กรงกรรม

กรงกรรมเรื่องย่อ กรงกรรม

ในปี พ.ศ. 2510 ย้อย เจ้าของกิจการร้านค้าและโรงสี เธอแต่งงานกับเจ๊กเซ้ง และได้มีลูกด้วยกัน 4 คนคือ ปฐม ประสงค์ กมล และมงคล ย้อยเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการคนในครอบครัว

ปฐม ลูกชายคนโต ได้กลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากที่ไปเป็นทหารที่ตาคลี และพาหญิงสาวชื่อเรณูมาด้วย เพราะเธอบอกว่าเธอได้ท้องกับปฐม เรณูเป็นสาวขายบริการในบาร์ ย้อยจึงไม่พอใจ เพราะนอกจากที่ปฐมจะพาหญิงขายบริการเข้าบ้าน  ปฐมก็ยังมีคู่ที่หมั้นหมายกันไว้อยู่แล้ว คือพิไล ลูกสาวเถ้าแก่โรงสี ที่เพียบพร้อมทั้งฐานะหน้าตาและการศึกษา ย้อยไม่อยากให้พิไลมาอยู่ในบ้านเดียวกัน จึงจะให้ไปอยู่บ้านในตรอกที่ตนไปจำนองมา ย้อยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการจับให้ ประสงค์ ที่บวชอยู่วัดสึกออกมาแต่งงานกับพิไลแทน แต่ประสงค์นั้นไม่อยากแต่งงานเพราะเขาชอบจันตาลูกจ้างร้านสังฆภัณฑ์ แต่ก็ไม่อาจขัดใจแม่ได้  ย้อยรีบไปบอกพิไล แต่พิไลก็ยื่นข้อเสนอว่าขอสินสอดใหม่ทั้งหมดและเรื่องค่าจัดงาน ย้อยต้องเป็นคนรับผิดชอบ

เมื่อถึงฤกษ์แต่งงาน ย้อยได้ไล่เรณูไปอยู่ที่บ้านหลังโรงสี และเอาบ้านที่อยู่ในตรอกให้เป็นเรือนหอของประสงค์และพิไลแทน หลังจากที่เรณูได้ถูกย้ายไปที่ใหม่ เธอก็ได้สร้างกระท่อมเล็กๆขึ้นมาใหม่เพื่อไว้ใช้ทำขนม โดยได้ความช่วยเหลือจาก เจ๊กเซ้งและกมล

มงคลได้ไปเรียนที่ปากน้ำโพ เขาได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ชุมแสง จนบังเอิญเจอวรรณาซึ่งเป็นน้องสาวของเรณูที่เธอเรียนตัดเย็บอยู่ มงคลจีบวรรณาตามประสาคนเจ้าชู้ วรรณาได้มาตามเรณูกลับบ้าน เพราะแม่ของเธอ เรไร กำลังป่วยหนัก เมื่อเรณูรู้ข่าวเธอจึงได้ไปเยี่ยมแม่ทันที หลังจากที่ได้สั่งเสียกันเสร็จ แม่ของเธอก็สิ้นลม เรณูจัดการเรื่องงานศพแม่อยู่ 3 วัน  หลังจากที่แม่เสีย เรณูก็ตั้งใจว่าจะเอาป๊อก ลูกของเธอที่เกิดจากการโดนพี่เขยข่มขืนไปอยู่ด้วยกัน แต่ป๊อกก็ขออยู่กับหลวงพ่อที่วัด

ย้อยได้ไปที่กฤชและได้แวะพักที่ปากน้ำโพหนึ่งคืน และบังเอิญไปได้ยินคนในตลาดคุยกันเรื่องเรณูนั้นมีลูกมาก่อนแล้ว ย้อยโมโหมากที่เรณูมาหลอกลูกชายของตน เมื่อกลับชุมแสงก็ได้เอากุญแจล็อคบ้านหลังโรงสีของเรณูทันที เรณูกลับมาเข้าบ้านไม่ได้ เรณูจึงได้ไปขอกุญแจจากย้อยแต่ย้อยก็ไม่ให้บอกพรุ่งนี้ค่อยมาเอา เรณูไม่มีที่นอนเธอจึงได้ไปขอนอนที่บ้านของจันตาหนึ่งคืน พอเช้าตรู่ก็รีบออกมาที่หน้าร้านของย้อยแต่เช้า แสร้งทำว่าเธอนั้นนอนอยู่หน้าบ้านของย้อยทั้งคืนเพื่อให้ชาวบ้านเห็นใจสงสาร และต่อว่าย้อยว่าใจดำกับคนท้อง ไม่นาน เรณูก็ปล่อยข่าวว่าเธอแท้ง เพราะทำงานหนักจนลื่นล้ม ย้อยไม่เชื่อและอยากจะกำจัดเรณูให้เร็วที่สุด

