสนีย์จึงปฏิเสธหริณอย่างไม่มีเยื่อใยและลบหริณออกจากความทรงจำ แล้วหันไปรับหมั้นกับ ธวัชชัย ชายหนุ่มที่เพียบพร้อมไปด้วยฐานะ ความรู้ และชาติตระกูล ซึ่งน่าจะทำให้ชีวิตของศันสนีย์สุขสบายในอนาคต

แต่เมื่อวันหนึ่งสาวใช้ในบ้านยื่นนาม บัตรของชายหนุ่มที่มาขอพบศันสนีย์ถึงหน้าบ้าน ชายคนนั้นคือ หฤษฏ์ รังสิมันตุ์ พี่ชายของ หริณ เขามาขอพบเพื่อเคลียร์ปัญหาของน้องชาย ศันสนีย์ไม่อยากพบหน้า จึงขอให้โสรยาไปรับหน้าหฤษฏ์แทน ทันทีที่ หฤษฏ์พบโสรยา ก็เข้าใจผิดว่าเป็นศันสนีย์ จึงจับตัวโสรยาไปกักขังไว้ที่กระท่อมกลางป่าโดยมีนายใบ้เป็นคนดูแล เพื่อต้องการให้ล้างแค้นและให้ชดใช้ความผิดในการที่ทำให้หริณฆ่าตัวตาย แต่หฤษฎ์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นหญิงคนที่ลักพาตัวมา สามารถทำอาหารและงานบ้านอื่นได้อย่างชำนาญผิดกับสิ่งที่เขาเคยทราบว่า ศันสนีย์เป็นสาวไฮโซที่ทำอะไรจำจด

นานวันเข้าหฤษฎ์ใจอ่อนและเกิดความรัก ขึ้นกับโสรยาในนามของศันสนีย์  จนทำให้บุญทายภรรยาที่เคยนอกใจของหฤษฎ์ ไม่พอใจแอบวางแผนให้นายใบ้ปล้ำโสรยา แต่โชคดีที่ หฤษฎ์มาช่วยไว้ได้ทัน และขับไล่บุญทายออกไปจากชีวิตของเขา

ด้วยความรักที่ก่อตัวขึ้นในใจและสงสาร หฤษฎ์จึงตัดสินใจปล่อยตัวโสรยาไป ส่วนโสรยานั้นก็ถึงแม้ต้องจากหฤษฎ์ไปก็ไปเพียงแต่ตัว เพราะหัวใจของโสรยาที่หฤษฎ์คิดว่าเป็นศันสนีย์นั้นตกเป็นจำเลยรักของหฤษฎ์ไป หมดแล้ว
เวลาผ่านไปจนวันหนึ่ง ศันสนีย์ได้พบกับหฤษฎ์ก็หลงรักทันที เธอจึงตัดสินใจทิ้งคู่หมั้นอย่างธวัชชัยโดยไม่ลังเล เหมือนครั้งที่เธอทำกับหริณ หฤษฎ์เองพอทราบว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงที่เขาลักพาตัวไปคือโสรยาซึ่งเป็นน้อง สาวแสนดีของศันสนีย์ ก็ยอมเข้ามาพัวพันกับศันสนีย์เพราะหวังที่จะแก้แค้นแทนน้องชาย จนเมื่อความจริงปรากฏศันสนีย์จึงไม่เหลือใครอยู่เคียงข้างกายแม้เพียงสักคน ศันสนีย์จึงหันกลับไปหาธวัชชัย ซึ่งธวัชชัยก็พร้อมที่จะให้อภัยศันสนีย์ทุกอย่าง  ส่วนหฤษฎ์ก็สามารถปรับความเข้าใจกับโสรยา หญิงสาวที่เขารักอย่างสุดหัวใจได้ในที่สุด

นักแสดงละคร จำเลยรัก
อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น หฤษฎ์
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ แสดงเป็น โศรยา
รินลณี ศรีเพ็ญ แสดงเป็น ศันสนีย์
ชาตโยดม หิรัณยักษฐิติ แสดงเป็น ธวัชชัย
สุคนธวา เกิดนิมิตร แสดงเป็น บุญทาย
คงกระพัน แสงสุริยะ แสดงเป็น ใบ้
กมลา กำภู ณ อยุธยา แสดงเป็น ชนิดา
รุ่งเรื่อง อนันตยะ แสดงเป็น หริณ