เมื่องานแต่งงานของประสงค์และพิไลผ่านไป ทั้งสองก็ได้ย้ายไปอยู่บ้านในตรอกของย้อย  พิไลได้จ้างคนมาทำงานบ้าน เพราะเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ป้อมและบุญปลูก สองพี่น้องทำงานอยู่ร้านย้อยนึกสงสารประสงค์ จึงได้เข้ามาช่วยทำงานบ้านอยู่บ่อยครั้ง

เพื่อนที่เคยทำงานกับเรณูในบาร์อย่างประนอมและติ๋มมาทำธุระที่ชุมแสง เรณูได้เล่าชีวิตของเธอให้เพื่อนฟัง เมื่อติ๋มได้ฟังเรื่องราวของเพื่อนที่ถูกนางย้อยรังแก ก็ได้แนะนำเรณูให้ทำเสน่ห์ใส่ย้อย เหมือนที่เคยได้ทำใส่ปฐม เมื่อย้อยเห็นเรณูพาเพื่อนที่ขายบริการมาบ้าน ก็ตามไปด่าถึงบ้าน เธอจึงได้รู้ว่าปฐมนั้นโดนทำเสน่ห์ ย้อยให้ป้อมหาหมอมาช่วยแก้ จึงนั่งเรือไปหาหมอฝีมือดีที่เกยไชย เมื่อหมอได้ตรวจดูแล้วก็พบว่าปฐมนั้นโดนเสน่ห์จริง และบอกว่าถ้าอยากจะแก้ต้องพาปฐมมาด้วยเท่านั้น เรณูรู้ข่าวว่าย้อยจะพาปฐมไปถอนเสน่ห์ จึงได้รีบไปหาหมอก้อนทำเสน่ห์ให้ ติ๋มได้แนะนำให้เรณูทำของใส่ย้อยและอาสาจะออกเงินให้เอง เพราะติ๋มนั้นก็แค้นย้อยที่เคยโดนยึดบ้านไปทำให้เธอนั้นต้องไปขายบริการที่ตาคลี และอยากให้เรณูแก้แค้นแทนเธอ

นางศรี ลูกค้าประจำร้านชอบนิสัยของกมลจึงอยากได้มาเป็นหลายเขยของตน ย้อยจึงได้พยายามจับคู่ให้กมลกับเพียงเพ็ญ หลานของนางศรี ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของกำนันศรที่ตำบลฆะมัง ซึ่งมีข้อตกลงว่าถ้าแต่งงานกันแล้วต้องให้กมลไปอยู่ที่ฆะมังด้วย แต่หารู้ไม่ว่าเพียงเพ็ญนั้นรักใคร่อยู่กับก้านและได้เสียกันไปแล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังตั้งท้องกับก้าน ส่วนกมลนั้นก็แอบชอบกับจันตา เมื่อย้อยรู้ว่ากมลแอบมีใจให้กับจันตา เธอจึงบังคับให้กมลนั้นแต่งงานทันที

ก้านมาร้านยาเพื่อที่จะซื้อยาไปให้นางกุ่นผู้เป็นแม่ แต่ดันเงินไม่พอ บังเอิญที่กมลนั้นมาซื้อยาพอดี เห็นว่าก้านนั้นเงินไม่พอจ่ายค่ายาจึงได้ออกช่วย ก้านรู้สึกซาบซึ้งใจมาก โดยที่ทั้งคู่นั้นไม่รู้จักกันและได้แยกกันไป ต่อมาก้านได้แอบไปหาเพียงเพ็ญเพราะรู้ว่ากำนันศรกำลังบังคับให้เพียงเพ็ญแต่งงานกับกมล ก้านตั้งใจที่จะฆ่ากมล แต่พอเมื่อเจอกมลก็จำได้ว่ากมลคือคนที่ได้ออกเงินค่ายาให้แม่ของเขา ทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจ และได้ย้ายไปอยู่กับวงดนตรีที่กรุงเทพฯ  เพราะให้เพ็ญเพียงและกมลแต่งงานกันตามความต้องการของผู้ใหญ่

ด้านย้อยเมื่อโดนเสน่ห์ของเรณู ย้อยก็เอ็นดูเรณูมากขึ้น และยังจ้างเรณูทำขนมในงานแต่งงานของกมลด้วย ฝ่ายพิไลเมื่อเห็นว่าย้อยเอ็นดูเรณูกว่าตนก็รู้สึกอิจฉา แต่ยิ่งพิไลพยายามยุยงให้ย้อยเกลียดเรณู มากเท่าไหร่ ย้อยก็กลับรักเรณูมากยิ่งขึ้น

เมื่องานแต่งกมลมาถึง ย้อยได้ให้สร้อยทองกับเรณูเพื่อใส่ไปงาน แม้เรณูว่าจะคืนให้หลังจบงานแต่ย้อยก็บอกให้แล้วให้เลยไม่เอาคืน พิไลเริ่มสงสัยความผิดปกติของย้อยคิดว่าเรณูต้องทำของใส่ จึงได้ไปหาหมอเพื่อแก้คุณไสย พิไลจึงไปหาหมอมี แต่หมอมีดันป่วยตายกะทันหัน พิไลจึงต้องกลับบ้านมือเปล่า เชิดไปที่ตาคลีเพื่อสืบข่าว บังเอิญได้เจอกับติ๋มและเล่าเรื่องพิไลกับเรณูให้ฟัง ติ๋มจึงแนะนำหมอบาง ซึ่งเป็นเจ้าแม่ร่างทรงชอบหลอกเก็บเงินแพง ๆ เพื่อเลี่ยงให้เชิดไม่เจอกับหมอก้อนผู้ทำเสน่ห์ให้เรณู เชิดไปหาหมอบางและได้ความว่าต้องเอาคนถูกคุณไสยมา พิไลยังคิดหาทางพาย้อยไปไม่ได้จึงหาทางแก้แค้นเรณู โดยให้เชิดไปขโมยสร้อยทองที่ย้อยให้เรณู แต่ย้อยกลับให้สร้อยทองใหม่กับเรณูอีก อีกทั้งยังบอกว่าจะเปิดร้านตัดเสื้อผ้าให้วรรณาเมื่อเรียนจบด้วย

หลังจากแต่งงานเพียงเพ็ญก็แพ้ท้องอย่างหนัก เพียงเพ็ญยังซื่อสัตย์ต่อก้าน จึงอ้างว่าตนไม่สบายกลัวกมลติดไข้ จึงขอแยกเตียงนอนกับกมล ซึ่งกมลก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ฝ่ายก้านหลังจากไปกรุงเทพไม่นานก็ต้องกลับมาเพราะบังอรส่งข่าวไปว่านางกุ่นป่วยหนัก บังอรเป็นลูกของเจ้าของที่นาในฆะมังที่ก้านและกุ่นไปรับจ้างทำนาให้ บังอรแอบชอบก้านและหวังจะแต่งงานด้วยจึงมาคอยดูแลนางกุ่น นางกุ่นขอให้ก้านตัดใจจากเพียงเพ็ญและแต่งงานกับบังอร กำนันศรต้องการตัดขาดก้านกับเพียงเพ็ญ จึงเสนอเงินส่วนหนึ่งให้บังอรรีบจัดงานแต่งงานกับก้านให้เร็วที่สุด แต่ก่อนงานแต่งงานหนึ่งวันนางกุ่นก็สิ้นลม ทำให้งานแต่งงานถูกยกเลิกไป

ฝ่ายเพียงเพ็ญตัดสินใจบอกกมลเรื่องที่ตนท้องมาก่อนแต่งงาน และให้กมลตัดสินใจทำตามใจตนเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป สุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจไปเซ็นต์ใบหย่ากันเงียบ ๆ ที่อำเภอ กมลบอกกับพ่อแม่ของเพ็ญว่าตนเอง จะกลับไปเฝ้าพ่อที่กำลังป่วยที่ชุมแสง ส่วนเพ็ญก็หนีออกจากบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้

หลังจากเจ๊กเซ้งป่วยมะเร็งปอดไม่นานก็เสียชีวิต ทั้งเรณูและพิไลต่างก็มาช่วยงานศพ พิไลคิดแค้นเรณูจึงป่าวประกาศให้ทุกคนในงานศพรู้ว่าเรณูทำคุณไสยใส่ย้อย แม้ว่าเรณูจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจเธอนั้นรู้สึกเสียใจและละอายใจที่ตนทำคุณไสยใส่ทั้งปฐมและย้อยไป ย้อยรู้ความจริงในที่สุด ว่ากมลหย่ากับเพียงเพ็ญแล้ว ย้อยแค้นใจที่ถูกย้อมแมวขาย กมลกราบเท้าแม่ ขอกลับมาอยู่ชุมแสงอีกครั้ง เพียงเพ็ญเป็นลมหมดสติอยู่ที่สถานีรถไฟ กมลมาเจอเข้า จึงช่วยไว้ และพาไปอยู่ที่บ้านสวนท้ายโรงสี ก้านมาตามหาเพ็ญ กมลจึงฝากก้าน ทำงานที่โรงสี อยู่กับประสงค์ ก้านกับเพียงเพ็ญได้พบกันในที่สุด กมลให้ก้าน ทำความดี ชนะใจเพียงเพ็ญให้ได้

มาลาท้องกับมงคล แต่มงคลไม่อยากรับผิดชอบและขอให้ไปทำแท้ง แต่มาลาไม่กล้าทำและไม่กล้าบอกพ่อแม่จึงมาหาย้อยเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยขอให้วรรณาไปเป็นเพื่อนและเป็นพยานว่าเธอคบกับมงคลจริง แต่ย้อยไม่เชื่อและให้มาลาสาบาน มาลาจึงกล่าวสาบานกับเจ้าพ่อชุมแสงว่าถ้าตนโกหกขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน แต่ถ้าพูดความจริงแล้วไม่ช่วยอะไรขอให้มงคลมีอันเป็นไปแทน ไม่กี่วันต่อมามงคลก็จมน้ำตาย

เรณูจะไปแจ้งข่าวเรื่องการตายของมงคลกับปฐมที่ค่ายทหาร แต่กลับพบปฐม อยู่กับอรพรรณี ลูกสาวเจ้านาย เรณูเริ่มทำใจ รู้ว่าความรักของเขากับปฐม จะกลายเป็นเรื่องอดีตไปจริง ๆ เรณูเศร้าใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังอุ้มท้อง ลูกของปฐมอยู่ ในขณะที่พิไลรู้ข่าวก็คับแค้นใจอย่างหนัก คิดจะพาย้อยไปเอาเสน่ห์ออกให้เร็วขึ้น เพราะกลัวว่าสมบัติที่ตัวเองควรได้จะตกไปอยู่ที่เรณูและลูก

เชิดเห็นติ๋มมาเยี่ยมเรณูที่ชุมแสง จึงรู้ว่าตัวเองถูกหลอกให้ไปหาหมอบางแน่ พิไลจึงสั่งให้เชิดไปเค้นมาว่าเรณูทำคุณไสยที่ไหน แต่ด้วยความแค้นเชิดจึงซ้อมจนติ๋มจนบาดเจ็บสาหัส

ด้านจันตา หลังจากกมลแต่งงานไป ปลัดจินกรก็มาสู่ขอจันตา แต่ในวันงาน กรองแก้วซึ่งเป็นญาติของปลัด จินกรมาพร้อมกับสามี เมื่อเห็นหน้าจันตาก็ป่าวประกาศว่าจันตาเคยเป็นเมียน้อยของสามีเธอ รวมถึงเคยท้องและทำแท้งมาก่อนด้วย งานแต่งงานจึงต้องยกเลิกกลางคัน จันตาตัดสินใจจะกลับไปอยู่สุโขทัยบ้านเกิด กมลเครียดหนัก คิดไม่ตก เพราะถ้าหากเขาปล่อยจันตาไป ในชีวิตนี้อาจไม่ได้พบเธออีก จึงไปกราบลาย้อย ขอใช้ชีวิตในแบบของตนเองสักครั้ง อยู่ปกป้องคนที่ตนเองรัก กมลตามจันตาไปที่สถานีรถไฟ และซื้อตั๋วไปเชียงใหม่ ขอเริ่มต้นชีวิตคู่กับจันตาที่นั่น ย้อยตามมา เอาเงินสินสอดที่ได้คืนจากเพียงเพ็ญให้กมล และจันตา ไปทำทุนค้าขาย เริ่มต้นชีวิตใหม่ กมล จันตา กราบขอบคุณย้อย

พิไลได้หมอมือดีชื่ออาจารย์สมดีจากทับกฤช จึงไปรับมาเปิดโปงเรื่องที่เรณูทำคุณไสยให้คนทั้งตลาดฟัง เรณูรู้สึกอับอายมาก จึงย้ายไปอยู่พยุหะคีรีพร้อมกับวรรณา และขอให้หมอก้อนเอาคุณไสยออกจากปฐมฝ่ายติ๋มแค้นที่ตนถูกนายเชิดทำร้ายร่างกาย ไปขอให้หมอบางช่วย แต่หมอบางปฏิเสธเรื่องการทำไสยดำจนถึงแก่ความตาย ติ๋มจึงวานต๋อมพี่ชายไปหาหมอเบี้ยว เมื่อทำคุณไสยเสร็จ พิไลก็ทุรนทุราย เพ้อว่าจะมีคนมาฆ่าตลอดเวลา จนมีข่าวลือว่าพิไลอาการเหมือนผีเข้าและเรณูเป็นคนทำเพื่อชำระแค้น ติ๋มกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายไปถึงเรณู จึงออกไปประกาศหน้าบ้านย้อยว่าเป็นฝีมือตน ถ้าพิไลอยากหายดีก็ต้องให้พิไลมาคุยกันหน้าบ้าน ไม่เช่นนั้นประสงค์จะโดนไปด้วย ย้อยกลัวว่าประสงค์จะเดือดร้อนจึงเรียกพิไลออกมา และต้องป่าวประกาศเรื่องร้าย ๆ ที่ตนทำไว้ให้คนทั้งชุมแสงฟัง อาจารย์สมดีขอให้พิไลคลายความเคียดแค้นและความละโมบในใจออกมาพร้อมกับนึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่พักใหญ่จึงจะหายดี เมื่อพิไลได้สติก็ขอกลับไปอยู่ที่ทับกฤชเพราะอายชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะขอกลับไปบวชชี

เมื่อเรณูย้ายมาก็เปิดร้านขายข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อหารายได้ ฝ่ายปฐมปลดทหารก็กลับไปบ้าน พร้อมกับอรพรรณี ปฐมตั้งใจจะมา ตกลงกับเรณูเรื่องลูกและเมียใหม่ของเขา แต่เรณูย้ายไปแล้วจึงไม่ได้เจอกัน ปฐมกราบลาย้อย ขอไปใช้ชีวิตอยู่กับอรพรรณี ปฐมออกจากบ้านแบ้ไปแล้วจริง ๆ กมลพาจันตากลับมาเยี่ยมย้อยในเวลาต่อมา กมลกับจันตาค้าขายจนตั้งตัวได้ และมีความสุขมาก ย้อยจึงยกตึกแถวของตนที่ปากน้ำโพให้ทั้งสอง และตั้งใจว่าตนจะย้ายไปอยู่ด้วยเพราะใกล้โรงพยาบาลมากกว่าที่ชุมแสง ส่วนประสงค์นั้นให้ดูแลกิจการทั้งหมดที่มีในชุมแสงต่อไป

3 ปีต่อมา ย้อยก็เหมือนมีลูกเล็กอีกคน เพราะมาลาคลอดลูกแล้วมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนมาลากลับไปแต่งงานที่เขากะลา ประสงค์แต่งงานกับบุญปลูก กมลแต่งงานกับจันตา วรรณาได้แต่งงานกับปลัดจินกร เรณูรับป๊อกมาอยู่ด้วยกันที่ร้านที่พยุหะคีรี โดยมีกิจการขายขนมไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมูที่เป็นไปได้ด้วยดี ฝั่งปฐม แม้จะได้เรียนสูงและไปทำงานในบริษัทของ อรพรรณี มีลูกด้วยกัน1คน แต่เขาไม่มีความสุขเลย อรพรรณีเที่ยวเล่นทุกวัน เขาลาไปเยี่ยมแม่ที่บ้านและบังเอิญได้พบกับเรณูที่มาเยี่ยมย้อยเช่นกัน ทั้งคู่ได้เจอกันและปรับความเข้าใจกัน

บั้นปลายชีวิต เบาหวานของย้อยกำเริบหนักจนต้องตัดขาทิ้ง ระหว่างพักฟื้น ปฐมตั้งใจขับรถกลับมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ย้อยได้ยินข่าวก็ช็อกจนขาดใจตาย อรพรรณีได้ยินข่าวอุบัติเหตุเห็นว่ารักษาไปก็ไม่หายเป็นปกติแน่จึงปฏิเสธเรื่องการช่วยเหลือทางการเงินใดๆ ประสงค์และกมลจึงตัดสินใจจำนองที่ดินที่ย้อยแบ่งให้ปฐมจนหมดเพื่อเป็นค่ารักษา ปฐมรักษาตัวอยู่ 3 ปีก็กลับมาเป็นปกติโดยมีเรณูคอยดูแล ทั้งสองคนช่วยกันขยายกิจการร้านขนมของเรณูจนเปิดโรงงานขนมได้ และอยู่กันอย่างมีความสุข

ติดตามชมละครเรื่องกรงกรรมได้ทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 และช่อง 33 ออกอากาศตอนแรกวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562

ผู้กำกับ : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ผลิตโดย : บริษัท แอคอาร์ด เจเนเรชั่น จำกัด
เขียนบท : ยิ่งยศ ปัญญา
บทประพันธ์ : จุฬามณี

นักแสดง กรงกรรม

ราณี แคมเปน แสดงเป็น เรณู
ฐกฤต ตวันพงค์ แสดงเป็น ปฐม (เฮียใช้)
ชนาธิป โพธิ์ทองคำ แสดงเป็น ประสงค์ (อาตง)
จิรายุ ตั้งศรีสุข แสดงเป็น กมล (อาซา)
วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ แสดงเป็น มงคล (อาสี่)
ใหม่ เจริญปุระ แสดงเป็น ย้อย
ปรียากานต์ ใจกันทะ แสดงเป็น จันตา
จิตรภาณุ กลมแก้ว แสดงเป็น ปลัดจินกร
รินรดา แก้วบัวสาย แสดงเป็น วรรณา
พิชชาภา พันธุมจินดา แสดงเป็น พิไล
ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ แสดงเป็น บุญปลูก
เด่นคุณ งามเนตร แสดงเป็น ก้าน
อรเณศ ดีคาบาเลส แสดงเป็น เพียงเพ็ญ
ปริญญ์ วิกรานต์ แสดงเป็น หลักเซ้ง
กษมา นิสสัยพันธุ์ แสดงเป็น กำนันศร
ปริศนา กล่ำพินิจ แสดงเป็น นางสมพร (เมียกำนัน)
จรรยา ธนาสว่างกุล แสดงเป็น นางศรี (น้องสาวกำนันศร)
ณัฐนี สิทธิสมาน แสดงเป็น นางแรม
อรรณพล เทศทะวงศ์ แสดงเป็น ป้อม
อ้อยใจ แดนอีสาน แสดงเป็น ประนอม
ปาจรีย์ ณ นคร แสดงเป็น หวาน
สุเชาว์ พงษ์วิไล แสดงเป็น อาจารย์ก้อน
ชลัฏ ณ สงขลา แสดงเป็น เชิด
คัดกิ่งรักส์ คิดคิดสะระณัง แสดงเป็น เจ้อ๋า (เจ้าของร้านทอง)
ณภัทร ชุ่มจิตตรี แสดงเป็น ไอ้หวัง
นิศาชล ต้วมสูงเนิน แสดงเป็น บังอร
วราพรรณ หงุ่ยตระกุล แสดงเป็น หมุ่ยนี้
กุณกนิช คุ้มครอง แสดงเป็น นางกุ่น (แม่ก้าน)

ละคร ระบำบุญ ภาคต่อ กรงกรรม

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.